i.am.not.korr
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
 
25 กุมภาพันธ์ 2555
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add i.am.not.korr's blog to your web]
Links
 

 

Goal is a dream with DEADLINE


เริ่มต้นกันที่ ในขณะที่เราใช้เงินไปทุกวัน ไม่ว่าจะใช้อย่างประหยัด หรือใช้อย่างสุรุ่ยสุร่าย


สิ่งมีค่า ที่เราใช้ไปพร้อมๆกับเงิน แต่เราใช้มันไปโดยที่เราไม่รู้ตัวก็คือ เวลา




คำง่ายๆ โหลๆ คำนี้แหละครับ คำว่าเวลา ที่มีแต่คนบอก "รุ้ๆแล้วๆ ฉันรู้อยู่แล้ว"




ถ้ารู้แล้ว แล้วยังไงครับ ?




บางคน ก็ใช้เวลาทุกวัน คุ้มค่าเหลือเกิน คุ้มมาก คุ้มโคดๆ


บางคน ก็ปล่อยให้เวลาผ่านไป โดยที่มองไม่เห็นคุณค่าของมัน




ลองนึกภาพตามนะครับ ผมจะสมมติเวลาว่าเป็นที่ดิน เป็นมรดกที่มนุษย์ทุกคนได้จากพ่อแม่ (อย่าปฏิเสธว่าเกิดมาจากค๊อบเตอร์ไม้ไผ่นะ)


สมมติว่าซื้อที่ดินมาผืนนึง


บางคน เอาที่ดิน ไปขายต่อ ไม่ได้คิดอะไรมาก ใครๆก็ทำแบบนี้นี่นา ได้เงินเร็วดี 555


บางคน ก็เอาที่ดิน ไปเพิ่มมูลค่า สร้างรายได้ให้กับตนเอง


บางคน ก็ปล่อยให้ที่ดินผืนนั้นรกร้าง ไม่ทำอะไรกับมันเลย ปล่อยเซอร์ ติสแตกกันไปข้าง




แสดงว่าเรามีเวลาเหมือนกันทุกคน แต่เราใช้มันแตกต่างกัน 




ถ้าเราลองคิดในแง่บวกอีกสักนิดนึงนะครับ สมมติเรามีเวลาอยู่บนโลกนี้สัก 60 ปี


และในขณะนี้เราอายุ 20 ปี พอดิบพอดีนะ


เราได้ใช้เวลาไปแล้ว 1 ใน 3 ของเวลาทั้งหมดที่เรามี




....




...




....... เฮ้ย จริงดิ !!




.... ใช่ครับ เวลาผ่านไปรวดเร็วมาก กว่าเราจะได้มาตระหนักรู้ถึง "คุณค่า" ของเวลา




สำหรับผม เวลา 1 ใน 3 ที่ผ่านมานั้น ผมใช้มันไป เพื่อสะสม สร้างต้นทุน ให้กับตนเอง


ต้นทุน ในที่นี้ อาจจะหมายถึง ประสบการณ์ในการใช้ชีวิต ประสบการณ์ในการเข้าสังคม พบปะผู้คนมากมาย รายล้อมไปด้วยคนรู้จักและไม่รู้จัก


รวมไปถึง การสะสมความคิดที่ดีๆ ทัศนะคติดีๆ การมองโลกในแง่บวก 




ในบางช่วงเวลา ผมใช้มันไปกับ "การทดลอง" ในหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง




เมื่อพูดถึง "การทดลอง" แน่นอนว่า มันย่อมมี ทั้ง "ได้" และ "เสีย" ทั้ง "ดี" และ "ไม่ดี"


สิ่งที่ได้ อาจจะเป็นเรื่องราวดีๆ ประสบการณ์ดีๆ หรือความรู้ที่แปลกใหม่ ที่เราไม่เคยได้รับมาก่อน (Innovation)


แต่สิ่งที่เสียไป อาจจะเป็นสิ่งที่ "มีค่า" หรือ "ไม่มีค่า" กับเราเลยก็ได้ เพราะทั้งหมดมันคือ ....การทดลอง....




พูดมาซะเยอะ พร่ำมาซะยาว เข้าเรื่องเวลากันครับ




ในความคิดของผมกับเพื่อนๆอีกหลายคน กำลังคิดว่า


พ่อ แม่ ครอบครัวผม คือ อะไรที่สำคัญกับตัวผมมาก (สำคัญจริงๆ และสำคัญที่สุดเลย ไม่ได้โม้)




คิดง่ายๆ ถ้าไม่มี พ่อ และ แม่ จะมีเราในวันนี้หรือ ?


เราจะได้มีหลายๆสิ่งหลายๆอย่าง มีการศึกษาที่ดี มีบ้านที่อบอุ่น มีของกินดีๆ เหมือนทุกๆวันนี้หรือ ?




หรือถ้าคุณไม่เคยได้สิ่งเหล่านั้นจากพ่อแม่เลย อย่างน้อยที่สุด ก็คือ โอกาส ที่คุณจะได้เกิดมาดำรงชีวิตอยู่บนโลกใบนี้




ถ้าไม่ได้โลกแคบเกินไป คุณจะพบว่า








สรุปง่ายๆ จาก infographic คือ มีคนอีกหลายร้อย หลายพันล้าน ไม่มีข้าวจะกิน 


นอนก็นอนไม่ค่อยจะหลับ ต้องกลัวอยู่ตลอดเวลาว่า อาจจะเป็นเรา ที่ต้องตกเป็นเหยื่อของสงคราม ความรุนแรง รายต่อไป หรือเปล่า ไม่อาจรู้ได้




คุณโชคดีแล้วครับ ที่ได้มีโอกาสมาอ่านข้อความนี้..




แน่นอนครับว่า สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้ก็คือ ความกตัญญู รู้คุณ นั่นเอง


ผมมีความคิดที่ว่า ถ้าพ่อแม่ผมจะมีความสุขได้ สิ่งแรกเลย คือ ผมต้องเป็นคนดี ต้องเป็นคนดี เท่านั้น ... 


เท่านั้นยังไม่พอ ..




สิ่งต่อมาก็คือ เราได้ให้ ในสิ่งที่พ่อแม่ ..ไม่เคยได้รับ.. รึเปล่า ?


เราได้ให้ ในสิ่งที่พ่อแม่ ..ให้เรา.. รึเปล่า ?


หรือว่าเรา อยากจะให้ในสิ่งที่ " มากกว่า " สิ่งที่พ่อแม่ให้เรามา




ซึ่งก็จะวกกลับเข้ามาในเรื่องของ เงิน อย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้ หรือ ใครจะหลีกเลี่ยงการพูดเรื่องเงินก็ตามแต่ ผมก็จะพูดเรื่อง เงินให้ฟัง




เงิน ก็ คือ ..เครื่องมือ.. ที่จะสร้าง สิ่งเหล่านั้นขึ้นมา สิ่งที่เรียกว่า "ความมั่นคงในชีวิต" ของตัวเราเอง และ คนที่เรารัก




บางคนอาจจะเถียงว่า เกิดมาแล้วก็ตาย ไม่เห็นจะมั่นคงตรงไหนเลย รวยมากๆ ยังไงก็ตาย ไม่รู้จะสร้างความมั่นคงไปทำไมก




ก็แน่นอนหน่ะสิ ถ้าไม่มีลูก คิดแบบนั้นก็ไม่ผิดหรอกนะ




แล้วถ้าผม อยากซื้อบ้านที่ล้อมรอบไปด้วยธรรมชาติ ให้กับคุณแม่ของผม


ซื้อรถดีๆ ประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงๆ ให้กับพ่อของผม




โจทย์นี้ คำตอบเดียวคือเงิน ไม่มีทางอื่น หรือ คำตอบอื่นอีกแล้วครับ (Sad but true)




การเป็นคนดีให้ท่านเพียงอย่างเดียว สำหรับผมแล้ว มันไม่พอครับ 


ผมอยากให้ท่าน มากกว่าที่ท่านมอบให้ผม ในเวลาที่ท่าน ยังมีชีวิตอยู่


คนดี ที่ไม่รวย กับคนรวยที่เป็นคนดีด้วย ไม่มีใครเถียงว่าอันสองย่อมดีกว่า ทำประโยชน์ได้มากกว่า




หรืออาจจะเถียงอีกว่า เอ้า รวยมาก เดียวก็เกิดกิเลส ยึดมั่นถือมั่นในทรัพย์สิน บ้าน รถ อะไรต่ออะไร มีน้อยๆเนี่ยแหละดีแล้ว ละง่ายดี




ผมจะบอกกับเขาคนนั้นเลยว่า เอาเป็นว่า รวย เมื่อไร แล้วไป ทำความดี สร้างกุศล กับผม เอาให้รวยก่อนแล้วกัน รวย อยากจะบริจาคให้หมดตัวก็ไม่มีใครว่า




"อย่ามีข้ออ้างให้กับตนเอง" = NO EXCUSE  




พูดมาเยอะขนาดนี้ ทีนี้พอจะเข้าใจละยังครับ ว่า เวลา มันคืออะไร มันเหมือนกับ เวลา ที่เราเคยรู้จักหรือเปล่า




ไม่ใช่เราคนเดียวที่มีเวลา คนอื่นก็มีเวลาเช่นเดียวกัน 




คนที่เรารักทุกคน ต่างก็มี "เวลา" ที่พวกเขาเหล่านั้น ใช้ไปทุกวันๆ ทุกวัน ทุกวัน..... everyday, every single day ......




ซึ่ง .. มันจะหมดเมื่อไรเราก็ไม่สามารถรู้ได้




แต่ .. ถ้าเรา อ้างอิงจากคำพูดที่เคยได้ยินกันบ่อยๆว่า


"ทำวันนี้ให้ดีที่สุด"




ก็คงเป็นคำตอบที่ดีที่สุดเช่นกัน




ดีที่สุดคืออะไร แล้วอะไรคือดีที่สุด ?


อันนี้สำคัญ การใช้เวลาในทุกๆวันให้คุ้มค่ามากที่สุด เท่าที่มนุษย์คนหนึ่งจะสามารถทำได้อย่างราบรื่น เป็นธรรมชาติที่สุด


ก็อย่างเช่นว่า เราอ่านหนังสือเรียน ก็ไม่ใช่ว่าอ่านจนเครียด อ่านแบบ hardcore จนปวดหัว จนต้องกินพารา อ่านจนไม่ต้องไปทำอย่างอื่นเลย กูเป็นนักอ่านแห่งชาติ กูเกิดมาเพื่ออ่าน


เพียงแต่เราแบ่งเวลาในการอ่านให้พอดี ผลที่ออกมามันก็จะดีเช่นกัน ดีมากอย่างที่ไม่เคยรู้มาก่อน ไม่เชื่อลองดูสิ ท้ากันดื้อๆแบบนี้เลย




เพราะ " ความพอดี " เนี่ยแหละครับ คือ สิ่งที่ผมอยากจะบอกควบคู่ไปกับ " การใช้เวลาให้คุ้มค่า "




ดังนั้น การใช้เวลาให้คุ้มค่า คงจะหมายถึง การทำทุกๆสิ่ง ทุกๆอย่าง 


เพื่อให้สิ่งที่เรา " ฝัน และ คิดไว้ " เป็นความจริง เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา




Law of Attraction กล่าวไว้ว่า "เมื่อท่านคิดอะไร ท่านก็จะได้สิ่งนั้นไปพร้อมๆกับความคิด"




คือไม่ว่าเราจะ คิดอะไร อฐิษฐานขอพรจากอะไรก็ได้ เราได้สิ่งที่ขอไปเรียบร้อยแล้ว งงไหมครับ




มันได้ในโลกของความคิดเรา ที่เราสร้างขึ้นมาเองในหัวสมองเราเนี่ยแหละครับ



ที่นี้จะทำอย่างไร ให้มันเสร็จ ให้มันสำเร็จ เป็นรูปธรรม จับต้องได้ share ได้ิ แบ่งให้คนที่เรารักได้ เป็น "ความสำเร็จที่กินได้" 




ทำให้เสร็จ "ก่อนที่เวลาของเราหรือคนรอบข้างจะหมดไป"




๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙




ต้องออกตัวก่อนนะครับว่า ตัวผมเอง ก็ไม่ใช่คนที่มีผลงานที่ดีเด่นดังอะไรหรอกครับ สำหรับ ณ ตอนนี้


แล้วก็ไม่ใช่ว่าผมจะทำได้ เป๊ะๆ ทุกอย่างอย่างที่ผมพูดมา




แต่ผมอยากจะมาเขียนบอกเล่าเรื่องราวที่อยู่ในหัวผม ออกมาเป็นคำพูด (ที่อาจจะเรียบเรียงไม่ดีสักเท่าไร)


เผื่อว่า สิ่งเหล่านี้ จะเป็นประโยชน์กับ ใคร หลายๆคน


ดีกว่าให้มันอยู่ในหัวผม แล้วก็ไม่เกิดประโยชน์อะไร เป็นแค่อากาศแห้งๆ ที่ไม่มีใครเข้าใจ 




.. จริงมั้ยครับ




สิ่งที่อาจจะ สำคัญที่สุด ในชีวิตของมนุษย์ทุกๆคนเลยก็คือ ..เวลา..


ถ้าเมื่อไร เวลาคุณหมด ขึ้นมา


ก็หมายถึง ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณฝันไว้ ก็คงต้อง จบ อย่างไม่มีข้อโต้แย้ง


ไม่ว่าคุณจะเก่งแค่ไหนก็ตาม คุณก็ไม่สามารถหลีกหนีความเป็นจริงตามธรรมชาติได้ คุณไม่สามารถหนีภัยธรรมชาติได้




สิ่งที่ทำได้ ทางออกที่ทำได้คือ อดทนกับสิ่งที่ผ่านเข้ามาในชีวิต สิ่งที่เลวร้าย สิ่งที่ไม่ทำให้เราเดินอยู่ในลู่ทางแห่งความสำเร็จ




รวบรวมสิ่งร้ายๆนั้น กลั่นออกมาเป็นความดี เป็นความคิดที่ดี เป็น positive thinking เป็นความรัก ส่งออกไปให้กับผู้อื่นรอบตัว




เกิดมาเป็นมนุษย์ทั้งที ทำสิ่งที่ดี และ เป็นประโยชน์กับผู้อื่นเนี่ยแหละ ผมว่าเจ๋งสุดๆแล้ว




ลืมตัวเองไปบ้าง จะดีมากๆเลยรู้มั้ย  




๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙๙






Free TextEditor




 

Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2555
0 comments
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2555 17:57:18 น.
Counter : 678 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.