Group Blog All Blog
|
ลงดอยไทยไปขึ้นดอยมาเลเซียคาเมรอนไฮแลนด์ เยือนเมืองเก่าที่ปีนัง สวัสดีค่ะ บล็อกนี้จะพาไปเที่ยวคาเมรอนไฮแลนด์และปีนังกันค่ะเดินทางไปวันที่ 18 20 ตุลาคม 2014 มีผู้ร่วมเดินทาง 10 คน พวกเราจองตั๋วเครื่องบินไปลงที่หาดใหญ่และใช้บริการทัวร์เจ้าดัง Sunny tour ค่าทัวร์คนละ 4,200 บาทซึ่งตอนแรกเราเข้าใจว่าเป็นทัวร์แบบรวมทุกอย่างแต่พอขึ้นรถ คนขับรถบอกทัวร์นี้เป็นทัวร์แบบไม่รวมอาหารและค่าเข้าชมสถานที่เงิบค่ะเงิบแลกเงินกันมาคนละ 200 ริงกิตจะพอกินพอใช้ไหมเนี่ยมันเป็นความผิดพลาดทางการสื่อสารระหว่างพวกเรากับคนจองทัวร์ ไม่โทษบริษัทนะคะเราอ่านเงื่อนไขไม่ละเอียดเอง โปรแกรมทัวร์คร่าว ๆ 18/10/2014 แปดโมงเช้าออกจากหาดใหญ่ผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองที่ด่านสะเดาเดินทางต่อไปคาเมรอนไฮแลนด์ / ชมสวนลาเวนเดอร์ Lavender Garden / รับประทานอาหารเย็นสตรีมโบ๊ท / เข้าที่พัก Strawberry park resort 19/10/2014 ชมไร่ชา Cameron ValleyTea / สวนตะบองเพชร Cactus Point / ตลาดเช้า /เดินทางไปปีนัง / วัดเขาเต่า / ช๊อปปิ้งห้างเกอร์นี่พลาซ่า 20/10/2014 วัดไทยไชยมังคลารามและวัดพม่า / หอนาฬิกาอลิซาเบธวอลล์ / ป้อมปืนคอนวอลิส /ร้านช็อคโกแลต / ย่านเมืองเก่า / เดินทางกลับหาดใหญ่ / ตลาดกิมหยง / สนามบิน โปรแกรมพร้อมเริ่มเดินทางกันเลยค่ะ ด้วยความที่ จขบ. ย้ายมาทำงานที่เชียงใหม่เลยต้องเดินทางจากเชียงใหม่เข้ากรุงเทพและเดินทางจากกรุงเทพไปหาดใหญ่อีกรอบหนึ่งซึ่งจะนั่งเครื่องจากเชียงใหม่ไปหาดใหญ่เลยก็ได้แต่ตั๋วเครื่องบินแพงเอาเรื่องอยุ่ค่ะ ก็เลยเลือกแบบสองตุ๊บประหยัดกว่า ถามว่าอยู่เชียงใหม่ก็ดอยอยู่แล้วทำไมถึงไปเที่ยวดอยมาเลเซียก็ต้องบอกว่าได้ยินชื่อคาเมรอนไฮแลนด์มานานแล้วอยากไปตั้งแต่ตอนที่ยังทำงานอยู่กทม.ตกลงกับเดอะแกงค์ไว้แล้วว่าจะไปแต่ต้องย้ายมาอยู่ดอยซะก่อนก็เลยต้องไปตามสัญญา ทริปนี้เราเดินทางไปถึงหาดใหญ่ตั้งแต่วันที่ 17/10/2014เที่ยวในตัวเมืองหาดใหญ่ช๊อปปื้งตลาดสันติสุขและตลาดกิมหยงกันก่อนแล้วคืนแรกพวกเรานอนกันที่โรงแรมราโดค่าห้องพักคืนละ 500 600 บาทสภาพโทรมเหลือเกินแต่ทำเลโอเคมากค่ะ เรียบร้อยแล้วนั่งรถกันยาวๆๆๆๆเดินทางไปคาเมร่อนไฮแลนด์กัน ระหว่างทางแวะทานมื้อกลางวันกันที่ร้านที่เป็นเหมือนจุดจอดรถบนไฮเวย์ เป็นพวกข้าวราดแกงก็จะมีราคาบอกไว้ว่ากับข้าวอันนี้ราคาเท่าไหร่ ราคาไม่แพงและไม่อร่อยเลยคนที่นี่เค้ายังใช้มือกินอาหารกันอยู่นะคะ เราเลือกกินข้าวราดผัดถั่วงอกกับไก่ทอดราคา 3 ริงกิต ให้เงินแบงค์ 100 ริงกิตไปแม่ค้าทอนเรามา 47 ริงกิต เดินออกจากร้านนับเงินทอนใจหายว๊าบทำไมมันแพงงี้เนี่ย ข้าวราดแกงไรจานตั้ง 530 บาท เดินเข้าไปถามแม่ค้าจานนี่เท่าไหร่ฉันให้แบงค์ 100 นะ แม่ค้าดูเงินในลิ้นชักแล้วหยิบแบงค์ 50 ริงกิตให้หนึ่งใบ แหม ๆ เพิ่งใจหายใจคว่ำกับทัวร์ไม่รวมอาหารมานะเงินก็มีแค่ 200 ริงกิตฉันต้องใช้สอยอย่างประหยัดนะเว้ย จากหาดใหญ่ไปคาเมรอนใช้เวลาเดินทางประมาณ6 ชั่วโมงหลับ ๆ ตื่น ๆ กันไปเรื่อยก็เดินทางมาถึงคาเมรอนซะที รถตู้จอดให้เราไปชมสวนลาเวนเดอร์กันค่ะ ค่าเข้าชมคนละ 5 ริงกิต ภายในสวนจะมีสองชั้น ชั้นแรกเป็นทุ่งดอกไม้ก็จะมีดอกไม้ต่างๆ มีดอกลาเวนเดอร์อยู่นิดหน่อย ด่านในของชั้นหนึ่งเป็นสถานที่ขายสินค้าที่ระลึกถึงแม้จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแต่สินค้าที่ขายก็ราคาไม่สูงมาก สินค้าบางชิ้นอาจจะราคาแพงกว่าข้างนอกก็บวกเพิ่มไม่เยอะค่ะ ถามว่าซื้อไหมไม่ซื้อค่ะ เอาเงินมาน้อยต้องประหยัด
ชั้นที่สองเป็นสวนดอกเยอบีร่าเด็ดได้ด้วยนะคะคิดราคา 3 ดอก 2 ริงกิตค่ะ
ด้านในสุดของชั้นที่สองเป็นสวนสตรอเบอร์รี่ค่ะ เราสามารถเข้าไปเก็บสตรอเบอร์รี่ในสวนได้ด้วยค่ะหนึ่งตะกร้าเข้าได้สองคนขั้นต่ำ 100 บาท (ถ้าจำไม่ผิดน่าจะ 100 กรัม) เกินกว่านี้คิดราคาตามน้ำหนักค่ะ
มาดูด้านหน้าสวนจากชั้นสองกันมั่ง ตรงบ้านเห็ดเป็นที่ขายผลิตภัณฑ์จากสตรอเบอร์รี่เช่นพวกน้ำสตรอเบอร์รี่ แยม ฯลฯ สตรอเบอร์รี่สดก็มีขายค่ะแพคและ 10 ริงกิต 3แพค 25ริงกิต
ส่วนน้องเหมียวทั้ง 4ยืนรอให้พวกเราไปถ่ายรูปด้วยอยู่หน้าสวนลาเวนเดอร์ค่ะ
ด้วยความที่วันที่เราไปเป็นวันเสาร์รถติดมโหฬารค่ะ ติดมากโดยเฉพาะช่วงที่จัดตลาดเย็นไปจนถึงที่โรงแรม มื้อเย็นของวันนี้กินกันซะค่ำเลยค่ะเพราะกว่าจะฝ่ารถติดไปถึงร้านอาหารได้ พวกเรากินอาหารไฟล์บังคับของการมาคาเมรอนคือสุกี้ สตรีมโบ๊ท อย่าคิดว่าทัวร์ไม่รวมอาหารจะเลือกอาหารกินเองได้นะคะ ยังไงคนขับรถก็พามาร้านที่พวกเขามีคอนเนคชั่นอยู่แล้ว อาหารที่เสริฟจะเป็นเซทค่ะค่าเสียหายคนละ 18 ริงกิต มีเนื้อสัตว์พวกกุ้ง ปลาลูกชิ้นเหมือนในรูป 2 จาน และก็ผักค่ะ พวกเราสั่งข้าวผัดเพิ่มอีก 2 จานใหญ่เบ็ดเสร็จมื้อนี้หมดไปคนละ 19 ริงกิต
กินอิ่มแล้วไปสำรวจร้านค้าบนดอยและตลาดเย็นซักพัก ก็เข้าโรงแรมนอนค่ะ พวกเรานอนกันที่โรงแรมสตรอเบอร์รี่ปาร์ค ที่โรงแรมไม่มีแอร์ค่ะ เค้าว่าอากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี คนขับรถส่งพวกเราหน้าห้องพักแจกคีย์การ์ดแล้วก็ขับรถออกไปไม่บอกไม่กล่าว ทิ้งให้เราต้องเผชิญกับปัญหาเปิดไฟในห้องไม่ติด บางห้องก็คีย์การ์ดไม่สามารถเปิดห้องได้ มันน่าประทับใจจริง ๆ ทิ้งให้เราต้องแก้ปัญหากับพนักงานของโรงแรมเอง วันแรกหมดไปกับการเดินทาง
19/10/2014 ตื่นเช้ามาเปิดประตูออกมาเห็นหมอกลงสวยมาก บรรยากาศดีสุดๆ ชอบมาก ๆ ระหว่างทางเดินไปกินอาหารที่ห้องอาหารของโรงแรมหมอกลงหนาบรรยากาศดีมากๆ แต่อากาศไม่ได้หนาวมากนะคะแค่เย็น ๆ หลังจากกินอาหารเช้ากันแล้วไปเที่ยวไร่ชากันที่คาเมร่อนวัลเลย์ทีค่ะ ที่เห็นเป็นอาคารสองชั้นนั่นเป็นส่วนของร้านอาหารก็จะมีเครื่องดื่มกับเค้กขาย นั่งจิบกาแฟชมบรรยากาศก็สวยไปอีกแบบ แต่พวกเราเลือกที่จะเดินไปชมไร่ชากันหมอกลงแบบนี้บันไดลื่นมากเดินลงไปต้องระวังกันด้วยนะคะ
เสร็จจากที่นี่แล้วคนขับรถเค้าจะเดินทางไปปีนังต่อเลย เราต้องท้วงว่ามีโปรแกรมสวนตะบองเพชรอีกนะเค้าว่าที่สวนลาเวนเดอร์ก็มีครบแล้วไม่ใช่เหรอ เออไม่มีนะสวนลาเวนเดอร์ไม่มีตะบองเพชร เค้าเลยพาเรามาที่สวนตะบองเพชรกันค่ะ
สวนนี้เข้าฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายก็จะมีตะบอกเพชรไม้ประดับแปลกๆ และก็สตรอเบอร์รี่ค่ะราคาไม่แพงอยากซื้อกลับเหมือนกันแต่เกรงว่าจะไม่สะดวก สวนสตรอเบอร์รี่ของที่นี่ไม่ได้ให้เข้าไปเก็บหรือขายแต่อย่างใด ส่วนที่ขายของที่ระลึกก็จะมีขายเมล็ดพันธ์ผัก ผลไม้ และผลิตภัณฑ์แปรรูปต่าง ๆ นานา มีช๊อคโกแลตรสสตรอเบอร์รี่ขายด้วยค่ะ
หลังจากนั้นแวะเที่ยวตลาดเช้ากันค่ะถึงแม้จะชื่อว่าตลาดเช้าแต่ก็ขายกันทั้งวัน ของที่ขายก็จะเป็นพวกพืช ผัก ผลไม้ สตรอเบอร์รี่และก็ช็อคโกแลต เราได้ไม้เซลฟี่แบบไม่มีที่กดมา 1 อัน 18 ริงกิต
ที่เห็นสตรอเบอร์รี่เสียบไม้นั้นเค้าจะเอามาราดช็อคโกเลตขายไม้ละ 2 ริงกิต 3 ไม้ 5 ริงกิตค่ะ
บรรยากาศตลาดเช้าซึ่งวันอาทิตย์รถก็ยังติดมโหฬารเหมือนวันแรกที่มาค่ะ รูปข้างล่างคือรถบนท้องถนนไม่ใช่ รถที่จอดในที่จอดรถนะคะ จบทริปคาเมร่อนก็นั่งรถตู้เดินทางกันต่อประมาณ4 ชั่วโมงไปปีนังกันค่ะ บล็อกนี้จบเท่านี้ก่อนนะคะบล็อคหน้ามาต่อปีนังกันขอบคุณที่เข้ามาชมค่ะ |
kumyotha
Rss Feed Smember ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?] Friends Blog
Link |