อ่างเก็บน้ำหลัก ยังน่าห่วง คาดกระทบหน้าแล้ง
อ่างเก็บน้ำหลักในโคราช ยังน่าห่วง หลังมีปริมาณน้ำไหลเข้าอ่างต่ำกว่าเกณฑ์ คาด แล้งหน้าอาจกระทบหนัก หากน้ำยังไม่เพิ่ม
นายชิตชนก สมประเสริฐ ผู้อำนวยการสำนักชลประทานที่ 8 นครราชสีมา เปิดเผยว่า ภายหลังจากในหลายพื้นที่ของจังหวัดนครราชสีมา ได้รับผลกระทบจากหย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนาม เข้าปกคลุมในพื้นที่ทำให้มีปริมาณฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ปริมาณน้ำภายในอ่างเก็บน้ำหลักทั้ง 5 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา มีปริมาณน้ำที่เพิ่มขึ้น
ล่าสุดมีปริมาณน้ำเฉลี่ยอยู่ที่ 49% ของความจุ โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคอง อ.สีคิ้ว มีปริมาณน้ำอยู่ 146 ล้านลบ.ม. คิดเป็น 47% จากความจุกักเก็บ 314 ล้านลบ.ม., อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง อ.ปักธงชัย ปริมาณน้ำ 33 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 30% องความจุที่ระดับกักเก็บ 110 ล้าน ลบ.ม., อ่างเก็บน้ำลำแชะ อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 171 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 62% ของความจุที่ระดับกักเก็บ 275 ล้าน ลบ.ม. อ่างเก็บน้ำมูลบน อ.ครบุรี มีปริมาณน้ำ 70.62 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 50% จากความจุกักเก็บทั้งหมด 141 ล้าน ลบ.ม. และอ่างเก็บน้ำลำปลายมาศ อ.เสิงสาง มีปริมาณน้ำอยู่ที่ 50 ล้าน ลบ.ม. คิดเป็น 51% จากความจุกักเก็บทั้งหมด 98 ล้าน ลบ.ม. ซึ่งจากสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนทั้งหมดของจังหวัดนครราชสีมาที่มีอยู่ ถือได้ว่ามีปริมาณน้อยกว่าที่ที่ทางชลประทาน คาดการณ์ไว้
ทั้งนี้ เนื่องจากในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาปริมาณฝนตกน้อย และฝนส่วนใหญ่จะตกลงท้ายเขื่อน ส่งผลให้มีปริมาณน้ำไหลลงเขื่อนน้อยกว่าเกณฑ์ที่คาดการณ์ไว้
อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเดือนตุลาคมจะมีปริมาณฝนตกลงมาเหนือเขื่อนเพิ่มมากขึ้น เพราะหากไม่มีฝนตกลงมาเพิ่มช่วงฤดูแล้งปีหน้าเกษตรกรบางส่วนคงต้องประสบกับปัญหาภัยแล้ง