เรื่องมีอยู่ว่าเที่ยวบินขากลับเมืองไทยจะต้องไปเปลี่ยนเครื่องที่เบอร์ลิน
ไหนๆ ก็ต้องเสียเวลาเกือบ 4 ชั่วโมง ก็ขอทำความรู้จักกับเมืองหลวงของเยอรมันกันสักหน่อย
สุดซาบซึ้งกับนำ้ใจจาก Professor Charlie
ช่วยส่งพี่แท็กซี่ Robert คนกาน่าแต่อยู่เบอร์ลินมายี่สิบปีมาพาเราลัลลา
เลยทำให้เวลาสั้นๆ เป็นเวลาแห่งความประทับใจ
แอบมองเบอร์ลินจากมุมสูง ชอบที่สุดคือในเมืองใหญ่แต่มีพื้นที่สีเขียวเยอะมากกกกก
พอเรื่องแตะพื้นสนามบินนานาชาติ Tagel พี่โรเบิร์ตก็รอรับอยู่แล้ว
ยังไม่ทันได้หายตื่นเต้นก็ได้เจอกับความสวยงามของ Berlin Victory column (Siegessäule)
ถ้าเป็นบ้านเราก็คงจะเหมือน อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิคะ ทองอร่าม เป็นสง่าจริงๆ
พอรถเลี้ยวจากวงเวียน Berlin Victory Column
ภาพด้านหน้าก็เป็น Brandenburger Tor (Brandenburg Gate)
เราหยุดแวะชมความงดงามของประตูบ้านหลังใหญ่นี้สักครู่
สายตาก็ไปสะดุดกับรถม้าสวยๆ โรแมนติกจริงๆ
สอบถามราคาแล้วแค่ ชม.ละ 60 ฮุ ฮุ กลับไปขึ้นแท๊กซี่เหมือนเดิมละกัน
โชคไม่เข้าข้างเลย ฝนดันมาตกซะนิ
โปรแกรมเลยต้องกลายเป็นชะโงกทัวร์ไปในบัดดล ตามไปดูกันเลยคะ
ได้แต่โบกมือบ๊าย บายให้กับ Opera Houses
Altes Museum หนึ่งในกลุ่มอาคารพิพิธภัณฑ์ในเบอร์ลิน สนามหญ้าเขียวๆ ด้านหน้า น่านอนเล่นมากๆ
แม้แต่ Berlin Dom หรือ Cathedral มหาวิหารที่ใหญ่ที่สุดในเบอร์ลินก็แอบยิ้มเยาะเย้ยเรา ฮือๆ
สายฝนเริ่มซา เราก็ได้มายืนอยู่หน้าปราสาทชาล็อทเทนบวร์ก (Schoss Charlottenburg)
ซึ่งเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนของพระนาง Sophie Chartotte มเหสีของพระเจ้า Friedrich1
เนื่องจากฟ้าฝนไม่อำนวย หมดโอกาสได้ไปเห็นสวนบาร็อคที่ใหญ่และสวยที่สุดในเยอรมันซึ่งอยู่ด้านหลังปราสาท
เข้าไม่ได้ก็ไปกันต่อที่ Check point Charlie ที่ๆเคยแบ่งเยอรมันเป็นสองฝ่าย
อดีตนี่มันขมขืนจริงๆ รอบๆ ก็ยังคงมีซากกำแพงเบอร์ลิน เห็นแล้วก็สลดใจ
ก่อนจะจาก Berlin เราก็ได้มีโอกาสยลโฉม Reichstag หรือตึกรัฐสภา
ใหญ่โต อลังการมากจริงๆ
บริเวณรอบๆ ก็มีสารพัดทัวร์ที่จะพาพวกเราไปชมเบอร์ลิน
แต่โดนใจสุดคงจะเป็น การนั่งบอลลูนชมเมือง คราวหน้าเจอกันนะจ๊ะ