Never cease
+ + + งามที่ ลี่เจี่ยง แชงกรีล่า – The Lost Horizon

+ + + งามที่ ลี่เจี่ยง แชงกรีล่า – The Lost Horizon

เป็นอีกหนึ่งครั้ง ที่จะไปเที่ยว แล้วไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรเลยกับสถานที่ วันเวลา คงเพราะไปกับทัวร์นั้นเอง อย่างว่าจะมาเที่ยวเมืองจีน ในความคิดแล้ว ถ้ามาเองคงไม่สนุกเท่ามากับทัวร์ ก็ไม่ต้องไปจัดการ วางแผนอะไรล่วงหน้าด้วยภาษาที่ไม่เข้าใจ ก้อเลยซูฮกนักเดินทางที่มากันเองสำหรับประเทศนี้ เก่งจริง

ทริปนี้เป็นทริปลูกกตัญญูพาพ่อแม่ไปเที่ยว ส่งท้ายปีหนู ก้อน่าจะสะดวก ปลอดภัยกว่าเดินทางเอง ที่สำคัญได้ทัวร์ที่ดีก้อแจ่มเอาการเลย ทั้งที่พัก อาหาร การบริการ ก็โอเค ไม่ต้องให้ด่าไล่หลัง เพราะการเลือกทัวร์ก็เหมือนซื้อหวยเลย ไอ้ที่ว่าดังๆก็โดนด่ามาก็เยอะ ถ้าเจอดีก็ถือเป็นโชคปายยย

การเดินทางแบบไม่ค่อยรู้อะไร บางทีก้อตื่นเต้นดี ไม่ต้องไปรู้อะไรล่วงหน้า ให้คาดหวัง ยิ่งไม่ได้อย่างหวัง ก็คงผิดหวัง มันคงเป็นข้อดี และเสน่ห์ของการเดินทางแบบไม่มีแผนอย่างหนึ่ง กะมั้ง..





ทริปนี้ไปลงที่คุนหมิงก่อนแล้วนั่งรถไปต้าหลี่ จากต้าหลี่ก็ไปลี่เจียง จากลี่เจียงก็ไปต่อที่จงเตี้ยนหรืออีกชื่อรียกว่า แชงกรีล่า แล้วนั่งเครื่องกลับคุนหมิง จากคุนหมิงก็มาเมืองไทย นี่คือโปรแกรมที่จะไปเที่ยวกัน ไอ้ที่ว่ากันว่านั่งรถเที่ยวกันตูดไหม้ก็คงจะเกินจริงกันหน่อย เพราะที่จริงก้อไม่ขนาดนั้น นั่งไปสักชั่วโมงก็แวะฉี่กันตามรายทาง ไม่แวะฉี่ก็แวะชอปปิ้งตามที่ทางการจีนเค้าบังคับให้ไป ก็คงต้องว่ากันอย่างนั้น ฉี่-Shop-แชะ concept

พูดถึงห้องน้ำตามรายทางที่เมืองจีน มันเป็นเหมือนดัชนีฉุดความเชื่อมั่นในความศิวิไลของเมืองจีนเลย เอาตั้งแต่ห้องน้ำไม่มีประตู หรือมีประตูแต่ไร้กลอน ก็ไม่แปลกที่จะเห็นภาพพวกนี้ติดตาไปตลอดทริป โดยเฉพาะไอ้พวกที่ไม่ทำลายล้างมรดกโลกเวลาทำธุระเสร็จ เล่นตั้งเป็นเจดีย์สีทองอร่าม แวบมองไปแทบจะอ้วกแตก ตรงนั้น..
ก็เลี่ยงได้ก้อทำเถิด ทำธุระให้จบก่อนขึ้นรถ น้ำท่าก็อย่าไปกินมันมากเวลานั่งบนรถ จะได้ไม่ต้องใช้บริการสุขาพาฝันร้าย เราเตือนคุณแล้ววว….

ไปถึงต้าลี่ ด้วยถนนอย่างดี หกเลน มองไปที่ป้ายมันเขียนว่า DaLi ก็งงว่า ตกลงมาเมืองอะไรแน่ เราก็นึกว่าจะใช้ตัว T ก็คงเหมือนชื่อเติงเสี่ยวผิงที่ใช้ตัว D ไม่ใช่ T โอเคยังไงก็ได้…

เมืองต้าลี่ เนี่ยเป็นเมืองเก่า มันก็คืออาณาจักรน่านเจ้า( Nanzhao)ในสมัยก่อน อาณาจักรที่แปลว่า เมืองแห่งเมฆทางใต้ ที่นี้มีชนกลุ่มน้อยคือชาวไบ่(Bai) อาศัยอยู่จำนวนมาก ซึ่งสาวๆชาวไบ่เค้านิยมใช้สีขาว โดยชุดพื้นเมืองจะสังเกตว่าชุดจะเป็นสีขาว และสวมหมวกแบบชาวเขา แต่ที่หมวกของคุณเธอจะเปี่ยมความหมายมากเพราะอุปกรณ์ประดับหมวกจะสื่อความหมายเช่น สีขาวด้านบนก็คือหิมะ ลายผ้าสีดอกคือดอกไม้ ผู่สีขาวที่ห้อยลงมาคือลม และหากมองที่หมวกเวลาที่สวมจะคล้ายพระจันทร์เสี้ยว
หิมะ – ลม – พระจันทร์ – ดอกไม้ คือสิ่งที่สาวๆชาวไบ่เค้าสื่อออกมา จากวัฒนธรรมของเค้า ซึ่งที่นี้ ต้าลี่ จะดังมากในเรื่องหิน การแกะสลักหิน หินที่รูปร่างแปลกๆ อีกอย่างเค้าว่าที่นี่ ลม แรงมาก เท่าที่เห็นก้อคงจะจริงเพราะเห็นบนยอดเขามีพวกกังหันลมผลิตกระแสไฟฟ้าอยู่จำนวนมากเหมือนที่แหลมพรหมเทพ ภูเก็ตบ้านเรา

เมือง ต้าลี่ นี่เป็นตัวอย่างการปลูกสร้างแบบ ตามฮวงจุ้ย ของจริงเลย ก็ด้านหลังมีขุนเขาโอบหลัง ด้านหน้าชุ่มช่ำด้วยทะเลสาบเอ๋อไห(Erhai) ที่กว้างใหญ่ เป็นไปตามทฤษฎีโลด…ที่เรียกกันว่า เอ๋อไห ก้อเพราะมันมีรูปร่างทางภูมิประเทศคล้ายใบหู นับเป็น หนึ่งในเจ็ดทะเลสาบน้ำจืดที่ใหญ่ที่สุดของแผ่นดินจีน แต่ที่เห็นจะเกี่ยวโยงกับบ้านเราก็ตรงที่น้ำในทะเลสาบส่วนหนึ่งไหลไปบรรจบกับแม่น้ำโขงนั้นเอง..

ช่วงนี้ดอกไม้ที่ ต้าลี่ กำลังบาน ดอกนั้นก็คือซากุระสีชมพู นั้นเอง…



ยิ่งในเขตเมืองเก่า จะมีการปลูกต้นหลิว สลับกับซากุระ ตลอดแนวถนน บางช่วงก็มีต้นแปะก๊วย ใบสีเหลืองสวยดี ปนอยู่ด้วย นับว่าเป็นช่วงที่มีสีสันช่วงหนึ่ง ก็ถือว่าเป็นโชคดีก็ได้

ที่เที่ยวในตาลี่ ที่ไปมาก็ แน่นอน ใครๆก็ต้องแวะ สิ่งนั้นก็คือ เจดีย์สามองค์ ซึ่งด้านบนเขาก็มีวัดฉงเซิ่ง ให้ได้ไปเยี่ยมชมซึ่งถือเป็นจุดชมวิวที่ดีจุดหนึ่ง




....วันต่อมาเดินทางไปลี่เจียงกันแต่เช้า….. เมืองมรดกโลก การเดินทางจากคุนหมิง มาต้าลี่ จนมาถึงลี่เจียง นี้เป็นเหมือนการเดินขั้นบันได เพราะว่าแต่ละเมืองที่มาเยือน ก็จะสูงกว่าระดับน้ำทะเล ขึ้นไปเรื่อยๆ

และวันนี้ ที่ลี่เจียง ก็สูงถึง 2,400 เมตรจากระดับน้ำทะเลไปแล้ว เทียบกับกรุงเทพเมืองอมร ที่สูงกว่าระดับน้ำทะเลไม่ถึง 10 เมตร เท่านั้น






มาถึง ลี่เจียง แล้วก็ไปเที่ยวที่สระน้ำมังกรดำ กันก่อน ตรงนี้มีดีที่ เค้าว่าเป็นวิวที่สวยมุมหนึ่งในประเทศจีน ก็เพราะว่า ผิวน้ำในสระจะมีมุมสะท้อนภาพสะพาน ดอกไม้ ศาลาจีนชมจันทร์ และที่สำคัญภูเขาหิมะมังกรหยกเป็นพื้นหลังของวิวที่ปกคลุมด้วยหิมะสีขาวทั้งปี



เจ้าสระน้ำมังกรดำนี้ ถือเป็นต้นน้ำในการหล่อเลี้ยงไปยังชุมชนเมืองเก่าลี่เจียง สภาพน้ำในสระ เท่าที่มองดู ก้อถือว่าใสสะอาดเป็นประกายสีหยก สวยงามทีเดียว…จริงหลายทีก็ได้ เพราะชอบสีสันของน้ำในสระมาก เหมือนที่จิ่วไจ่ยโก้ว ดูแล้ว สดใส อารมณ์ดี



ไปเข้าเมืองเก่าลี่เจียงกันต่อ ต้องบอกว่า สมกับได้มรดกโลกเพราะน้ำใสไหลไปตามถนนหน้าบ้านโบราณ อีกต้นหลิวที่พลิ้วไปตามลม โน้มกิ่งปานจะคารวะผู้มาเยือนทั้งหลาย แม้แดดมันจะแรงปานใด แต่อากาศที่เย็นสบาย ที่มองไปไกลก็เห็นภูเขาหิมะมังกรหยกแอบมองมองชาวเมืองอยู่ ก้อเป็นวิวทิวทัศน์ที่หลายคนบอกให้มาดู มาเห็นกันหน่อย ครับ…สวยงาม….งามที่ Lijiang เมืองโบราณต้าเอี้ยนเจิน



ยัดโซ่… เซอร์.. ยัด โซ่ ฟังไม่ถนัดนัก ที่ชาวเมืองร้องเล่น เต้นรำ ตามสไตล์ชาวพื้นเมืองเผ่า Naxi ที่วันวานตามร้านรวงในเมืองเก่าจะร้องโต้กันไปมา ระหว่างร้าน ดูจะเปลี่ยนไปจาก สามปีที่ที่แล้วมา

…..กลายเป็นร้านระบำพื้นเมืองที่ปานรัชดาซอยสี่ ฟังกันประสาทหูแทบแตก เบียร์แพงกว่าบ้านเราสองเท่า มันเหลือเชื่อง่ะ….มันได้เปลี๊ยนไปแล้วววว มีการพัฒนาจนความดิบมันหายไปแล้ว…แจ้งเพื่อทราบ..เปลี่ยน




ที่สุดของ ลี่เจียง ที่อยากมาทริปนี้คือ การที่ได้ใกล้ชิดขุนเขาที่โด่งดังของเมืองจีน ลูกนี้ …ภูเขาหิมะมังกรหยก แทบไม่น่าเชื่อว่า ที่เที่ยวแบบภูเขาในยุโรป มันอยู่ใกล้บ้านเราเพียงเท่านี้ จนใครๆบอกว่า มันเป็นหิมะที่ใกล้เมืองไทยที่สุด กะมั้ง



ด้วยโชควาสนาพาได้ชมเจ้าภูเขาหิมะมังกรหยกนี้ ในแบบไร้ราคีมีเมฆบัง ฟ้าสีฟ้าสดสวยสุดใส อย่างนี้เค้าเรียก Perfect น่ะ…นึกถึงใครที่เฝ้าชมยอดภูเขาฟูจิ ที่ไม่บ่อยที่จะได้เห็นยอด หรือ ยอดแมทเทอร์ฮอล์ที่เซอร์แมท สวิสเซอร์แลนด์ เรียกว่าบางทีพักอยู่เกือบอาทิตย์ ยังไม่เห็นยอดเขาเลย แต่วันนี้…สุดยอด อากาศดีที่ลี่เจียง



หลังจากนั่งกระเช้าที่ความสูง 3,356 เมตร จุดนี้เกือบเท่าความสูงของ Mt.Fuji เลย โดยขึ้นไป ที่ความสูง 4,506 เมตร เดินไม่กี่ก้าว ก็เจอความขาว ความใหญ่ ภายใต้ฟ้าสีสด อยู่ตรงหน้า



ใครใคร่จะเดินไปตามทาง จนถึงความสูง 4,680 เมตรก็เชิญคร๊าบ แต่มันเหนื่อยมากเอาการอยู่ เพราะอากาศจะเบาบางกว่าปกติ ออกซิเจนปกติมีในอากาศแค่ 21% แต่ถ้าตรงนี้ก็น้อยกว่าปกติ เค้าเลยทำออกซิเจนกระป๋องออกมาขาย แต่พูดกันตามตรง ถ้าแข็งแรงปกติ ก็อย่าไปเสียเงินให้เค้าเลย เพราะเราไม่ได้ออกแรงจนขนาดจะหายใจไม่ทัน ถ้าแม้เกิดมันน๊อคไปจริงๆ บนเขาก็มีห้องพยาบาลอยู่แล้ว
ฟรีออฟชาร์จ…



เอาแบบเดินไป ชมเขาไปดีกว่า อย่าเอาแต่เดินๆไปโดยไม่มองรอบตัวเพื่อให้ไปให้สูงที่สุด…. มาที่นี่ ก็คงต้องอย่าลืมมองเพ่งพิศ เจ้า Glacier ที่มองเห็นได้ใกล้ๆ



หลายคนถามว่า ที่นี่สวยขนาดไหน …อยากบอกแบบไม่มีอคติใดๆเลยว่า … “สวย 360 องศา ” แน่นอนขึ้นเขามาก็ต้องมาถ่ายรูปกับภูเขาหิมะ แต่อยากให้มองมุมด้านหลังด้วย …ตรงนี้คือความประทับใจประการหนึ่งในการขึ้นเขามาเนี่ย….วิวที่ภูเขาน้อยใหญ่สูงลดหลั่นกันไป ปกคลุมยอดด้วยทะเลหมอกสีขาว



แค่นี้ก็คุ้มแล้ว…แต่บางคนขึ้นมาอาจชมความงามของขุนเขาได้ไม่นาน เพราะทนแสงจ้าจากแดดที่แรงจัด สะท้อนกระทบหิมะกลายเป็นแสงจ้า จนประสาทตาทนไม่ได้ น่าเสียดายย…
….ใช้แว่นกันแดดซิ…ของจำเป็นมือวางอันดับหนึ่ง ในการขึ้นเขาหิมะ ต้องอย่าลืม ไม่งั้นไม่คุ้ม อีกอย่างทากันแดดไว้ก็ดีน่ะ อากาศเย็นก็จริง แต่แดดมันสุดๆๆๆๆๆ…

ข้อเสียที่พบบนเขาหิมะนี้ก็คือ เบื่อมากกับคนท้องถิ่น ที่ไม่ยอมเลยที่จะให้ปอดว่างงาน…แม่ง..สูบบุหรี่กันพอๆกับมันหายใจ ไม่กลัวตาย ไม่เป็นไร….แต่ไม่เกรงใจใครเลยซิ เสียบรรยากาศว่ะ
อากาศดีๆไม่ว่าที่ไหนในเมืองจีน เค้าทำให้เสียได้ด้วยบุหรี่ม้วนเดียว พูดแล้ว บ้านเรายังเจ๋งกว่า ในเรื่องนี้ ถ้าจีนทำได้ รับรองแจ่มโคตรรรร….


เราตามหาความงามที่ลี่เจียงจนจุใจแล้ว เช้าต่อไปก็ตรงไป แชงกรีล่า แต่อยากเรียกชื่อเดิมดีกว่า เมืองจงเตี๊ยน เพราะแชงกรีล่า เป็นชื่อที่หาพิกัดแน่นอนในโลกนี้ไม่ได้หรอก เทียบกับคำว่า สุวรรณภูมิ กะมั้ง ที่ต่างคนต่างอ้างว่าพื้นที่ตัวเองเป็นดินแดนนั้นๆ งานนี้ใครมือยาว สาวได้สาวเอา(ไปตั้งชื่อก่อน)
งานนี้ ทางการจีน มือยาวกว่า ตั้งชื่อพื้นที่นี้ใหม่เป็น ShangriLa ครับ…ว่ากันไป เราแค่นักท่องเที่ยว ชื่อไหนหรู ไหนเท่ ก็ไม่มีปัญหา….ใดๆ

เส้นทางจากลี่เจียง ไปแชงกรีล่า ก็พาเราขึ้นไปสูงระดับพื้นที่สูงยิ่งขึ้น แม่เจ้า …ถ้าถึงแชงกรีล่า ก็สูงกว่าระดับน้ำทะเลกว่า สามกิโลเมตร โอวว…เกือบสูงขั้นเป็นหลังคาโลกแล้ว

ระหว่างทางไปชม หุบเขาเสือกระโจน (Tiger Leaping Gorge) ทางไปชมนั้นเป็นการวิ่งรถบัสเลาะถนนที่ข้างทางเป็นหุบเหว สวย เสียวดี ….ที่นี่นับเป็น หุบเหวที่ลึกที่สุดของโลก มีแม่น้ำแยงซีเกียงไหลกัดเซาะมานับร้อยๆปี แค่เดินลงบันไดนับร้อยขั้นลงไปชมสายน้ำที่แรงเชี่ยว พิเศษตรงที่มีหินก้อนใหญ่ขวางสายน้ำนั้นไว้

ว่ากันว่าตามนิยายพื้นบ้านว่า หินก้อนนั้นคือหัวของภูเขาลูกหนึ่งซึ่งเป็นน้องชายของภูเขาหิมะมังกรหยก ที่โดนตัด ประหารชีวิต เพราะปล่อยให้น้องสาวหนึ่งในสามคือแม่น้ำแยงซีเกียงผ่านไปได้ โดยอีกสองสาวคือแม่น้ำโขง และแม่น้ำสาละวิน ซึ่งก่อกำเนิดในจีนแต่ไหลออกไปประเทศอื่น มีแต่แม่น้ำแยงซี ที่ไหลย้อนกลับเข้าประเทศจีน ก้อเพราะผู้เป็นพ่อที่สั่งให้พี่ใหญ่คือ ภูเขาหิมะมังกรหยกขวางเอาไว้ได้ นั้นเอง
เป็นเรื่องเป็นราวว่ะ…ตึ่งโป๊ะ




ระหว่างทางขึ้นไปสู่ แชงกรีล่า ก็จะเห็นยอดเขาที่ปกคลุมด้วยหิมะ สวยใสจริงๆ ดิบมากๆๆ



ครั้นถึง จงเตี๊ยน ที่เค้าเรียกกันว่า แชงกรีล่า ก็มีที่บังคับเที่ยวก็คือ วัดลามะที่ใหญ่สุดในมณฑลยูนนาน นั้นก็คือ วัดซงจ้านหลิน ก็เหมือนวังโปตาลา ธิเบต ย่อส่วนมา….แปลกตาดี กับสีสัน



มาที่นี้ก็แค่เหนื่อยเดินขึ้นบันไดร้อยกว่าขั้น ขึ้นไปชมความงามกันต่อ มองลงมาก็ถือว่าเป็นจุดชมวิวที่ดีที่มองเห็นเมืองได้ทั้งเมือง จงเตี๊ยน



ขาลงมา มาถ่ายรูปกับแกะธิเบต และหมาธิเบตน่ะ ขำๆเป็นที่ระลึกก็ดีน่ะ อย่าน้อยก็ได้รู้สึกว่ามี ความทรงจำดีๆกับดินแดนที่บริสุทธิ์ สงบ สะอาดที่เค้าเรียกว่า แชงกรีล่า – ShangriLa : Lost Horizon

จึงเรียนมาเพื่อมาเที่ยวโดยทั่วกัน…คร๊าบบ










Create Date : 25 ธันวาคม 2551
Last Update : 25 ธันวาคม 2551 21:02:24 น. 10 comments
Counter : 4834 Pageviews.

 
รูปสวยดีครับ รูปเปิดดูนึกว่าเป็นภาพทำกราฟฟิคไปเลย

เขียนสนุกดีนะ


โดย: นายจำเป็น IP: 202.12.73.20 วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:15:03:46 น.  

 
สวยค่ะ


โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:15:29:51 น.  

 


โดย: แค่ฟ้ามีดาว ^^ วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:15:45:22 น.  

 
เป็นทริปที่อยากไปจังแชงกรีล่าเนี่ย
เคยไปแต่ต้าลี่ ลีเจียงเองค่ะ
ภาพสวยมากๆ เลยค่ะ


โดย: C&C_BamBoo วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:17:47:12 น.  

 
เป็นที่ๆอยากไปมากเลยค่ะ

ว่าจะหาเวลาไปเอง อิอิ

รูปสวยจัง ^^


โดย: justatry วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:20:54:57 น.  

 
สุขสันต์วัน Christmas ทุกท่านคร๊าบ

คลิกๆๆ รูปสวยๆน่ารักๆไว้ส่งต่อเพียบ...


โดย: the fivedog วันที่: 25 ธันวาคม 2551 เวลา:21:44:23 น.  

 
ถ่ายรูปได้สวยมากกกกกค่ะ ทำให้อยากไปเที่ยวบ้าง


โดย: koipotter วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:11:14:29 น.  

 
ครับ...น่าไปครับ คุ้มค่า
ไม่ต้องนั่งหลังขดหลังแข็ง ไปยุโรป..ที่นี้ก็ ok

วิวภูเขา สวยมาก

Photobucket


โดย: the fivedog วันที่: 26 ธันวาคม 2551 เวลา:16:48:20 น.  

 
ภาพสวยสุดยอด.. ฝีมือจริง ๆ ค่ะ..


โดย: poongie วันที่: 3 มีนาคม 2553 เวลา:20:46:18 น.  

 
สวยมากเลยค่ะ เป็นสถานที่ที่ชวนให้ไปท่องโลกมากๆ ไม่ทราบว่าไปเดือนอะไรคะ ถึงได้ฟ้าสวย บรรยากาศดีขนาดนี้


โดย: แอน IP: 124.121.117.246 วันที่: 25 สิงหาคม 2556 เวลา:21:52:16 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

the fivedog
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 6 คน [?]




การได้อยู่กับคนที่เรารัก ก็ดีพอแล้ว
แต่การได้เดินทางท่องเที่ยวไปด้วยกัน มันสุดยอดมากกับชีวิตคู่ ของคนธรรมดาคนหนึ่ง

คนที่เชื่อมั่นในการให้ การแชร์สิ่งดีๆให้แก่กันและกัน เพื่อสังคมดีๆ ที่น่าอยู่ต่อไป
New Comments
Group Blog
 
 
ธันวาคม 2551
 123456
78910111213
14151617181920
21222324252627
28293031 
 
25 ธันวาคม 2551
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add the fivedog's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.