Bloggang.com : weblog for you and your gang
จินตนาการ + ความเพ้อฝัน แค่นั้นก็มีความสุข ^0^
Group Blog
Group ตัวอย่าง
เมื่อบางครั้งเราก็บ้าดารา
เมษายน 2551
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
4 เมษายน 2551
เมื่อหลังสู้ฟ้า เมื่อหน้าสู้ดิน
All Blogs
นักศึกษาจบใหม่ เครียดแล้วก็พาล พาลแล้วก็เครียด
บ่น...คลายเครียด
ทำอย่างไรให้ดูดี+ดูได้ ในวันสัมภาษณ์งาน
แอบชอบ...แต่กำลังพยายามลืม
งาน ๆ ๆ
เทศกาลสอบ+ฝึกงาน
เขียนอะไรดี
เยี่ยมเด็กบ้านสร้างฯ
ใครว่าร้องไห้ไม่ช่วยอะไร และคุณเคยเป็นแบบนี้ไหม ?
ปล่อยวาง
อันว่าด้วยข้าวผัด
TK Young Writer Academy
เหนื่อยมั๊ยแม่
เกิดมาทำไม
ห้องสมุดที่รัก
เมื่อหลังสู้ฟ้า เมื่อหน้าสู้ดิน
เมื่อหลังสู้ฟ้า เมื่อหน้าสู้ดิน
พอดีทราบข่าวว่ามีโครงการประกวดเกี่ยวกับสารคดีอะไรก็ได้ที่เป็นความรู้ เลยลองเขียนดูค่ะ แล้วก็เอามาลงให้อ่านกันเผื่อติดขัดตรงไหนจะได้ขอคำติติงค่ะ
.............................................
ลมอ่อนยามสายพัดเอารวงข้าวสีทองให้ลู่ไหวไปทางเดียวกัน ดูพร้อมเพรียงสวยงามราวกับมีบทเพลงบรรเลงขับกล่อมให้ต้นข้าวเหล่านั้นลู่เอนไปตามจังหวะ พร้อมกันนั้นก็หอบเอากลิ่นไอแห่งท้องทุ่งพัดโชยมาเข้าจมูกครั้งแล้วครั้งเล่า แดดยามสายที่แม้จะยังไม่แผดแรงมากนักแต่ก็ค่อย ๆ ทวีอุณหภูมิให้สูงขึ้นเรื่อย ๆ ตามดวงอาทิตย์ที่โผล่พ้นขอบฟ้าขึ้นมาทุกชั่วขณะ เสียงดังจ๋อมจากคลองใกล้ ๆ ดังอยู่ไม่ขาดระยะบ่งบอกว่าฝูงปลาน้อยใหญ่กำลังระเริงรื่นอยู่กับสายน้ำเย็นฉ่ำอย่างมีความสุข ดูสนุกสนานครึกครื้นราวกับกำลังมีงานเลี้ยงฉลองแห่งท้องทุ่งก็ไม่ปาน
ลุงแก่ ๆ ที่เส้นผมเป็นสีดอกเลาเกือบทั้งหัวค่อยยืดอกขึ้นช้า ๆ พร้อมกับสูดเอากลิ่นไอแห่งสถานที่ที่ใคร ๆ ต่างขนานนามกันว่า บ้านนอก เข้าซะจนชุ่มปอด มือที่เหี่ยวย่นไปตามสังขารค่อยดึงเชือกในมือช้า ๆ แต่แฝงไว้ด้วยความหนักแน่นมุ่งหน้าไปยังผืนนาติดกันที่บัดนี้ผลิตผลถูกเก็บเกี่ยวออกไปจำหน่ายเพื่อต่อชีวิตและต่อลมหายใจให้กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า มนุษย์ เป็นที่เรียบร้อย กระบือตัวโตหรือที่ภาษาชาวบ้านเรียกกันว่า ควาย เดินตามแรงจูงไปช้า ๆ กลิ่นสาบโคลนยังคงกรุ่นอยู่ตามตัวของมัน แต่ก็มิได้สร้างความขยะแขยงหรือรังเกียจให้แก่ผู้เป็นเจ้าของแต่ประการใด นกเอี้ยงตัวน้อยถลาตัวลงมาเกาะบนหลังสิ่งมีชีวิตที่มีขนาดโตกว่าอย่างชำนิชำนาญกระทั่งมือที่มีรอยเส้นเอ็นปูดโปนยกขึ้นโบกไล่ มันจึงกระพือปีกบินหนีไปพักพิงอยู่บนยอดต้นตาลที่ขึ้นอยู่ใกล้ ๆ รอจังหวะและเวลาแห่งโอกาสต่อไป
เสียงเพลงลูกทุ่งที่โด่งดังแห่งยุคกระทบกับแก้วหูฟังดูไพเราะจับใจ แม้นจะไม่ใช่เป็นเสียงของเจ้าของบทเพลงโดยตรงหากแต่ถูกขับขานโดยผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติ แต่ก็ยังคงสนุกสนานน่าฟัง ชวนให้เพลิดเพลินได้ไม่น้อย หลังสู้ฟ้า หน้าสู้ดิน คงจะเป็นคำเปรียบเปรยได้ดีที่สุดสำหรับคนที่ถูกเรียกว่า ชาวนา ฤดูเก็บเกี่ยวแบบนี้คงไม่มีอะไรดีไปกว่าการชวนกันลงแขกเก็บเกี่ยวรวงข้าวสีทอง ผลิตผลที่ประคบประหงมกันมาร่วมปี
แสงอาทิตย์ที่แผดแรงขึ้นเรื่อย ๆ ค่อย ๆ เคลื่อนมาอยู่กลางศีรษะบ่งบอกว่าเป็นเวลาแห่งการพักรับประทานอาหาร และเสพความร่มเย็นใต้ต้นตาลที่ขึ้นอยู่เป็นแนวตามคันนา ก่อนจะถึงเวลาเอาหลังสู้ฟ้า เอาหน้าสู้ดินกันต่อไป กับข้าวหลายชนิดวางเรียงอยู่ในปิ่นโตท่ามกลางวงล้อมของคนนับสิบ เสียงหัวเราะครื้นเครงดังมาไม่ขาดระยะสลับกับเสียงช้อนกระทบปิ่นโตดูน่าฟัง ของว่างตบท้ายคือลูกตาลอ่อนสด ๆ รสชาติหอมหวาน จนเมื่อเงาต้นตาลเริ่มทอดไปทางทิศตะวันออกจึงเริ่มเคลื่อนขบวนลงแขกเก็บเกี่ยวรวงข้าวสีทองกันต่อไป
ฉันลืมตาตื่นขึ้นมาช้า ๆ เสียงเพลงลงแขกยังคงก้องอยู่ในโสตประสาทราวกับไม่อยากให้มันดับสิ้น สูญหาย หรือมลายไปกับกาลเวลา พลันนั้นเสียงเพลงสากลของนักร้องแดนโสมชื่อดังแห่งยุคก็กลับเข้ามาแทนที่ดังเช่นตอนแรกที่ยังไม่ได้หลับตาพริ้มนึกถึงภาพแห่งอดีต เครื่องเล่นวีซีดีอันทันสมัยยังคงทำหน้าที่ของมันอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง เสียงทุ้มห้าวร้องคลอไปตามเพลงช้า ๆ อย่างกับจะทำหน้าที่เป็นคอรัสที่ดี อากาศที่ร้อนอบอ้าวทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักกว่าที่เคย เด็กชายวัยสิบขวบส่งเสียงดีใจเมื่อสามารถเอาชนะคู่ต่อสู้แห่งยุคไอทีบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ได้สำเร็จ อีกมุมหนึ่งของบ้าน หนุ่มน้อยวัยย่างสิบหกกำลังไล่นิ้วไปบนเส้นสายของเครื่องดนตรีที่เรียกกันว่า กีตาร์ ตามเสียงจังหวะดนตรีของนักร้องแดนโสม ก่อให้เกิดท่วงทำนองแปลกใหม่ต่างจากเพลงลงแขกเกี่ยวข้าวมากมายนัก
ภาพในอดีตยังคงตรึงตราอยู่ในใจมาจนถึงปัจจุบัน รอยยิ้มจาง ๆ ผุดพรายขึ้นบนใบหน้าของฉันทุกครั้งที่ได้นึกถึง เมื่อย่างเข้าฤดูเก็บเกี่ยวฉันชอบวิ่งตามพ่อกับแม่ไปที่ท้องนา เพื่อดูท่านและคนในหมู่บ้านเดียวกันอีกหลายคนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นกระดูกสันหลังของชาติร่วมลงแขกเกี่ยวข้าว เสียงเพลงที่ช่วยกันขับร้องทำให้เด็กตัวน้อย ๆ อย่างฉันและเพื่อนอีกสองสามคนอดไม่ได้ที่จะกระโดดโลดเต้นไปตามจังหวะ บางคราก็ปรบมือประสานท่วงทำนองไปกับบทเพลงแห่งท้องทุ่งฟังไพเราะไปตามประสาเด็ก ๆ
ฉันแหงนหน้าขึ้นมองนาฬิกาที่แขวนอยู่ตรงฝาผนัง เที่ยงกว่าแล้ว ลูก ๆ ของฉันคงจะหิว ฉันเดินเข้าครัวพร้อมกับแกะถุงกับข้าวสำเร็จรูปที่ซื้อมาเทใส่ชาม ด้วยงานที่รัดตัวทำให้ไม่มีเวลาแม้แต่จะทำกับข้าว ฉันเรียกลูกชายทั้งสองมาทานข้าว ดูเหมือนว่าเกมส์คอมพิวเตอร์กับกีตาร์ราคาแสนแพงจะดึงดูดใจมากกว่ากับข้าวตรงหน้าฉันมากมายนัก จนฉันส่งเสียงเรียกเป็นครั้งที่สองพวกเขาถึงได้ลุกขึ้นมาอย่างช้า ๆ และดูเบื่อหน่ายอยู่เต็มกำลัง ลูกชายคนเล็กของฉันตักข้าวเข้าปากอย่างขอไปทีก่อนจะวางช้อนลงและวิ่งปรู๊ดไปยังหน้าจอคอมพิวเตอร์ดังเดิม ฉันมองข้าวในจานที่เหลืออีกบานอย่างจนใจ ผิดเองที่ไม่เคยบอกเขาว่าข้าวแต่ละเม็ดได้มาอย่างยากเย็นเพียงใด และผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติต้องเสียหยาดเหงื่อแรงกายไปมากแค่ไหน ทั้งที่บรรพบุรุษของพวกเขาก็เป็นชาวนา เอาหลังสู้ฟ้า เอาหน้าสู้ดินกันแทบทั้งสิ้น ส่วนลูกชายคนโตก็ไม่ต่างอะไรกับคนเล็กนัก รายนั้นลุกจากโต๊ะไปสนใจกับกีตาร์ตัวโปรดของเขาต่อ ทั้งที่ข้าวในจานยังเหลืออีกเยอะนัก คงถึงเวลาแล้วที่ฉันจะสอนให้พวกเขาได้รู้จักกับชาวนา รู้คุณค่าของเมล็ดข้าว แม้ว่าฉันเองจะไม่ได้ทำนา แต่อย่างไรซะบรรพบุรุษของฉันก็เป็นชาวนา และฉันเองก็ยังต้องอาศัยชาวนาในการยังชีพและยืนหยัดในโลกใบนี้ต่อไป
การทำนาโดยปกติจะทำกันปีละสองครั้ง ถ้าเป็นการทำตามฤดูเรียกกันว่าการทำนาปี ส่วนการทำนานอกฤดูเรียกกันว่าการทำนาปรัง ซึ่งในการปลูกข้าวนั้นก็จะมีวิธีที่แตกต่างกันออกไปตามลักษณะความเหมาะสมของพื้นที่ โดยถ้าเป็นพื้นที่ลุ่ม น้ำท่วมขัง ชาวบ้านก็จะใช้วิธีการทำนาดำ ถ้าพื้นที่มีน้ำน้อยไม่สามารถทำการปักดำได้ก็จะใช้วิธีการทำนาหว่านแทน เมื่อเมล็ดข้าวออกรวงและเจริญเติบโตพร้อมเก็บเกี่ยวก็จะทำการเก็บเกี่ยวด้วยเคียว ซึ่งใช้เวลานานโขอยู่กว่าจะเก็บเกี่ยวได้จนหมด และนี่เองจึงเป็นที่มาของประเพณีการลงแขกเกี่ยวข้าว โดยชาวบ้านจะช่วยกันเก็บเกี่ยวผลผลิตของกันและกันเพื่อให้เก็บเกี่ยวได้ทันเวลา ค่าตอบแทนที่ได้คืออาหารหนึ่งมื้อพร้อมกับผู้ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวให้กับผืนนาของตนในครั้งต่อไป
สมัยก่อน สัตว์สี่เท้าที่ใคร ๆ ให้คำนิยามว่า ไม่ฉลาด เป็นสัตว์ที่มีบทบาทต่อการทำนามากมายนัก การไถคราดก่อนการหว่านเมล็ดพันธุ์ต้องอาศัยกระบือช่วยในการลากคันไถ ครั้นถึงขั้นตอนของการลำเลียงฟ่อนข้าวที่เก็บเกี่ยวเสร็จ กระบือก็ยังมีหน้าที่ในการลาก เลื่อน ซึ่งเป็นพาหนะในการบรรทุกให้เคลื่อนที่ไปได้ แต่ถ้าเป็นสมัยปัจจุบันก็อาศัยสิ่งที่เรียกกันว่า ควายเหล็ก หรือรถไถนาเป็นเครื่องมือในการไถคราดแทน ซึ่งทำให้สะดวกรวดเร็วและลดการใช้แรงงานจากสัตว์ได้มากขึ้น สำหรับขั้นตอนในการเก็บเกี่ยวในปัจจุบันก็จะอาศัยรถตัดข้าวแทน ซึ่งสามารถเก็บเกี่ยวได้รวดเร็ว ไม่ต้องออกแรงมาก แต่นั่นก็หมายถึงว่าค่าใช้จ่ายในการเก็บเกี่ยวก็ย่อมจะสูงขึ้นด้วยเป็นเงาตามตัว
หลังจากการเก็บเกี่ยวก็ถึงเวลาของการนวดข้าวเพื่อให้ได้ข้าวออกมาเป็นเมล็ด ชาวนาจะใช้เท้าในการนวดข้าวและนวดในบริเวณลานนวดเพื่อให้เมล็ดข้าวแยกออกจากรวง จากนั้นก็นำไปสีในโรงสี ได้เป็นเมล็ดข้าวสารออกมาพร้อมที่จะนำไปบริโภคต่อไป
เรื่องเล่าในอดีตของฉันจบลง พร้อมกับหันหน้าไปมองลูกชายสองคนที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ อย่างตั้งใจ ดูเหมือนว่ามนต์เสน่ห์แห่งท้องทุ่งจะสะกดให้เด็กทั้งสองหลงใหลไปกับมันได้ไม่น้อย ฉันก็หวังแต่เพียงว่าลูกชายทั้งสองของฉันและทุกคนบนโลกที่ยังบริโภคข้าวเป็นอาหาร จะได้รู้จักคุณค่าและเห็นความสำคัญของเมล็ดข้าวที่แลกมาด้วยหยาดเหงื่อของผู้เป็นกระดูกสันหลังของชาติ ผู้ที่มีหลังไว้สู้ฟ้า และมีหน้าไว้สู้ดิน มากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่
ข้าวทุกจาน อาหารทุกอย่าง อย่ากินทิ้งขว้าง เป็นของมีค่า ผู้คนอดอยาก มีมากนักหนา สงสารบรรดา เด็กตาดำๆ
เสียงท่องประสานบทขอบคุณชาวนาและเมล็ดข้าวของเด็กชายสองคนจบลงพร้อมกัน ก่อนจะลงมือรับประทานอาหาร พวกเขาลุกขึ้นไปสนใจกับกีตาร์ตัวโปรดและเกมส์คอมพิวเตอร์สุดไฮเทคต่อเมื่อกินเสร็จ ฉันยิ้มอย่างยินดีเมื่อจานข้าวของเด็กทั้งสองไม่เหลือร่องรอยของเมล็ดข้าวไว้เลยสักนิด
................................................
Create Date : 04 เมษายน 2551
Last Update : 9 เมษายน 2551 2:00:54 น.
5 comments
Counter : 259 Pageviews.
Share
Tweet
กินข้าวไม่หมด หน้าเป็นสิวด้วยนะเออ
โดย:
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:0:13:45 น.
สวัสดีค่า..
ขอโทษที่แวะมาทักทายช้า เนื่องจาก
นิสัยเสีย เลยดดนส่งไปอบรมซะหลายวัน 55
โรคมะเร็งตอนนี้ถ้ามีประวัติทางกรรมพันธุ์เป็น เช่น มีแม่เป็นมะเร็งปากมดลูก ลูกก็มีโอกาสเป็นได้ค่ะ แต่ก็ไม่ใช่ทุกรายเสมอไป ทั้งนี้ขึ้นอยู่กะร่างกาย สุขนิสัย การกินอาหาร การใช้ยา เช่นยาพวกฮอร์โมนต่างๆ ก็ไปกระตุ้นให้เกิดได้ ดังนั้นถ้ามีคนในครอบครัวเราเป็น (ญาติสายตรงนะ อ้อมๆไม่เอา)
ก็มีโอกาสได้ค่ะ
คนที่ผมร่วงบ่อยๆนี่ก็ไม่ใช่มะเร็งเสมอไปนะคะ
ถ้าผมร่วงมากกว่า 100 เส้นภายใน 1 วัน หรือผมที่ขึ้นมาใหม่มีลักษณะเล็กบางลงกว่าเดิม หรือร่วงเป็นหย่อมเฉพาะบางบริเวณ นั่นก็นับได้ว่ามีภาวะผมร่วงมากผิดปกติแล้ว แต่หากเส้นผมหลุดร่วงและแปรงผม หรือสระผมเพียงวันละ 50-100 เส้น ก็ไม่จำเป็นต้องตกอกตกใจไปนะคะ เพราะนั่นเป็นอาการหลุดร่วงของเส้นผมที่เป็นปกติ
สาเหตุของอาการผมร่วง
ส่วนสาเหตุของอาการผมร่วงนั้นก็เกิดจากการที่เส้นผมของเราเกิดหยุดเติบโตอย่างกะทันหัน จึงหลุดร่วงออกมามากเกินกว่าปกติ ซึ่งสาเหตุหลักๆ ของอาการผมร่วงก็ได้แก่
+ การใช้เครื่องสำอางและการดูแลผมไม่ถูกวิธี เช่น การใช้สารเคมีกับเส้นผมมากเกินไป ทั้งการย้อมผม โกรกผม กัดสีผม ยืดผม หรือดัดผม ซึ่งจะทำให้เส้นผมอ่อนแอและแตกหักง่าย นอกจากนี้การรวบผมให้ตึงแน่นตลอดเวลา เช่น การผูกหางม้า หรือผมเปีย ก็อาจเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เส้นผมหลุดร่วงได้ง่ายเช่นกัน
+ การแปรงผมที่บ่อยจนเกินไป ก็สามารถทำลายเส้นผมให้แตกหักได้ โดยเฉพาะเมื่อผมเปียก ซึ่งจะเปราะบางกว่าเวลาที่ผมแห้ง ดังนั้น การเช็ดถูเส้นผมแรงๆ ด้วยผ้าขนหนู หรือแปรงผมขณะผมเปียกจึงสามารถทำลายสุขภาพเส้นผมได้ง่ายมากขึ้น
+ ผมร่วงจากพันธุกรรม นับเป็นสาเหตุที่พบได้มากที่สุด และสามารถมีอาการผมร่วงได้ตั้งแต่วัยรุ่น ทั้งยังรักษาให้หายขาดได้ยาก จึงควรเข้ารับการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะดีที่สุด
+ ผมร่วงจากความเครียด มักจะร่วงเป็นหย่อมๆ แต่เมื่อหายเครียดแล้วก็สามารถหายไปได้เอง
+ ผมร่วงจากความเจ็บป่วยและโรคบางชนิด เช่น โรคไทรอยด์ หรือการขาดสารอาหารบางประเภท โดยเฉพาะโปรตีน และธาตุเหล็ก ที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม
+ ผมร่วงจากการใช้ยาบางชนิด เช่น ยารักษาโรคไขข้อ ยารักษาอาการซึมเศร้า ยาสำหรับโรคหัวใจ และความดันโลหิตสูง ยาคุมกำเนิดบางชนิด รวมถึงได้รับวิตามินเอมากเกินกว่าความจำเป็นของร่างกายด้วย
+ ผมร่วงจากเชื้อรา ซึ่งจะทำให้หนังศีรษะเป็นขุยลอก อักเสบจนเส้นผมหลุดร่วง และยังเป็นอาการที่สามารถติดต่อได้ง่าย จึงต้องรีบทำการรักษาให้หายขาดอย่างทันท่วงที
ยังไงก็ลองๆสังเกตุดูนะคะ ว่าผมร่วงแบบไหน
เพราะของพี่ก็ร่วงเหมือนกัน 555
โดย:
โยเกิตมะนาว
วันที่: 5 เมษายน 2551 เวลา:10:01:35 น.
โดย:
พยัคฆ์ร้ายแห่งคลองบางหลวง
วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:1:07:37 น.
แวะมาราตรีสวัสดิ์
ขอรับ
โดย:
คนสาธารณะ
วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:3:20:10 น.
หวัดดีวันหยุดค่ะ
ดีใจจังที่แม่น้องไม่เป็นอะไร
ยังไงก็แวะมาทักทาย ถามเรื่องได้ที่บล็อคนะคะ
อาจจะไม่มีสาระไปนิด
แต่ถ้าอยากได้สาระ ก็จะหาให้ อิอิ
โดย:
โยเกิตมะนาว
วันที่: 6 เมษายน 2551 เวลา:11:02:18 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
noiiwaran
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [
?
]
วัน ๆ ก็ไม่ทำอะไร นั่งเขียน นั่งอ่าน นั่งเล่น เรื่อยเปื่อย (อันนี้เค้าเรียกว่าทำใช่ป่าวหว่า)
: Online จากทั้งหมด คน
Friends' blogs
noiiwaran
ตัว(Z)
ป้ามะลิกับลุงมะระ
โยเกิตมะนาว
ไกลนั้น
ฟองฟาง_FONGFANG
To be Dakanda
namit
สาวไกด์ใจซื่อ
ป้ามด
bee boa
iamsocute
เคมีรามคำแหง
YraY_Tong
สร้อยหมาก
เปิงคุง
ดนยา
Webmaster - BlogGang
[Add noiiwaran's blog to your web]
Links
สำนักพิมพ์แจ่มใส
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.