เมื่อตะวันยอแสง..เรี่ยวแรงก็เริ่มอ่อนล้า..พักลงตรงนี่ที่เดิมแล้วหลับตา..
Group Blog
 
<<
มีนาคม 2551
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
21 มีนาคม 2551
 
All Blogs
 

เขาทิ้งเราไป…ควรให้อภัยไหม





เรื่องโดย : ตะละแม่วีนัส

ไม่เด็ดขาด นอกจากไม่มีวันให้อภัยแล้ว ยังทำพิธีแช่งชักหักกระดูก เผาพริกเผาเกลือสาบส่ง อย่าได้เจอหน้ากันอีกเลยชาตินี้ แต่ถ้ามัวแต่นั่งคุมแค้น แรงอาฆาตพยาบาทอาจทำให้เรามีจิตใจที่ไม่เป็นสุข ดังนั้นสิ่งที่ควรทำคือให้อภัย ถือเสียว่าเป็นประสบการณ์ชีวิตอย่างหนึ่งก็แล้วกัน

การฟื้นตัวจากความเจ็บช้ำที่ถูกทรยศย่อมไม่ใช่เรื่องง่าย ครั้นจะให้อภัยอีกใจก็คิดขึ้นมาได้ว่า เรื่องอะไรฉันจะให้เลิกราไปง่ายๆ มันจะสบายไปหรือเปล่า สมควรให้มันชดใช้กรรมโทษฐานที่ทำให้ฉันเจ็บช้ำดีไหม ความคิดแบบนางมารร้ายที่ประดังประเดเข้ามาในสมองแบบนี้ไม่ใช่เรื่องแปลก…ธรรมดามากค่ะ เพราะการให้อภัยเป็นเรื่องยากจริงๆ โดยเฉพาะตอนเริ่มต้นนี่ละ ส่วนใหญ่มักไม่รู้ว่าควรเริ่มต้นจากจุดไหน

คนส่วนมากคิดว่า ปล่อยให้อดีตผ่านไปแล้วเริ่มต้นใหม่ดีกว่า ชีวิตต้องเดินหน้าต่อไปเรื่อยๆ แต่ความเจ็บช้ำและความกลัวประวัติศาสตร์ซ้ำรอยก็ยังคอยติดตามหลอกหลอนทุกเมื่อเชื่อวัน ซึ่งความรู้สึกเหล่านี้จะมีมากหรือน้อยแล้วแต่อายุของแต่ละคน อายุน้อยๆยังอ่อนประสบการณ์ก็คงเจ็บมากหน่อย แต่ถ้าอายุมากๆเคยผ่านประสบการณ์มาแล้วหลายฤดูฝน ก็คงสามารถควบคุมความรู้สึกได้ดีกว่า

ความทรงจำในอดีตที่ตามหลอกหลอนสำหรับบางคนอาจเป็นบาดแผลเรื้อรัง แต่กับบางคนอาจเป็นสิ่งมีค่าที่ช่วยให้จิตใจแข็งแกร่งขึ้น แต่ถ้าเราพยายามกีดกันอดีตออกไปจากชีวิตของเรา โดยไม่นำมาเรียนรู้ สิ่งเหล่านั้นมักย้อนกลับมาหา จนกลายเป็นบทเรียนซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่ากระหน่ำชีวิตเราอย่างไม่รู้จบ

แทนที่จะจงเกลียดจงชังความทรงจำอันเลวร้าย หรือเกลียดคนที่เราเคยอยู่ด้วยเคยพบเคยรู้จัก สู้มาเรียนรู้คิดหาหนทางทำให้ประสบการณ์เหล่านั้นช่วยให้เราเข้มแข็งขึ้นไม่ดีกว่าหรือ คิดเสียว่าคนที่เราได้เคยพานพบ ไม่ว่าจะเป็นคนที่เรารักหรือเกลียด ล้วนแต่เป็นครูช่วยให้เราได้เรียนรู้ความรักและเข้าใจชีวิตมากขึ้น

สิ่งสำคัญที่ทำให้เราเข้าใจโลกมากขึ้นคือการรู้จักให้อภัยผู้อื่น ผลพลอยได้คือเพื่อเยียวยารักษาความเจ็บช้ำของเราเองด้วย

สี่ขั้นตอนในการให้อภัย

พยายามทำความเข้าใจถึงสิ่งที่เขาทำกับเราในช่วงเวลานั้น
พยายามมองให้ออกว่า การที่เราคาดหวังในตัวเขามาก ยิ่งทำให้เราเจ็บช้ำมากยามที่ผิดหวัง
เลิกตัดสิน ปฏิเสธ หรือวิพากษ์วิจารณ์ผู้อื่น เลิกคิดเสียทีว่าคนนั้นดีคนนี้เลว
ลองพิจารณาสิ่งที่เราคาดหวังในตัวเอง และยอมรับให้ได้ว่า เราไม่มีทางได้พบสิ่งเหล่านั้นในตัวใครคนใดคนหนึ่งแน่นอน ขนาดตัวเราเอง เรายังทำไม่ได้อย่างที่หวังเลยนี่นา
ถ้าเราสามารถยกระดับจิตใจตัวเอง และเติมเต็มหัวใจตัวเองได้แล้ว เราก็จะสามารถทำในสิ่งที่เราหวังไว้เองได้ โดยไม่ต้องไปคาดหวังในตัวคนอื่นมากนัก โดยเฉพาะกับแฟนด้วยยิ่งแล้วใหญ่ และเมื่อเราทำใจให้อภัยผู้ชายไม่รักดีคนนั้นได้แล้ว เราจะรู้สึกอิสระเสรีเหนืออื่นใด สามารถเปิดใจรับคนหน้าใหม่และประสบการณ์ชีวิตใหม่ๆเข้ามาในชีวิตได้อย่างเต็มที่ ทำให้เราดำเนินชีวิตต่อไปได้อย่างมั่นใจ






เริ่มต้นใหม่ให้สวยกว่าเก่า
ของเก่าสลัดทิ้งไป เตรียมตัวเดินหน้าหาของใหม่ดีกว่า เปรียบไปก็เหมือนเราลุกขึ้นจัดบ้านใหม่ เก็บกวาดข้าวของ จัดวางเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางให้ดูแปลกตา เพิ่มสีสันให้ชีวิต แทนที่จะมานั่งอาลัยอาวรณ์กับของเก่าไร้ค่า สู้หันมาลุกขึ้นทำตัวให้สดใสปิ๊งปั๊งดูแล้วชื่นใจทั้งตัวเราและคนอื่นไม่ดีกว่าหรือจ้ะ
การมัวแต่นั่งโหยหาถึงผู้ชายใจยักษ์ที่ทิ้งเราไป รังแต่จะฉุดรั้งเราไม่ให้ค้นพบสิ่งใหม่ในชีวิต คิดดูสิ ใครจะอยากเข้าหาผู้หญิงที่นั่งหน้าดำคร่ำเครียด หมองเศร้าตลอดเวลา ประเดี๋ยวก็ถอนใจเฮือก ประเดี๋ยวก็น้ำตาคลอเบ้า สิ่งเหล่านี้มีผลต่อการเริ่มต้นใหม่ทั้งสิ้น แถมยังทำให้ไม่สวยเร้าใจด้วยนะเออ


วิธีเก็บกวาดหัวใจเตรียมรับสิ่งใหม่หรือความรักครั้งใหม่มีดังนี้

นั่งคิดพิจารณาถึงความสัมพันธ์ที่ผ่านมาซึ่งเพิ่งจบไปหมาดๆ คิดให้ละเอียดละออถี่ถ้วนว่าเท่าที่ผ่านมามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง
คิดดูสิว่า สิ่งที่ผ่านมานั้น ตอนนี้เราเอามาวางไว้ตรงส่วนไหนในชีวิต
ยอมรับว่าเราได้บทเรียนอะไรจากความเจ็บช้ำครั้งนี้บ้าง
สิ่งสำคัญคือ เราต้องถามตัวเองว่า อดีตรักของเราให้บทเรียนและประสบการณ์กับชีวิตเราอย่างไร เช่น ต่อไปอย่าคบกับผู้ชายกินเหล้าเมาหัวราน้ำ หรือสูบบุหรี่จัดเสียจนเวลาเรากลับบ้านหัวหูฟุ้งไปด้วยกลิ่นบุหรี่ เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะช่วยเราให้เดินต่อไปในอนาคตได้อย่างไร

แต่ถ้าความทรงจำเกี่ยวกับเขาคนนั้นมีแต่ความสุขสมหวานชื่นระรื่นเสียเหลือเกิน ก็จงเขียนโน้ตขอบคุณเขาซะ หรือไม่ก็หาทางเก็บความสุขเหล่านี้เอาไว้ระลึกถึงนานนานครั้ง อย่างไรก็ตาม ไม่ว่าจะเป็นความทรงจำที่หวานชื่นหรือขื่นขม สิ่งที่ควรทำคือหาทางแปรสภาพความทรงจำเหล่านั้นให้ออกมาในทางที่ดีและมีประโยชน์ มองทุกอย่างในทางบวกแทนที่จะมานั่งคุมแค้นหรือหมองเศร้าซ้ำซากอยู่อย่างนั้น แล้วความสดใสมีชีวิตชีวาจะเปล่งออกทางสีหน้าท่าทาง เป็นการเชื้อเชิญและต้อนรับหนุ่มรายใหม่ให้เข้ามาหาเราโดยอัตโนมัติค่ะ




 

Create Date : 21 มีนาคม 2551
0 comments
Last Update : 21 มีนาคม 2551 13:45:59 น.
Counter : 824 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


สาว17
Location :
ลูกสาวเมืองสิงห์ Germany

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 7 คน [?]




Color Codes ป้ามด







เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตครอบครัว
มีบางครั้งที่เราต้องทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ
มีบ้างบางครั้งที่เราต้องเลิกทำในสิ่งที่ชอบ
เพื่อความก้าวหน้าของชีวิตครอบครัว
มีบ่อยครั้งที่เราต้องรู้จักใช้สติ
ต้องรู้จัก อดทน และให้อภัย
ดูอย่างต้นไม้ซิ
มันไม่เคยที่จะผืนลิขิตของฤดูกาล
มันไม่คิดจะขัดธรรมชาติ
เมื่อถึงคราวต้องทิ้งใบก็ยินยอมแต่โดยดี
อดทนและอดทน
เพื่อผลิใบ และดอกผลเมื่อฝนมา
เพราะเมื่อเวลามาถึงทุกสิ่งจะดำเนินไป
ชีวิตที่เรียบง่ายคือชีวิตที่มีสุข








Free Hit Counter ทีเว็บมาสเตอร์ รวมพลคนทำเว็บ
Google
New Comments
Friends' blogs
[Add สาว17's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.