กรกฏาคม 2552

 
 
 
3
4
5
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
The Best & Brightest Project ทุนโครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษให้มีวิสัยทัศน์
โครงการส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษให้มีวิสัยทัศน์ ครั้งที่ 2 พ.ศ. 2547 หรือ The Best and The Brightest Project II 2004

เป็นทุนการศึกษาที่ทาง สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา (สกอ.) กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการคัดเลือกนักศึกษาทั้งระดับปริญญาตรี และปริญญาโท เพื่อเดินทางไปศึกษาดูงาน ณ มหาวิทยาลัย องค์กรของภาครัฐและเอกชน พิพิธพัณฑ์ และสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์ เป็นระยะเวลา 2 อาทิตย์ โดยในปีที่ผมได้ทุนการศึกษานี้ เป็นปีที่ 2 ที่ทาง สกอ. ได้มีการคัดเลือกมอบทุนการศึกษา โดยที่ปีแรกนั้น นักศึกษาได้เดินทางไปที่ประเทศสหรัฐอเมริกา


สำหรับครั้งที่ 2 หรือปีที่ 2 นี้ ทาง สกอ. ได้มีการจัดให้นักศึกษาได้มีโอกาสไปศึกษาดูงานในฝั่งยุโรปบ้าง โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มด้วยกัน คือ


1. กลุ่มที่ 1 : ประเทศอังกฤษ สก็อตแลนด์ และไอร์แลนด์
2. กลุ่มที่ 2 : ประเทศฝรั่งเศส และสวิตเซอร์แลนด์
3. กลุ่มที่ 3 : ประเทศฮังการี ออสเตรีย และเยอรมัน


สำหรับผม ได้รับการคัดเลือกให้อยู่กลุ่มที่ 3 ครับ (ไม่ได้เลือกเอง) ดีเหมือนกัน จะได้กลับไปเยอรมันอีกครั้ง หลังจากที่ไม่ได้กลับไปเกือบ 7 ปี หลังจากที่เคยเป็นนักเรียน AFS ที่นั่น และแต่ละกลุ่มประกอบด้วยนักศึกษาประมาณ 30 คน


จริงๆแล้ว การได้ทุนไปคราวนี้ ก็เหมือนไปเที่ยวเลยครับ แต่ก็ต้องทำรายงานสรุปถึงสถานที่ๆเราเข้าเยี่ยมชมทุกคืน เพื่อวิเคราะห์ถึงประโยชน์ที่ได้รับ แนวทางที่จะสามารถนำมาประยุกต์ใช้กับประเทศเราได้, การทำวิจัยต่อไป หรือบทบาทขององค์กรที่มีผลต่อท้องถิ่น นั่นก็คือ หลังจากไปดูงานแต่ละที่เสร็จ พอตกเย็นพักที่โรงแรม ทานข้าวเสร็จ ก็ต้องมานั่งล้อมวงประชุมกันหาข้อสรุปครับ บางทีก็หลับกันคาห้องประชุมครับ


ประเทศแรกที่เราไปก็คือ Hungary ครับ เป็นประเทศในยุโรปตะวันออกที่เพิ่งเปิดประเทศได้ไม่นาน ดังนั้นก็จะเก่าๆโทรมๆหน่อย เพราะเค้าเพิ่งเริ่มจะมี renovate สถานที่สำคัญต่างๆครับ ถ่ายรูปมาก็ติดเห็นหมดเลยว่ากำลัง renovate เราอยู่กันเฉพาะที่เมืองหลวง ซึ่งก็คือ Budapest ครับ เป็นการรวมสองเมืองเข้าด้วยกันซึ่งก็คือเมือง Buda กับเมือง Pest ครับ มีแม่น้ำกั้นอยู่ สำหรับ Hungary นี่ไม่ค่อยประทับใจผมสักเท่าไหร่ครับ รู้สึกเฉยๆ ผมว่าที่เมืองปรากของเช็คสวยกว่าเยอะครับ พวกเราอยู่ที่เมือง Budapest 2 วันครับ โดยได้มีโอกาสล่องเรือชมความงามของเมืองนี้ เข้าเยี่ยมชม Parliament มหาวิทยาลัย Budapest


จากนั้นก็ไปที่เวียนนาครับ ประเทศออสเตรีย ผมยังไม่เคยมาออสเตรียมาก่อนครับ ดังนั้นก็ตื่นเต้นเหมือนกัน เพราะเป็นประเทศที่อยากมาเยี่ยมชมประเทศหนึ่งครับ เวียนนาเป็นเมืองหลวงของออสเตรียครับ และก็สวย โรแมนติคสมคำร่ำลือครับ เห็นแล้วก็อยากมาอยู่ที่นี่จัง แต่ค่าครองชีพก็อย่างที่รู้ๆกันครับ ทางยุโรปแพงอยู่แล้ว พวกเราได้มีโอกาสเข้าพบเอกอัคราชฑูตประจำกรุงเวียนนาครับ ซึ่งท่านก็เป็นกันเองมาก นอกจากนั้นเราก็ไปยังมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีแห่งเวียนนา มหาวิทยาลัยเวียนนา เพื่อฟังบรรยายจากศาสตราจารย์ชื่อดัง ได้เข้าชมพิพิธพัณฑ์ (ซึ่งไม่ใช่ทางผมเลย ก็เลยดูไม่ค่อยรู้เรื่อง)


จากเวียนนา เราก็เดินทางต่อไปยังซาลส์เบิร์ก ซึ่งเป็นบ้านเกิดของนักดนตรีระดับโลกครับ นั่นก็คือ โวล์ฟกัง อมาเดออุส โมสาร์ท หรือที่เราเรียกท่านว่า โมสาร์ทครับ ดังนั้น พอเราเดินทางมาถึงเมืองนี้ เราก็ได้กลิ่นอายของเสียงดนตรีไวโอลินในทันทีเลยครับ


ซาลส์เบิร์กนี่ว่าไปก็สวยอีกแบบ คนละบรรยากาศกับเวียนนาครับ เพราะว่าที่นี่เป็นเพียงแค่เมืองเล็กๆที่มี background ของเทือกเขาแอล์ปด้วย ทำให้ดูสวยมีความโรแมนติค สำหรับคนที่ชอบธรรมชาติครับ



มุมหนึ่งในเมือง ซาลส์เบิร์ก




ย่านช๊อปปิ้ง ร้านค้าในซาลส์เบิร์ก




เราอยู่ที่ซาล์สเบิร์กเพียงแค่ 2 วันครับ แล้วก็เดินทางต่อไปยังเมือง Innsbruck เมือง Innsbruck เมื่อมาถึงแล้ว ผมถึงกับอ้าปากหวอ โอ้วววว แม่จ้าวววว เมืองอะไรเนี่ย ทำไมมันสวย โรแมนติคอย่างนี้ เพราะเมืองนี้ล้อมรอบไปด้วยอ้อมกอดของขุมเขา นั่นก็คือ เทือกเขาแอลป์ที่ปกคลุมไปด้วยหิมะสีขาวทั้งสี่ทิศเลยครับ โรแมนติคมากๆๆๆเลยสำหรับผม ที่สำคัญ ที่พักก็ถูกใจครับ เพราะเราพักกันที่ Hilton หลังจากที่มาถึงซึ่งก็เป็นตอนเย็นแล้ว พวกเราก็รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าจากชุดสูท ไปเป็นชุดลำลองเพื่อเดินเล่น ถ่ายรูป ชมความงามของเมืองนี้กันครับ

ภาพถ่ายจากห้องพักโรงแรม Hilton






อินส์บรูคเป็นหนึ่งในสามเมืองเอกด้านการท่องเที่ยวของประเทศออสเตรีย (อีกสองแห่งคือเวียนนา และซาลส์บวร์ก) ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำอิน อินส์บรูคแปลว่าสะพานแห่งแม่น้ำอิน มีลักษณะเป็นที่ราบแคบ ๆ ๆแทรกตัวอยู่ระหว่างเทือกเขาแอลป์ เดิมเป็นเมืองตากอากาศของจักรพรรดิแม็กซิมิเลียนแห่งราชวงศ์ฮอฟบวร์ก เพราะอากาศดีมากผู้ที่เข้ามาปกครองจักรวรรดิออสเตรียต่างก็ต้องติดใจมาพัก ผ่อนในเมืองแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น พระนางมาเรีย เทเรเซีย ผู้ยิ่งใหญ่ หรือแม้แต่นโปเลียน โบนาปาร์ต พระราชวังตากอากาศที่เมืองอินส์บรูคมีชื่อว่าชลอสอัมราส ได้รับการขนานนามว่าเชินบรุนน้อย เพราะเชินบรุนคือพระราชวังที่ใหญ่ที่สุดของจักรวรรดิออสเตรีย ตั้งอยู่ที่กรุงเวียนนาเป็นศูนย์กลางของการปกครองของจักรวรรดิ เมื่อจักรพรรดิและจักรพรรดินีต่างพากันมาตากอากาศที่อินส์บรูค ชลอสอัมราส และอินส์บรูคจึงเปรียบเสมือนศูนย์กลางการปกครองในช่วงเวลานั้นไปโดยปริยาย



โฉมหน้าเด็กทะโมน เอ๊ย เด็กทุนโครงการ Best & Brightest Project ครับ






เพ่ๆ มองหาอะไรคราฟฟฟ


สำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ เมืองนี้ไม่ผิดหวังเลยจริงๆครับ




หลังจากดูงานเสร็จ ก็แอบหนีมาเที่ยวเลยครับ แต่แบบว่า หนาวววว





ฉันจะบินนนนน...


บอกได้คำเดียวครับ ว่า (หนาววว)สุดยอดดดดด




2 คืนที่อยู่ที่ Innsbruck นี่ประทับใจสุดๆครับ เพราะว่าผมเป็นคนที่ชอบธรรมชาติอยู่แล้ว ชอบภูเขามากกกก ดังนั้น มองไปที่ไหนจากเืมืองนี้ ก็จะเห็นยอดเขาแอลป์ปกคลุมด้วยหิมะครับ นี่ ถ้ามากับแฟนนะ สงสัยได้ลูกกลับไปก็คราวนี้ล่ะ เป็นที่ๆเหมาะกับการมาฮันนีมูน หรือมาสวีท วี๊ดดวิ๊วว กันมากครับ


ระหว่างเดินทางออกจากเมือง Innsbruck ก็ยังสวย ภาพติดตรึงใจครับ ขอร้องเพลงนี้ได้ไหมครับ I Left My Heart in Innsbruck




จาก Innsbruck พวกเราเดินทางต่อไปยังประเทศเยอรมันครับ ซึ่งเป็นประเทศสุดท้ายของการดูงานของเรา ว่าไปแล้วก็แอบเศร้า การเดินทางของเราจะสิ้นสุดลงแล้วเหรอเนี่ย เราเดินทางเข้าสู่ประเทศเยอรมันโดยเรือเฟอร์รี่ครับ ดูหรูดีไหมครับ อิอิ โดยเราไปขึ้นท่าเรือที่เมือง Bregenz ฝั่งประเทศออสเตรีย ล่องเรือข้ามทะเลสาป Lake of Constance หรือภาษาเยอรมันเรียกว่า Bodensee ซึ่งเป็นทะเลสาปที่ใหญ่ที่สุดในยุโรปครับ และกินอาณาบริเวณและเป็นพรมแดนถึงสามประเทศด้วยกัน นั่นก็คือ ออสเตรีย เยอรมัน และสวิตเซอร์แลนด์  สำหรับผม การได้มาเยือน Bodensee อีกครั้ง เหมือนได้กลับมาบ้านเก่าครับ หลังจากที่เดินทางกลับประเทศไทยโดยโครงการ AFS ตั้งแต่ปี 1997 ผมก็ไม่เคยได้มีโอกาสได้กลับมาเยอรมันอีกเลย ปีนี้ปี 2004, 7 ปีผ่านไปแล้ว Bodensee ก็ยังมีความสวยงาม สะอาด และสามารถสะกดผู้ที่มาเยี่ยมเยียนด้วยทิวทรรศน์ที่สวยงาม และสีของน้ำที่เขียว สะอาดเป็นสีมรกต ได้อย่างไม่เคยเปลี่ยนแปลงครับ


ก่อนขึ้นเรือครับ




เมื่อข้ามเรือมาถึงฝั่งเยอรมันแล้วเราได้เดินทางต่อไปยัง Freiburg ครับ ซึ่งเป็นเมืองที่เก่าแก่อยู่ในป่าดำอันเลื่องชื่อของเยอรมัน ซึ่งก็อยู่ไม่ไกลจากเมืองที่ผมเคยอยู่มากครับ (เป็นคนป่านี่เองเมื่อก่อน) เดี๋ยวไว้จะลงรูปให้ชมกันทีหลังนะครับ


จาก Freiburg เราไปที่ Karlsruhe และ Stuttgart ครับ ซึ่งเป็นเมืองอุตสาหกรรมครับ พอบอกว่าเป็นเมืองอุตสาหกรรมนี้ อย่าไปคิดว่าจะต้องสกปรก มีตึกรา โรงงานอยู่สาระพัดนะครับ Stuttgart ไม่ใช่แบบนั้นเลยครับ เป็นเมืองที่สวย สงบ และส่วนหนึ่งอยู่บนภูเขาครับ สำหรับผมซึ่งเมืองที่ผมเคยอยู่มา ก็ไม่ไกลจาก Stuttgart มากนัก การได้กลับมาเยือน Stuttgart อีกครั้ง ก็รู้สึกตื่นเต้นครับ ความทรงจำเมื่อสมัยตอนเด็กๆกลับมา ว่าเราเคยเดินเที่ยวแถวนี้ เดินดูของร้านนี้ กินข้าวร้านนี้ บรรยายความรู้สึกตัวเองไม่ถูกจริงๆครับ เสียดายอยู่อย่างเดียว ที่ตอนนั้นผมไม่ได้มีโอกาสไปเยี่ยมครอบครัวอุปถัมภ์ของผม เพราะเค้าย้ายไปอยู่ที่อเมริกาหมดครับ ก็เหลือแต่ความทรงจำที่ดีที่ทำให้ผมได้ระลึกถึง


จาก Stuttgart เราเดินทางต่อไปเมือง Heidelberg ครับ เมือง Heidelberg เป็นเมืองเก่าของเยอรมันที่มีความโรแมนติคมากๆๆๆถึงมากที่สุด โดยเฉพาะถ้ามาเมืองนี้ในฤดูใบไม้ร่วงครับ ที่ต้นไม้ตามภูเขาจะเปลี่ยนสีเป็นสีส้ม สวย โรแมนติคเกินคำบรรยายเลยครับ เป็นอีกเมืองนึงที่เหมาะสำหรับการมาฮันนีมูนมากๆครับ



วิวเมือง Heidelberg


เมืองไฮเดลเบิร์ก นอกจากจะเป็นเมืองที่โรแมนติกมากที่สุดเมืองหนึ่งในประเทศเยอรมันแล้ว ยังเป็นเมืองแห่งการศึกษา และได้ชื่อว่าเป็นเส้นทางสายนักปราชญ์ ของคนหนุ่มสาวในเยอรมันอีกด้วยครับ และเป็นที่ตั้งของ มหาวิทยาลัยไฮเดลเบิร์ก ซึ่งเป็นมหาวิทยาลัยแห่งแรกของประเทศเยอรมัน และเป็นมหาวิทยาที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของเยอรมันและในยุโรปครับ มีชื่อเสียงทางด้านการแพทย์ และกฎหมายมากๆ (คุณพ่อที่ครอบครัวอุปถัมภ์ของผมเค้าจบแพทย์จากที่นี่ครับ ดังนั้น ผมก็เลยได้มีโอกาสมาเยี่ยมเยียนเมืองนี้บ่อยๆ)


รัชกาลที่ 8 ของไทยเราก็ทรงประราชสมภพที่เมืองนี้ด้วยครับ







บนสะพากเก่าที่เชื่อมเมืองสองฝั่งเข้าด้วยกัน


ปราสาทไฮเดลเบิร์ก




ร้านค้าในตัวเมือง




กะเหรี่ยงพวกนี้ ทำอะไรกันเนี่ย


เมืองไฮเดลเบิร์ก มีแม่น้ำเนคการ์ไหลผ่าน




ออกจากเมืองไฮเดลเบิร์ก เราก็เดินทางต่อไปยังเมือง Erlangen-Nuremburg ก่อนที่จะเดินทางไปเมืองมิวนิค และเดินทางกลับไปประเทศไทยครับ


แม้การเดินทางสองอาทิตย์กว่าๆของเราจะสิ้นสุดลง แต่ความรู้ ประสปการณ์ มิตรภาพที่เราได้รับระหว่างการเดินทางนั้น จะอยู่กับเราพี่น้อง B&B ไปตราบนานเท่านานครับ


ขอบคุณ สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ ที่ได้จัดโครงการดีๆอย่างนี้ขึ้นมา ทำให้เยาวชนกะเหรี่ยงอย่างพวกเรา ได้ไปเปิดหู เปิดตา และเสริมสร้างวิสัยทัศน์ กลับมาพัฒนาชุมชนและประเทศชาติต่อไป (หรือเปล่าหว่า)


ขอบคุณ มาม่า ที่ช่วยประทังชีวิตพวกเราในเวลาค่ำคืนดึกดื่น ตอนประชุม (ยังจำกันได้ดีที่ต้องเปิดเอาน้ำร้อนจากฝักบัวอาบน้ำเพื่อต้มมาม่า ) โดยมาม่า สปอนเซอร์จากน้องมิ้นท์ ผู้สนับสนุนรายใหญ่ของเรา


ขอบคุณบรรดาน้องผู้หญิง น้องมิ้นท์ น้องผึ้ง ที่คอยช่วยจิ๊กขนมปัง ผลไม้ โยเกิร์ต หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะสามารถหยิบฉวยได้จากอาหารเช้า มาให้พวกพี่ๆได้ทานระหว่างเดินทาง (เนื่องจากตื่นไม่ทัน )


ขอบคุณบริษัททัวร์บลูฟลาย ที่ช่วยดูแล อำนวยความสะดวกกับเรา ตลอดระยะเวลาการเดินทาง โดยเฉพาะมาม่า และน้ำพริกที่ช่วยให้พวกเราแก้เลี่ยนกับอาหารฝรั่งได้เป็นอย่างดี



สหายรักระหว่างร่วมเดินทาง เฮียป๊อป น้ิองมิ้นท์สุดเลิฟ และน้องผึ้ง ที่เมือง Rothenburg เมืองนี้แหละที่พวกเราโดนหลอกให้ออกไปดูนาฬิกาที่ Market Place ว่าจะมีตุ๊กตาตัวยักษ์ออกมาเต้นระบำ แถมยังหิวโซกันมากตอนดึก น้ำร้อนก็ไม่มี ต้องเปิดน้ำร้อนจากฝักบัวต้มมาม่ากิน อนาถาดีแท้ๆ



ไม่เห็นมีอะไรออกมาจากนาฬิกาเลย โดนหลอกแล้ว เลยนอนถ่ายรูปกันเลย









Create Date : 02 กรกฎาคม 2552
Last Update : 9 กุมภาพันธ์ 2556 18:18:25 น.
Counter : 1401 Pageviews.

3 comments
  
Gruess Mich!
ยินดีด้วยค่ะsrc='//i484.photobucket.com/albums/rr210/luckyAoi/doll/ddbr/c24bf6fa.gif'>
ไฮเดลเบิร์ก สวยจัง
โดย: Elbereth วันที่: 2 กรกฎาคม 2552 เวลา:15:29:58 น.
  
สวัสดีคะ ออยเคยไปทุนนี้เช่นกันคะ เป็นป.อเมริกาคะ ยินดีที่ได้รู้จักคะ ตอนนี้ทำไรอยู่คะ?
โดย: ออย IP: 206.53.148.48 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:16:21 น.
  
ได้เจอเพื่อนๆบ้างไหมคะ? Email มาคุยกันได้คะ melissa_aoy@hotmail.com
โดย: ออย IP: 206.53.148.48 วันที่: 13 พฤศจิกายน 2554 เวลา:5:18:36 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

CHaRLiE San
Location :
Tokyo  Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 31 คน [?]



  •  Bloggang.com