ทริปเฉพาะกิจ ตอน ใครๆก็ไปเมลเบิร์น ตอนที่3

ตอนที่ 3

หลังจากตอนที่แล้วได้พูดถึงประสบการณ์ผ่านตม.ของออสเตรเลียไปแล้ว การเดินทางมาเที่ยวออสเตรเลียครั้งนี้ไม่ได้มีความน่าตื่นเต้นหรือหวือหวาแต่ประการใด เหตุผลเพราะ...

1. เที่ยวตาม(ใจ)สั่ง ดังนั้นการเที่ยวของเราจึงค่อนข้างยืดหยุ่น และไม่มีอะไรตายตัว ตื่นมาตอนไหน ก็เที่ยวตอนนั้น ซึ่งเราก็ค่อนข้างพอใจกับวิถีเที่ยวของเราแบบนี้นะคะ อาจจะพลาดสิ่งน่าสนใจไปหลายอย่าง แต่เราก็ยอมรับกับสิ่งที่เราเลือกค่ะ
2. หัวข้อก็ขึ้นอยู่ว่าเป็น "ทริปเฉพาะกิจ" เป็นการมาเยี่ยมเยียนน้อง ดังนั้นเราก็เที่ยวแบบตามใจเราแล้วสะดวกน้องๆด้วย เพราะว่าช่วงบ่าย 3-4 โมง น้องๆต้องเตรียมตัวไปทำงาน จึงไม่สามารถอยู่เที่ยวเล่นกับเราได้ทั้งวันค่ะ

พูดถึงออสเตรเลีย เราจะถึงอยู่ไม่กี่อย่าง เช่น เมืองซิดนีย์ จิงโจ้ โคอาล่า แกะ Opera House ซึ่งเป็นแลนด์มาร์คของออสเตรเลีย เอาจริงๆเราก็นึกออกแค่นี้เหมือนกันค่ะ  มาถึงออสเตรเลียทั้งที ถ้าไม่เห็นจิงโจ้ กับโคอาล่า ก็เหมือนมาไม่ถึง วันนี้เราตัดสินใจจะไปเที่ยวสวนสัตว์ Melbourne Zoo กันค่ะ

MELBOURNE ZOO
จริงๆแล้ว การเที่ยวสวนสัตว์มีบริษัทเอกชนหลายแห่งด้วยกัน ที่ทำสวนสัตว์แบบ Wild Life ซึ่งเราสามารถเข้าถึงและใกล้ชิดกับสัตว์ได้ ราคาถูกแพงแตกต่างกันไป แต่ส่วนใหญ่จะต้องนั่งรถออกไปไกลจากตัวเมืองค่ะ เรามองว่าด้วยระยะเวลา 7 วันที่เรามาเที่ยวเมลเบิร์น ไม่ได้มีเวลามากมายนัก เราจึงเลือกที่จะมาที่นี่ เพราะอยู่ใกล้ตัวเมือง และเดินทางง่าย

การเดินทาง
- Tram ใช้ Tram Route 55 ลงป้าย 25-Melbourne Zoo
- Train ให้นั่งสาย Upfield แล้วลงสถานี Royal Park Station

ราคา
30.8 AUD ต่อคน


ด้านหน้าทางเข้า สำหรับซื้อตั๋วค่ะ วันที่ไปเป็นวันเสาร์ค่ะ เห็นได้ว่าแต่ละครอบครัวพาลูกเล็กเด็กแดงมาเที่ยวค่อนข้างมาก เดินไปทางไหนก็เจอแต่เด็กๆ


ผู้ปกครองที่นี่ จะปล่อยให้เด็กๆเล่นดินเล่นหญ้า ปีนป่ายต้นไม้เล่นตามสบายใจ


รวมภาพเหล่าสัตว์ที่ตามเก็บภาพได้นะคะ

สรุป
- สวนสัตว์มีพื้นที่ค่อนข้างกว้างขวาง แต่ไม่ได้แบ่งโซนสัตว์ซะทีเดียว อยากเดินดูอะไรก็เดินไปเรื่อยๆตามทางจะมีป้ายชี้บอกค่ะ
- ทางสวนสัตว์ให้พื้นที่แก่สัตว์ในกรงอย่างเต็มที่ จำลองสภาพให้สัตว์เหมือนอยู่ป่ามากที่สุด เช่นกรงเสือ 1 กรง ก็จะมีต้นไม้ขึ้นรกครึ้ม เสมือนอยู่ป่า แล้วก็มีเสือเพียงตัวเดียวอาศัยอยู่ในกรงนั้น
- ไม่รู้ว่าเพราะเหตุผลตามข้างต้นรึเปล่า...มันเลยทำให้เรามองหาสัตว์แต่ละชนิดนั้นไม่เจอ ไม่รู้ว่ามันซ่อนตัวด้วย หรือว่าตอนนั้นมันป่วย เค้าเลยเอาออกจากกรง...คือหลายกรงมาก ที่มายืนมองแล้วไม่เห็นเจอสัตว์อะไรเลย เด็กๆยังมาชะเง้อชะแง้มอง แล้วก็บอกแม่ว่ามันอยู่ไหนอ่ะแม่?? นั่นสิ...มันอยู่ไหน??
- โซนที่เป็นสัตว์ทะเล ไฮไลท์จะอยู่ที่แมวน้ำ ที่ว่ายอยู่ในแทงค์ขนาดใหญ่ กับเพนกวินพันธ์ุเล็ก ซึ่งตอนเราเดินดูไม่เห็นเจอมันว่ายน้ำเลย พอเดินออกมา เหมือนโซนที่โชว์เพนกวิน ถึงเจอมันเดินแอบๆอยู่หลังพุ่มไม้เตี้ยๆ ซึ่งเราเลยเข้าใจแล้วว่า ภายในอาคารที่ดูเหมือนอควาเรียม ในใต้น้ำก็จะมีพื้นที่ให้มันว่าย แล้วก็มีพื้นที่บนบกให้มันเดินเล่น แต่ถ้าใครอยากเห็นตัวเป็นๆให้ไปที่ Phillip Island นะคะ หรือไปดูฟรีๆที่ St Kilda Beach ก็ได้
- โดยรวมแล้ว ค่าใช้จ่ายที่เสียไป เราว่ามันไม่ค่อยคุ้มค่าเท่าไหร่ค่ะ เพราะหลายๆกรง เรามองเข้าไปไม่เจอสัตว์เลย แต่ดีตรงที่อยู่ในเมืองเท่านั้นแหละค่ะ

หลังจากเที่ยวเล่นในสวนสัตว์ กว่าจะออกมาเวลาก็ปาไปบ่ายกว่าแล้วค่ะ เลยตัดสินใจว่าไปหาร้านคาเฟ่นั่งพักขาชิวๆ ก่อนที่น้องๆจะไปทำงานกันค่ะ

Max Brenner Chocolate Bar


ช็อกโกแลตคาเฟ่ จำไม่ได้ว่าไปเจอรีวิวที่ไหน แต่มาแล้วรับรองไม่ผิดหวังค่ะ
- Belgium Waffles วาฟเฟิลกรอบๆราดช็อกโกแลตซอส แกล้มด้วยผลไม้ฟรีซเย็นทานคู่ไอศกรีมวนิลา...อากาศหนาวๆ ต้องแก้หนาวด้วยไอศกรีมนี่แหละ (ใช่หรอ?)
- Chocolate Fondue Tower ถือได้ว่าเป็น Signature ของร้านอีกเมนูหนึ่ง เพราะมองไปโต๊ะไหนๆก็สั่ง ช็อกโกแลต2แบบ ดาร์กช็อกและมิลค์ช็อก แล้วแต่จะถูกใจ พร้อมด้วยมาชเมลโลและผลไม้ จิ้ม...จุ่ม แล้วใส่ปาก
- Kangaroo Cup กาแฟคาปูชิโนร้อนๆ พร้อมช็อกโกแลตเพิ่มความหวาน (ซึ่งไม่ได้ช่วยเท่าไหร่ เติมน้ำตาลเท่านั้นแหละ) แต่ความขมของกาแฟก็ช่วยดับเลี่ยนของขนมทั้งหมดได้ดีขึ้นมาก

มีหลายสาขานะ เข้าไปดูไปที่เว็บไซต์เลย
www.maxbrenner.com.au

#LetMeTravel

Create Date : 27 มิถุนายน 2558		1 comments
Last Update : 27 มิถุนายน 2558 21:56:21 น.
Counter : 1173 Pageviews.
Share Tweet