Group Blog
 
 
มกราคม 2566
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
28 มกราคม 2566
 
All Blogs
 
เเสน

Abtrace

1.ปัญหาของหาดใหญ่สงขลาคืออะไร
1.1.มีแต่แหล่งท่องเที่ยวเดิมๆ  ซ้ำซาก ขาดจุดขายใหม่ๆ 
1.2. จุดขายเดิมเรื่องของหนีภาษีหมดไปจากการเปิดเสรีการค้า 
1.3.ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวสวยๆ   ไม่มีเกาะสวยๆ  เหมือนทะเลอันดา
1.4.มุ่งแต่จะพัฒนาเขาคอหงส์อยู่นั่นแหละ  คิดอย่างอื่นไม่เป็นแล้ว

หากนี้คือปัญหาทางการท่องเที่ยวของจังหวัดสงขลา   เรามาช่วยกันหาทางแก้กันดีกว่า



 2.เราขอย้อนเวลากลับไปถึงจุดขายเดินขอเราก่อน นั้นคือ เมืองของหนีภาษี  เมืองหาดใหญ่เกิดจากทางรถไฟโดยแท้  แต่ที่ทำให้หาดใหญ่เจริญสุดขีดนั้นคือ เมืองของหนีภาษี ตลาดกิมหยง สมัยก่อนที่ยังมีการตั้งภาษีระหว่างกัน  สินค้าที่มาจากต่างประเทศ จะถูกข่นถ่ายที่ท่าเรือใหญ่ ที่สิงคโปร์ และมาเลเซีย  ก่อนที่จะถูกลักลอบ นำเข้ามาที่หาดใหญ่  โดยไม่ผ่านพิธีการศุลกากร  ทำให้เกิด "ความเชื่อ"  ที่ว่า  หาดใหญ่ของราคาถูก สินค้าเด่นๆเช่น หัวหอม หัวเทียม เครื่องใช้ไฟฟ้า เด่นสุดคือเครื่องเกมส์แฟมิคอม  รองเท้า  เด่นสุดคือ รองเท้าสกอลล์



3.สิ่งที่ทำให้หาดใหญ่เจริญสุดขีด  หากมองให้ลึกลงไป  ไม่ใช่เรื่องของหนีภาษี  แต่ที่สิ่งที่มีมูลค่ามากกว่านั้นคือ  สิ่งที่เรียกว่า  "ความเชื่อ"   ความเชื่อที่ว่า หาดใหญ่เป็นเมืองที่มีสินค้านำเข้าจากต่างประเทศคุณภาพดี ราคาถูก  เพราะหนีภาษี   "ความเชื่อ"   เป็นสิ่งที่มีมูลค่าสูงทางการตลาด  เช่น  เราเชื่อว่า ทองคำมีราคา  ทั้งๆที่เป็นแค่โลหะชนิดหนึ่ง  หรือเงินดอลล่าห์ ที่เราว่ามันมีค่า  ทั้งๆที่เป็นแค่กระดาษ


4. "ความเชื่อ" จะต้องเชื่อมโยงกับ "ความจริง"  ที่เป็นที่ยอมรับได้  หมายความว่า  การที่เราจะทำให้ใครก็แล้วแต่ เชื่อในสิ่งที่เราต้องการให้เชื่อ   เราต้องต้อง มีเหตุและผล ที่สามารถอธิบายได้  จึงจะทำให้เขาเชื่อได้ เช่น ทองมีมูลค่า  นั่นเพราะ  เป็นแร่ที่มีจำนวนน้อย  และทำเป็นเรื่องประดับได้  อีทั้งธนาคารกลางทั่วโลกก็ยอมรับ  หรือเงินดอลล่าห์  ที่มีมูลค่า  นั่นเพราะอเมริกา  ผู้ซึ่งชนะสงครามโลกครั้งที่ 2 และเป็นมหาอำนาจ  เป็นคนพิมพ์ออกมา  


5.ความเชื่อดั้งเดิมของหาดใหญ่ เรื่องที่ว่า สินค้าถูกเพราะหนีภาษี  ถูกทำลายด้วยคลื่น 2 ระรอก  นั้นคือ เรื่องเขตการค้าเสรี  และที่หนักที่สุดคือ เรื่องการค้าออนไลน์  ที่เรียกได้ว่า ซื้อผ่าน โซปี้ ลาซาดา  ยังถูกว่าหาดใหญ่หลายเท่าตัว  ซึ่ง "ความจริง"  ก็เป็นเช่นนั้น


6.แล้วหาดใหญ่สงขลา ยังมี "ความเชื่อ" ที่เชื่อมโยงกับ "ความจริง"  อะไรอีกบ้าง ที่มีอยู่  หรือแอบซ่อนอยู่  โดยที่ยังไม่ถูกเอามาใช้ในเรื่องการท่องเที่ยวอีกบ้าง  ซึ่งในทัศนะของผู้เขียน  คิดว่า  มี อยู่ 3 อย่าง  ซึ่งขอเรียงลำดับจาก สำคัญน้อย ไปหาสำคัญมากดังนี้  คือ ปักหมุดมอ. < ปักหมุดหาดใหญ่ < ปักหมุดสงขลา  ซึ่งผู้เขียนขอแทน หัวข้อด้วย A  <  B  <  C   ดังนี้



A ปักหมุด มอ.
ความเชื่อเรี่อง และความจริง  ศูนย์กลางทางการแพทย์
โรงพยาบาลบาลมอ.นั้น  มีชื่อเสียงในด้านการแพทย์มานานแล้ว  และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก  โดยมีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์คือ  งานวิจัยทางการแพทย์ในระดับนานาชาติจึงทำให้เกิด  “ความเชื่อ”   ที่ว่า  แพทย์มอ. เก่งมากๆ   ซึ่งก็ได้บอกไปแล้วว่า  “ความเชื่อ”  มีมูลค่า ของมัน
คนไข้ที่อาการหนัก หรือ การรักษาเฉพาะทาง จะมาที่นี้  ซึ่งคนไข้จะมาคนเดียวไม่ได้  ก็จะต้องมีญาติพี่น้องตามมาด้วยจำนวนมาก  ซึ่งทำให้เกิดการหมุนเวียนด้านเศรษฐกิจจำนวนมากบริเวณโซนมอ. 
ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐ ยังไม่ได้มีการส่งเสริม หรือช่วย มอ. เลย  ปล่อยให้ มอ.ต้องรับภาระอยู่คนเดียว  โดยเฉพาะญาติ ที่ตามคนไข้มา  เหล่าบรรดา ญาติๆ  ความต้องการของพวกเขา  คือ  ต้องการอยู่ใกล้คนไข้  ซึ่งเป็นบุคคลที่เขารัก  แต่ทว่า  โรงพยาบาล มอ. รับ ภารระตรงนี้ไม่ไหว จึง ไม่อนุญาตให้เฝ้าไข้  จึงเสียโอกาสทางเศรษฐกิจต่อเมืองหาดใหญ่มหาศาล


หากนี้คือโจทย์ที่ต้องแก้ให้ได้  นั้นคือ ญาติต้องการอยู่ให้คนไข้   ซึ่งญาติมีกำลังทางเศรษฐกิจด้วยจะเป็นไปได้ไหม ที่หน่วยงานรัฐ จะเป็นคนกลางประสานงาน  ให้ที่ดินบริเวณป่ายางหน้ามอ. หรือบริเวณอื่นที่ใกล้เคียง โดยลงทุนโดยเอกชน ให้เป็นที่พักญาติ ภายใต้ชื่อมอ.   ซึ่งก็จะเป็นผลดีแก้เจ้าของที่ดินเองด้วย  เพราะปัจจุบันภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้บังคับใช้แล้วทำให้เจ้าของที่ดินแปลนั้นต้องเสียภาษีจำนวนมาก


อีกทั้ง โรงพยาบาลมอ.นั้น  พ่วงมาด้วยชื่อ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ด้วย  แม้คำว่า สงขลานครินทร์  จะเป็นราชธินนาม  แต่ ก็พ้องกับชื่อจังหวัด  ซึ่ง มีภึง 5 วิทยาเขต ทั่วภาคใต้  ก็ยิ่งทำให้ มอ. เป็นศูนย์กลางมากขึ้นไปอีก



รพ.หาดใหญ่  เป็น รพ.ขนาดใหญ่ มีเครื่องมือมากมาย  แต่น่าเสียดายที่พื้นที่คับแคบ  เคยมีข่าวว่าได้ที่ดินแถวทุ่งควนจีน แถว.ม.รามหาดใหญ่ ที่เป็นที่ดินสาธารณะแล้ว ร้อยไร้  ไม่เข้าใจว่า  ทำใมจึงไม่เริ่มย้ายไปได้แล้ว  ไปล้อมรั้ว  สร้างอาคารหลักเล็กๆไว้ก่อน  เพราะที่ดินโซนนั้น เป็นที่ดินที่เจริญเร็วที่สุดแล้ว  เพราะถนนวงแหวนก็สร้างแล้ว  ถนน 6 เลนก็ขยายแล้ว  อีกทั้งหาดมีระบบโมโรเรลเฟส 2  มันก็จะเส้นสนามบินกลายเป็นแอร์พอร์ลเรลลิงค์ในอนาคต  เรียกว่า ทุนใครใหญ่ๆ  อยากสร้างอะไรใหญ่ๆ ที่ใช้พื้นที่มาก  ปัจจุบันยังพอจะมี รีบซื้อโซนนี้เลย 
รพ.เอกชน  ในที่นี้ มี 4 โรงพยาบบาลหลักๆ  คือ โรงพยาบาลกรุงเทพ  ศิครินทร์ ราชยินดี  เซียงติ้ง  ในโซนภาคใต้  ก็มีแต่หาดใหญ่นี้แหละที่มีโรงพยาบาลเอกชน


สิ่งที่คาดหวัง


B ปักหมุดหาดใหญ่
ความเชื่อ  และความจริง เรื่อง  หาดใหญ่คือ จุดปะทะของ 3 วัฒธรรมหลัก  ที่ ดีที่สุด  คือ  ไทย  จีน   และ อิสลาม

1  หากมองจากแผนที่หาดใหญ่  จะพบว่า  หาดใหญ่  คือ ทางรถไฟ ที่สำคัญที่สุดของภาคใต้ตอนล่าง ดังนั้น ในอดีต จะมีชาวจีน จำนวนมาก  มาตั้งถิ่น มาค้าขาย  ด้านชาวสยามก็จะมาจาก พัทลุง นครศรีธรรม ระโนด  ส่วน อิสลามมาลายูก็จะมาจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้  และประเทศมาเลเซีย  ดังนั้นพื้นที่หาดใหญ่ ไม่ว่าใครจะไป ใครจะมาก็ต้องผ่านเมืองหาดใหญ่ทั้งสิ้น  ดังนั้น ดังนั้น  ความจริง คือ หาดใหญ่ จุดปะทะ และจุดหลอมรวม ของ สาม วัฒนธรรม  ที่โดดเด่นที่สุดของภาคใต้    เมื่องเรารู้แล้วว่า ความจริงคือ  หาดใหญ่ เป็นจุดหลอมรวม ของทั้ง 3 วัฒนธรรม  ที่โดดเด่นที่สุด  ต่อไป เราจะเอา ความจริงไปสร้างความเชื่อ   ซึ่งจะสามารถสร้างมูลค่าทางการท่องเที่ยวต่อไป

2.ต่อไปเราจะมาสร้างคาวมเชื่อ  จากความจริง ของ หาดใหญ่ที่เรามี  นั้นคือ 3 วัฒนธรรม  สิ่งที่มีมูลค่าสุดๆ ที่ถูกแอบซ่อนอยู่ในเมืองหาดใหญ่  นั่นก็คือ  "อาหาร"   มีคำกล่าวที่ ว่า  เรื่องกิน  เรื่องใหญ่  หรือใครจะเถียง"    
เมืองหาดใหญ่ เราสูญเสีย ความจริงดังเดิม คือ เมืองของหนีภาษีไปแล้ว  แต่เรายังมี  ความจริง ที่ถูกแอบซ่อนอยู่  โดยที่เรายังไม่ได้เอาออกมาให้เป็นที่รับรู้  ซึ่ง ความจริงที่ไม่มีคนรู้  ก็จะไม่เกิดความเชื่อ   เมื่อไม่มีความเชื่อ  ก็จะใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้  เช่น  ทะเลอันดามันสวย  แต่ ถ้าไม่มีใครรู้  ก็จะไม่เกิดความเชื่อ   เมื่อไม่มีความเชื่อ ก็จะไม่เกิดมูลค่า


3.การจะเอาความจริง  มาสร้างให้เกิดความเชื่อ  ก็ต้องทำ ความจริงใ ห้เป็นที่รับรู้  โดยผ่านการประชาสัมพันธ์ต่าง เช่น  งานเทศกาล  ของกิน 3 วัฒนธรรม    งานเทศการกินเจ  งานเทศการกินเหนี่ยวไก่หาดใหญ่  หรือ อาจะสร้าง วลีเด่นๆ  เช่น  มาหาดใหญ่ หอมเหนียวไก่ ทั้งเมือง   กินตำซ้ำ ต้องหาดใหญ่   เพราะหลังจากเมืองของหนีภาษีหมดไป  เรื่อง ของกิน 3 วัฒนธรรม ต้องสร้างการรับรู้ตรงนี้ให้ได้


4.สร้างแฟนเพจกลาง รวบรวมชนิด และประวัติของอาหาร   รวมถึงร้านที่ขาย  หรือแหล่งที่ขายเช่นโซนหาดใหญ่ใน  โซนสายกลางเขต8   หรือม้แต่เวลาเปิดปิดตลาดนัดที่สำคัญๆเช่น  ตลาดนัดเกาะเสือ  ตลาดนัดหาดใหญ่ใน เป็นต้น  รวบรวมเข้ามาใน แฟนเพจ เฟสบุ๊ค  เหตุที่ควรใช้เฟสบุค เพื่อจากเป็นเพรทฟอร์ม ที่มีประสิทธิภาพ  และคนทั่วไปส่วนใหญ่เข้าถึงง่ายอยู่แล้ว  หน่วยงานที่ต้องเป็นเจ้าภาพควรเป็นหน่วยงานรัฐ  หรือหอการค้าสงขลา  หรือสภาการท่องเที่ยวสงขลา เป็นหลัก   และเรารู้ว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ที่มาหาดใหญ่  คือนักท่องเที่ยว ชาวมาเลเซียและสิงคโปร์  เรียกได้ว่า เข้าไทยผ่านหาดใหญ่ เป็นล้านคน  เราจะให้นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ รู้เรืองอาหารของหาดใหญ่ให้ง่ายและมีประสิทธิภาพที่สุดช่องทางไหน  ในทัศนของผู้เขียน คิดว่า  แผ่นพับกระดาษเล็กๆ  ที่มีลิงค์ของแฟนเพจนี้ แจกตอนเข้าด่านตม.  จะเป็นช่องที่ที่ประหยัด  และง่ายที่สุด  ให้แจกแนบไปกับหนังสือเดินทาง   โดยลิงค์ของแฟนเพจ ต้องไม่ยาวเกินไปนัก

5.เมนูอาหารของ หาดใหญ่  นั้นมาจากการผสามผสานของ 3 วัฒนธรรม  เช่นอาหารชื่อแปลกๆที่มีจาก 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เช่น   ตูปะซูตง   ไก่ย่างกอและ  ฯลฯ   หรือเมนูอาหารจีน อย่าง บักกุ๊ดเต๋   ติงซำ   หรือ อาหารไทย อย่าง  ส้มตำ และ ต้มยำกุ้ง  ที่เราสามารถบอก ชาวมาเลเช๊ย และสิงคโปร์ได้ว่า  นี้คือต้ำตำหรับ โดยใช้แคมเปอร์ หรือใน ภาษาการเมือง อาจจะเรียกว่า การสร้าง วาทะกรรม ว่า   "กินต้ำยำกุ้ง ต้องมากินของแท้ที่ประเทศไทยเท่านั้น"   ประโยคสั้นๆแค่นี้ แต่ก็สามารถสร้าง ความอร่อย ในรสชาตืได้อย่างมากมาย   และมีอีกเมนูที่เด็ดสุด  และเป็น ซอฟ์พาวเวอร์ของหาดใหญ่สุดๆ  และมีชื่อเสียงของหาดใหญ่ สุดๆ นั่นคือ  "ไก่ทอดหาดใหญ่"

6.ไก่ทอดหาดใหญ่  เป็นแเนนูอาหารที่เป็น ซอฟ์พาวเวอร์ของหาดใหญ่อย่างแท้จริง  เนื่องจากมีคำว่า  "หาดใหญ่"  พ่วงท้าย  ทำให้รู้ถึงแหล่งกำเนิด เมนูนี้ ไม่ธรรมดา  ขนาดไม่ได้มีการส่งเสริมอย่างเป็นเรื่องเป็นราวจากทางภาครัฐ  ยังไปได้ไกลขนาดนี้  เรียดได้ว่า  คนทั้งประเทศรู้จักหมด  ด้วยรู้แบบการขายเป็นรถเข็น  มีกระทะ  ทอดไก่   หมักกับเครื่องเทศแบบอิสลาม  เรียกได้ว่า เป็นการผสมผสาน ของ ทั้ง 3 วัฒธรรมอย่างแท้จริง  แม้ประวัติที่แท้จริงของเมนูนี้  ไม่รู้ว่าใครเป็นคนคิด  แต่ที่รู้แน่ๆ   มันกินง่าย   อร่อย แถมหอมไปทั้งเมื่อง  โดยเฉพาะตอนหัวรุ่ง  หอมมากๆ  ซึ่งเราสามารถสร้าง แคมเป็นการท่องเที่ยวได้ 2 แคมแปนส์  คือ  "มาหาดใหญ่  หอมเหนียวไก่ทั้งเมือง"   หรือ  "อยากกินเหนี่ยวไก้ของแท้ ต้องที่หาดใหญ่เท่านั้น"   เรียกได้ว่า เราสามารถใช้ประโยคนี้  ในการสร้างเป็นเทศกาลประจำปีของหาดใหญ่ได้เลยทีเดี่ยว  เพราะข้าวเหนี่ยวไก่ทอกหาดใหญ่ ของแท้ เจ้าดังๆ  ความอร่อย ไม่เหมือนกันสักเจ้า  นี้คือความจริง  ที่สามารถสร้างความเชื่อ   และความเชื่อ  สามารถสร้างมูลค่าได้อย่างสุดๆ   จนมีนักกินจากหลายที่  ต้องบินข้ามน้ำข้ามทะเล  เพื่อมากินไก่ทอดหาดใหญ่  ของแท้   ย้ำว่า  ของแท้  ที่หาดใหญ่โดยเฉพาะ  โดยในยูทูป มีคนต่างปะเทศมากมาย  ต้องบินมากิน ของแท้ ถึงที่หาดใหญ่

7.ไก่ทอดหาดใหญ่  กับซอฟพาวเวอร์ระดับโลก  อย่างที่บอกไปแล้ว  เมนูไก่ทอดหาดใหญ่นั้นดังมาก     อีกทั้งรูปแบบก็กินง่าย  อร่อย  แถมการจะลงทุนเป็นร้านขายไก้ทอด ก็ไม่อยาก   แค่มีรถเข็น กระทะทอด และมีป้าย ระบุว่า  "ไก่ทอดหาดใหญ่  .... พ่วงท้ายด้วยชื่อเจ้าของร้าน"    ก็ถือว่าเป็น ไก้ทอดหาดใหญ่โดยสมบูรณ์    คำว่า  ไก้ทอดหาดใหญ่   เป็นอักระ รูปแบบพิเศษ สำหรับชาวต่าง ชาติ  เช่นเดียวกับกางเกง มวยไทย  แม้ชาวต่างชาติจะอาจไม่ออก  แต่ก็เข้าใจได้   ดังนั้น  การจะทำให้ไก่ทอดหาดใหญ่ มีชื่อเสียงในระดับโลก  ให้เท่าเทียมกับไก่ทอดเคฟซี  จะต้องอาศัยการส่งเสริมจากหน่วยงานรัฐและเอกชน ใน จังหวัดส่งขลา  และต้องทำงานร่วม กับกระทรวงการท่องเที่ยว  เพื่อสนับสนุน ให้คนต่างประเทศ หรือคนไทย ออกไปขาย ข้าวเหนี่ยวไก่ทอดหาดใหญ่  โดยใช้รูปแบบป้ายนี้  อาจจะให้เป็นเงินไปขาย  หรือช่วยลงทุน  หรือชี้ช่องทาง  หรืออะไรก็แล้วแต่  เพื่อให้คนทั่วโลก  มีเมนูอาหาร ข้าวเหนี่ยวไก่ทอดหาดใหญ่กินทุกประเทศ  เช่นเดียวกับ ต้มยำกุ้ง ที่ดังในระดับโลกไปแล้ว   และเมื่อไก่ทอกหาดใหญ่มีชื่อเสียงในระดับโลกแล้ว  เราก็สามารถสร้าง แคมแปน "กินไก่ทอดหาดใหญ่ของแท้  ต้องมากินที่หาดใหย่เท่านั้น"  นักท่องเที่ยวจากต่างประเทศจะมาหาดใหญ่  เพื่อมาลอง แคมเปนนี้

สรุป
หาดใหญ่นั้น สูญเสียความภาคภูมิในในการเป็นศูนย์กลางของภาคใต้  เนื่องจาก ความจริง และความเชื่อหลัก  เรื่องเมืองสินค้าถูกเพราะหนีภาษี   ถูกทำลายโดยการเปลี่ยนแปลงของกระแสโลก  ทำให้ตลาดกิมหยงเซาเซา  ส่งผลต่อรายได้ และความภูมิในของคนหาดใหญ่    พวกเราจึงต้องหาความจริงที่เรามี  เอามาทำให้คนทั่วไปรับรู้  เพื่อสร้างความเชื่อใหม่ เรื่อง "ของกิน 3 วัฒนธรรม"  และเพื่อสร้างมูลค่าใหม่  เพื่อให้พี้น้องชาวหาดใหญ่  ได้มีรายได้  และความภาคภูมิใจกลับมาดังเดิม


C  ปักหมุด จังหวัดสงขลา

บทความข้อนี้ จะเป็นบทความที่สำคัญที่สุดของบทความนี้   สิ่งที่เราจะสร้างคือ  หมุดระดับโลก ของจังหวัดสงขลา   เพื่อเอาไปสู้กับ หมุดระดับโลกอย่าง "ทะเลอันดามัน"  ที่ยิ่งใหญ่   

1.ด้วยความรู้สึก อัดอั้นของผู้เขียน  ที่เฝ้ามอง การเติมโตขึ้นของการท่องเที่ยวของ จังหวัดในทะเลอันดามัน  การเพิ่มขึ้นของเที่ยวบินตรงจากต่างประเทศ เข้าสู่สนามบินภูเก็ต  หรือแม้แต่ สนามบินกระบี่  ที่กำลังโตวันโตคืน  เรียกได้ว่า  ทะเลอันดามัน  กลายเป็นแหล่งการท่องเที่ยวระดับโลกไปแล้ว  จะเอาทะเลสบิหราไปสู้อันดามัน ก็น่าจะสู้ไม่ได้  มีแต่เกาะหนูเกาะแมว   อีกทั้ง จังหวัดสงขลา กลับไม่ใช่จุดมุ่งหมายของการท่องเที่ยวที่สำคัญ   ผมไม่รู้ว่า เราขาดอะไร   ผมเริ่มนั่งคิดวิเคราะห์ แต่ละจังหวัด  ว่ามีจุดเด่นอะไร   จนได้ข้อสรุปบางอย่างว่า   "เรายังไม่รู้จักตัวของเราดีพอ"

2.เริ่มจากการวิเคราะห์จังหวัดอื่น   ผมค้นพบว่า  จังหวัดในประเทศไทยจำนวนมากเรียกได้ว่า 90 เปอร์เซ็นส์ของจังหวัดทั้งหมด   ไม่มีแหล่งท่องเที่ยวที่ผมขอเรียกว่า  หมุดระดับโลก  กล่าวคือ  เมื่อเราไปจังหวัดนั้นๆ  เรากลับไม่รู้เลยว่า จังหวัดนี้ คืออะไร  มีที่เที่ยวที่ไหน  หลายๆจังหวัดถือเป็นเมืองทางผ่าน  หลายจังหวัดไม่มีสนามบิน   แต่กลับอีกหลายจังหวัด  "หมุดระดับโลก" เขาชัดเจนมาก    เช่น   จังหวัดอันดามันทั้งหมด จะมีจุดขายที่ ทะเลอันดามัน       จังหวัดกาญจนบุรี จะมีจุดขายที่ เรื่องราวประวัติศาสตร์สงครามโลก ทางรถไฟสายมรณะ ความลึกลับของป่า  การล่องแก่ง   จังหวัดเชียงใหม่ มีเรื่องของวัฒธรรมล้านนา  เทศกาลสงการณ  อาการหนาว  ดอยอินทนนท์   หรืออย่าง สุราด  ก็จะมีเกาะสมุย เกาะพงั้น เป็นหมุดหลัก   เรียกได้ว่า  ในประเทศไทย มีไม่เกิด 10 จังหวัดที่มี มุดระดับโลกแบบนี้

3.แล้วจังหวัดสงขลาละ จะเอาอะไรไปสู้  เริ่มมองตัวเองก่อน  มีทะเลแบบอันดามันหรือสมุยมัย  ไม่มี   เรื่องราวทางประวัติศาสตร์ขนาดใหญ่ระดับโลกแบบกาญจนบุรี ก็ไม่มี   หรือวัฒณธรรมที่เป็นเอกลักษณ์แบบเชียงใหม่ไหม  แม้หาดใหญ่จะมี อัตลักษณ์ 3  วัฒนธรรม แต่หากจะสร้างมุดระดับโลก ผมคิดว่ายังไม่พอ  อาจจะได้แค่เรื่องอาหารที่ ปักหมุดหาดใหญ่   ถ้าทำให้โดยส่วนตัวผมคิดว่ามุดระดับโลก มันต้องมีมากกว่านั้น  จากนั้น ผมก็เริ่ม เปิดแผนที่จังหวัดสงขลา  ดูในเชิงพื้นที่ก่อน  

4.โจทย์ใหญ่คือ เราจะสร้างหมุดระดับโลก  ให้เทียบเท่า ทะเลอันดามัน  หรือให้เหนือว่า   มีคนกระซิบข้างหูว่า  "ช่างกล้านะ  จะเอาอะไรไปสู้เขา"  ผมเริ่มเปิดแผนที่ของจังหวัดสงขลา  ผมต้องการสิ่งที่ใหญ่พอ เพื่อจะสร้างหมุดระดับโลก ของจังหวัดสงขลา   เริ่มจากทางใต้ติอกับมเลเซีย มีเทือกเขาสักาลาคีรี  มีเรื่องเราของคอมมิวนิส ที่เขาน้ำค้าง  ในความรู้สึกคือ เป็นประวิติศาสตร์ที่ ไม่ใหญ่พอ เทียบไม่ได้กับ ทางรถไฟสายมรณะ เรื่องสงครามโลกครั้งที่ 2    ด้านตะวันตก มีอุทยานแห่งชติ  มีน้ำตกโตนงานช้าง  โตนปลิว  แต่ก็คิดว่า  น้ำตกแบบนี้ มีทุกที่ในประเทศไทย  ไปทางตะวันออก เจอภูเขาคอหงส์  ที่นักการเมืองบ้านเราชอบไปพัฒนา  ข้อดีคือ  ใกล้เมือง พัฒนาง่าย  พัฒนาแล้วคนเห็น  แต่ไม่แรงพอที่จะเป็นหมุดระดับโลก  แล้วหาดกับทะเลละ ก็มีหาดสะบิหรา  หาดจะนะ สกอม ความสวยก็สู้อันดามันไม่ไหว ส่วนเกาะ ก็มี เกาะหนู เกาะแมว  แถมเกาะขามอีกเกาะ  มันเป็นแค่เกาะขนาดเล็ก  จะไปสู้ เขาตะปูของพังงาได้อย่างไร  ผมเริ่มหมดความหวังแล้วครับ  จนแล้วจนเล่า  เจอเข้าอย่างจัง  สิ่งที่แรงพอ  สิ่งที่จะสู้กับอันดามันได้  อาจจะเทียบเท่า หรือเหนือกว่าด้วยซ้ำ  สิ่งที่คนสงขลามองข้ามมมาตลอด  มัวแต่หลับหูหลับต่างพัฒนาแต่เขาคอหงส์อยู่นั่นแหละ    มัน  "ทะเลสาบสงขลา"  นั้นเอง

5.มาดู "ความจริง" ของทะเลสาปสงขลา ของทะเลสาปกันก่อน    เพื่อสร้างสิ่งที่เรียกว่า  "ความจริงสร้างความเชื่อ   ความเชื่อสร้างมูลค่า" 
5.1 ทะเลสาบสงขลามีพื้นที่ถึง 1,040 ตารางกิโลเมตร   เรียกได้ว่า มีขนาดใหญ่เท่ากับจังหวัดๆหนึ่งเลยที่เดียว   ดังนั้นมันจริงมีความสำคัญมาก  เทียบได้กับอินเลของพม่า  และโตนเลสาปของเขมร
5.2 ทะเลสาบสงขลาตามลักษณะทางภูมิศาสตร์ จัดได้ว่า เป็น ลากูน (Lagoon)  ซึ่งจุดเด่นก็คือ จะเป็นพื้นที่ที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเลอย่างมาก ด้วยข้อมูลความจริงทางวิทยาศาสตร์ ที่ม่มีใครโต้แย้งได้  กล่าวคือ เมื่อน้ำจืดจากแม่น้ำ ลงสู่ทะเล จะนำเอาสารอาหารมาด้วย  เมื่อมีการปะทะกับน้ำเค็มที่หนักกว่าน้ำจืด ก็จะเกิดการม้วนตัวของกระแสน้ำทั้ง 2  ทำให้เกิดแพลงค์ตอนพื้ชจำนวนมาก  ซึ่งเป็นอาหารของแพลงค์ตอนสัตว์   และแพลงค์ตอนสัตว์ก็จะเป็นอาหารของปลาเล็ก  และปลาเล็กก็จะเป็นอาหารของปลาใหญ่  สิ่งเหล่านี้มักจะเกิดขึ้นที่ปากแม่น้ำต่างๆ  แต่  ภูมิศาสตร์ที่เป็น ลากูน แบบทะเลสาบสงขลาจะหาได้อยาก  เพราะสารอาหารที่แม่น้ำพามาจะไม่ไหลลงสู่ทะเลใหญ่  แต่จะวนเวียนอยู่แต่ใน ลากูน อย่างทะเลสาปสงลา  ความจริงข้อนี้ เราสามารถสร้างสิ่งที่เรียกว่าความเชื่อได้  ซึ่งสร้างมูลค่าได้อย่างมหาศาล
5.3 มีพันธุ์สัตว์น้ำที่ไม่มีที่ไหนเหมือน  เช่นปลาท่องเที่ยว ปลาหัวอ่อน และปลาหาอยากหลายๆชนิด
5.4มีวิถีชีวิต และชุมชน  รวมถึงประวัติศาสตร์ ที่รอการสืบค้นเพื่อสร้างมูลค่าทางการท่องเที่ยวจำนวนมาก
5.5อีกทั้งยังอยู่ใกล้พื้นที่เศรษฐกิจหาดใหญ้เป็นอย่างมาก
5.6 เนื่องจากเป็นทะเลสาป  ทำให้กระแสลบไม่แรง เมื่อเทียบกับทะเลใหญ่  จึงเหมาะมากที่จะสร้างพวกที่พัก โรงแรม หรือรีสอร์
5.7มีวิธีชีวิตที่สามารถขึ้นเป็นมรดกโลกได้อย่าง ควายดำน้ำกินหญ้า  เที่ยบได้กับ การปลูกผักบนน้ำของอินเล พม่า
5.8 ทะเลสาปสงขลา   มีคำว่า "สงขลา"   ซึ่งมันสำคัญมากๆ  เหมือนคำว่า ไก่ทอดหาดใหญ่   ที่มีคำว่า "หาดใหญ่    หรือ  "มวยไทย  ที่มี คำว่า "ไทย"  เพราะคำเฉพาะพวกนี้ เป็นสิ่งที่มีมูลค่า บงบอกถึงตัวตนในสิ่งที่เราอ้างถึง

และยังมีความจริงอีกหลายอย่างที่รอการสืบค้น  เพื่อเอาไปสร้างมูลค่าได้  ซึ่งจากข้อมูลความจริงทั้งหมด ทะเลสาปสงขลาคือขุมทรัพย์ ของ จังหวัดสงขลาโดยแท้ และผมคิดว่า สามารถเอาไปสู้กับทะเลอันดามันได้    ผมขออนุญาติเอาทะเลอันดามันเป็นคู่แข่งนะครับ

6.เมื่อเรารู้ความจริงเกี่ยวกับทะเลสาปแล้ว  แต่ไปเราจะมาสร้างความเชื่อกัน  ซึ่งสามารถต่อยอดได้มากมายเช่น
6.1อาหารทะเล  สำคัญที่สุด



















 
 


Create Date : 28 มกราคม 2566
Last Update : 14 กุมภาพันธ์ 2566 9:35:08 น. 0 comments
Counter : 316 Pageviews.

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

chuk007
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 11 คน [?]




Friends' blogs
[Add chuk007's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.