Hallstatt ที่สุดในดวงใจ
หลายปีก่อน เราพยายามจัดสรรเวลาว่างค่ะ เป็นการแลกเวรออก+ ย้ายตารางตรวจ+ ลาพักร้อนที่สะสมไว้ สิริรวมแล้วหาวันที่เป็นเวลาว่างจริงๆได้ 21 วัน ไม่คิดเหมือนกันว่าจะลาได้นานขนาดนี้ หลังจากกันเราและแฟนก็เริ่มปักหมุดค่ะ ว่าเราจะไปประเทศไหนดี ไปที่ละกี่วัน และไปยังไง แฟนบอกว่าเราหาคนไปด้วยอีกซักสองสามคนไม๊ เราก็เลยได้ชวนเพื่อนสนิทอีกสองคนไปด้วยค่ะ ซึ่งเค้าสองคนก็เป็นแฟนกัน ทริปนี้เราเลยไปแบบ Double date ต้องขอบอกว่า แนะนำเลยค่ะ สำหรับคนที่อยากไปกะแฟนแต่ไม่อยากไปสองคน ให้ชวนอีกคู่นึงมา เพราะมันดีมากค่ะ ช่วงเวลาชิลล์ๆสบายๆ คุณก็จะได้ไปกันแค่สองคน (เพราะอีกคู่นึงเค้าก็อยากสวีทกัน) แต่ช่วงเวลาที่ต้องช่วยกันคิดแก้ปัญหาหรือตัดสินใจ คุณก็จะได้เพื่อนมาช่วยคิดอีก 2 คนค่ะ ดีจริงๆสรุปแล้วเรา 4 คน ตัดสินใจกันว่า เราจะไป Austria, Czech และ Hungary ค่ะ เป็นทริป 21 วันตะลุยยุโรปเกือบตะวันออก ของพวกเรา Double date !! เย้!!! (สำหรับทริป 21 วัน Double date on tour ไว้จะมาเล่ารายละเอียดให้ฟังนะคะ วันนี้ขอเล่าเรื่อง Hallstatt ก่อน ชอบมากกก)คุยกะแฟนว่า เธอๆ เธอชอบเมืองไหนสุด กะว่าคำตอบน่าจะเหมือนกัน คือ Hallstatt เปล่าค่ะ เธอชอบ Innsbruck ถามเธอว่าทำไมอ่า.... เธอบอกว่า ก็เธอเป็นคนเตรียมทริป Innsbruck จบ.... โอเคค่ะ ไม่ว่ากันแม้ว่าเหตุผลจะดูงงๆ แต่ก็โอเคค่ะโม้มาซะนาน เรามาเที่ยว Hallstatt กันเถอะค่ะเอารูปว่าเรียกน้ำย่อย รูปอาจไม่สวยเพราะถ่ายด้วยกล้อง compact ธรรมดา ตอนนั้นยังไม่มี DSLR เป็นขอตัวเอง เสียดายยากๆHallsttat เป็นเมืองเล็กๆอยู่ในประเทศ Austria ค่ะ เมืองอยู่ริม ทะเลสาป Hallstatt มีคนอยู่น้อยค่ะ แค่ 500 กว่าคนเอง การสร้างบ้านของประชาชนเมือง Hallstatt เค้าขะสร้างขึ้นไปตามแนวเขา และหันหน้าออกไปทางทะเลสาปอย่างที่เห็นในรูปค่ะเราเดินทางมาเมืองนี้โดยรถไฟ หลังจากนั้นต่อเรือเพื่อข้ามมายังตัวเมือง ฝรั่งหัวทองเต็มไปหมด มีหัวดำแค่เรา 4 คนค่ะพอขึ้นฝั่งแล้วเราก็จะเห็น จัตุรัสกลางเมือง เล็กๆ กำลังน่ารักเล็กค่ะจากนั้นเราก็กางแผนที่เพื่อตาเป้าหมายของเรา ที่พักค่ะ ที่พักในเมือง Hallstatt เป็น Homestay ทั้งหมด เค้าบอกว่าเป็นการส่งเสริมรายได้ให้กับชาวเมืองของเค้าและจะได้ซึบซับความเป็น Hallstatt ให้ได้มากที่สุดค่ะอันนี้เป็นบ้านพักของเราค่ะชะโงกหน้าออกจากตัวบ้านค่ะ เป็นไงคะ เหมือนอยู่บ้านไม๊ มีราวตากผ้า มีบัวรดน้ำด้วยบ้านที่ไปพักเป็นบ้านของคุณลุงคุณป้าคู่หนึ่งค่ะ แกน่ารักมาก บ้านแกมี 4 ห้องค่ะ โดย 2 ห้องแกจะใช้ในการต้อนรับแขกอย่างพวกเรา กลายเป็นว่า บ้านนี้ เราเหมือนเป็นลูกเป็นหลานแก 4 คนมาเยี่ยมแกค่ะ แกทำขนมปัง นมร้อน แฮมไว้ให้กินด้วยนะคะน่ารักมากกกเตียงดูอบอุ่นมากเลยค่ะ เหมือนอยู่บ้าน ซักแป๊บก็รกเหมือนห้องที่บ้านค่ะ สังเกตจากการวางเสื้อเป็นจุดเริ่มต้นของความรกหลังจากนั้นเราออกเดินทางไปเที่ยวเหมืองเกลือค่ะ ระหว่างทางก็มีคนให้เห็นประปราย เป็นเมืองที่เงียบสงบค่ะ ชอบมาก ไปอยู่แล้วรู้สึกว่าชีวิตเราเดินช้าลง ค่อยๆเดิน เดี๋ยวก็ถึงค่ะเจอร้านขายของเล็กๆ แวะซะหน่อยทางขึ้นเหมืองเกลือต้องนั่งกระเช้าขึ้นไปค่ะ สูงและเสียวดีค่ะโอ่ย.... มองลงไปมันใจหวิวๆค่ะบรรยายกาศทางเข้าเหมืองเกลือสวยดีมั๊ยค่ะ ตอนแรกไอ่เราก็คิดว่าจะเหมือนกับเหมืองถ่านหิน ดำๆเขรอะๆ ที่ไหนได้ สะอาดค่ะทุกคนพอเข้าไปเค้าก็จะมีบรรยายเกี่ยวกับเหมืองเกลือ นู้นนี่นั้น... จำไม่ได้แล้วค่ะ แต่ที่จำได้คือ..... สไลเดอร์สนุกมากค่ะออกจากเหมืองเกลือเราก็มาเดินเล่นในตัวเมืองค่ะ สิ้นค้าที่ของของเมืองนี้ส่วนใหญ่เป็นงาน Hand made ทำจากไม้ค่ะ ดูดูประณีต น่ารักสวยงามสงบมากค่ะ คนน้อย ทุกคนค่อยๆเดินช้าๆแล้วเราก็ได้ยินเสียงท้องเราร้องค่ะ เลยแวะเข้าร้านอาหารที่คุณแฟนเธอ review มาว่าอร่อยเหาะ และเมนูที่ต้องกินคือ..... ปลาเทร้าย่างเกลือค่ะอร่อยมากกกก มากกกกๆ มากกกกๆๆ ที่สุดนะ ต้องลอง พูดแล้วยังกลืนน้ำลายหลังจากอิ่มพวกเราก็เริ่มคิดถึงเตียงนอนค่ะ ขอกลับไปยืดเส้นยืดสายบนเตียงนอนดีกว่า นี่คือวิวจากหน้าต่างห้องของเราสองคนค่ะ สวยจนไม่อยากนอน เลยคุยกับคุณแฟนเธอว่า เธอๆเราลากเก้าอี้มานั่งดีคนเดินไปมา กินบรรยากาศกัน เธอตกหลุมค่ะ เอ๊ยๆไม่ใช่ เธอตกลงค่ะ เราเลยนั่งคุยกันอยู่ริมหน้าจน พระจันทร์ขึ้น น่าจะเป็นครั้งแรกของเราสองคนเลยที่เดียวที่ได้นั่งคุยกันสองคน เงียบๆ บรรยากาศสุดแสนจะโรแมนติกขนาดนี้ เรื่องที่คุยก็สัมเพเหระ เรื่องบางเรื่องซ้ำๆ เอามาคุยใหม่ ก็ยังขำกันได้สองคน (คนอื่นอาจไม่ขำแต่ไมเราสองคนขำหว่า) บางช่วงเงียบ ต่างคนต่างนั่งดูดาว แต่ก็อบอุ่นใจอย่างบอกไม่ถูก เป็นความเงียบที่อบอุ่นมากค่ะHallstatt อาจไม่ใช่สถานที่ที่สวยที่สุด โรแมนติกที่สุด แต่สำหรับเราแล้ว มันคือที่สุดค่ะ