Group Blog |
ไปตามหมอนัด เมื่อวาน ถึงกำหนดหมอนัดตามปกติ โชคดีหน่อยที่เมื่อวานฝนไม่ตก รถก็ไม่ติด ไปถึงเกือบจะตรงเวลายื่นบัตร ยื่นบัตรนัดให้เจ้าหน้าที่ไป ก็ได้คิวตรวจมาเรียบร้อย รู้สึกว่าวันนี้คนไข้เยอะมากกว่าปกติ คิดเอาเองว่าอาจจะเป็นเพราะว่าเป็นวันศุกร์ คนเลยมารับยาหรือมาตรวจกันเยอะ... ด้วยความที่มาเป็นประจำ เลยทำให้รู้ขั้นตอน และวิธีการในการรอตรวจ พอได้บัตรคิว ก็ไปชั่งน้ำหนักและวัดความดัน แล้วมารอเรียกชื่อ เพื่อรับคิวพบหมอต่อไป ถ้าใครที่เพิ่งเคยมา ก็คงไม่รู้ว่าต้องทำอะไรยังไง เพราะไม่เห็นเจ้าหน้าที่คอยบอกเลย เป็นหน้าที่ของญาติคนไข้ ที่ต้องคอยสอบถามกันไป เรามานั่งรอเรียกชื่อหน้าห้อง ที่จะรับคิวพบหมอ คอยฟังว่าเจ้าหน้าที่เรียกถึงคิวที่เท่าไหร่แล้ว ซึ่งส่วนนี้จะเร็วหน่อย รอแค่ห้องทะเบียนเอาทะเบียนคนไข้มาให้ แล้วแจกคิวเพื่อพบหมอตามนัด เจ้าหน้าที่ที่ทำหน้าที่เรียกคิววันนี้ อายุค่อนข้างเยอะแล้ว แต่ยังทำงานแข็งขันมาก เห็นแกมาหลายปี แกยังแข็งแรงและเรียกชื่อคนไข้ได้ชัดเจนอยู่เลย คนไข้ถูกเรียกเข้าไปทีละ 10-20 คน แล้วจะมีเจ้าหน้าที่ที่คอยให้คิวหมอ เรียกไปรับคิวทีละคน ระหว่างที่ไปรับคิว ก็จะถามว่า เป็นคนไข้มาเองหรือญาติมารับยาแทน สูบบุหรี่ ดื่มเหล้าหรือไม่ และก็จะเก็บเอากระดาษที่วัดความดันไปแนบกับทะเบียนประวัติด้วย ในส่วนนี้ถ้าคนไหนยังไม่ได้วัดความดันด้านนอก ก็ต้องไปวัดความดันแล้วค่อยกลับมาใหม่.... เจ้าหน้าที่จะแจกคิวเป็นพลาสติกที่สลักตัวเลขไว้...(มาคราวก่อนยังเป็นกระดาษอยู่เลย) ซึ่งตัวเลข จะเป็นตัวเลขห้องที่ต้องไปพบหมอ ไปตามนัดครั้งนี้ โชคไม่ค่อยดี หมอประจำตัวไปราชการ (อีกแล้ว) เจ้าหน้าที่ก็เลยให้พบหมอคนอื่นแทน แต่ได้ยินเจ้าหน้าที่เรียก อาจารย์หมอ... เราก็ไปนั่งรอหน้าห้องตามคิวพลาสติก ดูชื่อหมอหน้าห้อง เป็นหมอผู้ชาย ระหว่างนี้ก็รอทะเบียนคนไข้ จากห้องที่ไปรับคิวพลาสติกขึ้นมา ที่นี่จะมีห้องตรวจอยู่ สิบกว่าห้อง และมีเจ้าหน้าที่หน้าห้อง 1 คน ต่อห้องตรวจ 3 ห้อง เจ้าหน้าที่จะจดชื่อคนไข้ไว้ในกระดาษตามห้องที่เขียนไว้ แล้วเอาทะเบียนเข้าไปในห้องตรวจ แล้วก็จะคอยเรียกชื่อตามลำดับที่จดไว้ ปกติถ้าได้ตรวจกับหมอประจำ ห้องตรวจเราจะอยู่ลำดับแรกๆ คนไข้ก็พอประมาณนะ แต่เจ้าหน้าที่เค้าจะจัดการค่อนข้างดี คือเค้าจะเรียกคนไข้ที่รอตรวจ 4 คน ให้นั่งรอที่เก้าอี้ 4 แถวหน้าสุด จะมีลำดับ 1-4 ติดไว้ที่พนักเก้าอี้ แล้วเค้าจะบอกว่า ถ้าคนในห้องออกมา ให้คนต่อไปเข้าไปในห้องได้เลย ทำให้การตรวจไม่ใช้เวลามาก เพราะปกติคนไข้แต่ละคนจะใช้เวลากับหมอไม่เกิน 10 นาที แต่คราวนี้....อาจจะเป็นเพราะคนไข้เยอะกว่าปกติด้วย แต่ส่วนหนึ่งก็มาจากเจ้าหน้าที่ด้วย ไม่เรียกคนไข้ให้นั่งตามลำดับ ทำงานช้า ไม่บอกว่าถ้าคนข้างในออกมาให้คนต่อไปเข้าไปได้เลย จนคนไข้+ญาติ ของห้องตรวจ 3 ห้องนี้ เยอะจนที่นั่งเต็ม ต้องยืนออกันอยู่แถวนั้น เราก็รอ จนหงุดหงิด (น่าจะเพราะหิว) นั่งรอจนไม่แน่ใจว่าตกหล่นชื่อไปรึเปล่า เลยเดินไปดูที่ใบรายชือ ปรากฎว่าก็มีชื่ออยู่ ที่หงุดหงิดเพราะเห็นการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้ว คือเค้ารับมือกับคนไข้ไม่ไหวอ่ะ และทำงานช้าด้วย เห็นดูรายชื่อแต่ก็ไม่เรียกให้คนไข้นั่งตามลำดับคิว รอจนคิดว่าจะแจ้งหมอซะหน่อย ว่าเจ้าหน้าที่เค้าเอาไม่อยู่ น่าจะหาคนช่วยหน่อย ห้องตรวจอื่นเค้าเหลือคนไข้ไม่กี่คนแล้ว 3 ห้องนี้ คนไข้ยังยืนออ กันอยู่เลย จนถึงคิวตรวจ คุยกับหมอ 2-3 คำ เห็นหมอสาละวนกับเครื่องคอมพ์ ก็เลยไม่บอกเรื่องเจ้าหน้าที่ดีกว่า เพราะหมอก็น่าจะยังไม่คุ้นกับระบบใหม่ (รึเปล่าไม่แน่ใจนะ แต่มาคราวก่อนไม่เห็นหมอต้อง คลิกอะไรเยอะแยะแบบนี้) แล้วก็ไม่ได้เล่าอาการให้หมอฟังอย่างที่ตั้งใจด้วย 1.ไม่ใช่หมอประจำตัว และ 2.เห็นจำนวนคนไข้ที่รออยู่ข้างนอกแล้ว เลยบอกหมอไปว่า ปกติดี ตรวจเสร็จ ก็มาจ่ายเงินและรอรับยา ซึ่งก็ใช้เวลาไม่นานมาก แต่เบ็ดเสร็จแล้ว มาถึง รพ.ตอน 9 โมง รับยาเสร็จก็เที่ยงพอดี จากที่มองๆ ดู มีคนไข้ที่ อยู่ในช่วงวัยทำงานมากขึ้น ดูมีคนแต่งตัวดีมากขึ้น และที่มากขึ้นกว่าส่วนอื่นๆ คือ คนแก่ ที่เค้าบอกว่า....สังคมไทยจะเข้าสู่ยุคคนชรา น่าจะจริง เพราะวันนี้เห็นคนไข้ส่วนใหญ่เป็นคนแก่ แล้วก็มีคนไข้ที่ใช้รถเข็นมากขึ้นด้วย เนื่องจากเป็น รพ.รัฐ เจ้าหน้าที่ที่คอยบริการรถเข็นก็ไม่เพียงพอ ส่วนใหญ่จะเป็นญาติที่เข็นกันเอง แล้วมีคนไข้คนนึงอายุมากแล้ว นั่งรถเข็นมา ส่วนคนเข็นก็อายุไม่ต่างจากคนนั่งซักเท่าไหร่ อาจจะเป็นสามี ภรรยา หรือเป็น พี่ น้อง ก็ไม่อาจจะคาดเดา แต่เห็นแล้วก็ให้หดหู่ใจไม่น้อย ถ้าจะมีอาชีพที่เป็นที่ต้องการของตลาดมากที่สุด เราว่าอาชีพ หมอ ต้องเป็นหนึ่งในนั้น เพราะปัจจุบันนี้ คนเริ่มยอมรับและมาหาหมอกันมากขึ้น ในอนาคตไม่กี่ปีข้างหน้านี้ อาชีพ หมอ ต้องเป็นอาชีพที่ทำรายได้ได้มากอย่างแน่นอน แต่การจะเป็นหมอทางนี้ ก็ใช่ว่าเรียนๆ ให้จบเพื่อให้ได้ใบปริญญา หรือใบประกาศมาการันตี ว่ารักษาคนไข้ได้ แต่เราว่าหมอทางนี้ ต้องมีจิตใจที่มีเมตตามากๆ ถึงจะเข้าใจความรู้สึกของผู้ป่วยได้ นอกจากจรรยาบรรณของความเป็นหมอที่ปกติ หมอทุกคนควรมีอยู่แล้ว แล้วเราว่า ถ้าคนไข้มีกำลังทรัพย์มากพอ การไปหาหมอที่ รพ.เอกชน ก็เป็นทางเลือกที่ดีกว่า เดี๋ยวนี้การไปหาหมอจิตเวช ไม่ใช่เรื่องน่าอายอีกต่อไปแล้ว เห็นจากการทำงานของเจ้าหน้าที่แล้ว ถึงจะไม่ได้บริการอะไรมาก แต่ก็น่าเหนื่อยเอาเรื่องทีเดียว ด้วยเพราะจำนวนคนไข้ที่มากมาย และต้องตอบคำถามให้กับทั้งผู้ป่วยที่มาเอง และญาติผู้ป่วยสารพัดรูปแบบอีก น่าเห็นใจมากๆ และอีกอย่าง เจ้าหน้าที่ที่นี่ หลายท่านอายุมากแล้ว แต่ก็ยังทำงานด้วยความกระฉับกระเฉง และคล่องแคล่ว จนน่าทึ่ง อาจจะเป็นเพราะเรารักษามาหลายปี มากี่ครั้งก็เห็นแต่เจ้าหน้าที่คนเดิมๆ อาจจะมีบางคนที่เปลี่ยนหน้าที่ไปบ้างแต่ก็ยังอยู่ในส่วนงานใกล้เคียงกัน แม้บางท่านจะเป็นแค่คนเดินทะเบียนประวัติ แต่ก็ยังเห็นทำงานอย่างแข็งขันตลอด เขียนมาซะยืดยาว แค่อยากเล่าประสบการณ์การไป รพ.ให้ฟัง โดยเฉพาะการไป รพ.รัฐ ซึ่งการได้รับบริการมันเทียบไม่ได้กับการไป รพ.เอกชน อยู่แล้ว เจ้าหน้าที่เค้ามีหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบมากมาย อาจทำให้คนไข้+ญาติคนไข้ ไม่ได้รับความสะดวก หรือโดนหงุดหงิดใส่ไปบ้าง ก็ไม่อยากให้ไปถือสา ส่วนคนไข้+ญาติคนไข้ ก็ควรจะต้องรู้ด้วยว่า ขั้นตอน การเข้าไปรับการรักษาเป็นอย่างไร แน่นอน การไปครั้งแรก คงไม่มีใครรู้หรอก แต่เมื่อมีครั้งต่อไป ก็ควรจะรู้ว่าควรทำอะไร ก่อนหลัง เพื่อลดงานของเจ้าหน้าที่ และเพื่อไม่ให้เกิดความหงุดหงิดของตัวเองด้วย ไป รพ. คราวหน้า จะได้ไม่ต้องใช้เวลาเกินจำเป็นเนาะ และหวังว่า นัดหมอคราวหน้า คงจะได้เจอหมอประจำซะที มีเรื่องจะฟ้อง เหมือนอาการมันจะมาอีกละ ปล.ข้อความข้างต้น หากมีข้อผิดพลาดที่ผู้เขียนรู้ไม่จริงก็ต้องขอโทษผู้ที่เกี่ยวข้องด้วยค่ะ
 แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณโดย: สมาชิกหมายเลข 4507140
 วันที่: 29 เมษายน 2561 เวลา:12:49:14 น. |
i_mafuang
 ฝากข้อความหลังไมค์ Rss Feed  Smember ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?] ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย Friends Blog
Link MY VIP Friends      |
||||||||||||
