1 2
3 4 5 6 7 8 9
10 11 12 13 14 15 16
17 18 19 20 21 22 23
24 25 26 27 28 29 30
31
ความรักของอังเดร ... ไม้ขีดไฟกับดอกทานตะวัน
ชีวิตของอังเดร กรังดิเออร์ วัยแปดขวบ ที่สูญเสียพ่อและแม่ไปในเวลาใกล้ๆกันในวัย ได้เริ่มต้นใหม่อีกครั้งในวันที่ถูกย่ารับตัวมาสู่คฤหาสน์จาร์เจ เพื่อมาทำหน้าที่เพื่อนเล่นกับบุตรีคนเล็กของตระกูล ผู้ซึ่งอายุน้อยกว่าตนหนึ่งปี ในใจของเด็กน้อยที่กำพร้าพ่อแม่และไม่มีพี่น้องทั้งดีใจที่จะได้มีที่พึ่งพิงอยู่ใกล้ชิดกับย่าผู้เป็นญาติคนเดียวที่เหลือบนโลกนี้ และดีใจที่จะได้มีโอกาสพบกับเพื่อนใหม่ในฐานะเจ้านายตัวน้อย ซึ่งเขาวาดฝันไว้ว่า ต้องเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาน่ารักราวกับนางฟ้าตัวน้อยๆเหมือนอย่างที่ย่าของเขาพร่ำพรรณนาบอกเสมอ อังเดรวาดฝันไว้ได้สวยงามไม่น้อย และความจริงที่ได้พบตรงหน้า ก้อไม่ผิดไปจากที่ฝัน... ทว่า มีบางสิ่งบางอย่างที่ค่อนข้างจะ "แปลกออกไป" จากที่จินตนาการไว้นิดหน่อย นั่นก้อคือว่า คุณหนูคนเล็กของตระกูลจาร์เจ ยืนยันว่าไม่ได้ต้องการเพื่อนเล่นแก้เหงา แต่อยากได้คู่ฝึกซ้อมฟันดาบ... เอ๊ะ? ยังไง? และคุณหนูที่อยู่ตรงหน้าเขา ก้อมิได้แต่งกายเหมือนเด็กผู้หญิงตระกูลสูงทั่วๆไป ... ให้อังเดรพิศดูกี่รอบต่อกี่รอบ เขาก้อมองเห็นว่า เด็กน้อยหน้าตาสวยราวเทพธิดาผู้น่ารักที่อยู่ตรงหน้า ... สวยแบบเด็กผู้ชายรูปงาม และสวมใส่เสื้อผ้าเด็กผู้ชาย .... อะไรกันเนี่ย?! ย่าหลอกเขาหรือยังไงกัน ไหนล่ะเด็กผู้หญิงน่ารักๆ แบบนี้เขามิยิ่งอายุสั้นหรือยังไงกัน! อังเดรวัยแปดขวบอุทธรณ์ในใจได้เพียงเท่านั้น เพราะเขาต้องรับหน้าที่คู่ซ้อมดาบไปโดยปริยาย และ... ห้ามทำให้ใบหน้าของคุณหนูได้รับบาดแผลใดๆเสียด้วย... เอาน่ะ... คงไม่เลวร้ายนักหรอก ไหนๆก้อไหนๆแล้ว .... ยังไงเขาก้อไม่รู้จะไปที่ไหนได้อีกแล้วล่ะ จากวัน ผ่านเป็นเดือน และเป็นปี .... อังเดรเติบโตมาคู่กับออสการ์ในฐานะเพื่อนเล่น เพื่อนซ้อมดาบ เจ้านายกับคนเลี้ยงม้า ... ผู้บังคับบัญชาและทหารในปกครอง ... ไม่ว่าจะอยู่ในฐานะใดก้อตาม สิ่งเดียวที่ทุกคนยอมรับก้อคือว่าสองคนนี้ ต้องอยู่คู่กันเสมอเพราะอังเดรเปรียบเสมือนเงาตามตัวของออสการ์ และออสการ์เองหากไม่มีเงา ก้อย่อมเป็นเพียงแสงที่เจิดจ้าทว่า ไม่มีตัวตน ... อังเดรเติบใหญ่ขึ้นด้วยความรู้สึกพอใจที่จะได้มองดูอยู่ใกล้ๆ และคอยดูแลเธอในฐานะบอดี้การ์ด ในช่วงรุ่นหนุ่มวัย ยี่สิบต้นๆของอังเดรจึงผ่านไปอย่างสงบสุขดี เพราะออสการ์ยังคงเป็นออสการ์คนเดิมที่จริงจังและยึดมั่นกับการได้รับใช้พระมหากษัตริย์ เพียงแค่ได้รักเขาก้อสุขใจแล้ว แต่ยิ่งกาลเวลาผ่านไปเท่าไหร่ อังเดรก้อเริ่มรู้สึกตัวว่า ความรักที่เขาเก็บไว้ในใจอย่างมิดเม้น กำลังจะทำให้เขาคลั่ง เขาเริ่มรู้ว่าออสการ์มีใจให้เคานท์ แฟร์ซอง แต่เขาก้อรู้ดีว่าแฟร์ซองมอบหัวใจถวายพระนางอังตัวเน็ตต์เพียงคนเดียว ... ในขณะที่เขาเฝ้ารอให้เธอรู้สึกตัว ออสการ์กลับทุ่มเทให้แฟร์ซองโดยยอมแปลงโฉมตัวเองให้เป็นหญิงสาวเพื่อให้แฟร์ซองหันมามอง อันที่จริงถ้าเขาทั้งสองจะคู่กัน ก้อคงจะเป็นคู่ที่เหมาะสมกับมาก เขาคงไม่มีวันเสนอหน้าเข้าไปเทียบด้วยได้ เขาจะไปบอกใครได้ว่า เขารักออสการ์ตั้งแต่แรกเห็นในวัยเยาว์ รักโดยที่รู้ตัวเองดีว่า ความรักของเขาคงจะไม่มีโอกาสสมหวัง เพราะฐานะของเขากับออสการ์ต่างกัน ... เขาเป็นเพียงสามัญชนธรรมดา แต่ออสการ์เป็นถึงขุนนาง มันไม่มีวันเป็นจริงได้หรอก... !! รอยยิ้มสดใสของอังเดรที่เคยมีมาแต่วัยเยาว์เริ่มเลือนหายไปบนใบหน้าของเขา มีเพียงความเงียบเข้ามาแทนที่เมื่อต้องเก็บความรู้สึก รัก โลภ โกรธ หลง ไว้ภายในใจ แต่ที่สุดแล้วเขากลับได้เหรียญกล้าหาญมาแทนที่ นั่นคือวันที่สูญเสียดวงตาข้างซ้ายจากการต่อสู้กับอัศวินดำเพื่อช่วยออสการ์....ถ้าหากว่ามันจะช่วยชีวิตเธอได้ มีหรือเขาจะไม่ยินดี... ทั้งชีวิตของเขา ก้อสามารถมอบให้เธอได้หากต้องการ อังเดร กรังดิเออร์ มีชีวิตอยู่เพื่อผู้หญิงเพียงคนเดียวที่เขารักในชีวิต ทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาได้มอบให้เธอ ไม่ว่าจะเป็นความรัก ความผูกพัน ความห่วงใย ความปรารถนาดีทุกอย่าง ได้หล่อหลอมให้เขาและออสการ์เป็นเงาตามตัวกันตราบจนสิ้นลมหายใจ ความรักที่ต้องรอคอยมานานนับยี่สิบกว่าปีได้สมหวัง และจบสิ้นลงภายในเวลาอันสั้น จนแทบไม่อาจจะพูดได้เต็มปากว่าสมหวัง เพราะเมื่อดอกทานตะวันหันหน้าจากดวงอาทิตย์มามอง ไม้ขีดก้านน้อยที่ได้จุดตัวเองให้ลุกเป็นไฟโชติช่วง ก้อได้มอดไหม้เป็นจุลไปเสียแล้ว... ทว่า นี่คือความรักเดียวที่เขาจะมอบให้ใครเพียงคนเดียวในโลกนี้... และไม่เคยเสียใจที่ได้รัก แม้ว่ากว่าที่เธอจะมองเห็นเขา ผู้ซึ่งพยายามทำทุกวิถีทางที่จะให้เธอหันมา ตราบจนวันที่ต้องลาจากกันราวกับพระเจ้าอยากจะบอกเป็นนัยว่า "สายเกินไปเสียแล้วสำหรับรักครั้งนี้.." แต่ อังเดร ไม่เคยเสียใจ ที่ได้รักเธอ เพราะเขา คือเงา... และจะเป็นเงาของเธอเสมอ...ตลอดไป @@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@@ Ai no hikari to kage - The light and shadow of love Ai no hikari to kage. Ai wa kurushii mi nara Ikura de mo kurushii mo Sore ga kimi no kokoro ni Itsuka todoku made Kimi wa hikari, boku wa kage Hanare narenai futari no kizuna Kurushi meba kurushi muhodo Ai wa fukamaru Kono mune o itsukete Ai wa, ai wa fukamaru Kimi ga shi no toki mi ga Kono boku o shi no toki da Towa no ai no sazameru Kinii itsuno hito Omoi okose kei o oite Kimi itsumo hito Omoi okose kei o oite Kimi o dakuno wa hitori no otoko Kanashii mi wa, kanashii muhodo Ai wa fukamaru Uzureyuku hoshi o mite: Ai wa, ai wa fukamaru Kono mune o itsutsukete Ai wa, ai wa fukamaru@@@@@@@@@@ If loving is to suffer, หากรักนี้มีเพียงต้องเจ็บปวดรวดร้าว I will take anything suffering, ฉันก็ขอรับความรวดร้าวนั้นไว้ทุกอย่าง Until it reaches to your heart, ตราบเท่าที่จะมีโอกาสเข้าถึงหัวใจเธอสักวิถีทาง someday; สักวันหนึ่ง ... ขอเพียงมีสักวันให้มีหนทาง You are the light, I am the shadow, เธอคือแสงสว่าง และฉันผู้อ้างว้างคือเงาสลัว A bond that can never be apart, คือความผูกพันที่ทำให้หัวใจเราไม่เคยพรากจากกัน The more I Suffer, the more I love you; นับจากวันที่ต้องเจ็บปวดทรมาน ฉันก็ยิ่งรักเธอ When I am wounded, เจ็บปวดสักเท่าไหร่ และแม้ต้องเจ็บเสมอ I get to love you deeper... ก็ยังรักเธอ และยิ่งรักเธอลึกซึ้งกว่าวันวาน และแม้ยิ่งรักเธอ... จะทำให้ตาของฉันจะมืดบอดลงทุกที .... ออสการ์ The more I love you, the more blind I become to you..Ah,Oscar....
Create Date : 20 กรกฎาคม 2548
10 comments
Last Update : 21 กรกฎาคม 2548 12:25:10 น.
Counter : 1710 Pageviews.
โดย: วีวี่ IP: 203.172.61.137 21 กรกฎาคม 2548 6:06:21 น.
โดย: zaesun 23 กรกฎาคม 2548 13:43:34 น.
โดย: Rainbow Gecko IP: 202.28.181.7 28 กรกฎาคม 2548 17:11:35 น.
โดย: orange IP: 58.9.111.2 7 กันยายน 2550 16:48:54 น.
โดย: นัท IP: 202.44.130.23 26 สิงหาคม 2552 18:46:41 น.
โดย: สาวกแวร์ซายส์ IP: 58.97.0.240 1 กันยายน 2552 11:49:33 น.
โดย: นก IP: 124.122.130.7 5 กันยายน 2552 23:58:32 น.
โดย: toui_kn@yahoo.com IP: 111.84.97.113 21 ตุลาคม 2552 0:35:09 น.
Location :
กรุงเทพ Australia
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 4 คน [? ]
จะเป็นกรวดหรือเพชร ถ้าไปนึกรักมันเข้าแล้วหายไปเมื่อไรก็เสียดาย ยิ่งรักมากก็ยิ่งเสียดายมาก บางคนถึงกับเสียคนไปก็มี "ถ้าเราไม่อยากทุกข์มากไม่อยากเสียคน ก็อย่าไปรักอะไรให้มากนัก ถึงจะรักก็ต้องรู้กำพืดว่ามันเป็นเพชร หรือเป็นกรวด" ถ้ารู้ราคาจริงๆของมันเสียแล้วถึงมันจะหายไป เราก็จะไม่เสียดายมากนัก (จาก "สี่แผ่นดิน" โดย ม.ร.ว.คึกฤทธิ์ ปราโมช) สงวนลิขสิทธิ์ตาม พรบ.ลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2539 ห้ามมิให้นำไปเผยแพร่และอ้างอิง ส่วนหนึ่งส่วนใดหรือทั้งหมดของข้อความ ในสื่อคอมพิวเตอร์แห่งนี้เพื่อการค้า โดยไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร ผู้ละเมิดจะถูกดำเนินคดี ตามที่กฎหมายบัญญัติไว้สูงสุด
ปล. เห็นรูปแฟร์ซองจากที่ดทรค.อัพครั้งที่แล้วแล้วน้ำลายไหลค่ะ