ทำวันที่ 26 ม.ค. 2553
ราคาลดลงจากแรกๆ มากเลยต้องลองดูกันหน่อย


รื้อฟื้นความหลังที่ขมขื่นแล้วขมขื่นสมใจจริงๆ หน้าดีๆ ดันมาเป็นสิวอักเสบบวมแดง และด้วยความที่ไม่เคยเป็นสิวประเภทนี้ เลยคิดว่าไม่เป็นไรมากมั้ง เดี๋ยวหายาทาก็คงหาย สุดท้ายรอยโรคเป็นอยู่นาน อันนี้ยุบอันนี้ขึ้น โอ๊ย..ไรเนี้ย เลยไปหาหมอ แต่ก็ดูจะไม่ทันการ หาเป็นปีๆ ก็ยังเป็น อาการถึงขั้นระบมเจ็บมาก..... เป็นช่วงตกต่ำของชีวิตจริงๆ แล้วจู่ๆ มันก็หาย เอ้อ..อะไรเนี้ย หายแล้วทิ้งหลุมไว้ส่งท้ายซะหลายหลุม แล้วคนที่เคยหน้าเรียบๆ มามีหลุมสิว รับไม่ได้ เครียดไปเลยพี่น้องค้าบ

พอไปหาหมอเรื่องหลุมสิว ตอนนั้นบอกว่าอยากกรอผิว แต่ดันให้ทำไอออนโต ทำไปห้าครั้ง ไม่มีสัญญาณอะไรเกิดขึ้น หยุดไป 1 ปี

แล้วกระแสdermaroller เริ่มเข้ามา หาข้อมูลอยู่พักใหญ่ ตัดสินใจทำ ลงคอร์ดสไปหนึ่งคอร์ส 5 ครั้ง ทำที่รพ. เพราะการทำแบบนี้เสี่ยงติดเชื้อมาก จึงเลือกรพ.ดีกว่า ตอนทำทรมาน ทำเสร็จก็ระบม หน้าโชกเลือด ผลที่ได้ก็ดีขึ้นแต่ไม่คุ้มกับที่เจ็บและต้องทนอยู่กับหน้าช้ำเลือดไปหลายวันเล้ย เวลาจะไปทำแต่ละครั้งต้องทำใจ นึกย้อนกลับไปแล้วไม่อยากเชื่อตัวเองเหมือนกันว่าทนทำไปได้

ตอนนั้นคิดแต่ว่าหลุมเพิ่งเป็น ถ้าทิ้งไว้นานผังผืดอาจมากและยากในการรักษา เลยไปทำดีกว่า

พอหยุดทำdermarollerมา 1 ปี ได้ ระหว่างนั้นทาครีมที่ดูแลเรื่องคอลลาเจนมาเรื่อยๆ(ไทราเจน) ก็ดีนะ และกรอผิวด้วยเกร็ดอัญมณี 5 ครั้ง แล้วกระแสเลเซอร์ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้น แต่ก็ยังหาข้อมูลไปเรื่อยๆ เพราะราคาสูง เลยไปลองทำ dermar point มันก็คือ dermaroller นั่นแหละแต่ว่าทำเฉพาะที่และใช้เครื่องไม่ใช่ใช้แรงมือของหมออย่างdermaroller ผลที่ได้ไม่ปลื้มเลย เป็นจ้ำๆ นานมากกว่าจะหาย และผลก็ไม่ได้อะไรเล้ย ผลของการลองเป็นไงล่ะ เข็ดสิพี่น้องค้าบ ไม่เอาแล้ว

จากนั้นก็ไปทำ fine sacn ที่เกษมราษฎร์ เขาจะทายาชาทิ้งไว้เหมือนการทำdermaroller ทาทิ้งไว้45นาทีแล้วเช็ดออก จากนั้นก็ทำการยิง แต่ทำไปแค่ 2 นาทีก็เจ็บแล้ว ที่เหลือทนเอา คิดดู เจ็บมาก ตบท้ายด้วยการทำsubcision ต่อเลย ตอนนั้นปวดร้าวมาก เพราะยาชาไม่ได้ช่วยชีวิตอีกต่อไป เสร็จ..ผลคือ หน้าแสบร้อนผ่าวๆ แต่ไม่บวม หน้าแดงมาก จนท.ทายาชาแล้วไปจ่ายตังค์ และกลับบ้านได้ ออ....ห้ามล้างหน้า 3 ชม. ได้ยาฆ่าเชื้อมาทาด้วย จ่ายไป 6พันกว่าๆ

เว้น 1 เดือน พบหมอครั้งที่สอง ดูรูปเทียบกับครั้งแรกเห็นความต่างที่เห็นได้เลย แต่ที่คิดไว้หวังจะได้มากกว่านี้ ก็มันเจ็บมากตอนทำ เจ็บมากก็หวังมาก(เกี่ยวมั๊ยเนี่ย) หมอบอกว่าเว้นนานกว่านี้ก็ได้นะค่อยมาทำก็ได้ รึว่าจะทำเลย ดูแล้วผิวยังฟื้นตัวได้อีก แต่มาแล้วใช่มั๊ย เอาไง ...หมอถาม ไหนๆก็มาแล้ว ก็ทำเลยค่ะหมอ แล้วการทำครั้งนี้น้ำตาไหลซึมไปกับสำลีที่ปิดตา เจ็บมากกกก ยาชาน่าจะชาได้นานๆหน่อย จะช่วยได้เยอะนี่ช่วยจิ๊ดเดียว หลังจากนั้นก็หยุดไปไม่ได้ทำครั้งที่สามเพราะมันเจ็บมาก แล้วไปทำถึงเกษมราษฎร์ประชาชื่นโน่น

หยุดทำ fine scan มาได้ 6 เดือนก็ดันมาแพ้พอลล่าช้อยส์ กรรมเพราะอยากลองตามกระแสว่าแล้วชีวิตเข้าช่วงตกต่ำอีกแล้ว รักษากว่าจะหายรวมๆ 6 เดือนได้ เหลือแต่รอยสิว ก็ทำIPLสลับกับ V beam คือว่า IPL นี่ทำที่คลินิกที่รักษาอาการแพ้เป็นสิวอุดตันเห่อ อยากทำ v beam แต่ที่นี่ไม่มี ก็ลงคอร์ด IPLไปเพราะไม่แพง 5ครั้งแถม1 ราคา5พันบาท ทำเว้น 2 อาทิตย์ สลับกับv beam

IPL ทำทั่วหน้า แต่V beam ทำเฉพาะรอยสิว(หมอบอกทำเป็นครั้งๆไม่ต้องลงคอร์ส) สรุปทำ IPL 2 ครั้ง V beam 2 ครั้ง เว้นมาสองอาทิตย์และก็ตัดสินใจทำ fraxel re:store 1500 ในที่สุด รูปก่อนทำfraxel

รื้อฟื้นและท้าวความซะยาว มาว่ากันเรื่อง Fraxel re:store1500 สักที
จากที่อ่านจากเนตบางคนก็บอกว่าเจ็บมาก ก็เริ่มหวั่นๆ แต่ได้คุยกับน้องที่ได้ไปทำมา บอกว่าชิวๆ เลยใจชื้นขึ้นมาหน่อย ผ่านมาตั้งเท่าไหร่แล้วนี่ ลองอีกสักตั้ง

นอนให้พนง.คลีนหน้า จากนั้นถ่ายรูป แต่ว่ารูปไม่ละเอีดและชัดเท่าของที่เกษมราษฎร์ ที่นั่นชัดมาก เห็นรูขุมขนเห็นทุกอณู ก็ขอก๊อปรูปของเขามา คิดว่าน่าจะดีกว่าที่ถ่ายเอง คิดผิด รู้งี้ถ่ายเองดีกว่า

หลังทำเสร็จใหม่ๆไม่ได้ถ่ายเก็บไว้ มาถ่ายเองอีกทีผ่านมา 1 วันแล้ว(ทำตอน บ่ายสองครึ่ง ถ่ายรูปอีกที ตอนบ่ายโมงของวันรุ่งขึ้น)

รูปก่อนทำแก้มขวา ที่คลินิกถ่ายเห็นไม่ชัด แต่ถ้าส่องกระจกให้แสงส่องเข้าด้านข้างจะเห็นพรึ่บทีเดียว หลุมเล็กหลุมน้อยมีหมด ที่ถ่ายไม่ค่อยเห็นอาจเพราะผลจากการรักษาที่เกษมราษฎร์ฯ ทำให้หลุมที่ตื้นๆ ดีขึ้นจนขนาดหลุมเล็กลงเหมือนรูขุมขนกว้าง หลุมใหญ่ๆ ก็ตื้นขึ้น หลุมสิวเป็นมากตรงแก้มข้างขวา ข้างซ้ายก็มีแต่นิดเดียว ส่วนรอยดำสิวที่แพ้พอลล้าช้อยส์ บีเอชเอ2%ยังชัดอยู่เลย

26 ม.ค. 2553