ความหมายของ Online Marketing  โดยคร่าวๆ ก็คือการทำการตลาดจากที่ปกติอาจมีการโฆษณาเผยแพร่ตามโทรทัศน์ วิทยุ หรือสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ ก็เปลี่ยนมาทำบนสื่อออนไลน์แทน ไม่ว่าจะเป็นทาง Facebook, Instagram, Youtube รวมไปถึงทาง Google ก็มีช่องทางให้โฆษณาอย่างหลากหลายเช่นกัน ในวันนี้เราจะมาพูดถึงข้อแตกต่างระหว่างช่องทาง Online Marketing หลักๆ ให้ได้ทราบกับ เพื่อเป็นตัวช่วยในการตัดสินใจว่าจะใช้ช่องทางใดในการโฆษณาสินค้าบ้าง

โฆษณา Facebook

Facebook เป็นช่องทางหนึ่งในสื่อโซเชียลมีเดียที่มีคนนิยมใช้งานมากติดอันดับโลก การจะใช้ Facebook เป็นช่องทางทำการตลาดก็ย่อมเข้าถึงผู้คนได้ง่าย และสามารถทำให้คนหลายร้อยหลายพันเห็นได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว นอกจากนั้นยังสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายๆ โดยการที่หากเราเลือกโปรโมทโดยชำระเงินให้กับ Facebook ทาง Facebook ก็จะนำโพสต์นั้นๆ ของเราไปโชว์บนหน้าจอของผู้ใช้ที่สนใจสินค้าหรือบริการที่สอดคล้องกับของเรา ซึ่งถือว่าเป็นการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ง่ายยิ่งขึ้น

โฆษณา Youtube

ช่องทางรับชมวีดีโอช่องทางหนึ่ง ที่มีผู้ใช้งานหลักหลายล้านคน การทำ Online Marketing ผ่านทาง Youtube โดยส่วนมากแล้วจะออกมาในรูปแบบของภาพ หรือวีดีโอเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งโฆษณา Youtube ก็สามารถแบ่งย่อยไปได้หลายประเภท โดยในบางครั้งจะปรากฏขึ้นมาแค่ไม่กี่วินาทีและสามารถให้กดข้ามได้ จึงถือเป็นความท้าทายหนึ่งที่ต้องทำวีดีโอออกมาให้น่าสนใจ แต่การโฆษณาวิธีนี้ก็ถือว่าสามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน โดยการเลือกแทรกโฆษณาไปกับวีดีโอที่สอดคล้อง ก็จะทำให้กลุ่มเป้าหมายเห็นได้ชัดเจน

โฆษณา Google

อีกตัวเลือกหนึ่งที่ถ้านำมาใช้ในการทำ Online Marketing แน่นอนว่าเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้โดยง่ายเช่นกัน โดย Google จะมีรูปแบบในการโฆษณาให้เลือกมากมายทั้งแบบที่เว็บไซต์ของเราจะขึ้นมาแนะนำให้กับคนที่ค้นหาคำคีย์เวิร์ดที่ตรงกับที่เราตั้งไว้ หรือแบบโฆษณา Banner ซึ่งในแบบแรกเราจะสามารถกำหนดได้เลยว่าให้โฆษณานี้ปรากฏในภูมิภาค หรือจังหวัดใด จึงเป็นการจำกัดวงของกลุ่มเป้าหมายได้ชัดเจนขึ้น

การทำ Online Marketing ถึงแม้จะมีคู่แข่งมากมาย แต่ถ้าเราศึกษาช่องทางและข้อแตกต่างของช่องทางเหล่านั้น และนำเอามาปรับใช้กับธุรกิจของเราได้ รวมไปถึงพยายามนำเสนอออกมาในรูปแบบที่น่าสนใจ รับรองว่า Online Marketing ของเราต้องไปถึงเป้าหมาย เป็นที่รู้จัก และเพิ่มยอดขายได้อย่างแน่นอน