กุมภาพันธ์ 2564

 
1
2
4
5
6
7
9
10
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
 
 
All Blog
ต่อเติมหลังบ้าน / ต่อเติมหลังครัว Town Home
กลับมาอัพเดทเรื่องการต่อเติมหลังครัวกันต่อดีกว่า หลังจากทำการโอนบ้านเมื่อวันที่ 18 มิถุนายน 2563 และตรวจรับบ้านเสร็จตอนกลางเดือนกรกฎาคม 2563 ขั้นตอนต่อไปที่เราวางแผนไว้คิอต่อเติมหลังบ้านเพื่อทำเป็นครัว (ช่วงระหว่างที่แก้งานตรวจรับบ้านนั้นเราก็มีการหาช่างต่อเติมหลายเจ้า คุยงานที่จะทำ ไปดูผลงานที่เขาทำ และสืบราคามาบ้างแล้ว จนในที่สุดได้ลงเอยกับช่างต๊อด : เอส.พี. การช่าง ที่เราโอเคทั้งผลงาน/จำนวนทีมงานของเขา และราคาของเขา จากรูปใบเสนอราคาล่าสุดที่เราขอไปเพื่อทำเฉพาะครัวหลังบ้านอย่างเดียว โดยที่ราคามีการคุยต่อรองกันอีกรอบ และเราขอเพิ่มการทำโน้น นี้ นั่น อีกนิดหน่อย ตกลงกันทุกอย่างแล้วก็นัดไปดูบ้านเพื่อวัดขนาดครัวที่จะทำอย่างจริงจัง (โชคดีที่ในหมู่บ้านช่างเคยมาทำให้หลายหลัง และหลายหมู่บ้านในส่วนที่เป็นหมู่บ้านของ Q House เขาเลยรู้ขนาดพื้นที่เป็นอย่างดี

code สีที่ใช้ทาบ้านในโครงการ แบบ 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ 


ตอนขอใบเสนอราคาเลยทำให้วงเงินออกมาตรงตามที่ต้องการ 




นัดไปดูบ้านเพื่อวัดขนาดครัวพร้อมทำสัญญากันในวันที่ 26 กรกฎาคม 2563 แบ่งการชำระเงินออกเป็น 3 งวด จากวงเงินค่าจ้างทั้งหมด คือ 1. งวดแรกให้ 30-40% ของวงเงินค่าจ้าง 2.งวดที่ 2 ตอนก่ออิฐมวลเบาเสร็จ งวดที่ 3 จ่ายตอนงานเสร็จเรียบร้อย มีการทำเอกสารสัญญากันอย่างชัดเจน และเราเข้าไปดูงานต่อเติมครัวทุกวัน เพราะไม่ไว้ใจลูกน้องของช่าง และอยากรู้ความคืบหน้าว่างานในแต่ละวันช่างทำอะไรเพิ่มบ้าง มีการดิวงานคุยกับช่างต๊อดตลอดทุกวันว่าวันนี้จะทำอะไรเพิ่ม ตอนทำสัญญาช่างก็แนะนำว่า

1. ควรติดรางน้ำ ชั้น 2 เพิ่ม เพราะในหน้าฝนเวลาฝนตกหนักรางน้ำ ชั้น 2 จะช่วยลดแรงกระแทกจากน้ำลงมายังหลังคาครัวที่ต่อเติม (ส่วนนี้คิดราคาแยกต่างหากไม่รวมกับค่าจ้างเหมาต่อเติมหลังบ้าน) ไอ้เราก็นำกลับไปคิด หาข้อมูล และสอบถามจากคนในหมู่บ้านที่อยู่มาก่อนว่าการติดรางน้ำ ชั้น 2 มีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน หลังจากได้คำแนะนำแล้วและเห็นว่าควรติดรางน้ำ ชั้น 2 เพิ่ม เพราะส่วนมากคนในหมู่บ้านจะต้องมาเสียเงินติดเพิ่มทีหลังเพราะเวลาฝนตกหนัก น้ำซึมเข้าฝ้า หลังคารั่ว (แต่เขาทำกับช่างคนอื่นนะ ไม่ใช่ช่างที่เราเลือก) เราก็แจ้งกับช่างต๊อดว่าจะติดรางน้ำ ชั้น 2 เพิ่ม โดยขอให้ใช้รางน้ำสแตนเลสที่มีขนาดใหญ่และร่องลึก เพื่อกันน้ำล้นออกมานอกรางเวลาฝนตกหนัก 

2. เราต้องการทำครัวแบบ 2 สเต๊ป มีพื้นที่ทำครัวและแบ่งเป็นที่ตากผ้าหรือลานซักล้าง (ตอนคุยงานขอใบเสนอราคาเราก็แจ้งความจำนงไปแล้วว่าครัวที่เราต้องการเป็นแบบไหนมีการวาดรูปคร่าวๆ ให้ช่างดู) ช่างก็แนะนำว่าเราควรติดประตูและทำมุ้งลวดเพิ่มเพื่อกันยุง และระบายอากาศบริเวณครัว เราก็โอเค เห็นว่าราคาไม่แพงจนเกินไป เลยบอกให้ช่างจัดการ(ส่วนนี้คิดราคาแยกต่างหากไม่รวมกับค่าจ้างเหมาต่อเติมหลังบ้าน)โดยเราขอให้ช่างออกเงินค่ารางน้ำ,ค่าประตูกระจก,ค่ามุ้งลวดไปก่อน แล้วค่อยมาเก็บตอนงวดสุดท้าย(แบบว่า..งก) 107 

มุมที่เว้นไว้เพื่อวางเครื่องซักผ้า
เราแจ้งช่างต๊อดก่อนเลยว่าอยากให้เว้นช่องตรงที่จะวางเครื่องซักผ้าไว้ที่นิ้ว เราแคปรูปอ้างอิงขนาดให้ช่างดูเลยว่าจะซื้อเครื่องซักผ้าใหญ่ขนาด 16-18 กิโล และให้ช่างคำนวณพื้นที่เว้นไว้ให้ พร้อมให้ต่อท่อน้ำทิ้งให้ด้วยจะได้ไม่ต้องมาเจาะท่อทีหลังให้วุ่นวาย


หมายเหตุ : ตอนแรกเราจะไม่ก่ออิฐมวลเบาหลังครัวเพิ่ม เพราะทางโครงการแจ้งว่าสามารถใช้ผนังของโครงการเป็นผนังครัวได้เลย เพราะโครงการลงเสาเข็มไว้ให้แล้ว เราก็ไม่ไว้ใจไง กลัวโครงการโกหก และกลัวว่าในอนาคตถ้าเกิดผนังที่โครงการก่อไว้ให้มีรอยแตกร้าว มันอาจกระทบไปถึงคนหลังบ้านที่ใช้ผนังร่วมกับเรา เพราะเราต้องมีการเจาะผนัง/กำแพงในการติดตู้แขวนในครัว มีการติดฮู๊ดดูดควัน และตามข้อที่กำหนดไว้ในสัญญาการซื้อขายบ้าน หากผู้ซื้อทำให้ผนังโครงการแตกร้าว ทรุดตัวจากการต่อเติมหลังบ้าน ผู้ซื้อต้องเป็นผู้ชดใช้ค่าเสียหายนั้น เราเลยตัดปัญหาในส่วนนี้ยอมก่ออิฐมวลเบาหลังครัวเพิ่ม และการก่ออิฐมวลเบาหลังครัวเพิ่มทำให้เราเสียพื้นที่ครัวไปอีกประมาณ 5-7 ซม. ต่อผนังแต่และด้าน แต่สิ่งที่ได้กลับมาคือเพดานครัวเราจะสูงกว่าบ้านหลังอีกนิดนึง








ส่วนของหลังคา เราศึกษาหาข้อมูลมาพอสมควร ระหว่าง
1. หลังคาที่ปูด้วยกระเบื้องลอนคู่ น้ำหนักเยอะหากช่างไม่ชำนาญการปูและปูไม่สบร่องกันจะทำให้เวลาฝนตกเกิดการรั่ว ซึมได้
2. หรือหลังคาเมทัลชีท ปูเป็นแผ่นเดียวยาวๆ ไม่มีการรั่ว ซึมแน่นอน แต่ก็ต้องระวังตรงช่องที่ขันน๊อต กับเวลาฝนตกหนักเขาว่ากันว่าเสียงจะฝนตกกระทบเมทัลชีทจะดังป๋องแป๋ง(จริงๆ เมทัชชีทมันก็คือสังกะสีดีๆ นี่เองเพียงแต่ว่าเกรดดีกว่า)

สังเกตุการณ์มาแต่ละบ้านส่วนมากในหมู่บ้านเราเขาปูหลังคาเมทัลชีทกันทั้งนั้น เราก็เลยตัดสินใจเลือกปูหลังคาเมทัลชีทบุด้วย PU โฟม หนา 0.35 มิล ด้วยคน แบบว่า..เออคงไม่ใช่บ้านเราหลังเดียวหรอกที่เวลาฝนตกจะดังโครมคราม ข้างบ้านก็เมทัลชีท ส่วนใหญ่ใช้เมทัลชีท หน้าฝนก็สาดโครมครามฟังกันให้หูอื้อไป ฮ่าๆๆๆ


พอถึงเวลาจะปูหลังคา ช่างก็ส่งสีหลังคามากให้เลือก



เราเลือกหลังคาเมทัลชีทสีฟ้าเลยจ้า สีสันสดใสมาก แถมมีเว้นหลังคาเปิดระบายอากาศไว้นิดนึงเพื่อให้อากาศถ่ายเท โดยส่วนที่เปิดโล่งนั้นให้ช่างทำเป็นตะแกรงเหล็กฉีกติดเพิ่ม ในหน้าฝนเวลาฝนตกหนักน้ำจะไม่เทมาบนตะแกรงเหล็กฉีกที่เราเปิดโล่งไว้แรง แต่น้ำฝนจะหล่นลงมาเป็นละอองฝอยๆ (อันนี้โคตรดีใจที่คิดทำหลังคาแบบนี้แล้วไม่มีปัญหาหนักใจ) แต่เราก็คิดเพิ่มไว้นะว่าหลังคาตรงส่วนนี้ในอนาคตถ้าเราไม่ชอบ เราก็นำเมทัลชีทมาปิดเพิ่มได้อีก 1 แผ่น 

หมายเหตุ : ช่วงหน้าฝน ตอนฝนตกหนัก เราลองมาแล้ว เวลาฝนตกกระทบหลังคาที่ปูด้วยเมทัลชีทก็ดังอยู่นะ แต่ของเราตกกระทบเสียงดังปุ ปุ ปุ ไม่ดังมากอยู่ในระดับที่รับได้อยู่จ้า





การปรับระดับพื้นครัว เราแจ้งช่างต๊อดตั้งแต่แรกแล้วว่า ขอให้ปรับระดับพื้นครัวให้เท่าพื้นในตัวบ้าน ไม่เอาแบบที่เดินไปแล้วต้องก้าวลงมาอีก เวลาเดินอาจสะดุดหน้าทิ่มได้ (บ้านบางหลังเขาไม่ปรับระดับพื้นครัวให้เท่าตัวบ้าน เราเดินไปแล้วรู้สึกเหมือนเดินตกหลุมอะไรสักอย่าง ตกใจหมดเลย)








- เราชอบกระเบื้องส่วนซักล้างมากที่สุด มันให้อารมณ์อิฐๆ หินๆ เหมือนอยู่ในสวน สีสบายตา คุณแฟนบอกว่าตรงนี้ไปๆมาๆ น่าจะทำเป็นมุมอาบน้ำแบบ Out Door เพราะมีแสงแดดส่องลงมากระทบพื้น ตอนแรกที่คำนวณค่าใช้จ่ายเรื่องกระเบื้องถ้าเราไม่ปูผนังในส่วนนี้ เราจะประหยัดเงินได้ถึง 3,900 เลย แต่ด้วยความชอบจึงตัดใจปูกระเบื้อง
- ส่วนของเคาน์เตอร์ครัว เรานำแบบมาจากครัวบ้านแม่เลย จะได้มีชั้นไว้คว่ำกะทะ หม้อ ส่วนตัวแล้วเราไม่ชอบให้มีตู้มาปิดใต้เคาน์เตอร์ เพราะมันดูทึบ กลัวราขึ้น แถมยังต้องเสียค่าซื้อตู้เพิ่มอีก 
- ส่วนหมวกจีน เราหาข้อมูลหลายรอบเช่นกันเพราะกลัวการรั่ว ซึม พอถึงหน้าฝน หากต้องเจาะฝ้าและหลังคา บังเอิญไปเดินดูบ้านอื่นแล้วเจอหมวกจีนแบบครอบคลุมแผ่นหลังคาไปทั้งแผงแบบในรูป
เราเลยร้องขอหมวกจีนแบบที่ไม่ต้องเจาะหลังคาเมทัลชีท



- ประตูกระจกที่ติดกั้นระหว่างครัวกับส่วนซักล้าง เราให้ช่างต๊อดจัดการเลือกให้ ช่างเลือกแบบที่สามารถเปิดประตูได้ทั้ง 2 ด้าน เผื่อไว้ให้เราทำความสะอาดได้ง่าย (เออ...อันนี้ถูกใจเรา คือเราชอบช่างแบบที่สามารถเป็นที่ปรึกษาให้เราได้ด้วย เพราะเราก็ไม่ค่อยเก่ง หรือมีความชำนาญเรื่องช่าง ไม่ชอบช่างที่สักแต่ว่าทำงานให้จบๆ ไปเพื่อเอาเงินอย่างเดียว (แอบดีใจที่เลือกช่างถูกคน)




ยากได้แบบ Lay out ครัว แบบ 3 มิติ พยายามลากเองในคอมโดยไปโหลดโปรแกรม 3 มิติต่างๆ มา ทำได้แต่ติดขัด เลยต้องไปพึงร้านที่ออกแบบ 3 มิติให้ โดยมีข้อแม้ว่าต้องซื้อตู้ของเขา เราก็เลือกตู้แบบที่ชอบ ตามขนาดความยาวของเคาน์เตอร์เราที่ต้องการ เฉพาะตู้ติดผนังก็ปาไป 12,630 บาท แล้ว



ต่อไปก็เลือกกระเบื้อง โดยช่างต๊อดแนะนำให้ไปซื้อที่บุญถาวร ช่างบอกว่ามีกระเบื้องให้เลือกเยอะกว่าที่โฮมโปร และไทวัสดุ ช่างต๊อดคำนวณคร่าวๆ มาให้ว่าแต่ละส่วนต้องใช้กระเบื้อง คิ้วติดเคาน์เตอร์เท่าไร เราก็ไปเดินเลือกซื้อกระเบื้องกัน ตอนแรกเลือกกันสนุก อันนี้ก็สวย อันโน้นก็ดี เลือกตามความชอบ พอเคาะราคาออกมา 3 หมื่นกว่า โอ๊ย!! บ้าบอ เลยต้องมาเลือกกันใหม่ รอบนี้เอาที่พอดีเน้นราคาเป็นหลัก ไม่เอาตามความชอบแล้ว เพื่อจะได้เอาเงินไปทำอย่างอื่นต่อ สรุปได้ค่ากระเบื้องและอุปกรณ์ตามความจำเป็นมาในราคา 20,000 (เออก็ยังแพงอยู่ดี)









รายการซื้อกระเบื้องและอุปกรณ์ต่างๆ ที่บุญถาวรหากเราซื้อกระเบื้องมาเกินความต้องการ ภายใน 15 วัน เราสามารถนำมาแลกคืนแล้วซื้อเป็นสินค้าอย่างอื่นได้ (เขาไม่คืนเงินสดให้นะจ๊ะ)


ในส่วนของยาแนวกระเบื้องแต่ละสี เราเลือกใช้ยาแนวพรีเมี่ยม พลัส ยี่ก้อจระเข้ค่า (แพงกว่ายี่ห้ออื่นๆ เราเลือกเพราะมันบอกว่ายับยั้งการเกิดราดำ นั้นหลงกลคำโฆษณา)



เรามีไปซื้อคิ้วติดเคาน์เตอร์ กับกระเบื้องปูพื้นครัวเพิ่มเพราะของที่ซื้อมาไม่พอ



และนำกระเบื้องปูผนังครัวไปคืน เพราะของซื้อมาเกินที่ต้องการ



ของที่ไม่พออีก ช่างต๊อดก็จัดการไปซื้อมาให้เพิ่ม แล้วมาเก็บเงินที่หลังอีก 800 กว่าบาท(เป็นของที่ไม่สำคัญมาก ที่ต้องไปเลือกเอง เราก็ขี้เกียจไปแล้ว เลยให้ช่างต๊อดไปซื้อให้)



พอต่อเติมหลังครัวเสร็จ ก็ต้องมาตรวจรับงานกัน เราดันไปเจอจุดที่มีน้ำรั่วซึม จุดเริ่มต้นของเรื่องคือเราขอให้ช่างย้ายก๊อกน้ำที่ทางโครงการต่อไว้ให้ ให้ช่างนำก๊อกออกไปติดอยู่จุดอื่น แล้วลูกน้องช่างต๊อดอุดปิดจุกไม่ดีเลยทำให้มีน้ำรั่วซึมออกมาใต้กระเบื้องที่ปูตรงผนังครัว 







ช่างต๊อดก็ให้ลูกน้องเข้ามาแก้ไขงานให้ ยิ่งกระเทาะกระเบื้องออก ยิ่งเห็นรอยน้ำซึมชัดเจน มองด้วยตาไม่เห็นเท่าไร ต้องเอามือไปจับดูถึงจะรู้ว่ามีน้ำซึม แต่มองที่พื้นครัวเห็นร่องรอยน้ำนองชัดเจนเลยจ้า







ต้องชี้จุดต้นเหตุให้ดูว่ามันซึมมาจากตรงนี้นะ





ช่างก็เข้ามาแก้งานให้ อุดให้ใหม่ รอบนี้ไม่มีการรั่วซึมอีกเลย





ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการทำหลังครัว + ค่ากระเบื้องที่เราซื้อเอง + รวมค่าติดมุ้งลวด เหล็กดัดในบ้านบ้างบาน 150,000 บาท 



ส่วนตัวเราพอใจกับการต่อเติมหลังครัวของเรา และพอใจกับช่างที่เราเลือกมาก เพราะครัวสวยถูกใจ ไม่มีปัญหาการรั่ว ซึม อีกทั้งคนที่มาซื้อบ้านทีหลังเรา ก็มาขอชมครัวเราเขาก็บอกกันว่าช่างฝีมือโอเค ทำเรียบร้อย ราคาสมเหตุสมผล อยากบอกว่าเราดีใจมากที่เลือกช่างถูกคน บ้างบ้านมาขอเบอร์ติอต่อช่างต๊อดจากเราไปแล้วอยากได้ช่างที่ราคาถูกกว่านี้ เลยไปหาเอง คือ งานไม่จบคะ ช่างทิ้งงาน ทำงานยืดเยื้อ 3-4 เดือนไม่เสร็จ จะมาเบิกเงินเพิ่มอีก (เจ้าของบ้านหลังนั้นมาเล่าให้เราฟังเอง เราก็ เอิ่ม... ก็แนะนำไปแล้ว คุณไปเลือกหาช่างเอง ก็ต้องทำใจละ ก่อนเลือกไม่ดูงานเขาละ ไม่ดูฝีมือ ดูลูกน้อง ทีมงานเขาละว่ามีกันกี่คน ทำงานมากี่โครงการแล้ว น่าเชื่อถือไว้ใจได้ไหม

เราก็ได้แต่รับฟัง แล้วคิดในใจว่า ของดีราคาถูกนะมันไม่มีในโลกหรอก เราเองแนะนำช่างไปเพราะอยากให้เขาได้ของดีแบบเรา เราไม่ได้เปอร์เซ็นต์จากช่างนะ พูดเหมือนแบบหาว่าเรามีส่วนได้ส่วนเสียจากช่าง ซึ่งช่างต๊อดที่เราเลือกมาทำงานให้เรา เราก็ไปดูงานของเขามาตอนที่เขาต่อเติมบ้านอีกหลังในหมู่บ้านของเรา เราคุยกับเจ้าของบ้านเลยเพื่อสอบถามความเห็นว่าช่างคนนี้ทำงานเป็นอย่างไรบ้าง เรื่องมากไหม ทีมงานเขาโอเคไหม แถมเซลล์ที่ขายบ้านให้เราก็เป็นคนแนะนำช่างต็อดให้ บอกให้เราไปดูฝีมือเขาก่อน และเขาเป็นคนไทย ถ้าทิ้งงานไปก็ตามได้ ไม่ควรเลือกช่างต่างประเทศ เช่น ช่างเขมร พม่า เพราะเวลาทิ้งงานเขาจะหนีกลับประเทศไปเลยตามตัวลำบาก แต่คุณเลือกของคุณเองก็ก้มหน้ารับชะตากรรมไปเถอะ จะมาบ่นให้เราฟังพื่ออะไร หึ หึ (ไอ้เราก็นึกในใจว่า แล้วแม่งจะมาถามเรื่องช่างกะเราทำไหม คุณก็ไปเลือกของคุณเองไม่ดีกว่าเหรอ ถ้ามาหาว่าช่างที่เราบอกไปคิดราคาแพง คือ...อยากได้ราคาถูกแบบไหนก็ไปหาเองสิวะ ขอบ่น ระบายหน่อย) ล่าสุดบ้างหลังนี้ ตอนเราเดินเล่นรอบหมู่บ้าน แล้งบังเอิญเจอกันที่หน้าบ้านนาง นางมาบ่นให่เราฟังว่าตอนกลางวันอากาศร้อน บ้านร้อน แดดส่องห้องนอน นางเดินเล่นและผ่านบ้านเรา เห็นบ้านเราติดฟิลม์เลยมาถามว่าดีไหม เป็นยังไงบ้าง เราบอกว่าติดฟิลม์แล้วบ้านเย็นขึ้น แดดไม่แยงตา เราตัดบทไปเลยจ้าว่าหากชอบแบบไหนไปหาราคาและช่างในอินเตอร์เนทได้เลย จะเอาฟิลม์เกรดราคาถูกแค่ไหน ตามใจเลยจ้า เราคุยกับแฟนแล้วว่าไม่อยากยุ่งกะใครแล้ว แนะนำไปก็เข้าตัว เขาชอบหรือไม่ชอบก็ขึ้นอยู่ที่ตัวเขา ขอจบเรื่องการต่อเติมไปไว้เท่านี้นะคะ



Create Date : 03 กุมภาพันธ์ 2564
Last Update : 18 พฤศจิกายน 2564 11:17:03 น.
Counter : 8760 Pageviews.

14 comments

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณสายหมอกและก้อนเมฆ, คุณSai Eeuu, คุณไวน์กับสายน้ำ, คุณเริงฤดีนะ, คุณหอมกร, คุณmariabamboo, คุณทนายอ้วน, คุณnewyorknurse, คุณtuk-tuk@korat, คุณบาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน

  
มาชมการต่อเติมบ้านจ้า
โดย: โอน่าจอมซ่าส์ วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:17:42:50 น.
  
ของถูกไม่มีดี ของดี ไม่มีถูก แบบนี้ จริงมากๆ เลยนะคะ
โดย: Sai Eeuu วันที่: 3 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:22:26:50 น.
  
ผมมาอ่านได้ ครึ่งหนึ่งเมื่อวาน เช้านี้มาอ่านต่อ

ผมสร้างหรือต่อเติมบ้าน(จ้างเหมา) ส่วนใหญ่ช่างเขาทำดี บางครั้ง
ทีมช่างชำนาญ หน.แทบจะไม่ต้องสั่งอะไรลูกทีมทำได้ดี เร็วด้วย
เครื่องมือเขาครบ ปืนยิงตาปู เครื่องวัดระยะใช้แสง เก็บงานดี เหมาไม่บานปลาย..
..
เห็นข้างบนใช้เมทัลชีท บอกตรง ๆ ผมกลัวเสียงครับ .. เมื่อก่อนผม
ซ่อมหลังคาโรงงานพื้นที่หลังคาหลายไร่... บางจุดช่างไม่รู้เรื่องปีน
ไปโดยไม่วางไม้แล้วเหยียบ.. ผลคือแผ่นเมทัลชีทยุบตัวตามแรงคน
รูร้อยเกลียวปล่อยหรือรูร้อยตะขอเกี่ยว.. ฝนตกมามันก็ไหลลงสู่พื้น
ได้อีกบางจุด เรื่องความร้อนจากหลังคาไม่ค่อยเป็นปัญหาเพราะ
หลังคาสูงจากพื้น 20 กว่าเมตร..
แต่ฝนตกทีไร เสียงดังอื้ออึงมาก ผมอยู่ในห้องทำงานติดแอร์ผนัง
กระจกด้านในสำหรับมอง ดูคนงานเป็นกระจกสองชั้น ยังได้ยินเสียง
ตกบ้าง แต่ข้างนอกหรือภายในโรงงาน เสียงดังมาก คงเพราะหลังคา
กว้างหลายไร่

แถวบ้านเขาเปลี่ยนหลังคาเป็นเมทัลชีท เสียงดังดูทีวีที่บ้านรบกวน
มากครับ แต่ข้างบนเป็นหลังคาไม่กว้างคงไม่เป็นไร

เล่าสู่กันฟังนะครับในฐานะ ต่อเติมบ้านเพิ่ม... ถ้าโรงงานผลิตเขาเคลือบเมทัลชีทด้านใต้เก็บเสียงก็จะดีไม่น้อยครับ เชฟค่าเหล็ก
โครงสร้างอาคารได้เยอะ
โดย: ไวน์กับสายน้ำ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:6:23:10 น.
  
เป็นการเก็บบันทึกการสร้างต่อเติมบ้าน
เป็นอย่างดี
โดย: เริงฤดีนะ วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:7:26:36 น.
  
Emmy Journey พากิน พาเที่ยว Home & Garden Blog ดู Blog
บ้านสวยงามนะคะ แต่ก็แลกมาด้วยค่าใช้จ่ายและความเหนื่อยยากมิใช่น้อย

โดย: หอมกร วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:7:48:03 น.
  
Vote home นะคะ
ขอบคุณทึ่แวะไปค่ะ
โดย: mariabamboo วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:18:27:05 น.
  
ตอนต่อครัวว่าจะทำครัวเป็นปูนก่อ แต่กลัวแมลงสาบทำทำรังแล้วไล่ไม่หมดครับ เลยซื้อเค้าน์เตอร์มาตั้งๆให้ลอยจากพื้นครับ เราสามารถยื่นไม้กวาดไปกวาดได้ครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:00:01 น.
  

ดีใจด้วยค่ะ ได้ห้องที่ต่อเติมสวยงามถูกใจ
ที่ดีคือ ได้ช่างดี ทำงานได้เรียบร้อยสวยงาม

ช่างที่มาทำแล้วหายไป งานไม่เสร็จ มีไม่น้อยเลยค่ะ
ญาติหลายคน จ้างคนมาทำงาน เบิกไปครี่ง ทำไม่ได้งาน
หายไปเลย กว่าจะหาคนมาทำต่อก็ยาก

โดย: newyorknurse วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:3:15:34 น.
  
ที่บ้านครัวเล็กมากค่ะ เห็นแล้วอยากทำบ้างเลย
ตอนปลูกบ้านคิดว่าครัวคงไม่ได้ใช้เพราะเป็นคนไม่ได้ทำอาหาร
แต่พอใช้งานจริง แค่ซื้อตู้เย็น 2 ประตู ก็เต็ม แล้วค่ะ เสียใจอยู่ทุกวันนี้ว่าน่าจะทำให้ใหญ่หน่อย
โดย: kae+aoe วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:11:35:40 น.
  
ชวนไปชิม - ปลาจาระเม็ดทอดราดพริก ด้วยนะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:13:03:25 น.
  
ครัวสวยมากค่ะ
โดย: tuk-tuk@korat วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:14:56:17 น.
  
ขอบคุณสำหรับข้อมูลค่ะ เป็นประโยชน์สำหรับคนที่จะต่อเติมบ้านจริง ๆ ค่า
โดย: บาบิบูเบะ...แปลงกายเป็นบูริน วันที่: 5 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:16:02:21 น.
  
จากบล็อก

เทคนิคทอดปลาไม่ให้ติดกระทะคือต้องเอากระทะตั้งไฟให้ร้อนแบบควันขึ้นก่อน ใส่น้ำมันลงไปแล้วรอน้ำมันร้อนจัดๆอีกทีค่อยใส่ปลาลงทอด หรี่ไฟให้เป็นไฟกลางๆ ทอดจนสุกเหลืองด้านนึงก่อน ปลาจะลอยขึ้นมาเอง ไม่ต้องแซะเลยครับ


ขอบคุณสำหรับกำลังใจในบล็อก - ปลาจาระเม็ดขาวทอดราดพริก นะครับ
โดย: ทนายอ้วน วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2564 เวลา:20:30:45 น.
  
จะรบกวนขอข้อมูลการติดต่อ ของช่างหน่อยได้ไม่ค่ะ พอดีจะต่อเติมครัว บ้านทาวน์โฮมค่ะ
โดย: ชนาพร สมน้อย IP: 124.120.249.151 วันที่: 29 มกราคม 2565 เวลา:9:16:02 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



จับกล้องท่องเที่ยวไปกับการเดินทางของฉัน ด้วยการถ่ายภาพที่ใช้อารมณ์ และหัวใจ มากกว่าเทคนิคและกฏเกณฑ์ /Step by step with my journey.

Page : Emmy Journey พากิน พาเที่ยว
https://www.facebook.com/EmmyJourney

Blog : https://emilia0412.bloggang.com

** ขอสงวนสิทธิ์ ***
ข้อมูลทั้งหมด อันรวมถึงข้อความและรูปภาพที่ปรากฏอยู่บน https://emilia0412.bloggang.com ห้ามมิให้ผู้ใดเผยแพร่ ลอกเลียน ทำซ้ำ หรือแก้ไข ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน ด้วยวิธีการใดๆ โดยมิได้รับการยินยอมจากเจ้าของบล๊อก