กันยายน 2558

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
All Blog
2015-Sep-05 -เที่ยววัดพระแก้ว 2

ต่อจากตอนที่ 1...

หลังทำภาระกิจที่ห้องน้ำเสร็จก็ยังไม่แปดโมงครึ่ง แต่เห็นเขาว่ากันว่าคนไทยเข้าได้แปดโมงต่างชาติแปดโมงครึ่งนี่นา


ประตูทางเข้าพระราชวัง สวยดีดูคล้ายสถาปัตยกรรมทางยุโรป


เดินไปถามทหารที่หน้าประตู พิมานไชยศรี(มารู้ทีหลังว่าเป็นประตูเข้าพระราชวัง) อีกครั้งซิ

เรา : เข้าได้หรือยังครับ

ทหาร: ไม่ทราบครับ ลองถามที่ตรงนั้นครับพร้อมกับชี้ไปที่ขายบัตร

เรา: ขอบคุณครับ แล้วเดินไปที่เจ้าหน้าที่ขายบัตร

เรา : ตอนนี้เข้าได้หรือยังครับ

เจ้าหน้าที่ : ยังคะ ต้องรอแปดโมงครึ่ง

เรา: อ้าว เห็นว่าคนไทยเข้าได้เริ่มแปดโมง แต่ต่างชาติต้องรอแปดโมงครึ่งไม่ใช่เหรอครับ

เจ้าหน้าที่ : ต้องรอแปดโมงครึ่งพร้อมกันค่ะ แต่ต้องเข้าด้านโน้นนะคะ พร้อมกับชี้ไปทางขวามือตัวเอง

เรา: เดินทำหน้าเซ็งๆ กลับมาบ่น

ภรรยา: สงสัยเขาเปลี่ยนเวลามั้ง

จากนั้นเราก็เดินฆ่าเวลาไปเรื่อยๆ จนถึงทางเข้าวัดพระแก้วก็เจอกับป้ายนี้ บอกเลยว่า เซ็งสุดๆ บ่นเจ้าหน้าที่ที่ไม่ตอบให้ชัดเจน เขาให้เข้าตั้งแต่แปดโมงทำไมบอกแปดโมงครึ่งวะ….สุดท้ายพึ่งเข้าใจก็ตอนที่กลับมาถึงบ้านเนี่ยแหละว่า

  • วัดพระแก้ว เข้าได้ตอนแปดโมงตรง เพราะฉะนั้นถ้าจะชมหรือไหว้พระที่วัดพระแก้วก็ไม่ต้องรอแปดโมงครึ่ง
  • พระราชวัง เข้าได้ตอนแปดโมงครึ่ง
ทางเดินเข้าวัดพระแก้ว...

ตรงทางเข้าวัดพระแก้วเขียนชัดเจนว่าเข้าได้กี่โมง และต้องแต่งตัวอย่างไร


    เป็นเจ้าหน้าที่ ก็ไม่อธิบายให้ชัดเจน เรามาเพื่อวัดพระแก้วอย่างเดียว ต้องรอแปดโมงครึ่ง เซ็งมั๋ยล่ะ  มาคิดได้ทีหลังอีกแหละว่าเขาเป็นเจ้าหน้าที่ขายบัตร ไม่ได้เป็นประชาสัมพันธ์


    พอผ่านประตูแรกเข้ามา มาเฟียน้อยเห็นด้านหลังยักษ์ทวารบาลก็อุทานซะเสียงดังเลยว่า ทศกัณฐ์!! เจ้าหน้าที่ได้ยิน ต้องบอกว่าดูให้ดีซิใช่หรือเปล่า เอาเข้าจริงเป็นท้าวจักวรรดิกับอัศกรรณมารา ที่เฝ้าประตูนี้

    ด้านซ้ายมือ คือท้าวจักรวรรดิ ขวามือคืออัศกรรณมาลา

    ส่วนท่านนี้คือฤาษีชีวก โกมารภัจจ์ พร้อมคาถาบูชา


     ..............ว่ากันว่าเป็นหมอประจำตัวพระพุทธเจ้าเชียวนะ ถ้าใครอยากกราบไว้ก็ขอให้อธิฐานเรื่องขอให้สุขภาพดีอย่างเดียว ไม่เกี่ยวกับร่ำรวยนะครับ

    จากนั้นชีวิตก็เริ่มยุ่งเหยิงพอสมควร เพราะเห็นอะไรมาเฟียน้อยก็ชอบไปซะหมด ไม่ว่าจะเป็น ยักทวารบาล หรือ ภาพวาดรามเกียรติ์รอบกำแพงโบสถ์ สุดท้ายก็เดินดูภาพรวมก่อนค่อยกลับมาดูละเอียดอีกที

    ท่านนี้แหละของจริงจอมอสูร อันดับหนึ่ง ที่ใครๆมาก็ต้องถ่ายด้วย RAVANA ของคนทั่วโลก และคนไทยเรียก ทศกัณฑ์ ตัวเอกของเรื่อง


    ส่วนด้านล่างเป็นสหายสนิทของจอมอสูรเฝ้าประตูคู่กัน ท้าวสหัสเดชะ

    รูปคู่นี่อาจจะมืดหน่อย ถ่ายโดยมาเฟียน้อยครับ



    มยราพ-มัยราพ- เรื่องของการสะกดชื่อ ก็เป็นอีกเรื่องที่ค่อนข้างปวดหัว ในหนังสือสะกดไม่ตรงกับที่บอกไว้หน้ารูป บางทีก็เป็น ไมยราพ บางทีก็มัยราพ ท้าวทสรถ หรือท้าวทศรถ มาเฟียน้อยบ่นเยอะเลยว่าไม่รู้อะไรถูกอะไรผิด ก็พอเข้าใจได้ว่าสมัยก่อนสะกดอย่างสมัยนี้สะกดอย่าง เพราะบางภาพเขียนไว้เกือบร้อยปีแล้ว

    เดินดูก่อนเรื่อยๆ จะเห็นถึงความตั้งใจของเด็กว่าชอบจริงๆ



    นครวัด นครธม จำลอง


    ด้านล่างคือ เจดีย์ทองที่ลิงกับยักษ์ช่วยกันแบกไว้ไม่ให้ล้ม ตัวไหนลิง ตัวไหนยักษ์ ก็ดูกันเองที่เท้า หรือที่หัวนะครับ


    จากนั้นก็เข้าไปไหว้พระแก้วมรกตในอุโบสถ ไม่อนุญาติให้ถ่ายภาพในโบสถ์ดังนั้น ภาพทีได้จะเป็นการซูมของกล้องจากทางด้านนอก เจ้า Sony RX100 ทำได้ดีที่สุดแค่นี้ครับ



    หลังจากที่ไหว้พระเสร็จแล้ว เป็นเวลาเดินดูรามเกียรติ์ ตามสัญญา มาฟียน้อยโวยวายใหญ่ว่าพ่อไม่พาดูตั้งแต่เริ่มตอนแรก กำเนิดนนทก เพราะพ่อจะให้ดูจากห้องที่1กำเนิดนางสีดา พ่อก็เลยให้เดินนำหน้าเป็นคนพาไป ก็พาพ่อเดินย้อนกลับจนถึงประตูเข้า ก้อไม่มีกำเนิดนนทก ก็โวยวายอีกว่าเขาไม่ยอมวาดตั้งแต่เริ่มต้นกว่าจะเคลียร์กันได้ก็ต้องใช้เวลาพอสมควรที่เดียว

    เหนื่อยๆ ขอกลับมานั่งพักที่ศาลาทางเข้าประมาณเกือบชั่วโมงได้เพราะมาเฟียจะวาดรูปก่อน

    ด้านล่างเป็นสาวๆ นักท่องเที่ยวจีน ที่มารอฟังไกด์อธิบาย



    คนรอก็ต้องรอ คนวาดยังไม่เสร็จ ทำไงได้

    เป็นภาพเดียวที่ได้ถ่ายทั้งครอบครัว


    ต่อไปเป็นการเดินชมภาพวาดอย่างเอาจริงเอาจัง พ่อมีคำถาม บอกเก็บไว้ก่อน เดี๋ยวน้องตฤณ ดูเสร็จจะอธิบายให้ฟัง

    ตอนโปรด ชิวหาใช้ลิ้นคลุมกรุงลงกา

    จนกระทั่งเที่ยง กระเพาะเริ่มทำงาน เพราะตามแผนกะว่าจะมาหากินมื้อเช้าแถวๆท่าเตียน ท่ามหาราช แต่พอไปถึงแล้วเวลาเหลือน้อยก็เลยปล่อยเลยตามเลย เพราะแต่ละคนรองท้องมานิดหน่อยแล้ว มาเฟียน้อยเริ่มถามหาขนมในกระเป๋าพ่อ แสดงว่าเริ่มหิว หันไปทางแม่ก็บอกหิวตั้งนานแล้ว ก็เลยตัดสินใจออกมากินข้าวก่อน ทางออกบังคับออกทางเดียวซึ่งเป็นทางเข้าพระราชวัง เดินออกมาตอนเที่ยงร้อนมากๆ



    ร้านอาหาร Royal Navy Club77 จริงๆแล้วตั้งใจว่าจะไปกินที่ร้านครัวคุณกุ้งที่สโมสรราชนาวี แต่แวะร้านนี้ก่อนเพราะไม่รู้ว่าอันไหนคือร้านกุ้ง อันไหนสโมสร

    ในร้านไม่ค่อยมีคน มีแค่โต๊ะเดียว แปลกใจเหมือนกันเพราะแอร์ก็เย็นทำไมไม่ค่อยมีคน มาเข้าใจก็ตอนที่ได้เมนูเนี่ยแหละราคาอาหารค่อยข้างเป็นราคานักท่องเที่ยวต่างชาติ กระเพราทะเลราดข้าว 150 บาท กระเพราเนื้่อ 140 บาท แพงกว่าข้างนอกพอสมควร แต่ก้อโอเคเพราะข้างนอกร้อนมาก ขอนั่งพักห้องแอร์ก่อน สั่งกับข้าวไป 3 อย่าง

    ระเพราเนื้อ เกี้ยวน้ำ ปีกไก่ทอด ข้าวเปล่า น้ำเปล่า 1 ขวด น้ำแข็ง 2 น้ำส้มค้น 1

    ของหวานอีกเป็นไอติม 2 ถ้วย ถ้วยละ 2 สกู๊ป เค้กอีก1 ชิ้น ยอดค่าเสียหายก็ 985 บาท

    พ่อ : น้องตฤณจะไปไหนต่อครับ

    มาเฟียน้อย : ก็กลับไปดูรูปรามเกียรติ์ต่อไงครับดูยังไม่ครบเลย

    แม่ : แต่แม่ไม่ไหวแล้วนะ เหนื่อยมาก

    มาเฟียน้อย : แต่ยังเหลืออีกเยอะเลยที่น้องตฤณยังไม่ได้ดู

    แม่ : ไม่พูด แต่ทำหน้าแบบยอมรับสภาพ ไม่มีทางเลือก

    พ่อ : กินยาแก้ไมเกรน 1 เม็ด เพราะร้อนมาก ไมเกรนเริ่มจะมาเยือน

    กลับเข้ามาในวัดอีกรอบ ครั้งนี้ต้องมีการสแกนกระเป๋าด้วย พอเดินเข้ามาถึงตรงท้าวจักรวรรดิที่เดิม เจ้าหน้าที่ยังทักเลยว่าคนนี้เข้ามาแล้วนี่เมื่อตอนเช้า แสดงว่าอยู่นานจนเจ้าหน้าที่จำได้ จากนั้นก็ re run อีกรอบเดินดูรามเกียรติ์อย่างเดียว








    เหนื่อยก็นั่งพักวาดรูปไป แม่ก็นั่งรอ พ่อก็ถ่ายรูปจนเย็น ก้อได้เวลาออกมา ต้องเดินอ้อมออกมาทางพระราชวังแล้วย้อนกลับมาออกประตูวิเศษไชยศรี ด้านถนนหน้าพระลาน

    พระราชวัง ทหารกำลังตรวจเวรมั้ง ถ่ายรูปด้วยซะเลย


    เหมือนที่เข้ามาที่นี้เหนื่อยของจริง เพราะต้องเดินอ้อมมาทางท่าเตียน ก็เลยนั่งพักที่สวน นาคราภิรมย์ก่อน ลมพัดเย็นๆ ริมแม่น้ำ มองข้ามไปฝั่งธน วัดแจ้งกำลังบูรณะพระปรางค์เห็นบอกว่าใช้เวลาประมาณ 3 ปีกว่าจะเสร็จ



       หลังจากพักเหนื่อยแล้วก็เดินต่อไป เป้าหมายที่รถที่จอดอยู่เดินทะลุวัดโพธิ์ แต่ตอนนี้เหนื่อยมากแล้ว ไม่มีค่อยมีอารมณ์เที่ยว แต่เห็นเขาเข้าไปไหว้พระกันแวะหน่อยจะได้รู้ว่ามีอะไร

    มีพระนอนปรางไสยยาสน์ขนาดใหญ่ มีที่เข้าคิวถ่ายรูปด้วย โฉบเข้าไปถ่ายมาได้รูปนึงเพราะไม่รู้ว่าเขาเข้าคิวกัน โดนฝรั่งเตือนเลยว่า You have to go queuing ไม่ถ่ายก็ได้ไม่รู้นี่ ก็เลยเดินอ้อมไปทางหัวพระ มาเฟียน้อยก็แลกเหรียญมาหย่อนใส่บาตร



    จากนั้นก็ออกมาเจอโบสถ์ ก็เลยไปแวะเข้าไป เพราะเป็นทางผ่านอยุ่แล้ว ยักษ์วัดโพธ์ิ์อยู่ประตูโบสถ์เป็นพระขนาดเล็กที่อยู่ในตู้กระจก แล้วจะไปสู้กับยักษ์วัดแจ้งได้ยังไง ตัวเล็กขนาดนี้


    Model ของวัดโพธิ์



    “ลั่นถัน นายทวารบาล”
    หรือตุ๊กตาสลักหินรูปทหารนักรบจีนขนาดใหญ่
    ที่ยืนถือศาสตราวุธเฝ้าซุ้มประตูเข้า-ออกในเขตพุทธาวาส
    ของวัดพระเชตุพนวิมลมังคลาราม (วัดโพธิ์)
    หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าเป็น “ยักษ์วัดโพธิ์”

    ที่มา : //www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?t=26201


    ถึงรถแล้วครับ ได้เวลากลับบ้านค่าจอดรถก็ 200 บาทถ้วน จะกลับทางไหนเป็นเรื่องของ Navigator นะเพราะคนขับไม่รู้จริงๆ สุดท้ายก็ย้อนมาทางพาต้า ข้ามสะพานพระปิ่นเกล้าออกสะพานพระรามเจ็ด เข้าวงศ์สว่าง ออกวิภาวดี ถึงบ้านก็ประมาณ 6 โมงเย็น

    สรุปจากการเที่ยว

    พอใจนะ วัดพระแก้วสวยมากๆตามคาด แต่อากาศร้อนไปหน่อยถ้าไปหน้าหนาวน่าจะดีกว่านี้ วัดโพธิ์ก้อสวย แต่ไม่ได้มีโอกาสเดินชมเลย เพราะมัวแต่ดูวัดพระแก้ว

    ถ้าไปครั้งต่อไป

    1. ต้องรีบเข้าก่อนที่นักท่องเที่ยวจะเข้าเพราะคนจะเยอะมากๆ โดยเฉพาะคนจีน

    2. จากที่จอดรถที่วัดโพธิ์เดินไปยังวัดพระแก้วนั่งเท็กซี่ดีกว่า ไม่เหนื่อย โดยเฉพาะตอนกลับ เพราะเหนื่อยจากการเดินชมวัดแล้วต้องเดินค่อนข้างไกล ตอนเช้าอาจจะเดินเพราะ ถ้าไปเช้ายังเข้าไม่ได้อยู่ดี

    3. ในทริปน่าจะข้ามไปวัดแจ้งด้วย เพื่อไปดุยักษ์ที่มาทะเลาะกับยักษ์วัดโพธิ์จนเกิดท่าเตียน

    4. ทางลงยมราช ออกจากบ้านตรงมาจากวิภาวดีขาเข้าวิ่งขึ้นด่านดินแดงตามป้าย แจ้งวัฒนะ-พระราม9ค่ะ(ด้านซ้ายมือ)เข้าโค้งแล้วอยู่เลนซ้ายไปตามป้ายแจ้งวัฒนะ ตรงไปผ่านทางลงอนุสาวรีย์แล้วตรงต่อไปค่ะจะถึงทางเลือกรูปตัวYให้เลือกทางซ้ายค่ะ(ทางขวาจะไปจตุจักร/แจ้งวัฒนะ)เกาะด้านซ้ายไปเรื่อยๆตรงไปจะเจอทางลงอันแรกเลย จะลงด่านยมราชค่ะ

    5. อีกทางก็อ้อมไปทางวงค์สว่างซะ ขึ้นสะพานพระรามเจ็ดไปตามถนนจรัญสนิทวงค์ แล้วค่อยย้อนขึ้นสะพานพระปิ่นเกล้า ก็พอได้นะ
    6. เวปไซด์ที่แนะนำการเดินทาง.. //www.pattayaconcierge.com/th/bangkok/info/how-to-go-to-temple-of-emerald-buddha.php

    ------------จบครับ------------------SmileySmiley






    Create Date : 11 กันยายน 2558
    Last Update : 19 กันยายน 2558 8:01:55 น.
    Counter : 6242 Pageviews.

    0 comments
    ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
    Comment :
     *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
     

    kraft
    Location :
      

    [ดู Profile ทั้งหมด]
     ฝากข้อความหลังไมค์
     Rss Feed
     Smember
     ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]