พืชผักปลอดภัย

 
เมษายน 2554
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
9 เมษายน 2554
 

คุณค่าด้านโภชนาการและด้านเภสัชของพริก

โภชนาการของพริก

ชื่อสามัญ : Bird Chilli

ชื่อวิทยาศาสตร์ : Capsicum frutescens Linn.

วงศ์ : SOLANACEAE
ชื่ออื่น ๆ : พริกแด้, พริกแต้, พริกนก, พริกแจว, พริกน้ำเมี่ยง (เหนือ-พายัพ), พริก, พริกชี้ฟ้า,พริกขี้หนู (ภาคกลาง-เหนือ), ดีปลี (ใต้-ปัตตานี), ดีปลีขี้นก, พริกขี้นก, ใต้ (ภาคใต้), ลัวะเจีย (แต้จิ๋ว), มะระตี้ (สุรินทร์), ล่าเจียว (จีนกลาง), หมักเพ็ด (อีสาน)
ลักษณะทั่วไป :
ต้น : เป็นพรรณไม้พุ่มขนาดเล็ก ลำต้นมีความสูงประมาณ 45-75 ซม.

ใบ : เป็นใบเดี่ยว ออกตรงกันข้ามกัน ลักษณะใบจะกลมรี ตรงปลายจะแหลม

ดอก : จะออกตรงง่ามใบเป็นกลุ่มประมาณ 1-3 ดอก เป็นสีขาว มีกลีบดอกประมาณ 5 กลีบ ส่วนเกสรตัวผู้จะมีอยู่ 5 อัน
จะขึ้นสลับกบกลีบดอก เกสรตัวเมียมี 1 อันและมีรังไข่ประมาณ 2-3 ห้อง

ผล : ผลสุกจะเป็นสีแดง หรือแดงปนน้ำตาล ลักษณะผลมีผิวลื่นเป็นมัน ภายในผลนั้นจะกลวง และมีแกนกลาง รอบ ๆ
แกนจะมีเมล็ดเป็นสีเหลืองเกาะอยู่มากมาย และเมล็ดจะมีรสเผ็ด
สรรพคุณ :
ผล ใช้ปรุงรสอาหาร ช่วยเจริญอาหาร และรักษาอาการอาเจียน รักษาโรคหิด กลาก รักษาโรคบิด โดยการใช้พริกสด 1
เม็ด หรือมากกว่านั้นใช้กิน และอาการปวดบวมเนื่องจากความเย็นจัด โดยใช้ผงพริกแห้งทำเป็นขี้ผึ้ง หรือสารละลาย
แอลกอฮอล์ใช้ทา

อื่น ๆ พรรณไม้นี้เป็นพรรณไม้สวนครัวที่ขาดกันไม่ได้ เป็นพรรณไม้ที่ขึ้นง่าย แต่บำรุงรักษายาก เพราะใบอ่อนของพริกอร่อย
ทำให้แมลงต่าง ๆ ชอบกิน ผลแรกผลิใช้ผสมกับผักแกงเลียงช่วยชูรส ส่วนผลกลางแก่ใช้ใส่แกงคั่วส้ม
จะได้อาหารที่มีรสเปรี้ยวอ่อน ๆ เพราะมีวิตามีซี และไส้พริกจะมีสารแคบไซซิน ที่ให้ความเผ็ดและมีกลิ่นฉุนเผ็ดร้อน
เป็นเครื่องปรุงอาหารช่วยชูรส ใส่น้ำพริก ยำ ทำเป็นน้ำปลาดองและยังเป็นยาช่วยกระตุ้นทำให้เจริญอาหาร บำรุงธาตุ
หรือใช้ภายนอกเป็นยาทาถูนวดลดอาการไขข้ออักเสบ



คุณค่าทางอาหาร คุณค่าทางอาหารในส่วนที่รับประทานได้ 100 กรัม ประกอบด้วย
Cal Moist ure Protein Fat CHO Fibre Ash . Ca P Fe A.I.U B1 B2 Niacin C
Unit % Gm. Gm. Gm. Gm. Gm mg. mg. mg. mg. mg. mg. mg.
พริกขี้หนู 54 81.9 3.4 1.4 7.1 5.2 0.9 4 14 12 2417 0.29 0.11 1.5 44
ข้อมูลทางคลีนิค :
รักษาอาการบวม ฟกช้ำ ให้ใช้พริกขี้หนูที่แก่จัดเป็นสีแดงแล้วตากแห้งนำมาบดเป็นผงให้ละเอียดแล้วเทลงในวาสลินที่เคี่ยวจนเหลว
กวนให้เข้ากัน แล้วนำไปเคี่ยวอีกจนได้กลิ่นพริก ใช้สำหรับทาถู รักษาอาการเคล็ด ถูกชน ฟกช้ำดำเขียว และอาการปวดตามข้อ
ให้ทาตรงบริเวณที่เป็นวันละครั้ง หรือสองวันต่อครั้ง

รักษาอาการปวดตามเอวและน่อง ให้ใช้ผงพริกขี้หนูและวาสลิน หรือผลพริก วาสลิน และแป้งหมี เติมเหล้าเหลืองจำนวนพอประมาณ
แล้วคนให้เป็นครีม ก่อนที่จะใช้ ให้ทาลงบนกระดาษแก้วปิดบริเวณที่ปวด ใช้พลาสเตอร์ปิดโดยรอบ จะมีอาการทำให้เหงื่อออก
การเคลื่อนไหวคล่องแคล่วขึ้น และรู้สึกหายปวด จากการตรวจสอบพบว่า ตามบริเวณที่พอกยาจะมีความรู้สึกร้อน
และการไหลเวียนของโลหิต เพิ่มขึ้น
ข้อมูลทางเภสัชวิทยา :
สารสกัดจากพริก ใช้ทาลงบนผิวหนังจะทำให้หลอดเลือด ตามบริเวณนั้นขยายตัว และการไหลเวียนของเลือดเพิ่มขึ้น
ถ้าใช้มากเกินไปอาจจะทำให้ระคายเคืองได้

ฤทธิ์ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียและฆ่าแมลง แคปซายซินจะมีผลยับยั้งเชื้อ Bacillus cereus และเชื้อ Bacillus subtilis แต่ไม่มีผลต่อเชื้อ
Bacillus aureus และเชื้อ Bacillus coli นอกจากนี้สารที่สกัดจากพริก โดยวิธีการต้มด้วยน้ำ จะมีฤทธิ์ในการฆ่าแมลง

ฤทธิ์ต่อระบบทางเดินอาหาร แคปซายซิน ทำให้เจริญอาหาร และกินอาหารได้มากขึ้น พริกสามารถช่วยกระตุ้นทำให้การเคลื่อนไหว
ของกระเพาะอาหารสุนัขเพิ่มขึ้นและน้ำสกัดที่ได้จากพริก จะช่วยลดการบีบตัวของลำไส้เล็กส่วนปลาย ileum
ของหนูตะเภาที่เกิดจากอะเซทิลโมลีนและฮีสตามีนได้ส่วนแคปซายซิน จะเพิ่มการบีบตัว ของลำไส้เล็กส่วนปลาย ileum ของหนูตะเภา
แต่ถ้าให้แคปซายซินซ้ำอีกครั้งในขนาดเท่า ๆ กัน จะมีผลน้อยมากหรือไม่มีผลเลย

ผลต่อระบบไหลเวียนโลหิต แคปซายซิน ที่สกัดจากพริก สามารถกระตุ้นหัวใจห้องบนของหนูตะเภา
แต่เมื่อฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำของแมวและสุนัข จะทำให้ความดันโลหิต และหัวใจเต้นช้า หายใจขัด และอาการพวกนี้จะหายไป
เมื่อเราตัดเส้นประสาทเวกัสออก (Vagotomy) ส่วนแคปซายซิน จะเพิ่มความดันโลหิตในแมว ที่ถูกตัดหัวออก (decapitated cat)
ถ้าฉีดเข้าในหลอดเลือดดำของแมวที่ถูกวางยาสลบ จะทำให้ความดันโลหิตในปอดสูงขึ้น
แต่เมื่อฉีดเข้าบริเวณหลอดเลือดที่ไปเลี้ยงหัวใจโดยตรง จะทำให้หลอดเลือดนั้นหดตัว และฤทธิ์ของแคปซายซินต่อหัวใจ
ห้องบนของหนูตะเภานั้นจะเพิ่มทั้งความเร็ว และความแรงในการเต้น

ฤทธิ์อื่น ๆ หลังจากกินอาหารที่ใช้พริกขี้หนูแก่จัดสีแดงเป็นเครื่องปรุงแต่งนานประมาณ 3 สัปดาห์ จะทำให้สารกลุ่มคอรืติโซน
ในพลาสมาเพิ่มขึ้น และปริมาณที่ขับออกทางปัสสาวะก็จะเพิ่มขึ้น ส่วนสารที่สกัดได้จากพริก ถ้าฉีดเข้าช่องท้องของหนูถีบจักร
จะมีฤทธิ์กดประสาท ทำให้เดินเซ เล็กน้อย และชักตายได้ เมื่อฉีดเข้าหลอดเลือดจะมีฤทธิ์กระตุ้นมดลูกของหนูขาว
และมีฤทธิ์กระตุ้นปลายประสาทรับความรู้สึกทั่วไป
แก้ปวดหัว ปวดหัวเนื่องมาจากไข้หวัด หรือตััวร้อน ใช้ใบพริกขี้ หนูสดๆ ตำกับดินสอพองปิดขมับ
แก้เจ็บคอเสียงแหบใช้น้ำต้มหรือยาชงพริกขี้หนูกลัวคอแก้เจ็บคอและเสียงแหบได้โดยใช้พริกขี้หนูป่น๑หยิบมือ
เติมน้ำเดือดลง ไป ๑ แก้ว ทิ้งไว้พออุ่น ใช้น้ำกลัวคอ
ช่วยขับลม แก้อาหารไม่ย่อย เจริญอาหาร โดยกินพริกขี้หนูสวน รักษากระเพาะที่ไม่มีกำลังย่อยอาหาร
แก้ปลาดุกยักใช้พริกขี้หนูสดเขียวหรือแดงก็ได้ ขยี้ตรงที่ปลาดุก แทงจะหายปวด ขยี้แล้วจะรู้สึกเย็น(ธรรมดาพริกขี้หนูร้อน) ไม่บวม
ไม่ฟกช้ำด้วย
แก้เท้าแตกใช้พริกขี้หนูทั้ง ๕ ปูนขาว สื่งละพอควร เอาไปต้ม เอาน้ำมาแช่เท้าที่แตก ถ้าไม่หายเอาต้นสลัดได รากหนอนตากยาก
ใส่ลงไปด้วย
แก้บวม ใบพริกขี้หนู บดผสมนำ้มะนาว พอกบริเวณที่บวม
รักษาแผลสดและแผลเปื่อย ใช้ใบพริกขี้หนู ตำพอกรักษาแผล
สดและแผลเปื่อย(อย่าใช้พริกขี้หนูปิดแผลมากเกินไปเพราะจะทำให้ร้อน
ใบ้ใบเป็นอาหาร ใบพริกขี้หนูมีคุณค่าทางอาหารสูงมาก เพราะมี ธาตุ แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส ไวาตามินเอ และบีอยู่มาก บำรุงกระดูก
บำรุง ประสาท
แก้พิษตะขาบและแมลงป่องกัด ใช้พริกขี้หนููแห้ง ตำผงละลาย น้ำมาะนาว ทาแผลตะขาบกัด แมลงป่องต่อย หายเจ็บปวดดีนัก
มดคันไฟกัด ใช้ใบหรือดอกพริกขี้หนูก้ได้ ถูบริเวณถูกกัด หายแล
ขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจาก //www.the-than.com/samonpai/sa_7.html

จากข้อมูลและการทดสอบความเป็นพิษของพริก สรุปได้ว่าขนาดของสาร capsaicin (สารบริสุทธิ์ที่สกัดจากพริก) ที่ทำให้สัตว์ทดลองตายครึ่งหนึ่ง คือ 97 – 161 มก./กก. ซึ่งจากรายงานการวิจัยพบว่า พริกขี้หนู มีปริมาณ capsaicin 0.47-0.79% ต่อน้ำหนักแห้ง และพริกหยวกมีปริมาณ capsaicin 0.00-0.53% ต่อน้ำหนักแห้ง ซึ่งเทียบเท่ากับการที่สัตว์ทดลองกินพริกขี้หนูแห้งหรือพริกหยวกแห้งมากกว่า 20 ก. ต่อน้ำหนักตัว 1 กก. จึงจะเกิดพิษ (ปริมาณความชื้นของพริกขี้หนู ~90% ซึ่งเทียบเท่ากับการที่คนต้องรับประทานพริกขี้หนูสดในขนาด 200 ก. (2 ขีด) ในครั้งเดียว จึงจะเกิดพิษ) การป้อนสารสกัดน้ำให้สัตว์ทดลองไม่พบความเป็นพิษ แต่ในการป้อนปริมาณมากๆ เป็นเวลานาน ทำให้สัตว์ทดลองมีอัตราการเจริญเติบโตลดลง อัตราการกินอาหารเพิ่มขึ้น การทดสอบในคนพบว่าการสัมผัสโดยตรง ทำให้เกิดความระคายเคือง ทำให้ตาไหม้และแดง เกิดรอยถลอกที่กระจกตา




 

Create Date : 09 เมษายน 2554
3 comments
Last Update : 9 เมษายน 2554 0:25:19 น.
Counter : 1748 Pageviews.

 
 
 
 
พริกเป็นผักที่คนไทยพม่ากะเหรี่ยงขาดไม่ได้จริงๆ
ที่ร้านขายดีตลอดกาลค่ะ ทั้งพริกเขียว พริกแดง

ได้ซื้อยาหม่องพริกจากเมืองไทยมา2ขวด
สรรพคุณร้อนแรงสมความเป็นพริกจริงๆค่ะ
 
 

โดย: เกลือหนึ่งกำน้อย วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:13:23:36 น.  

 
 
 
ขอบคุณสำหรับความรู้นะคะ
 
 

โดย: auau_py วันที่: 9 เมษายน 2554 เวลา:17:46:34 น.  

 
 
 
 
 

โดย: bbandp วันที่: 22 เมษายน 2554 เวลา:6:52:39 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

คนรักษ์ผัก
 
Location :
เชียงใหม่ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ผลิตพืชผักปลอดภัยภายใต้ระบบ จี.เอ.พี
รับรองโดยกรมวิขาการเกษตร
ทำคอนแทคฟาร์มมิ่งพืชผัก
ทุกชนิดเพื่อการส่งออก
[Add คนรักษ์ผัก's blog to your web]

MY VIP Friend


 
 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com