Vietnam - Ho Chi Minh 2012 # Day1
ที่มาของทริปนี้ คือ น้องๆ ที่ออฟฟิสอยากไปเมืองนอก
แต่มีข้อแม้ว่า "งบต่อคนต้องไม่เกิน 15,000 บาท"
และอยากไปดูสถานที่สวยๆ อยากช๊อปปิ้ง อยากลัลลา อยากตะลุยเที่ยวเอง
เที่ยวกรุงเทพฯน่าจะโอสุด อิอิ แต่น้องขอมา พี่ก็ต้องจัดให้น้องๆ กันหน่อย
โฮจิมินท์ หรือ ไซ่ง่อน คือ คำตอบที่ลงตัวที่สุดสำหรับโจทย์นี้
เพราะมีการันตีจากนิตยสารอาส์คเมน
ที่จัดอันดับเมืองน่าเที่ยวมากที่สุดในโลกปี 2012
โฮจิมินท์ติดอันดับ 14 ใน 29 เมืองทั่วโลกที่ได้รับการโหวตมากที่สุด!!!
ฟังดูมีแรงจูงใจขึ้นมาเยอะเลย
ไปทำความรู้จักไซ่ง่อนจากคนแปลกหน้าอย่างพวกเราด้วยกันเลยคร้าาาา
พวกเราเลือกใช้บริการสายการบินแอร์เอเชีย
ราคาตั๋วไป-กลับ คนละ 5,700 บาท ซึ่งก็ไม่ถูก แต่ก็ไม่แพง
เพื่อนๆ สามารถหาสายการบินอื่นที่มีตั๋วถูกกว่านี้แน่นอน!! (เหมือนเสี่ยงดวง)
แต่พอได้เปรียบเทียบเวลาเดินทางแล้วแอร์เอเชีย ตารางการบินเริศที่สุดละ
ไฟล์ทขาไป 7:45 - 9:30 น.
ไฟล์ทขากลับ 17:55 - 19:25 น.
พวกเราเดินทางกันช่วงวันหยุดยาว 6 - 9 เมษายน 2555
เรียกว่าใช้เวลาได้เต็มวันมากๆ ทุกวันเลย
มันเก๋ตรงนี้จริงๆ อิอิอิ แอบภาคภูมิใจ
มาว่ากันเรื่องโรงแรม ก็จองกัันแบบเดาๆ โดยเลือกที่เว็บก่อน นั่นก็คือ Agoda
ต่อมาก็มาอ่านรีวิวจากคนที่ไปพักมาเปรียบเทียบกัน
เจอโรงแรม Ruby River เพราะเลือกที่พักในเขต 1 ซึ่งเป็นย่าน city centre
โรงแรมสองดาว ราคาคืนละพันบาท มีอาหารเช้าด้วย ไม่ทำให้เราผิดหวังเลย
ทุกห้องมีหน้าต่างที่เปิดออกไปสัมผัสบรรยากาศรอบนอกได้ บางห้องมีอ่างอาบน้ำ
ห้องพักสะอาดและใหม่มาก เปิดได้เพียง 2 เดือนในวันที่เราไปพัก
พนักงานอัธยาศัยดีมากๆ ทุกคน (ยกให้ห้าดาวเลย)
เดินออกมาจากโรงแรมแค่ 300 เมตรก็เจอตลาดเบิ๊นถั่น (Cho Ben Thanh)
สังเกตุว่าพอเห็นหอนาฬิกา ก็มาถึงตลาดแล้วนะคะ
ภายในตลาดก็มีร้านขายของที่ระลึก ของพื้นเมือง ร้านเสื้อผ้าเต็มไปหมด
เราเดินออกมาเจอคนนั่งจอแจ เอทำอะไรกันนะ
เค้าบอกว่ามานั่งกินเช (Che) คล้ายๆ นำ้แข็งใสบ้านเรา
ใส่เครื่อง ใส่นำ้แข็ง ราดนำ้หวาน
ใครสนใจก็เดินไปสบตาแม่ค้า เลื่อนเก้าอี้ออกมานั่ง
เหมือนจะเป็นการรู้กันว่าพร้อมสั่งเชแล้ว อิอิ
เจอร้าน Pho2000 ตรงหัวมุมตลาด แวะเติมแรงกันดีกว่า
ไซ่ง่อนยังร่มรื่นมากๆเพราะต้นไม้ใหญ่ในเมืองมีการขึ้นทะเบียน และห้ามตัด
เราสามารถฝากท้องข้างถนนได้กันทั่วเมือง
ร้านจักรยานปั่นขายเบอร์เกอร์แบบฝรั่งเศลจะไปหาคุณได้ทุกที่
แม่ค้ายืนขายผลไม้กันริมฟุตบาท ที่วางของคือตอหม้อถนน อิอิ
ร้านอาหารก็มาโคลก ตำกันหน้าร้าน จริงใจมากๆ ดูกันไปเลยว่าสะอาดไหม
วันนี้พวกเรายังเดินชิว ชิว กันในเขต 1
และแล้วก็เดินมาเจอไปรษณีย์กลาง หรือ HCMC Central Post Office
อาคารเป็นศิลปะแบบกอทิก ใหญ่โต โอ่โถง และดูแข็งแรงมากๆ
ที่นี่เป็นที่ทำการไปรษณีย์ที่ใหญ่ที่สุดในเวียดนาม
ปัจจุบันก็ยังคงใช้งานอยู่ เราแอบปลื้มกับตู้โทรศัพท์สาธารณะ
ซึ่งเป็นตู้ไม้โบราณ แบ่งเป็นห้องๆ ดูคลาสสิกมากๆ ยังใช้งานได้จริงด้วย
อ้อมด้านหลังโบสถ์โนทเตรอะดามออกมาเจอสวนสาธารณะมีเด็กวัยรุ่นเต็มไปหมด
เดินลัดสวนออกมาเจอถนนห่านทวีน (Han Thuyen)
เราก็บังเอิญเจอร้านอาหารชื่อ Au Parc ตามที่หนังสือไซ่ง่อนฯแนะนำเลย
ลองเข้าไปหาอะไรเย็นๆ ดื่มกันสักหน่อย
บรรยากาศภายในร้านเก๋มากๆ คาเฟ่ฝรั่งเศลในตึกโคโลเนียลเก่าๆ
สีสันสดใส และการตกแต่งทำให้บรรยากาศในการเดินชิววันนีี้สนุกขึ้นมามากมาย
พวกเรามากันหลายคนได้ที่นั่งด้านหลัง ซึ่งเป็น open air หลังคาอาคารเปิดรับแสงแดด
มีเถาไม้ตกแต่งบรรยากาศให้ดูมีชีวิตชีวา
เดินเล่นกันเกือบจะบ่าย 3 โมง แล้วก็ใกล้จะได้เวลานัด
เย็นนี้เราได้ซื้อทัวร์เพื่อไปชมการแสดงหุ่นกระบอกน้ำ (Water Puppets)
โดยทางโรงแรมได้แนะนำไกด์ท้องถ่ิน ซึ่งเป็นนักศึกษามาหารายได้ระหว่างภาคเรียน
พวกเราก็เลยได้ทริปราคาพิเศษมากๆ คือ คนละ 25USD หรือประมาณ 800 บาท
โดยได้ไปชมหุ่นกระบอกน้ำ นั่ง Cyclo ชมเมือง และทานอาหารเย็นบนเรือ ว๊าววววว ตื่นเต้น
ทุกคนตื่นเต้นมากๆ กับการมาชมการแสดง ขอถ่ายภาพหน้าโรงละครกันก่อน
พอเข้าไปชมการแสดงได้สักครึ่งชั่วโมง ความเงียบก็เข้าครอบงำทุกคน zzZZ..ZZ
ตื่นมาอีกทีอ้าว... เจ้าหนุ่มในท้องเรื่องก็จะออกมาบ๊ายบายกันแล้ว อิอิ
แต่ใครไปเที่ยวเวียดนาม ก็อยากแนะนำให้ไปชมนะคะ
มันช่างเป็นความอดทนอย่างแรงกล้าของนักแสดง ที่ต้องเชิดหุ่นกระบอกในน้ำ !!!
และแล้วก็มาถึงนาทีระทึกขวัญ หลังจากชมหุ่นกระบอกน้ำเสร็จ
ขบวน Cyclo หรือสามล้อถีบโบราณก็มาจอดรอรับพวกเราด้านหน้ากันอย่างพร้อมเพรียง
รถสามล้อชนิดนี้ได้หายไปจากฮานอยไปหมดแล้ว
โชคดีที่เรายังได้มานั่งชมวิว (กินฝุ่น) กันในไซ่ง่อน อิอิ
คนขับรถที่นี่ต่างขับกันได้หวาดเสียวมากๆ เสียงแตรดังสนั่น จนเป็นสัญลักษณ์ของไซ่ง่อน
เรานั่งไปก็ได้แต่สวดมนต์ภาวนาให้ถึงที่หมายอย่างปลอดภัย
และแล้วพวกเราก็ได้มาถึงแม่น้ำไซ่ง่อนกันแบบครบ 32
เรือดินเนอร์ก็จอดเทียบท่ารอพวกเราอยู่แล้ว
ไปชมเมืองริมสองฝั่งแม่น้ำไซ่ง่อนกันเลยคะ
พระจันทร์ที่นี่ดวงใหญ่มากกกกกกกกกกกกกก
กรุงเทพฯ คงมีมลพิษมากเกินไป เราเลยรู้สึกว่าไม่เคยได้เห็นหน้าตาพระจันทร์เลย
มาที่นี่เหมือนโลกหมุนช้าลง แต่เรารู้สึกว่านี้ต่างหาก คือ ความสุข
คืนนี้ขอให้ทุกคนหลับฝันดีไปกับพวกเรา
เพราะวันพรุ่งนี้เรามีทริปสนุกๆ รออยู่
ตามไปเที่ยวไซ่ง่อนกันต่อในบล็อกหน้านะคะ
Create Date : 26 มิถุนายน 2555 |
|
0 comments |
Last Update : 29 มิถุนายน 2555 1:52:47 น. |
Counter : 1600 Pageviews. |
|
|
|