ศึกแบดมินตัน “ออล อิงแลนด์ แชมเปี้ยนชิพส์ ซูเปอร์ซีรี่ส์ พรีเมียร์” ครั้งที่ 103 ชิงเงินรางวัลรวม 400,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 12,000,000 บาท ที่เมืองเบอร์มิงแฮม ประเทศอังกฤษ เมื่อวันที่ 9 มี.ค.ที่ผ่านมา รอบรองชนะเลิศ หญิงเดี่ยว "น้องเมย์"รัชนก อินทนนท์ มือ 8 ของโลก ที่ชนะ จูเลี่ยน เชงค์ มือ 4 ของโลก จากเยอรมนี ในรอบก่อนรองชนะเลิศ 2-1 เกม 13-21, 21-12, 21-8 พบกับ ไซนา เนห์วาล มือ 3 ของโลก จากอินเดีย โดยคู่นี้เคยพบกันมาแล้ว 6 ครั้ง รัชนกชนะได้เพียง 2 ครั้ง ซึ่งการพบกันครั้งล่าสุดในศึก “ซูเปอร์ซีรี่ส์ ไฟนัล 2012” ที่จีน เมื่อเดือน ธ.ค.ปีแล้ว และน้องเมย์ เอาชนะไปได้ 2 เกมรวด
เริ่มเกมแรก ทั้งคู่สู้กันได้อย่างสูสี จนมาเสมอที่ 15-15 แต่ รัชนก ที่แม้จะมีอาการเป็นหวัด ยังใช้การตบ สลับกับการหยอดหน้าเน็ตได้อย่างยอดเยี่ยม ก่อนเอาชนะไป 21-15 เข้าเกมสอง นักตบลูกขนไก่สาวแดนโรตี แก้เกมมาดี ใช้การตบที่หนักหน่วงเล่นงาน รัชนก และทำแต้มไล่จี้ตามมา แต่ก็ไล่ไม่ทัน ทำให้ น้องเมย์ ชนะไปอีก 21-19 จึงชนะ 2 เกมรวด สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ให้กับวงการแบดมินตันไทย ด้วยการเป็นนักตบลูกขนไก่หญิงไทยคนแรกที่เข้ารอบชิงชนะเลิศ ซึ่งคู่ชิงของ รัชนก คือ ทิเน่ บอน มือ 7 ของโลก จากเดนมาร์ก ที่ชนะ ซุง จิ ฮุน มือ 5 ของโลก จากเกาหลีใต้ มาได้ 2-1 เกม 24-22, 19-21, 21-19
หลังเกม รัชนก กล่าวว่า ในเกมแรกรู้สึกพอใจกับฟอร์มของตัวเองมาก แต่เกมที่สอง เนห์วาล แก้เกมมาเร่งทำคะแนน จนทำให้ต้องออกแรงมาก ซึ่งหากไม่ได้เกมนี้ก็อาจจะต้องแพ้ในเกมถัดไปได้ นอกจากนี้ผู้สื่อข่าวชาวอังกฤษ ได้สอบถามว่า การเข้ามาถึงรอบนี้ถือว่าทำได้ตามฝันที่ตั้งใจไว้หรือไม่ น้องเมยื ตอบว่า ไม่ เพราะฝันที่แท้จริงคือการคว้าแชมป์ และจะพยายามทำให้ได้ด้วย
ด้าน ศ.เจริญ วรรธนะสิน นายกสมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวเดลินิวส์ว่า รู้สึกดีใจกับชัยชนะครั้งนี้มาก เพราะน้องเมย์ ถือเป็นนักแบดมินตันหญิงไทยคนแรก ที่ได้เข้ารอบชิงชนะเลิศรายการนี้ เพราะก่อนหน้านี้ มีเพียง ประเทือง ปัตตพงศ์ คนเดียวที่เข้ามาถึงรอบตัดเชือกได้ 2 สมัย ตั้งแต่ประมาณปี พ.ศ.2501 และรัชนกดูแล้วมีวุฒิภาวะที่ดีขึ้น และเชื่อว่าจะสามารถไต่อันดับโลกขึ้นมาติด 1 ใน 5 ได้ในปีนี้แน่นอน
ส่วนชายเดี่ยว "สอง"ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข มือ 37 ของโลก ที่รอบก่อนรองชนะเลิศ ไล่ต้อนเอาชนะ ทอมมี่ ซูเกียร์โต มือ 23 ของโลก จากอินโดนีเซีย ไป 2 เกมรวด 21-17, 21-11 ผ่านเข้าตัดเชือกไปเจองานหนักพบกับ ลี ชอง เหว่ย มือ 1 ของโลก จากมาเลเซีย ซึ่งคู่นี้เคยดวลกันมาแล้ว 6 ครั้งและเป็นนักตบลูกขนไก่มาเลเซีย เอาชนะไปได้ทั้งหมด ส่วนนัดนี้ผลปรากฏว่า แม้เกมแรก สอง จะสู้ได้อย่างสนุกสูสี แต่ก็พ่ายไปก่อน 20-22 จากนั้น เกมสอง ลี ชอง เหว่ย แก้เกมมาดี และเล่นได้เหนือชั้นกว่ามาก เอาชนะไปอีก 21-8 ทำให้ ทนงศักดิ์ แพ้ไป 2 เกมรวด ตกรอบไปอย่างน่าเสียดาย
ขณะที่ ชายคู่ "เอ"มณีพงศ์ จงจิตร/"ต้นน้ำ"นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร ที่รอบก่อนรองชนะเลิศชนะ ลู่ เจีย บิน/เฉิน ฮุง หลิง คู่มือ 74 ของโลก จากไต้หวัน 2-0 เกม 21-11, 21-13 พบ ฮิโรยูกิ เอ็นโดะ/เคนิชิ ฮายาคาว่า คู่มือ 4 ของโลก จากญี่ปุ่น ซึ่งเกมนี้ แม้ เอ กับ ต้นน้ำ จะเพิ่งจับคู่กัน แต่ก็สู้กับคู่มือ 4 ของโลกได้อย่างสูสี แต่ก็ต้านความแข็งแกร่ง และประสบการณ์ของนักตบลูกขนไก่แดนปลาดิบไม่ไหว พ่ายไป 2-0 เกม 20-22, 21-15 ตกรอบรองชนะเลิศไปอย่างน่าเสียดาย