Sawasdee Samui : Six Senses Hideaway 26-28 June 2009

สำหรับทริปนี้เป็นครั้งที่สองที่เราไปเยือนสมุย
ครั้งแรกไปเมื่อเดือนเมษาที่ผ่านมา
ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้ไปเยือนสมุยเป็นครั้งที่สองได้เร็วขนาดนี้


ขอบคุณโปรดีๆ จากการบินไทย เกือบจะตัดใจไม่ไปแล้วนะเนี่ยยยยย~~
บอกได้คำเดียวว่า ถ้าไม่ไป คงเสียดายอ้ะ


ทริปนี้ไปกะน้องสาวอีกละ ใครจะบ้าจี้กล้าลางานได้บ่อยเหมือนน้องเราละเนี่ยะ


เริ่มเดินทางด้วยการบินไทยนะคะ ไฟล์ TG281 จะเช้าไปถึงไหนเนี่ยะ
ไฟล์นี้ไม่มีจอทีวี พี่แอร์ต้องมาสาธิตวิธีใช้อุปกรณ์ความปลอดภัย
พี่แอร์คนสวยแอบทำไปเขินไป ไม่เหมือนพี่ๆแอร์เอเชีย คล่องมาก

เก้าอี้ที่นั่งได้ติดกับประตู emergency exit ที่วางขากว้างมาก
มนุษย์ 1.5 เมตร อย่างเรากะน้องสาวแทบจะตีลังกาได้ (เวอร์ไป)
ไฟล์นี้มีพี่สจ๊วตมานั่งข้างๆ ด้วย
แอบนับสิวพี่สจ๊วตยังไม่เสร็จ ก็ถึงสนามบินสมุยละ ... ไวจริงๆ




มาถึงสนามบินมีน้องๆ จาก six sense มารอรับค่ะ
วันนี้เราขึ้นรถตู้มานะคะ เพราะมีผู้โดยสารมาถึง 8 คนด้วยกัน!!

เข้ามาถึงตรงบริเวณ front เห็นทะเลแล้วๆๆๆๆ

ตอนขึ้นรถมาน้องเค้าก็เตรียมผ้าเย็นหอมๆ กลิ่นตะไคร้ และน้ำดื่มไว้ให้
พอมาถึงที่ฟร้อนด์ ก็มีเครื่องดื่ม และ กล้วยราดกะทิ ไว้ต้อนรับอีก
สองพี่น้องแย่งกันกินเรียบ....ไม่เหลือซากให้พนง.เสียใจ


ส่งสายตาปิ๊งๆให้เจ้ากล้วย...


กล้วยเอ๊ย เอ็งไม่รอดแน่ๆ (เปลี่ยนเป็นสายตาพิฆาตแทน)


จากนั้น มีการแนะนำ butler ประจำห้องให้เรา
butler เราชื่อน้องปอย น่ารัก แล้วก็ยิ้มสวยด้วย


น้องปอยพาเราไปที่ห้องพัก วันนี้เลขออก villa 46 ค่ะ


ในห้องมีผลไม้ให้ด้วยค่ะ เข้ามาถึงจัดการผลไม้ อย่าให้เหลือซาก
ยกเว้นกล้วยมันยังเขียวอยู่ พรุ่งนี้ไม่รอดแน่ๆ เจ้ากล้วยหอม!!
แผ่นไม้ในรูป ตัวหลับตาเป็นสัญลักษณ์ do not disturb ค่ะ
ส่วนตัวลืมตา แปลว่า จะมารบกวนก็ด๊ายยย


เตียงนอนนุ่มๆ รออยู่ อยากขนกลับบ้าน..(จริงๆ นะ)


เตียงนุ่มๆ เหมาะกะการเกลือกกลิ้ง...






สำรวจห้องกันต่อ ของเล็กๆ น้อยๆ ในห้อง
เล่มๆ นั่นเป็น menu spa / menu อาหาร / แนะนำส่วนต่างๆของโรงแรม
โปรเจคที่โรงแรมทำอยู่ เป็นเกี่ยวกับการรักษาสิ่งแวดล้อม (อะไรประมาณนี้)
ของใช้ในห้องจะไม่มีส่วนประกอบที่เป็นพลาสติกเลยนะคะ
ไม้กวาดอันเล็กๆ เอาไปแขวนหน้าห้อง ถ้าต้องการให้เมดเข้ามาทำความสะอาดค่ะ

น้องลิง adopt ได้ เราไม่ได้รับอ่ะ ที่บ้านมีแล้ว 1 ตัว
น้องปลา ไว้ใส่ยากันยุงตอนกลางคืน
ที่ทับกระดาษรูปมะพร้าว เห็นจากหลายๆ กระทู้ที่ไปเยี่ยม six sense ค่ะ


มาสำรวจห้องน้ำกันบ้าง
อ่างยักษ์ เข้าไปแช่พร้อมกันสองคนได้เลย
แชมพู สบู่ โลชั่น มีให้ไม่อั้น วางไว้ตามส่วนต่างๆ ของบริเวณที่มีก๊อก
เรานับแชมพูได้ 4 ขวด ครีมนวด 4 ขวด สบู่เหลว 5 ขวด lotion 2 ขวด
อะไรจะเยอะขนาดน๊านนน....


สำรวจกันต่อ ในตู้เสื้อผ้า มีไม้แขวนผ้าเพี๊ยบบบ....ชอบจัง
เสื้อคลุมไซด์ฝรั่งมากมาย ใส่ทียาวไปถึงตาตุ่มเลย
ร่ม กระเป๋าชายหาด ยากันยุง สลิปเปอร์ amenities เพียบพร้อมจริงๆ


outdoor shower ฝักบัวฝนตกไม่ค่อยสะใจ
แต่ฝักบัวแบบธรรมดาน้ำไหลสะใจมาก
ห้องสุขา จะปิดประตู แล้วก็รูดม่านปิดก็ได้นะคะ
แต่เราขอเลือก เปิดให้กลิ่นระบายยยย แฮะๆ


ในห้องที่เราพักมีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วย








ตอนเข้าห้องมา เราบอก butler ว่าอยากได้ที่สูบลม
เพราะเรามีปลามา 1 ตัว กะ แพยางอีก 1 อัน
น้องเค้าบอกว่า เอาปลามาเลยเดี๋ยวไปสูบให้ค่ะ
ส่วนแพไม่ต้องรื้อมา ทางรีสอร์ทมีให้
ตอน butler เอาแพมาให้ โอ้วว..แพของรีสอร์ทสวยกว่าของเราอีก






ที่ห้องเรามีนกเอี้ยงมาเล่นน้ำทุกวันเลย นกเอี้ยงหัวสูงนะเนี่ย
มาเลือกเล่นสระ six senses hideaway เนี่ยะ


จากศาลาหน้า pool ในห้อง


จะนั่งก็ได้ จะกลิ้งก็สบาย


ถ่ายจาก pool ขึ้นมาบนบ้าน ทำยืนสวย แต่หน้าตูด


แล้วก็เปลี่ยนเป็นหน้าสวยหน่อย เดี๋ยวตีนกาขึ้นไว




จากเอกสารบนโต๊ะที่สะดุดตาเราก็คือสปาลดราคาค่ะ
เทียบราคาแล้วถูกกว่าสปาที่เราใช้ในกรุงเทพฯอีก
เราเลยรีบโทรไปจองทันใด.....

อยากบอกรีสอร์ทหรูๆ ทั้งหลายอ่ะ ราคาสปา ถ้ามันไม่แพงเว่อร์เกินไป
ก็อยากจะทำนะคะ ใครบ้างละไม่อยากลอง spa ระดับ 5 ดาว
บางทีราคาอูยยยย...ใครจะไปกล้าทำ

มาดูโซนสปาสักหน่อย น้องbutlerเค้าพาไปดูตั้งแต่ตอนเช็คอินแล้ว
มาถึงที่ห้องสปาเค้าก็เสิร์ฟเครื่องดื่มตามเดือนเกิด
ของเรากะน้องเกิดเดือนเดียวกัน ได้น้ำมะตูมมาเหมือนกันค่ะ

ห้องนวดของเราเป็นห้องสปาเบอร์ 5 ห้องวิวสวยมากกกกก
น่าเสียดายตอนนวดได้แต่นอนมองพื้น
แถมน้องคนนวด นวดสะเราเคลิ้มจนน้ำลายแทบจะไหลสะอีก แฮะๆ

ออกมาก็มีเสิร์ฟน้ำอีกรอบ รอบนี้มีกล้วยฉาบที่พนง.บอกว่าทำกันเอง
สองพี่น้องกำจัดเรียบวุธจนแทบไม่ทันถ่ายรูปเช่นเคย


ไปนวดเสร็จก็ต้องกลับเข้าสู่หาความเป็นจริง
คือน้องเรางานยังไม่เสร็จ ขนงานมาทำด้วย มันก็นั่งทำงานงกๆ ไป
ส่วนเราไปยืม dvd มาดูค่ะ นั่งดูสบายยยย สมน้ำหน้าคนทำงานไม่เสร็จไป
อิอิ.....

ตอนหัวค่ำๆ ว่าจะออกไปยืมดีวีดีเพิ่มค่ะ แต่ปรากฎว่าห้องเรามันโดนล็อค
ประตูจากด้านนอกไว้ แอร๊ยยยส์....ใครมาล็อคเนี่ยะ เลยโทรไปบอก butler มาปล่อยหนูออกไปที หนูจะออกไปหาของกิน
พอดีกะแม่บ้านมา turn down ให้ค่ะ (น่าจะมีคำเรียกแทนคำว่าแม่บ้านนะคะ เพราะเป็นน้องผู้ชายหน้าเด็กๆ มาทำห้องให้ค่ะ)
น้องมาถามว่า ใครล็อคประตูครับ เอ่อ พี่ก็ไม่รู้เหมือนกันจ้ะ

turn down แล้วห้องน่านอนเชียว น้องปลากะแพยางไม่ได้เก็บเข้ามา
ขี้เกียจไปเดินตามฝนเก็บ หวังว่าคงไม่โดนฟ้าผ่าใส่ละกันนะลูก...


ไปสมุยรอบนี้โชคดีตรงฝนตกแต่ตอนกลางคืนเนี่ยละ
ตื่นเช้ามา ฟ้าสดใสไม่มีเค้าเมฆฝนเมื่อคืนเลย

วันนี้เรามาทานอาหารเช้าที่ dining on the hill นะคะ
สำหรับ villa เราอยู่ค่อนข้างไกลจากส่วนต่างๆของรีสอร์ท
แต่ไม่เป็นไรค่ะ เราสามารถเรียกรถบัคกี้มารับได้ตลอดเวลา

ตรงทางเดินที่เห็นเป็นต้นสีเขียวๆ นั่นคือตะไคร้นะคะ
ตะไคร้ทั้งหอม แล้วก็ไล่ยุงได้ด้วย ที่บ้านก็ปลูกเหมือนกัน
หมาที่บ้านชอบแอบไปกินด้วย


อาหารละลานตา ถูกใจเป็นที่สุ๊ดดด

ตอนอยู่ในรีสอร์ทจะเห็นเครื่องบินตลอดเวลานะคะ
กินข้าวไป ก็เห็นเครื่องบินผ่านตลอด เล่นน้ำก็เห็น
สงสัยคนบ้านใกล้สุวรรณภูมิ คงจะเห็นอย่างงี้แน่ๆ

note : อาหารห้ามพลาด แยมผลไม้ โฮมเมด
smoothies ผลไม้ทั้งหลาย ทั้งแคนตาลูป (ที่นั่นเรียกmelon) มะม่วง
กล้วย แอปเปิ้ล ทำจากผลไม้สดๆ อร่อยมาก
ก๋วยเตี๋ยวปลา ก็อร่อยเช่นกัน


ยังมีอีกๆๆ...
โพสเอง หิวเองละ


มะพร้าว งัดกินเรียบ....


อาหารบางส่วนที่เรากะน้องกำจัดไปค่ะ
จริงๆ มีเยอะกว่านี้ ถ่ายรูปไม่ทัน มาปุ๊บลงท้องปั๊บ


ปกติทางรีสอร์ทจะมีกิจกรรมให้ทำทุกวันนะคะ
ทีแรกเราว่าจะไปเข้า class ไทจีสักหน่อย น้องมันไม่ยอมไปด้วย
เลยไม่ได้ไป ไม่งั้นจะมีรูปฮาๆ มาให้...

กินอิ่มแล้วก็มาเดินย่อยอาหาร เดินรอบๆ รีสอร์ทละกัน วิวและตัวอิฉันจากหน้า front งามมั่กๆ (เออ รู้แล้วว่าวิวสวย ไม่ใช่กรูสวย ไม่ต้องบอก)


ป้าย information เกี่ยวกับอากาศ พระอาทิตย์ขึ้นกี่โมง/ตกกี่โมง
แต่ไป 3 วัน เห็นเป็นข้อมูลวันที่ 26 ตลอดเลย สงสัยพนง.ลืม update


รูปนี้มาแทรก ถ่ายวันสุดท้าย ไอ้ป้าย information ยังไม่อัพเดทเช่นเคย


ไปเยี่ยม gallery สักหน่อย เป็นร้านขายของที่ระทึกของโรงแรมนะคะ
ของเล็กๆ น้อยๆ สบู่ แชมพู ครีมนวด เกลือสปาที่ใช้ในห้องมีขายที่นิ่หมด
สองพี่น้องพากันระทึกกันไปหลายบาททีเดียว

gallery ดูดเงิน แอร๊ยยยส์


แอบชมก่อนๆๆ...คือเราชอบส่ง postcard เวลาไปเที่ยว
ไปซื้อ postcard ที่ gallery แล้วพอกลับห้องมาพบว่ามันเป็น postcard รุ่นเก่า
ที่ยังใช้ชื่อว่า sala evason เลยอยากขอเปลี่ยน พนง.ก็เปลี่ยนให้ไปเลือกสินค้าอย่างอื่นแทน ขอบคุณมากๆ นะคะ

ปล. postcard ฟรีก็มีให้ในห้องนะคะ ทางโรงแรมส่งฟรีด้วย ชอบที่สุ๊ดดดดดด.....


ต่อไปพาไปดู main pool เป็น infinity pool อันเลื่องลือ


ไปเล่นน้ำสนุก เห็นวิวเครื่องบินบินผ่านจากจุดนี้ได้ตลอดเวลา
อย่าลืมตัวหอนไปละ...

ใส่หมวกเล่นน้ำไปด้วย ปิดหน้าปิดตาไว้สะ คนอื่นจะได้จำไม่ได้




ที่ six senses samui จะมีฟรีค๊อกเทลช่วงเวลา 5.30-6.15 น.นะคะ
มีเฉพาะวันพฤหัส และวันเสาร์ค่ะ มีดนตรีเบาๆ ค๊อกเทลฟรี
แต่เราไม่อินอ่ะ ร้อนตับจะแตก...ดริ๊งไปแก้วเดียวแล้วก็เผ่นค่ะ


ในรูปคือบริเวณที่เค้ามานั่งกันค่ะ มาดูพระอาทิตย์ตกดิน
ไปกะน้องสาว ไม่มีอารมณ์มาโรแมนซ์อ้ะ


สู้แดดไม่ไหว ย้ายมานั่งตรงนี้ ก็ยังร้อน


ประกอบกับวันนี้เราจะมีดินเนอร์ตรงนี้ๆๆๆๆๆๆๆ สวยมั๊ย
dining on the rock โต๊ะที่ดีที่สุดตรงหัวมุม โดนนั่งโดยสองพี่น้องติ๊งต๊อง






อาหารมาเป็น set menu ให้นะคะ
กว่าจะถึง main course ล่อเข้าไป 5 รายการแล้วค่ะ

ชอบเมนูทูน่ากระป๋องมากๆ น่ารั๊กกกก แล้วก็อร่อยด้วย




ตรงนี้แดดร่ม ลมตก แต่ก็ยังร้อน ...
ทำหน้า ข้าจะเริ่มกินเอ็งจากส่วนไหนดีละเนี่ยะ




main couse จะมีสองตัวเลือก
อันนึงเป็น salmon teriyaki sauce กะอีกอันเป็น lamb ค่ะ
สั่งมาคนละแบบเพื่อความหลากหลาย

ตรงห้องอาหารอันนี้จะมีวิวเป็นเกาะพงันนะคะ
เราได้เห็นพงันไฟดับพรึ่บทั้งเกาะ จากสว่างๆ ดับพรึ่บไปเลยค่ะ
ดูมืดมากๆ แล้วก็มีลมเย็น สักพักฝนก็ตกค่ะ
เรามาถึงจานของหวานจานสุดท้ายพอดี
รีบคว้าจานไอติม พาวิ่งเข้าที่ร่มก่อน
แล้วก็นั่งซดไอติมโฮกๆ ต่อ...
น่าสงสารโต๊ะอื่น เพิ่งจะเริ่มจานที่ 2 ที่ 3 กันเอง
โชคดีที่มาแต่หัววันนะเนี่ย อิอิ

ทานเสร็จรีบกลิ้งกลับห้องพักด่วน ตากเสื้อผ้าไว้ข้างนอกเพี๊ยบเลย


มาถึงวันสุดท้ายแล้วค่ะ วันนี้ทางโรงแรมให้เรา late check out ถึง 4 โมงเย็นเลยทีเดียว ชาบู ชาบู~~~

เปิดประตูห้องมา เอ๊ะ กระบอกอะไรมาอยู่หน้าห้องเนี่ยะ เปิดดูสักหน่อย
ถ่ายรูปกะหน้าประตู จะจิกหน้าไปทำไมเนี่ยะกรู


กระบอกไม้ แจ้งบิลรายการข้าวของและบริการที่ใช้ไปแต่ละวันนั่นเอง



เริ่มจากวันใหม่สดใสด้วยอาหารเช้าเช่นเคย
เมื่อวานลองแยมกล้วยแล้ว วันนี้ลองแยมฝรั่งสักหน่อย
น้ำปั่นผลไม้กินไป 3 แก้ว ฮูยยย ...
กลับมากรุงเทพ ผิวพรรณดูดีขึ้นทันตาเห็น (เว่อร์ไปๆ)


วันนี้พาไปเดิน beach สักหน่อย




ที่ six senses ก็มีชายหาดนะคะ
ไม่ค่อยเห็นคนพูดถึงสักเท่าไร เพราะหาดมันธรรมด๊า ธรรมดานิ่เอง
มีทุ่นทางเดินดึ๋ยๆ เหมือน the racha ด้วย แต่คนละสี ฝึกวิ่งไว้ก่อน
ไว้คราวหน้ามีโอกาสไป the racha จะได้วิ่งได้ไม่เขอะเขิน




รูปนี้ พุงโรจริงๆ กู....เมื่อไรจะผอมๆ เหมือนชาวบ้านชาวเมืองเค้าสักทีวะ


เอามุมเข้ารีสอร์ทมั่ง พวกหลังที่เห็นด้านหลังได้ sea view เต็มๆ เลย น่าอิจฉาอ้ะ


เอาวะ ไม่ได้มุม sea view มาถ่ายรูปเอา sea view ก้อได้ เชอะ!


ไปวิ่งที่ชายหาดมากไปหน่อย หิวอีกละ........
มื้อสุดท้ายของวัน ฝากไว้ที่ dining on the hill ค่ะ


น้องเราสั่ง pork medalion หมูชิ้นกลมๆ อร่อยดี
ส่วนของเราเป็น chicken schnitzel burger สิ้นคิดดีแท้
พวกขนมปังในรูปเสิร์ฟฟรี ชอบๆๆ
มื้อนี้หมดไปประมาณ พันห้าได้....เอาว๊ะ ไม่ได้กินทุกวัน
มาเที่ยวทั้งที ขอพกแต่ความสุขกลับบ้านละกัน


จานใหญ่ยักษ์ขนาดนี้ จะงาบหมดไหมเนี่ยะตู...
(สุดท้ายก็งาบไม่หมด เสียดายง่ะ)


mission สุดท้ายก่อนขึ้นเครื่อง เมื่อเดือนเมษาทำไปแล้ว 1 รอบ
รอบนี้ตั้งใจมากๆๆๆ จะไปกิน swensen ฟรีที่สนามบินสมุย
เป็นโปรของ ais นะคะ ห้ามพลาด!!


ถึงเวลาต้องกลับบ้านแล้ว ไม่อยากกลับเลย...
ขากลับเครื่องเดียวกะขามาเลย คุณศรีสะเกษพาเรากลับกรุงเทพโดยปลอดภัย

กลับบ้านมาไหว้พระไหว้เจ้า อธิฐานสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย
six sensese ขอโปรแบบนี้บ่อยๆ ละกันนะคะ อยากไปอีกจ้า สาธุ๊





เอ๊า .. รูปเก็บตกตามเคย ไม่รู้จะเอาไปแทรกช่วงไหนของกระทู้

ตอนเดินไปถ่ายรูปป้ายหน้ารีสอร์ท


เดินมากก็เหนื่อยอีก สังขาร อนิจจัง... นั่งพักตามซุ้มเรื่อยเปื่อย


มนุษย์ 1.5 เมตร พยายามส่องดูเกาะส้ม ไอ้กล้องนิ่มันใช้ยังไงวะ?


คันนี้ไม่ได้ขึ้นหรอก ของเอ็งนู่นรถตู้ ไปแชร์กะคนอื่นสะดีๆ


บนเตียงจะมีแต่ภาพนั่งเกลือกกลิ้งไปมา


โฮกกกก...ยังไม่อยากกลับเลย >_<

Create Date : 30 มิถุนายน 2552		8 comments
Last Update : 1 กรกฎาคม 2552 18:02:57 น.
Counter : 3660 Pageviews.
Share Tweet