ในปัจจุบันหลายองค์กรเริ่มมีการปรับตัว เพราะปัจจัยทางสภาพแวดล้อมที่เกิดขึ้น มนุษย์มีการนำเทคโนโลยีเข้ามาปรับใช้ในชีวิตประจำวันมากยิ่งขึ้น เพื่อความสะดวกรวดเร็วและเพียงพอต่อการขอใช้บริการ อีกหนึ่งเทคโนโลยีที่จะช่วยให้การดูแลระบบในองค์กรเป็นเรื่องง่ายมากยิ่งขึ้นก็คือ Cloud Bursting ตัวช่วยที่จะช่วยให้องค์กร จัดการกับ Public Cloud ได้ตามที่ต้องการ
Public Cloud เป็นกระบวนการถ่ายเท Workload ไปมาระหว่าง Private Cloud และ Public Cloud เป็นการตอบสนองต่อการใช้งาน Workload ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาให้ระบบงานช่วยจัดการตัวระบบให้ไม่หนักจนเกินไป ตัวอย่างเช่น ในเว็บไซต์มี Traffic จำนวนมากเกินไป ทำให้ตัวระบบมีข้อมูลที่หนักเกินไป จำเป็นต้องสร้าง Instance เพิ่มขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหา เราสามารถแก้ปัญหาด้วยการนำสถาปัตยกรรมแบบ Cloud Bursting มาใช้ให้ Workload เพื่อให้การทำงานเป็นไปได้อย่างราบรื่นและไม่หนักจนเกินไปนั่นเอง
เมื่อเราทำความเข้าใจกับ Cloud Bursting ไปแล้ว อีกสิ่งที่ต้องทำความเข้าใจก็คือ สถาปัตยกรรม Cloud Bursting ซึ่งก็คือ Private Cloud และ Public Cloud ซึ่งเป็นสิ่งใหม่ที่ต้องเรียนรู้และมีความท้ามายไม่น้อย การใช้งานแบบนี้เราต้องคำนึงถึงสิ่งที่ตามมาด้วย นั่นก็คือผลกระทบจากการที่ Cloud ต้องประสบกับปัญหา Network Latency นอกจากนี้เราต้องคำนึงถึงเรื่องค่าใช้จ่ายอีกด้วย จะเห็นได้ว่าในปัจจุบันมีการนำเอา Cloud Bursting มาใช้กันอย่างแพร่หลาย ทำให้องค์กรสามารถพัฒนาไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งการใช้งานนี้จำเป็นต้องศึกษาข้อมูลให้ละเอียดและเช็คความพร้อมของระบบให้ดี เพื่อป้องกันตัวเองและสามารถใช้งานระบบได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด