ลอยกระทง 2555 ณ ท่าเตียน ปีนี้วันลอยกระทงตรงกับวันพุธที่ 28 พฤศจิกายน 2555 ทำให้ต้องคิดเล็กน้อยว่าจะลอยคลองแสนแสบ แถวๆ ที่พักเหมือนปีที่แล้วดีมั๊ยนะ ...หรือจะไปริมแม่น้ำเจ้าพระยา เพื่อดูความสวยงามของริมฝั่ง  แล้วก็ตัดสินใจว่า...เสี่ยงรถติด ผู้คน นั่งรถเมล์สาย 48 ไปลงหน้าวัดโพธิ์ ก็ถึงท่าเตียน สถานที่สุดฮิตที่เราไปบ่อยมากสุด ..แต่ระหว่างยืนรอเมล์ ก็คิดว่ารถจะติดแถวๆ เยาวราชมั๊ย เพราะกำลังทำรถไฟใต้ดิน แล้วจะทำให้เราไปถึงท่าเตียน กี่ทุ่มเนี่ย ...พรุ่งนี้ก็ต้องมาทำงานแต่เช้า  ผิดคาดนั่งรถเมล์จากแยกราชประสงค์ จนถึงวัดโพธิ์ หนึ่งทุ่มครึ่ง ...แถวๆ เยาราช ร้านปิด ถนนโล่ง  กระทงขนมปังรูปสัตว์ ฮิตมาหลายปีแล้ว ...ท่าเตียนก็ยังมีอยู่  กระทงแบบสวยๆ ก็มี ..แต่มี กระทงบ้านด้วย ...ลืมถามราคาเลย  กระทงปาท่องโก๋ ...สุดยอดอ่ะ ยืนมองแบบยิ้มๆ คนขายไม่อยู่ด้วย เห็นแล้วเกิดอาการหิวขึ้นมาทันที เลยต้องรีบเดินไปซื้อทอดมันปลา ทางเ้ข้าท่าเตียน 20 บาทกิน ..เพราะอันนี้กลิ่นยั่วมากกว่า  วัดอรุณ มีจัดงานได้ยินเสียงดังมาก นักท่องเที่ยวก็ยังขึ้นเรือข้ามฝากไปเยอะ ..ส่วนเรือเจ้าพระยา มีเที่ยวสุดท้ายไปท่าเรือนนท์  หันกลับมาดูร้านอาหารที่เคยมากินบ่อย ที่ท่าเตียน ร้านนี้อร่อยมาก ไม่รู้เจ้าของยังคนเดิม พ่อครัวแม่ครัวยังคนเดิมหรือปล่าว...2-3 ปีที่ผ่านมาส่วนมาก มาเดินเล่นอย่างเดียว เพราะไม่มีเพื่อนกิน ถ้าไปนั่งหม่ำคนเดียวกลัวจะ...เหงา  (เห็นพระจันทร์มีเมฆดำทะมึนบดบัง อารมณ์เหมือนหนังสยองขวัญเลย)  ช่วง สองทุ่ม คนมาลอยกระทงน้อยจัง คนทำงานก็เตรียมกระทงมา แล้วก็นั่งรอดูวิวแม่น้ำเจ้าพระยา เรือไฟ  สังสัยอยากลอยตอนเที่ยงคืน พระจันทร์เต็มดวง  จากการไปนั่งดูคนลอยกระทง ...มีหลายอย่าง คันปาก จริงๆ  หนึ่ง คือ เจ้าหน้าที่อาสา จากหน่วยงานใดไม่ทราบ ต้องชื่นชมการมาำทำงานอาสา จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม แต่ที่เราว่ายังไม่ดีพอ คือ ใจที่อยากทำ  ...เพราะเอาแต่คุย เล่นกัน (เนื่องจากยังวัยรุ่นอยู่) แล้วก็ไม่แสงไฟพอให้เห็นบริเวณท่าน้ำ ถ้าใครเคยไปสวนด้านข้างท่าเตียน จะนึกออกว่าเป็นปูนยื่นออกไป ไม่มีับันได แต่จะเป็นทางราบลงสู่แม่น้ำ ซึ่งอาสาวัยรุ่นคนหนึ่ง  ก็ยอมทนแช่น้ำ หนาวสั่น เพื่อรอเอากระทงจากนักท่องเที่ยวไปลอยให้ เพราะท่าสูงมาก ...แต่อาสาคนอื่นกลับมัวมาแซวคนที่แช่น้ำ พูดคุยเล่นกัน หลายคนลืมหน้าที่ ไม่มายืนประจำจุด (คิดว่าเขาคงคุย มอบหมายหน้าที่กันนะ)  ซึ่งเราเองก็มองแล้วว่า ด้านข้างๆ ที่ยืนรอคิวลอยกระทง มันมืดมีส่วนเว้า ยังคิดว่าฉันต้องไม่ถอย อย่าเดินไปตรงนั้น ... แล้วก็เกิดอุบัติเหตุจนได้ เมื่อมีชาวต่างชาติเป็นผู้หญิง ตกน้ำ ซึ่งอยู่ด้านข้างๆ เจ้าหน้าที่อาสา ที่ืยืนคุยเล่นกัน และก็ด้านหลังเราเอง (ซึ่งกำลังคุมเด็กฝรั่งสองคน กลัวตกน้ำ เพราะพ่อแม่กำลังจุดธูป เทียนในกระทงอยู่)  มีนักท่องเที่ยวคนอื่นพยายามช่วยกันดึงขึ้นมา แต่ท่าสูงมาก พยายามช่วยกันดึงขึ้น  แต่อาสายังยืนดู กว่าจะไปช่วยอ่ะนะ แล้วยังจะพูดว่า ..เฮ้ย มีสองเคสแล้ว ???    ทำไมไม่แก้ปัญหาโดยมีคนยืนคุมอยู่ล่ะ หรือส่องไฟฉาย หรือจุดเทียน เพื่อให้คนเห็น (นี่คือหลายเสียงของคนไทยที่มาลอยกระทง ณ จุดนั้น เวลานั้น)  สอง คือ การลอยโคม ชาวต่างชาติอาจอ่านหนังสือท่องเที่ยวมาไม่ครบก็ไ้ด้ว่า ว่าที่ลอยโคมนะ ต้องเชียงใหม่ ไม่ใช่กรุงเทพมหานคร ...แต่ถ้าเขาสามารถเอาโคมไฟมาจุดได้ ก็ต้องไปตามจับคนขาย (ซึ่งก็อยู่ด้านหน้าสวน)  แต่คงเห็นแบบอย่างที่วัดอรุณ มีโคมไฟ ที่จุดลอยขึ้นมา 2 ดวง (ไม่รู้ว่าอยู่ในการแสดง หรือมีคนจุดเอง) ก็เป็นตัวอย่างให้ชาวต่างชาติเห็นว่า ...อ้าว ก็เห็นอยู่ว่าจุดโคมลอยได้  สาม คือ ประกาศห้ามขายพลุ ประทัด ดอกไม้ไฟ ...แต่ เดินมาเห็นวางขายติดกับสโมสรราชนาวี และคนซื้อ ก็คือ นักศึกษาชาย-หญิง  (ขออีกนิด ในอนาคตอันใกล้ ชุดนักศึกษาหญิงออกแบบเป็น ซีทรู เลยดีมั๊ย ..จะได้ไม่ต้องมานั่งจินตนาการเหมือนชุดที่ใส่กันตอนนี้)  หมายเหตุ...ในภาพ ชาวต่างชาติหญิง กำลังจะลอยโคม ...พอดีเรา ยืนอยู่ไกล ไม่ได้ยิน ไม่เห็นเหตุการณ์ตั้งแต่แรก  ...เห็นภาพอีกที คุณตำรวจก็เข้ามาช่วย คงจะเห็นว่าจุดไฟแล้ว ก็เลยจะปล่อยให้ลอย แต่ปรากฏว่าโคมไม่ลอยสักที ไฟก็ลุกมากขึ้น คุณตำรวจเลยต้องจัดการดับไฟ ... ...สักพัก ชาวต่างชาติหญิง เดินขึ้นมาหาเจ้าหน้าที่สองคน ที่ยืนใกล้ๆ เรา ...แล้วก็ ต่อว่านิดๆ หน่อยๆ  แปลได้ว่า ..คุณเป็นคนไม่ดี.. เดาเอานะว่า ...เจ้าหน้าที่สองคน ที่โดนต่อว่า คงจะเข้าไปห้ามไม่ให้จุดโคมลอย แต่พูดกันไม่เข้าใจ คุณตำรวจคงเข้ามาช่วย ...เจ้าหน้าที่สองคน เลยออกมายืนดูห่างๆ  ประทับใจสุด ๆ ก็คง เป็นผู้หญิงคนนี้ มาคนเดียว น่าจะซื้อกระทงมา 5-6 กระทงเห็นวางอยู่ใกล้ตัว แล้วเธอก็จุดธูป เทียน ในกระทงแรก จุดเสร็จก็ยกขึ้น แล้วก็เอากล้องมาถ่าย (ต้องขอบคุณเธอ ไม่อย่างนั้นไม่ได้ภาพมาหรอก ) แล้วก็ยื่นตัวลงไปลอยกระทง ซึ่งท่าน้ำมันสูงมาก เธอก้มลงไปแทบจะหายไปครึ่งตัว  ...เราก็กลัวว่าเธอจะตกน้ำ ยื่นมือไปจะจับ แต่ช้ากว่าพี่ผู้หญิงคนไทยคนหนึ่ง จับขาไว้ จนเธอยกตัวขึ้นมา แล้วก็ยกมือไหว้แบบสวยงาม เพื่อขอบคุณพี่ผู้หญิง (เราก็โอ้ว มารยาทงามจริงๆ) ...แล้วก็หันไปจุดธูปเทีียนในกระทง ยกขึ้นถ่ายภาพ แล้วเธอก็ก้มตัวลงไปลอยอีก ...พี่ผู้หญิงก็จะจับอีก เธอบอกไม่เป็นไร (ภาษาอังกฤษ) เลยรู้เลยว่าเป็นชาวต่างชาติ (ถึงว่าหน้านิ่งๆ ไม่ยิ้ม) แต่พี่ผู้หญิงก็ห่วงเธอ ไม่ยอมเดินไปไหนยืนอยู่ข้างๆ แฟนพี่ผู้หญิงก็บอกว่า เขาไม่ให้ช่วยก็ไปเถอะ พี่ผู้หญิงบอกว่ามันอันตราย เดี๋ยวเขาตก (ปรบมือให้พี่ผู้หญิงดังๆ )  ...พี่ผู้หญิง ต้องบอกคนที่มาลอยด้านข้างๆ ให้ช่วยดูเธอคนนี้ให้ด้วย ...ไอ้เราก็อยากจะช่วย ได้แต่ยืนดู ลุ้นเธอ แต่เห็นเธอพยายามก้มลงลอยมา 4 กระทงแล้ว ...เก่งจริงๆ (แต่ก่อนเดินจากมา ก็มีคนมายืนช่วยดูแล้วนะ เพราะฉะนั้นเราจึงจากมาอย่างสงบ)  เดินออกมาเรียบๆ วัดพระแก้ว เพื่อมาขึ้นรถเมล์ ผ่านสโมสรราชนาวี ก็ได้ยินเสียงพลุดัง รีบวิ่งเข้าไปด้านใน ถ่ายรูปพลุ ยังไม่ทันตั้งตัวได้ภาพมาแบบควันเพียบเลย พอตั้งตัวได้ ปรับโหมดกล้อง ...ก็ได้มาเท่านี้ จุด 5-6 ลูกได้ รอสักพักน่าจะไม่ีมีแล้วก็เดินออกมาขึ้นรถเมล์กลับบ้านดีกว่า  ค่าใช้จ่าย  รถเมล์สาย 48  สุขุมวิท มา วัดโพธิ์              8  บาท ทอดมันปลา ท่าเตียน                              20 บาท รถเมล์สาย 25  สนามหลวง มา ราชประสงค์   ฟรี รถเมล์สาย 11  ประตูน้ำ กลับบ้าน                ฟรี  หมายเหตุ... ทุกข้อความที่เขียน คือ ความคิดเห็นส่วนตัว ... ด่า ติ ชม ได้ แต่อย่าโวยวาย    Create Date : 29 พฤศจิกายน 2555 2 comments Last Update : 29 พฤศจิกายน 2555 13:48:15 น. Counter : 5310 Pageviews. Share Tweet

มาชมบรรยากาศและความประทับใจที่เก็บกลับมาค่ะ เราอยู่บ้านชมพลุกะโคมลอยค่ะ   โดย: tuk-tuk@korat 29 พฤศจิกายน 2555 18:00:18 น.

มาชมบรรยากาศด้วยคนค่ะ อยู่กรุงเทพ แต่ไม่มีโอกาสได้เที่ยวเลยค่ะ   โดย: never the last 1 ธันวาคม 2555 11:17:22 น.