เมื่อวันที่ 30 พ.ย.ที่โรงแรมโซฟิเทล สุขุมวิท นาย กัง ยอง จุง ประธานสหพันธ์แบดมินตันโลก(บีดับเบิ้ลยูเอฟ) ร่วมกับ ศ.ดร.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย แถลงข่าวลงนามจัดการแข่งขันแบดมินตันเยาวชนชิงแชมป์โลก เอสซีจี-บีดับเบิ้ลยูเอฟ เวิลด์ จูเนียร์ แชมเปี้ยนชิพส์ 2013 ระหว่างวันที่ 23 ต.ค.-3 พ.ย.56 ที่อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก โดย นายกัง ยอง จุง ได้ขอบคุณประเทศไทยที่ให้การสนับสนุนวงการแบดมินตันมาเป็นอย่างดีตลอดมา และชื่นชมว่ามีการพัฒนาเยาวชนขึ้นมาได้อย่างดีเยี่ยม ซึ่งหวังว่าการแข่งขันครั้งนี้นักตบลูกขนไก่ดาวรุ่งของไทยจะทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมขึ้นไปอีก
นอกจากนี้ นาย กัง ยอง จุง ยังกล่าวถึงประเทศที่จะได้รับเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันระดับ ซูเปอร์ซีรี่ส์ พรีเมียร์ 5 ชาติ คือ จีน(ไชน่า โอเพ่น), อังกฤษ(ออลอิงแลนด์), อินโดนีเซีย(อินโดนีเซีย โอเพ่น), เดนมาร์ก(เดนมาร์ก โอเพ่น) และมาเลเซีย(มาเลเซีย โอเพ่น) ขณะที่รายการระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ มี 7 ชาติ คือ ออสเตรเลีย, ฝรั่งเศส, เกาหลีใต้, อินเดีย, สิงคโปร์, ญี่ปุ่น และฮ่องกง โดยระยะเวลาที่ได้รับจัดแข่งขันระหว่างปี 2014-2017
ด้าน ศ.เจริญ กล่าวว่า ต้องขอบคุณ เอสซีจีที่ให้การสนับสนุนกีฬาแบดมินตันไทยมาเป็นอย่างดี ซึ่งรายการนี้ทาง บีดับเบิ้ลยูเอฟ เห็นว่าช่วงที่ผ่านมาไทยพัฒนาดาวรุ่งขึ้นมาต่อเนื่อง จนประสบความสำเร็จมากมาย อาทิ น้องเมย์ รัชนก อินทนนท์ ที่คว้าแชมป์หญิงเดี่ยวได้ถึง 3 สมัยซ้อนตั้งแต่ปี 2009-2011 ขณะที่ปี 2009 มณีพงศ์ จงจิตร/รจนา จุฑาบัณฑิตกุล ก็คว้าแชมป์คู่ผสมได้เช่นกัน ส่วนการที่ไทย พลาดการจัดแข่งขันในระดับซูเปอร์ซีรี่ส์ ยอมรับว่าจากการประมูลไม่สามารถสู้เงินรางวัลที่แต่ละชาติยื่นมูลค่าค่อนสูงมากๆ แต่ก็ถือว่ามีเรื่องน่ายินดีที่ไทย จะได้ขยับจากรายการระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ เป็นกรังด์ปรีซ์ โกลด์ ซีรี่ส์ ซึ่งเงินรางวัลจะอย่างระหว่าง 120,000-150,000 เหรียญสหรัฐฯ
ส่วน น้องเมย์รัชนก อินทนนท์ หญิงเดี่ยวมือ 10 ของโลกเจ้าของแชมป์ 3 สมัยติด ที่ปีล่าสุดไม่ได้ไปร่วมแข่งขันเยาวชนโลก เพราะตรงกับการแข่งขัน เฟรนช์ โอเพ่น ซูเปอร์ซีรี่ส์ ที่ฝรั่งเศส เผยก่อนการเดินทางไปแข่งขัน ไชน่า ซูเปอร์ลีก ที่จีน ให้กับทีมชิงเต่า วันที่ 1 ธ.ค.นี้ ว่า อยากจะลงเล่นรายการนี้เพื่อสร้างประวัติศาสตร์คว้าแชมป์สมัยที่ 4 มาครองให้ได้ เพราะยิ่งการคว้าแชมป์ในแผ่นดินไทยยิ่งสร้างความภาคภูมิใจเป็นอย่างมาก