มีนาคม 2561

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
29
30
31
 
ความทะนงตน_ระยะสุดท้าย (จบ)


ในที่สุด...ก็มาถึงตอนจบได้ซะที ดองมานานเหลือเกินแล้วววว

นานจนลืมไปแล้วว่าต้องการจะสื่ออะไร ต้องอาศัยกลับไปอ่านหน้าก่อนว่าเขียนทิ้งไว้ถึงตรงไหนแล้ว

เอาล่ะ..เริ่มเลยดีกว่า หลังจากไปดราม่าที่บริษัทนั้น ก็ผ่านไปนานอยู่ ถึงมีอีกบริษัทนึงเรียกให้ไปสัมภาษณ์ แต่บริษัทนี้ตอนสมัคร เริ่มเลือกตำแหน่งพนักงานธรรมดาแล้ว พอไปถึง ก็เหมือนเดิม ทำข้อสอบ ยากพอสมควรเลย แถมข้อสอบช่วงท้ายเป็นภาษาอังกฤษอีก เว้นว่างโล่งๆ เลย

บริษัทนี้ค่อนข้างใหญ่ (อีกแล้ว) หลักๆ ทำเกี่ยวกับอะไรไม่แน่ใจ แต่ฝ่ายบัญชีเค้าดูแลบัญชีให้ร้านอาหารเช่น  S&P และก็มีร้านแบรนด์อื่นๆ อีกหลายร้านเลย ประมาณนี้

แล้วบัญชีเค้าก็แยกชัดเจนเลย ซึ่งบุคคลที่เรียกเรามาสัมภาษณ์ ได้ลองคุยกับเราก่อนว่าเราควรจะไปอยู่ส่วนไหน แล้วก็เรียกหัวหน้าแผนกด้านภาษีมาสัมภาษณ์เรา 

น้องเค้ายังดูอายุไม่เยอะเลย ก็เริ่มถาม ใบกำกับภาษีมีกี่ประเภท สาระสำคัญที่ต้องมีในใบกำกับภาษี เชื่อมั๊ยว่า...ตอบไม่ได้จ้า จนน้องเค้าบอกว่า พี่ต้องเตรียมตัวมามากกว่านี้ แต่เค้าพูดด้วยน้ำเสียงดีนะ ไม่โกรธจ้ะ

เดินกลับออกมาด้วยความรู้สึก ยอมรับ และเห็นด้วยกับที่เค้าบอก

ทุกครั้งที่โดนเรียกสัมภาษณ์ เราไม่เคยเตรียมตัวเลย เรื่องความรู้เกี่ยวกับบัญชี เตรียมตัวในที่นี้คือ อ่านหนังสือ ทบทวนเกี่ยวกับภาษี หรือข้อมูลอะไรต่างๆ นา ๆ ที่ควรจะรู้ เพราะเรารู้สึกว่า เรื่องพวกนี้ พอได้ทำงานจริงๆ มันจะจำได้เอง คือ เหมือนเราได้ทำอะไรทุกวัน มันก็จะจำได้เองประมาณนั้นอ่ะ เลยไม่มีอะไรที่เรียกว่า ทฤษฎี อยู่ในหัวเลย ตอนไปสัมภาษณ์ ซึ่งเป็นความคิดที่ผิดถนัด

แล้วไอ้ความมั่นใจที่พกไปแต่ละครั้ง มันก็ไม่พอ มันต้องพกความรู้ไปด้วย เลยต้องแห้วซะทุกครั้ง

คือ ความรู้น่ะมันพอมีหรอก แต่ทฤษฎีมันไม่แน่นไง มีแต่ความจริงใจล้วนๆเลย....เอ่อ ไม่ใช่แระ

คือ คิดแค่ว่า ขอแค่ได้เข้าไปทำ เพราะทุกอย่างมันต้องเรียนรู้ใหม่หมด และมันเรียนรู้ได้ ไม่มีอะไรที่ยากเกินจะเรียนรู้ แต่องค์กรเค้าก็ไม่ได้คิดแบบนั้นเนาะ

ไอ่ตรงนี้แหละ คือเรา ทะนงตัวไง ว่าเก่ง แต่พอเจอแบบนี้ถึงได้รู้สึกตัวว่าจริงๆ แล้ว เราก็ไม่ได้เก่งมากกว่าใครๆเลย มีอะไรอีกมากมายที่ยังไม่รู้ และก็มีอีกมากมายที่รู้ไม่ถ่องแท้

อย่าเพิ่งหมั่น เราไม่ได้มั่นหน้า หรือยกหางตัวเองขนาดนั้น มันมีเหตุผล เพราะตอนที่ทำงาน เราก็เป็นแขนขาให้หัวหน้ามาตลอด มีปัญหาอะไร ไม่ว่าจะยาก ง่าย ติดต่อกะคนในหรือนอกบริษัท ก็พยายามหาทางแก้ไข จนมันผ่านไปได้ทุกครั้ง ถือคติ จิกแต่จบ จนบางทีผู้ร่วมงานก็พาลจะเกลียดขี้หน้าเอา เพราะไปตามเอกสารเค้ายิกๆ ถ้าใครทำงานแผนกนี้จะรู้ ต้องไฝว้กะคนอื่นเค้าไปทั่ว เพื่อให้ได้มาซึ่งข้อมูลและเอกสาร

แต่มาถึงวันนี้ ก็ได้แต่ปรับตัวกันไป พัฒนากันไป เราว่ามันก็ดีอย่างนะ มันทำให้รู้ตัวว่า เรามีศักยภาพแค่ไหน แล้วยังต้องเรียนรู้อีกมากแค่ไหน









Create Date : 28 มีนาคม 2561
Last Update : 2 เมษายน 2561 18:39:22 น.
Counter : 376 Pageviews.

1 comments
  
แวะมาทักทายจ้าา ^__^ อิอิ sinota ซิโนต้า Ulthera สลายไขมัน SculpSure เซลลูไลท์ ฝ้า กระ Derma Light เลเซอร์กำจัดขน กำจัดขนถาวร รูขุมขนกว้าง ทองคำ ไฮยาลูโรนิค คีเลชั่น Chelation Hifu Pore Hair Removal Laser freckle dark spot cellulite SculpSure Ultherapy กำจัดไขมัน ร้อยไหม adenaa ลบรอยสักคิ้วด้วยเลเซอร์ ลบรอยสักคิ้ว Eyebrow Tattoo Removal เพ้นท์คิ้ว 3 มิติ สักคิ้วถาวร สักคิ้ว 6 มิติ Cover Paint สักไรผม 3D Eyebrow ให้ใจหายใจ สุขภาพ วิธีลดความอ้วน การดูแลสุขภาพ อาหารเพื่อสุขภาพ ออกกำลังกาย สุขภาพผู้หญิง สุขภาพผู้ชาย สุขภาพจิต โรคและการป้องกัน สมุนไพรไทย ขิง น้ำมันมะพร้าว ผู้หญิง ศัลยกรรม ความสวยความงาม แม่ตั้งครรภ์ สุขภาพแม่ตั้งครรภ์ พัฒนาการตั้งครรภ์ 40 สัปดาห์ อาหารสำหรับแม่ตั้งครรภ์ โรคขณะตั้งครรภ์ การคลอด หลังคลอด การออกกำลังกาย ทารกแรกเกิด สุขภาพทารกแรกเกิด ผิวทารกแรกเกิด การพัฒนาการของเด็กแรกเกิด การดูแลทารกแรกเกิด โรคและวัคซีนสำหรับเด็กแรกเกิด เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ อาหารสำหรับทารก เด็กโต สุขภาพเด็ก ผิวเด็ก การพัฒนาการเด็ก การดูแลเด็ก โรคและวัคซีนเด็ก อาหารสำหรับเด็ก การเล่นและการเรียนรู้ ครอบครัว ชีวิตครอบครัว ปัญหาภายในครอบครัว ความเชื่อ คนโบราณ
โดย: สมาชิกหมายเลข 4507140 วันที่: 29 เมษายน 2561 เวลา:13:44:31 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

i_mafuang
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



ผู้หญิงธรรมดาที่ชอบเพ้อเอาถ้วย
MY VIP Friends