จอประสาทตาเป็นรู...เรื่องง่ายๆที่ไม่ธรรมดา (T_T)

เมื่อประมาณสี่ปีที่แล้วอ่ะ แม่เราเริ่มไปหาหมอตา(ตามอายุอ่ะนะ)

แล้วแม่ก้อบอกหมอว่า...แม่เห็นเป็นเส้นด้ายเคลื่อนไหวไปมา ตาเป็นอะไรรึเปล่า?????

ด้วยความที่แม่(เริ่ม)แก่แล้ว หมอก้อเลยจับตรวจละเอียด และได้คำตอบว่าวุ้นในตาเสื่อม

...ทำให้เราตกใจอ่ะ เพราะเราก้อเห็นมันมานานมากกกกกกกกกกกกกกกกกแล้ว (เห็นจนนึกว่าทุกคนก้อคงเห็นเหมือนเรา...เจ๋งป่ะ)

เราก้อเลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลธนบุรี หมอก้อให้ขยายม่านตาแล้วก้อตรวจ...แน่นอนว่าเจอ...

...แต่เจอไรที่ไม่ธรรมดาเลย...

จอประสาทตาเป็นรู+วุ้นตาเสื่อม

หมอบอกว่าต้องยิงเลเซอร์ เพื่อปิดรูนั้น ไม่งั้นตามีโอกาสบอด!!!!!โคตรเครียดอ่ะ

แต่ว่า เพราะว่ายังไม่ได้เช็คอะไรเลย เลยบอกหมอว่าขอเวลาคิดแป๊ปนึงได้ป่ะ

หมอเลยนัดมาใหม่อาทิตย์ถัดไป...โดยที่ไม่ได้แนะนำอะไรเพิ่มเติม (จรรยาแพทย์นี่..ขึ้นอยู่กะแพทย์จิงๆ)

หลังจากพยายามเช็คข้อมูลอยู่อาทิตย์นึง...เราเจอแค่ว่า มันเป็นโรคที่ใครๆก้อเป็นได้ถ้าสายตาสั้นมากๆ

กับข้อมูลแค่นั้น + กัวตาบอด อาทิตย์ถัดไปก้อไปตามนัดเพื่อยิงเลเซอร์

...แต่ด้วยคววามที่หมอคนนั้นไม่อธิบายอะไรไดๆเลยทั้งสิ้น ไม่บอกว่าจะหายรึเปล่า ต้องดูแลยังไง จะยิงเลเซอร์อย่างเดียว (ใฃ้เวลาเล็กน้อยในการยิงเลเซอร์ก้อบอกว่าหายแล้ว แล้วไม่เช็คแผลไม่นัดอะไรเลย เราก้องงว่ารุนแรงขนาดตาอาจบอดได้ แต่ดูแค่เนี้ยอ่ะนะ (-.-)

เราก้อเลยตัดสินใจพยายามควานหาหมอคนต่อไป...และได้คำแนะนำให้ไปหาคุณหมอคนนึงที่บำรุงราษฏร์ (เครดิตเพื่อนอาร์นะจ๊ะ)

หมอคนนั้นตรวจอย่างละเอียด(มากๆๆๆๆ) แล้วก้อบอกเราว่าจอประสาทตาเป็นรูนะคะ หมอจะแนะนำหมออีกคนให้ เพราะหมอเชี่ยวชาญทางกระจกตา

ทำให้เราได้เจอหมออีกคนนึง...คุณหมอ รอย จำเดิมเผด็จศึก

เราหาชื่อหมอคนนี้มาได้ หลังจากาหมอคนแรกประมาณสองเดือน (ไม่สามารถบรรยายได้เลยว่าความเครียดในสองเดือนนั้นมากแค่ไหนอ่ะ)

หมอตรวจเราละเอียดมากๆๆๆๆอีกรอบ และสรุปว่า จอประสาทตาเรามี 3 รู (ทั้งซ้ายและขวา) มีรอบยิงปิดไปแล้วรูครึ่ง และแน่นอนตามประสาหมอเอาใจใส่คนไข้ หมอโกรธมากแล้วถามว่าหมอคนก่อนชื่ออะไร โรงพยาบาลไหน ทำไมทำงานชุ่ยแบบนี้??? (มี 3 รู ปิดไปแค่รูครึ่ง)

แต่ด้วยความไม่ประทับใจอย่างรุนแรง...เราจำชื่อหมอคนก่อนไม่ได้ (-.-)

คุณหมอรอยอธิบายให้เราฟังแบบนี้นะจ๊ะ (รู้ไว้เป็นความรู้เน้อ)

จอประสาทตาเป็นรู

1)สาเหตุ: เกิดได้ง่ายในคนที่สายตาสั้นมากๆ เนื่องจากจอประสาทตาจะบางมากกกกกกก และแน่นอน...ไม่สามารถป้องกันได้จ้า

2)ข้อควรระวังสำหรับคนที่เป็น: งดกีฬารุนแรง (กระโดดเชือก, ยูโด, เทควันโด etc)

3)การรักษา: ยิงเลเซอร์ปิดรู เพื่อไม่ให้วุ้นในตา ไหลออกออกไปตามรูที่เกิด ถ้าไม่ยิง รูอาจฉีกขาด...วุ้นตาไหลออกไปหมด ทำให้ตาบอดได้

4)อันนี้สำคัญสุด: หมอบอกว่ายังไงตาหนูก้อไม่บอดหรอก ต่อให้วุ้นตามันไหลออกไป หมอก้อยิง bubble ไปไล่มันกลับมาในลูกกะตาหนูได้...ไม่ต้องเครียดดดดดดดดดดดดดดดดดด

ดีใจมากอ่ะ!!!! หายเครียดไปเลยเพราะคำอธิบายข้อ 4)

หลังจากนั้น เรายังต้องไปหาหมออีกหลายหน เพราะหมอบอกว่า คนที่เป็นโรคนี้ จะมีช่วงนึงของชีวิตที่มันเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เราก้อปิดมันไปซะทุกรู สักวันมันก้อต้องหมด (-.-)...เอากะหมอสิ
แล้วก็เป็นเหมือนที่หมอพูดจริงๆ...รูมันเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ไปหา

สรุปเราไปหาหมอเพิ่อยิงเลเซอร์ประมาณ 3-4 หนเพราะรูมันเพิ่มขึ้นทุกครั้งที่ไปหา ในที่สุดตอนที่เราไปเช็คแล้วเจอว่าไม่มีแล้ว หมอทำหน้าภูมิใจสุดๆ (^w^)

แต่ที่ดีใจกว่าหมอ...คงจะเป็นเราอ่ะนะ(>o<)

หลังจากนั้น เราถูกนัดเช็คทุก 3 เดือน, 6 เดือน, ปีนึง และตอนนี้หมออยากนัดปีครึ่งจ้า แต่คนไข้หน้าด้าน ไปหาทุก 6 เดือน 555+

คุณหมอรอย ทำให้เราประทับใจมาก...ตอนที่เราย้ายไปเช็คกะหมอที่รัตนิน(เพราะหมองดบำรุงราษฏร์ปีนึง) หมอไม่คิดค่าหมอเราอ่ะ เพราะว่าไม่รู้ว่าประกันเราใช้ได้รึเปล่า (เสียค่าหยอดตาไป 80 บาท)

ปัจจุบัน...เราเจอคุณหมอทุกครึ่งปี ถึงหมอจะทำหน้ารำคาญเราว่ามาทำไมบ่อยๆก้อเหอะ 555+

(เช็คครั้งล่าสุด 27 ธ.ค.ค่า ครั้งหน้าก้อคงหน้าด้านไปหาประมาณ ก.ค.)

ปล.คุณหมอของเรา หล่อ แต่อ้วนกลมน่ารักมาก และชอบ Fortuner เป็นชีวิตจิตใจ 555+
(ใครจะว่าไงเราไม่สนใจ เราภูมิใจว่าหมอของเราหล่อและใจดี 555+)

.

Create Date : 30 ธันวาคม 2554 Last Update : 22 ตุลาคม 2558 20:48:38 น. Counter : 9355 Pageviews.		19 comments
Share Tweet