|
| 1 | 2 | 3 |
4 | 5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 |
11 | 12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 |
18 | 19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 |
25 | 26 | 27 | 28 | 29 | 30 | 31 |
|
|
|
|
|
|
|
ถ้าเราประสบปัญหาเรื่องเงินแล้วต้องการหยุดฝากเงินกับประกันชีวิต จะทำอย่างไร
เมื่อเกิดปัญหาทางด้านการเงินขึ้น มีผู้เอาประกันภัยจำนวนไม่น้อยที่หยุดชำระเบี้ยประกันภัยไป โดยไม่ทราบว่ายังมีวิธีการอื่นที่แก้ปัญหานี้ได้ ทำให้ผู้เอาประกันภัยเสียผลประโยชน์ไป สำหรับผู้ที่เอาประกันภัยที่ประสบปัญหาด้านการเงิน มีวิธีการในการแก้ปัญหาดังต่อไปนี้
1. การเปลี่ยนงวดการชำระเบี้ยประกันภัย ผู้เอาประกันภัยที่ชำระเบี้ยประกันภัยเป็นรายปี จำนวนเบี้ยประกันภัยที่จะต้องจ่ายในแต่ละงวดเป็นจำนวนที่ค่อนข้างสูง ถ้าเปลี่ยนเป็นการชำระเบี้ยรายเดือน ราย 3 เดือน หรือ ราย 6 เดือน จะทำให้จำนวนเบี้ยประกันภัยที่จะต้องจ่ายในแต่ละงวดน้อยลง ไม่ต้องจ่ายเป็นเงินก้อนใหญ่
2. การลดจำนวนเงินเอาประกันภัย เมื่อลดจำนวนเงินเอาประกันภัยลงจะทำให้ผู้เอาประกันภัยชำระเบี้ยประกันภัยลดลงด้วย เพราะในการทำประกันชีวิตนั้น ถ้าจำนวนเงินเอาประกันภัยสูง เบี้ยประกันภัยจะสูงด้วย ฉะนั้น เมื่อลดจำนวนเงินเอาประกันภัยลง จำนวนเบี้ยประกันภัยก็จะลดลงด้วย
3. การเปลี่ยนแบบการประกันภัย ผู้เอาประกันภัยที่ทำประกันชีวิตที่มีผลประโยชน์สูง เช่น มีการจ่ายผลประโยชน์ทุก ๆ 3 ปี หรือ ครบกำหนดจ่าย 2 เท่าของจำนวนเงินเอาประกันภัย จำนวนเบี้ยประกันภัยที่จ่ายแต่ละงวดก็จะสูงด้วย เมื่อมีปัญหาทางด้านการเงิน ผู้เอาประกันภัยก็สามารถที่จะยื่นต่อบริษัทของเปลี่ยนเป็นแบบการประกันชีวิตที่มีผลประโยชน์ลดลง ซึ่งจะมีผลทำให้เบี้ยประกันภัยที่จะต้องจ่ายลดลง ทำให้ผู้เอาประกันภัยไม่ต้องรับภาระชำระเบี้ยประกันภัยสูง
4. การแปลงกรมธรรม์เป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จหรือกรมธรรม์ขยายระยะเวลา ผู้เอาประกันภัยที่ประสบปัญหาทางด้านการเงินที่จะเลือกใช้วิธีการนี้ได้ จะต้องเป็นผู้ทำประกันชีวิตมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี นั่นคือ กรมธรรม์ต้องมีมูลค่าเวนคืนเงินสดเกิดขึ้นแล้วสำหรับการแปลงเป็นกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ จำนวนเงินเอาประกันภัยจะลดลง แต่ระยะเวลาความคุ้มครองจะเท่ากับระยะเวลาเดิม เมื่อครบกำหนดผู้เอาประกันภัยจะได้รับจำนวนเงินเอาประกันภัยลดลง โดยจำนวนเงินเอาประกันภัยที่ลดลงนั้นจะมีจำนวนเท่าไรขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินสดที่จะนำมาแปลงเป็นกรมธรรม์ประกันภัยที่แนบอยู่ในกรมธรรม์ใช้เงินสำเร็จ โดยผู้เอาประกันภัยสามารถดูได้จากตารางมูลค่ากรมธรรม์ประกันภัยที่แนบอยู่ในกรมธรรม์ประกันภัย ส่วนการแปลงเป็นกรมธรรม์ขยายเวลานั้น กรมธรรม์จะแปลงเป็นกรมธรรม์แบบชั่วระยะเวลา จำนวนเงินเอาประกันภัยจะเท่าเดิม แต่ระยะเวลาความคุ้มครองจะลดลง ถ้าผู้เอาประกันภัยเสียชีวิตภายในระยะเวลาที่ขยายออกไป ผู้รับประโยชน์ก็จะได้รับจำนวนเงินเอาประกันภัย แต่ถ้าครบกำหนดที่ขยายออกไปแล้ว ผู้เอาประกันภัยยังมีชีวิตอยู่กรมธรรม์ก็จะสิ้นผลบังคับไป โดยไม่ได้รับจำนวนเงินเอาประกันภัยอันเป็นหลักของการประกันชีวิตแบบชั่วระยะเวลานั้นเอง อย่างไรก็ตามการประกันชีวิตบางแบบ เมื่อมีการแปลงกรมธรรม์เป็นกรมธรรม์ขยายระยะเวลาแล้ว มูลค่าของกรมธรรม์ที่สามารถนำไปแปลงเป็นกรมธรรม์แบบชั่วระยะเวลาคุ้มครองเท่าเดิมแล้ว บางครั้งเมื่อแปลงไปแล้วจะมีเงินเหลือคืนให้แก่ผู้เอาประกันภัยอีกจำนวนหนึ่งด้วย ซึ่งการที่จะขยายเวลาออกไปได้เป็นระยะเวลาเท่าไรก็ขึ้นอยู่กับมูลค่าเงินสดที่จะนำมาแปลงกรมธรรม์เป็นกรมธรรม์ขยายระยะเวลา *** วิธีนี้เป็นวิธีที่ตัวแทนมักจะแนะนำให้ลูกค้าทำค่ะ ในกรณีที่ต้องการหยุดฝากแล้วจริงๆ ซึ่งท่านสามารถสอบถามได้จากตัวแทนของท่าน หรือสอบถามกับฝนก้อได้ค่ะ
5. การยกเลิกสัญญาแนบท้ายกรมธรรม์ประกันภัย เช่น สัญญาแนบท้ายค่ารักษาพยาบาล สัญญาแนบท้ายการประกันอุบัติเหตุ เป็นต้น ซึ่งจะช่วยลดจำนวนเงินที่จะต้องจ่ายได้
ดังนั้น ผู้เอาประกันภัยที่มีปัญหาทางด้านการเงินสามารถที่จะเลือกวิธีการใดวิธีการหนึ่งตามที่กล่าวมาข้างต้นนี้ ซึ่งจะช่วยไม่ให้ผู้เอาประกันภัยต้องเสียประโยชน์ และนอกจากนี้สำหรับผู้เอาประกันภัยที่ประสบปัญหาด้านการเงินจริง ๆ ต้องการเงินนำไปใช้ในภาระอื่น ๆ ผู้เอาประกันภัยสามารถกู้ยืมเงิน โดยมีกรมธรรม์ประกันภัยเป็นประกันได้ สำหรับผู้เอาประกันภัยที่จะกู้ยืมเงินโดยมีกรมธรรม์ประกันเป็นประกันนั้น กรมธรรม์จะต้องมีมูลค่าเวนคืนเงินสดเกิดขึ้นแล้ว โดยผู้เอาประกันภัยสามารถจะกู้เงินได้ไม่เกินมูลค่าเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์นั้น เช่น ผู้เอาประกันภัยขอกู้เงินเมื่อชำระเบี้ยประกันภัยไปได้ 8 ปี จำนวนเงินที่กู้ได้เมื่อสิ้นปีกรมธรรม์ปีที่ 8 ไม่เกินมูลค่าเงินสด ณ สิ้นปีกรมธรรม์ปีที่ 8 ในการกู้ยืมเงินโดยมีกรมธรรม์ประกันภัยเป็นประกันนี้ ผู้เอาประกันภัยจะต้องชำระดอกเบี้ยให้กับบริษัทด้วย โดยอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ยืมที่บริษัทคิดกับผู้เอาประกันภัยจะเท่ากับร้อยละ 8 ต่อปี ทบต้น สำหรับการประกันชีวิตประเภทสามัญ และร้อยละ 10 ต่อปี ทบต้น หรือร้อยละ 12 ต่อปี ไม่ทบต้น สำหรับการประกันชีวิตประเภทอุตสาหกรรม
Create Date : 17 มีนาคม 2550 |
Last Update : 8 เมษายน 2553 10:48:20 น. |
|
12 comments
|
Counter : 621 Pageviews. |
|
|
|
โดย: Yoawarat วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:21:01:31 น. |
|
|
|
โดย: โสมรัศมี วันที่: 17 มีนาคม 2550 เวลา:21:41:12 น. |
|
|
|
โดย: ออม IP: 124.121.131.110 วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:13:54:41 น. |
|
|
|
โดย: ฝน (nantawalai_s ) วันที่: 25 เมษายน 2550 เวลา:22:21:53 น. |
|
|
|
โดย: ทิพย์ IP: 203.113.61.103 วันที่: 26 พฤษภาคม 2550 เวลา:22:51:13 น. |
|
|
|
โดย: วัฒนา IP: 58.147.104.40 วันที่: 12 มิถุนายน 2550 เวลา:21:41:34 น. |
|
|
|
โดย: ฝน (nantawalai_s ) วันที่: 13 มิถุนายน 2550 เวลา:22:15:12 น. |
|
|
|
โดย: ชมพู่ IP: 110.49.133.37 วันที่: 28 มิถุนายน 2553 เวลา:21:22:21 น. |
|
|
|
โดย: ธนวรรธน์ IP: 117.47.24.128 วันที่: 30 กรกฎาคม 2553 เวลา:11:37:03 น. |
|
|
|
โดย: บี IP: 110.164.187.237 วันที่: 9 สิงหาคม 2553 เวลา:15:46:19 น. |
|
|
|
โดย: อนัญญา ศิลา IP: 180.180.12.189 วันที่: 25 พฤศจิกายน 2553 เวลา:20:27:29 น. |
|
|
|
|
|
|
|