|
7-10-51 เรื่องไรดีหว่า
เพิ่งกลับจากไปเที่ยว เส้นทาง ขึ้นรถไฟสายมรณะ-กาญจบุรี น้ำตกไทรโยค... การรถไฟบอกกับเราว่า รถจะมาตอน 10.56 น. แต่มาจริง ๆ ตอน 11.20 น. ตอนที่นั่งรอ ผมเองเฉย ๆ แต่คนที่ไปด้วยกันบ่นยกใหญ่..(ไปกัน 11 คน) บ่นประมาณ 2 คน (บ่นจริงบ่นจัง)
แล้วก็คุยกันเรื่องการเมือง ผลปรากฏว่า รุ่นนี้ ทีมเสื้อแดงมีมากกว่าชนะไป..(เวลาทัวร์จะมีปัญหาเสื้อแดงกับเสื้อเหลือง..ซึ่งถ้าเสื้อเหลืองมาก คนชอบเสื้อเหลืองก็จะคุยกันเมามันส์ เสื้อแดงก็จะเงียบ เสื้อขาวอย่างเรา ๆ ก็ได้แต่นั่งฟัง แล้วก็คิดไปว่า....ไม่บอกดีกว่าว่าคิดอะไร)
มาต่อที่เรื่องกาญจนบุรี คนรอรถไฟเยอะมาก ไทยฝั่งหนึ่งฝรั่งหนึ่ง..ผมก็บอกคนที่บ่นว่า เรามา จากนครสวรรค์ แต่เขามาจากซีกโลกไหนก็ไม่รู้ ถ้าเขารอได้เราก็รอได้ เพราะการท่องเที่ยวจะได้อรรถรส มันต้องมีช่วงของการรอ คอย ผมเคยแบกเป้ไปลาว ผมก็นั่งรอเรือรอแล้วรอเล่าแบบนี้ก็ได้ครุ่นคิดอะไรมากมาย ไม่เห็นว่ามันจะเสียเวลา แต่ว่าเขาเสียเวลา..
...ขึ้นรถไฟไปแล้ว.. เจ้าเดิมบอกว่าเหม็นกลิ่นเต่าฝรั่ง รถไฟฟรีหาที่นั่งได้เลย แต่อีกคนที่ไปกับเราพร้อมกับสามีรวยระดับหลายสิบล้าน เดินทางไปรอบโลกกับทัวร์ห้าดาว มาเที่ยวไทย ยืน เบียดคน..เราก็กังวลว่าเขาจะบื่อ เขากลับบอกว่า สนุกดี..ชอบมาก
คนคิดบวกก็หาความสุขได้ หน้าตาของเขาผ่องใส ผิดกับคนขี้บ่น อายุน้อยกว่า แต่หน้าเหี่ยว ... อุทาหรณ์ของชีวิตเลยทีเดียว..
ตัดมาที่แพข้ามไปอำเภอศรีสวัสดิ์..คนขี้บ่นก็อยากจะแวะนั่นแวะนี่ เราเป็นคำโปรแกรมเรารู้อยู่แล้วว่า ต้องออกจากที่นี่กี่โมงแล้วจะถึงที่หมายกี่โมง คนคิดบวก บอกว่า เอาเหอะแล้วแต่คนจัด แต่อีกคน เธอน่าจะแวะนั่นนะแวะนี่นะ โปรแกรมวันนี้น้อยจังเลย เราก็นับหนึ่งถึงสิบอยู่ในใจ..
(อีนี่ ฟังภาษาคนไม่ค่อยรู้เรื่องจริง ๆ ถึงว่า..)
บ่นเขาในใจแล้วเราก็ดื่มดำกับสายน้ำ ขุนเขา และสายฝน มีความสุขจะตาย..
คืนนั้นได้นอนที่แพ เพราะรีสอร์ตที่ติดต่อไว้ ดูจากเน็ต..ปรากฏว่า เป็นรีสอร์ตเหมือนร้างก็เลยเปลี่ยนมานอนแพ ที่เปิดโล่ง..
มีเรื่องอีกแล้ว..
พี่นะเกิดมาไม่เคยลำบากเลย น้ำก็ไม่เคยตักอาบ แต่คนอีก 10 คนสบายปรือ ตักน้ำที่ข้างแพมาอาบสบาย บอกว่าดีวะ นึกถึงตอนเป็นเด็ก...เราเองกระโดดตูม ๆ นึกถึงผีอีบัวโรยจะมาดึงลงไป แต่ก็มัวกลัวก็ไม่สนุกดิ..
แล้วเหตุไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น..ผู้ร่วมงานของเราเองแหละ เอาเงินใส่กระเป๋ากางเกง แล้ว ถือไปพาดไว้ที่ราวของแพ ขณะอาบน้ำเพลิดเพลิน กางเกงก็ค่อย ๆ ไหลจากราวสู่น้ำและก็เงียบหายไป..ความโกลาหลเกิดขึ้น..แต่เราก็ว่ายน้ำป๋อมแป๋มต่อไป ..ก็คนตั้ง 10 คน มีหน้าตาทุกข์ตรมกันหมดแล้ว.. ก็ไม่รู้จะไปทุกข์ทำไมอีก..คนบางคนจึงว่าเราใจดำ แต่บางทีเราว่า เราใจดี..ยิ่งเจ้าของแพมาบอกว่า ตอนเช้าจะงมให้ ไม่ต้องห่วง สบายมาก..เคยงมเอาแว่นตามาแล้ว.. เราก็ว่ายน้ำป๋อมแป๋มท่ามกลางความมืดต่อไป...หรือถ้ามันจะหายไปจริง ๆ ..ก็คิดว่า ดีไม่ตกน้ำตาย..เงินหาใหม่ได้ทุกข์ไปก็มีแต่เผาตัวเองเสียเปล่า ๆ..
คืนนั้นมีคนคิดไปต่าง ๆ นา ๆ บ้างก็คิดว่า หากเจ้าของแพ แอบดำลงไปเอาละ (เงินหลายหมื่นนะ) จะทำอย่างไร ..ได้ยินคุยกันจุ๊กจิ๊ก แต่เรา ก็หลับไปด้วยความรู้สึกที่ว่า ทุกข์ไปใย...นอนดีกว่า..
เช้ามาได้ของ ดีใจกันใหญ่เลย..
มีเรื่องต่ออีกแล้ว..
ช่วงรอแพไปที่น้ำตกแม่ขมิ้น ประมาณ เกือบชั่วโมง เจ๊บ่นผมเอาอีกแล้ว.. ผมก็ไม่สนใจหรอก ปีนเก็บมะขามป้อม เก็บกล้วยไม้ที่เจอมาให้ป้าอีกคน (เขาดีใจใหญ่) แล้ว ผมก็ถ่ายรูป อ่านหนังสือ ดื่มกาแฟ ขนม สูดกลิ่นก๋วยเตี๋ยว สบายอารมณ์เหมือนเดิม ทำไมที่นี่มันช่างสวยงามอย่างนี้หนอ..
เจ๊บ่นงึมงำ ๆ ต่อไป..ขึ้นแพ ก็งำงึม งึมงำ รถออกจากแพแล้ว ทางไปน้ำตกไปลูกรังแกก็ บ่นต่อ..เราซิ โอ้ว ธรรมชาติ..วิเศษแท้..คนอื่น ๆ ก็ว่า ดี ๆ ๆๆๆๆๆ เห็นน้ำตกก็สวยดี อะไรทุกอย่างดีหมด..
นึก ๆ ในใจว่า คนเราถ้าเก็บรายละเอียดระหว่างทางไม่ได้นี่ แย่เหมือนกันนะ..
บ่นพอแล้ว ทำงานต่อดีกว่า..
Create Date : 07 ตุลาคม 2551 |
|
5 comments |
Last Update : 7 ตุลาคม 2551 10:26:10 น. |
Counter : 636 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เอ IP: 119.234.1.25 8 ตุลาคม 2551 20:42:35 น. |
|
|
|
| |
โดย: Jum IP: 61.90.200.140 9 ตุลาคม 2551 7:23:58 น. |
|
|
|
|
|
|
ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อก เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่ากรณีใด ๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
-------------------
|
|
|
|
|
|
|
|
วันอังคารสำราญใจ๋
สู้ๆ ขอให้อัพบล๊อกดีๆต่อไปนะคร้าบ