|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
นกจาบคาเคราน้ำเงิน
นกจาบคาเคราน้ำเงิน Nyctyornis athertoni (Blue-bearded Bee-eater) เป็นนกจาบคาที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางประมาณ 33-37 เซ็นติเมตร มีลำตัวเพรียว คอสั้น หัวโต ปากยาวโค้งงอ ขาและนิ้วเท้าเล็กไม่เหมาะสำหรับเดินหรือกระโดด สีสันโดยรวมเป็นสีเขียว ขนบริเวณอก คอ คาง สีฟ้าค่อนข้างยาวเป็นพิเศษจึงดูคล้ายมีเคราสีฟ้าเป็นที่มาของชื่อ บริเวณท้องมีลายขีดสีเขียวจางๆขนคลุมลำตัวด้านล่างส่วนใหญ่เป็นสีเหลือง นกตัวผู้และตัวเมียคล้ายคลึงกัน
นกจาบคาเคราน้ำเงินชอบเกาะกิ่งนิ่งๆนานๆหลายๆชั่วโมง ไม่ค่อยเกาะตามยอดไม้แบบนกจาบคาอื่นๆแต่จะเกาะที่ระดับกลางของต้นไม้ อาหารของนกจาบคาเคราน้ำเงินได้แก่ ผึ้ง แมลงปอ ด้วง เป็นต้น ในการกินอาหารนกจะบินออกไปโฉบอาหารกลับมากินที่กิ่งโดยขยับแมลงให้หันหัวเข้าก่อนเช่นเดียวกับนกจาบคาอื่นๆ แต่นกชนิดนี้มีวิธีการกินอาหารแบบอื่นๆด้วย เช่นบินเข้าไปในโพรงไม้ผุๆเพื่อจิกกินไรไม้และด้วงที่ขุดเจาะเนื้อไม้ เป็นต้น
ในฤดูร้อน นกจาบคาเคราน้ำเงินจะเกี้ยวพาราสีโดยเกาะชิดๆกัน แผ่ขนหางเป็นรูปพัดแล้วก้มหัวลงติดๆกันเป็นเวลา 1 นาที พร้อมทั้งส่งเสียงร้อง ในบางโอกาสก็คาบเหยื่อไว้ในปากด้วย นกชนิดนี้ทำรังโดยการเจาะโพรงดินเช่นเดียวกับนกจาบคาอื่นๆ โดยเริ่มขุดโพรงก่อนวางไข่ประมาณ 1 เดือนหรือมากกว่า ในการเจาะโพรงบางครั้งนกอาจเปลี่ยนใจย้ายที่ขุดได้ บางโพรงก็ขุดสูงถึง 6-8 เมตรจากระดับพื้น บางโพรงก็เกือบจะติดดิน นกทั้งสองตัวจะสลับกันขุดโพรงรัง ในการขุดนกจะใช้ปากขุดและใช้เท้าเขี่ยดินออกมาทางด้านหลัง โพรงรังอาจมีปากโพรงกว้าง 7.5-9.5 เซ็นติเมตร และลึกได้ถึง 1.3-3 เมตร ขนานกับพื้นด้านล่าง หรือเอียงลง ปลายโพรงเป็นห้องกว้างราว 20*13เซ็นติเมตรสำหรับวางไข่และเลี้ยงลูก นกจะไม่หาวัสดุมารองรังแต่ในโพรงรังจะมีชิ้นส่วนของแมลงที่ย่อยไม่ได้ที่นกสำรอกออกมาเต็มไปหมด เพราะในระหว่างที่ยังไม่ได้วางไข่ นกจะอาศัยนอนในโพรงรังนี้ด้วย
นกจะวางไข่ครั้งละประมาณ 6 ฟองหรือน้อยกว่า เมื่อวางไข่ใหม่ๆไข่จะขาวสะอาดเป็นมัน แต่นานๆไปก็จะเลอะเทอะขึ้นและด้าน ไข่ค่อนข้างกลมมีขนาด 28.2*25.4มม. พ่อแม่นกช่วยกันกกไข่จนฟักเป็นตัว ลูกนกที่ยังไม่เต็มวัยรูปร่างหน้าตาคล้ายตัวเต็มวัย
นกจาบคาเคราน้ำเงินถูกพบครั้งแรกในอินเดีย และพบที่เชิงเขาหิมาลัย เนปาล สิกขิม ภูฐาน บังคลาเทศ พม่า จีน ไทย ลาว เขมร เวียตนาม สำหรับประเทศไทย นกชนิดนี้อาศัยในป่าผสมผลัดใบและป่าดิบแล้งบนที่ราบต่ำจนถึงป่าดิบเขาที่ความสูง 2200 เมตรจากระดับน้ำทะเล รวมทั้งป่าเต็งรัง ตั้งแต่ภาคเหนือ ภาคตะวันตก ตะวันตกเฉียงเหนือของภาคอีสาน และภาคตะวันออก
ภาพนกในบล็อกถ่ายจากอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมาช่วงกลางเดือนเมษายน นกกำลังป้อนอาหารลูกที่คลานออกมากินอาหารจากปากพ่อแม่นกที่ปากโพรงรัง
ข้อมูลจาก :
//www.bird-home.com
Create Date : 22 มิถุนายน 2548 |
|
3 comments |
Last Update : 30 สิงหาคม 2551 12:05:55 น. |
Counter : 5046 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: แพนด้า (ซุ้มลำโพง ) 1 กันยายน 2548 15:53:51 น. |
|
|
|
| |
โดย: baracuda1961 IP: 125.26.234.117 9 กรกฎาคม 2550 11:55:12 น. |
|
|
|
| |
โดย: โรนิน IP: 118.173.127.165 13 ธันวาคม 2552 18:53:57 น. |
|
|
|
|
|
|
|