พร้อมทั้งคำร่ำลือเกี่ยวกับความแซ่บของผู้ใต้หวัน ทำให้เกิดโปรเจ็คนี้ขึ้นมา ซึ่งจริงๆอยากกันตั้งแต่ มกรา 2016 แต่จองตั๋ว(ถูกหน่อย) ได้ในเดือนมิถุนา ....
ดังนั้น ทริปนี้เราจึงเรียกว่า

ทริป มิถุนาพาตุ๊ดเที่ยว

ฮ่ะๆๆๆๆๆๆ




สมาชิกพร้อม.... ตั๋วล่ะ ? 

ทริปนี้เป็นการตามรอยชะนีรอบที่แล้ว เนื่องจากเวลาอันจำกัด ดังนั้นไปกันเลยค่าาาาา


ความป่วงเกิดขึ้นตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง อิ J มาในชุดเสื้อคลุมยาวแบบยี่(ปุ่น) แม่ลูกชาวญี่ปุ่นเห็นยังงงกะมัน 5555 แต่ก็เอาเถอะค่ะ เค้าคงคิดว่ามันบ้า









ฝนมาตั้งแต่ยังไม่เทคออฟเลยค่ะ ฤกษ์ดีจิงๆ -*-









การกินข้าวมาก่อนไม่ช่วยอะไร ความเวิ่นของตุ๊ดยังไม่จบ ซื้อนั่นนี่บนเครื่องกินตลอดเว หมดไปจะพัน ยังไม่ลงเครื่อง (กินคนเดียว)





เรามาถึงไทเปด้วยความปลอดภัยค่ะ และเข้าเมืองเหมือนเดิมคือรถเมล์ แล้วมาลงที่ Taipei main station แล้วต่อรถไฟฟ้าใต้ดินไปที่  西门町 ซีเหมินติ่ง เราจองที่พักไว้ 1 คืนที่ Ximen WOW hostel ซึ่งเป็นห้องแบบ mixed dorm ในราคาคนละ 700 บาทได้











แต่เคราะห์กรรมจริงๆค่ะ ฝนตกไม่หยุดดดด ...แฉะ ลื่น เปียก แต่ก็ต้องหาที่พักไปด้วย ซึ่งพอโผล่มาที่สถานีซีเหมินติ่ง ก็ตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ จนถึงแถวสตาร์บั๊คส์ก็จะมองเห็นตึกสูงที่มีป้ายชื่อโฮสเทลใหญ่โต





ห้องพักเรามีทั้งหมด 17เตียงเก๋ๆ -*-
ปัญหาคือแอร์ไม่พอค่ะ เนื่องจากเตียงเยอะแต่ละเตียงมีม่านกั้น ห้องแคบ และอยู่2ฝั่งซ้ายขวาซึ่งแอร์อยู่ตรงกลาง ดังนั้น มันไม่ถึงง่ะ

นอกนั้นโอเคหมด สภาพเตียง สะอาด ห้องน้ำโอเค บริเวณล็อบบี้เลยเป็นพื้นที่หลักที่เราใช้ และมีระเบียงที่ดีงามมาก นั่งชิลได้ ดูวิว ดูผู้คนเดินช็อปด้านล่าง น้อง พนง ชื่อ VITO น่ารักมาก เปลี่ยนการจองนางก็ช่วย ไม่ว่าอะไร (แก้ไขวันเข้าพัก ซึ่งเราจองผ่าน Booking.com)
























พอเก็บข้าวของเสร็จ กะจะไปหาอะไรกินกัน ซึ่งเป้าหมายเราคือ หม้อไฟ .....แต่ เดินหาร้านจนเจอ (อิฝนนี่ก็ไม่หยุดซะที เปียกวนไปค่ะ) คนเยอะมวากกกก คิวเร็วสุดคือ 3ทุ่ม ซึ่งตอนนั้นคือเพิ่งจะทุ่มนึง บั๊ยยยยย กินอย่างอื่นก็ได้ค่ะ





เราก็เลยเปลี่ยนเป็นว่าหาไรกินให้อิ่มท้องพอ ไม่คิดเยอะ ซึ่งจบลงด้วยร้านในตรอกแถวนั้นซึ่งแลดูเรทติ้งใช้ได้ เป็นข้าว กินกับไก่ทอด หรือหมูทอด ที่มากับข้าวราดพะโล้ซึ่งใช้ได้ ไม่ขี้เหร่




ราคาไม่ถึงร้อย เอาค่ะ อิ่ม คุ้ม





เดี๋ยวไปตลาดกลางคืนที่น้องที่โฮสเทลแนะนำดูค่ะ เค้าว่าเป็นตลาดที่มีอาหารขายเยอะอยู่ นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปไม่ไกล สภาพทุกคนก็พอพร้อมลุย มีร่ม เปลี่ยนรองเท้า ...ปล.รองเท้ากันน้ำของชะสีเหลืองราคา 60บาท ซื้อจากตลาดราม2 ส่วนอิ J สีขาวซื้อตอนไป ตจว. ในราคา 420 บาท 55555 สะใจ










ตลาดที่ว่าชื่อ 宁夏夜市 หนิงเซี่ย ค่ะ
จริงๆตลาดเล็กนิดเดียว เป็นรถอาหารเรียงรายอยู่บนถนนเส้นนึงซึ่งน่าจะยาวซัก 500ม.ได้
แต่สำหรับเรามีไม่กี่อย่างที่ดูแปลกตา ซึ่งอาหารส่วนใหญ่เป็นพวกของกินเล่น ถ้าจะจริงๆก็ร้านบนฟุตบาทซึ่งส่วนใหญ่เป็นพวกหม้อไฟ ร้านอาหารจีนจริงจัง ซึ่งเราไม่กินแบบนั้น





































เดินตลาดซักพัก กะจะกลับ แต่มีคนบอกว่าก่อนมามีคนบอกว่ามีโปรรองเท้าราคาถูกใน คาร์ฟู แถวนี้มีแฮะ ไปสิคะรอไร .....แต่พอไปถึงไม่มีจ้า .....ห้างนี้กุ๊กกู๋มาก เดินเล่นซักพักก็กลับที่พัก ไปอาบน้ำอาบท่านนอนเพราะในทีมมีคนป่วยอยู่ด้วย







อิ J ซื้อเชอรี่กลับมาด้วย 1แพ็คในราคา 120 ....."เดี๋ยวคืนนี้เรามากินเชอรี่ด้วยกัน"
กุรอจนตี 1 ..... อิสวย...เพื่อนไม่มีใครได้แด..... มารู้ตอนเช้าว่าอินี่แบ่งผู้กิน #อัปยศมาก เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า แรx ก็คือ แรx .....แอบกินคนเดียว อิผี !!!!!!

ปล.หมายถึงเชอรี่จิงๆ สาบานต่อหน้าปลั๊ก3ตาตรงนี้เลย 555555


ที่ซีเหมินติ่งนี่กลางคืนก็ยังคึกคัก...มีข้าวของวางขายอารมณ์เหมือนสยามตอนกลางคืนเมื่อก่อนเลย มีทั้งของกิน ของใช้ เสื้อผ้า และ พ่อค้าแซ่บ อิอิ

















สังเกตุสายตาริษยานั้น.... พร้อมเสียงแห่งความยินดี #ลำไย !!!!






ซึ่งกลางดึกคืนนั้นเองที่เราได้ยินเสียงสั่นเครือดังมาว่า........"J แกมียามั้ย? ไม่ไหวว่ะ หายใจไม่ออก นอนไม่ได้ " -*- ค่ะ ไข้ขึ้นตั้งแต่ก่อนมา เกือบจะไม่ได้มาละ ดีที่หลังจากนั้นนางก็อาการดีขึ้นมาหน่อย แต่ไม่หวั่นนะจ๊ะเรื่องเที่ยว 555

คืนนั้นนอนไม่สบายเลยค่ะ เพราะร้อน หายใจไม่ออก อึดอัด แต่ก็เอาเหอะ...
เช้าวันใหม่ ตื่นเช้า้หมือนเดิม มิชชั่นวันนี้คือไปตามรอยทริปแรก ใช้เส้นทาง ผิงซี เส้นทางท่องเที่ยว โดยจะแวะที่หมู่บ้านแมวกันก่อน เพราะ 3 ใน 4 เป็นทาส(แมว) 55555


เวลาไปเที่ยวต้องตื่นเช้ากว่าปกติ เพราะต้องใช้เวลาให้คุ้มที่สุด คราวนี้ก็ด้วย ตื่นมากินกาแฟ ทำมื้อเช้าง่ายๆกินกัน ที่พักมีให้ แต่ต้องทำเอง







ก่อนออกมาร่วมถ่ายรูปหมูกับ Vito และลุง ฝ ที่เราเม้าท์แกตอนทอดไข่ดาวเมื่อเช้า (นางหันมา คนไทยใช่มั้ย? ตึ่งโป๊ะ!!!! 55555)














เรานั่งรถไฟฟ้าใต้ดินไปที่ Taipei main station เพื่อ ต่อรถไฟไป 瑞方 （Ruifang) เพื่อต่อไป 平锡















และอย่างที่เห็น....ชะนีกับตุ๊ดต่างกันตรงนี้...-*-
กุแต่งหน้าทีเดียวอยู่ตลอดวัน แต่อิพวกนี้เติมหน้าได้ตลอด จริตเยอะ ดีออก... 555555










ข้าวราดหมูพะโล้ ราคา 20บาทของอิ J .....อร่อยนะเธอว์ แต่เหมือนข้าวพระพุทธ 55555


































ชอบดูไข่แมว 55555























มุ่งมั่นถ่ายไข่แมวมาก 5555555









สภาพหลังเดินมาเป็นชั่วโมงท่ามกลางอากาศร้อน..T ที่ป่วยอยู่เจียนตายมาก สภาพ










เราแวะ 十分 (Shifen) กันแป๊บนึง เก็บ RC  5555
เดินดูแป๊บๆ เพราะฝนเริ่มหนัก แล้วก้นั่งรถไฟกลับมา Ruifang เพื่อต่อรถเมล์ไป จิ่วเฟิ่น
แต่ฝนก็ตก คนก็เยอะ เราเลยตัดสินใจนั่งแท็กซี่ ซึ่งเฉลี่ยแล้วแพงกว่าค่ารถเมล์นิดเดียว คุ้มเหอะ














มาถึงจิ่วเฟิ่นกันก่อนมืด ยังมีเวเดินนิดหน่อย.......ดีเนอะ อิอิ









คืนนี้ที่พักเราคือ Coner inn ที่เดิมที่ชะนีเคยมาพักคราวที่แล้ว เพราะดูแล้วมั่นใจทั้งเรื่องทำเล และความสะอาด แถมวิวสวยใช้ได้เลย ....เราจองห้องรวม 10เตียง (เตียงไม้ 2ชั้น) ทั้งห้องมีเรา 5คนและผู้จีนอีก 2คน


อาบน้ำอาบท่าเสร็จก็รีบพุ่งตัวไป Old street กันก่อนร้านรวงจะปิด









เก็บข้าวของเสร็จก็ออกไปเดินกัน เพราะที่นี่ร้านรวงปิดค่อนข้างเร็ว
ปรากฎ ผู้คนแสนล้านมาก เพราะช่วงวันหยุดสุดสัปด้วยแหละ ....เบียดกันวนไปค่าาาา










#เกลียดท่ามัน















ขนมแบบออริจิ ดี๊ดี ราคาถูก อร่อยใช้ได้ เรียก เชาอากุ้ย (ออกเสียงงี้นะรู้สึก) มีหลายไส้







และที่ไม่พลาด เต้าหู้เหม็นแบบไต้หวัน...ดิชั้นชอบบบ T ชอบบบ...ส่วนคนที่เหลือกล่าวว่า เหมือนยืนกินเต้าหู้ข้างเล้าหมู 55555555








มื้อเย็นวันนี้เอาแบบเบาๆ อิอิ
คนไต้หวันชอบกินข้าวราดพะโล้ ซึ่งมันก็อร่อยดีอ่ะนะ ราคาไม่แพงด้วย อิ่มท้องด้วย ...จานนี้ 50 หรือ 70 จำไม่ได้






ก่อนกลับเข้าที่พักแวะซื้ออะไรติดมือหน่อย ที่แน่ๆ ชานมที่เริ่ดสุดไรสุด มานี่ไม่มีวันไหนไม่กิน....
นี่ T นางแฮปปี้กะการหาของกินมาก ลองไปหมด ตลอดทาง






คืนนี้หลับกันเป็นตาย เพราะเหนื่อยมาก ร้อนมาทั้งวัน








....................................






เช้านี้ เราตื่นมาแบบไม่ได้นัดหมาย ซึ่งเช้ามาก ตี 5ครึ่ง....เห็นพี่ X แบกกล้องเดินออกจากห้องแว็บๆ เลยเดินตามไป ได้ความว่านางจะไปถ่ายรูปพระอาทิตย์ขึ้น แต่ๆๆๆๆๆๆ.............

คุณคะ !!!! แดดแทบกลางหัว ฮึ!!! คำถามคือชั้นต้องตื่นกี่โมงถึงจะเห็นพระอาทิตย์ขึ้น????? >_<''



















เราเลือกออกไปเดินตอนเช้า แบบแปรงฟันแต่ไม่อาบน้ำ 5555 สภาพไม่ต้องกล่าวถึง








ระหว่างทางขึ้นมาจากที่พักก็มีอะไรให้ได้ดื่มด่ำ เช่น วิวสวยๆ อากาศดีๆ และ .....แมว 
#คุยกันรู้เรื่อง










ค่ะ อินางแบบ







อืมมมมม.....ใช่มะ









สภาพตอนกองรวมๆกัน 5555 หน้าสด ไม่รู้จะสดไปไหน













มีความพยายาม 555555 สังเกตุหน้าตา ไม่ตื่น 5555



















ซิ่มนี่นั่งสูดบรรยา 55555







ชิมไปเรื่อยๆ....อร่อยดี ไม่เชื่อดูหน้าอิ B สิ 55555555555555555












มื้อสายๆของเรา หลังเดินรอร้านรวงเปิด ....ถือว่าใช้ได้ แต่แอบแพงอยู่เหมือนกัน














นี่แค่จะกินข้าวมะ











มีร้านเปิดใหม่ขายสินค้าเกี่ยวกับแมวเต็มมมมไปหมด เลิฟมากกกก แอบซื้อกลับมาหลายสิ่ง
แถมส่งโปสการ์ดได้ด้วยนะ อิอิ































ต้องการอะไรบอกพี่นะ......พี่ดูแลที่นี่









เดินเที่ยว ซื้อของ กินอะไรรองท้องเสร็จก็รีบกลับไปอาบน้ำแต่งตัว รีบไปขึ้นรถไฟกลับเข้าไทเปกัน
วันนี้เหลือเก้บในเมืองได้อีกนิดหน่อย








สภาพ (จริง) หลังจากหลุดรอดเข้ามาถึงไทเป






สภาพ เมื่อเห็นว่ากำลังถ่ายรูปพวกมัน







เราเอากระเป๋าสัมภาระอันหนักอึ้งมาฝากไว้ที่ taipei main station ซึ่งมีล็อคเกอรืฝากของอยู่หลายจุด แต่ๆๆๆๆๆๆ....การจะหาล็อคเกอร์ที่ว่างไม่ใช่เรื่องง่ายเลยยยยยย แล้วนี่แถมต้องหาแบบที่รวมของพวกเราทุกคนได้ด้วย เพราะกระเป๋าค่อนข้างใหญ่ ต้องได้ล็อคเกอร์ไซส์ใหญ่เท่านั้น


เราเดินวน และรอคิว รอจังหวะคนมารับของคืนนานมากกกก ...งานนี้เป็นจังหวะ ขึ้นอยู่กับโชคชะตาจริงๆ55555 กว่าจะได้มารอราวๆครึ่งชั่วโมงได้



เสร็จสรรพแวะหาหนุ่มไต้หวัน เอ๊ย หาอะไรกินกินรองท้อง......อิอิ
ที่สถานีนี้ดี๊ดี......มีหลายร้านที่พึ่งพา ฝากท้องได้ เช่นร้านซูชิร้านนี้ ทำน่ากิน และราคาถูกมาก คุ้มสุดอะไรสุด














เป้าหมายถัดไปคือ พาตุ๊ดไปตึก Taipei 101 ค่ะ

















แค่เดินดูบรรยา แล้วก็เดินเล่นไปเรื่อยเปื่อย เดินไปจนถึงห้างใกล้ๆกัน (ห่างกันซัก 500เมตรได้)
ที่นี่มีสินค้ายี่ห้อกลางๆที่จับต้องได้ แต่ในรูปนี้อยากจับต้องแต่ไม่ได้ 555555 ...จะบอกว่าแบรนด์พวกนี้ถูกกว่าบ้านเราพอสมควรนะ โปรน่ารักด้วย ไปทีไรต้องได้อะไรติดกลับมาทุกที คราวนี้ก็ด้วย -*-








ที่นี่อะไรก็ดี .....ว่ามั้ยคะ? อิอิ
ขนาดรถไฟฟ้าใต้ดินยังดีเลยยยยยยยยยย


ปล. ชั้นไปไต้หวันคุยโทสับบ่อยมากกกกก (แอ๊บคุยแล้วแอบถ่ายผู้ อิอิ)












ได้ความจากพี่ X ว่า ถ้าจะดูวิวตึกสวยๆเราต้องไปขึ้นเขาช้าง (象山) ดูจากมุมสูง Birdeyeview นะเธอว์ นางกล่าวววว....ดังนั้นแล้ว ชะและตุ๊ดที่เหลือก็พร้อมค่ะ เพราะเราไม่มีที่ไหนต้องไปต่อแล้ว กะว่าดูวิวแล้วก็ไปสนามบินกัน








แต่ๆๆๆๆๆ.....คุณคะ !!!!!!!!!!!
มันชันในระดับหนึ่ง แต่นั่นไม่เท่า....เมื่อไหร่จะถึง?!!!!!!!! หลอกชั้นเป็นช่วงๆว่าจะถึง แต่ก็ไม่ถึงซักที จน 2ตุ๊ดถอดใจ และรออยู่ตีนดอยค่ะ 5555555











เราเชื่อว่า ไหนๆก็มาละ ขึ้นสิวะ....แหมมม










ที่เห็นไม่ใช่เหงื่อ.......ยางตายค่ะ !!!











หลังจากกลับลงมา ก็แวะกินน้ำกินท่า กินหนมกันที่ Family mart ด้านล่าง แล้วต่อรถไปสนามบินกัน








สภาพจริงหลังกรำศึกมา 5555555 อายแต่เป็นเรื่องจริง #มันเรียลมาก









สภาพตอนตุ๊ด ยัดของที่ซื้อมาลงกระเป๋า ....กล้ามากเอากระเป๋าใบเท่านี้มา แล้วยังซื้อของเพิ่มด้วย





ความอัปยศฝนชีวิตของเรายังไม่จบ เราพยายามเดินหาโฮสเทลหรืออะไรซะที่ที่พอจะแวะอาบน้ำได้ เพราะเหนียวตัว เหงื่อโทรกายมาก.....แต่ ไม่มี !!!!! คือที่พักละแวก Taipei main station เต็มหมด ไอ้ที่พอมีก็ไม่เปิดให้พักชั่วคราว เดินวนไปค่ะ เหนื่อยจากขึ้นเขาไม่พอ มาเหนื่อยเดินแบกกระเป๋าหาที่อาบน้ำอีก


สุดท้าย ถอดใจค่ะ ไม่อาบก็ไม่อาบ...ถือเป็นความโชคร้านของ ผดส ไฟลท์เช้าที่กลับพร้อมเราละกันที่มีขยะเปียกอยู่บนเครื่องลำเดียวกัน 5555555



คืนนี้เราต้องนอนสนามบินกันค่ะ เพราะกลับไฟลท์เช้ามากกกกกกก
ซึ่งเป็นประสบการณ์การนอนสนามบิน (จริงจัง) ครั้งแรกของทุกคน....แต่ไม่ได้มีแค่เรานะที่นอน เพราะมีอีกหลายยชีวิต ใครมาถึงก่อนก็เลือกที่นอนกันก่อน

เราเลือกนอนบริเวณใกล้เคาท์เตอร์เช็คอินฝั่ง Inter' กว้างขวางใช้ได้ แต่ หนาววววววว
จะซื้อของก็ต้องเดินนนนลงไป Family mart ด้านล่าง ...นอนไปหนาวไป แถมเหนียวตัวชิบเป่ง เพราะเดินขึ้นเขามาแล้วไม่ได้อาบน้ำ 555555














แคทวอคของนาง (ทางเดินไปเกท)






ดีใจจะได้กลับบ้าน สภาพแต่ละคน ดูไม่จืด







โชคดีที่ได้บินกับ Vair อีกครั้ง ก่อนที่สายการบินนี้จะยกเลิกไปหลังจากเรากลับมาได้ไม่นาน
เป็นสายการบินที่น่าร้ากกกกกค่ะ อิอิ

ทริปนี้ทุกคนแฮปปี้ กลับมาพร้อมความสุข.....สีข้างชะนีนี่แสบมาก เพราะเวลามีผู้แซ่บๆผ่านมาจะมีการสะกิดกัน (ถึงขั้นแสบสีข้าง 555)..... ชีวิตมีสีสันมากกกกไต้หวัน

และแน่นอนว่า มีทริปหน้ากับบรรดาตุ๊ดๆแน่นอนค่ะ บั๊ยยยยยย