With all your imperfections, you can do anything.
Group Blog
 
<<
กันยายน 2558
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
27282930 
 
26 กันยายน 2558
 
All Blogs
 
Login as different user

ฉากจบ
"เล็กจิ๋ว" ดารานักร้องหนุ่ม ออกอาการอึ้งอยู่ครู่หนึ่ง เมื่อพบกับ "ก๋วยจี๊" แฟนเก่าซึ่งเป็นดาราสาวโดยบังเอิญ เหตุการณ์ก่อนปิดฉากความรักของเขาทั้งสอง ทำให้ฝ่ายหญิงถึงกับฆ่าตัวตาย แต่โชคดีที่เธอรอดมาได้ เธอกำลังจะเดินเข้ามาหาเขา เล็กจิ๋วรู้สึกอึดอัด ไม่รู้จะทำอย่างไรดี แต่แล้วก็ใจชื้นขึ้น เมื่อเห็นรอยยิ้มของก๋วยจี๊ รอยยิ้มของเธอยังงดงามเหมือนเคย แววตาใสแจ๋วของเธอยังคงทำให้เขาใจหวิว แม้ว่าจะเลิกกันไปแล้ว

ก๋วยจี๊ เอื้อมมือขึ้นมา เขย่งเท้ายืดตัว แล้วจับไหล่ของเล็กจิ๋ว
ท่าทางของเธอดูเหมือนไม่โกรธเคืองกับเรื่องที่เกิดขึ้นเลยสักนิด
"ไปกินหมูกระทะกันเถอะ เพื่อน" ก๋วยจี๊เอ่ยถามด้วยน้ำเสียงของคนมีความสุข
เล็กจิ๋วยิ้มตอบ


1 สัปดาห์ก่อนหน้านั้น

ก๋วยจี๊
ฉันตื่นขึ้นมาบนเตียง ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง มีอาการปวดแสบตรงคอ ข้างๆ มีคุณพ่อคอยนั่งเฝ้าอยู่ ฉันนึกอะไรไม่ค่อยออก อาจเป็นเพราะอาการป่วยไข้ ตอนที่ตื่นขึ้นมาครั้งแรก แม้แต่พ่อตัวเอง ก็ยังจำไม่ได้  แต่เมื่อลองประมวลผลสมอง ดึงความจำที่เก็บไว้ออกมา ก็พอจะนึกออกได้ว่าเกิดอะไรขึ้น ฉันคือ ก๋วยจี๊ ดารานักแสดงหญิง มีชื่อเสียงพอตัว แต่เพราะปัญหาความรัก เลยคิดสั้น แอบขึ้นไปผูกคอตายบนภูเขา โชคดีที่มีผู้ชายคนหนึ่งไปพบเข้า และช่วยเอาฉันมาส่งโรงพยาบาล เขาชื่อว่ามาร์คอะไรนี่แหละ แม้ว่าฉันจะนึกอะไรออกได้หลายอย่าง แต่ฉันก็ไม่ได้รู้สึกอินกับเรื่องราวในความทรงจำนั้นมากนัก ฉันรู้สึกเศร้า เหงา เหมือนคนไม่มีเพื่อน นี่หรือเปล่า ที่เป็นสาเหตุทำให้ฉันฆ่าตัวตาย อย่างไรก็ตาม ฉันรู้สึกดีมากขึ้นเมื่อเห็นพ่อนั่งคอยเป็นห่วงเป็นใยอยู่ข้างๆ ความอบอุ่นและความสุขเริ่มก่อเกิดขึ้นในใจของฉัน ฉันคงต้องไปขอบคุณอีตามาร์คคนนั้นเสียหน่อยแล้ว ที่ทำให้ฉันกลับมามีชีวิตอีกครั้ง ว่าแต่เขาไปเจอฉันบนหุบเขานั่นได้อย่างไร ฉันละสงสัยจริงๆ

มรสุมชีวิตผ่านไป กองทัพนักข่าวเข้ามาสัมภาษณ์กันจนฉันเหนื่อยอ่อน ไปออกรายการทีวีก็หลายรายการ แต่สิ่งที่สะกิดใจฉันอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ตอนที่ฉันไปออกรายการ คนนวดผี  พิธีกรรายการ "ริว จิตสำนึก" ได้ทักฉันว่า ฉันไม่ใช่คนเดิม เขามองไม่เห็นชะตาชีวิตของฉัน

มาร์ค
หลังจากที่โดน สตีฟ หัวหน้าด่ามายกใหญ่ เรื่องความผิดพลาดในการทำงาน มาร์คก็ได้พบว่า ชีวิตของเขายังพอมีเรื่องดีอยู่บ้าง เพราะบังเอิญช่วยชีวิตดาราสาวสวยไว้ โด่งดังได้ออกทีวีเลยทีนี้ แต่เมื่อดาราสาวออกจากโรงพยาบาล เดินทางมาขอบคุณเขา เขาก็เริ่มรู้สึกแปลกๆ รู้สึกคุ้นเคยกับดาราสาวคนนี้มากผิดปกติ จะว่าไปอาการของเธอยังไม่ดีมากนัก ยังเดินเก้ๆ กังๆ พูดจาติดๆ ขัดๆ 

มาร์คเพิ่งมานึกได้ทีหลัง เมื่อโดนสั่งให้เขียนรายงานความผิดพลาดส่งให้หัวหน้า อาการที่ผิดปกติของดาราสาว ประกอบกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น เขาพอจะเดาเหตุการณ์ออกแล้ว มันช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ เป็นครั้งแรกที่เขาได้รู้ว่าคลื่นจิต สามารถเข้า login ในร่างของมนุษย์ได้ 

แต่ไหนๆ เขาก็โดนด่าไปเรียบร้อยแล้ว เลยแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ และเขียนรายงานหลอกหัวหน้าไป ปล่อยให้คลื่นจิตนั่น มีชีวิตใหม่ไปแล้วกัน แต่เขาก็จะแอบติดตามศึกษา Case นี้ต่อไปเรื่อยๆ เผื่อจะได้เก็บมาต่อยอดเป็นงานวิจัยของตัวเอง


1 วันก่อนหน้านั้น

สาธิต
ชีวิตเด็กกำพร้าอย่างผม ช่างน่ารันทดเสียเหลือเกิน ญาติพี่น้องก็ไม่มี เวลามีปัญหาอะไรก็ไม่รู้จะไปปรึกษาใคร ที่ทำงานก็ไม่มีเพื่อนแท้เลย มีแต่คนที่คอยจะแก่งแย่งชิงดีกัน งานโรงงานที่ไม่มีใครอยากทำกัน แต่ผมต้องมาทำด้วยความจำใจ เพราะได้ทุนเรียนสาขานี้ และต้องใช้ทุน ด้วยความที่เป็นเด็กกำพร้า ชีวิตเลือกอะไรไม่ได้มากนัก มีทุนนี้ทุนเดียวที่เสนอมายังสถานเลี้ยงเด็กกำพร้า เป็นใครก็ต้องรีบไขว่คว้าเอา

นิคมอุตสาหรรมต้องห่างไกลชุมชน จึงต้องมาสร้างอยู่ในหุบเขาแห่งนี้ และหุบเขาก็ได้กลายเป็นแหล่งพักผ่อนหย่อนใจของผม ทุกวันหยุด ผมมักจะปีนเขาขึ้นไปดูวิวด้านบน วันนี้โชคดี ได้พบต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่ง ผิวเรียบนุ่ม แผ่กิ่งก้านไปในแนวนอนขนานกับพื้นดิน เหมาะมากสำหรับการขึ้นไปนั่ง ไม่ใช่นั่งได้อย่างเดียว นอนเอนกายพิงหลังไปได้ด้วย

ชีวิตการทำงาน และความเหงา ทำให้ผมเป็นทุกข์ แต่สิ่งที่แปลกอย่างหนึ่งในชีวิตของผมก็คือ เวลาหลับ ผมมักจะฝันดีทุกคืน ณ ตอนนี้ ลมเย็นๆ บนยอดเขา ออกซิเจนจากต้นไม้ทั่วทั้งป่า และที่นอนบนยอดไม้สบายๆ เริ่มทำให้ผมเคลิ้ม หนังตาค่อยๆ เลื่อนต่ำลงทุกที

บรรยากาศเริ่มมืด คงราว 6 โมงเย็นเห็นจะได้ ค้างคาวตัวดำมืดบินผ่านหน้าไป ช่างน่าสยองขวัญเสียเหลือเกิน ผมได้ยินเสียงจากด้านล่างของต้นไม้ เห็นสาวสวยคนหนึ่งนั่งร้องไห้อยู่ อาจเป็นเสือสมิงก็ได้ ผมนึกในใจ หรือผมกำลังอยู่ในความฝัน ลองหยิกตัวเองดู ก็ไม่เจ็บ แต่ให้ตายเถอะ นี่เป็นครั้งแรกที่ผมฝันร้าย ผมภาวนาให้ตัวเองตื่นเร็วๆ

ในเมื่อมันเป็นความฝัน ก็ลองเล่นกับความฝันดูดีไหม 
"ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ คนสวย" 
"ฉันหลงทาง"
"ผมจำทางกลับได้ เดี๋ยวผมพากลับเอง"
"ไม่จำเป็นแล้วละ"

สิ้นประโยค ผมคิดว่าเธอจะกลายร่างเป็นเสือสมิง แต่ผิดคาดเธอกลับเดินบุกป่าไปทางเขาอีกลูก เนื่องจากคิดว่าเป็นความฝัน ผมก็เลยทำใจกล้าตามเธอไป เดินไปเรื่อยๆ ก็พบว่าพื้นที่ป่ารอบข้างสว่างขึ้นเรื่อย จนถึงจุดหนึ่ง มีลำแสงส่องลงมาจากท้องฟ้าที่มืดมิด เธอเดินเข้าไปหาลำแสงนั้น แล้วร่างก็ค่อยๆ ลอยขึ้นไปบนท้องฟ้า ผมเงยหน้าขึ้นไปมองที่มาของลำแสงนั่นจนร่างของสาวสวยคนนั้นหายไป แสงค่อยๆ หรี่ลง พอมองเห็นได้ว่า ที่มาของแสงนั้นมีลัษณะคล้ายจานกลมๆ และมันกำลังจะเคลื่อนไปทางด้านหลัง ด้วยความที่ไม่ทันคิด ผมเดินถอยหลังตามจานกลมนั่น เผลอสะดุดกิ่งไม้หงายหลังล้มลง จานกลมนั่นเคลื่อนตัวหายลับไป ผมขยับตัวไม่ได้ เหลือบตาไปเห็นกิ่งไม้ด้านบน มีเชือกผูกอยู่ เชือกมีร่องรอยว่าขาดตรงจุดปลาย

สตีฟ
บ้าเอ้ย ไอ้มาร์คลูกน้องผู้ช่วยวิจัยตัวดี ทำเรื่องเข้าให้แล้ว อุตส่าห์ให้เฝ้าควบคุม "สาธิต" หรือ Demo 07 ซึ่งเป็นหุ่นยนต์ทดลอง  อยู่ๆ คลื่นจิตของหุ่นยนต์ตัวนี้มันหายไปได้อย่างไร หากหุ่นยนต์ไม่มีคลื่นจิตคอยควบคุมการทำงาน ก็เหมือนกับเศษเหล็กดีๆ นี่เอง 

ถึงแม้สตีฟ จะเป็นผู้วิจัยสังเคราะห์พลังงานที่เรียกว่าคลื่นจิตขึ้นมาได้ แต่เขาก็ยังไม่ได้เข้าใจอะไรเกี่ยวกับมันมากนัก งานวิจัยตอนนี้ เหมือนกับการลองผิดลองถูก มากกว่าการวิเคราะห์คาดการณ์โดยใช้เหตุผล มันเป็นอะไรที่ทำให้สตีฟหงุดหงิดไม่น้อยเลยทีเดียว เขาก็เลยใช้โอกาสที่ลูกน้องทำงานผิดพลาด ระบายอารมณ์ไปด้วยในตัว เขาด่ามาร์คไปยกใหญ่ 

แม้ว่าจะแกล้งด่าลูกน้องเพื่อระบายอารมณ์ไปได้ แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นครั้งนี้ ระดับศาสตราจารย์อย่างเขา ไม่ใช่คนที่หนีปัญหาง่ายๆ เขาคิดหาสาเหตุต่อไป คลื่นจิตอาจเหมือนคลื่นแสง มันอาจไปเจอกับวัตถุดูดซับคลื่นเอาก็เป็นได้ เหมือนกับตอนที่เราใส่แว่นตาดำกรองแสงไง



1 นาที ก่อนหน้านั้น

มาร์ค

ช่วงนี้หุ่นยนต์ Demo 07 มีปัญหาชีวิตเข้ามาเรื่อยๆ มาร์คต้องเขียนโปรแกรมความฝันใหม่ๆ เข้าไปเยียวยา ถึงแม้มาร์คจะสนุกกับโครงการหุ่นยนต์คลื่นจิต แต่เขาก็รู้สึกว่ามีอะไรที่มันติดขัดอยู่ในใจ งานที่ไม่มีใครอยากทำ เราก็เลยต้องให้หุ่นยนต์ทำแทน และยิ่งเป็นงานยากด้วย หุ่นยนต์ก็ต้องฉลาดตามไปด้วย ปัญหาของหุ่นยนต์ที่ฉลาดก็คือ เรื่องปัญหาด้านอารมณ์ที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น มาร์คต้องสร้างฝันดี เพื่อให้หุ่นมองโลกในแง่ดี เหมือนกับว่าตอนนี้มาร์คเป็นส่วนหนึ่งของระบบที่ทดลองใช้แรงงานทาส มันเป็นเรื่องผิดศีลธรรมหรือเปล่า เป็นคำถามที่ติดอยู่ในใจของมาร์คมาตลอด

ปัญหาที่ซับซ้อนมากขึ้น ทำให้มาร์คเขียนโปรแกรมผิดไป 1 จุด เปิดช่องให้มีสัญญาณรบกวนจากภายนอก มีคลื่นจิตอีกคลื่นต้องการสื่อสารกับ Demo 07 มาร์คเห็นเหตุการณ์ทุกอย่างจากหน้าจอ ให้ตายเถอะ ความซวยมาหาแล้ว ไม่ทันคิดอะไร มาร์คลบวีดีโอที่บันทึกเหตุการณ์ช่วงนั้นออกทันที ไม่งั้นได้โดนด่าหนักแน่ๆ



เกร็ดเพิ่มเติม : พระพุทธเจ้าใช้เวลา 6 ปี ในการบำเพ็ญทุกรกิริยา



Create Date : 26 กันยายน 2558
Last Update : 27 กันยายน 2558 0:15:28 น. 0 comments
Counter : 685 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Dragonfly7Colors
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]




Friends' blogs
[Add Dragonfly7Colors's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.