BlogGang.com : : MrET_TK : หนัง autobiography ที่ชอบ และไม่ชอบ

หนัง autobiography ที่ชอบ และไม่ชอบ

เมื่อคืนนี้พึ่งมีโอกาสได้ดูหนังเรื่อง the pursuit of happyness
หลังจากที่มี DVD อยู่หลายเดือน
ั
จัดเป็นหนังดีนะ แต่มันพยายามรันทดได้ทุกขณะจิต
ดูหนังแล้วก็คิดว่า เออๆ บีบคั้นกันเข้าไป

คนดูที่อินกับหนังอย่างเรา ก็นั่งหน้าเหยเก
อัดอั้นตันใจว่าเมื่อไหร่ฟ้าจะประทานสิ่งดีๆ ให้พระเอกบ้างหนอ

ตอนจบของหนังก็ดีนะครับ แต่ว่ามันดันรีบจบเสียนี่
น่าจะมีช่วงเวลาชื่นชมกับชัยชนะนานๆ หน่อย

ผมเป็นคนดูหนังรันทดได้สองแบบครับ

แบบแรกคือระหว่างทางมันจะมีสิ่งรื่นรมย์ให้ดูอยู่เรื่อยๆ แล้วจบดีๆ สักหน่อย
แม้จะจบห้วนไป แต่ถ้าทำได้ประทับใจก็โอเค

แบบสองคือถ้ามันรันทดอย่างเดียว ตอนจบก็ขอให้มีเวลาชื่นชมนานๆ
จะได้มาถ่วงดุลย์กับที่ทำผมหน้าเหี่ยวเอาใจช่วยมาตลอดชั่วโมงกว่าๆ

ไอ้พวกที่รันทดตลอด จบก็ยังรันทดอีก ผมจะเกลียดไปเลย
เช่น หนังเรื่อง Angela Ashes เป็นต้น
หนังอะไรไม่รู้ ไม่ให้ความหวังกันเสียเลย ไอ้คนที่เป็นพ่อนะ เริ่มก็เลว จบก็เลว

โทษทีๆ กลับเข้าเรื่องก่อน
คราวนี้ไอ้ pursuit of happyness เนี่ย มันเป็นคล้ายๆ แบบสอง แต่ว่าตอนจบมันสั้นไปนิด
ด้วยความที่อยากรู้ว่าพระเอกจะเป็นอย่างไรต่อไป และเนื่องจากรู้ว่านี่เป็นหนังอัตชีวประวัติ
ผมเลยไปหาข้อมูลเพิ่มเติม ได้มาเยอะเหมือนกัน แต่ไอ้ที่ไม่ชอบที่สุดก็คือ
(คำเตือน มีเนื้อเรื่องของหนังอยู่นิดหน่อย ถ้ายังไม่ได้ดูหนัง ก็ข้ามไปก่อนได้ครับ)

หนังเปลี่ยนบทให้ภรรยาทิ้งพระเอกไป แต่จริงๆ แล้วพระเอกต่างหากที่ทิ้งภรรยาเพื่อมาหาเมียน้อยที่ท้อง
แล้วไอ้เด็กในหนังที่เป็นลูกภรรยาน่ะ จริงๆ แล้วเป็นลูกของเมียน้อยต่างหาก

ง่ะ เลยออกจะเสียความรู้สึกกับเจ้า Chris อยู่นิดๆ แต่ก็ยอมรับความสามารถของเขานะ

ถือว่าเป็นหนังดีที่น่าดู แต่คงไม่ประทับใจอะไรมากเพราะว่าหนังขาดส่วนที่พระเอกพยายามสู้ในงาน
ทำให้พอพระเอกประสบความสำเร็จในงาน แล้วคนดูอย่างผมก็เลยงงๆ
ว่ามันทำงานดีได้ขนาดนั้นตั้งแต่เมื่อไหร่กัน
แบบว่าหนังเอาแต่พูดถึงความรันทดปากกัดตีนถีบของชีวิตแต่อย่างเดียว
เลยยังไม่ได้คะแนนเต็ม

แล้วก็มาถึงหนังอัตชีวประวัติเรื่องที่สองที่ผมจำได้ catch me if you can

สปีลเบิร์กทำหนังออกมาได้ลื่นไหลดี ดิคราปริโอก็เล่นดี
แต่ผมไม่ชอบเท่าไหร่แฮะ
สงสัยคงเป็นเพราะอ่านหนังสือมาก่อน แล้วก็ชอบหนังสือมากๆ
ไม่ใช่ว่าหนังทำออกมาไม่ดีนะครับ เพียงแต่ในฐานะของคนอ่านหนังสือแล้ว
ผมยังหาหนังที่ทำดีกว่าหนังสือยากเหลือเกิน
(ยกเว้นเรื่อง Devil wears prada ละกัน อันนั้นหนังทำออกมาดีกว่าเห็นๆ)

แล้วก็เข้ามาเรื่องสุดท้าย a beautiful mind

เรื่องนี้ผมชอบมากๆ อาจเป็นเพราะผมดูหนังก่อนอ่านหนังสือก็ได้กระมัง
ฉากที่ชอบมากก็น่าจะเป็นฉากพระเอกได้รับปากกา
และฉากที่พระเอกวาดรูปจากดาวให้นางเอกดู - ผมเลยเอามาใช้เป็นรูปประกอบเสียเลย
(โรแมนติกมากๆ ครับ ถ้าผมยังวัยรุ่นอยู่ จะยืมไปใช้จีบสาวเสียหน่อย)

แ่ต่ฉากที่ชอบสุดๆ ก็คงเป็นตอนที่แนชกล่าวขอบคุณภรรยาในงานรับรางวัลโนเบล

ผมจำไม่ได้ว่าำคำพูดที่แนชพูดออกมาคืออะไร และก็ไม่อยากไปค้นด้วย
เพราะเท่าที่ผมฟัง และรู้สึกได้ เขาพูดประมาณว่า
...I'm nothing without you...
...I'm here because of you...
...ถ้าปราศจากเธอ ฉันไม่มีทางมาอยู่ตรงนี้ได้เลย...

ซึ้งครับ ซึ้งจริงๆ เพราะในหนังเรื่องนี้ ผมปรบมือให้กับนางเอกที่อยู่เคียงข้างพระเอกเสมอมา
และนี่แหละคือเหตุผลที่ผมไม่ยอมอ่านหนังสืออัตชีวประวัติของแนชให้จบ
กลัวหนังสือจะพูดเรื่องวิชาการ กับเรื่องโรคจิตมากเกินไป แล้วละเลยส่วนที่โรแมนติกที่สุดของหนัง
ผมอ่านไปได้เกือบครึ่งเล่ม พอไม่เห็นนางเอกในบทเสียที ผมก็โยนหนังสือเก็บไว้ที่ชั้น
และเก็บความรู้สึกดีๆ กับหนังรักที่ยอดเยี่ยมเรื่องหนึ่งที่ผมเคยดูเอาไว้

A beautiful mind....A beautiful movie....
หนังรักในดวงใจของผมเลยครับ

Create Date : 20 กันยายน 2550

Last Update : 20 กันยายน 2550 14:48:48 น.

7 comments

Counter : 1360 Pageviews.

ชอบทั้งสองเรือ่งเลยครับ
แต่เรื่องเเรก ผมชอบบรรยากาศ และอารมณ์ของ วิล
มากๆ และเจ้าหนูน้อย นี่ เล่นได้น่ารักดีเเท้

สำหรับเรื่องที่สอง ต้องบอกเลยว่า ชื่อเรื่อง ไม่ชวนให้อยากดูเอาเสียเลย
แต่พอดุเนื้อเรื่อง และตัวละครแล้ว ต้องบอกว่าฝีมือเเท้ๆ นะเนียะ

โดย: haro_haro

วันที่: 20 กันยายน 2550 เวลา:12:56:08 น.

...

เรื่องแรกนี่ ยังไม่ได้ดูเลยค่ะ
เรื่องที่สอง และเรื่องที่สามนี่ ได้ดูแล้ว
ชอบทั้งสองเรื่องค่ะ
โดยเฉพาะเรื่องสุดท้าย ...

โดย: [ befine ] IP: 125.24.246.104 วันที่: 22 กันยายน 2550 เวลา:21:47:51 น.

งิงิ สวัสดีคร้าพี่พล ^_^ เป็นยังไงบ้างคะ รู้สึกว่าช่วงนี้เดินทางบ่อยนี่นา ว่าแต่ไปมาเก๊า เนี่ยะ ฝากไปเล่นการพนัน แต่ไม่ฝากตังค์ไปด้วยได้มั๊ยคะ แบบประมาณว่า เสียพี่พลก็เสียคนเดียว แต่ได้ก็มาแบ่งนู๋ด้วย คิคิ

หนังที่พูดมาดูแล้วหมดเลยค่ะ เรื่องแรกนี่ก็โอเคนะคะ แต่ก็ยังไม่โดนจริง ๆ ด้วย ไม่ค่อยเรียกน้ำตาหรืออารมณ์ซักเท่าไหร่ หรือเพราะเราดูตัวอย่างหนังแล้วคิดว่ามันจะรันทดกว่านี้ก็ไม่รู้แฮะ แต่อิจฉาและหมั่นไส้ในความเก่งและฉลาดของพระเอกเน๊อะ ชอบที่ตอบคำถามตอนสัมภาษณ์ได้โดนใจมาก เอามานั่งคิดว่า จะมีซักกี่คนที่โดนย้อนถามแบบนี้แล้วจะตอบแบบนี้ได้ ถ้าเป็นเราก็คงจ๋อยเดินออกจากห้องไปเลยมั๊ง

แล้วก็ชอบความฉลาดในการเลือกเข้าหาคน เลือกคุยกับคน นี่แหล่ะทำให้เขาไต่เต้าขึ้นมาถึงระดับนี้ได้ สรุปคือที่พี่พลถามว่าเขาทำงานดีแบบนี้ได้ตั้งแต่เมื่อไหร่ คือหนังไม่ได้บอกว่าเขาทำงานดีทำงานเก่งค่ะ แต่เพราะว่าเขารู้จักที่จักติดต่อคน โดยติดต่อเจ้าของบริษัทฯ นึงในหนังที่ยิ่งใหญ่มาก ๆ ชื่ออยู่บนสุดเลย ซึ่งปรกติไม่มีพนักงานขายคนไหนกล้า เขาก็จะไล่ชื่อจากล่างมา แต่พระเอกหลังจากเข้าตาจนอย่างหนัก เขาจึงได้กลับเลือกรายชื่อคนที่รวยที่สุด แล้วผลจากการทำแบบนั้น ถึงครั้งนั้นจะไม่ทำให้เขาขายได้ แต่ก็ได้มิตรภาพ และเขาก็ได้รายชื่อจากบุคคลทั้งหลายในบริษัทนั้นมาเพียบ เพื่อมาเป็นลูกค้าต่อไป นี่แหล่ะค่ะ การทำธุรกิจสำคัญที่การเจรจาและการ meeting อย่างแท้จริง ^_^ อุ๊ย นู๋ตอบยาวไปมั๊ยเนี่ยะ แห่ะ ๆ พูดเรื่องหนังแล้วมันติดลมค่ะ

ส่วนเรื่อง Catch Me If You Can นี่ ยอดเยี่ยมมากค่ะ แต่ก็มีข้อคาใจหลาย ๆ จุดว่า ทำไมคน ๆ นึงถึงจะได้เก่งและฉลาดได้ขนาดนี้ ปลอดไปทำงาน ไปติดต่อคนได้หลากหลายอาชีพ เฮ้อออ (บ่นแบบว่า อิจฉา งิงิ) แต่ลงท้ายเหมือนมีปมชีวิตที่เป็นจุดอ่อนของตัวเอง ทำให้เจ้าหน้าที่หลอกล่อจับตัวมาได้ แต่ก็จบลงด้วยดีค่ะเรื่องนี้

ส่วนเรื่อง A Beautiful Mind นี่นานมากแล้ว เริ่มจะลืมเลือน แต่ชอบฉากที่พี่พลพูดถึงเหมือนกันค่ะ พอหนังชีวิตแนว ๆ นี้มาฉากอะไรหวาน ๆ โรแมนติกขึ้นมา ก็ทำให้คนติดตาและจดจำได้ง่ายค่ะ ดูแล้วนึกถึงคำคมประโยคนึงที่ดูจะเป็นจริงเสมอที่ว่า

"ความสำเร็จของผู้ชายคนหนึ่ง จะต้องมีผู้หญิงอย่างน้อยหนึ่งคนยืนอยู่เบื้องหลังเสมอ"

และบีก็เห็นจริงกับคำกล่าวนี้จากหนังหรือละครทุกเรื่องจริง ๆ ค่ะ ชีวิตคนจริง ๆ ก็เป็นเช่นนั้นใช่มั๊ยคะ ไม่ว่าจะเป็นภรรยา คนรัก หรือแม่ อย่างน้อยก็ต้องมีหนึ่งคนเป็นแรงผลักดันให้ใครคนนึงประสบความสำเร็จเสมอค่ะ ^_^

ทำงานมาก ๆ อย่าลืมรักษาสุขภาพด้วยนะคะพี่พล

คิดถึงและเป็นห่วงเสมอค่ะ

โดย: Beee (Beee_bu

) วันที่: 17 ตุลาคม 2550 เวลา:18:15:59 น.

พี่พลค่ะ เน็ตเองนะค่ะ ฝากบอกพี่จิ๋งว่าคิดถึง

ด้วยนะค่ะ ม่ะเหงออนเอ็มเลย ดูแลสุขภาพด้วยนะค่ะ

โดย: น้องเน็ต (momokonoi

) วันที่: 18 ตุลาคม 2550 เวลา:12:47:19 น.

มีหนังแนะนำอยู่เรื่องนึงค่ะ เขาว่ากันว่าน้ำเน่ามาก ๆ
แต่หนังทำได้ละเมียดละไมดี ภาพสวย บรรยายกาศงาม นักแสดงก็โอเค ถ่ายทอดขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตในยุคนั้นได้ออกรสดีค่ะ เรื่อง Pride & Prejudice ถ้าอยากดูมีแจกนะคะ เพราะไปค้นหาจากแม่สายได้มาอีกแผ่น

โดย: loukkid IP: 58.147.74.4 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:18:14 น.

เข้าไปดูภาพ และเรื่องราวได้ที่นี่ค่ะ

//www.pantip.com/cafe/chalermthai/newmovie/prideandprejudice/pp.html

โดย: loukkid IP: 58.147.74.4 วันที่: 2 พฤศจิกายน 2550 เวลา:17:19:50 น.

แนะนำเว็บดูหนังซีรีย์เกาหลีฟรี

โดย: koreaserie (loveyoupantip

) วันที่: 6 สิงหาคม 2554 เวลา:11:31:40 น.