หนีเมืองไทย ไปเรียนเยอรมัน (2) (Albert Ludwigs University of Freiburg)
ตื่นมาด้วยความตกใจมากเพราะดูนาฬิกาใน PocketPC 11 โมงแล้ว เฮือก... เมื่อวานเพื่อนคนเยอรมันนัดไว้อย่างดิบดีว่า "ยูๆ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้ไอจะพายูไปที่ที่ยูต้องไปเรียนก่อนล่ะกัน ไอกลัวยูหลง พรุ่งนี้ไอจะมารับที่ใต้หอ 7.10 นะจ๊ะ" ตายแล้วๆๆๆ วันแรกก็สายเลยหรอเนี่ยเรา เหงื่อแตกรีบลุกมาจากที่นอนอย่างรวดเร็ว....มองไปที่หน้าต่าง เอ๊ะ! ทำไม 11 โมงยังมืดๆอยู่เลย สติเริ่มมา อ้อ...รู้แล้วเราลืมเปลี่ยนนาฬิกาที่ PocketPC นั้นเอง โฮ๊ะ โฮ๊ะ นับย้อนหลังไป 5 ชั่วโมง เพิ่ง 6 โมงเอง นอนต่อดีกว่า คร่อกๆๆๆผ่านไป 1 ชั่วโมง นึกในใจว่าเวลาตอนเช้านี้มันเดินไวกว่าเวลากลางคืนแน่ๆ นอนต่อ 1 ชั่วโมง ไวเหมือนนอนไปแค่ 1 นาที 7 โมงแล้ว 7 โมงแล้วจ้า ตื่นดีกว่า ลุกไปล้างหน้าแปรงฟันที่อ่างล้างหลังในห้อง แกล้งทำเหมือนอาบน้ำแล้ว... ออกมาข้างนอก ด้านล่างหอ ตอนเช้าหนาวดี ชิวๆ ทนได้ ชอบอยู่แล้วอากาศหนาวๆ เพราะเรามาจากเมืองร้อน ยืนได้สัก 1 นาที ไม่ไหว จะแข็งตาย รูดซิปเสื้อแจ๊กเก็ตดีกว่า ก่อนที่จะแข็งตายอยู่หน้าหอ เพื่อนมาตรงต่อเวลามากๆ 7 โมง 10 นาที 0 วินาที ฝรั่งนี้ตรงต่อเวลาจริงๆจากหอไปโรงพยาบาลของมหาวิทยาลัย คือ University Medical Center Freiburg (Universitätsklinikum Freiburg) ไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินประมาณ 7 นาทีได้ เดินสบายๆเพราะไม่ร้อน แต่ด้วยความที่เตี้ย แต่เพื่อนฝรั่งสูงยังกับเสาไฟฟ้า เค้าเดินชิวๆแต่เราแทบวิ่ง....รูปบริเวณรอบๆโรงพยาบาล Universitätsklinikum Freiburgไปถึงก็ไปเข้า Conference ของแผนกจักษุวิทยา (Universitats-Augenklinik Freiburg) Conference เริ่มตอน 7.30 น คนมาก่อนเยอะมาก นั่งกันเต็มห้อง เฮือก... น่ากลัวจัง ไม่รู้จักใครเลย ไม่รู้ใครเป็นอาจารย์ใครเป็นนักเรียน เพราะหน้าแก่พอๆกันหมด ทุกคนใน Conference พูดภาษาเยอรมันหมด บรา บรา บรา บู บู บู ฟังไม่รู้เรื่องซักคำ แต่โชคยังเข้าข้าง เพื่อนนั่งข้างแปลให้ฟังบ้าง หลังจาก Conference เสร็จ ก็ได้เจออาจารย์ที่ปรึกษาแล้ว ชื่อ Prof Dr. med. Hansjürgen Agostini น่ารักมาก ใจดีสุดๆเขาถามว่าสนใจทางด้านไหนก็เลยบอกเขาไปว่าขอไปดูธนาคารกระจกตา (LIONS Hornhautbank der Regio und Baden-Württemberg) เขาเลยพาไปห้อง Eye banking ดูไฮโซดี เครื่องไม้เครื่องมือสมัยมาก แต่พอเข้าไปใน Eye banking ไม่เจอหมอเลยซักคน เจอแต่เจ้าหน้าที่คล้ายๆเจ้าหน้าที่เทคนิค น่ารักมากช่วยเหลือดีมากๆ เขาพูดภาษาอังกฤษได้เล็กๆน้อยๆ แต่ไม่คล่องมาก เค้าพยายามอธิบายๆๆๆ ทุกอย่างที่เค้ารู้ ประทับใจจัง พวกพี่เค้าเวลาอธิบายชอบติดภาษาเยอรมันมาให้งงเล่นว่า แปลว่าอะไรหว่า.... ทำหน้างงให้เค้ารู้ดีกว่า... แล้วเค้าก็รู้ เค้าก็ทำหน้าตกใจว่าหลุดภาษาเยอรมันออกมา หัวเราะกันใหญ่... พี่เจ้าหน้าที่ ทำไปด้วยอธิบายไปด้วย เยอรมันมั่ง อังกฤษมั่งปนๆกันไปรูปกระจกตาใน Mediaกลางวันไปกินข้าวเหงาๆคนเดียว เพราะที่ Eye banking ไม่มีนักเรียนเลย มีแต่อาจารย์ พวกนักเรียนจะออก OPD กันหมด สงสัยจะเฉพาะทางเกินไปจริงๆ อาหารกลางวัน ใช้วิธีจิ้มเอา ที่เขาถามมาก็พอฟังออกบาง พอตอบได้เพราะบางคำก็คล้ายๆภาษาอังกฤษ แต่ใช้จิ้มเอานี้แหละง่ายสุด สรุปกินแฮมเบอร์เกอร์ไก่ทอด(ตอนแรกคิดว่าปลาเลยสั่ง) ก็อร่อยดี ขนมปังมื้อแรก ....แต่ขนมปังเปลือกแข็งมาก...กัดแทบไม่ลง ฟันแทบหัก แต่ไม่กล้าปาทิ้งเพราะแพงตอนบ่ายนี้ไปดูการตัด cornea จากศพ หมอที่กำลังเรียนต่อ Fellow ชื่อฟิลลิป หนีบไปด้วย นั่งรถเค้าไปเลย ฟิลลิปอธิบายดีมากๆตั้งแต่เริ่มจนจบ สยองดี เห็นศพฝรั่งด้วย เป็นมะเร็งปอด แล้วตาย เห็นทุกขั้นตอนเลย ดีใจจัง ไม่เคยได้เห็นเลยที่เมืองไทยไม่ลงรูปนะจ๊ะ เดี๋ยวจะสยองเกินไป4 โมงปั๊บเลิกปุ๊บ ฟิลลิปบอกกลับได้แล้วเลิกงานแล้ว.... ห้าาาา...หมดไปหนึ่งวันแรกรูปนี้เป็นวิวที่ถ่ายจากหน้าต่างที่หอเย็นนี้ทำกับข้าวกินเองดีกว่า เพื่อความประหยัดเมนูคือ...........มาม่าผัด ไข่เจียว ต้องลงไปทำที่ห้อง Common room ชั้น 3 ตีไข่ป๊อกๆๆ ผัดมาม่า ซู่ซ่าๆๆๆห๊อม หอม แต่เพื่อนฝรั่ง ทำจมูกฟุดฟิด ถามว่า "เธอๆนั้นอะไรหรอ กลิ่นแปลกๆ" แป่ววว.... หอมเรา เหม็นเค้า