ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณทุกกำลังใจจากหน้าที่แล้วมากๆ ค่ะ
19.06.2010
เมื่อคืนนอนแทบไม่ได้ น้องพลิกตัวทั้งคืน แถมยังเหมือนจะตื่นตลอดเวลา กังวลตลอด เซงมากมาย
วันนี้ตื่นเช้ามาเพราะน้องมันตื่น 7 โมง
ตื่นเสร็จแม่งวิ่งรอบเรือเลย ไอเราก็กลัวมันวิ่งหนีออกไปจากเรือ เลยต้องตื่นไปนั่งเฝ้ามัน
เมื่อคืน โฮสบอกแล้วว่าให้ดูน้องด้วย เค้าต้องการพักผ่อนหน่อย
อ้าว แล้วไมเราไม่ได้พักผ่อนบ้างว่ะ ตามที่เคยบอกก่อนหน้านี้ เสาร์-อาทิตย์ ไม่ทำงานนิ
ก็เลยมานอน ปล่อยมันเล่นบอลไป แตะอัดใส่ตัวเรือหนวกหูมาก แต่ไม่อยากสนใจมาก
แล้วซักพักมันวิ่งมาปลุก เราทำเป็นหลับ มันก็ยังดี ที่วิ่งไปเล่นต่อคนเดียวได้
แต่ก็ไม่นาน วิ่งมาอีก แล้วมานั่งบนเตียง เราแอบมอง มันเอานิ้วล้วงคอ ทำเป็นอ้วก
เราก็ไม่อยากสนใจ เดี๋ยวแม่งจะยิ่งได้ใจ
แต่แม่มันไม่ใช่ มาจากห้องบอกให้น้องไปอ้วกในห้องน้ำ
เราก็ไม่เห็นมันจะอ้วก ก็แกล้งทำไปอย่างงั้น
แต่แม่มันมาพูดว่า ทำไมไม่สนใจน้อง
เราก็บอกไปว่า ก็เห็นว่ามันแกล้งทำ เพื่อเรียกร้องความสนใจ
โฮสด่ากลับอย่างแรงว่า ไม่สบายคือไม่สบาย จะแกล้งได้ไง
แล้วมาบอกว่าเค้านั่งฟังอยู่นานแล้วว่าเราจะทำยังไง เค้าไม่ชอบมากๆ ที่เรานิ่งเฉย
อ้าว!!! ชั้นก็ไม่ชอบเหมือนกันที่จะมานั่งจับผิดเราอย่างนี้
แต่ก็จบ ไม่อยากต่อเรื่องให้ยาว
เลยเปลี้ยนเรื่องไปช่วยเตรียมอาหารเช้า หาจานไม่เจอ แต่ไม่ถามแล้ว
เปิดแม่งทุกตู้เลย แล้วมาถามว่าหาอะไร บอกว่าหาจาน
มันบอกว่าแล้วทำไมไม่ถาม อ้าวอีนี้! เอาไงแน่ มากเกินไปแล้วนะ
กินข้าวเช้าเสร็จแม่มันให้ชั้นพาน้องไปเล่นที่สนามเด็กเล่น แล้วก็พาน้องเข้าห้องน้ำด้วย
ไม่พอยังให้พาหมาไปเดิน แล้วฝากซื้อหนังสือพิมพ์อีก
รู้ว่าผลลับออกมาไม่ดีแน่ แต่เค้าให้ทำ เราก็ไปทำตามคำสั่ง
เดินกันไปถึงสนามเด็กเล่น น้องแม่งลองดีกับกูเลย ถอดชูชีพ
แม่งมือนึงจูงหมา แล้วจะเอาไงกับชูชีพมึง
เลยต้องผูกหมาไว้กับเสาข้างทาง แล้วค่อยๆ ทำเป็นเล่นด้วย
เพราะถ้าเข้าไปแล้วจับมันเลย มันวิ่งหนีออกจากสนามเด็กเล่นจะยิ่งซวยกว่านี้
แต่พอมันได้ใจก็จับตัว แล้วบอกให้ใส่เสื้อ มันลงไปกลิ้งกับพื้น แต่ยังไงก็ปล่อยไม่ได้
ถ้ามันหลุดไปได้ คราวนี้ไล่ไม่ทันแน่
พอมันไม่ใส่ เลยบอกว่างั้นอยู่ที่นี่ไป จะพาหมากลับล่ะ แล้วก็รีบวิ่งก่อนที่มันจะลุก
ไม่งั้นวิ่งไม่ทันมัน
วิ่งมาที่ประตูสนามเด็กเล่น แล้วปิดไว้ ไม่ให้ออก จนกว่าจะใส่เสื้อ
ดีที่ตอนนั้นไม่มีเด็กคนอื่น ไม่งั้นพ่อแม่เค้าได้ตกใจแน่ คิดว่าเกิดสงคราม 555
กว่าจะจัดการได้ เล่นเอาเหนื่อย แต่พอมันออกมาได้มันก็ไปเอาหมาแล้วจูงไปทั่ว
ไอเรายังไม่รู้จักที่เท่ามัน ก็ได้แต่เดินตาม วิ่งก็ไม่ได้ เดี๋ยวมันยิ่งวิ่งพ้น
อีกอย่างที่ต้องทำคือซื้อหนังสือพิมพ์ให้โฮส แต่ไม่รู้จะเอาเวลาไหนไปซื้อ
ก็บอกน้องว่าอยากเข้าห้องน้ำ พาไปหน่อย จริงๆ อยากจะจัดการน้องเองมากกว่า
เห็นน้องวิ่งขึ้นข้างบน พาหมาไปด้วย เราก็แบบกังวลว่าจะเกิดอะไรขึ้น
หรือจะไปสร้างความวุ่นวายอะไรรึเปล่า เลยตามไป แต่มันก็วิ่งลงมาอีก
แล้วก็เดินจูงหมาไปตามทาง แต่ไปเจอหมาใหญ่ แล้วหมาเหาหมาตัวเล็ก
น้องตกใจเลยปล่อยหมา ชั้นก็วิ่งเข้าไปหาน้อง แล้วก็บอกไม่เป็นไร
แล้วน้องก็วิ่งไปจูงหมามา แต่ณ ตอนนั้นโฮสมัมแม่งออกมาจากพุ่มไม้ไหนไม่รู้
มาบอกว่า ไม่ได้ผลหรอก คุณทำแบบนี้ไม่ได้เรื่อง
ชั้นก็แบบ มึงมาจากไหน แล้วอะไรที่ไม่ได้เรื่อง
แล้วโฮสมัมก็เดินกลับเรือไป
ความสุดเซงของชั้น เลยจับหมามาจูงเอง แล้วลากน้องมาด้วย จับเข้าไปในร้านขายของ
แล้วหยิบหนังสือพิมพ์ ไปจ่ายตังค์ น้องมันหยิบขนมมาจะเอาด้วย
ชั้นบอกคำขาดว่า ไม่!!! อย่างเสียงดัง ด้วยความโมโห คนทั้งร้านเงียบ มองมาหมด
แต่มันหมดความอดทนแล้วจริงๆ นี้มันคือการจับผิดชัดๆ
ออกจากร้านก็จูงหมากลับเรือเลย แต่ก็ไม่อยากไปโกรธน้อง เพราะน้องไม่ได้ผิดอะไร
เลยทำเป็นเดินร้องเพลงกลับเรือ แบบว่า Go to your boat... อะไรว่าไป
เติมทำนองมั่วๆ ไปหน่อย น้องมันก็สนใจแล้ว
ตอนนั้นแบบร้องไห้ไป ร้องเพลงไป เพราะฝนตกด้วย แล้วไม่รู้ว่ากลับเรือไปจะเจออะไรอีก
กลับถึงเรือ ดีที่โฮสไม่ต่อเรื่อง กินข้าวเที่ยงกัน ดูบอล ฮอลแลนด์-ญี่ปุ่นไป
แบบว่าในใจไม่อยากให้ฮอลแลนด์ชนะเลย แบบว่าอยากให้โฮสผิดหวังบ้างอะไรบ้าง 555
ดูบอลจบ โฮสบอกว่าจะให้พัก เดี๋ยวเค้าจะพาน้องออกไปข้างนอก
โฮสมัมบอกน้อง น้องบอกว่าไม่จะอยู่กับชั้นเพราะชั้นเป็นพี่เลี้ยงเค้า
ได้ยินแบบนั้นแล้วน้ำตาล่วงเลย เค้าบอกลูกว่าชั้นจะมาดูแลและอยู่เป็นเพื่อนลูก
แต่ไม่ได้บอกเลยว่าชั้นไม่ได้จะอยู่กับเค้าทุกวัน และชั้นเป็นออแพร์ ไม่ใช่ Babysit
แต่พอโฮสออกไปก็ไปนอนร้องเป็นชั่วโมง
แบบว่าติดต่อใครก็ไม่ได้ เพราะไม่มีโทรศัทพ์ เครียดสุดๆ แบบว่าไม่ไหวแล้ว
ทำได้แค่พยายามปลอบตัวเอง แต่ยิ่งทำ มันก็ยิ่งเศร้า
เลยร้องให้หมดไปเลย ร้องจนไม่มีน้ำตา ร้องอย่างเดียว จนหลับไป
ซักพักโฮสกลับมา ก็ถึงเวลาพาหมาไปเดิน แต่น้องก็อาระวาด
เห็นว่าช่วยอะไรไม่ได้ เลยบอกว่างั้นเดี๋ยวพาหมาไปเดินให้
เค้าก็บอกว่าตามใจ เราก็ไป
เดินออกจากเรือก็ร้องเลย ครั้งนี้ร้องหนักมาก เวลาจูงหมาไปเดินแล้วเห็นเด็กคนอื่นๆ
เราก็แบบว่า อยากมีความสุขกับเด็กๆ แต่มานี่มันมีแต่ความทุกข์
ครอบครัวนี้คงต้องการพยาบาลมากกว่าออแพร์แล้ว
เดินนานมาก เพราะไม่อยากกลับเรือ พอถึงเรือก็เข้าไปช่วยเตรียมข้าวเย็น
ระหว่างเตรียม โฮสมัมก็พูดขึ้นมาว่า คุณมาเป็นออแพร์ คุณต้องดูแลเด็กก่อนจะไปดูแลหมา
ก็เลยตอบกลับไปว่า ก็ชั้นเห็นว่าชั้นช่วยอะไรคุณไม่ได้ ชั้นเห็นอะไรที่ชั้นทำได้ ชั้นก็ทำ
อีกอย่างคุณก็ให้ชั้นเป็นคนดูแลหมาเช่นกัน
เข้าใจไหมว่า อะไรที่ชั้นเห็นว่าช่วยได้ก็ช่วยคุณเสมอมา
เข้าก็ส่ายหัว เห็นแบบนั้นชั้นก็เต็มที่เหมือนกัน ถอนหายใจพร้อมกับพูดว่าแล้วแต่คุณจะคิด
จบบทสนทนานั้นก็ช่วยเตรียมอาหารโฮสแด๊ดต่อ คิดว่าโฮสแด๊ดเงียบๆ คงจะเข้าใจ
(ตอนหลังมารู้ว่าคิดผิด)
กินข้าวเย็นกันอย่างเงียบๆ และชั้นก็แสดงอารมณ์ออกมาตามความรู้สึก ไม่แคร์อะไรแล้ว
กินเสร็จก็ช่วยล้างจาน เก็บโต๊ะ ทำทุกอย่าง อย่าให้เค้าว่าได้ว่าเราไม่ทำอะไรเลย
โฮสแด๊ดพาน้องไปนอน เราก็ไม่อยากนั่งกับโฮสมัม เบื่อเต็มทน
ซักพักก็ได้เวลาพาหมาไปเดินอีก ออกไปคิดว่าจะร้องหนัก คราวนี้เหมือนน้ำตาหมด
ร้องไม่ออก ไปแป๊บเดียวก็กลับ มันเหนื่อยๆ ยังไงไม่รู้ แต่ระหว่างเดินก็เริ่มคิดว่าไม่เอาแล้ว
ขอเปลี่ยนครอบครัวด่วน
กลับมาถึงเห็นโฮสมัมนั่งดูทีวีอยู่ ก็นั่งด้วย ถ้าไม่นั่งก็คือการหนี เราไม่อยากหนี
แต่พอนั่งซักพักโฮสมัมก็ลุกไป บอกวันนี้เหนื่อยมาก จะไปนอนแล้ว ปิดทีวีด้วย
เราก็อืม แต่คืนนี้เป็นคืนที่ทรมานมาก เพราะเราเองก็เหนื่อย เมื่อคืนก็นอนไม่ได้
นั่งร้องหน้าทีวี จนหลับไป เกือบตี1 แต่มันหนาว เลยตัดสินใจไปนอนในห้อง
ก่อนลงนอน เห็นน้องมันนอนจนแทบไม่เหลือที่ ก็ได้แต่ถอนหายใจเฮือกใหญ่
...To be continue