Group Blog
 
 
พฤศจิกายน 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
252627282930 
 
26 พฤศจิกายน 2550
 
All Blogs
 
คนดีที่สุดของเรา 1


เราแค่อยากระบาย...



รูปเนี้ยถ่ายเมื่อวันเข้าพรรษา ปีนี้เอง

คุณพ่อเราท่านปวดหลังอย่างรุนแรง อันเนื่องมาจากโดนรถเมย์กระชาก

2 กรกฎาคม 2550
เราพาท่านไปโรงพยาบาลตำรวจเพื่อตรวจสอบว่ากระดูกสันหลังท่านเป็นอะไรรึป่าว
หมอให้เอ็กซเรย์กระดูกสันหลัง ผลออกมาวันที่ 5 กรกฎาคม 2550 กระดูกสันหลังคดและบิ่นเล็กน้อย
ก็จัดยาบำรุงกระดูกมาให้ และแจ้งว่าพ่อเราเป็นนิ่วในถุงน้ำดี

5 กรกฎาคม 2550
ไปพบหมอแผนกศัลยกรรมที่โรงพยาบาลตำรวจเพื่อทำการรักษานิ่ว
หมอให้ไปอัลตราซาวน์และเจาะเลือด

9 กรกฎาคม 2550
มาทำการอัลตราซาวน์ เพราะต้องงดน้ำ และอาหารหลัง 24.00 น. เป็นเวลา 6 ชั่วโมง
หมอแผนกอัลตราซาวน์ บอกว่าที่ฟิมล์ มองเห็นตับไม่ปกติให้ไปเอ็กซเรย์คอมพิวเตอร์เพิ่ม

12 กรกฎาคม 2550
ผลฟิมล์ออกมาว่า พ่อเราเป็นเนื้องอกที่ตับ ประมาณ 10 เซนติเมตร
หมอแจ้งว่ายังไม่ทราบว่าเป็นเนื้อร้ายประเภทไหน ขอส่งไปตรวจตับ
ที่สถาบันมะเร็งข้าง โรงพยาบาลรามา แค่ต้องการให้เช็คว่าตับทำงาน
ดีอยู่หรือไม่ จะได้ทำการผ่าตัด วันนี้พ่อเราก็โดนเจาะเลือดเพื่อตรวจอย่างละเอียด

19 กรกฏาคม 2550
ผลเลือดออกมา 100 % พ่อเราเป็นมะเร็ง ส่วนตับยังทำงานดีอยู่
หมอที่สถาบันมะเร็งบอกว่าสามารถทำการผ่าตัดได้
บอกตรงๆ น๊ะวันนี้ ทั้งเราและพ่อแย่มากๆ พ่อเราบอกว่า
ไม่เป็นไรลูก พ่อรับได้ แต่สีหน้าท่านเป็นกังวลอย่างมาก
คุยกะหมอ น้ำตาก็คลอตลอด เราก็ได้แต่เพียงโอบกอด
และให้กำลังใจว่าเราต้องสู้น๊ะพ่อ คุณพ่อเราท่านทำได้เพียงแต่พยักหน้า
หมอจะนัดทำการรักษาโดยวิธีผ่าตัด แต่คุณพ่อเราเป็นโรคความดันโลหิตสูง
คุณหมอบอกว่าคุณลุงอายุเยอะ มีโรคส่วนตัวอีก การผ่าตัดเป็นอะไรที่เสี่ยง
พอสมควร ให้คิดกันอย่างละเอียดก่อนที่จะตอบตกลง
และต้องมีการตรวจร่างกายอย่างละเอียดจากหมออายุรกรรม
ปรากฎว่าความดันพ่อ ขึ้นมาถึง 169 ซึ่งหมออายุรกรรมบอกว่าผ่าตัดไม่ได้
ความดันจะต้องไม่เกิน 134 ถึงจะผ่าตัดได้
ได้ยาลดความดันมาทานดูผลความดัน 1 สัปดาห์

26 กรกฎาคม 2550
ความดันลดลงเหลือ 133 แต่ผลการตัดสินใจของลูกๆ คือไม่ผ่าน
เราในฐานะ ลูกคนโต ที่พาพ่อไปหาหมอตลอดตั้งแต่วันแรกจนถึงวันนี้
ปรึกษาหมอว่า ถ้าไม่ผ่าตัดมีวิธีไหนบ้างมั้ย หมอบอกว่าฉีดเคมี
เพื่อคุมไม่ให้อาการลุกลาม แต่สุดท้ายก็ต้องผ่าตัดทิ้งอยู่ดี
แต่ถ้ามันเล็กลง ระยะเวลาผ่าตัดก็ลดลงตามไปด้วย...
ตกลงทำโดยการฉีดเคมี 17 สิงหาคม 2550 หมอนัดทำเคมี
โดยให้ไปนอนพักร่างกายที่โรงพยาบาล 15 สิงหา
หลังจากกลับมาจากโรงพยาบาลพ่อก็เครียดเหมือนเดิม
นอนไม่หลับ กังวลใจตลอดเวลา พวกเราก็ได้แต่ปลอบใจท่าน
แต่พวกเราซิร้องไห้กันตลอด แทบทุกวันก็ว่าได้ ก็รู้ๆ กันอยู่
โรคนี้ มันมีแต่เยียวยาให้เค้าอยู่กับเราให้นานที่สุด
อาการของพ่อเรามันมีแปลกๆ อีกและ

5 สิงหาคม 2550
เช้ามาพ่อบอกว่าเท้าพ่อทั้งสองข้างมันชาจังเลยลูกเหมือนเป็นเหน็บชา
แต่ที่แปลกก็คือเป็นพร้อมกันทั้งสองเท้า

6 สิงหาคม 2550
พ่อบอกว่ามันขึ้นมาถึงน่องแล้วน๊ะลูก
มันคืออะไร พ่อก็คงยังไม่อยากไปโรงพยาบาล

7 สิงหาคม 2550
มันเริ่มชามาถึงหัวเข่าแล้ว เราก็ว่ามันไม่ไหวแล้วพ่อต้องไปหาหมอได้แล้ว
คุณพ่อเราตกลงที่จะไปหาหมอ

8 สิงหาคม 2550
รอพบหมอแผนกกระดูก เพื่อตรวจเช็คว่ากระดูกมีปัญหาอะไรที่มีอาการชาเกิดขึ้น
10.00 น. คุณหมอบอกว่ามันแปลกกับอาการที่เกิดขึ้น ถ้าเกี่ยวกับกระดูกสันหลัง
มันน่าจะเป็นเพียงข้างใด ข้างหนึ่ง เกิดอาการขึ้นมาทั้งสองข้าง คิดว่าน่าจะเกี่ยวข้อง
กับมะเร็ง ก็ส่งไปตรวจ MRI กระดูกสันหลัง ซึ่งค่าใช้จ่ายสูงพอสมควร ก็อยู่ที่
16,000 บาท 15.00 น. คุณหมอทำ MRI แจ้งว่าพบความผิดปกติของกระดูกสันหลัง
จะต้องฉีดยาเข้าไปถึงจะทราบว่ามันคืออะไร ค่ายา 2,800 บาท
ระยะเวลาการตรวจตั้งแต่ 15.00-17.00 น. เป็นเวลาที่ยาวนานมาก
เพราะต้องเข้าไปในแคปซูล คุณพ่อเราบอกว่าเหมือนเข้าตู้อบยังงัยยังงั้นเลย
คุณหมอแจ้งว่าผลจะออก 15 สิงหาคม 2550

8-13 สิงหาคม 2550
เป็นอะไรที่ทุกคนแย่กับการรอผลตรวจ กับมะเร็งก็แย่พอแล้ว
พวกเราก็บอกให้คุณพ่อสู้ พวกเราจะสู้ไปด้วยกันน๊ะพ่อน๊ะ...
ใครแนะนำอะไรก็ทำหมด... ปล่อยปลาเท่าอายุคุณพ่อ
ถวายสังฆทาน 9 ชุด บังสกุลเป็น บังสกุลตาย ต่อชะตา สะเดาะคราะห์
คือทุกทางที่ทำแล้วมันสบายใจ และมีกำลังใจที่จะสู้ต่อ ก็ทำทุกอย่าง

14 สิงหาคม 2550
คุณพ่อเรามีอาการชาขึ้นมาถึงสะโพก ควบคุมระบบการขับถ่ายไม่ได้
และวันนี้ 21.00 น. เราก็พาพ่อส่งโรงพยาบาล เพราะท้องมีอาการบวมมาก
22.30 น. ถึงโรงพยาบาลตำรวจ เค้าพาพ่อเราเข้าห้องฉุกเฉิน
23.30 น. เรียกเราเข้าไปพบหมอเวร แจ้งว่าคุณลุงฉี่ไม่ออก ได้ทำการสวนฉี่ให้แล้ว
ขอคุยกับหมอเจ้าของไข้ก่อนว่าจะให้นอนโรงพยาบาล หรือให้กลับ
24.30 น. แจ้งว่าหมอให้นอนโรงพยาบาล สอบถามเราว่าจะให้อยู่ห้องรวม หรือห้องพิเศษ พ่อเราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ควบคุมระบบขับถ่ายไม่ได้ ก็จะต้องอยู่
ห้องพิเศษ แต่เค้าบอกว่าขอเช็คห้องก่อน
02.00 น. มีห้องพิเศษเหลือเพียงห้องเดียวและเป็นห้อง VIP ซึ่งค่าใช้จ่ายอยู่ที่
2,200 บาท ต่อวัน
02.45 น. ถึงห้องพิเศษ ที่ตึกฉุกเฉินชั้น 11

15 สิงหาคม 2550
ผ่านไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

16 สิงหาคม 2550
เราทำเรื่องย้ายห้องมาพักที่ห้องพิเศษธรรมดา ค่าห้องอยู่ที่1,250 บาท ซึ่งอยู่ชั้นเดียวกัน
10.00 น. คุณหมอวารินทร์ เจ้าของไข้ แจ้งว่าหลังจากที่ดูฟิล์มมันเป็นเรื่องของกระดูก
ก็จะให้หมอกระดูกเป็นคนวินิจฉัย ส่วนเรื่องมะเร็งคงยังทำการรักษาไม่ได้
เนื่องจากคนไข้ ร่างกายไม่พร้อมในการรักษา

17 สิงหาคม 2550
ผ่านไปครึ่งวันพ่อเราก็เริ่มหงุดหงิดว่าทำไม่ไม่มีหมอท่านใดมาบอกว่ามันเป็นอะไร
เราไปติดต่อพยาบาลเวร ได้รับแจ้งว่า แจ้งไปแผนกกระดูกแล้ว รอคำตอบจากหมอ
กระดูกว่าใครจะมาทำการรักษา

18 สิงหาคม 2550 วันเสาร์กับราชการ
19 สิงหาคม 2550 วันอาทิตย์กับราชการ
20 สิงหาคม 2550 วันชดเชยของราชการ

21 สิงหาคม 2550
เรากับน้องๆ ปรึกษากันว่า แค่พ่อรู้ว่าเป็นมะเร็งอาการพ่อก็ทรุดหนักขนาดนี้
ถ้าสิ่งที่หมอสงสัยว่ามะเร็งมันจะลามไปที่กระดูกสันหลัง ขอไม่บอกพ่อได้มั้ย
กลัวพ่อจะทรุดหนักไปกว่านี้ คุณหมอพรชัย ก็เห็นด้วยก็เลยไม่ได้บอกคนไข้
แต่ผลสรุปมันก็เป็นเรื่องเดียวกัน พ่อเราเป็นมะเร็งตับและลุกลามมาที่กระดูกสันหลัง
หมอวารินทร์และหมอพรชัยพูดเหมือนกันว่าไม่สามารถทำการรักษาได้
คงต้องรออย่างเดียว

22-31 สิงหาคม 2550
ยังคงนอนอยู่ที่โรงพยาบาลตำรวจ เพราะพ่อเราไม่ยอมกลับบ้านขอสุดท้ายที่นี่แล้วกัน
เราและน้องวิ่งเต้นเพื่อเปลี่ยนโรงพยาบาลเพราะตลอดเวลาที่อยู่ที่นี่ก็แค่ให้น้ำเกลือกับสวนฉี่
ติดต่อโรงพยาบาลวลัยลงกรณ์ ตรงคลอง 10 ซึ่งเป็นสถาบันมะเร็งโดยตรง
ได้รับคำตอบว่าโรคนี้ไม่สามารถรักษาให้หายได้แต่ยืดระยะเวลาให้คนไข้
อยู่กับเราให้นานที่สุดและทรมานน้อยที่สุด วิธีรักษาของพ่อเราคือทำเคมี
ซึ่งแน่นอนว่าเป็นอัมพาตทันที ซึ่งพ่อเราก็เดินไม่ได้แล้ว แต่ที่นี่ไม่มีระบบนอนโรงพยาบาล นัดทำการรักษาอย่างเดียว ทางโรงพยาบาลนัดเรา 12 กันยายน 2550
ก็โอเคตามที่ตกลงกันไว้

1-11 กันยายน 2550
พ่อเรากลับมาพักที่บ้าน โดยอาการชาขึ้นไปถึงหน้าอก ทำให้พ่อเราไม่ปวดที่หลัง
และที่ท้อง เพราะความชาช่วยไว้ไม่ให้ทรมาน 11 กันยายน ทางโรงพยาบาล
วลัยลงกรณ์โทรมาหาเราขอเลื่อนการนัดเนื่องจากหมอติดงานด่วน
โดยขอเลื่อนเป็น 12 ตุลาคม 2550 ทำไมระบบราชการถึงได้แย่ขนาดนี้
เข้าใจว่ายังงัยพ่อเราก็อยู่ไม่นาน แต่ในฐานะที่เราเป็นลูกก็ต้องทำให้ดีที่สุด
พ่อเราตัดสินใจไม่รักษา เพราะยังงัยก็ไม่หาย เพราะคนที่ทำเคมีแล้วจะทรมานมาก
และของพ่อเราเป็นอะไรที่ต้องปวดและทรมานมากกว่าเพราะลงกระดูกสันหลัง

18 กันยายน 2550
เรากลับไปที่โรงพยาบาลตำรวจอีกครั้งเพราะต้องขอใบรับรองแพทย์จากหมอ
เพื่อทำเรื่องลาออกจากงานให้พ่อ คุณหมอบอกว่าพวกคุณต้องทำใจน๊ะ
ผมว่ายังงัยก็ไม่ถึงเดือน 18 ตุลาคม 2550 แน่นอน

29 ตุลาคม 2550
เข้าโรงพยาบาลเอกปทุม เนื่องจากพ่อเรามีไข้ขึ้นสูง ทานอะไรไม่ได้ ท้องเสียทั้งวัน
หมอบอกว่าพ่อเราติดเชื้อจากสายสวนฉี่ ก็นอนอยู่เอกปทุม 5 วัน ตรวจแล้ว
ไม่พบเชื้อก็กลับบ้านได้ 3 พฤศจิกายน 2550 บ่าย 3 โมงก็ได้กลับบ้าน

18 พฤศจิกายน 2550
พ่อเรามีอาการดังกล่าวอีก มีไข้ขื้นสูง อาเจียน ท้องเสีย พวกเราก็โทรตามรถ
โรงพยาบาลมารับ

วันนี้ 19 พฤศจิกายน 2550
พ่อเรายังคงมีชีวิตอยู่

***วันนี้มีพ่ออยู่ไม่ว่าจะต้องดูแลกันขนาดไหน ไม่ว่าจะลำบากยังงัย
***เราว่าก็ยังดีกว่าเลิกงานกลับมาแล้วไม่มีพ่ออยู่ มันคงแย่มากกว่า




Create Date : 26 พฤศจิกายน 2550
Last Update : 22 ธันวาคม 2552 16:35:01 น. 4 comments
Counter : 835 Pageviews.

 
เอาใจช่วยนะคะ ขอให้คุณพ่อหายเร็วๆ ค่ะ

มีความสุขในวันจันทร์ค่ะ



โดย: AmANiYA วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:31:46 น.  

 
เห็นใจคุณเจ้าของบล็อกค่ะ ขอให้คุณพ่อมีกำลังใจเข้มแข็งและสู้ให้ผ่านโรคร้ายนี้ไปให้ได้นะคะ


โดย: โบค่ะ (bodiamond1 ) วันที่: 26 พฤศจิกายน 2550 เวลา:15:36:07 น.  

 
ทำดีเพือพ่อนะ ดีแล้ว

สู้นะ อดทน เป็นกำลังใจให้นะ


โดย: strom999 IP: 203.149.16.36 วันที่: 14 มกราคม 2552 เวลา:22:33:57 น.  

 
ทำดีเเล้ว


โดย: ยูทธ IP: 223.205.202.31 วันที่: 12 มกราคม 2554 เวลา:18:55:51 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

jamsaimak
Location :
นครราชสีมา Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Gratai Noi

Friends' blogs
[Add jamsaimak's blog to your web]
Links
 

MY VIP Friend

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.