Group Blog
มิถุนายน 2559

 
 
 
2
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
17
20
21
22
23
24
25
26
28
29
30
 
 
All Blog
สรยุทธ ลั่นต้องสู้และพิสูจน์ความจริงต่อไป ชี้ถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อนในความผิดเดิม
สรยุทธ สุทัศนะจินดา ลั่นต้องสู้และพิสูจน์ความจริงต่อไป พร้อมแจงกรณีถูกอัยการสั่งฟ้องคดีปลอมใบคิวโฆษณา บริษัท ไร่ส้ม ชี้เป็นการดำเนินคดีซ้ำซ้อนจากความผิดเดิม

จากกรณีที่สำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) เห็นควรสั่งฟ้อง นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา อดีตผู้ประกาศข่าวชื่อดัง พร้อมพวกอีก 3 คน ฐานปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม กรณีปลอมใบคิวโฆษณา บริษัท ไร่ส้ม จำกัด เพื่อฉ้อโกงค่าโฆษณา สร้างความเสียหายให้ อสมท มูลค่า 138 ล้านบาท ขณะที่ศาลอาญาอนุญาตให้ปล่อยชั่วคราว โดยตีราคาประกันคนละ 3 แสน พร้อมนัดตรวจหลักฐานสอบคำให้การวันที่ 29 สิงหาคม 2559 เวลา 09.00 น.



ล่าสุดในช่วงบ่ายวันนี้ (2 มิถุนายน) นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ก็ได้โพสต์ข้อความลงในอินสตาแกรมส่วนตัว @sorrayuth9111 บอก ก็ต้องสู้และพิสูจน์ความจริงต่อไป พร้อมลงแถลงการณ์ชี้แจงถึงคดีดังกล่าว

โดยระบุว่า...

"ตามที่พนักงานอัยการได้มีคำสั่งฟ้องบริษัท ไร่ส้ม จำกัด นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา, นางสาวมณฑล ธีระเดช และ นางพิชชาภา เอี่ยมสะอาด ความผิดฐานร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ในวันนี้นั้น

กระผม นายสรยุทธ สุทัศนะจินดา ขอชี้แจงว่า

1. คดีนี้พนักงานสอบสวน สน.ห้วยขวาง ได้กล่าวหาผมและบุคคลอื่น ๆ ว่ากระทำผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน ซึ่งข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาทั้งหมดเป็นเรื่องเดียวกันกับคดีของศาลอาญา หมายเลขดำที่ อ.313, อ.342-2558 ในเรื่องทุจริตต่อหน้าที่ หรือกระทำผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ หรือความผิดที่เกี่ยวข้องกันของเจ้าหน้าที่ของรัฐและผู้สนับสนุน ซึ่งตามหลักกฎหมายอาญา การกระทำตามข้อกล่าวหาดังกล่าวหากจะเป็นความผิดก็เป็นการกระทำความผิดเพียงกรรมเดียวแต่ผิดกฎหมายหลายบท ที่ศาลอาญาได้มีคำพิพากษาเป็น คดีอาญาหมายเลขแดงที่ อ.595-596/2559 โดยข้อเท็จจริงตามข้อกล่าวหาของพนักงานสอบสวนล้วนปรากฏอยู่ใน "คำพิพากษาของศาลอาญา" อย่างครบถ้วน

ดังนั้น การมากล่าวหาหรือฟ้องในความผิดฐานร่วมกันฉ้อโกง ร่วมกันปลอมเอกสารสิทธิและใช้หรืออ้างเอกสารสิทธิปลอม และร่วมกันทำให้เสียหาย ทำลาย ทำให้เสื่อมค่าหรือทำให้ไร้ประโยชน์ซึ่งเอกสารของผู้อื่นในประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ผู้อื่นหรือประชาชน แก่ผมและบุคคลอื่น ๆ อีก จึงเป็นการดำเนินคดีกับผมหลายครั้งจากการกระทำครั้งเดียว ซึ่งน่าจะขัดต่อประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 39 (4) และทำให้ผมกับบุคคลอื่น ๆ ได้รับความเดือดร้อนเกินสมควรจากการถูกดำเนินคดีซ้ำซ้อน

2. บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) ผู้กล่าวหา ได้นำเรื่องนี้ไปยื่นฟ้องคดีเองต่อศาลแขวงพระนครเหนือ ตั้งแต่วันที่ 28 กรกฎาคม 2558 เป็นคดีอาญาหมายเลขดำที่ 8134/2558 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการไต่สวนมูลฟ้องว่าศาลจะรับคำฟ้องไว้พิจารณาต่อไปหรือไม่ พนักงานอัยการจึงไม่จำเป็นต้องฟ้องคดีเองอีก และไม่มีประเด็นต้องกังวลเรื่องอายุความอีกต่อไป

3. สำหรับคดีที่ศาลอาญามีคำพิพากษาดังทราบอยู่แล้วนั้น ผมมั่นใจในความบริสุทธิ์ของผม และขอใช้สิทธิ์ตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของผมในศาลสูงต่อไป

4. เป็นที่น่าสงสัยว่า ภาพถ่ายรายงานการสอบสวนคดีอาญาที่ 1596/2550 ประกอบด้วยภาพหลักฐานทางคดี ความเห็นของพนักงานสอบสวน สรุปคำให้การของผม บริษัท ไร่ส้ม จำกัด และพยานในคดี ถูกนำออกไปเผยแพร่โดยสื่อมวลชนโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย และยังมีการแสดงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่ไม่ถูกต้อง ทำให้สาธารณชนเข้าใจว่าเป็นเรื่องใหม่ และชี้นำว่ามีการกระทำความผิดอีก

ที่มา kapook



Create Date : 03 มิถุนายน 2559
Last Update : 3 มิถุนายน 2559 14:04:51 น.
Counter : 771 Pageviews.

0 comments

Mimi-jaiko
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 28 คน [?]