Bloggang.com : : เวเว : "ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด พัง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ 10 คน 3-2 เข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ

"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด พัง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ 10 คน 3-2 เข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ

"ปีศาจแดง" แมนฯ ยูไนเต็ด พัง "เรือใบสีฟ้า" แมนฯ ซิตี้ 10 คน 3-2 เข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย เอฟเอ คัพ เมืองผู้ดี ส่วน สวินดอน จากลีก 2 เป็น "แจ็คผู้ฆ่ายักษ์" ทีมแรก หลังจากเปิดบ้านเฉือนชนะ วีแกน จากพรีเมียร์ลีก 1-2 โดย เปาโล ดิ คานิโอ กุนซือสวินดอน ชี้เหมือนทำความฝันเป็นจริง

ศึกฟุตบอลเอฟเอ คัพ อังกฤษ เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ 8 มกราคม ปรากฏว่า เป็นการแข่งขันรอบ 3 แต่เป็นรอบแรกของทีมจากพรีเมียร์ลีก หรือลีกสูงสุดของประเทศ โดย แมนฯ ยูไนเต็ด บุกชนะ แมนฯ ซิตี้ ซึ่งเป็นทั้งคู่ต่อสู้ร่วมลีก ร่วมเมือง และแชมป์เก่า 3-2 โดยยูไนเต็ด ออกนำก่อนถึง 3 ประตูจาก เวย์น รูนีย์ คนเดียว 2 ประตู จากการขึ้นโขกนาที 10 กับการเข้าซ้ำจุดโทษของตัวเองนาที 40 และ แดนนี เวลเบ็ค นาที 29 ส่วนซิตี้ ซึ่งต้องเหลือ 10 คน ตั้งแต่นาที 12 เมื่อ แวงซองต์ กอมปานี โดนใบแดงจากการเข้าสกัดสองเท้า แต่ก็ยังมาไล่ตีตื้นถึง 2 ประตู จากฟรีคิกของ อเลกซานดาร์ โคลารอฟ นาที 47 และ เซอร์จิโอ อเกโร ที่วิ่งเข้าซ้ำลูกยิงของตัวเองนาที 65

ส่วนคู่คืนวันเสาร์ที่ 7 มกราคม ปรากฏว่ามีทีมจากพรีเมียร์ลีก ลงเล่น 13 ทีม จากทั้งหมด 25 คู่ ตกรอบไป 2 ทีม ต้องแข่งใหม่ 2 ทีม ที่เหลืออีก 9 ทีม ผ่านเข้ารอบ 32 ทีมสุดท้าย

สำหรับ 2 ทีมพรีเมียร์ลีก ที่ต้องตกรอบไปก่อนนั้นคือ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส กับ วีแกน แอธเลติก โดยแบล็คเบิร์น ออกไปพ่าย นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ทีมจากพรีเมียร์ลีกด้วยกัน 1-2 ที่สนามเซนต์ เจมส์ ปาร์ค ทั้งที่ "กุหลาบไฟ" ขึ้นนำก่อนจาก เดวิด กูดวิลลี นาที 35 ทว่า "สาลิกาดง" ทวงคืน 2 ประตูรวดจาก ฮาเต็ม เบน อาร์กฟา นาที 69 และ โยนาส กูเตียร์เรซ นาที 90 (+5)

ขณะที่ วีแกน ออกไปพ่าย สวินดอน ทาวน์ ทีมจากลีก ทู ซึ่งต่ำชั้นกว่าถึง 3 ลีก 1-2 ทั้งที่ลูกทีมของ โรแบร์โต มาร์ติเนซ ขึ้นนำก่อนจากจังหวะที่ คัลลัม แม็คมานามาน ซ้ำจุดโทษของ เบน วัตสัน นาที 35 ทว่าเด็กของ เปาโล ดิ คานิโอ ทวงคืน 2 ประตูรวดจาก อลัน คอนเนลล์ นาที 39 และประตูชัยจาก พอล เบนสัน นาที 75

หลังเกม เปาโล ดิ คานิโอ กุนซือชาวอิตาเลียน รู้สึกปลื้มใจกับชัยชนะนัดนี้ของลูกทีม เด็กๆ ในทีมสมควรได้รับอะไรบางอย่างจากสโมสร บางอย่างเช่นการติดชื่อไว้บนอัฒจันทร์ ตอนพักครึ่งได้กระตุ้นลูกทีมว่า เราต้องเดินหน้า ต้องบุก เพราะสิ่งที่เราต้องการวันนี้ คือทำความฝันให้เป็นจริง

"ในวันนี้พวกเขาได้แสดงให้เห็นว่าทำความฝันให้เป็นจริงได้ แต่สิ่งที่สร้างความประหลาดใจให้ผมคือช่วงพักครึ่งพวกเขาเชื่อว่าทำได้มากกว่าผมเสียอีก ดังนั้นเมื่อลงมาเล่นในครึ่งหลังจึงความรู้สึกว่าจะชนะเกมนี้ และมันก็เกิดขึ้น ไม่ต้องสงสัยเลยเราสมควรเป็นฝ่ายชนะ การยิงเข้ากรอบถึง 12 ครั้ง ได้ลูกเตะมุมมากกว่า นี่คือสถิติและตัวเลขที่เกิดขึ้น" ดิคานิโอ กล่าว

สำหรับ ทอตแนม ฮอตสเปอร์ ทีมอันดับ 3 พรีเมียร์ลีก ซึ่งถือว่าดีสุดจากทุกลีกที่ลงแข่งในคืนนี้ ชนะ เชลท์แนม ทาวน์ ทีมเยือนจากลีก ทู 3-0 ในถิ่นไวท์ ฮาร์ท เลน ของตัวเอง จาก เจอร์เมน เดโฟ นาที 24, โรมัน พาฟลูเชนโก นาที 43 และ โจวานนี ดอส ซานโตส นาที 87 ส่วน สโต๊ค ซิตี้ รองแชมป์เก่า บุกชนะ จิลลิงแฮม ทีมจากลีก ทู 3-1 ถึงสนามพรีสท์ฟิลด์ ทั้งที่เจ้าบ้านขึ้นนำก่อนจาก แดนนี เคดเวลล์ นาที 16 ทว่า "ช่างปั้นหม้อ" ยิงคืน 3 ประตูรวดจาก โจนาธาน วอลเตอร์ส นาที 34 คาเมรอน เฌอโรม นาที 43 และ โรเบิร์ท ฮูธ นาที 49

ขณะที่ นอริช ซิตี้ ชนะ เบิร์นลีย์ 4-1 ที่สนามแคร์โรว์ โรด ของตัวเอง โดย "นกขมิ้น" ได้ประตูจาก แกรนท์ โฮลท์ นาที 6 และเขาน่าจะบวกสกอร์เพิ่มให้ทีมและตัวเองได้หากไม่พลาดจุดโทษนาที 30, ซิโมน แจ็คสัน นาที 11, แอนดรูว์ เซอร์แมน นาที 60 และ สตีฟ มอริสัน นาที 73 ส่วนทีมเยือนตีไข่แตกได้จาก เจย์ โรดริเกซ นาที 15

ด้าน เอฟเวอร์ตัน ชนะ แทมเวิร์ธ ทีมนอกลีก 2-0 ในถิ่นกูดิสัน ปาร์ค ของตัวเอง จาก จอห์น ไฮติงกา นาที 4 และจุดโทษของ เลห์ตัน เบนส์ นาที 78 ขณะที่ สวอนซี ซิตี้ บุกชนะ บาร์นสลีย์ ทีมจากลีก แชมเปี้ยนชิพ 4-2 ถึงสนามโอคเวลล์ โดย "หงส์ขาว" ได้ประตูจาก อังเกล รังเกล นาที 29, แดนนี เกรแฮม คนเดียว 2 ประตู นาที 45 กับ 89 และ นาธาน ดายเออร์ นาที 54 ส่วนเจ้าบ้านได้ประตูจาก ริคาร์โด วาส เท คนเดียว 2 ประตู นาที 29 กับ 65

ส่วน แอสตัน วิลล่า บุกชนะ บริสตอล โรเวอร์ส ทีมจากลีก ทู 3-1 ถึงสนามฮอร์ฟิลด์ โดย "สิงห์ผงาด" ได้ 3 ประตูนำจาก มาร์ค อัลไบรห์ตัน นาที 35, กาเบรียล อักบอนลาฮอร์ นาที 63 และ เซียแรน คลาร์ก นาที 77 ขณะที่ "โจรสลัด" ตีไข่แตกได้จาก สกอตต์ แม็คกลีช นาที 89 และน่าจะบวกสกอร์เพิ่มได้อีกหาก แม็คกลีช ไม่ยิงจุดโทษพลาด นาที 90 (+3)

ด้าน ฟูแล่ม ถล่ม ชาร์ลตัน แอธเลติก ทีมจากลีก วัน 4-0 ในถิ่นคราเวน คอทเทจ ของตัวเอง จาก "แฮตทริก" ของ คลินท์ เดมพ์ซีย์ นาที 8, 60 กับจุดโทษนาที 81 และ เดเมียน ดัฟฟ์ นาที 87 ส่วน เวสต์บรอมวิช อัลเบียน ชนะ คาร์ดิฟฟ์ ซิตี้ 4-2 ในถิ่นเดอะ ฮอว์ธอร์นส์ ของตัวเอง โดยเจ้าบ้านได้ประตูจาก ปีเตอร์ โอเด็มวิงกี นาที 6 และ "แฮตทริก" ของ ไซมอน ค็อกซ์ นาที 32, 61 กับ 89

สำหรับอีก 2 ทีมพรีเมียร์ลีก ที่ทำได้แค่เสมอและต้องแข่งใหม่ได้แก่ โบลตัน วันเดอเรอร์ส ออกไปเสมอ แม็คเคิลฟิลด์ ทาวน์ ทีมจากลีก ทู 2-2 ถึงสนามมอสส์ โรส และ ควีนส์ปาร์ค เรนเจอร์ส ออกไปเสมอ มิลตัน คีย์นส์ ดอนส์ ทีมแห่งลีก วัน 1-1 ที่สนามเอ็มเค

Create Date : 09 มกราคม 2555

Last Update : 9 มกราคม 2555 0:11:12 น.

0 comments

Counter : 474 Pageviews.