จะ สุข หรือ ทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ คนอื่น ทำ แต่อยู่ที่ เรา เลือก ^ 0 ^

<<
ธันวาคม 2554
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
12 ธันวาคม 2554
 

► ►►. . .สุมหัวคุยกัล ก๊ะ อิเจ้นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 ( โครงการ 4). . .◄ ◄◄




หวัดดีเจ้าค่ะ ทั่นผู้มีเกือกทุกทั่น
ที่หลวมตัวแวะเข้ามาในบล็อค ของอิฉัน หุหุ

( อ้อ..ไหน ๆ ก็เผลอแวะมาแล้ว นิ )
ไงก็อย่าลืมโพสทักทายกันมั่งนะเจ้าคะ
จะได้ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับ บล็อคของอิฉัน
ที่สำคัญ เรทติ้งจะได้ วิ่ง ๆ อิอิ

( เราเน้น ปริมาณ ไม่เน้น คุณภาพ แหะ ๆ )

มิตรภาพ เกิดขึ้น ที่ตรงไหน
ไม่สำคัญ เท่าไร อย่าไปสน
สิ่งสำคัญ อยู่ที่ใจ ในตัวตน
จะรับรู้ ค่าแห่งคน ค่าแห่งคำ


ด้วยจิตคาราวะ และ มิตรภาพ จริ๊ง....จริง เหอ ....เหอ....



ปอลิง 1

หน้านี้เอาไว้ พูดคุยทักทาย กันจ้า
มีไร เม้าส์ได้ตามสะดวกปาก นะเจ้าคะ
อิฉันชอบฟังเสียงชาวบ้านเข้ามาคุยให้ฟัง แหะ ๆ ^ - ^

อ้อ ขออนุญาตแนะนำ

สมาคม สูงกินลม ไว้ไม่มีหงอย ... แห่งประเทศไทย
ไว้ในอ้อมใจของทุก ๆ ท่านด้วยเจ้าคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=itoursab&group=6


ครายว่าง ๆ ก็แวะไปกรอกใบสมัคร เข้าสมาคม ได้นะเจ้าคะ
ช่วงนี้ สมาคม ของเราเรามี โปรโมชั่น พิเศษ
แพคเกจกินลมชมวิวบนคาน พร้อม น้ำเต้าหู้กะไข่ลวก

เสิร์ฟโดยทั่นประธานชมรม คนล่าสุด ไอ้แสบ หลานอิฉันเอ๊ง อิอิ



ปอลิง 2

ส่วนลิงค์นี้ เป็นความเดิมจากตอนที่แล้ว จร้า

สุมหัวคุยกัล ก๊ะ อิเจ้นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 ( โครงการ 3 )

//www.bloggang.com/mainblog.php?id=bsonjb&month=28-08-2011&group=1&gblog=4



หมายเหตุ

บล็อกนี้ แบ่งเป็น 3 โซน นะเจ้าคะ คือ

1. สุมหัวคุยกัน
ส่วนนี้เอาไว้เม้าส์เรื่อยเปื่อย ก๊ะ ชาวบ้านฮ่ะ
( เขตนี้เป็นเขตกรีน โซน )
แพล่มได้โดยไม่ต้องกัว จขกท. กัด เหอๆ




2 ตัวหนังสือธรรมโม๊ะ เอ๊ย ทำมะทำโม ของอิน้องบัวผ่อง
ส่วนนี้เอาไว้โชว์ รัศมี ธรรมโม๊ะ ของ อิน้องบัวผ่อง เค้าง่ะ
จัดเป็น พิ้งค์ โซน ที่ หวานแหวว สะแด่วแห้ว
เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยากบริโภคธรรมะแนวน้ำแข็งใส
ย่อยง่าย ๆ โดยไม่ เสาะท้องเพราะ อาหารเป็นพิษ งิงิ





3.ตัวหนังสืออื้อฉาวววว ของ เจ้าป้าบัวเกรียน !
อืม...อันนี้ เรด โซน ง่ะ เขตมหันตภัย น้อง ๆ ซึนามิ
ถ้าเป็น ไออ่อน อิอ่อน มิสมควร เข้าไปเพ่นพ่านเด็ดขาดดด
เพราะอาจ หงายเงิบ สำลักน้ำลายอิฉันตายได้โดยมิลู้ตัว
โซนนี้เหมาะสำหรับ ตัวพ่อ แอนด์ ตัวแม่
ผู้ พิสมัย ธรรมะแนว อินดี้ + ฮาร์ดคอร์








.


Create Date : 12 ธันวาคม 2554
Last Update : 12 ธันวาคม 2554 19:35:46 น. 117 comments
Counter : 7641 Pageviews.  
 
 
 
 


ถึง ทั่นผู้อ่าน ทู๊กกกกทั่น

แหะ ๆ ขึ้นหน้าใหม่จนได้วุ้ย
แบ่บว่า หน้า เดิมมัน ย๊าว ยาวววว ง่ะ
โหลดก็ช้าต้วมเตี้ยม มากมาย
เรย ถอย กาทู้ป้ายแดง มาเพิ่มดีกรีฟามร้อนแรง
ของ สาว So Hot อีกอันคร้าาา


แต่ว่า ขึ้นกาทู้ใหม่หนนี้ แล้ว
คงจะต้อง ...ขอ นุยาด
งดตอบกาทู้ แควน ๆ ชั่วคราว(อีกแล้ว)นะเจ้าคะ แหะๆ
เพราะหลังคืนนี้ อิฉัน ตั้งใจว่า
จะหายหัวเข้ากะลา จิง ๆ ซะที อ่ะ เงื้อง้ามานานเรย
กะจะไป ซุ่มรจนา มหากาพย์ ธรรมโม๊ะ หั้ยมันเสร็จ ๆ อ่า
เอ้อ ระเหยลอยชาย อยู่ในโลกไซเบอร์มานานแระ



อืม...ก้อมะลู้ว่าจาใช้เวลานานแค่ไหนเหมียนกัน
คาดว่าอาจจะ สัก 3-6 เดือน
หรือ ประมาณช่วง สงกรานต์ปีหน้าโน้น มั้ง
ไว้เสร็จกิจเมื่อไร ค่อยโผล่หัวออกจากกะลา
มาอิแร่ดแต๊ดแต๋ ในเนต ต่อ ก็แร้วกันเน๊อะ


ปล.
แควนขับ ทั่นใดพลัดหลงผ่านเข้ามาอ่าน กาทู้นี้
หากมีเวลา ก้อแวะมา โพส แปะโป้ง
ซาแดงตัวในบล็อกนี้กัน มั่ง นะเธอว์
อิเจ้นู๋บี จะได้รวบรวมลายชื่อของทุกทั่น
สะสมไว้เป็นคอลเลคชั่นเพื่อคำนวณหา เปอร์เซนต์เรทติ้ง
และ ดัชนีมวลรวมของค่าเฉลี่ย แควนขับมูลฐาน อ่ะ
จะได้ลู้ว่า ตัวเอง ยัง So Hot อยู่ไหม ?
( เนี่ย วิตกจริต จนกินไม่ได้ นอนไม่หลับ เรยนะนั่น อิอิ)


อันนี้เอามาฝากคร้าาาาาาาาา

//www.tairomdham.net/index.php/topic,68.msg27487/topicseen.html#msg27487


อ่ะ แล้วก็ ฝากรอยจูบนี้ ไว้หั้ย สำหรับ แควนขับของนู๋บี
ที่ใจดี มา โพสแปะโป้ง เพิ่มเรทติ้งหั้ยกาทู้ใหม่ จร้าาาาาา
จ๊วบส์ ...จ๊วบส์.....






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:4:54:30 น.  

 
 
 
เอาล่ะ ต่อจากนี้ไป คือการ ตอบ จ.ม. แควนขับ
เพื่อเป็น การ สั่งนาง ก่อนลา อิอิ
ขออภัยนะจ๊ะ ที่ มาโพสทิ้งทวน ช้าเป็นชาติ ตามเคย
ก็อีปัญหาเดิม ๆ นั่นแหล่ะ ยิ่งเขียนยิ่งบาน ปิดงบประมาณมิได้
แถม ช่วงนี้ สายตามันล้า ๆ เวลาจ้องจอคอมนาน ๆ ด้วยว่ะ
จะจิ้มดีด อะไรต่อมิอะไร ก็เรยต้องบันยะบันยังไว้
(เรยจิ้มดีดได้ไม่ค่อยเต็มหน่วยเท่าไร แหะ ๆ)





---------------------------------
อิหม่ามี๊ ว่า

อะ อะ อ่าาาาาาาา
นกเขาจะขันจุ๊กกรู จุ๊กกู่ๆๆๆ กัน ละเว้ยเฮ้ยยยย
นู๋บี ขรา อิหม่ามื๊ ขอไสหัวตัวเอง
ไปอยู่บนภูของสุสานโบราณก่องละกัล นะเธอว์
เพื่อฟามปอดภัยของอิหม่ามิ๊เอง 555
มะอยากอยู่เป็น กขคงจฉ แอนด์ มคปด
ผีเน่ากะโลงผุ อิเข้ล่องหน กะโคตรไอ่เคี่ยม(น้ำเค๊มเค็ม) หุหุ

เขาหาว่านู๋ เศือก ว่ะค่ะ นู๋บี กร๊ากกกกกกกกกก
++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อ้าวววววว ทิ้งกันเฉยเรย เว้ยเฮ้ยยยยยยยย
อ่ะซิก ๆ อิหม่ามี๊ เจ้าขราาาาาา
จาไปเชื่อน้ำอิ๊ว อาราย ก๊ะ คำขู่ของไอ้ตี๋ขี้ตื่น มันอ่ะคร้าาา
โถ ๆๆๆๆๆ โคตรไอ่ค่ง ไอ่เคี่ยม ที่ไหนกันง่ะ
เฮ้อออ ฉงฉัย อิหม่ามี้ จะติดโรคตาฝ้าตาฟาง
มาจากคนแถวนี้ล่ะมั้ง เรยมักจะวิตกจริต
เห็นอะไร ก็คิดหวาดกลัว เกินจริง ไปซะหมด




เฮ้อออ อันผู้ชายที่มีชื่อเล่นขึ้นต้นด้วยสระโอ
มัน ม่ะช่ายว่าจะต้อง เป็น โคตรไอ้เข้
เหมียนป๊ะป๋าโจ ไปซะหมดนะเจ้าคะ
อิหม่ามี๊เจ้าขราาาา แม้ว่า หมามี๊จะไปมุดรูดูกล่อง
มองผ่านการปรุงแต่ง แร้วอาจเห็น ไอ้ตี๋บุญพิลึก
กลายเป็นภาพของไอ้ตูบตัวนี้




แต่แท้จิงแร้ว ตัวตนของ ไอ้โตแมวตื่นน่ะ
มันก็แค่ลูกหมาพิทบูลตัวกระเปี๊ยก
ที่อายุเค่เดือนกว่า ๆ เท่านั้นเองจร้าาา


สุนัข อเมริกัน พิทบูล เทอร์เรีย เจ้าตูบพันธุ์ดุ

//pet.kapook.com/view159.html













เพราะงี้ไง นู๋บีถึงได้ชอบมาเทียวไล้เทียวขื่อ
ทำ ไก่หยอกหมา แหย่ มันเล่น น่ะคร้าาา
เฮ้อออออ แกว่งซ่งติง แหย่ลูกหมาตาดำ ๆ
ทำให้มันเต้นหย็องแหย็ง ร้องขู่แฮ่ ๆ
แร้ว พยามกระโดดเข้างับขาเรา ได้นี่
แหม๊? อิเข้ล่องหน มันครึ้มอกครึ้มใจ ดีพิลึก อิอิ


อืม....แต่ถ้า อิหม่ามี๊แค่เห็น ไอ้เจ้าลูกหมาพิทบูล
มันมาเพ่นพ่านเในสุสานโบราณ แร้ว เห่า บ๊อก ๆจิ๊ดนึงส์
ก็ ถึงกับ อกสั่นขวัญผวามี อาการจิตหลอนกำเริบ แบบนี้
นู๋บีชัก เป็นห่วงกัวว่า อายตนะ 6 ของ อิหม่ามี๊
จะมีปัญหา อีกแร้ว มั้งเนี่ย


หม่ามี๊ขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เหตุใด เซลสมอง จึงเกิดการเสียการควบคุม
แร้วขาดความสุขุมลุ่มลึก
แถมจักษุประสาทก็สึกกร่อน
หลอน ไปกันใหญ่ จนไม่ลู้ว่า สิ่งใดเท็จ สิ่งใดจริง !



นี่ ๆๆๆๆ ... อิหม่ามี๊ต้องพยายาม สงบสติอารมณ์
เอาธรรมโม๊ะ เข้ามาขย่ม แร้ว ท่องไว้ นะเจ้าคะ


สิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่มันเป็น
สิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่ สิ่งที่มันเป็น


เฮ้อออออ ป๋าโจ ก็เคยเลคเชอร์หั้ยฟังแร้วนิหน่า ว่า

อย่าไปเชื่อสิ่งที่เห็น อย่าไปคิดว่ามันเป็นเรื่องจริง
อะไรๆ ที่เธอว์เห็นที่เธอว์คิดมันไม่จริง นาโว้ย!!!



อิหม่ามี๊ก็หลับหูหลับตา
ทำตัวว่านอนสอนง่ายเป็น ตุ๊กตาบาร์บี้
เชื่อฟัง คุณสามีซะมั่งจิค๊ะ อิอิ



อืม...ไหน ๆ คืนนี้ก็พูดถึง ไอ้เจ้าลูกหมาพิทบูล แร้ว
ชักคันปากว่ะ เอามันมาชำแหละ หั้ยหม่ามี๊ฟัง ต่อดีฝ่า หุหุ
เนี่ยหม่ามี้ ขราาาาาาาาาา เมื่อไม่นานมานี้
ตอนที่นู๋บีไปอิแร่ดแต๊ดแต๋ อยู่ที่ จักรวาลพังจิต อยู่ดี ๆ
เวรกรรม ได้ชักนำให้ นู๋บี ต้องโคจรมาเจอก๊ะ
เจ้าหมาพิทบูลหัวเน่าตัวนึงอ่ะคร้าาา


แหม ? ตอนแรกไอ้เราหรือก็เห็นว่า
ไอ้เจ้า อิลูกหมาตัวนี้มันหัวเน่า พอ ๆ ก๊ะเรา
เก๊าะเรยรู้สึกนึกเอ็นดู และ ถูกชะตาด้วย
แต่หาลู้ไม่ว่า ไอ้พิทบูลตัวเนี๊ยะ
มันเป็นลูกหมาเจ้าปัญหา แร้วก็ขี้อิจฉา ด้วยอ่า
( สงสัยสมัยเด็ก ๆ มันจะขาดฟามอบอุ่น ว่ะอิอิ )



เนี่ย เวลามันเห็นนางชีจากง้อไบ๊ ก๊ะ ไต้สือเฒ่า จาก เส้าหลิน
เค้าตั้งกระทู้สนทนาภาษาธรรมะ กระจุ๋งกระจิ๋งกันทีไร
เจ้าพิทบูลขี้อิจฉา ก็เป็นต้อง เห่าเสียงขรม
แร้ว พยาม ขัดคอ แอนด์ ขัดหู เรียกร้องฟามสนใจ
ด้วยการ ก่อเหตุวิวาทะ กับ กระเทยหมาแมว แถวนั้น ประจ๊ำ
จนชาวบ้านร้านตลาดแถวนั้น ต้องวิ่งหนีกระเจิดกระเจิง ทู๊กที





แถมพอสบโอกาส
ไอ้พิทบูลตัวนี้ก็เป็นต้องกระโดดรี่เข้าไส่
แร้วขย้ำคอหอย เด็กน้อยและ คนชรา อีกตะหาก
ครั้นพอโดน UN คว่ำบาตร ไม่ยอมร่วมสังฆกรรมด้วย
มันก็ดั๊นไม่สำเหนียกถึงฟามผิดของตัวเอง อีกแหน่ะ
ยังมีหน้ามาร้อง แง้ว ๆ ๆ แร้วบ่นกระปอดกระแปดว่า


พูดจริงอั้วอยากคุยกับอีตาขันธ์ในเว็บพังจิตจริงๆ
รับรองได้มันด่าโครตพ่อโครตแม่อั้วแน่ๆ
ไหนๆก็ไหนๆอยากนินทาอีนิวรณ์ หรืออีตาเล่าปังหน่อย
ไอ้นี่มันอยากเป็นหัวหน้าคณะดูจิต แต่มันพูดอะไรทำไม
นักดูจิตอย่างอั้วฟังไม่รู้เรื่องว่ะ บางที่เราถามมัน
เสือกไม่คุยกับเราเสียอีก มันกลัวอะไรกันนักกันหนา
เห็นด่าพ่อล่อแม่กับชาวบ้านได้ เราพูดเพราะๆกับไม่คุยกับเรา





เฮ้ออออ อิหม่ามี๊เอ๋ย
นู๋บีล่ะอยากจะตะโกนบอกไอ้ตี๋นี่เหลือเกิ๊นนนน
ว่า ถ้ามันยังชอบเดินส่ายอกพกอีโต้อาบยางน่อง
แร้ว เห่าโฮ่ง ๆ ในกาทู้ชาวบ้าน งี้อ่ะนะ
ใครเขาจะอยากไปคุยก๊ะมรึ๊งงงงงงง
พิทบูล นะ อิหม่ามี๊ ม่ะช่าย ชิวาว่า
จาได้โฮ่งแฮ่ ๆ แร้วน่าเอ็นดู
นี่ต่อหั้ย มันใส่สูทผูกไทด์แบ่บเหลิมเวอร์ซาเช่
แร้ว พูดจาเท่ห์ ๆ เป็นภาษาดอกไม้
แถมด้วย การแสยะยิ้มหวานจ๋อย แบบในรูปข้างล่างนี้ ก็เหอะ





ไง ก็คงไม่มีครายมันกล้า ไปเสวนาธรรม
กับ ดราม่าตัวพ่อ อย่างมันหร็อก จะบอกหั้ย
คนเค้าก็ต้องกัวโดนไอ้เจ้าสัตว์หน้าขนที่เลี้ยงไม่เชื่อง
มันหาเรื่อง โดดขย้ำคอหอย เอา อ่ะดิ
ไอ้หมาบ้าพันธุ์นี้ น่ะ กัดแร้วไม่ค่อยจะยอมปล่อยซะด้วย
เห็นพาดหัวข่าว ขึ้นหน้า 1 อยู่ บ๊อยบ่อย เอิ๊ก ๆ



คิดดูน้าาา ขนาด นู๋บีลงทุน เปลืองเนื้อเปลืองตัว
ไปกรีดน้ำเหลืองสาบานเป็นกากี่นั้ง ก๊ะมันแระ
สบโอกาส มันยังจ้องจะเอาเขี้ยวคม ๆ
มาแทะขาอวบ ๆ ของนู๋บีเล๊ยยย
แหม๊ ! โชคดีนะเนี่ย ที่ นู๋บี มีศีล 5 คุ้มกะลาหัว
และ สำเร็จเคล็ดวิชา อิเข้ล่องหน มาจากสำนักง้อไบ๊
แถมยังฉีดวัคซีนกันเหนียว ไว้แร้วด้วย
เขี้ยวทื่อ ๆ ของไอ้ลูกหมาขี้โมโห เรยหาได้ระคายผิวไม่
( มัน บ่ ได้แอ้มขาอ่อนของอะฮั้นหรอกฮ่ะ )โฮ่ ๆ




เออ นี่ ๆ อิหม่ามี๊ ขราาาา ลองทายซิ
ว่า ถ้าไอ้โลงผุ มัน ดุอิ๊บอ๋าย เหมียน อ้ายพิทบูล
แร้ว อิผีเน่าอย่างนู๋บี จาน่าเอ็นดู
เหมียน ลูกหมาพันธุ์ไหน เอ่ย ?
หั้ยเวลา คิด 1 นาที
ติ๊กต่อก ๆๆๆๆๆๆ


เอาล่ะ เฉลยจร้าาาาาา
นู๋บีว่า ตัวเองเหมียน หมาพันธุ์นี้ อ่ะ อิอิ






เนี่ยเคย เสิร์ชเจอ ลิงค์เนี๊ยะ

นิสัยของสุนัขบางแก้ว ใช่หรือไม่?

//www.bangkaewclub.com/forum/index.php?topic=648.0




อ่านแร้วขำกลิ้งแทบตกเก้อี้
แมร่ง หมา5 ไรว้าาา นิสัยเหมียกรูเด๊ะเรยยย
อ้อ ที่ว่า นิสัยเหมียนกัล เนี่ย
ม่ะช่าย นิสัยข้อ 1 , 2 , 14 เรื่อง เป็นนักล่า ยอดนักสู้
และ จงรักภักดีต่อเจ้าของมากมายหรอกน้าา
แต่เป็น ข้อ 18 ก๊ะ 19 ในลิงค์ อ่ะนะ
หูย เหมียนเด๊ะ ๆๆๆ โดยเฉพาะ เรื่อง ...
หลอกให้คนแปลกหน้ามาเล่นด้วยแล้วก็กัด เนี่ยนะ
อะโหยยยยย มันเป็นอะไร ใช่เยยยยยย
( คาดว่า อิน้องจูน ของหม่ามี๊ ก็คงมีนิสัยคล้าย ๆ กัล เหอ....เหอ... )









อ้อ ไหน ๆ ก็พูดถึง น้องจูน แระ
จาแนะนำอะไร หั้ยน้าาาาาา
ถ้า น้องจูน เค้า เจ้าเล่ห์ ขี้อ้อน ช่างประจบ
น่าร้ากกก และ มีซาเหน่ เหมียนนู๋บี
อีก็คงไม่แคล้ว มีนิสัยแบ่บหมาบางแก้ว เหมียนนู๋บีเช่นกันอ่า อิอิ
ดังนั้นจะเลี้ยงดูลูกหมาพันธุ์นี้
ต้องพยามปะเหลาะเข้าไว้ น้าาา
ใช้เอาน้ำเย็นเข้าลูบ แล้วค่อย ๆ ตะล่อมสอน



ห้ามตี ห้ามดุ หรือ เข้มงวด ด้วย เป็นอันขาด นะคร้าาา
ม่ะงั้น ถ้าทำให้อีโกรธ แล้วอีจะงอล แอนด์ แค้นฝังหุ่น
หาทาง เอาคืน แบ่บทบต้นทบดอก ง่ะ
นี่ พูดจากประสบการณ์จริง เลยนะ
เพราะนู๋บีเองก็เคยเป็นแบ่บนั้นมาแระ
( และถึงตอนนี้ก็ยังเป็นอยู๊ เหอ ๆ )



หูยยยยย คิด ๆ แล้วก็กลัวใจ อิการ์ฟิลด์ มันเหมือนกันว่ะ
บทมันจะเหี้ยม อ่ะนะ มันก็เลือดเย็น + เหี้ยมได้ใจ เรยว่ะ
ถึงได้บอกไง ว่า คนอย่างนู๋บีน่ะ
มัน แข็งโป๊ก ทั้งนอกทั้งใน สมบูรณ์แบบ จิงจิ๊งงงง
นี่นับว่าโชคดี นะเนี่ย อิหม่ามี๊
ที่เด๋วนี้ มี อิคิตตี้ มาเป็นกุนซือ หั้ย
ม่ายงั้นนะ ป่านนี้คงจะเป็น อิเจ้อำมหิต
ชนิด ทักกี้ เรียก แม่ ไปแระ แหะ ๆ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:4:57:31 น.  

 
 
 
แหม ? แต่พูดก็พูดเหอะนะ
ม่ายลู้ว่าชาติก่อน ทำบุญมาด้วยอารายมา อ่ะ
ชาตินี้ นู๋บีถึงได้ เจ้าเล่ห์มีซาเหน่ได้ถึงปานนี้ อิอิ
เฮ้ออ นี่ถ้าเจียดเสน่ห์นาง แบบบางแก้ว
ไปหั้ย ไอ้เจ้าพิทบูลขี้เหร่ ได้ อ่ะนะ
คนจ๋วยใจดีอย่างนู๋บีก็จะแบ่งหั้ยไปแระ
เผื่อว่าเวลามันไปโก่งลูกคอขันคู
ในกาทู้ที่พังจิต หรือ ลานทำมะจก
มันจาได้มีแฟนคลับยกพวกตามมากรี๊ด
มาขอลายเซ็น ก๊ะเค้ามั้ง อิอิ



เอ ? หรือว่าจะ สอนเคล็ดวิชา
"แสร้งทำเป็นหลอกมาผูกมิตร แร้วแว้งกัดในระยะประชิด "
ให้ไอ้เจ้าพิทบลู ดีว้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ของงี้ มันเป็น พรสวรรค์ส่วนบุคคล
ที่ลอกเลียนแบบกัลมิด้ายยยยยยยยยย
มันอยู่ที่ วาสนาจริต แระ ภูมิกึ๋น !



ถึงสอนไป มันก็คงจะ บ่ มีไก๊ ตามเคย
เพราะไง พิทบูล ก็ คือ พิทบูล
ม่ะช่าย บางแก้วตัวพ่อ แบบ อิตาเกิดเป็นบ่าง นิ
จะได้ อ้อล้อต่อกระซิกระริกระรี้
กับชาวบ้านได้แบบเป็นปี่เป็นขลุ่ย
( ขืนต้องทำงั้น ไอ้โซ๊ยตี๋คงบอกว่า ให้ อั้ว กัดลิ้นตาย ยังจะง่ายกั่ว 555)



เนี่ย ทางที่ดี นู๋บีว่านะ หาตะกร้อ มาครอบปากมันไว้ ซะมั่ง
น่าจะทำให้ป๋าขันธ์ ก๊ะ ทั่นนิวรณ์ ใจอ่อน
ยอม ให้เกลียด มาเป็น กัลยา ณ มิตร ทางธรรม ก๊ะมัน ก็ได้นะ
แถม ใส่ตะกร้อครอบปากแร้ว อาเหล่าม่าอาจจะเอ็นดู ไอ้ตี๋
แบ่บที่ เอ็นดู อาสงธิ ขึ้นมามั่ง
เพราะ ตะกร้อเนี่ย มันเป็น อุปกรณ์วิเศษ
สามารถ เสก สาริกาเข้าท้อง ได้ 55555













----------------------------------
อิหม่ามี๊ ว่า


แวะมาหั้ยกะลังจาย นู๋บี
ยังงัย อิหม่ามิ๊ ก็แทงข้างนู๋บีอยู่แว้วววว ^^
ไม่อยากบอกว่า เอาอยู่ แต่คิดว่า ยังงัยก็เอาไหว งิงิ

แต่ท่านโอทึ้ง กะโหลกหนา อ่า
ท่าทางจะเจาะยาง ยากส์ 555
อิหม่ามิ๊ ดูโหงวเฮ้ง แร้ววว
ก็ทางใครทางมันดีฝ่า ว่ะค่ะ
เปลืองน้ำหมาก เกิ๊นนนนนน 666
++++++++++++++++++++++++++++++


นู๋บี... ว่า

อิอิ แท้งกิ๋ว นะเจ้าคะที่หม่ามี๊ช่วยจัด ทัพเสริม
เข้ามา แทงกั๊ก เพิ่ม กะลังจาย หั้ยก๊ะ นู๋บี
เย้ ๆๆๆ ชื่นใจจัง ที่ได้ฟังคำมั่นสัญญา

ยังงัย อิหม่ามิ๊ ก็แทงข้างนู๋บีอยู่แว้วววว ^^

อืม....งานนี้ อินู๋บัวป่อง คงไม่ต้องบอกว่า ... เอาอยู่
หรือ คิดว่า ยังงัยก็เอาไหว หรอกคร้าาาา
แหม ๆ ก็ นู่ มิใช่ แม่ดอกบัวเกี๋ยง แม่หญิงงาม
แม่หนึ่งนารีขี่เจ็ทสกี ของ ไอ้ตี๋ มันนี่คร้าาา
ไหนเลยจะหาญกล้า พูดอารายทำนองนั้นออกมา
ขืน พูดว่า เอาอยู่/เอาไหว แตกแร้ว /ให้ช่วยตัวเอง ไปก่อนแระกัน
เด๋วไอ้พวกหัวหมอบางคน มันจะแจ้นไปแจ้งฟาม
ให้คุงตำหนวดมาจับนู๋บี ข้อหาพูดจาลามกอนาจาร อ่ะจิ


เฮ้ออ ไอ้เวรนี่ มันยิ่ง ดับเบิ้ลสแตนดราด อยู่ด้วย
เนี่ยถ้า อิป้าป่อง พูดล่ะจ้องแต่จาหาเรื่อง
แต่ หาก อิเจ้เกี๋ยง พูดมั่งล่ะก็
คงจะ บอก ว่า โอ้โห ปราดเปรี่อง
ช่างเป็นสัมมา เป็นสุดยอดแห่งปัญญาาาา
แมร่ง ลำเอียงคอด ๆ อ่ะซิก ๆ



ด้วยเหตุนี้ นู๋บีก้อคงได้แต่ กระซิบบอก อิหม่ามี๊ เบา ๆ
ว่า เรื่องนี้ มันไม่ใช่เรื่อง ของการ เอาอยู่ หรือ เอาไหว
แต่ มันเป็นเรื่องของการ ...เอาคืน... ตะหากค่ะ หม่ามี๊ขราาาา
ภาษิตจีนกล่าวไว้ว่า บุญคุณต้องทดแทน ฟามแค้นต้องชำระ นิหว่า
เพราะฉะนั้น บัดนี้ ได้เวลา ที่นู๋บีจะใช้นิ้วตรีนเขียนแผ่นดิน แบบศรีปาด
และ บอกให้ทั่วทั้งโลกรู้ว่า ดาบนั้น จะคืนสนองแระคร้าาา
( นู๋บี รอเวลานี้มานานแร้ววววว เหอ ๆ )



ส่วน ไอ้ตี๋มันจา (หัว)แตกแล้ว(กบาลแยก)
หรือ เกิดสภาวะขันไม่ออก
เพราะน้ำหมากพิฆาต ไหม ?
อันนี้ ก็ต้องโปรดติดตามตอนต่อไป
( เพราะขณะนี้ ยังมิได้รับรายงาน เอิ๊ก ๆ )


และถ้า ไอ้พิทบูล มันจะมีจุดแข็ง
คือ กระโหลกหนา เจาะยางยากส์
เราก็หาโอกาส เล่นงาน ที่ จุดอ่อน ของมันจิ๊ค๊ะ
กลยุทธ แอบปิดประตูตีแมว แร้วเหยียบหางมันซะ
จากนั้นเก๊าะ ชักดาบชิ่งหนีเข้ากะลา นี่ นู๋บีถนัดเจ้าค่ะ เหอ...เหอ...



อ้อ อิหม่ามี๊ขราาา ระวังไอ้เจ้าตี๋วิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย ด้วยน้าาา
ไอ้พิทบูลนี่มันชอบแกล้งเนียน
จ้องแต่จะ คอยดิสเครดิต ทำลาย เรทติ้ง ของ นู๋บัวป่อง ฮ่ะ
เนี่ย มันคง อิจฉาที่นู่บีมี แควนขับ แยะกว่ามัน
มันเรยมั่วนิ่ม ทำมาเป็น ตีปีกพั่บ ๆ
แร้ว โก่งคอขันจุ๊ก ๆ ใน สุสานโบราณแห่งนี้
แถมยัง มาทำมึน ถามนู๋บีอีกแหน่ะ ว่า


เจ้จำเพลงรักของเราได้มั้ยจ๊ะ......


"นั้นแน่ะนกเขากู่จุ๊ก จุ๊กกู่ นกมันก็ร้องหาคู่มัน....
.........เห็นนกน้องบอกว่าไม้ พี่ก็ว่าไม้ไปตามวาจา
เห็นปูน้องบอกว่าปลา พี่ก็ว่าปลาไปตามดวงใจ จุ๊กกู่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ



แหม๊ ? แล้วนี่ถ้า นู๋บี เห็น เถรสมาคม แล้ว บอกว่า เป็น หงส์
เห็น หมัก แล้ว บอกตรง ๆ ว่า อีเป็น หมา( ล่าเนื้อ )
เห็น ลพ.เกษม ก็ว่า เป็น อีแร้ง
เห็น ปูแดง นู๋บี ก็ร้องยี้ ว่า เป็น ของแสลง
แล้ว เห็น บัวเกี๋ยง อ่ะนะ นู๋ก็ ยิ่ง ระแวง ว่าเป็น กงจักร !



อิหม่ามี๊ขราาาาา ลองทายซิ ว่า ไอ้ตี๋ดีแต่ปาก นี่
มันก็จะว่าไงว่าตามกันก๊ะ นู๋บี ไหมเจ้าคะ
เหอะ ๆ นี่ นู๋บี ยังสังหรณ์ใจ ตะหงิด ๆ อยู่เรย ว่ะ
ว่า ถ้าหาก แม่ดอกบัวเกี๋ยง กับ อิเจ้บัวป่อง
จำต้องประสบอุบัติเหตุตกจากเจทสกี พร้อม ๆ กัน
ไอ้ตี๋มันจะกระเหี้ยนกระหือรือ ยื่นมือ ไปช่วย ใครก่อน...
เอ ? ไม่สิ ต้อง ถามว่า นู๋บีจะโดนไอ้ตี๋ตอแหล๋
มันเอาบื๊กแบ๊คทุบจนหัวแบะ แบบอาเฮียสอ ไหมเนี่ย ?




อพิโถเอ๋ยยยยย ไอ้ตี๋สัญญาวิปลาส เอ๊ยยยยยยย
เฮ้อออ พวกผู้ชายนี่มันมักจะ ฟามจำสั้นแต่ สันหลังยาว จังเรยเน๊าะอิหม่ามี๊
เนี่ย กลับเข้าไปขุดคุ้ยในลิ้นชักฟามทรงจำ ยังไง
นู๋บีก็ ไม่เค๊ย ไม่เคยได้ยินมันมา โก่งคอร้องเพลงนี้
แร้ว ขันคู ร้องจุ๊ก ๆ หั้ยนู๋บีฟังเรยฮ่ะ




แล้วที่ผ่านมานะ เวลาเสวนากัน ตะละที
นู๋บี หรือก็ อุส่าลงทุนแก้ผ้าล่อนจ้อน
ไปเต้นจ้ำบ๊ะอ่อยมันแทบตาย
แต่ ยั่วยวนไง๊ มันก็ไม่ยักจะเคลิ้มมาร้องจุ๊ก ๆ หั้ยฟังเลยว่ะ
เนี่ย เห็นโก่งคอร้องจุ๊ก ๆ ทีไร
มันก็ไพล่ไปร้องหั้ย อีนู๋หน่อไม้ฯ ฟังทู๊กที
เฮ้อออ เจื๋อกมาทำรุ่มร่าม ข้ามหน้าข้ามตา กันงี้
เห็นแร้ว อีสาว So Hot อย่างนู๋บี ลู้สึก เสียเซ๊ล์ฟ พิลึก



แหม ? นี่ถ้ามัน ไม่โดน อินู๋หน่อไม้ เขี่ยทิ้ง
เห็นทีคงจะไม่ซมซานมาทำปากหวาน จ๊ะจ๋า แถวบล็อกนี้ หร็อกมั้ง เหอะ ๆ
อ้อ และเท่าที่จำได้ นอกจากมันจะไม่เคยขันคูจุ๊ก ๆให้นู๋บีฟังแระ
มันยังทำดัดจริตดีดดิ้น ใส่นู๋บีด้วยอ่า
เนี่ย พอนู๋บี ออดอ้อน ขอเข้าไปอยู่ ในเล้า เอ๊ย ในหัวใจ มันบ้าง
มั๊นก็ทะลึ่ง เล่นตัว ขุดขี้ปากยัยทึนทึกขึ้นคานข้างบ้านมาเตือน
ว่า ที่ใดมีร้ากกก ที่นั่นมีทุ๊กกกกกกกกกข์
แถมยังเอาหยิบยกคำพูดของตาเฒ่า
(บ้านถัดไปจากบ้านยัยทึนทึกขึ้นคาน ) มากล่าว


"ไอ้หนุ่มเอ้ย ในหัวใจลุงไม่มีเรื่องพรรณนั้นแล้วละ
ลุงมีแต่ธรรมะเพียงอย่างเดียว แค๊กๆๆเหนื่อย"



แหม ๆ ฟังแร้ว ไอ้เราก็ยังแอบนึกชมในใจเรย
ว่า เฮ้ย ไอ้หมอนี่มันช่าง เป็นผู้ชายที่หนักแน่น
มีจุดยืน ไม่โลเล แลดู ธรร,โม๊ะ ธรรมโม
และ เป็นสุภาพบุรุษ ม่ายขี้หลี ดีจังเรย วุ้ย
ทว่า เวลาผ่านไปไวเหมือนโกหก
สุดท้าย ไอ้เจ้า ไม้หลักปักขี้เลน นี่
มันก็แพลมหางเปิดเผยธาตุแท้
หั้ยได้พวกเราได้ยลโฉมแร้วง่ะ
ว่าที่ผ่านมา นู๋บีคิดผิดมาตลอดเรย อ่ะซิก ๆ




แต่ก็อย่างที่เคยบอกนั่นแหล่ะนะ อิหม่ามี๊
ไงซะนู๋บีก็เข้าใจไอ้ตี๋นี่เสมอน้าาาาาา
สงสัย ที่มันมาบ้าจี้ โก่งคอ ร้องจุ๊ก ๆ ก๊ะนู๋บีงี้
คงจะเป็นเพราะ มันหลงคารมไปสะเดาะเคราะห์
กับเเม่นักสแกนกรรม ว่ะ
พออีเจ้าแม่ พามันไประลึกชาติ
แล้วแพล่มเป่าหู ไอ้ตี๋ว่า


นู๋บีก๊ะไอ้ตี๋ เคยมีหนี้เวรหนี้กรรมในเรื่องความรัก
จะต้องชดใช้กันไปอีกหลายร้อยชาติ
แต่เจ้าแม่เห็นแบบชัดๆอยู่ชาติหนึ่ง
แม่นางป่อง คือ เล้งยี้ ส่วนมันคือ ก้วยยี้
ที่พลัดพรากจากกันมานานถึง 16 ชาติ
จนเป็นเหตุหั้ย เพลงกระบี่คู่ประสานใจ นั้น ขาด ผู้สืบทอดฯลฯ


เฮ้ออออ ไอ้ตี๋ มันฟัง อีเจ้าแม่พล่ามฉอด ๆ
แล้วเรยเกิดอาการหูหนาตาบอด ธาตุไฟเข้าแทรก
แยกไม่ออกว่า อะไร คือ จริง สิ่งใด คือ เท็จ
เลยทะลึ่ง ละเมอเพ้อเป็นตุเป็นตะ เชื่อเบ็ดเสร็จ
โดยไม่ได้ ใช้ โยนิโสฯ หาเหตุหาผล ล่ะมั่งเล๊ยยย
โถ ๆๆๆ เด็กวัยรุ่นก็งี้แหล่ะ คร้าาาาา
ชอบตามปลื้มตามกรี๊ดพวกดารา
เห็นสาวคนไหนแจ่ม ๆ เข้าหน่อย ก็หลงไหลคลั่งไคล้


เด๋ว ก็ร้องจุ๊ก ๆ ก๊ะคนโน้นที คนนี้ที
เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาได้วันละสิบหน
น้ำลายพูชาย อ่ะ มันเชื่อถือม่ะได้หรอกฮ่ะ อิหม่ามี๊ก็ลู้นิ



ปีก่อนนู้น มันมองว่า เราเป็น เซียนยี้
พอมา ปีนี้ ก็มาทึกทักเหมาว่า เราเป็น เล้งยี้
แต่ถ้า ปีหน้า มาถึง ไอ้หมอนี่ มันอาจจะอื้ออึงนินทา
หาว่าเราเป็น นางมารลี้ม่กโช้ว ก็ได้ว่ะ



แหม? นี่ถ้ามันรู้ ว่า แท้จริงแร้ว
ชาติก่อนนู้น นู๋บี เป็น อึ้งย้ง ผู้สำเร็จเคล็ดวิชา ไม้ตีสุนัข
และ ชอบไล่ตีหัวลูกหมาพิทบูล เป็นพิเศษ
(ส่วน มันก็คือ จิวแป๊ะทง กลับชาติมาเกิด)
สงสัยมันคจะเสียอกเสียใจจนเตลิดเปิดเปิง
เข้ารกเข้าพง ไปเรยมั้งเนี้ย อิอิ




เฮ้ออ เนี่ยหม่ามี๊ รู้ไหม ?
ตอนเห็นไอ้ตี๋แก่แดดนี่
มันมาร้องจุ๊ก ๆ ให้ฟังแร้ว
ขำก้ากแทบตกเก้าอี้เรยอ่า
นี่ก็ไม่ลู้จะ เลือกด่า มัน
เป็นภาษาสุราด หรือ ภาษาไหหลำ ดี



แมร่ง พล่ามเพลงร้ากก
ให้อิสาวคนไหนฟังกี่ครั้ง ๆ
มั๊นก็ยัง ขันคูซ้ำซาก
ม่ายรู้จักเอา โยนิโสฯ มาช่วย ครีเอท
อัพเดต เนื้อร้องและทำนอง ซะมั้งเรย
( สมควรแล้วที่จะโดนอืนู๋หน่อไม้ มันก่นด่า ฮา ๆ )
ยี้ มัวโก่งคอร้องแต่เพลงอะไรก็ม่ายรุ เชยโคตร ๆ
ฟังแร้วเดาอายุไอ้ตี๋มันได้เรยนะเนี่ย 555555




อ้อ ถ้าหม่ามี๊ ฟังมันร้องจุ๊ก ๆ แล้ว เลี่ยนจนอยากอ้วก
ก็ แวะมาร้องคาราโอเกะ เพลงนี้ ก๊ะนู๋บี แก้เลี่ยนบ้างก้อได้น้าาาา

//www.youtube.com/watch?v=2QUcvL_hx-g

อิหม่ามี๊ ร้องส่วนของ น้องกี้ ไปก็แระกัล
ส่วนนู๋บี จะขอ ร้องส่วนของ เจ้ อุ๊ อ่า
เพราะฟังอีร้องเพลงนี้ แร้วโดนอย่างแรงงงงอิอิ
อะโหยยยย ปลื้ม อิเจ้อุ๊ มว๊ากกกกกก

.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:03:37 น.  

 
 
 
อ้อ และที่อยากจะเตือน อีกอย่างก็คือ
อิหม่ามี๊ อย่าไปเชื่อ น้ำลายไอ้ตี๋นี่นะคร้าาา
เนี่ย นอกจากมันจา ขี้ตื่น ขี้ตู่ แอนด์ขี้หลงขี้ลืมแล้ว
มันยังชอบคุยโว ขี้โอ่ ขี้โม้ ด้วยอ่ะ


หนอยทำมาเป็น มาปาหินข้างทาง
ถาม หม่ามี๊ ออกมาด้ายยย ว่า


ลองทายซิ ถ้าผ่าหัวใจอิเจ้ป่อง ออกมา
ลื้อว่าจะเจอใครนั่งอยู่กลางใจอีเจ้ป่อง
บอกให้ ไม่ใช่ โกตั๊บแป๊ะลิ้มหรอกเว้ย แต่มันเป็นอั้ว
ใช่มั้ยอิเจ้นู๋บีจ๋า เจ้อย่าหูเบาไปเชื่อคนอื่นนะ




เฮ้อออออ จิง ๆ ตอนแรก นู๋บีก็ว่า
จาปล่อยให้มัน มี มิจฉาทิฐิ
เข้าใจผิด ๆ แบบนี้ ต่อไปเรื่อย ๆอ่ะนะ
เพราะอย่างน้อย การมีพูชายหน้ามืด
มาคอยขันคูจุ๊ก ๆ ให้ฟังในบล็อก งี้
มันก็ครึ้มอกครึ้มใจ และ กระชุ่มกระชวยดี
แถมมันเป็นการช่วย การันตี
ฟามแจ่มเจรียง ของ นู๋บี อ่า อิอิ



อีกอย่าง เผื่อว่า สบโอกาสเหมาะ ๆ
นู๋บีจะได้ ร้อยก้น มันไว้ใช้งานด้วยง่ะ งิงิ
นี่ครึ้ม ๆ ยังว่า จะหอบเอาเรื่องไอ้ตี๋นี่
ส่งเมล์ไปอวดคุณชายธาตรีสามีเก่าที่เคารพของนู๋บี เรยฮ่ะ
เผื่อทั่นอ๊าดอีจาหึงแร้วเกิดลมพัดหวน
หันมาจุดถ่านไฟเก่าพึ่บพรั่บก๊ะนู๋บีมั่ง หุ...หุ...



แต่ในเมื่อ นู๋บีรู้แล้วว่า ณ สุสานโบราณอันรโหฐานแห่งนี้
นู๋บีมิได้ นั่งคุยก๊ะมันเพียง ฉองต่อฉอง
ทว่า ยังมี อิหม่ามี๊ มานั่งบนภู
แอบดูด้วยฟามเป็นห่วง อยู่ด้วย ....
นู๋บีคนสวย ก็คงต้อง ตีแผ่ฟามจิง ให้โลกรับรู้ เสียที
เพื่อ ป้องกัน ฟามเข้าใจผิด
และ เพื่อฟามมั่นคงในตำแหน่ง ลูกไป๊ป๋าโจ อิอิ



อืม... อิหม่ามี๊เจ้าขราาาาาาาาา
ไอ้เรื่องที่ ไอ้ตี๋ มันโม้มาทั้งหมดนี่ มัน บ่ ใช่ นะเจ้าคะ
หม่ามี๊อย่าได้หูเบาเผลอไปหลงเชื่อคารี้คารมมันเชียวน้าาาาาาาาาาาา
ไอ้เทคนิค ลับลวงพราง แกล้งทำเป็นตะล่อมถาม
แร้วแอบ ล้ำเส้น เข้ามาตลบหลัง
จู่โจมทันทีแบบไม่ให้รู้ตัวและหัวใจเนี่ย
มันเป็นท่าไม้ตายของไอ้พวกหัวหมอจ้อความ อ่ะค่ะ
เนี่ย ไอ้ตี๋ มันได้ยินกิตติศัพท์
ฟามหล่อแบบเกาหลี ของ ฮาร์ทจัง
แร้ว มันคง อิจฉานู๋บีมั้ง ที่ได้เป็นลูกไป๊ ป๋าโจ


มันเรยแกล้งเนียนเข้ามาแทรกกลางระหว่างแม่ปั๋วก๊ะลูกไป๊
พยาม ใส่ไคล้ ต่าง ๆ นานา
เพื่อแย่ง ตำแหน่ง ลูก'ไป๊ป๋าโจ ไปจากนู๋บี ง่ะ อะซิก ๆ
นู๋บีขอนั่งยัน ยืนยัน นอนยัน
และ ปฏิญาณตนต่อ หน้า อิหม่ามี๊ ไว้ ณ ที่นี้เรยว่า
ถ้าผ่าหัวใจดวงน้อย ๆ ของ อินู๋บัวป่อง ออกมา
ทั้ง 4 ห้องหัวใจ นั้น ก็มีแต่ ฮาร์ทจัง คนเดวววววววววววว




ดังนั้น ป๊ะป๋าโจ ซาบายใจได้อ่ะ ว่ายัง ไง ศรีสะใภ้คนนี้
ก็จะไป ยกน้ำชา มา คาราวะ ป๊ะป๋า แน่นอน
( ถ้า อิน้องฮาร์ทมันไม่ทะลึ่งปันใจไปให้สาว ๆ ที่ไหน ซะก่อนอ่ะนะ อิอิ )
อ้อ แร้วที่ อิหม่ามี๊ เห็น นู๋บี เข้ามาก้อร่อก้อติก
ก๊ะ ไอ้เจ้าลูกหมาพิทบูล เนี่ย
นู๋บีก็ม่ะได้พิสวาท อารายมันนักหนา หรอกค้าาาา




แหม ๆ ก็ ลิ้มเซียนยี้ สอนนู๋บีไว้นิคร้าาาา
ว่า ถ้าจะหลอกใช้ผู้ชายคนไหน
เราต้องแกล้งทำเป็นห่วงเป็นใย
แววตามีความเอื้ออาทร กังวล สนใจ เป็นห่วง
หากต้องการให้ใครกังวลท่าน ท่านต้องกังวลมันก่อน
นู๋บีเก๊าะเรยต้องฝืนใจ ทำตามคำแนะนำของอีนังนี่ จิค๊ะ


แหม ๆ อิหม่ามี๊ ก็ลู้ ว่า
นู๋บีชอบกอบโกย และสูบความรู้
จากไอ้พวกพูชายเจ้าเล่ห์เพทุบาย ทุกคนนิคร้าาา


สมัยคุยกับเด็กเศษสาด
นู๋บียังเล่นบทครูพักลักจำก๊ะมัน
จน ได้เรียนรู้ เรื่อง จุดที่ดีมานด์ ของ หัวใจ
ตัดกับซัพพลายของฝ่ายตรงข้าม
ตลอดจน เทคนิคการเล่านิทานหลอกเด็ก+วิธีหลีพูญิ๋ง เรยนิ



พอตอนคุยกับเด็กปัดยา
นู๋บีก็ได้ เรียนรู้ ถึงจุดมุ่งหมายของการเรียนปรัชญา
กับ เคล็ดวิชา มุดรูดูกล่อง เอ๊ย วิชามองหาฟามว่างเปล่า ในฟามว่างเปล่า



ส่วนตอนคุยกับไอ้เด็กมัณฑณศิลป์
นู๋บีก็ได้ เรียนรู้ หัวใจของการดีไซน์
และ เทคนิค แอ๊บอาร์ท ยังไง ให้มันได้สาระ



ขนาด คุยกับเด็กเภสัชด้วยกัน
นู๋บี ยังไปล้วงตับ จนได้ความรู้เรื่อง
คลินิกทำแท้งเถื่อน ที่แบ่งเปอร์เซนต์หั้ยร้านยา เล๊ยยย



ดังนั้น พอมีโอกาสได้คุยกับไอ้พวกหัวหมอจ้อความ
นู๋บีก็ต้องกอบโกยเอาฟามรู้เรื่องกฏหมายจากมัน จิ๊คะ
เผื่อว่าวันหลัง นู๋บีจาได้ เอาข้อมูลที่ลักจำมาได้
ไป เขียน นิยายส่งชิงโนเบล ไพร๊ซ์ ไงเจ้าคะ




อืม....พูดก็พูดเหอะนะ เสวนาธรรม พล่ามกับไอ้หมอนี่
แล้ว หัวมันแล่น ลื่นปื้ด ๆ แตกประเด็นทางความคิด
และ ตกผลึกทางธรรม ได้ค่อนข้างจะเร็ว ดีอ่ะ
อารมณ์มันคงเหมือน เวลามีคู่เต้นที่เข้าขากัน
มาช่วยเป็นคู่ซ้อมเต้นแทงโก้ ให้ล่ะมั้ง อิอิ


ไม่งั้น ก็ คงลู้สึกประมาณเดียวกับที่
อิหลานมดตะนอยต่อยไม่เจ็บ ของนู๋บี
เคย เอื้อนเอ่ย วจี ไว้ที่ สมาคมสูงกินลม แบ่บนี้ ล่ะมั้ง


ผมอ่านศีลห้าในฮาเร็มอยู่ นะเนี่ยยยยยยยยยยย
มีคนมาชวนเค้าไปวิ่งเล่นแย้วววววว องค์ลงเลยตรู
เคยมะ เวลาคุยกะใครแล้วอยู่ดี ๆ เหมือนกลายเป็นเด็ก
แล้วชวนวิ่งเล่นวิ่งเล่นตามกระทู้
ไล่จับตามเว็บ วิ่งเล่นในเอมเอสเอ็น


คุยกับ คน ๆ นั้นแล้วเราทั้งสอง
ทั้งสาม ทั้งสี่ ทั้งฝูง กลายเป็นเด็ก
อาการคุยแบบเปิดกว้าง ทะลุทะทะลวงดุจห้วงฟ้า นภากาศ
ตรรกะ และจินตนาการเป็นหนึ่งเดียวกัน


เหมือนกุมารที่เจ้าแม่กวนอิมอุ้มก็มิปาน
ไอ้พวกนี้นี้แหละซนชิบ พอเจอหน้ากันในเว็บ
เหมือนจำกันได้เฉย ฮ่าๆๆๆๆๆๆ

ผมอ่านของ ป้าบัวผ่อง บ้องแบ๊วววว ไป น่ะ
อารมณ์ซนกำเริบ อยากวิ่งเล่นด้วย
อารมณ์ผม อยากวิ่งเล่นน่ะ
ฮ่าๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
แก้ผ้าวิ่งไล่เตะ เลยนะ

โหยยยยยยยยยยย อย่าถือสา อารมณ์แปลก ๆ


บางคน นะ ผมอ่านไป อยากแกล้งเลย ล่ะ
หมั่นเขี้ยววววว แง่ม ๆๆๆๆๆๆๆๆ
อยากรู้จัก ขอจั๊กหน่อยเหอะ
เคยมาแย้ววววววว ที่แกล้งไป เพราะอยากรู้จัก
แกล้งแรงไป ขออภัยด้วยยย นะจ๊ะ



อิอิ อิหลานชายคนโปรด มันบรรยายได้เห็นภาพ
ตรงใปเป๊ะเยยย เรย ก๊อปปี้มา แปะ อ่ะ
( ชักเริ่มขี้เกียจเขียนเอง 5555 )




เฮ้ออออ แต่ถ้า มาสนทนากระหนุงกระหนิง ก๊ะ ไอ้ตี๋นี่
แร้ว ตำแหน่งลูกไป๊ ของป๋าโจต้องสั่นคลอน
นู๋บีก็คงต้อง ออกแถลงการณ์แก้ต่างหั้ยตัวเองซะแระ
ว่า ไอ้ตี๋นี่ มันก็แค่ทางผ่าน ให้นู๋บีได้ฝึกปรือฝีปาก
ฝึกทักษะในการใช้ภาษา และ เป็นสนามอารมณ์
เอาไว้ซ้อมมือ เวลาปฏิบัติธรรม เท่านั้นเองอ่ะค่ะ หม่ามี๊ขรา
แหม ?ก็นู๋บีโลภมาก อยากจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้งกล่อง นิคร้าาาา
แระตอนนี้ นู๋บีก็ได้ทำในสิ่งที่ต้องการมาทั้งหมดแระ
ดังนั้น ตอนนี้ ไอ้ตี๋ นี่ มันก็หมด ประโยชน์กับนู๋บีแร้วอ่า อิอิ


แบ่บว่า ฟามนิยมชมชอบในฐานะ ปู-ชะนี-ยะ-บุคคล
ก๊ะ ตำแหน่ง อิเจ้สุดที่ร้ากกกกกกก
ที่มันให้เกียรติ เอามากองไว้แทบเท้านู๋บี นี่มัน...เด็กๆ ง่ะ
อย่างนู๋บีมันต้อง โนเบลไพรซ์ สาขาวรรณกรรม เท่านั้น ถึงจะคู่ควร
ดังนั้น บัดนี้ถึงเวลาแร้ว ที่นู๋บีจะเฉดหัวมันออกไปจากไส้ติ่ง
ส่วน นู๋บีก็จะได้ชิ่งกลับเข้ากะลา ไปรจนา มหากาพย์ธรรโมะ
เพื่อส่งเข้าชิงโนเบล หาเงิน สิบล้านโคร์น
มาเป็นสินสอดขอ ฮาร์ทจัง เสียที หุหุ




อิหม่ามี๊ขราาา นู่บีขอย้ำอีกครั้ง ว่า
ไอ้ตี๋นี่ มันไม่ได้อยู่ในสายตานู๋บีเลย
แต่ที่นู๋บีให้ฟามสนิทสนม เป็นห่วงเป็นใย
ไปโพสคุยกระหนุงกระหนิง กะมัน
จนถูกไอ้ตี๋มัน ทึกทักเอา ว่า นู๋บี หน้ามืด
ให้มันเข้ามานั่งเอ้เต้อยู่กลางหัวใจเนี่ย
ก็เพราะว่า นู๋บีแค่ กะจะใช้มันเป็นบันไดเหยียบ !
แบ่บเดวกับที่มันทำ ก๊ะ เฮียหยามนั่นแหล่ะ
( อิอิ สงสัย เวรกรรมจะมีจริงว่ะ 5555 )




เนี่ย ถ้า เทียบมันกะ ไอ้เสือจำศีล ในลานธรรม
หรือ บรรดาหนุ่ม ๆ ที่ นู๋บีเคยเมล์ไปอ่อยอี๋เอี๋ยง ด้วย
พวกนั้น ดูดีมีภาษีและปากหวานกว่ามันตั้งเยอะ
นู๋บียังเชิดใส่ได้เยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
เออ แต่ถ้าลูกชายไอ้ตี๋มันหน้าตาดี
นี่ค่อยน่าปะเหลาะขอไปเป็นลูก'ไป๊ มันหน่อย แผล่บ ๆ
อ๊ะ ๆ อิหม่ามี๊ อย่ามาหึงแทนฮาร์ทจัง แล้วค่อนขอดนู๋บีน้าาา
แหม ๆ นู๋บีก็ต้องหาตัวสำรองไว้กันเหนียว
แบ่บทีมฟุตบอลมั่งสิเจ้าคะ อิหม่ามี๊
( เผื่อ อิน้องฮาร์ทมันแร่ดหนีตามหญิงอื่น
นู๋บีจะได้ไม่หัวใจสลายจนเจริญสติปัฏฐานมิได้ หุหุ )



อะซิก ๆ ก็ ไอ้โซ๊ยตี๋ มันทะลึ่ง หน้ามืด หลงมาเข้าทางนู๋บี ทำไมล่ะ
นู๋บีก็เรย จับมันมาเป็น หนูทดลอง ยาเสน่ห์ ตำรับใหม่ ของนู๋บี จิค๊ะ
ว่า ถ้าใช้แร้ว นู๋บีจะ หว่านเสน่ห์ อ่อยหนุ่ม ๆ ได้ผล แร้ว สวยแจ่ม
เหมือน ธิดาพญามารตอนออกมาร่ายรำ ยั่วยวนพระพุทธเจ้าไหม อ่ะ แหะ ๆ




แต่ ไม่คิดเรยว่า มันจะทะลึ่ง
มา ล้วงคองูเห่า เอ๊ย มาโก่งคอขันจุ๊ก ๆ จิง ๆ ง่ะ
ฟังแล้ว เล่นเอา หัวใจมันสั่น
พลันต้องรีบบริกรมคาถา ร้องคาราโอเกะ ตอบมันไป ว่า


มธุวา มญญตี พาโลยาว ปาปํ น ปจจติ
ยทา จ ปจจติ ปาปํอถ (พาโล) ทุกขํ นิคจฉติ.



เฮ้อออ ช่างน่าเสียดาย นัก
ที่นู๋บี ไม่มี น้ำผึ้ง จักหั้ยไอ้โซ๊ยตี๋ เป็นของกำนัล
ที่มัน อุส่า ให้เกลียด มาร้อง จุ๊ก ๆ ให้ฟัง
ลูกไป๊ ของ อิหม่ามี๊ ก็เรยต้องคว้ากระป๋องยาเบื่อหมา
มาไล่แจกให้มัน เอาไปขบเคี้ยว แทนอ่ะ เหอ....เหอ....




และ ถ้ามันยังทะลึ่ง มาทำเจ้าชู้ไก่แจ้
ร้องแหย่ จุ๊กกู่ จุ๊กกรู ก๊ะ นู๋บี อีกน้าาาาาา
นู๋บี สาบานว่า จะสำเร็จโทษไอ้พิทบูล ตัวนี้
ด้วย เคล็ดไม้ตีสุนัข แห่งพรรคกระยาจก อ่ะ
หม่ามี๊ว่า ถ้าทำงี้แร้ว ศีลข้อ 1 ของนู๋บีจะถลอกไหมเคอะ ?



เฮ้อออ หรือ จะหั้ย นู๋บี ไปอาราธนา ท่านอุบลวรรณาเถรี
มาเทศนา ให้มันฟังดีว้าาาา มันจะได้เห็น ดวงตาธรรม เสียที
เอ ? แต่จิง ๆ แล้ว เรื่องนี้ อินู๋หน่อไม้ มันก็เคยทำ ไปแร้วนิหว่า
ไอ้ลูกหมาพิทบูล มันก็ยังไม่สำเหนียก เล๊ยยยย
สงสัยมันจะกระโหลกหนาปัญญานิ่ม
และ เจาะยางยากส์แบ่บที่ อิหม่ามี๊ บอกจิง ๆ แฮะ อิอิ



เฮ้อออ งั้น สงสัย นู๋บี คงต้องใช้ไม้ตายส่ง หนังสือเล่มนี้




ไปให้มันอ่านเล่น แล้ว ชวนมัน
เข้าคอร์สปลงอสุภะ เป็นเพื่อนป๊ะป๋าโจ ดีกว่าแฮะ
เผื่อมันจะซาบซึ้งถึง สัจธรรมแห่งชีวิต
เฉกเช่นเดียวกับ พระเรวตะ ซะมั่ง หุหุ


แต่ถ้าหาก ไอ้ตี๋มันอ่านหนังสือเล่มนี้ แล้ว ยังตีโจทย์ไม่แตก
นู๋บี ก็คงต้องบากหน้า ไป อาราธนาพระศรีศากยมุนี
ว่าเอื้อนเอ่ยวจี ชี้ทางสว่าง หั้ยมัน แทน แล้วล่ะมั้ง
มันจะได้เลิก ตามมาร้องจุ๊ก ๆ
จนทำหั้ย คุงแม่ปั๋ว ก๊ะ ทุก ๆ คน เข้าใจผิด เสียที
( เก้าอี้ ลูกไป๊ป๋าโจ ของนู๋บี จะได้ ธำรงอยู่
อย่างมั่นคง ปลอดภัย ไงเจ้าคะ หุหุ )


.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:05:17 น.  

 
 
 
#########################
#########################
ดูกรโมฆบุรุษ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยอเนกปริยาย
เพื่อคลายความกำหนัด ไม่ใช่เพื่อมีความกำหนัด
เพื่อความพราก ไม่ใช่เพื่อความประกอบ
เพื่อความไม่ถือมั่น ไม่ใช่เพื่อมีความถือมั่นมิใช่หรือ?

เมื่อธรรมชื่อนั้นอันเราแสดงแล้ว เพื่อคลายความกำหนัด
เธอยังจักคิดเพื่อมีความกำหนัด
เราแสดงเพื่อความพราก
เธอยังจักคิดเพื่อความประกอบ
เราแสดงเพื่อความไม่ถือมั่น
เธอยังจักคิดเพื่อมีความถือมั่น.


ดูกรโมฆบุรุษ ธรรมอันเราแสดงแล้วโดยอเนกปริยาย
เพื่อเป็นที่สำรอกแห่งราคะ
เพื่อเป็นที่สร่างแห่งความเมา
เพื่อเป็นที่ดับสูญแห่งความกระหาย
เพื่อเป็นที่หลุดถอนแห่งอาลัย
เพื่อเป็นที่เข้าไปตัดแห่งวัฏฏะ
เพื่อเป็นที่สิ้นแห่งตัณหา
เพื่อเป็นที่สำรอกแห่งตัณหา
เพื่อเป็นที่ดับแห่งตัณหา
เพื่อออกไปจากตัณหาชื่อวานะ มิใช่หรือ?


ดูกรโมฆบุรุษ การละกาม
การกำหนดรู้ความหมายในกาม
การกำจัดความระหายในกาม
การเพิกถอนความตรึกอันเกี่ยวด้วยกาม
การระงับความกลัดกลุ้มเพราะกาม
เราบอกไว้แล้วโดยอเนกปริยาย มิใช่หรือ?



ดูกรโมฆบุรุษ องค์กำเนิดอันเธอสอดเข้าในปากอสรพิษที่มีพิษร้ายยังดีกว่า
อันองค์กำเนิดที่เธอสอดเข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามไม่ดีเลย
องค์กำเนิดอันเธอสอดเข้าในปากงูเห่ายังดีกว่า
อันองค์กำเนิดที่เธอสอดเข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามไม่ดีเลย
องค์กำเนิดอันเธอสอดเข้าในหลุมถ่านที่ไฟติดลุกโชนยังดีกว่า
อันองค์กำเนิดที่เธอสอดเข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามไม่ดีเลย.


ข้อที่เราว่าดีนั้น เพราะเหตุไร?


เพราะบุคคลผู้สอดองค์กำเนิดเข้าในปากอสรพิษเป็นต้นนั้น
พึงถึงความตาย หรือความทุกข์เพียงแค่ตาย ซึ่งมีการกระทำนั้นเป็นเหตุ
และเพราะการกระทำนั้นเป็นปัจจัย เบื้องหน้า
แต่แตกกายตายไป ไม่พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก
ส่วนบุคคลผู้ทำการสอดองค์กำเนิดเข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามนั้น
เบื้องหน้าแต่แตกกายตายไป
พึงเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาตนรก ซึ่งมีการกระทำนี้เป็นเหตุ.


#########################
#########################


.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:07:11 น.  

 
 
 
ปล.

นี่แหน่ะ ไอ้เจ้านกเขาคู จุกกู่จุกกรู๊
ลื้อก็อย่าทะลึ่งมาทำเป็นแง้ว ๆ
บ่นน้อยอกน้อยใจ อิเจ้นะเว้ย
ที่ อิเจ้แจก ยาเบื่อหมา ให้ลื้อ กินเล่น
แทน น้ำผึ้ง แลน้ำตาลกรวด น่ะ เอิ๊ก ๆ

แหม ๆ อิเจ้ เปล่าตาถั่ว ชอบมองอะไรมั่วซั่ว
แร้ว ทึกทัก เหมาเอาว่า ลื้อมัน เป็น ชายหื่นหมื่นกาม
(เหมือน ที่อินู๋ฮา ฯ มันด่าเอาปาว ๆ ) น้าาาาาาา
อพิโถ โถๆ นักปฏิบัติชั้นหัวกะทิตัวพ่อ อย่างลื้อน่ะ
จะเป็น อันธพาลระดับลูกกระจ๊อก กระจอก ๆ
อย่างเจ้า นันทมาณพ ได้ยังไงกันล่ะจ้ะ


อิเจ้ขอเอาหัวเป็นประกัน และ การันตี ว่า
ไอ้ตี๋โฮฯ มัน ม่ะช่าย พาโลผู้ฉิบหาย จิง ๆ นะจ๊ะ ทุกทั่น
แต่ว่า ไอ้เวรนี่ มันเป็นเฉกเช่น พญามารเจ้าเล่ห์
ที่แปลงร่างมาเตร็ดเตร่ เพื่อล่อลวงพระเขมาเถรี ว่ะ เอิ๊ก ๆ


แมร่ง ! ทำเป็นเล่นไปนะมรึง ไอ้โซ๊ยตี๋
ถ้า สาวสคราญผู้ไร้เดียงสา อย่างเจ้ป่อง
เกิดใจแตก เลือดกำเดากระฉูด แล้วเคลิบเคลิ้มไหลหลง
ไปตามเสียง จุ๊ก ๆ ของลื้อขึ้นมา จนเจริญสติปัฏฐานมิได้
เด๋วลื้อ ก็อาจจะกลายเป็น มารผู้บาปหนา
แบบที่ถูกจารึกในพระไตรปิฎก ไปเลยนะเว้ย 555



ลื้ออย่าได้ทะลึ่ง มาทำตัวเป็น คนชอบอ่อย
แล้ว หว่านเสน่ห์เรื่อยเปื่อย แบ่บ อิเจ้ เด่ะ (ภูมิกึ๋นมันผิดกันว้อย)
ไอ้เรื่องอ่อยแบ่บไร้สาระพวกนี้
มันเป็นปกติวิสัย ของ สตรีเพศ ก็จริงอยู่
แต่ถ้า ผู้ชายจะมาทำเลียนแบบ นี่... มันไม่งามนะยะ
ดังนั้น ลื้อจึงควรวาง อิเจ้ป่อง ไว้ในที่อัน ควรอยู่
วางไว้ใน ตำแหน่งของ ปู ชะนี ยะ บุคคล ผู้สูงจนสุดสอย
ที่ลื้อต้องคอย เซ่นไหว้บูชา ไปตราบชั่วลูกชั่วหลาน
ไม่ใช่ มาทำไก่กา หยอดคำหวาน เจ้จ๊ะ เจ๋าจ๋า
แล้ว ขันจุ๊กกู่ จุ๊กกรู ๆ ให้ตรูฟังโว้ย



และ ถ้าลื้อ เข้ามาแอบดู
ในสุสานโบราณแห่งนี้แล้ว
ก็นับว่า เรายังมีกรรมต่อกัน
ขอลื้อจง แหกเนตรดูข้อความ
ที่ อิเจ้จะโพสไว้ ให้อ่าน
ณ บรรทัดข้างล่างนี้ด้วยนะจ๊ะ ไอ้โซ๊ยตี๋
ลื้อ จะได้ ทะลุธรรม ซะที



ดูกร ในฐานะที่ ความสาว ความขาว ความสวย และ ความแจ่ม แห่งข้าฯ
มันเท่ห์ ซะจนไปกระแทกตา แล้วเป็นเหตุหั้ย ท่านอดใจไม่ไหว
ต้องหน้ามืดมาโก่งคอร้อง จุ๊ก ๆ ถึงในสุสานโบราณแห่งนี้
ข้าฯ ก็คงต้อง ยืดอกแสดงความรับผิดชอบต่อท่าน
ด้วยการ เล่นบท อึ้งย้ง สอน เจ้าจิวแป๊ะทง เขย่าเต๋า
เพื่อ ให้ทั่นเอาไปใช้ปลงอาบัติ อีกจั๊กดอกส์ สองดอกส์ นะจ๊ะ ทูนหัว


อืม...จงจำไว้น้าาาาา
พ่อเฒ่าทารกที่ร้ากกกกก


สามสิ่งในโลก
ที่ บุรุษ จักต้อง พึงระวัง

อำนาจ อิสตรี
อำนาจ อสรพิษ
และ อำนาจแห่งอารมณ์


ชะตากรรม ของพระสุทินน์ กลันทบุตร นั้นเป็นไฉน
และ ใครกันหนอ ที่ สามารถ ตัดวงปฏิจฯ
หลุดจากห้วงทุกข์แห่งชีวิต ได้สำมะเร็จก่อนกัน
พีชกะ , พีชกะมาตา หรือว่า พีชกะปิตา ?
ลื้อจะเลือกเดินตามรอยเท้าใคร ก็ตามใจลื้อเถิดหนา



เฮ้อออ ลื้ออาจจะเลี่ยงบาลี
แล้ว เถียงแบบเดิม ๆ บอกว่า
เจ้ หยิบ พุทธวจนะ มาใช้ ผิดคน ผิดที่ ผิดทาง

อั้วเป็นเพียง คฤหัสถ์ ถนัดแต่ถือศีล 5 ในฮาเร็ม นะจ๊ะ
มิได้ถือศีล 227 เป็น สมณะเพศ แบบ พระสุทินน์กลันทบุตร ว้อยยยย





มันก็จริงของลื้ออ่ะนะ
เพราะขนาดนักเขียนโซดาปั่น หรือ นางวิสาขา
ยังไม่มีปัญญา ดิ้นหลุดออกจากแร้วเสน่หา ได้เลย นิหว่า
แต่ เจ้คิดว่า ลื้อน่าจะเจ๋งกว่า สองคนนั้น ว่ะ ( เอ๊ะ หรือว่า ตรูคิดผิดวะ ฮา ๆ )
แหม ก็เห็น แพล่ม ๆ เอ๊ย เผยแผ่ธรรม หั้ยชาวบ้าน ใน ลธมจ.
แอนด์ ฝึกฝนปฏิบัติตน มาก็ตั้งหลายปี นินะ
ไงก็ อย่าได้ ใจแตก จน เสียเปล่า นะว้อยยยย
ขันธ์ 5 ที่ตัวเองแบกไว้บนหัวนี่ มันยังไม่หนัก พอหรือไงกันจ๊ะ
ถึงต้อง มาขันคู ร้อง จุ๊ก ๆ หา ขัน ใบที่ 6-7-8-9-10 มาแบกเพิ่ม อีกน่ะ
ระวังนะ แบกของหนัก ไว้บนหัวมาก ๆ งี้ คอจะหักได้นะจ๊ะไอ้ตี๋ เอิ๊ก ๆ




อนึ่ง เจ้ขอ อนุญาต เตือนลื้อ ให้สำเหนียก
ถึงพิษภัยของ มาตุคาม อีก เป็นครั้งที่ 500 ว่า


ดูกรโมฆบุรุษ องค์กำเนิดอันเธอสอดเข้าในเต้าเสียบปลั๊กไฟยังดีกว่า
อันองค์กำเนิดที่เธอสอดเข้าในองค์กำเนิดของมาตุคามไม่ดีเลย






หวังว่า ลื้อ และ ผู้สืบเชื้อสายของเจ้าอดัมส์ทุกคน
อ่านแร้วคงจะเก็ท จนเห็นดวงตาธรรม
กับ มหันตภัย จาก มาตุคาม นะจ๊ะ ทูนหัวววว
และหาก อยากจะ ลองของ ก๊ะ เหล่า มาตุคาม จิง ๆ
เจ้ แนะนำว่า พวกพูชายทั้งหลาย ควรจะไป จุ๊กกรู
กับ พวก มาตุคามข้ามเพศ น่าจะเกิด มรรคผล กว่าจร้าา
เพื่อ ฟามปลอดภัยในชีวิตแลทรัพย์สิน เอิ๊ก ๆ



เฮ้ออ แบ่บว่า อิเจ้ป่อง ม่ะอยากหั้ย ไอ้ตี๋ของเจ้
ต้องมาชักแหง่ก ๆ เพราะถูกพิษร้าย ของมาตุคามพันธุ์ดั้งเดิม
หรือ มีชะตากรรมเฉกเดียวกับ เจ้าแมลงมุมผู้ตกไปยังใยที่ตัวเองทำ อ่ะจ้ะ
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ของงี้มันขึ้นอยู่กับ
วาสนา และ บารมี และ ภูมิกึ๋น ที่สั่งสมมา ว่ะ
ไอ้ตี๋ซื่อบื้อ อย่าง ลื้อ มิใช่ แมงมุมแม่ม่ายดำผู้มีภูมิกึ๋น แบ่บอิเจ้นี่หว่า
หากจะพล่ามสอนหั้ย ลื้อเจริญรอยตาม ทั่น เขมาเถรี
แบ่บที่อิเจ้กะลัง คิดการใหญ่ (เตรียมวัดรอยตรีนทั่นเขมา )อยู่นั้น
มันคงจะเกินกำลัง ของไอ้ตี๋ตัวเล็ก ๆ อย่างลื้อว่ะ
อย่างว่าแหล่ะนะ แข่งเรือแข่งพายน่ะแข่งได้
แต่แข่งบุญแข่งวาสนา นี่เหนื่อยเปล่านะจ๊ะ ทูนหัววว โฮ่ โฮ่ ๆ








เอ้า คลิปอันนี้แถมมมมมมม จร้าาาา
เผื่อว่า แควนคลับทู๊กทั่นจะเอาไปเปิด
ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ฟัง เพื่อเป็นธรรมทาน
( แหม ? นี่ถ้าไม่เป็นเพราะ ยังเอ็นดูหนุ่ม ๆ ในโลกนี้ อยู่ อ่ะนะ
อิเจ้นู๋บี คงโกนหัวออกบวชแบ่บ ทั่นเขมาฯ ไปแระ อิอิ)


//www.youtube.com/watch?v=6Mk05Q6r2yw


.



.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:11:04 น.  

 
 
 

---------------------------------------------
อิหม่ามี๊ ว่า ....

เรื่องน้องน้ำ ก็ยังไม่มาที่บ้านเจ๊ เรย ง่ะ
สงสัยน้องน้ำมัวแต่ไปชีอปปิ้งที่เดอะมอล์ลท่าพระอยู่มั้ง
แถวบ้านเจ๊ยังเงียบกริีบบบบบ
แต่ถ้าน้องน้ำจะละเว้นแถวบ้านเจ๊ไว้กระหย่อมหนึ่ง
ก็จะไม่ว่าน้องน้ำซักคำ แบบว่าไม่ต้องให้เกียดมาเยี่ยม
ถึงหัวบันไดบ้านก็ได้ นะคร้าน้องน้ำขรา
++++++++++++++++++++++
นู๋บีว่า....


อืม...ตอนนี้ น้องน้ำคงแห้งเหี่ยว
แล้วเลี้ยวไปหาพี่ทะเล ใกล้จะหมดแระมั้ง
เสียใจ ก๊ะอิหม่ามี๊ ด้วยน้าาาาา
ที่ไม่อยู่ในสายตาของ น้องน้ำ
เรย ตกเทรนด์ อดได้รับเกียรติ
ให้เป็น ผู้ประสบอุทกภัย เยยย อิอิ




เออ นี่ ๆ นู๋บีมีโอกาส ได้อ่าน

รักในรอยน้ำ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=noothan&month=28-10-2011&group=104&gblog=16


แล้วก็อมยิ้มแฮะ แหม๊ คนแต่งนี่มันเจ๋ง จิง ๆ เรยอ่ะ
เข้าใจ เอาสถานะการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานเรื่องน้องน้ำ
มา รีเมค ใหม่ ในมุมมองแสบ ๆ ขำๆ
ช่วยทำให้คลายเครียดไปได้เหมือนกัน


แต่บางคน อ่านแร้วก็ดันไมเกรนกำเริบเครียดหนักกว่าเดิมแฮะ
เห็นบางคนไปตั้งกาทู้บ่นเป็นหมีกินผึ้งอยู่แถวพันติ๊ป อ่ะ
เฮ้อออ ของงี้ มันก็ นานาจิตตัง เน๊าะ
เราคงไปช่วย เจริญสติปัฎฐาน แทนใครไม่ได้
กมฺมุนา วตฺตตี โลโก กุ๊ก ๆ อิอิ



อืม...เรื่อง มหากาพย์น้องน้ำ เอาคืน พี่กรุง เนี่ย
อิฉันชอบ ตอน จดหมายจากคนข้างบ้าน..
ที่ลุ้นเรื่องน้องน้ำ มากที่สุดนะ
โดยเฉพาะตอนที่บอกว่า อิคนข้างบ้าน
มันฟิวส์ขาด ด่าอิน้องน้ำ ซะน้ำหมากกระจาย อ่ะนะ

แกนี่มัน ยิ่งกว่า นังทองประกายแสด แรดไม่สร่าง
เถอะ..ดูท่าน้องทราย ผู้อดทนจะสู้ไม่ได้
ก็ขอให้แกรีบมาครอบครองคุณกรุง
รีบเบื่อ แล้วกลับไปหาคนที่เหมาะสมอย่างแกแบบพี่ทะเลเถอะ
นั่นนะ คู่แท้ของแกแล้ว..ได้โปรดดด
คนข้างบ้านขอร้อง Pleaes



อะโหยยยยย เขียนได้โดนใจ อ่า
อ่านแร้วหงายเงิบ ฮามากมายยยยยยยยยย 555555555555



เออ พูดถึง เรื่องน้องน้ำ ต่ออีกจิ๊ดนุงส์
รู้สึกว่า ที่ น้องน้ำ มาอาละวาด หนนี้
ทั่วทุกจังหวัดจาได้ อานิสงค์ แบ่บถ้วนทั่วเรยแฮะ
ตอนที่ น้องน้ำแร่ด ๆ มาระริกระรี้
แถวเขตอำเภอที่อิฉันอยู่
ตอนแรกก็เล่นเอาลำบากพอดูเรยอ่า


ก็ไม่ได้ลำบากเพราะน้ำท่วมหรอกนะ
แต่ลำบากเพราะ ไม่มีจะแหลก
เหมือนที่ ไอ้โซ๊ยตี๋มันเคยบ่น นั่นแหล่ะ
ยิ่งอิฉันมันพวกอาศัย แกงถุง ที่ตลาด
ก๊ะ อาหารตามสั่ง เป็น สรณะ ด้วย ยิ่ง ซรวยลิ่ว
มีเงิน แต่ก็หาอาหารมากิน ไม่ค่อยจะสะดวกเล๊ยยย
แม่ค้าแม่ขายหายเกลี้ยงเพราะน้ำท่วมตลาด



จำได้ว่า ช่วงน้ำท่วมที่อำเภอ
เช้าแรกที่แม่ค้าไม่มาขายแกงถุง ที่โรงบาล
ก็อาศัย อาหารญี่ปุ่น ( มาม่า ) ที่ตุนไว้ ประทังท้อง
แต่ดันชะล่าใจ กะปริมาณการกินผิดพลาด ไปหน่อย
ไม่ยอมต้มมาม่ากินมื้อเป็นเที่ยง เพราะเบื่อเมนูซ้ำซาก
ตกเย็น กรดเรยหลั่งซ้า เล่นเอาต้องรีบแหกศีลข้อวิกาลโภชนาฯ แทบไม่ทัน
( ขืนยังทู้ซี้ถือศีลข้อนี้ต่อไป กระเพาะกรูทะลุแน่ ๆ เอิ๊ก ๆ )



แถม คนรับจ้างซักผ้าเจ้าประจำ ก็น้ำท่วมบ้าน
ไม่มารับผ้า ตั้ง สองอาทิตย์
ไอ้เราหรือก็ขี้เกียจซักผ้าอยู่แร้ว
แถมฝีมือรีดผ้าก็ห่วยขั้นเทพ
เล่นเอาแทบจะแก้ผ้าไปทำงานเลยนะนั่น
กว่าจะไปควานหา คนมาซักแทนได้ อิอิ




แต่เรื่องที่แพล่ม ๆ มานี่
ก็ม่ะช่ายเรื่องที่ ทำให้วิตกจริต ที่สุด หรอกนะ
เรื่องที่ ทำให้ อิฉันเดือดเนื้อร้อนใจที่สุด
ดั๊น กลายเป็น เรื่อง กัวน้องน้ำจะท่วมร้านทอง ในตลาด ซะนี่
กัวว่า เด๋ว กิจกรรมเก็งกำไรจากน้องทองม้วน
ของอิฉัน จาเจ๊งบ๊ง อ่ะดิ แหะ ๆ
ถึงทองมันจะไม่ละลายหายไปกับสายน้ำ
แต่ถ้าน้ำท่วมจนไม่มีลูกค้าเข้าร้าน แล้วร้านมันปิด
นี่ก็ติดต่อทำธุรกรรม ด้วยลำบากชะมัด




อิอิ เนี่ย คิดแล้ว ยังนึกขำไม่หายเลยอ่ะ
ตอนที่น้ำท่วมกรุงเทพหนัก ๆนั้นน่ะ
แทนที่อิฉันจะไปห่วง พี่สาวในไส้ที่อยู่แถวฝั่งธนฯ
ดั๊นทะลึ่งไปนั่งเป็นห่วงเป็นไย
ไอ้พวกอาเฮียร้านขายทองแถวเยาวราช
ที่ไม่ใช่ญาติโกโหติกา ซะงั้น


แถมยังบอกชาวบ้าน เหย็ง ๆ ประมาณ ว่า


พี่สาวมันโตแระ ไงเด๋วมันก็คงปากกัดตรีนถีบ
เอาตัวรอดเองได้ เองแหล่ะนะ
ไม่รู้จะห่วงมันไปทำไม
แต่ถ้าเยาวราชเป็นอะไรไป นี่ดิ
อะโหยกิจการเก็งกำไรจากน้องทองม้วนของตรู
คงกู่ไม่กลับ จนถึงกาลอวสานแหง๋ ๆ


ดังนั้น น้องน้ำช่วย ละเว้น เขตเยาวราช
และ จตุจักร ( ไว้ให้ตรูไปช้อปปิ้ง ด้วยเต๊อะ )
นอกนั้น น้องน้ำ อยากไปเยี่ยมตรงกระหย่อมไหน
ก็เชิญไปได้ตามใจชอบเทอญ ฯลฯ เหอ ๆ




เฮ้ออออ ... จะว่า น้ำท่วมหนนี้ ก็ทำได้เห็น
ความไม่เอาไหน ในการปฏิบัติ ของตัวเอง มากขึ้นนะ
โดยเฉพาะ ในเรื่องของ ความโลภมาบังตา น่ะ
อืม...ในบรรดาอารมณ์ทั้งหลาย ทั้ง รัก โลภ โกรธ หลง เนี่ย
สำหรับอิฉันแล้ว รัก กับ โกรธ ถ้าเกิดแล้ว
จิตมันจะ รู้สึกตัว ถึงอารมณ์ที่มากระทบเหล่านี้ได้ไว
แล้วก็ บริหารจัดการ เขี่ยอารมณ์พวกนี้ทิ้งได้ค่อนข้างง่าย นะ
แต่ หลง( ตัวเอง ) กับ โลภ นี่ รู้สึกตัวช้ามาก
แล้วก็ตัดอารมณ์พวกนี้ได้ยากส์อิ๊บอ๋ายเรย



ยิ่งโดยเฉพาะ เรื่อง ความโลภ เนี่ย
โอกาสจะเกิดเหตุปัจจัย ให้เจอ สภาวะงั้น มันไม่ค่อยมีอ่ะ
จนกระทั่งมาร่วมหอลงโลงก๊ะ อิน้องทองม้วน นั่นแหล่ะ
อะโหย ทั้งติดดอย ขายหมู ตกรถ รี่มาทดสอบ
เห็น เจ้าตัวโลภะ โผล่มาให้เห็นแพลม ๆ
แทบทุกครั้ง ที่เชคดูกราฟเรียลไทม์ เรยมั้ง อิอิ



เนี่ย ถ้าไม่มี สถานการณ์ อุทกภัย มาทดสอบ
ก็คงจะยังไม่ค่อยได้ตะหนัก หร็อกว่า
ตัวเองนั้น ยังเป็น นักปฏิบัติไม่เอาถ่าน มากแค่ไหน
นับว่า การมาเยือน ของน้องน้ำ หนนี้
นี่ก็ช่วยทำให้ ตาสว่าง และเห็น อะไร ๆ
ขึ้นมาแยะ เรย เอิ๊ก ๆ





อืม...ไอ้น้อง ด. เด็กในฮาเร็มอิฉันมันบ่นอย่างเหลืออด
เรื่อง ที่มันไปออกหน่วยช่วยเหลือชาวบ้านที่ถูกน้ำท่วม
แล้วเจอกับประสบการณ์ที่ไม่น่าประทับใจ
เมื่อ ผู้ประสบภัยโวยวายที่ ข้าวกล่องที่เอาไปแจกมีให้ไม่ทั่วถึง
แถมยังมีบางคนก็ไม่ยอมเอาหลัก ความพอเพียง
มาใช้ในการ รับของที่มารับบริจาค
อันไหนเอามากักตุนได้ ก็รีบกั๊กไว้



มัน บ่นประมาณ ว่า
ขนาดคนแก่วัย หกสิบกว่า ๆ บางคน
ยังมาต่อแถวเข้าคิวเอา ผ้าอนามัยที่เอาไปบริจาคเลย
ทั้ง ๆ ที่ดูจากสภาพแร้ว ยายแกคงไม่มีประจำเดือนแระ



อิฉันก็ อุส่าห์ ปลอบใจมันว่า
เฮ่ย เค้าคงเอาไปฝากลูกสะใภ้ มั้ง
ไม่งั้น อิยายนั่น มันก็เป็นสาวสองพันปี
เลือดลมยังดี เรยมีเมนส์ อยู๊


แต่ ไอ้น้อง ด. มันก็ยังทำท่าละเบื่อ
กับ พฤติกรรมละโมบของชาวบ้าน ที่มันพบเจอมั้ง
เรยเปรย ๆ ออกมาประมาณว่า


เนี่ย ผมเห็นสภาพ คนไทยที่กระเหี้ยนกระหือ
แย่งกันมารับของบริจาคแล้ว
ผมก็นึกถึง คนญี่ปุ่น ตอนเกิด สึนามิ อ่ะ
คนของเขาต่อคิวรับของบริจาค อย่างมีระเบียบวินัยมาก
นี่ถ้าบ้านเราเกิด สึนามิ เหมือนญี่ปุ่น ถ้าจะดูไม่จืดแหง๋ ๆ


ฟังแล้วก็ได้แต่ขำ ๆ ปลง ๆ
เรยบอกมันไป ประมาณว่า

เฮ้ยยยย อย่าเอา คนไทย
ไปเปรียบเทียบกับ คนญี่ปุ่น เล๊ยยย
ไอ้ ด. เอ๊ยยย มันคนละเกรด กั๊น
อย่างพี่ไทยอ่ะ ต้อง เอาไปเปรียบกับ เฮติ ดีกว่าว่ะ
มันถึงจะสมน้ำสมเนื้อกันหน่อย เหอะ ๆ



อิอิ พูดแร้ว ก็นึกถึง ดราม่า นี้ว่ะ 555

//drama-addict.com/2011/03/16/ญี่ปุ่นมีวินัยคนไทยก็ม/


อ้อ อันนี้ เอามาฝาก จร้าาาาา
กาทู้ โดนใจ ช่วงน้ำท่วม
อภินันทนาการ จากเวบ คุณจ่า อิอิ

//drama-addict.com/2011/11/19/แสนเสียดายที่รถพัง/

//drama-addict.com/2011/10/25/หากถูกถามว่าบ้านน้ำท่ว/

//drama-addict.com/2011/10/26/จอดรถหนีน้ำ/

//drama-addict.com/2011/11/22/เราชาวดอย/

//drama-addict.com/2011/11/19/แสนเสียดายที่รถพัง/



และ ไอ้นี่แถมมมมมม


//www.oknation.net/blog/Koikonthai/2011/11/11/entry-2





อืม...เวลาเห็นคนเดือดร้อนเพราะน้ำท่วม
บางครั้งก็สงสาร แกม แปลกใจนะหม่ามี๊
นึกสงสัยตะหงิด ๆ ว่า
คนเหล่านั้น ทำ กรรม อะไรมากันหนอ
ถึงต้องมาตกระกำลำบากเยี่ยงนี้ ?
ในขณะที่ คนบางคน ( อาทิเช่น อิฉัน )
กลับไม่เคยต้องมาสัมผัสกับความทุกข์ยาก แบบนั้นเลย
เวลาชาวบ้านเกิดภัยพิบัติ น้ำท่วม ฝนแล้ง ฯลฯ
ถ้า อยู่ในสถานที่เดียวกัน อิฉันก็มักจะ ล้มบนฟูกเสมอ



ยิ่งเห็น คนร้องห่มร้องไห้
เสียดายข้าวของที่ถูกน้ำพัดไป
ก็ยิ่งสงสัย คนเรา ตอนเกิดมา
มันก็ไม่มีอะไรติดตัวมาด้วยอยู่แล้ว
นอกจากลมหายใจ กับ ชีวิต
หากน้ำท่วมครั้งนี้ มันจะพัดพา
เอาทุกสิ่งทุกอย่างไปจากเรา
แล้วทำไมเราจะต้องทุกข์กับมันด้วยวะ ?


นอกจากนี้ ยังมีข่าว ผู้ประสบอุทกภัย

ขึ้นไปยื้อแย่งของบนรถบริจาค
กับข่าว ทุบกระจกร้านเซเว่น
เพื่อเอาอาหารข้างในร้านมากิน

ข่าวคนกรูเทพ ถลกแขนเสื้อ
เตรียมจะตบตีกันเรื่องรื้อบิ๊กแบ๊ค


เห็นแล้วก็สะท้อนใจ รู้สึก แปลก ๆ ไงพิกล
กับ สัญชาตญาณการเอาตัวรอดของ สิ่งมีชีวิตที่เรียกว่าคน
ยังนึกสงสัยตะหงิด ๆ หาก เราต้องตกอยู่ในฐานะผู้สูญเสีย
มีสภาพจนตรอก เช่นเดียวกับคนเหล่านั้น
ถ้าไม่มีฟูก ให้ล้มลงไปนอน แบ่บที่เป็นอยู่


เราจะ ทำใจ ยอมรับกับ ยถาสภาวะ เหล่านั้น ได้หรือไม่ ?
แล้ว สัญชาตญาณการเอาตัวรอด ของเรา
มันจะผุดขึ้นมาอยู่เหนือความถูกต้องชอบธรรมไหม ?


ถ้า รถอิฉัน มันเสี่ยงที่จะจมน้ำ
อิฉันจะเข็นรถตัวเอง ขึ้นไปไว้บนทางด่วนหรือเปล่า


ถ้าหิวจนไส้กิ่ว ไม่มีอะไรจะแดร่ก
อิฉันจะหน้ามืด แหกศีลข้อ 2
ต้องทุบกระจกร้านเซเว่นฯ
ขโมยหนมจีบซาลาเปา
มานั่งแทะ ไหมเนี่ย ?


หรือ ถ้า ต้องทนอยู่กับน้ำเน่า ในนานเป็นชาติ
อิฉันอาจจะ เฮโล ไปร่วม แจม ด้วยช่วยรื้อ แนวบิ๊กแบ๊ก ไหม ?
หรือว่า จะ แอบไปร้องไห้ อะซิก ๆ ทื่มุมห้อง
แร้วบอกว่า ศรีทนด้ายยยยย ? ล่ะหว่า ?


เฮ้อออ ถึงตอนนี้ อิฉันก็ไม่แน่ใจในคำตอบ
ที่จะบอกกับตัวเองเหมือนกัน นะ
แต่ สมัยตบตีก๊ะ อีเกิด ฯ ที่พันติ๊ป
อิฉันเคย บอกมันเหย็ง ๆ ว่า


หนทางพิสูจน์ม้า กาลเวลาพิสูจน์คน อ่ะ


อืม....ดังนั้น ถ้า ถึงเวลา คงรู้เอง แหล่ะ มั้ง
ว่า อินู๋แมรี่ นั้นไซร้ เป็น อิไก่อ่อนสอนขัน
หรือว่า เป็น ตัวพ่อตัวแม่ ในเส้นทางสายปฏิบัติ หุหุ









เออ แต่ก็มีเรื่อง ขำ ๆ ที่มากับ น้ำท่วม ด้วยนะ
จำได้ว่า ตอนเกิด น้ำท่วมที่ อำเภอ ใหม่ ๆ
ชาวบ้านบางส่วน ก็อพยพมาอาศัย อยู่ที่ รพ.
อิฉันเห็นคนพวกนั้น อยู่ไปวัน ๆ ไม่มีอะไรทำ ช่วงรอน้ำลด
เรยพูดติดตลก บอกกับน้อง ๆ ในห้องยาว่า
เราน่าจะ เปลี่ยนวิกฤติ เป็น โอกาส
หา อะไรไปให้ชาวบ้านทำ แก้ง่อม
จะได้ไม่เฉาตายเพราะฟามเซ็ง
อาทิเช่น เอายาไปให้นั่งแพค
หรือไม่ก็ สอนให้พวกเค้าหัดนั่งสมาธิเจริญสติ
แล้วถ้าจะหั้ยแหล่ม เก๊าะชวนชาวบ้าน ถือศีลหก มันซะเรย
จะได้ประหยัดข้าวปลาอาหารไปด้วย ได้ปฏิบัติธรรมไปด้วย เอิ๊ก ๆ
แหม? ไหน ๆ ช่วงนี้ก็ไม่มีอะไรทำอยู่แระนิ อิอิ
มีอะไร ให้ทำซะมั่ง จะได้ ไม่ฟุ้งซ่านคิดมากไง



ส่วน พระอาจารย์จอมเฮี้ยบ แห่งวัดป่า (ที่อิฉันเคยเล่าหั้ยอิหม่ามี้ฟัง )
ขานั้นก็ ไอเดียกระฉูด เตรียมจะเปิด สำนักสงฆ์ หั้ยเป็นศูนย์อพยพ
พร้อมกับ เตรียมจะชักชวนชาวบ้านที่มาขออาศัยในวัด
ให้ฝึกปฏิบัติ สวดมนต์ ไหว้พระ เป็นสันทนาการ
ทั่นหมายใจว่า น้ำท่วมหนนี้ อาจจะโชคดี
เจอ เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน
แต่ปรากฏว่า ไม่ยักกะมีใคร ไปอาศัย
หลบน้ำท่วมที่วัดทั่นเรยอ่า
สงสัยว่า กลัวจะโดนทั่น เจียระไน ฮา ๆ
แต่ก็อย่างว่า ล่ะนะ วัดป่านิ อัฐบริขาร
และ เครื่องความสะดวกสบาย มันน้อยนิด
ใคร ๆ เขาก็คงไม่คิด อยากจะไปอาศัยพักพิง หรอกมั้ง
สู้ไปพัก วัดบ้านที่มีทั้ง วิทยุ สเตอริโอ โทรทัศน์ พัดลม น่ะ เข้าท่ากว่าแยะ


ส่วน บางคน อย่างพี่ อ. ห้องแล็บนั่นก็ ชอบหั้ยน้ำท่วม ว่ะ
เพราะ พอมีคน มาขออาศัยอยู่ที่บ้านเนี่ย
ชาวบ้านพวกนั้น ก็คงจะ ง่อมมั้ง
เรย ทั้ง ช่วยปัดกวาดทำความสะอาด บ้านพี่แกหั้ย
จนสะอาดเอี่ยมเรี่ยมเร้ ยิ่งกว่า ตอนพี่แก อยู่เอง ซะอีก
( แกยังบอก เรยว่า อยากจะให้น้ำท่วมสักหกเดือน เอิ๊ก ๆ)




อืม...แต่จะว่าไปช่วงที่เกิดน้ำท่วม แถว อำเภอ ที่อิฉันอยู่
ก็ถือว่า โชคดี กว่า ในกรุงเทพ นะเจ้
เพราะ คน ตจว. น่ะ ส่วนใหญ่จะอยู่อาศัย กัน แบบพี่แบบน้องน่ะ
เวลามีอะไร ก็เลยมักจะ ถ้อยที่ถ้อยอาศัยกัน
ไม่ใช่ ตัวใครตัวมันแบบคนกรุงเทพ
นี่ ตอนน้ำท่วมกรุงเทพ อิฉัน ยังสงสัยอยู่เล๊ยยย
สังคมชาวกรุงที่มีวิถีชีวิตแบ่บต่างคนต่างอยู่
ขนาด บ้านข้าง ๆ ยังไม่เคยรู้จักชื่อกันเนี่ย
เวลาเกิด อุทกภัยงี้ คงจะวุ่นวายพิลึก


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:13:46 น.  

 
 
 
-----------------------------------------------
อิหม่ามี๊ ว่า....

ทีนี้ มันมีอยู่วันนึง แปล๊กแปลก เหมือนอาการโลกแตก
คือมันดันนอนไม่หลับ หลับตานอนนะ แต่มันรู้ตัวตลอด
แร้วก็เริ่มเกิดอาการ หลอนนนนน รับประทานนนนน


คือ มีสติแป๊บๆ แร้วมันก็ค่อยๆเบลอๆๆๆ แร้วก็มาชัดอีก สลับไปมา
รำคาญตัวเองมาก เห็นตัวเองเหมือนคนปัญญาอ่อนมากมาย

แถมใจนะ มันยังออกไปไหนอีกก็ไม่รู้ เฮียโจ โกร๊ธโกรธ
บอกว่าอย่าส่งใจออกนอก แต่ใจมันไม่ฟัง ง่ะ มันจะลอย
ไปหาใครก็ไม่รู้ (ไม่รู้เจงๆนะ ว่าใจมันไปหาใคร) โดนด่าอีก


แต่ที่แปลกมวากกกกก คือไม่มีน้ำตาออกซักหยด
ปกติเป็นคนต่อมน้ำตาแตกง่ายๆ เรยนะ
แต่ตอนนั้นขนาดอยากร้องยังร้องไม่ออกเรย ง่ะ
แถมยังแปลกใจตัวเองว่ามันเกิดอะไรขึ้น วะเนี่ย
นี่มันเรื่องไรฟระ โดนตีก็ไม่ร้อง
เห็นน้องฮาร์ทร้องไห้ ก็อยากร้องแต่มันไม่มีน้ำตา
อยากให้กลับเหมือนเดิมก็ทำไม่ได้
นอนไม่หลับนี่เป็นอยู่ 6 วันได้


สิริรวม น้ำหนักหาย ไป 8 กิโลได้
ลางานไป 15 วัน ป่วยยาว
หมอบอกว่าเป็นโรคเครียด เรยนอนไม่หลับ
ดีที่หัวหน้าเข้าใจ ก็เรยยังไม่โดนไล่ออก (อิอิ)


ตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะบร้าระห่ำตามใจตัวเองแระ
สงสารลูก เจงๆ แระก็สงสารปั๋ว ด้วย
ต้องคิดถึงคนอื่นให้มากๆ
มากกว่าคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง
แระต้องให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว
อย่าเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่าครอบครัวของตัวเอง
เราเราไม่ได้เป็นคนอิสระ
ยังมีห่วง มีภาระ ที่ต้องดูแลและคำนึงถึง


เนี่ย ปัจจัตตัง ที่โดนหลอนมา
เห็นจริง อะไรจริง แต่มันไม่จริงก็มีนะ
แต่เราปฏิเสธความไม่จริงนั้นไม่ได้
เพราะใจมันไม่เห็นสัจธรรม ใจไม่เห็นความจริง
มันก็เห็นเป็นหลอนๆ ไป
กลายเป็นหลอนรู้ว่าหลอน
แต่สลัดหลอนไม่หลุด
รู้ว่าไม่จริงแต่ทำอะไรไม่ได้
จนกว่าใจมันเห็นว่าไม่จริงของมันเอง


เล่าเท่าที่เล่าได้นะ ไม่เคยเล่าให้ใครฟังเรยนะ อ๊ายอาย

++++++++++++++++++++++++++++++




นู๋บี ว่า ....

อืม....ไม่เห็นจะน่าอาย เยยอ่า อิ หม่ามี๊ ขราาาา
อ่านที่ บอกว่า

ตอนนี้ก็ไม่ค่อยจะบร้าระห่ำตามใจตัวเองแระ
สงสารลูก เจงๆ แระก็สงสารปั๋ว ด้วย
ต้องคิดถึงคนอื่นให้มากๆ
มากกว่าคิดถึงแต่เรื่องของตัวเอง
แระต้องให้ความสำคัญกับคนในครอบครัว
อย่าเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่าครอบครัวของตัวเอง
เราไม่ได้เป็นคนอิสระ ยังมีห่วง มีภาระ ที่ต้องดูแลและคำนึงถึง



นู๋บีก็รู้สึกว่า จิง ๆแร้ว อิคุงนายเน่า
มันก็ไม่ได้เป็นอิอ่อนสอนขัน หรอกน้าาาาา
อย่างน้อย การสลัดคราบ คนสวยใจด๊ำดำ ออกจากตัว
แล้ว มีแก่ใจนึกถึงลูกนึกถึงปั๋ว
มากกว่าจะคิดถึงแต่เรื่องของตัวเองได้แบบนี้
ก็ถือว่า เจ๋งแระ อย่างน้อย ๆ ยกนี้
นางซิน ก็ชนะ อิแม่มดแหล่ะ เน๊าะ5555



อืม... แต่ อ่าน ประสบการณ์หลอนแบ่บโชกเลือด
ของ อิอ่อนนอกอ่อนใน อ่อนไปหมดทั้งตัว
แร้วก็ได้แต่มานั่งขบคิดแฮะ
ว่า เหตุปัจจัยอันใดหนอ
ที่ทำหั้ยเกิดเรื่องประสาทแดร่ก เอ๊ย สติแตก
ก๊ะ แม่ปั๋วของนู๋บี ด้ายยยย



เอ๊ ? เจ้ากรรมนายเวรมาทวงหนี้แค้น ?
ฤา มันจักเป็นอาการระยะเริ่มแรก
ของ สตรี วัยทอง ล่ะหว่า ? อิอิ
อืม...คิด ๆ แล้วก็ชักเป็นห่วง ป๊ะป๋าโจ ว่ะ
ไงก็ฝาก อิหม่ามี๊ ไปปลอบปะป๋าโจ โตย
ว่า ป๊ะป๋า ต้องพยาม ทำจัย หั้ยได้น้าาาาา


อัน สิ่งมีชีวิตจากดาวศุกร์ เนี่ย
ถ้า อายุเกิน 30 แร้ว มันก็ต้องมีโอกาส
เกิดอาการ ฮอร์โมนกระพร่องกระแพร่ง ได้
ตามวัย ( และ ตรีนกา ) เป็น ธรรมดา อ่า อิอิ
เนี่ย นู๋บีเองก็เคยเป็น จร้าาาา
โดยเฉพาะช่วงใกล้เป็นเมนส์นะ
อ่ะโหย สติแตก ยิ่งกว่า อีสมทรงอีกมั้ง
ถึงขนาด ต้องกำชับ อิชายที
กับพี่ที่ทำงาน เหย็ง ๆ ประมาณ ว่า


เฮ้ย ถ้าเห็นอิเจ้นู๋บี มันถือโป๊ยเซียน
ขึ้นมาจ่อที่ตะหมูกเมื่อไร
ห้ามไปเจ๊าะแจ๊ะ เกาะแกะ
และ ประจ๋อประแจ๋ ก๊ะ อิเจ้ เด็ดขาด
มิฉะนั้น มรึง อาจโดนขย้ำคอหอยตายได้
เพราะ เคยทำมาแระ เอิ๊ก ๆ



อิอิ นี่พูดจิง ๆ นะเจ้
เฮ้อออฟามแปรปรวนของ เอสโตรเจน
กับโพรเจสเตอโรน เนี่ย
มัน ไม่เข้าใครออกใคร เน๊าะ
เคราะห์ดีที่ อิชายที มันเข้าใจ ธรรมชาติของพูญิ๋งว่ะ
มันบอกว่า สมัยเด็ก ๆ เสด็จแม่ของมันก็เคยเป็นงี้ประจ๊ำ
เรย ยอมรับสภาพที่ต้องเป็น กระโถนอารมณ์หั้ย อิเจ้ ด้ายยยย
( แต่ เด๋วนี้ ดีขึ้นแยะ น้าา อาการ ม่ะค่อยกำเริบเท่าไรเอิ๊ก ๆ)



อ้อ ส่วนไอ้เรื่อง ไม่มี น้ำตาจะร้องไห้ เนี่ย
อิฉัน เจอ ด้านตรงข้าม กะ หม่ามี๊ว่ะ
อืม...มีอยู่ครั้งนึง ช่วงก่อนเป็นเมนส์ อ่ะนะ
นั่งอยู่ดี ๆ มันก็รู้สึกจิตตก
รุ้สึกอยากร้องไห้ ขึ้นมาเฉย ๆ
โดยไม่มีเหตุผล เรย อ่ะ
เล่นเอาแปลกใจมากมาย
เพราะปกติ แล้ว อิฉันจะเป็นพวกญิ๋งสาวผู้หยิ่งในฉักฉี
ต่อหั้ยเจ็บเจียนตาย ตรูก็จะไม่มีวันยอมหลั่งน้ำตาออกมาง่าย ๆ ง่ะ


แต่คืนนั้น อารมณ์มันกระพร่องกระแพร่ง
จน นู๋บีต้องตัดสินใจยอม อนุญาต
ให้ตัวเองร้องไห้อะซิก ๆ ออกมาน่ะ
แต่ ครางฮือ ๆๆ น้ำตาไหลพราก ๆๆ ออกมาก็จริงนะ
ทว่า จิตมันก็ยัง ดันออกอาการ เศร้าปนขำ ง่ะ
คิดในใจ ประมาณ ว่า
เฮ้ย นี่กรูมานั่งร้องห่มร้องไห้
เป็น อิบร้า อยู่ ทำไมวะเนี่ย ?


อิอิ เป็นงี้ ประมาณ 4-5 นาที มั้ง


ตอนนั้น ยังไม่ได้เข้าสู่วงการปฏิบัติฯ น่ะ
เรยต้องปล่อยให้จิตมัน เตลิดเปิดเปิง
แบบเลยตามเลยไปตาม ยถากรรม


แต่เด๋วนี้ พอรู้จักกับการเจริญสติ และ การเบิ่งจิต แร้ว
ก็สามารถ ประคับประคอง เจ้าอารมณ์ที่แปรปรวน
จากฮอร์โมนที่กระพร่องกระแพร่ง ได้ดีขึ้น นะ
อย่างน้อย ก็ยังพอจะมี ไอ้เจ้า สติ แอนด์ สัมปะชัญญะ
มาช่วยเป็น แบ๊คหลัง ได้จิ๊ดนุงส์ อ่ะ อิอิ




อ้อ จิงสิ เห็น อิหม่ามี๊ มีอาการจิตหลอน
เพราะฮอร์โมนมีปัญหา อันเนื่องมาจากสภาวะ วัยทอง
ลูกไป๊ที่แสนดีคนนี้ เรย แวะมาจ่ายยา หั้ย คุงแม่ปั๋วกิน คร้าาาา
ชอบสีไหน ก็หยิบกินได้ ตามใจชอบนะเคอะ เหอ...เหอ....




เออ จิงสิ เห็น เฮียสอ ฯ
เตือนไว้ ในรายการ เรื่องเล่าเช้านี้
ว่า น้ำท่วมงี้ มีสิทธิ คันคะเยอได้ง่าย ๆ
หั้ย พวกหนุ่ม ๆ ระวัง โรคสังคัง ให้ดี
นู๋บี เรย นึกถึงไอ้โซ๊ยตี๋ มันฮ่ะ
ไอ้หมอนี่มันยิ่งไม่ค่อยจะดูแลตัวเองอยู่ด้วย
ขนาดแค่นไปไว้ผมยาว
มันยังเคยปล่อยให้น้องเหามาขึ้นหัวเยยยนิ อิอิ



นู๋บีเรยว่าจะขอหั้ย อิหม่ามี๊ ช่วยว่ายน้ำ
คาบเอา ซีม่า โลชั่น ไปฝากมัน แทนนู๋บีที ฮ่ะ
ไหน ๆ ก็ อยู่กรุงเทพ เหมือนกันแล้วนิ
อ้อ แร้วฝากเตือนมันด้วยนะ ว่า



ไอ้โซ๊ยตี๋เอ๋ย น้ำท่วมกรุงเทพ งี้
ลื้ออย่ามัวแต่ มานั่ง ขันคู จุ๊กกู่ จุ๊กกรู
แล้ว อิแร่ดแต๊ดแต๋ โดยไม่รู้สี่รู้แปด เรยจร้าาา
เด๋ว สังคังกำเริบขึ้นมา คันมาก ๆ จา ขันไม่ออก นะจ๊ะ
อิเจ้ป่อง เป็นห่วงจร้าาาาา 55555555555555555





อ้อ จิงดิ เพื่อ เห็น แก่ ญิ๋งสาว ผู้ไร้เดียงสา ในสากลโลกทู๊กกกคน
อิเจ้ ป่อง ขอ นำเสนอ คติสอนใจไว้ป้องกันไอ้พวกพูชายเจ้าชู้
หั้ย น้อง ๆ นู๋ ๆ เอาไปท่อง ก่อนเข้าสู่นินทรา
เวลา ต้องโคจรมาเจอกับ ไอ้พวกหัวงู เอ๊ย เจอกับเจ้านกเขาคู
มันร้อง จุ๊กกู่ จุ๊กกรู แล้วสร้างมลพิษทางเสียง ส่งสำเนียงแยงรูหู ฮ่ะ


อ่ะแฮ่มมมมมมมม
สุภาษิต สอนญิ๋ง ประจำวันนี้ ขอเสนอ คำว่า



ขอหั้ย กุลบุตรกุลธิดา ทุกคน
โปรด ใช้ โยนิโสฯ มาพิณา
เพื่อ นำ คติสอนใจ อันนี้
ไปใช้ประโยชน์ ตามมีตามเกิด เถิดนะเธอว์ เหอ...เหอ...


ว้า ไม่พูดมากดีกว่า เด๋ว โดนไอ้พิทบูลขย้ำจนตายอนาถคาเขี้ยว
แบ่บเจ้าลูกหมาบางแก้ว ที่น่าฉงฉานในข่าวเนี๊ยะ ฮือ ๆ

//news.mthai.com/general-news/13051.html









เออ เห็น อิหม่ามี๊ บอกว่า
---------------------------------------------------------------

สิ่งที่ยึดเหนี่ยว ให้กลับมาได้คือพระรัตนตรัย

คนที่ช่วยตัวเองให้รอดได้ด้วยตนเอง
เป็นครูคนอื่นได้ มีแต่พระพุทธเจ้าเท่านั้น
และต้องบำเพ็ญบารมีแบบพระพุทธเจ้าเท่านั้น
ถึงจะพึ่งคำสอนของตนเองได้ ชี้แนะตัวเองได้

นอกนั้นต้องฟังคำสอนคำชี้แนะ
ของพระพุทธเจ้า ของครูบาอาจารย์
ต้องมีครูเป็นที่พึ่งก่อน แล้วเมื่อรู้ถูก ทำถูก
จนสุดท้ายถึงขั้นที่ต้องพึ่งตนเอง
จึงมีตนเท่านั้นเป็นที่พึ่งของตน
ที่จะพาตนให้รอดพ้นจบคอร์สได้

ไม่งั้นมีสิทธิ์หลงทางก่อนจบ
หรือไปได้ไม่ถึงไหนเกยตื้น
ตายกลางทางมั่ง ออกทะเลมั่ง อะไรมั่ง
ไม่เจอกะตัวเอง มันก็ไม่รู้สึก ง่ะ




แล้ว นู๋บีมีเรื่องขำ ๆ จะเล่าหั้ยฟังอ่า
เรื่องนี้ ก็ เป็น อะไรที่ตรงข้าม ก๊ะ อิหม่ามี๊ อีกแระ แหะ ๆ
เนี่ย หลายอาทิตย์ก่อน คุณนายแก้วดี
ดั๊นทำบัตร ปชช. ของนู๋บีหายอ่า
นู๋บีเรยต้อง ถ่อสังขาร ไปทำบัตรใหม่ง่ะ


แถม ทำบัตรใหม่ อย่างเดว มันคงไม่หนำใจมั้ง
นู๋บีเลย ไปบอก หั้ย จนท.ไปเปลี่ยน ฐานข้อมูล
เรื่องการนับถือศาสนา ของตัวเองซะงั้น
จากเดิมที่ เคยระบุว่า นับถือพุทธ ( ตามทะเบียนบ้าน )

ก็ขอหั้ย จนท. เปลี่ยนใหม่เป็น ไม่มีศาสนา อ่ะ
ตอนแรก จนท. ก็ทำหน้าสงสัย คงนึกว่า ฟังผิดมั้ง
จนเรา ต้อง ยืนยัน ย้ำอีกหน ด้วยการ เอานิ้วไปจิ้ม ๆ
ที่คำว่า ศาสนา พุทธ ใน สำเนาบัตร ปชช.
แร้วบอกเสียงหนักแน่นว่า


" นี่ค่ะ ให้เอา คำว่าพุทธ ออกไป จากบัตร ปชช. "


พูดเท่านี้แหล่ะ จากสายตาที่เจ้าหล่อนมองดูเราเหมือนตัวประหลาด
ก็แปรสภาพเป็น มองแบ่บ ดูถูกดูถุยส์ เรยมั้ง
แถมยัง ถามเสียงหยัน ๆ อีกด้วย ประมาณว่า


" แล้วพี่นับถือศาสนาอะไร ล่ะคะ ? "


อิฉันก็เรย ตอบหน้าตาย ออกไปประมาณ ว่า

" ไม่มี ศาสนา ค่ะ ไม่ได้นับถือศาสนาอะไร"



คราวนี้ จากที่ มอง อิฉันเป็น ตัวประหลาด
She ก็ เลื่อนขั้น สถาปนาหั้ย อิฉัน เป็น พวก คนป่า
ที่ไร้อารยะธรรม เลยมั้ง
แต่ ถึงงั้น She ก็ยังอุส่า ย้ำ อีกถึง 2 ครั้ง 2 ครา
เพื่อ โน้มน้าวหั้ยอิฉันเปลี่ยนใจ
ไม่ลบคำว่า พุทธ ออกจากฐานประวัติ


โดยพูด ประมาณว่า ในบัตร ปชช. แบบใหม่ เนี่ย
มันก็ไม่มี การระบุ ศาสนา ให้ชาวบ้าน เห็นอยู่แล้วนะคะ
( แล้ว เมิงจาเสือก หั้ยตรูลบทิ้งทำไม หั้ยเสียเวลาทำมาหากิน ด้วยวะคะ )


ฟังแร้ว ก็ได้แต่ขบขัน กับความมานะพยาม
ในการที่จะ รักษาเรทติ้ง ของคุณพุทธมามกะจ๋า ซะจิง ๆ อิอิ
สุดท้ายอิฉันเรยบอก อินู๋นั่นไป ประมาณว่า

อีนี่ เมิงได้โปรดเอาคำว่า พุทธ ออกไปจากชีวิตกรูซะทีเถอะจ้ะ
ขืนเอาคำนี้ไว้ในฐานข้อมูลทะเบียนราษฏร์
เด๋ว มันจะทำให้ฉาน ผิดศีล ได้ นะจ๊ะนายจ๋าาาาาาาา

พูดได้เท่านั้นแหล่ะ คราวนี้ แม่เจ้าประคุณก็มอง อิฉัน ทะแม่ง ๆ
ราวกับ อิฉัน เป็น เอเลี่ยนปลอมตัวมาทำบัตร ปชช. เลยอ่า
อิฉันเรยต้อง อธิบายเพิ่มเติม หั้ย She เห็น ดวงตาธรรม อีกนิดหน่อย

ประมาณว่า

อีนี่นายจ๋า ถึง ฉานจะม่ายด้าย ถือพุทธ
แต่ ฉานถือศีล ว้อยยยยยยย

อนึ่ง เมื่อได้สดับฟังดังนั้น
อินังนั่น คงจาเห็นดวงตาธรรม
แบบ ทั่นอัญญาโกณทฑัญญะ ล่ะมั้ง
อีเรย คิดได้ว่า อุคฆฏิตัญญู อย่าง ตรู
มิบังควรจะลดตัว ไปต่อล้อต่อเถียง
กับ อิบัวเต่าถุย อย่างอิบร้านี่ หั้ยเปลืองน้ำลายเล๊ยยย


สุดท้าย อีเจ้าหน้าที่นั่น มันเรยก้มหน้าก้มตา
แก้ไขข้อมูลทะเบียนราษฏร์ ในคอมฯ
ตามที่อิฉันแจ้ง ( ด้วยฟามลู้สึก ทะแม่ง ๆ ในดวงจิต ) ล่ะมั้ง


อิอิ จิง ๆ ถ้า คุณเธอว์ ทำตาม
ฟามต้องการของนู๋บีตะแต่แรก
ก็คงคงไม่ต้อง มึนตึ้บ งี้หร็อก เน๊าะ เอิ๊ก ๆ
เฮ้ออ จิง ๆ ก็ไม่อยาก ต่อความยาวสาวความยืด
พื้นฝอยหาตะเข็บ อะไรให้มันมากความ หรอกนะ
เพราะ ข้อมูลการนับถือศาสนา ใน ทะเบียนราาฏร์ เนี่ย
มันก็ไม่ได้สลักสำคัญ อะไรกับชีวิตอิฉันนักหร็อก



แต่ ในเมื่อ อิฉันรู้แจ้งแก่ใจแล้วว่า
ตนนั้น ขี้เกียจ นับถือพุทธ
และ ไม่มีรสนิยม อันวิไล
ชอบ แบก พระรัตนตรัย ไว้บนหัว
อิฉันก็ควรจะแก้ไข ข้อมูลส่วนนี้ของตน
ให้มัน ถูกต้อง ตรงไปตรงมา น่ะ



อืม....ตั้งใจไว้ตั้งนานแล้ว ง่ะ ว่า
ถ้า มีโอกาสเปลี่ยนบัตร ปชช. เมื่อไร
จะ แสดงตัวตัวเป็น คนไม่มีศาสนา
อย่างถูกต้องตามกฏหมาย เสียที



เฮ้อออ ก็คนมันไม่ได้นับถือ จิง ๆ นี่หว่า
แร้วจะให้ หมกเม็ด อิงแอบ
เป็น Pseudo - Buddhist ทำ'ติ้ง ไรว้าาา
แล้ว ตอนอายุ 15 ทำ บัตร ปชช. ครั้งแรก นั้น
อิฉันก็ แหกปากเขียน เรื่อยเปื่อย ว่า
นับถือพุทธ ตามโคตรพ่อโคตรแม่ไปงั้นเอง
จนเป็นที่มาของ กาทู้นี้ไง

//board.palungjit.com/f10/เมื่อ-พุทธ-ตามทะเบียนบ้าน-ริอ่าน-มาเล่า-เรื่องรากเหง้าของศาสนา-200416.html

ทว่า พอ เริ่มมา กระเตงศีลเล่น เป็นงานอดิเรก บ่อยเข้า มันก็เรยรู้สึกว่า
ถ้ายังปล่อยปละละเลย ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไม่คิดแก้ไขวจีมุสา
ในเรื่องการนับถือพุทธศาสนา ที่เคยหลับหูหลับตา กรอกประวัติ ไว้ ล่ะก้อ
เด๋ว ศีล ข้อ 4 ขอ อิเจ้นู่บี เป็นได้ ถลอก อีกแหง๋ ๆ แหะ ๆ


เฮ้อออ พอเอา คำว่า พุทธ
ออกจาก ฐานข้อมูลในประวัติทะเบียนราษฏร์แว้ววว
รู้สึกว่า ชีวิตมันโล่ง โปร่งฉะบาย ขึ้น แยะ เรย อ่า
เพราะที่ ผ่านมา มันยังรู้สึกค้างๆคาๆ ใจ ว่า
ศีลข้อ 4 ที่นู๋บัว แบกไว้บนหัว นั้น มันยังไม่ หมดจด ว่ะ
ว่า จะเปลี่ยน ๆ ก็ หาโอกาส เหมาะ ๆ ไป ที่เทศบาล ไม่ได้ ซ้าที
เพิ่งจามีฤกษ์งามยามดี ได้ทำตามที่ตั้งใจ ก็ตอนนี้แหล่ะ
แต่ ไม่ต้อง เสียใจนะอิหม่ามี๊
ถึงจะไม่มี คำว่า พุทธตามทะเบียนบ้าน ไว้คุ้มกะลาหัว
แต่ อิป้าบัวป่อง มันก็ ยังคงจะแอบย่องเข้ามา อ่อยอี๋เอี๋ยง
มาหยอกมาเถียง เป็นหนามยอกอก
ก๊ะ เหล่าพุทธมามกะจ๋า อยู่ดี เหอ...เหอ...



อืม... คิด ๆ แล้ว ก็ทำให้ นึกถึง
เรื่องการบัญญัติให้พุทธศาสนาเป็นศาสนาประจำชาติ
ที่มักจะเป็นประเด็นตบตี เอ๊ย วิพากษ์วิจารณ์ กันเสมอ
ในการร่างรัฐธรรมนูญแต่ละครั้ง แฮะ
อ่านเจอเรื่องนี้ทีไร ก็รู้สึก ขบขันแกมรำคาญ ทู๊กที เรยอ่ะ


น่าขำนะ ในขณะที่ พี่ไทยเรา ชอบ อวยกันเองว่า

เนี่ย สาดหนาพุทธของตรู นั้นหนาดีที่ซู๊ดดด ในสามโลกกกกกก
ดังนั้น ตรูจะยกหั้ย ศาสนาพุทธของตรู เป็นศาสนาประจำซาดดดดด



แต่พวกฝรั่งมังค่า หลายคน ฟังแล้ว มันกลับเมินหน้าหนี
แร้วหันหลังเข้าป่า วิ่งไปกรอกข้อมูลในทะเบียนราษฏร์ ว่า
พวกมันนั้นหนา ไม่นับถือสาดหนา นะจ๊ะตัวเอ๊งงง


อืม...อาจเป็นเพราะ มันคงขี้เกียจ เสียภาษีศาสนา หั้ยรัฐ มั้ง
เคยอ่านเจอว่า ใน ตปท. บางที่
มีการเก็บภาษี เกี่ยวกับศาสนา ด้วยอ่า
ถ้าคุณนับถือศาสนา เค้าก็จะหักรายได้ส่วนหนึ่งของคุณ
เป็น ภาษีศาสนา ไปสมทบทุนทำนุบำรุงศาสนาที่คุณนับถือ


ซึ่ง ฝรั่งหลายคนมันก็คง เสียดายเงินภาษีส่วนนี้ มั้ง
เรยหัวหมอ ระบุในทะเบียนประวัติ ไปว่า
ตรู ไม่นับถือ ศาสนา ใด ๆ เว้ยยยยยยยยย

แต่ โบสถ์บางที่ ก็ใช้วิธี หนามยอกเอาหนามบ่ง
แก้เผ็ด คนพวกนั้น ด้วยการ ส่ง จม. ไปฟ้องพ่อแม่ เลยนะ
ว่า นี่ ๆ ลูกเธอว์มันเริ่มจะนอกคอก แอบเลิกนับถือศาสนา
โดยไม่ยอมบอกโคตรพ่อพ่อโคตรแม่ แร้วนะเว้ย เฮ้ยยย


อิอิ คิด ๆ แล้ว ก็รู้สึกว่า
อิฉัน เกิดมาโชคดีโคตร ๆ เลยมั้ง
ที่ไม่ต้องเจอกับ สภาวะ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แบบคนพวกนั้น
แถมยังมีคนรอบข้าง ( ทั้งพ่อแม่และเพื่อนร่วมงาน ) ที่เข้าใจ
ไม่ว่า อิฉันจะทำตัวเป็นอิบร้า แหกคอก แค่ไหน
คนพวกนี้ก็ยังพร้อมที่จะรับฟัง และยืนอยู่ข้าง อิฉันเสมอ
ขนาด ตอนไปทำบัตร ปชช.อลเวง
ยังเอาเรื่อง ยกเลิกการนับถือพุทธ
ไป เม้าส์ให้ชาวบ้านฟัง แล้วขำกลิ้ง
ครื้นเครงกันทั้งห้องเรยมั้ง




แต่ ถึงงั้น ก็ อยากรู้เหมือนกันว่ะ
ว่า ถ้า ในประเทศสารขัณฑ์
มีไอเดีย เก็บภาษี ศาสนา อย่างนั้นบ้าง
จะมี พุทธตามทะเบียนบ้าน หลงเหลือ อยู่สักกี่คน เอิ๊ก ๆ


ปล.

ครายก็ม่ายลู้ มาโฆษณาชวนเชื่อ ให้นู๋บีฟังว่า

จะชวนน้องฮาร์ทไปลอยกระทง ทีหลังอย่าช้านะเธอว์
ระวัง มคปด. ด้วยนะจ๊ะ นับวันลูกชายหม่ามิ๊มันก็ยิ่งหล่อ
ไม่รู้มันหล่อเหมือนคราย ดูหน้าลูกชายมากๆชักมีหลง
ซาเหน่ฟามหล่อแบบเกาหลี ซะงั้น 555


เรย ชักเคลิ้ม ฮ่ะ
เอ่อ ... ม่ะทราบว่าอิน้องฮาร์ท สุดหล่อ ของนู๋บี
นี่ มันหน้าตาดีมีซาเหน่ แบบนี้ หรือเปล่าน้ออออ










เนี่ยดูเผิน ๆ ฮาร์ทจัง ก็หน้าตาคล้าย ๆ อากึม เหมือนกันวุ้ย
หูย เด็กอารัยก็ม่ายลู้ น่าร๊ากกกก มากมาย
แต่หวังว่า โตขึ้น อีคง ม่าย กลายร่าง
เป็น โคตรไอ้เข้(ฟันหัก) เหมียนเตี่ย อีน้าาาา
เจ้าประคุณเอ๋ย ขอหั้ย เลือดม๊า แรงส์ ฝ่าเลือดป๊า ด้วยเถิ๊ด สาธุ๊ สาธุ






.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:19:20 น.  

 
 
 
******************************************************

เจ้ บัวป่อง ว่า ....
อิอิ แบ่บว่า เจ้ชอบ ผู้หญิง ที่สามารถ..
สยบผู้ชายทั้งโลกไว้ใต้ อุ้งตรีน ได้ ง่ะ งิงิ
แหม ?เห็นโหงวเฮ้งหญิงอ้อทีไร
นึกว่าเป็น บูเชคเทียน ไม่ก็ ซูสีไทเเฮา กลับชาติมาเกิดทู๊กที
นี่สิ ถึงจะเรียก ผู้หญิ๋งที่เปี่ยมล้นไปด้วยวาสนาและ อำนาจบารมีตัวจริง
เนี่ย พอเห็นนายกปูของลื้อ ได้ขึ้นแท่น เป็นนายกญิ๋ง
ถึงไม่ต้องใช้ เจโตฯ เจ้ก็ทายใจศาลอุธรณ์ ได้
ตั้งแต่ ยังไม่ตัดสินเรยด้วยซ้ำว่า
คดีของญิ๋งอ้อ ต้อง หลุด พันเปอร์เซนต์ อิอิ

-----------------------------

ไอ้ตี๋ ว่า....

ลื้ออย่าซี้ซัวต่านะว่อย เดี่ยวก็เจอหมิ่น ค่อยคิด ค่อยๆเขียน
อย่าใช้เจโตแล้วเขียนเดี๋ยวได้ไป วิปัสสนาในสำนักสงฆ์บางขวางหรอก
อั้วเขียนแบบเอาตะแกงร่อน แล้วผ่านเครื่องกรองอีกที่
เพราะมันเกี่ยวกับขบวนการยุติธรรม


ลื้อรู้มั้ยเรื่องทักกี้กับเมียเนี้ย
มันทำให้อั้วแทบจะแล่นไปหาอาจารย์สอนกฎหมายอั้ว
แล้วจับอีมาเบิดกระโหลกโทษฐานที่สอนอั้วผิดๆ
บอกมาได้ไงว่า ห้ามออกกฎหมายเอาผิดย้อนหลัง
กฎหมายธรรมดาห้ามแย้งกฎหมายรัฐธรรมนูญ
ความผิดทางอาญาขึ้นอยู่กับเจตนา
ศาลมีอยู่3ศาล ต้น อุธณณ์ฎีกา


ที่สำคัญที่เจ็บใจอยากฟันศอกอาจารย์ก็ตรงที่ทำไมไม่บอกว่า
ในประเทศไทยแลนด์มันสามารถ
เอาพจนาณุกรมมาเปิด แทนตัวบทกฎหมายได้
เซ็งว่ะ! ไม่พร่ามดีกว่า มันไม่คุ้มออกห่างได้เป็นดีที่ซู้ด

++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า...
นี่แหน่ะ ไอ้ฟัก เห็นลื้อ เล่นบท อ้ายลูกศิษย์ทรพี
ทั้ง เบิ๊ดกระโหลก ทั้งฟันศอก อาจาน ตัวเองแบ่บนี้
อิเจ้สมทรง ชักสยองว่ะ เหอะ ๆ
แหม๊ นี่ดีนะ ที่อิเจ้ ม่ะได้หลวมตัวรับลื้อเป็นศิษย์
มิเช่นนั้น แล้ว ตรูคงไม่แคล้ว โดน ไอ้ลูกศิษย์คิดไม่ซื่อ
มันถือวิสาสะ มา ล้างครู ซะป่นปี้ แบบอิเจ้เล้งยี้ แหง๋ ๆ
อพิโถ โถๆๆๆ พุทโธ ธรรมโม สังโฆ



อืม...ในเรื่อง คดีซุกหุ้น 546 ล้านนั้นน่ะ
ลื้อจะมาเห่าแว้ด ๆ งี้ไม่ได้นะ
ลื้อก็ต้องหมั่น เจริญ สติปัฏฐาน 4
แล้ว ทำใจยอมรับ กับ ยถาสภาวะ ณ ปัจจุบันขณะ นั้น
ตลอดจน เคารพใน ดุลพินิจ ของศาลที่เคารพ ด้วยนะยะ



เฮ่ย ลื้อเรียนกฏหมายมาภาษา อะไรเนี่ย
ยังไม่ชิน กับเรื่องทำนอง อีกหรือว้าาาาาาาา
อาจานลื้อ ไม่เคยสอนหรือไง ว่า


กฏหมาย กับ ความยุติธรรม มันอยู่คนละส่วนกัน

ที่สำคัญ การปล่อยคนผิดไป 100 คน
ยังดีกว่าการลงโทษคนบริสุทธิ์เพียงคนเดียว




อืม....อิทัปปัจจยตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้จึงมี
ด้วยเหตุนี้ไง ศาลทั่น จึงตัดสินใจ
โดยยึดถือ นโยบาย บกพร่องโดยสุจริต
แล้วยอมหั้ย กรมสรรพากร ถูกริดรอนรายได้ ไปถึง 546 ล้าน
แถมยัง หักคอ หั้ย กรมตำรวจ ต้องควักกระเป๋าจ่าย
ให้กับแพะคดีเชอรี่ แอน ไปตั้ง 26 ล้าน แหน่ะ อิอิ


เอ้า ลื้อจง เอา อุจฉังคชาดกนี้

//www.kalyanamitra.org/chadok/mixchadok/chadok5004/chadok5004.html

ไป อ่านเล่นเป็น อุทาหรณ์ ซะน้าาา
เผื่อว่า ลื้อจะได้ สำเหนียก
กับ ข้อคิดจากชาดกทั้ง 5 ข้อ
( ที่อยู่ท้ายเรื่อง )ขึ้นมามั่ง หุหุ


อืม....แต่พูด ก็พูดเหอะว่ะ
จะว่าไป อิเจ้ก็รู้สึกสงสาร
และเห็นใจ ศาลทั่นเหมือนกัลน้าาา
ที่ต้องมา เล่นบท ท้าวมาลีวราช ว่าความ
ในคดียักษ์ลักไปลิงลักมางี้


เฮ้อออ ศาลทั่น ก็ ยังเป็น ปุถุชน นะเว้ย เฮ้ย
ลื้อจะให้ ทั่นตรงแหน่วเป็นไม้บรรทัด
แบ่บเปาบุ้นจิ้นแห่งศาลไคฟงได้ไงอ่ะ
บอกแระ ว่า ในการพิพากษาคดี นั้น
จะใช้แต่ ตัวบทกฏหมาย
และ หลักนิติศาสตร์ อย่างเดียวมิได้
มันต้องลู้จักการวินิจฉัย โดยอาศัย หลักรัฐศาสตร์
และ พจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิต ฯ
มาประกอบการพิพากษาคดี ด้วย ว้อย
มันถึงจะเวิร์ค เอิ๊ก ๆ




นี่ ๆ รู้ ไหม ถึงเจ้จะไม่เชี่ยว
เรื่อง กฏหมายเหมือนลื้อ
แต่ สมัย อิเจ้ อยู่หอพักของมหาลัย
อินู๋ปูเป้ ( นามสมุติ )รูมเมท ของเจ้
มันมีพ่อเป็นผู้พิพากษา ว่ะ
เวลาครึ้ม ๆ อินู๋นี่ มันก็เอาพ่อตัวเองมาเม้าส์
ให้เจ้ฟัง ด้วยอ่า อิอิ



ดังนั้น นอกจาก อินู๋นี่
มันจะเป็นแรงบันดาลใจ
หั้ยอิเจ้ เลิกตบยุง เลียนแบบมันแระ
มันยังทำหั้ย อิเจ้เข้าใจอย่างลึกซึ้ง เกี่ยวกับ
เรื่อง ขบวนการยุติธรรมในประเทศสารขัณฑ์ ด้วยว่ะ
นังปูเป้ มันเล่าว่า พ่อมันเสี้ยมสอนไว้ ประมาณว่า


เวลาคุณลูกจะตัดสินใจ กระทำอะไร ต่อใคร
ลูกต้องรอบคอบ ดูให้ถ้วนถี่ นะจ๊ะ
ไม่ใช่ดูเรื่อยเปื่อยแค่ ระดับหนังหน้า หรือว่า ไส้ติ่ง เท่านั้น
แต่ต้อง ดูไปถึงโคตรเหง้าศักราช ของมันด้วย
ว่า ไอ้หมอนั่น มันเส้นเล็ก เส้นหญ่าย หรือ ว่า เป็น เส้นก๋วยจั๊บ
เป็น ลูกไอ้ปื้ด หรือ ว่า เป็นลูกชายหัวแก้วหัวแหวน ของอดีตบิ๊กตำรวจ
จะได้ไม่พลอยซรวยโดน ลูกหลง ไปด้วย



อินู๋ปูเป้มันว่า ตอน พ่อมันพิพากษาคดี
พ่อมันก็ยึดคอนเซปต์นี้เหมียนกัล
เพื่อฟามปลอดภัย ในชีวิตและทรัพย์สิน
และ ไม่ต้องตายก่อนวัยอันสมควร เอิ๊ก ๆ




อืม...รู้ไหม ? เจ้เคยคิดนะ ว่า
ถ้าทางมหาลัย ไม่เวทนา ย้ายเจ้มาเรียนคณะเภสัช
บางที อิเจ้ อาจจะไปเอาดีทางด้านกฏหมายก็ได้ว่ะ
และเมื่อพิณา จาก พรนรก
ในการใช้ฝีปากหว่านล้อมชาวบ้านให้คล้อยตาม เนี่ย
หากเจ้ หันเห มาเรียนทางนี้จิง ๆ อ่ะนะ
มีหวัง ไอ้ทนายความคดีโอเจ ซิมสันป์
อาจจะโดนอิเจ้ขโมยซีน ก็ได้ว่ะ อิอิ
เพราะไอ้เรื่อง เปลี่ยนดำให้เป็นขาว
เปลี่ยนขาวหั้ยเป็นดำ เนี่ย ตรูถนัดนักล่ะ หุหุ




แต่ก็นับว่า ยังโชคดี นะ ที่สวรรค์ยังปรานี
ทำให้อิเจ้ได้มานั่งลอยหน้าลอยตาอยู่ในห้องยา
โดยไม่ต้องไปข้องแวะกับอาชีพพวกนี้
แวดวงของพวกนักกฏหมาย ทนายความ
ผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ และ ตุลาการ ในสายตา ของเจ้
มันไม่มี กาขาว กาดำ หรอกนะ มันมีแต่ สีเทาขมุกขมัว
ซึ่งไม่ค่อยจะเอื้ออำนวยกับการปฏิบัติตัวตามธรรม เท่าไรนัก
ต่อหั้ย ได้เป็น ประธานศาลฎีกา ที่มีทั้งศักดิ์ มีทั้งศรี
และ มีทรัพย์สินศฤงคาร และเงินประจำตำแหน่งมากมาย แค่ไหนก็เหอะ
ไง เจ้ก็รู้สึกว่า มัน ได้ไม่คุ้มเสีย ว่ะ
เพราะ วิชาชีพนี้มันมีโอกาสที่จะเพลี่ยงพล้ำ ถลำตัว
และก่อหนี้เวรหนี้กรรมกับชาวบ้าน
ได้อย่างมากมายทั่วหัวระแหงเรยอ่ะ





อืม...ใครคนหนึ่ง เคยบอกให้ฟังว่า
คนผู้พิพากษาทั้งหลาย มักจะชอบตื่นมาตักบาตรตอนเช้า
และเขาเหล่านั้น มักจะ อุทิศส่วนบุญส่วนกุศล
ไปให้กับ เจ้ากรรมนายเวร และ บรรดาไอ้ฟัก ทั้งหลาย
ที่เขาพลาดพลั้งพิพากษาให้ต้องโทษไป
โดยที่เจ้าแพะที่น่าสงสารเหล่านั้นไม่ได้มีความผิดจริง ๆ




ใครอีกคนหนึ่ง ก็เล่าให้ฟัง ประมาณว่า
มีผู้พิพากษาคนหนึ่งนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่
แล้วจู่ ๆ ก็มีเหตุยิงกันตาย ที่ถนนฟากตรงข้าม
ผู้พิพากษาคนนั้น บังเอิญเห็นหน้าคนร้ายและจำมันได้
แต่ก็ไม่ได้มีใครเฉลียวใจ เรียกท่านไปสอบถาม
ให้ไปเป็นพยาน ( เพราะอยู่คนละฟากถนน )
ท่านเองก็เลยตามเลย ไม่ได้สนใจนัก
เพราะคิดว่าเรื่องนี้ ตนเป็นคนนอก
คงไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรด้วย



แต่แล้ว วันหนึ่ง ท่านกลับต้องมานั่งบนบัลลังค์เป็นผู้พิพากษาคดีนี้
และต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ต้องหา ( ที่ทั่นจำหน้ามันได้อย่างแม่นยำ )
ทว่า คดีดังกล่าว ทางตำรวจกลับไม่มีหลักฐานชี้ชัดที่จะมัดตัวคนร้าย
เพราะ ไม่มีใครกล้ามาเป็น พยานชี้ตัวผู้ต้องหาให้
ซึ่งหากต้องตัดสินไปตาม พยานหลักฐาน ที่มีอยู่
ผู้ต้องหาคนนี้ ก็คงจะหลุดคดี (เหมือน ญิ๋งอ้อ แหง๋ ๆ )




อืม...ถ้าลื้อ เป็นผู้พิพากษาคนนั้น ลื้อจะทำยังไงล่ะ ?
ถ้าเป็นเจ้ ก็คงตัดสินใจลำบากเหมือนกันว่ะ
หัวโขนทางตุลาการ บางทีมันก็ทำให้ตัดสินใจ ยากเหมือนกันนะ
ก็อย่างที่ลื้อ ไปอาละวาด เอาก๊ะ WM ลานธรรมจก นั่นแหล่ะ
ศาลมีหน้าที่ พิณา คดี ไปตามหลักฐานพยาน
ที่โจทก์ และ จำเลย เอามาอ้างอิง
ไม่สามารถ เสนอหน้า ไปควานหาหลักฐาน
มาเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่า ใครคือผู้ร้ายก็ตาม



อืม.... อิเจ้ยกแม่น้ำทั้งห้า มาพล่ามซะขนาดนี้แร้ว
ลื้อม่ายคิดจะเห็นใจ ทั่นตุลาการศาล รธน.
ขึ้นมาซักกะติ๊ด เรยเหยอออออออ เหอ...เหอ....
เฮ้ออ แต่ คิด ๆ แล้ว อิเจ้ ก็เข้าใจ พระเตมีย์ เรยนะ
ว่าทำไม ถึง ไม่อยากโตขึ้นเป็นกษัตริย์ ตัดสินโทษใครแทนพระบิดา
จนถึงขั้นที่พระองค์ยอมลงทุนทำตัวเป็นคนบ้าใบ้พูดไม่ได้น่ะ



เออ เฮ้ย มีเรื่อง ขำ ๆ จะเล่าหั้ยฟังอ่ะ
หลายวันก่อนนู้น อิน้องชายบังเกิดเกล้าของเจ้
มันขันอาสาขับรถมาส่งเจ้ ที่โรงบาล อ่ะ
เจ้เรย นึกครึ้ม ชวนมันคุยระหว่างทาง
ถึงเหตุปัจจัยที่วิดสวะอย่างมัน
หันมาขะมักขะเม้น ร่ำเรียนกฏหมาย
( ทางไปรษณีย์ ก๊ะ มสธ. )




น้องมันบอกว่า มันอยากเปลี่ยนสายงาน
มัน เพิ่งค้นพบตัวเองว่ะ ว่า มันอยากเป็นศาลพระภูมิ
จิง ๆ เจ้ว่า มันไม่ได้อยากจะเป็นเพราะ ใจรัก หรอกนะ
แต่ เป็นเพราะ มันเพิ่งรู้ว่า
เป็นผู้พิพากษาเนี่ย รายได้มันดี กว่าวิดสวะ ฮา ๆ


เนี่ย มันยังนึกครึ้ม ชวนเจ้
ไปสมัครเรียน กฏหมาย ทางมสธ. เป็นเพื่อนมันด้วยว่ะ
( สงสัยมันคงอยากจะหาคู่ซ้อมมาช่วยติวเวลาสอบ เอิ๊ก ๆ)
อืม...แต่ฟังทั่นน้องพูดแร้ว เจ้ก็อยากจะไล่
ให้มันไปอ่าน เตมีย์ชาดก สัก สามรอบแปดรอบว่ะ
เผื่อว่ามันจะได้ สำเหนียก อะไร ขึ้นมามั่ง




เออ แล้วเจ้ ก็ยังมีแก่ใจ
ตะล่อมถามมันด้วยนะ
ประมาณว่า มันได้ประโยชน์ อะไร ขึ้นมาบ้าง
จากวิชากฏหมาย ที่มันถ่อสังขารไปร่ำเรียนมา
( นอกจากจะใช้เป็น บันไดไต่เต้า ไปนั่งว่าความบนบัลลังค์ อ่ะนะ )



รู้ป่ะมันนิ่งคิด แป๊บ ๆ
แล้วตอบสั้น ๆแต่ ได้ใจความ ประมาณว่า
การเรียนกฏหมาย ทำให้มัน กร่าง ได้มากขึ้นอ่ะ


จากนั้นมันก็โม้ ต่ออย่างภาคภูมิใจนักหนาว่า
ตั้งแต่ มันร่ำเรียนวิชากฏหมายมา แล้ว
เวลาเจอเรื่องกระทบกระทั่ง อะไร กับใคร
หรือ เจอ ตำรวจหน้าไหน มันก็รู้สึกจะฮึกเหิม
ไม่ค่อยจะกลัวเกรง เหมือนเมื่อก่อนแระ
แถมพอมีเรื่องก๊ะชาวบ้าน มันก็มักจะหยิบยกเอากฏหมาย
มาตรานู้นมาตรานี้ มาเอ่ยอ้าง จนคู่กรณีขยาด
ขอประนีประนอมยอมความ เลิกตอแยก๊ะมันเรยอ่า




อะโหย ? ฟังแล้ว เจ้ก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ
นี่ขนาดตอนนี้มันยังเรียนไม่จบคอร์สนะเนี่ย
แมร่ง ถ้าเกิดมันฟลุ๊ค หลุดเข้ามา
อยู่ในแวดวงตุลาการ เป็นผู้พิพากษาได้จิง ๆ
มันจะ กร่าง ขนาดไหนวะเนี่ย
คิดแร้วก็ สยองพิลึก เหอะ ๆ




แต่ ฟังมันพูดเรื่องนี้ออิเจ้ก็เกิดซาโตริ นะ
ว่าทำไม ไอ้ตี๋บางคนมันถึงได้ กร่าง และ ผยอง นัก
อืม...วิชากฏหมาย นี่...มันสอนให้คน เป็นเช่นนี้ นี่เอง
อูยยยยย น่ากัวจิง ๆ เยยยยหุหุ


.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:21:06 น.  

 
 
 



--------------------------------------------------------


อีตั้วเจ้ว่า...

แหม ? ป๋าหมักจะพับนก
มันก็ ม่ะหนักกบาล เจ้ หรอกจร้า
เพราะ ป๋าแกม่ะช่าย ไอดอล อะไรของ เจ้นิหว่า
ไม่มีแรงยึดมันถือมั่นแห่งจิตอะไรผูกพันธ์กัน
ดังนั้น ต่อให้ ซือแป๋ลื้อ พับนกได้พันตัวแบ่บอีนู๋ซาดาโก๊ะ

หรือ เป็น มะเร็งตาย5 ต่อหน้าต่อตา
เจ้ก็ไม่รู้สึกลู้สา อารายหรอกนะจ๊ะ


ว่าแต่ลื้อเหอะ
เอา นกกระดาษที่ลุงหมักพับ
มาสุมทับไว้บนหัวตัวเองงี้ อิเจ้ถามหน่อยสิ ว่า
มัน หนัก พอหรือยัง ?
ว่าง ๆ ก็ อัญเชิญเจ้านกกระดาษพวกนั้นลงมาจากหัว
แล้วเอาไปใส่ขวดโหลไว้ดูเล่นมั่งก็ดีนะ
จะได้สมองโล่งโปร่งฉะบาย อิอิ
---------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า.....

อีเจ้คุณพื่หัวหน้าคณะ ทำตัวเป็นอุบาสิกาเยื้องหนอ
ย่างหนอ เห็นอะไรไม่พอใจใจก็ว่า ไม่มีสัมมาทิฐิ ยืดมั่นถือ
มั่น อีเจ้รู้เปล่าว่า อั้วมีความรู้สึกว่า เหมือนโดนตำรวจเลว
ยัดยาบ้าใส่มือ แล้วยัดเหยียดข้อหาให้ว่ะ

อิเจ้ไม่ใช่ลื้อไม่รู้ว่าอั้วเป็นคนอย่างไร ลื้ออย่าเห็นคนหนัก
แน่นมีจุดยืน ไม่โลเลแล้วกล่าวหาว่าเป็นคนยึดมั่นถือมั่น
แบบนี้อั้วว่ามันไม่ถูกว่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++



อิเจ้ ว่า...

แล้วไม่ถูกอะไรล่ะ
ไม่ถูกใจลื้อ ( แต่ถูกใจเจ้ )
หรือ ไม่ถูกทางโลก แต่ชอบทางธรรม ล่ะ
แหม ๆ อิเจ้ม่ะได้มี เจโตฯ นี่หว่า
จะได้ นั่งทางในทักวาระจิต
แร้วคิดเองเออเองได้ ว่าลื้อเป็นคนไง ?
มีจุดยืนที่หนักแน่น เหมียน ศิวลึงค์บนแท่น ไหม ?
ใครจะรู้วะ ลื้ออาจเป็นไอ้เจ้านี่




ปลอมตัวมาเชคเรทติ้งให้ ลุกหมัก ก็ได้นิ
เห็น อวยกันซะเหลือเกิน อิอิ
แต่ลื้อจะเป็นคนยังไงก็ช่างแมร่งเหอะนะ
ตราบเท่าที่เจ้ยังหลอกใช้ลื้อ
ให้มาเดินตามต้อย ๆ คอยรับน้ำเหลืองได้
ก็ถือว่า ลื้อยังเป็นสหายที่น่าคบอยู่ ว่ะหุหุ




อ้อ แล้วไอ้เรื่องที่ ลื้อมาโวยวาย หาว่า โดนยัดยาบ้า เนี่ย
แหม๊ ไอ้ตี๋เอ๋ย ทีงี้ทำมาเป็นบ่นกระปอดกระแปด
ทีลื้อแร่ด ๆ มายัดเยียดข้อหาหมิ่นฯ ให้
ตรูยังไม่ปริปากบ่นซักคำ
ลื้อเองก็ควรจาทำตัวให้แมน ๆ เฉกเดวก๊ะอิเจ้น้าาา
เรื่องงี้โบราณเค้าว่า เวรกรรมมีจริง
ทีไครทีมันเว้ยยย เอิ๊ก ๆ
ถ้าลื้อข้องใจนัก ก็เขียน จม.
ไปฟ้องรายการ คุยกับแพะ ทางไทยทีวี เด่ะ



อิอิ ช่วยม่ะได้ว่ะ
ก็ลื้อดันทะลึ่งมาเข้าทางเจ้เองนี่หว่า
ไหน ๆ ก็เดินตามกันมาต้อย ๆ แระ
สบโอกาส เจ้เก๊าะต้องหาเรื่องหนีบลื้อ
มาคอยรองรับน้ำเหลืองเจ้ ต่อในตะแลงแกง อ่ะเด่ะ
เรื่องไรตรูจะยอมกินข้าวแดงในคุกคนเดว วะ
ก็ขนาดตอนโดนแบน ยังหนีบมาด้วยเยยย นิ
งั้นก็มากินข้าวแดงเป็นเพื่อนกันหน่อยเป็นไรเหอ ๆ



ช่วยไม่ได้ นิหว่า เสือกเสนอหน้า
แค่นจะมาเล่น บทพระเอกประกบก๊ะ อิเจ้ ทำไมล่ะ
นี่ ๆ ลื้อ เคย อ่าน นิยาย น้ำเน่า สมัยพระเจ้าเหา มั่งอ๊ะปล่าววว้าาา
เนี่ย เวลาที่ น้องนางเอกมัน แอบค้ายาบ้า
(เพื่อหาตังค์ไปซื้อหลุยส์ติงต๊อง ก๊ะ ป้าดา )
แต่ บังเอิญ พลาดท่า โดนตำรวจล้อมบ้านสกัดจับ


คุณพี่พระเอก ก็ต้อง โชว์ฟามแมน แอ่นอก รับลูกปืน
และ ยื่นมือ เข้ามา ปกป้องน้องนางเอก
ด้วยการ ยอมรับเป็นแพะ เป็นผู้ต้องหา ซะเอง สิจ๊ะ
แหม๊ แค่เสียสละเข้าไปนั่ง วิปัสสนา ที่สำนักสงฆ์บางขวาง
แล้วโดน ขาหญ่าย กระทืบตายคาคุก เพื่อ น้องนางเอกแค่นี้
ลื้อยังป๊อด ทำไม่ได้ เรย นิ




ชิส์ ไอ้ก้วยยี้ เอ๊ยยย
ถ้า อยากจะเล่นบท พระเอกมืออาชีพ
มันต้อง เล่นจริง เจ็บจริง ( และ ด้วนจริง ) ว้อย
ที่สำคัญ ต้องมีวินัย เล่น ตามสคริปต์
ที่ ผู้กำกับ ทั่นรจนา ไว้ด้วย



ขืน ยังเล่นมั่วซัว ชอบมา ซึน นอกบท
แถมจ้องแต่จะมา ขโมยซีนกัน งี้
ลื้อ ก็ ดักดาน อยู่กับบท ไอ้ฟักผู้อาภัพ
แร้ว ตายคาตรีนชาวบ้าน( แบบ ซือแป๋ ของลื้อก็พอมั้ง)
อย่าได้คิดเผยอหน้า มา โกอินเตอร์ เล่นบท ก้วยยี้ คู่ก๊ะ อิเจ้เรยว่ะ
เด๋ว เพลงกระบี่คู่ประสานใจ ในตำนาน
มันจา เสียของงงงงงงงงงงงงงงงง เหอ...เหอ..





ว้าาาาาาา เผลอ ดราม่า อีกแระตรู
โสงสัย จาอ่านบทฟามของ คุณจ่า มากไปหน่อย มั้ง
เรยชักจะอิน เหอ....เหอ......
อิอิ ล้อเล่นอ่ะจร้าาาา ไอ้โซ๊ยตี๋
อิเจ้ ปล่าว ยัดยาบ้า หั้ยลื้อนะโว๊ยย
เจ้ก็แค่ ยัดยาบ้า ใส่ไว้ เป็น Accessories ใน นกกระดาษ
แร้ว แกล้งทำหล่น เรี่ยราด ล่อเสือล่อตะเข้ เท่านั้นเอง


ถ้า ลื้อไม่อยากรู้อยากเห็น
ทะลึ่งมาหยิบ เจ้านกพับพวกนี้ ไปสุมไว้บนหัว
ถามหน่อยเถิด ลื้อจะโดนคุณตัวรวจรูปหล่อ
ขอตรวจค้นตัว แล้วเข้าจับกุม
ข้อหามียาบ้าอยู่ในครอบครอง ไหมล่ะ ?
แหม๊ ? สงสัย อิเจ้ ต้อง ฝากให้ ทงอี มาตามสืบหั้ยแร้วมั้ง
ว่า คดีนี้ มันเกิดเพราะกรรม หรือ ความซรวย 5555



อีกอย่าง อะนะ ลื้อเองก็เคยแพล่ม
สอนหนังสือสังฆราช เองนี่หว่า ว่า

โจรที่ถือมีดอยู่ในมือ กับพ่อครัวที่ถือมีดอยู่ในมือ
โจรกับพ่อครัวมันเหมือนกันหรือครับหลวงพี่
อย่าไปดูที่มีดสิครับต้องดูว่าใครเป็นคนถือมีด



งั้น ถ้าเจ้ นึกครึ้ม แอบซุกยา ใส่กระเป๋าลื้อจิง ๆ
เหตุใด ลื้อถึง ไม่ยอมแยกแยะ ซะมั่ง ล่ะไอ้โซ๊ยตี๋
อย่าไปดูที่เม็ดยา สิจ๊ะ ต้องดูว่า ใครเป็นคนซุกยา !
ตำรวจเลว ซุกยา ใส่กระเป๋าลื้อ
กับ เภสัชใจดี อย่างอิเจ้ ซุกยา ใส่กระเป๋าลื้อ
มันเหมือนกันหรือวะ ไอ้ทิด
เฮ่ย ใครว่า เจ้ซุกยา


เฮ้อออ ไอ้โตแมวตื่น เอ๊ยยย
ขอประกาศอีกเป็นครั้งที่ ห้าร้อย นะเฟร้ยยย
ว่า เจ้ก็ไม่ได้ เห็นอะไร ไม่พอใจ แล้วกล่าวหาว่า
ลื้อไม่มีสัมมาทิฐิ ยืดมั่นถือมั่น ซะหน่อยนิ
ก็แค่พยามจะเตือนลื้อด้วยฟามเป็นห่วงเป็นใย
ตามประสากัลยาณมิตร ตะหาก


อืม... อ่านตัวหนังสือที่ลื้อเขียนแร้ว
มันเหมือนกับเห็น ลื้อหยิบนกพับของลุงหมัก
มาแบก มาวางทับไว้บนหัวซะยั้วเยี้ยเรย
อิเจ้จึงกัวว่า ลื้อจะ หนักที่คั่นหู จน คอหัก
แบบเดียวที่ อาแป๊ะลิ้ม มันแบกภาระ จน หลังหัก ไง อิอิ
ก้อ เจ้ กัวลื้อจะ ขุ่นมัวในจิต จนเหิดทุกขังกะละมัง นิ


เจ้เรยต้องโก่งคอขันจุ๊ก ๆ เตือนลื้อจิ๊ดนุงส์
ไมเกรน ลื้อจะได้ไม่กำเริบเสิบสาน คิดฟุ้งซ่านขึ้นมาไง
แต่เจ้คงพูดจาภาษาดอกไม้ไม่ค่อยถนัด เหมือนลื้อมั้ง
ไอ้ที่คิดจะเตือนด้วยมธุรสวาจา เรยกลายเป็น ว่า
เตือนไปตบไปด้วยฟามเคยชิน แหะๆ


ส่วนเรื่อง เห็น อะไร ไม่พอใจ
ในตัวหนังสือของ ลื้อ ในบล็อกนี้ เนี่ย ก็ไม่เคยจะมีนะ
พิณาจากที่ อ่านตัวหนังสือของลื้อ แล้ว
อิเจ้ก็ไม่เคยจะต้องมานั่ง ขุ่นมัว
จนถึงกับต้อง เก็บเอาไปเขียน ไว้ใน สมุด เบิ่งจิต
เพื่อ ทบทวนสภาวะ ซะที อ่ะ



ส่วนใหญ่ อ่านตัวหนังสือลื้อแล้ว
ก็มีแต่ อมยิ้ม อย่างหมั่นไส้ แกมเอ็นดู มากกว่า นะ
แถม ตรูยังต้อง พยามฟังหูไว้หู
หมั่น เจริญสติ ไม่หั้ยเคลิบเคลิ้ม
ไปกับ คารี้คารมของไอ้พวกหัวหมอจ้อความด้วย
แมร่ง มัน ชักแม่น้ำทั้ง 5 ได้เก่ง พอ ๆ ก๊ะ อีตาชูชกเรยว่ะ
แหม๊ ฟังคำตะล่อมกล่อมเกลาของไอ้หมอนี่ แร้ว
เล่นเอา ตราชั่งตรูชักจะเอียงกะเท่เร่ เรยวุ้ย
นี่ ร่ำๆ จะปันใจจากพี่เหลี่ยมของเจ้
ไปให้ ป๋าหมัก เรยนะนั่น
แต่โชคดี ที่ ปฏิบัติมาดี
เรยฉุกคิดได้สติ ขึ้นมาได้ซะก่อน เอิ๊ก ๆ




นี่ๆ ถามจิง ถ้าเป็นงี้ แร้ว
อิเจ้ จะไป ไม่พอใจ อะไร กับสิ่งที่ลื้อเขียนวะ
และเมื่อ เจ้ ไม่ได้ขุ่นมัว กับตัวหนังสือของลื้อซะหน่อย
งั้น สิ่งที่ อิเจ้ เตือนลื้อเพราะฟามหวังดีเนี่ย
มันจะกลายเป็น อคติ 4 ไปได้ยังไงล่ะ



ฮือ ๆ ทำไมนะ ทำไมลื้อถึงได้
มองว่า ฟามปาดถะหนาดีของเจ้
เป็นการยัดยาบ้าไปได้ล่ะ?
เจ้เสียใจนะเนี่ย อ่ะซิก ๆ



แหม ๆ ตอนเจ้แอบอู้งานมาเล่นเนต
ลื้อเองยังเคยเตือนเจ้ ด้วยฟามเป็นห่วง
กัวว่าเจ้จะทำตัวเหลวไหลจนเจอซ้อมหาภัย เรยนิ
แล้วทำไม คราวนี้ อิเจ้จะตอบแทนบุญคุณลื้อ
ด้วยการเป็นห่วง(ผูกคอ )คอยเตือนลื้อมั่ง ไม่ได้หรือไงจ๊ะ เหอ ..เหอ...




สาบานได้ ว่า ที่แพล่ม ๆ เนี่ย
อิเจ้ทำไป เพราะเป็นห่วงเป็นไย ไอ้โซ๊ยตี๋ ( จริง จริ๊งงงงง )
ถ้าไม่เชื่อ จะหั้ยอิเจ้ จุดธูป
เชิญ อิปลาไหล เอ๊ย คุณนายเน่า ( ว่าที่แม่ปั๋วของ เจ้ )
มาเป็น นายประกัน ให้ก็ได้น้าาา
เผื่อว่า ลื้อจะ อุ่นใจ ขึ้นมามั่ง หุหุ












--------------------------------------

ไอ้ตี๋ ว่า....
มันก็เหมือนกับเราได้อ่านพระไตรปิฎก
ถ้าเราอ่านแล้วเชื่อ เราศรัทธา
ความจำนี้มันจะเป็นสัญญาติดตัวเราไป
ต่อมาเราเห็น เราก็ใช้สัญญาตัวนี้แหล่ะ
เป็นหลักในการพิจารณาธรรม ตัวอย่างเช่น.....
มี หลวงพี่แก่เปรียญออกมาสอนพระไตรปิฎก
แนวปรัชญาเจ้าบทเจ้ากลอน เราออกมาโต้แย้งว่า มันไม่
ถูกสอนแบบนี้มันไม่ได้ อย่างนี้เรายึดมั่นถือมั่นหรือว่ะ
เขาเรียกวิธีการของอั้วว่า การตีแผร่พระธรรม
แต่ไอ้วิธีของหลวงพี่แกขาเรียกว่า การปรุงแต่งพระธรรม

+++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า ...
เฮ้อออ ขอประกาศอีกหน เป็นครั้งที่ พัน ว่า
เจ้ไม่บอกว่า ลื้อยึดมั่นถือมั่น ก็ได้วะ
เพราะถ้าบอกไปงี้ เด๋วลื้อก็ มี งอล เจ้ อีกอ่ะดิ
เจ้ขี้เกียจ ตามง้อ แระว่ะ เฮ้ย เป็นพูชาย เนี่ย
งอลมาก ๆ มันม่ายงาม นะว้อยย อิอิ


ก็บอกไปแระ นิว่า อ่านตัวหนังสือลื้อ แล้ว
มันรู้สึกได้ถึง ฟามขุ่นมัวที่แผ่รังสีคอสมิค ออกมาง่ะ
เรยเป็นห่วงกลัวว่าลื้อจะขุ่นข้องหมองใจจนธรรมะแตก ซ้า
แต่ถ้าลื้อ ดูจิต แร้วคิดว่า ตอนที่ลื้อถามเจ้เรื่อง พับนกเนี่ย
จิตลื้อม่ะได้ ขุ่นมัว จิงจิ๊งงงงง อิเจ้ก็อนุโมทนา โตยจร้าาาา อิอิ



อืม...เจ้มองว่า จะตีแผ่พระธรรม หรือจะ ปรุงแต่งพระธรรม
มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นเทคนิคที่ทำได้ทั้งนั้นอ่ะ
มันก็เหมือนกับเราได้อ่านตำราการขีจักรยานนั่นแหล่ะ
ถ้าเราอ่านแล้วลงมือหัดขี่ สิ่งที่เราได้ นั้น
มันก็ไม่ใช่แค่สัญญา แต่มันจะเป็น ทักษะที่จะติดตัวเป็นอัตโนมัติ


ดังนั้น ถ้าเราเรียนการขี่จักรยาน มาจากตำราแบบนึง
แล้วเกิดมี จารย์อีกคนมาสอนให้ขี่จักรยานอีกแบบนึง
ถึงเราดูแล้วก็ ขัดหูขัดตาและขัดใจ ไปบ้าง
แต่ถ้ายังพอกล้อมแกล้ม ไม่ถึงกับเลวร้ายอะไร
มันก็ไม่ถึงกับต้องมาต่อต้านนิ
( ถ้า สัดส่วนในทางที่เป็นกุศล มันมากกว่า อกุศล อ่ะนะ )


หรือ ถ้าตำราเล่มนั้น มันสอนไม่ถูก จิง ๆ
ก็ปล่อยให้ คนหัดขี่จักรยาน
มันหัวร้างค่างแตก ซะหน่อย จะเป็นไรไป
ใครบ้างล่ะ ที่หัดขี่จักรยาน
แล้ว ไม่เคย แข้งขาถลอกปอกเปิก
ถ้ามันมีวาสนาจริตเพียงพอ
ก็คงไม่ถึงกับคอหักตาย หรอกมั้ง เอิ๊ก ๆ



ลื้ออ่ะมันเปอร์เฟคชั่นนิสต์ตัวพ่อ
ยอมรับได้แต่ กุศโลบายที่มีแต่ กุศลกรรม เพียว ๆ
แต่การสอนธรรมะในโลกนี้ น่ะ
มันก็ต้องมีทั้งสอนแบบโลกียะและ โลกุตระ
ให้ คนมันเลือกเรียนรู้เอาตามศักยภาพของตนนะ
ก็เคยบอกแล้วนิ ว่าของงี้มันสไตล์ใคร สไตล์มัน
และถ้า จักรยานโมเดล ที่เจ้ แพล่ม มันไม่ทำให้ลื้อเก็ท
งั้นเจ้ จะปาฐกถา โดยยกตัวอย่างเรื่องที่ใกล้ตัว ลื้อ
อย่าง สังคังโมเดล ก็แระกัลเน๊าะ
เพราะจะได้เข้าใจง่ายขึ้น อิอิ


อืม...ตอนที่ลื้อเป็นสังคัง
ถ้าลื้อรักษาด้วยการ ตัดทิ้ง แร้วมันหายคัน
ลื้อ จะมาเหมารวม ตี กรอบ
แร้ว ตีฆ้องร้องป่าว บอกประชาชี ว่า

การใช้วิธี ฝังเข็ม เพื่อ รักษาสังคัง
นั้นมันไม่ถูก สอนแบบนี้มันไม่ได้
พวกเมิงต้อง กินยาหม้อ -รดน้ำมนต์
แร้ว ไป ตอนทิ้ง เหมียนกรูเท่าน้านนน สังคังจึงจะหายสนิท
ห้ามทำเคมีบำบัด หรือ แอบไปซื้อซีม่า มาทา เด็ดขาดดดด ฯลฯ


เฮ้ย ไอ้ตี๋ ลื้อลู้จัก คำว่า แพทย์ทางเลือก
กับ ลางเนื้อชอบลางยา มั่งไหมวะ
และ ปัจจัยของแต่ละคน มันถึงพร้อม ไม่เหมือนกัน
ที่สำคัญ การศึกษาธรรมมะ มันเป็น ปัจจัตตัง นะ
เนี่ย ในทางกฏหมาย มันยังมี คำว่า
ดุลพินิจของศาล เอาไว้ใช้ไว้แทงกั๊ก เรย
แล้วจะแปลกอะไร ถ้าในทางธรรม
จะมี คำว่า วาสนาจริตของแต่ละบุคคล
เอามาไว้ใช้ แทงกั๊ก มั่ง ไม่ได้หรือไง กันนะ อิอิ



แล้วไอ้วิธีสอน แบ่บลื้อเนี่ย
ลื้อ จะยึดถือ เอา สมมุติบัญญัติ ของลื้อ
แล้วบอกว่า มันเป็นการตีแผ่พระธรรม ก็ตามใจลื้อ ดิ
แต่ ชาวบ้าน ก๊ะ เจ้ อ่านแร้ว ไม่ลู้สึกงั้นนี่หว่า
พวกเจ้ขอเรียกวิธีการสอน แบบฮาร์ดคอร์ ของลื้อ ว่า
การตีแสกหน้าทางธรรม ว่ะ


แต่ ในประเทศสารขันฑ์ เนี่ย
99.99 เปอร์เซนต์ ของชาวพุทธ
มันเป็นพวก แถละวาด เอ๊ย เถรวาท นะเว้ยเฮ้ย ไม่ใช่พระเซน
ต่อให้ลื้อ เอาไม้ตะพด ไปเคาะหัวมันให้ตายไง
ก็ไม่มีใคร เกิด ซาโตริ ก๊ะ เลคเชอร์เกรียน ๆ ของลื้อหรอก
เผลอ ๆ ลื้ออาจโดนสื่อรุมกินโต๊ะ
แบ่บ ซือแป๋ ของลื้อ ด้วยว่ะ หุหุ






-------------------------------------------------------
อิเจ้นู๋บี ว่า .....
แบ่บว่า เจ้สมัครเองไม่ได้ว่ะ เพราะมันเสียฟอร์ม
แต่ถ้ายื้มของชาวบ้าน ใช้ แล้วเวลาโพสความเห็น
เขียนหมายเหตุว่า ยืมล็อกอินชาวบ้านมาใช้นะจ๊ะ
มันจะดูดีมีเครดิต แล เท่ห์กว่ามากมาย อิอิ

----------------------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า...
วิธีนี้ดีเหมือนกัน อั้วเคยจะใช้วิธีนี้ ตอนที่อั้วปะฉะดะ
กับยัยฮานะในกระทู้เจ้ อั้วมาปิ๊งไอเดียของพระพุทธเจ้า
ตอนท่านเล่นปริศนาธรรมให้พระอานนท์ฟัง
พระพุทธเจ้าทำได้ ทำไมเราจะทำไม่ได้ว่ะฮาๆๆ


อิเจ้ไว้อั้วจะใช้วิธีของลื้อดูว่ะ
พูดจริงอั้วอยากคุยกับอีตาขันธ์ในเว็บพังจิตจริงๆ
รับรองได้มันด่าโครตพ่อโครตแม่อั้วแน่ๆ


ว่างๆอั้วว่าจะเข้าไปแอนตี้แล้วมุดดูหน่อย แต่อั้วขี้เกียจที่จะ
เจอหรือคุยกับอีตาเมส หรือไอ้ตี๋บุ้งกา
สองคนนี้มันพูดไม่รู้เรื่อง
แล้วมันตั้งหน้าตั้งตาฟ้องๆๆๆอย่างเดียว

+++++++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ว่า ....

เฮ้ยยย ไอ้โซ๊ยตี๋ อิเจ้ สงสัยว่ะ
ว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัย
หั้ยลื้อ เคยคิดจะใช้ วิธีของเจ้
ตอนที่ ไปปะฉะดะ ก๊ะ อินู๋ฮานะ ล่ะ
คงกัวว่า แม่ยอดขมองอิ่มของลื้อ จะงอลล่ะสิ



โถ ๆ จิง ๆ อิเจ้ก็ไม่น่าเข้ามาแทรกกลาง
สร้างฟามร้าวฉานให้กับความรักของหนุ่มๆสาวๆ เรยอ่า อิอิ
เออ แล้ว 'ไม สุดท้ายลื้อถึงตัดสินใจ ใช้ล็อกอินตัวเอง
ไปทำสงครามน้ำลาย ก๊ะ อินู๋หน่อไม้ ว้าาาาาาาาา
ถ้าใช้ล็อกอินคนอื่นไปโพสอ่ะนะ
ลื้อคงไม่มีใบแบน แปะหน้าผาก
เป็นตราบาปหรา งี้หร็อก 555



ว่าแต่ ไอ้เรื่อง ที่ ลื้อ จะ ใช้ วิธีของ อิเจ้
ปลอมตัว ไปคุยก๊ะ ป๋าขันธ์ ในพลังบิดนั้น
ไงก็ระวัง สัจจะ มันจะตำคอ เอานะเว้ย
เพราะไอ้วิธีของเจ้ น่ะ มันจะใช้ได้ผล และ ดูดีมีชาติตระกูล
ก็ต่อเมื่อ เราเป็น ฝ่ายถูกกระทำ นะจ๊ะ


แต่ ถ้า เสือกสะแหล๋นเผลอ ไปลั่นวาจา
ว่าตรูจะไม่มาโพส ในเวบพลังบิด อีกแว้ววววว
แร้วทะลึ่งใช้วิชามาร อวตารไปโพส เนี่ย
ระวังจะเสียฟอร์นักปฏิบัตินะว้อยยย
ถึงชาวบ้านจะไม่รู้ แตใจเราน่ะรู้
เตือนไว้ก่อน เพราะเจ้ยังไม่อยาก
โดนข้อหาสมรู้ร่วมคิด ทำหั้ยลื้อเสียสัตย์เพื่อซาด 5555



เออ แร้ว ตอนนี้ ลื้อ ได้ไปอิแร่ดแต๊ดแต๋ ที่ เวบแอนตี้แล้วมุด รึยังอ่ะ
นี่ ๆ ถ้าอยากไปเปลี่ยนบรรยากาศแถวเวบ อตลม.
แต่ ม่ะอยาก หั้ย อิตาเมส ก๊ะ อิบุ้งก้า
ตามมานัวมาเนีย มาเลียก้นหั้ยแผล่บ ๆ
แบ่บสมัยอยู่ ลานธรรมจก
เจ้ จะแนะนำหั้ยเอาป่ะ อิอิ
ลื้อ ต้องใช้ชื่อ ล็อกอิน ว่า นู๋บี FC
ไม่ก็ บัวเหล่าที่ 5 FC
หรือ 5th-Lotus FC อ่ะจร้าาาาาาา


รับรองได้ว่า ด้วย ภูมิกึ๋น และ ฟามปากหมา
ตลอดจน บารมีฟามเกรียนที่ อิเจ้ สั่งสมมา
จะทำหั้ย ไอ้ 2 ตัวนี้ ไม่กล้า มาแหยม ก๊ะลื้อ แน่ ๆ
เพราะ มันกลัวว่า ลื้อจาเป็น ร่างทรง ของ อิเจ้ ว่ะ
แต่ไง ก็ระวัง อาเฮีย สาโท โผล่มา เสวนาธรรม ด้วยล่ะ
เฮียแก ยิ่งบ่น ๆ ว่า คิดถึง อิเจ้นู๋บี อยู่ด้วย หุหุ



อ้อ แร้วถ้า ลื้อ ไปยุรยาตร
เป็น พระยาน้อยชมตลาดอยู่แถว อตลม. แร้ว
อิเจ้ขอฝากให้ลื้อช่วยเป็นพ่อสื่อพ่อชัก
ส่งฟามรักฟามคิดถึงของเจ้
ไป หั้ย อิตาเกิดเป็นคน โคตรสับสนด้วยดิ
อิเจ้จาฝากส่งเทียบเชิญ หั้ยมันแวะ มานั่งอยู่บนภู
เพื่อดู ไอ้นกเขาคู มันแหกปากร้อง จุ๊กกู่ๆๆ
ณ สุสานโบราณ แห่งนี้ ด้วยอ่ะจ้ะ


แบ่บว่า เจ้อยากจา อวด มันง่ะ
ที่จู่ ๆ ก็มีไอ้ตี๋หน้ามืด มาติดแร้วซาเหน่ของเจ้ อ่า
มันจะได้สำเหนียก เสียที ว่า
ถึง กาลเวลาจะผ่านมาเนิ่นนานแค่ไหน
ฝีไม้ลายมือ ในการ บริหารซาเหน่ ของ อิเจ้
เก๊าะ ยัง แหล่ม เหมียนสมัยอยูที่ พันติ๊ป ว่ะ


เผื่อว่า ไอ้เจ้าเกิด ฯ จะได้นึก เสียดาย อิเจ้ มั่งอ่ะ
มันจะได้ หยุดผยอง แร้วเลิกทึกทักคิดเอาเอง ซะที

ว่า ในโลกไซเบอร์นี่นะ..
มีแต่ผู้ชายอย่างมัน เพียงคนเดียวเท่าน้านนน
ที่มองเห็น ฟามผุดผ่องเป็นยองเป็นใยดุจแพรไหม ของอิเจ้ป่อง อิอิ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:22:47 น.  

 
 
 

-----------------------------------------------------------

อิเจ้บัวป่อง ว่า....

ลื้อ รู้ไหม ? ว่า ทั่น ดร.กฤษณา เภสัชกรยิปซี
ผู้ปิดทองหลังองค์พระปฏิมาของเจ้
ต้อง ระหกระเหเร่ร่อน ยืนหยัดต่อสู้กับอำนาจมืด อะไรมาบ้าง
เพื่อให้ได้มาซึ่ง สิทธิอันชอบธรรม ในซีแอลยา
สำหรับคนไข้อนาถาตาดำ ๆ ที่ยากไร้ของเจ้

//www.krisana.org/2011-04-20-15-09-55/225-2011-04-15-17-08-51.html



------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า....

พุดโท! นางฟ้าผู้ปิดทองหลังพระ ก็ได้ถ้าลื้อเข้าใจแบบนั้น
แต่ลื้อไม่คิดหรือว่า ทองที่อีนางฟ้าของเจ้เอามาปิดหลังพระ
มันเป็นทองของใคร มันเป็นทองของคนอื่นเขา

เจ้ป่อง เจ้ลองดูซิว่า ยัยนางฟ้าแกทำงานอะไร
ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม
อีนางฟ้าเล่นชุบมือเปิบครับ อีเล่นจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้ง
กล่อง ทำงานได้เงินเดือนไม่พอเอาชื่อเสียงมาเป็นของตัว

พอมีชื่อเสียงเข้าหน่อยแม่เล่นลาออกหน้าตาเฉย แถมมา
ตีหน้าซื่อ อยากอุทิศตน ไม่สนใจเงินเดือน อพิโท! ใช่ซิ
อค์การเภสัชมันหมดประโยชน์กับเจ้แล้วนี่

ชื่อเสียงในเมืองไทยมันเด็กๆ อย่างฉันมันต้อง โนเบลไพรซ์
พูดได้คำเดียวครับ เนรคุณได้ใจเลย

ถ้ายัยนางฟ้านี้เก่งจริงดีจริง ประเทศจีนมันก็สุดยอด
อัฉริยะแล้ว มันมีอะไรบ้างในโลกที่เมืองจีนทำไม่ได้
แล้วทำไมเขาถึงได้ประนามเมืองจีน ก็เพราะมันไปเอา
ความคิดริเริ่มของเขา ความสำคัญมันอยู่ตรงนี้

อย่างยัยนางฟ้านี่ ถ้าเอดิสันยังอยู่ คงกระชากผมยัยนี่แล้ว
ตบซ้ายตบขวา แล้วตะคอกใส่เป็นภาษาอังกฤษสำเนียง
แยงกี้ F-U-C-K YOU อิหน้าด้าน

อีเจ้ป่อง เจ้เรียนเคมี เจ้ย่อมรู้ว่า การคิดค้นอะไรใหม่ๆได้
มันต้องคิดค้นสารประกอบตัวใหม่ได้ ไม่ใช่เอาสารประกอบ
ที่เขาคิดได้ มาทำเป็นของผสม แล้วมาแหกปากร้องว่า
ฉันคิดเคมีตัวใหม่ได้


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ว่า....


อืม...สมัยเรียน Med-Chemฯ
เจ้โดดบ่อยซะด้วยดิ ( แบ่บว่า จารย์ ไม่ได้เชคชื่อ 555)
แร้วงี้ เจ้จะแกล้งทำไม่รู้ไม่ชี้ กับ คำถามนี้ ได้ไหมเนี่ย เอิ๊ก ๆ
เอ ? แต่จะว่าไป ตอนนั่งสัปหงกเรียนวิชากฏหมาย
เจ้ ก็ได้รู้เกี่ยวกับเรื่อง สิทธิบัตรยา เหมือนกันนะ
เรยขออนุยาดแพล่ม ซะหน่อย อิอิ


อืม...ลื้อคิดว่า อะไรคือเหตุปัจจัย
ที่ทำให้เกิดเงื่อนไขกฏหมายในสิทธิบัตรยา ล่ะ
มันก็แค่ การที่รัฐพยามใช้หลักนิติสาด
มารักษาสมดุลของผลประโยชน์
ระหว่าง บริษัทยา ก๊ะ ประชาชน ตาดำ ๆ อ่ะนะ



ถามจริงเหอะ ถ้าไม่เป็นเพราะ พวกบริษัทยา
มันต้องการความคุ้มครองจากรัฐ (ป้องกันการก๊อปฯ)
ป่านนี้ ไอ้พวกบริษัทยาทั้งหลาย
มันคงจะหาเรื่องแทงกั๊ก ปกปิดสูตรการผลิต
ไว้เป็นฟามลับสุดยอดของตระกูล
ไม่ยอมถ่ายทอดให้คนนอก
แล้วปล่อยให้องค์ความรู้ทั้งหลายนั้น
มันตายไปพร้อมกับตัวเอง
(แบบเดียวกับที่คนจีนชอบทำ นั่นแหล่ะ )


และ ถ้าเลือกได้ บริษัทยาทั้งหลายก็คงจะโลภมาก
เลือกที่จะผูกขาดทางการตลาด
เก็บสูตรยาไว้ทำกำไรไปตลอดปีตลอดชาติ เรยล่ะมั้ง
เผลอ ๆ ถ้ากระเตงสูตรลับการทำยา ไปใช้ชาติหน้าได้
มันเก๊าะคงจะหอบไปด้วยแระ
ความโลภ มันเข้าใครออกใคร ที่ไหนล่ะ เอิ๊ก ๆ


ที่พูดมาทั้งหมดนี้ อิเจ้ ก็ม่ะได้คิดจะชักแม่น้ำทั้ง 5
มาสาธยาย โน้มน้าวให้ลื้อเห็นว่า
เรื่องซีแอลยา นั้นมันถูกต้อง หรอกนะ
เรื่องบางเรื่อง แม้จะถูกต้องตามหลักกฏหมาย
แต่ถ้าไม่ ชอบธรรม ตามหลักของกฏแห่งกรรม แร้วไซร้
อิเจ้ก็ไม่ได้คิดจะยอมรับ หรอกนะ


และเผลอๆ ถ้า เอาหลักของศีล มาวินิจฉัย
แค่ เจอคำว่า ทรัพย์นั้น มีเจ้าของ
เจ้าของเค้าหวง เค้าไม่เต็มใจจะหั้ย
ถึง สิทธิบัตรของยานั้น มันหมดอายุไปแล้ว
เจ้ก็ยังถือว่า มันผิดศีล อยู่ดีว่ะ
แหม๊? จิง ๆ อืเจ้ก็จ่ายออกจะบ่อยนะ
ไอ้พวกยาเอดส์ ปของ อิเจ้ กฤษณา
อืม... แร้วงี้ตรูจะเจอ ข้อหาสมรู้ร่วมคิด ก๊ะ เจ้กฤษณา
จน ศีลข้อ 2 ถลอกปอกเปิก ไหม เนี่ย ?
เฮ้ออ สงสัย อิเจ้ป่องคงต้องก้มหน้าก้มตา
รับวิบากกรรมไปตามมีตามเกิด อ่ะนะ อิอิ


แต่ถึงงั้น อิเจ้ ก็ขอเตือนลื้อหน่อยน้าาาาา
ว่า อย่าไปเพ่งโทษโกรธเคือง อาราย อิเจ้กฤษณา ทั่นเล๊ยยย
ไงลื้อก็ระวัง จะเกิด ปฏิฆะ ต่อกัน ด้วยนะว้อย
อะโหย เล่นเห่าแว้ด ๆ เป็นชุด เรยเว้ยเฮ้ยยย
แหม ?นี่ถ้า ซือเจ้กฤษณา ของเจ้ มาอยู่ตรงหน้า
ถ้าจะโดนไอ้พิทบูลหน้ามืด มันโดดขย้ำคอหอยแหง๋ ๆ


โถ ๆ สงสัยลื้อนี่ ท่าจะเป็นพวกชอบ โปรเจคชั่น อ่ะ
ประมาณว่า ในอดีตเคยถูกสาวสุราดทำให้เกิดแผลเก่าฝังใจ
ลื้อก้อเรยรู้สึกไม่ดี มีอคติ และ ชอบเหมารวมแบบยกโหล
เวลามองเห็นสาวสุราดคนไหนผ่านเข้ามาในสายตา
ไอ้ตี๋โอทึ้ง จึงเห็นว่า อีพวกนี้เป็นนางมารร้ายไปโม้ดดดดดด



อืม..ไม่แน่นะ บางที ตอนนี้อิเจ้กฤษณา
แกคงกะลังพยามจะ บำเพ็ญเพียร
สะสมบารมี กับคนยากไร้
แบ่บ พระโพธิสัตว์ทั้งหลายอยู่ล่ะมั้ง อิอิ
เฮ้ออ จิง ๆ อิเจ้ ก็ไม่ได้หลงไหลได้ปลื้ม
หรือ เห็น ดร.แก เป็น ไอดอล อะไรหรอกจร้าาาา
แค่ได้ยินชื่อแว่ว ๆ เข้าหูซ้ายทะลุหูขวา นิดหน่อย
แต่ได้อ่าน ชีวประวัติแบ่บละเอียด ๆ
ก็ตอน ไปเสิร์ชอากู๋ มาเป็น Ref. เถียงสู้ก๊ะลื้อนั่นแหล๊ะ 5555


และเท่าที่ อ่าน บทสัมภาษณ์ ของดร.แก ในลิงค์นี้

//www.krisana.org/2011-04-20-15-09-55/225-2011-04-15-17-08-51.html


ก็รู้สึก ชื่นชมแนวคิด ก๊ะ ปรัชญาชีวิต ของด๊อคทั่น
ในบางเรื่อง เหมือนกันน้าาาาาาาาาาา
อย่างน้อย อิเจ้ก็รู้สึกเอ็นดู ทั่น ดร. กฤษณา
มากกว่า ซือแป๋ตะหมูกชมพู่ ล่ะว้าาาา อิอิ



อืม...ว่าแร้วอิเจ้ผ่องก็ขอเป็นทนายแก้ต่าง
ให้ แม่นางฟ้า ของอิเจ้ จั๊กหน่อยดีฝ่า
เผื่อว่า ศาลฎีกา ทั่นฟังแร้วจะเมตตา
ลดหย่อนโทษทัณฑ์ หั้ยมั่ง 555
(อันนี้ อิเจ้ว่าความหั้ย ตามหลักกฏหมาย อ่ะนะ
ไม่ใช่ ว่าความตามหลักของกฏแห่งกรรม
เพราะถ้าเป็น อี อย่างหลัง ไงก็คงหลุดยากส์ ว่ะ เอิ๊ก ๆ )





ประเด็น ที่ลื้อยื่นฟ้องมาว่า
-----------------------------------------------
อีเจ้ป่อง เจ้เรียนเคมี เจ้ย่อมรู้ว่า การคิดค้นอะไรใหม่ๆได้
มันต้องคิดค้นสารประกอบตัวใหม่ได้ ไม่ใช่เอาสารประกอบ
ที่เขาคิดได้ มาทำเป็นของผสม แล้วมาแหกปากร้องว่า
ฉันคิดเคมีตัวใหม่ได้
+++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ขอ ชี้แจงแทนจำเลย ว่า
ไอ้เรื่อง คิดสารเคมีตัวใหม่ได้นั้น
ทั่นด๊อคแก ม่ะได้แหกปากเองนะยะ
แต่พวกสื่อทั้งหลายมันก็ตีไข่ใส่สีไปเองอ่ะ
เฮ้ออ ลื้อก็น่าจะรู้นี่หน่า



ว่า หลักการเขียนสกู๊ปข่าวน่ะ หมากัดคน ไม่เป็นข่าว
ต้อง คนกัดหมา เท่านั้น หนังสือจึงจะขายได้
ทั่นด๊อกฯ เองก็คงจะเข้าใจประเด็นนี้มั้ง
ก็เรยต้องเลยตามเลย ไม่ไปพื้นฝอยหาตะเข็บด้วย
และ ไงอิเจ้ก็คิดว่า ด๊อคแกคงไม่กล้าแหกปากว่า
ชั้นคิดเคมี ตัวใหม่ ได้ หรอกนะ


ขืนพูดชี้ชัดไปงั้น เด๋วจะหน้าแตก
เวลาที่มีคนในแวดวงยา มาอ่านเจอ อ่ะดิ
เพราะ ถ้าอยู่ในวงการแพทย์ วงการยาน่ะ
มันก็เข้าตำรา ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ อ่ะนะ
ถ้า เมคอัพสร้างภาพ แล้วไม่เนียน
มันจะเห็นช่องโหว่รูเบ้อเริ่ม
ที่สำคัญ อาจโดนฝ่ายตรงข้ามถล่มเอาได้
พวกหมั่นไส้ NGO น่ะมี อยู่ตรึม เอิ๊ก ๆ




อืม....ถ้าลื้ออ่านจาก ลิ้งค์ที่อิเจ้ เอามาแปะ
ลื้อก็จะเห็นว่า สิ่งที่ ด๊อกฯ ทั่นทำ และ นำเสนอ
มันเป็นเรื่องของการพัฒนาในแง่ของรูปแบบผลิตภัณฑ์
เพื่อช่วยให้ คนไข้กินยาได้สะดวกขึ้นเท่านั้น
( รวมตัวยาหลายชนิด ให้มาอยู่เป็นเม็ดเดียว )
ไม่ได้ไปคิดค้น ตัวยาอะไรใหม่เล๊ยยยยยยยยยย



สารที่ใช้เป็นตัวยาก็ยังสั่งซื้อ จาก ตปท.
มันก็คล้าย ๆ กับ การที่เราซื้อ ไก่จ้อ 5 ดาวมาทอด
เอามาคลุกผสมกับฮอทดอก แล้วปรุงรสทำยำรวมมิตรกินเองที่บ้าน
แทนการซื้อ แบบทำสำเร็จ จาก ร้านขาย ล่ะมั้ง



จิง ๆ มันก็ไม่ได้ยากเย็นอะไรหรอกนะ
อาซิ้มอาซ้อ ที่ไหนก็ทำได้ ว่ะ
แค่ คลุก ๆ ปั่น ๆ เอาตัวยามาผสมกับผงแป้ง
เติม นู่นนิดนี่หน่อย แล้ว เทเข้าเครื่องตอกอัดเป็นเม็ด
ง่ายพอ ๆ กับการทำยาบ้า เรยแหล่ะ อิอิ
แต่ ปัญหา ก็คือ มันไม่มีใครคิดจะทำไง
ทุกคนคิดแต่จะเป็น เป็ดง่อย
อ้าปากรอคอย บริษัทยาต้นแบบ
หยิบยื่นยามาหั้ยแล้วก้อกินไปตามมีตามเกิด


อืม...วยามันเป็นปัจจัย สี่ เหมือน อาหาร
แต่มันไม่ใช่อาหาร และ จำเพาะเจาะจงกว่า อาหาร นี่นะ
ถ้าเราหิวอยากกินไก่จ๊อห้าดาว
ทว่ากินไม่ได้เพราะสิทธิบัตรมันตำคอ
เราก็ยังหันไปกิน ไก่ย่างส้มตำ แก้หิวแทนได้
แต่ยามันไม่ใช่ อ่า ถ้าลื้อเป็นเอดส์
ต่อให้กินซีม่าโลชั่นไปเป็นโหล มันก็รักษาไม่ได้
มันจึงเกิดระบบผูกขาดทางการตลาดแต่เพียงผู้เดียว ของบริษัทยา
จ้างหั้ย บริษัทยาเจ้าของลิขสิทธิ ก็ไม่กระตือรือล้น
จะพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ เพื่อผู้บริโภคหรอกนะจ๊ะ
เพราะมันสิ้นเปลืองโคตร ๆ ไง





สมมุติ ถ้าลื้อ ทำการวิจัยผลิตยา A ขึ้นมา
ลื้ออาจมีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก พันล้านบาท


ถ้าลื้อ ทำการวิจัยผลิตยาB ขึ้นมา
ลื้ออาจมีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก พันล้านบาท


แต่ถ้าลื้อ เอาผงยา A มาผสมกับ ผงยาB แล้วตอกเป็นเม็ด
( แบบ เวลาทำแหนมคลุก )
ลื้อก็จะต้อง เริ่มนับ หนึ่ง
ทำการวิจัยใหม่หมด และ มีค่าใช้จ่าย ต่าง ๆ
เกี่ยวกับการทดลองทางคลินิก
เพิ่มขึ้น อีกพันล้านบาท


แล้วงี้บริษัทยา มันจะยอมเพิ่มต้นทุนการผลิต ทำติ้งไรล่ะ
ไงคนไข้เอดส์ มันก็เป็น หมูในอวย อยุ่แล้วนิ เหอะ ๆ



ดังนั้นการที่ ด๊อคแก มีความคิดริเริ่มสร้างสรรน์
อยากให้ คนไข้กินยาง่าย ๆ สะดวก ๆ
ไม่ต้องกิน ทีละหลาย ๆ เม็ด
ก็ถือว่า ไม่ใช่เรื่องที่ เลวร้ายอะไรนี่หว่า
( อันนี้ หมายถึง ยาที่ สิทธิบัตรหมดอายุ
แล้วเอามาพัฒนารูปแบบผลิตภัณฑ์ ต่อยอด อ่ะนะ
แต่ ถ้าในส่วนของ คดี ซีแอล ยา นี่
ไง อิเจ้ก็หลับหูหลับตา แก้ต่างให้ไม่ไหวเหมียนกันว่ะ
เพระว่ามัน ตะขิดตะขวงใจ ถ้าจะต้องปกป้องด๊อค ในเคสนี้



และ ในสายตาของอิเจ้ คดีซีแอล ยา เนี่ย
ถ้ามองในภาพรวม หาก ศาล ให้ด๊อคแกชนะคดีทำนองนี้บ่อย ๆ
มันก็มีผลกระทบเป็นลูกโซ่ ต่อ การพัฒนา และ วิจัยยา นะ
คิดดูดิ การพัฒนายาสักตัวเนี่ย ค่าใช้จ่ายมันไม่ใช่บาทสองบาท นะเว้ย
พอคิดค้นยาได้สำเร็จ ถอนทุนคืนยังได้กำไรไม่หนำใจเรย
ก็โดนไอ้พวกโรบินฮู้ด มาชุบมือเปิบ
แย่งตัวยา ไปทำขายตัดราคา ซะแระ
แร้วงี้ บริษัทยาที่ไหน มันจะอยากคิดค้น ตัวยาใหม่ ๆ ล่ะ
บรัษัทยานะจ๊ะ ไม่ใช่ องค์กรสาธารณกุศล
จะได้กินแกลบแทนข้าว แล้วยอมเชือดเนื้อตัวเองแจกให้คนไข้กิน




ถ้าอิเจ้เป็น เจ้าของบริษัทยา
แร้วโดน ฟ้องงี้บ่อย ๆ อ่ะนะ
ตรูจะยุบโครงการวิจัยยาเอดส์
แล้ว หันไปผลิตแต่ ไวอะกร้า มาขายว่ะ
เพราะทั้งสบายใจ กำไรดี
แถมไม่มี เรื่อง ซีแอล ยา
มาให้วุ่นวายหัวใจด้วย เอิ๊ก ๆ



เฮ้ออ เรื่อง ซีแอล นี่
มันก็เป็น สนามโคลอสเซียม
การห่ำกันระหว่าง ความโลภ ของบริษัทยา
กับ ความมีเมตตาต่อคนไข้จนเกินพอดี ของเหล่า NGO ล่ะมั้ง
สุดท้าย ไม่ว่า ใครจะชนะ
คนที่ซรวยก็ไม่พ้นคนไข้ตาดำ ๆ นั่นแหล่ะ
และถ้าจะแก้ไข ที่รากเหง้า จริง ๆ อ่ะนะ
เจ้ว่า มันต้อง แก้ที่สันดานของคน
ให้มีจิตสำนึก และ เลิกสำส่อน แล้ว ถือศีล 5 ว่ะ
ถ้าทำได้ อ่ะนะก็จะไม่มีคนเป็นเอดส์
และปัญหาเรื่อง ซีแอล ยา ก็จะหมดไปโดยปริยาย ฮาฮา


แต่ พวก NGO มันคงพิณาดี แร้วมั้ง
ว่า ให้ตรูไปตบตี ก๊ะบริษัทยาเพื่อขอให้ศาล อนุมัติ
เรื่อง ปัญหาซีแอลยา มันยังจะง่ายซะกว่า
การไปจัดแคมเปญ รณรงค์ หั้ยปุถุชน หันมา ถือศีล5 อิอิ








---------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า ....
พุดโท! นางฟ้าผู้ปิดทองหลังพระ ก็ได้ถ้าลื้อเข้าใจแบบนั้น
แต่ลื้อไม่คิดหรือว่า ทองที่อีนางฟ้าของเจ้เอามาปิดหลังพระ
มันเป็นทองของใคร มันเป็นทองของคนอื่นเขา

เจ้ป่อง เจ้ลองดูซิว่า ยัยนางฟ้าแกทำงานอะไร
ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม
อีนางฟ้าเล่นชุบมือเปิบครับ อีเล่นจะเอาทั้งเงิน จะเอาทั้ง
กล่อง ทำงานได้เงินเดือนไม่พอเอาชื่อเสียงมาเป็นของตัว
+++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ขอแก้ตัว เอ๊ย แก้ต่าง ให้จำเลยว่า..
อัน ขวด ถ้วยถังกาลามัง หม้อ
มันเป็นขององค์การเภสัชกรรม ก็จริงอยู่
แต่ มันก็จัดเป็น สินทรัพย์ที่เสื่อมสภาพ
แต่ไม่สึกหรอ แบ่บ ยางลบ ดินสอ นี่หว่า ?



ถ้า ดร. แก เขียนโครงการขออนุญาตทำการวิจัยพัฒนายา
ให้กับองค์กร แบบถูกต้อง
องค์กร ยินยอมพร้อมใจให้กระทำ
มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไรนิ
ยกเว้น อิเจ้แกแอบงุบงิบ แอบ ๆ ซ่อน ๆ ทำเอง
ถ้า ใช้ทั้งไฟหลวง น้ำหลวง เครื่องมือหลวง
แถม ยังซุ่มซ่าม ไปทำ หลอดทดลองแตก อีก
อันนี้ ก็ว่าไปอย่าง แต่ดูแล้ว มันก็ไม่น่าจะใช่นะ




ส่วน ที่ดร.แก เคยให้สัมภาษณ์ บอกว่า
------------------------------------------------
ตอนที่ทำยาก็ไม่มีใครเห็นด้วย เราก็ทำของเราเอง
คือความที่ไม่ได้แคร์ตำแหน่ง เงินเดือน
เราก็ทำของเราเอง ก็ทำอยู่ตั้ง 6 เดือน ทำคนเดียว
ทั้งผลิตเอง วิเคราะห์เอง วิจัยเอง ไม่มีใครทำด้วยเลย
เพราะเขามองว่าขั้นตอนการทดลองอาจจะมีอันตรายต่อสุขภาพ
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ที่ บอกว่า ไม่มีใครเห็นด้วย นี่
มันก็ไม่ได้หมายความว่า
เค้าจะไม่สนับสนุน
ไม่อนุมัติงานวิจัยที่เสนอไปนี่หว่า
ในฐานะอิเจ้เคยทำวิจัย ซีเนียร์โปรเจค สมัยอยู่ปี 5
อิเจ้ก็พอจะเข้าใจเรื่อง ขั้นตอนการอนุมัติโครงการวิจัย อยู่บ้าง


ส่วนใหญ่ ถ้ามีใครเขียนโครงการขอพัฒนาวิจัยยา เนี่ย
พวกมหาวิทยาลัย และ องคการเภสัช
ก็มักจะ อนุมัติ ให้ง่าย ๆ นะ
เต็มใจ เสียยิ่งกว่า เต็มใจ
ที่จะหั้ยยื้ม ถ้วยไห กาละมัง นู้นนี่นั่น
พร้อมโปรโมรชั่น น้ำฟรี ไฟฟรี มีเนต หั้ยเล่น อยู่แร้วจร้าาา
เผลอ ๆ จะประเคน โอที หั้ยทำวิจัยนอกเวลาด้วยซ้ำ
เพราะเรื่องพวกนี้ มันเป็นประโยชน์ เป็นชื่อเป็นเสียง
และ เป็นหน้าเป็นตา ให้กับองค์กร


ถ้าเป็น ความสัมพันธ์ในเชิงนิเวศน์ วิทยา
ก็คงเป็น ความสัมพันธ์ ประเภท Protocoperation
ไม่จำเป็นต้องอยู่ร่วมกันตลอดไป
แต่ต่างฝ่ายต่างได้รับประโยชน์ร่วมกัน อ่ะนะ


ซึ่ง มันก็ไม่ได้เสียหายอะไรนี่
หรือลื้อจะให้ ดร. ทั่น ดักดาน เอ๊ย เคียงคู่อยู่ก๊ะองค์การเภสัช
ไปตราบจนสิ้นกาลปวสาน หรือไงว้าาาาาาาาา
เฮ้ย นี่มันเป็นฟามสัมพันธ์
แบบ ลูกจ้างก๊ะนายจ้าง นะเว้ยเฮ้ย
ไม่ใช่ ฟามสัมพันธ์ ฉันชู้สาว
จะได้ต้องติดแหง่กอยู่ด้วยกัน
เป็นฝาแฝดอินจันไปทั้งปีทั้งชาติ



นี ๆ ถามหน่อยเหอะ
ถ้าลูกน้องที่ทำงานกะลื้อ
มันได้รับข้อเสนอที่ดีกว่า
จากนายจ้างคนไหม่
พร้อมก๊ะแจกโปรโมรชั่นพิเศษ
ถ้าแอบกินเหล้าเมาค้าง
นายจ้างก็ไม่ด่าไม่ตี ด้วยนะจ๊ะตัวเอ๊งงงง
แบบนี้ ถ้าลูกน้องลื้อลาออก
ลื้อจะด่าไล่หลัง ว่า มันเนรคุณไหมล่ะ ?
กรณี ทั่น ดร. แกก็เหมือนกันนั่นแหล่ะย่ะ



และเท่าที่อ่านบทสัมภาษณ์ ของ ดร. ทั่นแร้ว
คิดว่า ดร. ทั่นก็มี ความรับผิดชอบค่อนข้างสูงนะ
ก็ขนาดจะไปประท้วงเหย็ง ๆ
ก๊ะพวก NGO อียัง ลาพักผ่อนไปเรยนี่หว่า
ดังนั้น อีคงไม่ทำอะไรที่มันเป็นการ
เบียดบังทรัพย์สินของทางราชการ
ไปใช้ในงานส่วนตัวหรอกมั้ง
และ หากทำลงไปจริง ๆ
ก็คงจะทำไปโดยไม่เจตนา
ด้วยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ว่ะ




ซึ่งถ้าเป็นงั้น แล้ว ลื้อมาพนันก๊ะ อิเจ้ไหมล่ะ
ว่า หาก ดร.ทั่น รับรู้ว่า ในอดีตนั้น
ทั่นเคยกระทำการอันเป็นไปในทาง อกุศล
เป็นเหตุทำให้เกิดการเบียดบังทรัพย์สินของหลวง แล้วไซร้
ทั่นจะแสดงความรับผิดชอบ ทั้งหลายทั้งปวงหรือไม่ อย่างไร?


ถ้าให้อิเจ้ เลือกข้าง อ่ะนะ
อิเจ้ก็คงถือหาง ดร. แกว่ะ
อิม..ไม่รู้สินะ อ่านบทสัมภาษณ์ของอีแร้ว
รู้สึกว่า อีมีนิสัยหลายอย่างคล้าย ๆ เจ้ว่ะ
ขนาดปริญญาบัตร ยังขี้เกียจไปรับเหมียนกันเยยย
ดังนั้น อีน่าจาเป็น คนมีความรับผิดชอบสูง
และ ปูชนียบุคคล เหมือน เจ้นะเว้ย 555



แต่ถ้า อีทำไม่ได้ตามที่เจ้คาดหวังไว้ จิง ๆ ก็ไม่เป็นไรอ่ะ
อิเจ้ก็ไม่คิดจะไป เหยียบย่ำกระทืบซ้ำ ขย้ำคอหอยอี
เหมือนไอ้พิทบูลจอมโหดบางตัว หร็อก
ตราบเท่าที่ ทองที่ อีเอาไปปิดหลังพระ
เป็นทองของคนอื่นมิได้เป็นทองของ อิเจ้ป่อง
ก็ถือว่า เราทั้งสองไม่เกิด ปฏิฆะ ต่อกัล อิอิ
( แต่ถ้าทะลึ่งขโมยทองกรูไป เมิงโดนเตะไส้แตก เหอ ๆ )




เฮ้อออ รู้ป่ะ ที่อิเจ้เคยบอกว่า
ลื้อเหมือนเจ้ ค่อนข้างมาก น่ะ
มันมีอีกสิ่งหนึ่ง ที่ทำให้ ลื้อแตกต่างจากเจ้
นั่น ก็คือ ลื้อค่อนข้างจะใจดีชอบเป็นห่วงเป็นใย
เรยมักจะพยามยัดเยียดสิ่งที่ลื้อคิดว่าดีให้คนรอบข้าง
และ ชอบเจ้ากี้เจ้าการ เข้มงวดกวดขันกับชาวบ้าน มากเกินไปอ่ะ



ในขณะที่อิเจ้ ชอบ เจ้ากี้เจ้าการ
และเข้มงวดเฉพาะแต่กับตัวเอง เท่านั้น
ส่วน ชาวบ้านจะเป็นไง หรือทำอะไร ไม่ถูกใจเจ้
ก็ช่าง แมงมัน อ่ะ อย่างมาก เจ้ก็แค่คิดว่า

" เออ อีด๊อกฯ นี่ มันก็คง ยังไม่ เจ๋ง เท่ากรู
เรย มิสามารถ เป็น ปูชนียบุคคล เหมือนกรูได้" โฮ่โฮ่



อืม...สิ่งไหนที่ ทั่นด๊อกฯทำแล้ว
อิเจ้รู้สึกว่า สิ่งนั้นดี (ถูกใจเจ้)
เจ้ก็ชื่นชมและดูเป็นเยี่ยง
แต่สิ่งไหน ที่อีทำแร้ว อิเจ้ รู้สึกว่า
สิ่งนั้นมันบ้องตื้น ( ไม่ถูกใจเจ้ )
อิเจ้ก็แค่ปลง แล้วใช้มันเป็นอุทาหรณ์
จะได้ไม่เอามาเป็นอย่าง



นี่แหล่ะ การตอบสนองที่อิเจ้ มีต่อบุคคลอื่น
เจ้ถึง ได้ย้ำให้ฟัง เพื่อเตือนชาวบ้านอยู่ บ่อย ๆ ไง ว่า
จงดูเยี่ยงกา แต่อย่าเอาอย่างกา



ก็บอกแล้วว่า อิเจ้ มันเป็นพวก ไร้ศรัทธาจริตโดยสิ้นเชิง
จึงไม่เคยคิดจะยกย่องใครใส่เกล้าใส่กระหม่อม
เทิดทูนเป็นศาสดาเอาไว้บนหิ้ง
ใครผิดจริง ก็ต้องว่าไปตามผิด ใครถูกก็ต้องว่า ไปตามถูก
ไอ้ครั้นจะให้ อิเจ้ ไปเป็น องครักษ์พิทักษ์เธอ
ปกป้องกันจนสุดลิ่มทิ่มประตู แบ่บลูกแหง๋ ( เป็นซือแป๋ข้า ใครอย่าแตะ )
อย่างที่คนบางคน มันเซ้นซิทีฟ พยามจะปกป้องซือแป๋ของมัน นั้น
บอกตรง ๆ อีแบบนี้ กรูก็ทำไม่ลง ว่ะ เหอะ ๆ




หรือ ถ้าจะให้อิเจ้ ไปจิกหัวตบใคร
แล้ว ร้องด่าเหย็ง ๆ แบบ เอดิสัน
ว่า F-U-CK U อีหน้าด้าน
อิเจ้ก็คงทำไม่ได้ อีกนั่นแหล่ะ
เฮ้อออ ตะขิดตะขวงใจ พิลึกว่ะ
เพราะ ศีล 5 มันค้ำคอ
เจ้ขี้เกียจมานั่ง ทวนศีลต่อศีล อยู่บ่อย ๆอิอิ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:29:04 น.  

 
 
 
-----------------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า...
อิเจ้เรื่องแบบนี้ ( ซีแอลยา )
มันก็คล้ายๆกับเรื่องของ นักบวชเซน
หรือเรือง มดกับหนอนที่อั้วไปอาละวาดในเว็บลานทำสาวฯ

มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน อยากให้คนอื่นพ้นทุกข์ แต่ดันไป
ทำให้อีกคนเป็นทุกข์ อยากจะช่วยเนื้อสมัน ออกจากปาก
เสือ มันต้องเอาเนื้อหนังมังสาตัวเองไปแลกถึงจะถูก
ไม่ใช่เอามีดไปฟันเสือ ไม่ให้มันกินอาหาร

ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรมค้ำถ่อค้ำฐานะตัวเองให้สูง






คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา ไม่มีใครเขากล้า
วิจารณ์ เพราะต้องฝากผีฝากไข้ แต่อั้วกล้าเพราะอี
ไม่รู้จักอั้วฮาๆๆ

หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตายไม่ผิด แต่ถ้าหมอไป
ขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันผิด มองอีกมุม ถ้าคนไข้
ไปขโมยยาของคนอื่นเพื่อมารักษาตัวเองมันไม่ผิด
หวังว่า เจ้จะเข้าใจอั้ว ที่พูดนี่ตามหลักพรหมวิหารสี่เลยนะ


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ....

อืม....ไอ้เรื่อง จุดยืนที่มั่นคง หยั่งก๊ะตอม่อโฮปเวล ของลื้อ
ในเรื่อง มดกับหนอน ที่ลื้อไปตบตีกับชาวบ้านร้านตลาด
ใน ลานทำสาวฯ นั้นน่ะ ทำไม เจ้จะไม่รู้ ล่ะยะ

เนี่ย ตอนอ่านที่ลื้อเคยโพส แว้ด ๆ บอกว่า

ถ้าคิดจะช่วยใคร มันต้องช่วยทั้งสองฝ่าย
คุณช่วยหนอนให้พ้นจากการเป็นอาหารของมด
คุณจะต้องช่วยมดให้มีอาหารอย่างอื่นมาทดแทน
เพราะมดต้องอดอาหาร มันเป็นการกระทำของคุณ
ถ้าคุณหาอย่างอื่นมาแทนหนอนไม่ได้หรือ
มดปฏิเสธที่จะกิน มันก็ต้องเป็นคุณ
ที่จะต้องเอาชีวิตของคุณไปแทนชีวิตหนอนตัวนั้น

มันต้องแบบนี้ ถึงจะเป็นการกระทำที่เป็นกุศล
และยุติธรรมแก่มดครับ


อ่านแร้ว อิเจ้ยังแอบอมยิ้ม
แล้วนึกเอ็นดูลื้อเลย ไอ้ตี๋เอ๊ยยยยย
ยังคิดในใจ ว่า เฮ้ย ' ไม ไอ้หมอนี่
มันถึงตอบได้ เกรียนซ้าหยั่งก๊ะว่า
แอบมาก๊อปฟามคิดในขมองตรู ไปโพสฟระ
( แมร่ง ! มัน ละเมิดลิขสิทธิทางปัญญาของตรูนะเนี่ย อิอิ )



ถึงได้บอกไง ว่า อิเจ้น่ะเข้าใจลื้อเสมอแหล่ะ
แต่ ลื้ออ่ะ ไม่ค่อยจะยอม เข้าใจเจ้เรย พับเผื่อย
และ ถึง จุดยืน ของเจ้ จะไม่มั่นคง แข็งโด่
เป็น ศิวลึงค์ บนแท่นหินโม่แป้ง แบบของลื้อ
แต่ จุดศูนย์ถ่วง เรื่อง ซีแอลยา ของเจ้
มันก็มี คอนเซปต์ เหมือนกับ เรื่อง ไส้เดือน กับ มด
ที่ อิเจ้เคยบนเรื่อยเปื่อยไว้ในพังจิต นั่นแหล่ะ

//board.palungjit.com/f181/บ่นเรื่อยเปื่อย-เมื่อยก็พัก-ตามประสา-นักปฏิบัติไม่เอาไหน-ก๊ะ-เสือใบลานไม่เอาถ่าน-285890.html#post4545899


ทว่า ที่ลื้อ มาง้องแง้ง สอนเจ้ว่า

หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตายไม่ผิด
แต่ถ้าหมอไปขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันผิด
มองอีกมุม ถ้าคนไข้ไปขโมยยาของคนอื่น
เพื่อมารักษาตัวเองมันไม่ผิด

หวังว่า เจ้จะเข้าใจอั้ว ที่พูดนี่ตามหลักพรหมวิหารสี่เลยนะ




เฮ้ออออ ไอ้ฟักเอ๊ยยยยยยยย
เรื่องนี้ นี่ อิเจ้สมทรงก็เข้าใจ ลื้ออ่ะนะ
แต่เจ้ ไม่เห็นด้วย กับลื้อว่ะ ! ฟังดูแล้วมันขัด ๆ หูพิกล
เพราะ เจ้ รู้สึกว่า ที่ ลื้อ กำลังแพล่มๆ เนี่ย
มันเป็นการแพล่มตามสคริปต์พูดโพย แบ่บอิเจ้บัวเกี๋ยง
ไม่ก็เป็นการ แพล่มตามประมวลกฏหมายตราสามดวง
ที่ลื้อร่ำเรียนมาจนคุ้นชินเป็น อาจิณกรรม ไม่ใช่ แพล่มตามธรรม ง่ะ
จริงอยู่ ลื้ออาจจะงัดหลักการ มาเถียงว่า

ทำไมจะไม่ได้แพล่มตามธรรม ล่ะ
นี่ไง อั้วกำลังแพล่มตามหลักธรรมของพรหมวิหาร อยู๊ จิง ๆ นะ



ใช่ ลื้อแพล่มตามหลักของพรหมวิหารสี่ ก็จริงอยู่
แต่ ว่า ภูมิกึ๋น ระดับ อิเจ้ผีเน่ากับไอ้เจ้าโลงผุ เนี่ย
ขืนคุยกันโดย อ้างหลักของ พรหมวิหาร สี่
นี่มันออกจะ เสียของ ไปหน่อยนะยะ
ประมาณเดียวกับการเอาข้อสอบบวกลบคูณหาร ของเด็กอนุบาล
มาหั้ยเด็กมหาลัย ทำ ยังไงยังงั้นเยย อิอิ



เฮ้ออ ถึง ไอ้เจ้าวิชากฏหมายที่ อิเจ้เรียนมั่งโดดมั่ง สมัยอยู่มหาลัย
มันจะไม่ได้ช่วยให้เจ้ได้ สองขั้น เมื่อมาทำงานที่โรงบาล
ทว่า วิชา กฏแห่งกรรม ที่เจ้เก็บเล็กผสมน้อย ได้เรียนรู้มา
มันก็สอนหั้ยอิเจ้ ได้ สำเหนียก อะไร หลาย ๆ อย่าง ที่ต่างจากลื้อนะ



อย่างน้อย ๆ วิชากฏแห่งกรรม
มันก็สอน อิเจ้ว่า การจะพิณาคดีตัดสินฟามผิดของใครนั้น
ยมบาลเจ้าขราาาา ทั่นมิได้สักแต่ว่า พิพากษาไป
ตามอารมณ์และทรงผม เหมือน ศาลพระภูมิ บนโลกมนุษย์นี่หว่า
เนี่ย ทั่นยม เค้า ต้องใช้ทั้ง เจโตฯ ทั้ง มโนยุกยิก
จิกให้ลึกถึงระดับของรากเหง้าของการกระทำ
แล ทั่นสุวรรณ ฯ ก็ต้องเปิดบัญชีหนังหมา
ดูที่ เจตนา เป็นสำคัญ ด้วยว้อย



ว่า มโนกรรมนั้น
มันเป็น กุสลา- อกุสลา
หรือว่า เป็น อพยากต
เพราะ ทั่นยมฯ รู้ดีว่า
ขืนมั่วนิ่มใช้แต่หลัก พรหมวิหาร 4 อย่างเดว
เด๋ว ทั่นจะโดน อิพวกหัวหมอ มันยื่นอุทรณ์
อ้างแต่เรื่อง อุเบกขา ยันเต อิอิ



และ สิ่งที่สำคัญ ที่สุด ที่ทั่นยมฯ จะ เอามา
ชั่งน้ำหนัก ในการวินิจฉัย ก็คือ
เมื่อ จำเลยได้ ก่อกรรม ไป
ไม่ว่าจะด้วยความตั้งใจ หรือ ประมาท ฯลฯ
จนเป็นเหตุให้เกิดการกระทำอัน พลาดพลั้งนั้นแล้ว
หลังจากเกิดเหตุ จำเลย ได้แสดงฟามรับผิดชอบ
ให้การ เยียวยา ผู้ถูกกระทำยังไง ?


นี่ตะหาก ล่ะ ที่เป็น ไฮไลท์เด่น ประเด็นหลัก
ที่จักนำมา พิณาพิพากษาคดีความ



ด้วยเหตุนี้ .. หากหมอรักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตาย
อาจจะผิด หรือ ไม่ผิดก็ได้
มันต้องวิเคราะห์ดูหั้ยรอบด้าน ด้วย
ถ้า สมมุติว่า หมอที่รักษา ชื่อ นพ.อธิป
แล้ว คนไข้ ดันชื่อ นส.นวลฉวี
แร้วงี้ ลื้อจะยัง จะเข้าข้างหมอจนหัวชนฝาไหมล่ะ
ว่า ไงซะ หมอก็ม่ายผิด จิงจิ๊งงงงงงงงงงงง



ดังนั้น ก่อนจะฟันธงอะไรเปรี้ยง ๆ แบบตายตัว ลงไปว่า

หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตายไม่ผิด
แต่ถ้าหมอไปขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้มันผิด
มองอีกมุม ถ้าคนไข้ไปขโมยยาของคนอื่น
เพื่อมารักษาตัวเองมันไม่ผิด



กรุณา ยั้งปาก แร้ว แทงกั๊ก ไว้จิ๊ดนุงส์ นะจ๊ะทูนหัววว
เพราะ คำว่า เหตุสุดวิสัย ภาวะจำยอม
และ ดุลพินิจของศาล/ของหมอ
เค้าไม่ได้ มีไว้ เป็น ไม้กันหมา เฉย ๆ นะยะ
( เพียงแต่ คนเรามันจะชอบคำพวกนี้ ไปใช้เลี่ยงบาลี
แอบเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อยู่บ่อย ๆ เท่านั้นเอง อ่ะ หุหุ)



อืม... ดังนั้น ในเรื่องนี้ อิเจ้สมทรง ขอแทงกั๊กจั๊กนิด ว่า


หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตาย อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
ถ้าหมอไปขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้ อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
และ ถ้าคนไข้ไปขโมยยาของคนอื่น เพื่อมารักษาตัวเอง เก๊าะ อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
มันขึ้นอยู่กับว่า ลื้อจะเอาหลัก ไหน มาเป็นตัวจับ อ่ะ


ลื้อจะใช้ หลักกฏหมายอาญา , หลักกฏหมายแพ่ง
หลักพรหมวิหารสี่ , หลักกฏแห่งกรรม
หรือ ใช้ หลักธัมมะสังคิณีมาติกา ฯลฯ ล่ะ
ถ้าเป็น สี่หลักแรก หาก เจ้าทุกข์กับจำเลยไปเจรจาต้าอวย
แล้วแอบงุบงิบ ยอมความ กันสำเร็จ
คดีก็มีสิทธิพลิก ได้เสมอนะจ๊ะ พ่อเชอร์ล็อคโฮห์ม เอิ๊ก ๆ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:32:06 น.  

 
 
 
--------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า...


ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรมค้ำถ่อค้ำฐานะตัวเองให้สูง
อั้วเคยโดนอีเจ้ข้างบ้านมันว่า เพราะมันเห็นอั้วให้เงิน
คนแก่แต่งตัวสกปรก มือถือหัวสิงโตขอทานตามบ้าน
มันว่าอั้ว เฮียให้มันทำไมเดี๋ยวก็เอาไปกินเหล้า
พุดโท !เงินแค่ห้าบาท มันจะเอาไปทำอะไรได้ว่ะ
อั้วแค่อยากแสดงให้คนแก่เขาเห็นว่า ยังมีคนที่
ไม่รังเกียจแก อยากให้แกมีสุขทางใจเล็กๆน้อยๆ
ไม่อยากให้แกคิดว่า ชีวิตแกบัดซบ
แล้วยังต้องมาเจอคนบัดซบอีก



พูดถึงอีเจ้ข้างบ้าน เช้าๆงี้เสียงสวดมนต์ดังลั่น
อั้วยังคิดในใจว่า มันสวดในใจไม่เป็นหรือว่ะ หรือกลัว
คนอื่นไม่รู้ว่า ฉันเป็นคนดีนะ ฉันเป็นคนธัมมะธัมโมนะ


เงินห้าบาทที่อั้วให้คนแก่ไป ถ้าแกจะเอาไปกินเหล้า
มันก็แค่ เป็กครึ่งเป็ก มันเป็นกระสายแก้อาการลงแดง
อีเจ้ข้างบ้านมันไม่รู้ว่า คนที่ได้น้ำตาลจากแอลกอฮอล์
นานๆ ถ้าวันไหนขาดน้ำตาลตัวนี้มันจะช็อกถึงตายได้
เนี้ยวิเคราะห์จากประสบการณ์จริงเลย


อั้วเป็นนักวิเคราะห์ และสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์ข้างบน
ที่เล่าให้ลื้อฟังแบบนี้ ลื้อยังกล้ามาชี้หน้าด่าอั้วว่า ไม่เอาใจ
เขามาใส่ใจเราหรือเปล่า
เรื่องแบบนี้มันต้องเอาใจ"พวกเขา" ไม่ใช่ใจเขาว่อย

+++++++++++++++++++++++++++


อิเจ้ ว่า...

อ้าววววว....' ไม ลื้อ ไม่ยืนดู ตาแป๊ะสกปรก นั่น
มันชักแหง่ก ๆ แล้วลงแดงตาย ต่อหน้าต่อตาลื้อ
แบ่บที่ ลื้อ มองดู โคตรพ่อโคตรแม่ลื้อ ตาย5 ล่ะจ๊ะทูนหัว


อ้อ แร้วตอนที่ลื้อ ให้ตังค์ตาแก่นั่น
ไปซื้อเหล้าครึ่งเป๊ก เนี่ย
ลื้อได้แสดงธรรมบอกอี
เหมือนที่ แร่พโย่วเหย็ง ๆ
บอกอิเจ้วิ่งสู้ฟัด ไหมล่ะ ว่า


การหวังให้คนอื่นมาแก้ไข
ให้เป็นไป ในสิ่งที่ตัวต้องการมันยาก
ดังนั้นเราต้องแก้ที่ตัวเอง
ด้วยการขยันทำมาหากิน
ใช้จ่ายแต่ในเรื่องปัจจัยสี่

พูดง่ายๆว่า...อย่าทำเป็นเงินในกระเป๋าไม่ได้แต่ใจรัก
หรืออีกนัย ก็คืออย่าเสือกเกิดมาจน


( ถ้าลื้อไม่ได้ทำ เจ้จะขอเป็นโจทก์ ยื่นฟ้องลื้อ
ต่อศาลไคฟง ว่า ลื้อน่ะ มันเลือกปฏิบัติ
จัดเป็น พวกดับเบิ้ลสแตนดราด ตัวพ่อ อิอิ)



--------------------------------------------------

ไอ้ตี๋ ว่า ...

ถ้าโครตพ่อ โครตแม่อั้ว ต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องให้
โจรหรือหัวขโมยมาช่วยชีวิต อั้วจะยืนดูพ่อแม่อั้วตายไปต่อหน้าเลยดีกว่า
จะเป็นลูกที่ดีมันต้องดีตั้งแต่รู้ความ ไม่ใช่มาดีตอน
ที่พ่อแม่กำลังจะตายหรือว่าตายไปแล้ว มันต้องรู้จักเก็บ
เงินทองในส่วนที่เอาไว้รักษาพ่อแม่ เราเจอพ่อแม่ทุกวัน
มันเป็นเครื่องเตือนอยู่แล้วว่า ตาเฒ่า ยายแก่สองคนนี้
ซักวันต้องเข้าโรงพยาบาล ถ้ายังไม่สำเหนียก
แล้วมาแหกปากด่าชาวบ้านว่า ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรา

++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า....

อืม...ทีงี้ ทำมาเป็นพูดดี นะยะไอ้โซ๊ยตี๋
นี่ตกลง ลื้อจะยืนดูโครตพ่อโครตแม่ลื้อตาย จิงอ่ะ
นึกว่า ถ้าลื้อเสือกเกิดมาจน
ลื้อจะบำเพ็ญตน เป็น โรบินฮู้ด
ทำให้ ศีลข้อ สอง ต้องมัวหมอง
ดัวยการไป ขโมยยา มารักษาโครตพ่อโครตแม่ ลื้อซะอีก อิอิ



เออ นี่ๆ อิเจ้ เห็น ใครก็ม่ะลู้
มันไป กระทู้ถาม แว้บ ๆ ที่ ลานธรรมจก ง่ะ
อ่ะโหย ทำเป็นโยนหินถามทาง ใช้ความใจอ่อนขี้สงสาร
และสัญชาตญาณความเป็นพ่อเป็นแม่ของคนอ่าน
มา ปุจฉา ตะล่อม ประมาณ ว่า



ส่วนเรื่องของสัมมากัมมันตะที่ความกับความประพฤติ
พระอริยะบุคคลไม่ได้สนใจในเรื่องทำดีทำชั่ว
ถ้าความหมายของความชั่วคือผิดศีล
ความดีคือไม่ผิดศีล พระอริยะท่านเน้นในเหตุผลของการกระทำ


ตัวอย่าง คุณมีลูกที่ไม่สบายมาก
ต้องกินยาในขณะที่คุณไม่มีเงินซื้อไปขอใครเขาก็ไม่ได้
คุณจะปล่อยให้ลูกตายไปต่อหน้าหรือครับ
มันก็ต้องหาทางเอายามา ด้วยการโขมยแหล่ะครับ
นี่แหล่ะการกระทำที่เป็นเหตุเป็นผลอธิบายง่ายๆให้ดู
(อธิบายยากเดี๋ยวไม่เข้าใจ จะว่าไม่มีเหตุผล ไม่เป็นสัมมาอีก)



//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40099&p=277613#p277613


แหม๊ ? ลื้อช่วยไปวิสัชนา ตอบไอ้หมอนั่น
ด้วยคอนเซปต์เดียวกับที่ลื้อ ตอบเจ้
เรื่อง โคตรพ่อโคตรแม่ ลื้อป่วย หน่อยสิจ๊ะ ทูนหัววววว


และถ้านึกไม่ออกว่า จะ ตอบไง
มามะ เด๋วอิเจ้ จะเขียนสคริปต์ให้นะจ๊ะ อิอิ


ถ้าลูกบังเกิดเกล้าของอั้ว เป็นเอดส์
แล้วต้องตกอยู่ในสภาพที่ต้องให้โจรหรือหัวขโมยมาช่วยชีวิต
อั้วจะยืนดูลูกอั้วตายไปต่อหน้าเลยดีกว่า
เอ ? หรือ อั้ว จะทำตัว เป็น อ้ายหัวขโมย
แบ่บโรบินฮู้ด ซะเองดีวะ ? เอิ๊ก ๆ



แหม ? ช่วยไม่ได้ ก็เสือกเกิดมาจน
แล้วไม่รู้จักวางแผนครอบครัวเองนิ หว่า
จะเป็นพ่อแม่ที่ดีมันต้องดีตั้งแต่คิดจะทำลูก
ไม่ใช่มาดีแต่ปาก ตอน ที่ลูกกำลังจะตายหรือว่าตายไปแล้ว


มันต้องรู้จักเก็บเงินทองในส่วนที่เอาไว้รักษาลูก
เราเจอหน้าลูกทุกวัน มันเป็นเครื่องเตือนอยู่แล้วว่า
ไอ้ลูกมนุษย์ที่แสนจะอ่อนแอพวกนี้
ซักวันมันก็ต้องเข้าโรงพยาบาล
ไหน ๆ เสือกทำให้มันเกิดมาแระ
ก็ต้องรับผิดชอบเลี้ยงดูมันให้ตลอดรอดฝั่ง
ที่สำคัญ ต้องสอนให้มัน รู้จักยีบยั้งชั่งใจ
สำเหนียกเรื่อง โทษความสำส่อน และ ความมักมากในกาม
หรือ ถ้าทำไม่ได้ ก็ต้องรู้จักสอนให้มันใช้ ถุงยางอนามัยด้วย



ถ้ามีลูกแล้วไม่มีปัญญาจะเลี้ยงดู
และ อบรมสั่งสอนมันให้ดีได้ตลอดรอดฝั่ง
ก็อย่าทะลึ่งไปสักแต่ว่า ผลิตมันขึ้นมา
เพื่อ โชว์ ความ มักง่าย ของตัวเอง เลยว่ะ




เฮ้ย อั้วขอถาม พระอริยะขี้ขโมย หน่อยสิจ๊ะ
ว่า ไอ้ยาราคาแพง ( เพราะติดปัญหาสิทธิบัตรยา )
ที่ลื้อ ไปฉกฉวยขโมยเขามาเนี่ย
เจ้าของทรัพย์ ( ร้านขายยา ) เขาจะเดือดร้อน ไหม ?
เขาก็มีลูก มีเมีย (และ มีกิ๊กอีก สามสี่คน )
ให้ต้องเลี้ยงดูเหมือนกันนะเว้ย เฮ้ย



นี่แหน่ะ ไอ้ตี๋ เรื่องแบบนี้
มันก็คล้ายๆกับเรื่องของ นักบวชเซน
หรือเรือง มดกับหนอน
ที่ลื้อไปอาละวาดในเว็บลานทำสาวฯ นั่นแหล่ะ


แมร่ง มันมีเยี่ยงอย่างที่ไหน กัน
อยากให้ลูกตัวเองพ้นทุกข์
แต่ดันเสือกไปทำให้อีกคนเป็นทุกข์


อนึ่ง หมาที่ไหน ม่ะลู้ บอกว่า
อยากจะช่วยเนื้อสมัน ออกจากปากเสือ
ก็ต้องเอาเนื้อหนังมังสาตัวเองไปแลกถึงจะถูก
ไม่ใช่เอามีดไปฟันเสือ ไม่ให้มันกินอาหาร



ไอ้เรื่อง ขโมยยามารักษาลูก นี่ก็เหมือนกันว่ะ
อยาจะช่วย เลือดเนื้อเชื้อไข ตัวเอง ให้หายเจ็บไข้ได้ป่วย
ลื้อก็ต้องเอา หยาดเหงื่อ แรงงาน ไปแบกกระสอบข้าวสาร
หาเงินมาเจือจาน ซื้ออาหารซื้อยามารักษาลูกลื้อ มันถึงจะถูก
หรือ ถ้าเหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ ป้อแป้จนแบกกระสอบข้าวสารไม่ได้จิง ๆ
ลื้อ ก็ต้องไปขายไต ขายเลือด ขายซี่โครง
ไม่งั้น ก็ ไปเต้นอะโกโก้ ขายถั่วดำในบาร์เกย์
หาเงินมาซื้อยารักษาลูกสิวะ มันถึงจะเท่ห์ และ ถูกต้องชอยธรรม
ไม่ใช่ ว่าไปขโมย หรือ เอามีดไปจี้คอขอปล้นยาจากชาวบ้าน
ไอ้เมตตาธรรมค้ำจุนโลกของลื้อ มันต้องพิจารณาให้ดี
ไม่งั้นมันจะเป็นเมตตาธรรม ที่ค้ำถ่อแต่ตัณหาและอัตตาตัวเอง



เรื่องของความดีมีเมตตาต้องแยกให้ออก
การที่พ่อแม่ช่วยลูก ขโมยยา มารักษาลูกเนี่ย
มันไม่ใช่เป็นเรืองความดีความชั่ว
มันเป็นเพียงพฤติกรรมของสัตว์โลก
ผลที่เราเห็นเป็นดีชั่ว
เพราะเราเอาความเห็นแก่ตัวเราเข้าไปตัดสิน
ถ้ายังไม่สำเหนียก แล้วมาอ้าง สัมมากัมมันตะ
มันก็ทะแม้ง ๆ อยู่นา งิงิ




อ้อ อันนี้อยากสมมุติ
ถ้า ลูกลื้อกำลังจะคลอด
แล้วต้องกินยา AZT ทันที
เพื่อป้องกันการติดเชื้อHIV
( เนื่องจากพ่อมันสำส่อน เรยมีความเสี่ยงสูง )


แต่ตอนนี้ ยานั้นมีเหลืออยู่ขวดเดียว ในร้านยา
ลื้อเองก็เสือกเกิดมาจน ไม่มีเงินซื้อยา ซะด้วย
ถ้าสบโอกาส ลื้อจะแอบไปขโมยยานั้นมาให้ลูกลื้อกิน ไหมล่ะ ?
แล้วถ้า บังเอิญ ลื้อก็รู้แก่ใจว่า
ตอนนั้น เมียเจ้าของร้านยาเอง
ก็กำลังจะคลอดลูกและจำเป็นต้องกินยานี้ เหมือนกัน





อุ๊ยต๊ายยยยย นี่อิเจ้ พล่ามอะไร ออกไปเนี่ย
สงสัยเจ้ อิน กะตัวหนังสือ ของไอ้โซ๊ยตี๋
ที่แพล่ม ๆ ทิ้งไว้ในบล็อกนี้ ว่ะ
เรยเผลอ ละเมอ มาพล่าม ตามมัน เหอๆ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:33:23 น.  

 
 
 
-----------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า....
อันนี้อยากสมมุติ ถ้าลื้อเป็นหมอ
ที่ต้องฉีดยาฉีดเซรุ่มแก้พิษงูที่มีอยู่เข็มเดียว
ลื้อจะฉีดให้ใครระหว่างพ่อของตัวเอง
กับตาแก่ที่ถือหัวสิงโตขอทาน


อีเจ้ป่องถ้าอั้วบอกว่า
อั้วเลือกที่จะฉีดเซรุ่มให้ตาแก่ขอทานคนนั้น
ลื้อว่าอั้วจะเป็นคน ที่ไม่เอาใจเขามาใส่ใจเรามั้ยว่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ว่า....
ถ้าลื้อบอกว่า ลื้อเลือกที่จะฉีดเซรุ่มให้ตาแก่ขอทานคนนั้น
เจ้ ก็คงจะยังไม่ปรี๊ดแตก เต้นแร้งเต้นกา
หาว่าลื้อเป็นพี่อ้ายทรพี ให้เสียฟอร์ม นักปฏิบัติ
(แบ่บไอ้ตี๋บางคน)หรอกจร้าาาาา อิอิ


แหม ? ก้อ ปกติการจะพิณาตัดสินคดีแบบโลก ๆ นั้น
ศาลทั่นยังต้อง ดูจาก หลักฐานประจักษ์พยานแวดล้อม
และ เจตนาโดยตรง(และโดยอ้อม) ของผู้ถูกกล่าวหา เรยนิหว่า
ขนาดสื่อจะกล่าวหาว่า รัฐบาลน้าชาติ เป็น บุพเฟ่ต์คาบิเนต
ยัง ต้องไปควานหา ใบเสร็จ มายืนยันเรยน้าาาาาาา

แร้วงี้ ถ้าอิเจ้จะ กล่าวหา ว่า
ลื้อมันเป็น อาตั้วเฮียของอ้ายทรพีลูกทรพา
เจ้ก็จะต้อง สืบจากศพ ให้ครบถ้วนกระบวนการ ก่อนอ่ะจิ
จะฟังความข้างเดียวได้ไงล่ะ เด๋ว คันชั่ง ก็เสียสมดุลแย่
เจ้ม่ายช่ายพวก ชอบตื่นตูม แบ่บคนบางคนนิ
เอะอะ ๆ ก็มาใส่ร้ายป้าย หาว่า
อิเจ้เป็น สลิ่มกลายร่างสะตอกลายพันธุ์ อิอิ



อืม....สำหรับเรื่อง ตาแก่ขอทานนั่น
เจ้เชื่อว่า ลื้อก็คงจะมีเหตุผล ที่มีน้ำหนักเพียงพอ
ที่จะเอามาใช้เป็นแรงขับเคลื่อนสำหรับการกระทำของลื้อ ว่ะ
และ ไงซะ เจ้ก็เชื่อมั่นในตัวลื้อ พอ ๆ กับที่...
อุ่นใจ กับ การวินิจฉัยของศาลสถิตย์ยุติธรรม ในประเทศสารขัณฑ์
แล มั่นใจ ในดุลพินิจของ ศาลอุธรณ์ (คดีภาษีหุ้น 546 ล้าน) นั่นแหล่ะจร้าา




และ พูดถึงเรื่องเลือกฉีดเซรุ่ม นี้
มันก็ เหมือน กาทู้ต้องเลือก

เรื่อง "การตัดสินใจ จะหยิบยื่นอาหาร
ให้แก่ขอทานผู้หิวโซหรือ พระอรหันต์สุปฏิปัณโณ "

กับ เรื่อง สไนเปอร์ พ่อตัวเอง ที่ เราเคยถกกัน นั่นแหล่ะ





เจ้จำได้ว่า ใครบางคนเคยบอกเหย็ง ๆ เองนิ หว่า
ว่า มันจะเลือก หยิบยื่นอาหาร เป็นทาน
ให้กับผู้ที่มีระดับความทุกข์ มากกว่า
โดยไม่เอาคำว่า อรหันต์ขั้นเทพ มา พิณา ให้รกสมอง ?
เจ้ ' ป่อง เอง ก็ ยึดคอนเซปต์ สไตล์เดียวก๊ะไอ้ตี๋คนนั้น
นั่นแหล่ะจร้าาาาา ไอ้ลกเจ๊กเอ๊ยยยยยย




และถ้า เจ้เป็นหมอโฮจุน ที่ต้องฉีดเซรุ่มแก้พิษงู
ที่มีอยู่เพียงเข็มเดียว ให้กับใครสักคน
เจ้ก็ต้องเลือกฉีดมัน ให้กับคนที่มีอาการโคม่า มากกว่า น่ะสิ
เพราะในทางการแพทย์ ดุลพินิจของหมอ นั้น
มันก็มี Criteria ( หลักเกณฑ์ในการรักษา )
มาคอยกำกับ เป็นบรรทัดฐานอยู่แล้วย่ะ
ขืน ไม่รู้สี่รู้แปด จะตะแบงฉีดยา
ให้กับ โคตรพ่อโคตรแม่ตัวเอง ท่าเดียว
โดยไม่ดูตาม้าตาเรือ และ ความเหมาะสมของเหตุปัจจัย
เดี๋ยว เกิดเคราะห์หามยามซรวย
ตรู ก็เจอ อิเจ้วิ่งสู้ฟัด ก๊ะ อิซ้อกัดไม่ปล่อย ของลื้อ ฟ้องเอา อ่ะดิ อิอิ


แหม ? ว่าแต่ คำถาม เรื่อง เซรุ่ม ฯ ของลื้อ อ่ะ
มันเบสิ๊ก เบสิก ระดับธรรมานุบาล ง่ะ
ไม่ประเทืองปัญญาเอาซะเรยยยยยย
เด็กประถม ที่ไหนมันก็ตอบได้ หุหุ
นี่ ๆ ลองใช้ เจโตฯ มาโยนิโสฯ
ขบคิดปริศนาธรรมอะไรเอ่ย
ที่มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากกว่านี้ ดีป่ะ ?


สมมุติ นะจ๊ะ สมมุติ ถ้าเจ้เป็นหมอ
ที่ต้องฉีดยาฉีดเซรุ่มแก้พิษงูที่มีอยู่เข็มเดียว
ให้กับคนไข้ 1 ใน 3 คน ที่มาถึง รพ. พร้อมกัน
และ มีอาการโคม่าพอ ๆ กัน เจ้จะฉีดเซรุ่ม ให้ผู้ใดดีหนอ
ระหว่าง ไอ้ตี๋บุญพิลึก แม่ดอกบัวเกี๋ยง และ อาเฮียสรยุทธ !
ติ๊กต่อก ๆๆๆๆๆ


อิอิ บอกให้ก็ด้ายยยยยยยยยยยยยยยย
เจ้ก็ยังคงอาศัย คอนเซปต์เดียวกับเรื่อง การทำทาน
ที่เจ้ เคยแพล่ม หั้ยลื้อฟัง นั่นแหล่ะ เจ้จะเลือกฉีดเซรุ่มเข็มนั้น
หั้ยกับ ผู้ที่จะยังประโยชน์ ให้กับโลกมากที่สุดจร้าาา


ดังนั้น ช้อยส์ แรก ที่เจจะเขี่ยทิ้ง เอ๊ย ตัดทิ้ง
ก็คือ ไอ้ตี๋บุญพิลึก ง่ะ เพราะว่า ไอ้หมอนี่
มันเป็น ภัยต่อความมั่นคงของประเทศซาด
เพราะเวลามันพ่นน้ำลายประกาศ (วิ)วาทะกรรม ในเวบธรรมมะ ทีไร
ก็รังแต่จะทำหั้ย เกิด ทั้ง อุทกภัย แล สังฆเพท
อันเป็นเหตุแห่งการแตกแยกของพุทธบริษัท
สมควรอย่างยิ่ง แล้ว ที่จะกำจัดมัน
ไปให้พ้น ๆ จาก บวรพุทธศาสนา


อนึ่ง คนรกโลกย่อมทำให้พื้นดินต่ำ น้ำก็ย่อมท่วมถึง
เมื่อขาดคนรกโลกแผ่นดินย่อมสูง น้าย่อมไหลไปที่อื่น
แหม ? หวังว่า อ่านถึงตรงนี้
ลื้อคงจะ ดวงตาเห็นธรรม ( รอบ 2 ) นะจ๊ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ อิอิ



ส่วน ช้อยต่อไป ที่เจ้จะเจี๋ยนทิ้ง
ก็คือ อิแม่ดอกบัวเกี๋ยง ของลื้อ นั่นแหล่ะ
แมร่ง มัวแต่บีบน้ำตาร้องห่มร้องไห้ ออกทีวีอยู่ได้ ( กรูรำคาญ ! )
เนี่ย ขืนหั้ย แม่นี่ มาร้องไห้อ่ะซิก ๆ อยู่บ่อย ๆ อ่ะนะ
น้ำตาปู ก็คงจะเอ่อท้นทะลุทะลวงกำแพงบิ๊คแบ๊ค
แล้ว ข้ามพนังกั้น มาท่วมบ้านอาตั้วเฮียลื้อ อีกหน แน่ ๆ เรยว่ะ


ด้วยเหตุนี้ อิเจ้ จึงถือว่า อิเจ้บัวเกี๋ยงนั้น
เป็น ภัยต่อฟามมั่นคงของซาด พอ ๆ ก๊ะไอ้ตี๋บุญพิลึกว่ะ
ดังนั้น สมควรจะต้องกำจัดผู้หญิงขี้แง ทิ้งไปเสียให้พ้น ๆ
ที่สำคัญ ก็คือ แม่ดอกบัวเกี๋ยง มันสวยกว่า เจ้ ง่ะ
กรี๊ด ๆๆๆๆ เจ้ ดอกบัวป่องทนม่ายยยยยล่ายยยยยยยย เหอ ๆ




อนึ่ง เสือ 2 ตัว อยู่ในถ้ำเดียวกัน ไม่ได้ฉันใด
ดอกบัว 2 ดอก ก็อยู่ในบึงเดียวกัน มิได้ฉันนั้น อ่ะเธอว์
แล้ว จะแปลกอะไรล่ะ ถ้าเจ้จะหาเหตุผลอันชอบธรรม
มาใช้ อธิบาย ถึงเหตุปัจจัย ในการปล่อยให้แม่ดอกบัวเกี๋ยง
ต้องมาตายตกตามกัน( กะลื้อ ) เหอ...เหอ...




อิอิ สาธยาย ไป 2 ช้อยส์ แระ
ถึงไม่บอก ลื้อก็คง ลู้ แร้วมั้ง
ว่า อิเจ้ จะบรรจงฉีดเซรุ่มแก้พิษงู
ให้กับ ครายยยยยยยยยยย



ใช่แร้วจร้าาาา เจ้จะเก็บเซรุ่มเข็มสุดท้าย
ไว้ฉีดแก้พิษ หั้ย อาเฮียสอ คนเดววววว
เพราะ ในบรรดา คนไข้ทั้ง 3 คนนี้
อาเฮียสรยุทธ เป็น สุภาพบุรุษตัวจริงทีซู๊ดดดดดด
เฮ่ย ลื้อ ไม่ได้ดู ข่าวช่อง 3 ตอนเช้า ๆ หรือไงกันนะ
เห็นปล่าว ว่า อาเฮียสร ฯ ของเจ้ ต้องเหนื่อยยาก แค่ไหน
ที่ต้องไปช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย ในละแวกต่าง ๆ น่ะ
แถมยัง มีอีพวกมือไม่พายชอบเอาหน้าราตรีน
เอา เฮียสอ ไปเม้าส์ ไปลือ อี๊กก

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=vinitsiri&month=09-2011&date=17&group=139&gblog=111


เนี่ย หาว่า เฮียสอ เป็นจอมสร้างภาพ มั่งล่ะ
เป็น บ่างช่างเสี้ยม และเป็นตาอยู่ อิงกระแสมั่งล่ะ
โถ ๆ ช่างน่าฉงฉานเจง ๆ พ่อคุณของเจ้


เนี่ย หลายอาทิตย์ก่อนนู้น
อาเฮียสอ ก็ทำเอาเจ้นอนไม่หลับเลยว่ะ
ยิ่งตอน เฮีย เค้าบอกว่า

"ผมว่ายน้ำไม่เป็น แต่ผมอยากมาช่วยเหลือพี่น้อง"


อะโหยยย ฟังแร้ว ใจเต้นไม่เป็นส่ำเรยอ่า
ขนาด เฮียสรฯ ว่ายน้ำไม่เป็น แท้ ๆ
ยังมีแก่ใจ เป็นหัวเรี่ยวหัวแรง
ถ่อสังขารไปช่วยเหลือชาวบ้านตาดำ ๆ ที่ถูกน้ำท่วม

โถ ๆ พ่อคุณของเจ้ ยอมเสียสละเวลา
มาทำประโยชน์ให้กับประเทศซาดบ้านเมือง
โดยไม่เห็นแก่เหน็ดแก่เหนื่อย
หรือ หวั่นเกรง ภยันตราย ต่าง ๆ เรยเน๊าะ



ยิ่ง ตอนที่ อีมีน้ำใจช่วยไปส่งชาวบ้าน
จนอีตกเจ็ทสกี อ่ะนะหูยยยยย ใจหายแว้บเยยยย
หัวใจเจ้งี้ แทบจะหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่ม
คนอารัยน่ารัก น่าเอ็นดู ผู้ชายอะไรไม่รู้
พ่อพระที่สุดในโลก เยยยยย


นี่สิ มันถึงจะเรียกว่าเป็น พระเอกตัวจริง กระทิงแดง !
( อ้อ ลู้แร้วเหยียบไว้เรยนะ อาเฮียสรฯ เนี่ย
หน้าตาอี เหมื๊อน เหมือน ไอ้เสือจำศีล ตัวหนึ่ง
ที่เจ้ปลื้มมว๊ากกก อ่ะ อิอิ )



เฮ้ออออออออออ เพราะเหตุผลทั้งหลายทั้งพวงที่เจ้แพล่มมานี่ไง
เจ้ถึงต้องแอบเก็บงำ เซรุ่มเข็มสุดท้าย
ไว้หั้ยกับ พ่อฮีโร่ตัวจริงของเจ้
เผื่อฟื้นขึ้นมา เมื่อไร พ่อยอดขมองอิ่มของเจ้
จะได้ ไปทำประโยชน์ หั้ยชาวบ้านต่อไปชั่วกาลนานเทอญ


เออ เฮ้ยยย เห็นว่า ช่วงก่อนหน้านี้
เฮียสอฯ เค้ารับ อาสาสมัคร ช่วย ขับเรือ
ช่วยผู้ประสบอุทกภัย ในกรุงเทพนิ
ลื้อ เคยคิดจะไปแจม ไปทำบุญร่วมชาติตักบาตรร่วมขัน
ก๊ะเฮียสอ มั่งไหมเนี่ย ตอนนั้นพี่ แจ๊คสแปโรว์ ยังโผล่หัว ไปช่วยเฮียสรฯ เรย



ลื้อเองก็น่าจะลองเจียดเวลาตบตี เอ๊ย เสวนาธรรม
ก๊ะ อีตาอ๊บนอกกะลา ที่ ลานธรรมจก
ไป ช่วยแบกเรือยกของ เป็นเพื่อน พี่แจ๊ค ซะมั่งน้าาาา
เผื่อว่า ชาติหน้า ด้วยอานิสงค์ผลบุญอันนี้
จะ ส่งผลให้ ไอ้โซ๊ยตี๋ ดูดีมีซาเหน่ เท่ห์ ระเบิดระเบ้อ
แบบ เฮียสอฯ พระเอกตัวจิง กระทิงแดง มั่ง 5555


พระเอกตัวจริง สรยุทธ สุทัศนะจินดา นั่ง ฮ.ลุยน้ำท่วม เรียลลิตี้ถึงบันไดบ้าน






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:34:42 น.  

 
 
 
------------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า....
ว่าก็ว่าเหอะ อันนี้พ่อแม่ก็ต้องมีส่วนด้วยว่ะ ส่วนใหญ่
พวกลูกหลานมังกร มันจะโดนเมมเมอรี่ว่า พ่อแม่มีคุณ
เหนือฟ้ากว้างกว่าแผ่นดิน จนลืมว่าอย่างไหนดี
อย่างไหนชั่ว คิดว่าการช่วยพ่อแม่เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่

+++++++++++++++++++++++++++++++++++



อิเจ้ ว่า...

เฮ้ออออ เจ้าลกเจ๊กเอ๋ย ฉงฉัย สมัยลื้อยังเด็ก ๆ
คงจะมัวแต่ซุกซนเที่ยวเอามือไปแหย่ปลั๊กไฟ
เรยมิได้สนใจสำเหนียกกับ เรื่อง ...

24 ยอดกตัญญู .... คุณธรรมพันปี
//topicstock.pantip.com/library/topicstock/2009/05/K7839099/K7839099.html


ที่ อาเหล่ากง -เหล่าม่า และ อาม่าม๊า พยายามพร่ำสอน แหง๋ ๆ


เฮ้ออ ....นี่ถ้าไอ้ ลกเจ๊กหัวกบฏ อย่างลื้อ
จับพลัดจับพลู ไปเกิดเป็น กัณหา-ชาลี อ่ะนะ
รับรองได้ว่า พระเวสสันดร คงจะอดสะสม ทานบารมี เป็นแน่แท้
เรียกว่า แค่รู้ว่า ป๊ะป๋า แอบตุกติกคิด จา ยกลื้อหั้ย อิตาชูชก
ลื้อคงกระโดดถีบหน้าพ่อตัวเอง จนหกคะเมนตีลังกา แหง๋ ๆ
นี่สิ ถึงจะเรียกว่า ทรพี เรียก พี่ ตัวจริง !
( ทักกี้ แพ้หลุดลุ่ย เรยนะเนี่ย เหอะ ๆ )











แหน่ะ ๆ อ่านแร้วมีเคือง เว้ย มีเคือง
ไอ้โซ๊ยตี๋ล่ะก้อ อิตั้วเจ้ล้อเล่นอ่ะ จร้าาาาาาาาาาาาาาาา
( แหม ๆ อิเจ้ทำ ไก่หยอกหมา ด้วย ออกจะบ่อย ยังไม่ชินอีกเหยอ 555)
เฮ้อออ พูญิ๋งตัวเล็ก ๆ อย่างอิเจ้ ล่ะหรือ
จะกล้ามาชี้หน้า ครหา นินทา ให้ลื้อขุ่นข้องหมองใจ
เจ้ก็กัวโดนลื้อกระโดดเตะก้านคอเหมือนกันนะจ๊ะ อ่ะซิก ๆ




แต่ก็เห็นด้วยกะลื้อนะ เรื่องที่บอกว่า
พวกลูกหลานมังกร มันจะโดนเมมเมอรี่ว่า
พ่อแม่มีคุณ เหนือฟ้ากว้างกว่าแผ่นดิน
จนลืมว่าอย่างไหนดี อย่างไหนชั่ว
คิดว่าการช่วยพ่อแม่เป็นบุญที่ยิ่งใหญ่



การสอนแบบนี้ มันก็เหมือนดาบ 2 คม นะ
แต่ทำไงได้ล่ะ อาม้า อาป๊า ส่วนใหญ่
เค้าก็เลี้ยงลูกเพื่อหวังได้พึ่งพิงยามแก่เฒ่า ทั้งนั้นนี่หว่า
ก็เรยต้อง ตั้งโปรแกรมฝังหัวไอ้ตี๋อิหมวย
ด้วยคำสอนของ ขงจื้อ เล่าจื้อ
ว่า ด้วยเรื่อง กตัญญูปกาศิต ซะตั้งแต่ยังเด็กอ่ะจิ
ก็ โบราณว่า ไม้อ่อนมันดัดง่ายนิ อิอิ




อืม..แต่ของงี้มันก็ต้องอยู่ที่เด็ก ด้วยว่ะ
ว่า มันจะเอาถ่าน รู้อะไร เป็นอะไร แค่ไหน
ถ้าเด็กมันเป็น ทรพีกลับชาติมาเกิด อ่ะนะ
ต่อให้ สอนเรื่อง กตัญญูปกาศิต วันละ 3 เวลา หลังอาหาร
ก็ไปเปลี่ยน สันดาน มันม่ะได้หร็อก
แล้ว สมัยนี้ อ่ะนะ ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแระ



เจ้มักขบขัน(แกมสมเพช) เสมอนะ
เวลาที่ใครพูดว่า คนเราต้องมีครอบมีครัว
จะได้มีลูกมีหลานเอาไว้คอยดูแล
และอาศัยพึ่งพายามแก่เฒ่า
ถ้าเป็นสมัยโบราณบานบุรี นี่อาจจะใช่
( ถ้าโชคดีมีลูกกตัญญู อ่ะนะ )
แต่ตอนนี้ยุคสมัยมันเปลี่ยนไปแล้วว่ะ



เด๋วนี้น่ะ แค่เลี้ยงดูเด็กสักคนให้มันพ้นๆอก
ไม่กลับมาไถเงินเราได้ ก็ถือว่าเป็นบุญแระ
เฮ้อออ สมัยนี้คนที่มัน กตัญญูเลี้ยงดูพ่อแม่เนี่ย มันหายากส์ว่ะ
อ้อ แต่จะว่าไป ก็มีลูกชายอยู่คนนึงนะ
ที่ กตัญญูได้ใจจนใคร ๆ ก็สรรเสริญ
เนี่ย คนนี้ไง




แหม ? เจ้ล่ะปลื้มอกปลื้มใจ แทนแม่อีซะจิง ๆ
ลื้อคิดเหมือนเจ้ ไหมเนี่ย
เฮ้ออ ผู้ชายอาไร้ ช่าง ชวนป๋วยปี่แปกอ ซะเหลือเกิ๊นนนน
ไม่อยากจะบอกเรยว่า คนนี้ล่ะ นายหัวในดวงใจ ของอิเจ้
แหม ?นี่อิเจ้ ก็พย๊าม ลับเขี้ยวอยู่บ่อย ๆ อ่ะนะ
เผื่อจะได้เจริญรอยตาม พ่อมีดโกนอาบน้ำผึ้ง ของเจ้ มั่ง
แค่แล่งได้เก่งสักครึ่งหนึ่ง ของ ทั่น ก็โอ แระ
อย่างน้อย วาจา และ ลีลาการกรีด
ก็ พลิ้วไหวกว่า ซือแป๋ของคนบางคนล่ะว้าาาา
เห็น ลูกล่อลูกชน เวลาทั่นชวน ให้สัมภาษร์ก๊ะสื่อ แร้ว
ถือว่า ช.ชวน ลูกแม่ถ้วน นั้น
สมควรได้รับ เกียรตินิยมเหรียญทองเป็นรัฐสาดบัณฑิต
และ ผ่านมาตรฐาน ISO ทางการฑูต ง่ะ
เพราะ อย่างน้อยคำว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน
มันก็ เป็นการลอยตัวเหนือปัญหา เอ๊ย เป็นการตอบแบบบัวไม่ช้ำน้ำไม่ขุ่น
และ เป็น สัมมาฯ มากกว่า การสวนกลับว่า
เมื่อคืนนี้ คุณไปเสพเมถุนกับใครมา ล่ะว้าาา เอิ๊ก ๆ




เออ แพล่มเรื่องความกตัญญู ต่ออีกหน่อย
จำได้ว่า ช่วงน้ำท่วมกรุงเทพ
สื่อทีวี มักจะเอาข่าวว่าด้วยเรื่อง
ผู้เฒ่าผู้แก่ ติดอยู่ในบ้านที่น้ำท่วม
มาออกอากาศ ให้ชาวประชา ได้รับชมอ่ะ
ถ้า ติดอยู่อย่างลำบากเพราะไม่มีคนดูแล ก็ น่าสงสารอยู่นะ


แต่บางประเภท เห็นแล้วก็ได้แต่ทำตาปริบ ๆ ว่ะ
แมร่ง แก่จะเข้าโลงแล้ว
ยังห่วงสมบัติบ้า ไม่ยอมอพยพหนีน้ำ
เดือดร้อนให้ บรรดาลูกหลาน
ต้องมานั่งกุมขมับกุ้มอกกุ้มใจ


ส่วน อาม่าอาซิ้ม ทั้งหลาย ก็ยืนกระต่ายขาเดว
ประมาณว่า ไงอั้วก้อม่ายไป อยู่นี่อั้วก็ฉะบายดีแระ
อั้วเกิดที่นี่ อั้วก็จะขอยอมถูกน้ำท่วมซี้แหง๋คาบ้านตัวเอง!
ลูกหลาน มันฟังแร้วก็ได้แต่ เป็นทุกข์เป็นยาก อัดอั้นตันใจ
มานั่งร้องห่มร้องไห้ ออกทีวี ให้เป็นที่ สมเพชเวทนา
แก่สายตาประชาชี อีกตะหาก



รู้ป่ะ เห็นข่าวประมาณ นี้ทีไร
อิเจ้ทั้ง ขำทั้งปลง ( และ หมั่นไส้ ) ว่ะ
แล้วก็แปลกใจด้วยนะ ว่า
พวกมันจะร้องไห้แง ๆ ทุกข์ใจ ไป 'ไมว้าาาา
ก้ออาเหล่ากงเหล่าม่า แกยืนยันจะอยู่เองนิ
เราก็ต้องเคารพการตัดสินใจของผู้อาวุโส สิ
ในเมื่อ ท่านอยากจะอยู่ ที่นี่
ก็ต้องปล่อยให้ทั่นจมน้ำตายคาบ้าน สมใจอยากไปจิค๊ะ
จะไปขัดศรัทธา ของทั่นทำไม ล่ะ
ชีวิตใคร ก็ ชีวิตมัน จะไปเจ้ากี้เจ้าการ อะไรนัก วะ เหอ...เหอ...



เออ แล้วที่ ขำยิ่งกว่านั้น อ่ะนะ
พอถึงเวลา คับขันอยู่ไม่ได้จิง ๆ อ่ะนะ
ก็เห็นอาเหล่าม่าเหล่ากง
ที่ยืนยันจะนอนตายคาบ้าน
มาขอให้หน่วยกู้ภัย ว่ายน้ำลอยคอ
เข้าไปช่วยขนย้ายตัวเอง ออกไป
แบ่บทุลักทุเล เปียกม่ะล่อกม่ะแล่ก ทู๊กที
( ทีตอนอพยพง่าย ๆ ล่ะเจื๋อกไม่ยอมไป )



เห็นข่าวแบบนี้ทีไร ถ้าพ่อแม่อิเจ้นั่งดูอยู่ด้วย
เจ้ต้องตัดไฟแต่ต้นลม ด้วยการ ไซโค
แล้ว ชี้ให้พ่อหั้ยแม่ ดู ไว้เป็น อุทาหรณ์ทุกที ว่ะ เอิ๊ก ๆ
ประมาณ ว่า เฮ้ย หากเจอน้ำท่วม แล้วลูกหลานมันขอร้อง
ให้ อพยพ ไปไหน ก็ให้รีบไปๆซะนะ อย่า ทะลึ่งมาเรื่องมาก
จนต้องลำบากชาวบ้านแบ่บในทีวี นะเว้ย
ไม่งั้น ตรูจะปล่อยให้จมน้ำตายไปต่อหน้าต่อตายเยยย
อิอิ ก็แหย่พ่อแหย่แม่ ไปตามประสาอดัมส์แฟมิลี่ ไปงั้นแหล่ะ
เพราะ ถ้าน้ำท่วมบ้านอิเจ้ จิง ๆ อ่ะนะ
อิป๊าอิม๊า น่ะ มันนกรู้จะตายชัก
เผลอ ๆ พวกอี อาจจะเผ่นออกจากบ้าน
ก่อนอิเจ้จะบอกด้วยซ้ำ





เฮ้ออ การแสดงความกตัญญูกตเวที เนี่ย
มันเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์
ต้อง กระทำในปริมาณที่ พอดิบพอดี
มีลิมิต ที่เหมาะสม อ่ะนะ


ไม่งั้น มันจะกลายเป็น เรื่อง ลูกจ๋ารังแกพ่อแม่
ต้องตามประคบประหงมกันไปทุกภพทุกชาติ ไม่จบไม่สิ้น
คนแก่ มันก็เหมือนเด็ก ๆ นั่นแหล่ะว้า
ถ้า ตามใจกันมาก ๆ ก็มีงอแง เอาแต่ใจ
และ เกิดอาการ เหลิงได้ เป็นธรรมดา




อืม...แต่จะว่าไป ก็ถือว่า คำสอนเรื่องชวนป๋วยปี่แปกอ
นี่มันก็ เข้าท่า กว่า การสอนของพรรคคอมมิวนิสต์จีนแดง
สมัยปฏิวัติ วัฒนธรรม นะเว้ย
นั่นน่ะเล่นถึงขนาด ล้างสมอง
บอก ยุวชน ไปเลยว่า
พ่อแม่ไม่ได้มีพระคุณอะไรกับเรา
พวกเค้าก็แค่ทำให้เราเกิดมาเพราะความใคร่
ไม่จำเป็นต้องไปกตัญญู อะไรกะมันนัหนา
ให้หันมา กตัญญกับพรรคคอมมิวนิสต์ และ มาตุภูมิ ดีกว่า



เฮ้ออ ถ้าฟังโดยตรรกะมันก็เป็นจิง
แบบที่พวกจีนแดงมัน พูดอ่ะนะ
เพียงแต่ว่า อิเจ้เห็นด้วยเพียงบางส่วนอ่ะ
เพราะสำหรับอิเจ้ บุญคุณของผู้ให้กำเนิด
ไม่ได้อยู่ที่การทำให้เราเกิดมาเพราะความใคร่หรอกนะ
แต่มันอยู่ที่ ทั่นอุส่าทนุถนอมเลี้ยงดูเรามา
โดยไม่เอาขี้เถ้ายัดปากให้ตายไป
ตั้งแต่ยังตีนเท่าฝาหอยอ่า


อืม...ที่โต๊ะศาลาประชาคม ในพันติ๊ปเคยมีคนตั้งคำถาม ว่า


ถ้าเราเกิดมาจากความไม่ตั้งใจ
มีแม่เป็นโสเภณี และมี พ่อเป็น ผู้ชายที่มาซื้อบริการจากแม่
เราควรจะกตัญญกตเวที กับคนคู่นี้ไหม ?


ฟังแล้วก็น่าคิด นะ มันก็คงเหมือน คำถาม เรื่อง
ระหว่างพ่อแม่ผู้ให้กำเนิด กับ พ่อแม่บุญธรรมที่เลี้ยงดูเรามา
เราควรจะกตัญญูกับใครมากกว่า กัน



ที่ลื้อเคยไปตบตีก๊ะชาวบ้านที่ ลานธรรมจก ล่ะมั้ง อิอิ
และถ้า เจ้ต้องวิสัชนาตอบคำถามนี้
อิเจ้ก็คง เรียงลำดับความสำคัญ
โดยดูจากปริมาณ(และคุณภาพ )
ใน การประคบประหงมดูแล + ปรนนิบัติพัดวี
ตลอดจนการให้ความรักความเอาใจใส่ ต่ออิเจ้มั้ง


และ กับแม่ที่เป็นอีตัว นี่ ถึงจะไม่ได้เลี้ยงดูกันมา
ไงก็ถือว่ามีบุญคุณ ว่ะ เพราะถือว่า
อีต้องทนอุ้มท้อง ยอมให้เราได้อาศัยมดลูกอี
เป็นอู่ข้าวอู่น้ำมาตั้งเก้าเดือน แหน่ะ
( แม้ว่า อีจะเต็มใจหรือไม่ก็ตามแต่ )



ส่วน กับ พ่อที่เป็น ผู้ชายที่มาซื้อบริการจากแม่
พอลั้ลลาเสร็จสมอารมณ์หมาย
แล้วก็จากไปทางใครทางมัน นี่
อิเจ้ถือว่า มันก็แค่คนแปลกหน้าคนหนึ่ง
ซึ่ง บังเอิญผ่านมา แล้วมีกรรม ร่วมกัน นะ
ก็ แค่ บริจาคสเปิร์มตัวเดียว
มาสร้างชีวิตให้เจ้ ( โดยไม่ได้ตั้งใจ )ก็เท่านั้นเอง
ถ้าอิเจ้ได้ดิบได้ดี แร้วทะลึ่งมาลำเลิกบุญคุณ นี่
มันอาจโดนกระโดดเตะก้านคอได้ เหอ...ๆ




อืม...เห็นลื้อบ่นเรื่อง กตัญญูปกาศิต
อิเจ้ นึกถึงกาทู้ในพันติ๊ป
ที่ อิเจ้เข้าไปประมือก๊ะอิตาเกิด อ่ะ
แบ่บเนี้ย....






ถ้า ถูกบังคับ ให้เลิก นับถือ ศาสนาที่คุณศรัทธาอยู่ ...... คุณจะ.....?
------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 17

แม่นางม่วยๆ..ซีดเซียวนั้ง...!

เล่าฮู ตั้วตี๋(ตี๋ใหญ่) และตั้วเฮีย(ห้ามคำแผลง) ....
จะตอบปัญหานี้ ก็ต้องรอเหตุปัจจัย
ที่ประกอบให้พร้อมตัดสินใจก่อนในเวลาเกิดเหตุการณ์...?
(หากมีลูก เมีย แม่ จะทำไง..ต้องค่อยๆคิดค่อยๆพูดกัน จิงไหม )


การนำปัญหาที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และเป็นปัญหาที่สุดวิสัย..
เพราะข้อมูลไม่ครอบคลุม มาถาม... ย่อมไม่ได้ความจริง...
เพราะอาจมีปัจจัยอื่นประกอบอีกมากมาย
เช่น..ระหว่างศาสนา กับ มารดา ที่อยู่ต่อหน้าจะเลือกใคร
แค่คำถามเดียวก็ "เคี้ยวยาก"..แล้ว นู๋บี-บัวห้าเหล่า...
(ศาสนา และสัจจะ กับ กตัญญู..จะเลือกอะไร? ในเหตุการณ์ที่เกิด..)


ใยม่วยๆ ซีดเซียวนั้ง...มิตั้งคำถามนี้แก่แม่นาง "เตียวเสี้ยน"..
ว่าทำไมจึงยินยอม ให้ ตั๋งโต๊ะ และ ลิโป้ .เชยชม ?
หาก "เกิดเป็นคนช่างยากแท้" อยู่ในเหตุการณ์
เตียวเสี้ยนจะเลือก เกิดฯล หรือไม่ ..
( เพระเกิดฯล..หล่อกว่าหลายขุม) ..!
เอ้ามาทายกันว่าเลือกเกิดฯล ไหม..!

จากคุณ : เกิดเป็นคนช่างยากแท้ - [ 9 มิ.ย. 52 12:15:29 ]






รู้ป่ะ อิเจ้ ตอบมันกลับว่า ไง
----------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 22

คุณ : เกิดเป็นคนช่างยากแท้

ศาสนา และสัจจะ กับ กตัญญู..
จะเลือกอะไร? ในเหตุการณ์ที่เกิด..
-----------------------------------------
อิฉันเลือก ตัวกู เอ๊ย กตัญญูก่อน อ่ะ แหะ ๆ
เพราะ ศาสนา มิใช่ปัจจัยที่ 5 ในการดำรงชีวิตของอิฉัน
เขี่ยออกจากชีวิตได้อย่างสบาย ๆ


ส่วนสัจจะ นี่ต้องขึ้นอยู่กับว่า มันเรื่องอะไร
ถ้าต้องบิดพลิ้วไปบ้าง แน่นอนศีล 5 ย่อมถลอก
แต่ถ้าจำเป็นต่องทำแล้ว ก็เต็มใจที่มารับวิบากทีหลัง
ยิ่งถ้าเป็น สัจจะ เรื่อง ไตรสรณะ ที่ท่องเรื่อยเปื่อย
ตอนเข้าแถวสวดมนต์สมัยเด็ก ๆ อ่ะนะ
พร้อมที่จะกลืนน้ำลายตัวเองทุกเมื่อ 5555


แต่ กตัญญู นี่ทิ้งยากนะ
แม้จะชอบเห็นพ่อแม่เป็นลูกบอลบ่อย ๆ
แต่ถ้าจะให้อิฉันเล่นบทลูกทรพี นี่ ทำไม่ลงอ่ะ



หาก "เกิดเป็นคนช่างยากแท้" อยู่ในเหตุการณ์
เตียวเสี้ยนจะเลือก เกิดฯล หรือไม่ ..
( เพระเกิดฯล..หล่อกว่าหลายขุม) ..!
เอ้ามาทายกันว่าเลือกเกิดฯล ไหม..!
--------------------------------------------

อันนี้ก็ไม่รู้ ไม่ใช่ เตียวเสี้ยน
( อิฉันเป็น ซีดเซียวนั้ง นี่นะ อิอิ )
แต่ถ้า อิฉันรับบท เตียวเสี้ยน
เตียวเสี้ยนคนนี้ ก็ไม่ได้ พินิจ บุรุษที่หนังหน้า หรอกหนา
ข้าพเจ้าจะ พิจารณา ผู้ชายที่ ประโยชน์ใช้สอย อ่ะ
บ่ มีไก๊ เมื่อไร ก็ เขี่ยมันทิ้ง
ก็ผู้ชายมันเหมือนสิ่งของนี่หน่า
คิดจะหยิบ ก็หยิบ คิดจะโยนก็โยน
ใส่ใจอะไรกับ มันนักล่ะ หุหุ


เอาล่ะอิฉันตอบ คุณแล้ว
แล้วเมื่อไร คุณจะตอบคำถามในกระทู้อิฉันซะที ยะ

ส่วน ปัจจัยอื่นประกอบอีกมากมายก่ายกอง น่ะ
คุณก็ใช้ จริต ตัวเองปรุงแต่งมันขึ้นมาดิ
จะมัวมารออิฉัน ชงเรื่องให้ทำไมเฮ้อ

ปล.
นี่ ๆ คุณเกิดจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ได้ข่าวว่า แต่งกลอนเก่งนี่
แต่ง โศลก ชมฟามงาม ให้นู๋บี สักบทจิ
แล้วเด๋วจาแจกกิ๊บ หั้ยเป็นของสมนาคุณ อิอิ ^ - ^

จากคุณ : นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 - [ 10 มิ.ย. 52 18:40:08 ]


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:37:29 น.  

 
 
 
ส่วน นี่ เป็นการปุจฉาวิสัชนา ณ ลานธรรมเสวนาธรรม
กับ ไอ้นู๋ doyjaar ในกาทู้ของชาวบ้าน




----------------------------------------
doyjaar ว่า ...

ถ้า จขกท. บอกว่า
หากแต่... เราแต่ละคนพยายามทำหน้าที่ที่เรามีกันให้ดีที่สุด
ทั้งหน้าที่เรียน หน้าที่ต่อบุพการี หน้าที่ต่อครู หน้าที่ต่อภาระที่มีอยู่ ฯลฯ ....


ผมสงสัยว่า
หากเราเป็นตำรวจที่มีพ่อเป็นโจร
และเรากำลังจะไปล้อมจับตาย ละครับ
เราจะทำหน้าที่นี้อย่างไรให้ดีที่สุดได้

ถามกันเล่น ๆ ครับ

------------------------------------------------

บัวเหล่าที่ 5 ว่า...

งั้น คนที่ชอบเขียนนัก ๆ ด้วย ฟามฟุ้งซ่านอย่างอิฉัน
ก็ขอปรุงแต่งจริต มาคิดมาตอบเล่น ๆ มั่งนะ
( แบบว่า ยัง ...ดับจิต... ไม่ได้ 555 ) ^ - ^

อันสิ่งที่คุณตั้งปุจฉา มานั้น
คำวิสัชนา ( ทางเลือกหนึ่ง ) ที่อิฉันชอบมาก
มันอยู่ใน ละครช่องสาม วันเสาร์อาทิตย์
เรื่อง คิมชูซอน สุภาพบุรุษ มหาขันที อ่ะ


หรือ ถ้าเอาแบบ คลาสสิคกว่านั้น
เก๊าะ ใน สามก๊ก มั้ง
อิฉันก็ยังอ่าน สามก๊ก ไม่ครบ สามรอบหรอกนะ
( เพราะกลัวไม่มีคนคบ อิอิ )


แต่จากการที่อ่าน ผ่าขงเบ้งมาบ้างเล็ก ๆ น้อย ๆ
และ ก็ฟังคุณพ่อที่รัก แหกปากร้องเพลง
" ข้าปล่อยโจโฉพ้นตายไปได้ เพราะแสนสงสาร
อีกหนึ่งคือการทดแทนคุณท่าน "
มาก็หลายหน


อิฉันจึงได้เรียนรู้ว่า
ถ้าอยากได้รับการยกย่อง
เป็นเทพเจ้าแห่งความซื่อสัตย์ แล้วไซร้
จะเอารูจมาทาแก้ม ให้หน้าแดง อย่างเดียวไม่ได้
แต่มันต้องรู้จัก รับผิด-ชอบ... ด้วย


++++++++++++++++++++++++++++++



อิเจ้ว่า....


อืม... เพราะ อานิงสงค์ ของคำว่า
การรับผิด-ชอบ อย่างตรงไปตรงมา
ที่มัน ฝังหัวจดจำไว้ในในสัญญา นี่แหล่ะ
ที่ทำให้ โรบินฮู้ด อย่างอิเจ้ มีภูมิคุ้มกันที่เข้มแข็ง
และมีแรงถูลู่ถูกัง แบก เอ๊ย รักษาศีล 5 ในฮาเร็ม ไว้ได้
และก็เพราะ ไอ้คำว่า รับผิด-ชอบฯ อีกนั่นแหล่ะ
ที่ทำให้ อิเจ้ต้องเจอกับ สถานการณ์คับขัน
ตามมาทดสอบความแน่วแน่ ในศีล 5 ของอิป้าป่องเสมอ
โดยเฉพาะ ไอ้ศีลข้อ 2 อ่ะนะ แมร่ง ถลอกประจ๊ำ
เล่นเอา ขนหน้าแข้งตรูร่วงไปแทบจะเกลี้ยงอยู่แระ เหอะ ๆ



นี่แหน่ะ ไอ้ล่กเจ๊กหัวขบถเอ๋ย สมัยเด็ก ๆ ลื้อเคยได้ดูงิ้ว
ตอน กวนอูปล่อยโจโฉ มั่งไหมล่ะเธอว์
อืม... ถ้าทุก ๆคน บนโลกนี้ รู้จักทั้งรับผิด และ รับชอบ
เหมือน ไอ้เจ๊กหน้าแดงคนนั้นปัญหาเรื่อง ซีแอลยา
ก็คงไม่เกิดขึ้น หรอกมั้ง อิอิ






ว่าแต่ ที่ อืเจ้ กาทู้ถามลื้อไป ประมาณ ว่า

ถ้า หมอไปขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้ มันผิด เนี่ย
แร้วเคสที่ เจ้ ขโมย เอ๊ย ซิกแซกหยิบยา ของ รพ.
ที่ซื้อจากเงินภาษีของ ปชช. ไปหั้ยพระที่อาพาธ เนี่ย
เจ้จะผิดเต็มประตู จนกรูกลายเป็น อาชกรสงคราม
ต้องถูกจับขึ้น ศาลโลก ไหมวะ ?



นั้นน่ะ ลื้อจะไม่ทำตัวเป็น ศาลเตี้ย เอ๊ย ศาลไคฟง
มาพิพากษาคดีนี้ หั้ยอิเจ้สุดที่ร้ากกกก ของลื้อ หน่อยหรือ


อ้อ บอกไว้ก่อนนะ ว่า ที่เจ้จับพลัดจับพลู
ขโมยยา รพ. ไป หั้ยพระ เนี่ย
ตรูม่ะได้ อยากจะเป็นนักบุญคนบาป
คอยปล้นโรงบาล ขโมยยาไปช่วยพระที่ยากไร้
ยึดหลัก เมตตาธรรม ค้ำจุนโลก
แบ่บไอ้เจ้า โรบินฮูด เรยพับเผื่อย
แต่มันเป็นเรื่องของการโดนมัดมือชก
ที่ ตกกระได พลอยกระโจน ว่ะ


เฮ้อออ พี่ที่มาขอยา บอกว่า
พระทั่น เป็นธรรมยุต ให้หมอผู้หญิงแตะตัวไม่ได้
แต่ตอนนั้นมีแต่หมอผู้หญิงตรวจ
พี่เค้าเลยต้องอำนวยความสะดวก มาเอายาหั้ย
เจ้ก็เลยต้องหลับหูหลับตาหยิบยาหั้ย
ไปอย่างจำยอม ด้วยฟามเกรงใจ



แต่ในใจ ก็ขุ่นตะหงิด ๆ คิดประมาณว่า
แมร่ง มันเป็น ธรรมยุต เป็นพระสายปฏิบัติ ภาษาอะไรวะเนี่ย
เคร่ง ก็ เคร่งไปดิ แต่ เจื๋อก มาสร้างฟามลำบากใจ
ทำให้ ศีลข้อ 2 ของ ฆราวาสอย่างตรู ถลอกงี้
ตรูรับม่ายล่ายยยยยยยยยยยยยยยย
ยาทุกเม็ดในห้องยา มาจากภาษีของประชาชน
จะมาทำมึน ถือวิสาสะ หยิบฉวยให้ใคร
แบ่บไม่ตรงไปตรงมา ได้ไงฟระ ฯลฯ




เนี่ย นอกจากศีลถลอกแร้ว
เจ้ยังต้องเสียเวลา มานั่ง สารภาพบาป (ทบทวนสภาวะจิต )
ที่เจื๋อกเผลอใจไปขุ่นมัว มีจิตคิดไม่ดี ก๊ะ ชาวบ้านชาวช่อง อีกด้วย
แมร่ง ซรวย 2 เด้ง เรยนะนั่น ฮ่วย เซ็งเป็ด ว่ะ !
แต่ลื้อก็ไม่ต้องกัว ว่า อิเจ้จะโดน ทั่นยมฯ ถีบลงกาฬสุตตนรก หรอกนะ



เพราะ อินังคิตตี้ตัวดี มันวางค่ายกล 8 ทิศ
ไว้ดัก ตัวผู้รู้ ในรูจอมปลวก หมดแระว่ะ
อิอิ มันเป็น กฏกติกามารยาท ในการปฏิบัติ ของ อิเจ้ น่ะ
ว่า ถ้า เมื่อไร เกิดภาวะจำยอม
ต้องหยิบยาจากห้องยาไปใช้
โดยปราศจากเงื่อนไขสิทธิ อันชอบธรรม
และ ความตรงไป ตรงมา
เจ้ จะต้องแอ่นอกแสดงความรับผิดชอบ
ควักตังค์ บริจาคเงินคืนให้ รพ.
เท่ากับ จำนวนเงินที่เป็นราคาค่ายานั้นด้วยว่ะ



อันนี้ยังถือว่า อยู่ในขั้นปรานี นะเว้ย
บางที อิคิตตี้ มันเกิดหน้าเลือดขึ้นมา
เจ้โดนมันบังคับหั้ย บริจาคแบ่บทวีคูณ สิบเท่าด้วยซ้ำ
โทษฐานที่ เสือกมักง่าย ทำอะไรไม่รู้จักคิดหน้าคิดหลัง


เฮ้ออ จิง ๆ ไม่จ่ายก็ได้นะ เพราะ พี่แกบอกว่า
เด๋วจะ ใช้สิทธิแกเบิกยาคืน รพ. แทนพระหั้ย อ่ะนะ
ตอนแรกก็ คิดว่า มัน โอเค ไม่น่าจะมีอะไร
เพราะไง ก็หยวน ๆ ถือว่า ได้เบิกยานั้นคืนหั้ย รพ. แระ
แม้จะเป็นการซิกแซกใช้สิทธิพี่คนนั้นมาเบิกแทน
ก็ถือว่า ศีล ข้อ 2 ของอิเจ้ ไม่ถลอก แระ



แต่คิดอีกที ก็รู้สึกว่า เฮ้ย มันไม่ตรงไปตรงมานี่หว่า
ถึง ศีลข้อ 2 ของตรูจะไม่ถลอก แล้ว
แต่ขืนทำงั้น มันก็เหมือนมีส่วนสมรู้ร่วมคิด
ทำให้พี่คนนั้น ผิดศีลข้อ 4 แบ่บเต็ม ๆ ด้วยอ่า



เฮ้ออ แล้วพอเราจะเสียเวลาทำให้ถูกขั้นตอน แบ่บตรงไปตรงมา
ลงทะเบียนเอาชื่อ พระไปเข้าระบบตามจริง เพื่อเบิกยาคืน
ก็ปรากฏว่า พระทั่น ดั๊นใช้สิทธิ จ่ายเงินเอง ม่ะช่ายรักษาฟรีอ่ะ
ไอ้ครั้นจะไปเค้นคอ ขอหั้ยพี่คนนั้นมาจ่ายตังค์ แทนพระก็เกรงใจเค้า
เด๋วเค้าจะหาว่า ตรูมาคิดยิบคิดย่อยคิดเล็กคิดน้อยอี๊ก
จิง ๆ ค่ายามันก็ไม่กี่บาทหรอกนะ แต่ความรู้สึกตอนนั้น
มันรู้สึกเหมือน ไรว้า เนี่ย เนื้อก็ไม่ได้กิน
หนังไม่ได้รอง เสือกเอากระดูกแขวนคอ อีกตะหาก
แร้ว 'ไม ต้องมา'โดนปล้นทรัพย์
แบ่บ ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ด้วยว้าาาา



แต่ก็ เอาวะ ถือว่า จ่ายค่ายาหนนี้
เพื่อเป็นการสมนาคุณคืนกำไรหั้ย โรงบาล ก็แระกัล
ไงสมัยก่อนจะมาปฏิบัติธรรม เนี่ย
อิเจ้ก็เคยล้างผลาญงบประมาณ รพ. ไปหลาย เหมียนกันว่ะ เอิ๊ก ๆ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:38:46 น.  

 
 
 

------------------------------------------
อิเจ้ป่อง ว่า....
อืม...ในสายตาของเจ้ อ่ะนะ
นายกปูแดง เนี่ย ยังไม่แหล่ม เข้าขั้น นางในฝัน
ตามมาตรฐาน ISO ของเจ้ง่ะ
ดูแร้ว อีแหย ไปหน่อยว่ะ เห็นอีให้สัมภาษณ์ทางทีวี
และ ดูจากสภาพเมืองหลวงช่วงเกิดอุทกภัย
แร้ว ยังรู้สึกว่า สภาวะความเป็นผู้นำ
ความสามารถ ความเด็ดขาด ยังไมโดนง่ะ


========================================
ไอ้โซ๊ยตี๋...ว่า
ที่ลื้อคิดแบบนี้เพราะลื้อไม่รู้จักแยกแยะเหตุการณ์
ลื้อต้องดูว่า เหตุการณ์นั้นมันแก้ได้มั้ย อันนี้ใครๆก็รู้ว่า
มันแก้ไม่ได้ รู้อย่างนี้ถ้ายังขืนแสดงสภาวะผู้นำ รับรองได้
พังกับพังครับ ที่เจ้บัวเกี๋ยงแกเล่นบทนี้ถูกต้องที่สุด
มันต้องแสดงความอ่อนโยน อ่อนไหวต่อเหตุการณ์
อั้วจะบอกลื้อให้ บทสรุปของเรื่องนี้
มันต้องดูตอนน้ำลดว่อย ดูว่าจะเยียวยาคน
และแก้ไขให้เศรษฐกิจ หลังกลับคืนสภาวะปกติอย่างไร


บอกได้คำเดียวงานนี้ ต้องอาศัยบทนางฟ้าผู้อารี
น้ำเหนือหรือจะสู้น้ำตาปู อีทำเอาอั้วนอนไม่หลับ
เลยว่ะ ตอนที่ถูกสื่อถามจี้ใจดำ แล้วอีเสียงสั่นบอกว่า
"หายใจลึกๆ" หัวใจอั้วละลายเลยว่ะ ผู้หญิงอารัย
น่ารัก น่าเอ็นดู นายกอะไรไม่รู้น่ารักที่สุดในโลก
ยิ้มทั้งน้ำตาแบบนี้ มันถึงจะได้ใจประชาชีอย่างตรู





+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++




อิเจ้ป่อง ว่า....

อืม... เห็นด้วยก๊ะลื้อ ที่ว่า

อั้วจะบอกลื้อให้ บทสรุปของเรื่องนี้
มันต้องดูตอนน้ำลดว่อย ดูว่าจะเยียวยาคน
และแก้ไขให้เศรษฐกิจ หลังกลับคืนสภาวะปกติอย่างไร

เรื่องอำนาจมันต้องคิดยาวๆ มันต้องเลือกใช้ตามสถานะการณ์


เพราะ ไอ้คติเรื่อง สงครามยังไม่จบ อย่าเพิ่งนับศพทหาร นั้น
อิเจ้เองก็มักจะ เอามาแทงกั๊ก เอ๊ย ประยุกต์ใช้
กันหน้าแตกอยู่บ่อย ๆ เหมือนกัน 555
แต่ไง อิเจ้ก็ยัง เห็นต่าง ก๊ะ ลื้อ เรื่อง แม่ดอกบัวเกี๋ยงว่ะ


ไงก็ยังยืนยัน ว่า เจ้าหล่อน เป็น อิอ่อน มาก ๆ
โคลนนิ่งภาษาอะไรฟระ ไม่ได้เชื้ออาเฮีย มามั่งเรย
เนี่ย ไม่ต้องพยาม เอาอย่าง พี่ชาย
เรื่องมีฟามสามารถ และมากด้วยบารมีจนล้น ก็ได้
( เพราะเด๋ว จาโดนเนรเทศ ไปอยู่ ดูไบ เหมียน อาเฮีย ฮาๆ )
แต่ ถึงงั้น ก็น่า จะรู้จัก เอาเยี่ยง อาตั้วเฮียไว้บ้าง


แมร่งมัวแต่ ร้องไห้ คิดแต่จะเค้นน้ำตาปู
มาสู้ น้ำเหนือ อยู่นั่นแหล่ะ
อีแบบนี้ มันเรียกคะแนนสงสาร
จาก ชาวบ้านชาวช่อง ได้ก็จริงอยู่
แต่ ชิ้นงานโชว์ภูมิกึ๋น และ ฟามเก๋า ที่เป็นรูปธรรม จับต้องได้ นี่
มันต้อง มาเร็วเคลมเร็ว และ เริ่มทำ ณ ปัจจุบันขณะ จร้าาา
ขืนมัวแต่มา แนะนำให้ชาวบ้าน ช่วยตัวเอง ไปก่อน
มันก็จะ ได้ใจชาวบ้าน แต่ ไม่ได้ทำให้ประชาชีมันรู้สึกอุ่นใจ ว้อย


แล้วไอ้นโยบายที่ช่วยให้ชาวบ้านอุ่นใจ
ของอีเจ้บัวเกี๋ยงเนี่ย ดูก็ไม่ค่อยจะโดนว่ะ
แถม ความเด็ดขาดชัดเจน อีก็ไม่ค่อยจะมี ซะด้วย
เอะอะ ๆ ก็ ร้องไห้ เรื่อยเปื่อย ทั้งปี ทั้งชาติ
ไม่เห็นจะมีโปรเจคเจ๋ง ๆ แจ่ม ๆ อารัยเยยย
( นอกจาก เอาบิ๊กแบ๊ค มาวางแหม่ะ หั้ยลื้อแทะเล่นน่ะนะ )
'ไม ม่ะลู้จัก เข้าใจชีวิต แบ่บพี่หม่อม ของ อิเจ้ มั่งว้าาาา
ออกทีวี ทีไร ดราม่า กว่าเห็น ๆ 555


และ ถ้าเป็นอาเฮียเหลี่ยม ของอิเจ้ อ่ะนะ
ป่านนี้ คงจะเห็น มาตรการอะไรที่มัน ชัดเจน เด็ดขาด
และเป็น รูปธรรมมากกว่านี้ แย้วววว
แถม คงไม่โดนฝ่ายตรงข้ามคอยขัดขา ให้รำคาญหัวใจด้วย


นี่ยังคิดเล่น ๆ เล๊ยว่า ทักกี้ คิดผิด ว่ะ
ที่เลือก น้องนุชสุดท้อง อย่างแม่ดอกบัวเกี๋ยง มาเป็นนอมินี
แมร่ง ป่านนี้ เฮียคง กุมขมับ
แร้วร้องว่า เค้าเป๋ ชีช้ำอ่า อีน้องคนนี้
ม่ายล่ายดั่งจาย เล๊ยยยย พับเผื่อย ๆ



อืม...จิง ๆถ้าทักกี้เลือก เมียทั่นนายกสมญิ๋ง
มาเป็นร่างทรง น่าจะเวิร์คฝ่า เพราะดู อี เขี้ยวกว่า แยะ
รับรอง พี่หม่อมไม่กล้ามาเกาะแกะ แหง๋ ๆ หุหุ
แล้วถ้าจะให้แหล่มจิง ๆ นะเฟร้ย
นอมินี ที่เข้าท่า สุด ๆ ต้องคนนี้ เฟร้ย




รับรองได้ว่า ถ้า น้องซูสีไทเฮา ของเฮียเหลี่ยม
ได้ขึ้นแท่นเป็นนายกญิ๋ง แทน แม่ดอกบัวเกี๋ยง ล่ะก้อ
She จะสามารถนั่งว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ
แล้ว สั่งน้องน้ำ ให้หันซ้ายหันขวา ได้เหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยว เรยว่ะ
เผลอ ๆ อาจมีใบสั่งให้ เฮียเหลิม เอาบิ๊กแบ๊คยัดปาก พี่หม่อมด้วย
โทษฐาน เสือกดราม่าไม่ลู้จักเวล่ำเวลา
แหม๊ ? นี่ถ้า ทักกี้ ม่ะกลัวโดนครหา
อีคงจะสถาปนา อดีต ภริยา มาเป็น นอมินี ไปแระ อิอิ




แหม ? พูดแร้ว อิเจ้ คิดถึง ตำนานรักกกกกสะท้านทำเนียบ
เมื่อครั้งที่ ทั่นแม้ว ของเจ้ ไม่ยอมจดทะเบียนหย่า ก๊ะเมีย
แต่ยอมสูญเสียตำแหน่ง รัฐมนตรี เพื่อมาจู๋จี๋ก๊ะหญิงอ้อ
เมื่อสมัย สิบกว่าปี ก่อน จังอ่ะ อะโหย โรแมนติกโคตร ๆ
แต่ โลกธรรม 8 มันก็ไม่เที่ยง เยี่ยงนี้ แหล่ะ เนอะ
สิบปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก
มาถึงตอนนี้ อดีตทั่นนายกของเจ้
ก็ปิดฉาก ตำนานรัก อันหวานซึ้ง ก๊ะญิ๋งอ้อ ซะแระ










 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:39:47 น.  

 
 
 
อ้อ จิงดิ เห็น ไอ้ตี๋ มันปลื้มแม่ดอกบัวเกี๋ยง นักหนา
อิเจ้ป่อง เรย หอบ เอา รูปแจ่ม ๆ
ของ พณ.ทั่น ยิ่งเละ ยิ่ง ไหล เอ๊ย ยิ่งลัก
มาฝากเป็นของกำนัล ให้ลื้อ เก็บเอาไว้ดูเล่นจร้าาาา
แบ่บว่า เจ้ ไปเจอ โดยบังเอิญตอนเสิร์ช หารูปปลากรอบ จากอากู๋ อ่า
เห็นแร้ว เข้าท่าดี เรยนึกถึงไอ้โซ๊ยตี๋ อ่ะจ้ะ งิงิ
























-------------------------------------













 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:41:41 น.  

 
 
 
------------------------------------------------------------

เจ้บัวป่องว่า...

สู้ อาตั้วเฮียเหลี่ยม ของเจ้ มิได้
โคลนนิ่งไงความเก๋ามันก็คนละชั้นว่ะ
เข้าตำรา นารีขี่เจ็ทสกี ที่มีแต่วาสนา
ทว่า ขาด อำนาจบารมี อ่ะสงสัย โดนรัศมีพี่ชายกลบ อิอิ
( เจ้ชอบฝีมือการบริหารสไตล์ทักกี้นะ แต่ไม่ศรัทธา ระบอบ ทักษิโณมิก ง่ะ)

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

ไอตี๋ ว่า....
จริงอย่างลื้อว่า ความเก๋าคนละชั้น แล้วลื้อว่าตอนนี้
ทักกี้กำลังทำอะไรอยู่ ถ้าไม่ใช่กำลังปวดกระบาล
กับการแก้ปัญหานี้อยู่ นี่ทั้งบ้านเลขที่111ออกมาช่วย
แล้วมันแก้ได้มั้ยล่ะ เรื่องแบบนี้อำนาจบารมีมันช่วย
อะไรไม่ได้แล้ว มันต้องอาศัยภาพลักษณ์หรือบุคลิกเฉพาะ
ตัวของผู้นำ เรื่องอำนาจมันต้องคิดยาวๆ มันต้องเลือกใช้
ตามสถานะการณ์ พี่ชายพังไม่ใช่เพราะเรื่องใช้อำนาจหรอกหรือ
นี่ถ้าเจ้แกหลงอำนาจแกสั่งใช้พรบฉุกเฉินไป
นานแล้ว และไอ้เว็บไซด์เฟสบุ๊คสลิ่มมันอาจโดนเล่นงาน
โทษฐานทำลายความมั่นคงแห่งรัฐด้วยฮาๆๆ


พูดถึงเรื่องอำนาจความเก๋าของทักกี้ มันก็เหมือนเรื่อง
อ่อนนอกแข็งใน อ่อนในแข็งนอก ทักกี้นี่แหล่ะ...
แข็งนอก และแข็งในสมบูรณ์แบบ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++



อิเจ้ป่องว่า ...
อืม....เจ้ก็เคยแพล่มอยู่บ่อย ๆ นะ
ว่า เจ้ชอบชำแหละ เอ๊ย มองคนแบบแยกส่วน นี่หว่า
เจ้ เองก็ ยอมรับ เรื่อง อำนาจ วาสนา
ภูมิกึ๋น และฟามเก๋า ของ ทักกี้ น้าาาา
แต่ ก็อย่างที่ลื้อ บอกนั่นแหล่ะ
บังเอิญเฮียเหลี่ยมแก ดั๊น เกิดมา เปอร์เฟค มากไปหน่อย
เรย แข็งนอกแข็งในสมบูรณ์แบบ อย่างที่เห็น
จึง ไม่ค่อยจะมีศิลปะ ในการใช้ พระเดชควบคู่ไปกับ พระคุณ เท่าไร


แหม๊ นี่ ถ้า อีมีลีลาพราวพราย
ลื่นได้แบ่บปลาไหล (เหมียน ป๋าเติ้ง ของเจ้)
ป่านฉะนี้ม่ะต้อง ระหกระเห
ไปนั่งแทะ เม็ดก้วยจี๊
อยู่ที่ ดูไบ หรอกเน๊าะ อิอิ


เฮ้อออ แต่ ลื้อ จะเอาอะไร กันนักกันหนา
กับ ผลผลิตจาก โรงเรียนนายร้อยตำรวจว้าาา
สไตล์การบริหารคน แบบตะหาน
กับ ตำรวจ มันเหมือนกันที่ไหนล่ะ

พี่คนนึงเคยเม้าส์ หั้ยฟังว่า

คนเป็น ตะหาน น่ะ
นาย ต้องเลี้ยงลูกน้อง
ส่วน ตำหนวด เนี่ย
ลูกน้อง ต้องเลี้ยงนาย ว่ะ 55555


และ ตำรวจส่วนใหญ่
มันก็ถูกสอนให้คุ้นชินกับการปราบปราม
มากกว่า การปกป้อง นี่หว่า
เรยถนัดแต่การใช้ พระเดช มากกว่า พระคุณ อยู่แร้วนิ
ดังนั้นจะแปลกอะไร ถ้า ทั่นทักกี้ ก๊ะ ทั่นเผ่า ฯ
จะ โขกออกมาจากแม่พิมพ์ เดว กันเป๊ะ ๆ อิอิ









-----------------------------------------------






------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า....

ลื้อสมองกลับตาลปัตรว่ะ สงสัยเสพสื่อเลือกข้างมากไป
อยากบอกลื้อให้ สมัยนี้เขาเลิกเสพสื่อหนังสือพิมพ์แล้ว
จะอ่านข่าวต้องอ่านในเนต เรื่องที่ลื้อเห็นอีตาแก่เชื้อสาย
มอญรามัญ ดีเด่เสียเต็มประดาก็เพราะ มันควบคุมสื่ออยู่
จากที่เราต้องเห็นภาพตาแก่ใส่โสร่งกินหมากปากเปรอะ
จึงเห็นเป็นท่านผู้เฒ่าใส่สุตรทำเป็นผู้ดี
นี่แหล่ะกาขาวขนาดแท้ล่ะ อั้วไม่เห็นมันสง่าตรงไหนเลย
กับการเป็นนายกในประชาธิปไตยแบบสงติงของพวกอี
มันก็คล้ายๆกับพวกขโมยกับพวกขมายเทือกนี้แหล่ะว่ะ


ส่วนเรื่องของป๋าหมัก ความไม่สง่างามมันไม่ใช่ป๋าหมัก
ที่ ชาวบ้านชาวช่องเขาหัวเราะเยาะกัน
เขาไม่ได้หัวเราะป๋าหมัก เขาหัวเราะเยาะตุลาการภิวัฒน์
ลื้อแกล้งไม่เข้าใจหรือไง อยากบอกให้ตอนแดงออกมาประท้วงกัน
อั้วยังเข้าข้างแดงเลย เพราะอั้วไม่ชอบพวกตุลาการภิวัฒน์
มันกำลังทำให้สถาบันยุติธรรมเสื่อมเสีย
ความเท่ไม่เท่มันไม่ได้อยู่ที่ คนถูกกระทำ มันอยู่ที่คนกระทำ




+++++++++++++++++++++++++++++++



อิเจ้ ว่า....



อ้าววว ไง๋มาปรักปรำกันงี้ล่ะ
เจ้ม่ะได้ สมองกลับตาลปัตร ซะหน่อยนิ
ก็แค่มองการเมืองเรื่องตัณหา
ด้วยสายตาของ คนที่ นั่งบนภูดูดราม่า เท่านั้นเอง
เจ้ไม่ได้มีเอี่ยว เกี่ยวข้อง เป็น อานันท์แฟนคลับ ซะหน่อยนิ
ผู้ดีรัตนโกสินทร์ที่แสนจะนุ่มนิ่มกระจุ๋มกระจิ๋ม
ไม่ใช่ สเปคของเจ้ หรอกจร้าาาาาา


เจ้ชอบแบ่บ แมน ๆ เข้ม ๆ
เป็น นักเผด็จการในคราบประชาธิปไตย
ที่ได้ทั้งเงิน ได้ทั้งกล่อง และ ต้องได้ใจ ประชาชน
แบ่บอาเหล่าแปะ ผู้นี้ ตะหากว้อยยย
( เนี่ย ถึงเจ้จาม่ะค่อยชอบผู้ชายตาตี่ แต่เจ้ก็ปลื้มอี ม้าก มว๊ากกกก )





อืม...ก้อ ลื้อทะลึ่ง ถามเจ้เองนิว่า
มีนายกคนไหนลงจากหลังเสือ ได้อย่าง
ปลอดโปร่งโล่งสบายไม่ต้องไปพะวักพะวน
กับ ข้อหาต่างๆหลังจากลงจากตำแหน่ง
เจ้ก็เลย หยิบยกทั่นผู้ดีรัตนโกสินทร์
มาให้ลื้อดูไว้เป็นเคสสตั๊ดดี้ ง่ะ
ว่า ทั่นผู้ดีแปดสาแหรก นี่ไง
วีรบุรุษผู้ลงจากราชรถได้อย่างปลอดภัย
โดยไร้รอยขีดข่วน และไม่กลายเป็น...
เหยื่อการเมืองผู้ถูกกระทำ แบ่บซือแป๋ลื้อ หุหุ


แหม๊ ! ก็ลุงเค้าลู้จักปั่นกระแสแฟชั่นกาขาว
และ เอาสื่อ มาเป็นฐานกำลังในการโปรโมทตัวเองได้
แถม ไม่ต้องเสียเหงื่อ สร้างผลงานสักแอะ นิ
สมแร้ววว ที่เป็น นักการฑูตตัวพ่อ อิอิ.


แต่ถ้า ถึงขนาด ต้องแอบ เคี้ยวหมาก แหย่บ ๆ อยู่ในบ้าน
แบ่บที่ลื้อ เอามานินทา เนี่ย
ก็น่าสงสาร ทั่นปู่ผู้ดีแปดสาแหรก ของเจ้เหมียนกันนะ
เฮ้ออ ติดแหง่กอยู่ในบ่วงและกรงขังแห่งเกียรติยศ
จน ไม่มีโอกาสใช้ชีวิตแบ่บอิสระงี้ คงลำบากน่าดูเลย ว่ะ
อดกินอะไรตามใจอยาก จะขยับปากชิมไปบ่นไป แบบชิล ๆ
เหมียน ทั่นหมัก ของลื้อ ก็ม่ายล่าย 555
นี่แหล่ะ ทุกข์กาละมัง ของ เหล่ากาขาว อิอิ



อืม......ความเท่ไม่เท่ สำหรับเจ้
มันไม่ได้อยู่ที่ คนถูกกระทำ หรือ อยู่ที่คนกระทำว้อย
แต่ มันอยู่ที่ มรึง มีสิทธิ ที่จะเลือก ได้อ๊ะปล่าว
ว่า มรึงจะเป็น ผู้กระทำ หรือ ผู้ ถูกกระทำ
และ สิ่งที่เลือกนั้น มันสร้างประโยชน์ สำหรับตัวมรึง
ในเบื้องต้น เบื้องกลาง และ เบื้องปลาย ได้แค่ไหน ตะหาก



ซือแป๋ลื้อ เลือกที่จะเล่น บทนายกผู้อาภัพ
ที่ถูกอัปเปหิ ออกจากตำแหน่ง เก้าอี้ นายก เอง
หรือ ถูกผู้กำกับ ข่มขืนทางจิตใจ ยัดเยียดหั้ย เล่นบทนี้ล่ะ ?



แร้ว คำวินิจฉัยเรื่อง ทำกับข้าวออกทีวี ของซือแป๋ลื้อ เนี่ย
ลื้อคิดว่า ทั่นเปาฯที่เคารพ ของเจ้
ทั่นอยากจะเล่นบทตลกคาเฟ่
เป็นจำอวดกิ๊บเก๋ ให้ชาวบ้าน มันขบขัน
จนกลายเป็น คดีโจ๊กบรรลือโลก ไหมล่ะ ?
และถ้าเจ้เป็นทั่นเปา แล้วต้องมาตัดสินอะไรแบ๊ว ๆ แบบนี้
เจ้คงต้อง รีบเอาหน้าไปซุกปี๊บ ว่ะ
เพราะเจ้คงจะละอายแก่ใจ
จนมิสามารถจะโผล่หัวออกจากปี๊บ
ไปมองหน้าประชาชีได้ อิอิ








ดังนั้น ใน บทสรุปอันเป็น ปัจฉิมบท แห่งคำพิพากษา
คนที่เจ้ซูฮกที่สุด ม่ะช่าย ผู้ถูกกระทำ
อย่าง ไอ้ฟัก อีสมทรง แอนด์ ป๋าหมัก
หรือ ผู้กระทำ อย่าง ครูหญ่าย กะ ทั่นเปา หรอกนะ
แต่เป็นคนนี้ตะหากจร้าาา
เพราะ เฮียแก ได้ประโยชน์จาก คำพิพากษา แบ่บเต็ม ๆ ฮา ๆ





แหม ? แต่พูด ก็พูดเหอะนะ ไอ้โซ๊ยตี๋
นี่ ถ้า อิเจ้ ไม่เข้า หลวมตัว เข้ามาอยู่วงการนักปฏิบัติ ซะก่อน อ่ะนะ
ป่าน นี้ เจ้ คง รังสรร วรรณกรรมสะท้านสามโลก ได้ แหล่ม ฝ่า เฮียชาติ ว่ะ
เนี่ย เฮีย ชาติ ก็ เฮียชาติเต๊อะ โดนตรูแย่ง ซีไรต์ อะวอร์ด
ไปนอนกอด แน่ๆ เรยเธอว์ เหอ....เหอ........


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:43:33 น.  

 
 
 


--------------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า....
จะบอกให้ว่ะ นายกที่แท้จริงต้องมีความแข็งนอก อ่อนใน
ไม่ใช่อ่อนนอกแข็งใน อดีตนายกหลายคนภายนอกดูดี
เท่ หล่อ สง่า แต่จิตใจมันโหดเหี้ยมว่ะ

ส่วนป๋าหมัก แกแข็งนอกอ่อนใน พูดจาไม่เกรงใจใคร
เพราะแกเป็นผู้ดีเก่าเป็นผู้ดีที่แท้จริง ถึงจะเป็นผู้ดี
ตกยากก็ตาม แกไม่เคยสั่งให้ทหารหรือตำรวจไปทำร้าย
ใคร หนังสือพิมพ์ด่าแกปล่าวๆ คนที่ชอบแกบอก
จะเลิกซื้อเลิกอ่าน แกบอกอย่าทำอย่างนั้น ให้อ่านแต่ใช้
วิจารญาณไปด้วย ตอนแกเป็นนายกพวกแดงจะจัดม้อบ
ชนม้อบแกก็ห้าม ความดีของแกมีเยอะแยะไป เพียงแต่
แกไม่กลัวสื่อ เป็นไม่เบื่อไม้เมากับสื่อ ความดีของท่าน
คนเลยมองไม่เห็น มองเห็นแต่สิ่งที่สื่อมันใส่ไคร่ หยิบยก
เบี่ยงเบนสิ่งดีงามให้เป็นสิ่งเลว

พูดก็พูดเหอะว่า อั้วชักหลงนายกปูแดงแกแล้วว่ะ(ถึงจะไม่
ชอบพี่ก็ตาม) อีตอนน้ำท่วมนี่แหล่ะ โอ้โหดูแกทำงาน
ยิ่งกว่าผู้ชายอีกว่ะ เห็นตอนอีน้ำตาคลอแล้วเห็นใจจริงๆว่ะ
แบบนี้แหล่ะที่เขาเรียก แข็งนอกอ่อนใน รู้จักเห็นอก
เห็นใจคนอื่น ไม่กลัวว่าอีกฝ่ายหยิบไปเป็นประเด็นโจมตี

โฮ! แม่หญิงงามแม่ดอกบัวเกี๋ยงของอั้ว
นี่แหล่ะหนึ่งนารีขี่เจ็ทสกีของแท้



+++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า....
แหม ๆ ...นายกที่แท้จริง
สำหรับ เปอร์เฟคชั่นนิสต์ อย่างอิเจ้นั้น
มันไม่ใช่ มองแบ่บตื้นเขิน และ ผิวเผิน แบบลื้อ อ่า
จะ คนที่มีความแข็งนอก อ่อนใน
หรือ อ่อนนอกแข็งใน
ก็ยังไม่เจ๋ง ถูกใจเจ้ ว้อยยยยยยย


นายกที่แท้จริง มันต้อง
แข็ง ในเรื่องที่ควรแข็ง
อ่อน ในเรื่องที่ควรอ่อน
กะล่อน พอประมาณ
และ รู้จักวิธีจัดการบริหารคน จร้าาาา


เฮ้ออ ลื้อนี่ท่าจะก้มหน้าก้มตา
อ่านแต่ประมวลกฏหมายอาญา
จ้องแต่จะคิดหาเรื่องฟ้องเจ้คดีหมิ่นฯ มากไปมั้ง
เลยไม่รู้ เอาซะเลย ว่า ในโลกนี้น่ะ
มันยังมีอะไรต่อมิอะไรให้เรียนรู้อีกมากมาย
ชีวิตมันไม่ได้มีอยู่แค่ กม.ตราสามดวง นะเฟร้ย ไอ้โซ๊ยตี๋


และชนชั้นอำมาตยา น่ะ
เค้าต้องศึกษาเกี่ยวกับรัฐศาสตร์ เป็นหลักจร้าา
ส่วน นิติศาสตร์ เนี่ย เค้าให้ศึกษาไว้ เป็นไม้ประดับ
เพื่อใช้เป็นลู่ทางในการมองหาประโยชน์
จากช่องว่างของกฏหมาย ว่ะ
ไอ้เรื่องการปฏิบัติตามกฏหมายเนี่ย
ปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของ พลเมืองชนชั้นรากหญ้า เถอะจร้า
เพราะเรื่องแบ่บนี้มันม่ะช่ายหน้าที่
ของ อำมาตยาอย่างพวกเรา
เข้าใจอ๊ะปล่า เจ้าเจ๊กกบฏ เอิ๊ก ๆ



นี่ ๆ ถ้าลื้อ รู้จักเปิดกะลา
มาเสพสื่อหนังสือพิมพ์ เหมือนเจ้ ซะมั่ง
ลื้อ คงจะเข้าใจอะไรต่อมิอะไรในโลกกว้างมากขึ้นน้าาาาาา
เนี่ยถึงอิเจ้ก้มหน้าก้มตาใช้เนต
เสิร์ชแต่เรื่องเกียวกับยา และ กราฟน้องทองม้วน
รวมทั้งชอบแอบไปป่วนเวบธรรมมะเล่นเป็นงานอดิเรก
ไม่เคยโงหัว มาเปิดดูข่าวสารการเมืองในเนตเหมือนลื้อ


ทว่าสื่อหนังสือพิมพ์ในร้านอาหารตามสั่ง
ที่เจ้นั่งอ่านเล่นเป็นประจำ ระหว่างรอสั่งกับข้าว
ก็สอนอะไร ให้ เจ้มากมายนะ


แต่เรื่องที่เจ้ เลือกเสพ จากสื่อเลือกข้างพวกนั้น
มันก็ไม่ใช่ข่าวการเมืองหรอกจร้าาาา
ส่วนใหญ่เจ้อ่านแต่ ข่าวดาราตบกัน
คอลัมภ์หมอนพพร และ เรื่องย่อละครทีวีอ่ะ อิอิ
นาน ๆ ที ไม่มีอะไรให้อ่านแร้วจิง ๆ
เจ้ถึงจะย้อนกลับไปอ่านเรื่องการเมือง ว่ะ 5555


และ สิ่งที่ เจ้ซึมซับมาจาก สื่อเลือกข้างพวกนี้

ก็คือสาระ จาก คอลัมภ์ชักธงรบ ของ กิเลนประลองเชิง
ในหนังสือพิมพ์หัวเขียว ล่ะมั้ง

ลื้อ เคยอ่าน เรื่อง ศาสตร์แห่งการเลือกใช้คน ป่ะ

//www.gotoknow.org/blogs/posts/422327


ถ้ายึดตาม ตำราของ เจียงไท่กง
ลื้อคิดว่า ซือแป๋ลื้อ จะมี ปัญญากระดื้บ ๆ
คืบคลาน ขึ้นไปเป็น แม่ทัพของ คนร้อยคน
ได้ เหมียน ทั่น อานันท์ ไหมเนี่ย ?
อีคงมีวาสนาเป็นได้ แค่ ทัพของ อนุภรรยา
หรือ อย่างมาก ก็คง เป็นได้แค่
แม่ทัพของคนแค่สิบคน เท่านั้นง่ะ งิงิ


โถ ๆๆๆ เป็นได้แค่ แม่ทัพกระจิบกระจอกงี้
ช่างน่าฉงฉาน เสียนี่กระไร
อ่ะ ว่าง ๆ อิเจ้ฝาก หั้ยลื้อ ทวิต ลิ้งค์นี้

//www.arayanewspaper.com/content-"บูเช็คเทียน"ศาสตร์แห่งการแย่งชิงอำนาจและศิลปะแห่งการใช้คน-3-1759-38582-1.html


ไปหั้ย ซือแป๋ ลื้อ อ่านเล่น ๆ นะจ๊ะ
เผื่อว่า ชาติหน้า มีจิง อีจา ได้เอาไปปรับใช้
และ สามารถ ไต่เต้า เป็น แม่ทัพของคน ร้อยคน ได้ซะที อิอิ







อ้อ แร้ว สาระ ในกระดาษฟางเปื้อนหมึกอีกอย่าง
ที่ เจ้ได้เสพจากคอลัมภ์ ของ อีตา กิเลนประลองเชิง
ก็คือ คติสอนใจอันนี้ ว่ะ





ผู้ใดรบชนะข้าศึกได้ด้วยการยุทธ
ผู้คนย่อมสรรเสริญว่าเป็น ผู้เก่งกล้า


ผู้ใดรบชนะข้าศึกได้ด้วยการเจรจา
ผู้คนย่อมสรรเสริญว่าเป็น ผู้ชาญฉลาด


แต่ถ้า ผู้ใดชนะข้าศึกได้ด้วยเล่ห์เพทุบาย
โดยมิต้องออกแรงรบเลย ผู้นั้นแหล่ะ เป็น ยอดคน



อิอิ ถ้าเอา สิ่งนี้ เป็นบรรทัดฐาน
ชี้วัด ฟามเจ๋ง ของ นักการเมืองแร้ว
ซือแป๋ ของลื้อ ก๊ะเฮียเหลี่ยมของเจ้
มันติดแหง่ก อยู่แค่ คำว่า นักรบผู้เยี่ยมยุทธ อ่ะ


ส่วน ทั่นอานันท์ นั้น ในสายตาของเจ้
เค้าเรียก เป็นนักรบผู้ชาญฉลาดจร้าาาา


อ้อ ส่วน ยอดคน
ในสายตาของ อิเจ้น่ะ ต้องคนนี้ว่ะ




แหม ? ที่ถ้าอยู่ในสมัย ของ บูเชคเทียน
ป้าเติ้งของ อิเจ้ ก็คงเบียด ก๊ะ "หลี่จี"
แบบ สูสี เรยว่ะ 5555555

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:44:48 น.  

 
 
 






















-----------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า...

มีเรื่องเล่าให้ฟังว่ะ
สมัยทักกี้เป็นนายก เพื่อนอั้วมันเป็นข้าราชการอยู่
กรมชลฯ มันป่วยเป็นมะเร็งลำไส้ มันจะลาหยุดก็ต่อเมื่อ
มันไม่ไหวจริงๆ จนพ่อมันต้องด่ามันว่า จะตายอยู่แล้ว
จะงกจะขยันไปถึงไหน มันบอกพ่อมันว่า
สมัยนี้ข้าราชการเช้าชามเย็นชาม ถูกทักกี้ไล่ออกหมด
ทนได้ก็ทนเพื่อลูก อยู่บ้านหลวงด้วยสรุปอั้วทั้งชอบทั้งเกลียดทักกี้อี

++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ว่า ...
อืม... สมัยที่ทักกี้ เป็นนายก น่ะนะ
เฮียเหลี่ยม แกไม่ค่อยจะมาเพ่งเล็ง
หรือ ล้วงลูกทำให้คนในโรงบาล
ขุ่นข้องหมองใจ หรอกจร้าาา
ก็อย่างที่ลื้อ เคยบอกนั่นแหล่ะ


คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา
ไม่ค่อยจะมีใครเขากล้ายุ่งด้วยหร็อก
เพราะต้องฝากผีฝากไข้ ด้วย
ขืนทะลึ่งมารังแก พวกคุณหมอทั้งหลาย
เด๋ว ชาวบ้านไม่พอใจขึ้นมา
ฐานเสียงจะหดหายได้ เอิ๊ก ๆ


เฮ้ย ว่าแต่ ไอ้ทั่นเพื่อนที่เป็นมะเร็งลำไส้ ของลื้อเนี่ย
ใช่คนเดียวก๊ะ คนที่ไป ตปท. แร้วเป็นเหตุปัจจัยให้ลื้อ
ต้องมาตั้งกาทู้ ที่ พลังบิด บ่นถึง
เรื่อง ศีล กับ เลี่ยงภาษีนำเข้ายา อ๊ะปล่าว้าาา


แหม ? อ่านที่ลื้อเล่า ถึงชะตากรรมอันรันทดของเพื่อนลื้อ
แร้ว รู้สึกว่า อิเจ้วาสนาดี เจง ๆ เรยอ่า
ที่ ไม่ได้ อาภัพอับโชค ต้องมาเป็นโรคร้าย
และ นั่งทำงานอยู่ในกรมชลฯ เหมือนเพื่อนลื้อ
เฮ้อออ ทำงานเป็น คุณหมออยู่ในห้องยา แบ่บอิเจ้เนี่ย
มันสามารถมานั่ง เช้าชามเย็นชาม ได้ แบ่บชิล ๆ อ่ะจร้าาา




แล้ว ผู้หญิงบอบบาง อย่างเจ้ อ่ะนะ
ไม่ต้องรอ หั้ยป่วยเป็นเป็นมะเร็ง แล้วค่อยลา ด้วยจร้า
แค่ ปวดหัวตัวร้อน เจออะไรนิดอะไรหน่อย เจ้ก็ลา แระ
นึกจะเพลีย เจ้ก็ลา / ขี้เกียจมาทำงาน ก็ลา
ปวดหัวตัวร้อน ก้อ ลา / มีดบาด ก้อลา
หมากัด ก้อ ลา / ปวดแขน ก็ลา
เฮ้ย พูดจิงนะ ที่พูดมานี่ อิเจ้ เคยทำมาหมดแระ อ่ะ
ขนาดจะไปซื้อน้องทองม้วน อิเจ้ ยังหาเรื่องลา เล๊ยยย 555


และพอยื่นใบลาเจ้ก็ไม่เคยจะต้องมานั่ง วิตกจริต
คิดมาก กลัวว่าจะโดนทักกี้ไล่ออก แบ่บเพื่อนลื้อด้วย
อยากลา กรูก้อ ลา แถมบางที ลาฉุกเฉิน ด้วยนะ
แล้วก็ ลาได้ แบ่บ ที่ไม่มีเพื่อนร่วมงานคนไหน
กล้าอ้าปาก มา ครหา นินทาลับหลัง ด้วยว่ะ
น่าอิจฉา อ๊ะปล่าว ชีวิตเจ้น่ะ อิอิ



นี่ ๆ รู้ป่ะ เจ้ ใช้ วิชามาร อารายเอ่ย
ทำไม ถึงสามารถ ลาได้อย่างสบาย ๆ
โดยไม่มีใครกล้ามาบ่นว่า จะเฉลยให้ฟัง ก็ได้
เผื่อว่า ลื้อจะเอา เคล็ด(ไม่)ลับ อันนี้
ไปให้เพื่อนลื้อ ใช้มั่ง หุหุ


ก็แค่ เวลานึกอยากจะลา
อิเจ้ก็ใช้สิทธิ ลาพักผ่อน เอาไง
ถ้าลื้อ อยากลู้ ว่า ไอ้เจ้า ลาพักผ่อน เนี่ย
มันต่างจาก ลากิจ กับ ลาป่วย ไง
ก็ลองไปถามเพื่อนที่เป็นมะเร็งลำไส้ ของลื้อดูดิ อิอิ



ดังนั้น จะ ปวดหัวตัวร้อน
เป็นไข้ไม่สบาย ขนาดไหน
ถ้า อิเจ้ รู้สึกว่า ยังสามารถ
ลากสังขารไปทำงานไหว อยู่ ( แต่ ตรู ขี้เกียจจะไป )
เจ้ก็จะใช้ หลับหูหลับตา ยื่นใบลาพักผ่อน นะ
เพราะเจ้ คิดว่า มุมองเรื่องการ เจ็บไข้ได้ป่วย ของ คนแต่ละคน
มันก็แตกต่างกันไปตามระดับความ ถึกส่วนบุคคล นิ
ถ้า ป่วย แบบนี้ สำหรับบางคน แล้ว เรียก ขี้ประติ๋ว
แต่ กับบางคน กลับบอกว่า มันเป็นเรื่องหญ่ายยย



ดังนั้น เพื่อความสบายใจของตัวเอง และ ผู้อื่น
รวมถึง เพื่อ หลีกเลี่ยงเหตุปัจจัย
ที่จะส่อไปในทางที่จะกินแรง เอาเปรียบเพื่อนร่วมงาน
เจ้จะใช้สิทธิ ลาป่วย ก็ต่อเมื่อ หมอเอ่ยปาก
ขอให้เจ้ลาหยุดเพื่อพักฟื้นร่างกาย
หรือ เมื่อ อิเจ้รู้สึกว่าตัวเองไม่ไหวแล้วจริงๆ
( อาทิเช่น ตอนรถล้ม แขนเดี้ยงจ่ายยาลำบาก
แถมขาก็หมดสภาพต้อง เดินเขยกเป็นอีเป๋ )เท่านั้นอ่ะ




นอกนั้น ถ้า ป่วยกระจุ๋มกระจิ๋ม เจ้ลาพักผ่อนโลด
นี่ พวกพี่ ๆ น้อง ๆ ที่ทำงาน มันยังขำอิเจ้ เล๊ย
ที่เก็บวันลาพักผ่อน ไว้ลาเรื่อยเปื่อย โน่นนี่
โดยที่ ไม่ค่อยจะได้เอาไปใช้ ลาพักผ่อน แบบจิง ๆ จัง ๆ
ประมาณว่า เห็น อิเจ้บีลาพักผ่อน ตะละที
ก็เห็นมีแต่ เรื่อง มีดบาด / หมากัด /
หรือ ไปทำกิจธุระส่วนตัวจิปาถะ ฯลฯ ซะมากกว่า
ขนาด จะไปธนาคาร อิเจ้ ยัง ไปตอน พักเที่ยง
ไม่ก็ ลาพักผ่อนฉุกเฉิน (ครึ่งวัน)
ไปเล๊ยยยย ไอ้ตี๋เอ๊ยยยยยยยย


อ้อ ไอ้ลาพักผ่อน เนี่ย
เจ้หมายถึง ลาตามสิทธิแบ่บธรรดา ๆ
ที่ทุกคนพึงมีปีละ 10 วัน อย่างเท่าเทียมกันนะ
ไม่ใช่ นึกครึ้ม อยากจะไปบวชชี
ก็หาเรื่องใช้ ลาบวช 120 วัน ตามสิทธิที่พึงมีพึงได้ ซะงั้น
อี อย่างนั้น ตรูทำไม่ลงว่ะ
ขืนทำแล้ว มันคงจะตะขิดตะขวงใจ พิกล


พูดก็พูดเหอะ นะ ไอ้เรื่องที่ ทางราชการ
ให้สิทธิการลาบวช 120 วัน นี่
มันเป็นอะไร ที่ ทำให้ อิเจ้ ขบขัน เสมอนะ
มันก็เหมือนกับ การขอใช้เวลาราชการ
ไปเข้าร่วมกิจกรรมปฏิบัติธรรม
ตามโครงการต่าง ๆ นั่นแหล่ะ
นี่ เจ้ยังนึกสงสัย ตะหงิด ๆ อยู่เลยว่า


ขนาดจะไปปฏิบัติธรรม
มันยังต้องไปเบียดบัง เวลาหลวง งี้
แล้ว มันจะ เป็นการสร้างบุญสร้างกุศล ตรงไหนวะ
ถ้าไอ้ตอนที่เรากำลังไปนั่งสมาธิหลับตาพริ้มเพราอยู่นั้น
มันก็รู้อยู่เต็มอกว่า ยังมีเพื่อนร่วมงาน
ต้องมาเหนื่อยยากวิ่งวุ่นทำงานงก ๆ แทนเรา แบบนี้



การปฏิบัติธรรม น่ะ
มันต้องเป็นไป เพื่อ การละ การสละออก
ไม่ใช่ ทำไป เพื่อ มุ่งหวังจะเอาแต่ได้ ฝ่ายเดียว
ถ้า มักง่ายคิดถึงแต่ว่า กรูจะไปปฏิบัติธรรมเพิ่มผลบุญที่ตัวเอง
โดยไม่ดูให้รอบด้านถึงผลกระทบที่ชาวบ้าน เค้าต้องโดนหางเลข
เจ้ว่า อีแบ่บนี้ มันจะได้ มรรคผล ตรงไหนว้าาาาาาาา




ถ้า จะให้มันเกิดเป็น กุศลจริง ๆ
เมิงก็ใช้สิทธิ ลาพักผ่อน 10 วันรวด ไปปฏิบัติธรรม เลยดิ
เพราะ ถ้าทำงั้น ผู้คนเค้าก็จะยอมรับสภาพ
ไม่เกิดปฏิฆะ ต่อกัน เพราะ สิทธิการลาพักผ่อนแบบนี้
ทุกคนมันก็พึงมีพึงได้ เท่าเทียมกัน
( ไงก็ต้องเหนื่อยแทนกัน คนละ 10 วัน อยู่แระ ถือว่า ผลัดกัน )


ไม่ใช่ มาหักคอ เอาคำว่า ไปปฏิบัติธรรม
เพื่อสร้างบุญสร้างกุศล มาอ้าง มา กินแรง
ทำให้คนอื่นต้องมาเหนื่อยทำงานแทน ตัวเอง แบ่บน้ำท่วมปาก
ก็ในสังคมไมย น่ะ ใครล่ะมันจะกล้า
พูดจาขัดศรัทธาคนที่กะลังเดินหน้าเข้าวัด ล่ะ
ขืนทำ ก็โดนประณามไป สามบ้านแปดบ้านจิค๊ะ
( ส่วนใหญ่ ก็ อาศัย แอบด่าในใจ เอาทั้งนั้น อิอิ )



อ้อ และ ต่อให้อิเจ้เป็นมะเร็งลำไส้ แบ่บเพื่อนลื้อ
เจ้ ก็ยัง ยึด คอนเซปต์ เดิมที่ใช้มาตลอดนะ
ว่า กรูจะลาป่วย ก็ต่อเมื่อ กรูทนไม่ไหวแล้วจริง ๆ
แต่ถ้า วันไหนนึกสำอิงสำออย
นึกอยากจะลาก็ใช้ลาพักผ่อน


และเผลอ ๆ ถ้าจำเป็นต้องลาป่วยยาว ๆ
นานเป็นชาติ ( เกิน สามเดือนแปดเดือน )
เจ้จะงด รับ เงินเดือนในส่วนที่เจ้ไม่ได้มาทำงานด้วยซ้ำ
หรือ ถ้า หลวง หยวน ๆ ให้เงินเดือนมา ตามกติกา
เจ้ก็จะ ใช้มันเพื่อ สมนาคุณ ให้เพื่อนร่วมงาน
ที่ต้องมาทำงานงก ๆ เหนื่อยแทนเจ้ ว่ะ
ก็กินแรงพวกมันมานานแร้วนิ อิอิ



เผลอ ๆ ถ้าเจ้เป็นมะเร็งลำไส้ จิง ๆ แบ่บเพื่อนลื้อ อ่ะนะ
รำคาญนัก เจ้ก็จะไม่รักษาเรยด้วยซ้ำ
ด้วยเหตุผลง่าย ๆ สั้น ๆ กรู ขี้เกียจวุ่นวาย !
ก็ในเมื่อ สังขารนี้มันจะเสื่อมสภาพตามเหตุตามปัจจัย แระ
ก็ทิ้ง ๆ มันไปซะดิ ชาตินี้ก็ไม่มีห่วงอะไรมาถ่วง
ให้ต้องเป็นกังวลอยู่แระ นี่หว่า
จะตายวันตายพรุ่ง ก็ได้ ไม่ว่ากัน


ถ้าตายแล้วสูญ ทุกอย่าง ก็จบ เกมส์โอเวอร์
แต่ถ้า ตายแล้วยังไม่ยอมจะสูญ
ก็วนลูป แวะมาเริ่ม นับหนึ่ง
เล่นเกมส์ ตามกฏแห่งกรรม ใหม่อีกหน ก็ได้นิ
ชีวิตนี้ ไม่เห็นจะมีอะไรยากเย็น



อืม...ที่พูดงี้ได้ น่ะ ก็เพราะเจ้มั่นใจว่า
เจ้สะสมปัจจัย แล เสบียงกรัง ต่าง ๆ
ไว้รับมือ กับทุกสถานะการณ์คับขัน
อย่าง ค่อนข้าง จะพร้อมพรั่งบริบูรณ์ดีแล้วเว้ย
จึงไม่หวั่นแม้วันมามาก ยังไงก็เอาไหว 555
( แหม ? นี่ถ้าชาติหน้ามีจิง เจ้ยังกัวว่า
ตัวเองจะได้ไปเกิดเป็น พรหม กินปิติ
เป็น อาหาร อยู่เรยอ่า เอิ๊ก ๆ )



อืม...แต่ถ้าอิเจ้ดวงซรวย
มี ราหุล ทั้งหลาย แหล่
มาผูกมารัดซอกคอจนหน้าเขียว แบบเพื่อนลื้ออ่ะนะ
บางที เจ้อาจจะ ไม่กล้า มาแพล่ม
ถึง โปรเจคมะเร็งลั้ลลา ฉอด ๆ งี้ก็ได้ นะ อิอิ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:47:48 น.  

 
 
 
เออ ขอเม้าส์ ถึง เฮียเหลี่ยมของเจ้ อีจั๊กดอกส์ ดีฝ่า
ก็ทักกี้เค้าบริหารงานสไตล์ เอกชน นี่หว่า
พอมาเจอ สไตล์ เช้าชาม เย็น สองชาม
แบบข้าราชการไทย ก็คงจะหมั่นไส้ และ รับไม่ได้มั้ง
หรือ บางที สมัยยังเป็น นายตำรวจลูกกระจ๊อก
หรือ เป็น เจ้าของบริษัทตัวเล็ก ๆ
เฮียเค้า อาจจะไปเจอเหตุการณ์แย่ ๆ
จนเกิด ปม อะไร ในใจ กับ ข้าราชการ
ที่ไม่ค่อยจะ ดี นัก เรยไม่ปลื้ม ก็ได้นะ
ครั้น พอ ได้ขึ้นมาเป็นหญ่าย เรยได้เวลา เอาคืน เหอ...เหอ....




จะว่าไป เจ้ก็เข้าใจ ทักกี้ อ่ะนะ
เพราะเจ้เอง ก็ หมั่นไส้ (แกมสมเพช )
ระบบข้าราชการแท้แบบไทย ๆ เหมือนกันอ่ะ หุหุ
ไอ้ประเภท ขอให้ได้ตอดเล็กตอดน้อย
หาโอกาสเบียดบังทรัพยากรและเวลาหลวงได้เนี่ย
อะโหยยยย ตรูเจอบ่อยมว๊ากกกกกกกกกกกกก



ทั้ง ซิกแซก ใช้สิทธิ ประกันสังคมของชาวบ้าน
เบิกยาที่ สิทธิข้าราชการของตนเบิกไม่ได้
แถมบางทีก็มี ใช้สิทธิตัวเอง เบิกยาฟรี
ไปทำบุญถวายพระ ด้วยนะเว้ย
( ลื้อว่า ทำงี้ มันจะได้บุญ กี่กิโลขีด ว่ะ เหอะ ๆ )
นี่ยังไม่นับ การขอรถโรงบาล ไปทอดกฐิน ที่ ตจว.
ครั้นพอ ผอ. จะให้เจ้าตัวออกค่าน้ำมันเอง
( เจ้คาดว่า เป็นงานราษฎร์ ไม่ใช่งานหลวง)
อีเก๊าะบ่นออด ๆ ไม่พอใจที่โดนขัดบุญขัดศรัทธา



เฮ้ออ เจ้ก็อยากจะเตือน คนที่ทำ เหมือนกันนะ
แต่ ก็นั่นแหล่ะ ปากเปียกปากแฉะเตือนมาก ๆ
เด๋ว เพื่อนร่วมงาน มันจะอึดอัด จนไมเกรนกำเริบ
( ที่สำคัญ เด๋ว ไม่มีใครคบ เอิ๊ก ๆ )
เรยได้แต่ปลง แล้วต้องปล่อยทุกอย่าง
ให้เป็นไปตามเวรตามกรรม เอ๊ย ตาม ยถาสภาวะ
แบ่บว่า ตัวมัน ของมัน ช่าง แมงมัน ก็แระกัล เอิ๊ก ๆ



อืม....แต่ บ่อยครั้งเจ้นึกครึ้ม ก็ ทำตัวเป็น แบบอย่าง
ให้ พวกมันเห็น เป็นระยะ ๆ เหมือนกันนะ

อาทิเช่น

เจ้ เซ็นชื่อ ลงเวลา มาทำงาน ตามจริง
มาเลท ตรูก็ ลงตามเวลาที่มา
ส่วนมันจะมีผลต่อการ พิณา
ความดีความชอบ ไงเจ้ไม่สน
ทว่า คนอื่น มัน สน ว่ะ
เรยกลายเป็นว่า ตรูก่อกรรม
กระทบคน กระทบโลก
แล้ว ย้อนกลับมา กระทบเรา อีกแระ



รู้ป่ะ ทุกครั้งที่ เจ้ ลงเวลาตามจริง
จะต้องมี ไอ้ปื้ด ใจดีมาแปลงสาร
เปลี่ยนเวลามาทำงาน หั้ย อิเจ้ว่ะ
ด้วยเหตุผลที่ ว่า มันมาสายกว่า เจ้ ง่ะ
เลยต้อง เซ็นชื่อ ต่อจากเจ้
และ ถ้า มันเมคเวลาเฉพาะของมัน
เด๋วจาม่ายเนียนนนนนนนนนนนนน



ครั้ง หนึ่ง เจ้ เคยบังเอิญ ไปเห็น
คุณป้าอาวุโส วัยไกล้เกษียณ คนหนึ่ง
มาเซ็นชื่อ เข้างาน ต่อจากเจ้
แล้ว อิป้า แก มาแก้เวลา มาเข้างานของ เจ้
หน้าตาเฉยเรยว่ะ เห็นแล้วก็อึ้งมาก
เพราะ อิป้าคนนี้ เป็นคนที่ดูน่าเคารพนับถือ
และ ธรรมะธรรมโม มากมาย
จน ไม่น่าเชื่อ ว่า จะทำอะไร ๆ แบ่บนี้ ได้
เล่นเอา เกิดอาการ วิกฤติศรัทธา กำเริบ เรยว่ะ
จู่ ๆ ก็นึก สงสาร อิป้าแก
แบ่บ เดว กับที่ สงสาร อิเจ้วิ่งสู้ฟัด
กับ ไส้เดือนตายแดด เหอะ ๆ




อิอิ เล่า แล้วชักมันส์ว่ะ ขอ อีกสักดอกส์
เนื่องจาก เจ้มาทำงานเลทบ่อยโครต ๆ
( ประมาณ 10 - 15 นาที โดยประมาณ )
อิเจ้ เรยจัดโปรโมชั่น คืนกำไรให้โรงบาล
ด้วยการ มาขึ้นเวรบ่าย เร็วกว่าเวลาปกติ ครึ่ง ชม.
แถมวันไหน ครึ้ม ๆ ก็ นั่งทำงานต่อ โดยไม่ขอลงเวร
ไปพัก หนึ่ง ชม. ด้วย ว่ะ
เจ้ บอกกับชาวบ้าน ขำ ๆ ถึงเหตุปัจจัยที่กระทำ
ประมาณว่า มันเป็นการทดเวลาบาดเจ็บ
และ ใช้หนี้เวรหนี้กรรม สมนาคุณ คืนกำไรหั้ย โรงบาล อ่ะ



รู้ป่ะ พอพูดงั้น ก็มักจะมี
คนบางคนแซวลอย ๆ ขึ้นมาเสมอ ๆ นะ
ว่า ถ้างั้น ถ้าใคร มาเช้าก่อนเวลา
ก็ สามารถลงก่อน เวลา ได้สิ

แมร่ง ฟังแร้ว คันปากตะหงิด ๆ
เรย สวนมันไป ประมาณ ว่า

ใครอยากทำอะไร ก็ทำไปดิ ตามสบาย
ของแบบนี้ กรรมใครกรรมมัน อ่ะ
พี่ไม่ยุ่งกับ กรรมของคนอื่น
พี่สนใจ เฉพาะ กรรมของตัวเอง



ขนาดพูดงี้ แล้ว ไอ้เจ้าคนที่พูด มั๊นก็ยังไม่ สำเหนียก วุ้ย
หลัง ๆ มา ก็ยังอุส่า เอา เรื่องนี้ มาแพล่มเป็น ประเด็น อี๊ก
เจ้ เลยได้แต่ นิ่งเงียบ พยามปลง ๆ
แต่ ก็แอบเซ็งจิต ( และขุ่น ตะหงิด ๆ )
ทว่า ก็ไม่ได้คิดจะจิกทึ้ง ทำสงครามน้ำลาย อะไรด้วยหรอกนะ
ถึงจะไม่ใช่ นักวิเคราะห์ เหมือนลื้อ
แต่ เจ้ก็พอจะเชี่ยว เรื่องการ มองเห็น
รากเหง้าของการกระทำ นะ


สำหรับเจ้ ไอ้น้องคนนี้ มันน่าสงสารนะ
มันก็แค่ กำลังโดน หิริโอตัปปะ มาทิ่มแทง
เลย เกิดอาการ ละอาย และ ตะขิดตะขวงใจนิด ๆ
แต่ก็ อ่อนแอเกินกว่า แสดงความรับผิดชอบ
กับ การก่อกรรม ที่เคยทำไว้ น่ะ
( ไอ้น้องคนนี้ มันมีชนักติดหลัง เรื่องชอบแว่บ
เวลาขึ้นเวรบ่าย จนโดน พยาบาลบ่น น่ะ )
มันจึง พยามถามอะไรแบบนี้ ออกมา
เพื่อ เยียวยา รักษา อัตตา ตัวเอง ให้รู้สึกดีขึ้น มั้ง
เพราะงี้ไง อิเจ้ เรย ละเว้น โทษตาย
ไม่กระโดดเข้าขย้ำคอคอยมันง่ะ งิงิ



อ้อ แต่ ลื้ออ่านที่ เจ้ แพล่ม แร้ว
ลื้อ ไม่ต้องทะลึ่งมาพร่ำเพ้อ
ว่า อิเจ้ป่อง เป็น นางฟ้าผู้อารี
แบ่บ แม่ดอกบัวเกี๋ยง ของลื้อ นะว้อยยยยย
เพราะ สโลแกนที่อิเจ้ มักจะประกาศเหย็ง ๆ
ให้เพื่อนร่วมงาน ฟังเสมอ จะเป็น ประมาณนี้อ่า


" พวกเมิง จะทำ อะไร ก็ ทำไปเหอะ ตามฉะบาย
แต่ อย่าทะลึ่ง หั้ย มาเดือดร้อนกรู ! "



และ


" กรูจะช่วยเหลือเรื่องการงานของชาวบ้าน
ก็ต่อเมื่อ รู้สึกว่าหาก กรูไม่ช่วย
เด๋วกรูก้อจะพลอยซรวย
เดือดร้อน ไปกับมันด้วย
เพราะ ขว้างงูไม่พ้นคอ ฮา ๆ"



ด้วยเหตุนี้ เวลา มีปัญหาแก้ไม่ตก ในห้องยา
ลูกน้อง ที่ทำงานด้วยทั้งหลาย
มันก็มักจะชะเง้อ คอ รอคอยเวลา
ว่า เมื่อ ไร ลูกพี่กรู ถึงจะรู้สึกว่า
ขว้างงูไม่พันคอ จน ตัวเองต้องเดือดร้อน
แร้ว ยอม กระโดดเข้ามาคลุกวงใน ซ้าที



เฮ่ย นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ลู้งี้เแร้ว
ลื้อ ยังจะ อุส่าห์ ยก ตำแหน่ง ลูกพี่
หั้ย อิตั้วเจ้ อ๊ะปล่าวเนี่ย
บอกไว้ก่อนนะเว้ย เวลา มีเรื่องมีราวขึ้นมา
อิเจ้ พร้อมจะถีบส่ง หั้ย ทั่นลูกน้อง
ไปซรวยแทนได้เสมอ นะจ๊ะไอ้ประเภท
หวังจะอิงแอบหั้ย เจ้ คอย กางปีก ปกป้อง เป็น แม่ไก่ เนี่ย
บอกได้คำเดว เสียใจนะจ๊ะ ขืนทำแบ่บนี้
มัน ผิดคอนเซปต์ อิเจ้ ว่ะ ฮา ๆ











 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:49:16 น.  

 
 
 
-------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ ว่า...
นอกเรื่องหน่อยเจ้ว่าระหว่าง มหาเถระสมาคมกับพระเกษม
เจ้ว่าใครเป็นหงษ์ ใครเป็นกา หรือใครเป็นกาดำ ใครเป็น
กาขาว ติ๊กต๊อกๆๆๆ อย่าตอบตรงๆ อ้อมบ้างก็ได้


---------------------------------------------------


อิเจ้ ว่า....
แหม ? รีบ ดักคอ เชียววุ้ย
แต่เจ้ ก็ ไม่คิดจะตอบ อ้อม ๆ หรอกนะ
เจ้ขอ ตอบตรง ๆ ตาม สมมุติบัญัติ ที่เจ้ สร้างขึ้นมา ว่า
หงษ์ น่ะ คือเถรสมาคม
ส่วน พระเกษม นี่ ไม่ใช่ทั้งกาขาวกาดำ และ กาเหว่า อ่ะ
แต่เป็น นกตัวนี้มั้ง 5555555




ว้าาาาา จะเที่ยงคืนแร้วง่ะ
นอนดึก ๆ ดื่น ๆ เจ้กัว ขอบตาคล้ำเป็นหมีแพนด้า
งั้นเด๋ว ค่อยมาเม้าส์เรื่องนี้ต่อ
ตอนโพสทิ้งทวนก็แระกัน
ว่า ทำไมเจ้ถึงเห็น ทั่นเป็นเช่นนั้น อิอิ

+++++++++++++++++++++

เรียกเขา ว่า อีแร้ง





//1.bp.blogspot.com/_m93O6jGV3Bo/Spgz6KyiwNI/AAAAAAAAAFI/QJysYgDZGw4/s400/VulturesPA_468x447.jpg



อ้อ อันนี้ แถมจร้าาา

ต่างมุม หลวงพ่อ เกษม อาจิณณสีโล
//www.pitbullzone.com/community/discussion/25144/ต่างมุม-หลวงพ่อ-เกษม-อาจิณณสีโล/p1


คุณเห็นด้วยกับการกระทำของพระเกษม อาจิณณสีโล เจ้าอาวาสสำนักสงฆ์สามแยก อ.น้ำหนาว จ.เพชรบูรณ์ หรือไม่หลังมีคลิปฉาวออกมา

//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/09/Y11128828/Y11128828.html




......... ศาลยกฟ้อง'พระเกษม'หมิ่นศาสนาตบหน้าพุทธรูป .........
//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2010/02/Y8902654/Y8902654.html



.:: ขอความเป็นธรรม ให้กับพระเกษมครับ?? ::.{แตกประเด็นจาก Y11089610}
//topicstock.pantip.com/religious/topicstock/2011/09/Y11090504/Y11090504.html




อิเจ้ ว่า...

เอาล่ะ ในวาระดิถีที่ อิเจ้ มาโพสทิ้งทวนในคืนนี้
คงถึงเวลาที่ เจ้ จะมา ปาฐกถา ซะที ล่ะมั้ง
ว่า ' ไม อิเจ้ ถึงเห็น เถรสมาคม เป็น หงส์
และ พระเกษมของลื้อ เป็น นกอิแร้ง
แทนที่จะเป็น กาเหว่า กาขาว กาดำ ? เอิ๊ก ๆ


อืม...ที่ อิเจ้เห็น เถรสมาคม เป็น หงส์
นี่ไม่ได้หมายถึง หงส์ ตัวนี้ นะ




แต่ พวกอีเหมือน นางพญาหงส์หลอน
ใน หนังเรื่องนี้ ตะหากจร้าาา เหอ ๆ


"I Just want to be perfect"









//www.youtube.com/watch?v=5jaI1XOB-bs


นางหงส์ขาวผู้เลอโฉม ที่แสวงหาความสมบูรณ์แบบ
ของการแสดงตามอย่างนักบัลเล่ต์รุ่นพี่
กระทั่งร่างหงส์ดำในวิญญาณซ้อนของเธอ
ได้หลุดออกมากรีดกรายยั่วยวนคนดูให้ ตะลึงทั้งโรง


ที่มา


แบล็ค สวอน ความสมดุลระหว่างขาว-ดำ

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=a-bellamy&month=18-11-2011&group=1&gblog=12


Black Swan : เมื่อความมืดกำลังครอบงำคุณ
//blog.bugnoms.com/lifestyle/black-swan-เมื่อความมืดกำลังครอ/

รีวิวหนัง:BLACK SWAN
//loylalonglenlom.exteen.com/20110313/black-swan


"นาตาลี พอร์ตแมน" ใน "Black Swan" ตามหลอนถึงเวทีออสการ์ !!!
//www.oknation.net/blog/Mynews/2011/02/28/entry-1


อิอิ ลื้อก็ตามไปอ่านตามลิ้งค์ พวกนี้เอาเอง แระ กัน
ชาวบ้าน เค้า เขียนไว้ แหล่ม ดี แระ
อิเจ้ เรย ก๊อป ๆ ลอก ๆ ชาวบ้าน มาง่ะ
จะได้ ไม่ต้อง จิ้มดีดเยอะแยะ อ่ะ ( มี ' ไรป่ะ เอิ๊ก ๆ )


อืม...ที่ อิเจ้ มอง เถรสมาคม
เป็น เหมือน อินางพญาหงส์หลอน ( อินีน่า )
ก็เพราะ อีทั้งหลอน และ หลอกตัวเอง ได้เนียนดีมั้ง
โดย เฉพาะ คำพูดที่มีคน วิจารณ์ ไว้ว่า

---------------------------------------------
นีน่ามีแผลที่หลัง จากการที่เธอเกา
และทำร้ายตัวเองจากอาการป่วย (จิตเภท)
ทำให้เธอต้องตัดเล็บให้สั้น
(บางทีตัดลึกไปถึงเนื้อ ToT)
เพื่อป้องกันไม่ให้เกาจนเป็นรอย
รวมถึงการใส่เสื้อปิดหลังตลอดเวลา....


กรรไกร, ตะไบตัดเล็บ ทำหน้าที่ตัดและขัดให้เล็บหมดความคม
แต่ที่แท้จริงแล้ว การตัดและตะไบเล็บ มันคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ
เพราะสิ่งที่เธอต้องแก้ มันไม่ใช่ สิ่งที่ทำให้เกิดแผล
แต่คือ นิสัยที่ทำให้เกิดแผล ซึ่งก็คือโรคจิตเภท ที่เธอกำลังเป็นอยู่

นีน่า อาจจะเปรียบเสมือน ตัวแทนของคนที่ไม่เคยยอมรับ
ถึงความผิดปกติของตัวเองพยายามกดดัน เก็บมันเอาไว้
และท้ายที่สุด มันก็ต้อง ระเบิดออกมา...

------------------------------------------------------------------------

โดย เฉพาะ ย่อหน้าสุดท้าย อ่ะนะ หูยยยย อ่านแร้ว ใช่เรย ว่ะค่ะ
ถ้า น้องนาตาลี ของเจ้ คือ นางพญาหงส์หลอน ฉบับออสการ์
เถรสมาคม ของลื้อ ก็เป็น นางพญาหงส์หลอน ฉบับอรหันต์ ล่ะมั้ง อิอิ
แต่ลื้อ ดูละคร แล้ว ก็อย่าลืมย้อนดูตัวเองด้วยนะ
จะได้สำเหนียกเหมือน ที่นักวิจารณ์มันบอกไว้เสมอ ประมาณว่าว่า

แท้ที่จริงแล้ว โลกสีขาว และ สีดำ มันก็ไม่ได้มีอยู่จริง....





อนึ่ง และ ถ้า เถรสมาคม
เป็น ถึง นางพญาหงส์หลอนระดับ อรหันต์ งี้
แน่นอน พระเกษม ของลื้อ
ก็คงไม่ใช่ นกอีแร้งโนเนม แน่นอน


อืม...นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ลื้อ ลู้จัก นกอีแร้งหัวขบถ ตัวนี้อ่ะปล่าว

"ลุดวิก ฟอน วูล์ฟแกง" อีแร้งที่ไม่ยอมกินศพ



ตัวเอกของเรื่องคือ "ลุดวิก" มันเป็นอีแร้ง
ที่เกิดมาพร้อมกับความอยากที่จะอ่านหนังสือให้ออก
ถึงแม้จะเป็นเรื่องยากเย็นแสนเข็ญอย่างไรที่อีแร้งจะอ่านหนังสือได้
แต่ลุดวิกก็พยายามจนกระทั่งมันสามารถอ่านหนังสือออก
การแสวงหาของมันจึงเป็นการ "อ่าน" ทุกอย่างที่ขวางหน้า
ไม่ว่าจะเป็นป้ายที่ไห ขวด โหล และกล่องต่างๆ

จุด เปลี่ยนของมันเกิดขึ้นจากการที่
มันไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งที่ตกอยู่ข้างๆ ศพของหญิงแก่
ที่นอนเน่าเหม็นฉึ่งอยู่กลางป่า

ในขณะที่อีแร้งตัวอื่นรุมทึ้งร่างศพหญิงแก่รายนั้นอยู่
ลุดวิกได้พบหนังสือเล่มหนึ่งตกอยู่ข้างๆ ศพ
ชื่อว่า "กินมีสุขภาพ ทำให้มีสุขภาพ" (555)
หลังจากนั้นมันจึงเลิกกินศพ
ทั้งพ่อ แม่ เพื่อนฝูง ต่างแสดงอาการไม่พอใจต่อตัวมัน
ที่เป็นอีแร้งแต่กลับไม่ยอมกินศพ

จนกระทั่งมีการไต่สวนเอาผิดกับมันในสภาดาราอีแร้ง
ซึ่งทำให้มันถูกประจานเยาะเย้ยถากถาง
แต่สิ่งที่มันพอจะบอกกับทุกคนได้ก็เพียง
"ฉันรู้วิธีที่จะเปลี่ยนอีแร้ง ให้เป็นนกอินทรี เป็นบี 52
และเชื่อฉันเถอะ ท่านจะไปได้ไกล
ด้วยน้ำมันเครื่องบินไฮออกเทนมากกว่าด้วยซากศพ"
รวมถึงคำพูดเท่ๆ ที่มันจำมาจากหนังสือที่ว่า
"You are what you eat" (กินอะไรก็เป็นอย่างนั้น 555)



ที่มา:
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=easywandering&month=06-2011&date=25&group=18&gblog=6




เฮ้อออ ในสายตาของ อิเจ้
พระเกษม ของลื้อ
มันก็เหมือน ไอ้เจ้า ลุดวิก ล่ะมั้ง
ส่วน อิเจ้ น่ะ เหมือน เต่า ตัวนี้ ว่ะ อิอิ


เต่าทะเลที่ไม่พอใจที่จะว่ายต้านกระแสน้ำในทะเล โดยพอใจที่จะลอยนิ่งๆ



อืม...ลื้อรู้ไหม ใครคนหนึ่งเคย บอก ไว้ว่า

ไม่ว่าจะเป็น นกนางนวล นกอีแร้ง เต่าทะเล
ผู้เป็นขบถ ย่อมกลายเป็นผู้แปลกแยกจากสังคม
สังคมย่อมมองเป็นตัวประหลาด
สัตว์โลก จึงเป็นไปตามกรรม จริงๆ นะเออ ฮาๆเอิ๊กๆ

//www.gotoknow.org/journals/entries/16978


ดังนั้นลื้อ ก็ จับ ฉลากเลือก
หรือ ใช้ วิปัสนึก ตรึกเอาเอง ก็แระกัล
ว่า ลื้ออยากเป็น นกนางนวล นกอีแร้ง เต่าทะเล
หรือว่าจะ ดักดานเป็นแค่ ไอ้ลูกหมาพิทบูลจอมโหด อิอิ





เฮ่ย แต่จะว่าไป ก็น่าขำแฮะ
ตอนที่เห็นลื้อ ไปตบตีเหย็ง ๆ ก๊ะชาวบ้าน
ที่ลานธรรมจก เกี่ยวกับเรื่องของพระรูปนี้อิเจ้ ยังคันปากยิก ๆ
ว่า จะหาเรื่อง ชวนลื้อมาเม้าส์ มาแร่พมาฉ่อยเรื่องนี้ด้วยกันเล๊ยยย
แต่ยังไม่ทันจะได้เอ่ยปาก ไอ้ตี๋ปากมาก ก้อดั๊นปุจฉา กระทู้ถามมาซะก่อน
แหม๊? มันช่างแสนรู้หูกระดิก เอ๊ย ช่างรู้อกรู้ใจ อิเจ้จิง ๆ เรยวุ้ย
เจ้าลูกหมาพิทบูลตัวนี้ คริก ๆ



เฮ้อออ จำได้ว่า รู้จักพระรูปนี้ ครั้งแรก
ก็ตอน ที่ ทั่น รณรงค์ เรื่องนี้มั้ง




ฟังจากข่าแร้วก็หัวเราะก้าก เรยนะนั่น
ที่ ทั่นกวนซ่งติง ทำให้ บรรดาแถละวาด ดิ้นเร่า ๆ
เป็นไส้เดือนเจอขี้เถ้าได้


ครั้น ไปคุ้ยเจอ หนังสือ คู่มืออุทิศบุญที่ได้ผล
ที่ป๊ะป๋าหมาน สะสมไว้ข้าง ๆ เตียง มานั่งอ่าน ก็ยิ่ง ขำกลิ้ง
อะโหย ยังก๊ะ นั่ง อ่านขายหัวเราะเรยมั้ง
หูย มีทั้ง เบิกบุญ โอนบุญ ติดสินบนเจ้ากรรมนายเวร
แล ปะเหลาะเทวดาอารักษ์ ตลอดจนอุทิศส่วนบุญ
ให้กับจุลทรีย์แลคโตบาซิลัส ในยาคูล ฯลฯ เอิ๊ก ๆ

//www.samyaek.com/board2/index.php?topic=1941.0




อืม...อิเจ้ก็ไม่ได้ดูหมิ่นดูแคลน อะไร ทั่นหรอกนะ
แต่เจ้มองหนังสือเล่มนั้น ด้วยอารมณ์ขันพิเรนทร์ตามประสาอิเจ้ ว่ะ
ก็ตามประสาพวกชอบ โลกุตร มากว่า โลกียะ นั่นแหล่ะ
เรยรู้สึกว่า อ่านแร้วเหมียนเจอ ลิเกทรงเครื่อง
แต่มันก็เหมาะกับสังคมพุทธแท้แบบไทย ๆ ดีนะ


อย่างน้อยก็เป็น แคมเปญ ที่สูสี ก๊ะ สร้อยส้มตำแหวนไก่ย่าง นะ
แต่ คลาสิก และ ดูดี มีชาติตระกูล กว่า เล็กน้อย
เพราะของวัดสามแยก ทั่นไม่เน้น รับปัจจัยเป็น กะตังค์
และไม่เน้น เรื่องการดาวน์บุญแบบผ่อนส่งเหมือนแถววัดจานบิน อิอิ





เนี่ย ตอนมีข่าวฮือฮา เรื่องคลิปอยากดังหรืออยากดับ ทางเนต
อิเจ้ ก็ไม่ได้สังเกต หรือ ใส่ใจจะไปควานหามาเปิดดู อะไรหร็อก
แร้วมาเห็นคลิปนี้ แบ่บเต็ม ๆ ตา
ก็ ตอนอาเฮียสรยุทธ เอา มาปูด ออกทีวี หั้ยดูง่ะ
จำได้ว่า แว่บครั้งแรก ที่เห็นอ่ะนะ



เจ้รู้สึก ทั้ง ขัดหูขัดตา หมั่นไส้ ขำ แกม รำคาญ
และ นึกเอ็นดู อิพระรูปนี้ว่ะ
เหอะ ๆ ก็ไม่ได้ไปนึกเพ่งโทษโกรธเคือง
คิดจาเอาเรื่องเอาราวอะไร กับคนในผ้าเหลือง
เหมือน บรรดา เหล่า พุทธมามกะจ๋า หร็อก
เพราะอิเจ้ ม่ะช่าย พวก องครักษ์ พิทักษ์พวกแถละวาด นิหว่า
ต่อหั้ย พระอรหันต์ต้องอาบัติปราชิก ถูกจับสึกหมดทั้งโลก
ก็ช่างหัวมันสิค๊ะ เกี่ยวอารายก๊ะกรูฟระ
ทำไมกรูต้องไปเกิดทุกขังกะละมัง ก๊ะเรื่องของมันล่ะคะ เอิ๊ก ๆ



แต่บังเอิญว่า อิเจ้มักจะเอ็นดู
สมณะที่ออกแนว หงิ๋ม ๆ ติ๋ม ๆ

สงบเงี่ยมเจียมตัว มีวัตรปฏิบัติที่สำรวม และ สมบูรณ์แบบ
ตามกฏมณเฑียรบาลของ เพศ บรรพชิต น่ะ
( อาทิเช่น ทั่นติชน์ ก๊ะ ทั่นปัญญานันทะ อิอิ )


ครั้นพอมาเจอพระที่มาทำเก๊ก ทำกร่าง
แอ๊คท่า กระโดกกระเดก เป็น ม้าดีดกระโหลก เนี่ย
เจ้ก็เรย ไม่ค่อยจะถูกชะตา แร้ว พาลเหม็นขี้หน้ามั้ง
ออกแนว หมั่นไส้ และ ขบขัน แกม รำคาญ น่ะ
ถึงแม้จะเข้าใจใน สาร หลาย ๆ เรื่อง
ที่ ทั่นพยามจะ สื่อออกมาเตือนชาวบ้าน ก็ตาม
ทั้งเรื่อง พุทธพาณิชย์ ที่ทำกันเอิกเกริก
จนปล่อยให้ พระพุทธรูป มาบังพระพุทธเจ้า


แต่ไงล่ะ ลื้อเคยเป็นป่ะ อารมณ์ ประมาณ
" เข้าใจ แต่ หมั่นไส้ " ง่ะ
นี่ ๆ ลื้อ เคยถูกพระ บางรูป
พยามจะ ทดสอบอารมณ์ ให้
โดยที่เราไม่ได้ร้องขอ
แล้วเราก้อดัน เสือกทะลึ่ง อ่านเกมส์ ทั่น ออก ไหมล่ะ



แหม๊ ? เจอ แคสติ้ง แบ่บนี้ทีไร
บอกตรง ๆ เลยว่ะ ว่า ตรูเบื่อฮ่ะ
ยังคิดในใจเรยว่า ทั่นจามา แอ๊คท่า ถลกจีวร ผรุสวาจา
เรียกร้องฟามสนใจ หามรรคผลนิพพาน อะไรก๊ะ กรู นักหนาว้าาาาา ขำว่ะ


บอกตรง ๆ เรย เวลาเจอพระประเภทเนี้ย อ่ะนะ
เจ้ล่ะชอบ แกล้งเนียน เต้นไปตามสคริปต์
แร้วแทงสวน ด้วยการตลบหลัง
ลองของ ทดสอบอารมณ์ ฝ่ายตรงข้าม
จากนั้น เก๊าะ หาเรื่องปั่นจิ้งหรีด เล่น ๆ
ให้อีกฝ่าย หัวหมุนติ้วเป็นลูกข่าง น่ะ หนุกดี อิอิ



อืม...แต่เจ้ ก็เข้าใจน้าาาาาาาา
ว่า ที่พระเกษมทั่น ทำไปนั้น
มัน เกิดจาก ฟามปาดถะหนาดี
แต่ วิถีทางที่ทั่นแสดงออก นั้น
มันออกตัว แรงส์ เกินไป ว่ะ
จัดหนัก จัดเต็ม สไตล์ เดียวกับ ซือแป๋ลื้อ งี้
มีหวัง เด๋วได้ถูกจับขึ้นเขียง
แล้วโดนพวกแถละวาด สำเร็จโทษ
ด้วยการเอาคำว่า โลกวัชชะ ยัดปากแหง๋ ๆ เอิ๊ก ๆ


ขำ ๆ นะ เจ้ล่ะ หัวเราะ ก้าก จนพุงกระเพื่อมเรยมั้ง
ตอนที่ พระเกษมทั่น จัดหนัก ยกใบลานทั้ง 3 ตะกร้า
มาอธิบายฉอด ๆ หั้ย ทั่นผู้ว่า ฟังอ่ะ
คิดๆ แร้ว ก็สงสาร ผู้ว่า ทั่นนะ

เห็นนั่งทำหน้าปูเลี่ยน ๆ เจี๋ยมเจี้ยม พิก๊ล 555


อ้อ แล้วก็ยังมี ตอนที่ พระเกษม
ไม่ยอมออกมาพบกับเจ้าหน้าที่
โดยอ้างว่าฝ่ายกฎหมายแนะนำ
ให้กรรมการวัด เป็นผู้รับเอกสารต่างๆ แทนได้
แถม ยัง บอกผ่านทางวิทยุ อีกว่า
การที่เจ้าหน้าที่นำกำลังมา
ก็เพื่อต้องการที่จะจับไปทำการสึก
( ขืนออกไปเอง อาตมาก็โดนจับสึกสิวะคัฟ)

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:52:42 น.  

 
 
 
เจอข่าวนี้ครั้งแรก หัวเราะจนสำลัก เรยว่ะ
ยังคิด ในใจ เลยนะ ประมาณว่า
แมร่ง พระ5 อะไรฟระ
นอกจากจะแม่นในปริยัติ แร้ว
ยังทั้งหัวหมอฯ ทั้ง เป็น นกรู้ อีกตะหาก
( คล้าย ๆ คนบางคนแถวนี้ เรยเน๊าะ เอิ๊ก ๆ )




อืม...ทั้งหมดนี้ คือ มุมมองของ อิเจ้ ที่มีต่อ พระเกษม นะ
ว่าแต่ ลื้ออยากฟัง มุมมองที่ อิเจ้ มี ต่อ
หลวงตา เจ้าของฉายา อรหันต์เจ้าน้ำตา ไหมล่ะ
ไว้ ครึ้ม ๆ อิเจ้ จะมา แร่พมาฉ่อยให้ฟัง อิอิ




อืม...แต่พูด ก็พูดเหอะนะ
ครายก็มิลู้ ทำมาเป็นบอกอิเจ้ว่า

อีเจ้เรื่องของท่านหมัก
ลื้อมีปัญหาตรงไหน ถามมาเป็นข้อๆ
อั้วจะตอบลื้อทุกประเด็น



แต่พอ อิเจ้ ถามมันในประเด็นนี้


คน ๆ นี้ไม่ใช่พระครับ เชื่อผม




มันกลับ ไม่รู้ ไม่ชี้ บอกว่า

อิเจ๊เอ๋ย อั้วเลือกตอบแต่ในสิ่งที่อั้วตอบได้
แต่เรื่องที่ลื้อไปลอกหนังสือพิมพ์มา อั้วตอบไปไม่ได้ว่ะ
แล้วอั้วว่าป๋าหมักแกก็คงตอบไม่ได้ ฮาๆๆๆๆ
ยิ่งเป็นไทยโพส เนชั่น ผู้จัดกวนนี้อัวขอผ่านฮาๆๆๆ



งั้น ถ้า อิเจ้บอกว่า เจ้ไม่ได้ไปก๊อปหนังสือพิมพ์มา
แต่ อิเจ้ไปเจอมาจาก เวบนี้ล่ะ

//th.wikiquote.org/wiki/สมัคร_สุนทรเวช


ว่าแต่ คราวนี้ ลื้อจะ เคลียร์ ให้ ซือแป๋ลื้อไงมิทราบ
อืม...ถ้าลำบากใจที่จะพูดนัก
ก็ไม่ต้องตอบคำถามนี้ ก็ได้จร้าาาา
เจ้ ก็ ถามทิ้งถามขว้างไปงั้นแหล่ะ
เผื่อ ฟลุ๊ค จะได้มี หลักฐาน เก็บไว้ใช้
ดิสเครดิต หั้ยคนบางคน แผ่พังพาบ
คาเวบลานธรรมจก ง่ะ เอิ๊ก ๆ


และ ถ้า พระเกษม ทำให้อิเจ้ รู้สึก ขัดหูขัดตา
หมั่นไส้ ขำ แกม รำคาญ และ นึกเอ็นดู แร้ว
กับ หลวงตารูปนี้ อิเจ้ก็ คง รู้สึก สงสาร แกมเอ็นดู ล่ะมั้ง
ถ้า ท่าน กล้าที่จะลุกขึ้นมา ตบปาก ลูกศิษย์ขี้โอ่ ของตัวเอง
แบบที่ลื้อ คันมือ อยากจะทำแทน
บางที ชีวิตทั่นก็ไม่ต้องมานั่งหลั่งน้ำตา
ให้ ชาวประชาเกิดข้อกังขา หรอกเนอะ


อืม...แล้วก็ชอบ คำพูดของลื้อที่เคย ไปเห่า แว้ด ๆ
บอกชาวบ้านชาวช่องที่ ลานธรรมจก ด้วยนะ
ที่ ลื้อ เปรย ๆ อย่าง สงสัย (?) ประมาณว่า
การได้ไปกราบไหว้พระอริยเจ้า เนี่ย
มันจะทำให้ คนไหว้ ได้เป็น อรหันต์
ตาม ท่านไปด้วย หรือไงฟระ ฯ

หูย ไอ้โซ๊ยตี๋ เอ๋ย พูดได้ตรงใจ อิเจ้ เป๊ะเรยว่ะ 55555
ว่าแต่ ลื้อคิดว่า หากพระอรหันต์ สักองค์
ทั่นมีน้ำตาไหลพราก ๆ ออกมาเนี่ย
มันจะ ผิดกฏมณเฑียรบาลของการเป็นอรหันต์ อ๊ะปล่าวว้าาาาา
และ ถ้า อิเจ้ บอกว่า พระอรหันต์ นั้น
ทั่นก็ มีบางเวลา ที่ น้ำตาร่วง ออกมาได้
( โดยมิใช่ เหตุ เพราะ ธรรมสังเวช ล่ะ)
ลื้อ จะเถียงอิเจ้หัวชนฝาไหมเนี่ย อ่ะซิก ๆ





 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:54:17 น.  

 
 
 




file.giggog.com/health/pictures/2011-07/14/10-14-58-1586717452.gif>



ไอ้ตี๋ ว่า...

เจ็รู้หรือเปล่าว่า อินังไพร่ปงซานหรือนางทาสทงอีเนี้ย
มันเป็นเสด็จย่าทวดของ อาลีซานแห่งโชซอนน่ะ
อากึ้มมันเป็นปู่ของลีซาน

หนังมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ เนื้อหาเรื่องหนึ่งอาจเป็นคนดี
แต่อีกเรื่องมันอาจไม่ดีก็ได้ ลื้อเห็นอากึ้มลูกของทงอี อีน่ารักลื้อลองไปดู
เรื่องลีซานดูซิว่ามันเหี้ยมขนาดไหน แถม
แก่เหนียงยานแล้วยังมีเมียเด็กอีก
ระแวงแม้กระทั้งลูกตัวเอง ดูแล้วมันแตกต่างกันลิบลับ

ยังมีอีกเรื่องคือแดจังกึ้มกับเรื่องนานจอง ในจอมนางวังหลวง
อั้วว่ามันเป็นคนเดียวกัน แต่เนื้อหาความดีเลวมันเอาไปดัดแปลงเสียคนละเรื่อง

เอาเป็นว่าประวัติศาสตร์ดีๆ
ไอ้พวกนี้เอาไปละเลงกันเสียเละ
ยังมีอีกพวก ก็พวกหลวงพ่อ หลวงตานี่ก็เหมือนกัน
แกเล่นนั่งสมาธิ นั่งทางในเปลี่ยนประวัติศาสตร์หน้าตาเฉย
เบื่อหลวงตาแอบเนียนจังว่ะ

++++++++++++++++++++++++++++++

file.giggog.com/health/pictures/2011-07/14/10-11-22-1467636040.gif>

อิเจ้ว่า...


อืม....หลวงตาแอบเนียนของลื้อ ชื่อไรอ่ะ
หวังว่า คงคนละคนก๊ะ อรหันต์เจ้าน้ำตาของอิเจ้ นะ อิอิ


เฮ้ออออ สงสัยลื้อจะก้มหน้าก้มตา
อ่านแต่ กม.ตราสามดวงจิง ๆเว้ย
เฮ้ยย นี่ ๆ เคยมีคนบอกลื้อ มั่งไหมยะ
ไม่เพียงแต่ กฏหมาย เท่านั้น ที่ถูกเขียนโดยผู้ชนะ
ประวัติศาสตร์เอง ก็เขียนโดย ผู้ชนะ เช่นกันจร้าาา
ม่ะงั้น ตำนาน พุทธอวตาร จะผุดขึ้นกลาง ชมพูทวีปล่ะหรือ
แหม๊นี่อิเจ้ ยังคิดเล่น ๆ เรยนะว่า


ถ้าเมื่อสมัยก่อน ราชวงศ์โมกุลมันนึกครึ้ม
ยกทัพมาตีดินแดนแหลมทอง
แร้ว ประกาศก้องให้ชาวบ้านชาวช่องเลิกนับถือพุทธ
บางทีประวัติศาสตร์ชาติไทย
เราอาจจะ เปลี่ยนจากหน้ามือ เป็นหลังมือก็ได้นะ
ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ก็อาจจะไม่เกิด
แต่จะเกิด ปัญหา 3 จังหวัดชายแดนภาคอีสาน แทน 5555


อืม...ก็ดีเหมือนกันนะ เพราะบางที
เราอาจมี อนุสาวรีย์แห่งฟามโรแมนติก
อย่างทัชมาฮาลมาตั้งตะหง่าน แทนวัดพระแก้ว
แล้ว ขรัวโต ของอิเจ้ ก็อาจจะมีชื่อจารึกไว้
ในจดหมายเหตุสยาม ว่าเป็น คนโฉด
ถูกชาวบ้านทั่วทั้งบาง โหวต หั้ยเป็น กาเฟร์ผู้ชั่วร้าย
อืม....ได้เปลี่ยนบทบาท ซะมั่งก็ดี
เล่นบทเป็นคนดีบ่อย ๆ มันก็เลี่ยน ว่ะ 55555


ว่าแต่ เคยมีใครเคยบอกลื้อ บ้างไหมวะ
ว่าลื้อนี่มันเป็นพวก ลอจิก แอนด์ เรียลลิสติก ตัวพ่อ !
แมร่งตรู กะลัง โรแมนติก-ดราม่า อยู่ดี ๆ
ก็เจื๋อกมา แฉแต่เช้าแล้วแกล้งเอาตรรกะ
มาทิ่มแทงร้ายฟามลู้สึกของเจ้ ด้ายยยยย


เฮ้อออ นี่มันเล่นสาดโคลนแบบเทกระจาด
ปรามาส แบ่บนันสต๊อป
ทั้ง สหายแทนไท สหายใบไม้
ทั่น อานันท์ ทั่นว. และ เฮียสอฯ
เจ้ ก. แม่นางฟ้านิรนาม เรยนะนั่น
แถม ชำแหละ+จิกทึ้งเสร็จ ก็ยังไม่หนำใจ
ยังไพล่มา ลามปาม ถึง เจ้า ปงซาน ของ อิเจ้ อี๊ก
เฮ่ย นี่ใจคอ ลื้อจะม่ะยอมให้ อิเจ้ มีไอดอล ในฝัน
มั่งเรยหรือไงฟระ ไอ้ตี๋ ขี้อิจฉา เอ๊ยยยยยย


เนี่ยเจ้กะลังฝันหวาน
เป็นปลื้มกับแม่วีรสตรีศรีเกาหลี อยู่ดี ๆ
ลื้อก็มา โล้งเล้ง แว้ด ๆ ใส่
จน กลายเป็นฝันร้ายเรย
แมร่งเสียมู๊ด หมดเรย วุ้ย ไอ้เด็กเวร


เฮ้อออ เจ้ก็เคยบอกลื้อแล้วนี่หว่า ว่า
------------------------------------------------
คติประจำใจที่ อิเจ้ใช้เสมอ คือ

จงอย่าชื่นชม คนเป็น ๆ ทุกคน
ที่ได้รู้จัก และผ่านเข้ามาในชีวิต
ตราบใดที่ยังหายใจ คน ๆ นั้น ย่อมสร้างวิบากกรรมได้เสมอ
จนกระทั่ง สิ้นลม นั่น แหล่ะ จึงจะตัดสินได้ ( แค่บางส่วน )
ว่า เขา น่าชื่นชม หรือไม่


และ ไม่ว่าชาวบ้านเขาจะเป็นยังไง ก็ เรื่องของมัน อ่ะ
ดูละครแล้วย้อน มาดูตัวเอง ดูกว่าว่ะ
คนอื่นมันจะเลือกเป็น คนแบ่บไหน ก็ช่าง แมงมัน เหอะน่า
สำคัญที่ว่า เราจะเลือก เป็น คนอย่างไง มากกว่า
ที่สำคัญอย่าทะลึ่งเผลอไป เพ่งโทษโกรธใครให้ดวงจิตขุ่นมัว



'ไม ลื้อไม่ยอมเชื่อ เจ้บ้างเรยว้าาาา
-------------------------------------------------



จะบอกให้นะ อิเจ้ก็ไม่เคย คิดจะ มุดรูดูไส้ติ่ง
หรือ คิดจะดูต่อมลูกหมาก ของใครเว้ย
เพราะตรูไม่คิดจะ นับถือ ใครอยู่แย้วววว
( เจ้ก็แค่ หาประโยชน์ จาก คนทุก ๆ คน
ที่ บังเอิญผ่านมาเข้าทางของ เจ้ อิอิ )


แหม ? ก็โลกธรรม 8 มันไม่เที่ยงนี่หว่า
ดังนั้นจะแปลกอะไร ถ้า ใครสักคน จะเปลี่ยนไป
ตามเหตุปัจจัยที่มากระทบ
และสิ่งที่เราพอจะทำได้ เกี่ยวกับเรื่องนี้
ก็คือ เรียนรู้อย่างเข้าใจ
และ ทำใจที่จะยอมรับ กับ ยถาสภาวะ
ในสิ่งที่เห็น และ เป็น อยู่ นะ
ว่า จะ ไส้ติ่ง หรือ รังไข่
มันก็เป็นสิ่งที่ไม่จีรัง ฮา ๆ



อืม....บางที พออายุมากขึ้น
เจ้าปงซานของเจ้ อาจรังไข่ฝ่อ
มีฮอร์โมนกระพร่องกระแพร่ง
ตามประสาผู้ญิ๋งวัยทอง ก็ได้
เรยจำต้องตัดรังไข่ทิ้งก็ได้ง่ะ


ส่วน อากึมที่น่าเอ็นดูของเจ้
โตขึ้นก็อาจจะเป็นมะเร็ง
จนต้องโดนเจี๋ยนทิ้งต่อมลูกหมากทั้งสองลูกทิ้งก็ได้ว่ะ
อะไร ๆ ก็เลยไม่เหมือนเดิม
เมื่อ อุปทานสังขารขันธ์ มันเปลี่ยน
อะไร ๆ มันก็เปลี่ยนกันได้ นะ


มันผิดด้วยหรือ ถ้า อาเจ่กแก่ ๆ สักคน
จะเปลี่ยนไป เพราะ ไส้ติ่งอักเสบ ?
และ ไอ้มะเร็งต่อมลูกหมาก กับ มะเร็งรังไข่
มันก็ไม่เข้าใครออกใคร หรอกนะ ปุ๊บปั๊บมันก็มา


และ ในเมื่อลื้อโชคดี ไส้ติ่งยังไม่เคยอักเสบ
และ ต่อมลูกหมากก็ยังไม่เป็นมะเร็ง
( จนต้องเจี๋ยนเจ้าก้อนเนื้อเส็งเคร็ง ไปโยนทิ้งให้เป็ดกิน)
ลื้อก็ควรจะ สงสาร และ เห็นใจ
คนที่เค้ามี ทุกขโรค กัดกินหัวใจ ซะมั่งสิวะ



แล้ว ที่ อิเจ้ ชื่นชม เจ้าปงซาน เนี่ย
เจ้ก็ไม่ได้หมายความ ว่า
เจ้หลงไหลได้ปลื้ม ก๊ะ อีนังไพร่ทงอี
ที่เสด็จย่าทวดของ ลีซานตัวเป็น ๆ ซะหน่อย นิ



อืม...ด.ช.โฮฮับ กับ พ่อโฮฮับ ตาม สมมุติบัญญัติ ของลื้อ
จะเป็นคนเดวกันหรือ ไม่ อิเจ้ ก็ไม่สนใจจะรู้หรอกนะ
แต่ในเมื่อ ลื้อ เข้ามาสุมหัวคุยกัน ในสุสานโบราณแห่งนี้
ลื้อ ก็ต้อง สมควรต้องยึดตาม สมมุติ ที่ อิเจ้ บัญญัติ ดิ
มันถึงจะ เต้นแทงโก้โชว์สเตป เพลงกระบี่คู่ประสานใจ
ให้มัน สะท้านสะเทือน ทั้ง 31 ภพภูมิ ได้


โว๊ย นี่ ลื้อ แกล้งเซ่อ หรือ ว่า เอ๋อ จิง ๆ ฟระ
ลื้อ ไม่ลู้จิง ๆ ง่ะ ว่า เจ้าปงซาน ของอิเจ้
ก๊ะ อีไพร่ทงอีเสด็จ ย่าทวด ของอาลีซาน นั้นน่ะ
มัน เป็น คนเดียวกัน ไหม ?


เอ้าอ่านซะ ไอ้โซ๊ยตี๋เอ๋ย
แมร่ง เขียนให้อ่านไม่อ่าน
พยายามอ่านให้เกินสามบรรทัด
ค่อยสะกดอ่านไปที่ละตัว ด้วยล่ะ




----------------------------------------------------

อิเจ้ป่องว่า ....

โอ้ เจ้าปงซาน แม่ญิ๋งงาม แม่ดอกเก๊กฮวยขาว
แม่วีรสตรีศรีเกาหลี ของเจ้
เฮ้ออ ก็คงจะมีแต่ นางเอกซีรี่ซ์เกาหลี อย่าง ทงอี เท่านั้นแหล่ะ
ที่อิเจ้สามารถ ปลื้มได้ อย่างสบายอกสบายใจ
โดยไม่ต้องหวาดระแวง หรือเสียเวล่ำเวลา
ไปมุดรูดูไส้ติ่ง แอนด์ รังไข่ ให้เมื่อย

เพราะ ถึงไง ทั่นผู้กำกับ ก็ต้องเขียนสคริปต์
การันตี ฟามดีของนางเอกอยู่แระ


------------------------------------------------




เฮ้ยยยย สนใจหน่อย แม่ดอกบัวเกี๋ยง ของลื้อไม่หนีไปไหนหรอก
อ่านให้ทั่วและอย่าสักแต่ใช้สมาธิประกอบ อย่างเดว
ใช้ ขี้เลื่อย เอ๊ย ปัญญา ในกบาล ลื้อ มาโยนิโสฯ ด้วย
เผื่อจะ คุ้ยเจอ สาร ที่ อิเจ้ ต้องการ จะสื่อ เพื่อ เตือน สติลื้อ มั่ง
และถ้า ลื้อ ยังไม่เก็ท อิเจ้ จะไป วานหมอผี เข้าทรงไปถาม อิอ่อน หั้ย
แต่ระวัง จะโดน สันขวาน ของอิอ่อน ด้วยล่ะ
โทษฐานที่ แกล้งโง่ ? เป็นนักวิเคราะห์ ภาษาอะไร
สารง่าย ๆ แค่นี้ ก็ยังไม่เก็ท ( แหม๊ ? สำนวนคุ้น ๆ เน๊าะ 555 )



เฮ้ออ จำได้ไหม ว่า อิเจ้เคยบอกว่า
อ่านตัวหนังสือ ของลื้อ แล้ว
มันเหมือน เจ้ กำลัง มองเห็น
เงาของตัวเองที่สะท้อนอยู่ในกระจก อ่ะ
แต่ถ้า ลื้อ ยัง เซ่อไม่สร่าง เก็ทไม่ได้ซะที งี้
ลื้อก็คงมีวาสนาเป็นได้แค่ เงาของอิเจ้ แบบเดียวกับที่
พระสนมฮีบิน เป็นได้ แค่ เงา ที่อยู่เบื้องหลัง อิไพร่ทงอี นั่นล่ะวะ



แมร่ง ก็บอกไปแร้วไม่ลู้จะกี่หน ว่า
คนอย่างเจ้ ไม่เคยศรัทธา
หรือ เคารพ นับถือ ไอ้หน้าไหน ทั้งน้านนน
ตรูไม่ได้โง่ เหมือน ไอ้โตแมวตื่น นี่หว่า
จาได้ ต้องมาควานหาไอดอลตัวเป็น ๆ มาชาบู ๆ



เจ้ เอนจอย กับการแอบปลื้ม คาแรคเตอร์ ของอินู๋ปงซาน
ในซีรี่ซ์ เกาหลี ( เฉพาะในส่วนของ เรื่อง ทงอี )
ที่ ผู้กินกับ Lee Byung Hoon รังสรรน์ขึ้นมาเท่านั้นย่ะ
เพราะ บุคลิก เทิดทูนฟามถูกต้องยุติธรรมยิ่งชีวิต
นี่ มันน่าเอ็นดูและน่าเอาไปเป็นเยี่ยงอย่าง มันก็เท่านั้น



เนี่ย อิเจ้ ยังนึกชม ทั่นผู้กำกับลี เยยยย
ว่า สร้างละครได้ เจ๋งเป้ง อ่ะ
อย่างน้อย เยาวชนดูแล้ว ก็ได้ข้อคิด
แล้ว มีแบบอย่างที่ดี ที่จะเอาไว้ดู เป็น อุทาหรณ์
ถึงมันจะบิดเบือนประวัติศาสตร์ ไปบ้าง
แต่มันก็ ไม่ได้ เลวร้ายเป็น อาชญากร สงคราม อะไรนิ
เจ้ว่า ซีรี่ซ์ เกาหลี ก็ยังดีกว่า ละครน้ำเน่าหลังข่าว สมัยนี้ ล่ะวะ
แมร่ง ส่วนใหญ่ เจ้ก็เห็นมีแต่เรื่อง ตบกันแย่งผัว ปลอมตัวเป็นคนใช้
ไม่เห็นมี ฟามสร้างสรรน์ หรือ คติสอนใจอะไรเล๊ยยย





แล้ว เรื่อง ทงอี ฯ เนี่ย มันก็บออกอยู่ แร้ว
ว่า มันเป็น ซีรี่ซ์ อิงประวัติศาสตร์ เฉย ๆ
ไม่ใช่ สารคดีชีวิตราชวงศ์โชซอน 100% นี่ หว่า
ดังนั้นมันก็ต้องมี แต่งเติมเสริมแต่ง ใส่สีใส่ไข่ กันมั่ง สิวะ
จะให้มัน ตรงกับฟามจริง เป๊ะ ๆ ได้ไงฟระ
ขืนเขียน สคริปต์ แบบ เรื่อง จันดารา
หรือว่า ซุ้มมือปืน ให้ ตัวละคร มีมิติ แบบ ปุถุชน คนจริง ๆ
ชาวบ้านมันจะ ติดงอมแงม ทั้งบ้าน ทั้งเมืองงี้หรือวะ
ที่สำคัญ ถ้าจะเอาแบบตรงไปตรงมา อ่ะนะ
เด็ก ๆ สมัยนี้ คงหา ไอดอล ของเค้า
ไว้เป็นที่ ยึดเหนี่ยวทางใจ ไม่ได้ หร็อกจร้าาา
ลิ้อ ก็ หยวน ๆ ไปเหอะวะ



แค่ เป็นปีกไม้ไผ่ คอยหนีบก้น
ชอบ เอา ตรรกกะ ยัดปากพวกแถละวาด
ลื้อ ยังไม่หนำใจหรือไง ฟระ
จะมา เอานิยมนิยาย อะไร นักหนา
ก๊ะ ซีรีซ์ เกาหลี ล่ะวะ
ปล่อยให้ เยาวชนของชาติ
เค้ามีที่ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ ซะมั่งเหอะว้าาา
ชาวบ้านชาวช่อง เค้าไม่ได้เกิดมา หัวแข็งโป้ก เหมียน พวกเรานี่หว่า





อ้อ แล้วถ้า ลื้อ ทะลึ่ง แตะต้อง เจ้าปงซาน ของอิเจ้
ทำหั้ย อิเจ้ ระคายเคืองหัวใจ งี้
งั้น เจ้ถามหน่อย เด่ะ ว่า
ลื้อเคยดูการ์ตูนเรื่องนี้ ป่ะ




แล้ว เรื่องนี้ ล่ะ




ลื้อเคยดูไหม ? เจ้ ว่าเจ้า โก้ว ตา มอ หรือ อ้ายสมณะโล้น ของลื้อ เนี่ย
มันเป็นคนเดียวกัน กับ ปางที่เก้า ของ ทั่นวิษณุ ว่ะ
แล้วนั่นน่ะ จัดเป็น อิตอแหล๋ตัวพ่อ ที่แปลงร่างเป็น นางนกต่อ
มาเผยแพร่คำสอนชั่วร้าย เพื่อล่อลวงให้คนไปตายเลยนะ ว้อยย


ลื้อเห็นไหม ว่า ไอ้สิทธัตถะ มันใจดำ และ เห็นแก่ตัวขนาดไหน
ขนาด มีลูก มีเมีย มันยังทิ้งได้หน้าตาเฉย
เพื่อ แร่ดๆ ไปหาทางปลดเปลื้องทุกข์ ออกจากตัว
เมียมันจะทุกข์แค่ไหน ทิศ 6 เป็นไง มันก็ไม่สำเหนียก
แล้วยัง มามั่วนิ่ม กุ วจีมุสา เพื่อโฆษณาชวนเชื่อ
พาคนหลงผิด ให้ ตกนรก จนหมดสิทธิขึ้นสวรรค์ อี๊กกก
ดูแล้ว สองเรื่องนี้ มันช่างแตกต่างกันลิบลับ


อืม...หนังมันก็เป็นแบบนี้แหล่ะ
เนื้อหาเรื่องหนึ่งอาจเป็นคนดี แต่อีกเรื่องมันอาจไม่ดีก็ได้
แต่เนื้อหาความดีเลว มันเอาไปดัดแปลงเสียคนละเรื่อง เลย
ฟังแร้วนึกถึง หนังของ หม่อมน้อย เรื่องนี้ จังว่ะ





ว่าแต่ ไอ้เรื่อง พุทธอวตารเนี่ย
อิเจ้จะให้ คนทรงเจ้า จุดธูปสามดอก ถาม กาลิเลโอ ดู
หรือก็กลัวว่า กาลิเลโอมันจะ เอากล้องส่องทางไกลมาทิ่มตาเจ้อ่า
ว้าาาาาาาาาาาาา อิเจ้จะเชื่อ ใคร ดีวะเนี่ย
หากเชื่อ เจ้า โกว้ ต้า ม้อ ของ ลื้อ
แล้วถ้าเกิด ตำนานพุทธอวตาร มันเป็นจริงขึ้นมา
ตรู มิ เสียหมา ต้องมาตกนรกชั่วกัปล์ชั่วกัล หรอกหรือวะ เนี่ย อ่ะซิก ๆ


อืม...แต่ลื้อ ไม่ต้องตอบเจ้ก็ได้นะ
เพราะ นกรู้ อย่างอิเจ้
รู้จักเจริญสติปัฏฐานสี่ หาทางหนีทีไล่ ได้ในทุก ยถาสภาวะ ว่ะ
ถึงเจ้จะ ยัง ตัดวงปฏิจจฯ มิได้
แต่ เจ้ก็รู้วิธีแก้คำสาปของ The ring เว้ยยย
ลื้อไม่ต้องมาปากเปียกปากแฉะ ก๊ะ เจ้ หั้ยเสียเวลา หร็อกเอิ๊ก ๆ



เอาเวลาอันมีค่า ของลื้อ
ไป แร่พโย่วสอน สาวกสมณโคดม อย่างอิตาอ๊บ เหอะ
อ่อนหัด ดัดจริต เหยาะแหยะ ป้อแป้ อ้อแอ้ ซะขนาดนั้น
มันจะกระดึ๊บ คืบคลาน ตะกายออกจาก บ่อน้ำต้องคำสาป ได้เร๊อะ
คงต้องปล่อยให้มันตาย 5 คาบ่อเกรอะ ซะล่ะมั้ง เหอะ ๆ








 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:56:45 น.  

 
 
 
-----------------------------------------------------
ไอ้ตี๋ว่า ....
เห็นลื้อชอบอ้างหลบในกะลา เอาเรื่องที่ได้
จากการปฏิบัติของลื้อมาคุยดีกว่า เรื่องแปลกก็ได้
ประเภทไปเห็นอะไรมาบ้าง
+++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า...
เฮ้ยยย นี่ลื้อกำลังจะ ตะล่อม หลอกขอ เลขท้าย สามตัว ตรง ๆ
ก๊ะ เจ้าแม่บัวป่อง หรือไงกันยะ ไอ้โซ๊ยตี๋
เฮ้ออออ ขนาดเล่นทอง ตัวอิเจ้ป่องเอง
มันยังทั้งตกรถ ขายหมู แล ติดดอย อยู่บ่อย ๆ เยยย
แร้ว เมิงจะให้ตรูเห็นอะไรฟระ เอิ๊ก ๆ



อืม... แต่ในฐานะ ที่ลื้อ เป็น ไอ้โซ๊ยตี๋ ที่อิเจ้ เอ็นดู
อ่ะ อันนี้ ตัวหนังสือ ที่ อิเจ้ เคย แพล่ม
เรื่อง การ ปฏิการปฏิบัติ ที่ ผ่านมา
ลื้อก็ตามไปอ่านเองแระกัน อิอิ


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=04-2011&group=2&date=04&gblog=10



อืม...ไอ้เรื่องเห็นอะไรแปลก ๆ ทะแม่ง ๆ
มันก็มาร้องแง้ว ๆอเสนอหน้ามาให้เห็น
เรียกร้องฟามสนใจเป็น ระยะ ๆ นั่นแหล่ะ



สิ่งที่ได้จากการปฏิบัติ ที่ผ่านมา
ทั้ง ถือศีลหก เดินจงกรม นั่งมาธิ
และ เบิ่งจิตเล่น เป็นงานอดิเรก เนี่ย
หลักใหญ่ใจความสำคัญ ที่มัน
พลิกของคว่ำ ให้เป็นของหงาย
มันไม่ใช่เป็นเรื่องของ การ เห็น
แต่มันเป็น เรื่องของ ความรู้สึกว่ะ


ตอนที่ ถือศีล 5 มาได้สักระยะ
มันจะมีอาการ เหมือน ศีลกระตุก อ่ะ
( ลื้อ รู้จักป่ะ ไอ้อาการ ศีลกระตุก น่ะ อิอิ )
ถ้าทำอะไรที่ ก้าวล่วง ศีล 5
แล้ว จู่ ๆ มันก็จะ รู้สึกตะขิดตะขวงใจ แบ่บ แว้บ ๆ ขึ้นมาเสมออ่ะ
ไงล่ะ มันเหมือน มีอิคิตตี้ มาคอยจ้ำจี้จ้ำไช
ให้เรามีสติ ระแวดระวัง กายกรรม วจีกรรม และ มโนกรรม
ไม่ให้ทำอะไรที่ ออกนอกลู่นอกทาง
สุ่มเสี่ยงที่จะทำให้ให้ศีล ถลอก อ่ะ



แถม เมื่อ ทำให้ ศีล ถลอกไปแล้ว
ก็อิคิตตี้ อีกนั่นแหล่ะ ที่จะมานั่งเอ้เต้ คอยเป็นประธานศาลฎีกา
มา เจ้ากี้ เจ้าการ คอยพิณา หาเหตุปัจจัย ที่เป็นรากเหง้าของการกระทำ
เพื่อนำไปสู่การ วินิจฉัย เยียวยา แก้ไข ปรับปรุง
และ เปลี่ยนแปลงพฤติกรรม น่ะ


พอมาถือศีล 6 เจ้ก็รู้สึกว่า
ตัวเองควบคุม ความอยาก ได้ดี ขึ้นมั้ง
มันเริ่ม เห็น ความเปลี่ยนแปลง
ตอนที่ ได้กลิ่นอาหาร แล้ว จิตมัน ปรุงแต่ง ต่อ
แล้ว หยุดอยู่แค่ พอใจกับกลิ่น อาหาร นั้น
แต่ไม่ได้ กระสันอยาก จนทุกข์ทรมาน
ต้อง ตะเกียกตะกายข้างฝา ไปควานหามากิน อ่ะ
ประมาณ เริ่ม มีสติในการใช้คะหมูก ในการดมนู้นดมนี่ มากขึ้น 555




อืม... จิง ๆ ไอ้เรื่อง ผัสสะเรื่องกลิ่น เนี่ย
มันก็ แพลม ๆ ให้เห็น มาตั้งแต่ ถือศีล 5
และเดินจงกรม รอบโรงบาล แล้วอ่า
เพียงแต่ มันละเอียดขึ้น ไว ขึ้นมั้ง
สมัยปฏิบัติแรก ๆ มันจะ ตัดได้ เฉพาะ กลิ่นที่ ไม่พอใจ น่ะ
อาทิเช่น เทน้ำปุ๋ยหมัก รดต้นโหระพา
แร้วกลิ่นปุ๋ย มันเหม็นโคตร ๆ เนี่ย
จิตมันก็จะตัดฉับ จำแนกแค่ว่า เป็น กลิ่นอะไร ลักษณะไหน
แล้วมันก็หยุด อยู่แค่นี้ ไม่ปรุงต่อเป็นความไม่ชอบใจ อ่ะ
อืม...ตอนเดิน จงกรม แล้ว ผ่านกองขี้วัว มันก็จะตัด ได้ คล้าย ๆ กันนะ
ส่วน กลิ่นที่ พอใจ อย่าง ดอกต้นสัตบรรณ กับ ดอกปีบ เนี่ย
ก็หยุด อยู่ที่ กลิ่นนี้ น่าพอใจ อ่ะ



แต่ พอถ้าเป็น กลิ่นไข่เจียวทอด ที่ลอยมากระทบตะหมูก
ตอนเดิน จงกรมเนี่ย พอได้กลิ่นอาหาร
แร้วจิตมันจะเพริด มันจะเตลิด ว่ะ
ไม่อยาก จะ ดง จะเดิน แล้ว ว้อย
ตูหิว อยากจะแดร่ก ข้าวเย็นนนนน
( ตอนนี้ ถือศีล 6 แร้ว ดีขึ้นแยะ เอิ๊ก ๆ )



ส่วน เวทนาอื่น ๆ อย่างพวก
เย็นร้อน อ่อนแข็ง เจ็บปวด นี่
พอมันเกิด ก็จะยอมรับ ยถาสภาวะ ที่เกิดจากมัน ได้ ดีขึ้น
โดยไม่รู้สึกทุกข์จะเป็นจะตาย อ่ะ
ถ้าจะทุกข์ มันก็แค่แป๊บ ๆ น่ะ
พอสติมันมา แว้บ ๆ มันก็จะฉุกคิด แร้ว เลิกทุกข์ ไปเอง
เวทนา ยังอยู่และก็ค่อย ๆ ดับไป ตามสภาพ
หนังก็ไม่ได้ เหนียว อะไร โดนมีดบาด ก็เลือดไหล
ระยะเวลาในการเจ็บของกายเนื้อ มันก็ ไล่เลี่ยกับ คนอื่น อ่ะนะ
แต่ไงล่ะ จิตตมันทำใจยอมรับ สภาพ และ ไม่รู้สึกรู้สา
ไม่ทุกข์ร้อน กับเวทนาได้เร็ว กว่าเดิมมากขึ้นน่ะ
ถ้าเมื่อก่อน ระยะเวลาในการทุกข์ จากยถาสภาวะต่าง ๆ
มีหน่วยเป็น นาที และ ชั่วโมง เด๋วนี้ ยถาสภาวะเดิม ๆ
กลับมี ระยะเวลาในการทุกข์ น้อยลงเหลือเป็น หน่วยวินาที มั้ง
พอ สติมันเกิด มันก็ดึงใน จิต ทำใจ ให้ว่าง
แล้ว ยอมรับ ต่อ ยถาสภาวะ ที่เกิดได้เร็วขึ้น



ยิ่งเป็น เวทนาทางกาย อ่ะนะ วุ้ยสบายมาก เอิ๊ก ๆ
และหาก จิตมันล้า มันไม่นิ่ง ทำใจ ให้ว่าง ต่อเวทนา ทางกาย ไม่ได้จริง ๆ
ก็มีเทคนิกฉุกเฉิน นะ ใช้วิธีบังคับให้ จิต จงใจ ให้ว่าง ต่อเวทนาทางกาย น่ะ
วิธีนี้ มันออกจะติด เพ่ง เป็นแนว สมถะ มั้ง
( ก็อีอันนี้ แหล่ะ ที่เป็นไม้เบื่อไม้เมา
ทำให้ พวกแอนตี้แล้วมุดมัน ต่อต้าน น่ะ )
อืม...จริง ๆ แนวสมถะ นี่ อีเจ้ ถนัด นะ
แต่ก็ไม่ค่อยจะงัดมาใช้หรอก
เพราะ รู้สึกว่า มัน เฟค ว่ะ
ดูฝืน ๆ ไม่เป็นธรรมชาติ น่ะ




และ ส่วนที่ อิเจ้ ยัง รู้สึกว่า
ยังเป็น อิอ่อน และ ปรี๊ดแตก อยู่บ่อย ๆ
ยังคุมไม่ค่อยอยู่ นี่ก็คือ เรื่องของ ทิฐิมานะ และ เวทนาทางใจ นะ
รัก โลภ โกรธ หลง นี่ กะลัง พยามฝึกรับมือ กับมันอยู๊
ซึ่งการเบิ่งจิต มันก็ช่วย ฝึก สติสัมปชัญญะ ในส่วนนี้นะ
เมื่อก่อน ตอนไม่ได้ปฏิบัติ พอเกิด สภาวะจิต แบบนี้
จิต มันจะ ไถล ไป เพ่งโทษ ที่ แฟคตอร์ ภายนอก เป็นจิตส่งออก



แต่ เด๋วนี้ เพื่อ มันเกิด สภาวะจิตที่ ไม่สมดุล ( พอใจ ไม่พอใจ )
ต่อสิ่งเร้าที่มากระทบ อาทิเช่น
ไม่ชอบขี้หน้าใครบางคนแล้วต้องเดินสวนกัน
ความรู้สึก ไม่ชอบนั้นก็ยังเกิด เหมือนเดิม
แต่ ที่ต่างจากเดิม คือ เปลี่ยนจากเพิ่งโทษคนอื่น
มาเป็น เพ่งโทษตัวเองแทนมั้ง ประมาณว่า
แมร่งโหล่ยโท่ยอิ๊บอ๋ายเป็นนักปฏิบัติภาษา อะไรว้าาาาา
ม่ายล่ายดั่งใจเล๊ย 55555



อืม...พอเกิดความรู้สึกไม่ชอบขี้หน้าใคร วูบขึ้นมาเนี่ย
มันจะมี อะไรสักอย่าง ( อืม...สติมั้ง ? ไม่รู้สิ )
แว้บ ๆ เข้ามาน่ะ ไอ้เจ้าตัวนี้ล่ะ
ที่ มันคอยกระตุกหาง อิเจ้เอาไว้น่ะ
อารมณ์มันเหมือน เด็กที่กำลังพลั้งเผลอ เดินไปเหยียบตะปู
แต่ชะงักตรีนไว้ทัน ตะปูมันเลยเข้าไปไม่ลึกถึงกระดูกน่ะ
อาการเรยไม่โคม่า เท่าไร





อืม... รู้ป่ะ หลังจากตอบ จม. แควน ๆ ในวันนี้ เสร็จ
อิเจ้ก็กะว่า สิ่งแรกที่ตั้งใจจะทำในการปฏิบัติ
คือ การเข้าคอร์ส ทวนศีล ทวนจิต ต่อมั้ง
เนี่ย มัวแต่ อิแร่ดแต๊ดแต๋
จน สมุดเบิ่งจิด อิเจ้ มันมีดินพอกหางหมู
มาเป็นครึ่งเล่มแระว่ะ
คงต้อง หาเวลา เคลียร์หนี้เวร หนี้กรรม ซะที แหะๆ


เฮ้อออ ที่พยามฝึกอยู่ตอนนี้ คือ
การ พยามฝึกฝน จิต ให้ มันรู้สึก ยอมรับ ยถาสภาวะ
แอนด์ ธรรมนิยาม ( การเกิดขึ้นตั้งอยู่และดับไปของสภาวะ )
ณ ปัจจุบันขณะให้ได้น่ะ แต่การ ดูสภาวะ แบบ สด ๆ
บางที มันก็ไม่เอื้อกับชีวิตของ คฤหัสถ์ อ่ะนะ
ขืน พอเกิดอะไรนิดอะไรหน่อย ก็เจริญสติ ทั้งปีทั้งชาติ
ทั้ง ๆ ที่ยังไม่มีทักษะเพียงพอ
(ยังทำได้ไม่คล่องไม่ฉับไวจนเป็นอัตโนมัติ )
มันก็ สุ่มเสี่ยงที่จะโดน พี่ ป. ทั่น หน. เจ้
เฉดหัวออกจากงาน ได้ว่ะ เอิ๊ก ๆ


เรยต้อง พยามฝึกทักษะ
เจริญจิตตานุปัสนา โดยใช้ สมุดเบิ่งจิต อ่ะ
ตอนที่จดในสมุดน่ะ เป็นการจด แบบ สด ๆ
( เพื่อ ฝึกสติ ให้เท่าทันสภาวะจิต ณ เวลานั้น ๆ )
จากนั้นเมื่อ โอกาสอำนวย ไม่ได้ทำงานทำการ
จึงค่อย ระลึกชาติ ฝึก สัมปชัญญะ ต่อ ไป
ด้วย การ ดู เงา ของจิตจากการอ่าน สภาวะจิต
ที่จดไว้ในสมุดเบิ่งจิตอ่ะ



นอกจากนี้ ยังเป็นพยามจะฝึก อนุสัย ( Id )
จากการพิณา รากเหง้า ของการกระทำ
และ สภาวะจิตต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นกับ ตัวเอง ด้วย
ก็ไม่ได้กะจะเปลี่ยนโคตรภู ในชาตินี้ หรอกนะ
แต่ เจ้ ตั้งใจจะ เปลี่ยน สันดาน ตัวเองน่ะ
แหม ? จิง ๆ สันดานเดิมที่มีอยู่ตอนนี้
เจ้ก็ว่า มันแหล่ม และ ก็น่าพอใจ ในระดับหนึ่งอ่ะนะ
แต่ว่า มันยังไม่เปอร์เฟค ง่ะ งิงิ
เรยยังเอาไปใช้ประโยชน์ได้ไม่เต็มเม็ดเต็มหน่วย
ถ้าเปรียบเป็นเหล็ก ก็เป็น ได้แค่ เหล็กธรรดา ไม่ใช่ สแตนเลส
ดังนั้น เวลาเจอโน้นเจอนี่นิดหน่อย ก็ขึ้นสนิมแระ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:5:58:39 น.  

 
 
 
เออ จิงสิ อ่านเรื่องที่เจ้าลูกหมาพิทบูล
ไปขบหัว พ่อลูกอ๊อดนอกกะลา
ที่ กระทู้ การเกิดขึ้นของ เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ?


//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=35487&start=75


อืม...ไงก็ระวังปาก ไว้บ้างก็แล้วกันนะ ไอ้ตี๋
เจ้ม่ะอยากหั้ยลื้อ ต้องมีชะตากรรมอันรันทด
แบ่บกาลิเลโอ ว่ะ อิอิ


อืม...แต่ อ่านที่ลื้อไปอาละวาด ที่ ลานธรรมจก
แร้วก็ ขำก้าก อ่ะ พวกพุทธมากะจ๋านี่
มันชอบหาเรื่องต่อยกัน ด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องจิง ๆ เล๊ย
ไม่รู้มันจะ มัวแต่ มาทะเลาะกันทำไม วะ
ว่า อะไร เป็น อะไร ปฏิจฯ มันจะเป็นวง
หรือ เป็นเส้นตรง ฯลฯ


เฮ้อออ เถียงกันง้องแง้ง ๆ อยู่ได้
เห็นแร้ว ทั้ง ขบขัน ทั้งรำคาญ ว่ะ
คันปากยิก ๆ อยากจะตะโกน บอกพวกมันจัง

แมร่ง ถ้า เมิง อยากรู้ว่า
ปฏิจฯ มันเป็นแบ่บไหน
ก็ลอง ปฏิบัติ ไปเรื่อย ๆ สิวะ
เด๋วไอ้ตัว ปฏิจฯ มันก็โผล่หัวมาให้เห็น เองนั้นแหล่ะ
ว่ามีส่วนเว้าส่วนโค้งไง
อันนี้ อิเจ้พูดจากประสบการณ์
ที่ปฏิบัติมา ด้วยตัวเอง อ่ะนะ




จะว่าไปพวกลื้อน่ะ มันก็เหมือนเด็ก ๆ ที่กำลังเล่นซุกซน
สาละวน คุ้ยกองทราย หาเหรียญ
อยู่ในสนามเด็กเล่น เหมือนที่ลื้อบอกนั่นแหล่ะ
ทว่า ตอนนี้ ยังไม่ทันได้พบ เจอ เหรียญเยย
พวกลื้อ ก็ มางอแงตบตีกัน เอง ด้วยประเด็นยิบย่อย
เรื่องเหรียญสลึงมันกลม หรือ แบน ซะแระ


เฮ้อ ไอ้ตี๋เอ๋ยยยย ของงี้
มันก็ขึ้นกับ วาสนาที่สั่งสมมาล่ะมั้ง
เด็กบางคน พยามคุ้ยเขี่ยกองทรายมาทั้งชีวิต
ก็ ไม่เคยได้พานพบกับเหรียญที่ตามหา เรย
แต่ เด็กบางคน มันก็มีบุญเก่าซะเหลือเฟือ
แค่ เดินเตร็ดเตร่ เตะทรายเล่น ๆ อยู่ ดี ๆ
ก็เห็นว่า มี เหรียญสิบบาท มาวางอยู่แทบเท้าแระ
อีเรย เอาไปซื้อ ไอติมมาดูด
แร้ว นั่งบนภู ดูพุทธทะเลาะกัน ไง หุหุ


อืม...พูดถึง เรื่อง วงปฏิจฯ
สมัยยังละอ่อน ตอนอยู่มัธยม
การแก้โจทย์ และตัวแปรทางคณิตศาสตร์
ใน สมการ /อสมการ และ กราฟ พาราโบล่า
คือ ของโปรด ของอิเจ้นะ


ส่วน รูปทรงเรขาคณิต
ที่ อิเจ้ชอบมากที่สุด ก็คือ วงกลม
เพราะ มันมีส่วนเว้าส่วนโค้งที่น่าทึ่ง
แต่ ก็ไม่ได้ ใส่ใจอะไร กับมันนัก


อืม...คำถามหนึ่ง
ที่ค้างคา อยู่ในใจอิเจ้
ตั้งแต่ สมัยอยู่ มหาลัย ก็คือ

คำถามประมาณว่า

ทำไม กรรม ที่ บุคคล หนึ่ง
ได้กระทำ กับอีก บุคคลหนึ่ง
มันถึง ไม่จบไม่สิ้น ไม่มีที่สิ้นสุด เสียที นะ


ทั้ง ๆ ที่ จริง ๆ แล้ว
ถ้ามองมันเป็นการคำนวณทางคณิตศาสตร์
มันก็ เหมือน สมการทั่ว ๆ ไปนั่นแหล่ะ

โจทย์ คือ
เมื่อชาติก่อน นาย A แทง นาย B
พอมาเกิดชาตินี้ นาย B เรย แก้แค้น
ด้วยการ แทงนาย A ให้ตายตกตามกันมั่ง


ถ้า สร้างตัวแปร และ เขียนเป็น สัญลักษณ์ ในสมการ
แล้ว แทน การแทง ด้วย เครื่อง หมายลบ
มันก็จะได้ สมการที่แสนจะเบสิค อย่าง

A - B = B - A

ดังนั้น A=B ฟังดูแล้วก็มีเหตุผล
และสุดแสนจะยุติธรรมมากมาย
ไม่ว่าจะ เอาหลักการใด มายึดจับ

ถ้าเป็น หลักกฎหมาย ก็เข้าได้
กับ ประมวลกฏหมายของฮัมมูราบี
ที่ ยึดหลัก ตาต่อตา ฟันต่อฟัน

ถ้าเป็น หลักวิทยาศาสตร์
ก็เป็นไปตามกฏของ นิวตัน ที่ สปัค อิงลิช ไว้ ว่า

For every action there is an equal and opposite reaction.
แปลเป็นไทย ก็คือ แรงกริยา = แรงปฏิกิริยา


หรือ ถ้า เอา หลักการแทงไฮโล มาจับ
เจ้ามือ ก็ พูดได้อย่าง เต็มปากเต็มคำว่า
เจ้าฯ กับ เรา เจ๊ากันพอดี ฯลฯ



ฟังดูแล้ว A กับ B มันก็น่าจะ เลิกแล้ว ที่มีต่อกัน
ตามหลักการ balance สมการ นี่หว่า
แต่ทำไม ในวิถีพุทธ เวรกรรม มันถึงได้
วนเวียนไปมา ไม่จบรู้จักจบจักสิ้น
แบบตรงไปตรงมา เหมือนการแก้สมการ วะ?


ตอนนั้น อิเจ้ ก็ได้แต่ เก็บ ความสงสัย นั้นไว้ในใจ
โดยไม่ได้ปริปากบอกใครเลย
นอกจาก จดมันไว้ใส่กระดาษ เอ 4
แล้วรวบรวมคำถาม และ ข้อสงสัย แนว ๆ นี้ ไว้


ตอนนั้น อิเจ้ กะว่าจะ รอโอกาสเหมาะ ๆ
ถ้าเจอกับ พระอาจารย์ ( ที่เคยสอนเรื่องวิชาพุทธศาสนา ให้เจ้ สมัย มัธยม)
อิเจ้ จะลอง เอา คำถามนี้ไปถามทั่นดู
เพราะ ในฐานะ ที่ ตะแก เป็น พระ
และ เป็น ด๊อกฯ ด้านปรัชญา และ ศาสนา
กูรูอย่างท่าน น่าจะตอบคำถามนี้ หั้ยอิเจ้เคลียร์ได้มั่ง



อืม...กระดาษรวบรวมคำถามแผ่นนั้น
นอนแอ้งแม้ง อยู่ในในกล่องใต้เตียง นานร่วม สิบปี
จน พระอาจารย์เจ้ ทั่นสึก ไปมีเมีย แระ
แต่ อิเจ้ก็ยัง ไม่ได้คำตอบที่ ทำให้ เก็ท สะเทือน ซะที
แถม ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ ก๊ะฟามสงสัยใน เรื่องนี้ อีกด้วย
( แบ่บว่า ช่วงนั้น ยังไม่ได้ สนใจในเรื่องทางธรรม อ่ะ )


จนกระทั่ง เมื่ออิเจ้ ก้าวเท้า
เข้ามาสู่เส้นทางสายปฏิบัติ
เจ้ถึงได้ เก็ท สะเทือน ว่า
สมการชีวิต มันไม่ใช่เป็น เส้นตรง
แบบ สมการในวิชาเลข
แต่มันเป็น วงกลม เป็น วัฏฏะ
การก่อกรรม ต่าง ๆ มันจึง วนเวียน
ซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีที่สิ้นสุดไง


ด้วยเหตุนี้ กรรม อัน บุคคล หนึ่ง
ได้กระทำ กับอีก บุคคลหนึ่ง
มันถึง ไม่จบ ไม่สิ้น เสียที


จะว่าไป วงปฏิจฯ นี่ มันก็คล้าย ๆ กับ ไอ้นี่ ล่ะมั้ง



ถ้าไม่รู้จักหา วิธีตัด เราก็จะต้อง การก่อกรรม ต่าง ๆ
วนเวียน ซ้ำไปซ้ำมา ไม่มีที่สิ้นสุด อยู่อย่างนี้
ที่สำคัญ ถ้าตัดไม่ถูกวิธี วงแหวนโมเบียส นี้
ก็จะขยายใหญ่ขึ้น และ ยุ่งเหยิงกว่าเดิม
แถมเราก็ต้อง เหนื่อย วนไปวนมานานขึ้นกว่าเดิม







ไอ้ตี๋ว่า....

มันก็เหมือนกับเราได้อ่านพระไตรปิฎก
ถ้าเราอ่านแล้วเชื่อ เราศรัทธา
ความจำนี้มันจะเป็นสัญญาติดตัวเราไป
ต่อมาเราเห็น เราก็ใช้สัญญาตัวนี้แหล่ะ
เป็นหลักในการพิจารณาธรรม
++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ว่า.....

อืม...ลื้อ ใช้แค่ ความเชื่อ และ ความ ศรัทธา ที่จดจำไว้ในสัญญา
มาเป็น หลัก ในการ พิณาธรรม เท่านั้น ล่ะหรือ ไอ้โซ๊ยตี๋ ?
ผิด ก๊ะ อิเจ้ แฮะ เจ้ ใช้ แต่ ความรู้สึก นำทางว่ะ
ส่วน สมมุติบัญญัติ ต่าง ๆ ใน ใบลานสามตะกร้า เนี้ย
เจ้ ไม่เหลือบตามามอง ให้เสียเวลาทำมาหากิน หร็อก จร้าาา เอิ๊ก ๆ


แหม ? ทำไงได้ล่ะ ก็เมื่ออ่านพระไตรปิฎก แล้ว
อิเจ้ไม่เคยจะเชื่อ หรือ ศรัทธา เรยนี่หว่า
( ออกจะเซ็งก๊ะ ความเก่าคร่ำครึ ในภาษาซะด้วยซ้ำ )
แถมรู้สึกว่า หนังสืออะไรม่ายลู้
อ่านแร้ว ตรูล่ะเบื่อ อิ๊บอ๋าย เรยย


ดังนั้น อิเจ้ คงไม่มีวาสนา
จะใช้ ความเชื่อ และ ความ ศรัทธา ที่จดจำไว้ในสัญญา
มาเป็น หลัก ในการ พิณาธรรม หร็อกจร้าาา
แต่ไอ้ครั้นจะใช้คำว่า โยนิโสมนสิการ หรือ
เด๋วก็จะโดน พวกเสือ ใบลาน มันฟ้อง
ข้อหาละเมิด ลิขสิทธิ อิอิ
อิเจ้ เรยต้อง อาศัย ใช้ เจ้าความรู้สึกตะขิดตะขวงใจ
เป็น ตัวเซ็นเซอร์หลักในการพิจารณาธรรม อ่ะ




แต่พูด ก็พูด เหอะนะ
ถ้า ลื้อ กล่าวหาว่า
หลวงพี่ ว.แหวน ทำให้เกิดการ ปรุงแต่งทางธรรม
มันก็เป็น เพราะ ใบลาน 3 ตะกร้าที่ลื้อ ศรัทธา นั่นแหล่ะ
ที่เป็นเหตุปัจจัย ทำให้ หลวงพี่ ว. อ่านแร้วเตลิดเปิดเปิง
เกิดจินตนาการบรรเจิด ไปเอง




ลื้อเคยไหมล่ะ ที่บางครั้ง อ่านเนื้อหาสาระ
ที่อ้างอิงมาจาก พระไตรปิฎก แล้วมันรู้สึกแม่ง ๆ
จนทำใจ ยึดมาเป็นหลักในการพิจารณาธรรม ไม่ลงอ่ะ
อิเจ้เคยมาแระ ว่ะ เล่นเอา เสียศูนย์
ทางธรรม ไปหลายเพลา เรยว่ะ อิอิ




จะลอง ยกตัวอย่าง ให้ฟังนะ
อาทิเช่น เรื่องผลบุญของการทำทานบารมี อ่ะ
ในนั้นแนะนำว่า ควรเลือก เนื้อนาบุญที่ดีในการทำบุญด้วย



อิการ์ฟิลด์ มันอ่านเจอดังนั้น
คราวนี้ เวลาทำบุญทำทาน อะไร
มัน รีบดีดลูกคิดรางแก้ว คำนวณเลยนะ
ประมาณว่า ว่า ทำทานแบบนี้ จะได้ บุญ กี่กิโล
แล้ว ถ้า ทำทานแบบนั้น ล่ะจะได้บุญมากกว่า ไหม ?
เฮ้ย อิเจ้บี ทำทานงี้ สิแจ่ม ได้บุญเป็นตันเรยว่ะ
อ้างอิง มาจากพระไตรปิฎก เลยนะนั่น ฯลฯ


เฮ้ออ ฟังแร้ว มันก็สมเหตุสมผล อยู่ อ่ะนะ
แต่ ไอ้ครั้น จะกระทำ ตามที่ อิการ์ฟิลด์ มัน เสี้ยม
อิ คิตตี้ มันก็กระตุก หางไว้ ยิก ๆ เรยอ่ะ
จู่ ๆ มันก็รู้สึกแว่บ ๆแม่ง ๆ ขึ้นมา ว่า
เฮ้ยแบ่บนี้ มันไม่ใช่ ทำงี้มันไม่ถูก
ทำแล้ว มัน ไม่หมดจด ไงก็ม่ะลู้ ฯลฯ
มันกลายเป็น สัญชาตญาณ
อาการประมาณเดียวกับเวลา ที่ ศีลมันกระตุก ว่ะ



สิ่งนี้ มันเป็น ภูมิคุ้มกันทางธรรม
ที่บังเอิญติดตัวอิเจ้มาว่ะ เอิ๊ก ๆ
แต่ ไอ้เรื่อง ภูมิคุ้มกัน ทั้งหลายแหล่ เนี่ย
มันเป็นคุณสมบัติเฉพาะตัว ของแต่ละบุคคล
แล้วแต่ เหตปัจจัยที่ สะสมมา ว่ะอิอิ



อืม...เด๋วนี้ เวลาที่ อิเจ้ ไปเพ่นพ่านที่ พันดริฟท์
ห้องที่อิเจ้ เข้าไปเป็น อีแอบ บ่อย ๆ
ไม่ใช่ โต๊ะ สาดหนา หรือว่า ศาลาประชาคม อย่างลื้อ หรอกนะ
ส่วนใหญ่ อิเจ้ เข้าไปสิงอยู่ ที่โต๊ะ สินธร ว่ะ อิอิ


ซึ่ง เข้าไปอ่านกาทู้ของพวกกูรูในนั้น ก็จะเจอกาทู้ปะมาณ
วิเคราะห์แนวโน้มกราฟ + แนะนำเรื่องการบริหารจัดการพอร์ต
และกระทู้ เกทับบลัฟแหลก ในเรื่อง หุ้น และ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ
แถมบางคนก็ตั้งตัวเป็นเซียน
แจกแนวต้านแนวรับอ่อยเหยื่อ
พอแอบไปแทง S หุ้นตัวไหนมา
ก็ รีบ ไปตั้งกาทู้ ปล่อยความลือ แช่งหุ้นตัวนั้น
เพื่อ พาพวก เม่าไปเชือด ด้วยนะ
อิเจ้ก็ ได้แต่มอง พวก เซียนกระบี่ขั้นเทพ
เขาร่ำสุรา และ หาเรื่องตีกัน อย่างตื่นตาตื่นใจ
โดย ไม่ค่อยจะรู้ สี่ รู้แปด อะไร ก๊ะเขาหร็อก



พอมี ใครโพส กาทู้แช่ง แอนด์เชียร์ น้องทองม้วน
ขู่ว่า เด๋วจะตกรถ จะขายหมู จะติดดอย
ตรูก็ตื่นตูมหันซ้ายหันขวา
แล้ว หลับหูหลับตา เชื่อไปโม๊ดดดดดดดดดดดดดดดดด
โดยไม่คิดจะขวนขวายไปศึกษาหาฟามรู้
แล้ว วิเคราะห์ข้อมูล มาแยกแยะด้วยตัวเองเลย
( แบ่บว่า ตรูขี้เกียจ ตรูชอบหั้ยมีคน เอาอาหารมาป้อนถึงปาก ! )
เฮ้อออ สงสัย อิเจ้คงโดนความโลภ มันบังตา
เหมียน อาเฮียร้านขายทองข้างบ้านลื้อ ล่ะมั้ง แหะ ๆ



รู้ไหม หลังจากได้ ไปเร่ร่อนเป็น สัมภเวสี
ชะเง้อ ดูเหล่า เทพ ใน โต๊ะ สินทร เค้าคุยกัน
ทำให้ อิเจ้ ตระหนักว่า ตรูนั้น
มันช่างเป็น อิอ่อนสอนขัน ในเรื่องการลงทุน ซะจิง ๆ
(แมร่ง ใครโพส อะไรต่อมิอะไร ตรูก็หูเบาเชื่อตลอดศก )



อืม...บทเรียน ในครั้งนี้ มันก็ทำให้
อิเจ้ รู้ซึ้งถึงหัวอก ของพวก อิอ่อนทางธรรม มากขึ้นมากเรยนะ
ว่า ทำไม พวกนั้น จึง หน้ามืดตามัว เป๋ไปเป๋มา ได้ง่าย ๆ
เวลา ที่มีเข้าไปอ่านกระทู้ โฆษณา ชวนเชื่อ นู่น นี่ นั่น ในเวบธรรมะ
เฮ้อออ กระทู้ทั้งหลายแหล่ ในเวบ
มันก็มีทั้ง สาระ และ ขยะ นั่นแหล่ะ
ขึ้นอยู่กับว่า ใครจะโชคดี เสพข้อมูล แล้ว แยกแยะ ได้
ว่า สิ่งใด คือ สาระ สิ่งใดคือ ขยะ


และจากอุทาหรณ์ ในห้อง สินธร
มัน ก็ ทำให้ อิเจ้เข้าใจ ลื้อ มากขึ้น นะ
ว่า ทำไม ต้อง ออกโรงตบตี
ขัดคอก๊ะชาวบ้านไปทั่วในเวบธรรมมะ
มันก็คงเหมือน กับการที่มีคน พยาม ตั้งกาทู้
เตือน พวกแมงเม่า ในห้องสินธร
ว่า ให้ระวัง อย่าหลงเชื่อ พวกเมพฯ
เด๋วจะโดน โคตรเซียนกำมะลอ
มันหลอกเอา ไปเชือด ล่ะมั้ง


เฮ้อออ แค่เห็น ลื้อ เข้าไป อ้าปากแพล่ม ๆ
อาละวาดใน กาทู้ธรรมมะ น่ะ
อิเจ้ ก็มองออกเหมือนกันล่ะย่ะ
อืม...คนคอเดียวกัน มันจะอ่านกันออก อ่ะนะ
ก็เข้า ตำรา ไก่เห็นตีนงู งูเห็นนมไก่ นั่นแหล่ะ


ไก่ และ งู มันเก๋าในเกมส์ มันเป็นพวก นกรู้
มัน จึง เก็ท อะไร ๆ ที่เป็น นัยยะ แฝง ในกระทู้
ได้ มากกว่า พวกเป็ดง่อย ที่อ้าปากคอยรับอาหารขยะ
เพียงแต่ ไอ้ไก่โต้ง อย่างลื้อน่ะ
มันก็เหมือนกับพ่อลื้อนั่นแหล่ะ
พอเจอ เด็กสักคน กำลังจะเอามือไปแยง รูปลั๊กไฟ
ลื้อ ก็พร้อมจะ เอะอะ ว้ากเพ้ย
แร้ว คว้าไม้เรียวมาหวดไม่ยั้ง
จากนั้น ก็ก้มหน้าก้มตา
ทนแบกรับความเกลียดชัง
ที่ไอ้เด็กนั่น มันสำรอกใส่




แต่บังเอิญแม่งูจงอาง อย่างเจ้
ชอบ ตัดสิน ประหารชีวิต ชาวบ้าน ด้วยการปล่อย ซะด้วยดิ อิอิ
เจ้เรย ไม่ค่อยจะซีเรียส หรือ เครียด อะไร
เวลา ที่ เจอการ ปรุงแต่ง ทางธรรม กรรมใครกรรมมันวะ


ถ้าเด็กสักคน มันทะลึ่งอยากรู้อยากเห็น
เอามือไปแยง รูปลั๊กไฟนัก
เจ้ก็จะปล่อยให้มันโดนไฟช๊อต
ชักแหง่ก ๆ อยู่ตรงนั้น แป๊บนึงอ่ะ


และถ้าเด็กนั่น มันอึด ไม่ตาย5 ไปซะก่อน
เด๋วมันก็คงเข็ดหลาบไปเอง นั่นแหล่ะ
แต่ ถ้ามันยังไม่หลาบจำ
ก็ต้องให้มันโดนไฟช็อตตายสัก 500 ชาติ
เด๋วมันก็คงจะ เห็นโทษของ ความไม่รู้
และจดจำไว้ในสัญญา เพื่อเอาไป พิณาธรรม ไปเองแหล่ะ เหอ...เหอ...








ไอ้ตี๋ ว่า....

ถ้าในยุคของเราที่เรียกว่า"ถิ่นกาขาว " อั้วว่าป๋าหมักแก
เป็น "กาดำ" เพราะการกระทำไม่เคยเสแสร้งหลอกลวง
ชาวบ้าน ทำตัวเป็นผู้ดีอังกฤษเหมือนตาเฒ่าบางคน


เรื่องที่ลื้อเห็นอีตาแก่เชื้อสาย มอญรามัญ
ดีเด่เสียเต็มประดาก็เพราะ มันควบคุมสื่ออยู่
จากที่เราต้องเห็นภาพตาแก่ใส่โสร่งกินหมากปากเปรอะ
จึงเห็นเป็นท่านผู้เฒ่าใส่สุตรทำเป็นผู้ดี นี่แหล่ะกาขาว
ขนาดแท้ล่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ ว่า....

อืม... แท้งกิ๋วนะจ๊ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ที่ มาเลคเชอร์
หั้ย ฟามรู้ เป็นวิทยาทาน ก๊ะ อิตั้วเจ๊ เรื่อง ถิ่นกาขาว
เฮ้อออ เจ้ เพิ่งจะ เก็ทสะเทือน กับ คำว่า ถิ่นกาขาว
ก็ตอนที่ ลื้อ มาแพล่มหั้ยฟังนี่แหล๊ะ 5555
เนี่ย ก่อนหน้านี้เคยมานั่งขบคิดอยู่ตั้งนานเรย
ว่า อันคำว่า ถิ่นกาขาว ที่ทั่นขรัวโตเคยทำนายไว้ นั้นมันหมายถึงอะไร
ขอบจัยนะยะ ไอ้โตหมาตื่น เข้ามาที่พื้นฝอยหาตะเข็บ แจกแจงหั้ยฟัง อิอิ


เฮ้อออออ แต่เห็นลื้อ ชอบย้ำคิดย้ำทำ
พล่ามถึง แต่ เรื่อง กาขาว กาดำ งี้
อิเจ้เรยอยากจะท่องบทกวีเบญจมาศเหลืองให้ลื้อฟัง
เพื่อเป็น การตอบแทน ที่ลื้อใจดี ชี้แนะเรื่อง กาขาวกาดำ
ทำให้อิเจ้ เก็ทสะเทือน ก็แร้วกันเน๊าะ


สีสันเหลืองล้ำค่า
ขาวบริสุทธิ์น่าชื่นชม
แม้เบญจมาศจะถือเหลืองเป็นหลัก
แต่สีขาวบริสุทธิ์ ก็งดงามไม่แพ้กัน


นี่เป็นบทกวีเบญจมาศเหลือง
ไหนลื้อ ลองท่อง ท่อนต่อไปให้ อิเจ้ฟังหน่อยดิ




อิอิ ถ้าท่องต่อไม่ได้ ก็ม่ายเป็นไรจร้าาาา
ไว้ครึ้ม ๆ ถ้าฤกษ์งามยามดีมีโอกาส เมื่อไร
เจ้จะมาแพล่มเรื่อง


กาเหว่า - กาขาว - กาดำ
และ ปริศนาธรรมอันล้ำค่า ที่ซุกซ่อนไว้ในกลีบดอกเก๊กฮวย




หั้ยฟังก็แร้วกันเน๊าะ ไอ้โซ๊ยตี๋
เผื่อว่า บางที ลื้อจะ สามารถ ทำใจ
ยอมรับความแตกต่าง ของ เบญจมาศ แต่ละดอก
แล้ว บอกเลิก กับ ความยึดมั่นถือมั่น
ที่คิดแต่จะไปเพ่งโทษ กับ สีสัน ของ ดอกเบญจมาศ ซะที


หัดค้นหาประโยชน์ของดอกเบญจตมาศแต่ละสี
แล้วรู้จัก รื่นรมย์กับความงาม ของเบญจมาศแต่ละดอก
ในแบบที่มันเป็น ซะมั่งดิ จะได้ เป็นคน สุขุมคัมภีรภาพ
และ เข้าใจชีวิต เหมียน พี่หม่อมของเจ้ เสียที
ว้า ม่ะพูดดีฝ่า คนบางคนตาเขียวแระ 5555



เอ้า เอา ไอ้นี่ ไปดื่มซะใจลื้อจะได้ผ่องแผ้ว
แล้วหน้าตาดี๊ ดี เหมียน น้องเป้ ของอิตั้วเจ้ อิอิ





 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:7:23:02 น.  

 
 
 
ชอบรูปประกอบบล็อก ฮาดีจริงๆ
 
 

โดย: devilmanb วันที่: 12 ธันวาคม 2554 เวลา:16:16:01 น.  

 
 
 
แวะมาเจิม จร้า

อ่านไปได้ครึ่งเดียวก็หมดแรงแร้วอ่า
น้ำหมากเต็มถัง กันเจงๆ
นู๋บี ยังแร๊งส์ เยอะอยู่ จะมีศาสนาหรือไม่มี
ก็คงรักษาตัวเองไว้ได้ อิอิ ส่วนอิหม่ามื๊ ขอสารภาพ
ว่าหมดน้ำยากะน้ำหมากแระ ขอเกาะขอนไม้ใกล้ตัว
ไปก่อนล่ะวา 555
อาการจิตหลอนของหม่ามิ๊มันเป็นเรื่องเครียดสะสม
แล้วเราไม่รู้มั้ง แบบว่า เพ่งตัวเองเยอะเกิ๊น
ไม่ได้เกี่ยวกับฮอร์โมนสาวทะลุจุดเดือด อะจร้า
แต่ก็ขอบใจที่แนะนำน้า ตอนนี้เป็นปกติแล้ว
ไม่ต้องกินยาคลายเครียดก็หลับได้แล้ว อาการจิตตก
ก็ไม่กำเริบ เท่าที่ได้ลองระลึกเหตุกาณ์ดู ก็สนุกดีนะ
ไม่น่าเชื่อว่าจะมีเรื่องแบบนี้ได้ด้วย และยังได้รู้ว่า
มีคนรักเราจริงๆ นู๋บีเชื่อไหม อิหม่ามิ๊ไม่เคยเชื่อมั่น
ในเรื่องความรักเลยนะ เพราะไม่เคยคิดจะรักใคร
แต่ตอนนี้ต้องกลับมาพิจารณาใหม่ เพราะคนมีห่วงมีภาระ
จะคิดถึงแต่ตนเองไม่ได้แล้ว อย่างน้อยก็รู้จักใส่ใจใน
คนอื่นบ้าง ไม่มีอะไรจะพูดแระ แต่อยากบอกว่า
อิหม่ามิ๊เปลี่ยนไป๋ เยอะเจงๆ เห็นคนอื่นก็เฉยๆ
ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ใครจะชอบจะชังจะหมั่นไส้
ก็ไม่ได้เดือดร้อนไปกะเขา ง่ะ เพราะเราเข้าใจตัวเราเอง
ไง คนอื่นจะไม่เข้าใจเราก็ไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อนแล้ว
ก็มีแต่เป็นสุขสบายดี
 
 

โดย: อิอ่อน IP: 58.9.105.53 วันที่: 18 ธันวาคม 2554 เวลา:22:44:06 น.  

 
 
 
เอ่อ...จะมาบอกว่า อิหม่ามิ๊ ชอบคบหาสมาคมกะคนมีศีลนะจ๊ะ
จะนับถือสาสนาใดหรือไม่นับถือศาสนาใด ก็ไม่ว่ากัน
ส่วนจะมีศีล 5 6 7 8 10 หรือ 227 ก็ไม่มีปัญหาอะไร ถือว่า
คบคนมีศีลก็เหมือนการสมาคมกับบัณฑิตผู้รู้
ย่อมนำแต่ความห่างไกลจากความทุกข์ ส่วนคนไม่มีศีลก็บ๊ายบาย
ไม่จำเป็นก็ไม่ต้องไปข้องแวะ เพราะไม่ได้เป็นแม่พระมาช่วยใคร
ถือคติ คบบัณฑิต บัณฑิตพาไปหาผล คบคนพาล พาลพาไปอับจน

ที่อิหม่ามิ๊ เคารพในพระรัตนตรัย เพราะมีเหตุผลเป็นการ
ส่วนตัว คือตั้งจิตอธิษฐานไปแล้วกะคุงป๋าโจ ไม่ใช่เป็นการ
ยึดมั่นถือมั่นแต่ถือเป็นปฏิปทาร่วมกัน อะจ้า คนเราจะอยู่
ร่วมกันให้บรรลุเป้าหมายมันก็ต้องเดินในทางเดียวกัน
จะได้ไม่ขัดขากันไป แต่ถ้าเป็นอิสระเดินคนเดียว
แสวงหาสัจธรรมคนเดียว มันก็ต้องมีกล้าหาญ กล้าคิด
กล้าทำในเรื่องที่ตนเองมั่นใจ เชื่อใจในตัวเอง ไม่ต้อง
ทำตามค่านิยมของสังคม หนทางยังอีกยาวไกล ยังต้อง
ลองผิดลองถูกกันอีกเยอะ ถ้ามีศีล5 ยังไงก็ยังเป็นคนใน
อุดมการณ์เดียวกัน ละนะ คำว่าศาสนาในสมัยนี้ บางที
มันก็อาจไม่ใช่อย่างที่คนส่วนใหญ่คิด ศีล สมาธิ ปัญญา
มรรคมีองค์8 คือปฏิปทา ที่เราเดินอยู่ ใครทำอยู่ก็ถือ
ว่าเป็นเพื่อนร่วมอุดมการณ์หมดแหละ หุหุ อ่อ นู๋บีศีล6 นิ
อิหม่ามิ๊ ศีล5 ก็ยังพร่องอยู่เลยนะเนี่ย ตอนนี้หม่ามิ๊หายซ่าส์
ไปเยอะแระ ออกแนวขี้เกียจหาเหาใส่หัว หาทุกข์ใส่ตัว
ขออยู่แบบสบายๆ ชิลๆ ไปก่อนดีฝ่า

ปล. นู๋บี เล่นแจกยาเบื่อหมาอาตี๋ผีเน่ากะโรงผุซะแระ
เลยอดดูคารมไก่แจ้ของอาตี๋ต่อเลย555
 
 

โดย: อิอ่อน IP: 124.121.206.169 วันที่: 19 ธันวาคม 2554 เวลา:11:47:34 น.  

 
 
 
อิเจ้ผีเน่า........

หั้ยฟังก็แร้วกันเน๊าะ ไอ้โซ๊ยตี๋
เผื่อว่า บางที ลื้อจะ สามารถ ทำใจ
ยอมรับความแตกต่าง ของ เบญจมาศ แต่ละดอก
แล้ว บอกเลิก กับ ความยึดมั่นถือมั่น
ที่คิดแต่จะไปเพ่งโทษ กับ สีสัน ของ ดอกเบญจมาศ ซะที

หัดค้นหาประโยชน์ของดอกเบญจตมาศแต่ละสี
แล้วรู้จัก รื่นรมย์กับความงาม ของเบญจมาศแต่ละดอก
ในแบบที่มันเป็น ซะมั่งดิ จะได้ เป็นคน สุขุมคัมภีรภาพ
และ เข้าใจชีวิต เหมียน พี่หม่อมของเจ้ เสียที
ว้า ม่ะพูดดีฝ่า คนบางคนตาเขียวแระ 5555
*********************************************************

อิเจ้นี่ ลื้อเป็นอะไรของลื้อว่ะ ยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ เอาเรื่อง
แต่มาคุย อั้วละสุดจะเซ็งเลยว่ะ การเมืองเอย บทกลอนเอย ปรัชญาเอย แม่งไร้สาระ ไอ้ที่แย่ไปกว่านั้น ดันมาสรุป
ว่าอั้ว ยึดมั่นถือมั่น

เอาเรื่องดอกเบญมาสมาถามอั้ว อั้วไม่รู้จัก
แต่อยากถามลื้อว่า ถ้ามีไอ้ขี้เมา ขี้หลีสักคนหนึ่ง มาสอน
มาบอกลื้อ ลื้อจะเชื่อมันไม่ว่ะ เนี่ยบทกลอนของมัน...

"ถึงบางพูดพูดดีเป็นศรีศักดิ์
มีคนรักรสถ้อยอร่อยจิต
แม้นพูดชั่วตัวตายทำลายมิตร
จะชอบผิดในมนุษย์เพราะพูดจาฯ"

บอกได้คำเดีนว อั้วละเกลียดไอ้คนแต่งชิกหากเลย
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 171.97.0.71 วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:3:32:26 น.  

 
 
 
อิเจ้ผีเน่า.....

ใครอีกคนหนึ่ง ก็เล่าให้ฟัง ประมาณว่า
มีผู้พิพากษาคนหนึ่งนั่งกินก๋วยเตี๋ยวอยู่
แล้วจู่ ๆ ก็มีเหตุยิงกันตาย ที่ถนนฟากตรงข้าม
ผู้พิพากษาคนนั้น บังเอิญเห็นหน้าคนร้ายและจำมันได้
แต่ก็ไม่ได้มีใครเฉลียวใจ เรียกท่านไปสอบถาม
ให้ไปเป็นพยาน ( เพราะอยู่คนละฟากถนน )
ท่านเองก็เลยตามเลย ไม่ได้สนใจนัก
เพราะคิดว่าเรื่องนี้ ตนเป็นคนนอก
คงไม่ต้องเกี่ยวข้องอะไรด้วย

แต่แล้ว วันหนึ่ง ท่านกลับต้องมานั่งบนบัลลังค์เป็นผู้พิพากษาคดีนี้
และต้องมาเผชิญหน้ากับผู้ต้องหา ( ที่ทั่นจำหน้ามันได้อย่างแม่นยำ )
ทว่า คดีดังกล่าว ทางตำรวจกลับไม่มีหลักฐานชี้ชัดที่จะมัดตัวคนร้าย
เพราะ ไม่มีใครกล้ามาเป็น พยานชี้ตัวผู้ต้องหาให้
ซึ่งหากต้องตัดสินไปตาม พยานหลักฐาน ที่มีอยู่
ผู้ต้องหาคนนี้ ก็คงจะหลุดคดี (เหมือน ญิ๋งอ้อ แหง๋ ๆ )

*****************************************************************

โอทึ้ง...

อิเจ้อยากบอกว่ะชีวิตจริง มันไม่ดราม่าเหมือน
ไอ้สอราเสี้ยมไปลุยนำแจกถุงยังชีพหรอกน่ะ
ไอ้เวงเอ้ย! เอ็งมีหน้าที่เสนอข่าว ไม่ใช่เสนอหน้า
เขาให้ทำข่าวอ่านข่าวคนอื่น ไอ้เสี้ยมดันเสนอข่าว
ตัวเองไปดร่าม่ากับชาวบ้าน เจ้ว่าไอ้เสี้ยม มันทำถูกหรือ
เปล่าว่ะ ถ้าให้อั้วทาย จากความเห็นข้างบนของลื้อ ลื้อคง
หลงรักไอ้สอราเสี้ยมเข้าเต็มเปาแน่ๆ

อิเจ้เรื่องของผู้พิพากษาหรือศาลที่หรือยกมา มันไม่ง่าย
อย่างที่ลื้อคิดเองเออเอง ไอ้ที่ลื้อเอามาพูดมันพวกศาลพระภูมิ คนเป็นศาลก็ต้องมีใจที่เป็นศาลด้วย

อิเจ้สงสัยจะไม่เข้าใจเรื่องหน้าที่ละมั้ง ตอนที่ศาลไปเห็น
เหตุการณ์มันหน้าที่หนึ่ง คือเป็นประชาชนธรรมดา
ส่วนตอนขึ้นบัลลังก์ศาลแล้วหน้าที่ย่อมเปลี่ยนเปนผู้
พิพากษา อั้วอยากให้เจ้คิดด้วยว่า คนดีนั้นจะต้องเลือก
ในสิ่งที่ดีและทำหน้าทีนั้นให้ดีที่สุด

ไอ้เรื่องที่เจ้ยกมา เจ้ต้องเอาจิตวิญญาณของมนุษย์ใจลงไป
ด้วย ไม่ใช่เอาเขามาเป็นหุ่นยนต์ ด้วยการแต่งเรื่องพล็อท
เรื่องเอาเอง แล้วมาหักมุมด้วยการเลือก

อิเจ้ถ้าเรื่องมันดำเนินมาแบบที่เจ้บอก อั้วว่า ศาลมันเลือก
ที่จะเป็นพลเมืองดีเป็นพยานตั้งแต่ต้นแล้ว มันไม่มาทำเรื่องง่าวๆที่ต้องทำให้ตัวเองไม่สบายใจในตอนท้ายหรอก
สรุปก็คือเจ้ไม่มีหลักการ และที่สำคัญไม่รู้จักหน้าที่

อิเจ้รู้หรือเปล่าว่าสมัยก่อนเขาปกครองคนโดยใช้
รัฐศาสตร์เป็นหลัก แต่มาหลังๆทำไมต้องมีนิติศาสตร์มา
แทน มันก็เพราะจิตใจของมนุษย์ มันไม่มีหลักการ อาศัย
ความชอบส่วนตัว อาศัยกิเลสของตัวมาตัดสินความ แบบนี้
มันขาดหลักความยุติธรรม ถ้าไม่เชื่อลื้อลองถามอิเจ้ขวาน
ดูซิว่า มันเข้าข้างใคร ระหว่างลื้อกับอั้ว ถ้ามันบอกว่า เข้าข้าง
อั้วมันก้โกหกนั้นแหล่ะ สาเหตุจากอะไรลื้อก็รู้
เพราะมันสนิทกับลื้อมากกว่าอั้วไง

คนที่จะมาตัดสินลงโทษใคร มันจึงต้องเป็นไปตามกฎหมาย
ที่บัญญัติไว้ก่อน มันเป็นไปตามหลักความยุติธรรม ..ถ้าลื้อ เป็น
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 171.97.0.71 วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:4:37:44 น.  

 
 
 
ผีเน่า....

ก็อย่างที่ลื้อ ไปอาละวาด เอาก๊ะ WM ลานธรรมจก นั่นแหล่ะ
ศาลมีหน้าที่ พิณา คดี ไปตามหลักฐานพยาน
ที่โจทก์ และ จำเลย เอามาอ้างอิง
ไม่สามารถ เสนอหน้า ไปควานหาหลักฐาน
มาเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่า ใครคือผู้ร้ายก็ตาม
******************************************************************
โอทึ้ง....
แล้วเรื่องของไอ้เว็บมาสเตอร์นี่มันก็คนละพล็อทเลย
ถ้าอีเว็บมาสเตอร์ มันจะไปหาหลักฐานสร้างหลักฐานเอง
มันต้องถอดหมวกใบที่เป็นเว็บมาสเตอร์ออกเสียก่อน
เหตุผลง่ายๆ ถ้าอีเว็บมาสเตอร์อยากจะทำแบบนั้น
มันต้องให้คนอื่นตัดสินความแทนมัน

ลื้อลองคิดดูซิว่าอั้วเสียเปรียบแค่ไหน ผู้ดูแลเป็นคนของมัน
แถมเอาตัวมันมาตัดสินความ มิหน่ำซ้ำให้มันมาช่วยคนของ
มันเถียงกับอั้วอีกหรือ

อิเจ้จะอธิบายความอะไร ต้องพูดให้หมดไม่ใช่ตัดโน้นทิ้ง
หยิบนี่ใส่ ทำเป็นนิยายจักรๆวงส์ๆไปได้
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 171.97.0.71 วันที่: 23 ธันวาคม 2554 เวลา:5:00:42 น.  

 
 
 
เจ้ผีเน่า...

อิเจ๊เอ๋ย อั้วเลือกตอบแต่ในสิ่งที่อั้วตอบได้
แต่เรื่องที่ลื้อไปลอกหนังสือพิมพ์มา อั้วตอบไปไม่ได้ว่ะ
แล้วอั้วว่าป๋าหมักแกก็คงตอบไม่ได้ ฮาๆๆๆๆ
ยิ่งเป็นไทยโพส เนชั่น ผู้จัดกวนนี้อัวขอผ่านฮาๆๆๆ

งั้น ถ้า อิเจ้บอกว่า เจ้ไม่ได้ไปก๊อปหนังสือพิมพ์มา
แต่ อิเจ้ไปเจอมาจาก เวบนี้ล่ะ

//th.wikiquote.org/wiki/สมัคร_สุนทรเวช
****************************************************************
โอทึ้ง.......

สงสัยต้องเล็คเช่อเรื่องการเมือง เรื่องอุดมณ์การให้ฟัง
หลายๆหนถึงจะเข้าใจ

เจ้จะบอกให้ นักรบแท้ นักการเมืองจริง อุดมณ์การณ์เป็น
สิ่งสำคัญ เป็นนักรบ รบเพื่อใครต้องประกาศให้โลกรู้
เป็นนักการเมืองต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่า ฝ่ายไหน

บอกจริงๆลื้อนี่มันไร้เดียงสาว่ะ ลื้อจะให้ทำสงครามด้วยการ
สรรเสริญเยินยอศัตรูหรือว่ะ
เรื่องลื้อต้องดูที่จุดยื่นแล้วกล้าแสดงออก ไม่ใช่ไปดูวิธีการ
แล้วมาชี้หน้าด่าศัตรูตัวเองว่า โกหก

"เล่าปี่" ถ้าไม่ได้ขงเบ้ง ปานนี้คงยังนั่งทำรองเท้าฝางขาย
อยู่เลยมั้ง อิเจ้ลื้อว่า อาแป๊ะขงเบ้งอีชอบโกหกมั้ยล่ะ
และถ้าอีไม่โกหก ศัตรูจะกลัวอีหรือเปล่า ลื้อคิดว่า สงคราม
จะชนะได้ด้วยการมีศีล ห้ามโกหก พูดแต่ความจริงหรือ

จะบอกให้นะ เรื่องศีลเรื่องสัจจะ มันอยู่ตรงที่ ขงเบ้ง
อีประกาศตัวเป็น ลูกน้องเล่าปี่ และช่วยเล่าปี่รักษาเมือง
จนถึงรุ่นลูก ความสัจจ์ความจริงมันอยู่ตรงนี้
มันไม่ใช่ไปดูที่ อีชอบโกหกศัตรู แบบลื้อ

ลื้ออย่าเที่ยวไปมองว่าใครตัดผมรองทรงสั้นทุกคนจะต้อง
เป็นผู้ชาย มันอาจเป็นทอมก็ได้ แล้วก็ไม่ใช่พอรู้ว่ามัน
เป็นทอมก็ไปหาว่ามันโกหก ก็ในเมื่อใจมันเป็นผู้ชาย
มันแต่งชายแล้วจะไปหาว่ามันโกหกได้งัยว่ะ
การกระทำมันต้องดูที่ใจของคนกระทำ ไม่ใช่มาดูที่คนมอง

ป๋าหมักกับขงเบ้งแตกต่างกันตรงไหนว่ะ แล้วอย่าไปหาเรื่อง
อาแป๊ะขงเบ้งแกอีกล่ะ

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.27.222 วันที่: 24 ธันวาคม 2554 เวลา:4:07:31 น.  

 
 
 
อิเจ้ผีเน่า.....
อืม... ดังนั้น ในเรื่องนี้ อิเจ้สมทรง ขอแทงกั๊กจั๊กนิด ว่า
หมอถ้ารักษาคนไข้ แล้วคนไข้ตาย อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
ถ้าหมอไปขโมยยาคนอื่นมารักษาคนไข้ อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
และ ถ้าคนไข้ไปขโมยยาของคนอื่น เพื่อมารักษาตัวเอง เก๊าะ อาจจะผิด หรือไม่ก็ได้
มันขึ้นอยู่กับว่า ลื้อจะเอาหลัก ไหน มาเป็นตัวจับ อ่ะ
ลื้อจะใช้ หลักกฏหมายอาญา , หลักกฏหมายแพ่ง
หลักพรหมวิหารสี่ , หลักกฏแห่งกรรม
หรือ ใช้ หลักธัมมะสังคิณีมาติกา ฯลฯ ล่ะ
ถ้าเป็น สี่หลักแรก หาก เจ้าทุกข์กับจำเลยไปเจรจาต้าอวย
แล้วแอบงุบงิบ ยอมความ กันสำเร็จ
คดีก็มีสิทธิพลิก ได้เสมอนะจ๊ะ พ่อเชอร์ล็อคโฮห์ม เอิ๊ก ๆ
*****************************************************************
โอทึ้ง......

แม่งอีเจ้นี่ไม่รู้จักคำว่า "หลักการหรือว่ะ" ลื้อนี่มั่วได้มั่วดี
มั่วไม่มีศักดิ์มีศรี มั่วตั้งแต่เรื่องศาลแล้วนะ

จะบอกให้ไม่ว่าเรื่องธรรมหรือเรื่องกฎหมาย มันมีหลักการ
ในตัวของมัน คนก็เช่นกันมันก็มีหลักการและหน้าที่เฉพาะ
ของมัน

อีเจ้ถามจริง ทำไมต้องให้อั๊วมานั้งพรื่อ มานั่งแล่งให้ฟังเรื่อง
หลักการอีกว่ะ ลื้อเป็นเภสัชประสาอะไรของลื้อว่ะ
ตอนเรียน อาจารย์ไม่บอกเลยหรือว่า หลักการคืออะไร
หลักการของเภสัชกรคืออะไร
สงสัยลื้อจะหยิบยาไม่มีใบแพทย์ บ่อยๆมั้งเลยไม่เข้าใจ
คำว่าหลักการ

หลักการกับหน้าที่มันต้องเดินไปด้วยกัน มันขาดอย่างใด
อย่างหนึ่งไม่ได้

สมมุติลื้อเรียนจบเภสัชมา แล้วไปเปิดร้านขายยา
ลิ้อว่าลื้อเป็นเภสัชกรณ์หรือเป็นแม่ค้าว่ะ ถ้าอยากรู้ก็ต้องไป
ดูที่ลื้อขายยามีใบสั่งแพทย์หรือเปล่า ถ้าไม่มีลื้อก็เป็นได้แค่
อีแม่ค้าขายยา อย่างที่ชาวบ้านเรียกหมอตี๋นั้นแหล่ะ

ไอ้เรื่องหมอลื้อก็โยงมั่วไปหมด หลักการของหมอก็คือ
จริยธรรมของแพทย์ ถ้าหมอมันมีจริยธรรมแล้ว มันไป
รักษาคนไข้แล้วคนไข้เสือกตาย หมอมันก็ไม่ผิด
แล้วเรื่องป้านวลฉลีกับหมออธิป ลื้อก็ไปคิดใหม่ว่า
ตอนที่มันรักษาเมืยมัน ตอนนั้นมันมีหลักการของ
หมอหรือเปล่า มีจริยธรรมของแพทย์มั้ย ถ้าไม่มีมันก็ไม่ใช่
หมอมันเป็นได้แค่ ฆาตกรที่ใส่เสื้อกราวน์ เท่านั้น
-----------------------------------------------------------------------------------
เจ้ผีเน่า........

กรุณา ยั้งปาก แร้ว แทงกั๊ก ไว้จิ๊ดนุงส์ นะจ๊ะทูนหัววว
เพราะ คำว่า เหตุสุดวิสัย ภาวะจำยอม
และ ดุลพินิจของศาล/ของหมอ
เค้าไม่ได้ มีไว้ เป็น ไม้กันหมา เฉย ๆ นะยะ
( เพียงแต่ คนเรามันจะชอบคำพวกนี้ ไปใช้เลี่ยงบาลี
แอบเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อยู่บ่อย ๆ เท่านั้นเอง อ่ะ หุหุ)

************************************************************
โอทึ้ง.....

แหม่! ทีนี่ล่ะเอามาอ้างนะ ไอ้ว่าเป็นไม้กันหมา ลื้อกำลังเอา
เรื่องดุลพินิจ มาเป็นไม้จะตีหัวอั้ว แต่ไม่รู้จักวิธีตี จะตีหมา
ที่กำลังกระโดดเข้างับคอหอยลื้อ เราต้องยกไม่ตีแบบเหวี้ยงไปข้างๆ ทิศทางของหมาจะได้ผิดเป้าหมาย คันยกไม้สูง
เปิดเป้าซะงั้น

ที่ลื้ออ้างเรื่องดุลพินิจของศาล แต่ความเห็นก่อนหน้า
บอกว่าศาลไปเห็นเหตุการณ์ รู้ว่าใครเป็นฆาตกร
แล้วดันมาถามว่า จะให้ศาลทำงัย

ทำไมไม่ให้ศาลใช้ดุลพิจพิจารณาตัวเองล่ะว่า
เห็นเหตุการณ์คอนแรกแล้วไม่จัดการ เสือกมาจัการตอน
ตัวเองเป็นกรรมการตัดสิน เมิงไม่โดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่
โดยมิชอบค่อยมาเอาเรื่องหมิ่นกับกรู

ไอ้ที่เลี่ยงบาลีอั้วกำลังเห็นเจ้ทำอยู่นะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.27.222 วันที่: 24 ธันวาคม 2554 เวลา:5:16:47 น.  

 
 
 
ผิเน่า....
คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา
ไม่ค่อยจะมีใครเขากล้ายุ่งด้วยหร็อก
เพราะต้องฝากผีฝากไข้ ด้วย
ขืนทะลึ่งมารังแก พวกคุณหมอทั้งหลาย
เด๋ว ชาวบ้านไม่พอใจขึ้นมา
ฐานเสียงจะหดหายได้ เอิ๊ก ๆ
****************************************************************
โอทึ้ง......

อีเจ้นี่โด--ตระเนียนเลย อั้วเห็นลื้อแหกปากด่าอั้วว่า ยึดมั่น
ถือมั่น แต่เท่าที่ดูความเห็นลื้อมา แม่งยกแต่พวก
เหลื่ยมขึ้นมาด่า เจ้จะว่าใครมันต้องกล้าออกตัวอยู่ฝ่ายไหนไปเลย ทำเนียนว่ะ แกล้งโยนหินถามทางแบบนี้ แม่งเด็กจริงๆ

ถ้าไม่อยากให้คนจับได้ มันต้องเอาด.ช. ม๊ากดีแต่พูด มา
เปรียบกับป๋าหมักแกไปเลย ไม่ใช่เอาเหลี่ยมมาเปรียบกับหมัก นี่เขาพวกเดี่ยวกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเสี้ยมว่ะ อีนัง
วัสกาพรหมณ์

ม๊ากกับหมัก แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทำไมไม่เอามาเปรียบ
ว่ะ โธ่ !อีเจ้เหลืองอมสตอเอ๊ย

แล้วเรื่องหมอเรื่องเภสัชเนี่ย ลื้อพูดผิดพูดหัวเป็นหาง
พูดหางเป็นหัวหรือเปล่าว่ะ ชาวบ้านเขาอยากจัดการไอ้พวกหมอซักกาบ่วยใจจะขาด แต่ทำไม่ได้ พอได้เหลี่ยม
มาจัดการให้ คะแนนเสียงพุ่งทะลุเพดาน
เนี้ยถ้ายัยบัวเกี๋ยงช่วยยัยคนที่ออกมาฟ้องร้องหมอ ที่รักษา
จนลูกตัวเองพิการได้ล่ะก็ เสียง300upแน่ๆ

หมอเมืองไทยแม่ง ซาตานในคราบนักบุญทั้งนั้นแหล่ะ
ยิ่งไอ้หมอชักมดลูกอีกคน มันจะประท้วง ห้าเหวอะไรของมัน
นี่ทำให้รู้เลยว่า หมอมันก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่าตาสีตาสา
เพียงด้านกว่าตาสีตาเท่านั้น

อีเจ้ถามหน่อยลื้อไม่รู้หรอกหรือว่า ไอ้พวกหมอเส็งเคร็ง
มันเกลียดเหลี่ยม แล้วมันเกลียดด้วยเรื่องอะไร
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.161.232 วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:2:38:41 น.  

 
 
 
ผิเน่า.....

รับรองได้ว่า ถ้า น้องซูสีไทเฮา ของเฮียเหลี่ยม
ได้ขึ้นแท่นเป็นนายกญิ๋ง แทน แม่ดอกบัวเกี๋ยง ล่ะก้อ
She จะสามารถนั่งว่าราชการหลังม่านไม้ไผ่ยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ
แล้ว สั่งน้องน้ำ ให้หันซ้ายหันขวา ได้เหมือนสั่งก๋วยเตี๋ยว เรยว่ะ
เผลอ ๆ อาจมีใบสั่งให้ เฮียเหลิม เอาบิ๊กแบ๊คยัดปาก พี่หม่อมด้วย
โทษฐาน เสือกดราม่าไม่ลู้จักเวล่ำเวลา
แหม๊ ? นี่ถ้า ทักกี้ ม่ะกลัวโดนครหา
อีคงจะสถาปนา อดีต ภริยา มาเป็น นอมินี ไปแระ อิอิ
*******************************************************************
โอทึ้ง...
อีเจ้อั้วรำคาญลื้อชิกหาย แม่งพูดเป็นอีซ้อเจ็ด
จะบอกให้นะเว้ยเฮ้ย รักจะพูดการเมืองมันต้องพูดด้วยเหตุผล เรื่องมันจะได้จบแบบแฮปปี้เอนดิ้ง ถ้าลื้อหยิบวิธี
ของไอ้แป๊ะลิ้ม หรืออีซ้อเจ็ดมาใช้สงสัยพูดไม่รู้เรื่องแน่

แค่ลื้อติดปะหนังสือพิมพ์ อั้วก็เอียนจนอยากจะอ้วกแล้ว
นี่ดันไปเอาวิธีเฮงซวยของไอ้ลิ้มกับผู้จัดกวนมาใช้อีก
บอกให้อั้วไม่ได้เป็นไอ้ขวัญแผลเก่านะ ถึงจะพูดกับควายรู้เรื่อง โชว์ความเป็นปูชนียบุคคลหน่อยซิ
ทำเป็นอีพวกพ่อแม่บ้านนอก มาออกลูกที่กรุงเทพ ลูกแม่ง
ลืมตัวคิดว่าตัวเอง เป็นเด็กเตบ โถ! อีวัวลืมตีน
อีสลิ่มบ้านนอก โลโซแต่อยากเดินพารากอน อีสะตอตด
เหม็นอยากกินสเต็ก
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.161.232 วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:3:04:15 น.  

 
 
 
ผีเน่า......
อิเจ้ ว่า.....

อืม...ลื้อ ใช้แค่ ความเชื่อ และ ความ ศรัทธา ที่จดจำไว้ในสัญญา
มาเป็น หลัก ในการ พิณาธรรม เท่านั้น ล่ะหรือ ไอ้โซ๊ยตี๋ ?
ผิด ก๊ะ อิเจ้ แฮะ เจ้ ใช้ แต่ ความรู้สึก นำทางว่ะ
ส่วน สมมุติบัญญัติ ต่าง ๆ ใน ใบลานสามตะกร้า เนี้ย
เจ้ ไม่เหลือบตามามอง ให้เสียเวลาทำมาหากิน หร็อก จร้าาา เอิ๊ก ๆ
แหม ? ทำไงได้ล่ะ ก็เมื่ออ่านพระไตรปิฎก แล้ว
อิเจ้ไม่เคยจะเชื่อ หรือ ศรัทธา เรยนี่หว่า
( ออกจะเซ็งก๊ะ ความเก่าคร่ำครึ ในภาษาซะด้วยซ้ำ )
แถมรู้สึกว่า หนังสืออะไรม่ายลู้
อ่านแร้ว ตรูล่ะเบื่อ อิ๊บอ๋าย เรยย
******************************************************************
โอทึ้ง.......
อีเจ้ พระไตรปิฎกไม่ได้มีไว้อ่าน ไว้ท่องจำนะเฟ้ย
คนจะอ่านพระไตรปิฎกเข้าใจได้ คนๆนั้นมันต้องมีปัญญา
สัมมาทิฐิเสียก่อนโว้ย เอาปัญญาไปอ่านมันจะได้ไม่เกิด
สังโยชวิจิกิจฉา

เจ้ก็เหมือนหลายๆคนที่ขี่จักรยานไม่เป็น แต่ดันเสือกสะเออะจะขี่มอเตอร์ไซด์

ที่เจ้ไม่เหลือบตามองนั้นนะถูกแล้ว ไม่งั้นจะเหมือนกับ
ไอ้พวกลานธรรมจก ที่มันชอบโพสพระไตรปิฎก เพียงแค่
เห็นมีสมมุคิบัญญัติคล้ายๆกัน

เรื่องพระไตรปิฎกเขาเอาไว้เป็นธรรมดับธรรมเป็นธ้มมาวิปัสสนา เป็นวิธีดับกิเลสของอริยบุคคล

ลื้อมันไม่เข้าใจเองแต่ดันแหกปากว่าไม่เชื่อไม่ศรัทธา
ตัวเองโง่แล้วมันยอมรับ อ่านไม่รู้เรื่อง ก็บอกว่าอ่าน
ไม่รู้เรื่อง ชอบกลบเกลื่อน
ลื้อนี้มันประเภทโง่แล้วไม่ยอมรับว่ะ555
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.161.232 วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:3:23:53 น.  

 
 
 
ผีเน่า.....
ถ้ายึดตาม ตำราของ เจียงไท่กง
ลื้อคิดว่า ซือแป๋ลื้อ จะมี ปัญญากระดื้บ ๆ
คืบคลาน ขึ้นไปเป็น แม่ทัพของ คนร้อยคน
ได้ เหมียน ทั่น อานันท์ ไหมเนี่ย ?
อีคงมีวาสนาเป็นได้ แค่ ทัพของ อนุภรรยา
หรือ อย่างมาก ก็คง เป็นได้แค่
แม่ทัพของคนแค่สิบคน เท่านั้นง่ะ งิงิ
************************************************************
โอทึ้ง.....
อ้างตำราพิชัยสงคราม แต่ดันยกตัวอย่าง อีแอบ
เป็นได้สูงสูดก็แค่ กง กง คนเก็บกวาดเช็ดถูห้องพระสนม

เอาจูล่ง ไปเปรียบกับขันที สงสัยพูดกันไม่รู้เรื่อง
อั้วล่ะหน่ายกับหลักการของลื้อจริงๆ

จะบอกให้ว่ะ ความสำเร็จของผู้ปกครอง มันอยู่ที่การยอมรับ
ของมวลชน ไม่ใช่ได้รับการเชิดชูจากพวกตุ๊ดพวกแต็ว
ด้วยกันเอง ไอ้คนที่เจ้ ยกมามันแย่กว่าพวกขโมยอีก
มันเป็นขมาย ว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.161.232 วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:3:55:10 น.  

 
 
 
ขอสารภาพว่า ตาจะเหล่เอา

ด้วยว่ามีฟามระลึกนึกถึงสหายน้อยเป็นอย่างยิ่ง เลยลองติดตามอ่านสักระยะ พบว่า ป๋านู๋บีช่างจำนรรจาเป็นอย่างยิ่ง สมควรที่เหล่าฮูต้องฟังให้มากๆ แต่ด้วยสายตาที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าใด จึงได้แต่ส่งสารให้ได้รู้ว่า มีตาเฒ่าเจ้าเล่ห์กะลังคิถึงอยู่

แต่อ่านๆไป มีฟามรู้สึกเฉียดใบหู เฉียดกระเดือก เฉียดขวั่บๆ จนจิตใจไม่8jvpอยู่กะเนื้อกะตัว เกิดร้อนตัวขึ้นมาอย่างช่วยม่ายล่าย ทั้งๆที่หนาวจะตาย

ปรารภแค่นี้ จบดื้อๆแล้วกัน

===========================


อยากบอกป้านู๋บีที่เคารพ และป้านู๋ขวัญผู้แสนจะตรงไปตรงมา รวมทั้งไข่นุ้ยผู้นินจาเป็นระยะๆ ว่า

ขอให้มีฟามสุขในปีใหม่ที่จะถึง ขอให้สมปราถนาในสิ่งที่ต้องการ มีความก้าวหน้าทั้งด้านการงาน ด้านครอบครัว และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขอให้เจริญปัญญายิ่งๆขึ้นไปนะ ขอให้ได้พบกัลยาณมิตรที่เกื้อกูล ชี้ทางสว่าง นำทางจนบรรลุเป้าหมายสูงสุดโดยเร็วพลันนะ

ว่าแล้ว
เลยเอาเพลงมาโม้ซะหน่อย
(ซึ่งที่จินอยากบอกว่า ตั้งใจร้องให้ฟังทีเดียว พูดแล้วจะว่าโม้ เพราะแปะไปสักพักแล้วค่อยมาบอกตอนเรทติ้งตก น่ากลัวจะคลางแคลงใจเป็นแน่แท้ แต่ เชื่อเถอะนะ! เดี๋ยวจะว่าเหล่าฮูมาทิ้งระเบิดอีกแว๊ว ที่จิน กลัวจะเหยียบถูกกับระเบิดมากฝ่า)

//board.palungjit.com/f188/%E0%B8%AA%E0%B8%B8%E0%B8%94%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%81-317793.html

แห่ะๆๆ
มันตลกดีน่ะ เหล่าฮูไม่ชอบร้องเพลงไทยน่ะ ร้องยากจินๆ
แต่ร้องแล้วก็อยากโม้ให้ฟังล่ะ เพราะตอนนี้เปลี่ยนเข้าสู่โหมดบันเทิงชั่วคราว หลังจากถูลู่ถูกังไปช่วยวัดเค้าถางป่า

ที่นี่อ่ะ

//www.antiwimutti.net/forum/index.php?topic=1865.msg31724#msg31724

สนุ๊กสนุก มีเรื่องอยากเล่าแยะ แต่มะรู้อยากฟังรึเป่า เพราะรู้สึกหนาวๆชอบกล
ใจนึงอยากชวนสหายทั้งหลายไปปฏิบัติด้วยกันจินๆเล๊ย

แต่ เท่าที่ชวนมา ยังไม่เคยสำเร็จซ๊ากคน สงสัยได้เดินทางคนเดียวสมปราถนา

แต่ของเค้าดีจินๆอ่า
ไปสำรวจตนเองแค่10วันพบว่า

ที่จิน เหล่าฮูเองยังไม่เป็นสัปปะรดอะไรเล๊ย พับผ่า!
ไม่อยากเชื่อเล๊ย น่าอายแต๊ๆ
(คือ เค้ามีวัดผลด้วยล่ะ ตั้งแต่อนุบาลจนถึงมหาลัย เทียบเคียงระดับตามญาณ16
เหล่าฮูยังไม่ผ่านอนุบาลเลยอ่า โดยไม่ต้องร้องประท้วงใดๆ เพราะมันรู้อยู่แก่ใจว่า ยังไม่ไปถึงไหน รู้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องรอใครให้คะแนนด้วยซ้ำ!)

พอไปลงมือทำการสำรวจตนเองจินๆ ไหงช่างไม่เป็นโล้เป็นพายขนาดนี้ก็ไม่รู้

ที่คิดว่าไปได้คืบหน้าพอสมควรนะ พอเอาเข้าจิน
มันเกิดมานะขึ้นมากเลยอ่า

ทั้งถือดี ทั้งอวดเก่ง ทั้งอวดรู้ ทั้งสารพัดนะ
พอได้สำรวจตนเองจินๆ จะเห็นคนอื่นที่เค้าตั้งใจจินๆและมีฟามก้าวหน้ากั่วเราบานเลย เค้ายอดเยี่ยมจินๆ ฟามตั้งใจสูงมากน่าสรรเสริญทีเดียว!

เหล่าฮูเล่าแล้วรู้สึกขวยเขินเล็กน้อย ดีว่าชโลมม๊อยเจอไรเซ่อไว้ก่อนนิดหน่อย เลยพอเอามาเล่าให้ฟังได้มั่ง

และคิดว่า โชคดีจินๆที่พบแผนที่ที่ถูกต้อง แผนที่ฉบับอื่นๆพอมาเทียบเคียงก็รู้สึกว่า น่าจะเข้ารกเข้าพงเสียมาก แต่ทุกคนต่างก็ถือแผนที่ฉบับถูกต้องของตนเองกันท๊างนั้น เลยจารไนพอสังเขปก็พอ

คิดถึงสหายทุกท่านนะ รวมทั้งโอวทึ้งล่วย

 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.127.67 วันที่: 25 ธันวาคม 2554 เวลา:21:15:09 น.  

 
 
 


อ่ะโหลลลลลล เมอรี่ คริสต์มาส เจ้าค่ะ แควนขับทู๊กทั่นนนนนน


อ่ะแฮ่มมมม คริสต์มาสอีฟ เมื่อตะคืน
มีใครแอบเอาถุงเท้า ไปแขวนไว้
แร้ว อธิษฐาน ขอหั้ยได้ โสดาบัน เป็นของขวัญวันคริสต์มาส
จากคุณลุงซานต้าใจดี มั่งไหมเอ่ย ? อิอิ



อืม...ขอหั้ย แควนขับทู๊กทั่นนนนนน
สำเริงสำราญ เบิกบานฤดีแด
แต่ถ้า ครายทะเลาะกับเมีย เสียไพ่
หรือ ว่า ไม่ได้ โสดาบัน เป็น ของขวัญวันคริสต์มาส
จากลุงซานต้า (อย่างที่อธิษฐานไว้)
ก็อย่าเพิ่ง เสียอกเสียใจ จนต้องมาวีน มาเม้ง มาเห่าแว้ด ๆ
แล้ว 'รมณ์ บ่ จอย ในบล็อกนี้เรยน้าาาาาาาา



ไงก้อค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ ดูจิต (อย่างชิล ๆ ) ไปก็แระกัลนะจ๊ะ ทูนหัววว
ไหน ๆ ช่วงนี้ ก็คงไม่มี น้องน้ำมาท่วมหลังคาบ้านไว้เป็นข้ออ้าง(ให้มั่วนิ่ม) อยู่แร้วนิ
หมั่นเจริญสติบ่อย ๆ เข้า
เด๋ว ปีหน้า ลุงซานต้า ก็คงจาเอา โซดาปั่น
มาซุกไว้ในถุงเท้า ให้ เองแหล่ะจร้าาา



ปล.1
คืนนี้คงตอบ จม.แควน ๆ ม่ะทันแหง๋ ๆ
ขออนุญาตผลัดวันประกันพรุ่ง
รวบยอด ไปตอบ จม. แควน ๆ หลังปีใหม่ ก็แร้วกันเน๊าะ
( ถ้า ตรูม่ะจมน้ำตาย เพราะ คำทำนาย
ของ เด็กชาย ปลาบู่ ซะก่อนอ่ะนะ เหอะ ๆ )




ปล.2

อืม...สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นที่มันเป็น
และ เป็น เช่นที่เราปรุง นี่นะ
เจ้เองก็เป็นเช่นที่เจ้เป็น
และ เป็น เช่นที่ ลื้อ ปรุง เช่นกันนั่นแหล่ะ



เฮ้ออออ ...สงสัย เจ้คงจะเหยาะยาเบื่อหมา
ลงใน ขวดชาเพียวริคุ มากไปจิ๊ดนึงส์ แฮะ
เล่นเอาไอ้เจ้าพิทบูล มันแดร่กแร้ว ถึงกับธรรมะแตก
เม้งซ้าาาา จนตรูขี้หูเต้นระบำไปเรยวุ้ย (งานเข้าอีกแระกรู)
แมร่ง นี่ขนาดมันเห็น ตรู เป็น ปูชะนียะบุคคล นะเนี่ย
ยังแว้ด ๆ แล้ว ขู่ฟ่อ ๆ ซะขนาดนี้
ถ้าเป็นชนชั้นรากหญ้าแบ่บอีไพร่ทงอี
ตรูมิโดนมัน กระโดดเตะก้านคอ หรอกหรือนี่
แร้วงิ เจ้ต้องทำท่ากลัวจนตัวสั่นงก ๆ ด้วยไหมเนี่ย เอิ๊ก ๆ




อ้อ แล้วเห็นเข้ามาเห่ากระปอดกระแปด
ตีสามตีสี่ ก็ยังทะลึ่งมาจ้องหน้าตาถลน
อยู่หน้าจอคอมพ์ ติดๆกันหลายคืนงี้
อิเจ้เป็นห่วง กัวสายตาลื้อจะมีปัญหาง่ะ
เรยแวะเอา ไอ้นี่




มาให้ไอ้โซ๊ยตี๋ (ก๊ะ อาเหล่าฮู ) เป็นของขวัญวันคริสมาสต์จร้าาาา
เผื่อว่า คนบางคน เอาไปใช้หยอดตา แร้ว
จาได้หายตาฝ้าตาฟาง ซะมั่ง อิอิ




ปล.3
อย่าเสียใจไปเรยน้าาาาาา ไอ้เจ้าโลงผุ
ถึงฟามหล่อของลื้อจะไม่เข้าตา เลยไม่มีวาสนา
จะได้ เล่นบท ก้วยยี้ มาคอยรับน้ำเหลือง เจ้บัวป่อง
แต่ลื้อก็น่าจะลองไปแคสติ้ง ก๊ะ ทั่นผู้กำกับเติ้ง
เพื่อเล่นบทพระรอง คู่ก๊ะ แม่ดอกบัวเกี๋ยง
ในละครเรื่องนี้น้าาาาาาาาา



"บรรหาร" เตรียมสร้างละคร "ปรองดองคล้องใจ"









แหม ? ลื้อ ก๊ะ เจ้บัวเกี๋ยงพูดจา ภาษาเดียวกัน งี้
คงจะจบแบ่บแฮ่ปปี้เอนดิ้ง แหง๋ ๆ
เอ๊ะ ? หรือ ลื้อชอบเล่นแนวนี้ มากกว่า ล่ะหว่า ฮา ๆ




.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 26 ธันวาคม 2554 เวลา:0:45:52 น.  

 
 
 
อีผีเน่า.....
เฮ้ออออ ...สงสัย เจ้คงจะเหยาะยาเบื่อหมา
ลงใน ขวดชาเพียวริคุ มากไปจิ๊ดนึงส์ แฮะ
เล่นเอาไอ้เจ้าพิทบูล มันแดร่กแร้ว ถึงกับธรรมะแตก
เม้งซ้าาาา จนตรูขี้หูเต้นระบำไปเรยวุ้ย (งานเข้าอีกแระกรู)
แมร่ง นี่ขนาดมันเห็น ตรู เป็น ปูชะนียะบุคคล นะเนี่ย
ยังแว้ด ๆ แล้ว ขู่ฟ่อ ๆ ซะขนาดนี้
ถ้าเป็นชนชั้นรากหญ้าแบ่บอีไพร่ทงอี
ตรูมิโดนมัน กระโดดเตะก้านคอ หรอกหรือนี่
แร้วงิ เจ้ต้องทำท่ากลัวจนตัวสั่นงก ๆ ด้วยไหมเนี่ย เอิ๊ก ๆ

**************************************************************
โอทึ้ง...

อีเจ้ที่อั้วเม้งแตก ก็เพราะที่แรกคิดว่าลื้อเป็นปูชนียบุคคล
แต่มาดูอีกทีไม่ใช่นี่หว่า ลื้อเป็นได้แค่ปูชนียวัตถุ
ทำไมถึงพูดอย่างนั้น ก็ลองดูความเห็นลื้อ แม่งห่วยว่ะ
เอารูปเอาวิธีการของสื่อโบราณมาปะ เรื่องอื่นพอคุยกันได้
แต่เรื่องการเมืองลื้อใช้ไม่ได้เลยว่ะ ไม่มีความคิดเป็นของ
ตัวเอง ทำตัวเป็นสลิ่มลืมกำพรืด สตอลืมกลิ่น แม่งด่าเขา
ไว้ก่อน โกหกตอแหลกรูไม่สน

อีเจ้นี่แม่งโตแต่ตัว สมองเท่าเม็ดถั่วเขียว รู้จักกันมาตั้ง
นาน ไม่รู้หรือว่าอั้วเป็นคนอย่างไร แม่งแสดงความเห็น
แบบนี้ดูถูกกันนีหว่า เห็นอั้วปัญญาอ่อนหรือว่ะ ถึงเอาเรื่อง
ไร้เหตุเอาแต่ความสะใจมาโพส ลื้อจะด่าใครประชดใคร
อั้วไม่สนใจแต่ให้มันมีเหตุผลประกอบ

แม่งตั้งแต่โครงการ3แล้ว ปล่อยอั้วโพสอยู่ได้คนเดียว
ตัวเองเป็นเจ้าของบล็อก มีเวลาตั้งนานคิดว่า คงไปหาข้อมูล
มาคุย ชิกหายเอ๊ย! ดันไปเอารูปตัดต่อ ใส่คำพูดตอแหล
แถมแม่งเอาความเห็นของสื่อเลือกข้างมาโพส คิดว่าอั้วจะ
เสียอารมณ์กับความสะใจของลื้อหรา เปล่าเลย มันเสียเวลา
ลื้อรู้หรือเปล่า

อีเจ้ลื้อด่าพระพุทธเจ้า อั้วยังไม่สนเลย ขอให้มันมีเหตุผล
ประกอบ แต่นี่แม่งเอาแต่ความสะใจ แม่งห่วยแตกว่ะ
อีเจ็ นี่พอๆกับอีเหยินเจ็ดสีเลยว่ะ แหะๆๆ
--------------------------------------------------------------------------------
อีผีเน่า.....

อ้อ แล้วเห็นเข้ามาเห่ากระปอดกระแปด
ตีสามตีสี่ ก็ยังทะลึ่งมาจ้องหน้าตาถลน
อยู่หน้าจอคอมพ์ ติดๆกันหลายคืนงี้
อิเจ้เป็นห่วง กัวสายตาลื้อจะมีปัญหาง่ะ

********************************************************
โอทึ้ง....

อีเจ้บ้าเอ้ย! ตีสามตีสี่นี่มันเช้าของอั้วแล้ว อั้วนอนตั้งแต่
ทุ่มสองทุ่ม แล้วจะให้อั้วแหกตาตื่นขี้โมง ถ้าไม่ใช่ตีสามตีสี่
แล้วอั้วได้อีเมลส์ลื้อตั้งแต่วันที่12ธค แล้วอั้วมาโพสวันที่เท่าไรหัดดูเสียก่อน ฉะนั้นอย่ามาบอกว่า อั้วถลึงตารอคอย
หน้าคอมม์ เอาเป็นว่าอั้วไม่มีอะไรจะทำ แค่นั้น

แล้วลื้อล่ะดึกคื่นเที่ยงคืน ทำไมยังไม่นอน อย่าบอกน่ะว่า
อยู่เวร แม่งอ้างอะไรไม่ได้ ก็อ้างที่ทำให้ตัวเองดูดี
แต่ที่ไหนได้ใจกำลังพลุ่งพล่านร่านไปหาอีตาม้ากอยู่นี่เอง แหะๆ สังเวทว่ะเหมือนอีเหยินเจ็ดสี แม่งคอยตามคอย
เชียร์ผัวชาวบ้านเขา อาจารย์คะ อาจารย์ขา
แต่พอมาสัมภาษณ์ผู้หญิงด้วยกัน แว็ดๆเข้าใส่
โสโครกหาใดเปรียบ อีเหยิน

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.109.118 วันที่: 26 ธันวาคม 2554 เวลา:3:30:13 น.  

 
 
 
อีผีเน่า....

ปล.2

อืม...สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นที่มันเป็น
และ เป็น เช่นที่เราปรุง นี่นะ
เจ้เองก็เป็นเช่นที่เจ้เป็น
และ เป็น เช่นที่ ลื้อ ปรุง เช่นกันนั่นแหล่ะ

**************************************************
โอทึ้ง..

แหม่เล่นคำตีสำบัดสำนวน เป็นท่าน แหวนแห่งสำนักพิมพ์
พุทธพานิชเลยนะ เดียวนี้หลวมพี่แก เล่นมือเล่นไม้ด้วยนะ ไม่เชื่อลองดูทีวีหลังข่าวซิ อีหน่อยกรูว่าไม่แคล้ว
แร่พโย่วแน่ๆ

เรื่องปรุงเรื่องชงถูกของเจ้ ปรุงอะไรก็ได้อย่างนั้น
แต่เจ้จะมาว่าอั้วปรุงไปด้วยมันไม่ถูกว่ะ อั้วเป็นผลที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่เจ้ปรุง อั้วเป็นคนมาตอบข้อความมาแสดง
ความเห็นของเจ้ เจ้เป็นคนเริ่ม การกระทำของอั้วเป็นไป
ตามหลักอิทัปปัจจยตา ลื้อจุคธูปเรียกอั้วมา อั้วก็มา
ลื้อเริ่มเรื่องอั้วก็ตอบไปตามเรื่องที่ลื้อเริ่ม

แล้วไม่ใช่อั้วจะเป็นแค่ผลที่เกิดจากการปรุงแต่งของลื้อ
แต่อั้วยังทำหน้าที่เป็นสติ เป็นกุศลคอยเตือนว่าอย่าคุยเรื่อง
การเมือง แต่ลื้อไม่สนใจเพราะมีความคับแค้นใจ กับเรื่อง
ที่ไม่ได้ดังใจ อยากได้ผู้ชายหล่อมาเป็นนายก แต่กลับได้ผู้หญิงสวยมาเป็นแทน แถมทำเสแสร้งเอาอีตาชูวิทย์มา
บังหน้า แต่ไม่มีใครเชื่อ เพราะความหลงในราคะมัน
ปิดไม่มิด

อย่าทำเหมือนอีเหยินเจ็ดสี ผัวชาวเขากรูไม่สน
หรืออย่าเที่ยวเอารูปเมียชาวบ้านเขามาตัดต่อ
อย่าลืมผัวเขาเมียใคร ต้องหัดให้เกียรติ์เขา
ไอ้เวร! แม่งเป็นสื่อประสาซ่นครีนอะไรของแม่งว่ะ
น่าสอิดสเอียนว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.109.118 วันที่: 26 ธันวาคม 2554 เวลา:4:01:57 น.  

 
 
 
^
^
^











หยุดเถิดโยมมมมมมมมมมมมมมมมมมมม














ปล. 1
ขออนุยาด ใส่รูปปลากรอบ ไว้เป็นออร์เดิร์ฟ
( ก่อนเสิร์ฟมื้อหนัก เหอ...เหอ... )




ปล. 2
เฮ้ออออ จิง ๆ ตรูม่ะน่าเข้ามาโพส ต่อวงจรกรรม
สร้างวงแหวนโมเบียส แบบซ้ำ ๆ ซาก ๆ งี้เล๊ยยย
ที่จิงน่าจะ ฆ่าตัดตอน ยุติกรรม เสียที
จะได้ขลุกอยู่ในกะลาครอบอันแสนสุขได้
โดยไม่ต้องมีหมาที่ไหนมาเห่า แหะ ๆๆๆ แถวนี้ ให้ระคายเคืองเยื่อแก้วหู
โอ้ มายก๊อดดด นี่ตรูหน้ามืด เผลอไปเอ็นดู ไอ้พิทบูลเจ้าปัญหา ได้งัยเนี่ย



เฮ้ย นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ลื้อรู้ไหม
ว่าทำไมเมื่อวาน ดึกดื่นเที่ยงคืน แล้ว
อิเจ้ถึงได้ถ่อสังขาร มาโพสทำสงครามน้ำลายกับลื้อต่อ ?
ทั้ง ๆ ที่ โดนเม้งซะขนาดนี้
อิเจ้น่าจะ กระโดดถีบปากลื้อ ซะมากกว่าอ่ะนะ



อืม... คงเป็นเพราะ ยิ่งเห็นลื้อพยามมาโล้งมาเล้ง
มาเม้ง ใส่เจ้ แว้ด ๆ เนี่ย
มันก็ยิ่งทำให้เจ้ นึกถึง
ตอนที่ลื้อมาบ่นสารภาพแง้ว ๆ
ก๊ะ อินู๋เอกอน ในบล็อกนี้
เรื่องที่ลื้อไปปะทะคารมก๊ะอิมวยม้วยหลบภัย
จนถูกกระทำยำตรีน แต่ลื้อก็ยังเสือกใจอ่อน
เป็นทุกข์เป็นยากนึกเป็นห่วงอินู๋หลบ มันอี๊ก อ่ะนะ
ม่ะลู้ดิ พอมันแว๊บ ๆ นึกถึงเรื่องนี้แร้ว
ก็เลยกระโดดถีบปากไอ้คนแข็งนอกอ่อนในไม่ลง ว่ะ อิอิ



อีกอย่าง เจ้นึกถึงตอนที่เตี่ยตีลื้อ
เวลาที่ลื้อทะลึ่งเอามือไปแหย่ปลั๊กไฟด้วย
อืม...ตอนที่ลื้อกำลังเม้งใส่เจ้เนี่ย
ลื้อเองก็คงกำลังเล่นบทเดียวกับเตี่ยลื้ออยู่ก็ได้มั้ง
นึกถึงเรื่องนี้ทีไร เจ้เลยก็ม่ะอยากให้ลื้อ
ต้องมาแบกรับความรู้สึกไม่ดี
แบ่บเดียวกับที่เตี่ยลื้อเคยแบกมันไว้นะ



เฮ้อออ สงสัยชาติก่อนนู้น
ไม่ลื้อเคยเกิดเป็นลูกชายคนเล็กของเจ้
ก็คงเป็นเจ้ล่ะมั้ง ที่เคยเกิดเป็นลูกสาวคนสุดท้องของลื้อ
ชาตินี้เวรกรรมก็เลยชักนำให้ต้องมาเม้งกันไป เม้งกันมางี้




เฮ้ย นี่ ๆ ลื้อ ลู้แล้ว เหยียบไว้เรยนะ
ลู้ป่ะ ว่า เวลา ที่อ่านตัวหนังสือ ที่ลื้อ มาโพส เม้ง เจ้ เนี่ย
แทนที่จะขุ่นมัว เจ้กลับต้องมานั่งหัวเราขำก้ากๆ ทุ๊กทีเล๊ย พับเผื่อย
ไม่ลู้ดิ มันรู้สึกเหมือน เห็นเด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆ มาบ่นแง้ว ๆ
แล้ว พยามมาทำตัวเป็นผู้ใหญ่บ้านเป็ด คอยเจ้ากี้เจ้าการจ้ำจี้จ้ำไช อิเจ้ ว่ะ


เลย อยากจะบอกลื้อ ว่า
ลื้อไม่ต้องมาเป็นห่วงเป็นใย อิเจ้นักหรอกน่า
เรื่องการมุ้ง เอ๊ย การเมืองนั่นน่ะ
อะไรเป็นอะไร เจ้ก็พอจะรู้อยู่มั่งแหล่ะ


เฮ้อออ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว
ตรูก็ไม่ได้ ไร้เดียงสาขนาดน้านนนนนน
นี่ เจ้าแม่ดราม่า นะเว้ย เฮ้ยยย ไม่ใช่นู๋น้อยโต๊ะโตะจัง
ถึงจะไปตัดรังไข่มา แต่ไงตรูก็ยังเหมือนเดิ้มมมม
( หมายถึง กวนซ่งติง ลื้อได้ เหมือนเดิม อ่ะ
ขออภัยที่อารมณ์พิเรนทร์ของอิเจ้ ทำให้ลื้อเซ็งจิต เอิ๊ก ๆ )



ปล. 3
อืม.... สงสัย น้ำมหาบำบัดของป้าเช็ง
จะแก้ไข อาการสายตาฝ้าฟาง ของลื้อ ม่ะได้ผลแฮะ
งั้นเอานี่ไป...DDT !




.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:1:31:19 น.  

 
 
 
ผืเน่า..
เฮ้ย นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ลื้อรู้ไหม
ว่าทำไมเมื่อวาน ดึกดื่นเที่ยงคืน แล้ว
อิเจ้ถึงได้ถ่อสังขาร มาโพสทำสงครามน้ำลายกับลื้อต่อ ?
ทั้ง ๆ ที่ โดนเม้งซะขนาดนี้
อิเจ้น่าจะ กระโดดถีบปากลื้อ ซะมากกว่าอ่ะนะ
****************************************************
โอทึ้ง...
รู้ซิทำไมไม่รู้ ก็ลื้อนอนไม่หลับไง กระสันอยากโชว์โง่
อยากเอากิเลสของสื่อ ความชั่วของนสพ มาอวด
ถามจริงที่ลื้อเอารูปเอาความคิดของสื่อมาโพส ลื้อคิดว่า
มันเป็นปัญญาหรือว่ะ เห็นชอบด่าคนอื่นเป็นเสือใบลานเปล่า พวกนั้นยังดีพูดตามจริงตามพระไตรปิฎก แต่ลื้อ
แม่งหยิบเอาเรื่องเมคขึ้นเอง เรื่องที่จะให้คนอื่นชิกหาย

ลื้อนี่แม่งดูถูตัวเอง ให้ราคาคนอื่นมากกว่าปัญญาตัวเอง
แถมเตือนแล้วยังไม่ฟัง แบบนี่เรียกหลงระเริงก็ไม่ปานว่ะ

จะบอกให้นะโว้ย ทุกเรื่องทุกช็อทและทุกรูป ที่ลื้อเอามาโพส
อั้วเห็นมาหมดแล้ว อั้วเห็นในเว็บการเมือง ความรู้สึกที่
เห็นก็เฉยๆ เพราะมันเป็นการกระทำของคนที่เขาเลือกข้าง
เขาประกาศให้รู้แล้วว่า อยู่ฝ่ายไหนเหลือง แดงสลิ่มหรือสตอ

แต่กับลื้อมันไม่ใช่ ลื้อไม่ยอมประกาศตัว ทำเป็นอีแอบ
ชอบเนียน ชอบอีกคนแต่เอาอีกคนมาบังหน้า เพื่อกลบ
เกลื่อนความในใจ มันก็เหมือนอีเหยินเจ็ดสี ที่ทั้งรัก
ทั้งหลงพี่ม้าก แต่แกล้งเนียนว่า เป็นสื่อเป็นกลาง
เหตุมันเป็นแบบนี้ ไม่ใช่ลื้อมาด่าคนที่อั้วหรือเคารพ
แล้วอั้วจะโกรธ
ต่อให้ลื้อด่าพระพุทธเจ้า ด่าสงฆ์ด่าชี ถ้ามีเหตุผลมาประกอบ
อั้วจะไม่ว่าลื้อเลย แต่นี่แม่งเอ้ยกรูเสียความรู้สึกว่ะ

จะคุยกับกรูหยาบคายกรูไม่ว่า กรูขอแค่เหตุผลเท่านั้น
เหตุที่ว่า ก็คือความคิดของมรึงเอง อย่าไปยุ่งความความคิด
ของคนอื่น กรูกำลังคุยกับมรึง ไม่ได้คุยกับสื่อสวะ สถุนนั่น
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.29.29 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:3:25:53 น.  

 
 
 
อีผีเน่า....
อืม... คงเป็นเพราะ ยิ่งเห็นลื้อพยามมาโล้งมาเล้ง
มาเม้ง ใส่เจ้ แว้ด ๆ เนี่ย
มันก็ยิ่งทำให้เจ้ นึกถึง
ตอนที่ลื้อมาบ่นสารภาพแง้ว ๆ
ก๊ะ อินู๋เอกอน ในบล็อกนี้
เรื่องที่ลื้อไปปะทะคารมก๊ะอิมวยม้วยหลบภัย
จนถูกกระทำยำตรีน แต่ลื้อก็ยังเสือกใจอ่อน
เป็นทุกข์เป็นยากนึกเป็นห่วงอินู๋หลบ มันอี๊ก อ่ะนะ
ม่ะลู้ดิ พอมันแว๊บ ๆ นึกถึงเรื่องนี้แร้ว
ก็เลยกระโดดถีบปากไอ้คนแข็งนอกอ่อนในไม่ลง ว่ะ อิอิ
*****************************************
โอทึ้ง.....
อีเจ้เคยดู เปาบุ้นจิน ตอนประหารเปาเหมียนมั้ยส่ะ
จะบอกให้ ถ้าอั้วเป็นเปาบุ้นจิน ต้องมาตัดสินความลื้อ
อั้วจะตัดสินประหารลื้อ ต่อให้โทษไม่ถึงกับประหารก็ตาม
นี่แหล่ะเขาเรียกแข็งนอก

ส่วนอ่อนใน ก็คือหลีงจากที่ลื้อตายหองไปแล้ว อั้วจะดูแล
ครอบครัวของลื้อ ตอบแทนบุญคุณพ่อแม่ของลื้อแทนลื้อเอง
ความแข็งนอกก็คือหน้าที่ อ่อนในก็คือความห่วงใย

ลองย้อนไปดูที่อั้วว่าลื้อ มันก็เหมือนหน้าที่ในสังคมพุทธ
อย่าวางเฉยเมื่อสิ่งที่ไม่ถูกต้อง ต้องประนามคนที่ขาดเหตุผล
ดังนั้น เมื่อเจอคนที่ขาดเหตุผล เราก็ต้องทำให้เขาสำนึก
ยิ่งถ้าเป็นคนที่เรารักสนิทสนมยิ่งต้องเอาให้หนัก
กว่าชาวบ้านเขา
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.169.197 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:3:53:49 น.  

 
 
 
อีเจ้ผีเน่า...
เฮ้อออ โตจนหมาเลียตูดไม่ถึงแล้ว
ตรูก็ไม่ได้ ไร้เดียงสาขนาดน้านนนนนน
นี่ เจ้าแม่ดราม่า นะเว้ย เฮ้ยยย ไม่ใช่นู๋น้อยโต๊ะโตะจัง
ถึงจะไปตัดรังไข่มา แต่ไงตรูก็ยังเหมือนเดิ้มมมม
( หมายถึง กวนซ่งติง ลื้อได้ เหมือนเดิม อ่ะ
ขออภัยที่อารมณ์พิเรนทร์ของอิเจ้ ทำให้ลื้อเซ็งจิต เอิ๊ก ๆ )
****************************************************
โอทึ้ง...
อีเจ้เอ้ย บทละครถ้ามีลื้อเล่นอยู่คนเดียว แล้วก็มีบทดราม่า
บทเดียว ชาวบ้านเขาจะรู้เขาจะอินท์ไปกับบทดราม่า
ของลื้อมั้ย มันต้องมีคนแสดงเพิ่มในบทแอ็คชั่นตบถีบๆๆ
คนถึงจะรู้ว่า อีกคนโหดเพราะอีกคนตอแหล อย่างนี้นี้ถึง
เป็นบทละครสมบูรณ์ตามแบบฉบับโกวเล้ง
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.169.197 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:4:06:41 น.  

 
 
 
เน่ ไม่มีใครอยากฟังเพลงเพราะๆมั่งเร๊อะ
คุยข้ามหัวเฉี่ยวไปเฉี่ยวมา น้ำลายเต็มหัว!
แต่เพื่อมิตรรักแฟนเพลงแล้ว
เหล่าฮูพอทนล่ายน่ะ

อีกอย่าง
อาโอวทึ้งอย่าไปเม้งอาหมวยหลบเลยนะ เค้าน่าเอ็นดูจะตาย เหล่าฮูเคยถูกอาหมวยย้อนศรเข้าให้ ยังนึกเอ็นดูเลย แล้วนี่ลื่อไฉนจึงไม่สัมผัสถึงความอ่อนโยนของนู๋หลบเร๊อะ เหล่าฮูยังหลงเสน่ห์เลยนา เค้าฉลาดเป็นกรด อ่อนโยน และอะลุ่มอล่วยผ่อนปรนกะผู้คน ลื่อจะเอาเป็นเอาตายก็ดูจะแรงไปม๊าง ลดดีกรีนิโหน่ย เอาพอครื้นเครงก็พอมัง

ค่อยๆพูกค่อยๆจาก็ล่าย เดี๋ยวจะไปเตรียมซิงเกิ้ลใหม่มาแปะแล้วกันจะได้ใจร่มๆ ถ้าฟังแล้วยังไม่ถูกจาย!


 
 

โดย: โฮ่งศักดิ์ IP: 171.98.127.67 วันที่: 27 ธันวาคม 2554 เวลา:21:02:14 น.  

 
 
 



เฮ้ยยย อาแปะ ระวังนะ ทะลึ่งไปแหย่ ไอ้ตี๋
ทำเป็นเล่นไปได้ ลู้ปล่าว ไอ้หมอนี่น่ะ
มันเป็น โคตรพ่อพิศาล อัครเศรณี ปลอมตัวมาเล่นเนต เชียวนะนั่น !

เฮ้ออออ แต่ถ้ามัน ปากแพล่ม ๆ แง้ว ๆ ได้ซะขนาดนี้
อิฉันว่า คงไม่มีอะไร ต้องเป็นห่วงไอ้โซ๊ยตี๋มันแระ


เฮ้ย นี่ ๆ ลื้อ เม้ง เสร็จยังฟระ ไอ้ตี๋
ขอเชิญลื้อผ่าศพ ชำแหล่ะซากเฟะ ๆ
กับน้ำหลืองเขละ ๆ ของ อิเจ้ผีเน่า
ให้หนำใจไปเรยนะ ไอ้เจ้าโลงผุเอ๋ย


ถ้าลื้อตั้งข้อกล่าวหา เป็นโจทก์ยื่นฟ้อง เพื่อถอดถอนอิเจ้
ออกจากตำแหน่ง ปูชะนียะบุคคล เสร็จเมื่อไร ก็บอกมา ได้นะ
เด๋ว อิเจ้จะได้เฉ่งกลับ แบ่บรวบยอด เอ๊ย เป็น ทนายหน้าหอ แก้ข้อกล่าวหา
ให้ศาลไคฟงทั่นได้รับฟัง ทีละข้อทีละประเด็น เหอะ ๆ






ปล. 1




ถึง คุณ devilmanb , อิอ่อน , อาเหล่าฮู
แล แควนขับเคลื่อนที่ แบ่บกองโจร ทุกทั่น
ขออภัยเจ้าค่ะ ที่นู๋บี มัวแต่ไปฟัดก๊ะหมาเพลินไปหน่อย
เลยไม่ได้ตอบ จม. แควน ๆ เลย
ไง เด๋วปีหน้าฟ้าใหม่ จาพยามเข้ามาจิ้มดีดต๊อกแต๊ก
ตอบ จม.แควน ๆ นะเจ้าคะ


แต่ตอนนี้ คงต้องขอ นุยาด หายหัวไปสักพัก
และ ขอปลีกตัวไปเกาะติดสถานการณ์อิน้องทองม้วนก่อน
( ช่วงนี้ น้องเค้า กะลังอยู่ในช่วง ขาลง
เลยต้องคอยประคบประหงมกันหน่อย เอิ๊ก ๆ )



อ่ะ แวะเอาลิงค์นี้ เอามาแปะ
ให้แควน ๆ อ่านเล่น ๆ เป็น ดราม่า ขัดตาทัพ อ่ะจ้ะ
เพราะ ลู้สึก อ่านแร้วเข้ากับบรรยากาศ ตอนนี้ ดีว่ะ หุหุ

//drama-addict.com/2010/10/14/แบนอีพริ้งทำไม/




ปล.2
อ้อ แล้ว อยากจะบอกแควน ๆ
ที่ แอบเข้ามาอ่าน แล้วนึกเป็นห่วงนู๋บีอยู่ห่าง ๆ ว่า
การศึกครั้งนี้ ยังไงนู๋บีก็ เอาไหว (และ เอาอยู๊ ) จร้าาาา
ไม่ต้องกังวลใจไปเยยยน้าาาาาาาาาาาา



อืม...ชักง่วงจนหนังตาจะปิดแร้วอ่า
ทว่าก่อนลาไปนิทรา ขอ โชว์ห่วย เขียนแผ่นดิน
บอกแฟนานุแฟน จั๊กหน่อยว่า


ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง.....ฯลฯ


ถึงเราผิด ใครจะล้าง ดาบนั้นคืนสนองงงงง !




.
 
 

โดย: ศรีปาด ราชบัณเฑาะห์ อิอิ (นู๋บี ) วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:1:59:15 น.  

 
 
 
โฮ่งศักดิ์....

อาโอวทึ้งอย่าไปเม้งอาหมวยหลบเลยนะ เค้าน่าเอ็นดูจะตาย เหล่าฮูเคยถูกอาหมวยย้อนศรเข้าให้ ยังนึกเอ็นดูเลย แล้วนี่ลื่อไฉนจึงไม่สัมผัสถึงความอ่อนโยนของนู๋หลบเร๊อะ เหล่าฮูยังหลงเสน่ห์เลยนา เค้าฉลาดเป็นกรด อ่อนโยน และอะลุ่มอล่วยผ่อนปรนกะผู้คน ลื่อจะเอาเป็นเอาตายก็ดูจะแรงไปม๊าง ลดดีกรีนิโหน่ย เอาพอครื้นเครงก็พอมัง
************************************************************
โอทึ้ง....

อาเฮียโฮ่ง ไม่รู้ลื้อไปเอามาจากไหนว่าอั้วเอาเป็นเอาตาย
กับอาหมวยหลบภัย สงสัยที่ลื้อเข้าใจอย่างนั้นเพราะ
อีเจ้ผีเน่าอีชอบโยงเรื่องมั่ว อีเจ้ชอบหาว่าอั้วเป็นปากสุนัข ชอบโฮ่งๆแฮ่ๆใส่คนอื่น อันที่จริงอั้วเอ็นดูอาหมวยหลบภัยอีจะตาย อีใสซื่อ ที่แหย่ไปก็ด้วยความเอ็นดู

มันเป็นความเข้าใจผิด คนที่อั้วตั้งใจเชือด มันเป็นอาซิ้มอีกคน อั้วกะว่าจะเชือดชำแหละหาเนื้อนาบุญในตัวอีว่า จะหนักสักกี่กิโล ลวกน้ำร้อนขูดขนแล้วนะ พอดีมีมรรคทายก
วัดครึ่งกรรมการครึ่งมายุ่ง อาตี๋อย่างอั้วเลยต้องรีบเผ่น
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.169.197 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:3:12:34 น.  

 
 
 
อีเจ้ผีเน่า...

ปล.2
อ้อ แล้ว อยากจะบอกแควน ๆ
ที่ แอบเข้ามาอ่าน แล้วนึกเป็นห่วงนู๋บีอยู่ห่าง ๆ ว่า
การศึกครั้งนี้ ยังไงนู๋บีก็ เอาไหว (และ เอาอยู๊ ) จร้าาาา
ไม่ต้องกังวลใจไปเยยยน้าาาาาาาาาาาา

*******************************************************
โอทึ้ง...

เอาอยู่ เอาไหวจริงเปล่า ! หายไปเป็นเดือนก็ไม่ว่า ขออย่าง
เดียวให้กลับมาพร้อมกับมันสมองที่มีเหตุมีผล อย่าเอาขยะ
มากองสุ่มๆไว้ แล้วนั่งหัวเราะชอบใจ แบบนี้วินิจฉัยได้ว่า
มันแค้นจนสติแตก คนดีๆเขาไม่เอาขยะมาเก็นไว้ที่บ้าน
ตัวเองมีก็แต่อีเจ้ของกรูนี่แหล่ะ แม่งต้องบ้าเป็นอีสมทรง
ของไอ้ฟักแล้วแหง่ๆ
--------------------------------------------------------------------------------------
อีเจ้ผีเน่า..

อืม...ชักง่วงจนหนังตาจะปิดแร้วอ่า
ทว่าก่อนลาไปนิทรา ขอ โชว์ห่วย เขียนแผ่นดิน
บอกแฟนานุแฟน จั๊กหน่อยว่า

ธรณีนี่นี้ เป็นพยาน
เราก็ศิษย์อาจารย์ หนึ่งบ้าง.....ฯลฯ

ถึงเราผิด ใครจะล้าง ดาบนั้นคืนสนองงงงง !
********************************************************
โอทึ้ง..

อีเจ้เนี่ยรู้ๆอยู่กรูไม่ชอบบทกลอน ปชัญญาเส็งเค็ง
ไม่เป็นไรกรูไปลอกเขามาก็ได้ มันใกล้วันเด็กแล้ว
เอาธรรมะสอนเด็กดีกว่า.....หน้าที่เด็ดีจ้า

*เด็กเอ๋ยเด็กม้าก ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน

*เด็กเอ๋ยเด็กม้าก ต้องมีหน้าที่สิบอย่างด้วยกัน

*หนึ่งพาประเทศสู่ปัญหา

*สองรักป๋าด้วยใจมั่น

*สามคอยเลียแข้งเผด็จการ

*สี่วาจาลั่นแต่ไม่เคยบริหาร

*ห้าคนจนไม่อุ้มชู

*หกกูจะกู้มันทุกงาน

*เจ็ดทุจริตทุกโครงการ กินกันไม่หวาดหวั่น
และไม่เกณฑ์ทหาร

*แปดเลือกประชาพิบัติ

*เก้าต้องซื่อสัตย์พันธมาร สนามบินจำต้องปิดทำการ
เพราะแป๊ะลิ้มสั่งการชาติเลยไม่พัฒนา

*สิบยุเพื่อนบ้านให้โกรธ ปลุกคนเทยพิโรธ สมบัติชาติไม่
รักษา

เด็กสมัย "ชาติศักดินา" จะเป็นเด็กที่พาชาติเทยลงคลอง
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.180.221 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:3:52:49 น.  

 
 
 
อีเจ้นู๋บี อั้วเข้าใจลื้อนะว่าชอบ ประชดพวกดราม่า
แต่บางทีมันต้องหัดแยกแยะบ้างสิว่อย
การเมืองเป็นเรื่องจริง ใครดีใครชั่วก็ต้องลากไส้
มันออกมาประจาน แต่ไอ้วิธีของลื้อนี่แม่งสักแต่ว่า
กวนตรีนหาสาระไม่ได้

แล้วอีกอย่างเลิกดูถูกตัวเอง อย่าคิดว่าตัวเองโง่ ไม่กล้าโชว์
มันสมองตัวเอง หลงไปว่าพวกสื่อมันวิเศษวิโส มันสมอง
เลอเลิศ แม่งเอ้ย! จบเภสัชมาได้งัยว่ะ

ไอ้พวกที่มันเรียนสื่อสารมวลชน เพราะมันปัญญาน้อย
มันเลยต้องเลือกเรียนคณะนี้ เข้าก็ง่ายจบก็ง่าย
รู้งี้แล้วเห็นลื้อแม่งไปเอาความคิดมันมาดโพส แล้วดีอกดีใจ
คิดว่าฉลาดเสียเต็มประดา แม่เจ้าประคุณรุนช่องเอ้ย
เสียเซวล์จริงๆว่ะ

อีเจ้อั้วถามที่ลื้อบอกว่าเป็นเภสัชเนี่ย เภสัชเจ้ากรมเป๋อ
ใช่มั้ยว่ะ ลื้อถึงได้ไม่เชื่อมั่นในความคิดความอ่านของตัวเองเลย ลื้ออยู่โรงบาลไหนว่ะ ที่ถามกันไว้จะได้ไม่ไป

วันๆนั่งอ่านแต่นสพ กรูว่าสักวันอีเจ้ต้องเอากระดาษนสพ
ห่อยาให้คนไข้แน่ๆ

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.180.221 วันที่: 28 ธันวาคม 2554 เวลา:4:41:18 น.  

 
 
 
แควนคลับเจ้าขราาาาา คืนนี้ อิเจ้นู๋บีอารมณ์ดีว่ะ
หลังจากที่ตรูดักดาน เปิดเนตเชคกราฟ
นั่งเกาะขอบจอ คอยถ่างตาชะเง้อคอรอ มาตั้งนาน
ในที่สุด อิน้องทองม้วนของพี่ ก็กะลังโดนทุบ จะได้ทำ นิวโลว ซะที
( เย้ ๆๆ ไม่ตกรถแย้ววววกรู )
เฮ้ออ สงสัยจะได้เวลาเมคมันนี่ เก็บตังค์
หา สินสอดไปสู่ขอ ฮาร์ทจัง ซะละมั้ง อิอิ


อืม....ด้วยเหตุปัจจัยดังที่กล่าวมานี้ อิเจ้นู๋บี เรยครึ้มอกครึ้มใจ
ต้องฉลองด้วยการ หาเรื่อง แว่บเข้ามาแพล่ม ๆๆ
ในบล็อกนี้ ก๊ะแควน ๆต่อ อีกจั๊กดอกส์สองดอก อ่ะเจ้าค่ะ
เหอ...เหอ...



อ้อ...อ่านที่ อิป๋าโฮ่งฯ พูดถึงเรื่อง ไอ้ตี๋โฮ เม้ง อิหมวยหลบ
แล้วแม่ง ๆ ไม่แน่ใจว่า มีใคร เข้าใจอะไรคลาดเคลื่อนหรือเปล่านะ
เรยต้อง ขอนุยาด อธิบายเป็น ซับไตเติ้ล ซักเล็กน้อย
เพื่อป้องกัน ปรากฏการณ์ คนละเรื่องเดียวกัน ว่า


อิมวยม้วยหลบภัย ที่ อิฉันพูดถึง ในที่นี้
หมายถึง อินู๋หลบภัย ที่ เวบพลังบิด
ส่วน อาซิ้ม สุดที่ร้ากกกก ของ ไอ้โซ๊ยตี๋
ก็คือ ป้า dangcarry


เธอกับเขา เราสามคน ที่พูดถึงนี่
เมื่อก่อน มักจะ ตบจูบ เอ๊ย มี ปฏิสันถาร กัน เป็นประจำ
ที่ เวบ พลังบิด อาทิเช่น ในกาทู้นี้

//board.palungjit.com/f4/รู้แล้ว-ละ-ได้-261156-3.html



ปล 1.
อ่ะแฮ้มมม ป๋าโฮ่ง เจ้าขราาาาา
ถ้าพอจะมีเวลา นู๋บีขอ นุยาด หลอกใช้ เอ๊ย ไหว้วานหน่อยจิ
ฝาก ส่งสัญญาณควัน PM ไปบอก อินู๋หลบ ก๊ะ อาซิ้ม ที
ว่า มีไอ้ตี๋ปากหมา แอบมานินทา พวกอี อยู่ในบล็อกนี้


น่านะ ช่วยนู๋บีหน่อยเน๊าะ เพราะ โบราณว่า
ศัตรู ของ ศัตรู คือ มิตร ! เอ๊ย ไม่ใช่สิ
นู๋บีหมายถึง การช่วยให้หนุ่มสาว
เค้าได้ปรับฟามเข้าใจกัน นี่
มันจาได้ อานิสงค์ มากมายเรยอ่า
เผื่อว่า ชาติหน้า พวกเราจะได้มี เนื้อคู่หน้าตาดี
เป็น นายก นกแก้ว ก๊ะ สุดหล่อดีเลย์ มั่งไง อิอิ



ปล. 2
นี่แหน่ะ ไอ้'ทึ้ง คนอย่างอิเจ้ของมรึง
ไม่เคยใช้ กระดาษ นสพ.ห่อยา นะยะ
เพราะว่า ใช้แร้ว มันดู โลโซ ว่ะ เอิ๊ก ๆ
ยารักษาโรค นะเว้ยเฮ้ย ไม่ใช่ กล้วยทอด หรือ โกเต๊กส์
ตรูไม่ได้สิ้นคิด ขนาดนั้น


อืม... เนื่องจากโอกาสที่วันนี้อิเจ้ อารมณ์ดี
และ โทษฐานที่ ลื้อ ทำให้ อิเจ้นั่งหัวเราะกรั่ก ๆ เป็นอิบร้า
ตอนที่ เปิดเนตเชคเรทติ้ง เมื่อเช้านี้
แล้วต้องเจอนั่งฟังลื้อแหกปากร้องเพลงหน้าที่เด็กม๊าก
อิเจ้เก๊าะเรย อยากจะสมนาคุณลื้อ
ด้วยการเอา น้ำลายเสือกระดาษฟางเปื้อนหมึก
ที่ อิเจ้ เคยอ่าน สมัยหลายปีก่อน
มาให้ ลื้อ อ่าน เล่น อ่ะจ้ะ ลองอ่านดูน้าาาา


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:1:37:43 น.  

 
 
 
#############################


ชักธงรบ

ค่ารักษาหารสาม


มาตรา 14 (3)ร่าง พ.ร.บ. ยาฉบับใหม่ แยกแพทย์ ทันตแพทย์
และสัตวแพทย์ เป็นเพียงผู้ตรวจรักษา ส่วนเภสัชกร กำหนด
ให้เป็นผู้จ่ายยาเป็นประเด็นที่กฤษฎีกา กำลังตรวจข้อความครับ
กฤษฎีการเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ ถามกลับมาทางสาธารณสุข
สาธารณสุขก็เกิดอาการหันรีหันขวาง
หันไปหาถาม แพทยสภา สภาเภสัชกรรม
ทันตแพทย์สภา สัตวแพทย์สภา สภาพยาบาล จะเอายังไง?


หากสดับตรับฟังจากกระแสที่ออกมา ก็แน่นอนกลุ่มแพทย์
โดยเฉพาะแพทย์ที่เปิดคลินิกไม่เห็นด้วยเพราะถูกแย่งอำนาจการจ่ายยา
โอกาสที่จะได้กำไรจากค่ายา ซึ่งใช้วิธีเหมารวมกับค่ารักษา ก็จะหมด
มุมมองนี้ ดูเป็นการช่วงชิงกำไรระหว่างแพทย์กับเภสัช


แต่ความจริงที่มากกว่า แพทย์วินิจฉัยโรคแล้วก็จ่ายยา
ยาอ่ออนยาแรง ความถี่มากน้อย เป็นกระบวนการรักษาติดพัน
คนไข้รักษาไปแล้วถึงเวลากลับมาตรวจอีก หมอก็จะวินิจฉัยใหม่ เลิกให้ยา หรือให้ยาต่อ
วงจรนี้ดูจะเป็นธรรมชาติของการตรวจรักษาที่คุ้นเคย และก็ดูจะมั่นใจกันมานาน
แพทย์เรียนวิชารักษาโรค มีความรู้การให้ยาฐานความรู้เดียวกัน

การให้แพทย์ตรวจแล้วจ่ายยาติดตามผลการรักษา
นี่คือการรักษาแบบองค์รวม ไม่แยกส่วน ประสิทธิผลน่าจะมากกว่า
ในความรู้สึกของชาวบ้าน ยังคุ้นเคยกับยาของหมอ
จนไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อต้องถือใบสั่งยาไปซื้อจากเภสัช
ความรู้สึกมั่นใจจะลดลงไปหรือเปล่า


แต่ฝ่ายเภสัช เขาก็มีเหตุผล การจ่ายยาผิดจากคลินิกมีมาก
เป็นปัญหากระทบระบบสาธารณสุข เพราะแพทย์มักใช้ผู้ช่วยจ่ายยา
แยกให้หมอตรวจรักษา แล้วไปซื้อยาจากเภสัช ความรู้สึกมั่นใจ ปัญหานี้ก็หมด
เหตุผลการใช้ยาผิด เพราะแพทย์ไม่ได้จ่ายยาเองฟังแล้วไม่เคลียร์
เท่าที่ผลมีประสบการณ์ คลินิกเล็กๆแพทย์มักจ่ายยาเอง
คลินิกใหญ่ก็มักใช้พยาบาล พื้นฐานความรู้เรื่องยา ผลเข้าใจว่าน่าจะพอ กัน


น้ำหนักฝ่ายที่ต้องการแยกการจ่ายยาจากมือหมอ
ผมรู้สึกว่าเบาเกินไป ยิ่งเบาลงไปอีก
เมื่อได้ฟังฝ่ายหมอบอกว่า ถ้ากฎหมายนี้ออกมา
บริษัทยาฝรั่งก็จะตั้งร้านจ้างเภสัชขายยาสนุกมือ
ว่ากันว่า ร้านขายยาคนไทย ก็จะต้องเจ๊งไปเหมือนร้านโชห่สยเจ๊ง
เพราะบริษัทฝรั่ง ประเด็นนี้ ผลยังเห็นเป็นประเด็นรอง…
ข้อต่าง ไม่ว่าราคากรือมาตราฐานจากร้านขายยาที่มีเภสัชไทยหรือฝรั่งคงไม่ต่างกันมากนัก
ประเด็นที่น่าห่วง ผมเก็นประเด็นเดียว
เจอแพทย์ก็ต้องจ่ายยาค่าแพทย์
เจอเภสัชก็ต้องจ่ายเภสัช ที่มีบริษัทยาวางระบบแชร์ส่วนแบ่ง
ถามว่า ค่ารักษาตามกระบวนการหารสาม จะแพงขึ้นอีกเท่าไหร่?
จะออกกฏหมายมีปัญหา เที่ยวไปถามแพทย์ ถามเภสัช


ทำไมไม่ถามชาวบ้าน ถ้าเขาบอกตรงกัน
ยังมั่นใจกับการรักษาของแพทย์แบบเดิมๆ
ซึ่งหากจะว่าไป ก็เข้ายุคเข้าสมัย
กับกระบวนการบริหารจัดการ แบบวันสต๊อปเซอร์วิส ของเก่าดีอยู่แล้ว
สะดวกประหยัด มั่นใจได้มากกว่าอยู่แล้ว
จะไปแก้ทำไม? กฎหมาย หือ!หรือว่านายฝรั่งสั่ง



กิเลน ประลองเชิง

##############################

อิทัปปัจจยตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้จึงมี
เฮ้ย ไอ้ตี๋ ลื้อลองทาย ซิ
ว่า หลังจาก ตัวหนังสือ ของ ไอ้เสือกระดาษฟางตัวนี้
มันกระแทกตาอิเจ้ แล้ว ลิงค์ ข้างล่างนี้อันไหนบ้าง
คือ ผลที่เกิดจากการปรุงแต่ง ของอิเจ้

V1
ร่างพ.ร.บ.ยาใหม่ทำร้ายประชาชน
//medinfo.psu.ac.th/pr/WebBoard/readboard.php?id=1266




V2
พ.ร.บ. ยา - ค่ารักษาหารสาม - โครงการสวาปามเอื้ออาทร ?

//www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/silom/topic/B2527742/B2527742.html




แมร่ง ถ้าตอบไม่ถูกใจเจ้นะ
ตรูจะล่ารายชื่อ ยื่นถอดถอนมรึง
ออกจากการเป็น ไอ้โลงผุคอยรองรับน้ำเหลือง ของตรู


ปล.3
อ้อ ! ส่วน ลิ้งค์อันเนี้ยะ อิเจ้แถมมมมมมม
( แบ่บว่า ช่วงโปรโมชั่น เอิ๊ก ๆ )




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:1:50:31 น.  

 
 
 
อีผีเน่า....

อิทัปปัจจยตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้จึงมี
เฮ้ย ไอ้ตี๋ ลื้อลองทาย ซิ
ว่า หลังจาก ตัวหนังสือ ของ ไอ้เสือกระดาษฟางตัวนี้
มันกระแทกตาอิเจ้ แล้ว ลิงค์ ข้างล่างนี้อันไหนบ้าง
คือ ผลที่เกิดจากการปรุงแต่ง ของอิเจ้
*******************************************************
โอทึ้ง...

อีเจ้เห็นหรือยัง ที่เจ้บอกว่า พวกทักกี้ไม่กล้ายุ่งกับพวกหมอ
เพราะกลัวประชาชนไม่เลือก มันคนละเรื่อง
มันเพราะทักกี้ไปยุ่งกับหมอ พวกหมอมันถึงได้เกลียดทักกี้ยังกะขี้

ไอ้แก่กระจั๊วนี่แม่งอีกคน หาแดกง่ายดี พูดเองเออเอง
สันดานเสียไม่เปลี่ยนกี่ปีๆ ก็มุขเดิม ยกโน้นยกนี่มาแล้วก็หักมุมด่าเขา
ไอ้พวกนี้ใกล้ลงโลงอยู่แล้วอั้วหลงดีใจ
มันดันเสือกเอาเชื้อชั่วถ่ายทอด ให้สื่อรุ่นลูกอีก

ไอ้ปีศาลคาบปากานี่มันพูดภาษาอะไรของมันว่ะ
ไม่รู้มันเอาอะไรเป็นตัวตั้ง
หลักการใหญ่มันอยู่ที่คนออกพ.ร.บ. จะถามหาเหตุผล
มันต้องไปถามร.ม.ต.สาธารณสุข และต้องถามว่า สาเหตุที่
ออกพ.ร.บ.นี่ ส่วนดีส่วนเสียที่ประชาชนจะได้รับมีอะไร
ไอ้แก่กระจั๊วนี้มันเสือกรู้ดีไปหมด

ตัวมรึง มันกำลังทำอย่างที่มรึงว่าเขาอยู่ ดันเสือกพูด
ว่า ทำไมไม่ถามชาวบ้าน แม่งเอยตัวมรึงนั้นแหล่ะ ถามชาว
บ้านหรือเปล่า แล้วมรึงดันเอาสมองถั่วเขียวบอกว่า เภสัช
ตอบไม่เคลียร์ ตัวมรึงนั้นแหล่ะไม่เคลียร์แถมด้านอีกต่างหาก ถุย! ไอ้ไส้เดือนดิน มาลองเชิง

ความเห็นมรึงมันเป็นความเห็นของหมอทั้งนั้น ไอ้แก่นี่หน้าด้านว่ะ แม่งอ้างชาวบ้านเฉยเลย
กรูมองยังไง มันก็แค่หมอมันกำลังปกป้องผลประโยชน์ของ
มัน แล้วมีไอ้แก่อย่างมรึงคอยสนับสนุน แบบลำเอียง
มองผ่านความสำคัญของ อาชีพที่มรึงดูว่าด้อยกว่าอาชีพหมอ
ที่สำคัญมรึงไร้จิตสำนึกที่จะรู้ถึงความปลอดภัยของชาวบ้านตาดำๆ

พ.ร.บ.ฉบับนี้กรูดูแล้ว เข้าแบ่งหน้าที่ไว้เหมาะสมแล้ว
โดยคำนึงถึงความปลอดภัยในการรักษา ไอ้แก่มรึงอย่า
อวย หมอมากไป หมอมันไม่ใช่เทวดา กรูเนี่ยล่ะตบ
กระบาลหมอบ่อยไป กรูไม่ได้โม้ที่กรูตบได้เพราะมันเป็นเพื่อนแถมคบกันมาตั้งแค่เด็ก กรูถึงได้รู้ว่าคนที่เป็นหมอได้ นิสัยตอนเป็นเด็กมันเป็นอย่างไร พ่อแม่มันเลี้ยงมันมา
อย่างไร จะบอกให้พวกนี้มันมีความเป็นพ่อค้าอยู่ในสาย
เลือด ที่มรึงเห็นมันพูดจาเรียบร้อย ก็เพราะได้รับการสั่ง
สอนมาจากพ่อแม่ ว่าการเอาใจลูกค้าสำคัญที่ภาพลักษณ์

ที่กรูพูดมาถ้าไม่เชื่อ มรึงไปถามหมอเสริมหรือหมอวิสุทธิ์
ดูว่าจริงหรือเปล่า ยังมีอีกคนหมอที่เป็นผัวป้านวลฉวีแต่ราย
นี้คงถามไม่ได้เพราะมันกลายเป็นศพเหมือนเมียมันไปแล้ว

อีเจ้ไว้จะมาวิจารณ์ความเห็น ไอ้กระจั๊วเฒ่าให้ฟังที่ละ
ประโยค กรูอ่านมันวิจารณ์แล้วมันอยากอ้วก ขอตัว
ไปอ้วกก่อนล่ะ

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.109.93 วันที่: 29 ธันวาคม 2554 เวลา:4:34:53 น.  

 
 
 




อนึ่ง เนื่องจาก ลิ้งค์ อันนี้


พ.ร.บ. ยา - ค่ารักษาหารสาม - โครงการสวาปามเอื้ออาทร ?


//www.atriumtech.com/cgi-bin/hilightcgi?Home=/home/InterWeb2000&File=/home2/searchdata/Forums/http/www.pantip.com/cafe/silom/topic/B2527742/B2527742.html


อิ จขกท. มันโพสซ้ำ ๆ ซาก ๆ
ซะจนอ่านแร้วมึนมากมาย อ่า
อิเจ้เรย ไปคุ้ยตัวหนังสือเรื่อง พรบ.ยา
ที่เคยสะสมไว้ในคอลเลคชั่น มาแปะเพิ่มเติม ไว้ในบล็อกนี้อ่ะ
(ทั้งส่วนที่เจ้เคยเขียน และส่วนที่ ชาวบ้านเข้ามาถก )



https://www.bloggang.com/viewblog.php?id=bsonj&date=08-02-2009&group=4&gblog=3


แควนคลับของเจ้จะได้อ่านได้อย่างบริดวก ง่ะ
จะได้รับรู้กันเสียที ว่า ฉายา หนึ่งเดียว เขียวมะกอก นี่
เดี๊ยน ไม่ได้มา เพราะ โชคช่วย นะคะ
แต่ว่าได้มาเพราะ พรสวรรค์ล้วน ๆ ฮ่ะ โฮ่ ๆ



อืม...จำได้ว่า ตอนที่เขียนนั่นน่ะ
เจ้ ส่ง ลิงค์กระทู้นี้ ไป ให้อิตา กิเลนฯ อ่าน
ผ่านทางเวบไทยรัฐ ด้วยนะเฟร้ย
แต่ม่ะลู้ มันจะได้อ่านไหม ว่ะ
เพราะ ส่งไปแล้วก็ หายจ้อย เงียบกริ๊บบบบบบ 5555



เออ แร้วไงอิเจ้คอยจะชะเง้อคอรอดูจร้าาาาาาา
ว่า ลีลาการเต้นฟลอโชว์ เอ๊ย การเต้นสเตปแรพโย่ว
ของ ไอ้ทึ้งทมิฬ นี่มันจะ ถมึงทึง แค่ไหน ?
( และ ตรูจะโดน หางเลข ไหมว้าาาา



อ้อ และถ้า ลื้อแพล่มๆจึกทึ้ง อิตากิเลน เสร็จเมื่อไร
เด๋ว หลังปีใหม่ เจ้จะได้เข้ามาชำระสะสาง
แก้ต่างคดีหมิ่นฯ ทั้งหลายแหล่ที่ไอ้ตี๋ขี้ระแวง
มันสะแหล๋น มาแจ้งฟามเท็จ แล้วยัดยาบ้าให้ตรูเสียที
แล้วก็จะได้ มาโพสตอบ จม.แควน ๆ ต่อ
ก่อนที่จะขอตัว หายหัวเข้ากะลา
ไปซุ่มรจนามหากาพย์ธรรมโม๊ะ ด้วย



ปอลิง


อ่ะแฮ้มมม แฟนานุแฟนจ๋าาาาาาาาาาา คราวนี้เชื่อหรือยังล่ะ
ว่า การศึกครั้งนี้ ยังไงนู๋บีก็ เอาไหว (และ เอาอยู๊ )
โดยม่ะต้องใช้บิ๊กแบ๊กยัดปากไอ้ทึ้งถมึงทึง ด้วยน้าาา เจ๋งป่ะ ? หุหุ


แหม ? ก็แค่ ใช้กุศโลบาย
แบบเดวกับที่ อีพริ้งดราม่า มันใช้แค่นั้นแหล่ะ






เฮ้อออ เป็นอย่างที่คุณจ่า ว่าไว้ จิง ๆ ด้วยแฮะ


ถ้าอยากกลบข่าวเอี้ย ๆ ของคนนึงๆ
ให้เอาเรื่องที่เอี้ย กว่าของคนที่ดังกว่ามาพูดแทน
เผื่อว่าคนจะได้ลืมคุณงามความเอี้ยของอีกคน !?!



โอ้ อนิจจา ดราม่าเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า


ถ้ามี ไอ้พิทบูลบ้าเลือด มันเดือดดาล
กำลังจะกระโดดเข้ามางับคอหอยเรา
ก็ไม่จำเป็นต้องคอยยกไม้ตีแบบเหวี่ยงไปข้างๆ หรอกน้าาาาา
แค่ เขวี้ยงไม้กันหมา ไปให้มันไกลๆ ตัว
เพื่อเบี่ยงเบนฟามสนใจก็พอ
เด๋วไอ้พิทบูลจอมโหด
มันก็จะเปลี่ยนเป้าหมาย
กระโดด ไปไล่งับ ไม้กันหมา นั่น
แทน การรี่เข้ามา ขย้ำคอหอยเรา เองอ่ะ อิอิ


เอาล่ะเว้ย เฮ้ยยยยยยย คดีพลิกกกกก !?!
เอ๊ะ หรือว่าจะเป็น มวยล้มต้มคนดู ล่ะหว่า ฮา ๆ





 
 

โดย: อีพริ้งดราม่าของคุณจ่าพิชิต อิอิ (นู๋บี ) วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:0:42:42 น.  

 
 
 
ไอ้ลามีเขา ปะลองเชิง....
ร่าง พ.ร.บ. ยาฉบับใหม่ แยกแพทย์ ทันตแพทย์
และสัตวแพทย์ เป็นเพียงผู้ตรวจรักษา ส่วนเภสัชกร กำหนด
ให้เป็นผู้จ่ายยาเป็นประเด็นที่กฤษฎีกา กำลังตรวจข้อความครับ
กฤษฎีการเองก็ไม่ค่อยแน่ใจ ถามกลับมาทางสาธารณสุข
สาธารณสุขก็เกิดอาการหันรีหันขวาง
หันไปหาถาม แพทยสภา สภาเภสัชกรรม
ทันตแพทย์สภา สัตวแพทย์สภา สภาพยาบาล จะเอายังไง?
*********************************************************
โอทึ้ง.....

ไอ้เฒ่ามรึงนี่พูดแล้วดูดีไปหมด พูดเองตอบเองตามสูตร
ของพวกมรึง พวกที่มรึงไปถามเขา เขาทำอย่างมรึงได้
หรือว่ะ ที่พวกมึงทำเนี่ยน่ะชาวบ้านแบบกรูเรียก "ไอ้จังไร
แม่งไม่มีความรับผิดชอบ"

ไอ้เวง! กฤษฎีกาก็บอกว่า อยู่ในขั้นตรวจสอบ มันเกี่ยว
กับข้อกฎหมายต้องทำอย่างละเอียด

ไอ้แก่นี่แม่งทำเป็นอันธพาล จะเอาคำตอบให้ได้ เที่ยวไป
ขาดคั้นเอากับ แพทย์สภา สภาเภสัช....ฯลฯ

ไอ้กระจั๊วเฒ่านี่แม่งพูดไม่รู้ฟังว่ะ เรื่องมันส่งไปกฤษฎีกา
แล้ว กรูดูแล้วไอ้แก่มรึงเหมือนพวกวัยรุ่น กำลังหาตามหา
หญิงสาวพรมจรรย์ในซ่องว่ะ

พวกมรึงยิ่งกว่าหมาบ้า ประเภทเซาซี้ถาม เขาตอบไม่ได้
แม่งก็ยียวนจะเอาคำตอบให้ได้ ถ้ามรึงมาถามกรู
กรูจะตอบแบบลุงหมักใส่มรึงเลยว่า.....
"เมื่อคืนมรึงไปเสพเมถุนกับใครมา"
-------------------------------------------------------------------------------
ไอ้กาจั๊วเฒ่า....
หากสดับตรับฟังจากกระแสที่ออกมา ก็แน่นอนกลุ่มแพทย์
โดยเฉพาะแพทย์ที่เปิดคลินิกไม่เห็นด้วยเพราะถูกแย่งอำนาจการจ่ายยา
โอกาสที่จะได้กำไรจากค่ายา ซึ่งใช้วิธีเหมารวมกับค่ารักษา ก็จะหมด
มุมมองนี้ ดูเป็นการช่วงชิงกำไรระหว่างแพทย์กับเภสัช
************************************************************
โอทึ้ง..

มรึงก็รู้อยู่เต็มอกว่า หมอมันกำลังหวงผลประโยชน์
สันดานยังไปเชียร์มันอีก แล้วเภสัชมันไปเกี่ยวอะไร
ด้วยว่ะ คนที่ทำเรื่องพรบนี่คือรมตสาธารสุขไม่ใช่หรือ

ถ้ามรึงจะพูดเรื่องผลประโยชน์เรื่องกำไร มรึงต้องไป
ดูที่หมอกับรมตสาธารสุข มรึงนี่จังไรจริงๆว่ะ สักแต่ว่า
มีปากกานึกจะเขียนอะไรก็เขียน ถามจริงเคยใช้
วิจารณญาณบ้างหรือเปล่าว่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
กาจั๊วเฒ่า....


การให้แพทย์ตรวจแล้วจ่ายยาติดตามผลการรักษา
นี่คือการรักษาแบบองค์รวม ไม่แยกส่วน ประสิทธิผลน่าจะมากกว่า
ในความรู้สึกของชาวบ้าน ยังคุ้นเคยกับยาของหมอ
จนไม่รู้เหมือนกันว่า เมื่อต้องถือใบสั่งยาไปซื้อจากเภสัช
ความรู้สึกมั่นใจจะลดลงไปหรือเปล่า
**********************************************************
โอทึ้ง....
ไอ้นี่ชอบอ้างชาวบ้าน แถมเป็นชาวบ้านที่ไม่มีปากมีเสียง
และไม่รู้ถึงขบวนการที่ว่าอีกด้วย

ไอ้กาจั๊วถามมรึงหน่อย ถ้ามรึงไปหาหมอที่รพของรัฐ
อย่างเช่นศิริราช หรือจุฬาฯลฯ หมอตรวจเสร็จ
หมอเขียนใบสั่งยาให้ แล้วบอกว่า ให้ไปซื้อยาที่ร้านที่
หมอบอก ถามจริงมรึงยังจะกล้าแด่กยานั้นมั้ยว่ะ
จะมองอะไรต้องมองทุกมุม เขาถึงจะเรียกเป็นผู้อาวุโส
ทำอย่างมรึง เขาเรียกแก่แล้วแก่เลย

การตั้งประเด็นถามชาวบ้าน มรึงต้องไปถามคนที่เขา
เข้าใจในประเด็นที่ถาม อย่าเช่นเรื่องเกี่ยวกับมลภาวะ
เรื่องเสียงมรึงดันไปถามความรู้สึกกับคนหูหนวก
ไอ้เฒ่ามรึงนี่ไปไหนมาสามวาสองศอกจริงๆว่ะ
มรึงแกล้งโง่หรือโง่จริงๆว่ะ

และถ้ามรึงมาถามกรู เรื่องหมอกรูขอตอบเลยว่า
ยามใดที่กรูไปหาหมอตามคลีนิก(ถ้าจำเป็น)
ทุกที่กรูได้ยาจากคลีนิก ใจต้องเริ่มคิดแล้วว่า
ทำไมน้อยจัง? มันเลี้ยงไข้กรูหรือเปล่า? แด่กไปแล้ว
ถ้ากรูเป็นโรคไตหรือมะเร็งใครจะรับผิดชอบว่ะ?
ที่สำคัญ ทำไมมาหามันที่ไรมันจะต้องจ่ายยาพาราให้กรู
ทุกที ทั้งๆที่บ้านกรูก็มีตั้งหลายกระปุกกรูยังไม่อยากแด่ก
กรูกลัวกระเพาะทะลุว่ะ

ที่สำคัญกรูมาหาหมอ หมอมันก็ถามอาการกรูก่อนทุกครั้ง
แสดงว่ากรูก็รู้อาการของกรูเอง เมื่อหมอมันต้อง
ถามอาการกรูก่อนแล้วจ่ายยา แบบนี้กรูไปหาหมอตี๋ตาม
ร้านขายยาไม่ดีกว่าหรือ

ไอ้ฐานันดรซี้เอ้ย! ถ้ามรึงรู้จักคำว่าหน้าที่ซะอย่างและ
รู้ด้วยว่า หน้าที่แต่ละอย่างก็มีความสามารถเฉพาะอย่าง
ของมัน หมอมีหน้าที่วินิจฉัยโรคว่าเป็นโรคอะไร
ส่วนเภสัชมีหน้าที่ให้ยาที่เหมาะกับโรคนั้นๆ

สมัยนี้ไม่เหมือนสมัยมรึงนะไอ้ขี้เลน ปะลองเชิง เป็นอะไร
ก็ไปหาเจ้ากรมเป๋อ เอายาครอบจักวาลมากิน
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.45.173 วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:5:31:06 น.  

 
 
 
************************************************************
โอทึ้ง....

อาเฮียโฮ่ง ไม่รู้ลื้อไปเอามาจากไหนว่าอั้วเอาเป็นเอาตาย
กับอาหมวยหลบภัย สงสัยที่ลื้อเข้าใจอย่างนั้นเพราะ
อีเจ้ผีเน่าอีชอบโยงเรื่องมั่ว อีเจ้ชอบหาว่าอั้วเป็นปากสุนัข ชอบโฮ่งๆแฮ่ๆใส่คนอื่น อันที่จริงอั้วเอ็นดูอาหมวยหลบภัยอีจะตาย อีใสซื่อ ที่แหย่ไปก็ด้วยความเอ็นดู

มันเป็นความเข้าใจผิด คนที่อั้วตั้งใจเชือด มันเป็นอาซิ้มอีกคน อั้วกะว่าจะเชือดชำแหละหาเนื้อนาบุญในตัวอีว่า จะหนักสักกี่กิโล ลวกน้ำร้อนขูดขนแล้วนะ พอดีมีมรรคทายก
วัดครึ่งกรรมการครึ่งมายุ่ง อาตี๋อย่างอั้วเลยต้องรีบเผ่น

************************************************************
โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะ


เหล่าฮูไม่รู้ร๊อก ว่าไปติดต่อต่อยถามอะไรนู๋หลบเค้ายังไง เพียงผ่านตาโฉบๆเท่านั้น เกิดนึกห่วงนู๋หลบอย่างช่วยไม่ได้ เพราะการจำนรรจาแบบถ้อยทีถ้อยอาศัยของลื่อ ทำให้เหล่าฮูน้ำลายหนึด กระเดือกไม่ค่อยลงคอ เลยปรามๆเท่านั้น

และอีกอย่าง เหล่าฮูก็หลงเสน่ห์ทั้งป้านู๋บีและนู๋หลบอย่างถอนตัวไม่ขึ้น เลยต้องกระแอมไอแห้งๆให้ได้ยินนิโหน่ย

อาซิ่มdangcarry เหล่าฮูม่ายเคยเสวนาล่วย เชิญชำแหละตามอัธยาศัย มีดีๆก็มาแบ่งเหล่าฮูล่วยแล้วกันนะ

ส่วน ที่ลื่อพูกมาแต่ละเรื่อง ฟังดูรักชาติเสียเต็มประดา เหล่าฮูก็รักชาติว่ะ แต่อยู่คนละสีกะลื่อ แล้วทำไมเราเห็นกันคนละมุมฟระ?

ที่พวกแดงช้ำเลือดชำหนองมันโกหกพกลม ลื่ออย่าไปเชื่ออีหมดนา แป๊ะลิ้มเวลาอีพูก เหล่าฮูไม่เคยเชื่อหมด เผื่อไว้กันอีต้ม

แต่พอมาดูฝั่งแดงเลือดสาดพูด แมร่งโกหกเกือบจะทุกเรื่อง อีเอาเหตุการณ์จินๆที่ปรากฏมาพูก แล้วโมเมปลอมปนของเก๊ลงไปตลอด เหมือนนมใส่เมลามีน กินเข้าไปก็เค้าแป๋ ซี๊แง๋แก๋ ระมัดระวังท่าทีล่ะ อย่าฮาร์ดคอร์มากไป

เหล่าฮูรู้จักไอ้มือยิงเอ็ม79คนนึง มันเป็นเพื่อนของเพื่อน และมันเป็นถึงด็อกเตอร์ และแมร่งก็เลวบรัดซบ หลอกเหล่าฮูเกือบติดคุกติดตะรางเพราะฟามชั่วของมัน

เท่าที่เห็น ทั้งก๊วนน่ะแหละ โคตรเลวแมน มันทำชั่วๆทั้งที่เหล่าฮูช่วยเหลือเกื้อกูลมัน เพื่อนเก่าคบมานานตั้ง30ฝ่าปี มันก็สมคบกันเนรคุณเหล่าฮู ทั้งที่กำลังช่วยมันอยู่น่ะแหละ

หรือพวกแดงชำเลือดชำหนองมันเนรคุณคนที่ดีๆกับมันทั้งหมด กี่คนๆที่รู้จัก ทำไม๊มันคล้ายจะมีจุดร่วมเดียวกัน คือ โคตระตั๊มไบ่

หง่า ขออภัย ยกเว้นลื่อไว้ฐานคนรู้จักแล้วกันนะ กันเองๆ เพราะเหล่าฮูด่าๆแล้วก็จะรีบไปทำทู่ระ ไม่อาจมานั่งเสวนาต่อได้ เหนื่อยสายตาน่ะ ไว้มีโอกาสค่อยแวะมาใหม่นะ

หรือไม่อีกทีก็ตอนเหล่าฮูไปไล่เตะไอ้พวกแดงดับดิ้นตอนที่มันหือล้มราชวงศ์ขึ้นมา ตอนนั้นค่อยออกมาเจอกัน แต่เราอย่าทะเลาะกันล่ะ เหล่าฮุไม่ทะเลาะกะเพื่อน แต่จะเตะก้นไอ้พวกล้มเจ้าแล้ววิ่งหนีไปหลบน่ะ

ปม.

เหล่าฮุแซบว่า โซ๊ยตี๋เค้าหมายถึงหลบภัยน่ะ แต่อาซิ้มdangcarryนี่ คาดไม่ถึงน่ะ เค้าก็ฉลาดเป็นกรดนี่นา และก็เป็นคนคิดดีล่วยนี่น๊า เพียงไม่เคยเสวนากะเค้า

แต่ทว่า

ใครฉะกะใคร เหล่าฮูไม่เกี่ยว เพียงรู้จักอัธยาศัยคร่าวๆเท่านั้นเห็นว่า เค้าผ่อนปรนกะคนอื่นดีน่ะ ไม่ฮาร์ดคอร์บ้าเลือดเท่าไหร่ เลยแทรกพูดถึงเล็กน้อย ที่จินจะฉะกันขนาดไหน เหล่าฮูไม่มีภูมิมากพอไปเสวนาล่วย ฉลาดไม่มากเท่าไหร่น่ะ ขอดูห่างๆก็พอ เดี๋ยวพูดผิด ไอ้โซ้ยตี๋จะมาถอนหงอกเหล่าฮูเอา เก็บผมไว้ก่อน ผมยิ่งน้อยๆอยู่ เสียดาย!
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.127.67 วันที่: 30 ธันวาคม 2554 เวลา:15:49:44 น.  

 
 
 



อิอิ ขอ นุยาด ใส่ภาพปลากรอบ
เพื่อเพิ่มอรรถรสทางภาษา
และช่วยหั้ย เหล่าแควนคลับ
มองเห็นภาพ บรรยากาศ ในบล็อกนี้
ได้ดียิ่งขึ้น เหอ...เหอ...


อืม... พอ แว่บมาเชคเรทติ้งที่บล็อกตัวเอง
ก็ต้องมานั่งกุมขมับ กับ สำบัดสำนวน
และ ลีลายียวนสารพัดน้ำลาย ของเหล่าสหาย แฮะ


เรยชักไม่แน่ใจซะแระว่ะ ว่า
ที่นี่ เป็นบล็อกสุมหัวคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋ง
หรือเป็น ห้องราชดำเนิน กันแน่ฟระ !
เอาเป็นว่า ใคร ใคร่ฟัด ก๊ะใคร ก็ตามสบาย จร้าาาา
แต่ ไงก็อย่า ฮาร์ดคอร์ จน ไปกระแทกตา WM เข้าล่ะ
เด๋ว บล็อกตรู จะโดนแบน ! เหอะ ๆ


อ้อ อิเจ้แวะเข้ามา ปลดล็อค ข้อฟาม ให้แร้วนะโว้ย ไอ้โซ๊ยตี๋
แมร่ง ไอ้ทึ้งเอ๊ยยยยย ใจคอจะมรึงจะฮาร์ดคอร์
ตบถีบ ๆ โล้งเล้งโม้งเม้ง ก๊ะ ชาวบ้านชาวช่อง ไปถึงไหนฟระเนี่ย
( ไอ้เรื่องร่าง พรบ.ยา นี่ มันก็ผ่านมาเกือบสิบปี แระ
ไม่เห็นต้องมา ปรี๊ดแตก แว้ด ๆ
วีนใคร หั้ยเสียฟอร์ม นักปฏิบัติ เล๊ยพับเผื่อย
อืม...คอแห้ง หรือ เหนื่อยนัก
ก็ พักน้ำลาย ซะมั่งก็ได้นะเว้ย เอิ๊ก ๆ


แล้วก็นะ หัดใช้ แทคติค
ในการโพสข้อฟาม ซะมั่งสิยะ ไอ้โซ๊ยตี๋
แหม๊ ต้องหั้ยซือเจ้ ถ่อสังขาร
มาปลดล็อค ข้อฟาม หั้ย ประจำเล๊ยยยยย เซ็งเป็ด !






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:0:07:54 น.  

 
 
 
ถึงตาแปะเหล่าฟู่ฟ่อง อั้วเห็นลื้อพูดแล้ว อั้วจินตนาการ
เห็น อาแป๊ะแก่ๆพยายามเดินไปหน้าปากซอย
เพื่อหารถตุ๊กๆสักคันด้วยอาการที่น่าสงสาร พอเจอใคร
เขาทักว่าจะไปไหน ก็ตะโกนบอกเขาด้วยความพากถูมิใจ
ว่า "อั้วจาปายกู้ขักอ่า"

อาแปะเหล่าฟู่ฟ่อง ลื้ออ่านมาตั้งนานไม่รู้หรือว่า
อั้วเป็นแดง หรือเป็นคนกรุงเทพขนาดแท้
จะบอกให้ว่ามันคนละขั่วเลย ยิ่งเป็นแดงที่มีไอ้พวกสะตอ
เป็นแกนนำอั้วละเกลียดโครตๆ คนกรุงอย่างอั้ว ไม่คบ
พวกสะตอว่อย

จะบอกให้คนกรุงขนาดแท้ไม่มี เหลืองไม่มีแดง แต่แบ่ง
เป็นสามพวก คือ พวกที่นิยม ป๋าหมัก กับพวกที่นิยม
พรรคแมลงสาป และไอ้พวกที่เลือกตามกระแส

ไอ้พวกเลือกตามกระแสนี้และตัวดีนัก ส่วนใหญ่เป็นพวก
เจ็กเยาราช เจ็กตามตลาด และพวกลูกเจ็กสมัย6ตค19
ที่ทักกี้พี่เหลี่ยม สามารถขึ้นมาผงาด จนพวกลื้อต้องมากู้ซาก
ก็เพราะพวกนี้แหล่ะ สมัยมันอยู่พรรคมหา5ขัน ก็เฮละโล
ไปเลือกมันมาเอง กรูละเซ็งเปรตรกับพวกนี้แม่งจริงๆ

และที่สำคัญนะอาแปะฟู่ ไอ้แปะลิ้มก็มีส่วนสำคัญที่ช่วยให้
พี่เหลี่ยมของพวกลื้อ ได้มาเป็นนายกประเภทเชียร์ก่อนแล้วแช่งที่หลัง

ยังมีอีกคือพวกที่เกลียดสมัคร กับพวกที่เกลียดประชาวิบัติ
คือต่อให้เหลือพรรคเดียวแต่เป็นพรรคที่ตังเองเกลียด
มันก็จะไม่เลือกพรรคที่เหลือ อย่างเช่นอั้วถึงแม้จะไม่มี
พรรคประชากรไทยแล้ว อั้วก็ไม่มีทางจะไปเลือก ไอ้พรรค
สะตอ เพื่อสะตอและโดยสะตอเด็ดขาดว่ะ

อีกอย่างที่ลื้อเห็นคนอื่นแดงไปหมด เพราะว่าเขาไม่ได้
ชอบไม่ได้รักไอ้แป๊ะลิ้มหรือพี่ม้ากของลื้อไง ลื้อก็เลย
เหมาว่า มันเป็นแดง เนี้ยสงสัยยังไม่รู้ตัวว่าเหลือง
เข้าเส้นแล้ว

ถ้าลื้อจะไปเตะแดงเมื่อไร ฝากกระทืบไอ้จตุพรให้ทีเด๊ะ
แต่ถามหน่อยลื้อยืนขาเดียวไว้มั้ย

ขำท่านผู้เฒ่าว่ะ ชอบเล่าความหลัง ชอบของขมและ
ชมเด็กสาว เนี่ยเข้าตำราเลย อาหมวยดีอย่างโน้น
อาหมวยดีอย่างนี้ อาแป๊ะเหล่าฟู่ที่ว่าน้ำลายหนืดนะ
อั้วได้ยินอาเจ๊กแถวบ้าน อีชอบแกล้งด่าลูกด่าหลาน
แล้วก็บอกว่า "น้ำลายหนืดแล้ว" คืออีจะหาเรื่องขอเงินเมีย
ไปกินน้ำชาแถวเยาราช ฮาๆๆๆๆๆ

"อาเหล่าอ่า! อู่จี๊บ๊อ อั้วอ่ายขื่อเจี๊ยะเต๊ อั้วเก็กซิมอ่า"
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.154.4 วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:4:11:06 น.  

 
 
 
อาตั๊วเจ้นู๋บี จ๋าจ๊ะ....

แล้วก็นะ หัดใช้ แทคติค
ในการโพสข้อฟาม ซะมั่งสิยะ ไอ้โซ๊ยตี๋
แหม๊ ต้องหั้ยซือเจ้ ถ่อสังขาร
มาปลดล็อค ข้อฟาม หั้ย ประจำเล๊ยยยยย เซ็งเป็ด !

******************************************************
โอทึ้ง.....

อั้วไม่รู้ว่ะต้องใช้แท็กติกอะไรที่ลื้อบอก อั้วรู้อย่างเดียวว่า
อย่าไปใกล้หรือเฉียดคดีหมิ่นประมาท อั้วยังเสี่ยวๆไปกับลื้อเลย ชื่อน่ะไม่ต้องไปชี้ชัดขนาดนั้นก็ได้ เจ้เล่นซะตรง
ขนาดนั้น เดี๋ยวนี้ศาลมันเป็นอะไรไม่รู้ คดีหมิ่นกระจอกๆ
มันยังไม่รอลงอาญา มันจำคุกลูกเดียว

เอาเป็นว่า เลิกคุยเรื่องนีแล้วดีกว่า เรื่องไอ้สื่อเฒ่านั้นน่ะ
-------------------------------------------------------------------------------
อีเจ้ยอดแหล....

อ้อ อิเจ้แวะเข้ามา ปลดล็อค ข้อฟาม ให้แร้วนะโว้ย ไอ้โซ๊ยตี๋
แมร่ง ไอ้ทึ้งเอ๊ยยยยย ใจคอจะมรึงจะฮาร์ดคอร์
ตบถีบ ๆ โล้งเล้งโม้งเม้ง ก๊ะ ชาวบ้านชาวช่อง ไปถึงไหนฟระเนี่ย
( ไอ้เรื่องร่าง พรบ.ยา นี่ มันก็ผ่านมาเกือบสิบปี แระ
ไม่เห็นต้องมา ปรี๊ดแตก แว้ด ๆ
วีนใคร หั้ยเสียฟอร์ม นักปฏิบัติ เล๊ยพับเผื่อย
อืม...คอแห้ง หรือ เหนื่อยนัก
ก็ พักน้ำลาย ซะมั่งก็ได้นะเว้ย เอิ๊ก ๆ
***********************************************************
โอทึ้ง...

แหม่! แม่คนดี แม่ผู้มีวาจาอ่อนหวาน แม่ผู้ที่ทำให้คนแก่
ติดอกประทับใจ จนอาแป๊ะเหล่าฟู่ออกมาปกป้อง

อีเจ้เนี่ย แหลได้หลดดี ตดใต้น้ำอีกด้วย เรื่องทั้งหมดลื้อ
เป็นคนชง คนส่งมุข ลื้อเป็นหัวหน้าคณะ อั้วเป็นแค่ลูกน้อง
ถ้าเจอคดีก่อการร้าย ลื้อโดนข้อหาแกนนำ ส่วนอั้วโดนแค่
ผู้ร่วมชุมนุมว่ะ

ลื้อมันพวกปลาไหล"ขงเบ๊"จริงๆว่อย

เรื่องพรบยาอัวรู้ว่ามันเก่าแล้ว แต่ที่อั้วโล้งเล้งเพราะ
ไอ้แก่ แมงกาจั๊วเฒ่ามันยังใช้วิธีเดิมอากิน อั้วเลยถือ
โอกาส เช็คบิลยอดหลังไปด้วย ฮาๆ..
------------------------------------------------------------------------------
เจ้จ๋าเจ้ ถ้าเจ้กินผัก ฉันจะจับ.......

เรยชักไม่แน่ใจซะแระว่ะ ว่า
ที่นี่ เป็นบล็อกสุมหัวคุยกันกระจุ๋งกระจิ๋ง
หรือเป็น ห้องราชดำเนิน กันแน่ฟระ !
เอาเป็นว่า ใคร ใคร่ฟัด ก๊ะใคร ก็ตามสบาย จร้าาาา
แต่ ไงก็อย่า ฮาร์ดคอร์ จน ไปกระแทกตา WM เข้าล่ะ
เด๋ว บล็อกตรู จะโดนแบน ! เหอะ ๆ
**************************************************************
โอทึ้ง.....

มันก็เป็นเพราะลื้อเองแหล่ะ ลานกว้างๆมีไว้เดินจงกรม
ดันเอาลานมาเป็นสนามชนควาย

วันหลังติดป้ายไว้ด้วยว่า...

ห้ามตาแก่ขี้หลีเข้า ที่นี้มีไว้นินทาชาวบ้าน ไม่ได้มีไว้ป่อสาว
หรือหยอกยัยแก่ ฮาๆๆๆๆๆ

ปล. อาเหล่าฟู่ซื่อ ต้องขออำและภัย(อภัย) ที่แสดงอาการ
บ่อตั้ว บ่อโส่ย ถือเสียว่าเป็นการรับน้อง ของชมรมสุมหัว
นินทาชาวบ้าน หวังว่าคงจะเข้าใจนะ "น้องสาม"

ที่เป็นน้องสามได้เพราะ อีเจ้ขวาน " เจ้รอง" มันโดนผัว
ฉุดกระชากลากถูให้ไปเลี้ยงลูกแล้ว มันไม่ได้มีตำแหน่ง
อะไรในชมรมอีกต่อไปแล้ว
เชอะ! ลูกผัวก็มีไม่สนใจ ชอบนินทา ชาวบ้านเค้า
เห็นอีเจ้นู๋บีดีกว่าลูกผัว ตอนนี้อาจโดนล่ามโซ่อยู่ใต้ถุน
บ้านก็เป็นได้

"เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย
ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น
ปรักปำฉันเป็นจำเลยของคุณ
นี่หรือพ่อนักบุญ แท้จริงคุณคือคนป่า"

ฮาๆๆๆๆ มีความสุขจังเลย หนวกหูชิบเป๋ง
ไม่รู้มันจะจุดพลุเรียกเตี่ยเรียกม้ามัน
มากินเลี้ยงด้วยหรืองัย เนี่ยเดี๋ยวคืนนี้อีก
ซอยบ้านกรู แม่งเอาลำโพงมาตั้งแล้ว
มันคงคิดว่า แถวนี้เป็นชนบทบ้านมันมั้ง
จะเมาจะโชว์ความหน้าด้านกัน มันก็ควรจะเกรงใจ
ชาวบ้านร้านถิ่นบ้าง ไอ้ควาย! ไอ้พวกรากหญ้า!
ไอ้ชนบท! ไอ้กรรมกร! ไอ้เสก! ไอ้คาราบาว!
ไอ้หมอรำซิ่ง.....ฮา......ๆๆๆ อยากจะบ้าตายเมีองไทยโอวลี่
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.154.4 วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:5:23:43 น.  

 
 
 

============================

_โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะเซย์....


ถึงตาแปะเหล่าฟู่ฟ่อง อั้วเห็นลื้อพูดแล้ว อั้วจินตนาการ
เห็น อาแป๊ะแก่ๆพยายามเดินไปหน้าปากซอย
เพื่อหารถตุ๊กๆสักคันด้วยอาการที่น่าสงสาร พอเจอใคร
เขาทักว่าจะไปไหน ก็ตะโกนบอกเขาด้วยความพากถูมิใจ
ว่า "อั้วจาปายกู้ขักอ่า"

อาแปะเหล่าฟู่ฟ่อง ลื้ออ่านมาตั้งนานไม่รู้หรือว่า
อั้วเป็นแดง หรือเป็นคนกรุงเทพขนาดแท้
จะบอกให้ว่ามันคนละขั่วเลย ยิ่งเป็นแดงที่มีไอ้พวกสะตอ
เป็นแกนนำอั้วละเกลียดโครตๆ คนกรุงอย่างอั้ว ไม่คบ
พวกสะตอว่อย


...............................................

Lao fu zi ปรารภว่า...


ค๊าวแป๋ ! ซี่เหลี่ยว
อาโอวทึ๊งคาชึงเแป๊ะ
คุยกะลื่อนี่ ทุนหายกำไรหด

แต่ทว่า

ดูเหมือนจิตนาการของลื่อจะบรรเจิดไปหน่อยม๊าง
เหล่าฮูแม้จะเป็นเจ๊กขากถุย แต่เรื่องลุยกันอั๊วอยู่ข้างหลังตลอด กู้ช่งกู้ชาติอะไรนี่ อั้วจะอกไปเต้นระบำก็ต่อเมื่ออาอ๊วง(ในหลวง)ถูกรังแก

ลื่อนี่ คะเนดูอายุไม่มีต่ำฝ่า40เด็ดขวด อยู่มาจนตรูดดำเป็นตูดหมึก เคยสำนึกถึงฟามสุขสบาย ยามอา"อ่วงแก"ออกหน้าช่วยบ้านเมืองบ้างเป่า(ในหลวงน่ะ)

อั๊วบอกให้ ตอนปี2516-2525 อั้วเห็นข้างบ้านเราทะยอยตายโหงตายห่า ตายหลั่ลล๊า ตายกัน3-5ล้าน ไม่มีที่ไหนรอบบ้านเราสงบร่มเย็นเลย

มีแต่"อ่วงแก"กะแม่ของอีออกหน้า อ้อ อาเจ๊เค้าไปสร้างบ้านที่ภาคใต้ล่วยในดงโจร

ทางเหนืออีปลูกฝิ่น แม่อาอ๊วงอีก็ไปปลูกบ้านอยู่กะพวกปลูกฝิ่นเฉยเลย น่ากลัว แต่เพราะเค้าออกหน้าเรื่องคอขาดบาดตาย อั้วเลยรู้สึกซาบซึ้งอย่างช่วยม่ายล่าย

อีกอย่าง เรื่องคาวๆของพวกอี อั้วก็ม่ายส่ายจาย เพราะอั้วเป็นโรคหื่นหอบกั่วพวกอีซะอีก ฟายแดงเอารูปเด็กสาวมาแจก แล้วเหน็บว่าเลว-ชั่วช้า อั้วดูแล้ว ไม่เห็นตรงไหนไม่สวย เห็นแต่เป็นขนๆ น่าดูออก เพราะอีเป็นเด็กสาวเท่านั้น อั้วว่าทำแบบนี้มันไม่แมนว่ะ ขนาดอั้วเองยังเคยลองเข้าห้องน้ำพกโทรศัพท์ไปล่วย สำรวจฟามหล่อเหลาของตัวเองทุกซอกมุม ไหนเลยปีศาจราคะทั้งหลายจะไม่เคยทำ มันแปลกตรงไหนฟระ
เหอๆๆ อั้วว่านะ ตลีดก ตลกดี
(เฮ่ย ห้ามลอกเลียนแบนะเฟ่ย)

========================================

_โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะเซย์



จะบอกให้คนกรุงขนาดแท้ไม่มี เหลืองไม่มีแดง แต่แบ่ง
เป็นสามพวก คือ พวกที่นิยม ป๋าหมัก กับพวกที่นิยม
พรรคแมลงสาป และไอ้พวกที่เลือกตามกระแส

...............................................

Lao fu zi ปรารภว่า



คนกรุงแบ่งเป็น3พวก คราย ครายแบ่ง ลื่อเองเร๊อะ
พูกเองเออเอง เหอๆๆๆๆ

พวกนิยมป๋าหมัก ไปนิยมอะไรอีวะ อั้วเห็นแล้วอีดีแต่ปากว่ะ อ้อ จมูกดีล่วย โตดี เอาไว้ดมอะไรได้ถนัดถนี่
นอกนั้นเหม็นขี้ฟันว่ะ อั้วไม่เห็นอีจะเป็นสัปปะรดอะไร ทำธุรกิจอะไรไม่เห็นสำเร็จ นอกจากใช้อำนาจ ไม่ก็โกง ไอ้เช๊าฉุ่ย

พวกนิยมแมลงสาป อันนี้เห็นล่วย
อั้วว่าพวกนี้แยะว่ะ ฮวงนั้งนี่ติงต๊องดี ชอบอะไรที่ดูดี ฟังรื่นหู แต่แมร่งมีแต่โวหาร เฮนซรวยเหมือนกัน

พวกตามกระแส ก็จินๆล่วย
ลื่อนี่ฉลาดช๊ายล่าย
พวกโหนกระแสเนี่ย เพราะคนสร้างกระแสอีเก่งจัดอีเว้นท์ คนก็เชื่อเส่!
อั้วว่าเป็นเพราะอีถูกปลุกสันดานดิบออกมาให้แสดงสัญชาติญาณลึกๆออกมา แหวกกฎเกณฑ์ที่เคยถูกตีกรอบ เลยละเมิดก.ม.กันอย่างเมามัน นี่น่าจะต้องย้อนไปดูว่า พวกนี้เก็บกดมาจากอะไร ทำไมคนที่ชอบแสดงฟามรุนแรงออกมา ไม่ชอบอยู่ในกรอบ มันเพราะอะไร

ที่สิงคโปร์ คนเค้าชอบคี่ ลางทีก็ฉี่ในลิฟท์ (ฟังเค้าว่า) อั้วไปเดินสูบบุหรี่ฉุยๆ เมื่อสัก20ฝ่าปีที่แล้วตามถนน คนแมร่งยังมองอั้วแปลกๆ เผลอทิ้งบุหรี่ริมถนนให้ตำหนวดเห็น ซรวยแน่ๆ ก.ม.อีดุจินๆ


สรุปว่า อั้วเห็นล่วยแล้วกันนะ
กันเองๆ

========================================

_โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะเซย์....


ไอ้พวกเลือกตามกระแสนี้และตัวดีนัก ส่วนใหญ่เป็นพวก
เจ็กเยาราช เจ็กตามตลาด และพวกลูกเจ็กสมัย6ตค19
ที่ทักกี้พี่เหลี่ยม สามารถขึ้นมาผงาด จนพวกลื้อต้องมากู้ซาก
ก็เพราะพวกนี้แหล่ะ สมัยมันอยู่พรรคมหา5ขัน ก็เฮละโล
ไปเลือกมันมาเอง กรูละเซ็งเปรตรกับพวกนี้แม่งจริงๆ

...............................................

Lao fu zi ปรารภว่า.....


ใส่ร้ายป้ายสีเห็นๆ
พูดเหมือนลื่อเป็นพวก6ต.ค ซะเอง หรือเคยรู้จัก !
ซาแดงว่าอายุอานามลื่อคงไม่น้อย

แต่ผิดว่ะ!

คนยุคนั้นมาจนเดี๋ยวนี้เป็นคนมีคุณภาพกั่วคนยุคใหม่( อั้วล่วย) เค้ามีสำนึกดี แต่คงมองภาพรวมไม่ออก ข้อนี้อั้วแก้ตัวให้ไม่ล่าย เพราะแมร่งแปะยิ้งจินๆ

เข้าป่าไปอยู่ทั้งเขมร ทั้งลาว พม่า มันต้องรู้แล้วว่า ไอ้พวกนั้นมันเสวยอำนาจจากตอนนุ๊น มาจนบัดนี้
มันก็พวกเดิม!
(เดี๋ยวนี้พวกแมร่งก็เสวยอยู่ ชุดเดิมๆน่ะแหละ)
แย่กั่วตอนมีกษัตริย์ซะอีก

ข้อนี้อั้วมองได้2ทาง คือพวกนี้
อาจแปะยิ้งเกิน หรือไม่ พวกอีก็กระหายอำนาจ อยากเป็นผู้แบ่งเค๊กซะเองเหมือนในเขมร พม่า ลาว เวียด

ลื่ออย่าไปว่าเค้าตามกระแสเล๊ย ไอ้ทักกี้แมร่งหัวอัจฉริยะ มาดดี หน้าตาคล้ายอั้วเลยว่ะ

เล่าให้ฟัง
อั้วเคยขึ้นลิฟท์กะมัน2คน ต่างคนต่างมองกันไปมา กระอักกระอ่วนว่ะ เพราะแมร่งคล้ายกันไปซะหมด ผิดแต่อั้วจนกรอบจนแทบกินหญ้า แต่แมร่งรวยล้นฟ้า

ถ้าเที่ยวนี้ขึ้นลิฟท์เจอกันอีก มีหวัง อั้วรีบสวามิภักดิ์มันแผล่บๆในลิฟท์ซะเลย แบบพี่เน พอมันตายใจ อั้วค่อยตีท้ายครัวมัน ถ่ายคลิปลูกหลานมันมาแจกมั่ง ลื่อว่าดีแมะ!

ทำไมอาแปะอาซิ่มจะไม่เชื่อมันล่ะ
ตอนนุ๊นใครๆก็เชื่อมัน (ยกเว้นอั้วว่ะ)
มันว่าปัญหารถติดจะแก้ได้ใน6เดือน เพราะเห็นแมร่งไปยืนดูสัญญาณไฟตรงแถวยมราช ตอนนั้นอั้วว่ามันตั่วเผ่า(ขี้โม้) มันพูกแบบไม่รับผิดชอบ วิเศษวิโสเกินมนุษย์ แต่เพื่อฟามนิยม แมร่งปล่อยสัญญาประชาคมแบบนี้ ไม่มีทางทำได้เด็ด

ส่วนไอ้แป๊ะลิ้มอั้วไม่เถียง เพราะมีประโยชน์ร่วมกัน เป็นลื่อ ลื่อจะไม่เข้าไปเลียแผล่บๆไอ้ทักกี้เร๊อะ (คิให้ดีก่อนพูกนะว่อย!)
บอกให้ว่ะ ไอ้ก๊วนนี้อ่ะนะ

สุทธิชัย หย่วน ปี มาลากวน ขันชัยบุนปาน เทพชัย หย่อนไอ้ทักกี้ ไอ้แป๊ะลิ้ม สุจิต วงเป็ดเทศ
(ไอ้นี่เหมือนฉลาด แต่เลวจินๆ ดูมันเส่ //www.oknation.net/blog/attawut08/2011/04/19/entry-1 ไปอ่านดูว่ะ ตอนปี49มันกวนโอ๊ยตอนนี้อาละวาดอีกแล้ว ฮ่วย!)

ไอ้พวกนี้น่ะ มันรู้จักกันมานานมาก เพราะแมร่งสุมหัวอยู่ด้วยกันมาตลอด (สำนักพิมพ์แถวบ้านอั้ว)
ยกเว้นตอนนั้นไอ้ทักกี้มันแค่ขี้ครอก ขับรถเทียวส่งไอ้นักการเมืองค้าผง(ตอนหลังมันแกล้งยิงปืนใส่หัวตัวเองหรือไงนี่แหละ ไม่แน่ใจว่าตอนนี้อาการเป็นไงมั่ง) มันเที่ยวเลียนักการเมืองแผล่บๆ แถวๆโรงพิมพ์น่ะแหละ
อั้วเห็นแมร่งเกือบทุกวันว่ะ เชื่อเป่า!

ลื้อจะเลือกใครก็แล้วแต่ว่ะ ก็อั้วก็ชอบแบบของอั้ว ชีๆแป่ะแปะ
และตอนนี้อั้วไม่ชอบใครซ๊ากคน อั้วยังนึกไม่ออก
แต่ตอนนี้อาหมวยอีน่ารักดีว่ะ อั้วชอบ

นายกต่อไปอาจเป็นแป๊ะลิ้มก็ได้ เพราะอย่างน้อยอีกล้าดี คนที่จะขึ้นไปเป็นแบบอีได้ คงไม่ใสซื่อแบบลื้อล่ะม๊าง
มันคงต้องมีพิษสงสักหน่อยติดปลายนวม แต่มองภาพรวม อั้วว่าอีมีเป้าหมายที่น่าจะพอใช่ล่าย อย่างน้อยอีก็กล้าพูดว่าเอาธรรมนำ อั้วอยากลองดูเหมือนกัน

======================================

_โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะเซย์


อีกอย่างที่ลื้อเห็นคนอื่นแดงไปหมด เพราะว่าเขาไม่ได้
ชอบไม่ได้รักไอ้แป๊ะลิ้มหรือพี่ม้ากของลื้อไง ลื้อก็เลย
เหมาว่า มันเป็นแดง เนี้ยสงสัยยังไม่รู้ตัวว่าเหลือง
เข้าเส้นแล้ว

ถ้าลื้อจะไปเตะแดงเมื่อไร ฝากกระทืบไอ้จตุพรให้ทีเด๊ะ
แต่ถามหน่อยลื้อยืนขาเดียวไว้มั้ย


...............................................

Lao fu zi ปรารภว่า.....

มันไม่เชิงน่ะ อาโอวคาชึง

ที่อั้วว่าอย่างนั้น เพราะเวลาอั้วใส่เสื้อสีเหลืองเดินออกมาปากซอย อั้วอาย เพราะแมร่งใส่เสื้อแดงส่วนใหญ่น่ะ แล้วมันพิสูจน์ให้เห็นว่า คนไทยเค้าเลือกแดง ขนาดไอ้เก่งจอมถีบ ยังได้รับเลือก ทั้งที่แมร่งเป็นตัวโกงเห็นๆ แต่แถวดอนเมืองยังเชียร์เย้อวๆ ลื่อจะให้อั้วคิดยังไงกะพวกดอนเมือง อั้วคิม่ายออก มะรู้แมร่งเป็นอะไรกันไปหมด คนเดี๋ยวนี้!

และอั้วใส่เสื้อเหลือง ลื่ออย่าคิดว่ามันจะเข้าเส้นได้ ซาแดงว่าลื่ออาจไม่เคยเข้าไปดูฝูงชน2กลุ่ม แก๊สี่(บุคคลิก)มันแทบจะฟ้องเลย

เสื้อเหลืองส่วนใหญ่เป็นเจ้าของกิจการ เสื้อแดงส่วนใหญ่ขี้ครอกว่ะ ดูไหร่ๆยังไงก็ม่ายรุ อย่าว่าอั้วอคติ ลื่อต้องไปดูเอาเอง แล้วอย่าอคตินา ดูแบบตรงไปตรงมา

ไพร๊ ไพร่!

ถึงอั้วไส่เสื้อเหลือง แต่อั้วไม่ตั้มไบ่แบบที่ลื่อคิดร๊อก!
เสื้อเหลืองลื่อคิดว่า ใครจะจูงจมูกได้ง่ายๆเร๊อะ
ถ้าลื่อเคยเป็นเจ้าของกิจการ หรือเถ้าแก่เอง ลื่อจะเข้าใจ คงไม่ให้ใครมาล่อง่ายๆร๊อก แต่เพราะลื่อเอาแต่ว่าฟาม หรือมนุษย์เงินเดือน เลยไม่มีสำนึกแบบเจ้าของกิจการ มันคนละมิติว่ะ อาคาชึง ลื่อต้องเป็นเองถึงจะเข้าใจ

อ้อ อั้วเคยเชียร์อามาร์ค แต่ตอนนี้ไม่ เพราะห่วยว่ะ หล่อแต่กินม่ายล่าย
ดูมีชาติตระกูล มีสถุล เอ๊ยสกุล

แต่โสงสัยไม่เคยลำบากมัง ทำไมไม่ค่อยกล้าเล๊ย อีอาจไม่เคยชกต่อยกะใครมาก่อนมัง ดูหน่อมแน๊มเกินไปว่ะ
จะเป็นผู้นำทั้งที มันควรได้ทั้งบู๊ทั้งบุ๋น แต่อามาร์คอีมีข้อด้อยกงนี้ บู๊ไม่เป็น ฮ่วย!

อ้อ อย่าฝากอั้วไปเตะไอ้คางคกเน่าเลย อั้วะกลัวเปื้อน อีกอย่าง ตอนนี้อั้วเข้าสู่โหมดบันเทิงอยู่ ไว้เข้าสู่โหมดบู๊ เราไปล่วยกันแมะ ไปดูเค้าเฮฮากัน สนุกดีว่ะ

=====================================


โอวทึ้งคาชึงแป่ะแปะเซย์



ขำท่านผู้เฒ่าว่ะ ชอบเล่าความหลัง ชอบของขมและ
ชมเด็กสาว เนี่ยเข้าตำราเลย อาหมวยดีอย่างโน้น
อาหมวยดีอย่างนี้ อาแป๊ะเหล่าฟู่ที่ว่าน้ำลายหนืดนะ
อั้วได้ยินอาเจ๊กแถวบ้าน อีชอบแกล้งด่าลูกด่าหลาน
แล้วก็บอกว่า "น้ำลายหนืดแล้ว" คืออีจะหาเรื่องขอเงินเมีย
ไปกินน้ำชาแถวเยาราช ฮาๆๆๆๆๆ

"อาเหล่าอ่า! อู่จี๊บ๊อ อั้วอ่ายขื่อเจี๊ยะเต๊ อั้วเก็กซิมอ่า"


................................................

Lao fu zi ปรารภว่า.....

เค๊าแป๋!
ไอ้โซ้ยตี๋ บ่อตั่วบ่อโส่ย พูดอย่างนี้ได้งาย
ลื่อห้ามพูกออกไปเชียว
อีกหน่อยลื่อก็น้ำลายเหนียวเหมือนอั๊วะ เก๋าเจ้ง!
ไว้ไปเจี๊ยะแต๊ล่วยกันค่อยคุยเรื่องนี้

แต่ทว่า...
อั้วดูแววลื่อ โสงสัยแอบมาจีบอาหมวยแถวนี้ มากฝ่า
ทำเป็นเนียนๆชวนทะเลาะ
แต่อั้วไม่บอกใครร๊อก ลื่อไม่ต้องห่วง
ขอให้ลื่อสมฟามปราถนาว่ะ อั้วอยากเห็นลิงตกคานเหมือนกัน
เหอๆๆ

========================================
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.127.67 วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:16:52:03 น.  

 
 
 



เฮ้ยยยยย เวงกำาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เจอทั่นผู้เฒ่ามาปาหินข้างทาง งี้แร้ว ขำไม่ออกเรยตรู
เฮ่ย ! อาเหล่าฮู อย่าได้ไปหยิบประเด็นนี้มาเล่นเรยอ่า
ไอ้โตแมวตื่นมันมีฮูหยิน และ ขันธ์ใบที่ 10 เป็นของตัวเองแร้วจร้าาาา
หูย ทำมาเป็นพ่อสื่อพ่อชักซี้ซั้ว งี้ เห็นแล้วสยอง กลัว ศีลถลอกว่ะ
เฮ้ออ ไม่มี อิลิงตัวไหน มันอยากจะไต่ต้นงิ้วเล่นเป็นงานอดิเรก หรอกน้าา
( ถ้าไอ้โซ๊ยตี๋มันหน้าตาดีเหมือน พี่ม้าก ของนู๋บี ค่อยว่าไปอย่าง เอิ๊ก ๆ )


เฮ้ออออออ .....
นี่ ๆ ที่เห็นนู๋บี ก๊ะไอ้ตี๋ ทำ ไก่หยอกหมา
มา อ่อยอี๋เอียง ร้องจุ๊ก ๆเถียงกัน งี้
สงสัย คงเป็นเพราะไอ้ตี๋มันเห็น รูป อิพริ้งดราม่า
ที่ อิฉัน เอามาโพส ให้ท่าหนุ่ม ๆ ในนี้
แล้วมันคงนึกว่าอิฉันจะ โนตม เหมือนอิพริ้ง มั้ง
มันเรยนึกครึ้ม มาร้องหงุงหงิง แซวกันเล่นน่ะ
ขออภัยเจ้าค่ะ ที่ อิฉันชอบอ่อยแบ่บไร้สาระมากไปหน่อย
เรยทำให้ อาเหล่าแปะ เข้าใจผิด
และเกิดฟามคิดบรรเจิด อยู่บ่อย ๆ แหะ ๆ

.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:23:41:25 น.  

 
 
 



เฮ้ยยย ไอ้ตี๋ ลื้อเองก็เหมือนกัน
นี่ ลื้อเผลอไปกินยาบ้า
ที่ เจ้แอบซุกเอาไว้ ในปากลื้อใช่ไหมยะ
แมร่ง เล่นเป็น อาเปี๊ยกพิศาล
กะลังตบถีบ ๆ เม้งตรู อยู่มันส์ ๆ
ก็ดั๊นทะลึ่งเปลี่ยนโหมด
มาเล่นบทพญามารไก่แจ้
แหม๊ ? ทำมาเป็น ร้องหงุงหงิง

เจ้จ๋าเจ้ ถ้าเจ้กินผัก ฉันจะจับ.......ฯ ซะงั้น


เล่นเอา ผู้เฒ่าผู้แก่ จินตนาการบรรเจิด
เกิดอาการฟุ้งซ่านไปถึงดาวศุกร์ เลยนะเว้ยเฮ้ยยย
แล้วงี้ ถ้า หนุ่ม ๆ ที่เจ้หมายปอง แอบเข้ามาอ่านเจอ
แล้ว ใครจะรับผิดชอบวะเนี่ย ?
ฮือ ๆๆๆๆ ไม่ย๊อม ไม่ยอม
เจ้เสียหาย ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ


อิเจ้จะฟ้องลื้อ ข้อหาทะลึ่งร้องจุ๊ก ๆ โดยไตร่ตรองล่วงหน้า
เพื่อหวังผลที่จะมา ดิสเครดิต เจ้
ทำให้ แควนขับทุกคนเกิดฟามลังเลสับสน
ไม่กล้าเข้ามาต้องมนต์ติดแร้วเสน่ห์เจ้
คอยดูนะ เจ้จะยุหั้ย ทั่นเปา ลากคอลื้อเข้าคุก
ให้ไปนั่งร้อง จุ๊ก ๆ เป็นเพื่อน หมอกฤช คอนเฟิร์ม !




.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:23:42:32 น.  

 
 
 
ปอลิง
แควนคลับของอิเจ้นู๋บี จ๋าาาาาาาาาาา
เด๋วปีหน้าฟ้าใหม่ นู๋จามา ตอบ จม. ทิ้งทวน
ก่อนหวนคืนสู่กะลาน้าาาาาาา เงื้อง้า มานานแร้ว
ว่าจะตอบจะตอบ ก็ติดนู้นติดนี่ ฝอยเพลิน
ม่ายล่ายตอบ ซ้าที เฮ้ออ


ส่วนปีนี้ยัง ม่ะว่างเรยอ่ะเธอว์
ขึ้นเวรขึ้นกรรม เมคมันนี่ มา 2 วันรวดแล้ว
คืนนี้คงต้องมานั่ง เคาท์ดาวน์ ในห้องยา อีกตามเคย
( ถ้าคำทำนาย ของ อิเจ้า ดช.ปลาบู่ มันเป็นจิง ตรูจะหนีทันไหมเนี่ย ? )


เฮ้อออ อิหม่ามี๊เจ้าขราาาาาา
ถึงแม้นู๋บีไม่มี วาสนา
จะได้ไปนั่งเคาท์ดาวน์ ที่สันเขี่อน เป็นเพื่อน ฮาร์ทจัง
แต่ขอแค่ ได้เป็น ลูกสะใภ้ป๋าโจ
นู๋บีก็ดีใจแระ อ่ะซิก ๆ

บ๊ายบายจร้าาาา จาไปเคลียร์งานต่อแระ
มัวแต่เข้ามาฝอยเพลิน เด๋วงานไม่เสร็จ อิอิ



.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 ธันวาคม 2554 เวลา:23:51:19 น.  

 
 
 
สวัสดีปีใหม่ทุกๆคง
ไชโย เขื่อนไม่แตก นู๋บีปลอดภัย ไชโย๊

แต่ ก็นะ
เหล่าฮูเคยทำนายไว้ล่ะ ว่าเขื่อนจะแตก!
แต่อาปาโมก เอ๊ย พ่ออาปาบู่อีดันเอาคำทำนายมาซ้อนกะอั๊วะ
แต่เหล่าฮูให้เวลา2.5ปี ตามการโคจรของดาวเสาร์
อย่าเพิ่งดีใจไปล่ะว่าเขื่อนไม่แตก
คอยลู เอ๊ย คอยดูไปก่อนเน่อ
ของมันบ่แน่ดอกนาย
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.127.67 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:1:36:03 น.  

 
 
 

ปม.

เหล่าฮูป่าวปาหินข้างทาง
แต่หมายหัวอาโอวทึ้งคาชึงแป๊ะอีตะหาก
ผีก็ย่อมเห็นผีล่วยกัน
ม่ายงั้นจะมาร้องจุ๊กๆแถวนี้เร๊อะ
(ที่จิน ไอ้ที่ร้องจุ๊กๆน่ะ เหล่าฮูซะละมากฝ่ามัง ป้าพูกอะไรทำไมมันโดนหัวเหล่าฮูทู๊กทีเลยอ่า)

ผิดแต่ว่า มิคาดว่าอาโอวทึ้งอีจะมีคนเอา นึกว่าอียังซิงๆอยู่
เพราะอีฉอเลาะช่างจำนรรจาซะขนาดนี้

พอดี เมื่อคืนแอบย่องไปดูอีฉอเลาะกะนู๋หลบที่กระทู้เก่า
โอ้โฮ ! saccharide เรียกตั่วเฮีย
สนิมสร้อยว่ะ
เหล่าฮูพูกแบบอีม่ายเป็น
ลูกเล่นแพรรรววว พรรราาาาวววว

แต่ก็นะ พูกอีกที เหล่าฮูว่าป้านู๋บีคงไม่ยอมลงจากคานง่ายๆอยู่แล้ว
พูกดักคอเค้าไปซะหมดยังงี้ ลุ้นไปก็เหนื่อยป่าว
เฮ่อ!


 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.127.67 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:1:49:26 น.  

 
 
 
เพื่อเป็นศรีเป็นสิริมงคลแกบล็อก
ช่วงเทศกาลปีใหม่งดนินทาชาวบ้านจ้า

ปีใหม่ขอให้อาเฮียเหล่าฟูซื่อ อาเจ้นูบีและอาเจ้ขวัญ
สมประสงค์ในสิ่งที่หมาย ไร้ทุกข์ปลอดโรคภัย
จิตใจแจ่มใส ความวัวให้หาย ความควายไม่เข้าแทรก
อยู่จนเป็นปูชนีย์วัตถุของลูกหลาน
อายุ วรรณะ สุขะ พละ นะจ๊ะเหล่าผู้เฒ่าทั้งหลาย
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.9.96 วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:3:38:41 น.  

 
 
 



อ้าววววว เฮ้ยยยยยยย ตกลงช่วงเทศกาลปีใหม่ นี้
ไอ้โตแมวตื่น มันจะใช้กฏอัยการศึก ประกาศเคอร์ฟิวส์
ให้ งดนินทาชาวบ้าน ในบล็อกนี้ หรอกเหรอเนี่ย
( เฮ้ย ลื้อ ไม่กลัวเจ้จะเฉาปากตาย หรือไงฟระ


ว้า งั้นช่วงนี้ ซ้อเจ็ด เอ๊ย อิตั้วเจ้
ก็ยังตอบ จม. แควน ๆ ม่ะได้อ่ะจิ
เพราะว่า ปกติเข้ามาโพสมาแพล่มในนี้ทีไร
อิเจ้ก็มีแต่เรื่อง นินทาชาวบ้านเต็มไปหมดเยยย หุหุ




.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:20:47:47 น.  

 
 
 




เฮ้อออ เอาวะ เพื่อเห็นแก่ ฟามเป็น สิริมงคล
ของชมรมสุมหัวนินทาชาวบ้าน
งั้นวันนี้ เข้ามาอวยพรปีใหม่อย่างเดว
ก็แร้วกันเน๊าะ แควนคลับเจ้าขราาา
แร้ว หลังช่วงปีใหม่ ค่อยมาโพสตอบ จม.แควน ๆ
ในประเด็นต่าง ๆ ทั้งหลายแหล่
ที่ยังแพล่ม ค้าง ๆ คา ๆ กันอยู่


อืม....เนื่องจาก นู๋บี บ่ ใช่ผู้วิเศษ
ที่มีอิทธิปาฏิหารย์ เสกหนังควายเข้าท้องได้ เหมือน ไอ้ตี๋บางคนนิ อิอิ
ดังนั้น ปีใหม่นี้ คงไม่สามารถบริกรรมคาถา
ใช้ประคำคุณไสย ขอพรหั้ยใคร
สมประสงค์ในสิ่งที่หมาย
ไร้ทุกข์ปลอดโรคภัย ฯลฯ ได้


เอาเป็นว่า ใครทำอะไรไว้
ก็ขอหั้ยได้อย่างนั้น ก็แร้วกัน เน๊าะ
เพราะ นู๋บีเชื่อมั่นเสมอ ว่า
แควนคลับทู๊กทั่นของนู๋บี นั้น
หมั่น คิดดี พูดดี ทำดี
และ มีจิตใจที่บริสุทธิ์ อยู่แระ
( เอ๊ะ ? หรือว่า นู๋บี คิดผิด 5555 )





สวัสดีปีใหม่ จร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา

อตฺตหิ อตฺตโน นาโถ นะจ๊ะทู๊กคนนนนน



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 1 มกราคม 2555 เวลา:22:01:27 น.  

 
 
 
ตามกลิ่นธูปนู๋บีมา อิอิ

หวัดดีปีใหม่จ้า ทุกๆคน

ขอให้โชคดีมีความสุขตลอดไปเน้อ

ตอนนี้ไม่มีอารมณ์ซ่าส์ ขี้เกียจหาเรื่องเข้าบ้าน
แหะแหะ...
เมื่อวานอุส่ารอเคาน์ดาวปลาบู่ถึงตีสอง ก็เงียบกริ๊บ
แต่ไม่รู้มีใครมาเยี่ยมอ่า หมาเห่าทั้งคืน นอนไม่หลับ
ขี้เกียจนอนฟังเสียงหมาเลยกินยาหลับมันซะเลย
แถมตอนสี่ทุ่มเปิดซีดีพระปริต ฟังเอาฤกเอาชัยถึงห้าทุ่ม
จบแล้ว ดู อู่ฮันตี้ ฆ่าเวลา หุหุ

เอ่อ นู๋บี มียา ALPRAZOLAM หรือ SEROQUEL
หรือ Loramed บ้างไหม ร้านขายยาทั่วไปมีขายไหม

หม่ามิ๊ อยากได้ไว้ครอบครอง หุหุ
 
 

โดย: อิอ่อน IP: 115.87.187.137 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:0:08:09 น.  

 
 
 
สวัสดีปีใหม่นะจ๊ะ..นึกว่าลาออกจากบอร์ดไปเล่นงิ้วที่เยาวราชซะแล้ว..กรรมอะไรหนอ ทำให้เธอเพลิดเพลิน เป็นนักร้อง นักโดนตีน..เอ้ย..ดนตรี อยู่ทุกวัน ไปจดลิขสิทธิ์ปากรึยัง..
นี่ เธอ ชาติก่อนทำบุญด้วย "คณะตลก" รึไง วันๆเอาแต่โปกฮาแฝงปรัชญาไปเรื่อย
สับสน คู่แข่ง น้องปลาบู่ขอทำนายว่า ปีใหม่นี้ นางบัวป่อง ต้องได้ผัว ตลกแน่ๆ(อย่าลืมชวนตั้งวงนะจ๊ะ)..ไปโน่น โน๊ต..อุดม9..เลยไป
แตกต่าง..แค่แตกต่าง..ได้ข่าวว่า "องค์ลง" ทุกวันนะด่าได้ไม่ซ้ำเลยรึ "กำลังหาความจริงในความเชื่อ"..อยู่ใช่ปะ.. หาเจอแล้วบอกบ้างนะจ้ะกึ๋นเธอมันเกินใครๆอยู่แล้ว
"เฮ็จในสิ่งที่เชื่อ และเชื่อในสิ่งที่เฮ็จ"..ก็ไม่จริงแล้วละซีใช่ไหม ..เจอรึยัง..บายๆ
 
 

โดย: สับสน.. IP: 65.49.14.85 วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:8:52:08 น.  

 
 
 


ว้าย ๆๆๆๆๆๆๆๆ นู๋บีดีใจ๊ดีใจฮ่ะ
ที่ แซะเล็บ เอ๊ย เซเลบคนดังแห่งเวบพังจิต
ให้เกียรติ มาตามกลิ่นธูป ที่จุดเชิญ !
อะโหย เชิญปุ๊บก็มาปั๊บเยยยยยย
แหม๊ ? ไม่ท่ามากฟอร์มมาก มาเร็วเคลมเร็ว งี้สิ
มันถึงจะได้ใจ อิผีเน่าอย่างกรู !


นี่แหล่ะเธอว์ ที่เขาเรียกว่า

โลงผุของจริง กระทิงแดง!



มิเสียแรงที่เคยกรีดข้อมือ
หลั่งน้ำเหลืองสาบาน ว่าจะเป็น เสี่ยว กัน
เฮ้อออ โลงผุของจริง มันต่างจาก โลงเก๊ดีแต่ปาก งี้นี่เอง เหอ ๆ



ปอลิง 1
อิหม่ามี๊ขราาาา ALPRAZOLAM กับ Loramed และ SEROQUEL เนี่ย
ตามปกติ ร้านขายยา ส่วนใหญ่ไม่มีขายหร็อกคร้าาา
เพราะว่า ถ้าดูตามตัวบทกฏหมายแล้ว
ขายยาพวกนี้ แล้วมันจุกจิกยุ่งยาก
ต้องมี ใบอนุญาตขาย และ ต้องทำบัญชีซื้อขายด้วย

ที่สำคัญ ถ้ามีคนแอบมาขอซื้อ
แล้วทะลึ่ง เอาไปก่อคดีมอมเหล้าสาว เข้าม่านรูด
ทางร้านก็ซรวยลิ่ว อ่า สรุปแล้ว สุ่มเสี่ยงและได้ไม่คุ้มเสีย
เขาเรยไม่ค่อยจะเอามาขายกัน น่ะ
ดังนั้น ถ้าจะอิหม่ามี๊ขี้เกียจไปโรงพะบาล
ก็ต้องเอาใบสั่งยา ไปหาซื้อตามร้านยา
ที่มีใบอนุญาตขายวัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท
หรือไม่ก็ ไปร้านหมอตี๋มั้ง เพราะร้านพวกนี้
แมร่ง มีขายทู๊กอย่างตั้งแต่สากกะเบือยันเรือรบ
.
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:23:37:28 น.  

 
 
 
ปอลิง 2

อืม... คืนนี้คงจา ตัดริบบิ้น
ปิดประเด็นต่าง ๆ ที่ถกกันไว้ ไม่ทันแหง๋ ๆ เยยยย
( เพราะว่า ยิ่งเขียนยิ่งบาน อีกตามเคย )
แถม พรุ่งนี้เช้า นู๋บีก็จา กลับบ้านไปอ้อนพ่ออ้อนแม่ด้วยอ่า
แต่ไงก็จาพยามไม่ดองเค็มตัวหนังสือ เกิน 7 วันจร้าาาา

แล้วพบกันใหม่ เมื่อชาติต้องการจร้าาา




อ้าวววววว เฮ้ยยยย ม่ะช่ายยยย รูปนั้น
รูปนี้ตะหาก ถีงจะถูก คอนเซ็ปต์ แระ ม่ะโดนครายค่อนขอด อิอิ

แล้วพบกันใหม่ เมื่อชาติต้องการจร้าาา






ปอลิง3
อ่ะนี้ 2 ลิงค์นี้ เอามาแปะ ไว้
ให้คลิ๊กดู ขำ ๆ อำกันเล่น (แก้หง่อม)
ระหว่างชะเง้อคอยหา นู๋บีจร้าาาาา

//www.youtube.com/watch?v=Jp4jfAqXWZ4&feature=related

//www.youtube.com/watch?v=PcN5mu13ZVE&feature=related





ปอลิง 4
อ้อ และเพื่อม่ะหั้ย แควนขับ เกิดอาการ ก่งก๊งง งงวย
ว่า อิเจ้รอง คนสวย ก๊ะ ไอ้เจ้าเกิดเป็นคนโคตรสับสน
มันมาป้วนเปี้ยนวนเวียน ในนี้ได้ไง ฟระ

นู๋บีก็ขอ อนุยาด ชี้แจงแถลง ไข ด้วย ลิงค์นี้ฮ่ะ


//board.palungjit.com/f2/subliminal-messages-การซ่อนข้อความหรือความหมายในที่ต่างๆ-268244-79.html#post5522031

อ้อ แล้วก็ มี The letter ฉบับนี้ด้วย
ลองอ่านดูน้าาาา จาได้ลู้ซะที
ว่า ทำไม ทั้ง ตั้งโต๊ะ และ ลิโป้
จึง เสร็จ แม่นางเตียวเสี้ยน ทั้ง 2 คนเยยยเหอ...เหอ...

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:23:43:35 น.  

 
 
 
01-01-2012 08:34 PM

หวัดดีปีใหม่จร้า อิตาเกิดเป็นบ่าง ? เหอ...เหอ...



ไงยะ ไอ้เจ้าเพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด เอ๊ย ไอ้กัลยา ณ มิตร คิดไม่ซื่อ ของช้านนนน
อิอิ ตะกี้ชั้นแวะไปอ่าน กาทู้เก่า ๆ ที่พลังจิต
แล้วเห็นหล่อนแว่บ ๆ เรยแวะมาทักทาย สหายเก่าอ่ะ


อืม... ครายก็ไม่รู้เคยเขียนไว้ ใน ลิงค์นี้ ว่า

-------------------------------------------------------
อ้างอิง:
กรณี นู๋บี บัวเหล่าที่5...มีวาจาสามหาวใกล้เคียงหมิ่นเหม่ ดูหมิ่นศาสนา ปัจจุบันผมยังตามอ่านว่า นู๋บี นี่นับถือพุทธหรือไม่ เหตุใดใช้ภาษาสามหาว และเป็นเภสัชจริงไหม เพราะเธอพยายามดัดแปลงปริยัติเป็นปฏิบัติมาใช้แล้วปลดปล่อยตนเองด้วยภาษา วิบัติ..(โอ๊ยสะใจผมด่าเธอได้ข้างเดียวตอนนี้)
------------------------------------------------------


โดนไอ้ลาหัวดื้อ มันแอบนินทาลับหลังงี้
คนสวยใจดีอย่างช้านก็เรย จัดหนัก
เอาบล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน อันนี้

https://www.bloggang.com/viewdiary.ph...roup=1&gblog=5

มาสมนาคุณหั้ยหล่อน อ่ะ
จะได้รู้ซะที ว่าชั้นเป็น เภสัชสาวซีดเซียวนั้ง จิงอ๊ะปล่าววว
แต่ที่แน่ ๆ ไม่นานมานี้ ชั้นเขี่ย คำว่า ศาสนาพุทธ
ออกจาก บัตร ปชช. แระว่ะ หุหุ


เฮ้อออ คนบางคน เคยบอกไว้ แบบเนี้ยะ นี่นะ ว่า

--------------------------------------------
อ่านข้อความ
เฮ้อ...คน เรานี่ชอบแก้ตัวมากกว่าแก้ไข.. ภาษาอักษร สำนวน ความคิด ที่พิมพ์โพสต์ออกมาทุกตัวของแต่ละคน ในทุกความคิดเห็นมันแฝง "นิสัย และพฤติของใจ ของคนพิมพ์เสมอ"...?

ภาษาที่โพสต์ออกมาจากสมองหรือใจสู่จอคอมฯ..จะเจตนาหรือเผลอก็ตาม..ช่องว่าง ระหว่างตัวอักษรและบรรทัด..ทุกตัวอักษรและวรรคตอน มันมีกริยา นิสัย ความประพฤติ ดั่งวิญญาณของคนพิมพ์สิงสถิตย์อยู่ด้วย..มันจึงมีชิวิต

ดังนั้น จะพิมพ์อักษรภาษาให้ดี แก้ตัว เสแสร้ง แกล้งบ้า..ยังไงใครๆเขาก็อ่านออก บางครั้งไม่จำเป็นต้องเคยสัมผัสกันมาก่อนเลยด้วยซ้ำ..โดยเฉพาะ "นักปฏิบัติธรรม"...เขามองธรรมชาติของคนได้แม่นยำนัก ยามเขาสงบนิ่ง..?
แค่ทิ้งไว้ให้คิด ใครไม่คิดก็ไม่รู้ แต่ต้องอาศัยคิดถึงจะรู้นะครับ.
-------------------------------------------------------------


ชั้นก็เรยเอา ตัวหนังสือที่ตัวเองแพล่ม มาหั้ยหล่อนชำแหละดูว่ะ
อยากรู้เหมือนกันว่า นักปฏิบัติผู้สุขุม? อย่างหล่อน
จะมองธรรมชาติของชั้น ได้ แม่นยำ แค่ไหน
( เฮ้อออ จะถูกถอดถอน ออกจากตำแหน่ง กัลยาณมิตร ไหมเนี่ยตรู เหอ...เหอ...)



ปอลิง
อ้อ ถ้าหล่อนมีเวลา ว่าง ๆ ก็แวะไปเป็น หน้าม้า
โพสเพิ่มเรทติ้งที่บล็อคชั้นมั่งนะยะ อิอิ
ไม่งั้นชั้น งอล หล่อน จิง ๆ ด้วย
เนี่ยคราวก่อน กระทู้ เรื่องพระพุทธเจ้าไหว้ใครไหม ของหล่อน
ก็เป็น เหตุปัจจัย ทำหั้ยชั้น โดน WM แบนแต๊ดแต๋ ไปทีนึงแระ
( ยังน้อยใจไม่หายเรยนะเว้ย เฮ้ยยย )



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 2 มกราคม 2555 เวลา:23:48:20 น.  

 
 
 
อุ๊ยะ ! นี่
ปีที่แล้ว เราได้เผลอพูดฟามในใจออกไป
รวมถึงไอเดียสร้างสรรค์ในห้องสุขา
โอ๊ะ แย่เลย
อย่างนี้ สาวๆที่เค้ามาอ่าน จะพลอยจินตนาการถึงฟามองอาจ น่าเกรงขามของเรา"เล็ก"เกินจินตนาการไปมั๊ยเนี่ย!

ปีนี้ เล่าฮูว่าจะพูกอะไำรให้เป็นสิริมงคลแก่ทุกๆคนทีเดียว
เอ้า ฟังให้ดีนะ

"สิ-หริ-มง-คง"

เมื่อฟังอะไรที่เป็นสิริมงคงแล้ว ก็มาถึงข่าวเสี้ยม
เอ๊ย ข่าวสารฟามคืบหน้าจากอาม่า
เชิญทัศนา
แทแด....



อาม่าบอกว่า...


"อ่านหล่ะ แต่ไม่ค่อยรู้เรื่องเท่าไหร่ แต่ก็พยายามประติดประต่อ เลยไม่รู้ว่าโดนด่าหรือโดนชม5555+ เคยสงสัยว่า พูดอารัยอาม่าไม่ค่อยเข้าใจ แต่ก้อเก็บข้อมูล....... ฝากบอกอาKWAN ด้วยว่าอาม่าคิดถึง และขอให้มีความสุข เจริญในธรรมเหมือนกัน ลูกชายเป็ดน้อย เป้นเด็กดีน่ะ ฝากเหล่าฮู เมตตาส่งสารให้ด้วย ขอบพระคุณ น่ะ

..............................

เหล่าฮูเหล่าฮูปรารภว่า.....

เนี่ย คาบข่าวไปบอกนู๋หลบและป้าแดงอย่างไม่ปิดบัง ว่า มีคนพูดถึงอยู่

แต่ทว่า

อาม่าอีอ่านม่ายเข้าใจ
อยากบอกว่า เหล่าฮูก็อ่านไม่ค่อยเข้าใจร๊อก
แต่ถูกใจ เพราะครื้นเครงดี

แต่ทว่า สะดุดกึกกงนี้

"ที่พูดมาทั้งหมดนี้ เพราะผมแอบรัก นู๋บี บัวใต้ตมของผมอยู่ ช่วยปรามทางภาษาเป็นกระทู้ๆๆไปก็ได้ครับ เวปมาสเตอร์โปรดอภัยด่วน เห็นแก่รักคุดของผมจักเทื่อออออออ พลีส..?"

โอ้ว ! ครายๆก็แอบรักป้านู๋บี เหมือนเหล่าฮูเลย!

บร๊ะจ้าว ! จะมีครายหมั่นไส้แกมอิจฉาพวกเรา เหล่าสุภาพบุรุษผู้มีฟามเคารพนบนอบต่อป้านู๋บีหรือไม่ ข้อนี้ยังโสงสัยอยู่

เดี๋ยวจะชวนหนุ่มๆเข้ามาประกวดเยอะๆดีฝ่า

หรือไงอาโอวทึ้งว่า!

 
 

โดย: โฮ่งศักดิ์ IP: 171.98.127.67 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:15:58:33 น.  

 
 
 
ขอบคุงอาเล่าฮู ที่มาส่งสารให้กันเน้อ
คิดถึงอาม่า ทุ๊กลมหายใจเหมือนกัน
ขอให้อาม่า มีแต่ความสุขความเจริญตลอดไป
ฝากเล่าฮูส่งสารกลับไปหาอาม่าด้วยนา อิอิ
ฝากกันไปฝากกันมา หนุกหนาน ต้อนรับปีใหม่
คิดถึงวันคืนเก่าๆ แล้วก็มีความสุขได้อีก เนอะ

ฝากบอกอาม่า อีกหน่อยเน้อ
อาตี๋เป็ดน้อย เด๋วนี้พูดจามากมายพูดไม่หยุด
ปัตจัตตัง ก็เยอะ พาไปไหว้หลวงพ่อไก่ วัดป่าสระกระโจม
เขาชอบมากเลยอะ บอกว่ารักหลวงพ่อด้วยนะ
 
 

โดย: อาKWAN IP: 58.9.58.132 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:17:11:30 น.  

 
 
 
ลูกไป๋ จ๋า อย่าชมหม่ามิ๊ให้มากนัก
มีเหลิง ด้วยนะ จาบอกให้
ก็นู๋บี เป็นหนึ่งเดียวในจักรวาลนี่นา 555
ไม่ผูกเสี่ยวกะนู๋บีได้ไง หุหุ
นู๋บีไม่มีใครเหมือนและก็ไม่เหมือนครายยยย
 
 

โดย: เสี่ยวจัง อิอิ IP: 58.9.58.132 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:17:16:11 น.  

 
 
 
มีเรื่องดีดี มาแบ่งปันด้วยนะฮ้า
เรื่องมีอยู่ว่า พาป๋าโจ ไปไหว้หลวงพ่อไก่ วัดไตรรงค์
วิสุทธิธรรม (วัดป่าสระกระโจม ดอนเจดีย์ สุพรรณ)
หลวงพ่อให้ถามอะไรก็ได้ คนละ 1 คำถาม
ไปตอนเที่ยง ได้เข้าพบในรอบ 14.15 มีคนอื่นๆอีก
ประมาณ 20 คนได้ ไปวันที 2 มค. พอเข้าไปกราบ
หลวงพ่อก็ให้พร หลวงพ่อทำมือหงายสองข้างยื่นมา
ด้านหน้า แล้วบอกให้ทุกคนนึกถึงโคมไฟที่สองสว่าง
แล้วหลวงพ่อก็ให้พร (สาธุ ป๋าโจมาบอกทีหลังว่าตอน
ที่หลวงพ่อให้พรนี้เขาเห็นเห็นดอกบัวบานสีขาวซ้อนขึ้น
มาบังหลวงพ่อด้วย) พอจบคำกล่าวการถวายสังฆทาน
และหลวงพ่อให้พรเสร็จแล้ว ก็อนุญาติให้ทุกคนถาม
ปัญหาได้ ก็ถามกันทุกเรื่องหลวงพ่อก็เมตตาตอบให้
ทุกเรื่อง มีคนถามเรื่องธุรกิจไม่ดีจะทำยังไง
ขายที่ไม่ได้จะทำยังไง ลูกเกเรจะทำยังไง เป็นนายร้อย
จะได้เป็นนายพลไหม หลวงพ่อก็ตอบให้ทุกคำถามจริงๆ
แล้วก็แนะนำวิธีให้แต่จะทำกันได้ไหมนี่ก็อีกเรื่อง หุหุ
เจ๊ไปสามคน ถามครบคนเลย ของเจ๊ถามเรื่องไม่สบาย
เกือบตายมาหมดเคราะห์หรือยัง หลวงพ่อหลับตาเข้า
สมาธิแป๊บนึงแล้วตอบว่า ยัง!!! แล้วก็ให้กระดาษมาใบหนึ่ง
เขียนว่า ฉันทะ วิริยะ จิตตะ วิมังสะ ท่องวัน
ละหนึ่งชม. หลวงพ่อมีเขียนเจิมบนกระดาษมาให้ด้วย
จบเรื่อง ก็ถามของพลทหารเป็ดน้อยนู๋ฮาร์ท พอดีเจ๊มี
เรื่องสงกะสัยก็เล่าให้หลวงพ่อฟังก่อนว่าวันที่ 1 มค.
ไปไหว้พระที่วัดบรมราชาฯ(วัดเล่งเน่ยยี่2) พอไหว้เสร็จ
นู๋ฮาร์ทเขาก็บอกว่า ฮาร์ทมีพระอยู่ในหัวด้วย เจ๊ก็
ถามหลวงพ่อว่า ฮาร์ทเขาเห็นจริงไหมหรือว่าพูด
เพ้อเจ้อประสาเด็ก หลวงพ่อหลับตาไปแป๊บนึง ก็ตอบว่า
เขาเห็นจริงเป็นปัตจัตตังของเขา ก็หายสงสัยไป จบไป
อีกเรื่อง ต่อไปก็คิวป๋าโจ ถามซื่อๆเลย ว่าปฏิบัติสมาธิ
มาเข้าใจเอาเองจากตำราว่าได้ระดับอุปจารสมาธิถามว่า
เข้าใจถูกต้องหรือคิดกันไปเอง หลวงพ่อหลับตาแป๊บนึง
ก็ตอบว่าเข้าใจถูกแล้ว ป๋าโจอึ้งไปเลย ไม่คิดว่าจะได้
คำตอบแบบนี้ แล้วก็ขอให้หลวงพ่อสอนเรื่องสมาบัติแปด
หลวงพ่อบอกว่ายากนะ สู้หรือเปล่า ป๋าโจมาบอกทีหลัง
ว่าชอบที่หลวงพ่อบอกท้าทายดีชอบของยากว่างั้น
นับว่าหายข้องใจไปหลายเรื่อง ได้พบอัศจรรย์ของ
หลวงพ่อได้เห็นดอกบัวบานแบบไม่คาดฝัน ทำให้ป๋าโจ
มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะ นับว่าเริ่มต้นปีใหม่ปีนี้โชคดีมากๆ
เหลือแต่อิอ่อน คนเดียวยังไม่หมดเคราะห์กรรมหลวงพ่อ
บอกว่ายังมีด้ายดำผูกมืออยู่ก็ให้ไปสวดมนต์รักษาศีลท่อง
อิทธิบาทสี่ไปก่อน นี่เล่าแบบย่อนะ ใครชอบทำบุญกับ
พระไม่ควรพลาด หลวงพ่อไก่ใจดีมากๆ ก็มาเล่าสู่กันฟัง
 
 

โดย: อิอ่อน IP: 58.9.58.132 วันที่: 3 มกราคม 2555 เวลา:22:25:45 น.  

 
 
 
โว้ย! เฮ้ยทำมายมันหลายชื่อจังว่ะ เยอะแยะไปหมด
อาซิ้ม อาซ้อ อากง อาม่า อาเจ้ อาตี๋....ฯลฯ

ที่คุยกันเนี่ยไม่เผื่อให้ชาวบ้านเขารับรู้บ้างเลยหรือไร
เค้าแป๋ เค้าบ้ออ่า อั้วบ่อหีลั้งนา ลื้อจายบ่อ

แหม่! มีการหยอกเอินกันด้วย พอดีกับผัวแล้ว
คนอื่นก็เป็นหมาหัวเน่า
อีเจ้ขวานนี่ นางเอ้ก..นางเอก วันก่อนยังเห็น
ทอดอาลัยกับชีวิต พอผัวสนใจเข้าหน่อย ร้องกระต๊ากๆๆ
ใหญ่เลยนะ

อีเจ้นู่บีผีเน่านี่ก็อีกคน ดันไปโพทนาลบ็อกตัวเองเสียทั่ว
ทำแบบนี้ อีกหน่อยจะนินทาใครได้ว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.178.250 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:5:14:49 น.  

 
 
 
มีเรื่องมาถามสหาย
ป๋าโจเขานั่งมาธิ แล้วเกิดอาการเหมือนถูกโบโวดูด
แล้วก็เหมือนถูกมัดแน่นๆ เลยให้อิอ่อนมาถามว่า
มีใครเคยมีอาการแบบนี้ไหม แล้วก็มีใครพอจะบอกได้ไหม
ว่ามันคืออะไร ก่อนหน้านี้ก็มีอาการคือเป็นสุข โล่ง เบา
ได้ยินเสียงแต่ไม่กระโจนตามไปแค่รู้เฉยๆ แบบสงบๆ
ไม่เคยโดนดูด เพิ่งจะเป็นเมื่อวานแถมยังเข้าได้ตั้ง 6 ครั้ง
อ่านตำราแล้วก็เข้าใจระดับหนึ่งแต่อยากรู้จากคนอื่นๆบ้าง
ก็เลยขอรบกวนใครที่รู้ก็ช่วยเล่าแจ้งแถลงไขด้วยเน้อ

มีอีกอย่าง ตอนทำสมาธิใหม่ๆที่ได้อะไรแปลกๆครั้งแรกๆ
นี่ป๋าแกบอกว่าเหมือนไคลแม๊กซ์ ซะงั้น คล้ายๆที่นู๋บีก็เคย
บอกไว้ แบบว่าสุขได้แบบไม่ต้องง้อคนอื่นน่ะ แล้วบางที
ก็เหมือนได้หลับพักผ่อนในสมาธิคือมันเต็มอิ่ม สดชื่น
แต่พอมาถึงขั้นโดนดูด มันไปอีกอย่าง ก็เลย งง นิสนึง
ป๋าแกตื่นเต้นมากน่ะ แล้วก็อยากรู้ว่ามันคืออะไร
และหลวงพ่อไก่ก็ได้บอกไว้ก่อนแล้ว ว่าอย่าไปใส่ใจ
ให้รู้เฉยๆ แล้วทำต่อไป แต่คนมันสงสัยอะนะ ก็อยากรู้
อยากหาคนแชร์ ป๋าโจแกอยากเร่งให้ได้ฌาณ4 เร็วๆ
ก็เร่งปฏิบัติมากในช่วงนี้ เรียกว่าแทบจะทุกลมหายใจ
เลยมั้ง ส่วนอิอ่อนก็รู้แต่ตำราประสบการณ์ไม่มี แหะ แหะ
กลัวจะบอกป๋าโจคลาดเคลื่อนไป
 
 

โดย: อิอ่อน IP: 124.122.182.110 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:13:34:32 น.  

 
 
 
ถามอาตี๋โตหมาตื่นพิทบู!!! ด้วยนา
อิเจ้ ถูกล่ามโซ่อยู่กะบ้าน แต่มือกะคอมฯมันไม่ได้ถูกล่ามนิ
และก็ที่มาจู๋จี๋กะนู๋บีเขาบ่อยๆเนี่ย ก็ได้ฟามรู้เรื่องการปฏิบัติ
ไปโม้ให้ป๋าโจฟังด้วยนะเว้ยเฮ้ย
ไม่ได้มาแอบแร่ดๆ นอกบ้านแบบไร้สาระไปวันๆ อิอิ
อิเจ้รองน่ะ เป็นหน่วยสอดแนมเป็นหูเป็นตาเอาเรื่องนอกบ้าน
ที่มีสาระไปโม้ให้ป๋าโจฟังเป็นประจำ
ป๋าโจเขาพวกเห็นผีเป็นเรื่องปกติ
อิเจ้ก็เลยต้องมาหาคบกะคนแปลกๆ แหวกแนว - - "
ที่ไม่เหมือนชาวบ้านชาวช่อง มาเก็บข้อมูลไว้ให้ป๋าโจบ้าง
ว่า ป๋าก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นคนเดียว คนอื่นๆก็มี
จะได้ไม่รู้สึกโดดเดี่ยวหรือว่าแปลกพิศดารเป็นบ้าอยู่คนเดวไง

นอกจากป๋าโจแร้ว ลูกชายสุดสวาทของอิเจ้รองก็ใช่ย่อย
ปัตจัตตังอีเยอะ อิเจ้รองก็ต้องใช้ปัญญาหูตาสัปปะรดมาคอย
ปะเหลาะหรือคุยกะลูกให้ถูกทางเพื่อเสริมจินตนาการให้เขา
ล่าสุดหลังจากไปหว้พระที่วัดเล่งเน่ยยี่2มา ลุกชายอั๊วบอกว่า
เห็นพระในหัวแล้ว ยังเห็นมังกรในหัวอีก อั๊วก็ทำเนียนคุย
กะลูกอั๊วได้ด้วยนะเว้ย!!! พอดีที่เพบานของวิหารเขาทำเป็น
ลายมังกรเต็มไปหมด ลูกอั๊วบอกว่า มังกรมาพ่นไฟใส่มือ
แล้วเอามือมาแตะจมูกแล้วบอกว่าจมูกร้อน อีให้อั๊วเอามือ
แตะจมูกอี แล้วถามว่าร้อนไหม อั๊วได้แต่ยิ้มๆ เพราะอั๊ว
ไม่รู้สึกร้อน แต่ไม่อยากทำลายจินตนาการของลูก แต่ป๋าโจ
อะดิ หาว่าเจ๊คุยอะไรกะลูกไร้สาระ ซะงั้น ตอนไปหาหลวงพ่อ
ไก่ อั๊วก็กะจะถามเรื่องมังกรแระ แต่ปั๋วอั๊วห้ามไว้ บอกว่า
ไร้สาระถามอะไรก็ไม่รู้อายคนอื่นป่าวๆ อั๊วเลยถามแต่เรื่อง
พระที่ลูกอั๊วบอกว่าเห็นในหัว ก็หายสงสัยไปว่าเห็นพระจริง
แต่เป็นปัตจัตตังของเขา ทีนี้ไอ้เรื่องมังกรมันไม่จบอะดิ
อาตี๋เป็ดน้อยลูกชายอั๊ว ยังมาคุยต่ออีกว่า มังกรมันติงต๊อง!!!
มาคอยไล่ผีบ้าในหัวให้หนีไป แถมมังกรของอี ยังตามมาอยู่
ที่รถอีก!!! ไม่ยอมมาอยู่ที่บ้านเพราะมังกรอีบอกว่าหนาว
ชอบอยู่ที่รถ เรื่องพวกนี้อั๊วไม่ได้ถามลูกนะ อยู่ๆอีก็คุยให้
อิเจ้ฟัง อิเจ้ก็ได้แต่ยิ้ม ถามผสมโรงไปมั่งเพราะอยากรู้ แต่
ถ้าอีไม่พูดขึ้นมา อิเจ้ก็ไม่คุยเรื่องพวกนี้กะลุกหรอกนะ
ไม่อยากจุดชนวนเรื่องปัตจัตตัง(เรื่องที่รู้ได้คนเดียว)
บอกก่อนว่าอาตี๋ลูกอั๊วเพิ่ง 7 ขวบ และก็เพิ่งจะพูดรู้เรื่อง
ได้ตอน6ขวบ อีไม่รู้จักเรื่องพูดโกหก ซื่อๆ ไม่ได้เหลาซิก
แกล้งใครก็ไม่เป็น ที่เล่าให้ฟังเนี่ย ก็เผื่อจะได้คำแนะนำดีดี
มาใช้กับลูกมั่ง เล่าให้ปั๋วฟังอีก็จะบอกว่าอั๊วกะลูกพูดเพ้อเจ้อ
ไร้สาระ อั๊วเลยไม่รู้จะไปปรึกษาใครดี แต่อั๊วก็ทำเนียน
คุยกะลูกอั๊วได้อยู่ และยอมรับในเรื่องที่เขาคุยด้วยน่ะ
เพื่อให้เขาไม่สับสนในเรื่องที่เขารู้แล้วสัมผัส อิเจ้น่ะเป็น
อิอ่อน แต่เรื่องทำตัวเนียนคุยได้ทุกเรื่องทั้งเรื่องจริงและ
เรื่องจินตนาการ เพราะอั๊วมีข้อมูลในคลังสมองเยอะ หุหุ
อ่อนเรื่องประสบการณ์อย่างเดียวแหละ เพราะขี้เกียจปฏิบัติ
 
 

โดย: อิเจ้รอง IP: 124.122.182.110 วันที่: 5 มกราคม 2555 เวลา:14:16:24 น.  

 
 
 
กะจองงองๆเจ้าข้าเอ๊ย! เมื่อวานโพสความเห็น โดน
เครื่องกลั่นกรองความเป็นผู้ดีแปดสาแหรก มันกำจัด
ความเป็นไพร่ของอั้วว่ะ ลูกเจ๊กไม่ใช่ไพร่นะว่อย
แหม่!กรูพูดภาษาเจ๊ก ภาษาจีนหน่อยเล่น เอาความเป็น
ผู้ดีแบนกรูเลยหรา อีคุณพี่หนูบีขา คุณพี่หญิงใหญ่ทรง
พระเรื่องมากนะเพข่ะ

กะคำพูดแต้จิ๋วที่แปลว่า อั้วหูไม่ดีแค่เนี้ย คุณพี่ข่ะ คุณพี่ขา
คุณพี่กำลังดัดจริต จนต้นกะปลายมันชนกันแล้วนะเคอะคุณ
พี่ขา

เนี้ยนึกว่าจะปลดล็อกให้อั้วแล้ว ก็ยังไม่ปลด สงสัยอีตั้วเจ้
มันไปแอบหลับในห้องดับจิตแหง่ซะ

อิเจ้ขวานนี่ก็อีกคน ไม่ค่อยจะโอ้ลูกเลยนะยะ ที่สาธยายมา
มันลูกคนหรือลูกเทวดาว่ะ เลี้ยงลูกมันต้องเตะต้องถีบกัน
บ้าง อีกหน่อยเพื่อนฝูงชวนไปแว้น มันจะได้กล้าปฏิเสธ
ถามจิงเจ้รอง ปวดท้องขรี้ เจ้กระเตงลูกใส่เอวเข้าไปขรี้ด้วย
หรือเปล่า อย่าทำเป็นอันขาดน่ะ มันจะทำให้เด็กเสียสมดุย์
เรื่องของประสาทการดมกลิ่น อีกหน่อยของเหม็นจะกลาย
เป็นของหอม ของไม่ไม่ควรกินจะกลายเป็นชวนกิน

อิเจ้รองล้อกันเล่นนะ อย่าทาปากเขียนคิ้วไปฟ้องผัวล่ะ
ชอบเอาเรื่องนอกบ้านไปเล่าให้ผัวฟัง อีกหน่อยมันมีข้ออ้าง
ไปเที่ยวนอกบ้าน มันจะบอกว่ามันไม่เชื่อที่ลื้อเล่า มันต้อง
ไปเห็นกับตา แล้วลื้อจารู้สึกนะอีเจ้รองขวาน
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 115.87.153.24 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:5:04:46 น.  

 
 
 
เหวย...อาตี๋โอทึ้ง

ลื้อบ่นอะไรฟะ โดนแขวนข้อความหรอ หุหุ
ลื้อก็ทื่อมะลื่อ ซะจริงจริ๊ง โดนแขวนมาหลายรอบ
ก็ยังไม่มีพัฒนาการเอาซะเลย คำไหนโดนแบนก็ต้องหัดจำ
มั่งดิวุุ๊ย!!! แล้วเขียนจับแยกใส่จุดหรือใช้ภาษาปะกิดแทรก
ให้มีศิลป นิหน่อย เซอร์เวอร์มันก็ก่งก๊ง แยกไม่ออกแระ
อาไร๊....เรื่องแค่นี้ต้องให้สอนด้วย หรือไงฟระ!!!

อย่างเนี้ยะ หูไม่ดี= He ลั้ง แค่นี้ก็ผ่านฉลุยแระ
อิตั่วเจ้ เขาชิ่งหนีเข้ากะลามหาสนุกไปแระมั้ง คงอีกหลายวัน
ก่าจะเสด็จมาอีกที ลื้อก็อย่าเพิ่งตีโพยตีพายไป มาวิเคราะห์
ช่วยอั๊วเลี้ยงอาตี๋เป็ดน้อยของอั๊วหน่อยดิ ลูกอั๊วเทวดามาเกิด
รึป่าวอั๊วก็ไม่รู้นะ แต่อีชอบคุยเรื่องจินตนาการกะอั๊ว อีเห็นอะไร
ก็เล่าให้อั๊วฟังหมดแหละ อั๊วเป็นนักฟังอย่างเดียว แต่อั๊วมี
สอนลูกอั๊วด้วยนะเว้ย ว่าอันไหนเรียกว่าของจริง อันไหน
เรียกจินตนาการ แต่เรื่องมังกรเนี่ยอั๊วไม่กล้าฟันธง ก็เลย
ยังไม่บอกลูก เพราะถ้าบอกผิด เด๋วลูกมันจะว่าอั๊วมั่ว
แล้วมันจะไม่เชื่อถือคำพูดของอั๊ว อั๊วจะบอกเฉพาะเรื่องที่อั๊ว
รู้จริงเท่านั้น ลูกชายอั๊วน่ะอีพูดช้ารู้เรื่องช้า ตอนเล็กๆก็พูด
เป็นภาษานกภาษาต่างดาว มาพูดรู้เรื่องก็ตอน6ขวบนี่แหละ
ลูกอั๊วโกหกไม่เป็นนะเว้ยบอกก่อน มีแต่ร้องไห้อย่างเดียว
ที่ีมาถามความเห็นลื้อนี่ อั๊วก็เอาไว้ประกอบการพิจารณาว่า
อั๊วจะวางท่าทียังไงกับลูกดี เพราะถ้าลูกมันเห็นจริงแต่อั๊ว
ไม่เห็น อั๊วก็ต้องหาทางบอกให้ลูกอั๊วเข้าใจเรื่องปัตจัตตัง
ซึ่งมันก็ยากกกกก ใช่ปะ ขนาดผู้ใหญ่ด้วยกันยังอธิบายให้
เข้าใจได้ยากเลย นิ อย่างคนเห็นผีแต่เราไม่เห็นผี แล้ว
จะไปบอกว่าผีที่เขาเห็นมันไม่มี มันก็ไม่ช่วยอะไร เพราะ
ผีมันก็ยังอยู่ คนเห็นผีมันก็ยังเห็น เผลอๆอีไม่เข้าใจ จะคิด
ไปอีกว่าเราโง้โง่ ไม่เห็นสิ่งที่เขาเห็น และถ้าเราไม่เห็นผี
แต่ดันทะลึ่งไปบอกว่าเห็นผี พอนานๆไปเขาจับพิรุธได้ว่า
เรารู้ไม่เหมือนเขา เราโกหกว่าเห็นเหมือนเขา เราก็จะ
เสียคนอีก อั๊วน่ะ เป็นเปิดใจกว้างอยู่แล้ว อั๊วเองก็คุยกะปั๋ว
อั๊วอยู่เหมือนกัน ก็ช่วยกันดูๆอยู่ ก็วิเคราะห์ไปทางว่ามัน
เป็นจินตนาการของเขา ปั๋วอั๊วตอนเด็กๆเขาก็สร้างเพื่อน
ในจินตนการมาเล่นกับตัวเองเหมือนกัน พอมีเพื่อนตัวเป็นๆ
มันเลิกสร้างเพื่อนในจินตนาการไปเอง เขาว่างั้นนะ
ลูกอั๊วอีก็เล่าให้อั๊วฟังคนเดียวแหละ เพราะอีรู้ว่ามีแต่อั๊ว
ที่ทนฟังอีกพูดโดยที่ไม่ว่าอะไร ไปพูดกะพ่ออีก็คงไม่ฟัง
ที่จริงเรื่องพวกนี้ อั๊วก็ไม่ควรมาเล่าให้คนอื่นฟังหรอก
เพราะอาจโดนหาว่าบ้าทั้งแม่ทั้งลูก อิอิ อั๊วก็เล่าเผื่อๆไว้
หวังฟลุ๊คว่าอาจเจอคนที่เข้าใจเรื่องพวกนี้แล้วแนะนำ
วิธีสอนเด็กให้ถูกทางกะอั๊วได้

 
 

โดย: อิเจ้รองสันขวาน IP: 124.122.182.110 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:13:27:22 น.  

 
 
 
อาตี๋โอทึ้ง ไหนลื้อว่าจะคุยเรื่องปฏิบัติ ไง
มีอะไรมาเล่าให้ฟังบ้าง อั๊วจะได้เปิดหูเปิดตา
ปั๋วอั๊ว เขาอยากรู้จักคนที่ได้ฌาณ4 จะได้ถามมั่งอะไรมั่ง
แบ่งปันความไม่รู้กันมั่ง แต่อีขรี้อายอะนะ
ไม่คุยกะคนแปลกหน้าและพวกหน้าแปลกๆ
อีให้อั๊วเป็นล่ามทรงหาข้อมูลไปให้อี อะแหละ
แระเรื่องไปเที่ยวนอกบ้านเนีี้่ยะลื้อไม่ต้องเป็นห่วง
พี่ชายเขาจะพาไปลงอ่างออกเงินให้ด้วย อียังไม่ยอมไปเลย
ทั้งๆที่อั๊วก็อนุญาติให้ไปไม่ได้ว่าอะไร
แต่ถ้ามีชะนีหลงทางมาที่บ้านนี่ก็ไม่แน่อะนะ ถ้าชะนีสวยๆ
โคตรไอ้เข้มันก็คงงาบชะนีไม่มีเว้นนะแหละ หุหุ

คนที่บ้านอั๊วก็มีนิสัยแปลกๆอยู่เหมือนกัน
เลยคบกะคนอื่นลำบาก

 
 

โดย: อิเจ้รองสันขวาน IP: 124.122.182.110 วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:13:54:47 น.  

 
 
 




เฮ่ย...ไอ้พิทบูลขี้โม้ที่ไหน มาเห่าโฮ่ง ๆ แฮ่ แถวนี้ว้าาาา
แมร่ง หนกขู อิ๊บอ๋าย เรยยยยยยยย เหอะๆ
เฮ้ออออ ตรูขึ้นเวรเมคมันนี่ ส่งท้ายปีก๊ะอิน้องปลาบู่เสร็จ
ก็อุส่า ลาพักผ่อนย๊าวยาว กะจะเสด็จไปนั่งลั้ลลา
นอนเขลงอยู่ในฮาเร็มอย่างซาหงบสุกแท้ ๆ
ไอ้ตี๋โลงเก๊ ก็ดั๊น เจื๋อกมาแยงมาแหย่ ตรูอี๊กกกก
อยากโดนจับไปขายที่ท่าแร่ หรือไงฟระ ไอ้ลูกจีนร้ากกกซาด? เหอะ ๆ



เอ้า อิเจ้เข้ามาปล่อยผ่านตัวหนังสือหั้ยแระย่ะ
อืม....ก็อย่างที่ อิเจ้รองขวาน บอกนั่นแหล่ะ
เฮ้ออ อิเจ้ก็เคยปากเปียกปากแฉะ เสี้ยมสอนไปแร้วนิ ไยไม่สำเหนียกเอาซะเรย
บอกแล้วว่าเวลาทีโพสข้อฟาม ให้มรึงใช้แทคติก ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เนี่ย เวลาโพสคำที่มันสุ่มเสี่ยงจะโดนโปรแกรมมันแบนอัตโนมัติ
ลื้อก็หัด เลี่ยงบาลี รู้จัก เอาเยี่ยง ปลาไหลขงเบ๊ ก๊ะ น้าชาติมาดนักพลิ้ว ซะมั่งสิฟระ
แมร่ง มัวแต่ร้องอุปรากรจีน ชิมไปบ่นไปแบ่บซือแป๋ลื้ออยู่นั่นแหล่ะ ฮ่วย!



อ้อ อิหม่ามี๊ เจ้าขราาาาาา
นู๋บีต้อง ขอโทษแทน ไอ้โตแมวตื่น ด้วย นะเจ้าคะ
ที่มันบังอาจมาสำแดงกิริยาบ่อตั้วบ่อโส่ย ก๊ะคุงแม่ปั๋วงี้
อิหม่ามี๊ โปรดอย่าได้ถือสา ไอ้ลูกหมาพิทบูลมันเรยน้าาาาา
ถ้าน้ำลายหมาบ้า มันทำให้ อิหม่ามี๊รู้สึกระคายเคืองเบื้องบาท
ก็ขอให้ดูจิตดูใจแล้ว ระลึกถึงคำสอนของเจ้าคุณพ่อไว้เสมอนะเจ้าคะ
ว่า ผู้ดีมีชาติตระกูล อย่างตรู

ไม่นิยม เอา ทองมาลู่กระเบื้อง ! เฟร้ยย



ไง อิหม่ามี๊ก็ ทำใจให้ร่ม ๆ รักษากิริยาผู้ดีแปดสาแหรก
แดร่ก เอ๊ย จิบชอคโกแลตชิล ๆ อยู่บนภู เฉย ๆ ก็พอคร้าาา
ส่วนเรื่อง สั่งสอนไอ้พิทบูลบ้าเลือด เนี่ย
เด๋ว อิไพร่ทงอี เอ๊ย ลูกไป๊คนนี้ จะ จัดหนัก หั้ยมันเอ๊ง
เชื่อใจนู๋บีได้คร้าาาา ก็บอกแร้วไง ว่า
ยังไงก็ เอาไหว (และ เอาอยู๊)หุหุ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:14:48:14 น.  

 
 
 

ปอลิง.
แควนคลับจ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เด๋วขอ อนุญาตไปเคลียร์ธุระปะปัง แป๊บนึงน้าาาาา
ช่วงนี้ ได้ข่าวว่า พี่เป้ มันเลิกก๊ะอินังแพนเค้กแย้ววว ว่ะ
นู๋บีเรยว่าจะแอบเนียนเข้าไปเสียบแทนซะหน่อย (เผื่อฟลุ๊ค อิอิ)
แร้วเด๋ว จามาปั่นน้ำลาย ตอบ จม.แควน ๆ
เพื่อเป็นการสั่งนางก่อนลา ให้เสร็จภายใน 7 วัน (ตามที่สัญญาไว้จร้าาา)
แบ่บว่า ผลัดวันประกันพรุ่งมานานเต็มทีแระ
เด๋วจะมีคนมาค่อนขอด หาว่านู๋บี เป็นสาวสวยผู้ไร้สัจจ์ อิอิ



เออ จิงดิ ปรึกษา แควนคลับ หน่อยจร้าาาา ว่า
ไอ้เรื่องแก้ต่างคดีหมิ่นฯ ทั้งหลายแหล่
ที่ไอ้ตี๋ขี้ระแวงมันสะแหล๋น มาแจ้งฟามเท็จ แล้วยัดยาบ้าให้นู๋บีเนี่ย
ถ้านู๋บีจ้าง อิเจ้คนเนี้ยะ






มา ว่าฟาม ให้เนี่ย แควน ๆ คิดว่า
ทั่นเปา จา ใช้ ดุลพินิจ ผ่อนหนักหั้ยเป็นเบา
แล้วพิพากษายกฟ้อง อิผีเน่าไหมน้ออออ
แต่ดูจากรูปคดี และ ฝีปากของทนายฝ่ายจำเลย แร้ว
ไงซะ นู๋บีก็คิดว่า อิผีเน่า หลุด ชัวร์ เหอ...เหอ.....


แควน ๆ คอยดูนะเว้ย เฮ้ยยย
ถ้าแคล้วคลาดจากคดีนี้เมื่อไร
นู๋บีจะฟ้องกลับไอ้ตี๋โลงเก๊
ทั้งทางอาญาและทางแพ่ง
ข้อหาจงใจใส่ไคล้ด้วยข้อฟามอันเป็นเท็จ
มีเจตนากลั่นแกล้ง(โดยไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า )
ทำให้ลูกผู้หญิงตัวเล็ก ๆ อย่างนู๋บี
ต้องขายผ้าเอาหน้ารอด เอ๊ย ต้องอยู่อย่างอับอายขายขี้หน้า
สูญสิ้นทั้งฟามแจ่ม และฟามแหล่ม
ไหนจะ เรื่องศักดิ์ศรีฟามเป็นมนุษย์
แอนด์ ฟามเป็น ปูชะนียะบุคคล อีกเล่า

เนี่ย นู๋บีว่าจะฟ้องเรียกค่าเสียหาย
จากไอ้ตี๋ สัก สิบล้านโคร์น ว่ะ
( จาได้เอาไปเป็นสินสอดขอ ฮาร์ทจัง ได้พอดี เหอะ ๆ )


อ้อ ครายอ่านแร้วข้องใจ มาเคลียร์ก๊ะอิตั้วเจ้ได้ ตัวต่อตัว!





 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 6 มกราคม 2555 เวลา:14:50:13 น.  

 
 
 
อีเจ้รอง เรื่องการเลี้ยงลูก อั้วมีนโยบายว่า ลูกต้องฟังเรา
ไม่ใช่เราไปฟังลูก อั้วจะบอกให้ถ้าลื้อขืนนั่งฟังลูก อีกหน่อย
ลื้อก็คงเหมือน พ่อไอ้ปลาบู่มันนั้นแหล่ะ ฟังลูกแหล แล้ว
ก็เอามาแหลต่อ เรื่องจริงไม่รู้นะ พ่อไอ้ปลาบู่อาจแหลเอง
ก็ได้ว่ะ อยากบอกลื้อถ้าพ่อไอ้บู่มันมาแหลต่อหน้าอั้ว รับรองได้ มันโดนอั้วกระทืบแน่ แก่ๆอย่างนี้ล่ะดีนัก ไม่มี
ทางสู้

เรื่องณาฌ เรื่องญาณ เขาไม่เอามาคุยกัน คุยมากเดี๋ยว
เจอข้อหาอวดอุตริ แต่บอกได้คำเดียวว่า ตายแล้วเกิด
มันมีจริง ระลึกชาติมีจริง แต่ไม่ใช่การระลีกชาติด้วยการ
นั่งสมาธิ เห็นตัวเองเป็นนิยายซีรีย์เรื่องยาวนี่มันตอแห..

การระลึกชาติเขาอาศัยปัญญา (ญาณ) หาเหตุปัจจัยของการ
ยึดมั่นถือมั่นในอดีตชาติกับชาติปัจจุบัน
เอาเป็นว่า ข้ารู้ข้าเห็น ข้าเป็นด็อกเตอร์ ฮาๆๆๆๆ

อีเจ้รอง พูดเป็นงานเป็นการ อั้วอยากบอกว่า วิธีปฏิบัติ
ที่อั้วว่ามันถูกต้องตามขั้นตอนที่สุด น่าจะเป็นวิธีของหลวงพ่อ
ปราโมชนั้นแหล่ะ วิธีที่หลวงพ่อสอนคือสอนให้คนมีสติ
ปัญญามันจะเกิดขึ้นได้ มันมาจากสติเป็นตัวหลัก
ลื้ออย่ามัวไปหาอะไรเลย การจะเรียนหรือปฏิบัติธรรมให้
ถูกทาง มันต้องได้ปัญญามาก่อน ไม่งั้นมันก็ไม่รู้เรื่อง

พยายามมีสติ สักวันก็จะเห็น สภาวะไตรลักษณ์
ไอ้ตัวนี้แหล่ะเรียกว่าปัญญา มันตอบโจทย์ในพระไตรปิฎก
ได้ทุกเรื่อง อย่าลืมมีสติหาไตรลักษณ์ให้ได้ก่อน

ส่วนเรื่องผัวลื้อ ที่ไม่ยอมไปเที่ยว อั้วก็เคยทำแบบนี้
กับแฟนอั้วว่ะ แต่ลื้อรู้มั้ยว่า มันบอกอั้วว่าอะไร มันบอกว่า
"ไอ้โตมรึงไม่ต้องมาทำเป็นคนดี สันดา..ผู้ชายมันก็เป็น
แบบนี้ทุกคน ต่อหน้าทำเป็นสมภาร ลับหลังมรึงจ้องจะกิน
ไก่วัด ไอ้โตไอ้หื่น"

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.82.140 วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:4:12:17 น.  

 
 
 
อีตั้วเจ้ พักนี้เป็นไงไม่รู้ว่ะ ไม่อยากเสวนากับยัยแก่ขึ้น
คาน อั้วชอบคนมีประสบการณ์แบบอีเจ้ขวานว่ะ
อั้วว่าผัวอีเจ้ขวานโชคดีชิกหาย ที่ได้เมียใสซื่อหรือว่าโง่ว่ะ
ถ้าเป็นอั้ว อั้วจะเอาอีเจ้รองสต๊าฟขึ้นหิ้งบูชาเลยว่ะ

ผู้หญิงอารัยกลัวผัว เห็นผัวเป็นคนดี กรูว่าผัวอีเจ้รอง
ต้องกลายเป็นพระศรีอริยเมตไตเข้าสักวัน

อีสองเจ้ เห็นกรูปากปีจอแบบนี้ มรึงสองคนรู้มั้ย
กรูโครตกลัวเมียเลยว่ะ แต่ตอนนี้กรูไม่กลัวมันแล้ว
เพราะกรูกับมัน ไม่ได้อยู่ด้วยกันแล้ว มันเสีอกเล่นบท
ดร่าม่า ให้กรูง้อ ทำแบบนี้ก็เข้าทางกรูซิว่ะ เรื่องอะไรจะง้อ
อยู่ตัวคนเดียว มองสาวๆแล้วขันจุ๊กกรูๆๆสบายใจกว่าฮาๆๆ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.82.140 วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:4:29:37 น.  

 
 
 
นี่ๆ ลูกไป๊...ขรา
หม่ามิ๊ มีเรื่องดีใจมาบอก
นู๋ฮาร์ทสุดเลิฟของลูกไป๊
สอบได้เกรดเฉลี่ย 3.63 ด้วยนะวุ๊ย
อิหม่ามิ๊ ปลื้มจนน้ำหมากไหล หุหุ
ตอนไปฟังคะแนนสอบ ก็ทำใจไว้แระ
ว่าจะโดนคุณครูสั่งให้กวดขันสอนพิเศษแบบเดิมๆ
จากเกือบตก มาได้คะแนนดีแบบอึ้งทึ่ง เรยนะเนี่ย
ผลงานของป๋าโจเรยนะ ที่สอนเองจนรู้เรื่อง อิอิ
ตอนนี้นู๋ฮาร์ท อิบอกว่ามีสมาธิดีฟังครูรู้เรื่องทำงานได้

ส่วนอิน้องจูน ก็ลัลล้าอารมณ์ดีมีกิ๊บเก๋ตลอด หุหุ
พี่สะใภ้ห่วงเรื่องเอาแต่เล่นเกม จนต้องยึดเครื่องDS
ตอนนี้อิน้องจูนก็ยึดโทรศัพท์พี่สะใภ้มาเล่นเกมแทน
เอากะคุณเธอร์สิ มีล้วงเอาโทรศัพท์จากกระเป๋ากางเกงเลยนะ
เชื้อใครแรงก็ไม่รู้ 555
 
 

โดย: อิหม่ามิ๊ IP: 171.97.6.31 วันที่: 7 มกราคม 2555 เวลา:22:36:15 น.  

 
 
 
อั้วมีเรื่องเล่าให้ฟังว่ะ อีซ้อข้างบ้านมาเล่าให้ฟังว่า
มันไปตลาดซื้อของ เห็นยัยแม่ค้าขายไก่กำลังคุยโขมง
โฉงเฉงว่าลูกมันสอบได้ที่1 ได้3.90 อีซ้อเลยบอกว่า
ลูกเธอเก่งนะ ลูกชั้นได้แค่3.00เองได้ที่เกือบบ้วย
ทำอย่างไรลูกถึงได้เก่งฉลาดแบบนี้

อีแม่ค้าได้ทีคุยใหญ่เลยว่า ผัวชั้นพ่อของเด็กแกเป็นคนดี
เป็นพ่อพระรักลูก ดูแลลูกคอยสอนหนังสือลูก เนี้ยถ้าไม่ได้
ผัวชั้น เด็กก็คงไม่ดีและฉลาดแบบนี้หรอก
พูดอวยผัวตัวเองเสร็จ ที่นี้หันมาพูดกับอีซ้อว่า เนี้ยสงสัย
พ่อของลูกเธอหรือไม่ก็ครูของเด็กไม่เอาใจใส่ละม่าง
ลูกของเธอถึงได้ฉลาดน้อยกว่าลูกชั้น ชั้นว่าน่ะเธอต้อง
ไปพูดกับทางครูทางโรงเรียน ให้สนใจเด็กมากกว่านี้นะ
ว่าแต่ลูกเธอเรียนที่ไหน อีซ้อยืดอกพูด
"ลูกกรูเรียนอยู่ห้องคิงร.ร.สวนกุหลาบว่อย"

อีซ้อมันบอกว่าว่า"อีแม่ค้านี่ ลูกแม่งเรียนร.ร.วัดข้างบ้าน
เสือกเอามาคุย โธ่! อีกบในกะลาเอ๊ย
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.45.7 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:4:21:22 น.  

 
 
 
อิอิ เรื่องลูกมันอดคุยไม่ได้ ว่ะค่ะ
แบบว่าลูกเจ๊มันร่อแร่มาทุกเทอม
ปรับทุกข์กับนู๋บีตั้งแต่อยู่อนุบาลแระ
จากอาการเกือบเป็นออทิสติค ต้องหาหมอทุก3เดือน
เป็นปีๆ มาเป็นพูดรู้เรื่อง หมอบอกว่าไม่เป็นออทิสติค
ให้จำหน่ายออกได้ ไม่ต้องไปพบหมอแล้ว!!!
จากครูจะให้ซ้ำชั้นอนุบาล3ไม่ให้ขึ้นป.1
เจ๊ล่ะกลุ้มมาหลายปี
เรื่องสอนเด็กแบบน้องฮาร์ทเนี่ย ใครไม่รู้ก็ว่าไม่ได้
สอนธรรมดาเธอว์ไม่เข้าใจ ต้องสอนวิธีพิเศษ
เจ้ไม่เคยคิดว่าลูกจะทำได้นะ คิดแต่ว่าจะทำไง
ให้ลูกไม่ต้องเรียนซ้ำชั้น แหะ แหะ
ตอนมาเข้า ร.ร.นี้ เขาก็เกือบจะไม่รับแล้ว
ที่เก่าเขาจะให้ซ้ำ อ.1 พ่อเขาทำใจไม่ได้กลัวลูกจะเป็น
เด็กโข่ง ก็เลยย้ายมาที่ ร.ร นี้ มาตอน 4 ขวบ
ยังพูดไม่ได้เรยนะ ครูถามไรก็ตอบไม่ได้ จนครูเขา
จะไม่รับ เพราะกลัวเด็กมีปัญหาจะโดนเพื่อนแกล้ง
พอดีหัวหน้าครูที่สอนห้อง อ.2 เขาเห็นเจ๊ตาแดงๆ
ก็เลยสัมภาษณ์พิเศษน้องฮาร์ทอีกที พอเห็นว่าทำตาม
คำสั่งได้บ้างถึงได้รับไว้เอง เข้าไปเรียน ทุกเทอมก็
จะโดนครูจ้ำจี้จ้ำไช บอกว่าน้องทำข้อสอบไม่ได้อาจจะ
โดนซ้ำชั้น ให้คุณแม่กวดขัน พอโดนเพื่อนแกล้งคุณครู
ก็ต้องมาดูให้เป็นพิเศษเพราะน้องฮาร์ทอีไม่พูด
พอจะขึ้น อ.3 ก็ต้องไปหาคุณครู อ.3 ว่าจะรับไหม
ก็หวุดหวิดมาตลอด จนตอนจะขึ้น ป.1 ครู อ.3ไม่ให้ขึ้น
บอกให้ซ้ำชั้น อ.3 ดีกว่า เพราะขึ้นไปก็จะทำให้เด็กมี
ปัญหาเรื่องเรียน พ่อมันก็คิดหนัก คิดไปคิดมาก็เลย
บอกครู ถ้าจะซ้ำชั้น ขอเอาลูกออก จะให้ไปเรียน
ที่ ร.ร วัดข้างบ้านแทน เพราะไปคุยมาครูเขารับได้
ให้เข้าป.1 ทีนี้คุณครู อ.3 เขาสงสารน้องฮาร์ทมั้ง
ว่าเรียนที่นี่ครูยังจ้ำจี้ไชได้ ไป รร.วัดห้องนึงตั้ง
40-50 คน น้องฮาร์ทคงยิ่งเละเป็นโจ๊ก ก็เลยประชุม
คุณครูกัน แล้วถาม ครู ป.1 ว่ารับน้องฮาร์ทไหวไม๊
ครูป.1 เขามาดูน้องฮาร์ท แล้วคิดว่าถ้าอยู่ที่นี่
เรียนเกือบตก ไม่ค่อยรู้เรื่อง ยังไงก็ยังดีกว่าไป ร.ร.
วัดที่ นร.เยอะๆต่อห้องจะยิ่งแย่กว่า ก็เลย ได้ขึ้นชั้น
มาเรียน ป.1 นี่แหละ เจ้ไม่เคยหวังว่าลูกจะได้เกรดดี
ก็เลยอดไม่ได้ ที่จะเห่อลูก อิอิ ไม่เชื่อถาม อิตั่วเจ้
ก็ได้ ยังเคยปรึกษากะตั่วเจ้แก ว่าจะให้ไปเรียนพวก
ร.ร รุ่งอรุณ ที่เน้นสอนให้ช่วยเหลือตัวเองไม่เน้นวิชาการ
แต่สู้ค่าเทอมไม่ไหว ปีละแสนกว่า เลยจะให้ลูกไป
เรียน รร.วัดแทน อิอิ
ดีใจที่ลูกเราเอาตัวรอดเรียนภาคปกติเหมือนเด็กคนอื่นๆได้
อาตี๋โอทึ้ง ลื้อไม่มีลูกใช่ปะ ก็คงเข้าใจยากอ่ะ
หัวอกพ่อแม่ที่เขามีลูก ถ้าลูกมันเรียนได้ดี
ก็อดเอามาอวดคนอื่นไม่ได้อะ
ทนฟังน้ำหมากอั๊วหน่อยละกัน เรื่องยกยอลูกปั๋วของอั๊ว
แหะ แหะ

 
 

โดย: อิเจ้รองสันขวาน IP: 171.97.6.31 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:7:04:37 น.  

 
 
 
เอ่อ...เดี๋ยวมีคนเข้าใจผิด
ลูกเจ๊ไม่ได้เป็นออทิสติคเน้อ แค่มีอาการคล้ายๆ
แล้วหมอเขาให้ติดตามพัฒนาการทุกสามเดือน
มีแต่เรื่องพูดที่พัฒนาการช้า ทำให้เรียนรู้ช้ากว่าเด็กปกติ
แต่พอ7ขวบก็เริ่มพูดรู้เรื่อง เรียนรู้เรื่อง สื่อสารกันได้
พอพูดได้รู้เรื่อง อะไรมันก็ง่ายแล้ว
 
 

โดย: อิเจ้รอง IP: 58.11.17.104 วันที่: 8 มกราคม 2555 เวลา:22:22:11 น.  

 
 
 
อีเจ้รองนี่เป็นเอามากว่ะ ถามหน่อยไปทำกับลูกแบบนี้
ลูกลื้อจะมีความสุขหรือว่ะ ยังกะว่าลูกกำลังจะเอนท์เข้ามหาลัยแน่ะ โอโห้! ลิ้อนี่มันโครตเว่อร์เลยว่ะ

จะเอาอะไรกันนักกันหนากับเด็กอนุบาล ลื้อลองไปถาม
พวกด็อกเตอร์แก่ๆ พวกหมอเหี่ยวดูซิว่า ตอนเด็กเคย
เรียนอนุบาลหรือเปล่า มันไม่ได้เรียนหรอก ส่วนใหญ่
เข้าโรงเรียนตอนอายุหกขวบ เจ็ดขวบเข้าปุ๊บก็อยู่ป.1ปั้บ
พวกนี้ตอนเด็กพ่อแม่ก็สอนวินัยแล้ว สอนให้รู้จักช่วย
พ่อแม่ทำงาน ไม่ได้เลี้ยงลูกเป็นไข่ในหินแบบลื้อ
ไอ้เนอเซอรี่ หรือรรอนุบาล มันก็สถานรับเลี้ยงเด็กดีๆนี่เอง
มันก็เป็นเพราะพ่อแม่ไม่มีเวลาหรือขี้เกียจเลี้ยงลูก
เลยต้องไปให้คนอื่นเขาเลี้ยง
แล้วตัวเองก็คาดหวังอย่างโน้นอย่างนี่ ฉันอยากให้ลูก
เป็นหมอ แต่ทำไมสี่ขวบแล้วลูกยังเรียนไม่รู้เรื่องอีก
ลื้อนี่มันประสาทว่ะ ตัวเองเป็นออทิสติกแล้วยังไม่รู้อีก

ไอ้เอดิสัน ตอนเด็กๆมันก็เหมือนลูกลื้อนั้นแหล่ะ อย่าคิด
ว่าลูกลื้อมันผิดปกติซิว่ะ

หรือว่าลูกอาจจะเซ็งพ่อแม่อย่างลื้อก็ได้ มันเลยใช้วิธีของ
พระเตมีย์ใบ้ก็ได้ มันอาจคิดว่า ทำไมกรูต้องเรียนให้เก่ง
ให้รู้เรื่อง ถ้ากรูเก่งแล้วรู้เรื่องแล้วแล้ว ต้องมาเป็นแบบ
แม่กรู กรูแกล้งโง่แกล้งบ้าใบ้ไปซะเลยดีกว่าฮาๆๆ

ลูกอั้วมีแต่อั้วสอนให้ลูกเป็นหินไม่ใช่เป็นไข่
อั้วสอนให้ลูกรู้จักคำว่าหน้าที่ ต้องทำอะไรและห้ามทำอะไร
อั้วไม่เอาเรื่องบ้าบอคอแตกของอีซิ้ม อาซ้อไฮโซมายัดใส่ลูก
หรอกว่ะ เรียนนานาชาติ เลิกเรียนติวคณิต ติววิทย์
เสาร์เรียนเทควันโด้ อาทิตย์เรียนคนตรี

อีไฮโซพวกนี้แม่งรังแกลูกว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.5.64 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:3:02:55 น.  

 
 
 
อืม...เช้านี้นึกครึ้มอกครึ้มใจ
แวะมาเชคกราฟน้องทองม้วน แอนด์เชคเรทติ้งบล็อกตัวเอง
แต่ อ่านแร้วก็อึ้งกิมกี่ เฮ้อออออออออออออ
สงสัยไอ้ทึ้งมัน จะองค์ลง
(ไม่ก็โดนวิญญา ไอ้ไข่ตุ๋นเข้าสิงว่ะ)
แมร่ง ! ตรูหายไปไม่กี่วัน มันกระโดดเข้าขย้ำคอหอยชาวบ้านอีกแว้วววว
เฮ่ย เกิดอิเจ้รอง มันร้องไห้แง ๆ แร้วเอาเรื่องนี้ไปฟ้องผัว
จนตรูโดนปลดออกจากตำแหน่งลูกไป๊ จะทำไงเนี่ย


อืม... ตะคืนยังปั่นน้ำลายไม่เสร็จดี
ก็เรยกะว่า ไว้คืนนี้ ว่าจะค่อย ๆโพสคุยกระหนุงกระหนิงทำคะแนนก๊ะ อิหม่ามี๊
แมร่ง ไอ้ทึ้งมันก็ทำเสียแผนโม๊ดดดดดดดด
งั้น โพสข้อฟาม(บางส่วน) ที่ตั้งใจจะแพล่มก๊ะหม่ามี๊ ในนี้
เป็นกรณีฉุกเฉินก้อแระกัน
( อิหม่ามี๊จะได้ไม่ขวัญหนีดีฝ่อ เพราะไอ้โตหมาว๊อ )

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:8:03:52 น.  

 
 
 
วุ้ยยยยย อิหม่ามี๊ขราาาาาา
อย่าได้วิตกจริตคิดมากไปเรยฮ่ะ
หม่ามี๊จา วอรี่ อะไรก๊ะน้ำลายของไอ้โตหมาว๊อ มันนักล่ะเจ้าคะ
เฮ้ออออ ? รู้ ๆ กันอยู่
ว่า สันดานไอ้ตี๋ขี้โม้ คนนี้
มันชอบสาระแนแม่ยิ้ม
ขัดคอชาวบ้านเขาไปทั่ว
เมื่อไรที่มันสามารถสำแดงกิริยา บ่อตั้วบ่อโส่ย
ทำหั้ยคนอื่นโกรธจนตัวสั่นได้นี่
แหม๊? มันจะมีฟามสุข ( นิสัยเหมียนใครน๊อ? ฮา ๆ )



นี่ ๆ อิหม่ามี๊ขราาาา จำได้ป่ะ
ว่า อุดมการณ์ของบล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน เนี่ย มันมีไว้ว่า ไง ?


ใคร ใคร่เม้าส์ เม้าส์
ใคร ใคร่ฟัง ฟัง
ใคร ใคร่จะทำอะไร ก็ ทำไป
แต่อย่าหั้ยเดือดร้อนมาถึงกรู ( ผู้เป็นเจ้าของบล็อก! ) 555



ดังนั้น อิหม่ามี๊อยากแพล่ม อยากเม้าส์ไร
ก็ปล่อยหั้ยน้ำหมากกระฉอกออกมาได้ตามซาบายฮ่ะ
ใครทนฟังทนอ่านไม่ได้ ก็ให้มัน ควักลูกตาตัวเองทิ้ง จิ๊ค๊ะ อิอิ








อืม...ไง ลูกไป๊คนเนี๊ยะ ก็พร้อมจะยืนหยัดอยู่เคียงข้าง
คอยรับฟังฟามในใจและสารพัดปัญหาของคุงแม่ปั๋วซาเหมอ ฮ่ะ
หูยยยยย อิหม่ามี๊จาหาลูกไป๊ที่แสนดี เป็นมหานที งี้ จากที่ไหน ไม่ได้แร้วนา
รีบไปบอกหั้ย ป๋าโจยกขันหมากมาสู่ขอเร้วววววว
แล้วส่วนค่าสินสอดทองหมั้นของฮาร์ทจังเนี่ย
สิบล้านโคร์น มันเยอะไปว่ะ ขืนรอสะสมจนครบ
นู๋บีคงเฉาตายซะก่อนล่ะมั้ง ( แบ่บว่าเบี้ยน้อยหอยน้อยอ่ะ อิอิ )
ดังนั้น ฝากปะเหลาะป๊ะป๋าโจหั้ยหน่อยจิ
ว่า นู๋บีขอลดค่าสินสอดลงเป็น ทองม้วน หนึ่งปี๊บ
ก๊ะ เงิน สองแสนกีบ จะได้อะปล่าวคร้าคุงพ่อซะมี เอิ๊ก ๆ




อิอิ ว่าแต่ ที่ฮาร์ทจัง เปลี่ยนจากเกือบตก เป็น 3.6 งี้
แสดงว่า ไอ้นู๋มันมี พัฒนาการที่ดีขึ้นจนผิดหูผิดตาเรยอ่า ดีใจด้วยน้าาา

ส่วนเรื่องที่ อิน้องจูน ก็ยังคงกะล่อนลั้ลลา ได้เหมือนเคย นั้น
สมควรแร้วจร้าาาา เพราะอีเป็นผู้สืบสันดานสายตรงของ อิปลาไหลตัวแม่ หุหุ
อืม...ขนาดยังเด็ก ยังสำแดงเดชได้ซะขนาดนี้
โตขึ้นอีนู๋นี่จะแสบเข้าไส้ ซะขนาดไหน นู๋บีก็มิกล้าคิดฮ่ะ
แต่ขอแสดงฟามเสียใจก๊ะป๋าโจ ล่วงหน้าเลยว่ะ
ท่าทาง อิลูกสาวคนนี้ มันท่าจะเป็น เจ้ากรรมนายเวร
ที่มาทำให้ ป๊ะป๋าอีปวดกบาลไปอีกนานเยยย กร๊ากกกกกกกกกก



อ้อ แล้ว อยากจะบอก อิหม่ามี๊ด้วยว่า
ไอ้เรื่อง เกรดแกรด อะไร เนี่ย
อย่าไปซีเรียสกับคำค่อนขอดตอดเล็กตอดน้อย
ของไอ้พิทบูลขี้อิจฉา ไปเรยอ่า
มันคงอิจฉาฟามรูปหล่อแบ่บเกาหลีของฮาร์ทจังมั้ง
เรยพูดหาเรื่องไปงั้นเอง อิอิ



อืม...ไม่รู้ดินะ อิฉันให้ฟามสำคัญ
กับ อีคิว มากกว่า ไอคิว นะเจ้
ถ้าจะเรียน ก็ต้องเรียนเพื่อเอาความรู้นั้น ๆ
ไปต่อยอดและใช้ประโยชน์ในเบื้องปลายได้
อย่างน้อยก็ต้อง รู้วิชาเพื่อรู้รักษาตัวรอด ในสังคมให้ได้ง่ะ
ที่สำคัญ ต้องเรียนแบ่บลั้ลลา ด้วย ไม่ใช่ เรียนแบบสาหัสสากรรจ์
เนี่ย เห็นเด็กสมัยนี้มัน แย่งกันเรียนจะเป็นจะตาย
จนไม่มีเวลาหายใจ แล้วปวดหัวแทนว่ะ
โชคดีเจง ๆ ที่ชีวิตตรูไม่ต้องเจอเรื่องโหด ๆ อย่างงั้น
( แบ่บว่า นู๋บีเรียน ๆ เรื่อย ๆ ถ้าเมื่อยกรูก็โดด โลดดด อิอิ )
ที่สำคัญ หมานเคยเสี้ยมสอนกรอกหูไว้ด้วยมั้ง ว่า

เป็นหัวหมาดีกว่า เป็นหางราชสีห์ ว่ะ ฮา ๆ


เนี่ย นู๋บี ม่ะลู้เหมียนกันฮ่ะ ว่า
หนึ่งเดียวเขียวมะกอก อย่างนู๋บีเนี่ย
มันเป็น หัวหมา หรือ หางราชสีห์ ง่ะ
แหม๊ พูดแร้วจะหาว่า คุย นะฮะ
สมัยนู๋บีอยู่โรงเรียนประถมข้างวัด เนี่ย
ตอนจบ ป.6 ทางโรงเรียนเก๊าะเอาชื่อนู๋บี
ขึ้นป้ายโชว์ฟามเป็นตัวแม่เรื่องการเรียนด้วยแหล่ะ อิอิ
เนี่ย ผ่านไป เกือบ ยี่สิบปี แระ ชื่อยังขึ้นหราอยู่เล๊ยยย



แล้วแทนที่ญาติโกโหติกา จาภูมิใจอ่ะนะ
เปล๊าาาาาา น้องชายมันกลับบ่นพึม ที่เห็นชื่อพี่มันได้ขึ้นบอร์ด
แล้วอยู่เกะกะลูกตา แบ่บยั่งยืนยงคงทนเป็นยี่สิบปี
แถมยังบ่นออด ๆ อี๊ก ประมาณว่า
แมร่ง เวลาส่งลูกชายไปโรงเรียน อั้วล่ะอายเค้าอิ๊บอ๋าย
อิพวกคุณครู ที่โรงเรียนก็ชอบถามกันจริ๊ง
ว่าลูกอั้วเป็นอะไร ก๊ะ อินังนู๋บี ที่มีชื่อขึ้นบอร์ด
ครั้นจะตอบว่าเป็นหลาน เด๋วก็โดนสงสัยอี๊ก
ว่าทำไม หลานมันไม่ถ่ายทอด ดีเอ็นเอฟามเจ๋งของป้า มันมามั่ง
กลายเป็นว่า ทำให้ลูกชายมันโดนเปรียบเทียบและคาดหวังซะงั้น



นี่ดีนะที่ สมัยมัธยม ได้แต่ประกาศนียบัตรเรียนดีไปแปะที่ข้างฝาบ้าน
แต่ไม่ได้มีชื่อขึ้นบอร์ดของโรงเรียนอ่ะ
ไม่งั้น คงโดน อิน้องชายด่าไล่หลัง อีกแหง๋ ๆ
ว่าตรูทำให้ลูกชายมันมีปมด้อยยย อีกแระเอิ๊ก ๆ



แต่ที่โม้มาทั้งหมดเนี่ย พอเข้าเรียนมหาลัย
เกรดก็ตกแบ่บถล่มทลายเรยอ่ะ เริ่มรู้สึกว่า
ยิ่งเรียนไมตรูยิ่งโง่ว้าาาา
เกรดมันก็สาละวันเตี้ยลง ๆ ทุกเทอม เรยว่ะ ฮา ๆ
จบมาแบ่บ เกรด สองกว่า ๆ เองมั้ง
ไอ้ที่ฝันจะได้ เอ 5 ตัว นี่ก็แห้วสนิท
แต่แทนที่จะ สำนึกนะ เปล๊าาา
ได้เกรดเท่าไร ตรูก็ยังลั้ลลา เหมียนเดิ้มมม
พร้อมกับท่องกลอนพาไป ปลอบใจตัวเองอีกตะหาก
ประมาณว่า...



สอบได้เป็นเรื่องตลก
สอบตกเป็นธรรมดา
เรียนไปก็ไร้ค่า
ตาย5 ก็ลืมหมด


อืม... ไม่รู้ดิ พอเข้ามาเรียนมหาลัย แล้ว
มันก็รู้สึกว่า ไม่จำเป็นต้องมานั่งเรียนแบ่บหน้าดำคร่ำเครียดมั้ง
บังเอิญว่า โชคดี ได้เรียนคณะที่มันจบออกมา ได้เกรดเท่าไร
นักศึกษาก็จะได้ทำงานใช้ทุนกับหลวง ทุกคน อ่ะ
เรยไม่ค่อยจะซีเรียสกับผลการเรียนนัก
ขอแค่ผ่าน แบ่บ ซี สแตนดราด ก็พอ อิอิ



แถมที่น่าขำกว่านั้น ก็คือ ตอนที่มาทำงานแล้ว
เกรดสมัยเรียนก็ไม่ค่อยจะได้เอาไปใช้เท่าไหร่หร็อก
ในการทำงาน ส่วนใหญ่ มันก็ได้ใช้ ความรู้
แค่ สามสิบเปอร์เซนต์ ของที่เรียนมาเองมั้ง
ส่วนใหญ่ก็เป็นความรู้พื้น ๆ ไม่ได้สลับซับซ้อนอะไร
ส่วน อีก เจ็ดสิบเปอร์เซนต์ จะเป็น
เรื่องทักษะความเก๋า กับ เรื่องของ อีคิวมากกว่าอ่ะ


นู๋บียังเคยพูดปลอบใจน้องเภสัชที่มาฝึกงานเล๊ย ประมาณว่า

คนที่เรียนได้เกรดสูง ๆ ไม่ใช่ว่า
จะประสบความสำเร็จในชีวิตการงานไปซะทุกคน
เกรดที่ได้จากการเรียนมหาลัย
มันไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตการทำงาน หรอกนะ






กับคนในที่ทำงานด้วย
ก็เคย โล้งเล้ง ให้พวกมันฟังนะ ประมาณว่า


คนที่จะมาทำงานด้วยกันกับพี่
ไม่จำเป็น ต้องหัวดี หรือ ทำงานเนี้ยบเรียบกริบ หร็อกนะ
เรื่องงาน กรูเก่งอยู่แล้ว กรูทำเองได้ !
ขอแค่ ไม่เรื่องมาก ทำงานด้วยแล้วสบายใจ
ที่สำคัญต้องไม่สร้างปัญหาหั้ยตรู แค่เนี๊ยะพอแระ


แถมที่น่าขำกว่านั้น คือ ที่ได้สองขั้นตอนทำงานเนี่ย
ก็ไม่ได้ใช้ ฟามสามารถของเภสัชกร เล๊ย
แต่ใช้ฝืมือเกี่ยวกับการทำงาน
เรื่องสื่อประชาสัมพันธ์ ล้วน ๆ ง่ะ



อิอิ ฝอยไปโน่น เรยตรู แค่อยากจะชักแม่น้ำทั้งห้า
มาบอกอิหม่ามี๊ว่า เกรดเฉลี่ย ไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตอ่า
อืม....เห็นอิหม่ามี๊ เล่าเรื่องอิน้องฮาร์ทร่อแร่ ๆ
จะย้ายโรงเรียนแหล่มิแหล่ แต่กาลก่อน
แร้ว ก็เรยเดา ๆ เอาว่า ที่ผ่านมาอาการจิตหลอน
แล้วก็นอนไม่หลับของหม่ามี๊เนี่ย ถ้าไม่ใช่เป็นเพราะ วัยทอง
บางทีอาจจะเกิดจากฟามเครียดสะสม(เรื่องฮาร์ทจัง)ด้วยก็ได้มั้ง ?
คนที่เรียนเก่งหัวดีอย่างหม่ามี๊ พอเจอสถานการณ์เรื่องลูกชายแบบนี้ ก็คงจะทำใจได้ยากอ่ะ
เออ แต่ว่า ตอนนี้ ฮาร์ทจังก็ ดีวันดีคืนแร้วนิ เจ้ก็คงโล่งเหมือนยกภูเขาออกจากอก แระมั้ง อิอิ




แต่ไงก็ยังอยากจะเตือน อิหม่ามี๊ว่า
สัญชาตญาณพื้นฐานของความเป็นแม่ในผู้หญิงอ่ะนะ
บางทีมันก็มักจะคาดหวัง และ เป็นห่วงเป็นใย
ในตัวลูกมนุษย์ที่ตัวเองเป็นเจ้าเข้าเจ้าของอยู่เสมอ
ถ้ามีในระดับที่พอเหมาะ มันก็ดีอ่ะนะ เธอว์
แต่ถ้ามีมากไป มันก็อาจจะย้อนมาทำร้ายตัวเองได้น้าาาา
เป็นห่วงจร้าาาาา ไม่อยากให้อิหม่ามี๊เครียดจนนอนไม่หลับบ่อย ๆ
( เด๋ว ถุงใต้ตาจาห้อยโตงเตง ขอบตาดำเป็นหมีแพนด้า ง่ะ งิงิ )


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:8:05:17 น.  

 
 
 
ปอลิง

อิหม่ามี๊ขราาาา คืนนี้ ไม่รู้ว่า
นู๋บีจะปั่นน้ำลายฉบับ ฟลู เปเปอร์
มาโพสทิ้งทวนเสร็จอ๊ะปล่าวนะเธอว์
ก็ตามประสา อาร์ทตัวแม่ นั่นแหล่ะคร้าาาา
แบ่บว่า ยิ่งเขียนยิ่งบาน แหะ ๆ
ถ้า คืนนี้นู๋บี ไม่มาโพส ซาแดงว่า
ยังจิ้มดีด ไม่เสร็จ เน้อออออ
ขอ หมักดองน้ำลายอีกซักระยะ
( ไม่อยากเขียนอะไร แบบลวก ๆ ง่ะ )


อ่ะ เอา
ลิงค์นู้น


ก๊ะ ลิงค์เนี๊ยะ มาฝากหั้ยแควน ๆ อ่านเล่น แก้คิดถึงนู๋บีจร้าาาา
( เผื่อว่า จาได้ อุทาหอน อารายมั่ง เหอ...เหอ...)






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:8:11:34 น.  

 
 
 
แหะ แหะ
บ่อเป็นหยัง ใครพูดไรก็ไม่กระเทือนซางอิหม่ามิ๊ อะ
เพราะหม่ามิ๊ เป็นอิอ่อน เอ๊ย!!! มะช่าย เป็นตัวของตัวเอง
ไม่ได้เป็นไปตามลมปากของคนอื่น นินา 555
ที่เล่าให้ฟังเพราะประหลาดใจเรื่องลูกเท่านั้นแหละ
พอเด็ก 7 ขวบ นี่มันก็ได้เวลาเปลี่ยนกายภาพ ของมันเอง
ไม่ได้ยึดติดเรื่องเกรดหรอก แค่น้องฮาร์ทมันมีความสุข
ตอนไป รร. ก็โอแล้ว เรื่อง เกรด 3.6 มันเป็นผลพลอยได้
แบบว่าไม่คาดฝันว่าลูกกรูมันจะทำด้ายยยยย!!! ^.^
แล้วก็ไม่เคยมีความคิดจะพาลูกไปเรียนพิเศษสารพัดวิชา
วันหยุดชอบพาลูกไปวิ่งเล่นกับเพื่อนๆมากกว่า
เรียนมาตั้ง5วันก็คงหนักมากแร้ว วันหยุดก็ต้องให้เขา
ลัลล้ามีอิสระให้เต็มที่บ้างอะไรบ้าง
เจ๊คงเครียดสะสมเรื่องลูกมานาน แหะ แหะ
คงปล่อยวางได้แล้วล่ะ เห็นลูกมันเอาตัวรอดได้
ไป รร.ก็ไม่เหมือนกินยาขมแล้ว ไม่บ่นไม่งอแง
ไม่ต้องมีปัญหาให้คุณครูเรียกไปพบบ่อยๆ ก็โอแร้ว ^.^

ปล.ลูกไป๊ขรา ไม่ต้องห่วงอิหม่ามิ๊ ว่าจะโดนพิทบูลกัดแล้วจะ
สติแตก จิตตก หดหู่ อาการโคม่าเพราะเลือดไหลไม่หยุด
หรอกน้า ก็แค่ได้ทันะคติที่แตกต่างได้เห็นมุมมองที่ต่างไป
ได้เห็นว่าสาส์นที่เราส่งออกไปคนอื่นรับแล้วก็มีตอบสนอง
แตกต่างกันไป นานาจิตตัง อะ อิหม่ามิ๊ รับฟังได้หมดแหละ

เรื่อง ขรี้โม้นี่ อิหม่ามิ๊ ก็มีพอตัว อิอิ
ก็ลองปล่อยน้ำหมากท่วมทุ่งไปเพลินๆ กะอาตี๋พิทบูล
จะได้เพิ่มเรทติ้งให้บลอกของลูกไป๊ไงคะ

ได้เห็นน้ำใจของลูกไป๊ ที่ใส่ใจ อิหม่ามิ๊ กัวอิอ่อนจิตตกเพราะ
โดนพิทบูลกัด (อิอิ) แร้วก็ดีใจจนน้ำหมากกระฉอกเรยแหละ
มิเสียแรง ผูกเสี่ยว อิผีเน่าก๊ะโลงผุๆ 555
 
 

โดย: อิหม่ามิ๊ IP: 124.122.69.109 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:9:44:14 น.  

 
 
 
อาตี๋โตหื่น อิอิ
ที่ลูกอั๊วพูดได้นี่ ก็เพราะเอาเข้า รร.อนุบาลนี่แหละ
หมอจิตเวชเด็ก เขาบอกให้เข้าไปเรียนจะได้มีพัฒนาการ
หัดสื่อสารกะเด็กคนอื่นๆ ดีกว่าเอาไว้ในบ้านไม่เจอใคร
ก็มีแต่ทีวี ดีวีดี เกมส์ สื่ออิเล็คโทรนิค เป็นเพื่อน
พ่อแม่ต้องทำงาน จะให้อยู่กับพี่เลี้ยงเด็ก ก็เปลืองตังค์จ้าง
ไม่มีญาติมาช่วยเลี้ยงให้นิ อีกอย่าง อนุบาลเขาก็แค่ให้ไป
เล่น กิน นอน กับเพื่อน เรียนก็นิดๆหน่อย ท่อง ก.ข.ก.กา
กะเอบีซี บวกเลข อั๊วก็ไม่เข้าใจนะ ทำไม อนุบาล มีซ้ำชั้น
มาเจอกะลูกตัวเองนี่แหละถึงได้งง เดี๋ยวนี้หลักสูตรเขา
ไม่เหมือนสมัยเราเป็นเด็ก ที่ ป.1ถึงเริ่มเรียน ก.ไก่
สมัยนี้ ป.1 มันอ่านเขียนกันบวกเลขได้แล้วอ่า ถ้าเอาลูก
เข้าตอน ป.1 จะไปเรียนกะคนอื่นรู้เรื่องได้ไง หนังสือ
เป็นตั้ง อ่านไม่ออกซักตัว แล้วถ้าเอาลูกเข้า รร.ช้า ก็จะโดน
ครูถามอีกว่า ทำไมเอาลูกเข้า รร.ช้า อาจต้องไปสอบวัดผล
ก่อนเข้าชั้นเรียนอีก เพราะต้องเลือกระดับชั้นเรียนให้
เหมาะกับพัฒนาการของเด็ก และเดี๋ยวนี้ ขนาด รร.วัด
ยังมีเนอสเซอรี่ อนุบาล เลย อั๊วเห็นหนังสือป.1ของลูกแล้ว
ก็เก๊กซิม ไม่รู้ใครคิดค้นหลักสูตร จะให้เด็กมันรีบเรียน
ไปไหน พวกที่พัฒนการช้าก็จะเสียเปรียบหน่อยยิ่งถ้าโดน
ซ้ำชั้น พอพัฒนาการสมองมันทันกับอายุ แล้วจะพาสชั้น
มันก็ยากแล้ว กลายเป็นเด็กโข่งให้เพื่อนมันล้ออีก

เอ่อ....สงสัยว่าอั๊วจะเป็น ออทิสติคขรี้โม้ ขรี้บ่น แหงมๆ
ชักจะโดนเรื่องลูกพาเข้าป่าฟุ้งซ่าน ซะแระ แต่ก็ทนๆฟังอั๊ว
หน่อยละกันนะ เพิ่งจะสบายใจเรื่องลูกที่มันคุยกะเรารู้เรื่อง
ลูกอั๊วอีคงเลิกเป็นพระเตมีย์ใบ้ซะที อีคงกัวแม่จะเป็น
ออทิสติคจิตหลอนไม่เลิกเพราะความเครียด หุหุ

 
 

โดย: อิเจ้รองสันขวาน IP: 124.122.67.173 วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:15:36:21 น.  

 
 
 
^
^
อุ๊ยต๊ายยยยย พ่อยอดชายนายฮาร์ทจังของอิเจ๊นู๋บี
ไฉนเลย จึงเป็นเด็กดีมีฟามกตัญญูกตเวที ต่อ บุพการี เยี่ยงนี้หนอ
มิเสียแรงเลยที่ อิเจ้ผีเน่า แอบเอา พ่อยอดขมองอิ่มคนนี้
ซุกไว้ในทั้งสี่ห้องหัวใจ (อะแค๊ก...อะแค๊ก...)




อิอิ....อิหม่ามี๊ขราาาาาา พอนู๋บีแวะมาเชคเรทติ้งในบล็อกนี้
แร้วเห็น อิหม่ามี๊ ยังส่ายหัวด๊อกแด๊ก ร้องแง้ว ๆ ได้
นู๋บีก็สบายใจ ไม่รู้สึกว่าต้องห่วง อะไรแระฮ่ะ
โถ ๆๆๆ นึกว่าจาต้อง วางยาเบื่อไอ้ตี๋หมาว๊อ
ข้อหาที่ ทำให้แม่ปั๋วของนู๋ ขุ่นข้องหมองใจซะแระ
( กะจะยอมหั้ยศีล ข้อ 1 ถลอก เพื่อ อิหม่ามี๊ โดยเฉพาะ เรยนะเนี่ย เหอ...เหอ....)

เออ ตะกี้นี้ นู๋บีกลับไปอ่านเจอ ใน ลิงค์เนี๊ยะ มาอ่ะ

เค้าพูดถึง เทคนิคในการรับมือ
ก๊ะ ไอ้พวกลูกหมาพิทบูล ไว้ว่า
-----------------------------------------------------
วินัยและความรับผิดชอบและความไม่ประมาท
อย่าได้ไว้ใจ ให้คิดว่ามัน "อันตราย" ไว้ก่อน เราจะได้ป้องกันได้

ถ้าคุณคิดว่า "เอาอยู่" คุณจะประมาท
และถ้าวันที่มันเกิดควบคุมอามรณ์ไม่ได้
และวันนั้นคุณเอามันไม่อยู่ คุณจะมาเสียใจที่หลัง


เพราะสุนัขพันธ์นี้เวลามันจะทำลายแล้ว
มันจะหน้ามืด ตามัว ไม่ฟังอะไรทั้งสิ้น
เป้าหมายคือโจมตีและทำลายสิ่งที่มันโฟกัสไว้
-------------------------------------------------

หูยยยย อ่านแร้ว ก็ขำกร๊ากกกก เอ๊ย นึกเสียวสันหลัง วาบ (แทน อิหม่ามี๊ )เรยฮ่ะ
ฮือ ๆๆๆๆ อิหม่ามี๊ขราาา อย่าได้ชะล่าใจไปน้าาา
ขืนทะลึ่งไปเรียกไอ้ทึ้ง มันว่า อาตี๋โตหื่น ยังงั้น
ถ้าไอ้ตี๋ฯ มันเกิดบ้าเลือดทะลุจุดเดือดขึ้นมา
ระวัง อิอ่อนจาวิ่งหางจุกตรูดไปหลบอยู่ข้างหลังป๋าโจ ไม่ทันเน้อออ
เฮ้อออ นู๋บี ม่ะอยากหั้ย ว่าที่พ่อซะมี ต้องพลอยมาซรวย
โดนขย้ำคอหอยตายหองแทนอิหม่ามี๊ ง่ะ อ่ะซิก ๆ


อ้อ แต่ อิหม่ามี๊ ม่ะต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพของ ลูกไป๊ หรอกน้าาา
เพราะว่า ไงซะ นู๋บี เก๊าะ เอาอยู๊...เอ๊ย เอาศีลห้า มาคุ้มกะลาหัว
แล้วสามารถแปลงร่างเป็น อิเข้ล่องหน ได้เสมอคร้าาาาาาาาา
ม่ะงั้น จะอยู่ยงคงกะพันมาจนถึง โครงการ 4 เหยออออ เธอว์
เนี่ย ขนาด นั่งเท้าคาง ดูไอ้พิทบูลจอมโหดมันกระโดดเข้ามาร้องโฮ่ง ๆ แฮ่
แร้วเดินกร่าง ทำท่าทางขู่กรรโชก อยู่ตั้งนานสองนาน
ก็ม่ะเห็นมันจะมาขย้ำคอหอย นู๋บี ได้ซ้าทีเรยอ่า
เอ๊ ? หรือว่า นู๋บีจะไปแอบสัก ยันต์ 5 แถว ก๊ะ อาจานหนู มา น้าาาา
ถึงได้ หนังเหนียว เคี้ยวไม่ลง ได้ถึงเพียงนี้ ฮา ๆ



เออ เห็นยานอนหลับที่ อิหม่ามี๊กินแล้ว
เรยขออนุญาตสวมวิญญาณหมอตี๋ แนะนำ อิหม่ามี๊เพิ่มเติมว่า


alprazolam น่ะ หลับลึก หลับยาว กินแล้วตื่นขึ้นมาสดชื่น ก็จริง

แต่มัน ติดยาง่าย แล้วก็ละเมอ ไปทำโน่นทำนี่ได้แบบไม่มีสติ
แถมตื่นขึ้นมาก็จำไม่ได้ด้วยอ่า ( ถ้าจำไม่ผิดตัวนี้มั้ง ที่เขาเอาไว้มอมสาวเข้าม่านรูด เอิ๊ก ๆ )
หมอที่รู้จัก เคยกินยานี้ แล้ว เดินละเมอไป ตรวจคนไข้ที่วอร์ด ตอนดึก ๆดื่น ๆ ก็มีนะ
พอตอนเช้าอิหมอก็เรยต้องตาลีตาเหลือก วิ่งแจ้นกลับไปถามคนไข้ที่วอร์ดว่า
เมื่อคืน หมอได้เดินมาพูดอะไรด้วยมั่ง
แบ่บว่า อีจำไม่ได้อ่ะว่าคุยอะไรกับคนไข้ไว้
(คงกัวจะหลุดพูดอะไรไม่ดีออกไปมั้ง )



อิหม่ามี๊เองก็เหอะ กินยาตัวนี้ บ่อย ๆ
ระวังจะเผลอเดินละเมอไปไล่ปล้ำป๊ะป๋าโจ เน้อออออ
เด๋ว อิป๋าเธอว์จะช๊อคตาย ที่ศรีภรรยาเปี๊ยนไป๋ ฮา ๆ
แต่ที่น่ากลัวกว่านั้น คือ ถ้าเกิดดั๊นเดินละเมอ
ออกจากบ้านไปหาหนุ่ม ๆ นี่ดิ๊
อิอ่อนโดนโคตรไอ้เข้ เตะไส้แตก แหง๋ ๆเรย เหอ...เหอ...
ดังนั้นเพื่อ สวัสดิภาพของอิปลาไหล
ไงก็เตือน ป๋าโจ ถึง อาการข้างเคียงของยาไว้หน่อยก็ดีนะ
เอ๊ะ ? หรือ ถ้า อิป๋ามันรู้ จะรีบคะยั้นคะยอให้เมียกินล่ะหว่า หุหุ



 
 

โดย: ลูกไป๊ป๋าโจ (นู๋บี ) วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:23:48:44 น.  

 
 
 
อืม... มีเรื่องตลก ๆ มาเล่าให้ฟัง
เกี่ยวกับเรื่องจ่ายยานอนหลับด้วยนะ
มีพระ มารับยาแก้ นอนไม่หลับอ่ะ
รู้ไหม อิฉัน จ่ายไป แล้วเผลอ หลุดปากไปว่า ไง



อิฉันบอกพระท่านไปว่า



" ถ้านอนไม่หลับ ก็ให้คิดเสียว่า
ตัวเองเกิดมาโชคดี ที่มีเวลาได้ทำอะไรมากกว่า คนอื่น "

แถมแนะนำหน้าตาเฉย ด้วยว่า


"ท่านลองเดินจงกรม ในวัดสิคะ เผื่อจะหลับ ง่าย ขึ้น "


แหะ ๆ เผลอเอามะพร้าวห้าวไปขายสวนน่ะ





เออ พูดถึง เรื่อง นอนไม่หลับ เนี่ย
ดื่มนมอุ่น ๆ หรือ นั่งสมาธิก่อนนอนก็ เวิร์คนะ อิหม่ามี๊
ตอนนั่งสมาธิ สารเมลาโทนินจะหลั่งแยะ ทำให้หลับง่าย
เท่าที่สังเกต เวลาออกจากสมาธิทีไร
นู๋บีหลับง่ายหลับลึก หลับยาวววว ทุ๊กที



ยิ่งถ้าวันไหน คิดจะมานั่งทวนศีลทวนจิตตอนหัวค่ำอะน่ะ
หูย แค่คิดจะทำ มันก็ ง่วง ซะงั้น
หัวถึงหมอน ก็นอนหลับเลยอ่า เอิ๊ก ๆ
ไม่รู้ดิ ปัญหาของนู๋บี มันตรงข้ามก๊ะ หม่ามี๊ว่ะ
ประมาณว่า หนังตากรูมันพร้อมปิดได้แบ่บอัตโนมัติ
ไม่เครียดก็ง่วง จะเครียดก็ง่วง เอากะมันดิ
หัวถึงหมอนทีไรก็นอนคร่อกๆทู๊กที
ด้วยเหตุนี้ นู๋บีเลยไม่เคยประสบฟามสำเร็จ
กับการ นอนสมาธิเรยว่ะ ฮา ๆ



แถม เด๋วนี้ อ่ะนะ นู๋บีเปลี่ยนจาก ติดเนต
มาเป็น ติดดูหนังทาง ทรูวิชั่นด้วยอ่ะ
พอเปิดเจอโปรแกรมหนังที่มันแหล่ม ๆเข้าตา อ่ะนะ
บางทีดึกดื่นเที่ยงคืน ถึงง่วงจนหนังตาแทบจะปิดแล้ว
อิการ์ฟิลด์มันก็ยัง อดตาหลับขับตานอน
ถ่อสังขารมานั่งถ่างตาดูทีวี ซะงั้น
ง่วงก็ง่วง หนังก็อยากดู เหอะ ๆ


แต่ถึงงั้น นู๋บีก็เคย นอนไม่หลับเหมือนกันนะ อิอิ
ส่วนใหญ่ สาหตุมันจะเกิดจากการเข้านอนแต่หัวค่ำอ่ะ
ปกตินาฬิกาชีวิตนู๋บี มันเป็นแบบพวกนกฮูก น่ะ
ไม่ใช่เป็น นกลาร์คเหมือนไอ้ตี๋อนามัย แถวนี้
นู๋บีเลยต้องนอน ดึกดื่นเที่ยงคืน ง่ะไบโอคล็อกมันถึงจะสมดุล อิอิ
นี่ถ้าวันไหนทะลึ่งเผลอไปงีบตอนทุ่มสองทุ่ม อ่ะนะ
อะโหย เป็นเรื่อง พอสัก สามสี่ทุ่ม ก็เอาล่ะเว๊ยเฮ้ย ตื่นขึ้นมา
ตาแจ้ง ตาค้างนอนต่อไม่ได้เลยอ่ะ
อารมณ์ประมาณคนกำลังสะลืมสะลือ เมาขี้ตาอ่ะ
อยากจะนอนต่อ มันก็นอนไม่ได้ เพราะนอนจนอิ่มแระ
ไอ้ครั้นจะไปขัดห้องน้ำ เปิดทีวีดู
หรือ นั่งสมาธิแก้ตาค้าง มั๊นก็ดันขี้เกียจ ซะอีก
หูยไอ้อาการตาค้างนอนไม่หลับหนนนั้นมันโคตรอึดอัด มั่กๆ เรยอ่า


แต่การนอนไม่หลับหนนี้ ก็ทำให้เข้าใจคนแก่คนเฒ่า
ที่เค้ามักจะมีอาการนอนไม่หลับตอนกลางคืน
เพราะชอบนอนกลางวัน หรือ นอนแต่หัวค่ำ เลยนะ
ยังบอกตัวเองเลยว่า ต่อไปกรูจะไม่แนะนำ
ให้ พวกอี หาอะไรทำ ( กวาดบ้าน ถูบ้าน ล้างจาน ฯลฯ )
เวลานอนไม่หลับอีกแว้วววววว เพราะขนาดตัวกรูเอง
ยังขี้เกียจตัวเป็นขนจนทำไม่ได้เยยย
แล้วจะมีน้ำหน้าไปแนะนำให้คนอื่นได้ฟระ


อ้อ แล้วที่น่าขำ อีกอย่าง ก็คือตอนที่เกิดทุกขังกะละมัง
เพราะอาการตาแข็งตาค้างนอนไม่หลับเนี่ย
จู่ ๆ มันก็มีฉุกคิด แว๊บ ๆ แล้วจิตมันก็ซักไซ้ไล่เรียง
หาเหตุปัจจัย อันเป็นรากเหง้าของฟามทุกข์ เรื่องนี้ซะงั้น


แล้วก็รู้สึกขึ้นมาเฉยเรยอ่ะ ว่า
อันทุกขังกะละมัง ที่เกิด ในหนนี้
เหตุมันไม่ได้ เกิดจาก ทุกข์ เพราะ นอนไม่หลับ
แต่มันเกิดจาก ความอยากที่จะให้ตัวเองหลับ
(แต่ สังขาร มันไม่ได้ดั่งใจ ตะหาก )
ความรู้สึกตอนนั้น มันคล้าย ๆ กับ
ความรู้สึกฉุกคิดแว้บ ๆ ตอนที่ได้กลิ่นปุ๋ยหมักเหม็น ๆ
เวลาเท รดต้นโหระพา อ่ะ
แต่ที่ต่างกันคือ ตอนได้กลิ่นปุ๋ยหมัก
นี่พอจิตมันฉุกคิด ( เกิดสติ ) มันก็จะตัดฉับ
จำแนกได้ว่า เป็น กลิ่นอะไร ลักษณะไหน แล้วจบแค่นั้น
โดย ไม่ปรุงต่อ เป็น ความไม่พอใจในกลิ่น
ที่กระทบตะหมูก แล้วเกิดทุกข์ ง่ะ
ภาษาพระ ท่านว่า มี สัมปชัญญะ เกิด (มั้ง )


แต่ทว่า ไอ้เรื่อง ตาแข็งตาค้าง แล้วนอนไม่หลับเนี่ย
มันเกิดสติ คือ ฉุกคิดได้ว่า เหตุปัจจัยแห่งทุกข์ ในครั้งนี้
มันเกิดขึ้นเพราะ ความอยากที่จะให้ตัวเองหลับ
จัดเป็น ภวตัณหา วิภวตัณหา ฯลฯ
แต่ทว่า จิตมันไม่ยัก หยุดปรุง ว่ะ
ยังคงมี สภาวะ ไม่พอใจ ที่นอนไม่หลับ เกิดขึ้นอยู่
เฮ้อ สัมปชัญญะ ไม่เกิดซะงั้น
แต่อย่างน้อย พอมีสติ รับรู้ถึงเหตุปัจจัย เข้าถึงที่มาที่ไป
ที่ทำให้เกิดทุกข์ เรื่องนอนไม่หลับ นะ
ทำให้ความทุกข์จากเรื่องนี้
มันก็กล้อมแกล้มทุเลาเบาบางลงไปได้บ้าง (บางส่วน) นะ


อิอิ เล่าสู่กันฟังเป็นการแชร์ประสบการณ์ อ่ะจร้าาาา
แหม๊ ? แบ่บว่า นู๋บีไม่มีคำยืนยัน
เรื่อง เวียนว่ายตายเกิด
เรื่องคนระลึกชาติ หรือว่า ฌานสี่
มาแพล่มหั้ยฟังแบ่บไอ้โซ๊ยตี๋มันนิ
( กรูพิสูจน์ไม่ได้ เพราะกรูยังไม่เคยเจอ ! )
เนี่ย เรยต้องขุดเอาเรื่องนี้มาเม้าส์ ให้ฟังแทน
กลัวไอ้ตี๋มันจะทำคะแนนกะอิหม่ามี๊ เกินหน้าเกินตานู๋บี อ่ะค่ะ
เด๋ว มันจะมาแย่งตำแหน่งลูกไป๊ป๋าโจ ไปจากนู๋บี ง่า อ่ะซิก ๆ



เออ จิงดิ เห็น อิหม่ามี๊บอกว่า
ที่ อิน้องฮาร์ท มันมีพัฒนาการดีขึ้น
จนเกรดขึ้นกระฉูด จนถึง 3.6 งี้
เพราะมี ป๋าโจ๋ คอยเป็นกุนซือ นิ
ดังนั้น เพื่อเป็นการสมนาคุณ หั้ยป๊ะป๋า
นู๋บี ขอจ่ายยา ไอ้นี่หั้ยป๋า เป็นรางวัล ฮ่ะ
หวังว่า ป๊ะป๋าโจคงจะชอบ
( และ อิหม่ามี๊ คงจะไม่ว่าอาราย หุหุ )






 
 

โดย: ลูกไป๊ป๋าโจ คร้าาาาาา ^ 0 ^ (นู๋บี ) วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:23:50:00 น.  

 
 
 
ปอลิง 1
อืม...แต่พูด ก็พูดเหอะนะ
นู๋บีรู้สึกว่า โคตรไอ้เข้ ที่บ้านอิหม่ามี๊ อย่างอิป๋าโจเนี่ย
มันมีอะไร หลายอย่าง ที่คล้าย ๆ ไอ้ตี๋ฯ ว่ะ
ประมาณว่า นอกจากจะชื่อ ขึ้นต้นด้วย สระโอ
แอนด์ อายุมากปากจัด เหมือนกันแร้ว
ยัง ขี้โอ่ ขี้โม้ และ ดูท่าจะมียีนส์เด่น
เป็นไอ้พวก ชายหื่นหมื่นกาม เหมือนกันแหง๋ ๆ เรยว่ะ
อันนี้ พิณาจาก เสียงขันคูจุ๊ก ๆ ที่ได้ยินบ่อย ๆ
และ เสียงลือเสียงเท่าอ้างของอินางปลาไหล อ่ะนะ เหอ...เหอ...



ปอลิง 2

อ่ะแฮ่มมมมม ทั่นผู้อ่าน ทุกทั่น อ่านแร้วมีสิทธิที่จะ ไม่พูด นะจ๊ะ
เพราะทุกคำที่ท่านพูด จะถูกนำไปใช้เป็นหลักฐาน ในชั้นศาลจร้าาาา อิอิ



ปอลิง3

อ้อ ลิงค์นี้

//www.pantip.com/cafe/sinthorn/topic/I11547816/I11547816.html


เอามาฝาก อิหม่ามี๊ ไว้อ่านเล่นแก้เครียดฮ่ะ
เนี่ย นู๋บี เก็บตกได้ จาก โต๊ะสินธร จร้าาาา
ม่ะอยาก บอกเรยว่า นู๋บีแอบหลงไหลได้ปลื้ม
ก๊ะไอ้หนุ่มเจ้าของกระทู้นี้ ว่ะ
เฮ้ออ ผู้ชายอะไรก็ไม่รู้น่าร้ากน่าเอ็นดู
ที่สำคัญไอ้หมอนี่แมร่ง มัน แร่ด ได้ใจ มั่ก ๆ เรยอ่า
อ่านกาทู้อีแร้วเหมือน กำลังมองเห็นตัวเอง ไงก็ม่ะลู้ว่ะ
( มีฟามลู้สึกว่า ถ้า นู๋บี เป็นผู้ชายอ่ะนะ คงไม่แคล้ว แร่ดได้พอ ๆ ก๊ะ อี แหง๋ ๆ เรย)
อิหม่ามี๊ ลองไปอ่านดูน้าาาา ว่า จิงปล่าว อิอิ



ปอลิง 3
ว้าาาาาาา ยิงเขียนยิ่งบาน ปิดงบประมาณม่ะได้อีกตามเคย
ไว้เด๋วค่อยมาแพล่ม ปิดประเด็นอืน ๆ ต่อก็แระกันเน๊าะ อิหม่ามี๊
ว่าจะแพล่มแนะนำเรื่อง เทคนิคการเลี้ยงลูก กับ การปฏิบัติ ต่อ อ่ะ
ส่วนประเด็น เรื่อง รากเหง้าของกฏหมาย และมุมมองเรื่องการเมืองเนี่ย
ยังม่ะต้องรีบแพล่มก็ได้มั้ง เพราะเห็น ไอ้ลูกหมาบางตัวมันบอกว่า

พักนี้เป็นไงไม่รู้ว่ะ ไม่อยากเสวนากับยัยแก่ขึ้นคาน

งั้น ซือเจ้ ก็ต้อง ตามใจ ไอ้โซ๊ยตี๋มันหน่อย แหล่ะกันเน๊าะ
เพราะ เด๋ว ถ้าพลั้งเผลอ ไปกวนซ่งติง พูดจาอะไร ระคายหูมัน อีก
มันจะกระโดดเข้ามาขย้ำคอหอยตรู
อะโหย กลั๊ว กลัวววววว อะซิก ๆ

ว้า ฝอยมากจน น้ำลายหนืด แระอ่ะ
ขอนุยาด ลาไปพักผ่อนนอนหลับ แระ แหะ ๆ

 
 

โดย: ลูกไป๊ป๋าโจ คร้าาาาาา ^ 0 ^ (นู๋บี ) วันที่: 9 มกราคม 2555 เวลา:23:52:09 น.  

 
 
 
เรื่องยานอนหลับ ก็ไม่ได้กินบ่อยหรอกจ้า
มีปกติเป็นคนหัวถึงหมอนก็คร่อกฟรี้ เหมือนกัน
แบบว่า หลับลึกนิ่งยาว แผล่บเดียวเช้าแล้ว หุหุ
แต่มียากันไว้มันอุ่นใจเผื่อมีเหตุฉุกเฉิน จิตตก โดนหมากัด
ฟุ็งซ่านเลอะเทอะ สติแตกสมาธิเอาไม่อยู่ ก็จะได้มีน้ำดับไฟ
ยาที่หมอให้มายังเหลืออยู่เยอะ เพราะให้ที2เดือน แล้วก็
ครั้งสุดท้ายที่หาหมอก็ไม่ได้กินยาทุกวัน พอรู้ไม่กินยาก็หลับได้
หม่ามิ๊ก็เลิกกินเลย รวมถึงเลิกไปหาหมอด้วย เปลี่ยนแนว
ไปหาพระแทน หุหุ ตุนน้ำมนต์ไว้เพรียบ เวลาจิตตกไม่รู้
จะทำไงดี ก็ทั้งกินทั้งอาบเรียกขวัญเอ๊ยขวัญมา ให้มีสติอยู่
กะเนื้อกะตัว ไล่ผีบ้าให้พ้นไปจากตัว(อิอิ) ก็พอช่วยตัวเอง
ได้ระดับหนึ่ง ตอนนี้ถ้านอนไม่เกินเที่ยงคืน ก็ไม่มีปัญหา
หรอกจ้ะ แต่ถ้านอนหลังเที่ยงคืนหลายๆวัน มันจะตาค้าง
นอนไม่หลับแบบคนแก่นั่นแหละ ได้แต่นอนดูเพดาน
ยันเช้า ทรมานไม่ใช่เล่น หุหุ การนอนหลับที่พอดีทำให้มี
สุขภาพจิตดี แข็งแรง ทำให้ฝึกสมาธิรวมจิตได้ผลดีไปด้วย
ถ้าช่วงไหนจิตตกไม่รู้สาเหตุ มันก็ทำอะไรไม่ค่อยได้ ขาด
ความมั่นใจ เพิ่งจะรู้เรื่องพวกนี้ตอนที่เกิดจิตหลอน
นั่นแหละ ทำให้รู้จักตัวเองมากขึ้น ไม่ประมาทในธรรม
ไม่ประมาทคนอื่น และตั้งแต่เกิดเรื่องต้องไปนอน รพ.
ต้องแยกจาก อิน้องฮาร์ทไป 10 วัน นี่แหละ อิน้องฮาร์ท
มันเลยรู้เรื่องขึ้นมาเยอะ พูดเป็นงานเป็นการได้ ทอดไข่
ให้หม่ามิ๊กินก็ได้ หุหุ

ปล.เพิ่งเห็นหน้าตาไวอากร้า ห้ามให้ป๋าโจแอ้มยานี้เด็ดขาด
หุหุ อิอ่อน มันยิ่งขี้เกียจอยู่ หนีหลับประจำ.... 555

 
 

โดย: อิหม่ามิ๊ IP: 110.169.241.21 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:16:33:55 น.  

 
 
 
พอดีช่วงนี้ ไปหาพระบ่อย ได้คำแนะนำการปฏิบัติสมาธิ
ก็เลยลองทำแบบเน้นหนักหน่อย เพราะศรัทธากำลังมีเยอะ
กะโดนป๋าโจ แกเร่งเช้าเร่งเย็น อยากให้หม่ามิ๊รวมจิตได้
ขั้นฌาณ1 ไวไว ตอนนี้ป๋าโจแกไปถึงฌาณ3 แล้วมั้ง
เห็นบอกนั่งสมาธิแล้วจิตมันรวมเหมือนโดนดูดถูกมัดแน่นๆ
เหมือนถูกตรึงเป็นที่แปลกประหลาดใจ อยากได้คำแนะนำ
จากคนที่เคยผ่านถึงตรงนี้แหละ ส่วนฌาณ1กะ2 ป๋าแก
เข้าได้เป็นว่าเล่น ทั้งลืมตา ทั้งหลับตา แกทำทุกวัน ทุกเวลา
กลัวว่าถ้าทำๆทิ้งๆ หยุดๆ เล่นๆ ไม่เอาใจใส่ มันจะวืดได้
เพราะมันจะเสื่อมสาละวันเตี้ยลงได้อยู่ ถ้าก้าวหน้ามีเนื้อ
มีหนังเยอะๆ เวลาไปหาพระอาจารย์จะได้มีกำลังใจไปถาม
พระเพิ่ม เรื่องปัตจัตตังพวกนี้ ก็คุยได้แต่กับเพื่อนๆคนรู้ใจ
เท่านั้นแหละ ไปคุยกะคนอื่น เดี๋ยวเขาก็หาว่าโอ้อวด อยาก
อวด ทั้งๆที่ถ้าเป็นคนปฏิบัติจริงๆ มันเจอเรื่องที่อะธิบาย
ไม่ได้นี่ มันก็ไม่รู้จะไปพึ่งใครเหมือนกันนะ ถ้าเจอคนที่
เคยผ่าน เคยรู้มาแล้ว เขาก็บอกกันได้ แต่ถ้าไม่รู้ ก็ต้อง
ดำน้ำช่วยตัวเองไป กว่าจะได้ไปหาพระที่ ตจว. ก็เนิ่นนาน
ไม่ทันกิน หุหุ คนมันใจร้อน ได้อะไรใหม่ๆปั๊บมันก็อยากรู้
อยากเห็นไปหมด ทุกวันนี้ก็พลิกตำราเอาเทียบเคียงเอง
วิเคราะห์เองอะไรเอง การมีเพื่อนที่มีปฏิปทาในแบบ
เดียวกัน ทำให้มีโอกาสช่วยเหลือทางธรรมปฏิบัติกันได้
พวกเว็บบอร์ดธรรมะดราม่า ทั้งหลายที่เจ๊ไปแอบซุ่มดู
ไม่เห็นจะช่วยอะไรเราได้ ได้ได้ดราม่ากลับมาเป็นกระบุง

เจ้ว่าอิป๋าโจ กะนู๋บี น่ะมีอะไรที่คล้ายๆกัน หลายอย่างนะ
ทั้งเรื่อง ศีล5 มีเมตตา มีความละอายแก่ใจ มีตะขิดตะขวงใจ
เวลาที่ทำอะไรผิดศีล หรือผิดสัจจะ เพียงแต่ป๋าโจ แกเข้า
เคสพระเตมีย์ใบ้ ไม่พูดไม่ถามคนอื่นที่ไม่รู้จัก
ไม่เหมือนนู๋บี ที่ตะลอนเข้าถ้ำเสือ ถ้ำหมา ถ้ำแมว จนพวก
เจ้าของถ้ำมันต๊กกะใจตะเหลิดเปิดเปิง ชู๊ตเอ๊าท์นู๋บีออกจาก
ถ้ำกัีนเป็นแถวๆ 555 ก็มีความในใจแต่เพียงเท่านี้แหละ

ถือว่ามาฝึกวิชาในสุสานโบราณของนู๋บี ละกัน
อะไรๆ ก็เปิดใจได้หมด เพราะถือว่ารักษาศีล5ขั้นต่ำ
พูดแต่เรื่องจริง ไม่หวังได้อะไรจากใคร นอกจากความจริง
เท่านั้นที่เราต้องการ!!!


 
 

โดย: อิหม่ามิ๊ IP: 110.169.241.21 วันที่: 10 มกราคม 2555 เวลา:16:58:30 น.  

 
 
 
อุ๊ยตาย ว้ายกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด



โฮ่ ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ข้าฯ ลู้สึกเป็นเกียรติยิ่งนัก
ที่ แม่นางอึ้งย้ง แห่งเกาะดอกท้อ
อุส่าสะเดาะห์โซ่ล่ามขา หนีอิก๊วยเจ๋งมา
เพื่อขอ ฝึกวิชาด้วย ถึงใน สุสานโบราณ แห่งนี้



แต่จะบอกไว้ก่อนนะจ๊ะ
ว่า นู๋บี มิใช่ คนสวยใจดี แบ่บอินังเล้งยี้ นะเว้ย เฮ้ยยยยย....
ดังนั้น อย่าทะลึ่งมา ออดมาอ้อน
ขอหั้ยสอน วิชา กระบี่คู่ประสานใจ หั้ยเรยน้าาา
อิเทพธิดาไหมแดงคนนี้
มันมีแต่เคล็ด วิชาฝ่ามือเบญจพิษ
ก๊ะ เทคนิคการผลิต ยาเบื่อหมา อ่ะจ้ะ



แม่นางอึ้งฯ สนใจจะตะลึดตึ้ดชึ่ง ฝึกด้วยกันไหมล่ะ ?
แต่ก็ระวังหน่อยนะ ฝึกไปฝึกมา
ทั่นอาจจะกลายเป็น เดชไอ้ด้วน
เหมือนเจ้าก้วยยี้ ไปเรยก็ได้ น้าาาาา
เพราะว่า แม่นางลี้ม่กโช้ว มันม่ายชอบ
บุคคลจำพวก อ้ายพวกลูกศิษย์คิดล้างครูอ่ะ เหอ...เหอ...









อิอิ แม่นางอึ้งฯ จ๋าาาาาาาาาาา
ทั่นจามองหาฟามจริง ไปทำติ้ง...เอ๊ย ไปทำอะไรล่ะจ๊ะ แหะ...แหะ...


เฮ้อออ อุทาหรณ์ จากภาพยนตร์ เรื่องเนี้ยะ เคยสอนเอาไว้ นี่นะ ว่า


จริงคือเท็จ เท็จคือจริง

จริงคือเท็จ เท็จคือจริง

จริงคือเท็จ เท็จคือจริง


หากไม่แยกแยะ พิจารณาอย่างรอบคอบ
เราก็จะตกอยู่ในวังวนของ ราโชมอน



อิเจ้รองสันขวานอย่าได้ลืม หัวใจของคัมภีร์เบญจพิษ น้าาาาาาา ว่า


สรรพสิ่ง ล้วนเป็น เช่นที่ มันเป็น และ เป็น เช่นที่ เราปรุง
ดังนั้น สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ได้อยู่ ที่ว่า
สิ่งที่เราเห็นนั้น มันเป็นเรื่องจริง หรือ เรื่องเท็จ
แต่ สำคัญที่ว่า เมื่อเราเห็นสิ่งนั้นแล้ว

ใจเรา ปลง หรือว่า ใจเรา ปรุง





 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงง.... (นู๋บี ) วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:0:29:43 น.  

 
 
 

ปอลิง 1
แควน ๆ จ๋าาาาา นู๋บียังปั่นน้ำลาย ม่ายเสร็จตามเคยจร้าาาา
แถม พรุ่งนี้ ก๊ะ มะเรื่องนี้ ก็ขึ้นเวรอีกแระ ( น้องมันขอแลกเวรอ่ะ อิอิ )
สงสัยว่า พิธีตัดริบบิ้นทิ้งทวน คงจะต้องผลัดวันประกันพรุ่ง
ไปเป็นอาทิตย์หน้าอีกแหง๋ ๆ เรยง่ะ
โอ๋ แต่ช้าแต่ แควน ๆ อย่างอล นู๋บี เรยน้าาาาา แหะ ๆ


อ่ะ เอา บล็อกนี้ มาฝาก
หั้ยอ่านเล่นแก้คิดถึงจร้าาา
อิป้าดอกบัวป่อง มันเคยแพล่มเรื่องนี้
ไว้ที่ เวบใต้ร่มมลุลี เมื่อนานมาแระ
( เพื่อปลอบใจ อิคุงหลานผ้าขะม้าแมน )

แต่ ตัวหนังสืออิป้า มันก็โดนเขี่ยเข้าสถานกักกัน ไปแระว่ะ เหอะ ๆ
เรยเอามาแปะให้รกหูรกตาชาวบ้าน ในบล็อกนี้แทนว่ะ


อ้อ...ถ้าครายไม่ชอบ ปรัชญาเส็งเคร็ง ก็ช่วยไม่ได้นะยะ
แบ่บว่า สาว ๆ แถวนี้ เค้าชอบอ่านบทกวี กาพย์กลอน
ฟังคำสอนทั่น ว.วชิระเมธี แล ดื่มด่ำ กับปรัชญา คำคม ย่ะ



"We believe in Philosophy"






ปอลิง 2

อนึ่ง เนื่องจาก แม่นางอึ้งย้ง
มันยืนกรานจะออกกฏอัยการศึก ห้าม นำเข้าไวอะกร้า
มาเป็นของขวัญ เพื่อกำนัล ทั่นป๋าก้วยเจ๋ง เด็ดขาดดด
( อีกลัวว่า เด๋ว คุณผัวมันจะ คึกกกกกกกกกกกก )


ลูกไป๊ ก็เรย มิสามารถ แอบเอายานี้ มาที่เกาะดอกท้อ ได้
ขอแสดงฟามเสียใจด้วยนะเจ้าคะ คุงป๋า
แต่ไง ลูกไป๊ ก็สัญญาว่า ถ้าถูกล็อตโต้รางวัลที่ 1เมื่อไร
นู๋บีจะซื้อ ตุ๊กตายางแจ่ม ๆ มาปลอบใจป๊ะป๋าน้าาาาา
แต่ว่า ตอนนี้ นู๋บี ติดดอยทองม้วน อยู่ว่ะ
คงต้องเอา ไอ้ตัวนี้





มาเป็นของกำนัล แก้ขัด ไปก่อน ก็แร้วกันเน๊าะ
( น่าจะพอกล้อมแกล้ม แทนกันได้อ่ะ อิอิ )




ปอลิง 3

อิหม่ามี๊ขราาาาาา นู๋บี อยากกินไข่ทอด ฝีมืออิน้องฮาร์ท
เหมือน อิหม่ามี๊ มั่งจังเรยง่ะ งิงิ
แบ่บว่า นู๋บีชักเบื่อที่จะต้องมานั่งแทะต้นตะบองเพชร แระอ่า
เฮ้ออออ กินทีไร โดนหนามตำคอทู๊กกกที แผล่บ ๆ





 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:0:32:56 น.  

 
 
 
หูยยยยย...อะไรหนา จะพาไปไหนเนี๊ยะ
เจ๊อึ้งฯ เขาจะพาอิอ่อน เข้าสู่โหมดของฟามจริงมั่ง ง่ะ
ที่หนีอิตานิวอนแห่งพังจิต มาที่สุสานโบร่ำโบาราณของอิเจ๊ไหมแดง
ก็เพราะไอ่เรื่อง จริงคืิอเท็จ เท็จคือจริง นี่แหละ
อิอ่อนมันเห็นแค่นั้น มันเก็บหางมิดชิดเลยหว่ะค่ะ
ไม่ออกมาแพล่ม อ้อล้อ อะซิก อะซิก กะใครๆ อีกเลย
เอากะมันซิ!!! ตัดบัวไม่เหลือเยื่อใย ไร้ฟามรู้สึก
อนิจจัง วตสัง ขารา (ไม่เที่ยง ไม่มี ไม่แพล่ม อิอิ)
กลายเป็น คนไม่รู้จักกันไปละ ไม่มีความจริงออกมาแพล่ม
แถมความเท็จ ก็ยังหายหัว เหลือแต่กรู อยู่บนภูดูปั๋วกะลูก
ไป
เพราะอีเป็นความจริงในปัจจุบัน หนีไปไหนบ่อได้ 555
คนอื่นๆ มันเป็นความจริงชั่วคราว แถมยังมีเท็จๆจริงๆ
ให้กรู ปวดหัว อิ๊ก!!!
แหะ แหะ

อิเจ๊ ไหมแดงแจ๊งแว๊งงงง มีแต่วิชามารสารพัดพิษ
กะแจกยาเบื่อหมาว้อ แค่นั้นเอง หรอ ว้าๆๆๆๆๆ แต่...
ไม่เป็นไร ให้อิอ่อนสอนขันมันส่ายหัวด๊อกๆแด๊กๆ เล่นๆไป
ในสุสานโบราณ ฝึกมรณังนุสติ เวอร์ชั่นอิผีเน่าก๊ะอิโลงผุ
คู่หูคู่ฮา บ้าบอขนาดหมอยังไม่รับรักษา (อิอิ) ก็ได้ฟระ
แถมยังมีแต่เรื่อง จริงคือเท็จ เท็จคือจริง ให้เวียนหัวเล่นอิ๊ก
แต่ก็พอได้อยู่นะ อิอิ เผื่อสองเราจะประสานวิชาได้เป็น
วิชาใหม่ซิงๆ แบบว่า ผีหลอกวิญญาณหลอนในห้องเย็นไง
หุหุ

โฮะ โฮะ โฮะ เพ้อเจ้อจิงจิง เรย กรู - -"

ว่าแต่ว่า หมาว้อหายต๋อมไปแระ สงสัยจะแพ้ยาเบื่อ 555



 
 

โดย: 555 IP: 110.169.241.21 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:9:25:10 น.  

 
 
 
มีธนูปักเข่า เล่าฮูโชว์ ด้วยวุ๊ยส์
เจอไปหลายดอกส์ อาจมีเจ้าหนี้เพิ่ม หุหุ
ระวัง หัวบาน ที่ห้องวิทย์พังจิต นะอาเล่าฮู เหอๆ
เหตุเกิดจากระทู้ของคุรุบ้า คุรุบ้าไม่ดราม่า แต่ คุรุบ้าFC
อีออกมาดราม่า กันน่าดู

ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ เทพธรรมบาล
ใจกว้างสักหน่อย
ข้าก็สงสัยในคุณสมบัติของผู้ดูแลบร์อดเหมือนกัน
เห็นไหมหล่ะว่าทุกวันนี้ เว็ปนี้ห้องนี้มีแต่คนเพี้ยนๆ
แล้วของจริงๆนักปราชญ์ยุคก่อนหายไปไหนเล่า
แล้วข้อความด้านบนฝอยให้อ่านหน่อยสิว่ายังไงทำไมจึงลบ

Komodo (คู่ัรักหวานแหววของอาเล่าฮู รึป่าวเนี่ย หุหุ)
ผมไม่ได้ดูแลห้องนี้ แต่แวะเข้าไปดูกระทู้ให้แล้วครับ
เหตุผลที่ลบกระทู้ น่าจะมีมาจาก 2 สาเหตุ คือ
1. มีภาพการเสพสังวาสจำนวนมาก ซึ่งโพสต์โดย Tawee gibb คลิกดูกระทู้ได้ ที่นี่
2. พฤติกรรมของ Tawee gibb มาในลักษณะการแย้งในทางตรงข้ามกับเจ้าของกระทู้ ประกอบกับกระทู้มีแนวโน้มที่จะปะทะคารมกัน (อ่านได้จากโพสต์ท้าย ๆ)
ประกอบกับมีการแจ้งลบถึงความไม่เหมาะสมทั้งในเรื่องของภาพประกอบ รวมทั้งการใช้ถ้อยคำที่มีลักษณะโต้แย้ง
ดังนั้นในทางปฏิบัติแล้ว ที่ผ่านมาทางเว็บจะลบกระทู้ในลักษณะนี้ออกครับ
(ไม่ได้หมายความว่า เจ้าของกระทู้ผิดนะครับ แต่ลบเพื่อป้องกันการทะเลาะกัน)

//board.palungjit.com/f2/ทีมผู้ดูแลบร์อดมาชี้แจงหน่อย-321287-8.html

รีบๆไปอ่านเด๊อ อาจมีลบกระทู้เดี๋ยวจะหาว่า อิฆ้องไม่บอกไม่เตือน
 
 

โดย: อิฆ้องปากยาว IP: 110.169.241.21 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:10:44:40 น.  

 
 
 
ลืมแปะ กระทู้ต้อนเหตุธนูปักเข่า

//board.palungjit.com/f236/โลกของตันตระ-พุทธวัชรยาน-ปรีชาญาณบ้า-และ-อุบา่ยวิธีแปรเปลี่ยนความทุกข์-321085-2.html
 
 

โดย: อิฆ้อง IP: 110.169.241.21 วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:10:56:41 น.  

 
 
 


อิอิ แท้งกิ้วจร้าาา อิฆ้องตีปากแตก ที่แบกเอา มาม่า มาฝาก
( แหม๊ ? เด๋วครึ้ม ๆ ตรูจาคาบข่าวนี้ไปบอก คุณจ่า เอาหน้าดีฝ่าวุ้ย หุหุ )

ว่า แต่ ฟังที่ อิอ่อน มันบ่นบ่นว่า

-------------------------------------
ไม่มีความจริงออกมาแพล่ม แถมความเท็จ ก็ยังหายหัว
เหลือแต่กรู อยู่บนภูดูปั๋วกะลูกไป
เพราะอีเป็นความจริงในปัจจุบัน หนีไปไหนบ่อได้ 555
คนอื่นๆ มันเป็นความจริงชั่วคราว
แถมยังมีเท็จๆจริงๆให้กรู ปวดหัว อิ๊ก!!!แหะ แหะ
-------------------------------------


แล้วก็ขำกร๊ากกก แทบตกเก้าอี้เรยอ่า
( แบ่บว่า อิเสือติดปีก มันแอบ ฉมน้ำหน้า อิอ่อน อ่ะ อิอิ )
โถ ๆๆๆ แม่นางอึ้งของกรู
นี่แหล่ะหนา แบกขัน 5 ใบ อยู่ บนคาน เป็นเพื่อนกัน ดี ๆ ไม่ชอบ
ดั๊น เผลอหน้ามืดปล่อยให้ ฟามโลภเข้าครอบงำ ซะงั้น
ทีนี้เป็นไงล่ะ อยากได้เกมส์ฟรี นักนิ
น้องค่อม เรย ต้องมีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจ เป็นของแถม
หั้ย ทุกขัง กะละมังเยี่ยงนี้แล
อดปลีกวิเวกไปบวชชีหนีแชร์ อยู่ที่ หมู่บ้านพลัม
เป็นเพื่อนหลวงเจ้กุ๊กไก่ เยยยยเหอ ๆ


อ้อ แร้วไม่ต้องมาทำเป็น ปาหินข้างทาง
แสร้งถามไถ่ เรยนะยะ ว่า

--------------------------------------------------
อิเจ๊ ไหมแดงแจ๊งแว๊งงงง มีแต่วิชามารสารพัดพิษ
กะแจกยาเบื่อหมาว้อ แค่นั้นเอง หรอ ว้าๆๆๆๆๆ
-------------------------------------------------------


พูดแร้วจาหาว่าคุย อิเจ้ไหมแดง น่ะ
มันแอบเก็บงำ เคล็ดวิชา
ห้ามกามคุณทั้ง 6 และอารมณ์ทั้ง 7
ของสำนักสาวหยก เอาไว้ด้วยอ่ะ


แต่เคล็ดวิชาสะท้านยุทธภพเยี่ยงนี้
จะถ่ายทอดให้ใครแบ่บสุ่มสี่สุ่มห้า มันก็ เสียของ หมดจิค๊ะ
อิเจ้ไหมแดง มันจะยอมถ่ายทอดวิชานี้หั้ย
เฉพาะกับ ผู้ที่มีวี่ แวว จะเป็น ตาลยอดด้วน เท่านั้นอ่ะจร้าาาา
ตาลยอดดี ที่ตัดลูกตัดผัว ยัง บ่ ได้ แบ่บ ไอ้อ่อนอิอ่อน แถวนี้ หมดสิทธิว่ะ อิอิ




 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:22:58:26 น.  

 
 
 
ปอลิง 1
ที่ไอ้หมาว้อมันหายต๋อมไปเนี่ย
คาดว่า คงจะไม่ใช่ เพราะโดนวางยาเบื่อ หรอกมั้ง
แหม๊ อิหม่ามี๊ อ่ะ มาใส่ร้ายป้ายสีนู๋บีได้ไงคร้าาาคนจ๋วยใจดีอย่างนู๋บีน่ะ
มีแต่ยารักษาโรคหัวใจ(มักง่าย) และ ยาบ้า เท่านั้น ที่จะหั้ยมันฮ่ะ หุหุ


อืม... บางทีตอนนี้ มันคงกำลังกระโจนลงไปในหุบผาไส้ขาด
เพื่อไปร้องจุ๊ก ๆ ควานหา แม่นางเล้งยี้สุดที่ร้ากกกก ของมันอยู่ก็ได้มั้ง
ไม่งั้น ก็คงกลับไปตายรัง ร้อง โฮ่ง ๆ แฮ่ แร่พโย่ว เอ๊ย เผยแผ่ธรรมโม๊ะ
อยู่ที่ ลานธรรมจก ถิ่นเก่าของมันนั่นแหล๊ะ อิอิ
แต่ มันไม่มาเพ่นพ่านแถวนี้ก็ดีแระ ว่ะ
นู๋บีจาได้ นินทามันได้สะดวกปากหน่อย
ไม่งั้น ชิมไปตรูก็เสียวคอหอย ไปเอิ๊กๆ


ปอลิง 2
อืม...อิหม่ามี๊ รู้ปล่าว ถ้า เรื่องราวใน สุสานโบราณแห่งนี้ เป็น หนังสักเรื่อง
มันก็คงจะไม่ใช่ ดราม่ากำลังภายในที่สมบูรณ์แบบของโกวเล้ง ว่ะ
แต่ว่า เป็น หนังไทยแนวอินดี้ เรื่องเนี้ยะ ตะหาก

อิหม่ามี๊ว่า ถ้า พวกเราไป แคสติ้ง
ครายจะได้เล่นบท อะไร กันมั่งเอ่ย ? เหอ...เหอ...
ว้าาาาาา จา ห้าทุ่มแระ ขอตัวไป ทำปฏิบัติภารกิจก่อนจร้าาาา
แอบอู้งานแว่บมาเล่นเนต นาน ๆ งี้
เด๋วนู๋บีจาเจออิซ้อมหาภัยมันฟ้อง
ข้อหา ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ว่ะ อ่ะซิก ๆ


บ๊ายบายจร้าาาา




 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 11 มกราคม 2555 เวลา:23:04:55 น.  

 
 
 
อิเจ้ใหญ่ พักนี้เปิดโอกาสให้แม่ปั้วลูกซะภัยคุยกัน
กรูเป็นคนนอก แค่ฟังยังไม่รู้เรื่องเลย ไม่อยากสะเออะ
แอนด์สะแหล่น

เอาไว้อีเจ้รองมันยกยอปอปั้นผัวให้สะเด็ดน้ำก่อน
แล้วอั้วค่อยค่อยมาปูเสื่อ จัดชุดใหญ่

เอาธรรมะมาฝากอีเจ้รอง
"สามีสะระนัง คัจฉามิ"ฮาๆผัวข้าดีที่ซู้ด
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 61.90.105.98 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:4:37:06 น.  

 
 
 
อัยยะ...มีวิชาสาวหยกรักษาพรหมจรรย์ ด้วยวุ๊ย
ห้ามกามคุณทั้ง 6 และอารมณ์ทั้ง 7
ไม่ได้อยากเรียนแต่อยากมีไว้ในครอบครอง หุหุ
ผิดกติกา ป่าวเนี่ย อิหลวงเจ๊กุ๊กไก่
มีอมเคล็ดวิชาไว้เยอะ นิหว่า 555

อ่านเรื่องย่อเมลล์นรก หมวยยกล้อแล้ว
ไม่มีบทถูกใจ เรยว่ะค่ะ ขอเป็นบทนอกเรื่องบทเพื่อน
อิโก๋ แทนก็แล้วกัน แหะแหะ
---------------------------------------------------
อาตี๋โอทึ้ง ปั๋วอั๊วอิสั่งไว้ อย่าเอาอีมาขาย อีมะใช่หมู อิอิ
ผัวอั๊วจะดีจะชั่ว อั๊วก็รู้อยู่คนเดียว บอกคนอื่นไปก็ไม่ได้ตัง
แถมยังอาจได้ ชุดหญ่ายยยยย กลับมาแทน 666

ปั๋วอั๊ว อั๊วก็ต้องว่าอีดี อยู่แร้น
ถ้าคิดว่าไม่ดีแล้ว จะอยู่ด้วยกันไปทำไมวะคะ
ลื้อก็ปิดหูปิดตา อ่านข้ามๆไปละกัน เวลาอั๊วสรรเสริญปั๋วอั๊ว
อะนะ คิดซะว่า อั๊วหน้ามืดหลงปั๋วหลงลูกไปละกัน

ลื้อมีปัญญาแหล่มๆ ก็มาโชว์ลูกกระเดือกให้ชมหน่อยดิ
ว่าแหล่มธรรมะหรือมีประสบการณ์เจ๋งๆ มาเป็นวิดยาทาน
เปิดหูเปิดตา คนไม่รู้อย่างอั๊วก็ดีนะ อิอิ

 
 

โดย: อิเจ้รองเพื่อนหลวงเจ้กุ๊กไก่ IP: 110.169.235.89 วันที่: 12 มกราคม 2555 เวลา:13:33:43 น.  

 
 
 



แม่นางอึ้งกิมกี่ ว่า....
อัยยะ...มีวิชาสาวหยกรักษาพรหมจรรย์ ด้วยวุ๊ย
ห้ามกามคุณทั้ง 6 และอารมณ์ทั้ง 7
ไม่ได้อยากเรียนแต่อยากมีไว้ในครอบครอง หุหุ
ผิดกติกา ป่าวเนี่ย อิหลวงเจ๊กุ๊กไก่
มีอมเคล็ดวิชาไว้เยอะ นิหว่า 555
+++++++++++++++++++++++++++++++++

อิเจ้ไหมแดง ว่า...
เหอ...เหอ.... อย่างงี้ก็มีด้วยวุ้ย
ไม่ได้อยากเรียน(แต่อย่างมีไว้ในครอบครอง)
เฮ้ออออ ขืน อิอ่อน มันยังชอบชุบมือเปิบ
คอยบำเพ็ญตน เป็น อิเสือนอนกิน อยู่งี้
ต่อหั้ย สิบป๋าโจ ห้าร้อยแม่นางอึ้งย้ง และ หมื่นพันอิหลวงเจ้กุ๊กไก่
ไปเอากระดาษมาเจิม แล้วเขียน อิทธิบาท 4
ให้แม่นางอึ้งกิมกี่ ท่องวันละ เก้าพันเก้าร้อยเก้าสิบเก้า จบ
อิอ่อน มันก็คงสำเร็จเคล็ดวิชานี้ มิได้แหง๋ ๆ
แล้วงี้เมื่อไรจะ แกะด้ายดำที่ผูกติดข้อมือ ออกได้ล่ะหว่า?




อืม....ในโลกนี้น่ะ... ของฟรี ไม่เคยมี ของดี ไม่เคยถูก นะเฟร้ยยยยย
นี่ ๆๆๆ อิเจ้รองจ๋าาาาา ท่องไว้สิเว้ยเฮ้ยยยยยยยยยย

ฉันทะ - วิริยะ - จิตตะ - วิมังสาาาาาา !



อ้อ แต่ถึงจะ ฝึกฝน เคล็ดวิชาห้ามกามคุณทั้ง 6
และอารมณ์ทั้ง 7 มาแบ่บเบ็ดเสร็จแล้ว
แต่ อิเจ้ไหมแดง มันก็เป็น เจ้าของฮาเร็มน้อยคอยร้ากกก นะจ๊ะ
บ่ ใช่ หลวงเจ้ กุ๊กไก่ แห่งหมู่บ้านพลัม อย่าง แม่นางเล้งยี้ อ่ะ อิอิ
ดังนั้น อย่าว่าแต่ ตัดฟามรักลูกรักผัว เล๊ยยยย
คนอย่าง อิเจ้ไหมแดง เนี่ย มันตัดได้ทุ๊กอย่าง ว่ะ
( ยกเว้น ให้ ตัดตัวกรู อันนี้ ตรูยังทำม่ายได้ เอิ๊ก ๆ )



อืม...อันเคล็ดวิชาสารพัดห้ามฯ ที่พล่ามมานั้น
มันมิได้เน้นการท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง
เหมียน คัมภีร์เก้าอิม หรอกนะอิเจ้รอง
อนึ่งการหักห้ามอารมณ์ทั้งเจ็ดและกามคุณทั้งหก นั้น
มันต้องอาศัยการฝึกฝน บำเพ็ญเพียร จนชำนาญจร้าาาาา

อารมณ์ทั้งเจ็ด ประกอบไปด้วย
ยินดี เดือดดาร โศกเศร้า สุขสันต์
ความรัก ความชัง และความปรารถนา

ส่วนกามคุณทั้งหกคือการรับรู้ทาง จักษุ โสต ฆาน ชิวหา กายา และใจ
อันก่อเกิดเป็นความต้องการต่อ รูป รส กลิน เสียง สัมผัส และทางมโนสำนึก ขึ้น


นี่ ๆ แม่นางอึ้งฯ รู้ปล่าว ว่า
อันเคล็ดวิชาสารพัดห้ามฯ เนี่ย
จริง ๆ แล้ว แม่นางคนเนี๊ยะ



มันฝึกปรือวรยุทธเหล่านี้
จนมีฝีมือ เก่งกล้า มากฝ่า เทพธิดาไหมแดง ยิ่งนัก
แต่รู้ไหม เหตุใด แม่สาวสคราญผู้มากด้วยปัญญา อย่างนางนั้น
จึง ต้องมา เจ๊งบ๊ง ตกม้าตาย ตอนจบ เมื่อพบก๊ะ ไอ้เจ้าเด็กก้วยยี้
ก็เพราะ นางเสือกตาบอดเพราะฟามรัก ไง


แมร่ง อิเจ้ไหมแดง คิดถึงตำนานรัก ลูกศิษย์คิดล้างครู ของ อิสองตัวนี่ ทีไร
อิเจ้ไหมฯ ก็ กั๊ดอ๋กกั๊ดใจ๋ นึกเคืองป๋ากิมย้งว่ะ
ดูดู๊ อีชอบ ปลุกระดมส่งเสริม ให้เยาวชนของชาติ
สำแดงอาการ บ่อตั้วบ่อโส่ย โดยไม่ดูตาม้าตาเรือเอาซะเลย
อิเจ้รอง รู้ปล่าว ถ้าอิเจ้ไหมแดง หลวมตัวรับไอ้ก้วยยี้เป็นศิษย์ เหมียนอินังเล้งยี้ อ่ะนะ
ไม่เพียงแต่ แขนมันเท่านั้นที่ จะขาด (แต่ ตรูจะตอนมันด้วย)
เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม เหอ...เหอ...


อืม...เรื่องนี้ มันก็เหมือนกับตอนที่
เปาบุ้นจิ้นประหาร เปาเหมี่ยน นั่นแหล่ะ
การจับ ไอ้เด็กก้วยยี้ ไปตอนทิ้ง ตั้งแต่มันยังเป็นละอ่อน นั้น
ย่อมเป็นการ รักษา หน้าที่ และ หลักการ ของศิษย์กับอาจารย์
แล ช่วย ธำรงคงไว้ซึ่ง ขนบประเพณีอันดีงามตามอย่างลัทธิของท่านขงจื้อ
นี่แหล่ะเขาเรียกว่า แข็งนอก


ส่วนอ่อนใน ก็คือ...
หลังจากที่ไอ้ก้วยยี้มันตกเลือดจนตายหองไปแล้ว
อิเจ้ไหมแดงจะเผาตุ๊กตายาง
พร้อมเอาไวอะกร้าไปถวายสังฆทาน
ส่งให้มันใช้ถึงในนรกอ่ะ อิอิ

ความแข็งนอกก็คือหน้าที่ อ่อนในก็คือความห่วงใย
อุ๊ยต๊ายยยยยย ทำไมตรูช่างคิดอะไร ได้สุขุมลุ่มลึกถึงเพียงนี้หนอ



อ้อ เอาธรรมะมาฝากอีเจ้รอง ด้วยจร้าาา


อภรรยา ปรมา ลาภา
สามีมา ปรมา ทุกขา
ราหุล ชาตะ มรณะ เอ๊ยยยย พันธนะ



ขอให้ ข้อคิดเหล่านี้
จงฝังแน่นในสัญญาของไอ้พวกตาลยอดดี ด้วยเทอญ
โอมเพี้ยงงงงงงง เหอ...เหอ...



ปอลิง

ว่าแต่ ถ้า อิเจ้รอง อ่านเรื่องย่อเมลล์นรก หมวยยกล้อแล้ว
จะขอเล่นนอกบท เป็นเพื่อน อิโก๋ แร้วไซร้
ช่วยทั่นผู้กินกับ คิดหน่อยจิ ว่า จะแจก บทไหน
หั้ย ไอ้โซ๊ยตี๋ ก๊ะ อาเหล่าแปะ เล่นดี ฟระ
มัน ถึงจะ แหล่ม และ เข้าถึง วิถีดราม่า
ตามแบบฉบับของ ปรมาจารย์ กิมย้ง อิอิ



 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:1:35:13 น.  

 
 
 




ไอ้โซ๊ยตี๋ ว่า...

อิเจ้ใหญ่ พักนี้เปิดโอกาสให้แม่ปั้วลูกซะภัยคุยกัน
กรูเป็นคนนอก แค่ฟังยังไม่รู้เรื่องเลย ไม่อยากสะเออะ
แอนด์สะแหล่น

+++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า


เหอ...เหอ... แท้งกิ้วจร้าาา ไอ้ทึ้งจ๋าาาา ที่ลื้อ สำนึกได้เช่นนี้
จงเข้ามาอ่านอย่างสงบเสงี่ยมเจียมตัว
อย่าได้ สะเออะ แอนด์ สะแหล๋น
มาคิดแกะ รหัสลับดาร์วินชีซ์ เรยอ่า
เด๋ว มรึงจะเจอ คำสาปมรณะ ของ เดอะ ลิง ซะเปล่า ๆ
อิเจ้เป็นห่วง อ่ะจ้ะ หุหุ


นี่แหน่ะ ลื้ออย่าได้มาทำเนียนแทรกกลาง
ระหว่างอิเจ้รองกับอิป้าป่อง เด็ดขาด
งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ซือแป๋ไม่เกี่ยว !


มันเป็นเรื่องระหว่าง
เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงของอิเจ้ป่อง
กับแม่นางอึ้งกิมกี่ ของ อิอ่อน
ฉะนั้นลื้อจงนั่งอยู่บนภู ดูแม่ปั๋วลูกไป๊
เขาคุยกระหนุงกระหนิง จุ๊กกู่ๆๆกันเฉย ๆ ก็พอ



รับรองได้ถ้าลื้อเอา คำพูดของซือแป๋ มาทะลุกลางปล้อง
ทำร้ายอั้วหรืออิเจ้รองคนใดคนหนึ่ง
ลื้อเป็นได้เจอ กระบวนยุทธฝีหลอกวิญญาณหลอนของคู่หูคู่ฮา แน่ๆ
ถามหน่อย ลื้อรู้จัก เพลงฝ่ามือเบญจพิษ
ก๊ะ เคล็ดวิชา ไม้ตีสุนัข หรือเปล่า
อย่าลืมน่ะ อั้วกับอีเจ้รอง นี่แหล่ะ
ที่ เป็น อีผีเน่ากับอิโลงผุตัวจริง
ไม่ใช้ เป็น อีผีเน่า ก๊ะ เจ้าโลงเก๊
แบบที่มีหมาที่ไหนก็ไม่ลู้
มันเอาชื่ออิเจ้ไปแอบอ้าง เหอ...เหอ...



ปอลิง

แร้ว เด๋ว ฤกษ์งามยามดี
อิตั้วเจ้จะเอาเรื่องโรงหมอ โรงศาล และโรงละครการเมือง
มานินทาหั้ยฟังนะยะ ขอเวลาอิเจ้เขียนโพย แป๊บนึงว่ะ
เพราะว่า อิเจ้ป่องมันม่ะมีตังค์จ้างออร์แกไนเซอร์ส่วนตัว
มาช่วยเขียสคริปต์ แอนด์ จิ้มดีด ให้
แบ่บอินังบัวเกี๋ยงนายกสุดที่ร้าก ของลื้อนี่หว่า
และในเมื่อไม่มี องครักษ์พิทักษ์เธอว์ งี้
อิเจ้ ก็เรยต้องค่อย ๆ คิด ค่อย ๆ เขียน และ ค่อย ๆ จิ้มน่ะสิ
จะได้ไม่พลั้งเผลอ โดนฟ้องคดีหมิ่นฯ จนติดคุกหัวโต งิงิ




อ้อ และขอหั้ยลื้อ จง สำเหนียกไว้ให้ดีๆ
ว่า ณ สุสานโบราณแห่งนี้ ด่าซือแป๋หมัก ยังพอคบ
แต่ด่าแม่ปั๋วที่เคารพรัก กรูคบม่ายล่ายยย
จำไว้ให้ ขึ้นใจนะยะ ไม่งั้น ลื้ออาจจะโดนอิตั้วเจ้
ลอบแทงข้างหลัง จนต้องไปร้องจุ๊ก ๆ ต่อ
ที่ปรโลกแน่ ๆ เหอ...เหอ...





 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:1:41:45 น.  

 
 
 
เจ้ไหมแดงแจ๊งแวงงงงง
ช่วยทั่นผู้กินกับ คิดหน่อยจิ ว่า จะแจก บทไหน
หั้ย ไอ้โซ๊ยตี๋ ก๊ะ อาเหล่าแปะ เล่นดี ฟระ

อิเสือนอนกิน
ให้อาเหล่าแปะ เล่นบทพระเอก บทอิโก๋ กะเป๋ารถละกัน
ส่วนโซ้ยตี๋ ให้เล่นบท ป๋าเทพ นักซิ่งตีนโหดขับไปบ่นไป
อิิอิ ไม่รู้จะเป็นไงเหมือนกันนะ คิดเองเออเอง
-----------
เจ้ไหมแดงแจ๊งแวงงงงง
อ้อ แต่ถึงจะ ฝึกฝน เคล็ดวิชาห้ามกามคุณทั้ง 6
และอารมณ์ทั้ง 7 มาแบ่บเบ็ดเสร็จแล้ว
แต่ อิเจ้ไหมแดง มันก็เป็น เจ้าของฮาเร็มน้อยคอยร้ากกก นะจ๊ะ
บ่ ใช่ หลวงเจ้ กุ๊กไก่ แห่งหมู่บ้านพลัม อย่าง แม่นางเล้งยี้ อ่ะ อิอิ
ดังนั้น อย่าว่าแต่ ตัดฟามรักลูกรักผัว เล๊ยยยย
คนอย่าง อิเจ้ไหมแดง เนี่ย มันตัดได้ทุ๊กอย่าง ว่ะ
( ยกเว้น ให้ ตัดตัวกรู อันนี้ ตรูยังทำม่ายได้ เอิ๊ก ๆ )

อิเสือนอนกิน
หุหุ
มันกลับตาลปัตรกันจิงจิง เลยเธอว์
ตรูน่ะ ให้ตัดตัวกรูยังง่ายกว่า ตัดฟามรักลูกรักปั๋ว เลยนะ
แบบว่า เห็นลูกเจ็บแต่รู้สึกเหมือนเราเจ็บกว่า
เห็นลูกปั๋วสำคัญกว่าตัวเราเอง ของตัวเองเอาไว้ทีหลังได้
ตอนนี้มันเป็นแบบนี้นะ ไม่รู้วันหน้าจะเปลี่ยนไปอีกไหม
ทำใจตัดห่วงคนที่เราผูกพันธ์ด้วยมันยาก อะนะ
แต่ถ้าเราเข้าใจชีวิตจริงๆ แล้วมันคงตัดที่เดียวขาดหมด
ทุกอย่างไปเอง สงสัยมันเป็นธรรมชาติแบบว่าชอบทำร้าย
ตัวเองละมั้ง ทำใจยากทั้งๆที่รู้ว่ามันโง่ก็ยังเป็นแบบนั้น
แต่ว่า ก็มีวิชารู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี เป็นเคล็ดวิชา
ประจำใจฟังดูแล้วเหมือนแย้งๆกันไงมิรู้ แต่มันก็เป็น
ของมันได้

เรื่องด้ายดำเนี่ย หุหุ
สงสัยต้องรอให้ด้ายมันเปื่อยยุ่ยแล้วหลุดไปเอง
ทุกวันนี้ที่อิอ่อนมันฮึดขึ้นมาท่องอิทธิบาท4 เนี่ย
เพราะมันเห็นแก่ลูกปั๋วที่คอยมาจ้ำจี้จ้ำไชหรอกนะ
ถ้าบอกให้มันทำเพื่อตัวเองก็คงแห้วรับประทาน
ทำได้วันสองวันก็เลิกแระ กรูล่ะกลุ้ม!!!
มันช่างอ่อนเจงๆ อ่อนแบบไม่เห็นแก่หน้าตัวเองมั่งเรย
เรื่องเล่นๆละเก่งนัก พอจะเอาจริงก็หนีจ้อย หุหุ






 
 

โดย: อิเสือนอนกิน IP: 110.169.204.41 วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:14:30:16 น.  

 
 
 



หน้านี้ 100 กว่าเม้นต์ แระ โหลดช้ามั่ก ๆ
ขอ นุยาด ขึ้นหน้าใหม่คร้าาาาาาา


https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=01-2012&date=13&group=1&gblog=6



 
 

โดย: เทพธิดาไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงงงงงงง... (นู๋บี ) วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:20:38:17 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นู๋บี
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add นู๋บี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com