|
| 1 | 2 | 3 | 4 | 5 | 6 |
7 | 8 | 9 | 10 | 11 | 12 | 13 |
14 | 15 | 16 | 17 | 18 | 19 | 20 |
21 | 22 | 23 | 24 | 25 | 26 | 27 |
28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
แพ้เนื้อจากการโดนเห็บกัด alpha-gal allergy
ประสบการณ์ส่วนตัวที่เจอเมื่อ 4 ปีที่แล้ว (2020) เรื่องเก่าเอามาเล่าใหม่
เป็นคนชอบเข้าป่ามาก ช่วงหน้าร้อน ว่างเมื่อไหร่ก็ไป เก็บเห็ดบ้าง บลูเบอร์รี่บ้าง และทุกปีก็จะโดนเห็บกัด
ปีที่แพ้เนื้อนั้นโดนไปทั้งหมดสามตัว ต่างเวลา ต่างบริเวณบนร่างกาย ปกติโดนเห็บกัดทุกปี ปีละตัวสองตัว แต่ไม่เคยมีปัญหา ปีนั้นพิเศษหน่อยตรงที่ เห็บตัวสุดท้ายที่กัดส่งผลทำให้เกิดอาการคันยาวนานมากกกกก คันและแดง หายไปสักพักก็กลับมาคันอีก คันเป็นเดือนๆ จนแม่สามีเริ่มกังวลว่าจะติดเชื้อ Borrelia หรือเปล่า เราก็ใจเย็นบอกว่า ฉันสังเกตุการณ์อยู่ ผื่นมันไม่นูน ไม่ใหญ่เท่าเหรียญห้าโครน ไม่ต้องไปหาหมอหรอก จากนั้นก็ลืมๆ ไป จำไม่ได้แน่ชัดว่าอาการเริ่มออกเมื่อไหร่ น่าจะราวๆ สิงหา กันยา อาการคือมีผื่นขึ้นตามตัว ซึ่งมักจะเป็นตอนกลางคืน ผื่นที่ขึ้นจะเปลี่ยนที่ไปเรื่อย ที่แขน ขา ท้อง ไรผมตรงต้นคอ หนังศีรษะ ฯลฯ ผื่นที่ขึ้นจะคัน แดง ยิ่งเกายิ่งลามเป็นปื้น เป็นตอนกลางคืน ตื่นเช้ามาก็หายไป ไม่ทิ้งร่องรอยอะไรไว้ให้ดูต่างหน้าเลย
ตอนแรกก็คาดเดาว่าอาจจะเป็นแมลงหวี่กัด หรืออาจแพ้ผงซักฟอก แชมพู ยาสีฟัน เพราะบางวันตื่นนอนมานี่ปากเจ่อมาก เราก็เปลี่ยนของใช้ในบ้านเป็นออกร์แกนิคเท่าที่ในตลาดมีขาย แต่ผื่นก็ยังไม่หาย นอกจากผื่นแล้ว บางวันมีอาการปวดท้องด้วย ปวดแบบบิดๆ ก็คิดว่าท้องผูกเพราะปวดแล้วเข้าห้องน้ำแต่ปลดทุกข์ไม่ออก ก็ซื้อยาเหน็บมาช่วย อาการก็ไม่ดีขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไหร่ วันดีคืนดีท้องเสียอีก
ช่วงนั้นกินเห็ดบ่อยด้วย บางทีก็แอบสยองตัวเองว่าเก็บเห็ดพิษปนมาบ้างหรือป่าวว๊า หรืออาจจะท้องเสาะเพราะกินหน่อไม้ คิดไปสารพัด มีอยู่คืนนึงปวดท้องมากจนคิดว่าจะขาดใจตาย เป็น คืนวันอาทิตย์ ตีสองตีสามได้ ปวดจนคิดว่าจะขับรถไปฉุกเฉินเอง เพราะไม่อยากปลุกสามี วันจันทร์เขาต้องไปทำงาน แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ไป กลัวอาการกำเริบระหว่างทาง กลัวเป็นลมในรถ
ก็นอนทำสมาธิหายใจเข้าออกลึกๆ จนหลับไป ตื่นเช้ามาก็หาย นึกว่าเป็นกระเพาะอักเสบ ยังคุยกับพี่สาวว่าจะหาซื้อแอนตาซินมาติดบ้านไว้บ้างแล้ว จากนั้นเหมือนอาการจะแย่ลง ผื่นขึ้นมากกว่าปกติ กลางคืนไม่ได้หลับได้นอน เลยชักเริ่มสงสัยว่าตัวเองจะเป็นลมพิษ เลยค้นข้อมูลโดยสามีช่วยดูด้วย
เมื่อประมวลอาการทั้งหมดแล้ว สามีสรุปว่าเป็นลมพิษแน่ๆ และอาจแพ้เนื้อสัตว์จากการโดนเห็บกัดด้วย เมื่อนึกย้อนไปก็มีความเป็นไปได้ วันที่ปวดท้องนั่นเรากินอาหารที่มีเนื้อสัตว์ ไส้อั่วบ้าง ไส้กรอกบ้าง บางทีก็หมูกรอบ ซาลามี่ ยังนึกอยู่ว่าท้องสำออย กินเผ็ดนิดหน่อยก็ปวดก็แสบ เมื่อได้ข้อสงสัย วันรุ่งขึ้นก็โทรไปศูนย์อนามัยจองเวลาเพื่อพบหมอ เล่าอาการให้พยาบาลฟังและพยาบาลนัดเวลาให้เข้าไปในวันนั้นเลย
เล่าให้หมอฟังว่าสงสัยจะเป็นอาการแพ้เนื้อ (Köttallergi) จากการโดนเห็บกัด หมอไม่เชื่อ แต่ก็สั่งให้เจาะเลือดตรวจเพื่อดูว่าติดเชื้อ Borrelia ไหม แพ้กลูเต็น ถั่ว ปลา และอาหารอื่นๆ หรือเปล่า วันนั้นได้ยาแก้แพ้กลับบ้านมาสองอย่าง ให้กินเมื่อมีอาการ ผ่านไปสามวันผลตรวจทุกอย่างออกมาปกติ หมอบอกว่าเดี๋ยวจะเขียนใบส่งตัวให้ไปตรวจเพิ่มที่โรงพยาบาลประจำเขต หนึ่งวันหลังจากนั้นพยาบาลโทรมาบอกว่าให้ไปเจาะเลือดตรวจอีกครั้ง คราวนี้หมอสั่งตรวจว่าแพ้ Alfa-gal ไหม รอผลอยู่หนึ่งสัปดาห์ โป๊ะเชะเลย สรุปแพ้เนื้อจริง โดยแพ้สาร Alfa-gal ที่มีในสัตว์
หมอสั่งยาแก้แพ้ให้สองตัว ตัวนึงให้กลืน อีกตัวละลายน้ำแล้วดื่ม ให้กินเมื่อมีอาการเท่านั้น S-gal-1-3 galaktos หรือ Alfa-gal คืออะไร? Alfa-gal คือคาร์โบไฮเดรตที่มีในสัตว์ที่มีกระดูกสันหลังทุกชนิด ยกเว้นในมนุษย์และลิง และเจ้าตัวนี้มีอยู่ในท้องและลำไส้ของเห็บด้วย
เมื่อเห็บกัดสัตว์ป่ามันจะได้รับเชื้อมา และเมื่อมันกัดเรามันจะปล่อยสารตัวนี้เข้าร่างกายเรา ซึ่งสารตัวนี้ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมสำหรับร่างกายมนุษย์ ร่างกายก็จะสร้างภูมิคุ้มกันที่เกี่ยวข้องกับการเกิดอาการแพ้ (Immunoglobulin E (IgE) ขึ้นมาเพื่อต้าน Alfa-gal Alfa-gal มีอยู่ในสัตว์ประเภทเนื้อวัว เนื้อควาย สัตว์ป่า หมู แกะ รวมทั้งพวกเครื่องในของสัตว์เหล่านี้ด้วย ตอนนี้ยังไม่มียารักษา ที่ทำได้คือหลีกเลี่ยงการกินเนื้อสัตว์ที่มีสาร Alfa-gal ดังที่กล่าวไปข้างต้น
คนแพ้เนื้อควรหลีกเลี่ยง หรือลดปริมาณการกินผลิตภัณฑ์ที่ทำจากนมด้วย รวมทั้งอาหารหรือขนมที่มีส่วนผสมของเจลาติน (เจลาตินผลิตจากกระดูกและหนังสัตว์ เช่น วัว ควาย หมู) ส่วนตัวแพ้สาหร่ายด้วย อดกินซูชิสาหร่ายของโปรดไปโดยปริยาย อาการต่างๆ ที่เป็นนั้น ไม่ได้เป็นทุกครั้งที่กินเนื้อ เพราะฉะนั้นจึงเป็นเรื่องยากมากที่จะรู้ว่าแพ้ในระยะแรกๆ ปัจจัยที่กระตุ้นให้มีอาการคือ แอลกอฮอล์และการออกแรงทำสิ่งๆ ต่าง เช่น ออกกำลังกาย
ส่วนตัวเมื่อก่อนนั้นกินเบคอนเป็นนิจสิน กินใส้กรอกบ้าง บางทีไม่มีอาการอะไรเลย ผื่นเคยหายไปเป็นสัปดาห์ก็มี เราก็คิดว่าไม่แพ้ ก็กินต่อ ตอนนี้ผลตรวจออกแล้วก็ต้องงดเนื้อไปเลย
ระดับการแพ้นั้นแตกต่างกันไปในแต่ละคน ส่วนตัวคิดว่าตัวเองแพ้ไม่มาก เพราะไม่มีอาการอะไรที่มีนัยยะสำคัญเมื่อได้กลิ่นเนื้อ
บางคนแพ้มากขนาดที่ว่าได้กลิ่นเนื้อแล้วปวดหัว ตัวชา และหมดสติ ที่แย่ที่สุดคือหากเกิดอาการแพ้แบบรุนแรง (Anafylaxi) ซึ่งอาจทำให้เสียชีวิตได้ อาหารที่กินได้คือ สัตว์ปีก ปลา และอาหารทะเล
สวีเดนทำการศึกษาเรื่องนี้เมื่อปี 2009 และตอนนี้มีผู้ที่ได้รับการวินิจฉัยและยืนยันว่าแพ้เนื้อราวๆ 200 คน (ข้อมูลปี 2015) แต่คาดว่าตัวเลขผู้ที่แพ้เนื้อจริงๆ ที่ไม่ได้รับการวินิจฉัยและที่ไม่รู้ตัวน่าจะมากกว่านั้น ใครที่มีอาการตามที่กล่าวไว้ และหาสาเหตุยังไม่เจอ รักษาไม่ได้ ควรติดต่อแพทย์เพื่อขอตรวจ แต่ไม่ต้องตื่นตระหนกนะคะ ไม่ใช่เห็บทุกตัวจะมีเชื้อ ไม่ใช่ทุกคนที่โดนกัดจะแพ้
คนที่กรุ๊ปเลือด เอ และโอ เป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจจะติดเชื้อได้ ส่วนกรุ๊ป บี และ เอบี โครงสร้างของเลือดจะมี Alfa-gal อยู่เพราะฉะนั้นความเสี่ยงนั้นน้อยมาก ทั้งหมดนี้คือสาเหตุทำให้เราหันมากินมังฯ เป็นส่วนใหญ่ เนื้อสัตว์ที่กินส่วนใหญ่คืออาหารทะเล และไก่บ้าง ปลาบ้าง เดือนละหนสองหน
ปีนี้ 2024 ดูเหมือนจะไม่มีอาการแพ้เนื้อแล้ว แต่อาหารในชีวิตประจำวันยังคงเป็นผักและถั่วเป็นส่วนใหญ่อยู่
บางวันก็มีแอบกินไส้กรอกอิสานบ้างเวลาอยู่บ้านคนเดียว
Create Date : 17 เมษายน 2567 |
|
6 comments |
Last Update : 17 เมษายน 2567 14:07:11 น. |
Counter : 206 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: หอมกร 18 เมษายน 2567 7:03:08 น. |
|
|
|
|
|
|
สงวนลิขสิทธิ์
ห้ามนำข้อมูลไปหาผลประโยชน์ในทุกรูปแบบ
|
Users Online
|
|
|
|
|
|
|
เจ้าหน้าที่อุทยานมาให้คำแนะนำ อย่าเดินไปเขตห้ามเข้า เพราะถ้าเดินเข้าไปเห็บสัตว์ป่ากัด กว่าจะรู้ตัวก็มีอาการแล้ว จะไปก็ต้องมีเจ้าหน้ามี่อุทยานนำทาง ปลอดภัย