|
| 1 |
2 | 3 | 4 | 5 | 6 | 7 | 8 |
9 | 10 | 11 | 12 | 13 | 14 | 15 |
16 | 17 | 18 | 19 | 20 | 21 | 22 |
23 | 24 | 25 | 26 | 27 | 28 | 29 |
30 | 31 | |
|
|
|
|
|
|
|
เหยี่ยวรุ้ง
เหยี่ยวรุ้ง Spilornis cheela (Crested Serpent-Eagle) เป็นนกที่เป็นสีน้ำตาลทั้งตัว มีแผ่นหนังสีเหลืองสดใสบริเวณโคนปากไปจนถึงดวงตาซึ่งเป็นสีเหลืองเช่นกัน ขนบริเวณท้ายทอยค่อนข้างยาว เวลาที่ตั้งขึ้นจึงดูคล้ายเป็นหงอน บริเวณหัว ปีก และท้องมีจุดสีขาวกระจายไปทั่ว ที่หางมีแถบกว้างสีขาวพาดเป็นแนวขวาง เห็นได้ชัดเจน นกตัวผู้และตัวเมียคล้ายคลึงกัน แต่นกตัวเมียจะตัวโตกว่าค่อนข้างมากคือมีความยาวจากปลายปากจรดปลายหางราว 71 เซ็นติเมตร ขณะที่ตัวผู้มีขนาดเพียง 51 เซ็นติเมตรเท่านั้น
อาหารหลักของเหยี่ยวรุ้งได้แก่ งู ทั้งที่มีพิษและไม่มีพิษ ตามชื่อสามัญภาษาอังกฤษคือ Serpent-Eagle เกล็ดหนาๆที่ขาของนกชนิดนี้ช่วยกันอันตรายจากพิษงูที่อาจแว้งฉกกัดได้เป็นอย่างดี อย่างไรก็ตาม บรรดาสัตว์เลื้อยคลาน หรือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมเล็กๆบนพื้นดินก็มีโอกาสเป็นอาหารของเยี่ยวชนิดนี้เช่นกัน ในการล่าเหยื่อ เหยี่ยวรุ้งจะเกาะบนกิ่งไม้ใหญ่ ค่อนข้างโล่ง ไม่สูงจากพื้นดินมาก เพื่อจะได้เห็นเหยื่อง่ายๆ เมื่อเห็นก็จะโฉบลงมาจับขึ้นไปกินบนต้นไม้
เหยี่ยวรุ้งที่จับคู่แล้วจะอยู่ด้วยกันตลอดปี โดยเราอาจพบนกออกล่าเหยื่อ หรือบินร่อนในอากาศพร้อมกัน ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนพฤษภาคม นกจะบินร่อนและส่งเสียงดังๆเพื่อเกี้ยวพาราสีกัน เมื่อจับคู่แล้วก็จะทำรัง นกอาจทำรังใหม่หรือมใช้รังเดิมที่เคยใช้มาแล้ว โดยมักเลือกทำบนต้นไม้สูงริมลำธารหรือแม่น้ำ และอยู่ค่อนข้างสูงคือตั้งแต่ 6-21 เมตร รังของเหยี่ยวชนิดนี้ทำจากกิ่งไม้เล็กๆนำมาขัดสานกันหยาบๆพอมีแอ่งเป็นที่วางไข่ได้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางราว 61 เซ็นติเมตร แล้วก็รองรังด้วยใบไม้สด เหยี่ยวรุ้งวางไข่เพียงครั้งละ 1 ฟอง ขนาด 66*54 มม. เหยี่ยวตัวเมียกกไข่ เหยี่ยวตัวผู้นำอาหารมาป้อน เวลาผ่านไปราว 35-37 วันลูกนกก็จะออกมาดูโลก
เมื่อลูกนกออกจากไข่ใหม่ๆ แม่นกจะอยู่เฝ้าลูกและพ่อนกไปหาอาหารมาป้อน เมื่อลูกโตขึ้นแม่นกก็จะออกไปช่วยหาอาหาร โดยเมื่อยังเล็กพ่อแม่นกจะฉีกอาหารเป็นชิ้นเล็กๆให้ เมื่อโตขึ้นมาอีกหน่อยพ่อแม่ก็จะกินหัวและเท้า เหลือลำตัวให้ลูกหัดกินเอง ลูกนกอายุ 10 วันจะมีขนปกคลุมทั่วตัวและยืนได้ อายุ 30 วันก็จะเดินไปมาในรังได้และเมื่ออายุ 60 วันก็จะโตพอที่จะเริ่มหัดบิน ลูกนกวัยนี้จะมีสีขนที่แตกต่างจากนกตัวเต็มวัยอย่างชัดเจน คือมีลำตัวตอนบนสีน้ำตาลเข้ม ลำตัวด้านล่างสีน้ำตาลอ่อน มีลายสีขาวและสีดำไปทั้งตัว
เหยี่ยวรุ้งมีการกระจายพันธุ์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ตั้งแต่อินเดียมาจนถึงบอร์เนียว ฟิลิปปินส์ เนื่องจากพื้นที่ที่อาศัยกว้างขวางมาก จึงมีสีสันต่างกันมากจนถูกจำแนกออกเป็น 21 ชนิดย่อย สำหรับประเทศไทยมี 2 ชนิดย่อยจำแนกตามถิ่นที่อยู่อาศัยคือ เหยี่ยวรุ้งพันธุ์พม่าพบทุกภาคตั้งแต่บริเวณเหนือคอคอดกระขึ้นมา อาศัยตามป่าผสมผลัดใบ ป่าดิบแล้ง ป่าเต็งรัง ป่าดิบเขา และป่าชั้นรอง จากที่ราบถึงความสูง 1500 เมตรจากระดับน้ำทะเล ส่วนเหยี่ยวรุ้งพันธุ์มลายู พบในภาคใต้ ต่ำกว่าคอคอดกระลงไปจนถึงมลายู ชนิดย่อยนี้อาศัยในป่าดิบชื้น มีตัวเล็กกว่าและสีคล้ำกว่า
เหยี่ยวรุ้งตัวนี้พบที่พุทธมณฑล จังหวัดนครปฐม นกเกาะกิ่งไม้นิ่งๆอยู่เป็นเวลานานพอสมควร น่าจะกำลังเล็งหาอาหาร เพราะที่นี่มีงูตัวเล็ก ไม่ก็กิ้งก่าอยู่ไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้เห็นนกจับเหยื่อ เพราะรถมอเตอร์ไซค์ที่วิ่งผ่านมาอย่างแรง ทำให้นกหันหลังและบินหายไปเลย
ข้อมูลจาก:
//www.bird-home.com
Create Date : 25 ธันวาคม 2550 |
|
7 comments |
Last Update : 26 ธันวาคม 2550 9:35:56 น. |
Counter : 11454 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: เขาพนม 27 ธันวาคม 2550 20:38:29 น. |
|
|
|
| |
โดย: เนตรนภัส 31 ธันวาคม 2550 18:33:08 น. |
|
|
|
| |
โดย: นกแห้ว 3 มกราคม 2551 16:24:22 น. |
|
|
|
|
|
|
|