เราซี้อพวงบายศรีจากด้านนอกเข้ามาถวายองค์พระธาตุ พวงละ 40 บาท เงินไทยใช้ได้ที่นี่ไม่มีปัญหา ราคาค่อนข้างแพง แต่เพราะไม่ใช่พวงมาลัยตามสี่แยกในกรุงเทพฯ เป็นพวงบายศรีหน้าวัดในลาว ราคานี้พอรับได้ครับ
ผู้หญิงที่มาสักการะพระธาตุเป็นเหมือนเป็นพลเมืองชั้นสอง เพราะไม่สามารถเข้าไปในเขตพัทธสีมาของพระธาตุได้ ต้องวางดอกไม้บายศรีถวายไว้ด้านนอก
ในขณะที่ผู้ชายสามาถเข้าไปสัมผัสกราบไหว้ได้ถึงองค์พระธาตุ จะให้ยุติธรรม ค่าบายศรีสำหรับผู้ชายควรจะแพงกว่าผู้หญิงด้วยนะ
สักการะพระธาตุเสร็จก็เดินไปให้แม่ชีในเต็นท์ด้านข้างผูกข้อมือเป็นสิริมงคล พร้อมควักเงินเป็นศีลน้ำใจให้แม่ชีไปคนละ 20 บาท จนกระทั่งถึงพี่คนสุดท้าย นางคงดูมีราศรีร่ำรวยกว่าพวกเรา แม่ชีผูกข้อมือนานกว่าใครเพื่อน แถมขอแบงก์ดอลลาร์งามๆ 1 ใบ
กลับเข้ามาในตัวเมือง พินิจดูอีกที สะหวันนะเขตเปลี่ยนไปจากเมื่อ 10 ปีที่แล้วพอสมควรครับ มีร้านกาแฟดาวที่ขายกาแฟแพงๆ แอร์เย็นฉ่ำ มีไวไฟให้ใช้ฟรี
มีร้านอาหารริมโขงที่เจ้าของเป็นคนไทย ร้านนี้อาหารอร่อย โดยเฉพาะส้มตำ รสชาติปลาร้านัวที่สุดในสามโลก คุณหรีดไม่ต้องรับรอง
ถ้ามีโอกาสมาก็มองหาร้านที่เป็นแพยื่นไปในน้ำนะครับ
หรือร้านนั่งชิล มีดนตรีสดเล่น สไตล์คนไทยนิยม ก็มีให้นั่งดื่มเบียร์ลาวช่วยย่อยอาหารและฆ่าเวลา ชาวลาวเริ่มนิยมร้านประเภทนี้มากยิ่งขึ้น
แต่ที่ทำให้ผมงงไปเลย คือ ผับในคืนวันอาทิตย์ที่คนแน่นร้านชนิดที่ถ้ามาช้าสักหน่อย คงไม่มีโต๊ะนั่งเป็นแน่ ผมมั่นใจว่าผับในไทยในคืนวันอาทิตย์ไม่คึกคักขนาดนี้ นึกถึงอาร์ซีเอเมื่อสิบกว่าปีก่อน ที่คึกคักทุกวัน เจ็ดวันต่อสัปดาห์ เพราะไม่มีเคยมีการตรวจบัตรประชาชน จะวัยใสหน้าใหม่ หนีพ่อแม่มาเที่ยวก็เข้าได้หมด ขอให้มีเงินจ่าย
เห็นว่าคนลาวฉลองสงกรานต์กันเจ็ดวันเจ็ดคืน เขาคงรักการเฉลิมฉลอง สนุกสนานเฮฮาเป็นชีวิตจิตใจ นิสัยคนไทยชัดๆ ไทยลาวพี่น้องกันจริงๆ
ขอบคุณคุณพี่ต้นที่เอื้อเฟื้อที่พักและสถานที่ในการถ่ายทำ ได้มาเยี่ยมกันตามคำสัญญาแล้ว
ชีวิตไม่ต่างกับอยู่เมืองไทย ทีวี อินเตอร์เน็ต มือถือใช้ของไทยหมด เบื่อๆ ก็ขับรถข้ามโขงมาแค่ 15 นาทีเท่านั้น แต่ป่วยหนักทีก็ต้องข้ามสะพานมาหาหมอทีเช่นกัน
เที่ยวสะหวันนะเขตมาง่าย แค่สองวันก็ทั่วหมดแล้ว แม้ไม่มีอะไรมาก แต่ก็ได้บรรยากาศชีวิตเรียบง่าย ไม่รีบร้อน ไม่อดอยาก ไม่ขาดแคลน ไม่ทะเยอทะยานจนเกินงาม และหลายอย่างที่ต้องเปลี่ยนไปตามตลาดเสรี
แถมยังมีเวลาข้ามกลับมาแวะไหว้พระธาตุพนมที่ฝั่งไทยด้วย
พระธาตุพนมเป็นพระธาตุเก่าแก่เป็นที่สักการะของชาวไทยและลาวมานมนาน เคยพังทลายลงมาเมื่อปี 2518 เนื่องจากความเก่าแก่และพายุฝน ได้รับการบูรณะขึ้นใหม่ใหญ่และสวยกว่าเดิม แต่ความศรัทธาจากมหาชนยังเหมือนเดิม