น้ำป่ายังทะลักประจันตคาม จม80ซม.-ไทยฝนหนัก16-18กย. สถานการณ์น้ำป่าเขาใหญ่ยังล้นทะลักท่วมหมู่บ้าน ขยายไป อ.ประจันตคาม สูง 60-80 ซม.ขณะที่ อุตุฯ เตือน "พายุคัลแมกี" ฉ.2 ไทยฝนตกหนัก 16-18 ก.ย.นี้ ด้าน ปภ. เตือนภาคเหนือ,อีสาน 14 จังหวัดรับมือสถานการณ์ภัยพิบัติ น.ส.จิตรา พรหมชุติมา ผวจ.ปราจีนบุรี กล่าวว่า สถานการณ์น้ำท่วม 2 หมู่บ้านเชิงเขาใหญ่ คือ บ้านบ่อแร่ และธารเลา ต.เนินหอม อ.เมืองปราจีนบุรี หลังลดระดับไปช่วงเย็นวานนี้ (14 ก.ย.) แต่ช่วงกลางคืนฝนตกหนักซ้ำอีกทำให้เกิดน้ำป่าล้นคลองจันทุหลากท่วมใน 2 หมู่บ้านเป็นรอบที่ 2 พร้อมขยายไปหมู่บ้านเพิ่มอีกรวมกว่า 4 หมู่บ้าน ระดับน้ำท่วมสูงเฉลี่ย 60-80 ซม. ท่วมวัด 1 แห่ง บ้านเรือนราษฎรรวมเพิ่ม กว่า 50 ครอบครัวได้นำข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่มสะอาดยารักษาโรคไปแจกจ่ายแล้ว พร้อมกันนี้ ยังมีหมู่บ้านแถบ ต.โคกไม้ลาย อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี ได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมด้วย พร้อมกันนี้ ได้รับรายงานพื้นที่บ้านยางหมู่ 17 ต.โพธิ์งาม อ.ประจันตคาม ถูกน้ำป่าระบายลงคลองฟันปลาไม่ทัน หลากเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรที่อยู่ต่ำเนื่องจากอยู่ใกล้เชิงเขาใหญ่มรดกโลก รวม 4 ครอบครัว ระดับน้ำสูงกว่า 60 ซม. ได้ประสานทหารกรมทหารราบที่ 2 รักษาพระองค์ (กรม ร.2 รอ.) ช่วยเหลือขนสิ่งของและเปิดทางเดินน้ำลงคลองห้วยขื่อให้ไหลสะดวกอย่างเร่งด่วน กรมอุตุฯ ประกาศเตือนภัย ฉ.1 พายุคัลแมกี พายุไต้ฝุ่น คัลแมกี (Kalmaegi) ได้เคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ ลงสู่ทะเลจีนใต้ตอนบนแล้ว และเมื่อเวลา 10.00 น. วันนี้ (15 ก.ย. 57) มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเกาะไหหลำประมาณ 800 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 18.1 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.8 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ช.ม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตก ด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ช.ม. คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนที่ไปยังเกาะไหหลำ ประเทศจีน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 17 ก.ย. 2557 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 2557 โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. นี้ ประกาศ ณ วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 11.00 น. กรมอุตุฯ ประกาศเตือนพายุคัลแมกี ฉ.2 เมื่อเวลา 16.00 น. วันนี้ (15 ก.ย. 57) พายุไต้ฝุ่น คัลแมกี (Kalmaegi) บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ทางตะวันออกของเมืองฮานอย ประเทศเวียดนาม อยู่ห่าง 950 กิโลเมตร หรือที่ละติจูด 18.8 องศาเหนือ ลองจิจูด 115.3 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 120 กม./ช.ม. กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 30 กม./ช.ม. คาดว่าพายุนี้จะเคลื่อนที่ไปยังเกาะไหหลำ ประเทศจีน และจะขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ในวันที่ 17 ก.ย. 2557 ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักถึงหนักมากในหลายพื้นที่ ในช่วงวันที่ 16-18 ก.ย. 2557 โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักไว้ด้วย อนึ่ง มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงยังคงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทยและอ่าวไทย ทำให้ประเทศไทยมีฝนในเกณฑ์กระจายถึงเกือบทั่วไป ร้อยละ 60-80 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ชาวเรือควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กในบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 15-18 ก.ย. นี้ ประกาศ ณ วันที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557 เวลา 17.00 น. ปภ.เตือนเหนือ-อีสาน14จ.รับมือสถานการณ์ภัย นายฉัตรชัย พรหมเลิศ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย(ปภ.) กล่าวว่า จากการที่ได้ประสานข้อมูลสภาพอากาศกับกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่า พายุไต้ฝุ่น "คัลแมกี" จะมีผลต่อลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงวันที่ 16-18 กันยายน 2557 ทำให้ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้นและลมพัดแรง อาจส่งผลให้เกิดอุทกภัย วาตภัย และดินถล่ม กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจึงได้ประสาน 14 จังหวัด แยกเป็น ภาคเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ลำปาง เชียงราย พะเยา แพร่ และน่าน ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 7 จังหวัด ได้แก่ นครพนม สกลนคร มุกดาหาร บึงกาฬ หนองคาย อุดรธานี และเลย รวมถึงศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 7 สกลนคร เขต 10 ลำปาง เขต 14 อุดรธานี เขต 15 เชียงราย เตรียมพร้อมรับสถานการณ์ โดยจัดเจ้าหน้าที่ติดตามสภาพอากาศและเฝ้าระวังสถานการณ์ภัย ตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมจัดชุดเคลื่อนที่เร็วและเครื่องมืออุปกรณ์ให้พร้อมเผชิญเหตุและช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันท่วงที นายฉัตรชัย ยังกล่าวอีกว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยให้ติดตามพยากรณ์อากาศและประกาศเตือนภัยอย่างใกล้ชิด พร้อมปฎิบัติตามคำเตือนอย่างเคร่งครัด หมั่นสังเกตสัญญาณความผิดปกติทางธรรมชาติ ดูแลบ้านเรือนให้อยู่ในสภาพมั่นคงแข็งแรง เพื่อป้องกันการเสียหายจากลมกระโชกแรง ทั้งนี้ประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน สามารถติดต่อขอความช่วยเหลือได้ที่สายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง
|