เมื่อเท้ามันคัน อะไรมันๆ จะเกิดขึ้น
Group Blog
 
<<
เมษายน 2558
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
2627282930 
 
25 เมษายน 2558
 
All Blogs
 
สะหวันนะเขต พวกสะหวันเซเยสเขารู้ดี

มีโอกาสได้กลับไปแขวงสะหวันนะเขตหรือสุวรรณเขตอีกครั้ง หลังจากเคยไปเมื่อสิบปีที่แล้ว ไม่ต่างจากครั้งแรกมากนัก เหมือนได้ย้อนกลับไปในอดีต 30 ปี ชีวิตที่สงบเรียบง่าย ซึ่งหลายคนมองว่าล้าสมัย ไม่เทียบทันตะวันตก

สิบปีก่อน รุ่นพวกผมเรียกตัวเองว่ารุ่นสะหวันเซเยส ก็เพราะเหตุว่าพวกเราหลายสิบชีวิตได้มาทัศนศึกษาร่วมกันที่แขวงสะหวันนะเขต และเยี่ยมชมเขตเศรษฐกิจสะหวัน-เซโน แต่อย่างพวกเราสะหวันจะเซโนได้อย่างไร จึงเป็นที่มาของสะหวันเซเยส รุ่นที่เป็นปึกแผ่นเหนียวแน่นรุ่นหนึ่งของกระทรวงบัวแก้ว

สมัยนั้น พวกเราต้องรอข้ามเรือที่ท่ามุกดาหาร เพื่อข้ามไปฝั่งลาว แขวงสะหวันนะเขตอยู่ตรงข้ามจังหวัดมุกดาหารพอดิบพอดี สะพานมิตรภาพไทย-ลาวแห่งที่สองกำลังก่อสร้างอยู่ในขณะนั้น


กลับมาวันนี้ ผมนัดกับรุ่นพี่ที่จุดนัดพบยอดนิยมสูงสุดทั้งสำหรับชาวไทยและลาว นั่นคือห้างโรบินสัน มุกดาหาร ซึ่งเพิ่งเปิดต้อนรับแขกบ้านแขกเมืองได้ไม่นาน วันที่ผมไปถึงมุกดาหารเป็นวันที่ร้อนมากที่สุดวันหนึ่ง การนัดเจอและทานข้าวกันในห้างทำให้รู้สึกประหนึ่งขึ้นสวรรค์จริงๆ ชาวลาวก็คงรู้สึกไม่ต่างกัน


รุ่นพี่ที่มารับยังบอกอีกว่า นอกจากโรบินสันแล้ว ร้านสะดวกซื้อในปั๊มน้ำมันฝั่งไทยก็เป็นแหล่งช็อปปิ้งซื้อข้าวของเข้าบ้านของชาวลาวเช่นกัน


เรากรอกใบผ่านแดนกันเรียบร้อยก็ออกรถมุ่งตรงไปยังสะพานข้ามโขงเข้าสู่แขวงสะหวันนะเขตกันเลย


รถรอข้ามแดนที่นี่ไม่หนาแน่นเหมือนสะพานมิตรภาพข้ามโขงอื่นๆ


ใบอนุญาตข้ามแดนชั่วคราว สามารถพักอยู่ได้ 3 วัน แต่ห้ามเดินทางออกนอกเขตที่กำหนด ข้ามมาฝั่งไทยก็เช่นกัน มีข้อกำหนดว่าคนลาวสามารถเดินทางไกลจากชายแดนได้กี่ กม.


ถึงแขวงสะหวันนะเขตแล้ว ความเจริญน่าจะพอๆ กับอำเภอต่างจังหวัดในบ้านเรา แต่วัฒนธรรมหลายอย่างถูกรักษาไว้อย่างดี แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปเลยจาก 10 ปีที่แล้ว


พระธาตุอิงฮัง พระธาตุคู่บ้านคู่เมืองอันศักดิ์สิทธิ์ของแขวงสะหวันนะเขต


ยังคงตั้งตระหง่านท้าลมฝน สีโดยรอบทรุดโทรมไปตามกาลเวลา คนลาวเขาไม่ปรับปรุงบูรณะทาสีต้อนรับนักท่องเที่ยวแบบบ้านเรา ดูขลังไปอีกแบบ


เราซี้อพวงบายศรีจากด้านนอกเข้ามาถวายองค์พระธาตุ พวงละ 40 บาท เงินไทยใช้ได้ที่นี่ไม่มีปัญหา ราคาค่อนข้างแพง แต่เพราะไม่ใช่พวงมาลัยตามสี่แยกในกรุงเทพฯ เป็นพวงบายศรีหน้าวัดในลาว ราคานี้พอรับได้ครับ


ผู้หญิงที่มาสักการะพระธาตุเป็นเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะไม่สามารถเข้าไปในเขตพัทธสีมาของพระธาตุได้ ต้องวางดอกไม้บายศรีถวายไว้ด้านนอก


ในขณะที่ผู้ชายสามาถเข้าไปสัมผัสกราบไหว้ได้ถึงองค์พระธาตุ จะให้ยุติธรรม ค่าบายศรีสำหรับผู้ชายควรจะแพงกว่าผู้หญิงด้วยนะ


สักการะพระธาตุเสร็จก็เดินไปให้แม่ชีในเต็นท์ด้านข้างผูกข้อมือเป็นสิริมงคล พร้อมควักเงินเป็นศีลน้ำใจให้แม่ชีไปคนละ 20 บาท จนกระทั่งถึงพี่คนสุดท้าย นางคงดูมีราศรีร่ำรวยกว่าพวกเรา แม่ชีผูกข้อมือนานกว่าใครเพื่อน แถมขอแบงก์ดอลลาร์งามๆ 1 ใบ


กลับเข้ามาในตัวเมือง พินิจดูอีกที สะหวันนะเขตเปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วพอสมควรครับ มีร้านกาแฟดาวที่ขายกาแฟแพงๆ แอร์เย็นฉ่ำ มีไวไฟให้ใช้ฟรี


มีร้านอาหารริมโขงที่เจ้าของเป็นคนไทย ร้านนี้อาหารอร่อย โดยเฉพาะส้มตำ รสชาติปลาร้านัวที่สุดในสามโลก คุณหรีดไม่ต้องรับรอง 


ถ้ามีโอกาสมาก็มองหาร้านที่เป็นแพยื่นไปในน้ำนะครับ


หรือร้านนั่งชิล มีดนตรีสดเล่น สไตล์คนไทยนิยม ก็มีให้นั่งดื่มเบียร์ลาวช่วยย่อยอาหารและฆ่าเวลา ชาวลาวเริ่มนิยมร้านประเภทนี้มากยิ่งขึ้น

แต่ที่ทำให้ผมงงไปเลย คือ ผับในคืนวันอาทิตย์ที่คนแน่นร้านชนิดที่ถ้ามาช้าสักหน่อย คงไม่มีโต๊ะนั่งเป็นแน่ ผมมั่นใจว่าผับในไทยในคืนวันอาทิตย์ไม่คึกคักขนาดนี้ นึกถึงอาร์ซีเอเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่คึกคักทุกวัน เจ็ดวันต่อสัปดาห์ เพราะไม่มีเคยมีการตรวจบัตรประชาชน จะวัยใสหน้าใหม่ หนีพ่อแม่มาเที่ยวก็เข้าได้หมด ขอให้มีเงินจ่าย

เห็นว่าคนลาวฉลองสงกรานต์กันเจ็ดวันเจ็ดคืน เขาคงรักการเฉลิมฉลอง สนุกสนานเฮฮาเป็นชีวิตจิตใจ นิสัยคนไทยชัดๆ ไทยลาวพี่น้องกันจริงๆ


ขอบคุณคุณพี่ต้นที่เอื้อเฟื้อที่พักและสถานที่ในการถ่ายทำ ได้มาเยี่ยมกันตามคำสัญญาแล้ว


ชีวิตไม่ต่างกับอยู่เมืองไทย ทีวี อินเตอร์เน็ต มือถือใช้ของไทยหมด เบื่อๆ ก็ขับรถข้ามโขงมาแค่ 15 นาทีเท่านั้น แต่ป่วยหนักทีก็ต้องข้ามสะพานมาหาหมอทีเช่นกัน


เที่ยวสะหวันนะเขตมาง่าย แค่สองวันก็ทั่วหมดแล้ว แม้ไม่มีอะไรมาก แต่ก็ได้บรรยากาศชีวิตเรียบง่าย ไม่รีบร้อน ไม่อดอยาก ไม่ขาดแคลน ไม่ทะเยอทะยานจนเกินงาม และหลายอย่างที่ต้องเปลี่ยนไปตามตลาดเสรี


แถมยังมีเวลาข้ามกลับมาแวะไหว้พระธาตุพนมที่ฝั่งไทยด้วย


พระธาตุพนมเป็นพระธาตุเก่าแก่เป็นที่สักการะของชาวไทยและลาวมานมนาน เคยพังทลายลงมาเมื่อปี 2518 เนื่องจากความเก่าแก่และพายุฝน ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ใหญ่และสวยกว่าเดิม แต่ความศรัทธาจากมหาชนยังเหมือนเดิม  








Create Date : 25 เมษายน 2558
Last Update : 26 เมษายน 2558 10:03:16 น. 0 comments
Counter : 10529 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Thaisoloclub
Location :
Rome Italy

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 32 คน [?]




Friends' blogs
[Add Thaisoloclub's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.