งานมีตติ้งนักเขียนแจ่มใส Charity Love Charity Party เมื่อวาน (25 พ.ย.) ได้ไปงาน Charity Love Charity Party ของสำนักพิมพ์แจ่มใสมา งานนี้เป็นงานที่บรรดานักเขียนของสำนักพิมพ์แจ่มใส ได้มาร่วมกันออกร้านเพื่อหารายได้ไปทำบุญกับเด็กพิการซ้ำซ้อน (ถ้าจำไม่ผิดนะ) เพราะว่าไม่เคยไปแถวๆ สีลมมาก่อนเลย แต่เห็นจากแผนที่เขาบอกว่าให้ลงรถไฟฟ้าที่ศาลาแดง แล้วก็ตรงมาอีหน่อยก็จะถึง พอลงจากรถไฟฟ้า ก็มาเล็งๆ ว่าจะขึ้นรถเมล์สายอะไรดี และแล้วก็มั่วขึ้นรถสาย 77 (ก็กะว่าถ้ามันไปคนละทางก็จะลงแล้วต่อแท็กซี่แล้วล่ะ) แต่การเดาของเรากลับแม่นอย่างไม่น่าเชื่อ ในที่สุดก็สามารถพาตัวเองมาถึงยังบ้านสีลม ซึ่งเป็นบริเวณจัดงานได้อย่างปลอดภัยและไม่หลง มาถึงงานก็ลงทะเบียนก่อนเป็นอันดับแรก แล้วก็ได้รับหนังสือ Meaning of Love เล่มเล็กๆ ที่รวบรวมความหมายของความรักของบรรดานักเขียนแต่ละคนเอาไว้ และก็แผ่นเล่นเกม Love Rally เพื่อเอาไว้สะสมแต้มเพื่อแลกของรางวัลภายในงาน และแล้วเราก็ต้องเริ่มงานตามจุดประสงค์หลักที่มาในวันนี้ นั่นก็คือการล่าลายเซ็นต์ของบรรดานักเขียนที่เราชื่นชอบ และร้านแรกที่เราจะเข้าไปจะเป็นร้านของใครไปไม่ได้ นอกจากร้านของน้องอ้น นักเขียนสุดที่เลิฟ ร้านของน้องอ้นเป็นร้านขายเทียนเจล แต่ถ้าอยากทำเองก็ได้ เราก็เลยทำเทียนเจลที่ร้านนี้ไปสองอัน (แต่ตอนนี้เทียนเจลที่ทำแล้วออกมาดูดี๊ดูดี เมื่อตอนทำเสร็จใหม่มันเยิ่นไปหลังจากที่มันต้องสมบุกสมบันอยู่ในเป้จนกว่าจะกลับถึงบ้าน) ต่อจากนั้นก็เดินเข้าเดินออกร้านนั้นร้านนี้เพื่อล่าลายเซ็นต์และเก็บแต้มเพื่อไปแลกของรางวัล ก็เดินไปเดินมาอ่ะนะ เลยจำไม่ได้ว่าเข้าร้านไหนก่อนหลัง แต่จะขอไล่เป็นร้านๆ ไปละกัน (ทั้งๆ ที่จริงไม่ได้เข้าเรียงลำดับอย่างนี้หรอก) ร้านแรกคือร้านถุงผ้า ร้านนี้ก็ได้ซื้อถุงผ้าใบใหญ่ไปใบนึง แล้วถัดมาก็คือร้านคำหวาน ร้านนี้ซื้อคุ้กกี้ไปสองอัน ถัดมาก็เป็นร้านอุ่นหัวใจใส่แซนด์วิช ร้านนี้เป็นร้านของพี่เปี๊ยกอุรัสยา (สุดสวย) ร้านนี้ซื้อแซนด์วิชทูน่าไปอันหนึ่ง (ที่จริงซื้อเพราะหิวนะ แต่กว่าจะได้กินก็อีกเกือบสองชั่วโมงต่อมา เพราะว่าเราต้องปฏิบัติภารกิจพิชิต (ลายเซ็นต์) ดอกฟ้า ของงานนี้ซะก่อน ) ต่อมาก็เป็นร้านโอ๊ย...โอ ซึ่งร้านนี้ขายลูกชิ้นปิ้ง ตอนแรกก็คิดว่าอาจจะไม่ได้อุดหนุนร้านนี้แล้ว เพราะขายลูกชิ้นเนื้อ (ก็เราไม่กินเนื้อนี่นา) แต่พอเดินไปเดินมาสองสามรอบก็เห็นว่ามีไส้กรอกปิ้งขาย ก็เลยได้มากินหนึ่งอัน (ก็คนมันกำลังหิวนี่) แต่ที่ร้านนี้มีเรื่องทำให้แปลกใจอยู่ (คนอื่นเขาอาจจะไม่แปลกใจ แต่เราแปลกใจนี่นา) เรื่องนั้นก็คือ เราได้พบความจริงที่ว่า นักเขียนของแจ่มใสมีผู้ชายด้วย (ซึ่งคนนั้นๆ ก็คือคุณ Artfully นั่นเอง ตอนที่เขาเซ็นต์ให้เราเล่นเอางงไปเลย ) ต่อจากนั้นก็ย้ายมาอีกฝั่ง ก็ได้ของคาวมานี่ ก็ต้องหาเครื่องดื่มกันซะหน่อย ที่ร้าน PIN ของพี่ไอซ์ Clear Ice กะพี่อ้อม เด็กทะเล เราก็เลยได้ชานมไข่มุกมาแก้วนึง แล้วก็ได้ที่รองแก้วฝีมือพี่ไอซ์มาอีกอันหนึ่ง (แต่มันก็เหมือนๆ กับเทียนเจลนั้นแล คือเยินไปนิดหน่อยจากการเดินทางกลับบ้าน) ต่อจากร้านพี่ไอซ์ ก็เป็นร้านสะดุดรักนักเล่นเกม เราก็จับสลากได้ตุ๊กตาพวงกุญแจหมีอันเล็กๆ มาอันนึง แล้วก็มาที่ร้านดวงดี ร้านนี้ให้เคาะกระดิ่ง เลือกคำทำนาย เราเลือกได้ความหมายดีทีเดียวเลยแหละ (เอ หรือว่ามันดีหมดก็ไม่รู้ ) ต่อจากนั้นก็มาที่ร้าน CARD 4 U ที่ร้านนี้เราก็ได้เลือกซื้อโปสการ์ดไป 4 แผ่น (ก็เรามันเป็นพวกแพ้โปสการ์ดนี่นา เห็นเป็นไม่ได้ต้องซื้อ ) แล้วก็มาถึงร้านสุดท้ายซึ่งก็คือร้านชื่นใจ ที่ขายน้ำอัดลม แต่ด้วยว่าเรามีชานมอยู่ในมือ จะซื้อน้ำอีกสักแก้วก็คงจะดื่มไม่หมด ก็เลยเดินกลับมาที่ร้านน้องอ้น เพื่อดูว่าเทียนที่ทำนั้นแห้งดีหรือยัง ก็ได้ยินน้องอ้นบ่นว่าอยากกินน้ำ 555 ได้โอกาสแล้วคร้าบบบบบบบ ก็เลยบอกอ้นว่าเดี๋ยวไปซื้อมาให้ และแล้วเราก็สะสมแต้มในเกม Love Rally เกือบครบแล้วเหลืออีกเพียงร้านเดียว ก็งงๆ ว่ามันร้านไหน เพราะก็เข้ามาหมดแล้วทุกร้าน ปิ๊ง ยังมีอีกร้านที่เรายังไม่ได้เข้า นั่นก็คือร้านขายหนังสือของแจ่มใสนั่นเอง ก็ไปเดินเมียงๆ มองๆ สักพักก็ได้หนังสือมาสองเล่ม คือความรู้สึกดีเล่ม 22 และแผนรักร้าย กลอุบาย กับหัวใจสองดวงของพี่เปี๊ยกอุรัสยา มาไว้ในครอบครอง และก็สะสมแต้มจากเกมได้ครบทุกอัน ก็เอาไปแลกของ ก็ได้แผ่นรองเม้าส์กับโปสการ์ดชุดความรู้สึกดีมาหนึ่งชุด และที่บูทลงทะเบียนก็มีโปสการ์ดภาพหน้าปกของหนังสือแจ่มใสให้เลือกหลายแบบมาก ก็เลยเอาตังค์ใส่กล่องไป 100 บาท เพื่อทำบุญ แต่เราก็เลือกโปสการ์ดมาครบ 20 แผ่นพอดิบพอดี (ทำบุญเจงๆ หรือเรา ก็บอกแล้วว่าบ้าโปสการ์ด) และแล้วเหตุการณ์ระทึกก็เกิดขึ้น หลังจากที่สะสมลายเซ็นต์ไปได้เกือบจะครบแล้ว เหลือเพียงคุณนายน้อย และคุณ tintin อีกเพียงสองคนเท่านั้น เราก็พบว่าเราได้ทำสมุดที่ให้นักเขียนเซ็นต์นั้นหายไป ซีดครับซีดสิงานนี้ เพราะมันก็เย็นมากแล้ว ถ้าจะให้เก็บอีกก็อาจจะไม่ไหวนะ เดินจนเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว แต่แล้วในที่สุดก็พบมันจะได้เพราะมีคนเก็บได้ แล้วเอาไปประกาศหาที่หน้าเวที แต่ตอนที่เขาประกาศหากันเราไม่อยู่ก็เลยไม่รู้ว่าตัวเองทำหาย เหอ โล่งอก นึกว่าจะต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นซะแล้ว และในที่สุดก็สามารถล่าลายเซ็นต์ได้ครบถ้วน และก็มาถึงเวลาที่กล้องตัวน้อยๆ จะออกมาทำงานทำการซะที ก็เลยเดินเก็บภาพนักเขียนตามซุ้มต่างๆ ไปเรื่อยๆ เพื่อรอช่วงเวลาการประมูลของ ส่วนนี่เป็นภาพเบื้องหลังนักเขียนกั๊บ ต่อไปนี้เป็นคอลเล็กชั่นของนักเขียนสุดเลิฟ อันนี้ไม่รู้ว่ากำลังจะเดินไปไหน ปาดเหงื่อด้วยความเหน็ดเหนื่อย รูปน้องอ้นรูปสุดท้ายแล้ว (ที่จริงถ่ายไว้อีกหลายรูปเลยแหละ) และแล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง เวลาแห่งการประมูลมู่ลี่หมูน้อยของน้องอ้นนั่นเอง (ขอยอมรับในความพยายามเลยที่ทำออกมาจนเสร็จเนี่ย) ราคาเริ่มต้นประมูลก็เหมือนกับของทุกๆ ชิ้นนั่นแหละ ก็คือเริ่มต้นที่ 50 บาท ใช้เวลาเพียงไม่นานราคาก็บิดไปอยู่ที่ 1000 บาท ที่จริงวันนี้ก็มีงบ 1000 เดียวเหมือนกันนะเนี่ย แต่ความรู้สึกที่ว่าอยากจะประมูลของของนักเขียนที่เราชื่นชอบได้มีมากกว่า เราก็เลยบิดราคาไปที่ 1200 แต่ก็ยังมีคนมาบิดราคาเราขึ้นไปอีก จนในที่สุดไปอยู่ที่พี่นภชล ซึ่งบิดราคาไปอยู่ที่ 1400 เอาไงดีหว่าเรา เอาดีมั้ยเนี่ย แต่ใจมันก็บอกว่าแค่นี้ไม่เป็นไรหรอก เพื่อน้องต้องทำได้ เราก็เลยบิดราคาไปที่ 1450 และแล้วก็สำมะเร็จ มะมีใครกล้าสู้ราคาต่อ มู่ลี่ของน้องอ้นจึงมีราคาอยู่ที่ 1450 ฉะนั้นแล แต่พอหลังจากที่ประมูลได้มาแล้วนี่ก็ต้องคิดหนักละ จะเอาไปทำไรดีล่ะ ก็ตอนประมูลน่ะ มันอยากประมูลได้นี่นา แต่พอประมูลได้มาแล้ว ก็ไม่รู้ว่าจะเอาไปทำอะไร จะเอาไปติดที่ไหนในบ้านดีหว่า ไม่มีที่ให้ติดอ่ะ แล้วจะทำไงล่ะทีนี้ (ตอนแรกมีพี่เต้ย สาวไกด์ใจซื่อ ผู้แสนจะใจดี บอกว่าจะช่วยออกค่ามู่ลี่ให้ด้วยล่ะ เพราะตอนแรกที่นั่งคุยกันเราบอกว่าเรามีงบอยู่ 1000 เดียว แต่ข้าน้อยเกรงใจ เพราะก็เพิ่งรู้จักพี่เขาวันนี้เป็นวันแรก แต่พี่เต้ยกลับใจดีกับเราขนาดนี้ นางฟ้าแต้ๆ เลย) แต่ปัญหาไม่ได้อยู่ที่เรื่องนั้นหรอก เพราะอย่างมากก็แค่หมด.... ไปสักเดือนสองเดือน 555 แต่ปัญหาก็คือถ้าเราเอาไปแล้วไม่ได้ใช้คนที่ทำจะต้องเสียใจต่างหาก แล้วจะทำไงดีล่ะทีนี้ และแล้วในที่สุดผู้ที่จะตัดสินปัญหาทั้งหมดก็เดินเข้ามาหาเรา จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากน้องอ้นของเรานั่นเอง น้องอ้นเข้ามาถามว่าจะกลับยังไง เพราะว่าจะพูดไปแล้วมู่ลี่อันนี้มันก็หนัก (หรือจริงๆ ก็คือโคตรหนัก) น้องอ้นบอกว่าจะช่วยค่าแท็กซี่ให้ เราก็บอกว่าไม่เป็นไร (ปัญหามันไม่ได้อยู่ตรงนั้น) ตอนนี้สมอง (ที่ไม่ค่อยได้ใช้) ต้องทำงานอย่างหนัก คิด คิด คิด แล้วก็ปิ๊ง แล้วก็เลยถามน้องอ้นไปว่า ไอ้มูลี่นี่ทำนานมั้ย น้องอ้นบอกว่าอาทิตย์กว่า แล้วเราก็ถามต่อว่าอ้นอยากได้หรือเองหรือป่าวอ่ะ อ้นก็รับออกมาว่าที่จริงก็อยากได้ ถ้าประมูลกันไม่ถึงพันอ้นอาจจะเอาเองไปแล้ว ใช่เลย เพื่อคนที่เราชื่นชอบแค่นี้ทำไมเราจะทำไม่ได้ เราก็เลยบอกว่างั้นพี่ให้อ้นล่ะกัน น่านนนนนนนนนนนนนนนนนนนน บทจะเป็นนางฟ้าเราก็เป็นได้เหมือนกัน (บ้าป่าววะเราชมตัวเองก็เป็น) ตอนแรกอ้นก็ไม่ยอมรับ แต่เจอลูกคะยั้นคะยอเข้าไป ในที่สุดน้องอ้นก็ยอมรับจนได้ (ท่ามกลางความรู้สึกปลื้มสุดๆ ของเราเอง) แต่ดูๆ แล้วน้องอ้นยังออกจะเกรงๆ ใจเราอยู่ เราก็เลยหยอดไปเพื่อไม่ได้น้องอ้นลำบากใจมากไป ด้วยการบอกว่า งั้นเอางี้ เวลาหนังสืออ้นออก อ้นก็ส่งให้พี่แล้วกัน (แผนสูง แผนสูง หรืออีกนัยนึงก็งกนั่นเอง ) แล้วในที่สุดงานเลี้ยงก็ต้องมีวันเลิกรา แต่วันนี้ของเรายังไม่จบ เนื่องด้วยเพื่อนเคยบอกว่ามาเปิดร้านขายอาหารอยู่ในลานเบียร์แถวๆ สีลม ถามไปถามมาปรากฎว่าอยู่ห่างจากบ้านสีลมไป 100 เมตร ก็เลยเดินไปหาเพื่อน แล้วก็นัดเพื่อนๆ ณ บัดนาว ให้ออกมาจอยกัน สุดท้ายของวันนี้จึงจบลงที่น้ำเมานิดหน่อยที่ฟาดลงคอไป เอ! อย่างนี้มันจะได้บุญมั้ยวะเนี่ย แล้ววันนี้ก็จบลง   Create Date : 26 พฤศจิกายน 2549 13 comments Last Update : 28 พฤศจิกายน 2549 23:44:58 น. Counter : 787 Pageviews. Share Tweet

โอ้วววว ตกลงไม่ได้เอามู่ลี่หมูน้อยไปกั้นประตูห้องน้ำหรือคะ แง้วววว   โดย: มาแซวจ้า ฮี่ๆๆๆ (Clear Ice ) 27 พฤศจิกายน 2549 18:29:03 น.

แหะๆ อ่านบล็อกแย้วน้ำตาซึม เอิ๊กกกก ขอบคุณพี่เปิ้ลอีกครั้งนะคะ ที่ประมูลของให้หนู เดี๋ยวรอปาปี๊ว่างแล้วจะให้เจาะรูเพื่อติดมู่ลี่ให้ แล้วจะถ่ายรูปส่งไปให้ดูนะคะ ว่าแล้วก็เช็คหลังไมค์ด้วยนะคะพี่เปิ้ล   โดย: สายลมโชยเอื่อย 28 พฤศจิกายน 2549 3:25:03 น.

พี่ผู้นี้เองหรือคะ ที่ร่ำลือกันมาว่าทำอ้นน้ำตาซึม... :)   โดย: p_jung IP: 125.24.38.136 28 พฤศจิกายน 2549 10:01:56 น.

ตอนที่ลี่ทำเทียนเจลของพี่อ้นอยู่ ก็ได้ยินพี่อ้นคุยกับพี่ค่ะ แล้วได้ยินพี่อ้นพูดว่า "พี่เปิ้ล" ลี่ก็จำหน้าพี่ได้นะคะ   โดย: lily <lovekalo> IP: 124.121.22.237 28 พฤศจิกายน 2549 17:24:52 น.

ฮัลโหลๆ มาอ่านแล้วนะ แหะๆ นางฟ้าที่ไหนกันล่ะเปิ้ลเอ๊ย..พี่น่ะนางมารเลยหละ เหอๆ (แต่ยังรู้จักกันแรกๆ หละซี้) แต๊งกิ้วที่ลบรูปพี่ออกจ้ะ ไว้เจอกันงานหน้าเน้อ สีฟ้าที่เปิ้ลเลือกเป็นแบ็คกราวด์สวยดีง่ะ   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 29 พฤศจิกายน 2549 8:37:54 น.

อิอิ อยากเห็นรูปคนข้างบนง่ะ แวะมาสดใสกับบล็อกคนใจบุญฮับ หนุกหนานจัง ดีจังเนอะที่หาสมุดเจอ   โดย: NuenG IP: 203.114.111.110 30 พฤศจิกายน 2549 11:09:51 น.

จำได้แล้วค่ะ น้องคนนี้ที่ตอนแรกตกใจใหญ่ว่าทำไมสมุดเซ็นหาย แล้วก็เลยมาประเดิมเล่มใหม่ให้พี่เซ็นตรงใกล้ๆ เวทีใช่ป่าว ^^ น่ารักจังเลยค่ะ ถ้าพี่เป็นน้องอ้น คงปลื้มตาย (เอ..ว่าแต่อายุเราควรจะใกล้ๆ กันหรือเปล่า เพราะพี่ก็แก่กว่าอ้นสองปีเองนา...) แอบขำรูปตัวเองที่ถ่ายจากด้านหลัง ปกติผมพี่จะเอกลักษณ์มาก เห็นปุ๊บ จะจำหัวตัวเองได้เลย ฮ่าๆๆๆๆ ปล. ขอบคุณสำหรับคำว่าสุดสวยในวงเล็บด้วยค่ะ กร๊ากกกกกก   โดย: อุรัสยา 1 ธันวาคม 2549 17:03:04 น.

อีเมลเปี๊ยก urasya@hotmail.co.uk ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ   โดย: อุรัสยา 1 ธันวาคม 2549 18:59:19 น.

แอบเขินง่ะ เรียกตัวเองว่าพี่เฉยเลย แหะๆ   โดย: อุรัสยา 1 ธันวาคม 2549 19:00:41 น.

กลับมาจากเขาใหญ่แย้วค่า   โดย: สายลมโชยเอื่อย 6 ธันวาคม 2549 2:04:52 น.

งานน่าสนุกจัง สงสารคนที่ไม่ได้ไป (ข้าพเจ้าเอง)   โดย: เบบูญ่า 9 ธันวาคม 2549 11:54:46 น.

หวัดดีๆๆๆ ไม่อัพบล็อกเหรอ เห็นมีกลุ่มบล็อกหนังสือด้วย รีวิวหนังสือก็ได้นะ แล้วก็ตั้งหน้าที่อัพใหม่ไว้เป็นหน้าหลักเสมอ คนจะได้รู้ว่าอัพแล้วไงจ๊ะ อิอิ อัพแล้วไปตามด้วยนะ จะได้มาอ่าน   โดย: สาวไกด์ใจซื่อ 13 ธันวาคม 2549 15:23:53 น.

คิดสิ่งให้ สมปราถนานะค่ะ มีสุขภาพ แข็งแรง ตลอดไปนะค่ะ หวัดดีค่ะ แวะมาเยี่ยมเยียน วันหยุด ค่ะ   โดย: STAR ALONE (STAR ALONE ) 7 มกราคม 2550 15:41:38 น.