|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
โรคที่ป้องกันรักษาได้ด้วยอาหาร
1. เรอบ่อย ดื่มน้ำมันฝรั่งต้มวันละ 3 แก้ว จะช่วยให้ผนังกระเพาะอาหารและกรดในกระเพาะสมดุล
2. ท้องอืดเฟ้อ ใส่ดอกเก๊กฮวยลงไปในน้ำร้อน 2 ช้อนชา ทิ้งไว้ 10 นาที ดื่มวันละ 1-2 ถ้วย หากท้องอืดเฟ้ออันเนื่องมาจากการกินอาหารคาร์โบไฮเดรต (เช่น ขนมปัง พุดดิ้ง) ให้กินแตงกวาดองในมื้ออาหาร
3. ความดันโลหิตต่ำ หากความดันโลหิตต่ำ หลังตื่นนอนให้ดื่มน้ำหนึ่งแก้วจะช่วยให้ความดันโลหิตสูงขึ้น (อาจคงอยู่ได้เพียงแค่ 2 ชั่วโมง) หากรู้สึกล้า ควรกินผักผลไม้ที่มีวิตามินซี เช่น กีวี มะเขือเทศ ฝรั่ง จะช่วยให้ความดันโลหิตสูงขึ้นและหลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขด้วย เกลือทำให้ความดันโลหิตสูงขึ้น คุณจึงควรเติมเกลือเล็กน้อยในผัก โดยเฉพาะผู้ที่มักหน้ามืดวิงเวียนเวลายืนหรือตื่นนอน
4. ความดันโลหิตสูง อาหารที่มีโพแทสเซียมสูงจะลดน้ำในเลือดและทำให้ความดันโลหิตลดลง อาหารที่มีโพแทสเซียมสูง เช่น กล้วย แตงกวา ทดสอบว่าคุณมีปฏิกิริยาไวกับเกลือหรือเปล่าโดยการไม่กินเกลือหนึ่งสัปดาห์ แล้วดูว่าความดันโลหิตลดต่ำลงหรือไม่ หากมีความดันโลหิตสูงที่เกิดจากความอ่อนเพลียให้กินอาหารที่มีกรดอะมิโน Tryptophan จะช่วยให้ความดันโลหิตลดลง เพราะความเครียดจะสลายกรดอะมิโนตัวนี้ อาหารที่มีกรดอะมิโน Tryptophan คือมันฝรั่ง ถั่ว ข้าวโอ๊ต เนย และเพื่อให้การดูดซึมกรดอะมิโนตัวนี้ได้ดีขึ้น อาหารมื้อค่ำจึงควรกินคาร์โบไฮเดรต เช่น ข้าว ผลิตภัณฑ์ธัญพืชไม่ขัดสี และทานเนื้อสัตว์เพียงเล็กน้อย (ไม่ทานไส้กรอก) วิตามินอีจะช่วยปกป้องเส้นเลือดไม่ให้แข็งตัว วิตามินอีมีมากในน้ำมัน โดยเฉพาะน้ำมันงาจะให้ผลดีที่สุดคือเหยาะน้ำมันงาในสลัด
5. ซึมเศร้า จากการศึกษาพบว่า คนจีนในไต้หวันเป็โรคซึมเศร้าน้อยมาก ซึ่งน่าจะมาจากอาหารการกิน นั่นคือ การกินข้าว กินผักดิบวันละหนึ่งครั้ง ใช้น้ำมันงา กินเนื้อสัตว์ และไส้กรอกน้อย และมื้อค่ำไม่ทานเนื้อสัตว์
6. นอนไม่หลับ กรดอะมิโน Tryptophan จะช่วยให้หลั่งฮอร์โมนแห่งความสุขซึ่งจะช่วยให้หลับสบาย กินถั่ววันละหนึ่งกำมือ เพราะในถั่วมีไนอาซินสูง ซึ่งมีความสำคัญในการผลิตฮอร์โมนเซโรโทนินที่เป็นฮอร์โมนแห่งความสุข ไม่ทานเนื้อสัตว์หรือไส้กรอกเป็นอาหารค่ำ เพราะอาหารไขมันจะรบกวนระบบประสาทซึ่งจะกระทบกับการนอนหลับ ทางที่ดีที่สุดคือ กินอาหารที่ย่อยง่าย
7. อากาศเปลี่ยนทำให้ปวดศีรษะ ง่วง ฯลฯ หากอากาศเปลี่ยนแล้วส่งผลให้คุณมีอาการปวดศีรษะง่วง ฯลฯ ไม่ควรกินมูสลี่และผลไม้เป็นอาหารเช้า เพราะมันจะทำให้เกิดอาการทางประสาทและอื่นๆ อาหารที่ควรกินคือ โปรตีนและวิตามินบี เช่น แตงกวาดอง ควรกินอาหารเบาๆ เช่น ข้าว ผัก ผลไม้ และปลา
8. PMS ก่อนมีประจำเดือน หากขาดวิตามินบี 6 จะทำให้เกิดอาการซึมเศร้า หิวจัด และเจ็บเต้านม ดังนั้น จึงควรกินอาหารที่มีวิตามินบี 6 เช่น ผลิตภัณฑ์ธัญพืชไม่ขัดสี มันฝรั่ง ผลไม้เปลือกแข็ง ไม่ดื่มน้ำชา กาแฟ และน้ำดำ
9. กระดูกพรุน แคลเซียมช่วยให้กระดูกแข็งแรง แคลเซียมมีมากในนม ซึ่งมีไขมันตามธรรมชาติ บล็อกโคลี่ ผักขม ฟอสฟอรัสในอาหาร เช่น อาหารสำเร็จรูป น้ำดำ ซอฟต์ดริ๊งก์ จะลดการดูดซึมแคลเซียม รวมทั้งมูสลี่และข้าวโอ๊ตก็จะขัดขวางการดูดซึมแคลเซียมเช่นกัน กินโยเกิร์ตวันละ 2 ถ้วย แบคทีเรียในกรดนมจะช่วยในการดูดซึมแคลเซียมได้ดีขึ้น ฟลูโอไรด์จะช่วยกระตุ้นในการสร้างเซลล์กระดูกมีมากในถั่ว ชาเขียว ปลา ดื่มชาเขียวทุกวันเพื่อช่วยในการดูดซึมแคลเซียมเข้าไปในกระดูก วิตามินดีช่วยในการดูดซึมแคลเซียมในร่างกาย มีมากในผลิตภัณฑ์นม และปลา
10. วัยทอง เอสโตรเจนจากพืชผักจะช่วยให้ฮอร์โมนสมดุล จึงควรดื่มน้ำเต้าหู้วันละแก้วหรือกินผลิตภัณฑ์ถั่วเหลือง แบคทีเรียจากกรดนมจะช่วยในการดูดซึมเอสโตรเจนจากอาหาร ดังนั้น จึงควรกินโยเกิร์ตวันละถ้วย
ขอขอบคุณข้อมูลจาก Lisa & Kapook.com
Create Date : 08 ตุลาคม 2551 |
Last Update : 2 เมษายน 2553 12:09:53 น. |
|
0 comments
|
Counter : 496 Pageviews. |
|
|
|
|
|
|
|