ผู้ว่าฯฉุนรุมยำ'ปลาวาฬ'กระทบ การท่องเที่ยว สื่อนอกโจมตีหนัก
ผู้ว่าฯ ภูเก็ตฉุนขาด สื่อนอกกระพือข่าวรุมยำ"ปลาวาฬ" ทำเกาะภูเก็ตเสียหายด้านท่องเที่ยวยับ ลั่นไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก แฉเคยเกิดเหตุรุมสกรัมลูกค้ามาแล้วจนถูกสั่งปิด 30 วันแต่ไม่เข็ด ขู่ทำผิดรอบ 3 ปิดถาวรแน่ พร้อมกำชับห้ามเปิดเกินเวลา
ความคืบหน้าคดีกลุ่มพนักงาน-การ์ดประจำร้าน "รัชดา ผับ" ใน จ.ภูเก็ต รุมทำร้ายร่างกายนายวรสิทธิ์ อิสสระ หรือ "ปลาวาฬ" ไฮโซดังผู้บริหารศรีพันวา โรงแรมหรูระดับ 6 ดาว ริมอ่าวมะขาม ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ลูกชายนายสงกรานต์-นางศรีวรา อิสสระ ประธานกรรมการบริหารศรีพันวากรุ๊ป หลานชายนายชาญ อิสสระ เจ้าของตึกชาญอิสสระ จนได้รับบาดเจ็บสาหัส เมื่อคืนวันที่ 4 มกราคม ที่ผ่านมา ขณะนี้นอนรักษาตัวอยู่ที่ห้องไอซียู รพ.กรุงเทพภูเก็ต ซึ่งพ้นขีดอันตรายแล้ว และมีอาการดีขึ้นตามลำดับ แต่ยังคงมีบาดแผลฉกรรจ์ตามร่างกายหลายแห่งนั้น เมื่อวันที่ 8 มกราคม พบว่านายวรสิทธิ์ หรือปลาวาฬ ยังคงนอนรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู โดยมีเพื่อนๆ ของนายวรสิทธิ์เดินทางมาจากกรุงเทพฯ ทั้งเพื่อนกลุ่มไฮโซ-ดาราต่างนำช่อดอกไม้มาเยี่ยมอย่างไม่ขาดสายด้วยความห่วงไย ขณะที่ทางโรงพยาบาลตั้งโต๊ะพร้อมสมุดเยี่ยม เพื่อให้เพื่อนๆ ได้เขียนแสดงความรู้สึก และความเป็นห่วงเป็นใยที่หน้าห้องไอซียู ส่วนเพื่อนสนิทบางคนจะได้รับอนุญาตให้เข้าเยี่ยมอาการในห้องไอซียูได้ แต่จะต้องผ่านการฆ่าเชื้อโรคก่อน เนื่องจากนายวรสิทธิ์ยังอยู่ในการดูแลของแพทย์อย่างใกล้ชิด โดยห้ามผู้ที่ไม่เกี่ยวข้อง หรือไม่ได้รับอนุญาตจากครอบครัว "อิสสระ" เข้าไปโดยเด็ดขาด ขณะเดียวกัน ทีมข่าวสังเกตเห็นว่า ยังคงมีตำรวจจำนวนหนึ่งมาคอยดูแลความสงบเรียบร้อยตลอด 24 ชั่วโมง โดยคาดว่านายวรสิทธิ์จะยังคงนอนรักษาตัวอยู่ที่ รพ.กรุงเทพภูเก็ต ต่อไปอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 7 วัน จนกว่าบาดแผลที่สาหัสจะดีขึ้น เรื่องนี้นายตรี อัครเดชา ผู้ว่าฯ ภูเก็ต เปิดเผยว่า เหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความเสื่อมเสียให้แก่ภาพลักษณ์ของเมืองท่องเที่ยวอย่างภูเก็ตเป็นอย่างมาก และไม่สามารถประเมินค่าความเสียหายใดๆ ได้เลย สิ่งสำคัญเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทดังกล่าวกลับมีบุคคลสำคัญและมีชื่อเสียงไปทั่วโลก ทั้งปลาวาฬ และนายเจเรมี เรนเนอร์ ดาราดังฮอลลีวู้ด ทำให้เหตุการณ์ดังกล่าวได้รับความสนใจจากสื่อทั้งไทยและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะสื่อต่างชาติที่ให้ความสนใจในตัวดาราฮอลลีวู้ด ซึ่งเกือบถูกกลุ่มคนร้ายที่เป็นคนไทยรุมทำร้ายร่างกายในเหตุการณ์ครั้งนี้เช่นกัน ก็ยิ่งส่งผลให้ภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของ จ.ภูเก็ต ที่ผู้ประกอบการด้านการท่องเที่ยวต่างๆ พยายามเสริมสร้างศักยภาพ ทั้งการทำโรดโชว์ ทำตลาดเสริมทัพการท่องเที่ยวในต่างประเทศมาโดยตลอด ต้องเสียความรู้สึกและมัวหมองไปกับเหตุการณ์ครั้งนี้ จนทำให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าใจว่า จ.ภูเก็ต เป็นบ้านป่าเมืองเถื่อน ผู้ว่าฯ ภูเก็ตกล่าวอีกว่า หลังเกิดเหตุได้สั่งปิดสถานบันเทิงแห่งนี้ไปแล้ว 90 วัน หลังจากตรวจสอบพบว่าเคยเกิดเหตุในลักษณะเช่นนี้มาแล้วครั้งหนึ่ง โดยนายอำเภอเมืองภูเก็ตเคยสั่งปิดกิจการเป็นการชั่วคราวมาแล้ว 30 วัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุการณ์ซ้ำซากอีกโดยไม่หลาบจำ ซึ่งตามขั้นตอนของกฎหมายสถานบันเทิง ในฐานะผู้ว่าฯ ภูเก็ตสามารถจะดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายได้ ประกอบด้วยเมื่อเกิดเหตุร้ายแรงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการทะเลาะวิวาท การทำร้ายร่างกายกันในสถานบันเทิงแห่งนั้นๆ นายอำเภอเมืองในฐานะผู้ออกใบอนุญาตสถานบันเทิงจะดำเนินการสั่งปิดกิจการชั่วคราวเป็นเวลา 30 วัน จากนั้นถ้ายังเกิดเหตุการณ์ซ้ำซาก เจ้าของ ผู้ประกอบการไม่สามารถควบคุมสถานประกอบการให้สงบเรียบร้อยได้ นายอำเภอเมืองจะนำเสนอสั่งปิดกิจการชั่วคราวเป็นเวลา 60-90 วันมายังจังหวัด เพื่อพิจารณาสั่งปิดตามขั้นตอนกฎหมาย และถ้ายังมีครั้งที่ 3 จังหวัดในฐานะอำนาจผู้ว่าฯ จะสั่งปิดกิจการเป็นการถาวรทันที ซึ่งที่ผ่านมาจังหวัดภูเก็ตเคยสั่งปิดสถานบันเทิงในลักษณะเช่นนี้มาแล้ว จากนี้ไปถ้าตนยังเป็นผู้ว่าฯ อยู่จะไม่ยอมให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้อีก นายตรีกล่าวว่า หลังเกิดเหตุการณ์ขึ้น กระทรวงมหาดไทยได้สั่งกำชับมายังตนในฐานะผู้ว่าฯ ให้เข้าไปดูแล และเข้มงวดสถานบันเทิงในพื้นที่ โดยห้ามไม่ให้มีการลักลอบเปิดบริการเกินเวลาที่กฎหมายกำหนดเป็นอันขาด จึงได้สั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 3 อำเภอ โดยเฉพาะอำเภอกะทู้ ซึ่งมีสถานบันเทิงเป็นจำนวนมาก เนื่องจากเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ภูเก็ต เข้มงวดการเปิด-ปิดสถานประกอบการอย่างเฉียบขาด ถ้าสถานบันเทิงใดลักลอบเปิดเกินเวลาให้จับกุมและดำเนินคดีตามขั้นตอนกฎหมายทันที โดยไม่มีข้อยกเว้น เพื่อป้องกันประวัติศาสตร์ซ้ำรอยอีก เช่นเดียวกับนายภูริต มาศวงศ์ศา อุปนายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยว จ.ภูเก็ต ฝ่ายต่างประเทศ มองว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในครั้งนี้เป็นอาชญากรรมร้ายแรง ที่ถือว่าทำเกินกว่าเหตุ ส่งผลให้ชาวต่างชาติดูว่าบ้านเรามีความรุนแรงถึงขั้นพยายามจะเอาชีวิตกัน แค่มูลเหตุเพียงเล็กน้อย ถ้าถามหาผลกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยวของนักท่องเที่ยวต่างชาติกับเหตุการณ์ครั้งนี้นั้น ยอมรับว่ามีแน่ เนื่องจากผู้ถูกทำร้ายเป็นคนที่มีชื่อเสียงและยังมีดาราที่มีชื่อเสียงร่วมเหตุการณ์เข้าไปอีก ทำให้สื่อต่างชาติยิ่งกระพือข่าวกันอย่างหนัก "สื่อนอกไม่เคยมาดูเลยว่าสถานที่ที่เกิดเหตุในครั้งนี้ไม่ได้อยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของ จ.ภูเก็ต และไม่ใช่แหล่งที่นักท่องเที่ยวต่างชาติสมควรจะไปเที่ยว แต่ถูกนำมาโยง เพราะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติ และเป็นคนที่มีชื่อเสียงอยู่ในเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วย" นายภูริตระบุ
Create Date : 09 มกราคม 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 9 มกราคม 2555 0:12:47 น. |
Counter : 1291 Pageviews. |
|
|
|