จะ สุข หรือ ทุกข์ ไม่ได้อยู่ที่ คนอื่น ทำ แต่อยู่ที่ เรา เลือก ^ 0 ^

<<
มกราคม 2555
1234567
891011121314
15161718192021
22232425262728
293031 
 
13 มกราคม 2555
 

► ►►. . .สุมหัวคุยกัล ก๊ะ อิเจ้นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 ( โครงการ 5 ). . .◄ ◄◄




หวัดดีเจ้าค่ะ ทั่นผู้มีเกือกทุกทั่น
ที่หลวมตัวแวะเข้ามาในบล็อค ของอิฉัน หุหุ

( อ้อ..ไหน ๆ ก็เผลอแวะมาแล้ว นิ )
ไงก็อย่าลืมโพสทักทายกันมั่งนะเจ้าคะ
จะได้ช่วยเสริมสิริมงคลให้กับ บล็อคของอิฉัน
ที่สำคัญ เรทติ้งจะได้ วิ่ง ๆ อิอิ

( เราเน้น ปริมาณ ไม่เน้น คุณภาพ แหะ ๆ )

มิตรภาพ เกิดขึ้น ที่ตรงไหน
ไม่สำคัญ เท่าไร อย่าไปสน
สิ่งสำคัญ อยู่ที่ใจ ในตัวตน
จะรับรู้ ค่าแห่งคน ค่าแห่งคำ


ด้วยจิตคาราวะ และ มิตรภาพ จริ๊ง....จริง เหอ ....เหอ....



ปอลิง

หน้านี้เอาไว้ พูดคุยทักทาย กันจ้า
มีไร เม้าส์ได้ตามสะดวกปาก นะเจ้าคะ
อิฉันชอบฟังเสียงชาวบ้านเข้ามาคุยให้ฟัง แหะ ๆ ^ - ^

อ้อ ขออนุญาตแนะนำ

สมาคม สูงกินลม ไว้ไม่มีหงอย ... แห่งประเทศไทย
ไว้ในอ้อมใจของทุก ๆ ท่านด้วยเจ้าคะ

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=itoursab&group=6

ครายว่าง ๆ ก็แวะไปกรอกใบสมัคร เข้าสมาคม ได้นะเจ้าคะ
ช่วงนี้ สมาคม ของเราเรามี โปรโมชั่น พิเศษ
แพคเกจกินลมชมวิวบนคาน พร้อม น้ำเต้าหู้กะไข่ลวก

เสิร์ฟโดยทั่นประธานชมรม คนล่าสุด ไอ้แสบ หลานอิฉันเอ๊ง อิอิ




หมายเหตุ

บล็อกนี้ แบ่งเป็น 3 โซน นะเจ้าคะ
คือ

1. สุมหัวคุยกัน

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&group=1

ส่วนนี้เอาไว้เม้าส์เรื่อยเปื่อย ก๊ะ ชาวบ้านฮ่ะ
( เขตนี้เป็นเขตกรีน โซน )
แพล่มได้โดยไม่ต้องกัว จขกท. กัด เหอๆ




2 ตัวหนังสือธรรมโม๊ะ เอ๊ย ทำมะทำโม ของอิน้องบัวผ่อง

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&group=3

ส่วนนี้เอาไว้โชว์ รัศมี ธรรมโม๊ะ ของ อิน้องบัวผ่อง เค้าง่ะ
จัดเป็น พิ้งค์ โซน ที่ หวานแหวว สะแด่วแห้ว
เหมาะสำหรับ ผู้ที่อยากบริโภคธรรมะแนวน้ำแข็งใส
ย่อยง่าย ๆ โดยไม่ เสาะท้องเพราะ อาหารเป็นพิษ งิงิ





3.ตัวหนังสืออื้อฉาวววว ของ เจ้าป้าบัวเกรียน !

//www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&group=2

อืม...อันนี้ เรด โซน ง่ะ เขตมหันตภัย น้อง ๆ ซึนามิ
ถ้าเป็น ไออ่อน อิอ่อน มิสมควร เข้าไปเพ่นพ่านเด็ดขาดดด
เพราะอาจ หงายเงิบ สำลักน้ำลายอิฉันตายได้โดยมิลู้ตัว
โซนนี้เหมาะสำหรับ ตัวพ่อ แอนด์ ตัวแม่
ผู้ พิสมัย ธรรมะแนว อินดี้ + ฮาร์ดคอร์










Create Date : 13 มกราคม 2555
Last Update : 13 มกราคม 2555 20:49:52 น. 108 comments
Counter : 5656 Pageviews.  
 
 
 
 

เหอ... เหอ.... ต้องขึ้นโครงการ 5 ( หน้าใหม่ ) จนได้วุ้ย
แบ่บว่า สุมหัวนินทาชาวบ้าน เอ๊ย..สุมหัวคุยกัน โครงการ 4
อิเจ้นู๋บี มันฝอยซะจน เรทติ้งกระฉูด น้ำหมากกระฉอก
ทะลุร้อย ฝ่า ' ดอกส์ อีกตามเคย
(เรยเริ่มโหลดหน้าเวบช้าอีกแระ แหะ ๆ )


เฮ้อออ ? อุส่า ว่าจะหลบอยู่ในกะลา
รจนา มหากาพย์ธรรมโม๊ะ แร้วแท้ ๆ
(ม่ะน่าไปเหยียบหาง เอ๊ย แหย่ไอ้เจ้าลูกหมาพิทบูลเรยตรู )


อ่ะแฮ้มมมม แควน ๆ เจ้าขราาาา
วันนี้นู๋บีขึ้นเวรอีกแระจร้าาาาา
คงม่ะสามารถ ปั่นน้ำลายปิดกาทู้ ในวันนี้ได้อ่า
ถ้าไง เด๋ว นู๋บี ขอนุยาด หายหัวไปปั่นน้ำลาย แป๊บนึงเน้อ
แร้วเด๋วจามา ตัดริบบิ้น ปิดประเด็น ให้เสร็จ
( ก่อนจาหายกัวเข้ากะลามกาสนุก ง่ะ งิงิ)


อ้อ ส่วนลิงค์นี้ เป็นความเดิมจากตอนที่แล้ว จร้า

สุมหัวคุยกัล ก๊ะ อิเจ้นู๋บี - บัวเหล่าที่ 5 ( โครงการ 4 )

https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=bsonjb&month=12-2011&date=12&group=1&gblog=5





 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:20:30:38 น.  

 
 
 
เออ เฮ้ยยยยยยยยยย จิงดิ
พรุ่งนี้ วันเด็กเอ๋ยเด็กดี นี่หว่า
งั้น ลูกไป๊ขราาาาา เอา คลิปนี้




มาฝาก เป็นของขวัญวันเด็ก
หั้ยอิน้องฮาร์ท พ่อยอดขมองอิ่ม ของ อิเจ้นู๋บี ดีฝ่า
หวัง ว่า อิน้องฮาร์ท คงจาถูกใจ นะจ๊ะทูนหัววววววววว
( อิเจ้ไหมแดงดูแร้ว ลู้สึก ว่า
มันเข้ากับ บรรยากาศบล็อก ตอนนี้ ไงก็มิลู้ เหอะ ๆ )

อ้อ อิหม่ามี๊ขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ว่าแต่ ฮาร์ทจัง ยังอยากจาเป็นนักกีตาร์มือโป อยู่ไหมเอ่ย
วันเด็กปีนี้ ถ้ามีเวลาว่าง ๆ ก็พา ฮาร์ทจัง
แวะมาฟัง อิลิงล่องหน มันเล่นกีตาร์
ที่ฮาเร็มน้อยคอยร้ากกกก ได้น้าาา อิอิ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:21:10:08 น.  

 
 
 
มาตามกลิ่นธูป อิอิ
พรุ่งนี้วันเด็ก จะพาอิฮาร์ทจังไปดูรถถัง
ส่วนป๋ามันก็จะทุบกะปุกถอย asus transformer มาให้
กะว่า จะให้อิฮาร์ทลืมกิต้าร์ไปเลย มั้ง
ตอนนี้ อิฮาร์ทจัง กะลังบ้าangry bird กะบ้าเล่นเกมส์
วันนี้เห็นบอกว่า คะแนนสอบมิดเทอมได้ที่ 2
ป๋าเลยจัดหนักให้ หุหุ
 
 

โดย: อิเสือนอนกิน IP: 58.9.41.194 วันที่: 13 มกราคม 2555 เวลา:23:34:22 น.  

 
 
 
อะโหยยยยยย อิหม่ามี๊ขราาาา
อิน้องฮาร์ท สอบมิดเทอม ได้คะแนนเป็นที่ 2 เรยเหยอ ?
ซาแดงว่า ป๊ะป๋า อี เทรนด์ มาดี ( ฝีมือนะจ๊ะฝีมือ อิอิ )

หูย เนี่ยนอกจากโคตรไอ้เข้ ของเจ้ จะเป็นสามีในอุดมคติ
( เพราะโคตรจะทนมือทนตรีนอิแม่มดแร้ว )
อียังสมควรจะได้ โล่ห์ยอดคุณพ่อดีเด่นประจำปี 2555 ด้วยอ่า


งั้นนู๋บี ขอ นุยาด ส่ง อิชะนีแจ่ม ๆ ตัวนี้



ไปตบรางวัลเพื่อเป็นการสมนาคุณ ให้ ยอดคุณพ่อ
อีกสักดอกส์สองดอกส์ นะเจ้าคะ
จะได้ช่วยแบ่งเบา เวิร์คโหลด ของคุณนายเน่าจอมอู้ ไง เหอ...เหอ...


ปล.
บ๊ายบายจร้าาาาา แล้วเด๋วฤกษ์งามยามดี
ลูกไป๊คนนี้ จามาเม้าส์โตยเน้อ
ส่วนตอนนี้แค่ แว่บ มาเชคเรทติ้ง
ก่อนจาลงเวรบ่าย อ่ะจร้าาาาา ^ 0 ^

 
 

โดย: อิเสือติดปีก อิอิ (นู๋บี ) วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:0:11:53 น.  

 
 
 
มาหาแนวตั้งค่ายขุดสนามเพาะ กรูได้ทำเลแล้วตอนนี้
เหล่าเสธ.กำลังวางแผนการรบ อาวุธก็พร้อมทั้งขรี้
ทั้งไข่เน่า รับรองได้สุสานโบราณของอีเจ้ ได้เหม็นตลบอบอวลแน่ๆ

ข้าก้วยยี้โอทึ้งขอสาบานว่าต่อแต่นี้ไป อีเจ้เล้งนึ้งนู๋บี
มิได้เป็นศิษย์อาจารย์กันแล้ว เหตุเพราะตั้งแต่เล็กจนโต
ก็หวังเอาอาจารย์ทำเมีย แต่อยู่ดีๆ
ไอ้หมาอึ้งเพ้งดันคาบไปแด่ก ตัวข้าทนไม่ได้ที่จะต้องกินน้ำ
ใต้ศอกใคร คนอย่างข้าต้องซิงๆชี้ๆแปะแป๊ะเท่านั้น

อี้เจ้เจอกันครั้งหน้า มีดาบใช้ดาบ มีปืนใช้ปืน ถ้าไม่มีดาบ
ไม่มีปืนก็ใช้ปากก็ได้

กรูหมั่นไส้เต็มทนแล้วกับไอ้ครอบครัวสุขสัน พ่อแม่ลูก
แม่ปั่ว ลุกสะไส้ แหม่! จีบปากจีบคอยอกันจนตรูดกระดก
อีเจ้รองมันเชียร์ปั่วดีอย่างโน้น ลูกชายเก่งอย่างนี้

อีเจ้ใหญ่ก็คอยผสมโรง ยกยอกันเข้าไป
ชมกันข้ามหัวกรูไปข้ามหัวกรูมา กรูกลายเป็น
หมาหัวเน่าไปเลย แต่ไม่เป็นไร กรูขอยืดอกพกถุง
แล้วตะโกนบอกว่า "กรูไม่แคร์โว้ย" ไว้ไปหาเด็กเอาะๆ
ในลานธรรมจกก็ได้
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 115.87.173.235 วันที่: 14 มกราคม 2555 เวลา:12:24:13 น.  

 
 
 
เจ้รอง

มาตามกลิ่นธูป อิอิ
พรุ่งนี้วันเด็ก จะพาอิฮาร์ทจังไปดูรถถัง
ส่วนป๋ามันก็จะทุบกะปุกถอย asus transformer มาให้
กะว่า จะให้อิฮาร์ทลืมกิต้าร์ไปเลย มั้ง
ตอนนี้ อิฮาร์ทจัง กะลังบ้าangry bird กะบ้าเล่นเกมส์
วันนี้เห็นบอกว่า คะแนนสอบมิดเทอมได้ที่ 2
ป๋าเลยจัดหนักให้ หุหุ
***********************************************************
โอทึ้ง
พูดถึงวันเด็ก ว่าจะพาลูกไปดูรถถังเหมือนกัน แต่ลูกมัน
ไม่ยอมไป มันบอกว่าจะดูไปทำไม ไอ้รถถังซังกาบ๊วย
ไอ้ของอัปมงคลเนี่ยเอาไว้ฆ่าคน มันบอกว่า อยากไปดู
กระสวยอวกาศที่นาซ่า มันอยากสร้างกระสวยอวกาศ
เพื่อขนคนหนีภัยพิบัติไปหาที่อยู่ใหม่ ไอ้ตี่ตี๋ลูกอั้วนี่มันเป็น
เด็กอะไรว่ะไม่ค่อยฉลาดเอาเสียเลย

เนี่ยอั้วซื้อหุ่นทรานฟอรืเมอร์มาให้มันเล่น มันโยนทิ้ง
หน้าตาเฉย แล้วบอกว่าจะเอา อัลลอยมาสร้างหุ่นเอง
มันจะเอาไว้ทำงานบ้าน เด็กอะไรคิดได้แค่นี่ โง่จริงๆ

เคยพาไปเที่ยวเวิ้งนาครเขษม ให้มันไปเลือกเครื่องคนตรี
ถามมันว่าจะเอาเปียโนหรือไวโอลิน มันบอกไม่เอา มันไม่
อยากเป็นนักดนตรี แต่ถ้าต้องเป็นอยากเป็นแบบโมซาร์ท
โชแปง หรือไม่ก็บีโทเฟน ไอ้เด็กบ้าไฝ่ต่ำ

เคยซื้อเกมส์มาให้เล่น มันบอกว่าปะป๊าไร้สาระ ถ้าว่างมาก
ก็ไปเดินจงกรม ทำสมาธิ จะได้มีปัญญาหาอะไรที่มันสร้าง
สรรค์สังคมมาให้ตี่ตี๋ทำ
โอโห! โนคลาส ไร้รสนิยมจริงๆว่ะ ลูกตรู
มิน่าสอบได้ที่เกือบบ้วย
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 115.87.173.235 วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:2:58:52 น.  

 
 
 




อ้าวววว เฮ้ย ๆๆๆๆ ลื้อจะมาบ่นแง้ว ๆ
แล้วตัดพ้อต่อว่า อิตั้วเจ้ ได้ไงฟระ ไอ้โซ๊ยตี๋
ที่ผ่านมา มันเป็นเพราะ ลื้อเองนั่นแหล่ะที่ตาถั่ว
เข้าใจผิดทึกทักเอาเอง ว่า อิเจ้เป็น โกวโกว ใจดี แบ่บ อิเจ้เล้งนึ้ง
เนี่ยเจ้ก็อุส่า ย้ำแล้วย้ำอี๊ก ว่า เจ้มีแต่คัมภีร์เบญจพิษ นะเว้ยเฮ้ย
แล้วก็ไม่เคยคิดจะฝึกเพลงกระบี่คู่ประสานใจกับหมาตัวไหน ด้วย
เพราะคนสวยอย่างตรูขี้เกียจเจอไอ้ลูกศิษย์คิดล้างครู
( และ ชอบแอบขโมยซีน อย่างมรึง )



ลื้อก็ยังทำไม่รู้ไม่ชี้ แสร้งทำหูหนวกตาบอด กับคำเตือน
เสือกมาประจ๋อประแจ๋ ร้องจุ๊ก ๆ คุกเข่าขอเป็นศิษย์ตรูอี๊กก
ครั้นพออิเจ้ ใจอ่อนให้เกลียด รับลื้อไว้เป็นศิษย์ แล้ว
อุส่าพร่ำสอน เคล็ดวิชา ห้ามกามคุณทั้ง 6 และอารมณ์ทั้ง 7
เพื่อ ปูพื้นฐาน สู่การเสด็จไปสู่มรรคผลนิพพานเป็นตาลยอดด้วน
ลื้อก็ทำมาตีรวนเป็นเด็กเกเร ไม่ยอมบากบั่นพากเพียร
ครั้นพอฝึกหนัก ๆ เข้า ก็ ทนไม่ไหว สำออยขี้เกียจเรียน
แล้วทำเป็นเนียน หาเรื่องใส่ร้ายป้ายสี
จะตัดฟามเป็นศิษย์เป็นอาจารย์ ก๊ะอิเจ้ซะงั้น




เฮ้ออออ เรื่องทั้งหมด มันก็เป็นเพราะลื้อเองนะเฟร้ย
เนี่ย เจ้ อุส่า ตามใจลื้อ ยอมเปลี่ยน สนามชนควาย
ให้กลายเป็น สนามเด็กเล่นเพื่อเป็นลานธรรม
เอาไว้คุยนู้นนี่กันกระจุ๋งกระจิ๋งตามประสาครอบครัวสุขสันต์


แถมยัง ติดป้ายตัวเป้ง ๆ


ห้ามไอ้ตี๋ขี้หลี และ ตาเฒ่าที่เป็นโรคหอบหื่นเข้า
ที่นี้เค้ามีไว้นินทาชาวบ้าน ไม่ได้มีไว้ป้อสาว
หรือหยอกยัยแก่ นะโว้ยยยยยยยย



เฮ้อออ อิเจ้ก็ทำอย่างที่หมาบางตัวมันแนะนำไว้ เป๊ะ ๆ แล้วแท้ๆ
อุสาตามใจกันขนาดนี้ ลื้อก็ยังจะรั้น พยามจะเปลี่ยนลานกว้าง ๆแห่ง นี้
ให้เป็น สนามนกเขา แล้วยังทะลึ่งเอาเป็ดมาขันประชันไก่
แมร่งแหกปากร้องจุ๊ก ๆ อยู่นั่นแหล่ะ


แร้วงี้ลื้อจะโทษใครได้ฟระ
เจ้เป็นผลที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่ลื้อปรุง
เจ้เป็นวิบากกรรม ที่ตอบสนองเสียงขันคูจุ๊ก ๆ ของลื้อ
ลื้อเป็นคนเริ่ม การกระทำของเจ้เป็นไปตามหลักอิทัปปัจจยตา
ลื้อร้องจุ๊ก ๆ ให้เจ้ฟัง เจ้ก็นั่งฟังไปหั้ยคะแนนไป
พอลื้อเริ่มขัน เจ้ก็จดแต้มไปตามคุณภาพเสียงที่ลื้อร้อง


แล้วไม่ใช่เจ้จะเป็นแค่วิบากกรรมของลื้อเท่านั้น
แต่เจ้ยังทำหน้าที่เป็นสติ เป็นกุศลคอยเตือนลื้อด้วย
ว่าอย่าเสือก ทำตัวเป็นอ้ายลูกศิษย์นิสัยไม่ดี
ที่จ้องแต่จะมา ร้องจุ๊กกรู ๆ ตรูจะ ล้างครูๆ
แต่ลื้อไม่สนใจเลย อะไรฤา คือ เหตุปัจจัย ?
ลื้อก็ลองไป โยนิโสฯ เอาเองเด๊ะ
ตรูขี้เกียจ แดจาวู มาเม้ง แระ
เด๋ว คนบางคนมันจะ ปรี๊ดแตก เอิ๊ก ๆ


 
 

โดย: อิเจ้ไหมแดงแจ๊งแว๊งงงงงงง (นู๋บี ) วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:2:59:12 น.  

 
 
 
ปอลิง 1




เหอ....เหอ..... ช่างน่าดีใจเสียนี่กระไร
ที่วันนี้ อิเจ้ไหมแดง มันสามารถ ล้วงตับ
ล่วงรู้ฟาบลับอันดำมืด ของ อิป่วนท็อปทรีแห่ง ลานธรรมจก จนได้
อา...ในที่สุดฟามจริงที่หมกเม็ดไว้ ก็ปูดออกมาเสียที
ว่า ภายใต้หน้ากากหนังมนุษย์ของจอมยุทธอินทรีย์ นั้น
หาได้เป็น ไอ้ตี๋ก้วยยี้ ไม่ แต่มันคือ งักปุ๊กคุ้ง ปลอมตัวมาตะหาก
แหม๊ ? นี่ถ้าอิเจ้เอาฟามลับพวกนี้
ไปเปิดโปง เอ๊ย ไปเล่าสู่กันฟัง
ก๊ะ เหล่า กัลยา ณ มิตร ที่ ลานธรรมจก
จามี ไผ ต้องนอนแผ่พังพาบอาการโคม่า แร้วร้อง โฮฮ้าบ ๆ อ๊ะเปล่าเนี่ย

//www.dhammajak.net/forums/viewtopic.php?f=1&t=40766


แหม๊ ? โจทก์เก่ามันยิ่งเพรียบอยู่ด้วย
( ฉงฉัย คนบางคนโดนแบนถาวรแหง๋ ๆ หุหุ )





ปอลิง 2


แควนคลับเจ้าขราาาาาา ช่วงนี้ อิเจ้มันเขี้ยวว่ะ
ขอ นุยาด สำแดง ปาหี่ กระตุกหางหมาเล่นแป๊บนึงเน๊าะ
แต่เก๊าะจาพย๊าม พยามปั่นน้ำลาย ตอบ จม.แควน ๆ
ปิดงบประมาณหั้ยได้ตามที่สัญญาไว้ในเร็ววัน อ่ะจร้าาา
คิดถึง กะลาครอบอันแสนสุข ณ แดนสุขาวดี เต็มที แระ
อารมณ์ประมาณเดียวก๊ะ ตอนที่ อิหลวงเจ้กุ๊กไก่
มันโหยหาฟามสันโดษที่หมู่บ้านพลัมเลยมั้ง อิอิ



ปอลิง 3
นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ อิเจ้ไม่คิดจะใช้ดาบ ใช้ปืน
หรือใช้ปาก เป็นอาวุธ หรอกนะจ๊ะ
ไอ้ครั้นจะใช้ขรี้ ใช้ไข่เน่า ขว้างไส่ หรือ ...
มันก็ไพร๊ไพร่ ไม่ไฮโซ อ่ะจ้ะ เจ้าคุณพ่อขอไว้


แต่ลื้ออย่าลืมสิจ๊ะ ว่า
อาวุธที่น่ากลัวที่สุด ของ พวกเราเหล่ามาตุคามเนี่ย
ไม่ใช่หมัด ไม่ใช่ดาบ ไม่ใช่ปืน และ ไม่ใช่ปาก
แต่ มันกลั่นมาจาก มันสมองล้วน ๆ จร้าาาาาาา
วีรสตรีทั้งหลาย อย่าง ลิ้มเซียนยี้ เตียวเสี้ยน บูเชคเทียน
หรือ แม้กระทั่ง อิเจ้บัวเกี๋ยง ของลื้อ ก็เคยใช้ได้ผลมาแระนิ
พวกพูชาย เรียกมันว่า น้ำตา และ มารยาหญิง อ่ะจร้าาาา


แต่ มาตุคามอย่างพวกเราก็ไม่แคร์ หรอกนะ
กระบวนการไม่สำคัญ สำคัญที่ ผลลัพธ์ เฟร้ยยยยย
แบ่บว่า ถ้า หญิงใดชนะบุรุษได้ด้วยเล่ห์เพทุบาย
โดยมิต้องออกแรงรบเลย ผู้นั้นแหล่ะ เป็น ยอดหญิงงงง



อิอิ ดังนั้น ลื้ออย่าพยามมาหาเรื่อง
ก่อสงครามสร้างศึก ก๊ะอิเจ้เรยนะจ๊ะทูนหัววว
พระเจ้า ส่งอิเจ้บัวป่อง มาเพื่อสร้างสันติภาพให้เกิดกับมวลมนุษยชาตินะจ๊ะ
ไม่ได้ ส่งเจ้มาเพื่อสร้างฟามปั่นป่วนให้กับยุทธภพ
เจ้มีแต่ฟามปารถนาดีมาหั้ยลื้อ จิงๆ นะ
ทำไมลื้อต้องเห็น อิเจ้เป็นศัตรูด้วยล่ะ
เจ้เสียใจ๊ เสียใจ อะซิก ๆ




ปอลิง 4





อ้อ ตะวาน ส่งแต่คลิปกระตุกหางหมา ไปหั้ยฮาร์ทจัง
เป็นของขวัญวันเด็กอย่างเดียว นิหน่า
นู๋บียังม่ะได้ให้ของขวัญอิน้องฮาร์ท
ที่สอบมิดเทอมได้เป็นที่ 2 เยยย นิ
งั้นวันนี้ เอาการ์ตูนจ๊ะทิงจา มาให้ฮาร์ทจังเป็นของขวัญดีฝ่าเน๊าะ





แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์ มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวจนเลี้ยวลด ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน
อันมนุษย์นี้ที่รักสองสถาน บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน เกิดเป็นคนคิดเห็นเจรจาฯ
แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี



อืม....อย่าลืมนะจ๊ะ น้องฮาร์ทจ๋า
ท่องไว้ให้ขึ้นใจ นะจ๊ะทูนหัวววว
โตขึ้นจะได้ไม่ต้องตกเป็นเหยื่อ
ของ ไอ้พวกงักปุ๊กคุ้งงงงงงงงงงงงงงงงงง




อืม... ส่วน คลิปเนี๊ยะ ฝากให้ไอ้โซ๊ยตี๋ เป็นของขวัญวันเด็ก ก้อแระกันเน๊าะ
เพราะถ้าหั้ยแต่ฮาร์ทจังคนเดว
อิเจ้เกรงว่า เด๋วไอ้ตี๋บ้านแตก มันจะแหกปากโวยวาย
หาว่า อิเจ้ลำเอียง เห็นมันเป็นหมาหัวเน่า
มันยิ่งชอบหมั่นไส้คนนู้นอิจฉาคนนี้ อยู่เรื่อย
แต่ อิเจ้ ก็เข้าใจมันนะ เฮ้อออ เด็กมีปัญหา ไม่มีคนเอา ก็งี้แหล่ะ อิอิ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:3:05:39 น.  

 
 
 
แมร่งเซ็ง โดนไอ้โซ๊ยตี๋โพสปาดหน้า

เออ อ่านเรื่องลูกลื้อแล้ว ขอบอก ว่า
อีโขกพ่อมันมาเป๊ะเรยว่ะ
(โตขึ้นมีสิทธิตายเพราะปาก เอิ๊ก ๆ )

บายว่ะ อิตั้วเจ้จะไปนอนแระ เอิ๊ก ๆ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:3:15:04 น.  

 
 
 
แง๊ !
กาทู้ ถ้าเราเจอผู้ชายแบ่บ งักปุ๊กคุ้ง
เราจะใช้ธรรมะแบบไหน ?


โดนอิมอดเวบใจร้ายยยอุ้มไปอีกแระ
ส่วนไอ้งักปุ๊กคุ้ง ก็มิลู้ว่า หลังจากถูกเปิดโปงแล้ว
ี้ศพมันยังจะสวยอยู่ อ๊ะปล่า
ตอนนี้ มันอาจกำลังโดนหมอเสริมชำแหละ
ลวกน้ำร้อน ขูดขนเพื่อหาเนื้อนาบุญอยู่ก็ได้ เหอะๆ


แต่ที่แน่ ๆ ล็อกอินของคุณอิน้องชายบังเกิดเกล้า
ก็โดน พณฯ ทั่น เอาไปนั่งยางโชว์
เรียบร้อย รงร. ลานธรรมจก
แบ่บไม่เปิดโอกาสให้ได่ผงกหัว ออกมาผุดได้เกิดซะด้วย


โอ๊ยยยย เก๊กซิมโว๊ยยยยยยยยยยยยยยยย
แควนคลับจ๋าาาาาาา ครายก็ด้ายยยยย
วิ่งมาช่วยซับน้ำตาหั้ยอิเจ้นู๋บีที อะซิก ๆ




ปอลิง
บ๊ายบายจร้าาาา จาไปฉันเพลแระ
วันนี้ วันหยุดฉันมื้อเดียวอ่ะ อิอิ

อ้อ แร้วเด๋ว จะรีบไปนั่งปั่นน้ำลาย
มาโพสปิดประเด็นให้แควน ๆ อ่าน
ก่อนชิ่งเข้ากะลาจร้าาาา
แบ่บว่า ไหน ๆ อิเจ้ก็ได้ใบแบนมาสะสมเพิ่ม
สมใจแร้วนิ โฮ่ ๆ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 15 มกราคม 2555 เวลา:12:00:06 น.  

 
 
 
อีตั้วเจ้นี่แม่งถอดแบบมาจาก ไอ้ตี๋บุ้งก้ากับอีตาเมส
ไม่มีผิด เอะอะก็ฟ้องๆ ชักเซ็งแล้วว่ะ

หัดแยกแยะหน่อยซิว่ะ ทำแบบนี้เสียเครดิสตัวเอง
แถมทำให้บล็อดตัวเองไม่มีคุณภาพ

บล็อกสุมหัวนินทา แต่ดันเอาเรื่องที่นินทาไปฟ้องชาวบ้าน
ลื้อนี่มันแย่สองต่อ ตัวเองก็นินทาแต่เอาเรื่องนินทาไปเอา
หน้ากับคนอื่น ไอ้เขียวมะกอกแบบนี้ อีกหน่อยก็เป็นเขียว
ช้ำเลือดช้ำหนอง

อีตั้วเจ้หัดมีสัจจะในหมู่โจรหน่อยซิว่ะ
ถามใครเขาจะเอาผิดได้ว่ะ คนละเว็บไซด์
ถ้ามันจะเอาแบบที่ลื้ออ้างเป็นหลักฐาน อั้วว่าไอ้พวกนั้น
มันก็ไร้ปัญญาว่ะ

อีตั้วเจ้นี่รับรองได้ ถ้าได้ติดเกาะกันสองคน
ลื้อกินเนื้ออั้วแน่ๆ อั้วไม่ไว้ใจลื้อแล้วว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.112.92 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:3:45:15 น.  

 
 
 
โห...ปล่อยแสงกันใหญ่เรยวุ๊ย

อิเจ้รอง ชักมึน อิอิ

พูดเรื่องอาตี่ตี๋ ดืฝ่า ถือว่าอาตี่ตี่ิีเป็นอภิชาติบุตรละกันเนาะ
อาตี่ตี๋อีกจะชอบกระสวยอวกาศของนาซ่า ชอบโมซาท
ชอบโแปง แถมยังชอบเดินจงกรม นั่งมาธิ อีก
อั๋วว่าลื้อโชคดีแล้วละวะ ถึงจะสอบได้ที่เกือบบ๊วย
ในห้องคิงสวนกุกลาบ ก็ไม่ถือว่าไม่เป็นปมด้วยแต่อย่างใด
อิอิ อั๊วชอบเด็กทุกคนที่รู้ใจตัวเอง รู้ฟามต้องการของตัวเอง
และไม่ยอมเป็นดินน้ำมันให้คนอื่นปั้นแล้วตัวเองก็
เป็นอะไรก็ได้ คิดเองไม่ไเป็น เป็นตุ๊กตุ่นตุ๊กตาของพ่อแม่ไปเรื่ย
 
 

โดย: ิเสือนอนกิน IP: 124.121.211.10 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:11:44:24 น.  

 
 
 
ลืมไปมัวแต่ยกตูดตะกูลอาดัมแฟมิลี่ เยอะไปหน่อย
คนนอกบ้านเขาทนรับ มะด้าย อิอิ
ขอโหสิ อาตี๋โอทึ้งก็ได้ว่ะ ที่อั๊วทำให้ลื้ออ๊กแตกไปหลายรอบ
ฮี่ฮี่ฮี่
โจ่ยเสี่ย น่อ
 
 

โดย: อิเสือนอนกิน IP: 124.121.211.10 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:11:48:47 น.  

 
 
 
เอ่อ...เห็นแก่อาตี่ตี๋ที่ชอบเดินจงกรมนั่งมาธิ..^.^
เรยอยากมาเตือน อาตั่วตี๋โอทึ้งพิทบูลว่า
ทั้งใบยอห่อหมกและใบบอนใบตำแยหมามุ่ย
กระทั่งต้นตะบองเพ็ด และซกเล็ก อาตั่วเจ้
อีก็แหลกล่ายหมด ไม่สะทกสเทือน
ไม่เิกิดอาการแพ้หรือกินไม่ได้แต่อย่างใด เพราะอิตั่วเจ้
มีสารพัดพิษเป็นชาติตระกูล มีเคล็ดวิชาห้ามกามคุณทั้ง 6
และอารมณ์ทั้ง 7 เป็นเบสิค เนี่ย จะมีใครมาเขย่าอิตั่วเจ้
จนตกจากต้นไม้ได้วะคะ หุหุ มือตีนเหนียวยังกะตุ๊กแกอวกาศ
หูตาก็ยังกะสัปรด ประสาทสัมผัสยังกะยานฮับเบิล หุหุ
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง รู้วาระโยหินทุ่มใส่หัวคู่กรณี
รู้ต่อมสติแตกของคนอื่นๆ 555 มีแต่ปั่นจิ้งหรีดคนอื่นๆ
เป็นงานอดิเรก อะม้างงงง

อั๋วไม่ได้ยกตูดอิตั่วเจ้นะ อั๊วคิดแบบนี้เจงๆ นะจาบอกหั่ย
666
 
 

โดย: อิเสือนอนกิน IP: 124.121.211.10 วันที่: 16 มกราคม 2555 เวลา:12:02:46 น.  

 
 
 
อีเจ้รองนี่ก็อ้างไปเรื่อย แบบนี้เคยเห็นป้าย้อยแถวบ้าน
แกชอบด่าหลานแกว่า"อีปากไม่มีหูรูด"

ลื้อว่าอีตั้วเจ้มันห้ามกามคุณ6ได้ ห้ามปะสาอะไรของลื้อว่ะ
เราสามคนคุยกันเรื่องลามกจกกาเปรตในบล็อกนี้
พอเลิกต่างคนก็ต่างกลับบ้าน มันเป็นการคุยกันเล่นๆ

แต่อีตั้วเจ้ มันจะทำให้เป็นจริงว่ะ ที่อีตั้วเจ้มันไปโพทนา
ในลานธรรมจก ดูแล้วมันเหมือนอีนางจิญจา เดินแก้ผ้า
โทงๆ ไปประจานพระพุทธเจ้า

มันไปแก้ผ้าแหกปากแบบนั้น หาว่าอั้วจะไปจู้จุ๊กกรูกับสาวๆ
ในลานธรรมฯ ลื้อรองคิดดูแบบนี้ชาวบ้านเขา จะไม่หาว่า
อั้วไปชำแหระผังพืดพรหมจรรย์ของอีตั้วเจ้หรือ แล้วก็
สาวๆในนั้นจะไม่คิดว่า มันหึงอั้วจนเสียสติเดินแก้ผ้าโทงๆ
เรียกร้องออกเสียงเป็นชะนีแบบนั้น

อีเจ้รองแล้วก็อีเจ้ใหญ่ด้วย เคยได้ยินหรือเปล่าว่า
"ไฟในอย่านำออก ไฟนอกอย่านำเข้า" สงสัยไม่เคยได้ยิน
อีเจ้ใหญ่แม่ง เอาเรื่องลามกจกเปรตใน
บ้านตัวเองไปเล่าให้คนอื่นฟัง

อีกคนยามอารมณ์ดีมันก็ยกยอลูกผัวตัวเอง
ยามอารมณ์ ที่เรียกว่าเลือดจะไปลมจะมา
ก็เอาลูกเอาปั่วมานินทา

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.185.70 วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:4:20:33 น.  

 
 
 

อีเจ้รอง....
เอ่อ...เห็นแก่อาตี่ตี๋ที่ชอบเดินจงกรมนั่งมาธิ..^.^
เรยอยากมาเตือน อาตั่วตี๋โอทึ้งพิทบูลว่า
ทั้งใบยอห่อหมกและใบบอนใบตำแยหมามุ่ย
กระทั่งต้นตะบองเพ็ด และซกเล็ก อาตั่วเจ้
อีก็แหลกล่ายหมด ไม่สะทกสเทือน
ไม่เิกิดอาการแพ้หรือกินไม่ได้แต่อย่างใด เพราะอิตั่วเจ้
มีสารพัดพิษเป็นชาติตระกูล มีเคล็ดวิชาห้ามกามคุณทั้ง 6
และอารมณ์ทั้ง 7 เป็นเบสิค เนี่ย จะมีใครมาเขย่าอิตั่วเจ้
จนตกจากต้นไม้ได้วะคะ หุหุ มือตีนเหนียวยังกะตุ๊กแกอวกาศ
หูตาก็ยังกะสัปรด ประสาทสัมผัสยังกะยานฮับเบิล หุหุ
รู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง รู้วาระโยหินทุ่มใส่หัวคู่กรณี
รู้ต่อมสติแตกของคนอื่นๆ 555 มีแต่ปั่นจิ้งหรีดคนอื่นๆ
เป็นงานอดิเรก อะม้างงงง

อั๋วไม่ได้ยกตูดอิตั่วเจ้นะ อั๊วคิดแบบนี้เจงๆ นะจาบอกหั่ย
666
******************************************************
โอทึ้ง.....
ลื้อคิดอย่างนั้นหรา อีตั้วเจ้มันดีจนไม่มีที่ติ
สติสมาธิชั้นยอด ต่อมสติไม่เคยแตก

อั้วว่าลื้อนี่มันไม่มีความเป็นตัวของตัวเองเลยว่ะ
ชอบทำตัวเป็นลูกแหง่อยู่ไหนต้องมีลูกพี่คอยคุ้มครอง

เจ้รองว่าอีเจ้ใหญ่มันสติดีจริงแล้ว มันคงไม่ไปแก้ผ้า
ปะจานตัวเองแบบนั้นหรอก เรื่องมันอยู่ในบ้านแล้วบ้าน
ก็เป็นบ้านตัวเองแท้ๆ

เรื่องสติมันเป็นเรื่องของการระลึกรู้ ไม่ให้เกิดจิตสังขาร
วจีสังขารและกายสังขาร อั้วถามอีเจ้ใหญ่มันระงับอะไรได้
บ้างว่ะ

ตั้งแต่เริ่มแล้วอั้วพยายามเป็นสติคอยเตือนว่า
อย่าคุยเรื่องการเมือง อีเจ้มันเห็นอั้วเป็นสติมั้ย
เปล่าเลย กลับเห็นอั้วเป็นกิเลส เอาไปปรุง ทั้งจิตทั้งวจี
โพสรูปโพสคำที่ไร้สาระ เอาความคิดอ่านคนอื่น
มาโชว์แบบนี้ กรูไม่เรียกคนมีสติ อย่างนี้เรียกว่ามัวเมาไร้
ปัญญา เนี่ยยังแถมขี้ขลาดไม่กล้ายอมรับว่าอยู่ข้างไหน
แกล้งเสแสร้งว่า ชอบอีตาชูวิทย์ มรึงทำไปได้

อีเจ้รองนี่ก็เหมือนกัน มันเหลืองขนานแท้ก็รู้ๆกันอยู่
อั้วก็ประกาศว่า ชอบลุงหมัก แบบนี้มันก็น่าจะเข้าใจได้

แต่พวกลื้อไม่รู้ก็คือการ ถนอมน้ำใจกัน ใครจะดีจะชั่ว
มันเป็นเรื่องของเขา แต่สำหรับเรามันต้องดีซึ่งกันและกัน
ไม่ใช่บอกว่าเราเป็นเพื่อนกัน แต่พอเวลาคุยการเมือง
ก็สรรหาเรื่องที่ตัวเองคิดว่า สามารถทำให้เพื่อนเจ็บช้ำน้ำใจ
ตัวก็มีความสุข

บอกอีตั้วเจ้ไว้เลยว่า อั้วเจ็บว่ะแต่ไม่ใช่เรื่องที่ลื้อโพส
อั้วเจ็บใจที่หลงคิดว่า ลื้อมีปัญญามีสมอง สามารถคิดอะไร
ได้เอง แต่ดูซิแม่งโพสเรื่องโพสรูปเอามาจากหนังสือพิมพ์
สมองอีเจ้นี่ราคาต่ำกว่า10บาทอีกว่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.185.70 วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:5:00:36 น.  

 
 
 
666
อาตั่วตี๋โอทึ้ง เอ๊ย
ป่านนี้ อิตั่วเจ้มันนอนหัวเราะขำกลิ้งลิงกะหมาไปสิบตลบ
แระม้าง
ที่แหย่ลื้อได้ จนต้องวิ่งออกจากรู มาร้องจุ๊กๆๆๆๆ
เผยสติอันมหาศาลบานตะไท อยู่เนี่ย!!!

อิตั่วเจ้ มันมีงานหลักคือแหย่โคโมโด...
ให้ออกจากรู เฟ้ยเฮ้ย
แระอิตั่วเจ้ก็ไม่เคยอายโคโมโดของตัวเองด้วย
ที่จะเปิดเผย ธาตุสารพัดพิษ(อิอิ) แต่เอามาใช้ประโยชน์
ในการปั่นหัวประชาชาติไซเบอร์ให้เต้นระบำรำมาม่า 555
อาตี๋ ไหงลื้อใจเสาะนัก วะคะ

ยังจำอาม่าเว็บพังจิต ได้ป่าว
อาม่ากระอักเลือดเป็นกะลังมัง เป็นถังๆ ก็ยังใจสู้
ทุกวันนี้อาม่าก็ยังบ่นถึงน้ำมนต์ของลื้ออยู่นะเว้ยเฮ้ย
น้ำใจอย่างอาม่า เขาถึงจะเรียกว่า ไลอ้อนเลดี้

แล้วอาตั่วตี๋โอทึ้ง อย่างลื้อจะเป็น ไลอ้อนคิง
หรือแย้บอย วะคระ
ว่าแต่ว่าโคโมโดก็ไม่รู้จะเป็นได้รึป่าวนะอาการแบบนี้ 666

อิอิ

 
 

โดย: อิเจ้รองเสือนอนกิน IP: 124.122.71.146 วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:8:54:10 น.  

 
 
 



//2.bp.blogspot.com/_YmYcCiXIAmE/RnQ4dVnqHRI/AAAAAAAAAC4/3Ap81wKzkZI/s1600/IslandPic-Wilson.jpg width='400' height='430' border=0>





ปอลิง

ขออนุยาด ใส่รูปปลาปลอบ ตามเคย
ตะคืน ไปอิแรดแต๊ดแต๋ ที่โต๊ะอพินยาเสร็จ
พอกะลังจะโพสข้อฟามในบล็อกตัวเอง ก็ดันผิดพลาดทางเทคนิค
แถมสัญญาณเนต ก็หลุดอี๊ก
เด๋วค่อยมาแก้ข้อกล่าวหาก็แระกันเน๊าะ

อ่ะ อันนี้แถมให้อ่านเล่นแก้หง่อม อิอิ

//tech.mthai.com/gadget/9085.html



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:9:29:10 น.  

 
 
 
โธ่อีเจ้รองเนี่ยเป็นเอามากว่ะ ลื้อจะมาสาธยาย คุณภาพ
อีเจ้ใหญ่เพื่อกลบเกลื่อนทำมายว้า อีเจ้ใหญ่มันเล่นของจริง
มันก็ต้องเอาของจริงสวนไป

มันต้องอย่างอั้วเขาถึงจะเรียกว่าแหย่ ลื้อสองตัว
ไม่ใช่ลื้อสองตัวแหย่อั้วแล้วอั้วทนไม่ได้
มันก็เหมือนกับอีเจ้ใหญ่ มันหยอกอั้วด้วยการจับตรูดอั้ว
พออั้วหยอกมันกลับจับตรูดมันบ้าง มันหาว่าอั้วลามก
ไปแจ้งตำรวจจับอั้ว แบบนี้ใครกันแน่ที่เม้งแตก
แล้วใครกันแน่ที่มันวิ่งออกจากรู ไปพร่านที่ลานธรรมฯ

อีเจ้รองแบบทีอีเจ้ใหญ่ทำเขาไม่เรียกแหย่โว้ย
เขาเรียกว่าแค้นกะให้ชิบหายไปข้าง แล้วที่อั้วกลับ
มาแหกปากในนี้เพราะอั้วทนได้ รู้จักสถานที่
แม่งตั้งบล็อกเอง ออกกฎเองแต่ดัน ทำลายเสียเอง
ก็บอกไว้จะนินทาใครก็นินทาในบล็อกนี้
อีเจ้ใหญ่แม่งดันจะแหล่นแจ๋น เอาเรื่องจริงไปโพทนา
นอกบล็อก

ที่ลื้อบอกว่ามันแหย่อั้วแล้ว อั้วทนไม่ได้ ถ้าทนไม่ได้จริง
ปานนี้อั้วตั้งกระทู้ในลานธรรมใส่ไฟอีเจ้ใหญ่มันแล้ว
ไม่มัวมาเสียเวลาแหกปากสอนธรรมอีเจ้ ลมเพลมพัด
สองตัวนี่หรอก

อีเจ้ไม่ต้องคิดมากจนกินยานอนหลับเกินขนาดน่ะ
เดียวลูกชายจอมอัจฉริยะกับผัวผู้ธัมมะธัมโมจะไม่มีคนดูแล แฮ่ๆๆๆๆ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.185.70 วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:16:08:28 น.  

 
 
 
อิอิ
ตีขิมเล่นดีฝ่า
 
 

โดย: อิเจ้รองหัวขวาน IP: 58.9.130.225 วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:20:53:02 น.  

 
 
 


อิอิ ขอนุยาด ใส่รูปปลากรอบ
และขอ อนุยาด นั่งดีดพิณ บนกำแพง
เป็นเพื่อน อิหม่ามี๊ ตามประสาลูกไป๊ ที่ดี
เฮ้อออ เสียวจะกลายเป็น ขงเบ้ง(โดนถีบ )ตกกำแพง จังวุ้ย หุหุ

อืม...อิหม่ามี๊ เคย ดู เรื่องนี้ป่ะ



ม่ะลู้ดินะ นู๋บีมีฟามลู้สึกว่า
อิตา ชัค โนแลนด์ ก๊ะ ไอ้โต โนแลนด์
มันมีอะไรคล้ายกันหลายอย่างว่ะ
อย่างน้อย ๆ ถ้าติดเกาะ
ไอ้สองตัวนี่ก็คงจะทำอะไรคล้าย ๆ กัน นะ
อาทิ เช่น ชอบนั่งบ่นให้ คุณวิลสัน ฟัง แก้เฉาปาก เหมือน ๆ กัน เอิ๊ก ๆ



เฮ้อออ ในหนัง อิตาชัค มันยังโชคดี นะ
ที่มีลูกวอลเลย์เป็นเพื่อนคอยฟังมันพล่าม
แต่ไอ้โตเนี่ย มันโชคไม่ดี
เรยยังหาคนทนฟังมันบ่นไม่ได้
ไหน ๆ พวกเราก็นั่งตีขิมดีดพิณ อยู่บนกำแพงแถวนี้แล้ว
ไงเก๊าะ ช่วย ๆ ฟังมันชิมไปบ่นไป หน่อยก็แระกันเน๊าะ
ไอ้ตี๋มันจะได้ ไม่เก็บกด ไมเกรนกำเริบ อิอิ







 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 17 มกราคม 2555 เวลา:23:49:36 น.  

 
 
 



อ้อ แท้งกิ้วเจ้าค่ะ อิหม่ามี๊
ที่ คอยเป็น องครักษ์พิทักษ์ลูกไป๊ เสมอ
แม้ว่า คำชมจากก้นบึ้งของ อิหม่ามี๊
จาทำให้ นู๋บี อึ้งกึมกี่ ก็ตาม เหอะ ๆ
( คิดได้ไงฟระ ตุ๊กแกอวกาศ กะยานฮับเบิล )



ฮือ ๆ อิหม่ามี๊ขราาาา นู๋บีโดนไอ้โซ๊ยตี๋มันใส่ร้ายป้ายสีอีกแระ
เนี่ย มันนะชอบมาปรักปรำหาว่า นู๋บีเป็นอิบ่าง เป็น อินังวัสกาพราหณ์ มั่งล่ะ
หาว่า ขี้ฟ้องน้อง ๆ ไอ้ตี๋บุ้งก้ากับอีตาเมส มั่งล่ะ แมร่ง เซ็งจิตว่ะ !


เฮ้อ นู๋บีอยากจะตะโกนกรอกหูมันเลือเกิ๊นนน
ว่า สวย แจ่ม เจ๋ง อย่างกรู
ต้อง แม่นางเทียวเสี้ยม เอ๊ย เตียวเสี้ยนเท่าน้านน ที่คู่ควรรรร



เนี่ย ที่นู๋บีทำทั้งหมดเนี่ย ก็เพื่อปกป้อง สวัสดิภาพ
ของหญ้าอ่อนทั่วราชอาณาจักร เรยนะนั่น
นู๋บีทำตัวเป็น วีรสตรีศรีบางระจัน ขนาดเนี๊ยะ
ไมมันไม่เคยเข้าใจนู๋บีเรยฟระ


แถมแทนที่ ไอ้งักปุ๊กคุ้ง มันจะสำเหนียกและสำนึก
ซาบซึ้งกับการเตือนกันตามประสากัลยาณมิตร ของนู๋บีอ่ะนะ
มันยัง มาทำท่า เยาะเย้ยถากถาง ทำกร่าง ทำหัวหมอ
อ้างข้อกฏหมายร้องถามเหย็ง ๆ
ว่าใครเขาจะเอาผิดมันได้ เพราะคนละเว็บไซด์
แหม๊ มันพูดเหมือน ที่คุงตำหนวดพูด
คดี พี่เสก โลโซ เยยว่ะ อิหม่ามี๊ขราาา
ประมาณว่า รูปนั่น เสกมันพี้ยา อยู่ที่ ตปท. นะจ๊ะ
เกล้ากระพ้มคงม่ะสามารถดำเนินคดีด้ายยยยยย



อะซิก ๆ ถ้าทั่นเปา ยอมปล่อยให้คนชั่วลอยนวลงี้
ต่อไปบ้านเมืองจะหาขื่อหาแป
มาเป็นหลักประกันหั้ยเราอุ่นใจได้ไงล่ะค๊ะ ?
ก็ไอ้โซ๊ยตี๋ มันเคยเลคเชอร์ ให้นู๋บีฟังเองนี่หว่า
ว่า หน้าที่ในสังคมพุทธ สอนไว้ว่า
อย่าวางเฉยเมื่อพบเห็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ต้องประนามคนที่ขาดเหตุผล
ดังนั้น เมื่อเจอคนที่ขาดเหตุผล
เราก็ต้องทำให้เขาสำนึก



แต่ มิเป็นไรค่ะ อิหม่ามี๊ ถึง เราจะหว่านล้อม
ให้ WM คล้อยตามเรามิได้
เราก็สามารถ งัด มาตรการ ทางสังคม มาช่วยอีกแรงก้อได้นิ

อาทิเช่น ไปตั้งกาทู้ เตือน สาว ๆ อพินยา ที่ เวบพลังบิด แบ่บเนี๊ยะ อ่า หุหุ



แต่ที่พูดมาทั้งหมดนี้ ก็ไม่ได้หมายฟามว่า
นู๋บีจะแค้นฝังหุ่นตามฆ่าล้างโคตร
ไม่ให้มันได้ผุดได้เกิด ในโลกไซเบอร์ นะจ๊ะเธอว์
นู๋บีก็แค่ พยามช่วยจับมันใส่ตะกร้าล้างน้ำ เพื่อล้างมลทิน
เปิดโอกาสให้มันพิสูจน์ตัวเองว่า มันไม่ใช่ไอ้ตี๋โตหื่น
แบ่บที่เคยถูกภรรยาบังเกิดเกล้าอีกล่าวหาเอา ก็เท่านั้นแหล่ะ เหอ..เหอ...
แหม๊ ? ก็เห็นเคยปากเก่งบอกเหย็ง ๆ
ว่า ทองแท้ย่อมไม่กลัวไฟ ไม่กลัวการพิสูจน์ นี่หว่า
แล้วจะกลัว 5 อะไรกับสายตาครหาของประชาชีล่ะค๊ะ
เอ๊ะ หรือ มันจะเป็น ทั้ง ทองเก๊ และ โลงเก๊ เท่านั้นล่ะหว่า 5555


อืม....อิหม่ามี๊รู้ปล่าว ตอนแรกเนี่ย
นู๋บีก็ว่า จา พูดจาภาษาดอกไม้ กล่อมเกลี้ยง
ถนอมน้ำใจมัน ประมาณ ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม แร้วน้าาา
แต่ไอ้ตี๋ปากหมามัน ร้องเหย็ง ๆ บอกเอง นี่หว่า ว่า

อี้เจ้เจอกันครั้งหน้า มีดาบใช้ดาบ มีปืนใช้ปืน
ถ้าไม่มีดาบ ไม่มีปืนก็ใช้ปากก็ได้



นู๋บีก็เรยขี้เกียจสวมมงกุฏนางงามมิตรภาพไปคุยก๊ะมัน
ถึงได้หันประเคนศอกเท้าเข่าหมัด ซัดปากมัน แบบจัดเต็ม
เฮ้อ ก็เห็นตอนไปแกว่งปากหาเท้ากับชาวบ้านเขา ในกาทู้ธรรมมะ
ไอ้ตี๋โต มันก็ ปะฉะดะ ยืนหยัดอย่างห้าวหาญ ราวกับ แรมโบ้ก๊ไม่ปาน นิ
ก็นึกว่ามันจะทนมือทนตรีนกรูได้
ไง๋ เจออิเจ้จัดหนักหั้ย แค่ ดอกส์ สองดอกส์แค่นี้
ไมมันถึง บอบบางอย่างกับเปลือกไข่
แอบไปนั่งร้องไห้อะซิก ๆ กัดชายผ้าห่ม
อยู่บนเตียงหยกเย็น เป็น ดช.ก้วยยี้ขี้แง ไปได้ฟระ



นี่ ๆ อิหม่ามี๊ขราาาาา รู้แล้วเหยียบไว้เรยน้าาาา
ถ้านู๋บีเอาจริงอ่ะนะ ปานนี้ ไอ้โซ๊ยตี๋
มันเจอข้อหาจาบจ้วงจองหองพองขน
คิดจะลองดีก๊ะ WM แล้วโดนปลดกลางอากาศ
เหมือนกับที่ ซือแป๋มัน ร่ำ ๆ จะโดนคดีหมิ่นประมาท รองผู้ว่า ไปแระ
นี่เจอข้อหางักปุ๊กคุ้ง แบบขำๆอำกันเล่น แค่เนี๊ยะ ทำมาเป็นงอล เช๊อะ



แหะ ๆ แต่พูดก็พูดเหอะน้าาา อิหม่ามี๊
ตอน ล็อกอินอิน้องชายนู๋บี ถูก WM ลธมจ. มันแบน เนี่ย
นู๋บีก็มานั่งกุมขมับกลัวไอ้โซ๊ยตี๋จะติดร่างแหไปด้วยเหมือนกันว่ะ
แต่ม่ะช่ายว่า เป็น ห่วงไอ้ตี๋นรก มันหรอกนะ
ทว่า ห่วงว่า ตัวเองจะขว้างงูไม่พ้นคอ อ่ะ เอิ๊ก ๆ
แหม? ก็คิดดูดิ๊ ลานธรรมจกเนี่ย เป็น รังโจร แหล่งสุดท้ายของมันแร้วนิ


ขืนไปแฉแต่เช้า จนมันเกิดโดน อัปเปหิ ขึ้นมาจริง ๆ ก็ซรวยลิ่วเด๊ะ
เกิดมันไม่มีที่ไปแพล่มระบายฟามเก็บกด แล้วเฉาปากตายขึ้นมา
ก็จะเป็นเวรเป็นกรรมข้ามภพข้ามชาติ ให้นู๋บีต้องตามไปล้างไปเช็ด
ไปแอ่นอกแสดงฟามรับผิดชอบ ต้องมาเป็นเพื่อนคุยก๊ะมันแก้เฉาปากอี๊ก
ขืนเป็นงั้นนะ โปรเจค กะลามหาสนุก ที่เตรียมจะไปซุกหัวอยู่ก็ เจ๊งบ๊ง อ่ะดิ คะ
แต่เห็นมันยัง ไปโพส ลอยหน้าลอยตาใน ลารธรรมจก ได้อยู่
ก็โล่งอก ขึ้นแยะ เย้ ๆๆๆ กรูขว้างงูพ้นคอแร้วเฟร้ยย ฮา ๆ




อ้อ แต่ขอแก้ข่าว หน่อยน้าาาา
ที่ อิหม่ามี๊ ป้อยอชมนู๋บีจนตรูดกระดกดิ๊กก ๆ บอกว่า

ทั้งใบยอห่อหมกและใบบอนใบตำแยหมามุ่ย
กระทั่งต้นตะบองเพ็ด และซกเล็ก
อาตั่วเจ้ อีก็แหลกล่ายหมด ไม่สะทกสเทือน



อันนี้ มันก็ม่ะเชิงน้าาาาา แบ่บว่า
ถึงจะแหล่กแบ่บไม่บันยะบันยัง
นู๋บีก็เลือกสุกเลือกดิบสารพัดเหมียนกันนะคร้าาาา
อย่างเนื้ออ้ายลูกหมาพิทบูล เนี่ย คงม่ะกล้าเจี๊ยะหร็อก
เพราะดูแร้ว มันทั้งแก่ทั้งหนังเหนียวเคี้ยวลำบากฮ่ะ
นู๋บีชอบหญ้าอ่อนกรุบ ๆ กรอบ ๆ แบ่บฮาร์ทจัง อ่า
แบ่บว่า กะลัง ไร้เดียงสา ใสซื่อได้น่ารักน่าชัง ง่ะ แผล่บ ๆ



ส่วนแบ่บ อาตี่ตี๋ลูกไอ้โต ก็ม่ะไหวอ่า
ดูเป็น อภิชาตบุตรก็จริง อยู่
แต่ท่าทางจะแก่แดดแก่ลม เหมือนพ่อมันเรยว่ะ เหอะ ๆ
ที่สำคัญ เด็กที่มีนิสัยทะเยอทะยาน เอ๊ย เป็น เปอร์เฟคชั่นนิสต์ งี้อ่ะนะ
ถ้าเลี้ยงไม่ดีโตขึ้นอีคง เหมือน พระสนมฮีบิน แหง๋ ๆ เรยอ่า



อิอิ อิหม่ามี๊เคยดูซีรี่ซ์เกาหลีเรื่องทงอี
ตอน ปฐมบทของแสงและเงา ไหมคร้าาาา
ยัยมีดบินนี่ มัน เป็น เงา ของ อีไพร่ทงอีไงคร้าาาา
อิหม่ามี๊จำไว้น้าาาา เลี้ยงฮาร์ทจัง เป็นไข่ในหิน ไงก็ได้
แต่ต้องอย่าให้ อี โชคร้าย มีชะตากรรมที่น่ารันทด แบบ อิเจ้มีดบิน เรยอ่ะ
นั่นน่ะ ถูกเลี้ยงมาจนกลายเป็น หิน (ชนวน) ดี ๆ นี่เอง
แข็งแต่เปราะ เคาะให้ถูกจุด แค่ทีสองทีก็แตกเป็นเสี่ยงแระ



เอ ? แต่ นู๋บีคงวิตกจริตเกินไปมั้ง
ยอดคุณพ่อดีเด่นได้โล่ห์ อย่างป๊ะป๋าโจ ยังอยู่ทั้งคนนิ
คงไม่มีอะไรน่าห่วงหร็อกมั้ง
ถ้ายังมี ป๋าอยู่คอยดูแลน้องฮาร์ท
อิหม่ามี๊ก็อุ่นใจได้จร้าาาา ป๋าแกเจ๋งอยู่แระ อิอิ

 
 

โดย: อิเสือกินแหลกกกกก (นู๋บี ) วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:0:01:31 น.  

 
 
 
ไอ้ทึ้ง ว่า...
อีตั้วเจ้นี่รับรองได้ ถ้าได้ติดเกาะกันสองคน
ลื้อกินเนื้ออั้วแน่ๆ อั้วไม่ไว้ใจลื้อแล้วว่ะ




อิเจ้ว่า ...
นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ถ้าต้องติดเกาะกันสองคน
อิตั้วเจ้ก็ไม่คิดจากินเนื้อลื้อ หรอกย่ะ
( เพราะว่ามรึงหนังเหนียว กรูเคี้ยวไม่ลง เอิ๊ก ๆ )
ดังนั้นลื้อไม่ต้องกลัวอิตั้วเจ้จะแอบแทงข้างหลัง
แล้วจับลื้อมารับประทานเป็นดินเนอร์ หรอกจร้าาาา


ถ้าจะกลัว ลื้อจงกลัวตัวเองจะใจอ่อน
เฉือนเนื้อตัวเองมาป้อนใส่ปากอิตั้วเจ้ ดีกว่ามั้ง เหอ...เหอ...
แหม ? ก็เห็นลื้อบอกว่า อิตั้วเจ้สวยแจ่ม เหมียน แม่นางจิญจมาณวิกา นี่หน่า
อิเจ้ก็เรยกลัวว่า เด๋วลื้อจามีชะตากรรมอันรันทดแบ่บพระปทุมราชา
ที่ แม่นาง เควันมาณวิกา มันเคยเอาไปเม้าส์ ก๊ะ อาม่า และ อิมวยม้วย อ่าหุหุ

//board.palungjit.com/f8/บุพกรรมใดนางจิญจามานวิกาจึง-เกิดมาดี-263141.html#post3938098






อ้อ จิงสิ ถึงตอนนี้ ลื้อคงลู้จัก กวีเบญมาศขาว แล้วสินะ
อืม...อิตั้วเจ้ เลยอยากจะถามลื้อ ว่า
ถ้ามีไอ้ขี้เมา ขี้หลีสักคนหนึ่ง มาสอน
มาบอกลื้อ เรื่อง ความไว้วางใจผู้อืน
ลื้อจะเชื่อมันไหมวะ เนี่ยบทกลอนของมัน...เอิ๊ก ๆ


แล้วสอนว่าอย่าไว้ใจมนุษย์
มันแสนสุดลึกล้ำเหลือกำหนด
ถึงเถาวัลย์พันเกี่ยวจนเลี้ยวลด
ก็ไม่คดเหมือนหนึ่งในน้ำใจคน


อันมนุษย์นี้ที่รักสองสถาน
บิดามารดารักมักเป็นผล
ที่พึ่งหนึ่งพึ่งได้แต่กายตน
เกิดเป็นคนคิดเห็นเจรจาฯ


แม้นใครรักรักมั่งชังชังตอบ
ให้รอบคอบคิดอ่านนะหลานหนา
รู้สิ่งไรไม่สู้รู้วิชา
รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี



นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า

วิสฺสาสา ภยมฺเวติ
เพราะความไว้ใจ ภัยจึงตามมา


เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี ยญฺเจ พาลานุกมฺปโก.
น วิสฺสเส อวิสฺสฏฺเฐ วิสฺสฏฺฐปิ น วิสฺสเส.
ฉะนั้น ไม่ควรไว้ใจในคนไม่คุ้นเคย แม้ในคนคุ้นเคยก็ไม่ควรไว้ใจ



และ เหนือสิ่งอื่นใด
หมาน มักจะเสี้ยมสอน อิเจ้เสมอว่า

ทะเลาะก๊ะบัณฑิต ดีกว่าเป็นมิตรก๊ะ อันธพาล

เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี ยญฺเจ พาลานุกมฺปโก. สาธุ๊

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:0:03:20 น.  

 
 
 
ถึง แควนคลับของ อิเจ้นู๋บีเจ้าขราาาาา

นู๋บีขอ อนุยาด หายหัวไปสักระยะ น้าาาาาาาาาา
ตั้งใจว่าจะไป สุ่มปั่นน้ำลายตัดริบบิ้นปิดประเด็น แบ่บจิง ๆ จัง ๆ ซะทีอ่า
สัญญาก๊ะไอ้ตี๋เอาไว้ว่า จาฝอยถึงมุมมองเรื่องการเมือง
กับรากเหง้าของกฏหมายหั้ยมันฟังตั้งนานแระ
แต่ก็มัวแต่มาคุยกระหนุงกระหนิงก๊ะคุงแม่ปั๋วเพลินไปหน่อย
ป่านนี้ ไอ้โซ๊ยตี๋มันก่นด่าโคตรพ่อโคตรแม่ อิตั้วเจ้ ไป แปดตลบแล้วมั้ง เหอะ ๆ


บ๊ายบายจร้าาาา

อ้อ ก่อนไป มี อ่ะไรมาฝากไว้ ให้ดู เป็น อุทาหอน โตยจร้าาาา อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:0:03:56 น.  

 
 
 
จำไว้เสมอว่า The best friend ก็สามารถจะกลายเป็น
The worst enemy ได้ในชั่วข้ามคืน


















 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:0:04:30 น.  

 
 
 
อีเจ้ใหญ่แต่ยาน...
ม่ะลู้ดินะ นู๋บีมีฟามลู้สึกว่า
อิตา ชัค โนแลนด์ ก๊ะ ไอ้โต โนแลนด์
มันมีอะไรคล้ายกันหลายอย่างว่ะ
อย่างน้อย ๆ ถ้าติดเกาะ
ไอ้สองตัวนี่ก็คงจะทำอะไรคล้าย ๆ กัน นะ
อาทิ เช่น ชอบนั่งบ่นให้ คุณวิลสัน ฟัง แก้เฉาปาก
เหมือน ๆ กัน เอิ๊ก ๆ
************************************************
โอทึ้ง..
อีเจ้สองตัวนี่แม่งแปลกคนว่ะ ตัวเองบ่นได้บ่นดี
แถมบ่นซ้ำบ่นซาก บ่นชนิดลิงตกต้นไม้
เด็กออทิสติกเห็นแล้ว ต้องนั่งพับเพียบทันที

อีเจ้ใหญ่ มันจะบ่นแต่เรื่อง จำศีลในกะลาซ้ำซาก
ที่ว่าจำศีล แท้จริงแล้วไม่ใช่หรอก
ที่อีเจ้มันหายศีรษะไป เพราะมันเอาเวลาไปหารูป
หาเนื้อหาในสื่อมาติดแปะ เพราะสมองมันมีราคาแค่10บ.

ส่วนอีเจ้รองขวานฟ้าหน้าเอ๋อ แม่งชอบบ่นแต่เรื่องตัวเอง
ชอบทำตัวเป็นลูกแหง่ พร่ำบ่นแต่เรื่องลูกผัว ทำเหมือนว่า
ตัวพึ่งผ่านการมีครอบครัว ตัวอีเจ้รองมันไม่รู้หรอกว่า
การคุยแต่เรื่องครอบครัวลูกผัวตัวเอง มันเป็นอะไรที่
สุดเซ็งน่ารำคาญ
ด้วยเหตุนี้มันถึงได้พยายามเป็นลูกน้อง ไม่พัฒนาตัวเอง
ให้เป็นลูกพี่ เอาลูกพี่มาคอยช่วยฟังตัวเองบ่น

นิสัยแบบนี้แต่ดันสะเออะมาคุยธรรมะ
เรื่องคุยธรรมะ นี่ก็เหมือนกัน สะแหล่นไปคุย
คุยได้ไม่เท่าไรก็ร่ำร้องให้ลูกพี่มาช่วย พี่นิวรณ์จ๋า
พี่เล่าปังจ๊ะ มิน่าผัวจับล่ามโซ่ มันน่าอายประชาชีจริงๆ

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.185.70 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:2:36:03 น.  

 
 
 
อีเจ้ใหญ่...เหล่าเหย่
แหะ ๆ แต่พูดก็พูดเหอะน้าาา อิหม่ามี๊
ตอน ล็อกอินอิน้องชายนู๋บี ถูก WM ลธมจ. มันแบน เนี่ย
นู๋บีก็มานั่งกุมขมับกลัวไอ้โซ๊ยตี๋จะติดร่างแหไปด้วยเหมือนกันว่ะ
แต่ม่ะช่ายว่า เป็น ห่วงไอ้ตี๋นรก มันหรอกนะ
ทว่า ห่วงว่า ตัวเองจะขว้างงูไม่พ้นคอ อ่ะ เอิ๊ก ๆ
แหม? ก็คิดดูดิ๊ ลานธรรมจกเนี่ย เป็น รังโจร แหล่งสุดท้ายของมันแร้วนิ
*****************************************************
โอทึ้ง...

อีเจ้ใหญ่ เนี่ยเอาแต่ใจตัวเองไม่คิดถึงคนอื่นนะโว้ย
อีเจ้ลื้อไม่ต้องกลัวว่าอั้วจะโดนแบนหรอกโว้ย

อั้วไม่กลัวโดนแบน แต่อั้วโมโหที่ไม่ได้ตอบไม่ได้สวนกระทู้
มันก็เหมือนคนติดเหล้า แล้วโดนเมียเอาเหล้ามาเททิ้งตรงหน้านั้นแหล่ะ อาการกรูเป็นอย่างนั้น

อีเจ้ใหญ่อันที่จริงแล้ว ลื้อจะเข้าไปอีแรดแจ๊ดแจ๋เรื่องอั้ว
อั้วไม่ว่า แต่พยายามทำให้กระทู้มันอยู่นานๆหน่อย
ไม่ได้หรือไง มาเห็นกระทู้ลื้อตอนที่มันโดนแบน แบบที่
อั้วอายแทน ลื้อเคยรู้สึกกว่าลื้อมีค่าต่ำกว่ากองขยะมั้ย
กระทู้คนอื่นยังได้อยู่ถังขยะตั้งสามวัน
แต่กระทู้ลื้อแม้กระถังขยะของเว็บ มันยังไม่ให้ลื้ออยู่
แสดงว่า ลื้อน่าขยะแขยงในสายตาพวกมัน

เนียนเอาล็อกอินใหม่มาโพส ทำไมไม่เนียนกับคำพูดบ้าง
ไปบ้านคนอื่น ก็พยายามหลิ่วตาตามเจ้าของบ้านเขาหน่อย
แค่เนี่ยทำไม่ได้หรือไง อิสทีเรียจะกำเริบหรือ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 110.168.185.70 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:3:06:09 น.  

 
 
 
อีเจ้ใหญ่...
ถ้าจะกลัว ลื้อจงกลัวตัวเองจะใจอ่อน
เฉือนเนื้อตัวเองมาป้อนใส่ปากอิตั้วเจ้ ดีกว่ามั้ง เหอ...เหอ...
แหม ? ก็เห็นลื้อบอกว่า อิตั้วเจ้สวยแจ่ม เหมียน แม่นางจิญจมาณวิกา นี่หน่า
อิเจ้ก็เรยกลัวว่า เด๋วลื้อจามีชะตากรรมอันรันทดแบ่บพระปทุมราชา
ที่ แม่นาง เควันมาณวิกา มันเคยเอาไปเม้าส์ ก๊ะ อาม่า และ อิมวยม้วย อ่า
***********************************************************
โอทึ้ง...

อั้วไม่ได้ว่าลื้อสวยแจ่มเหมือนนางจิญจา ลื้อนี่มันปรุงแต่ง
ชนิดเข้าข้างตัวเองว่ะ ที่ว่าลื้อเป็นนางจิญจามัน
เป็นที่อาการไม่ใช่รูปร่างหน้าตา อาการที่ว่าคือ ยอมทำทุก
อย่างเพื่อสนองตัณหาตัวเอง แม้กระทั้งแก้ผ้าต่อหน้า
ประชาชี
มันก็เปรียบเหมือนลื้อเป็นใหญ่ในบ้านในบล็อก
เป็นอาเหล่าม่าในบ้าน ลื้อพิเรนท์ชอบล้อเล่นจับตรูดเด็ก
พอเด็กจับตรูดลื้อบ้าง ลื้อก็ไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟังว่าเด็กมัน
ลามก เนี่ยแบบนี้ลื้อกำลังแก้ผ้าโชว์สะดือตัวเอง ไม่ใช่เด็ก
ในบ้านมันลามก แต่ลื้อมันพิเรนท์เองต่างหาก

ลื้อเล่าไม่เล่าเปล่า ยังจูงมือเพื่อนบ้านมาดูที่บ้าน โดยลืม
นึกไปว่า มีอีเจ้รองกำลังแก้ผ้าดีดดิ้นเหมือนคนเสี้ยนยา
มีอาการเพ้อใกล้จะลงแดง เพ้อแต่เรื่องลูกผัว
บางทีร้องไห้ว่าถูกผัวล่ามโซ่ บ้างก็กระโดดโลดเต้นว่า
ผัวตัวเองไม่ไปเที่ยวอาบอบนวด เดี๋ยวก็ว่าลูกเป็นออทิสติก
เดี๋ยวก็บอกไม่เป็น เดี๋ยวโง่เดี๋ยวฉลาด
แบบนี้ลื้อเอาไปโชว์ มันก็เหมือนอีสมทรงกระโปรงแดง
ยื่นถลกกระโปรงให้ไอ้ฟักมันดูนั้นแหล่ะ

แล้วก็เรื่องอีเจ้ขวานกับเว็บพลังบิด ตั้วเจ้ลื้อไม่ต้องเอามา
คุยเลย อีเจ้ขวานใครเขาจะไปสนใจว่ะ มันเป็นแค่
ลูกกะเป๋งของอีตานิวรน์ ไอ้เป็นลูกกระเป๋งนีไม่ว่ากัน
แต่ดันไปเป็นลูกกระเป๋งอีตานิวรณ์นี่ซิ พูดได้คำเดียวว่า
ไม่ได้เรี่อง
กรูเห็นลูกพี่มันตามรังตาญอีตาลุงขันธ์แล้ว กรูอายแทน
อีตานิวรณ์แม่งไม่ได้ความเสือกสะเอะจะเป็นขาใหญ่
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.160.142 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:3:42:48 น.  

 
 
 
อีเจ้ใหญ่ขี้หึงและขี้ห่วงของอาตี๋...

และ เหนือสิ่งอื่นใด
หมาน มักจะเสี้ยมสอน อิเจ้เสมอว่า

ทะเลาะก๊ะบัณฑิต ดีกว่าเป็นมิตรก๊ะ อันธพาล

เสยฺโย อมิตฺโต เมธาวี ยญฺเจ พาลานุกมฺปโก. สาธุ๊
***************************************************
โอทึ้ง...

ปรัชญาของตรูผู้ได้ฉายาว่า มหาแหวนทองเหลืองมีว่า
"ตรูเป็นมิตรกับอันธพาล ดีกว่าทะเลาะกับบัณฑิต"
"ตรูให้เงินขอทาน ดีกว่าทำบุญกับพระ"
"ตรูเถียงกับปุถุชนดีกว่าเถียงกับพระอริยะ"

อันนี่สำหรับตั้วเจ้..
"แก้ผ้าในบ้าน ย่อมต้องดีกว่าแก้ผ้านอกบ้าน"

อีเจ้มรึงจะยกบาลียกอุทาหรณ์มาทำไม ถ้ามันช่วยให้มรึง
สบายใจขึ้นไม่ฟุ้งซ่านก็ทำไปเถอะ
แต่ถ้าคิดจะประชดด้วยคำเหล่านี่ อั้วว่ามันเปล่าประโยชน์
อย่างดีก็แค่ทำให้อั้วคิดถึง อีตาหลวงเจ้แร่พโย่ด้วยความ
หงุดงิดปะเดี๋ยวปะด๋าว

แต่ถ้าลื้อชอบบาลีมากอั้วก็แนะนำให้ว่า
"อัตตาหิ อัตตาโนนาโถ " ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
ปัญญามันจะเกิดได้ก็ด้วยการกระทำของตนเอง
อย่ามัวไปพึ่งคนอื่น ทั้งลื้อทั้งอีเจ้รองขวานด้วย

 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.160.142 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:4:13:27 น.  

 
 
 
อะ อะ อะ....

ฟังอิตั่วตี๋โอทึ้ง แล้วก็ ตะลิดติ๊ดชึ่ง เจงๆ ว่ะค่ะ
ฟามในใจเยอะนะเนี่ย เอาอีกๆๆๆๆ
จะได้เข้าใจตรงกัน หุหุ
ไม่บอกก็ไม่รู้นะเนี่ย วิ๊ดดดดวิ๊ววววว

ตีขิมบนกำแพงต่อดีฝ่า
 
 

โดย: อิเจ้รองขวาน IP: 124.122.174.65 วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:10:15:09 น.  

 
 
 
อิอิ แบ่บว่า กัว ทั่นปลาไหลขงเบ๊ จะเหงา
หากต้องนั่งตีขิม อยู่คนเดว บนกำแพงบล็อก
ลูกไป๊ที่แสนดี เรย แอบส่งลูกสมุน
มาช่วยแจม ในคอนเสิร์ต เปิดผ้าท้าลมหนาว คร้าาา


อันนี้ นักร้องนำ





มือกลอง




ส่วน อิพวกนี้ คอรัส ฮ่ะ




และขาดเสียมิได้
แด๊นเซ่อร์ผู้เลอโฉมมมมมมม




ส่วน อันนี้เสบียงแก้หิว ฮ่ะ

ต้มโคล้งซี่โครงไก่ใส่ปลาไหล ผัดเผ็ดปลาไหล ผัดปลาไหลใส่สะตออออออ




( อุส่า หลอยมาจาก ปิ่นโต ป๋าชูวิทย์ เพื่ออิหม่ามี๊โดยเฉพาะเรยนะเนี่ย )
ขอหั้ย คุงแม่ปั๋ว และ ทั่นผู้อ่านทู๊กทั่น เลือกกินได้ตาม อัธยาศัยนะฮ้าาา

จาก บูรพาไม่แพ้ ผู้ ตรูดใหญ่นมยาน และ บริหารซาเหน่เก่ง




ปอลิง
เอาล่ะ คืนนี้ ปฏิบัติ ภารกิจ ชักศึก เข้าบล็อก เสร็จแระ

//board.palungjit.com/f4/ถ้าเราตั้งฐานของ-จิต-ไว้ที่อารมณ์-322623.html#post5596853

คาดว่า เด๋ว ไอ้โซ๊ยตี๋คงจะไม่เหงา ( และเฉาปาก )
และได้ คุยกับ เซเลบแห่งเวบพังจิต สมใจอยากแระ
อิตั้วเจ้จาได้หมดห่วง และหายหัวไป ปั่นน้ำลายทิ้งทวน
ได้อย่างสบายใจเสียที เหอ...เหอ...

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 18 มกราคม 2555 เวลา:23:40:54 น.  

 
 
 
อุ๊ย! น่ากลัวอ่ะ อีเจ้จิณญา อีแหล่นแจ๋น
อีนางวันทอง...อีโมรา ชักชวนคนอื่นมาฆ่ากิ๊ก

ได้เลย มีด ปืน ดาบ หรือมือเปล่า
เดียวๆไม่มีรุม อย่าช้ารออยู่

ฮาๆๆๆๆๆ อีตั้วเจ้ลื้อจะไปปั้นน้ำลายหรือไปเล่นน้ำลายกันแน่ อย่าเผลอไปเล่ยขรี้เล่นเยี่ยวนะ มันไม่น่ารักอ่ะ
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.9.116.56 วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:13:12:49 น.  

 
 
 
สวัดดีคับ
การใช้กลยุทธ์การตลาดในการถ่ายทอดวิถีพุทธปฏิบัติต่อ
วัยรุ่น เราต้องทำอย่างใงคับ ช่วยบอกที่ครับ(จะเอาไปทำISครับ)
 
 

โดย: Mchou54 IP: 118.172.12.50 วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:15:51:23 น.  

 
 
 



อุ๊ยต๊ายว๊ายกรี๊ดดดดดดดดดดดดดดด
จู่ ๆ ก็มีพ่อจอมยุทธหน้าหยก
ยืดอกพกธรรมโม๊ะเดินเข้ามาทักทาย
ถึงในสุสานโบราณ แห่งนี้
เฮ้อออ ก้อดีเหมือนกัน ว่ะ
อิตั้วเจ้จะได้กระชุ่มกระชวยขึ้นมามั่ง อิอิ
ตรูกะลังเบื่อพูชายอายุมากปากจัด อยู่พอดีเยยยย



เอาวะ ไหน ๆ ก็ ไหน ๆ แระ
งั้น ข้าฯ ตงฟางปุ๊ป้ายคนนี้
ขอ นุยาด แว่บเข้ามาแลกเปลี่ยนน้ำลาย
กะพ่อเหล็งฮูชง ซะหน่อย ดีฝ่า อ่า
ส่วน โปรเจคปั่นน้ำลาย
ทั้งเรื่อง กฏหมาย ก๊ะ เรื่องการเมือง
ที่สัญญาว่า จา แล่ง ก๊ะไอ้งักปุ๊กคุ้ง
ก็ผลัดวันประกันพรุ่ง ไปก่อนก้อแระกัล เน๊าะ
เพราะถึงจะฝอยจะอธิบายหมดน้ำลายเป็นสิบถัง
ยังไง มันก็คงจ้องแต่จา ขย้ำคอหอยตรู อยู่ดีว่ะ อ่ะซิกๆ



เออ นี่ ๆ พ่อ Mchou54 รูปหล่อ จ๋าาาา
อิป้าป่อง ขอถาม จั๊กดอกส์สองดอกส์สิจ๊ะ
ว่า เธอว์ค้นพบลายแทง และ คลำทาง
มาจนถึง สุสานโบราณแห่งนี้ ได้ไงกันจ๊ะ
และ เธอว์ นั้นเป็น แควนขับ อิเจ้นู๋บี
หรือ เป็น โจทก์เก่า ของไอ้โซ๊ยตี๋ กันแน่ล่ะหว่า
อิเจ้ จาได้ ต้อนรับขับสู้ ได้ถูกกระบวนท่า เหอ...เหอ...


เออ ว่า แต่ อิเจ้เนี่ย มันทั้งสวยและมีซาเหน่มากมาย
เหมือน แม่นาง จิญจมาณวิกา + โมรา + กากี
แอนด์นาง พิมพิลาไลย เชียวน้าาา
เธอว์ กะเล่อกะล่า เข้ามาใน สุสานโบราณแห่งนี้
ไย มิกลัวจะโดน เสน่หายาแฝด หรือไร โฮ่ ๆ


ส่วนที่ ปุจฉา ที่เธอว์ถามมาว่า
การใช้กลยุทธ์การตลาดในการถ่ายทอดวิถีพุทธปฏิบัติต่อ
วัยรุ่น เราต้องทำอย่างใงคับ ช่วยบอกที่ครับ(จะเอาไปทำISครับ)



อันนี้ อิเจ้ก็เคยเขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้เหมียนกัล จร้าาาา
แวะไปอ่านได้ที่ ลิงค์นี้ อ่ะจร้าาา


อืม...จะว่าไป สมัยนี้ ก็มีการนำเสนอธรรมะ ผ่านสื่อต่าง ๆ
แล้วก็ทำให้ เข้าถึง และ โดนใจ พวกขาโจ๋วัยทีน ได้เยอะเหมือนกันนะ
ที่เห็นบ่อย ๆ ก็ มี หลวงพี่รูปเนี๊ยะ มั้ง





แต่ หลวงพี่ทั่น ออกแนวลูกทุ่ง เน้น ขำขันมันส์ฮา
เอาใจตลาดกลุ่มรากหญ้า มากไปหน่อย อ่ะ
แม้จะ เข้าถึงง่าย แต่ก็ดูไม่ค่อยขลัง เท่าไร
เรย ไม่ค่อยโดนใจ บรรดา ศรัทธาจริตชนนัก


ส่วนถ้าจะหั้ย อลังการงานสร้าง ดูดีมีปรัชญา
เป็นบัณฑิตไฮโซไฮซ้อ นั่งอยู่บนหอคอยงาช้างขึ้นมาหน่อย
อิเจ้ว่า ก้อ ต้องเขียนเป็นหนังสือ หั้ย พวกขาโจ๋อ่าน แบ่บ พระ ใน ลิงค์เนี๊ยะ อ่า


แหม๊ อิเจ้ ยังชอบ คำคม ที่ท่านเขียนเรย

อุดมการณ์เป็นสิ่งสมมุติ แต่ชีวิตมนุษย์นั้นเป็นของจริง




แหม๊ ? กรูล่ะอยากจะหั้ย
ไอ้พวกที่มันชอบกินอุดมการณ์ แทนข้าว
แล้วชอบมาเห่า โฮ่ง ๆ แฮ่ แถวนี้
มันได้อ่านงานเขียนของพระรูปนี้ เจง ๆ เล๊ย เอิ๊ก ๆ



เอาล่ะ พ่อเหลงฮูชงรูปหล่อ
ในเมื่อ อิเจ้ อุส่าลัดคิว ตอบคำถาม ด่วนจี๋
หั้ย เธอว์ ก่อนใครเพื่อนงี้ แร้ว
เธอว์ ควรจะ ซาบซึ้งใจ ให้มาก ๆ
และ หาทาง จัดหนัก ตอบแทนบุญคุณอิเจ้ ด้วยนะ


แหม ? อิเจ้ ก็ม่ะคิดจะขออะไร มากมายหรอกจร้า
เจ้ แค่อยากจะวาน เธอว์ ให้ช่วยไล่จับไอ้ลูกหมาพิทบูล
ที่ มันวิ่งพล่าน ในบล็อกนี้ ให้หน่อย อ่ะจ๊ะ
เจ้จะจับมันยัดใส่ถุงปุ๋ยส่งไปขายที่ท่าแร่ น่ะ
โทดฐาน ที่มัน ชอบแส่ มาร้อง โฮ่ง ๆ แฮ่
ใส่ ปูชะนียบุคคลอย่างเจ้



ปอลิง 1
เออ เฮ้ย ใครทะลึ่งมา ทำอาราย ในบล็อกตรูฟระ
ไง๋ หน้าบล็อก มันถึงมี ปุ่ม Vote เป็นไฟกระพริบปิ๊บ ๆ
เพิ่มขึ้นมา ได้ล่ะหว่า ?


ปอลิง 2
เออ จิงดิ แควน ๆ จ๋าาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เห็น อิตาเกิดเป็นบ่าง เจ้า กัลยา ณ มิตร คิดไม่ซื่อ ของ อิเจ้
อุส่าหั้ยเกียรติเป็นหน้าม้า ไปแจม ที่ กาทู้ งักปุ๊กคุ้ง ของเจ้ ด้วยว่ะ
อ่ะ เอาตัวหนังสือ ของไอ้เจ้าลาเฒ่าหัวดื้อ
มาแปะไว้ ณ สุสานโบราณแห่งนี้
เพื่อแบ่งปัน หั้ย เหล่าแควนขับ ได้ทัศนา โตยจร้าาาา อิอิ

-----------------------------------------------

สับสน ว่า

..กาม..ทั้งนั้น ข้าขอเป็นใหญ่เฉพาะตน
จะไม่ยอมอยู่ใต้อำนาจหญิงใดโดยเด็ดขาด
จะหักรักหักสงสาร หักสังสารวัฏด้วยตัวข้าเอง..
จะเป็นใหญ่เฉพาะตน และขอประกาศแขวน"กางเกงใน" ณ.บัดนี้.


พูดถึง..งั๊กปุ๊กคุ้ง แล้วในสังคมปัจจุบันบ้านเราเพียบเลย..
บางครั้งท้อกับการสมาคมหรือคบกับคน เป็นเพื่อน
อยู่กับหมายังมีความสุขกว่า..เชื่อไหมนู๋บี

(ผมสอนหมาให้ระแวงได้ด้วยทั้ง เวลากิน-นอน
ใครจะเหมือนผมวะนี่..ผมได้ยินเสียงมันบ่นผ่านลูกตาที่มันมองผม
มันร้องบ่นว่า ..เจ้านายกูทะลึ่งอิ๊บอ๋าย)

-----------------------------------------


อืม... อ่านตัวหนังสือ ที่มันแพล่ม แร้ว ขำก้ากกกก
โอ๊ย ไอ้หมอนี่มันเจ๋งโคตร ๆ เรยเว้ยเฮ้ยยยยยย
อะโหยยย นี่ถ้าไอ้พวกชายหื่นหมื่นกาม ทั้งหลาย
สามารถประกาศแขวนกางเกงในได้ เหมือน มัน
สันติสุข คงจะบังเกิดแก่สตรีทุกนางในโลกหล้า เหอ...เหอ...






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 19 มกราคม 2555 เวลา:23:26:55 น.  

 
 
 
ตามกลิ่นสะตอ มานี่
ชะอุ๋ย เจอะเข็มบิน ไม่มีด้ายยยย
 
 

โดย: jittinon IP: 180.180.203.244 วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:9:58:11 น.  

 
 
 
ครับผม เป็น แควนขับเจ้นู๋บีคับ
ผมติดตามงานของพีมาตลอดผมสนใจความคิดของพี่แล้วต่อนี้ผมก็เริ่มทำ (IS MBA)
ผมจะทำเรื่อง( การใช้กลยุทธ์การตลาดในการถ่ายทอดวิถีพุทธปฏิบัติต่อวัยรุ่น)
ถ้าเราใช้หลักการตลาด 4P(Product Price Place Promotion) กับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาในพระธรรม(คำสอน)นั่น ตรงใหนที่เป็น Product ใหนเป็น Price ........
. ช่วยตอบที่คับ
ขอโทษที่ถามหมากไปน้อยคับ
ขอบคุณคับ
 
 

โดย: Mchou54 IP: 101.109.27.15 วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:10:57:23 น.  

 
 
 
ผมว่า ลองเอาพรหมวิหาร 4 เข้าไปใส่ใน 4 p สิครับ
เป็น ดับเบิ้ลโฟร์ฟอ ออลลลล์
 
 

โดย: ่jittinon IP: 180.180.203.244 วันที่: 20 มกราคม 2555 เวลา:14:22:30 น.  

 
 
 
อ่ะโหล แควนคลับเจ้าขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เด๋ว อาติ๊ดหน้า ( ถ้าไม่ขัดข้องทางเทคนิค )
อิเจ้จาเข้ามาตัดริบบิ้นปิดประเด็น
ก่อนจา หายหัวเข้ากะลาน้าาาาาาาาาาาาาาา


มัวแต่เอ้อระเหย แหล๋นแจ๋น นู้น ๆ นี่ ๆ
ให้โคตรพ่อโคตรแม่โดนด่า
จนสะดุ้งโหยง ไปหลายเพลาแระ
( อิเจ้ชักเริ่มสงสารบรรพบุรุษว่ะ เอิ๊ก ๆ )


แวะมาบอกจร้าาาาาาา
แบ่บว่ากลัวแควน ๆ จะชะเเง้อคอยหาาาา


บ๊ายบายจร้าาาา จาไปนอนแระอ่า
แต่ไม่รู้จาหัวถึงหมอน กรูจะนอนหลับ ไหมเนี่ย ?
เมื่อหัวค่ำนี้ ก็ดันง่วงกะทันหัน เรยงีบยาวตั้ง สี่ ชม.แหน่ะ
ตื่นขึ้นมาอีกทีตอนห้าทุ่ม เล่นเอาตาค้างอีกตามเคย
เฮ้อออ เสาร์อาทิตย์นี้ ก็ขึ้นเวรซะด้วย
จะรอดไหมเนี่ย กรูหนอกรู

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 21 มกราคม 2555 เวลา:1:40:26 น.  

 
 
 
มีเรื่องมาเล่าให้ตั่วเจ้ ฟัง ว่ะค่ะ
เมื่อวาน ไปต่อล้อต่อเถียงกะ อิเฮียนิวอนพังจิตมา
ถึงได้รู้ว่า ที่อีทำตัวเป็นหมาบ้่าตามกัดอิเจ้รองไม่เลิก
ก็เพราะอิเจ้รองดันมาเห็นดีเห็นงานเป็นผีเน่ากะโลงผุ
อยู่ก๊ะตั่วเจ้แห่งหลุมดำนี่เอง เป็นเหตุให้อีนิวอนทำตัว
เป็นมาม่าซังมาปรุงมาม่าใส่อิเจ้รองไม่ดูตาม้าตาเรือ
อิเจ้รอง เรยทำพิธีตัดสายรกทิ้งลงท่อไปซะเรยว่ะค่ะ
ประกาศตัดฟามเป็นเพื่อร่วมน้ำเมาให้โลกรู้โดยทั่วกันไปแระ
ว่าอิเจ้นะ ยังไง้ยังไง
ก็เห็นแม่นางเทียวเสี้ยมดีฝ่าอิเฮียหน้ามืดแห่งเว็บพังจิต
แน่นอนนนนนน อิอิ
ถึงแม้อิเจ้ผีเน่าจะมีลูกบ้าเยอะ ปากก็ไม่มีสัมมาคารวะ
แถมยังโดนข้อหาไม่รู้คุณพระพุทธพระธรรมพระสงฆ์
อิเจ้รอง ก็จะคบหาสมาคมกะอิเจ้หลุมดำพังจิตต่อไป อิอิ
เจ้ประกาศไปแล้ว ว่าเจ้คบคนที่มีศีล5ศีล6 ว่ะ
ไม่ได้คบที่เขานับถือศาสนาอะไร หรือไม่มีศาสนาก็คบได้
เจ้ไม่นิยมการดูถูกดูแคลนคนต่างศาสนาว่ะ

อิเจ้รองมันตาสว่างขึ้นเยอะเรยว่ะค่ะ
ว่าคบคนบ้าในหลุมดำยังดีกว่าคบพวกงักปุ๊กคุ๊งในบู๊ลิ๊มเน่าๆ

แร้วก็ ขอไว้อาลัยแด่อดีตลูกเพ่พังจิต แบบถาวรเรย
อิอิ เข้าแก๊งส์ไหนหัวหน้าตายสนิทเจงๆ เรยกรู!!!
555
 
 

โดย: ตะแล๊บแก๊บถึงอิตั่วเจ้ IP: 124.120.20.173 วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:10:36:08 น.  

 
 
 
อืม....นอกจาก อิตั้วเจ้นู๋บี มันจะมีมารยาญิ๋ง
สำอิงสำออยหลอกให้ ตั้งโต๊ะ ก๊ะ ลิโป้ ตัดญาติขาดอิโต้ กันได้แร้ววว
อิเจ้มันยังสามารถแยกร่าง แอบไปร่ายมนต์ ยุแยงตะแคงรั่ว
ทำหั้ย อิเจ้รองสันขวาน แตกคอ ก๊ะ อาตั้วเฮีย นิวอน ลูกเพ่หญ่ายย แห่งสำนักบู๊ตึ้ง ได้อีกด้วยวุ้ยยย
ซาแดงว่า ฉายา เทียวเสี้ยม นี่
อิตั้วเจ้มัน ได้มา เพราะ พรนรก เจง ๆ เยยย เหอ...เหอ...


ปล.
ช่วงนี้ อิตั้วเจ้มันกะลัง ขะมักขะเม้น ปั่นน้ำลายอยู่จร้าาาา
กะลังแพล่มถึงเรื่อง อาจานกรูคูบาเมิง เตือนอิเจ้รองอยู่พอดีเยยย
แต่ยิ่งเขียนยิ่งบาน ยังปิดงบประมาณม่ะได้อ่ะจ้ะ
ทว่า เห็น สัญญาณควันตะแล๊บแก๊บ ของอิเจ้รอง แว๊บ ๆ
ก็เรยต้อง แอบเปิดกะลามาปลอขวัญ กันจิ๊ดนุงส์ อิอิ
โอ๋ ๆ แต่ช้าแต่ อย่าร้องไห้เรยน้าาาา อิอ่อนเจ้าขราาา


อืม...ถึงงั้น ฟังหูไว้หู เชื่อป๋านิวอน ไว้ซะมั่งก็ไม่เสียหลาย อะไรนะเจ้
เพราะ ถ้านู๋บีมาโพสตัดริบบิ้น ปิดประเด็น คราวหน้า นี่
ก็ยังม่ะลู้เหมือนกันว่า อิหม่ามี๊ อ่านแร้ว
จะทรงกริ้วจนเฉดหัวลูกไป๊คนนี้ ออกจากตระกูลไหมนะ
เพราะ ยิ่งปั่นน้ำลาย ยิ่งรู้สึกว่า ฮาร์คอร์ ว่ะ อะซิก ๆ

อ่ะ เอาดอกไม้สวย ๆ มาปลอบอกปลอบใจ อิอ่อนจร้าาาาาาา
ภาพนี้มีชื่อว่า มุมมองที่แตกต่าง ของจอมยุทธสำนักต่าง ๆ




อิอินู๋บีชอบมุมมองของ เด็ก ถาปัด ที่ซู๊ด เรยอ่า
เพราะรู้สึกว่า มันมี วิชั่น ที่ แหล่มดี
แมร่ง คิดได้ไงว้าาาา หั้ยลองเปลี่ยนน้ำ เป็น แสงโสม เอิ๊ก ๆ

บ๊ายบาย จร้าาา เด๋วจาไป ฉันเพลแระ อิอิ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:12:25:27 น.  

 
 
 
อิอิ แบ่บว่า ตะกี้ อดใจม่ะไหว
เพิ่งจะไป แก้ผ้าสะแหล๋นแจ๋น ที่ พังจิต มาอ่า
เรย แวะเอา กาทู้อันเป็นเหตุปัจจัย อันเนี๊ยะ มาฝากบรรดาแควนขับ จร้าาาา

แบ่บว่า ลูกบร้าาาา เที่ยวล่าสุดดดดดดดด เอิ๊ก ๆ
บ๊ายบาย จาไป ปั่นน้ำลายต่อ จิง ๆ แระ อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 31 มกราคม 2555 เวลา:21:15:17 น.  

 
 
 
อิอิ...เห็นแก่แม่นางเทียวเสี้ยม มีชาดกมาให้อ่าน
แบบว่า อิหม่ามิ๊มันลูกเสือลูกตะเข้บ่อใจ้ลูกกระรอกเน้อ

กระรอกโพธิสัตว์

วันนี้เล่าถึงเรื่องกระรอกพระโพธิสัตว์
กิรดังได้สดับมาว่า
ครั้งนั้นยังมีกระรอกตัวหนึ่ง
ลูกของกระรอกตัวนี้ตกลงไปในบึงใหญ่
กระรอกก็พยายามจะช่วยลูกตนเอง
โดยการเอาหางไปจุ่มน้ำ
แล้วก็วิ่งไปสลัดออก
พูดง่าย ๆ ก็คือ เอาหางวิดน้ำนั่นเอง
เทวดาที่อยู่ตรงนั้นเห็นเข้าก็หัวเราะเยาะแล้วว่า
"เจ้ากระรอกโง่ เหตุไฉนมาเอาหางวิดน้ำอยู่อย่างนี้เล่า"
กระรอกก็บอกว่า
"ลูกของข้าพเจ้าตกลงไปในบึงนี้ ข้าพเจ้าจะวิดน้ำในบึงให้แห้งเพื่อช่วยลูกขึ้นมา"
เทวดาก็ว่า
"เจ้าโง่เอ๊ย หางเล็ก ๆ ของเจ้า จะวิดน้ำสักกี่ชาติกันบึงใหญ่นี้มันถึงจะแห้ง ดีไม่ดีจะตายซะก่อน เจ้านี่ช่างโง่นัก"
กระรอกก็ตอบว่า
"ถึงจะต้องวิดจนตัวตายก็ทำ เพราะข้าพเจ้านี้เป็นกระรอก
กระรอกก็ทำได้แต่เพียงเท่านี้
แม้จะรู้วิธีการอย่างอื่นแต่ก็ทำไม่ได้
อนึ่ง นี้เป็นความเพียร หากว่าเราเพียรพยายามเสียแล้ว
ทุกสิ่งต้องสำเร็จ แต่หากไม่สำเร็จ
ก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความเพียร ตายไปก็ไม่ตายเปล่า
ไม่เป็นที่ตำหนิติเตียนของปวงปราชญ์ทั้งหลาย"
เทวดาได้ฟังดังนั้นแล้วก็ซาบซึ้งในธรรมของกระรอก
จึงอาสาช่วยเอาลูกกระรอกขึ้นมาจากน้ำให้
เรื่องก็จบแต่เท่านี้
ความเพียร เป็นองค์ประกอบแห่งคุณธรรมอันจะนำไปสู่ความหลุดพ้นทั้งปวง
เป็นองค์ประกอบในหลายข้อธรรม
แม้ในการบำเพ็ญบารมีก็มี วิริยบารมี
ในพละ ๕ อินทรีย์ ๕ หรือ โพชฌงค์ ๗ ก็มี วิริยะ

ก่อนที่เราจะปล่อยวางทุกสิ่ง เราต้องทำให้ถึงที่สุด แม้ด้วยชีวิต
นั่นหมายความว่า หากจะเกิดการปล่อยวาง ก็ย่อมเป็นเพราะจิตเห็นแจ้งด้วยจิตเองจึงเกิดการปล่อยวางตามธรรมชาติ หาใช่มาคิดปล่อยวางเองไม่

Arty House
8 11 2554
 
 

โดย: อิอ่อนเสือนอนกิน IP: 124.120.51.129 วันที่: 1 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:8:10:11 น.  

 
 
 
อ่ะแฮ่มมมมมม แควนขับ เจ้าขราาาาา
เมื่อตะเช้า นู๋บีไปจ่ายค่าต๋งประจำปีหั้ยเจ้ากรรมนายเวร เอ๊ย ไปบริจาคตังค์ หั้ย รพ. มาอ่า
ก็ประมาณ ร้อยชักสิบ ตามที่สัญญาไว้ก๊ะอิคิตตี้ มันนั่นแหล่ะ
( เล่นเอาขนหน้าแข้งตรูร่วงระนาวอีกแระ )

อืม.... ด้วยเหตุฉะนี้ นู๋บีเรยแวะเอาบุญมาฝากแควน ๆ จร้าาาาาาาาาา
เผื่อว่า จะมีคนอยากจา อนุโมทนา เกาะชายผ้าถุงนู๋บีขึ้นซาหวัน อิอิ



อ้อ อิเสือติดปีก มัน ฝากให้ลูกไป๊
แว่บมาแท้งกิ๋ว อิหม่ามี๊ แทนมันด้วยอ่ะคร้าาา
ขอบคุณสำหรับเรื่อง กระรอกโพธิสัตว์ ที่เอามาแบ่งปันกันจร้าาาา
ส่วน อินังเทียวเสี้ยม มันก็ตั้งข้อสังเกตอย่างหนึ่ง อ่า
มันบอกว่า อย่างอิเจ้ขวัญเนี่ย คงม่ะใช่ ลูกเสือลูกตะเข้ หรอกมั้ง
แต่อีน่าจะเป็น ลูกปลาไหลใส่สะเก็ต
ที่พลาดท่าไปติดเบ็ด จนต้องตกเป็น เมียโคตรไอ้เข้ อ่า หุหุ



อืม....ตอนแรกเห็นพูดเปรย ๆ ถึง ลูกกระรอก
ก็ยังนึกถึง กระรอกน้อยกลอยใจ
ในหนังสือแบบเรียน มานี มานะ ปิติ วีระ และ ชูใจ เฉยเรยอ่า อิอิ
เออ...ชอบคำพูดของเจ้ากระรอกจัง



"ถึงจะต้องวิดจนตัวตายก็ทำ เพราะข้าพเจ้านี้เป็นกระรอก
กระรอกก็ทำได้แต่เพียงเท่านี้ แม้จะรู้วิธีการอย่างอื่นแต่ก็ทำไม่ได้
อนึ่ง นี้เป็นความเพียร หากว่าเราเพียรพยายามเสียแล้ว ทุกสิ่งต้องสำเร็จ
แต่หากไม่สำเร็จก็ย่อมได้ชื่อว่าเป็นผู้มีความเพียร ตายไปก็ไม่ตายเปล่า
ไม่เป็นที่ตำหนิติเตียนของปวงปราชญ์ทั้งหลาย"




เฮ้อออ นี่ดีนะเนี่ย ที่นู๋บี ม่ะใช่เทวดายืนอยู่ริมบึง นั่น
เพราะ นอกจาก ฟังแล้ว นู๋บีจะม่ะซาบซึ้งในธรรมของกระรอก แล้ว
พอช่วยเอาลูกกระรอกขึ้นมาจากน้ำให้ (ตามหลักมนุษยธรรม) แล้ว
นู๋บี อาจจะเบิ๊ดกระโหลก แล้ว คว้าตาลปัตร มานั่งเทศน์ อิเจ้ากระรอกด้วยมั้ง


อันว่า ความเพียร เป็นองค์ประกอบในหลายข้อธรรม ก็จริงอยู่
แต่ พวกมรึงต้องรู้จัก โยนิโสมนสิการ
และ ตะหนักถึง ผลกระทบในทุก ๆ ด้าน
ตลอดจน ต้องค้นหารากเหง้าของกการกระทำ ด้วยนะจ๊ะ
ไม่งั้น วิริยะบารมี ที่เฝ้าบำเพ็ญเพียร
มันก็เหมือน เรือที่ปราศจากหางเสือ
สักแต่ว่า แล่นไปเรื่อยเปื่อย เมื่อยก็ไม่พัก



ถามหน่อยเด๊ะ การมุ่งมั่น คิดแต่จะเอาหางวักน้ำ ช่วยลูกตัวเองเนี่ย
ถ้าสมมุติว่า ทำสำเร็จจริง มันจะทำลายระบบนิเวศน์โดยรวมแค่ไหน
และ จะมีสัตว์น้ำในบึง อีกกี่ตัว ที่กลายเป็นศพสังเวยการสู้เพื่อลูก ของเมิงเนี่ย
ไอ้เจ้าความเพียรที่ไม่รู้จักคิด พวกเนี๊ยะ
มันก็ไม่ต่างกับเรื่อง การพยามขโมยยาเพื่อไปรักษาลูกตัวเอง นั่นแหล่ะ
ก็แค่สัญชาตญาณความเป็นพ่อเป็นแม่ ที่เห็นแก่ตัว
แล้วพยามจะทำทุกวิถีทางเพื่อช่วยเหลือ ลูกตัวเอง อ่ะ
แหม๊ นี่ถ้านู๋บีเป็นเทวดานั่น นู๋บีจะพาเจ้ากระรอกมัน ไปดูหนังเรื่องนี่ อ่า






ดังนั้น ก่อนที่เราจะปล่อยวางทุกสิ่ง
เราต้องทำให้ถึงที่สุด แม้ด้วยชีวิต
แต่ก็ต้องรู้จักใช้ปัญญาคิดหารากเหง้าแห่งการกระทำนั้นด้วย
นั่นหมายความว่า หากยังปล่อยวางอัตตาของตนเอง ไม่ได้
เมื่อกระทำแล้วก็ต้องยอมรับผลของวิบากอย่างซื่อสัตย์ด้วย
ไม่ใช่ เอาดีเข้าตัวโดยอ้างคำพูดสวย ๆ ให้เทวดามันซาบซึ้ง



อุ๊ยต๊ายยยยย เผลอฮาร์ดคอร์ อีกแระ
แหะ ๆ ขอ อำภัยคร้าาา อิหม่ามี๊
ฉงฉัย นู๋บีจาติดนิสัยชอบมองโรคในแง่ร้าย
มาจากไอ้โซ๊ยตี๋ แหง๋ ๆ เรยว่ะ
ภาพพจน์นางเอกป่นปี้ หมดเรยกรู ฮือ ๆ



ว้าาาา จะตีหนึ่งแร้วอ่า มัวแต่มาแพล่มก๊ะ อิหม่ามี๊ ในบล็อกนี้
ก็เรยเขียน จม.ตอบแควน ๆ ม่ะเสร็จซ้าทีเยยยยย
เฮ้ออออ คืนนี้ก็คงม่ะได้ปั่นน้ำลายอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วยอีกแระ
แต่ไง อิเสือเม้าส์แตก มันก็สัญญาว่า
จาพยามบำเพ็ญเพียรด้วยการ เขียน จม. ตอบแควน ๆ
และ ตัดริบบิ้นปิดระเด็น ให้เสร็จ ก่อนจาเผ่นเข้ากะลา
เฉกเช่นเดียวกับที่ เจ้ากระรอกน้อยมัน พยามจะสร้าง วิริยะบารมี อ่ะจร้าาา


ขอเวลาหน่อยน้าาาา เพราะอิเจ้มันบ้าน้ำลายว่ะ
ยิ่งเขียนยิ่งบาน แถมยัง จิ้มดีดไม่ค่อยจาคล่องซะด้วย
ก็คงต้องชะเง้อคอรอกันตาม ยถากรรม อ่ะจ้ะ
แบ่บว่า เป็นแควนขับตรู
พวกเมิงต้องอดทน ว้อยยยยยย
แต่ไงก็อย่าเพิ่ง น้อยใจยา
จนทำพิธีตัดสายรกทิ้งลงท่อ ก๊ะอิตั้วเจ้เรยนะจ๊ะ
เด๋ว เรทติ้งจาม่ะวิ่งงงงงงง อ่ะซิก ๆ






 
 

โดย: อิเสือดราม่า ซ่าส์ได้ทุกช๊อท หุุหุ (นู๋บี ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:1:30:19 น.  

 
 
 
อิอิ
มาอนุโมทนาบุญด้วยจร้า
และขอบใจเรื่องบัตเตอร์ฟลายเอฟเฟค ด้วย อะจะ

เรื่องกระรอกโพธิสัตว์เนี่ย ไม่ได้คิดเองหรอกน้า
แต่ได้ยินเฮียนิวรณ์เขาคุยกับเฮียแปะแปะ ในพังจิตน่ะ
เลยไปสอดรู้ว่ากระรอกโพธิสัตว์เนี่ย เป็นปณิธานเฟริส์ช้อยส์
ของเฮียนิวรณ์เขา เลยแซวเฮียเขาเรื่องกระรอกนี่แหละ หุหุ
จริงๆก็ไม่ได้โกรธเกลียด หรือคิดว่าเฮียนิวรณ์เขาเป็น
คนไม่ดีหรืออะไรหรอกนะ
เพียงแต่ว่า ไปอยู่ไกลๆกรูจะดีฝ่า คิคิคิคิคิคิคิคิ
ต่างคนต่างอยู่คนละรันเวย์นะดีแล้ว เห็นเฮียแกหน้ามืด
แล้วก็เซ็ง แบบว่าเสียภาพพจน์นักปฏิบัติหมด ปล่อยให้โทสะ
โมหะมาครอบงำ หรือไม่ก็มีเจ้เป็นเหตุให้เฮียแกต้องทำผิด
ข้อปาณาติบาต มาจ้องทำลายอิอ่อนให้เสื่อมเสียธรรม แบบว่า
พยายามทำลายบารมีกันน่ะ ให้คนอื่นไม่อยากมาคุยกับเรา
หรือทำให้เรากลายเป็นคนติงต๊องในสายตาของคนอื่น
คือแกก็ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไรกับเรา เพียงแต่แกเห็น
ว่าอิอ่อนเนี่ย ไม่รู้ธรรม ไม่ได้ปฏิบัติธรรม พูดมั่ว
ยกธรรมมั่ว แล้วด้วยความไม่รู้ของอิอ่อนไปชี้แนะมั่วๆให้
ลูกกระรอกของแกต้องตกน้ำตกท่า คลาดจากพระนิพพาน
ในชาตินี้ เฮียแก ยอมมิได้ หุหุ ก็เลยจะใช้เล่กลอุบาย
ทุกอย่างเพื่อให้อิอ่อน ต้องออกไปจากห้องอพินยา
ก็แค่นั้น อะ เจ้ก็เลยขี้เกียจไปต่อล้อต่อเถียงกับแก
ยกเว้น มันอดไม่ได้ ก็ขอกระซวกให้รู้สึกตัวซักทีเหอะ อิอิ

ไม่ต้องห่วงอิอ่อน นะคร้า แต่ว่าไปห่วงเฮียนิวรณ์แทนดีฝ่า
อิอิ ว่าอิเสือติดปีก จะเจาะโพรงกระรอกของเฮียเขาได้ไหม
หรือว่า อิเสือติดปีกจะโดนอีกระรอกเมิน มะยอมเสวนาด้วยคิคิคิคิคิคิคิคิคิคิคิ


เนี่ย ถ้าอิเสือติดปีก ทำตัวเป็นเบบี๋อินโนเซ้นส์ทางธรรมะ
แต่อยากรู้ธรรมไปถามอะไรเนี่ย เฮียแกก็คงคุยด้วยแหละ
แต่ถ้าเป็นไก่แก่แม่ปลาช่อนแถมยังไปแข่งเทียวเสี้ยมกับ
แก แกก็คงเมินไม่เสวนาด้วยอะ สังเกตดูแกจะไม่คุยกับ
พวกกลายพันธ์นะ หุหุ
แต่ถ้าเป็นพุทธมามกะจ๋า แถมอินโนเซ้นส์เนี่ย
เฮียแกรี่เข้าใส่เลยะล่ะ ขอบอก

 
 

โดย: อิปลาไหลใส่สะเก็ตติดเบ็ดโคตรไอ้เข้ซะแว้ววว IP: 124.120.51.129 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:10:52:36 น.  

 
 
 
เวลาเห็นโพส์ทของเฮียนิวอน นะ
มันชอบมีฟามคิดปุดๆๆๆ ขึ้นมา แบบว่า

ตบเด็ก เตะหมา ท้าหญิงต่อย

แบบเนี้ย เจ้ก็แค่ขำๆทั้งเฮียนิวอนและฟามคิดของตัวเอง
ถ้าเฮียนิวอนเขาเห็นว่าใครล้ำเส้นปณิธานกระรอกโพธิสัตว์
ของแกแล้ว แกก็จะปฏิบัติการ ตบเด็ก เตะหมา ท้าหญิงต่อย
ไม่เว้นแม้แต่เด็ก สตรี และคนชรา รวมทั้งหมาน่อย อะ
โดนแกปฏิบัติการอิมพอสซิเบิลงัดตำราสามก๊กมาใช้หมด
หุหุ

พูดกันพอให้ขำขำ นะ จะได้เข้าใจเรื่องตรงกัน

 
 

โดย: อิอ่อนเสือนอนกิน IP: 124.120.51.129 วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:11:00:39 น.  

 
 
 


อิอิ แท้งกิ๋วเจ้าค่ะ สำหรับ ข้อมูล อินไซต์
ชนิดลับ ลวง พราง ของเจ้ากระรอก
และ ฟามในใจ ระดับ ท็อป ซีเคร็ต
ของ อิปลาไหลใส่สะเก็ตฯ หุหุ
ฟังแร้วเก๊าะ มาม่า อาหย่อยยยย แผล่บ ๆ




อืม... อิหม่ามี๊ขราาาาาาาาาาาาา อยากรู้จังเรยว่ะ
ว่า...หาก นู๋บีนึกครึ้มไปศัลยกรรมแปลงโฉม
ห่มหนังกระรอกน้อย ลบรอบกลิ่นเต่า สมิงสาว
แล้ว ปลอมตัว เข้าไปเจ๊าะแจ๊ะ ก๊ะ กระรอกโพธิสัตว์ตัวพ่อ เนี่ย
อิหมามี๊ว่า จามี คราย เสียหมา ติดแร้วซาเหน่ น้องนู๋เทียวเสี้ยมมมม อ๊ะปล่าวคร้าาาาาาา






บ๊ายบาย จร้าาา เด๋วจาไปดู " โรงรับจำนำ หมายเลข 8 " แระ
ช่วงนี้ นู๋บี ชักจะเริ่มติด เอเชี่ยนซีรีย์ ทางช่อง 9 แร้วอ่า
ตะวาน ก็เกาะขอบจอดูจนจบ แล้วหลับยาวเรยยย
ตื่นมาอีกที เก๊าะ ตาค้างตาแข็ง อีกตามเคย แหะ ๆ


ปล.1

อ่ะ แวะเอา 2 ลิงค์ นี้ มาฝากจร้าาาา

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=babyrose&month=05-01-2009&group=10&gblog=2


//www.oknation.net/blog/print.php?id=273889





ปล. 2
อืม.... อิหม่ามี๊ขราาาา ลู้ไหม ? ว่าคำพูดไหน
ในหนังเรื่อง เดอะ บัตเตอร์ฟลาย เอฟเฟคต์
ที่ นู๋บีรู้สึกว่า ฟังแล้วมัน หมดจดและงดงามที่สุด ?
ถึงแม้ว่า มันจะไม่ใช่ คำพูดที่เป็นสัมมาฯ แบ่บ คำว่า

" เมื่อคืนนี้ คุณไปเสพเมถุนกับใครมา ? " ของคนบางคน

แต่ได้ยินแล้ว นู๋บีก็รู้สึกว่า ถ้อยคำเหล่านี้ มันเป็น วจีที่เป็นกุศล นะ
( แร้วเด๋วจะมา เฉลย ตอน ตัดริบบิ้นปิดประเด็น จร้าาา





 
 

โดย: อิปลาไหลขงเบ๊ ผู้ชอบ ขอดเกล็ด โคตรไอ้เข้ ...หุหุ (นู๋บี ) วันที่: 2 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:18:13:04 น.  

 
 
 
เฮ้อออ อดใจไม่ไหว
แว่บไปเล่นน้ำลาย ที่เวบพังจิต อีกแระ
เก๊าะเรย แวะเอาแปะในบล็อกนี้
หั้ยแควนขับ อิเจ้นู๋บี อ่านเล่นแก้คืดถึงจร้าาา

//board.palungjit.com/f4/สัจจะ-กับศีล-อะไร-มาก่อนกัน-325120-3.html#post5673153

ส่วน ไอ้เรื่องที่สัญญาว่าจะ ตอบ จม.แควนขับ นั้น
ไงก็จาพย๊าม ปั่นน้ำลายหั้ยเสร็จภายในชาตินี้แหล่ะจร้าาา
( คงม่ะคิดจะทำเป็น โปรเจค เจ็ดชั่วโคตรแบบตอม้อโฮปเวล หรอกเจ้าค่ะ )
เพราะถ้า ยังทำตามที่ ให้สัญญาใจไว้ กับแควน ๆ ไม่สำเร็จ
อิเจ้ป่อง ก็คงจาเสด็จกลับกะลาได้ อย่างม่ะค่อยจะเต็มตรีนฮ่ะ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 6 กุมภาพันธ์ 2555 เวลา:22:10:47 น.  

 
 
 
มาบอกว่า ตามไปอ่านโพสท์ของแม่นางเทียวเสี้ยม
เรื่องทำลูกเสรี เอ๊ย ทำแท้งเสรี แระ
ก็นานาจิตตังเนาะ รักษาเนื้อรักษาตัวให้ดีละกัน
รู้ๆอยู่ พวกมือถือสากปากถือศีล มีเยอะ
ไปว่าเขาตรงๆ ก็ไม่มีใครยอมรับหรอก มีแต่สร้างศัตรู
เอ หรือว่าเป็นแผนของแม่นางเทียวเสี้ยมในการสร้าง
มิตรรักแฟนเพลงแบบย้อนศร หุหุ

อย่างป๋าโจ นะ เขาเจอคนมือถือสากปากถือศีล นี่
เฮียเดินหนีเลย ว่ะ บอกว่าไม่อยากทำบาปเตะก้านคอใคร
เสียเวลาสร้างบารมี ซะงั้น แถมถ้ามันตามมาพันแข้งพันขา
แล้วเฮียเกิดโทสะ เกิดเป็นปาณาติบาตกรรมไปอีก
แบบว่าสะสมน้ำมาซะเต็มตุ่มเอามาราดทิ้งใส่หน้าพวกมือ
ถือสากปากถือศีลมันไม่คุ้ม
เก็บไว้ราดตัวเองหรือราดคนที่เราช่วยได้ ดีฝ่า
ฮิฮิ
 
 

โดย: อิอ่อน ตามมาแซว IP: 110.169.249.186 วันที่: 1 มีนาคม 2555 เวลา:10:01:43 น.  

 
 
 


แหะ ๆ แท้งกิ๋ว คร้าาาา อิหม่ามี๊
สำหรับคำแนะนำ ที่เป็นห่วงเป็นใย กันเสมอ
แถมยังอุส่า เดินตามต้อย ๆ
มาคอย เก็บไส้ หั้ย
ถึงใน สุสานโบราณ อีกแหน่ะ
ว่าแต่ ที่เข้ามาในนี้ เป็นเพราะ
อยากจะกิน ต้มยำตือฮวน อ๊ะปล่าวเธอว์ เหอะ ๆ



เออ อิหม่ามี๊ขราาาาาาา
ช่วงนี้ นู๋บี ขอ นุยาด หายหัวไปทำใจ แป๊บนึง เน๊าะ
เด๋วจามา ตอบจม.แควน ๆ จร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาา
เฮ้อออ จิง ๆ ก็เกรงใจบรรดาแควนขับ เหมือนกันนะ
ที่ต้องเสียเวลาเข้ามา ชะเง้อคอยหา
เพราะว่า นู๋บีดองน้ำลายไว้เป็นชาติ งี้ แหะ ๆ


แต่ทำไงได้ล่ะ ช่วงนี้ นู๋บีกะลังเฮิร์ท จนสติแตก
และ หัวใจแหลกสลาย (จนน้ำลายเช็ดหัวเข่า )เพราะพูชายคนนึงอยู่อ่ะ
เรยม่ะสามารถ ปิดงบ น้ำลายตัวเองได้ว่ะ
รู้ป่ะ ว่า ไอ้หอกหักนั่น มันเป็นใคร ?
เหตุไฉน จึงเข้ามาเหยียบย่ำ ขยี้ขยำ
ทำร้ายหัวใจดวง น้อย ๆ ของนู๋บี ได้


นี่ ๆ บอกไว้ก่อนนะ ว่า ไอ้หมอนี่
มันไม่ใช่ เจ้า อึ้งจี่เพ้ง , เหล็งฮู้ชง , ตงฟางปุ๊ป้าย
หรือ ว่า อ้าย ก้วยยี้ขี้โม้ ที่ชื่อ โอทึ้ง หรอกน้าาาาาาาา
แต่ว่าเป็น อิตานี่ ตะหาก ที่ทำหั้ย นู๋บีน้ำตาตกใน






แมร่ง พี่เหม่ง ออกมาแพล่มแค่ ม่ะกี่คำ
ทำเอา น้องทองม้วนสุดที่รักของนู๋บี ร่วงระนาว เรยว่ะ
ฮือ ๆ เสียว จาเป็น สาวดอยจะไปสอยดาว อิ๊บอ๋าย เรยตรู
เนี่ย ดูจิตไง๊ ก็ ม่ะหายเสียววววว ซ้าที อ่ะซิก ๆ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 1 มีนาคม 2555 เวลา:19:46:30 น.  

 
 
 
เหอๆ QE3 ไม่มา น้องทองม้วนหายไป 77 ดอล เลยเชียว
แต่เงินเย็นๆ ของนู๋บี ก็ไม่เดือดร้อน นินา
อิหม่ามิ๊ มาปลอบใจ ยังไงน้องทองม้วนเขาก็ซื่อสัตย์
ไม่หักหลังเจ้าของ เหมือนแบ๊งค์ที่ค่าเงินมันตกเอาๆเพราะ
ของแพง

ยังไง หม่ามิ๊ ก็เชื่อตากูรูทอง จิมโรเจอร์ นะ
ว่า น้องทองน่ะ ค่าตัวเค้าต้องถึง 2000 ดอล/ออนซ์
หรือมากกว่านั้น แต่ไม่รู้เมื่อไรนะ อาจจ 5 ปี 10ปี
หรือ 3 เดือน 6 เดือน อะไรก็เกิดได้ทั้งนั้น
ถือทองม้วน ก็ดีกว่า ถือแบ๊งค์นะ หม่ามิ๊ คิดว่างั้น
ถ้าทองม้วนตกลงมา มีเงินก็ซื้อไว้ ไม่ขาดทุนหรอก
 
 

โดย: อิอ่อน ตามมาแซว IP: 124.120.27.218 วันที่: 2 มีนาคม 2555 เวลา:13:21:51 น.  

 
 
 



อ่ะโหลลลลลลลลลล วู้ๆๆๆๆๆๆ
หวัดดีเจ้าค่ะ แควนขับเจ้าขราาาาาา
อิเจ้นู๋บี กลับมาตอบ จม.แควน ๆ แร้วจร้าาาาา
ว่าแต่ หายหัวไปเป็นซาดงี้ แควน ๆ ทุกทั่น
คิดถึงอิตั้วเจ้ กันบ้าง อ๊ะปล่าวน๊อออออออ
อิตั้วเจ้ คิดถึงแควน ๆ นะจ๊ะ
มามะ ขอจับตรูด แก้คิดถึงที เอิ๊ก ๆ


เฮ้อ หวังว่า การ คัมแบ๊คกลับมาหนนี้
คงจะ สะสางปัญหาคาใจ
และ เคลียร์ปมอิรุงตุงนังทั้งหลายแหล่ ได้น้าาาา
อิเจ้จะได้กลับไปซุกหัว อยู่ใน กะลาครอบ
ได้อย่างปลอดโปร่งโล่งฉะบายยยยย ซะที
เอ ? หรือว่า นี่จะเป็น การทิ้งบอมส์ ล่ะหว่า ?



เอาล่ะ ประเดิม ด้วยการ ตอบ จม.อิหม่ามี๊แม่ปั๋วคนดี ก่อนดีฝ่า
เพราะว่า อีเป็นพูญิงคนเดว ของสำนักบู๊จังนะเธอว์
ที่ยังสามารถเสนอหน้า มานั่งตีขิมเล่นบนกำแพงบล็อกนี้ได้โดยไร้รอยขีดข่วน
ดังนั้น ชาวยุทธอย่างเรา สมควรต้องหั้ยเกียรติ เลดี้เฟิร์ส ก่อน งิงิ






อ่ะแฮ้มมมมม ! อิหม่ามี๊เจ้าขราาาาาาาาาาาาา
ก่อนอื่นนู๋บีต้องกราบขอบคุณ นะคร้าาา ที่ใจดี
แวะเข้ามาปลอบกัน เรื่องไอ้เหม่ง ที่มันทำนู๋บีเจ๊ง
จนต้องกระเตง อิน้องทองม้วน มาเป็นห่วงผูกคอ
แต่ ม่ะต้องเป็นห่วงน้าาา นี่อิการ์ฟิลด์มันก็ปลอบใจนู๋บี อยู่บ่อย ๆ
มันบอกว่า เหอะน่า นู๋บีก้อ จะเป็นไรไป
หั้ย อิน้องทองม้วน มันทิ่มแทงเป็นหนามยอกอก นิด ๆ หน่อย ๆ ก็ดีเหมือนกัน
ชีวิตมันจะได้ แสบ ๆ คัน ๆ มีรสชาด เปรี้ยวหวานมันเค็ม และ ขมขื่นกับเขามั่ง
ไหน ๆ เกิดมาเธอว์ก็ไม่ค่อยจามีฟามทุกข์อะไรก๊ะใครเขา อยู่แระ เอิ๊ก ๆ
คอยดูน้าาา ลงจากดอย ไปขายหมู ได้ วันไหน
ถ้า ครึ้มอกครึ้มใจ นู่บีจาเขียน เรื่อง ธรรมะ ก๊ะ น้องทองม้วน มาหั้ยอ่านจร้าาา
แต่ตอนนี้ เอา เกมส์เตะโป๊งเหน่งงงงงง มาฝากอิน้องฮาร์ทจร้าาา
เผื่อว่า จาช่วยแก้แค้น ไอ้เหม่ง ให้อิเจ้นู๋บี หุหุ






อ้อ แล้วก็ขอโทษแนบอกแฟบ ๆ ของน้องค่อม ด้วยนะเจ้าคะ
ที่เมื่อเดือนที่แล้ว นู๋บีหายต๋อมไปปั่นน้ำลายซะนานเป็นชาติ เรย
กว่า จาได้มาโพสตอบ จม. แควน ๆ แหะ ๆ
แหม ๆ ก็ม่ะได้ หายหัวเอาเวลาไปหารูป
หาเนื้อหาในสื่อมาติดแปะ แบ่บที่โดนไอ้ตี๋มันครหาเอาหรอกน้าาา อิหม่ามี๊ขราาาา


วุ๊ยย ทั้งเนื้อหาในสารพัดสื่อ
รวมทั้งรูปแหล่ม ๆ ทั้งหลายแหล่
ที่จะเอามาโพส แหย่ชาวบ้านเนี่ย
นู๋บีมีตุนไว้ เป็น คอลเลคชั่นสะสม
ตะแต่ปีมะโว้ แร้วคร้าาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
สามารถหยิบมาใช้กระแทกตาชาวบ้านได้ทู๊กเวลา ที่ ชาติต้องการ
( โดยเฉพาะรูปเกี่ยวก๊ะ การมุ้ง เอ๊ย การเมือง น่ะนะ มีเพรียบบบบ เอิ๊ก ๆ )



แต่ที่มันช้าประมาณ เจ็ดชั่วโคตร เนี่ย
ก้อเพราะ นู๋บีมัวแต่ประดิดประดอย
บรรจงจิ้มดีด+ปรุงแต่งตัวหนังสือ อยู่อ่ะค่ะ
อารมณ์ประมาณ เดียวก๊ะ เวลาที่ แม่จ๋อศรีมันแต่งหน้าทำผม
ก่อนออกไปเล่นละครลิงทิ้งทวน เพื่ออำลาวงการ ล่ะมั้ง
เรย ต้องใช้เวลา นานฝ่าปกติ จิ๊ดนุงส์ อิอิ


แถมที่สำคัญ อ่ะนะ อิสาวติ๊สแตก อย่างนู๋บี
มันชอบเสพติด ตัวหนังสือ ของตัวเองอ่ะเธอว์
ด้วยเหตุนี้แหล่ะ พอไปอ่านทวน กระทู้ถาม ต่าง ๆ
ที่ชาวบ้านโพสทิ้งไว้ในบล็อก ทีไร
นู๋บีเก๊าะเผลอไป นั่งอ่าน ตัวหนังสือ ของตัวเอง
ซ้ำไปซ้ำมา วนลูป อยู่ได้ เป็น 5 รอบ 8 รอบ
โดย อิการ์ฟิลด์ มันอ้างกะอิคิตตี้ ว่า ที่ทำไปนั้น
ก็เพื่อ บิ้วอารมณ์ ในการตอบ จม. แควนขับ ฮ่ะ


แถม บิ้วไป บิ้วมา ก็ดั๊น เกิดอาการ หลงไหลได้ปลื้ม
กับตัวอักษรที่ตัวเองปรุงแต่งขึ้นมา
จนหลงลืมทุกอย่างจนหลุดโลกไปเรยมั้ง
เฮ้ออ แบ่บว่าอ่านไป ก็ ปลาบปลื้มใน อัจฉริยะภาพของตัวเองไป อ่า
หูย ทำไม๊ ตรูเขียนอารายได้แหล๊ม แหล่ม ๆ ขนาดเนี๊ยว้าาาาาาาาา โฮ่ ๆ
เฮ้อออ แบ่บว่า ถึง จาไม่เคยโง่ ต้องเมาเหล้า เมารัก
แบ่บ พระสุทรโวหาร กะ ไอ้ตี๋โฮฮับ
แต่ นู๋บี พร้อมที่จา หลับหูหลับตา เมาอักษร ได้ซาเหมอคร้า แหะ ๆ



เนี่ย อ่านตัวหนังสือตัวเองซ้ำ ๆ ซาก ๆ วนลูปอยู่เกือบ สิบหน ได้มั้ง
มันก็ยังไม่อิ่ม และ ไม่รู้สึกเบื่อหน่ายเยยย
แถมแปลงร่างกลายเป็น นาร์ซิซัส หลงรูปตัวเอง ซะงั้น
เฮ้อออ อิหม่ามี๊ขราาา ถ้า อิเจ้บัวเกี๋ยง ได้ฉายา ว่านายก นกแก้ว แล้วล่ะก้อ
อิป้าบัวป่อง คงไม่แคล้ว ต้องเป็น นกหงษ์หยก แหง๋ ๆ เรย ว่ะ






เออ แร้ว อิหม่ามี๊ อย่าได้น้อยอกน้อยใจไปเยยยน้าาาา
ที่คราวก่อนนู้น พอโพสตัวหนังสือ
ขึ้นโครงการ 4 ในบล็อก เสร็จ
นู๋บีส่งเมล์ไปบอกแต่ ไอ้โซ๊ยตี๋
ม่ะได้ส่งสัญญาณควันไปบอก อิหม่ามี๊ สักแอะ
ทั้ง ๆ ที่ หากหายหัวไปเป็นเดือนอย่างงั้น
ถ้า จะกลับมาโพสอีกทีตามที่สัญญาไว้
นู๋บีก็ควรจะแวะไปส่งข่าวคราว
บอกหั้ยหน้าม้าระดับพรีเมี่ยม
ที่มาเร็วเคลมเร็ว อย่างอิหม่ามี๊ด้วย


เฮ้อออ จิง ๆ พอจิ้มดีดปั่นน้ำลาย
โปรเจคยิ่งเขียนยิ่งบาน นั่นเสร็จ
นู๋บีก้ออยากจาจุดธูปเชิญ อัญเชิญอิหม่ามี๊
มาเปิดซิง เจิมบล็อกโครงการ4 หั้ยอยู่ หรอกคร้าาา
เพราะ กะลังคุยกันติดพันอยู๊
แต่ว่า ที่เกาะดอกท้อ อิก้วยเจ๋ง มันตัดสัญญาณคลื่นวิทยุหมดเยยนิ
นู๋บีเรยมิลู้จะส่งโทรจิต ไปบอก อิหม่ามี๊ไงดีง่ะ อะซิก ๆ


แถมตอนนั้น อิทั่นน้องชาย
ก็ยังม่ะได้ สมัครล็อคอินเวบพังจิต ให้ด้วย
นู๋บีเรยมิลู้จาติ๊ดต่อไปอ้อล้อก๊ะ คุงแม่ปั๋วยังไงดี
แง ๆ อิหม่ามี๊ อย่าได้เอาเรื่องนี้ มาเป็น เหตุ
ในการเฉดหัวนู๋บี ออกจากตำแหน่งลูกไป๊ป๋าโจ เรยน้าาาา


อืม....อยากจะบอกอิหม่ามี๊ หั้ยสบายใจว่า
ในสายตาของนู๋บี นั้น อิเจ้เควัณจมาณวิกา
ย่อม มีฟามสำคัญฝ่า ไอ้ตี๋โตหื่น อยู่แระ
แหม ๆ ก็พวกเราเป็นคนในครอบครัวเดวกันนิคร้าาาา
ลูกไป๊จะไปเห็น คนนอก ดีฝ่าคนใน ได้ไงคร้าาา คุงแม่ปั๋วขราาาาา
ที่ผ่านมาเนี่ย นู๋บีก็แค่ นึกครึ้ม เลยหว่านซเหน่
แล้วอ่อยไอ้ตี๋มัน เล่น ๆ ด้วยเห็นเป็นเช่นทางผ่านอ่า
ประมาณ ว่า เก็บไว้เป็นอิกิ๊กนอกกฏหมาย
เอาไว้ลับฝีปาก แอนด์จับตรูดเล่นแก้หง่อม
ตอนที่ยังไม่มี ล็อกอิน เข้าไปแร่ดๆ
ใน เวบ พังจิตเท่านั้นอ่ะคร้าาา


แต่ ตอนนี้ นู๋บีก็หลอยล็อกอินของอิน้องชาน มาใช้ที่พังจิตได้ แระ
ไอ้ไก่รองบ่อนอย่างมัน เก๊าะ หมดประโยชน์ แระอ่า
ที่สำคัญนะ ยิ่งเห็นตับไตไส้เห็นพุง
และ ติ่งริดสีดวงของมันแร้ว
นู๋บีก็ไม่ไหวจะเคลียร์ฮ่ะ เหอะ ๆ
ด้วยเหตุนี้นู๋บีสามารถเขี่ยมันทิ้งได้อย่างง่ายดาย
พอ ๆ กับที่ สลัดรองเท้าเก่า ๆ สักคู่นั่นแหล่ะคร้าาาา


ดังนั้น อิหม่ามี๊ อย่าเก็บไปคิดมาก เรยจร้าาาาาาา
แล้วก็ไม่ต้องเป็นห่วงกัวว่า ไอ้ตี๋มันจาตีท้ายครัว
แอบเข้ามาอยู่ในหัวใจของนู๋บีด้วย
นู๋บีน่ะ รักจิงหวังแต่งกะฮาร์ทจังคนเดววววเท่าน้านนนนน
เนี่ย ถ้าอดเป็นลูกไป๊ป๋าโจแร้ว
นู๋บีก็ไม่รู้ว่า จาทนมีชิวิตอยู่ในโลกใบนี้ต่อไปได้ยังไง อ่ะซิก ๆ



อิอิ ออดอ้อนออเซาะ คุงแม่ปั๋ว จนน้ำท่วมทุ่ง อีกแระ กรู
จามีใครอ่านแร้วหมั่นไส้ ไหมเนี่ย เอิ๊ก ๆ
อ่ะ เข้าประเด็น เรยดีฝ่า



อิเสือนอนกิน ว่า...
----------------------------
ให้อาเหล่าแปะ เล่นบทพระเอก บทอิโก๋ กะเป๋ารถละกัน
ส่วนโซ้ยตี๋ ให้เล่นบท ป๋าเทพ นักซิ่งตีนโหดขับไปบ่นไป
อิอิ ไม่รู้จะเป็นไงเหมือนกันนะ คิดเองเออเอง

++++++++++++++++++

อิเสือกินแหลก ว่า....
อ้าวววว ไง๋ จู่ ๆ อาเหล่าแปะ
ก็แย่งบทพระเอก ของ นู๋บี ไปซะงั้น ล่ะหว่า
เนี่ย นู๋บี กะว่า จาเล่นบท อิโก๋ เองอ่า บทมันเด่นดี
เผื่อจาได้ ออสการ์ กะเขามั่ง อิอิ
บท ป๋าเทพ นักซิ่งตีนโหดขับไปบ่นไป
นี่ก็ว่าจะหั้ย อาเหล่าแปะ แก เล่น
และ บทป๋ากิ๊กเม้งแตก ที่ชอบไล่แจกลูกปืน
ให้ชาวบ้านแตกกระเจิงบนรถเมล์ นี่
คิดว่า ไม่มีเหมาะสมกับบทนี้ เท่าไอ้โซ๊ยตี๋ว่ะ ฮา ๆ







 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:0:49:09 น.  

 
 
 
เจ้ไหมแดงแจ๊งแวงงงงง ว่า....
---------------------------------------------

อ้อ แต่ถึงจะ ฝึกฝน เคล็ดวิชาห้ามกามคุณทั้ง 6
และอารมณ์ทั้ง 7 มาแบ่บเบ็ดเสร็จแล้ว
แต่ อิเจ้ไหมแดง มันก็เป็น เจ้าของฮาเร็มน้อยคอยร้ากกก นะจ๊ะ
บ่ ใช่ หลวงเจ้ กุ๊กไก่ แห่งหมู่บ้านพลัม อย่าง แม่นางเล้งยี้ อ่ะ อิอิ
ดังนั้น อย่าว่าแต่ ตัดฟามรักลูกรักผัว เล๊ยยยย
คนอย่าง อิเจ้ไหมแดง เนี่ย มันตัดได้ทุ๊กอย่าง ว่ะ
( ยกเว้น ให้ ตัดตัวกรู อันนี้ ตรูยังทำม่ายได้ เอิ๊ก ๆ )


อิหม่ามี๊ว่า ...
------------------------------
มันกลับตาลปัตรกันจิงจิง เลยเธอว์
ตรูน่ะ ให้ตัดตัวกรูยังง่ายกว่า ตัดฟามรักลูกรักปั๋ว เลยนะ
แบบว่า เห็นลูกเจ็บแต่รู้สึกเหมือนเราเจ็บกว่า
เห็นลูกปั๋วสำคัญกว่าตัวเราเอง ของตัวเองเอาไว้ทีหลังได้
ตอนนี้มันเป็นแบบนี้นะ ไม่รู้วันหน้าจะเปลี่ยนไปอีกไหม
ทำใจตัดห่วงคนที่เราผูกพันธ์ด้วยมันยาก อะนะ


แต่ถ้าเราเข้าใจชีวิตจริงๆ แล้วมันคงตัดที่เดียวขาดหมด
ทุกอย่างไปเอง สงสัยมันเป็นธรรมชาติ
แบบว่าชอบทำร้ายตัวเองละมั้ง
ทำใจยากทั้งๆที่รู้ว่ามันโง่ก็ยังเป็นแบบนั้น
แต่ว่า ก็มีวิชารู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี
เป็นเคล็ดวิชาประจำใจฟังดูแล้วเหมือนแย้งๆกันไงมิรู้
แต่มันก็เป็นของมันได้

+++++++++++++++++++++++++

นู๋บีว่า...

อืม...ไอ้เรื่อง ตัดฟามรักลูกรักปั๋ว ของกรู เนี่ย
มันก็แล้วกำลังสติสัมปชัญญะ
และ เวรกรรม เอ๊ย วาสนาจริตของแต่ละบุคคล อ่ะ อิอิ
แต่ เห็นด้วย กับ อิหม่ามี๊ นะ ที่บอกว่า


-------------------------------------
ทำใจตัดห่วงคนที่เราผูกพันธ์ด้วยมันยาก อะนะ
ถ้าเราเข้าใจชีวิตจริงๆ แล้วมันคงตัดทีเดียวขาดหมดทุกอย่างไปเอง
--------------------------


แต่ที่แพล่มมานี่ ก็ไม่ได้หมายฟามว่า
นู๋บีจะเข้าใจโลกเข้าใจชีวิตตามจริง
จนทิ้ง ของกรู ได้เสียทั้งหมด อ่ะนะ
เพียงแต่ว่า สำหรับนู๋บีแล้ว
ของกรู ที่เต็มใจยอมแบกไว้บนหัวแบบเต็ม ๆ ตัว
ส่วนใหญ่จะเป็น วัตถุสิ่งของที่ไม่มีชีวิต
ประเภท เงินทองของนอกกายน่ะ
ส่วนใหญ่ อิการ์ฟิล์ดมันก็เรย ทุกข์จากโลภะ
และ ฟามตระหนี่ แบ่บเล็ก ๆ น้อย ๆ ซะมากกว่า



ส่วน อะไร ที่มันเป็น สิ่งมีชีวิต ที่มีความรู้สึกนึกคิด
อาทิเช่น คน สัตว์ ทั้ง ลูกผัวพ่อแม่และพี่น้อง นี่
จัดเป็น วัตถุออกฤทธิ์ต่อจิตประสาท ที่ไม่พึงประสงค์
เลยไม่ค่อยอยากจะสะสมไว้ ใน คอลเลคชั่น ของกรู
ให้เกิดความรู้สึกผูกพันธ์ ( จนกลายเป็นห่วงผูกคอน่ะนะ )
อันไหน ถ้า วางลงได้ก็จะหาเรื่องวาง
ถ้าเขี่ยมันทิ้งได้ ก็จะหาเรื่องทิ้ง ชิ่งได้กรูเก๊าะชิ่ง
เรื่องไรจะหาเหาใส่หัวให้คันคะเยอล่ะเธอว์ เอิ๊ก ๆ



เฮ้ออ ก็อย่างที่บอกแหล่ะ อิหม่ามี๊
นู๋บีมันพวก นาร์ซิซัส เข้ากระแสเลือดน่ะ อิอิ
เรยโคตรจะหลง(รัก)ตัวเองมากมาย
และถ้า มีไอ้หน้าไหนมันทำให้รู้สึกว่า
จะเป็นภัยอันตราย ต่อ ความมั่นคง
และฟามสงบสุขของตัวกรู (ทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต) แล้วไซร้
อิการ์ฟิลด์ มันก็พร้อมจะงัดสารพัดวิธี
มากำจัดบุคคลเหล่านั้นออกไปจากชีวิตฮ่ะ


แหม ?ก็ขนาด อิเจ้ บูเชคเทียน ไอดอล ของนู๋บี
ยังเขี่ยลูกเขี่ยผัว ทิ้งได้เรยนิ
แร้วไม นู๋บีจะเจริญรอยตามไอดอลของตัวเอง ไม่ได้ล่ะ ฮา ๆ
บอกไว้ก่อนนะ ไอ้เรื่องทิ่มแทง...ทำท้อง...และ ทำแท้ง ...?
ใน กระทู้เนี้ยะ นู๋บีม่ะได้แกล้งพูดเล่น ๆ
เพื่อสร้างภาพขยายฐานแฟนขับ แบ่บสวนกระแส นะค๊ะ
แต่ทุกๆ ละอองน้ำลาย นั้น มันกลั่นออกมา
จาก ตัวตนของตัวเองล้วน ๆ เรยว่ะ เหอ ๆ


ยิ่งพอมาปฏิบัติธรรมนะ มันยิ่งเห็น เภทภัย
และ อันตราย ของคำว่า ของกรู ยิ่งขึ้นนะ
มาฉุกใจ รู้สึกตาสว่าง กับเรื่องนี้
เหมือนเปิดของคว่ำให้เป็นของหงาย
ก็ตอนพ่อเพื่อนร่วมงาน ตายมั้ง
จู่ ๆ พอรู้ข่าว ก็คงรู้สึกว่า


ชาวบ้าน มันคงเศร้าใจ ที่พ่อมันตาย
แต่ทำไม ตัวกรู กลับไม่เกิดอุปทานหมู่
รู้สึก อิน หรือ เศร้าเสียใจ ไปกับมันด้วยฟระ
แล้วถ้า โคตรพ่อโคตรแม่ของกรูตาย
กรูจะร้องไห้ แบ่บมันไหมเนี่ย ? ฯลฯ


ก็คิดเรื่อยเปื่อยตามประสาคนอยู่ไม่สุขไปงั้นเองอ่ะ
แต่จู่ ๆ มันก็มีความรู้สึก แว่บ ๆ ผุดขึ้นมาให้หัว เฉยเรยว่ะ
ประมาณว่า เออ เฮ้ย เพราะ คำว่า ของกรู นี่ไง ที่ทำให้ทุกข์
อืม...จริง ๆ ไอ้ตรรกะพื้นฐานของชีวิต ประมาณเนี๊ยะ
หมาที่ไหนมันก็เข้าใจและ รู้ได้ โดยที่ไม่ต้องมาปฏิบัติธรรม ด้วยซ้ำ
เพราะก่อนหน้านี้ตอนยังไม่เข้าคอร์สปฏิบัติ
นู๋บีเองก็ใช้ความคิด เชื่อมโยงเหตุและผล มาเป็น ข้อสรุปพวกนี้ได้อ่ะนะ
แต่คราวนู้น มันไม่มีอาการ เก็ทสะเทือน เหมือน คราวนี้ ว่ะ



คราวนี้มันมีความรู้สึกบางอย่างที่ หยั่งรากลึก เข้าไปในใจ
จนเกิดการจดจำไว้ในสัญญา มั้ง
และ จิตถูกเหมือน ถูกตั้งเป็นโปรแกรม เซนเซอร์ อัตโนมัติ
ไว้ตรวจจับ เวลาที่มี ผัสสะมากระทบ น่ะ
ถ้าเมื่อไร ของกรู เริ่มจะทำให้เรารู้สึกทุกข์
มันจะมีกระบวนการ ค้นหารากเหง้าของเหตุปัจจัย
แล้ว หากมันจบที่ เหตุ คือ
ทุกข์ที่กำลังเกิดนั้น มันเป็นการยึดติดกับ คำว่า ของกรู เมื่อไร
จิตมันจะรู้สึกตัวได้เร็วขึ้น และมันก็จะมี กำลัง
ที่ จะตัดสภาวะทุกข์ตรงนั้น ได้ง่าย ขึ้นด้วย



อิอิ นี่ ๆ มีเรื่อง ขำ ๆ เกี่ยวกับ อิป๋าหมาน ( เตี่ยนู๋บี )จะนินทาหั้ยฟัง
เนื่องจาก อิป๋ามันแก่ แระ เรยมักจะปวดเมื่อย
กระเสาะกระแสะตามประสาคนแก่วัย เจ็ดสิบขวบ
ตานี้ พอเห็นคุณลูกสาวบังเกิดเกล้า เข้ามาเยี่ยมที่บ้าน
ก็เรยออกอาการสำออย เอ๊ย บ่นเรียกร้องฟามสนใจหงุงหงิง
บอกนู๋บี ประมาณ ว่า


เนี่ย กรูน้าาาาา ก็แก่แระ โน่นก็ปวดนี่ก็ปวด
เมิงอ่ะ ม่ะแก่อย่างกรู เมิงไม่รู้หร็อก
ว่ามันทรมานแค่ไหน ฯลฯ บลาๆๆ


รู้ป่ะ แทนที่นู๋บีฟังแร้วจะ นึกเป็นห่วงเป็นใย
ตามประสาชวนป๋วยปี่แป่กอ ตราลูกกตัญญู
นู๋บีดั๊น ย้อนถาม ความเห็นคุณป๋า หน้าตาเฉย ประมาณว่า


"เฮ้ย ที่พ่อมาบ่นแบ่บนี้ บีต้องทุกข์ไปกับพ่อ ด้วยป่ะ ? "


เล่นเอา อิป๋าฟังแล้ว มันหน้าหงิก งอลป่อง ๆ
คาดว่า คงแอบร้องด่าลูกในใจ ว่า อิลูกเวร ด้วยมั้ง เอิ๊ก ๆ
แต่ก็ช่วยม่ะได้อ่ะ ดันมาออดมาอ้อนไม่ดูตาม้าตาเรือ
ทะลึ่งมาเล่นบทดราม่า ก๊ะอิเสือจอมโหด เองอ่ะ
เนี่ย ไอ้เรื่องหยูกยา อะไร ก็หามาหั้ยกิน เต็มที่แระ
อยากได้ยาอะไรเพิ่มเติม ก็หั้ยน้องชายพาไปหาหมอได้นิ
มันพร้อมจะเป็นสารถีของบริการเต็มที่อยู่แระ
แถม เบิกจ่ายตรงก็มี ฟรีทุกประการ ไม่ต้องออกตังค์สักบาท
เวลาก็มีถมถืด แล้ว จะมาแง้ว ๆ ทำติ้งไร ฟระ ไม่ไปหาหมอเองนี่หว่า




ที่สำคัญอ่ะนะ นู๋บีลงทุนสอน
เทคนิคการ เจริญสติปัฏฐาน สี่ (แบ่บ เอ็กซ์คลูซีฟ)
ให้ ป๊ะป๋า จนหมดไส้หมดพุงแร้วด้วย แต่อิป๋าแก ก็ม่ะเก็ทซ้าที ว่ะ
ก็ ในเมื่อยัง แยกเวทนาทางกาย ออกจาก เวทนาทางใจ ไม่ได้
ก็จงจมปลักอยู่กับทุกขังกะลังมัง ตามยถาสภาวะ ไปเต๊อะนะ ป๊ะป๋าหมาน



นี่ ๆ แต่อิหม่ามี๊ ฟังแร้ว ม่ะต้องไปสงสาร อิป๋าหมานมันเรยน้าาา
นั่นน่ะ อิเสือสำออยตัวพ่อ เรยล่ะ เวลานู๋บีจะ กลับโรงบาล อ่ะนะ
แหม๊ ทำมาเป็นบ่นหงุงหงิง เข้าหูเรา
บอกว่า หมอหั้ย ยาจริง ลูกหั้ยยาใจ
แต่พอเรา ถ่อสังขาร มาหา เพื่อจะเป็นยาใจ ให้ล่ะ ก้อ
ป๋าแกก็ไม่ได้เห็นหัวตรูเล๊ยยยย
ถึงเวลา ก็ระริกระรี้ลอยหน้าลอยตา ออกไปเที่ยวนอกบ้าน
ลอยชายเป็นพ่อพวงมาลัยเฉิบ ๆ
ขนาดนู๋บี เพิ่งโผล่หัวกลับบ้าน แท้ ๆ
เนี่ย อุส่า โล้งเล้ง แซวป๋าไป ประมาณว่า



"เฮ้ยยยยย หมาน ลูกสาวสุดที่ร้าก กลับมาหาทั้งที
หมานไม่คิดจะอยู่ คุยก๊ะลูกเต้า มั่งหรอไงยะ
( หยุดไปแร่ด สักวันไม่ได้หรือไงฟระ )"


เนี่ย หมานมันยังม่ะสนใจเล๊ยยยยย
ยังไง๊ ก็จะถ่อสังขารไปนั่งทอดหุ่ย ดูสาว ๆ
และ ไป นั่งเม้าส์แตก คุยก๊ะเหล่าสหาย อยู่ดี
แล้ว ทีงี้ล่ะมาทำเป็น สำออยอ้อนลูกสาว
เฮ้ออ ไม่ลู้ อี เจ้ามารยา เหมือนใครวะ
( นิสัยแบ่บนี้ คุ้นโคตร ๆ เอิ๊ก ๆ )




เออ ฟังอิหม่ามี๊แพล่ม เรื่อง

ให้ตัดตัวกรูยังง่ายกว่า ตัดฟามรักลูกรักปั๋ว

แร้วนึกถึง เรื่องโรงจำนำ หมายเลข 8 จังเรยอ่า
ถ้าต้องเป็นตัวละครในนิยายเรื่องนี้ นู๋บี ก็คงเหมือน อาจิง ไม่ก็ ซุนโจว ล่ะมั้ง
ทว่า ไม่ใช่เหมือนกัน เรื่องแห้วเพราะรักเขาข้างเดียวข้าวเหนียวนึ่งเหมือนป๊ะป๋าโจ นะ
แต่ เหมือนเพราะว่า นู๋บีเลือกที่จะยอมทำทุกอย่างเพื่อตัวสนองตัวกรู
ส่วน อิหม่ามี๊ น่ะ เหมือน คุณชายหัน (เถ้าแก่ของโรงรับจำนำหมายเลข 8) จังเรยอ่า
ยอมทำทุกอย่างเพื่อ สนอง ของกรู


เนี่ย ถ้า อิฮาร์ทจัง กลายเป็นเด็กออทิสติก ที่ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
ส่วน ป๋าโจ ก็กะลังใกล้จะตาย เพราะเป็นเอดส์ขั้นโคม่า
อิหม่ามี๊ คงฉวยโอกาส เอ๊ย เลือกที่จะเสียสละ
จำนำ การสมหวังในความรักของตัวเอง และยอมจากไปตลอดกาล
เพื่อแลกกับการที่จะทำหั้ย อิปั๋วกับคุงลูกชาย
หายจากโรคภัยไข้เจ็บ และ มีความสุขชั่วชีวิต
เหมือน ๆ กับที่ คุณชายหันฯ ทำ แหง๋ ๆ เรยว่ะ อิอิ



เนี่ย ถ้าเป็นเมื่อก่อน ตอนยังไม่เข้าสู่วงการปฏิบัติ อ่ะนะ
นู๋บี คงจะซาบซึ้งตรึงใจ กับ ความรักที่มีแต่ให้
และ การเสียสละตัวเอง ของอาคุณชายหัน ว่ะ
อะโหย อีพล็อตแบบนี้ จัดเป็น พล็อตหากิน
ของนิยาย โรแมนติก-ดราม่า เรยนะนั่น
ประมาณว่า ข้าพร้อมยอมพลีได้ทุกอย่าง
เพื่อนางอันเป็นที่ร้ากกก อ่ะนะ



แต่พอเข้าสู่วงการปฏิบัติธรรม แล้ว
ดันไม่ยักกะ รู้สึกประทับใจในความรักความเสียสละ ของตัวละครเรยวุ้ย
หะแรก ตอนที่รับรู้ว่า คุณชายหัน ต้องใช้ ความสมหวังในรัก และ การจากไป
มาจำนำ ไว้ เพื่อแลกกับการทำให้เมียกับลูกของเขา ได้รับความสุขตลอดชีวิต



แว่บแรก นู๋บีก็รู้สึกว่า เฮ้ยยย ไอ้หมอนี่ มันเข้าใจคิด
ฉลาดในการทำธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยน ดีว่ะ
นาน ๆ ที จะมีคนยอมสูญเสียความสุข สมหวังของตัวเอง
เพื่อแลกกับ ความสุขของคนอื่น
เพราะส่วนใหญ่ คนที่เอาของมาจำนำ เนี่ย
ก็มักจะ จำนำสิ่งต่าง ๆ เพื่อ สนอง ตัวกรู ทั้งนั้น
ไม่ใช่ จำนำสิ่งต่าง ๆ เพื่อ เอาไปสนอง ของกรู เลย
ก็เพิ่งจามี อิตาคุณชายหัน เนี่ยแหล่ะ
ที่ทำอะไรผิดแผกแปลกไปจากชาวบ้านเขา
ดูแล้ว ก็น่าชื่นชมดีแฮะ ฯลฯ



ทว่า แว่บต่อมา นู๋บีก็กลับนึกขำ ง่ะ
ประมาณ ว่า เฮ้ยยยย จิง ๆ แล้ว ไอ้การหลวมตัว
ไปทำ ธุรกิจซื้อขายแลกเปลี่ยน กับ ไอ้โรงจำนำหมายเลข 8 เนี่ย
มันช่างเป็นการทำธุรกิจที่ทุนหายกำไรหด ไงก็มิรู้ว่ะ
ดูเผิน ๆ คล้าย ๆ จะเป็น ธุรกิจ ที่ตรงไปตรงมา
แต่ดูอีกทีไอ้โรงจำนำเนี่ย มันก็ชักจะเหมือนกับโรงปาหี่ ชั้นดี
ที่แสร้งเสก สร้างภาพมายา มาลวงตา
ให้เราหลงระเริงไปกับมันโดยอาศัยแรงขับเคลื่อนของกิเลสตัณหา ในตัวคน
จนทำให้เรายอมขายแม้กระทั่งวิญญาณ ให้กับปิศาจ ได้เลย ว่ะ



และถ้า ดูจุดจบสุดท้ายของ คนส่วนใหญ่ที่เข้าไปใช้บริการ
แทบจะหาคนที่มีจุดจบแบ่บ Win – Win Position
ตามแบบฉบับของ Game Theory ไม่ได้เลยอ่ะ
เผลอ ๆ ส่วนใหญ่จะต้องทนทุกข์ทรมาน มากกว่าเดิม
จนกลายเป็น โศกนาฏกรรม Zero Sum Game ซะด้วยซ้ำ



แม้แต่ คุณชายหันฯ ซึ่ง รับจ๊อบ เป็น เถ้าแก่ ของโรงจำนำเอง
หรือ กระทั่ง อาจิง ซึ่งเป็น เลขาของเขา ก็หนีไม่พ้นชะตากรรมเหล่านี้
เมื่อ คนทั้งคู่ พ่ายแพ้ต่อกิเลสตัณหา ยอมทำธุรกิจ กับโรงจำนำหมายเลข 8
โดย แลกสิ่งที่ตนมี กับ สิ่งที่ตนต้องการ ไปแล้ว
หลังจากนั้น คนทั้งคู่ต่างก็ ประสบชะตากรรม
ที่ไม่ได้จบแบ่บ แฮ่ปปี้เอนดิ้ง เรยแฮะ



เมื่อ คุณชายหันฯ ใช้ ความสมหวังในรัก และ การจากไป
มาจำนำ ไว้ เพื่อแลกกับการทำให้เมียกับลูกของเขา ได้รับความสุขสบายตลอดชีวิต
แต่ปรากฏว่า คุณนายหัน มั๊นก็มัวแต่มานั่งโศกเศร้า
คิดถึงแต่ผัวที่หายตัวไป แล้ว จมปลักอยู่กับฟามหลังอันหวานชื่น
ซะจนไม่ยอมตื่น มามองหาอะไรมาช่วยสร้างฟาม สดใสซ่าบซ่าน ให้กับชีวิต
สุดท้ายก็ต้องพบจุดจบ ด้วยการรอคอยผัว อย่างทุกข์ทรมาน
แล้วไปนอนตาย แบ่บตาไม่หลับ คาเตียงในโรงบาล



สิ่งเหล่านี้ ทำให้คุณชายหัน ต้องกลับมาตั้งคำถามกับตัวเองว่า
การที่เค้า ทำธุรกิจแลกเปลี่ยนกับโรงจำนำนั้น
มันเป็นการแลกเปลี่ยน ที่ยุติธรรม จริงหรือ ?
เขายอมเสียสละ ความสมหวังในความรัก
ยอมจากคนที่ตนรัก เพื่อมาเป็นเถ้าแก่
ให้โรงรับจำนำหมายเลข 8 ตามเงื่อนไข
แต่ทำไม ภรรยาของเขาจึงไม่มีความสุข
ตามที่เขาตั้งใจจะให้เป็น ?


นี่ นู๋บี ยังนึกขำ เรยนะ
ที่อาคุงชายหัน มันแปลกใจ
เรื่องที่ เมียของเขาปิดกั้นตัวเอง
ปฏิเสธที่จะยอมรับโอกาส ที่จะไปมีความสุขลัลล้า
กับ ผู้ชายคนอื่นที่ก้าวเข้ามาในชีวิต
แล้วเอาแต่จมปลักดักดาน
นั่ง ปั้นหม้อรอผัว แบ่บ อิเจ้ เดมี่ มัวร์ อ่ะ
เฮ้อออ เข้าใจแระ ทำไม เขาถึงว่า
Men are from Mar, Women are from Venus
(ผู้ชายมาจากดาวอังคาร ผู้หญิงมาจากดาวศุกร์ )





ส่วน อาจิง เมื่อยอมแลก ความสมหวังในความรัก เพื่อ ความสุขสบายตลอดกาล
อินังนี่ ก็ดันโง่ เสือกไปตาบอดเพราะฟามร้ากกกก ซะงั้น
แถมรักใครไม่รัก เสือกไปรัก เถ้าแก่
ผู้ซึ่งจำนำความรัก ไม่สามารถรักใครได้ ไปซะแร้วววววววว
เจ้าหล่อนจึงต้องทุกข์ทรมาน
กับการ รับประทานแห้วเป็นอาหาร สิค๊ะ




อืม... อิหม่ามี๊ รู้ปล่าว บทสรุปอันเป็นปัจฉิมบท
ของ เรื่อง โรงรับจำนำหมายเลข 8 เป็นยังไง
สุดท้าย เถ้าแก่หัน กะ อาจิง
ก็ดันฉีกสัญญากับโรงจำนำทิ้ง
แล้วก็แอบมารักกันเอง จนได้อ่ะ
แต่ถ้าจบแฮ่ปปี้เอนดิ้งอย่างนี้
มันก็ไม่ได้เป็น วรรรกรรมคลาสสิก อ่ะดิคะ


เพราะฉะนั้น คนเขียนมันจึง เขียนให้
นิยายเรื่องนี้ อวสาน โดยให้ คู่รักทั้งสองนี้
โดนเจ้าของโรงจำนำ สาปให้ พวกมันโดนไฟครอกตายตกตามกันไป
เพราะบังอาจไปละเมิดสัญญา และ ไม่รักษาสัจจะ ที่ให้กับ โรงจำนำหมายเลข 8




เฮ้อออ ดูแล้วก็เรยชักไม่แน่ใจแระ
ว่า ไอ้เจ้าโรงจำนำหมายเลข 8 เนี่ย
มันเป็น โรงธนานุบาล หรือว่า เป็น บ่อนคาสิโนถั่วโป
ที่เจ้ามือ คือผู้คุมเกมส์ และ ถือไพ่เหนือกว่า กันแน่ เน๊าะ
เพราะต่อหั้ย จะเดินเกมส์ไง ก็ต้องเป็นฝ่ายแพ้ อยู่ดี


นี่นู๋บี ยังรู้สึกขบขัน( แกมสมเพช )
ทั้ง คุณชาย และ คุณนายหัน เรยอ่า
อืม...ถ้าพวกมันทั้งสองตัวนี้ ( รวมทั้ง อาจิง ด้วย )
รู้จักหัดเจริญ สติปัฏฐาน 4 ก๊ะ พรหมวิหาร 4
ยึดหลัก อัตตาหิ อัตโน นาโถ และ กัมมุนา วัตตตีโลโก
ก้มหน้ารับกรรม ยอมรับยถาสภาวะ ตามความเป็นจริง
ตลอดจน ตระหนักถึง บัพเตอร์ฟาย เอฟเฟค แล้วไซร้
คุณชายหันก็ต้องทำใจยอมรับได้
เมื่อเมียและลูกของตัวเอง
ต้องมาตายจากไปตามกรรมลิขิต
ไม่ใช่พยามจะลักไก่ เอ๊ย พลิกชีวิต ฝืนโชคชะตา
ด้วยการมาจำนำความรัก แลกกับไสยเวทมนตร์ดำ
ที่จะทำให้ตนสมหวัง อย่างนี้



เฮ้อออ แต่ ดูซีรี่ซ์เรื่องนี้
แล้วนึกถึง คำถามนึงในแบบทดสอบทางจิตวิทยา
ที่เคยทำสมัยไปสอบสัมภาษณ์เข้าเรียนแพทย์ จังอ่ะ

ถ้าคุณมี แก้วสารพัดนึก คุณจะขอพรอะไร ?


หุหุ อิหม่ามี๊ รู้ป่ะ เพราะ คำว่า

อัตตาหิ อัตโน นาโถ

ที่นู๋บีเขียนโม้กวนซ่งติงกรรมการ ไปในกระดาษ คำตอบ นั่นแหล่ะ
ที่มีส่วนทำใหนู๋บีถูกย้ายคณะมาเรียนเภสัช แบ่บฟ้าผ่า
ทว่า จนถึงทุกวันนี้ สิบกว่าปีผ่านไปนู๋บีก็ยังยืนยันนะ
ว่า หากต้องไปทำข้อสอบนั่นอีก
นู๋บีก็ยังจะเขียนกวนซ่งติงคนตรวจ เหมือนเดิ้มมม
( ไว้ครึ้ม ๆ จะเม้าส์ หั้ยฟัง เอิ๊ก ๆ)






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:0:50:57 น.  

 
 
 
อิเสือแม่ลูกอ่อน ว่า...

มาวิเคราะห์ช่วยอั๊วเลี้ยงอาตี๋เป็ดน้อยของอั๊วหน่อยดิ
ลูกอั๊วเทวดามาเกิดรึป่าวอั๊วก็ไม่รู้นะ แต่อีชอบคุยเรื่องจินตนาการกะอั๊ว
อีเห็นอะไรก็เล่าให้อั๊วฟังหมดแหละ อั๊วเป็นนักฟังอย่างเดียว
แต่อั๊วมีสอนลูกอั๊วด้วยนะเว้ย ว่าอันไหนเรียกว่าของจริง อันไหนเรียกจินตนาการ
แต่เรื่องมังกรเนี่ยอั๊วไม่กล้าฟันธง ก็เลยยังไม่บอกลูก
เพราะถ้าบอกผิด เด๋วลูกมันจะว่าอั๊วมั่ว แล้วมันจะไม่เชื่อถือคำพูดของอั๊ว
อั๊วจะบอกเฉพาะเรื่องที่อั๊วรู้จริงเท่านั้น



ที่มาถามความเห็นลื้อนี่ อั๊วก็เอาไว้ประกอบการพิจารณาว่า
อั๊วจะวางท่าทียังไงกับลูกดี ลูกอั๊วอีก็เล่าให้อั๊วฟังคนเดียวแหละ
เพราะอีรู้ว่ามีแต่อั๊วที่ทนฟังอีกพูดโดยที่ไม่ว่าอะไร ไปพูดกะพ่ออีก็คงไม่ฟัง
ที่จริงเรื่องพวกนี้ อั๊วก็ไม่ควรมาเล่าให้คนอื่นฟังหรอก
เพราะอาจโดนหาว่าบ้าทั้งแม่ทั้งลูก อิอิ
อั๊วก็เล่าเผื่อๆไว้หวังฟลุ๊คว่าอาจเจอคนที่เข้าใจเรื่องพวกนี้
แล้วแนะนำวิธีสอนเด็กให้ถูกทางกะอั๊วได้

++++++++++++++++++++++++++


อิเสือกระดาษ ว่า...

อืม... นู๋บีก็รู้สึกว่า อิหม่ามี๊มีกุศโลบายในการ เลี้ยงลูกแหล่มดีออกนะ
โดยเฉพาะที่บอกว่า


แต่เรื่องมังกรเนี่ยอั๊วไม่กล้าฟันธง ก็เลยยังไม่บอกลูก
เพราะถ้าบอกผิด เด๋วลูกมันจะว่าอั๊วมั่ว
แล้วมันจะไม่เชื่อถือคำพูดของอั๊ว
อั๊วจะบอกเฉพาะเรื่องที่อั๊วรู้จริงเท่านั้น



อิหม่ามี๊ขราาา เลี้ยงลูกแบ่บ ตรงไปตรงมา
และ พร้อมที่จะเป็นทั้งแม่ และเป็นทั้งเพื่อน
คอยรับฟังความรู้สึกนึกคิดของฮาร์ทจัง งี้อ่ะ ดีแระจร้าาาา
ขืนไปเลี้ยงลูกด้วยลำแข้ง ออกกฏอัยการศึก เหย็ง ๆ
สั่งการลูกอย่างก๊ะตะหาน โน่นก็สั่งห้ามทำ นี่ก็ห้ามทำาาาาา โว๊ย
ประมาณว่า ลูกต้องฟังเรา ไม่ใช่เราไปฟังลูก อ่ะนะ
เด๋วฮาร์ทจัง ของนู๋บี อาจจะ กลายเป็นเด็กเก็บกด
มีปัญหาหัวใจ เหมือนอาตี่ตี๋ลูกไอ้โต มันก็ได้อ่า



โถ ๆๆ อภิชาตบง อภิชาตบุตร อะไรกั๊น
อิหม่ามี๊ขราาาาา จาไปเชื่อน้ำอิ๊ว ไร ก๊ะไอ้โตขี้โม้ มันนักล่ะคะ
หัดฟังหูไว้หู ซะมั่งก็ดีน๊าาาาาาาาาาาาาาาาาา
นี่ ๆ แน่ใจได้ไงอ่ะ ว่า อาตี่ตี๋อีจะชอบกระสวยอวกาศของนาซ่า
ชอบโมซาท ชอบบีโธเฟน ชอบเดินจงกรม นั่งมาธิ
แถมยัง รู้ใจตัวเอง และไม่ยอมเป็นตุ๊กตุ่นตุ๊กตา
ไม่ยอมเป็นดินน้ำมัน ให้พ่อแม่มันปั้นเล่นน่ะ


เฮ้อออ นู๋บีว่า นะ บางทีอาตี่ตี๋ที่น่าฉงฉาน
มันอาจจะกำลังปิดบังฟามต้องการที่แท้จริงของตัวเองอยู่ก็ได้ว่ะ
เฮ้อออ ก็อย่างที่เคยบอกอยู่บ่อย ๆ นั่นแหล่ะ ว่า

สิ่งที่เราเห็น อาจจะไม่ใช่สิ่งที่มันเป็น อ่ะนะ


เนี่ย บางที ที่วันเด็ก อาตี่ตี๋มันไม่ยอมไปดูรถถัง
แต่บอกว่าอยากไปดู กระสวยอวกาศที่นาซ่า อ่ะ
เด็กมันอาจจะพูดจาเอาใจพ่อมันก็ได้
เพราะแท้จริงแล้ว มันอยากไปที่นี่ตะหาก







แต่ถ้าอาตี่ตี๋มันบอกว่า วันเด็กปีนี้
มันอยากจาหั้ยป๊ะป๋าพาไปดูคาบาเร่ต์โชว์
และ โตขึ้นมันก็อยากไปประกวด มิสควีน ไม่ก็มิสทิฟฟานี่
แล้วเจริญรอยตาม พี่ปอย ตรีชฏา เผื่อจะได้ลงหน้า 1 มาลัยไทยรัฐ ฯลฯ







เหอะ ๆ ขืนพูดงี้ อ่ะนะ
อาตี่ตี๋ มีหวังเป็นได้โดนอีป๊ะป๋ามัน
เตะผ่าหมากจนโรคไส้เลื่อนกำเริบ แหง๋ ๆ
ไอ้หมอนี่ มันยิ่งชอบจ้ำจี้จ้ำไช
สอนแต่เรื่องหลักการและ หน้าที่ ต้องทำอย่างโง้น อย่างงี้
และ ชอบห้ามโน่นห้ามนี่ ตลอดเรยนิ



เฮ้ออ นี่ดีนะเนี่ย ที่ตอนโยน หุ่นทรานฟอร์มเมอร์ทิ้ง
อาตี่ตี๋ มันไม่เผลอหลุดปาก สารภาพฟามในใจออกไปว่า
ป๊าฮะ อั้วม่ะเคยอยากได้หุ่นทรานฟอร์มเมอร์ เรยนะฮ้าาาาา
เพราะนู๋ชอบตุ๊กตาบาร์บี้ มากฝ่าฮ่ะ
และ จิง ๆ แล้ว นู๋ก็ไม่ได้อยากจะเป็น แบ่บ โมสาร์ท ก๊ะ บีโธเฟ่น เรย
นู๋อยากเป็น แบ่บอิพี่คนนี้ ตะหากกกกกฮ่าาาาา





อืม...นี่ยังคิดเล่น ๆ เรยอ่า อิหม่ามี๊
ว่าถ้าอาตี่ตี๋มันเกิดไปตกหลุมรัก
ไอ้หนุ่มแถวสามจังหวัดชายแดนภาคใต้
แล้ว เข้าไปกราบตรีนพ่อ
ขอเปลี่ยนศาสนา พร้อมกับ บอกว่า

ป๊ะป๋าฮับ อั๊วสัญญาว่า ถ้าป๊ะป๋า อนุยาด
ตี่ตี๋เป็นทำตัวเป็นมุสลิมที่ดี จะทำละหมาดวันละ ห้าครั้ง
และ จะปฏิบัติตาม อัลกุรอาน อย่างเคร่งครัด
ด้วยการตั้งใจว่า ไม่มาเผาผีพ่อตัวเอง ฯลฯ



นี่ ๆ อิหม่ามี๊ ว่า ถ้าเกิดกรณีงี้ขึ้นมา
ไอ้ทึ้งมันจะใจนักเลง แล้วเคารพการตัดสินใจของ ลูกชาย
โดย เห็นแก่ฟามรักของหนุม ๆ
แบ่บที่แม่ไอ้แง่บ เคยทำไหมเนี่ย ?
นู๋บีว่านะ อย่างไอ้ทึ้ง นี่ มันคงจะเต้นเร่า ๆ
แล้วประกาศตัดพ่อตัดลูกก๊ะอาตี่ตี๋
โทดฐานที่ขัดใจป๊า บังอาจมาแหวกม่านประเพณี แหง๋เรย




อนึ่ง ถึง อาตี่ตี๋มันจะทนมือทนตรีน เอ๊ย โชคดี
รอดพ้นจากการเป็น อิแอบได้ จิงๆ อ่ะนะ
แต่ถ้า ไอ้ทึ้งมันยังโหลยโท่ย เลี้ยงลูกมัน
แบ่บติวเข้ม ตบถีบ ๆ ไม่ยอมฟังอีร้าค่าอีรม งี้นะ
โตขึ้น อาตี่ตี๋ อาจจะมีชะตากรรม แบบ ไอ้หนุ่มคนนี้ แน่ ๆ เรยว่ะ




เหอ...เหอ... อิหม่ามี๊ ลองถามป๊ะป๋าโจ ดิ๊ว่า
อยากหั้ย ลูกชายตัวเองกลายเป็นพ่อหนุ่มน้อยโคตรอัจฉริยะ วัยสิบห้าปี
ที่สามารถสอบเอ็นทรานซ์ เข้าคณะวิศวกรรมศาสตร์จุฬาได้
แล้วยังมีโอกาสเป็นนักศึกษาแพทย์วชิรพยาบาล ที่ได้ลงพาดหัวข่าวหน้าหนึ่ง
พ่วงด้วยปริญญา นิติศาสตร์บัณฑิต ( ตอนติดคุก ) อ๊ะปล่าวคร้าาาา
ถ้า ป๋าโจ อยากหั้ยลูกชายสุดเลิฟ เป็นงั้น นะ
ก็ลองทำตัวเลียนแบบพ่ออาตี่ตี๋ ก๊ะ พ่อหมอเสริม ดูดิ อิอิ







ชีวิตของนายเสริมค่อนข้างน่าสงสาร ค่อนข้างกดดันตั้งแต่เด็ก
เขาเป็นเด็กที่เก็บกดมาก ๆ ไม่ค่อยพูดไม่ค่อยจา
และบางครั้งเขาเงียบจนดูน่ากลัว ดูท่าทางคิดอะไรอยู่ตลอด
สาเหตุก็เนื่องมาจาก... พ่อของเขาเป็นคนที่เข้มงวด และเผด็จการมาก
บังคับลูกทุกอย่าง แม้แต่แม่ของเขาเองก็ไม่สามารถมีปากมีเสียงได้
และแม่ของเขาก็โอ๋เขามากเช่นกัน
เพราะสงสารลูกที่ถูกพ่อบังคับและตีมาตลอด





ฮือ ๆ ๆ อิหม่ามี๊ขราาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
ได้โปรดอย่าไปเชื่อคำเสี้ยมสอน ของไอ้ตี๋โตหื่น
แล้วเลี้ยงดูฮาร์ทจังแบ่บบ้องตื้น เป็นอันขาดดดด เชียวน้าาาา
นู๋บีม่ะอยากมีชะตากรรม อันน่าเอน็จอนาถ
ถูกฆ่าปาดศพแบ่บอีนู๋เจนจิรา อ่ะค่ะ ซิก ๆ
includes/images/smilies/icon_redface.gif>



เนี่ย ก็อย่างที่นู๋บี เคยแพล่มบอกอิหม่ามี๊ นั่นแหล่ะ
เลี้ยงลูก อ่ะ มันยากส์กว่าทำลูก ว่ะ
ไม่ใช่ เอะอะ ๆ ก็เลี้ยงลูกให้หัวแข็งโป้กเป็นหินชนวน
เลี้ยงมันด้วยลำแข้ง ตบถีบ ๆ
แล้ว รีบตะแบงบอกลูกมัน ว่า
ตรูข้านี้เป็นพ่อบังเกิดเกล้า นะว้อย
เจ้าต้องคอยเงี่ยหูฟังพ่อ
ไม่ใช่ให้พ่อต้องมานั่งฟังเจ้า


อะโหย ขืนหลับหูหลับตา ทำแบบนี้อะนะ
พอเด็กมันปีกกล้าขาแข็ง
ตรีนโตกว่าเรา ขึ้นมา เมื่อไร
เด๋วมันอาจจะมาสะสางหนี้แค้นทบต้นทบดอก
แบ่บ อ้ายควายนอกคอกที่ชื่อ ทรพี หร็อก



นี่ ๆ...จะบอกอะไรหั้ยน้าาาา อิหม่ามี๊
การเลี้ยงลูกเนี่ย มันต้องอาศัย ภูมิกึ๋นขั้นเทพ
ในแบบฉบับอิปลาไหลตัวแม่ อ่ะจร้าาาา อิอิ
ต้อง รู้จัก เอาใจพวกเขามาใส่ใจเรา และ รู้วิธีผ่อนสั้นผ่อนยาว
ต้องหันหน้าเข้าหากัน แล้วใช้ แทคติค ดึงเอามัน มาเป็นพวกของเราด้วย



อืม...จะยกตัวอย่างให้เห็นภาพ นะ
อาทิเช่น ถ้าฮาร์ทจัง มันอยากรู้อยากเห็น
ทะลึ่งเอานิ้วมือไปแหย่ปลั๊กไฟเล่น เนี่ย
อิปลาไหลก็อย่าเพิ่งหัวเสีย ไปวีนใส่
แล้ว คว้าไม้เรียวมาฟาดลูกไป ร้องไห้ไป
โดยไม่ยอมพูดจา แจกแจงเหตุผลล่ะ
แล้วก็ไม่ต้องไปอ้างว่า มันเป็นวิธีการสอนของหม่ามี๊
ที่เป็นมรดกตกทอดประจำตะกูลที่สืบทอดมาเจ็ดชั่วโคตร
ตั้งแต่สมัยรุ่นอาเหล่าม่า เหล่ากงด้วย



หูยยย โลกนี้มันยุคไซเบอร์ โลกาภิวัตน์ แล้วนะเธอว์
จะละเมอไปยึดติดกะกรอบและกฏแบ่บเดิม ๆ ได้ไงฟระ
อะไรที่มันเป็นเรื่อง โบราณบานบุรี เก่าคร่ำครึนัก
ก็โยนทิ้งขยะ แล้ว รีเอนจิเนียริ่ง ซะดิ



าเรารู้ถึงเหตุที่เป็นรากเหง้าของการกระทำของลูก
ว่าทำไมมันถึง ทะลึ่งเอามือไปแหย่ปลั๊กไฟ ( เพราะสมัยเด็กเราก็เคยแหย่เหมือนกัน )
และ มีสติ รู้ถึงเหตุปัจจัย ว่าทำไมเราเกิดโทสะโมหะ คว้าไม้เรียวจะตีลูก
เราก็จะเกิดสัมปชัญญะ หาทางออกของปัญหา ได้เองอ่ะ


ปัญหาคือ เด็กมันอาจจะตาย5 ได้ จากความไม่รู้ เลยเอามือไปแหย่รูปลั๊กไฟ
ส่วนไอ้เราเองก็ไม่พอใจที่มันไปทำระยำอย่างนั้น
เพราะ สิ่งที่มันทำ อาจเป็นเหตุปัจจัย
สร้างความทุกข์ใจ และ ความเดือดร้อนลำบากมาหั้ยเรา ฯลฯ
วิธีแก้ที่ดีที่เข้าท่าวิธีหนึ่ง ก็คือ หากเด็กมันทำเพราะความไม่รู้
ถ้าอธิบายแล้วไม่ฟัง ถ้ามันอยากรู้นัก
เราก็ต้องทำให้มันเห็นดำรู้แดง กันไปเลยดิ๊
ว่า ถ้ามันเอามือไปแหย่ปลั๊กไฟ มันชะตากรรมเป็นไง
แล้วเวลาโดนไฟดูดชักแดร่ก ๆ เนี่ย มันสนุกไหม ?
อนึ่งพอปล่อยให้มันโดนไฟดูดจนสาแก่ใจ เอ๊ย จนได้เวลาอันสมควรแระ
เราจึงค่อย ๆ บรรจงถีบให้นิ้วมันหลุดออกจาก รู ปลั๊กฮ่ะ
หุหุ ฟังดูออกจะ เป็น อิโหด ที่ซาดิสม์ และเลือดเย็น เหมือนกันนะ
แต่ว่า กะอีแค่ให้ลูกมันโดนไฟดูดแป๊บ ๆ แค่ทีสองที
ลูกมันก็ไม่ถึงกับตายหรอกจร้าาา
(นู๋บีเคยโดนมาแระ ยังรอดมาจนถึงป่านนี้ เยยยย อิอิ)




แต่นู๋บีว่า นะ อย่างอิหม่ามี๊อ่ะ คงทำไม่ได้หรอกมั้ง
คนที่ยึดมั่นถือมั่นก๊ะ ของกรู ยิ่งกว่าตัวกรู เนี่ย
แค่อิน้องฮาร์ทมันเริ่มโดนไฟดูดจนดิ้นปัด ๆ
อิหม่ามี๊ก็คงอึดอัด จนอกแทบจะระเบิดชักแด่ก ๆ ตายไปก่อนลูกชาย ซะด้วยซ้ำ
ก็ ตามสัญชาตญาณของคนเป็นแม่ นั่นแหล่ะ



แต่อย่างน้อยด้วยวิธี หนามยอกเอาหนามบ่ง แบบนี้
เด็กมันก็จะหลาบจำเลิกกระทำเรื่องง่าว ๆ ซ้ำซาก ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ปัญหาประเภท หน้าไว้หลังหลอก
ต่อหน้ามะพลับลับหลังตะโก หรือ สมภารกินไก่วัด ก็จะไม่เกิด
เพราะเด็กมันจะเกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเองไง
ว่าสิ่งไหนมีโทษ สิ่งไหนมีประโยชน์ กับมัน



สิ่งที่มีโทษ คือ ถ้าการเอามือไปแหย่รูปลั๊กไฟ กรูอาจจะตาย 5 ได้
ส่วนสิ่งที่มีประโยชน์ คือ ถ้าทำอะไรที่อยู่ในสายตาผู้ใหญ่ แล้ว ก็จะไม่ตายเพราะไฟดูด
เพราะหาก เกิดไฟดูดขึ้นมาจิง ๆ
เด๋วผู้ใหญ่มันก็จะช่วยเอาตรีนถีบตรูด ช่วยเราออกมาเอง เอิ๊ก ๆ





อืม...การเลี้ยงลูก มันก็เหมียนการบริหารประเทศ นั่นแหล่ะ นั่นแหล่ะ
ขืน มัวทำตัว แข็งนอกอ่อนใน เป็นยัยบัวเกี๋ยงเจ้าน้ำตา
ไม่มีความเด็ดขาด ไม่หันหน้าเข้าหากัน ไม่เปืดใจคุยกัน
มันก็จาเกิดฟามลู้สึกค้างๆคา ๆ อิหลักอิเหลื่อลำบากใจ
และ สะสมเป็นความรู้สึกผิดรู้สึกไม่ดีต่อกัน ได้
แล้วงี้จะจบแบ่บแฮ่ปปี้เอนดิ้ง ได้ไงฟระ
มันต้อง เปิดอกคุยกัน แล้ว
แข็งในเรื่องที่ควรแข็ง อ่อนในเรื่อที่ควรอ่อน
กะล่อนพอประมาณ และ รู้จัก วิธีบริหารจัดการคน เฟร้ยหุหุ




นี่แหล่ะ มันต้องทำงี้สิ มันถึงจะจบแบ่บแฮ่ปปี้เอนดิ้ง
ตามแบ่บฉบับนิยายกำลังภายใน ของ หวงอี้
แถมพระเอกยังไม่ต้องอาภัพอับโชค
จนเป็นโรคตับแข็งตาย แบบไอ้ขี้เมาที่ชื่อโกวเล้งด้วย



แต่ถึงงั้น มันก็ไม่ได้ หมายความว่า
พ่อแม่ทุกบ้าน จะต้องยึกหลักการเดียวกันก๊ะที่อินังเทียวเสี้ยมมัน ยุแยง นะ
อันนี้ บอกให้ฟังเป็น คอนเซปต์ เป็นไอเดีย เฉย ๆ
ประเด็นหลัก มันอยู่ที่ เราต้องเน้นการยอมรับฟังความคิดเห็นของลูก
และ เมื่อมันจะเตลิดเปิดเปิงออกนอกลู่นอกทาง
เราต้องมีเทคนิคการตะล่อมมัน ให้กลับเข้าคอกด้วย
การบริหารเสน่ห์ยังไงให้ได้ใจลูก แล้วสามารถ จูงจมูก
สั่งให้มันเดิน หันซ้ายหันขวาได้ เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้ เนี่ย
เรื่องนี้ มันก็สอนกันลำบากนะ ก็อย่างที่บอกแหล่ะ
ของงี้มันขึ้นอยู่กับ พรสวรรค์ และ ภูมิกึ๋นส่วนบุคคล อ่ะค่ะ อิอิ




แต่เพื่อเห็น แก่ความเป็น แม่ปั๋วลูกไป๊ กันมาหลายปี
เดี๋ยว นู๋บี จะแนะนำ แทคติค เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้อิหม่ามี๊ น้าาาาาา
จาได้ไม่กลายเป็นพวก ข้าคือพ่อแม่เทวดา
เอะอะก็จะเพ่งโทษลูกตะพึดตะพือ แบ่บพ่ออาตี่ตี๋



เออ มีอีกอย่าง นู๋บีจะบอกให้ ก็คือ
การที่อิหม่ามี๊ยอมรับฟังฟามคิดเห็นของลูก เนี่ย
อิหม่ามี๊ ม่ะต้องกลัวจะเสียหมาตอนแก่ แบ่บ พ่อไอ้ปลาบู่ มันน้าาาา
ก็พวกเรามัน พวกปลาไหลขงเบ๊ นี่คร้าาาาา
ระดับสติปัญญาของพวกเรา มันมีราคาตั้งสิบบาท ( ทองคำ )
ม่ะใช่ พวกสมองเท่าจู๋จุลินทรีย์ แบ่บไอ้ตี๋ซื่อบื้อมันนิ
ดังนั้น เวลาที่เรา จะทำอะไร เราก็ต้องรู้จัก ใช้โยนิโสฯ แอนด์ สัมมาฯ ทั้งหลายแหล่
ไปพิณาถึงความเหมาะสมของเหตุปัจจัย อันเป็นสภาวะแวดล้อมด้วย
จึง จะปรับใช้ ได้อย่างถูกจังหวะ และ กาลเทศะ


ถามจิง อิหม่ามี๊ ถ้าเกิดเชื่อน้ำลายไอ้โซ๊ยตี๋ โดยม่ะโยนิโสฯ หั้ยดี ๆ
หากปวดท้องขรี้ แล้ว ไม่กล้ากระเตงลูกใส่เอวเข้าไปขรี้ด้วย
ถ้าบังเอิญดันเคาระห์หามยามซรวย เจอ เหตุการณ์เงี๊ยะ มันจะคุ้มกันป่ะ ?



ดังนั้น (ถ้าจำเป็นจิง ๆ )
เมื่อปวดท้องขรี้ ก็หยวน ๆ กระเตงลูกใส่เอวเข้าไปขรี้ด้วยเต๊อะ
มันก็ไม่เสียหายอะไรนักหนาหรอกเธอว์ แล้วก็ม่ะต้อง วิตกจริตคิดมาก
ว่าเด๋วเด็กเสียสมดุย์เรื่องของประสาทการดมกลิ่น
อีกหน่อยของเหม็นจะกลาย เป็นของหอม
ของไม่ควรกินจะกลายเป็นชวนกิน บลา ๆๆ
แบ่บที่ ไอ้โซ๊ยตี๋ มันวิตกจริต หรอกนะ



แหม ๆ ก็เราม่ะใช่พวกแป๊ะยิ้งตั๊มไบ๊ แบ่บพ่ออาตี่ตี๋ นิคะ
คนสวยปัญญาดี มีภูมิกึ๋น อย่างพวกเรา น่ะ
สามารถ สอนเคล็ดวิชา ห้ามกามคุณทั้ง 6 และ อารมณ์ทั้ง 7
ให้เด็ก มันเก็ทได้เสมอโดยที่ ประสาทการดมกลิ่นไม่เสียสมดุย์ ด้วยนะเธอว์
เฮ้ออ ถ้าจำเป็นต้องกระเตงลูกไปนั่งขรี้
ก็ต้องรู้จักสอน หั้ยลูก มัน รู้จัก ปลงอสุภะ
และหัดเจริญสติปัฏฐานสี่ กันแบ่บสด ๆ
ตอนที่มันยืนดมขรี้ ดมตดของเรา ด้วยดิ๊ อิอิ


เนี่ย จากนั้นพอเราขรี้เสร็จ แระ
เราก็แพล่ม สอนเรื่อง 24 กตัญญู คุณธรรมพันปี ให้มันฟัง
พร้อมทั้ง สั่งหั้ยมัน เอากระดาษทิชชู มาเช็ดตรูด
เพื่อ แสดง กตเวทิตา หั้ย อิหม่ามี๊อย่างเราโตย



ต่อไปมันจะได้เพิ่มพูนทักษะวิชา ส.ป.ช. ส.ล.น และ ก.พ.อ.
รู้จักใช้ กึ๋น แยกเวทนาทางกาย ออกจาก เวทนาทางใจ ได้ตามจริง
ว่า สิ่งที่เป็นของเหม็น แล ของหอม มันก็ย่อมเป็นของมันเช่นนั้นเอง
สูดกลิ่นเข้าไปแร้ว เมิงจะกระแดะบีบตะหมูก เหย็ง ๆ ไปทำติ้งอะไร
อิอิ เราต้องฝึกให้เด็กมันคุ้นชินกับสารพัดกลิ่น นะอิหม่ามี๊
มันจะได้มีภูมิต้านทาน ไม่งั้น มันจะหยิบโหย่ง เหยียบขี้ไก่ไม่ฝ่อ
เวลาที่ต้องมาเช็ดขรี้เช็ดเยี่ยวหั้ยพ่อหั้ยแม่ มันจะได้ไม่สำออย อิด ๆ ออด ๆ เอิ๊ก ๆ




เออเนี่ย ถ้า อิหม่ามี๊ ซื้อหุ่นทรานฟอร์เมอร์มาให้ลูกเล่น
แล้ว ฮาร์ทจัง มันโยนทิ้งหน้าตาเฉย
พร้อมกับ นึกครึ้มบอกว่าจะเอา อัลลอยมาสร้างหุ่นเอง มันจะเอาไว้ทำงานบ้าน
อิหม่ามี๊ ก็อย่าเพิ่งไปด่าลูกฉอด ๆๆ นะ
ว่า ทำไมเด็กมันคิดได้แค่นี่ โง่จริงๆ
แต่ อิหม่ามี๊ต้อง ย้อนกลับมาทบทวนบทบาทตัวเองซะก่อน
( ตาม กระบวนการของ อิทัปปัจจยตา )
ว่า ตรูเป็นพ่อเป็นแม่ประสาอะไรฟระ
ทำไมถึงสอนลูก แล้วมันคิดได้ตื้นเขิน ถึงเพียงนี้ วะ



ทว่า อิหม่ามี๊ อย่าเพิ่ง วิตกจริตคิดมาก
เมื่อต้องรับมือกับไอเดียบรรเจิด
และ ความก้าวร้าวแบ่บไม่รู้จักถนอมน้ำใจชาวบ้านของลูกชายเรยนะ
ถ้าฮาร์ทจัง มันโยนหุ่นทรานฟอร์เมอร์ ทิ้งเมื่อไร
อิหม่ามี๊ก็ตบกระโหลก เอ๊ย เลคเชอร์ให้มันฟัง เรยฮ่ะ
ประมาณว่า


แมร่ง ไอ้เด็กคนนี้ ช่างไร้เดียงสา
และไม่รู้จักเทคนิคการพลิกแพลง เอาซะเรย
ชีวิตมันไม่ได้ตรงไปตรงมาเหมือนประมวลกฏหมายอาญา นะจ๊ะ
ดังนั้น เราต้องรู้จักใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ให้เกิดประโยชน์สูงสุด
ตามหลักเศษสาด เหมียน อาเจ่กเสกสรร ด้วยว่ะ


ไม่ใช่พอ ได้อะไรไม่ถูกใจจ๊อด ก็โยนทิ้งขยะไปซะหมด
โปรดนึกถึงใจคนให้ด้วย เขาอุส่าควักตังค์ซื้อมาให้ด้วยความหวังดี
แต่ดันเสือกโยนของที่เขาตั้งใจจะให้ทิ้งหน้าตาเฉยงี้ มันไร้มารยาท ใช้ได้ที่ไหนกันวะ
แล้วถ้าอยากได้ อัลลอย มาสร้างหุ่นทำงานบ้าน จริง ๆ อ่ะนะ
ก็หยอดกระปุกเก็บตังค์ ไว้ซื้ออัลลอย เองสิวะ
ป๊ะป๋าเมิงไม่เคยสอนหรือไง ว่า ถ้าหากอยากได้อะไร
มันต้องรู้จัก อัตตาหิ อัตตาโน นาโถ ด้วย เหอ...เหอ...



เออ แล้วระหว่างที่ ยังเก็บตังค์ค่าอัลลอย ไม่ครบเนี่ย
ก็รู้จัก เอาไอ้หุ่นทรานฟอร์เมอร์ ที่อิป๊า หั้ย
มาเพิ่มมูลค่า แปลงสินทรัพย์ให้เป็นทุน
ด้วยการ รู้จักสร้างกำไรจากโอกาส แบ่บชาวยิวซะมั่ง
อาทิเช่น ลองเอาไอ้หุ่นเนี่ย ไปเป็นเหยื่อล่อ
หลอกใช้ไอ้เด็กข้างบ้าน ให้มาช่วยทำงานบ้านแทนเรา ด้วย มันถึงจะเจ๋ง
( วิธีนี้ สมัยเด็ก ๆ คุงน้องชายมันเคยเอามาหลอกใช้นู๋บีว่ะ เอิ๊ก ๆ )




อ้อ แล้วถ้าฮาร์ทจัง มันเปลี่ยนใจ ไม่อยากเป็น นักกีตาร์ต๊อกต๋อย
แต่นึกครึ้ม อยากเป็น แบบโมสาร์ท หรือไม่ก็บีโธเฟน
อิหม่ามี๊ต้องรีบทำตัวเป็นกุนซือ แนะนำ อิน้องฮาร์ท ด้วยน้าาาา
ว่า วุ้ยคุณลูกขราาาาาาา เป็น โมสาร์ท อิหม่ามี๊ยังพอรับได้นะ
เพราะถึงมันจะบริหารเรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ได้โหลยโท่ย มากมาย
จนช่วงชีวิตหนึ่ง แทบจะกัดก้อนเกลือกิน
แต่ชีวิตมันก็ยังไม่อาภัพอับโชคเหมือน ไอ้เจ้าบีโธเฟน อ่ะ
ไงซะ ฮาร์ทจังก็ อย่าได้ใฝ่ต่ำอยากเป็น แบ่บบีโทเฟ่น เรยนะจ๊ะ
ลู้ปล่าว การที่จะเป็นแบ่บ บีโธเฟน ได้เนี่ย
นู๋จะต้องเป็นเด็กที่มีครอบครัวเหมือนแพแตก
มีพ่อเป็นไอ้ขี้เมาหยำเป เป็นเผด็จการทางความคิด
ชอบบงการชีวิตคนอื่น ชอบขังลูกชายไว้ในห้องกับเปียโน
รวมทั้งชอบปลุกลูกมาซ้อมดนตรีตอนดึกๆดื่น ๆ ด้วยอ่ะจ้ะ


ซึ่ง อิหม่ามี๊คิดว่า ป๊ะป๋าโจผัวผู้ธรรมะธรรโม ของตัวเอง
คงจะไม่สามารถทำตัวเป็น คุณพ่อจอมโหดอย่างงั้นได้อ่ะจ้ะ
( ถ้าเป็นพ่ออาตี่ตี๋ ค่อยว่าไปอย่าง เอิ๊ก ๆ )
ดังนั้น ลูกชายของอดัมส์แฟมิลี่ อย่างฮาร์ทจัง
คงจะไม่มีวาสนาได้เป็น แบบบีโธเฟ่น ได้หรอกจร้าาา

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:0:52:04 น.  

 
 
 
เออ อิหม่ามี๊ขราาา แล้วไอ้เรื่องเล่นเกมส์เนี่ย
ถ้านึกครึ้ม ๆ ก็ซื้อหั้ยลูกเล่น ไปเต๊อะ จะได้รีแล๊กซ์ซะมั่ง
แล้วก็ไม่ต้องกัวโดนลูกมันค่อน ว่า
ไร้สาระ ถ้าว่างมากก็ไปเดินจงกรม ทำสมาธิ
จะได้มีปัญญา หาอะไรที่มันสร้างสรรค์สังคมมาให้มันทำ ฯลฯ ด้วย



อะโหย อิหม่ามี๊ก๊ะป๋าโจ น่ะ เป็นครอบครัวสุขสันต์น้าาาา
ไง นู๋บีก็เชื่อนะ ว่า อิหม่ามี๊ สามารถสอนลูกได้ดีฝ่าพ่ออาตี่ตี๋ง่ะ
เพราะ อิปลาไหลอย่างหม่ามี๊ น่ะ
มันม่ะใช่พวกดีแต่ปาก ที่สักแต่ว่า
จำน้ำลายหลวงตาไต๋ มาสอนลูก นี่คร้าาา
จะได้ ตันตึ้บ อยู่ก๊ะแค่ หลักการที่ว่า
การทำงาน คือการปฏิบัติธรรม



เนี่ยพอโดนลูกย้อนเอาสดๆ ก็เรยหมดปัญญา
ไม่สามารถหาคำแนะนำเจ๋ง ๆ มาชี้ทางสว่างให้ลูกตัวเอง ได้
เฮ้ออ แต่พูดก็พูดเหอะนะ อิหม่ามี๊ขราาาา
สงสัยที่คนบางคนมันมีโอกาสได้บวช ตั้งหนึ่งพรรษา เนี่ย
พอขึ้นเขาไปปลูกสมุนไพร มันก็คงมัวแต่ไปทะเลาะกับไส้เดือนดิน
ครั้นพอหลวงตาไต๋ใช้ให้มันไปล้างห้องส้วม
มันก้อคงจะ จ้องแต่จะหาเรื่องก๊ะ หนอนพยาธิล่ะมั้ง
มันก็เรยไม่เคยเข้าใจเรยว่า


ไม่เพียงแต่การทำงาน เท่านั้น ที่เป็นการปฏิบัติธรรม
แต่ ทุก ๆ การกระทำ ของเราต่างหาก คือ การปฏิบัติฯ
การทำงานก็ดี การนั่งฟังเทศน์ก็ดี การเล่นเกมส์ก็ดี
ล้วนมีสาระธรรมให้ค้นหาทั้งนั้น
ทว่าคนบางคนก็ง่าวเกินไป
เรย อาภัพ เจอแต่เศษขยะ
หาได้เจอกับ สาระ ไม่


ขนาดซื้อเกมส์หั้ยลูกเล่น ก็ยังสอนลูกไม่เป็น
ทำหั้ยลูกเห็น ธรรมะในเกมส์ออฟไลน์ ไม่ได้
เอะอะก็จะให้ลูก นั่งมาธิ เดินจงกรม ตามกฏมณเฑียรบาล ไปจนตาย
แมร่ง ช่างเป็นป๊ะป๋าที่ ไม่รู้จักพลิกแพลง โนคลาส ไร้รสนิยม เจงๆว่ะ
โถ ๆๆ มีพ่องี้นี่เอง มิน่าล่ะ อาตี่ตี๋ถึงสอบได้ที่เกือบบ๊วย เหอะๆ



นี่ ๆ อิหม่ามี๊ขราาา อย่าได้เอาเยี่ยงอย่างไอ้ตี๋โตหื่นมันน้าาาาา
ถ้าลูกมันเกิดข้อกังขา หาสาระไม่เจอ เวลาเล่นเกมส์
ตัวแม่เรื่องเกมส์ออฟไลน์ อย่างอิหม่ามี๊
ต้องอธิบายหั้ยฮาร์ทจัง ฟังโตยเน้อออ
ว่า การเล่นเกมส์ เนี่ย มันเป็นการฝึกปฏิบัติไง ?
และ การปฏิบัติสไตล์นี้ มันเจ๋ง ฝ่าการนั่งมาธิ เดินจงกรมไง ?



อิอิ หม่ามี๊เชื่อป่ะ ว่านู๋บีเคยใช้การเล่นเกมส์
มาเป็นตัวช่วยในการฝึกปฏิบัติ ด้วยแหล่ะ
สมัยก่อน มีอยู่ช่วงนึง นู๋บีบ้าเล่นเกมส์โขกหมากฮอส ก๊ะคอมพิวเตอร์ อ่า
แหม๊ ยิ่งถ้าวันไหนเล่นชนะ คอมฯได้ สามตารวด อ่ะนะ
หูยยยย ใจมันจะฮีกเหิม และพองโต มากมาย เรยอ่า


ประมาณว่า เออเฮ้ยย หนึ่งในตองอูอย่างกรูนี่ ก็เจ๋งวุ๊ยยย
ที่สามารถชนะ สมองกลขั้นเทพอย่างคอมพิวเตอร์ ด้ายยยยยย
ช่างเป็นเกียรติเป็นศรี แก่วงศ์ตระกูล เจง ๆ เยยยยย ฯลฯ



ตอนนั้น ยิ่งเล่นยิ่งมันส์ ยิ่งมันยิ่งเล่นส์
ยิ่งแพ้ก็ยิ่งต้อง ถ่างตาเล่นแก้มือ
จนกว่าจะชนะคอม ได้สามตารวดดด
อืม...อารมณ์มันจะร้อน ๆ รุม ๆ เหมือนมี ไอ้ตัวมานะมาเกาะที่หัว
ประมาณเดียวกับเวลาที่เสียไฮโลถูกผีพนันมันเข้าสิง
แล้ว พย๊าม หาทางจะถอนทุนคืน เรยมั้ง
เนี่ยนั่งโขกหมากฮอสกับคอมฯ ตั้งแต่ หัวค่ำ ยันตีสองตีสาม
ก็เคยมาแร้วนะ อิหม่ามี๊อะโหยยยย เล่นเอาฟ้าเหลือง
สะโหลสะเหลไปทำงานตอนเช้า เรยว่ะ เอิ๊ก ๆ



จนกระทั่ง เริ่มเข้าสู่วงการปฏิบัติ
ด้วยการเจริญสติปัฏฐาน นั่นแหล่ะ
นู๋บีถึงพอจะแงะเจ้าตัวมานะออกจากหัวจากหูได้มั่ง แหะ ๆ
เวลานึกครึ้ม นั่งโขกหมากฮอสกับคอม
เมื่อความรู้สึกอยากจะเอาชนะ มันแพลมหางมา
ตอนเรากะลังจวนเจียนจะแพ้ ก็เห็นเร็วขึ้น
ฉุกคิดได้เร็วขึ้น และวางสภาวะอารมณ์นั้นได้เร็วขึ้นอ่ะ
เมื่อเล่นชนะ จิตก็สำรวมกิริยา ไม่สำแดงอาการดีใจจนเต้นแร้งเต้นกา
และ เมื่อแพ้ ก็ไม่ได้ดิ้นเร่า ๆทุรนทุราย จะเป็นจะตาย จะเอาคืนเสียให้ได้



สิ่งเหล่านี้ ทำให้ นู๋บีสามารถเข้าใจ
และ เรียนรู้ วิธีบริหารจัดการกับเจ้าตัว มานะได้ดีขึ้นว่ะ
เพราะเรา รู้ว่า การเล่นเกมส์ เพื่อฝึกสมองประลองปัญญา
มันต่างกับ การเล่นเกมเพื่อเอาชนะคะคานยังไง
มันต่างกันตรงที่ การรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย ไง


แถมบางครั้งนะ เคยเล่นหมากฮอสฯ ไป
ก็มีความรู้สึกสงบแปลก ๆ น่ะ
ยามที่ขยับเม้าส์ โขกหมากฮอส ก๊ะคอม ฯ
จิตมันจะนิ่ง ดิ่ง ลึก และ สงบนิ่ง มากมาย
ฟามรู้สึกมันเหมือนตอนที่กำลังเดินจงกรมเสร็จใหม่ ๆ เรยอ่ะ อิอิ



เออ นี่ ๆ อิหม่ามี๊ ลองถามป๊ะป๋าโจดิ๊
ว่า ทำมาธิ จนได้ ชาน 1 , 2 , 3 มาก็บ่อยแล้ว
เด๋วนี้ เวลาเล่มเกมส์เนี่ย เคยมีอาการแบ่บนู๋บีอ๊ะปล่าวววว
หรือว่า ปํะป๋าเรา ลู้แต่เทคนิคแกล้งเล่นเแพ้
เพื่อเอาใจคุณนายเน่า มันว้าาา ฮา ๆ



ว่าแต่ อิเจ้รอง ว่า อิป๋าโจ กะ นู๋บี เนี่ย
มีอะไรที่คล้ายๆกัน หลายอย่าง จิง ๆ อ่ะ
แหม ? นู๋บีนึกว่า ป๋าแกน่าจะคล้ายไอ้ตี๋โตหื่นมากกว่านู๋บี ซะอีก
เฮ้ออออ อิหม่ามี๊ขราาาา งั้นพบกันคนละครึ่งทางแระกัลน้าาาา
เอาเป็นว่า นิสัยอันไหน ของป๋าโจที่มันแหล่ม ๆ แจ่ม ๆ
( ทั้งเรื่อง ศีล5 มีเมตตา มีความละอายแก่ใจ ฯลฯ)
อันนี้ สัณนิษฐานว่า ป๋าแกเหมือนนู๋บีฮ่ะ



ส่วนนิสัยอันไหน ที่มันโหลยโท่ย ห่วยแตก
( อาทิเช่น อายุมากปากจัด กัดไม่ปล่อย เจ้าคิดเจ้าแค้น ขี้โอ่ขี้โม้ฯลฯ)
อันนี้น่าจะเหมือนไอ้ตี๋โตหื่น นะ อิอิ
อืม...แต่ถ้าจะหั้ย ฟันธงกันจิง ๆ
ว่า ป๊ะป๋าโจเหมียนครายก็ต้องลองหั้ย ป๊ะป๋า ตอบคำถามนี้ อ่ะ

----------------------------------------
หากคนชอบปลูกต้นไม้อย่างป๋าโจ
เจอะเนื้อนาบุญแจ่ม ๆ แต่ว่า พอ ป๋า ตั้งค่ายขุดหลุม
ตระเตรียมจะปลูกดอกบัวผ่องเป็นยองเป็นใย
ด้วยการ ให้และ รับธรรมะ กะมันอยู่เพลิน ๆ







ก็ให้เผอิญว่า เมล็ดพันธุ์ ที่ป๋า จงใจหว่านพืชหวังผล เอาไว้นั้น
ดันสยายกลีบกลายเป็น อิดอกบัวผุด ขี้บ่นเอาแต่ใจ แทน ซะนี่





ปุจฉาาาาาา ถามว่า ถ้าป๊ะป๋าโจ เจอเหตุการณ์แบบนี้
ป๊ะป๋า โจจะทำไงคร้าาาาาาาา
จายังคอยประคบประหงม และเอ็นดูมันอยู่
เหมือนกับที่ เจ้าชายน้อยกระทำกับเจ้าดอกกุหลาบอ๊ะปล่าวคร้าาา
หรือว่า ป๋าจะ กระทืบ ๆๆๆ ตบถีบ ๆ แล้วรีบขุดหลุมฝังกลบ
เพื่อ ฌาปนกิจศพ เจ้าดอกไม้ที่น่าฉงฉาน อ่ะคร้าาาา



เฮ้ออออ นู๋บีว่าน้าาา ผู้ชายที่แสนจะอ่อนโยนกับต้นไม้และ สารพัดสัตว์ อย่างป๋าโจเนี่ย
คงไม่ทำตัวเป็นคนใจร้ายใดำ แบ่บไอ้ตี๋จอมโหดมันหรอกมั้ง
หูยยยย เนี่ย ม่ะอยากบอกเรยว่า เท่าที่ฟัง ๆ อิปลาไหล
มันเอา ตำนานร้ากเกมส์ออฟไลน์ ของโคตรไอ้เข้ มานินทา
นู๋บีก็ซูฮก ป๊ะป๋าโจ ม๊ากกกก มากกกก เรยง่ะ



ไม่ได้ ปลื้มป๋า เรื่องที่ ไม่ยอมนอกใจภรรยา
แอบหนีไปเที่ยวโรงน้ำชา หรอกน้าาา
เพราะนู๋บีลู้ดี ว่า ที่ป๋าแกทำไปงั้น
มันไม่ใช่คิดจะซื่อสัตย์ก๊ะเมียตัวเอง
หรือ เหม็นขี้เต่าหมอนวด เหมือนไอ้สมภารกินไก่วัด หรอกนะ
แต่เป็นเพราะว่า อิป๋ามันกลัวเอดส์จนหำหด ตะหาก ว่ะ ฮา ๆ
เนี่ยคาดว่า คงจะฝังใจ เรื่อง รอยรักรอยผื่นจากอิสาวโรงนวด
จนขยาดไม่กล้าย่างกรายเข้าไป จุ๊กกรู ในนั้นอีกเยยยย เหอ...เหอ....



อืม...แต่ถึงงั้น นู๋บีก็ยังซูฮกป๊ะป๋าโจ อยู่ดีนะ
ขนาดอยากจะมีกิ๊ก ยังต้องเข้ามาขออนุยาดกะ อิเจ้รองก่อนเรย
ถ้า คุณนายเน่า ไม่อนุมัติ ป๋าก็จะปฏิบัติตามซาเหมออออ
เนี่ย นู๋บีว่า ป๋าแกตรงไปตรงมา และให้เกียรติเมียตัวเองดีว่ะ
ผู้ชายที่ไม่ตลบตะแลงตอแหลปลิ้นปล้อน
และ ไม่ทำตัวกะล่อนเป็นสมภารกินไก่วัด งี้สิ
มัน ถึงจะเรียกว่า กระบี่วิญญูชนตัวจิง
ม่ะใช่ ไอ้พวก งักปุ๊กคุ้งงง ปลอมตัวเป็น จอมยุทธอินทรีย์ เอิ๊ก ๆ



นี่ยังไม่รวม ฟามสามารถพิเศษ
เรื่องวิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย ของป๋าอีกอ่ะนะ
หูยยยย ผู้ชายอะไรว้าาาาาาาาาาา
ทนมือทนตรีนภรรเมียโคตร ๆ เรยว่ะ
ทั้ง ๆ ที่ อิแม่มดมันชอบสร้างดราม่า
เอะอะๆ ก็จะตีรวน ตรูจะขอหย่า ๆ
( เพราะมันกะว่าจะบวชชีหนีปั๋วไปอยู่ในป่า )
แถมยังชอบชักแม่น้ำทั้งห้า มาบีบน้ำตาร้องไห้อะซิก ๆ
หาเรื่อง ตบถีบ ๆ จนป๋าแกเยินแร้วเยินอีก ซะขนาดนั้น
อิป๋าโจ มันก็ยัง วิ่งสู้ฟัดกัดไม่ปล่อย ไม่ยอมฉวยโอกาสทอง
ลอยแพแม่ยอดขมองอิ่ม ออกจากชีวิต เรย



แหม ? นี่ถ้า เป็นไอ้พวกชายหื่นหมื่นกามคนอื่นอะนะ
ถ้าสบโอกาส เจอเมียเล่นบทดรามาใส่แบ่บอิป๋าโจ
สงสัยพวกมันคงได้ตีปีกพั่บ ๆ รีบหาเรื่อง ถีบหัวส่งอิน้ำพริกถ้วยเก่า
แล้วแจ้นไป ขันจุ๊กกรูๆๆ หลี สาวๆ จนสบายใจเฉิบ ไปแระ
คงไม่มาทนทู้ซี้เกาะหัวเกาะหู เป็นผีชัตเตอร์
อยู่ก๊ะ เมียในอุดมคติ ที่ แก่ง่าย ตายยาก พูดมาก กินจุ ดุยังกะหมา
แถมโปรโมรชั่นก็ไม่มี เคลมประกัน ก็ไม่ได้
แบ่บอิปลาไหล หรอกนะเธอว์ เหอ...เหอ...



อืม...นู๋บีว่านะ สงสัยป๊ะป๋าโจกะลังบำเพ็ญตนเป็นพระโพธิสัตว์ อยู่มั้ง
เลยหัดสะสมแต้ม วิริยะ แอนด์ ขันติบารมี เอาไว้แบ่บพระปทุมราชา อ่ะ
( ส่วน อิแม่มด นี่คาดว่าน่าจะเป็น อินัง เควันจมาณวิกา กลับชาติมาเกิดว่ะ ฮา ๆ )
อนึ่ง ด้วยกุศลผลบุญ ทั้งหลายทั้งพวงที่ ป๋าโจได้ทำไว้เหล่านี้
คาดว่า ชาติหน้า ป๋าต้องได้รับการสถาปนา
ให้นั่งเก้าอี้ พระสีอาน แหง๋ ๆ เรยว่ะ
ฟันธ๊ง ฟันธงงงงงงงงงงงงงงงงง




เฮ้ออ นี่ถ้าอิทั่นอ๊าด (ไอ้ผัวเก่าที่เคารพของนู๋บี)
มันดีได้สักครึ่งนึงของป๊ะป๋าโจ
และรู้จักทำตัวเป็น พระเตมีย์ใบ้ ได้อย่างป๋า
นู๋บีก็คงจานอนตายตาหลับแระ อ่า
เพราะ อิผัวเก่าคนนี้ ปากมันม่ะค่อยจะมีหูรูด คร้าาาาา



เฮ้ออ พูดแร้วก็เหมือนกับเอา ซะมีเก่า มานินทา
แต่ว่า ไอ้อ๊าดมันก็เป็นงั้น จิง ๆ ว่ะเอิ๊ก ๆ
เนี่ยนะ มันชอบเอาเรื่องของนู๋บี
กับ ตำนานรักป๊อกกี้ สมัยยังหวานชื่น
ไปเม้าส์ให้คนอื่น ฟังคร้าาาาาาา
ยิ่งเวลามันไปสอนหนังสือที่มหาลัย อ่ะนะ
มันยิ่งชอบนินทานู๋บี ให้ลูกศิษย์ลูกหา ฟังประจ๊ำ
แมร่งช่างไม่รู้จัก คำว่า ให้เกียรติอดีตภรรยาที่เคารพ เอาซะเล๊ยย



แต่ก็ใช่ว่า อิอ๊าด มันจะไม่มีข้อดี เรยน้า
ม่ะงั้นนู๋บีจะหั้ยเกลียดเอามันทำผัวเหยอคะ
ข้อดีของมันก็คือ ไม่ว่าใครจะครหาว่า อะไรนู๋บี
มันก็ยังคง ยืนหยัดอยู่เคียงข้างนู๋บี เสมอฮ่ะ
ขนาด พ่อมันเคยบอกประมาณว่า
นู๋บีปากไม่ดี เมิงสมควรเลิกคบก๊ะ อีนังผู้หญิงคนนี้ซะ
ไอ้เจ้าผัวเก่า มันยังไม่ยอมทำตามคำขอร้องของเตี่ยมันเยยย
แถมยังพูดปลอบใจเตี่ย มันอี๊ก โดยบอกประมาณว่า


"ช่างเหอะ ป๊ะป๋า โบราณบอกไว้ อย่าถือคนบร้าาาา อย่าว่าคนเมา "


อะโหยยยย เห็นมันโดดเข้ามาปกป้อง
แก้ต่างให้นู๋บีงี้แร้ว ก็ซาบซึ้งฮ่ะ
แหม ? นี่ก็ยังเสียดาย ตะหงิด ๆ อยู่เรยนะ ที่เขี่ยมันทิ้งน่ะ
แต่ทำไงได้ล่ะ ผู้ชายที่ไม่สามารถหาแหวนเพชรเจ็ดกะรัต มาหั้ยเรา
ตามที่สัญญาเอาไว้ได้ มันก็ม่ะคู่ควรก๊ะสาวสวยเลือกได้อย่างเราฮ่ะ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:0:55:17 น.  

 
 
 
เออ จิงดิ เมื่อไม่นานมานี้ นู๋บีนั่งดู ทรูวิชั่น แล้วเจอหนังเรื่องนี้อ่า







นี่ ๆ อิเจ้อึ้งย้ง ลู้ปล่าววว พอดูหนังเรื่องนี้แร้ว
อิเจ้ไหมแดง ก็ให้หวนนึกถึง ตำนานรักจิตหลอน
ของ อิอ่อน ก๊ะ โคตรไอ้เข้ จังเรย อ่ะ
เพราะรู้สึกว่า มันช่างเหมื๊อน เหมือน
พล็อตเรื่อง A Beautiful Mind จังเยยยยย
อะโหยมันเป็นอะไรที่ โรแมนติก คลาสสิค
และ ลุ่มลึกได้น่าอย่างประทับใจ ที่สำคัญ มันเป็น สัมมา โคตร ๆ
จน ตำนานรักกระโดดหน้าผา ของไอ้ลูกศิษย์ทรพี (ไอ้ก้วยยี้ กะ อิเจ้เล้งนึ่ง )
ดู โลโซ กลายเป็น นิยายน้ำเน่าเล่มละสิบบาท ไปเรยง่ะ งิงิ



อ้อ แล้ว แม่นางลี้มกโช้ว มันฝากอิเจ้อึ้งย้ง
ช่วยไปบอก ทั่นก้วยเจ๋ง หั้ยทีดิ๊
ว่า ฟังอิเจ้อึ้งฯ มันเล่าเรื่องตำนานรักจิตหลอนของอิอ่อน แร้ว
อิเจ้ไหมแดง มันรู้สึก ทึ่ง และ ชื่นชม ป๊ะป๋ามว๊ากกก
ผู้ชายอะรัยช่างเป็นสามีในอุดมคติ จิง ๆ เรยวุ้ย


รู้จักร่วมทุกข์ร่วมสุขกับคู่ชีวิต
ขนาดอิอ่อนมันจิตหลอนรับประทานซะขนาดนั้น
ป๋ายังอุส่าลากเอาคุณนายเน่า เอามาประคบประหงมดูแล
(ด้วยการล่ามโซ่ไว้ที่ใต้ถุนบ้าน)
โดยไม่คิดถอดใจ ผลักไสไล่ส่ง
ให้ อิอ่อนมันไป นั่งหลอนลัลล้า ต่อ
ที่ ศรีธัญญาแบ่บถาวร เรย อ่า


อะโหยยยย ป๋าโจนี่ช่าง หนักแน่นมั่นคงในฟามร้ากกก
เหมือน ศรีภรรยา ของ ศาสตราจารย์ แนช เรยว้อยยยย
เนี่ย ขนาดป๋าโจแกคิดจะแสวงหามรรคผล
โกนหัวออกบวชแบ่บเจ้าชายสิทธธัตถะ
ป๋ายังอุส่า มีสติ รู้จักคิด รู้จักเป็นห่วงลูกชาย
กลัวว่า ถ้าทิ้งแม่มันไป เด๋วอิปลาไหลจะแอบไปมีปั๋วไหม่
แล้วปล่อยหั้ย พ่อเลี้ยงรังแก ฮาร์ทจัง


ป๋าเรยยังตัดใจ แอบหนีเมียไปบวชมิด้ายยยยยย
ต้องพยามประคับประคองรักษาครอบครัวเอาไว้ก่อน
จนมี อดัมส์แฟมิลี่ ในทุกวันนี้ไง
เฮ้ออออ จะว่าไป ป๋าโจนี่ก็เป็น แฟมิลี่แมนโคตร ๆ เรยว่ะ
นับว่า เป็นบุญวาสนา และ โชคดีของ อิเจ้รอง ก๊ะ น้องฮาร์ท เจง ๆ
ที่มีหัวหน้าครอบครัวเป็นทั้งผัวและพ่อตัวอย่าง ได้ขนาดนี้


เอ้า เอา ไอ้สี่ลิงค์นี้ มาฝากจร้าาาาาา


//www.phongphit.com/content/view/202/49/


//lanpanya.com/seasonschange/archives/178


//www.oknation.net/blog/chaiyospun/2008/10/15/entry-2


//www.sudipan.net/phpBB2/viewtopic.php?p=23018










"ผมเชื่อมั่นในตัวเลขเสมอ ในสมการและตรรกยะซึ่งนำไปสู่เหตุผล
แต่หลังจากที่ค้นหา มาทั้งชีวิต ผมถาม... อะไรคือตรรกยะแท้จริง ใครตัดสินเหตุผล
ผมไปค้นคว้าเรื่องนี้ ผ่านทางกายภาพ ทั้งปรัชญา ทั้งภาพหลอน และภาพจริง
ผมได้เจอการค้นพบที่สำคัญที่สุดในอาชีพ

การค้นพบสำคัญที่สุดในชีวิต มีแต่ในสมการลึกลับของความรัก
ที่คุณจะพบ เหตุผลตรรกยะ ผมมาอยู่ตรงนี้ได้เพราะคุณ
คุณคือเหตุผลที่ผมอยู่ คุณคือเหตุผลทั้งปวง... ขอบคุณ"



( คำคมจากภาพยนตร์เรื่อง A Beautiful Mind )





อิหม่ามี๊ว่า...
--------------------------------------
ไม่มีอะไรจะพูดแระ แต่อยากบอกว่า
อิหม่ามิ๊เปลี่ยนไป๋ เยอะเจงๆ เห็นคนอื่นก็เฉยๆ
ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ใครจะชอบจะชังจะหมั่นไส้
ก็ไม่ได้เดือดร้อนไปกะเขา ง่ะ เพราะเราเข้าใจตัวเราเอง
ไง คนอื่นจะไม่เข้าใจเราก็ไม่เป็นไร ไม่เดือดร้อนแล้ว
ก็มีแต่เป็นสุขสบายดี...........



แหะ แหะ
บ่อเป็นหยัง ใครพูดไรก็ไม่กระเทือนซางอิหม่ามิ๊ อะ
เพราะหม่ามิ๊ เป็นอิอ่อน เอ๊ย!!! มะช่าย เป็นตัวของตัวเอง
ไม่ได้เป็นไปตามลมปากของคนอื่น นินา 555

ลูกไป๊ขรา ไม่ต้องห่วงอิหม่ามิ๊ ว่าจะโดนพิทบูลกัดแล้วจะ
สติแตก จิตตก หดหู่ อาการโคม่าเพราะเลือดไหลไม่หยุด
หรอกน้า ก็แค่ได้ทันะคติที่แตกต่างได้เห็นมุมมองที่ต่างไป
ได้เห็นว่าสาส์นที่เราส่งออกไปคนอื่นรับแล้วก็มีตอบสนอง
แตกต่างกันไป นานาจิตตัง อะ อิหม่ามิ๊ รับฟังได้หมดแหละ



เรื่อง ขรี้โม้นี่ อิหม่ามิ๊ ก็มีพอตัว อิอิ
ก็ลองปล่อยน้ำหมากท่วมทุ่งไปเพลินๆ กะอาตี๋พิทบูล
จะได้เพิ่มเรทติ้งให้บลอกของลูกไป๊ไงคะ




+++++++++++++++++++++++++++


อินู๋บี ว่า....

หูยยยยย ชอบคำพูดพวกนี้ ของอิหม่ามี๊จัง อ่ะ
แหล่มมว๊ากกกกกกกกกกก ( โดยเฉพาะ ประโยคสุดท้ายอ่ะนะ ฮา ๆ )
เนี่ยฟังแร้ว ถึงกับอยากจะเกิดมาเป็น แม่ปั๋วลูกไป๊
ก๊ะ อิหม่ามี๊ ทุก ๆ ซาดเยยยย
เฮ้อออ จบมาจากสำนักวัดลิงขบ เหมียนกันงี้ สิ
มันถึงจะเต้นแทงโก้ เอ๊ย บรรเลงเพลงกระบี่คู่ประสานใจ
ได้อย่างเข้าขา และ ไม่เหยียบตรีนกันเอง
อิหม่ามี๊นี่ สมกับเป็น อิเสี่ยวโลงผุคู่บุญบารมีของอิผีเน่า เจงๆ เรย
นี่ถ้านู๋บีเป็นพูชายอ่ะนะ คงได้จีบอิเจ้รองแข่งก๊ะป๊ะป๋าโจ แหง๋ ๆ หุหุ




อืม... รู้ป่ะ ตอนที่ครายก็ไม่รู้ บอกว่า
----------------------------------------
อิหม่ามิ๊เปลี่ยนไป๋ เยอะเจงๆ เห็นคนอื่นก็เฉยๆ
ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียง ใครจะชอบจะชังจะหมั่นไส้
ก็ไม่ได้เดือดร้อนไปกะเขา ง่ะ
เพราะเราเข้าใจตัวเราเองไง
คนอื่นจะไม่เข้าใจเราก็ไม่เป็นไร
ไม่เดือดร้อนแล้วก็มีแต่เป็นสุขสบายดี

-------------------------------------------


เนี่ย นู๋บีอ่านแร้วก็ เก็ทสะเทือน เรยอ่ะ
ก็คงเหมือน ๆ กับที่ อิหม่ามี๊ อ่านแล้วเข้าถึง
กับ คำพูดของนู๋บี ยามที่ ตักน้ำรดหัวตอ เอ๊ย เอื้อนเอ่ยวจี
กล่าวถึง ประโยคนี้ ให้ ไอ้โซ๊ยตี๋มันฟังล่ะมั้ง


----------------------------------------
อืม...สรรพสิ่งล้วนเป็นเช่นที่มันเป็น
และ เป็น เช่นที่เราปรุง นี่นะ
เจ้เองก็เป็นเช่นที่เจ้เป็น
และ เป็น เช่นที่ ลื้อ ปรุง เช่นกันนั่นแหล่ะ

++++++++++++++++++++++



เฮ้ออออ ก็มีแต่อิหม่ามี๊ นี่แหล่ะ
เข้าอกเข้าใจนู๋บี โดยที่ไม่ต้องตอหลดตอแหล้
ทำมาเป็นบอกว่า แค่มองตาก็รู้ใจกัน แบ่บไอ้ตี๋ขี้ฮกบางตัว อิอิ
แหม๊ ? ก็อย่างว่าล่ะเน๊าะ อาจเป็นเพราะพวกเรามีรสนิยมอันวิไล
ชอบฟัง ทั่น ว.วชิระเมธี เทศน์ เหมือน กันก็ได้นิ อิอิ




นี่ ๆ อิหม่ามี๊ขรา รู้ แล้ว เหยียบไว้เรยน้าาาา
เด๋วนี้ เวลาเห็น ทั่น ว. ออกทีวีหลังข่าว ทีไร นู๋บีก็อดอมยิ้ม ไม่ได้อ่ะ
เปล่านะ ม่ะได้ขำ ทั่น ว. หรอกจร้าาาา
แต่ว่า นู๋บีขำคนบางคนอ่ะ นี่ยังคิดอยู่เล๊ยยย
ว่า ถ้ามันนั่งดู รายการนี้อยู่เหมือนกัน
สงสัย ไอ้หมอนั่นมันคงจะเครียดจนไมเกรนขึ้นขมอง
เพราะมันคงกลัวว่า มหาแหวนทองเหลืองอย่างมัน
จะต้อง เสียแชมป์แร่พโย่ว อะวอร์ด หั้ยก๊ะ ทั่น ว. ล่ะมั้ง เอิ๊ก ๆ




แถม ไอ้ตี๋ขี้วีน นั่น มันยังมาทำบ่นกระปอดกระแปด อีกอ่ะ
ทำมาเป็นบอกว่า

---------------------------------------

เรื่องปรุงเรื่องชงถูกของเจ้ ปรุงอะไรก็ได้อย่างนั้น
แต่เจ้จะมาว่าอั้วปรุงไปด้วยมันไม่ถูกว่ะ
อั้วเป็นผลที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่เจ้ปรุง
อั้วเป็นคนมาตอบข้อความมาแสดง
ความเห็นของเจ้ เจ้เป็นคนเริ่ม การกระทำของอั้วเป็นไป
ตามหลักอิทัปปัจจยตา ลื้อจุคธูปเรียกอั้วมา อั้วก็มา

ลื้อเริ่มเรื่องอั้วก็ตอบไปตามเรื่องที่ลื้อเริ่ม
+++++++++++++++++++++


แหม ๆ ฟังแร้ว นู๋บีก็งงเป็นไก่ตาแตกแรยง่ะ อิหม่ามี๊ขรา
ไอ้ที่บอกว่า ปรุงอะไรก็ได้อย่างนั้น
ตอนแรกฟังแร้วก็ยังพอจะถูไถกล้อมแกล้มอยู่นะ
แต่ พอฟังประโยคถัด ๆ ไป แร้วลู้สึกทะแม่ง ๆ ว่ะ
แมร่ง พูดมาได้ไงฟระ ว่า


เจ้จะมาว่าอั้วปรุงไปด้วยมันไม่ถูกว่ะ
อั้วเป็นผลที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่เจ้ปรุง



นี่นู๋บียังนึกสงสัยตะหงิด ๆ อยู่ เรย ว่า
ที่ อ้ายตี๋หมาว้อ มันบอกว่า มันไม่ได้ปรุง ไปด้วย เนี่ย
แล้วไอ้ที่ มันเห่าโฮ่ง ๆ แฮ่ เอ๊ย มาเสวนาธรรม
สวดชยันโต เม้งแตกแว้ด ๆ ใส่ตรูซะหลายกิโลไบต์เนี่ย
มันเรียกว่าอะไรฟระ แล้วมันเป็นอิทัปปัจยตา
และเป็น ผลที่เกิดจากเหตุปัจจัยที่ตรูปรุงตรงไหนวะ



จริงอยู่ที่ ถ้ามองในระดับ มหภาค (ตามหลักอิทัปปัจจยตา )
การที่นู๋บีจุดธูปเรียกไอ้ตี๋มา แล้วมันก็ให้เกลียดมานั้น
มันก็เป็นไปตามหลักมารยาทสังคมพื้น ๆ นั่นแหล่ะ
ก็เหมือนการที่ เจ้าบ้านสักคนส่งเทียบเชิญ
ไปชักชวนหั้ยแขกเหรื่อมานั่งตั้งวงก๊งเหล้าที่บ้านของตน
เมื่อแขกอ่านเทียบเชิญนั้นแล้ว
ก็ย่อมต้องมีปฏิกิริยา ต่อ สารที่ส่งมาหั้ย


ส่วนจะตอบสนองต่อสารที่นั้น อย่างไร
แล้ว จะตัดสินใจมาดวลแก้วกันไหม
อันนี้มันก็ย่อมเป็น สิทธิส่วนบุคคลของเขาอันพึงมีพึงได้ตามหลัก รธน.
ส่วนตัวเราในฐานะเป็นเจ้าของบ้านเจ้าของบล็อกผู้ส่งเทียบเชิญไป
ก็ทำได้แค่ เตรียมยาเบื่อหมา เอ๊ย สารพัดกับแกล้ม ก๊ะ สุรา
มาตั้งสำรับคับค้อนเตรียมไว้เป็นของต้อนรับแขกเหรื่อ ตามอัตภาพ
ก็มีทั้ง ใบยอห่อหมกและใบบอนใบตำแยหมามุ่ย ต้นตะบองเพ็ด แอนด์ซกเล็ก นั้นแหล่ะจร้าา
( เพราะคิดว่า ด.ช.ก้วยยี้ มันจะกระเพาะเหล็ก แหลกล่ายหมด เหมือนอิตั้วเจ้ )



ทว่า ถ้ามองในระดับ จุลภาค (ตามหลักอิทัปปัจจยตา )
เมื่อใดก็ตามที่ไอ้โซ๊ยตี๋ มันหยิบของต้อนรับเหล่านั้นเข้าปาก
หาก ชิมไปบ่นไปแล้วมันดันสวมวิญญาณ พิศาล อัครเศรณี
เล่นบท ตบถีบ ๆ สำแดง แอ๊คชั่นดราม่า
แล้ว เต้นแร้งเต้นกา โวยวายว่า


อิตั้วเจ้นี่ แมร่งไร้เสน่ห์ปลายจวัก จิงๆว่ะ
สักแต่ว่ามีมือมีตรีนไว้จับตะหลิว
ชอบไปหิ้วเอาอาหารแดกด่วน
ก๊ะ อาหารขยะตามร้านสะดวกซื้อ
มาเทๆ ใส่ถ้วยหั้ยแขกกิน


แถมปรุงรสแกล้มมาตะละอย่าง
ก็รสชาติห่วยแตกหมาม่ายแหล่ก เอาซะเรย
เมิงก็ลู้หรือไง ว่ากรูชอบกินโครงไก่ต้มฟัก ก๊ะ ชมพู่ทับทิมมมมมมมมมมมม
แล้วทำไมยัง เสือกปั้นจิ้มปั้นเจ๋อ ยกปลาไหลผัดสะตอ กับ สลิ่มกะทิสด มากระแทกปากกรูฟระ
อั้วเค้าแป๋ชีช้ำอ่า อิเจ้5 นี่ แมร่ง ม่ายล่ายดังใจเลย แว้ด ๆ ฉอด ๆ ฯลฯ<




อืม... จากที่แพล่มมาทั้งหมดนี้
ถามอิหม่ามี๊หน่อยดิ๊ ว่า
ถ้า อิหม่ามี๊ เป็น เปาบุ้นจิ้น
จะตัดสินกรณีพิพาทนี้ว่ายังไงดี
และ ขอได้โปรดช่วยใช้ ดุลพินิจ คิดวิเคราะห์หั้ยที
ว่า เมื่อไอ้โซ๊ยตี๋ มันแดร่กของต้อนรับเหล่านี้เข้าไปแล้ว
อาหารนั้นเป็นของใคร และหลังจากนั้น


ใครกันแน่ที่เป็นคนปรุง ?



เฮ้ออออ มันก็จริงอยู่ ว่าก่อนหน้านี้
สารพัดกับแกล้ม ก๊ะ สุรา ทั้งหลายแหล่
ที่บรรจงสรรหา มาต้อนรับขับไล่ เอ๊ย ต้อนรับขับสู้นั้น
นู๋บีเป็น คนปรุง มันออกมา ( อันนี้ นู๋บียอมรับฮ่ะ)



ทว่า หลังจากที่ไอ้โซ๊ยตี๋ มันหยิบอาหารเข้าปากมัน ไปแล้ว
มันจะมาบังคับขืนใจให้ นู๋บีเป็นแพะรับบาป
สารภาพว่า ว่า นู๋บีเป็น คนปรุงแต่เพียงผู้เดียว
ส่วน มันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องด้วยเรยสักกะติ๊ดดดด ได้ยังไงกันล่ะ
ก็มันหยิบอาหารนั่นเข้าปากเองนี่หว่า
แมร่ง ปาก กะ ตัว ก็ไม่ได้ติดกัน เป็นฝาแฝดอินจัน
แถม ขันธ์ก็ยังคนละใบ โตย เพราะฉะนั้น มันก็ต้อง ตัวใครตัวมัน
ปรุงใครปรุงมัน สิฟระ จะมาใส่ร้ายป้ายสีกันงี้ ได้ไงวะ อ่ะซิก ๆ




เออ นี่ๆ อิหม่ามี๊ขราาาาา ไม่รู้ว่า อิหม่ามี๊เคยอ่าน อักโกสกสูตร

อ๊ะปล่าวคร้าาา
เฮ้อออ นู๋บี อยากหั้ย ไอ้โซ๊ยตี๋ ได้มีโอกาสอ่านเรื่องพวกนี้จังเรยอ่ะ
จะได้เลิกหมกมุ่นนั่งอ่านแต่ นิทานปรัมปรา
อาทิเช่น ตำนานนางจิญจา ก๊ะ นางพิมพิลาไลย เสียที
ที่สำคัญ มันจะได้เลิกฟุ้งซ่านจินตนาการบรรเจิด
คิดว่าตัวเองเป็น พ่อขุนแผนแสนสะท้านกลับชาติมาเกิด ด้วย




เนี่ย พอไอ้ตี๋ขี้ระแวง เห็นนู๋บีโพสอารายอะไรไม่ถูกใจ
มันก็มาโล้งเล้งเม้งแตกตลอดเรย ฮือ ๆ
แมร่ง ทำไมมันไม่รู้จักเอาอย่างพระพุทธเจ้า
ที่ทรงวางเฉยไม่โต้ตอบ เมื่อโดนใส่ร้ายป้ายสี ซะมั่งนะ
ทำไมต้องมา โฮ่ง ๆ แฮ่ ตบๆถีบ ๆ ดุด่า นู๋บีด้วยวะ
ถ้านู๋บี ทำตัวเหมือนอินังจิญจา จิง ๆ
เด๋วเวรกรรมมันตามทันนู๋บีก็ถูกธรณีสูบเองแหล่ะ
จะมา ปรุงแต่งฟุ้งซ่านหั้ยเกิดปฏิฆะต่อกันไปทำไม ?
ที่สำคัญ เวลาคุยกับผู้หญิงนะ จะมาถามหาเหตุผล ทำติ้งไรวะ
สัญชาตญาณของพวกผู้หญิงน่ะ
เค้าคุยกันโดยใช้ อารมณ์ เอ๊ย ความรู้สึก ว้อย
จะให้ไปคุ้ยเอา เหตุผลที่ไหน มาคุยด้วยได้ฟระ



แล้วเรื่องการเมือง นี่ก็เหมือนกัน นะหม่ามี๊

นู๋บี ลงทุนเป็นแปลงร่าง เจ้ดัน
เล่นบทดราม่ายอมเปลืองเนื้อเปลืองตัวเป็นนางมาร
สู้อุส่าทอดร่าง หั้ยมันเหยียบเป็นบันได
เพื่อที่มันจะได้มีโอกาสโชว์พาว
ประกาศศักดา ให้โลกได้ชื่นชม
ถึงฟามเป็นนางเอกผู้มีอุดมการณ์ อันหาญมุ่ง แล้วแท้ ๆ
แต่แมร่ง ไอ้ตี๋ซื่อบื้อ มันก็ บ่ มีไก๊ รับมุขส่งมุขไม่ได้เรื่องเอาซะเรย



ไอ้เราหรือ อุส่าห์กรุยทาง ให้มันเล่นบทนางเอก
ให้มัน รู้จักใช้ สถานการณ์ มาสร้างวีรบุรุษ (แบ่บ อาเจ่กเสกสรร )
มั๊น ก็ดึงดัน จ้องจะเล่นแต่บท ตบถีบ ๆ
หาเรื่องขย้ำคอยนู๋บี อยู่นั่นแหล่ะ
ปั๊ดโธ่เอ๊ยยยย สงสัยจะมัวแต่อ่าน นิยายดราม่ารันทดของโกวเล้ง มากไป
ทำไมไม่รู้จัก เปิดกะลา ไปอ่าน อุดมการณ์บนเส้นขนาน
หรือ ดู ทงอี ของ ทั่นผู้กำกับ Lee Byung Hoon ซะมั่งวะ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:01:37 น.  

 
 
 
เฮ้ออ อิหม่ามี๊ขราาาาา นู๋บีอยากตะโกนใส่หน้าไอ้โซ๊ยตี๋จังเรย ว่า



ไอ้ตี๋เอ๊ยยยยย บทละคร น่ะ
ถ้า นังอิจฉา ก๊ะ นางเอก มันคุยกระหนุงกระหนิงกันถูกคอ
เออออห่อหมก ชี้นกเป็นนก ชี้ไม้เป็นไม้ เห็นตามกันไปซะหมดเนี่ย
มันจะเกิดการคอนทรัสต์ ของ แสงกับเงา
ให้ชาวบ้านเขาซาบซึ้งตรึงจิต
แล้วอินไปกับบทดราม่านั้น มั้ย


ในเมื่อ อิตั้วเจ้อุส่าห์ ยอมลดตัวไปเล่นบทนังอิจฉา
สวมบทพระสนมฮีบินยินดีเสียสละบทเด่น ๆอย่าง บท อีไพร่ทงอี ให้ลื้อเล่น
ลื้อก็ควรจะเล่น บทสาวน้อยแสนดีผู้ยืนหยัดในอุดมการณ์อันหาญมุ่ง
พยามใช้ทั้งความดีความเสียสละ และ ธรรมมะขั้นสูง
มายกแม่น้ำทั้งห้า เพื่อโน้มน้าวชักจูงให้นังอิจฉาอย่างอิตั้วเจ้ ใจอ่อน
จนกลายเป็น ผู้ร้ายกลับใจ ไปตามสคริปต์ของ ผู้กำกับลี สิวะ



เฮ้ยยยยเขาหั้ยเมิงเล่นบท อิไพร่ทงอีผู้อาภัพ
เสือกคิดว่า ตัวเองเป็น พิศาล อัครเศรณี
แมร่งชอบแอบนอกบทไปเล่นแอ็คชั่นตบถีบๆๆ ซ้อมตรูงี้
มรึงนึกว่ากำลังเล่นเป็นพระเอกเรื่องจำเลยรัก หรือไง
เนี่ย แทนที่ จะได้ ออสการ์ และ ได้ใจประชาชี เหมือนอิเจ้บัวเกี๋ยง
ลื้อจะได้ไข่เน่ากับ ถุงขรี้ แทนนะว้อยยยยย
เนี่ย ดูดิ๊ เล่นไปเล่นมา ก็เจ๊งบ๊ง โดน อิเจ้มีดบินขโมยซีน
แย่งคะแนนสงสาร จากชาวบ้านชาวช่อง ไปหมดเยยยย ( อิอิ สมน้ำหน้า ! )



เฮ้ออออ ส่วนเรื่องที่ ไอ้โซ๊ยตี๋
มันหาเรื่อง สำแดงกิริยา บ่อตั้วบ่อโส่ย
กระโดดไล่งับอิหม่ามี๊ อยู่เรื่อยนั้น
อิหม่ามี๊ก็อย่าได้ไปตำหนิ ไอ้โซ๊ยตี๋ มันเรยฮ่ะ
ที่มันเกิดอาการธรรมมะแตก แหกปากร้องโวยวายงี้
คนที่ผิดคือนู๋บีต่างหาก ที่ไปคาดหวังกับไอ้ตี๋เอาไว้สูงเกินไป
คิดว่า นักเลงปฏิบัติตัวพ่ออย่างมันจะมีความเข้มแข็งบึกบึน
พอที่จะทนมือทนตรีน เอ๊ย สามารถรักษา สมดุลโลก สมดุลธรรม สมดุลใจ เอาไว้ได้
ยามที่ถูกคนสวยใจดีอย่างนู๋บี ปั่นหัวเล่น อ่ะซิกๆ



อืม...แต่พูดก็พูดเหอะนะ อิหม่ามี๊
เรื่องทั้งหลายทั้งพวงที่กระทบกระทั่งกันนี่
มันก็แค่การเข้าใจผิด เพราะการ ปรุงแต่งที่แตกต่างกัน
ตามประสบการณ์ และ สัญญาที่สั่งสมมา ของแต่ละคนนั่นแหล่ะ
มันก็เหมือนที่ อิน้องหมาสุริยะ มัน เคยตกอกตกใจ
ตอนนู๋บี ไปโพสแปะเรื่อง เอา ผัวเก่า มานินทาาาาา นั่นแหล่ะ
ไอ้เราหรือ ก็แค่โพสแล้วกะให้คนอ่าน
อ่านแร้วขำกันจนต้องลงไปนอนเกลือกกลิ้งอยู่กับพื้น
แต่ก็มีบางคน ยิ่งอ่านดันยิ่งอิน ร้องสะอึกสะอื้นน้ำตาพาลจะไหล
นึกว่า ตรูจะไปทำแท้งเอาเด็กออกจิง ๆ ซะงั้น



ตัวอักษรเมื่อเขียนแล้วก็มีหลายความนัย
สามารถทำให้คนอ่านหัวเราะก็ได้ ร้องไห้ก็ได้



อย่างที่เค้าบอกไว้ จิง ๆ ด้วยแฮะ
และคนที่ มืดมา แต่ พยามที่จะ สว่าง ไป อย่างไอ้โซ๊ยตี๋
ก็ย่อมต้องมี ชนักติดหลัง และ แผลกลัดหนองเยอะแยะ
มันก็ย่อมต้องระแวงว่าจะถูกคุ้ยแคะ อ่ะนะ
ไอ้โซ๊ยตี๋มันไม่ใช่ พวกสว่างมา แล้ว ยิ่งแจ้งโร่ เหมือน อิสองเจ้ ของมันนิ
อย่างพวกเรามันพวก อิปลาไหลขงเบ๊ (รู้รักษาตัวรอดเป็นยอดดี )
เรยไม่ค่อยจะมีแผลหัวใจ อะไรกับใครเขา อ่ะ
จึงสามารถ แก้ผ้าโทง ๆ เดินรอบเมรุ โชว์ เบื้องหน้าเบื้องหลัง ได้อย่างสบาย ๆ
แม้กระทั่งเอาผัวมาเผาให้ชาวบ้านร้านตลาดดู พวกตรูก็ไม่รู้สึกอาย อะไร ง่ะงิงิ




ส่วน ไอ้โซ๊ยตี๋ นี่ มันก็คงเหมือน นางชีผู้บริสุทธิ์
ที่ ผุดออกมาจาก กระทู้นี้ มั้ง
เห็นมัน มาร้องวี๊ดว้ายกระตู้วู้
บอกว่า

"แก้ผ้าในบ้าน ย่อมต้องดีกว่าแก้ผ้านอกบ้าน"


อ่านแล้วนึกถึง อิชีดัดจริต
ที่มันพยามเอา ใบองุ่นสำริด
ไปปิดเจ้าน้องชายของไอ้นู๋เดวิด อ่า
แมร่ง ไอ้โซ๊ยตี๋เอ๊ยยยย ทำเป็น อิป้าแก่ ๆ เหนียงยานที่โบราณคร่ำครึ ไปได้
พอเห็น เด็ก ๆ มันนึกครึ้ม เปิดผ้าโชว์อึ๋ม โชว์ลูกบ้า
แล้วอิป้านั่นก็เกิดอาการต่อมอิจฉากำเริบ
ต้อง โวยวายต่อต้าน เรื่องโพสภาพโชว์หวิว
เฮ้อออ จะอะไรกันนักกันหนาว้าาาา
ถ้าไม่อยากดู เมิงก็ควักลูกตาทิ้งซะ ก็สิ้นเรื่อง
อิอิ พูดแล้ว ก็นึกถึง กรณีพิพาทในห้องสินธรว่ะ

//topicstock.pantip.com/sinthorn/topicstock/2012/01/I11637457/I11637457.html จังว่ะ


ฮือๆ อิหม่ามี๊ขราาาาา ก็ในเมื่อ นู๋บี มั่นใจ
ในรัศมีความผุดผ่องเป็นยองเป็นใย
และ ฟามอวบอึ๋มของนู๋บี นี่หน่า
แล้วก็ ไม่อายที่จะ เปิดผ้าโชว์หวิว
ให้พวกหนุ่ม ๆ มันได้เห็นเป็นบุญตา ด้วย


ทำไมไอ้งักปุ๊กคุ้ง มันต้องเม้งซ้าเป็นคุ้งเป็นแคว ด้วยฟระ
ทำอย่างก๊ะว่า การที่นู๋บีแก้ผ้าโชว์สะดือต่อหน้าธารกำนัลเนี่ย
มันเป็นอาญาแผ่นดิน ร้ายแรง แบ่บ ปั๊มยาบ้าขายยังไงยังงั้นเรยอ่า
โธ่เอ๊ยยยยยย ตรูแค่แก้ผ้าเป็นอาหารตาหั้ยหนุ่ม ๆ ดูเฉย ๆ นะเว้ยเฮ้ยยย
ไม่ใช่ ทำอะไรที่มันก้าวล่วงศีล 5
หรือ แอบไปเป็นชู้กับผัวชาวบ้าน
เนี่ยตรูไม่ได้ทำอะไรผิดศีล 5 ซะหน่อย
อย่างมากก็แค่โดนข้อหากระทำอนาจาร เล็ก ๆ น้อยเอ๊งงงง


อืม...เนี่ย นู๋บีไปเสิร์ช อากู๋ ดูแระ
ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 388
บัญญัติไว้ ว่า มันผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อธารกำนัล
โดยเปลือย หรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น
ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 500 บาท แค่นั้นเอ๊งงงงงง
ฝากอิหม่ามี๊ โทรจิต ไปบอก ไอ้โซ๊ยตี๋ด้วยว่า
อย่าได้วิตกจริต คิดมาก กลัวว่า
นู๋บีจะไปขอยื้มเงินมัน มาจ่ายค่าปรับ
ให้กับคุณตำหนวด เรยจร้าาา
ขึ้นเวรแป๊บเดียว นู๋บีก็มีเงินไปจ่ายค่าปรับแระอ่า อิอิ


ที่สำมะคัญ น้าาาาา ถ้าเสียตังค์ค่าปรับแค่ 500 บาท
แล้วดังระเบิดเถิดเทิงเหมียนพระเอก ร้อยล้าน แบ่บเฮียหม่ำ
นู๋บีก็พร้อมที่จาทำนะ หั้ยแก้ผ้าโทง ๆ วิ่งรอบอนุสาวรีย์ชัย สักสิบรอบ
ข้อย ก็ บ่ หยั่นนนนนนนนนนนนนนนนนนนนน หุหุ









อืม... ความจริง น่ะ นะ อิหม่ามี๊
ไม่ว่า จะอยู่ในบ้าน นอกบ้าน
หรือว่า อยู่ ในซอกหลืบไหน
ความจริงมันก็ยังคงเป็น ความจริง อยู่วันยังค่ำนี่หว่า
มันน่าอายตรงไหน ถ้าเราจะเอา ฟามจิง ของชาวบ้านไปแฉ เอ๊ย ไปตีแผ่
ก็เราม่ะได้พูดตอหลดตอแหล นี่เคอะ จะอายไมล่ะเธอว์


เฮ้อออ ก็นู๋บีม่ะได้มี ภาพพจน์ วิญญูชนจอมปลอม แบกไว้บนหัว
แบ่บไอ้งักปุ๊กคุ้งนี่หว่า จาได้ต้องมาพยาม แต่งองค์ทรงเครื่อง
เพื่อรักษาหน้า ตัวเอง

ดังนั้น ปรัชญาชีวิตอันเป็นแนวคิด ของอิสมทรงคือ

"ตรูจะแก้ผ้าที่ไหน ก็ได้ ถ้า ตรูพอใจจะแก้
และที่สำคัญ ลัทธิเต๋าและเจ้ามือไฮโล สอนตรู เอาไว้ว่า

จงเปิดให้แทง เฉพาะคนที่เรา พอใจจะหั้ยแทง

อิอิ อิหม่มี๊ขราาา มามะแทงเสีย ๆ เหอ...เหอ..








เนี่ยที่จริงแล้วไอ้ตี๋ปากหมา
มันต้องขอบคุณ อิตั้วเจ้นู๋บี ซะด้วยซ้ำ

ที่ทำให้มันซาบซึ้งถึงก้นบึ้ง กับคำว่า ปาก -พา - จน !
แถมยังได้ค้นพบสัจธรรม ตามที่ พระสุนทรโวหาร เคยพร่ำสอนมัน เอาไว้ว่า

อันนินทากาเลเหมือนเทน้ำ
ไม่ชอกช้ำเหมือนเอามีดมากรีดหิน
แค่องค์พระปฎิมายังราคิน
คนเดินดินหรือจะสิ้นคนนินทา






แต่แทนที่มันจะ แสดงกตเวทิตา ต่ออิตั้วเจ้อย่างที่ควรกระทำ
ดันเสือกมาโหวกเหวกโวยวาย หาว่า

นู๋บีขี้ฟ้อง ทะลึ่งไปหยอกมันด้วยการจับตรูด
ครั้นพอมันหยอกกลับจับตรูดนู๋บีบ้าง
นู๋บีก็หาว่า มัน ลามกไปแจ้งตำรวจจับมัน


แมร่ง มันก็ระแวงไปเรื่อย อย่างนู๋บีนี่นะ
จะไปแจ้งตำหนวด มาจับมัน หั้ยเสียฟอร์ม นักปฏิบัติ
กฏมณเฑียรบาล ของการเป็นนักปฏิบัติ ข้อหนึ่งคือ
เมื่อเราเป็นผู้ถูกกระทำ เราจะต้องไม่โต้ตอบด้วยการวิ่งไปฟ้อง WMฮ่ะ
ถ้าทำงั้นมันจะเสียหมามากมาย
( แต่ถ้าหาวิธี เกทับบลัฟแหลก นี่ไม่เป็นไร อิอิ )



เฮ้ออออจิง ๆ ไอ้คดีอนาจารจับตรูดชาวบ้านเนี่ย
ขืนไปแจ้งตำหนวด อย่างมากก็แค่ไกล่เกลี่ย เสียค่าปรับ
หรือถ้าจะขึ้นโรงขึ้นศาล ก็รังแต่เสียเวลาทำมาหารับประทานฮ่ะ
ดังนั้น กับไอ้เด็กที่มันชอบสำแดงกิริยา บ่อตั้วบ่อโส่ย ก๊ะ อาเหล่าม่า
มันต้องเจอ ศาลเตี้ย เท่านั้นฮ่ะถึงจะคู่ควร
จับไอ้ลูกหมาพิทบลูนั่งยาง นี่มันจะบาปไหมน๊อออ เหอ...เหอ....



แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ไงลูกไป๊คนนี้ ต้องขอโทด อิหม่ามี๊ด้วย
ที่ทำให้อิหม่ามี๊ พลอยโดน หางเลข จากไอ้ตี๋ ไปด้วย
อิหม่ามี๊อย่าได้ไปถือสา ไอ้หมาหางด้วนที่มีชนักติดหลังเรยฮ่ะ
มันคงอารมณ์บูดที่โดนอิตั้วเจ้หยอกเล่นด้วยการจับตรูด
แต่มันยังหาโอกาสแกล้งกลับไม่ได้น่ะ


อารมณ์มันคงเหมือนตอนที่
อิหม่ามี๊โดนลูกกับปั๋วแหย่เล่นด้วยการแกล้งจับนม
แล้ว อิหม่ามี๊พยามจะ จับคืน นั่นแหล่ะ
ดังนั้น ได้โปรดเห็นใจมันหน่อย
เพราะมัน ก๊ะ อิหม่ามี๊ ตกที่นั่งเดียวกัน
คือ โดนแกล้งเหมียนกัล ฮา ๆๆ



อิอิ ก็ม่ะลู้ว่า เด๋วนี้ อิหม่ามี๊
ยังโดนลูกโดนปั๋วแกล้งเหมือนเดิมปล่าวน้าาา
แต่จา แนะนำแทคติค แหล่ม ๆ หั้ยนะ
เวลาโดนใครมาแกล้งหยอก ด้วยการ จับตรูดจับนม เนี่ย
อย่าได้สำแดงอาการ หัวฟัดหัวเหวี่ยง บ่นกระปอดกระแปด
แล้ว เที่ยวไล่จับตรูดจับนม ชาวบ้านเขา เพื่อเอาคืนเชียวน้าาา
ม่ะงั้น จะถลำตัวไปเข้าทางไอ้คนแกล้งมันฮ่ะ
ยิ่งมันเห็นเราหัวเสีย มุ่งมั่นจะเอาคืน
มันยิ่งรู้สึกมันส์ ยิ่งสนุก เอิ๊ก ๆ


เนี่ย เวลาโดนแหย่ อิหม่ามี๊ ต้องทำท่าสุขุมคัมภีรภาพเข้าไว้
แล้ว มองด้วยหางตา พร้อม ทำท่า เบื่อหน่ายรำคาญมากมาย
ประมาณว่า แอร๊ยยย จะเรียกร้องฟามสนใจจากช้านทั้งที
ทำไม พวกเธอว์ ไม่หาอะไรที่ทำแร้วมัน ครีเอท กว่านี้ฟระ



หรือ ถ้ามีลูกบร้าเพียงพอ
อิหม่ามี๊ก็ต้องยื่นตรูดยื่นนม
ไปให้พวกอีจับ ด้วยฮ่ะ แล้วก็บอกว่า

อ่ะ ช่วงนี้ช่วงโปรโมชั่น
ใครใคร่จะมาจับ ก็มาจับเสียให้หนำใจ
แต่หลังจากนี้ ต่อไป
ถ้าใครเสือกมาจับตรูดจับนมตรูอีก เมิงเจอตบ !


รับรองว่า ถ้า อิหม่ามี๊ เอาวิธีนี้ไปใช้นะ
จะม่ะโดนลูกโดนปั๋ว แกล้งจับนมเล่น อีกแน่ ๆ อิอิ








เออ พูดถึงเรื่องที่ ไอ้โซ๊ยตี๋มันโมโห
ที่ไม่ได้ตอบไม่ได้สวนกระทู้ นี่ก็เหมือนกัน นะ
อุปมา เหมือนไอ้ตี๋มันติดเหล้าจนงอมแงม
กัลยา ณ มิตร ที่แสนดีอย่างนู๋บี
หรือ ก็อุส่าลักลอบเอา เหล้าเถื่อน
เข้าไปให้มันกิน แก้ ลงแดง


ทว่าครั้นนู๋บี เกิดเคราะห์หามยามซรวย
โดน อิพวกมอดมันจับได้
พอพวกนั้นก็เอาเหล้าที่ยึดไว้
มาเททิ้งต่อหน้าต่อตาไอ้โซ๊ยตี๋


แทนที่ ไอ้โซ๊ยตี๋มันจะโกรธอิพวกมอด
แล้ว กันนู๋บีเอาไว้เป็นพยานผู้ไร้เดียงสา
มันกลับโคตรกลัว WM จนหัวหด
แล้วมาพาลหาเรื่อง โล้งเล้งเม้งแตก
พร้อมกับ ยัดเยียดข้อหา หั้ยนู๋บี
หาว่า อิตั้วเจ้อ่ะ เข้าเมืองตาหลิ่ว
แล้วเสือกไม่รู้จักหลิ่วตาตาม
สมควรโดนประหารเจ็ดชั่วโคตรรรรรร
(โทดฐานที่ทำให้มันอดแดร่กเหล้า)



เฮ้อออ อิหม่ามี๊ขราาาาถามหน่อยดิ๊ ว่า
เรื่องนี้ มันเป็น ฟามผิดของตรูตรงไหนฟระเนี่ย
includes/images/smilies/icon_arrow.gif>
หม่ามี๊ก็เห็นนิ ว่า ไอ้กาทู้ที่นู๋บีไปโพสใน ลานธรรมจกเนี่ย
นู๋บี ม่ะได้เอ่ยชื่อกล่าวหา ล็อคอิน ใด ๆ ในเวบนั้น สักแอะ
( แค่แนะนำเป็นปริศนาธรรมมะอะไรเอ่ย แบ่บอ้อม ๆ แค่นั้นเอ๊ง )
ทำไม ไอ้พวกนั้นมันถึงได้ตะหมูกไว และ อ่อนไหวง่ายถึงเพียงนี้วะ



วุ้ย แต่พูดก็พูดเหอะนะ อิหม่ามี๊
จริง ๆ ไอ้เรื่อง แอบเนียนห่มหนังลูกแกะ
ไปแพล่มเจ๊าะแจ๊ะในเวบธรรมมะ แร้วหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่ม ๆ เนี่ย
แหม๊ เรื่องขี้ประติ๋วแค่เนี๊ยะ
มีหรือ แม่นางมาแล่ ผู้มีพรสวรรค์มันจะทำไม่ได้
แล้วก็ไม่เคยกลัวฮิสทีเรียจะกำเริบด้วย
เพราะคนสวยใจดีอย่างนู๋บีไม่ใช่ไอ้พวกชายหื่นหมื่นกาม
ที่ชอบทำตัวเป็นพวกสมภารกินไก่วัด แบ่บไอ้ตี๋มันนิหว่า จาต้องกลัวทำไมล่ะค๊ะ อิอิ


เพียงแต่ว่า ที่ตรูทำไม่ลง
มันเป็นเพราะ อิศีลข้อ สี่ มันค้ำคอหอย ว้อยยยยยยยย
ขืนแอบเนียน ทะลึ่งทำตามคำยุแยงของ อิบ่างแถวนี้
เกิดศีลถลอกขึ้นมาใครจะรับผิดชอบฟระ
อ้อ ที่สำคัญหากต้องตกนรกขึ้นมา
ไอ้ตี๋มันไม่ได้มาตกนรกแทนนู๋บีนี่หว่า
แล้วตรูจะหาเรื่องซรวยให้ตัวเองทำไมล่ะ



เฮ้อออ จำได้ว่า ตอนแรกที่เอาล็อกอินน้องชาย
ไปโพส ใน ลธมจ. เนี่ย ก็ลำบากใจ
กับการใช้สรรพนาม และ สำนวน เหมือนกันนะ
เพราะถ้า จงใจเปลี่ยนสำนวน และ เปลี่ยนตัวตนของตัวเอง
แบ่บหน้ามือเป็นหลังตรีนไปเรย
มันก็รู้สึกตะขิดตะขวงใจ และ แม่ง ๆ ไงไม่รู้ว่ะ


มันเหมือนมีวาระซ่อนเร้น
จงใจสร้างพยานหลักฐานเท็จ เพื่อโกหกชาวบ้าน
โดยมีเจตนา ที่จะทำให้ผู้อ่านเกิดความเข้าใจผิด
คิดว่า ผู้ใช้ล็อกอินเป็นบุคคลอื่น น่ะ
ซึ่งในฐานะนักปฏิบัติตัวแม่
จะไม่ยอมทำเรื่องแย่ ๆ แบ่บนี้ เป็นอันขาด ( ถ้าไม่จำเป็น เอิ๊ก ๆ )



แต่ไอ้เรื่อง รักษาศีล 5 ยิ่งชีวิต นี่
มันไม่ใช่ประเด็นหลัก หรอกนะหม่ามี๊
เหตุผลที่สำคัญที่สุด ก็คือ
ไหน ๆ นู๋บีก็จงใจจะใช้ไอ้โซ๊ยตี๋เป็นบันไดเหยียบ
ขึ้นไปตบหัว wm ลานธรรมจก ทั้งที
มันก็ต้องจัดหนัก ชนิดให้กระอักเลือดออกมาแบบสด ๆ อ่ะดิค๊ะ
ถ้า ทั่น wm ที่รัก ไม่ทราบว่า แท้จริงแล้ว
อิคนโพส มันคือใคร มันก็ไม่เร้าใจ ว่ะ เอิ๊ก ๆ



เฮ้อออ ไม่อยากจะบอกเรยว่า
มาเห็นกระทู้ตัวเอง โดนแบน แบบสายฟ้าแล่บงี้
นู๋บียิ่งรู้สึกภูมิใจ ประหนึ่งว่า
ได้ลงบันทึก ในกินเนสต์ บุ๊ค เรยอ่า
คิดดูดิ กระทู้คนอื่น wm ยังกัดฟันโชว์แมน
เอาไปแขวนไว้ในถังขยะได้ถึงสามวัน
แต่กระทู้นู๋บี เนี่ย แม้กระทั่ง ถังขยะของเว็บ มันยังไม่กล้าให้อยู่เรย


แสดงว่า wm มันต้องเห็น นู๋บี เป็น หนามยอกใจ ของมันแหง๋ ๆ ว่ะ
เรยทนเห็นตัวหนังสือ ของนู๋บีต่อไปไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว
อะโหย ช่างเหมือนในนิยายน้ำเน่า เล่มละสิบบาท เรยเน๊าะ
ประมาณว่า ตอนแรกพระเอกก็หาเรื่อง
กลั่นแกล้งเฉดหัวนางเอกออกจากเวบ
แต่จริง ๆ แล้วก็แอบเก็บ นางเอก เอาไว้ทั้งสี่ห้องหัวใจ
อืม... อิหม่ามี๊ว่า ทั่น WM ลธมจ. จะแอบแว่บเข้ามาดูนู๋บี
ในบล็อกนี้ไหมบ้างไหมเนี่ย ? นู๋บีจาได้สร้างภาพจิ๊ดนุงส์ เอิ๊ก ๆ



เฮ้อออ....แต่พูดก็พูดเหอะนะ
อิหม่ามี๊ขราาา นู๋บีว่านะ จากนี้ต่อไป
นู๋บีคงต้องลดเพดานความคาดหวัง ในศักยภาพของไอ้ตี๋มันซะแระ
คงต้อง ประคบประหงมดูแลเอาใจใส่มัน ดุจงดั่งไข่ในหิน
ทนุถนอมกล่อมเกลี้ยง เลี้ยงดูมัน
ชนิด ริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให่ตอม แล้วล่ะ


เพราะผู้ชายบางคนมันก็โตแต่ตัว
แต่หัวใจมันบอบบางอย่างกับกระดาษ เรยว่ะ
ขืนแหย่มันเล่นมากไป เด๋ว ด.ช.ก้วยยี้มันจะเจ็บช้ำน้ำใจ
แอบหลบไปกัดผ้าห่มนั่งร้องไห้อะซิกๆ อยู่บนเตียงหยกเย็นอีกอ่า
นู๋บียังไม่อยากโดนข้อหา รังแกเด็กอายุต่ำกว่า ห้าขวบง่ะ
แมร่งโวยวายซ้า อย่างก๊ะตรู ไปกระชากเส้นสองสลึงมันขาด ยังไงยังงั้น



แต่พูดก็พูดเหอะนะ ทีงี้มันเสือกมา เรียกร้องแรกแหกกระเชอ
ทำสำออย ออดอ้อนออเซาะให้ ถนอมน้ำใจกัน
ทีตอน มันลวกน้ำร้อน ขูดขน ชำแหละ แอนด์ ตบถีบ นู๋บีเนี่ย
นู๋บี บีบน้ำตาเป็นปี๊บ ก็ไม่เห็น มันจะใจอ่อน ถนอมน้ำใจกันเรยวะ
เห็นเข้ามาโพสทีไรก็เห็น จัดหนัก จัดชุดหญ่ายยยย
แล้วเม้งแตกแว้ด ๆ เลี้ยงอิตั้วเจ้ด้วยลำแข้ง ประจำเยยย
แมร่งเกิดเป็นผู้หญิงทั้งแท่ง เนี่ย
มันเสียเปรียบไอ้พวกผู้ชายอกสามศอกจิง ๆ เล๊ยโว้ยยยย
ไปเดินขบวนเรียกร้องสิทธิสตรี ก๊ะอิพวกเฟมินิสต์ ดีไหมเนี่ย เหอ ๆ








อ้อ อิหม่ามี๊ขราาาา นู๋บี ขอย้ำอีกครั้ง เป็นครั้งที่พัน
เพื่อหั้ย แควนขับทุกทั่น เข้าใจตรงกัน
ว่า หลักการของบล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน คือ


ใคร ใคร่เม้าส์ เม้าส์
ใคร ใคร่ฟัง ฟัง
ใคร ใคร่จะทำอะไร ก็ ทำไป
แต่อย่าหั้ยเดือดร้อนมาถึง ตัวกรู ( ผู้เป็นเจ้าของบล็อก! )


และที่สำคัญ ในฐานะเจ้าของบล็อก นู๋บี อนุยาดให้ ทุกทั่น
นำ ทุก ๆ คำพูดในบล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน แห่งนี้
ไปฟ้องร้องก๊ะชาวบ้าน เพื่อ เอาหน้ากับคนอื่น ได้
ในทุก ๆ เวบ ทุกๆ งวด และ ทุก ๆ โอกาส ฮ่ะ
เพราะเราไม่สงวนลิขสิทธิ หรือ คิดจาจดสิทธิบัตร
เพื่อเอาไปสะสมแต้ม แบ่บบัตรเครดิต
แต่เรา ต้องการหั้ย ทั่นผู้อ่านทุกทั่น
ได้ ตระหนักและเห็นความสำคัญ
กับการรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองพูด ในทุก ๆ สถานที่ น่ะ
จะได้ รู้จัก ใช้ วิจารณญาณ และดุลย์พินิจ คิดก่อนพูด
เพราะ ที่นี่ คือ บล็อกสุมหัวนินทาชาวบ้าน ไม่ใช่อาคารรัฐสภา
จาได้มี เอกสิทธิกะลาหัว เวลาอ้าปากนินทาใคร



สรุปก็คือว่า ทั่นผู้อ่าน ทุกทั่น อ่านแร้วมีสิทธิที่จะ ไม่พูด นะจ๊ะ
เพราะทุกคำที่ท่านพูด จะถูกนำไปใช้เป็นหลักฐาน
ในชั้นศาล ได้ฉะเหมอจร้าาาา อิอิ


ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงที่แพล่มมานี้
จึงอยากจะบอกหั้ยอิหม่ามี๊สบายใจว่า
ถ้าอิหม่ามี๊มีฟามบริสุทธิ์ใจ ไม่มีชนักอะไรติดหลัง
หากอิหม่ามี๊อยากแพล่ม อยากเม้าส์ไร
ก็ปล่อยหั้ยน้ำหมากกระฉอกออกมาได้ตามซาบาย เหมือนเคยฮ่ะ


ไม่ต้องไปนำพากับน้ำลายของไอ้ลูกหมาที่ไหน
อยากจะแพล่ม เรื่องอะไร ก็ตามแต่ใจจะปรารถนา จร้า
ไม่ว่าจะเม้าส์เรื่องครอบครัว ลูกผัวตัวเอง หรือ เม้าส์เรื่องชาวบ้าน
มันก็ไม่ได้ผิดหลัก รธน.ของบล็อกนี้ แต่ประการใด
ก็อย่างที่เคยบอกแหล่ะ ใคร ใคร่ แพล่ม แพล่ม เอิ๊ก ๆ



อืม...เจ้าเลสเบี้ยนปากน้ำ เพื่อบังเกิดเกล้าที่เคารพ ของนู๋บี
เคยสอนไว้ว่า

ทรัพย์สมบัติอยู่ที่ใด ใจเราก็อยู่ที่นั่น
For where your treasure is, there will your heart be also.
( Matt 6:21)


สิ่งล้ำค่าของพ่อแม่ คือ ลูก
ใจของพ่อแม่ ก็จดจ่ออยู่กับลูก
เป้าหมายของนักเดินทาง คือ ปลายทาง
ใจเขาก็จดจ่อ อยู่ที่ปลายทาง




ดังนั้น นู๋บีจึงเข้าใจเสมอนะ
ว่า คนเรา ก็ย่อมต้องอยากจะเม้าส์ เอ๊ย เล่าสู่กันฟังในเรื่องที่ใจเรา จดจ่อ
อย่างคนเป็นพ่อเป็นแม่ เนี่ย
ใจก็มักจะจดจ่ออยู่กับเรื่องครอบครัวลูกผัว
ที่ผ่านมาพวกเราก็เม้าส์เรื่องพวกนี้ กันมานมนานเป็นชาติอยู่แร้ว
เม้าส์กันมาตะแต่ก่อนที่จะมี ไอ้หมาหัวเน่า
มาเพ่นพ่าน เห่าโฮ่ง ๆแฮ่ อยู่แถวนี้ด้วยซ้ำ
สงสัยมันจะเป็นพวกมีปมด้อยขาดความอบอุ่นในครอบครัว แหง๋ ๆ เรย
ถึงได้สำออย แกล้งทำเป็น เซ็ง เวลาอ่านเจอ
เรื่องครอบครัวสุขสันต์ของอิหม่ามี๊ อ่า
( แต่ จิง ๆ นู๋บีว่า มัน อิจฉา อิหม่ามี๊ก๊ะป๋าโจ มากกว่าว่ะ ฮา ๆ )
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:12:55 น.  

 
 
 
เฮ้อออ จริง ๆ ไอ้ตี๋บ้านแตก
มันไม่เข้าใจธรรมเนียมปฏิบัติ ของ บล็อกนี้เรยว่ะ
แมร่ง ไม่รู้จักเรื่อง เข้าเมืองตาเข ต้องเหล่ตาตาม เองแท้ ๆ
แล้วมันจะมาโวยวายทำติ้ง อะไรฟระ
อย่างไอ้เรื่องที่มันกล่าวหาว่า นู๋บีย้ำคิดย้ำทำ
พล่ามแต่เรื่อง จำศีลในกะลาซ้ำซาก เนี่ย ก็เหมือนกัน


ไอ้โซ๊ยตี่ มันไม่รู้หรอกว่า นี่ก็เป็นการส่ง ซิกแนล
ที่รู้กันดีในหมู่แควนขับว่า มันหมายถึง


การที่นู๋บีจะหายหัวจากโลกไซเบอร์
ไปปฏิบัติภารกิจเพื่อชาติ อีกแล้วนะเธอว์
ดังนั้น ไม่ต้องชะเง้อคอรอเด้ออออออออออออออออ



เฮ้ออออ จิง ๆ ก็ชอบเข้ามาแพล่มมาฝอย
แลกเปลี่ยนน้ำลายก๊ะ บรดาแควนขับอ่ะนะ
เพราะมันได้ ลับเขี้ยวลับสมอง แล้ว หัวมันลื่นปื้ด ๆ ดี
แต่บางทีมันก็อยากจะพักน้ำลายเพื่อ เว้นวรรคทางการเมือง
แลนดิ้ง ไปทำเรื่องนู้นเรื่องนี้ จิปาถะ
( แบ่บน้าเน้ก ก๊ะ อิเจ้หน่อย สุดารัตน์ ) มั่งเหมือนกัน


และ การสุมหัวคุยฯ กับแควนขับ แบบนันสต็อป
บางทีมันก็ฝอยเพลินจนเกินพอดี
ทำให้หักโหมเผลอเบ่งพลังลมปราณมากไป
แล้วทำให้ธาตุไฟเข้าแทรกได้เหมือนกัน


อืม....บางที เวลามีแควนขับหลวมตัว เอ๊ย ให้เกียรติ


เข้ามาคุยด้วย ในบล็อกเนี่ย
ถ้าเราติดขัดโน้น ๆ นี่ ๆ ไม่ได้ ไปแพล่มโตย
เราก็จะพะว้าพะวงนะ
มันเหมือนมี แขกเข้ามาหา
มาทักทายถึงในบ้านในบล็อก
แล้วเจ้าบ้านอย่างเราก็ดันเสียมารยาท
ไม่ยอมออกมาต้อนรับขับสู้อย่างเต็มที่น่ะ
ถ้าสื่อสารกันไม่ดี มันก็จะเสียความรู้สึกกันทั้งสองฝ่าย
( ที่สำคัญเรทติ้งก็จะหดหาย เอิ๊ก ๆ )



ดังนั้น อิคิตตี้ มันก็เรยต้องงัดเอา
มาตรการ จำศีลในกะลามหาสนุกมาใช้อ่ะ
เมื่อไรก็ตามที่ นู๋บีเริ่มพล่ามคำนี้ ซ้ำซากในบล็อก
มันก็จะเป็นเหมือน การย้ำคิดย้ำทำ กับตัวเอง
และส่งสัญญาณควัน ให้แควน ๆ รู้อ่ะ


ว่า หลังจากการโพสทิ้งทวนครั้งนั้น ๆ
อิเจ้นู๋บี มันจะเตรียมตัวชิ่ง แล้ว หายหัวไปเป็นชาติ อ่า
ถ้าครายมาโพสอะไรทักทายต่อจากนั้น
ก็ต้องทำใจไว้เรยว่า อาจจะต้องพล่ามเป็นอิบร้าคนเดียว
โดย ไม่มีสัญญาณตอบรับจากเจ้าของบล็อก
หรือ ถ้าจะเข้ามาตอบ ก็จะไม่ได้รวดเร็วทันใจวัยสะรุ่น นัก แหะ ๆ



แต่ถึงจะ งัดเอามาตรการนี้ ออกมาใช้ก็หลายทีแระ
ทว่า หลายปีผ่านไป โปรเจคเจ็ดชั่วโคตร เกี่ยวกับงานเขียน
ก็ยังไม่คืบหน้า กระดื้บ ๆ ไปถึงไหนเลยนะ อิหม่ามี๊
อย่างตอนปลายปีที่แล้ว ขึ้นสุมหัวฯโครงการสี่ เนี่ย
พอโพสทิ้งทวนฉอด ๆๆ ตามที่สัญญาไว้เสร็จ แล้ว

ก็ตั้งใจจะแปลงร่างเป็น อีแอบ
แฝงกายอยู่ในซอกหลืบของโลกไซเบอร์ ตามประสา อิเข้ล่องหนบนกำแพง
แล้วเจียดเวลาไปเคลียร์ธุระปะปัง ทั้งเรื่องการเขียน และ การปฏิบัติ
จะได้มีเวลาไป ลัลล้าถือสันโดษอยู่เงียบ ๆ กับตัวเอง
อย่างสงบสุขแบ่บอิหลวงเจ้กุ๊กไก่ ณ พลัม วิลเลจมั่ง


แต่ไป ๆ มา ๆ อิการ์ฟิลด์ ก็ดั๊นไป
ติดทีวี ( ดูหนัง ทาง ทรูวิชั่น ) งอมแงม
จนไม่เป็นอันปฏิบัติ อะไรเล๊ยยย เอิ๊ก ๆ
โปรเจคทวนจิตทวนศีลที่ตั้งใจจะทำ
เป็นอันดับแรกตอนจำศีลในกะลา
มันก็ทำไม่รู้ไม่ชี้ เอาไปดองเค็มเอาไว้ ก่อน


จากเดิมที่ค้างคาไว้ในสมุดทวนศีลทวนจิตแค่ครึ่งเล่ม
ตอนนี้มันก็พอกหางหมูจนกลายเป็น เล่มกว่า แระ
ส่วนโปรเจคขีด ๆ เขียน ๆ ทั้งหลาย ก็เจ๊งบ๊งด้วย ว่ะ แหะ ๆ
แต่การได้อยู่กับตัวเองเงียบ ๆ ไม่ติดต่อมีปฏิสัมพันธ์กับชาวบ้าน
มันก็เป็น ความสงบ ใน ความสันโดษ ที่แสนสุขดีพิลึก
ถ้าจะเปรียบให้เห็นภาพ มันก็เป็นความรู้สึกเดียว
กับสมัยที่อิปลาไหล ยังเป็นโสดสโมสร
มีเวลาลั้ลลา ร่อนไปร่อนมา เป็นแม่พวงมาลัย
ดูหนังฟังเพลงและเล่นเกมส์ไปวัน ๆ
พร้อมกับ แพลนนิ่ง โปรเจคเมคมันนี่
เตรียมจะบวชชีหนีไปอยู่ในป่า
อะไรประมาณนั้นเรยมั้ง อิอิ




นี่ ๆ รู้ป่ะ ตอนแรกที่เห็น อิหม่ามี๊ ให้เกียรติ
แวะมาช่วยเจิม เพิ่มเรทติ้ง หั้ย ในโครงการสี(ปีที่แล้ว ) น่ะ
อิการ์ฟิลด์มันก็ คันปาก ตะหงิด ๆ
ส่ายหางดิ๊ก ๆ อยากจะออกไปแพล่ม
บรรเลงเพลง ผีหลอกวิญญาหลอน
ตามประสาคู่หูคู่ฮา ด้วยอ่ะนะ
แต่ว่า มัน ถูกอิคิตตี้ห้ามไว้ อ่า


เพราะ อิคิตตี้มันกะลังติดใจ รสชาติอันสงบ
ในความสันโดษ ของ กะลาครอบอันแสนสุข อยู่อ่ะ
เรยม่ะอยากจาเปิดกะลา ออกมาพบปะกะผู้คนในยุทธจักร
ให้เกิดฟามวุ่นวาย โกลาหล ในดวงจิต อีกแร้วว
อีกอย่างอิการ์ฟิลด์ มันมีลางสังหรณ์ ว่า
ถ้าขืนมันโผล่หัวออกจากรูจอมปลวก ไปอ้าปากแพล่มแร้ว
มันมีแววจะโดนเจ้ากรรมนายเวร มาดักตีหัวเอ๊ย มา ทวงหนี้แค้น
จัดมะเหงกชุดหญ่ายยยย ให้รับประทานจนต้อง ลากยาวววววววววววว
ไม่เป็นการทำงานทำการอีกแหง๋ ๆ เรย


ที่สำคัญ อิตั้วเจ้มันเห็น อิอ่อนเสือนอนกินกะลังแฮ่ปปี้กะชีวิต
กินอิ่มนอนหลับกระฉับกระเฉงดี ก็เรยไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
มันก็เรยตัดสินใจ อยู่ในที่ที่ควรอยู่ (กบดานอยู่ในรูจอมปลวก )
พร้อมกับ ส่งฟามปรารถนาดีไปให้อิหม่ามี๊ทางโทรจิต แทนง่ะ
จากนั้นมันเก๊าะ ลั้ลลา เข้าโหมดนั่งบนภู ดูกาทู้ตามห้องสินธร กะ บอร์ดธรรมะ
ดูกราฟน้องทองม้วน และ อ่านดราม่าที่เวบคุณจ่า อย่างชิลๆ ง่ะ
กะว่าอีกไม่นานคงจะเริ่ม สะสางดินพอกหางหมู
เรื่อง การทวนศีลทวนจิต ที่ดองไว้หลายเดือนได้แระงิงิ



เฮ้อออ ทุกอย่างก็กำลังจะไปได้สวยอ่ะนะ
ถ้าไม่มีไอ้หมาพิทบูลขี้โมโห มาป้วนเปี้ยนร้องโฮ่ง ๆ แฮ่
จ้องจะงับคอหอยคอยตรู อยู่ที่หน้ารูจอมปลวก อ่า
เห็นมันมาเห่าง้องแง้งครั้งแรก ก็มานั่งอมยิ้มนะ
ยังคิดในใจเรย ประมาณว่า เออเฮ้ย สงสัยช่วงนี้ ที่ ลานธรรมจก
คงจะไม่มีกาทู้อะไรไหนเร้าใจจ๊อด
กระตุ้นให้มันอยากกระโจนไปจิกทึ้ง แร้วแหง๋ ๆ
มันถึงได้เฉาปาก และ ว่างจัด จนต้องมา ร้องโฮ่งแฮ่
แว้ด ๆ ฉอด ๆ อยู่คนเดียวเป็นไอ้บร้า
ในบล็อกของอิตั้วเจ้ ตั้งสามคืนรวดติดกันงี้น่ะ




เนี่ย ตอนแรกก็ลังเลเหมือนกันนะ
ว่า กรูจะโผล่หัวออกจาก รูจอมปลวก
ยื่นคอหอยไปให้มันขย้ำเล่นแก้เฉาปากดีไหมวุ้ย
มันจะได้หายหัวเสีย แล้วเลิกเม้งแตก งุงิๆ
ให้แควนขับตรู ขี้หูเต้นระบำ ซะที ฯลฯ
แต่นู๋บีก็ม่ะอยากสร้างวงจรกรรมซ้ำซาก
เดินย่ำต๊อก อยู่ในวงแหวนโมเบียส เป็นเพื่อนมันอ่า
ก็อย่างที่บอกอ่ะนะ ว่า ช่วงนั้น กะลังลั้ลลา
กะการปลีกวิเวกในกะลาครอบอันแสนสุข
จนไม่อยากจะลุกไปแร่พโย่วโชว์สเตปตบถีบ ๆ กับใคร


ก็เล่นเอา ชั่งใจอยู่นานเหมือนกัน
ว่าจะลงไปทำสงครามน้ำลาย ก๊ะมันดีไหม
หรือว่า จะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ ปล่อยให้มันร้องโฮ่ง ๆ แฮ่
อาละวาดเป็นไอ้บ้า อยู่คนเดียว ดีฟระ
เพราะถ้ามันใส่แรงกิริยา มาแล้ว
เราไม่สร้างแรงปฏิกิริยา สำแดงอาการโต้ตอบอะไรออกไป ซะอย่าง
เด๋วไอ้ตี๋โอทึ้ง มันก็จะน้ำลายหนืด
แล้ว เลิกเข้ามาเม้งแตกเองแหล่ะ
เพราะปกติ เวลาที่ มันตอบกาทู้ ที่ ลานธรรมจก
แล้วไม่มีใครไปขัดคอ หรือ ไปตบตีด้วย
มันก็จะบำเพ็ญตนเป็น องคุลีมาล หยุดพล่ามไป เองอ่ะ อิอิ


แต่ถ้าใช้ท่าไม้ตาย สงบสยบเคลื่อนไหวงั้น
นู๋บีก็เป็นห่วงกลัวว่า มันจะวิตกจริต
คิดมาก จนใจเสียไมเกรนกำเริบ
เด๋วเส้นเลือดในสมองแตก ง่ะ
แหม๊ ก็ขนาดแค่มันอยากรู้อยากเห็น
นึกครึ้มไปแย๊ป ๆ ถามอินู๋เอกอน ว่าเป็นใครในเวบพังจิต
พอ อินู๋นั่นมันตอบช้านิด ๆหน่อยๆ
ไอ้ตี๋มันยังรู้สึกผิด คิดมาก
จนต้อง รีบออกมาเอ่ยปาก
พูดขอโทษขอโพย เรยนิ



ตอนนั้น เห็นแร้วเล่นเอารู้สึกงงเต๊ก เรยนะ
ประมาณ เฮ้ย ผู้ชาย 5 อะไรเนี่ย
ทำไมมันถึงได้ใจเสียได้ง่าย ๆ และ อ่อนไหวนักวะ
กะอีแค่ ไปถามชื่อชาวบ้านแค่เนี้ยะ
ทำไมมันต้องมานั่งใจเสีย รู้สึกผิดคิดมาก ทำท่าอย่างกับว่า
มันเผลอไปก่อคดีอุฉกรรน์ ประมาณว่าเหยียบหางชาวบ้าน
จนเป็นเหตุหั้ยเกิดการตายโหงตาย 5 ด้วยฟระ ฯลฯ



เนี่ย เห็น อาการของมันตอนนั้น แล้ว
ก็เรยไม่อยากให้ ไอ้เจ้าคนอ่อนนอกแข็งใน
ต้องมา แบกรับความรู้สึกไม่ดี เอาไว้
เพราะเสือกคิดเตลิดเปิดเปิง ไปเอง
เหมือนกับตอนที่มันวิตกจริตคิดมาก ตอนถามอินู๋เอกอน น่ะ


อย่างน้อย ถ้ามันจะทุกข์ มันจะเจ็บ
( ไม่ว่าจะเจ็บตัวหรือเจ็บใจ อะไรก็ตามแต่ )
ก็อยากให้มันเกิดจาก สิ่งที่นู๋บีเป็น
ไม่ใช่เกิดจากสิ่งที่ไอ้ตี๋มันปรุง อ่ะนะ

การเสียอารมณ์เพราะคนอื่น เนี่ย
ไงมันก็ไม่รู้สึกแย่ เท่ากับการเสียความรู้สึก
เพราะเราเสือกทำตัวเอง อ่ะนะ
ไอ้ตี๋มันยิ่งเป็นพวกชอบมองโรคในแง่ร้าย อยู่ด้วย
เห็นมันคิดปรุงแต่งฟุ้งซ่าน ตะละครั้ง
ออกแนว negative thinking
ทำหั้ยสุขภาพจิตเสีย ตล๊อดดด



ด้วยเหตุผลดังที่กล่าวมานี้
ทำให้ ตอนนั้น นู๋บี สองจิตสองใจ คิดไม่ตก นะ
ว่า ตรูจะ เทคแอคชั่น ประการใดก๊ะ ไอ้หมาบร้า ตัวนี้ดีฟระ
จะโต้กลับแรง ๆ หรือ แกล้งทำเป็นหูทวนลม ทำไม่รู้ไม่ชี้ดี ?
เฮ้ออออ เล่นเอา ต้อง มานั่งเท้าคาง มองหน้าบล็อกฟังมันเม้งแตกไป
ดูทรูวิชั่นไปอยู่นาน เป็นชาติจนหนังจบไปหลายเรื่อง ถึงดึกดื่นเที่ยงคืนเรยมั้ง
แบ่บว่า ช่วงคริสมาสต์ปีที่แล้วมันไม่ได้ขึ้นเวรด้วยอ่ะ
เรยนั่งเอกขเนก ดูหนังซ้าาาาา ซะเต็มคราบเยยยย
แถมตอนนั้น ทรูฯ มันกะลังเอา หนังที่อยากดู เรื่องนี้







มาฉายด้วยอ่า ก็เรยนั่งดูไป
แล้วจุดธูปถาม อาเฮีย อาโนลด์ ไป
ประมาณว่า เฮียขราาา นู๋บีจะเอาไงกะไอ้ตี๋นรก นี่ดี ว้าาา
แต่สุดท้ายก็มาตัดสินใจได้
เพราะ พ่อ ไอ้ ดช.ปลาบู่อ่ะ เอิ๊ก ๆ
ประมาณ ว่า เอาวะ เปิดกะลา
ออกไปต่อวงจรกรรม ในวงแหวนโมเบียส
เข้าไปตบตี ฟัดกะไอ้โซ๊ย ตี๋มันซักตั้ง ก็แระกัน
ให้มันรู้ไปเล๊ยย ว่า ไผ เป็น ไผ ? เหอ...เหอ...


อีกอย่าง ไหน ๆ ก็ใกล้ปีใหม่ แระ
เผื่อคำทำนายของ อิ ด.ช.ปลาบู่ มันเป็นจริง
หาก เขื่อนแตก สำลักน้ำตายขึ้นมา
ตรูจะได้ไม่ต้องติดค้างอะไรมัน
ส่วนมันเอง ก็จะได้นอนตายตาหลับ
ไม่เกิด ปฏิฆะ ต่อกัน

เฮ้อออ ไอ้ตี๋มันต้องขอบใจ พ่อน้องปลาบู่ นะเนี่ย
ที่ทำให้ อิตั้วเจ้มองเห็นดวงตาธรรม
เปิดกะลาออกมาต่อปากต่อคำก๊ะมัน
ม่ะงั้นนะ เข้าโหมด จำศีลในกะลางี้
ตรูหายหัวไปเป็นซาดด
ไม่ออกมาต่อปากต่อคำกะใครหร็อก เอิ๊ก ๆ


แต่คิดแล้วก็ทั้งขำทั้งเซ็งนะ อิหม่ามี๊
ไอ้เราหรือก็เป็นห่วงกัวว่า
ถ้ากระดิกตรีนนั่งดูหนังทางทรู ฯ อยู่เฉย ๆ
โดยไม่คิดจะแก้ข้อกล่าวหา อะไรเรย
เด๋ว ก็จะมีคนมานั่งจ้องหน้าตาถลน
ทำท่าเจ้าคิดเจ้าแค้นอยู่หน้าจอคอมพ์
แล้ววิตกจริตคิดมาก น้อยใจจนไมเกรนกำเริบ
ตามประสาคนแข็งนอกอ่อนใน
เก๊าะเรยต้อง แพล่มตอบมันซ้าหน่อย


แมร่ง ดึกดื่นเที่ยงคืน กรูง่วงจะตาย 5 หนังตาจะปิดอยู่แระ
ยังต้องอุส่าตัดใจจากกะลาครอบมหาสนุก
บุกมาโพสขำขันมันส์ฮา เพื่อมาช่วยคลี่คลายบรรยากาศหั้ย แท้ ๆ
แต่แทนที่ไอ้โซ๊ยตี๋มันจะเข้าใจอิตั้วเจ้
ที่ไหนได้ เสือกเห็นดอกบัวป่อง เป็น กงจักร
ถลาเข้ามาเล่นบทดราม่า ตบถีบ ๆ เม้งแตกใส่ตรูอี๊ก
ช่างน่าน้อยใจเสียนี่กระไร อะซิก ๆ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:14:16 น.  

 
 
 
คุณ devilmanb ว่า...
-----------------------------
ชอบรูปประกอบบล็อก ฮาดีจริงๆ
++++++++++++++++++


นู๋บีว่า....

อิอิ ก่อนอื่นต้อง ขอขอบคุณ หลาย ๆ เจ้าค่ะ
ที่ คุณให้เกียรติมาช่วย เปิดซิง เอ๊ย เจิมกาทู้ ( ตอนโครงการ 4 ) หั้ย
แหม๊ นี่ถ้าม่ะได้ คุณมาเป็น อัศวินขี่ม้าขาว มาช่วยเจิมกาทู้หั้ย
อิฉันคงจะเสียเซล์ฟ พิลึก
ที่มาแพล่มบ่นโพสคนเดวเป็นอีบร้าาา
ตั้ง ยี่สิบฝ่าเม๊นต์แหนะ แหะ ๆ


เออ ดีใจจังที่ คุณชอบ รูปปลากรอบ ในบล็อก ^ - ^
ม่ะทราบว่า ชอบเฉพาะ รูปลิงทาลิปสติก
หรือว่าชอบ รูปโฟโต้ชอป ล้อการเมือง แจ่ม ๆ ในนี้ ด้วยอ่ะคร้าาาา
เด๋ววันหลังจาได้ ควานหามาแปะไว้ ให้ดูเล่นๆ
เพื่อเป็นการคลายเครียด อีกอ่ะ เอิ๊ก ๆ



อ้อ จิงดิ ได้ข่าวว่า เมื่อปลายปี
ได้ลูกสาวเข้ามาเป็นสมาชิกครอบครัวเพิ่มอีกคน
เรย แวะเอา ลิงค์เนี้ยะ มา

ฝากเป็นการรับขวัญ คุณหลานจร้าาาา


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:22:10 น.  

 
 
 
อาเหล่าแปะ ว่า...
---------------------------------------
อาซิ่มdangcarry เหล่าฮูม่ายเคยเสวนาล่วย
เชิญชำแหละตามอัธยาศัย
มีดีๆก็มาแบ่งเหล่าฮูล่วยแล้วกันนะ
เหล่าฮุแซบว่า โซ๊ยตี๋เค้าหมายถึงหลบภัยน่ะ
แต่อาซิ้มdangcarryนี่ คาดไม่ถึงน่ะ
เค้าก็ฉลาดเป็นกรดนี่นา
และก็เป็นคนคิดดีล่วยนี่น๊า
เพียงไม่เคยเสวนากะเค้า
+++++++++++++++++++++++


นู๋บีว่า...
อิอิ ต่อหั้ย ฉลาดเป็น กรด ก๊ะ คิดดี ไง
ไอ้พิศาลอัครเศรณี เอ๊ย ไอ้โซ๊ยตี๋ มันก็ไม่ยอมอ่อนข้อหั้ย
และพร้อมที่จะกระโดดเข้าขย้ำคอหอย
เอาไปลวกน้ำร้อน ขูดขน ชำแหละเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ทุกเมื่อ อ่า
ถ้าลู้สึก ผิดกลิ่น เอ๊ย ถ้าคน ๆ นั้น ม่ะมี ทิฐิ ในแบ่บที่ มัน เรียกว่า
เป็นสัมม๊า สัมมา ( แปลว่า ถูกใจมัน ) อิอิ


ก็อย่างที่เคยบอกแหล่ะ คนที่จะมาถกธรรม
ตบตีกับไอ้ตี๋มันได้ โดยไร้รอยขีดข่วน
ต้องเป็นพวกที่มีอารมณ์ขันพิเรนทร์
มี สุขภาพจิตแข็งแรงสมบูรณ์
ตรงไปตรงมากับสิ่งที่ตัวเองพูด
และ ทำ โดยไม่มีวาระแอบแฝง
รวมทั้ง ไม่มีเงื่อนปมอะไรในใจ
หรือมีชนักติดหลัง ให้มันหยิบเอามาทิ่มแทงได้
( อาทิเช่น อิอ่อนเสือนอนกิน ก๊ะ อิป่วนนัมเบอร์วัน แห่งลานธรรมจก อิอิ )




อืม....กะอิเจ้แดง นี่
นู๋บี ก็ไม่เคยเสวนาด้วย เหมือนกันจร้าาาาา
ส่วน กะ อิมวยม้วยหลบภัย นี่
ก็ ได้คุยกันแป๊บ ๆ ไม่ได้สนิทด้วยเท่าไร
แต่เคยเห็น ไอ้เจ้าลาเฒ่าหัวดื้อ ที่ชื่อสับสน
มันเคยเปรยขึ้นมาลอย ๆ
แล้วบางทีก็มีบ่นกระปอดกระแปด
เต้นงิ้วผาง ๆ แว้ด ๆ
ใส่ เด็กน้อย และ คนชรา ทั้งสองนี่
ในกาทู้ที่ห้อง อพินยา ด้วยอ่ะ



อ่านแล้ว ก็เรยรู้สึกแปลก ๆ แม่ง ๆ ว่ะ
เพราะปกติ ไอ้เจ้าสับสน มันมักจะรักษาอากัปกิริยา
หลีกเลี่ยงการกระทบกระทั่ง ไม่ค่อยจะพูดจาแรง ๆ ใส่ ผู้หญิงนะ
ขนาด สมัยก่อนมันเคยตบตีก๊ะนู๋บี ที่พันติ๊ป แทบจะฆ่ากันตาย
หยิกแกมหยอกกันไง ยังไม่เคยเห็นมันจะ จัดหนัก หั้ยสักดอกส์ เรยว่ะ
เอ ? หรือเป็นเพราะว่า ไอ้เกิด มันจะกลัวพิษร้าย
ของแมงมุมแม่ม่ายดำอย่างนู๋บี
แบ่บที่ อิตาสาโทมันบอกไว้ล่ะหว่า เหอ ๆ



เออ จิงดิ อิฉันเพิ่งลู้นะเนี่ย ว่า
อิตา ปราบเทวดา ก๊ะ อิตา วิษณุ12 เป็นคนเดียวกัน
นึกว่า คนละคนซะอีก เพราะ ภาพลักษณ์ ของ อิตาปราบ
มัน ดูขลังกว่า อิตาวิษณุ อ่า ดูเป็นนักปฏิบัติที่ดูมีภูมิดี
ส่วน อิตาวิษณุ นี่เห็นเล้ว ให้ความรู้สึกนึกเอ็นดู มากกว่านะ
เหมือนเห็นเด็กผู้ชายอยากรู้อยากเป็นตัวเล็ก ๆ น่ะ อิอิ






อาเหล่าแปะ ว่า....

-------------------------------------------
ขอสารภาพว่า ตาจะเหล่เอา

ด้วย ว่ามีฟามระลึกนึกถึงสหายน้อยเป็นอย่างยิ่ง
เลยลองติดตามอ่านสักระยะ พบว่า ป๋านู๋บีช่างจำนรรจาเป็นอย่างยิ่ง
สมควรที่เหล่าฮูต้องฟังให้มากๆ แต่ด้วยสายตาที่ไม่เอื้ออำนวยเท่าใด
จึงได้แต่ส่งสารให้ได้รู้ว่า มีตาเฒ่าเจ้าเล่ห์กะลังคิดถึงอยู่

แต่อ่านๆไป มีฟามรู้สึกเฉียดใบหู เฉียดกระเดือก เฉียดขวั่บๆ
จนจิตใจไม่ค่อยอยู่กะเนื้อกะตัว เกิดร้อนตัวขึ้นมาอย่างช่วยม่ายล่าย ทั้งๆที่หนาวจะตาย

+++++++++++++++++++++++++++++++++++

ป้านู๋บี ว่า....
อาเหล่าแปะเจ้าขราาาาาาาาา
ขอโทดที ด้วย ที่ ตัวหนังสือ ของ อิฉัน
ทำให้ แปะ เกิดอาการ ขวัญหนีดีผ่อ
จิตใจไม่ค่อยไม่ค่อยอยู่กับเนื้อ กับตัววววว แหะ ๆ
แหม ๆ ที่จิงแร้ว อิฉัน ตั้งใจจะปาหินใส่หัวไอ้ตี๋บางคนตะหาก
ก็ม่ะได้ตั้งใจจะ ปาหินใส่หัว อาแปะ เรยน้าาาาา
แต่ ตอนที่เขียน นี่ ก็รู้สึกแว๊บ ๆ ตะหงิด ๆ เหมือนกันนะ
ว่า ถ้าแปะแวะ มาอ่าน สงสัย อาจจะโดนลูกหลง
จนน้ำลายหนืด ฝืดคอ ไปด้วยแหง๋ ๆ อิอิ


เฮ้ออ แต่ก็นั่นแหล่ะ ในสงครามน้ำลายน่ะ มีคนเคยกล่าวไว้ว่า

ธนูง้างแล้วต้องยิง กางเกงลิงซักแล้วต้องตาก

นี่นะ ดังนั้นกระบี่เทพเกรียนเซียนนิ้วจรวด จะทำเช่นใรได้
นอกเสียจาก กระหน่ำยิงจนหมดแม๊กซ์
เพราะ แม่นางเทียวเสี้ยมอย่างอะฮั้น
เห็นด้วยกับ หลักการลงทุนของเม่าตลาดหุ้น ที่ว่า

ยิงธนูดอกเดียว ได้นก 2 ตัว !


ว่าแต่ งานนี้ ทั่นนินจาเฒ่า
โดน ธนูปักเข่า ไปกี่ดอกส์ ล่ะหว่า แหะ ๆ


แต่ไงก็ต้องแท้งกิ๋ว อาเหล่าแปะ นะเจ้าคะ
ที่มีน้ำใจมาคอยเป็นห่วงเป็นใย
แถมยังยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัว
ออกมาปกป้องผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แสนจะบอบบาง อย่างนู๋บี
เวลาที่นู๋บี ถูก ไอ้ผู้ชายใจร้ายมันย่ำยีหัวจิตหัวใจ ฮือ ๆ


เฮ้อออ ทำไม โลกธรรมแปด มันถึงไม่เที่ยง เยี่ยงนี้หนอ
ตอนแรกก็แสร้งทำเป็น ไอ้เด็ก ก้วยยี้ มาหัวร่อต่อกระซิกด้วย
แต่ครั้นคนสวยอย่างเราเผลอพูดจาไม่ถูกหู เข้าหน่อยเดว
ละครเรื่องมังกรหยก ก็ หกคะเมนตีลังกา
กลายเป็น นิทานก่อนนอน เรื่อง นู๋น้อยหมวกแดง ซะงั้น
อะโหยยเข้าใจฟามลู้สึกของป้าแดง เอ๊ย นู๋น้อยหมวกแดง จิง ๆ โว๊ยยย อะซิก ๆ







ว่าแต่ ในการศึกครั้งนี้
อาแปะ จา ถือหางข้างคราย ดี คร้าาาา
ระหว่าง เจ้าหมาป่าหน้าเหี้ยมม
หรือว่า แม่เทียวเสี้ยม หมวกแดงงงงงงงงงงง ? อิอิ
อ้อ แล้วเท่าที่ แอบซุ่ม สังเกตุการณ์ อยู่ เนี่ย
อาแปะ คิดว่า หอกทมิฬ ก๊ะ อิโต้อาบยางน่อง
ที่ไอ้เจ้าหมาป่า มันพยามเอามาทิ่มแทง นู๋บีน่ะ
ไอ้อาวุธทื่อ ๆ พวกนั้น มันจะมีวาสนา
มาระคายผิวอ่อน ๆ ของนู๋บี อ๊ะปล่าวคร้าาาา
เฮ้ออ ม่ะอยากจะบอก เรยว่ะ ว่า


ขนาดเดินแก้ผ้าโทง ๆ ถลกกระโปรงแดง
เปิดหั้ยมันแทง ซะขนาดนี้แระ
มันยัง แทงไม่โดนซะก๊ะติ๊ดด
สงสัยจัง ว่ามันอ่อนข้อหั้ย
หรือว่า มัน บ่ มีไก๊ กันแน่ว้าาา อิอิ
แต่ คิด ๆ แล้ว ก็น่าขำเนอะ
นี่ล่ะนะ ที่มันเป็น ศักยภาพที่แตกต่าง
ของ คนเป็น ลูกพี่หัวหน้าคณะ ก๊ะ ลูกน้อง อ่า
( กระดูกมันคนละเบอร์ ว้อยยย )



แหม ? นี่ถ้าเจอคดีก่อการร้าย นู๋บีคงโดนข้อหาแกนนำ
แล้วได้รับการสถาปนาเป็นรัฐบุรุษ ได้ โนเบล ไพร๊ซ์ แบบ เนลสัน เมนเดลล่า
ส่วนไอ้โซ๊ยตี๋ นี่มันก็เป็นได้แค่ โล่ห์มนุษย์ เอ๊ย ผู้ร่วมชุมนุมลูกกระจ๊อก
ที่โดนระเบิดปิงปองขว้างใส่หัว แล้วออกมานอนตาย อย่างหมาข้างถนน ว่ะ
อืม...แต่ถ้าเลือกสถานที่ชุมนุม ให้ถูกที่ถูกทาง สักหน่อย
ก็คงจะได้ทุนการศึกษาให้ลูกชาย อย่างน้อย ๆ 7 ล้านบาท
แต่ก็ม่ะช่าย 10 ล้านโคร์น อย่างนู๋บีฮ่ะ อิอิ

เฮ้ออ แต่ก็นั่นแหล่ะนะ บางครั้งเราก็ต้องใช้ ศพของเบี้ยในกระดาน
มาเป็นบันได ให้เราเหยียบ ขึ้นไปถึงจุดสูงสุด
เฮ้ออ พูดไป มันก็เป็น สัจธรรมทางการเมือง อีกแระ เหอ...เหอ....






เออ นี่ ๆ อาเหล่าแปะ ขราาาาาา
ในฐานะ ที่ อาเหล่าแปะ ลู้จักนู๋บีมาตั้งนาน
นานยิ่งกว่าที่ ไอ้โซ๊ยตี๋ มันลู้จักนู๋บี ซะอีก
อาแปะ ว่า นู๋บี เป็น แดงสลิ่ม หรือ เหลืองอมสะตอ
แบ่บ ที่โดนคนบางคนมัน ค่อนขอด อ๊ะปล่าวคร้าาาาาา
เฮ้ออ ม่ะอยากบอกเรยว่า นั่งฟังไอ้ตี๋ มันชี้หน้าด่านู๋บีฉอด ๆ
หาว่า นู๋บีป๊อด มั่งล่ะ หาว่าไม่กล้าเลือกข้าง มั่งล่ะ
หนักเข้า ก็มาเม้ง ว่าเป็น อิสลิ่มลืมกำพรืด สะตอลืมกลิ่น
ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ซะงั้น
แมร่งฟังแร้ว ก็ ทั้งขำทั้งเซ็งจิตว่ะ



อารมณ์ประมาณ ว่า ตรูกะลังแก้ผ้าเต้นจ๊ำบ๊ะ แด๊นซ์กระจาย
เล่นน้ำลาย โชว์สเตป หั้ยชาวบ้านร้านตลาด ดูอยู่มันส์ ๅ
ไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ ดันโมโหจนหน้ามืด
รี่เข้ามาตะโกนโหวกเหวก โวยวาย
ชี้หน้ากล่าวหา ว่า อิสมทรง คนนี้
มัน เป็น สมุน บิน ลาเดน
ปลอมตัวมา บึ้มส์ ป่วนกรุง ในซะงั้น



อะโหยยยย จิตนาการบรรเจิดโคตร ๆ
เนี่ย แค่นู๋บี งัดเอา คอลเลคชั่น รูปภาพสะสม
มาอวด แควนคลับแค่เนี๊ยะ
มั๊นก็มาดุมาด่า หาว่า นู๋บี กระสันอยากโชว์โง่
อยากเอากิเลสของสื่อ ความชั่วของนสพ มาอวด
แถมยังมา กระทู้ถาม อี๊ก ว่า


ถามจริงที่ลื้อเอารูปเอาความคิดของสื่อมาโพส
ลื้อคิดว่า มันเป็นปัญญาหรือว่ะ
เห็นชอบด่าคนอื่นเป็นเสือใบลานเปล่า
พวกนั้นยังดีพูดตามจริงตามพระไตรปิฎก แต่ลื้อ
แม่งหยิบเอาเรื่องเมคขึ้นเอง เรื่องที่จะให้คนอื่นชิกหาย



เฮ้อออ เนี่ย นู๋บี อยากจะบอกมันเหลือเกิ๊นนนนน
ว่า ไอ้เรื่องที่ อวดคอลเลคชั่นรูปสะสม พวกเนี๊ยะ
ตรู ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญญา ว้อยยยยย
ก็แค่ คิดว่า มันเป็นการเล่น ตลกคาเฟ่
ที่เอาไว้เกทับบลัฟแหลก อำกันเล่นแบ่บขำ ๆ เท่านั้นแหล่ะ


ก็บอกแล้ว ว่า นู๋บีชอบเสพย์ การ์ตูนและภาพ ล้อการเมือง
แล้ว ไม่ได้มอง ภาพตัดต่อ พวกนั้น เป็น ขยะ ด้วย
แต่ มองมันเป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะ แขนงหนึ่ง
พอเห็น ภาพอันไหน แหล่ม ๆ อ่านแร้วขำกลิ้ง
ก็เรยหัวเราะชอบใจ แล้วอยากจะเอาโพสแบ่งปัน รอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะ กับบรรดาสหาย มันก็แค่นั้น

ทว่า ไม่คิดไม่ฝันเรยว่า
ไอ้ตี๋มันจะเส้นลึก ไม่นึกตลกไปด้วย
แถมยัง มาร้องง้องแง้ง แช่งชักหักกระดูก นู๋บีอี๊ก
โทดฐาน ที่ทำให้มันเสียฟามรู้สึก

แต่เรื่องนี้ จะบอกให้นะ ว่า
มันจะ เสียฟามลู้สึก ยังไง ก็ช่าง แมงมัน จิ๊ค๊ะ
ตัวไม่ได้ติดกันนิ ต่อให้มัน มะโห เครียดจนไมเกรนกำเริบ
นู๋บีก็ไม่ได้ บ้าจี้มีอาการไมเกรนขึ้นกบาล ตามมันไปด้วยนิ อิอิ


ที่สำคัญ มันก็บอกเองนี่หว่า
ว่าไม่อยากคุยเรื่องการเมืองด้วยแระ
แล้วมันจะมา พื้นฝอยหาตะเข็บ อะไรก๊ะนู๋บี นักหนาล่ะวะคะ
ถ้ามันทำหูทวนลม ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไปซะอย่าง
เด๋วนู๋บีเบื่อ นู๋บีก็เลิกพูดเรื่องนี้ เองแหล่ะ
ใครมันจะไป บ่นเป็นอีบร้า อยู่ได้คนเดว ฟระ


แล้ว ที่นู๋บีแพล่ม ๆ สู้ หลังขดหลังแข็ง
เอา คอลเลคเลคชั่นรูปสะสมมาโพสเนี่ย
นู๋บี พูดกะมัน แต่ไม่ได้คุยกับมัน ว่ะ
ก็แค่ อาศัยมัน เป็น สะพาน
ข้ามไปคุยกันกระหนุงกระหนิง
ก๊ะ เหล่า แควนคลับเฉย ๆ อ่ะ


ดังนั้น ทุกเรื่องทุกช็อทและทุกรูป ที่เอามาโพส
ไอ้ตี๋มันจะเคยเห็นมาหมดแล้ว ก็ช่างหัวมันปะไร
เพราะ ตรูไม่ได้โพส หั้ยเมิงดู คนเดว นี่หว่า
ตรูโพสเพื่อแบ่งปันก๊ะ แควนขับ ของตรูด้วยเฟร้ยยย



แต่ ดูเหมือน มันจะไม่เข้าใจ ความนัย อันนี้เล๊ย
ดันเสือก ปรุงแต่งฟุ้งไปเรื่อย กล่าวหานู๋บี อีกอ่ะ ว่า


--------------------------------
ทำเป็นอีแอบ ชอบเนียน ชอบอีกคน แต่เอาอีกคนมาบังหน้า
เพื่อกลบเกลื่อนความในใจ มันก็เหมือนอีเหยินเจ็ดสี ที่ทั้งรัก
ทั้งหลงพี่ม้าก แต่แกล้งเนียนว่า เป็นสื่อเป็นกลาง

อีเจ้นี่โด--ตระเนียนเลย อั้วเห็นลื้อแหกปากด่าอั้วว่า
ยึดมั่นถือมั่น แต่เท่าที่ดูความเห็นลื้อมา
แม่งยกแต่พวกเหลื่ยมขึ้นมาด่า
เจ้จะว่าใครมันต้องกล้าออกตัวอยู่ฝ่ายไหนไปเลย
ทำเนียนว่ะ แกล้งโยนหินถามทางแบบนี้ แม่งเด็กจริงๆ
---------------------------------------------



เฮ้ออออ สงสัย ต้องเลคเชอร์
ให้ไอ้ผู้ใหญ่บ้านเป็ด มันฟัง อีกสักหลาย ๆ รอบแล้วล่ะ
ว่า นู๋บีไม่ได้แกล้งเนียน ไม่ได้เป็น อีแอบ
ไม่ได้ แอ๊บกลางแบบอินังเหยินสุดที่ร้ากกกก ของมันด้วย


มันคิดว่า ในโลกนี้มีแต่มันคนเดียว หรือไงวะ ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด น่ะ
อาแปะลู้แล้วอย่าตกใจนะ คนอย่างอิฉันน่ะ
มักจะมีแนวคิดที่ค่อนข้างประหลาดว่ะ
ไม่ใช่ แค่จะเป็นพวกปัจเจกที่ไม่มีสถาบันศาสนา เท่านั้นนะ
ต่อให้เป็น สถาบันชาติ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา
หรือว่า สถาบันเสริมฟามงามที่ไหน ฯลฯ
อิฉัน ก็ไม่เคยสนใจจะมีไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ นะ


แบ่บว่า แข็งนอกแข็งใน
และ เป็น คนไร้รากโดยสมบูรณ์แบบ
แถมยังชอบตัดสินทุกอย่างรอบตัว
จากความพอใจ และประโยชน์ใช้สอยซะด้วย
ถึงได้บอกไง ว่า อิฉัน เข้าใจฟามรู้สึกของ ทักกี้
เพราะ อีมีหลายอย่างที่คล้ายกับอิฉัน เอิ๊ก ๆ



เฮ้อออ ก็ในเมื่อ สันดานอิฉัน
มันเป็นคนไร้รากซะขนาดนี้แล้ว
ไอ้ตี๋มันจะให้ อิฉันยัดเยียดตัวเอง
ไปเป็น เหลืองอมสตอ หรือ แดงอมสลิ่ม ได้ไงฟระ
ก็คนมันไม่ได้เป็นนี่หว่า แมร่ง ไอ้โซ๊ยตี๋นี่จะยัดยาบ้า ให้ใคร
ก็ไม่รู้จักดูตาม้าตาเรือ เอาซะเรยยย




เออ นี่ ๆ ในฐานะที่ อาแปะ เป็น พุทธบริษัท 4
ขอถามหน่อย ดิ ไอ้ที่มีคนมาแพล่ม ๆๆ บอก ว่า


หน้าที่อย่างหนึ่ง ในสังคมพุทธ
คือ ห้ามวางเฉยเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
และ ต้อง เม้งแตก ประณามคนที่ขาดเหตุผล
ต้อง ถูลู่ถูกัง ทำให้เขาสำนึก ให้ได้
ยิ่งถ้าเป็นคนที่เรารู้จักและสนิทสนม ด้วย
ยิ่งต้องเอาให้หนักกว่าชาวบ้านเขา ฯลฯ


อาแปะขราาาาา เรื่องนี้ มันจิงแท้แน่นอน
อย่างที่ไอ้โซ๊ยตี๋มันโม้ไว้อ๊ะปล่าวคร้าาาาาาาาาาาาา
ไม่รู้ดิ ฟังแร้วมันคาใจอ่ะ นึกถึง เรื่องราวในไบเบิ้ล เรื่องเนี้ยะ จังเยยยย




อืม....เพราะสำหรับ อิฉันแล้ว
คำพูดประณามหยามเหยียด ทั้งหลายในลักษณะนี้
มันเหมือนการปาหินทำโทษคนบาปในสมัยก่อนล่ะมั้ง
มัน ไม่ใช่ สัมมา ว่ะ เผลอ ๆ เอนไปทาง อคติ 4 ด้วยซ้ำ


อืม...อาเหล่าแปะ เคยดูเปาบุ้นจิ้น
ตอนประหารเปาเหมียนมั้ยละ
จะบอกให้ ว่า ถ้าไอ้เปาหน้าดำ
มันตัดสินประหาร เปาเหมียน
ทั้ง ๆ ที่ โทษทัณฑ์ ยังไม่ถึงกับต้องประหัตประหาร กันเนี่ย
อิฉัน ไม่เรียกว่า แข็งนอก หรอกนะ
แต่ จะเรียกว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วินิจฉัยโดยมี อคติ 4 เป็นที่ตั้ง
ทำให้ ตราชั่ง ไม่เป็นกลาง ว้อยยยยยย


และ ถ้า อิฉันเป็น เปาเหมียน อ่ะนะ
อิฉันจะ ยื่น อุทรณ์ ฎีกา ฟ้องกลับ ไอ้เปาหน้าดำ
ทั้งทางแพ่งและทาง อาญา
แล้ว อัปเปหิ มันออกจาก ศาลไคฟง
โดยยกเอาประเด็นเรื่องการขาดคุณสมบัติของการเป็นศาลพระภูมิที่ดี
ไม่มีทั้ง หลักการ และ หน้าที่ มาเล่นงานมันฮ่ะ
แมร่งมีอย่างที่ไหน เสือกใช้ดุลพินิจ โดยมี อคติ 4 แอบแฝง
งี้มันต้อง แจ้งความกลับ เพื่อรักษากระบวนการ ยุติธรรม !
ห้ามเห็นแก่ ความเป็นพี่น้องร่วมสาบาน
หรือ ความเป็นญาติโกโหติกา เมื่อชาติปางก่อน


จริงอยู่ ใครจะดีจะชั่ว มันก็เป็นเรื่องของเขา
ทว่าสำหรับพวกเรา มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมานั่ง ถนอมน้ำใจ
ยึดมั่นถือมั่น กับคำสัญญิงสัญญา ที่ว่า
จะต้อง ดีซึ่งกันและกัน ไปชั่วกาลนาน
แต่ ทุกอย่างมันต้องว่ากันไปตาม กระบวนการ

ใครถูก ก็ว่าไปตาม ถูก ใครผิด ก็ว่าไปตามผิด

ไม่ใช่ คิดแต่จะ ว่าไปตามความพอใจไม่พอใจ ส่วนตัว
สิ่งนี้ ตะหาก ล่ะ ที่เรียกว่า แข็งนอก ที่เหมาะสม


ส่วนอ่อนใน ก็คือหลังจากที่ ศาลพิพากษา
มีคำวินิจฉัย ให้ นั่ง เก้าอี้ไฟฟ้า จน ไอ้ทั่นเปาหน้าดำ มันตายหองตาย 5 ไปแล้ว
อาเหล่าม่า เอ๊ย เปาเหมียน คนนี้ ก็จะขอรับผิดชอบ
หอบ อาตี่ตี๋ไปเลี้ยงดูปูเสื่อให้เป็นอย่างดี แทนเตี่ยมันเอง
โดย นู๋บีจาให้อาตี่ตี๋ไปเป็นเด็กล้างส้วม
อยู่ในฮาเร็มของอิตั้วเจ้ สัก ห้า-หก ปี
เพื่อเป็นการปฏิบัติธรรมเจริญสติ ลดทิฐิมานะ อ่า
รับรองว่า ถ้าได้อยู่ในฮาเร็ม น้อยคอยร้ากกก ของอิตั้วเจ้ แล้ว
โตขึ้นมา ไอ้นู๋นั่น มันจะกลายเป็นหนุ่มน้อยอัธยาศรัยดี
ที่ไม่อวดเก่ง ถือดี และ ชอบทุจริตต่อหน้าที่
เหมือน เตี่ยมัน แน่นอนนนนนน
( ถ้าอาตี่ตี๋มันไม่สำลักกลิ่นขรี้ ตกชักโครกตายซะก่อนอ่ะนะ เหอ...เหอ.. )



อิอิ นี่แหล่ะ คือ บทสรุป
ที่แสนจะหมดจด และ งดงาม
ของ คำว่า แข็งนอกอ่อนใน
ตามแบ่บฉบับ ของ โกวเนี้ยนู๋บี
ความแข็งนอกก็คือหน้าที่
อ่อนในก็คือความห่วงใย อิอิ และ อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:24:00 น.  

 
 
 
อืม...อาแปะ รู้ไหม ว่า
เชื้อชาติ สัญชาติ และ ศาสนา
ไม่เคยมีความสำคัญกับอิฉันมาตั้งแต่ไหน แต่ไร แล้ว
เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ นู๋บีไม่เคยร้องเพลงชาติไทย
มาตั้งแต่ สมัยประถม แล้ว นะ

และ ไม่เคยเข้าถึงความรู้สึก
ของ รักชาติ ศาสนา และ .... ฯ ด้วย
เนี่ย เวลาที่มองดูและ นึกถึงคำว่า ชาติไทย หรือ สถาบันไหน ๆ
อิฉันก็รู้สึกว่า กำลังมองดูสิ่งต่าง ๆ ด้วยสายตาของคนนอก นะ
จะชาติไทย ชาติยุ่น ชาติเจ๊ก ชาติแกว หรือ ชาติหรั่ง
จะ คริสต์ พุทธ หรือ อิสลาม ในความคิดของอิฉัน
มัน ก็แค่กลุ่มคนที่มีบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน
เลยมาสุม ๆ รวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่า อิฉัน ต้องเป็นส่วนหนึ่งของมัน
หรือ ต้องมาคอยรักและผูกพันธ์ ปกป้องอะไรกันนักกัน นักหนา นะ
เพราะ อิฉันไม่เคยคิดว่า มันเป็น ของกรู เลย



อืม...ถ้าจะยกตัวอย่าง ให้เห็น ภาพ
กรณี ปราสาทเขาพระวิหาร
ที่เราตบตีแย่งสิทธิ กับ ขะแมร์ เนี่ย
รู้ป่ะ อิฉัน คิดไงกับเรื่องนี้
คนไทยตามทะเบียนบ้าน อย่าง อิฉัน
ขอ อนุยาด มองด้วยสายตา ของคนนอก
แล้ว บอกว่า


ถ้า ไอ้ฮุนเซนมันอยากได้
ก็ หลับหูหลับตายกให้มันไปเรยดิ๊
ไม่รู้จะหวงก้างหวงสมบัติเอาไว้ทำไม
เห็น พวกพันธมิตร ไปปฏิบัติการ มิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ล
ทวงคืนเขาพระวิหาร เย้ว ๆ เหมือนเด็กหวงของเล่น
แล้วก็ ขบขัน แกม รำคาญ นะ


อืม...ถ้าพูดกันตามประวัติศาสตร์จิง ๆแล้ว
ปราสาทเขาพระวิหารนี้ มันก็เป็น ศิลปะ
และ วัฒนธรรมของชนชาติเขาจริง ๆ นั่นแหล่ะ


สมัยก่อน ดินแดนแถบนั้น เคยเป็นของเขา
แต่ถูกไอ้พวกคนไทยรุกรานแผ่นดิน
แล้วชิงเอามาเป็นของตัวเอง นะ
ถ้าเขาอยากได้ ก็คืนเขาไปเหอะ งกไม่เข้าเรื่อง


ไอ้เรื่อง สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่ก็เหมือนกัน
ถ้ามันกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแยกตัวนัก
ก็ยกแผ่นดินหั้ยมันไปเต๊อะ หวงเอาไว้ทำไม
คนเราเมื่อตายไปแล้ว ก็เป็นเจ้าของที่ดินเท่าแมวดิ้นตาย
แค่เฉพาะ ตรงที่เขา ขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้น
จะไป จัด แคมเปญ สำนึกรักหวงแหนแผ่นดินเกิด
ให้มันมี ระเบิดรายวันสัญจร ไปใย
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ผลประโยชน์ มัน ไม่เข้าใครออกใคร
รายได้เรื่องพวกนี้ มันทำกำไรมหาศาลเรยนิ
ไม่ว่า ใคร ก็ย่อมต้องอยากได้เอาไว้ในครอบครองกันทั้งนั้น



อ้อ แล้ว อีกตัวอย่าง หนึ่ง ที่ทำหั้ย
เห็นคำว่า ของกรู แบ่บชัด ๆ
ที่อยากจะยก เป็นตัวอย่าง อีกอัน ก็คือ


เวลาที่ นึกถึง อาอ๊วง กับ ควีนอลิซาเบธ
ความรู้สึก ของอาแปะ และ ชาวอังกฤษ
ที่มีต่อ บุคคลทั้งสองท่าน ที่กล่าวมานั้น จะ เหมือนกัน ป่ะ
แต่ สำหรับอิฉัน มันไม่ต่างกันเรยว่ะ
เพราะ อิฉันรู้สึกไม่เคยรู้สึกรู้สา
ว่า ท่านทั้งสองนั้น เป็น ของกรู น่ะ
และเมื่อ ไม่ยึดถือไว้เป็น ของกรู แล้ว
กฏแห่งการยึดมั่นถือมั่นของจิต ในส่วนนี้ จึงไม่มี


และ หากมี อะไร เกิดขึ้นกับทั้งสองท่าน
อิฉันก็แค่ดู สิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
( เหมือนเวลาที่บรรดาไทยมุงทั้งหลายไปมุงดูเวลามีรถชน นั่นแหล่ะ)
จากนั้นก็คง แค่รู้สึกนึกสงสาร ตามประสาคนใจอ่อน
แต่ก็ไม่ได้ เกิดความรู้สึกรู้สา ว่า จะต้องมาทนทุกข์ อะไร
กับ ชะตากรรม ของสิ่งที่ไม่ใช่ ของกรู น่ะ
อย่างมากก็คง มองผ่าน ๆ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า


อิทัปปัจจยตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้ จึงมี
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
นี่เป็น เวรกรรม ของมัน
และก็เป็น เรื่องของมัน ด้วยว่ะ



อืม...ฟังอิฉันพูดงี้แล้ว แปะ อาจจะ ไม่พอใจ
แล้ว ตัดพ้อ ถามมาว่า

นู๋บีเคยสำนึกถึงฟามสุขสบาย
ยามอา"อ่วงแก"ออกหน้าช่วยบ้านเมืองบ้างเป่า
อั๊วบอกให้ ตอนปี2516-2525
อั้วเห็นข้างบ้านเราทะยอยตายโหงตายห่า
ตายหลั่ลล๊า ตายกัน3-5ล้าน
ไม่มีที่ไหนรอบบ้านเราสงบร่มเย็นเลย


มีแต่"อ่วงแก"กะแม่ของอีออกหน้า
อาเจ๊เค้าไปสร้างบ้านที่ภาคใต้ล่วยในดงโจร
ทาง เหนืออีปลูกฝิ่น แม่อาอ๊วงอีก็ไปปลูกบ้าน
อยู่กะพวกปลูกฝิ่นเฉยเลย น่ากลัว
แต่เพราะเค้าออกหน้าเรื่องคอขาดบาดตาย
อั้วเลยรู้สึกซาบซึ้งอย่างช่วยม่ายล่าย

แล้วทำไม นู๋บีถึงไม่รู้สึกโรแมนติกดราม่า แบ่บ อาแปะ เรยว้าาา



อิฉันก็ขอตอบว่า ที่อิฉันเกิดมาอยู่ดีมีสุข ทุกข์ไม่ค่อยมี
อยู่บนแผ่นดินไทยเช่นทุกวันนี้
มันก็เป็นเพราะ อิฉันทำเหตุปัจจัยมาเช่นนี้
ผลจึงเป็นเช่นนี้น่ะ วิบากต่าง ๆ ที่เกิดกับอิฉัน
มันก็เป็นไปตามครรลอง ที่ต้องเป็นไป ตามวิบากที่อิฉัน ได้กระทำ ไว้
ทั้ง ใน อดีต และ ปัจจุบันกรรม นะ
ไม่ใช่เกิดจากบุญคุณคุ้มกะลาหัวของใครที่ไหน
เพราะอิฉันทำเหตุมาดี จึงได้เกิดมาในสิ่งแวดล้อมที่ดี


และเมื่อไร ที่อิฉันทำเหตุไว้ไม่ดี
เด๋วอิฉันก็ระเห็จไปเกิดในดงเขมรแดง เองอ่ะ
ทุกสิ่งมันล้วนเกิดจากการกระทำของอิฉันเอง
ไม่ใช่เกิดจาก ความ บ่ มิไก๊ ของ เจ้าสีหนุ !
เจ้า ก็ ปุถุชน ไพร่ก็ปุถุชน กรรมที่เกิด
ล้วนเป็น กรรมของ ปุถุชน กับ ปุถุชน
ไม่ใช่ เรื่องของ คนเดินดิน กับ สมมุติเทพ


และ อิฉันเชื่อเรื่อง กรรมใครกรรมมัน น่ะ
แม้ว่า บางครั้ง กรรมของเรา จะไปเกี่ยวเนื่องโยงใย
ข้องแวะ กับกรรมของคนอื่น
แต่สุดท้าย ของแบบนี้ ก็ ใครทำ ใครได้ อ่ะ



และ หาก บักหมาน พ่ออิฉัน ถูกใครรังแก
จนนอนแผ่พังพาบอยู่ที่พื้น
อิฉันก็คงแค่ พยามปกป้องพ่อตัวเอง เท่าที่พอจะทำได้
แล้วพาพ่อไปรักษาพยาบาลและ พักฟื้น นะ
แต่ คงไม่ยึดหลักการเดียวกับ พวกเสื้อเหลือง
ไปเต้นงิ้ว ประมาณว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
แล้ว ควง ดาบหราตามไปขู่ฆ่า หรือ ทำร้าย จิ๊กโก๋ ที่รุมตื้บ พ่อ หรอกนะ



เพราะอิฉันเชื่อ ในหลัก อิทัปปัจจยตา ที่ว่า
พ่อต้องทำเหตุมาเช่นนั้น จึงเป็นเช่นนั้น
ไม่ใช่เอะอะ ๆ ก็อ้าง ว่า บุพการี คือ ผู้มีพระคุณ
ที่เกื้อหนุนทำให้เราอยู่สุขสบายจนทุกวันนี้
แล้วเราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ทดแทนพระคุณท่าน
แม้ว่าสิ่งที่จะกระทำ มันจะเป็นการก่อกรรมสร้างเวร
ต่อวงจรวงแหวนโมเบียสแบ่บไม่จบสิ้น กับผู้อื่น ก็ตาม
ดังนั้น อิฉันจึงอยากให้ กรรม ทุกอย่าง มันยุติที่อิฉัน ว่ะ


เฮ้อออ จะว่าไปแล้ว แนวคิดในเรื่องการเมือง และ ดำเนินชีวิตของอิฉัน
ค่อนไปทาง เรียลลิสติก สไตล์เดียวกับ คน คนนี้ อ่ะ





ไม่ใส่ใจที่จะนับถือศาสนา และ ไม่ใช่ รอยัลยิสต์
แถมยัง ขี้เกียจ อาบน้ำเหมือนกันซะด้วย
อ้อ แต่ ของอิฉัน ยังดีหน่อย
ที่ยังกลัวฟันผุ เรยขยันแปรงฟัน เอิ๊ก ๆ
แต่ อาเหล่าแปะ ม่ะต้อง กลัว ว่าอิฉันจะไปปลุกระดม
ล้มล้างสถาบัน จัด โปรโมรชั่น พลิกฟ้าคว่ำแผ่นดิน
เหมือน ทั่น ประธานเหมา นะ



เพราะ สิ่งหนึ่งที่ ทำให้อิฉัน ต่าง จาก ป๋าเหมา ก็คือ
หัวอิฉัน มันดันเสือกทะลึ่งเอียงขวา
เหมือน เจียง ไค เชค ก๊ะ ป๋าหมัก ซะงั้น
เรื่องมันเลย โอละพ่อ และ อิฉันก้อเลย
พอใจที่จะ เข้มงวด กับตัวเอง
แต่ ไม่ใส่ใจจะ กวดขัน คนอื่น ง่ะ งิงิ



นับว่า อิฉันยังโชคดีอยู่บ้างนะ
ที่รู้จัก ใช้ความยืดหยุ่นในส่วนนี้
มาปรับสมดุลหยินหยาง ของตัวเอง น่ะ
ม่ะงั้น คงจะปรี๊ดแตก ไมเกรนกำเริบบ่อย ๆ
แบ่บไอ้โซ๊ยตี๋ แหง๋ ๆ เยยยยย



อ้อ จิงสิ เห็น อาเหล่าแปะ
พูดถึง อาอ๊วง ด้วยความเป็นห่วง
เพราะกลัวว่าท่านจะถูกรังแก
และ เกิดเหตุการณ์ พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน
แบบ ในจีนแผ่นดินใหญ่ สมัยราชวงศ์ชิง
คนนอกอย่างอิฉัน ก็เรยอยากจะปลอบใจ ว่า



เหตุการณ์แบ่บนั้น คงเกิดได้ยากส์
( หาก อาอ๊วง ของแปะ ยังคงอยู่ อ่ะนะ )
เพราะ ท่านเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของคนไทยทั้งชาติ
และ มีภาพลักษณ์ของพระจริยวัตรที่งดงาม
ตามแนวทางของทศพิธราชธรรม
แค่นี้ก็ได้ใจคนไทยทั้งประเทศแระ
ไม่ว่าใครก็คงจะสั่นคลอนราชบัลลังค์ ไม่ได้หรอกมั้ง


อืม...อีกอย่างที่อยากจะ หยิบยกมาหั้ยดู ก็คือ
อาเหล่าแปะ เคยรับรู้เรื่องราว
ของราชวงศ์เบญจมาศ แห่งแดนอาทิตย์อุทัย
ในสมัย ที่ไอ้ยุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ไหมล่ะ ?
รู้ไหม ? ว่า ทำไม เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม อย่างยับเยิน
เมกา ถึง ไม่คิดจะล่วงเกิน หรือ ล้มล้าง ราชวงศ์เบญจมาศ
ก็เป็นเพราะ เมกา ต้องการจะใช้ บารมีที่สะสมมาของราชวงศ์เบญจมาศ
และ ศรัทธาต่อสถาบัน ของคนญี่ปุ่น มาเป็นหลักประกัน
ต่อความมั่นคงในสถานะ ผู้ชนะสงครามของตัวเองไง
ไอ้ยุ่นที่อยู่ใต้การปกครองของตัวเอง
จะได้ไม่เกิดการกระด้างกระเดื่อง จน ควบคุมไม่ได้


แล้ว การจะสร้าง ศูนย์รวมทางจิตใจ อันไหม่ขึ้นมา
เพื่อ เป็น หุ่นเชิด ไว้สำหรับคอนโทรล
เอามาใช้ปกครองประเทศผู้แพ้สงคราม เนี่ย
มันก็ต้องเสียเวลามากเกินไป นะ
เมกาถึงตัดสินใจที่จะเก็บ ราชวงศ์เบญจมาศ เอาไว้ไง


แปะเคยเล่น หมากรุก ป่ะ บางครั้ง
เราก็จำเป็นต้องยั้งมือ ไม่ผลีผลาม
รีบไปกำจัด หมากบนกระดานบางตัว ของคู่ต่อสู้
เพราะเรารู้ว่า เราสามารถใช้ประโยชน์จาก หมากตัวนั้น
มาถ่วงดุลอำนาจ ในเกมส์ที่กำลังจะเล่น ได้น่ะ


เหอ ๆ แพล่มไปเรื่อยจน ออกทะเล ที่อ่าวไทย
ไปอ่าวตังเกี๋ย แล้ว ขึ้นเหนือสู่ แดนอาทิตย์อุทัย จนได้วุ้ย
ก็แค่อยากจะปลอบใจ อาแปะ อ่า
ว่า อย่าได้กลัวไปเรยจร้าาาาาาาาาา ว่า
จะมีคนจ้องจะ โค่นล้มราชบัลลังค์
ทักกี้ อีเป็น พวกนกรู้ จอมอัจฉริยะ หมือน เมกา นี่นะ
หากที่ผ่านมา โยนหินถามทาง ซาวด์เสียงประชาชน
แล้ว รู้สึกว่า ชาวบ้านไม่เอาด้วย และ ไม่เวิร์ค
อีคงไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยง ให้ต้องเอาคอไปพาดเขียงหร็อก


ถ้าจะกลัว ให้กลัว เรื่องอื่นดีกว่า อ่า
ร่มโพธิ์ร่มไทรและต้นไม้ใหญ่ จะถูกโค่นให้ล้ม ได้
ไม่ใช่ เพราะ คนตัดไม้ กับ ขวานไร้ด้าม หรอกนะ
แต่มันเป็นเพราะ คนตัดไม้ ไปได้ กิ่งก้านเหมาะ ๆ ของต้นไม้ใหญ่
มาทำเป็น ด้ามจับ สำหรับขวานที่เขาจะใช้ฟันต้นไม้ตะหาก
ถ้า สนิมเกิดแต่เนื้อในตน ฉันใด
ต้นไม้ใหญ่ก็ถูกโค่นให้ล้มลงได้
เพราะกิ่งก้านสาขา ที่เกิดจากตัวมันเอง ฉันนั้น
มันเป็น สัจธรรม อ่ะ แปะ


ความศรัทธาในตัวบุคคล
มันสร้างได้ยากก็จริงอยู่
แต่ การจะทำลายมันทิ้ง
นี่ทำได้ง่ายนิเดียว นะ
แค่ สะกิดจุดใต้ตำตอให้ถูกที่
เอาความจริง(บางส่วน )มาสร้างกระแส
เล่นกับ อารมณ์ของมวลชน
บิ๊วให้เกิดความรู้สึกร่วมกัน
แค่นี้ ก็ปลุกระดมมวลชนได้แระ




อืม... อิฉัน อาจจะ ม่ะใช่ รอยัลยิสต์
ที่ คิดจะสู้เพื่อพ่อ เหมือนแปะนะ
แต่ คนไร้ราก อย่างอิฉันก็ไม่เคย
ถูกหลอกใช้ จนกลายเป็นพาหะ เป็น ลิ่ม หรือ เป็น ด้ามขวาน
ไป ทำลาย ต้นไม้ใหญ่ ที่ไหน เหมือน ใครบางคน หรอกนะ
ไงซะ ไอ้เจ้าศีล 5 ในฮาเร็มที่ อิฉันแบกเอาไว้ มันก็ค้ำคออิฉัน
จนกระดิกตัว จะไปทำอะไรให้ระคายเคืองใครไม่ค่อยจะได้อยู่แย๊วววว




และในฐานะคนนอก ที่ อาศัยอยู่ร่วมแผ่นดินไทยเช่นเดียวกับ แปะ
อิฉัน ขอ นุยาด แนะนำ และ เตือนไว้ ในฐานะ กัลยา ณ มิตร ว่า
บางที ความเป็นห่วงเป็นใย ที่มากเกินพอดี
มันก็ทำให้เราไม่ทันฉุกคิด แล้ว กลายเป็น พาหะ
เผลอ ไป เผยแพร่ สิ่งที่อาจ จะทำลาย คนที่อาแปะรัก และเทิดทูน
ทำให้ท่าน เจ็บปวดได้ โดยที่ อาแปะ ไม่รู้ตัว ได้อ่ะ
ซึ่งการกระทำเหล่านี้ มันก็ไม่ต่างอะไร กับพวกล้มเจ้า
ที่แแปะ ด่าเอาปาว ๆ หรอกนะ
เจตนาอาจจะต่างกัน แต่ วิบาก ( ผลของการกระทำ )
ที่กระทบต่อ อาอ๊วง นั้น มันอาจทำให้ อาอ๊วงท่านเจ็บในทรวง เหมือนกันเลยว่ะ
คนเรา ถ้าไม่รู้แล้วทำ นั้น ไม่ผิด แต่ถ้า เมื่อไร รู้แล้วยัง ทำอยู่ ...
ก็พิณาเอาเองแระกัน ว่ามันสมควรไหม ?



อย่างพวกลิงค์ และ คลิปต่าง ๆ
รวมถึงเรื่องราวที่ แปะ เอามาใช้เป็นหลักฐาน พยาน
เพื่อ ประจาน ฝ่ายตรงข้าม เนี่ย
บางทีพอยิ่งเผยแพร่ มันก็เหมือนเป็นการโหมกระพือข่าว
กลายเป็นมหกรรม สาวไส้ให้กากิน ทำให้อื้อฉาวโดยใช่เหตุอ่ะ
อย่า ทำตัวเป็น กิ่งก้านของต้นไม้
ที่ถูกเขาเอาไปทำเป็นลิ่ม และ ด้ามขวาน
เพื่อเอาไว้ใช้โค่น ร่มโพธิ์ร่มไทรอันเป็นร่มเงา ของตัวเอง อีกเรยว่ะ
แค่นี้ อาอ๊วงของแปะ ก็ เจ็บจนแทบกระอักเลือด อยู่แล้ว








ว้าาาาา ยิ่งพูดยิ่ง กัว อาแปะ จะเครียด
จนไมเกรนกำเริบ ตามไอ้โซ๊ยตี๋ มันอ่า
งั้น เอา นิทานอีสป สองเรื่องนี้ มาฝากก็แระกัล
เผื่อ มันจะช่วยให้มองเห็นสัจธรรม อะไรมากขึ้น นะ
(เอ๊ะ หรือว่าจะเครียด กว่าเดิม ล่ะหว่า แหะ ๆ )



//www.school.net.th/library/create-web/10000/generality/10000-1560.html


//www.stock2morrow.com/showthread.php?t=25218&page=1







 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:27:50 น.  

 
 
 
อาเหล่าแปะว่า ...
------------------------

ปม.

เหล่าฮูป่าวปาหินข้างทาง
แต่หมายหัวอาโอวทึ้งคาชึงแป๊ะอีตะหาก
ผีก็ย่อมเห็นผีล่วยกันม่ายงั้นจะมาร้องจุ๊กๆแถวนี้เร๊อะ
(ที่จิน ไอ้ที่ร้องจุ๊กๆน่ะ เหล่าฮูซะละมากฝ่ามัง
ป้าพูกอะไรทำไมมันโดนหัวเหล่าฮูทู๊กทีเลยอ่า)


ผิดแต่ว่า มิคาดว่าอาโอวทึ้งอีจะมีคนเอา นึกว่าอียังซิงๆอยู่
เพราะอีฉอเลาะช่างจำนรรจาซะขนาดนี้
พอดี เมื่อคืนแอบย่องไปดูอีฉอเลาะกะนู๋หลบที่กระทู้เก่า
โอ้โฮ ! saccharide เรียกตั่วเฮียสนิมสร้อยว่ะ
เหล่าฮูพูกแบบอีม่ายเป็น ลูกเล่นแพรรรววว พรรราาาาวววว


แต่ก็นะ พูกอีกที เหล่าฮูว่าป้านู๋บีคงไม่ยอมลงจากคานง่ายๆอยู่แล้ว
พูกดักคอเค้าไปซะหมดยังงี้ ลุ้นไปก็เหนื่อยป่าว เฮ่อ!

++++++++++++++

นู๋บี ว่า....


อิอิ ดีแระ ที่คิดงั้น อย่าไปลุ้นเรยจร้าาาาา
ลุ้นไงก็ลุ้นไม่ขึ้นหร็อกคร้าาาาาาาาาาาาาา
ก็อย่างที่เคยบอกแหล่ะ ว่า ปณิธานของนู๋บี ใน กระทู้เนี้ยะ นะ
มันมั่นคงหนักแน่นยิ่งกว่า ตอม้อโฮปเวล ว่ะ


อิฉันมันพวกปัจเจก ที่มีรสนิยมอันวิไล
พิสมัย แต่การเป็น ตาลยอดด้วน เท่าน้านนนน
บัวผ่าเหล่า อย่างพวกเรา ม่ะนิยม ทำตัวเป็นเจ้าหมาป่าที่น่าฉงฉาน
แบ่บ ใน นิทานเรื่องนี้ หรอกจร้าาาา อิอิ







อืม...นี่ ๆ จาบอกฟามลับอะไรหั้ยฟังนะ อาเหล่าแปะ
เผื่อจะเข้าใจ สิ่งมีชีวิตจากดาววีนัส มากขึ้น
ถ้าผู้หญิงคนไหน มันทะลึ่งไปอ่อยแบ่บไร้สาระ กะพูชายสักคนเนี่ย
ส่วนใหญ่มันก็เป็นการ อ้อล้อเรื่อยเปื่อย
ไปตามประสาสาวสวยรวยเสน่ห์
แบบว่า ไก่หยอกหมา เป็นงานอดิเรก อ่ะจร้าาา
ก็เหมือนกับที่ อิฉันหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่ม ๆ ทุกคน
ที่หน้ามืดหลุดเข้ามาในวงโคจร
มาอยู่ในจักรวาลเดียวกับอิฉันนั่นแหล่ะ
( อาเหล่าแปะก็เคยโดนมาแล้วนิน่า อิอิ )



แต่เรื่องนี้ ก็ไม่ได้ น่ากลัวมีอันตราย หรือพิษมีภัย อะไร
แบ่บเวลาที่ ไอ้พวกพูชาย มันคิดจะทำตัวเป็น หมาหยอกไก่
หรือ บำเพ็ญตนเป็น สมภารกินไก่วัด หรอกนะ
อาแปะอย่าได้ทำเป็นไก่ตื่น วิตกจริตไปเรยจร้าาาาาาาาาาาาาา
ตราบใดที่ อิพูยิง มันยังปากกล้า พูดจาฉอด ๆๆๆๆ แบ่บน้ำไหลไฟดับ
ทำไก่หยอกหมา กับไอ้หนุ่มคนไหน ได้น่ะนะ
ซาแดงว่า ไอ้พูชายคนนั้น มันยังเป็น ได้แค่ ของเล่น
ยัง บ่ มีอะไร ในกอไผ่ ( นอกจากหมีแพนด้า ) คร้าา โฮ่ ๆ


แต่ถ้า พูชายคนไหน ที่มาชวนคุย ด้วย
แล้วอีสาวมันเงียบกริ๊บบบบบบบบ เป็นเป่าสาก นี่ดิ
อันนี้แหล่ะ ถึงจะเรียกว่า ของจริง
ถ้าอาเหล่าแปะเจอ เคสแบบนี้
แล้วเสนอหน้ามาเป็นพ่อสื่อพ่อชักหั้ย
เก๊าะจาไม่หน้าแตก อ่า
ที่สำคัญ ลุ้นแล้วไม่เหนื่อยเปล่า ด้วยจร้าาา อิอิ
( อันนี้พูดจากประสบการณ์ ที่เคยเจอมาก๊ะตัวเอง เรยนะเนี่ย เอิ๊ก ๆ )



อ้อ อีกอย่างที่อยากจะบอก ก็คือ
อาแปะ อย่าไปมีจิตคิดน้อยใจ
นึกอิจฉาตาร้อน ไอ้น้ำตาลทมิฬ มันเรยฮ่ะ
ต่อหั้ย ไอ้ตี๋ ดีแต่ปาก นี่ มันจะมีลูกเล่นแพรรรวววพรรราาาาวววว แค่ไหน
แต่ถ้ามันยังชอบทำตัวเป็นหมาบร้าาาา
ชอบเห่า โฮ่ง ๆ แฮ่ ใส่ชาวบ้าน เป็นอาจิณกรรมงี้ น่ะนะ


มันก็เป็นได้แค่ ไอ้หมาหัวเน่า
ในสายตาพวกสาว ๆ ไปทั้งชาติ อ่า
เฮ้อออ พูดก็พูดเหอะนะ คารี้คารมอย่างมันเนี่ย
ถ้ามาจีบสาวแข่งกันก๊ะนู๋บี มันก็คงสู้ นู๋บี บ่ ได้ดอก
เพราะใคร ๆ ก็ชมว่า นู๋บีเป็นพวก สาริกาลิ้นทอง เอิ๊ก ๆ



นี่ ๆ อาเหล่าแปะเจ้าขราาาาาาาาาาาาาาาาาา
นู๋บี ขอเตือนว่า อย่าได้เผลอเห็น กงจักรเป็นดอกบัวป่อง
คิดจะลอง เลียนแบบพฤติกรรมแย่ ๆพวกนี้
จากไอ้ไก่แจ้ มันเรยน๊าาาา
นู๋บีเป็นห่วง กลัวว่า เด๋ว อาเหล่าแปะจะติดนิสัยไม่ดี
แล้ว กลายเป็น หมาหัวเน่า เหมียนไอ้หมอนี่ อ่ะ


อ้อแล้วถ้าอยากมี คารี้คารมชวนเคลิบเคลิ้ม
ที่แนบเนียนและลุ่มลึก มากมาย
อิฉันก็ แนะนำว่า ให้ไปศึกษาได้จาก ไอ้เสือจำศีล ที่ กระทู้นี้ ดีฝ่าฮ่ะ
เพราะอิฉันเองก็ยังแอบเล่นบท ครูพักลักจำ
แอบ ยื้มคารี้คารมมันมาใช้ออดอ้อนชาวบ้านอยู่บ่อย ๆ หุหุ



ปอลิง





เออ จิงดิ ลืมบอกไป ว่า แวะไป โหลด เพลง
ที่ อาแปะร้อง มาฟังแระน้าาาาาาาาาาาาาาา
อะโหยยย เสียงแปะ นุ่มทุ้ม ยังก๊ะ พระเอกในละครวิทยุเรยอ่า
ว่าง ๆ ออกซิงเกิ้ล เพลงบาปบริสุทธิ์ ของคาราบาว หั้ยฟังมั่งจิ
เพลงโปรดของนู๋บี เรยนะเนี่ย ฟังแร้วมีกำลังใจขึ้นคานดีว่ะ อิอิ


อ่ะ สองลิ้งค์นี้แถมหั้ยอ่านเล่นเป็น อุทาหอน
เกี่ยวกับเรื่อง ฟามฟุ้งซ่าน จินตนาการบรรเจิด
และ ฟามร้ากกกกกกกกกกกกกกกกก เหอ ๆ

ปรัชญา ว่าด้วย ฟามฟุ้งซ่าน


ความผิดเดียวของทมยันตีคือการแต่งงาน


เฮ้อออ เนี่ย อิฉันลู้แระ ว่า
ไม อิป้าอี๊ด มันถึงมีพรสวรรค์ ในเรื่องการขีดๆ เขียน ๆ
จนเข้าถึงก้นบึ้งของอารมณ์ของตัวละครนัก
ที่แท้ ก็เป็นเพราะว่า อี มีประสบการณ์ชีวิต
เป็นวัตถุดิบซะเพรียบบบบบบ งี้นี่เอง
สงสัยอิฉัน ต้องไปเข้าคอร์สเรียน วิชา สปช.
เพิ่มอีกสัก 2-3 หน่วยกิต ถ้าจะดีแฮะ
เพื่อว่า จาได้เป็น นักประพันธ์นามอุโฆษ งั้นมั่ง หุหุ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:34:22 น.  

 
 
 
ไอ้ทึ้งว่า...
-----------------------------------
อิเจ้อยากบอกว่ะชีวิตจริง มันไม่ดราม่า
เหมือนไอ้สอราเสี้ยมไปลุยนำแจกถุงยังชีพหรอกน่ะ
ไอ้เวงเอ้ย! เอ็งมีหน้าที่เสนอข่าว ไม่ใช่เสนอหน้า
เขาให้ทำข่าวอ่านข่าวคนอื่น
ไอ้เสี้ยมดันเสนอข่าวตัวเองไปดร่าม่ากับชาวบ้าน
เจ้ว่าไอ้เสี้ยม มันทำถูกหรือเปล่าว่ะ
ถ้าให้อั้วทาย จากความเห็นข้างบนของลื้อ
ลื้อคงหลงรักไอ้สอราเสี้ยมเข้าเต็มเปาแน่ๆ

+++++++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า...

เหอ ๆ นี่แหนะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ลื้ออย่าคิดว่า
ชาวบ้านชาวช่องมันจะเป็นพวกวัยรุ่นใจง่าย
ชอบคนนู้นที ชอบคนนี้ที แบบไอ้ตี๋ปัญญาอ่อน แถวนี้สิวะ
กับเฮียสอ เนี่ย เจ้ก็แค่รู้สึกนึกเอ็นดู
เพราะอีหน้าตาเหมือน ไอ้เสือจำศีลตัวนึง
ที่อิเจ้เคยแอบปลื้มมันอยู่ ก็เท่านั้นเอง อิอิ
แต่ก็ไม่ได้ หลงรักจนหัวปักปำ ทำอะไรก็ดีไปโม๊ดดดด
แบ่บที่ลื้อเคยเห็นพี่จี๊ด เป็นนางในฝัน
หรือ ตะบี้ตะบัน เข้าข้างซือแป๋หมัก
เพราะศรัทธาบานตะไท จนไม่ลืมหูลืมตาซะหน่อยนิ



และ หาก ลื้อ กับ เฮียสอ เกิดอุบัติเหตุตกเจ็ทสกี อยู่ที่จุดเดียวกัน
ตอนที่ เจ้ยืนอยู่บนพนังกั้นน้ำ แถวนั้นพอดี
อิเจ้ก็ยังคงยืนยัน ที่จะช่วย เฮียสอ ก่อนช่วยลื้อ อยู่ดี ว่ะ
แต่ลื้อจะมาน้อยอกน้อยใจ หาว่า อิเจ้เห็นขี้ดีกว่าไส้ งี้ก็ไม่ค่อยจะถูกนะว้อย
เนื่องจาก เหตุที่เจ้ทำงั้น มันไม่ใช่เพราะ ฉันทาคติ
แบ่บเดียวกับที่ ลื้อช่วย อิเจ้บัวเกี๋ยงนี่หว่า
แต่เป็นเพราะ เฮียสอ แก ว่ายน้ำไม่เป็น ตะหาก
ส่วนไอ้ตี๋จอมอึดอย่างลื้อน่ะ ตกน้ำตกท่าแค่เนี้ยะ
มันก็ คงกล้อมแกล้มว่ายน้ำป๋อมแป๋มเข้าฝั่งไปได้
โดยไม่สำลักน้ำตายจน ซี้ม่องเท่ง หรอกมั้ง



แต่ถ้า ว่ายน้ำไม่เป็นทั้งสองคน
เจ้ก็จะโยนเชือกไปช่วย โดยสุ่ม ๆ ไป
แล้วปล่อยให้พวกลื้อสองคนตบตี
แย่งจับเชือกกันเองไปตามยถากรรมว่ะ
แต่เจ้คงจะไม่โดดลงไปช่วยใครหรอกนะ
เพราะว่า ตรูเองก็ว่ายน้ำไม่เป็น
และรักตัวกลัวตายเหมือนกันว่ะ เอิ๊ก ๆ















ส่วน ไอ้เรื่องการเสนอข่าวแบบเสนอหน้าของเฮียสอ
ที่ชอบเทียวมาเสี้ยม แอ๊บเนียน แอ๊บแบ๊ว
แล้วเหยาะฟามเห็นฟามรู้สึก ของตัวเอง เป็นผงชูรส
เพื่อชักจูงคนดูให้คล้อยตามน่ะ
เจ้ก็ไม่เคยคิดจะ ไปตัดสินว่ามันผิด หรือ ถูก ซะด้วยสิ
การเพ่งโทษชาวบ้าน เป็นเรื่องผิดกฏมณเฑียรบาลของการเป็นนักปฏิบัตินะเว้ย
แต่ถ้าถามว่า หากเป็นตัวเอง อิเจ้จะทำอย่างเฮียสอ ไหม ?
ก็คงขอจะตอบง่าย ๆ สั้น ๆ ว่า กรูทำไม่ลง ว่ะ




อืม....การเสนอข่าวที่บิดเบือน ของสื่อ นั้น
เจ้ก็มองว่ามันก็จัดเป็นปาหี่ชั้นดี
ที่เหมาะจะเก็บเอาไว้ดูเล่น
เสพเป็นดราม่าแบ่บ เพลิน ๆ อ่ะ
แต่ไม่ใช่ว่าจะต้องอิน ต้องคล้อยตาม เสมอ
ก็อย่างบอกแหล่ะ เจ้มันพวกแดกได้ทุกอย่าง
ไม่ว่าจะเป็น หมามุ่ย ใบตำแย กระบองเพชร และ ซ่กเล็ก เอิ๊ก ๆ



เฮ้อออ เจ้อ่าน นสพ. และสื่อสิ่งพิมพ์ มาตั้งแต่สมัยประถมนะ
ครั้นพอ ม.ต้น ช่วงนั้นมันก็มีเหตุ พฤษภาทมิฬ มาหั้ยดูเล่นพอดี
ก็เรยนึกครึ้ม คิดจะเขียนนิยายน้ำเน่าเคล้าน้ำตา
โดยอาศัยความขัดแย้งของอุดมการณ์ทางการเมือง มาเป็นพล็อตเรื่อง
แถมยังเสือก เซท ให้อินังเอก มันเป็นนักข่าวสาวเจ้าอุดมการณ์ซะอี๊ก
เพราะฉะนั้น เจ้ก็เลยต้อง ค้นก่อนแล้วค่อยคว้ามาเขียน
ด้วยการพยามเรียนรู้ สภาพของวงการสื่ออย่างที่มันเป็น
เพื่อจะได้หยิบเอาข้อมูลมาเขียนแบ่บสมจริงที่สุด



แล้วลื้อ คิดว่า เจ้เห็น อะไรมั่งล่ะ
สมัยประถม เจ้มองว่า ไอ้ฐานันดรที่ 4
มันเป็นอะไรที่ หมดงดและงดงาม
เป็นเหมือนกระบอกเสียง
ที่ช่วยพิทักษ์รักษาผลประโยชน์ให้ประชาชน
และเต็มไปด้วยอุดมการณ์อันหาญมุ่งอ่ะนะ
ดังนั้น ทุกละอองน้ำลายที่ สื่อมันพูดกรอกหู
อิเจ้ก็พร้อมที่จะ คล้อยตามได้โดยง่ายนะ



แต่พอโตขึ้นมา ก็เริ่มจะเอะใจ กับ ความทะแม่ง ๆ
ของ คอลัมนิสต์ ใน สื่อ นสพ. บางคน
อย่างตอนมีการลงสมัคร เลือกตั้ง ผู้ว่า กทม. ( สมัย ดร.โจ มั้ง )
ก็เริ่มแปลกใจว่า ทำไมบางคอลัมภ์ เชีย์คนนู้น
บางคอลัมภ์เชียร์ คนนี้ โดยแต่ละคน
ก็พยามยกข้อดีของฝ่ายตัวมาโปรโมท
พร้อมทั้ง สาดโคลนหั้ยฝ่ายตรงข้าม
(แล้วงิ ผู้บริโภคอย่างกรูจะเลือกถือหางเข้าข้างใครดีวะ)



ซึ่งพอเห็นโลกเห็นชีวิต และ แก่แดดแก่ลมมากขึ้น
ก็ได้รู้ว่า ที่มันมีเรื่องงี้ ก็เพราะการมีผลประโยชน์เข้ามาเกี่ยวข้องในวงการสื่อไง
แต่นั่นก็ไม่ได้หมายความ เราจะสิ้นศรัทธาใน ฐานันดรที่ 4
จนต้อง ปิดหูปิดตาตัวเอง แล้วเลิกอ่าน นสพ. ไปเรยนิ
ก็อย่างที่ ซือแป๋ลื้อ เคยบอกนั่นแหล่ะ
เวลาเราเสพสื่อสิ่งพิมพ์ เราต้องรู้จักโยนิโสฯ
แล้วใช้ปัญญาแยกแยะ ชำแหละหาประโยชน์โดยไม่เพ่งโทษ
ที่สำคัญ ต้องดูให้ดี ๆ ว่าคนเขียนมันสีอะไร และ ถือหางใคร
จะได้ไม่เคลิ้มหลงคารม มันมากเกินไป



อย่าง อิตากิเลนประลองเชิง เนี่ย
ถ้าพูดถึง เกร็ดความรู้สารพันอันน้อย ในเชิงประวัติศาสตร์
ก็ต้องยอมรับว่าในคอลัมภ์ ชักธงรบ
เขาเขียนโดยย่อยมาหั้ยเราอ่าน
เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย ที่น่าสนใจดี
และ ให้ช่วยให้เราได้เปิดหูเปิดตา
ในบางสิ่งที่เด็ก เจนเนอเรชั่น เอ็กซ์ อย่างเราไม่เคยรู้ด้วย


ซึ่ง ข้อมูลเหล่านี้ มันก็สมควรจะเมมฯ เก็บไว้ในลิ้นชักความจำ
เพื่อสำรองข้อมูลเอาไว้ใช้ เมื่อมีโอกาส
ซึ่ง จะว่าไปอิเจ้ ก็ได้เอาองค์ความรู้ในส่วนนี้
ไปใช้บ่อย ๆ เหมือนกันนะ อาทิเช่น
เอาเรื่องหลักการบริหารคน ของ เจียงไท่กง
มากวนซ่งติง คนบางคนเล่นอ่า
แต่ไอ้หมอนั่นมันก็ เส้นลึกโคตร ๆ
ม่ะยอมกระโดดมาเล่นบท พระเอก
ตามที่ อิเจ้กรุยทางไว้หั้ยมันเล๊ยยยยยยย เหอ ๆ




และในส่วนที่เป็นในแง่ของการความเห็นเรื่องการเมือง
ที่คอลัมภ์นิสต์คนนี้ชอบเอาเนียนเอามาแทรกเป็นยาดำ
เวลาขมวดปมตอนจบคอลัมภ์นั้น
ส่วนใหญ่อิเจ้ก็อ่านผ่าน ๆ แบ่บ ขำขันเอามันส์
ทำนองเดียวกัน กับ ไก่เห็นตรีนงู งูเห็นนมไก่ น่ะ
ประมาณว่า อีกแระ ปู่แกมาแนวนี้ อีกแระ
แต่ เวลาอ่านทีไร ก็ไม่เคยปรี๊ดแตก แบ่บลื้อซะทีนะ เอิ๊ก ๆ




อืม...เจ้าพี่ชายนอกไส้ เด็กเศษสาด ผู้พิสวาท อาเจ่กเสกสรร
เคยบอก อิเจ้ว่า เขาไม่อ่าน นิยายของ ทมยันตี เลย
เพราะ ไม่ปลื้ม จุดยืนเรื่อง แนวคิด และ อุดมการณ์ ของคนเขียน
แถมพอ ไอ้เราอยากรู้อยากเห็น ( แต่ขี้เกียจค้น )
ก็ประจ๋อประแจ๋ ปะเหลาะถาม ตะแก
ประมาณว่า ตอนมีเหตุการณ์เดือนตุลาเนี่ย
นู๋บียังไม่ได้มาผุดมาเกิดเยยย
ยังล่องลอยเป็นสัมภเวสี อยู่ทีไหนก็มิลู้
อาเฮียเล่าหั้ยฟังมั่งจิ นะนะ ฯลฯ



ทว่า เสียน้ำลาย ออดอ้อนแทบตาย
อีก็ไม่ยอมให้ความกระจ่าง
แต่ไล่ให้ไปคุ้ยหาข้อมูลเอาเอง
ตอนนั้น ตรูก็ยังไม่รู้จัก อากู๋( กูเกิ้ล) ซะด้วย
แล้วจะให้ไปควานหามาจากไหนฟระ
สุดท้ายเลยไปตั้ง กาทู้ถามที่โต๊ะห้องสมุด ของพันติ๊ป
ซึ่งก็ได้คำตอบมาหลากหลายนะ แต่ก็กำกวมไม่มีรายละเอียดชัดเจน
ตอนนั้น อิเจ้รู้จักแต่โต๊ะ ห้องสมุด น่ะ ไม่รู้จักห้องราชดำเนิน
ไม่งั้นคงได้ คำตอบที่ถึงพริกถึงขิงฝ่านี้ เอิ๊ก ๆ


ลื้อรู้ไหม หลังจากได้คำวิจารณ์ในแง่ลบ เกี่ยวกับ เจ้ทมฯ
อิเจ้ มีจุดยืนไง ในเรื่องเกี่ยวกับ นักเขียนที่เป็นไอดอล ของเจ้ คนนี้
อิเจ้โพสบอกชาวบ้านในกระทู้ไปประมาณ ว่า

-------------------------------------------------
ขอบคุณทุกทั่น ที่มาช่วยโพส ให้ข้อมูลเป็นวิทยาทาน
และไม่ว่า ข้อเท็จจริงเรื่อง เหตุการณ์ในช่วงเดือนตุลา จะเป็นไง
ใครจะผิด ใครจะถูก นู๋บี ก็จะขอ ยืนยัน นั่งยัน นอนยัน ว่า

นู๋บีก็ยังคงชื่นชมความสามารถในด้านวรรณศิลป์ของเจ้ทม
และจะขอ ติดตามอ่าน งานเขียนของเจ้ ต่อไป
เพราะ สิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้จาก หนังสือของเจ้ ก็คือ

เหรียญบาท มี สองด้าน เสมอ

---------------------------------------------------





อืม... ก็เพราะคำว่า เหรียญบาท มีสองด้านเสมอ นี่แหล่ะ
ที่เป็น อุทาหรณ์ และมีผลต่อแนวคิดในเรื่องต่าง ๆ ของเจ้เสมอ
เจ้ก็เรยเป็นพวกที่พยามจะไม่เพ่งโทษใคร
และ ไม่เคยคิดจะเลือกยืนอยู่ข้างไหน แบบเต็ม ๆ ตรีน
( แปลไทยเป็นไทยอีกทีว่า ตรูชอบเหยียบเรือสองแคม เอิ๊ก ๆ )



อืม...หลังจากวันนั้น เจ้ก็ยัง ตามอ่านผลงานอิเจ้ทม ฯ
และก็ชื่นชมอิเจ้นี่ เป็น ไอดอลในดวงใจ ( ด้านวรรณกรรม ) เหมือนเดิ้มมม
แต่ที่ต่างไปจากเดิม คือ เมื่อเจ้รู้ถึงภูมิหลังที่มาที่ไป ตลอดจน จุดยืนของ เจ้ทม
แล้ว เจ้ก็เสพตัวหนังสือของแกอย่างระมัดระวัง มากขึ้นนะ



สมัยก่อนช่วงมัธยม ตอนอ่านนิยายของแก
อย่างเรื่องคู่กรรม 2 นั่นก็ร่ำ ๆ จะเคลิบเคลิ้ม โดนจูงจมูก
ถูกล้างสมอง ให้ไม่ชอบขี้หน้าพวกคนเดือนตุลา เลยนะนั่น
อาจเป็นเพราะ มีพื้นเพ ชอบหมั่นไส้
พวกที่ทำตัวเป็นคนดีมีอุดมการณ์ล้ำเลิศก็ได้มั้ง
เวลาอ่าน ก็เรยคล้อยตามคนเขียนได้ง่าย ๆ
ถึงขนาดที่ว่า แทบจะก๊อปแนวคิดของอิเจ้ทม
ไปเขียนเป็นิยายการเมืองในสไตล์ตัวเอง ด้วยซ้ำ



แต่ก็นับว่า เจ้ยังโชคดีอยู่บ้างนะ
ที่ คนอย่างเจ้ไม่ใช่ศรัทธาจริตชนผู้เปี่ยมล้น
เมื่อโตขึ้นได้รู้ได้เห็นอะไร มากขึ้น
ก็รู้จัก กำพืด เอ๊ย ประวัติไอดอลของตัวเองมากขึ้น
เจ้ก็เลยเข้าใจว่าอะไรเป็นเหตุปัจจัยให้ อิเจ้ทม
มันถึงได้แทรกแนวคิดทางการเมือง
และ มุมมองชีวิต ลงในนิยายตัวเองแบบนั้น


ทำไม นิยายเรื่อง สิ้นสวาท
ถึงมีกลิ่นอายของการต่อต้านคอมมิวนิสต์
และ สนับสนุน กับระบบศักดินา


ทำไม นิยายเรื่อง ในฝัน
ถึงดูเป็น รอยัลยิสต์ เทิดทูนสถาบัน นัก



ทำไม นิยาย บางเรื่อง พระเอกนางเอก
ถึงสร้างตำนาน รักต้องห้าม (แอบเป็นชู้กัน)
และมีพระเอกเป็นตะหาน



ทำไม นิยายบางเรื่อง ถึงจบแบบโศกนาฏกรรม
ที่นางเอกไม่สมหวังในฟามรัก แล้วยิงตัวตาย


สรุปก็คือ นิยายที่อิป้าอี๊ดมันเขียน
ส่วนใหญ่ก็มีที่มาที่ไป มาจาชีวประวัติตัวอิป้าเอง อ่ะ
เพียงแต่อาศัย เสริมจินตนาการ เติมผงชูรส
เหยาะน้ำปลา บีบมะนาวเพิ่ม เอาเท่านั้นแหล่ะ
คนเขียนเองก็ไม่ได้ ดีเด่อะไร ก็แค่ผู้หญิงฉาวโฉ่
ที่ต้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะถูกผัวฟ้องหย่าข้อหามีชู้
ชนะคดีในชั้นอุธรณ์ แล้วก็แพ้หมดรูปในชั้นฎีกา
แถมวันดีคืนดี พอรู้สึกผิดหวังในชีวิตมาก ๆ เข้า
อิป้ามันก็เคยถึงขนาดจะคิดจะฆ่าตัวตาย
โดยจะเอาปืนยิงกรอกปากตัวเอง ด้วยซ้ำ



พอรับรู้เรื่องพวกนี้ แล้ว เจ้ก็อึ้งเหมือนกันนะ
ที่ไอดอลของเรา เค้าเป็นงี้
แต่ เจ้ก็ไม่ได้จงเกลียดจงชัง อะไรอิป้าอี๊ด
เหมือนที่ลื้อไปร้องกรี๊ด ๆ หมั่นไส้พี่จี๊ดของลื้อหรอกนะ
เพราะเจ้ คิดว่า ป้าแกเป็นปุถุชน ไง
สิ่งทั้งหลายทั้งปวงที่เกิดขึ้น จากการตอบสนองของแก
ก็เป็นไปตาม เหตุปัจจัย ตามประสาปุถุชนคนเดินดิน
ที่มีรัก โลภ โกรธ หลง วางไม่ลง ปลงไม่ได้ มันก็เท่านั้น
ไม่สำคัญว่า ชาวบ้านจะเป็นคนยังไง
แต่สำคัญ ว่า เราจะเป็นคนยังไง ตะหาก




มันก็เหมือนกับเรื่อง เฮียสรยุทธ สุดที่ร้ากกก ของลื้อนั่นแหล่ะ
ลื้อจะไปบังคับกะเกณฑ์ 5 อะไรกับเฮียสอ แกนักหนาฟระ
เฮียสอ แกเป็น ปุถุชน นะเว้ยเฮ้ยยย ไม่ใช่ พระอรหันต์
เค้ายังวนเวียนอยู่ใน รัก โลภ โกรธ หลง อยู๊
ลื้อคิดว่า ไอ้พวก ฐานันดรที่ 4
มันจะยอมแบกจรรยาบรรณของวิชาชีพ
ไว้บนหัวตลอดเวลา หรือไงกันนะ



ถ้ามีช่องทาง และ โอกาสเหมาะ ๆ
มันก็ฉกฉวยหาผลประโยชน์ด้วยกันทั้งนั้นแหล่ะ
แล้ว ไอ้ที่ เฮียสอ ทำ มันก็จัดเป็นกลยุทธทางการตลาด อย่างหนึ่งอ่ะ
อืม...หัวโขนที่เฮียแกสวม มันมีหลายใบนะ
ทั้ง ผู้ประกาศข่าว เจ้าของบริษัท พิธีกร
และ พรีเซนเตอร์โฆาณาสินค้า ฯลฯ
ซึ่งเฮียแกก็คงเลือกสวมหัวโขนต่าง ๆ
ตามที่แกเห็นว่ามันเป็นประโยชน์กับแกมากที่สุดนั่นแหล่ะ
ไม่ใช่สวมบทให้ถูกใจลื้อ โดยยึด จรรยาบรรณ หลักการ และหน้าที่
ส่วนผู้บริโภคข่าวอย่างเรา ก็คงต้องเสพ
แล้วเลือกสุกเลือกดิบกันเอาเองไปตามยถากรรมว่ะ



เฮ้อออเรื่องนี้มันเป็นความจริง
ของ สังคมแสร้งจริตมาตั้งนานแล้ว นี่หว่า
โตจนหมาเลียตรูดไม่ถึงแล้ว
ทำไมลื้อยังยอมรับด้านมืดของโลกไม่ได้สักทีนะ
ลื้อคิดว่า ตัวเองเป็น ซุปเปอร์แมน ที่คอยปฏิบัติภารกิจ
ปราบคนพาล อภิบาลคนดี แล้วแบกโลกทั้งใบ
เอาไว้เป็นงานอดิเรกหรือไงวะ


หัดทำตัวหั้ยเหมือน หนูแหวนแขนอ่อน และ หนูบัวซะมั่งเด่ะ



----------------------------------------------------------
โลกของหนูบัวฯ กับ โลกของหนูแหวนต่างโดยสิ้นเชิง
ทำให้มุมมองที่มีต่อโลก ของเด็กทั้งคู่ แตกต่างกันไปด้วย
หนูแหวนนั้น ร่าเริง.......สดใส........ และ ไร้เดียงสา
ส่วน หนูบัวฯ เป็นตัวแสบที่อันตราย..และ ร้ายเดียงสา

ความเหมือนที่แตกต่าง ของเด็กทั้งคู่คือ
แม้พวกเธอยังเด็กเกินกว่าจะต่อสู้เพื่อ
" เปลี่ยนแปลงโลกที่ไร้สมดุล"
แต่ก็โตพอที่จะ...เรียนรู้....วิธีที่จะต่อสู้เพื่ออยู่บนโลก
โดยไม่ให้โลกไร้สมดุลนี้ มาเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเธอ
และไม่ให้ ผลกระทบในแง่ลบของความไร้สมดุลเหล่านี้
มาทำลายโลกส่วนตัวของพวกเธอ
-----------------------------------------------










ไอ้ทึ้ง ว่า...
----------------------

อิเจ้เรื่องของผู้พิพากษาหรือศาลที่หรือยกมา
มันไม่ง่ายอย่างที่ลื้อคิดเองเออเอง
ไอ้ที่ลื้อเอามาพูดมันพวกศาลพระภูมิ
คนเป็นศาลก็ต้องมีใจที่เป็นศาลด้วย


อิเจ้สงสัยจะไม่เข้าใจเรื่องหน้าที่ละมั้ง
ตอนที่ศาลไปเห็นเหตุการณ์มันหน้าที่หนึ่ง
คือเป็นประชาชนธรรมดา
ส่วนตอนขึ้นบัลลังก์ศาลแล้ว
หน้าที่ย่อมเปลี่ยนเปนผู้พิพากษา
ได้น้ำตาลจากแอลกอฮอล์นานๆ
ถ้าวันไหนขาดน้ำตาลตัวนี้มันจะช็อกถึงตายได้
นู๋บีก็เรยกลัวอาตี่ตี๋มันจะกำพร้าพ่อก่อนวัยอันควร
เลย แอบเอาเหล้าเถื่อน ที่รอดหูรอดตาอิพวกมอด
ไปตั้งวงชวนสหาย ก๊งกันต่อที่พังจิตอั้วอยากให้เจ้คิดด้วยว่า คนดีนั้นจะต้องเลือก
ในสิ่งที่ดีและทำหน้าทีนั้นให้ดีที่สุด


ไอ้เรื่องที่เจ้ยกมา เจ้ต้องเอาจิตวิญญาณของมนุษย์ใจลงไปด้วย
ไม่ใช่เอาเขามาเป็นหุ่นยนต์ ด้วยการแต่งเรื่องพล็อท
เรื่องเอาเอง แล้วมาหักมุมด้วยการเลือก

อิเจ้ถ้าเรื่องมันดำเนินมาแบบที่เจ้บอก
อั้วว่า ศาลมันเลือกที่จะเป็นพลเมืองดีเป็นพยานตั้งแต่ต้นแล้ว
มันไม่มาทำเรื่องง่าวๆที่ต้องทำให้ตัวเองไม่สบายใจในตอนท้ายหรอก
สรุปก็คือเจ้ไม่มีหลักการ และที่สำคัญไม่รู้จักหน้าที่





+++++++++++++++++++


อิตั้วเจ้ ว่า...


เหอๆ ปัจเจกอย่างเจ้
นี่มันต้อง มีหลักการและ หน้าที่ ด้วยหรือ ?
แล้วต้องแบกอุดมการณ์ไว้บนหัว แบ่บลื้อด้วยไหมล่ะ อิอิ
ไม่อยากจะบอกเรยว่า สมัยอยู่มหาลัย น่ะนะ
เจ้เป็น อิป่วนที่ชอบแหกกฏคณะ
จนโดนเพื่อนมันหมั่นไส้ แทบจะเทศน์หั้ยฟัง
วันละสามเวลาหลังอาหารเรยนะจ๊ะ
แถมโดนทั่นอาจานฝ่ายปกครอง กาหัว ไว้ด้วยว่ะ อิอิ



อืม...เห็นลื้อ ชอบย้ำคิดย้ำทำ ให้เจ้ฟัง
เรื่อง หลักการ และ หน้าที่พลเมือง นัก
เจ้จะเล่า เรื่องขำ ๆ ของเด็กคนหนึ่ง
ให้ลื้อฟังเล่น ๆ นะ สมมุติว่า เจ้าหล่อนชื่อ อินู๋ส้ม


วันหนึ่ง เงินของ น้องรูมเมท(ที่เพิ่งรู้จักกันหมาด ๆ ) ของ อินู๋ส้ม
ก็หายออกจากห้อง โดยที่ จับมือใครดม ไม่ได้
แถม ตอนนั้น อินู๋ส้ม มันก็กะลังท้องเสียจู๊ดๆ กะทันหัน
เรยไม่อยู่ในอารมณ์ที่จะเป็นเดือดเป็นร้อน กับเรื่องของชาวบ้านซะด้วย
จึง รับรู้ด้วยความเฉยเมย แล้วนอนแบ่บ อยู่ บนเตียง
พร้อมกับคิดประมาณว่า เออ เงินน้องมันหาย
สงสัยจะไม่ระวัง เก็บตังค์ไว้ประเจิดประเจ้อ
แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะ เงินที่หายมันม่ะใช่เงินของกรูนิหว่า
ท้องเสียจนฟ้าเหลืองงี้ ตรูไม่มีอารมณ์จะสนใจใครหรอกนะว้อยยย เหอะ ๆ


แต่นั่น มันกลับกลายเป็นมูลเหตุ ที่ทำหั้ยน้องนั่น
มันรู้สึกว่า อิรุ่นพี่ที่มันจับพลัดจับพลูเป็นรูมเมทด้วยนั้น มีพิรุธจนผิดสังเกตมั้ง
พอ อิน้องนั่น มันไปแจ้นบอก ผจก.ที่ดูแลหอพักของมหาลัย
แมร่งก็ไม่รู้มันพูดอิท่าไหน เรยกลายเป็นว่า
อินู๋ส้มกลายเป็น ผู้ต้องสงสัยในคดี เงินหาย ไปซะงั้น
เล่นเอา แม่เจ้าประคุณ เรยต้องถ่อสังขาร
ไปสอบปากคำแบ่บสองรุมหนึ่ง ซ้ำๆ ซาก ตั้งสองหน
กะทั้ง นิติกร และ รองอธิการบดีฝ่ายกิจการนิสิต
จนเสียเวลาเล่นเนตก๊ะหนุ่ม ๆ เอ๊ย เสียเวลาฟังเลคเชอร์ไปตั้งหลายชม. แหน่ะ


และหลังจาก ทั่นรองฯ สอบถามโน่นนี่นั่นไปตามน้ำ
แล้วก็ยัง จับพิรุธอะไร อินู๋ส้ม มิได้
สุดท้าย ตะแกก็ ก็ปล่อยคำถามเด็ด
เกี่ยวกับเรื่อง หลักการ และ หน้าที่ พลเมือง หั้ย อินู๋ส้มฟัง อ่า


ประมาณว่า
ปกติเวลา ในหอพักมหาลัย มีของหาย เงินหาย
คุณไม่รู้สึก สงสัย แล้วอยากสืบหา มั่งเหรอ
ว่า เอ๊ะ ในหอพักของเรามีขโมย เหรอนี่ แล้วขโมยคนนั้น คือใคร
การที่ใครสักคน มีท่าทีเฉยชาไม่รู้สึกรู้สา กับเรื่องพวกนี้
มันก็ดูน่าสงสัย และผิดปกติ อยู่ไม่น้อย
คุณ คิดว่า เราควรวางมาตรการ และมีแผนในการดูแลเรื่องนี้ยังไงดี


นู๋ส้มนั่งกระดิกตรีนฟังทั่นรองฯ
พูดปาหี่เรื่อง หน้าที่พลเมืองดี
เพื่อตะล่อมตามสคริปต์
แล้วชีก็ยิ้มหวานจ๋อย ค่อย ๆ ลอยหน้าลอยตา
เอื้อนเอ่ยบอก ทั่นรองฯ ไปอย่างหน้าตาเฉย
และแสนเบื่อหน่าย ประมาณ ว่า


" ไอ้เรื่องขโมยขโจร ในหอ นี่
ก็คงต้องอาศัยหลัก ตนเป็นที่พึ่งแห่งตน
โดย หมั่นระแวดระวัง ดูแลทรัพย์สินของตัวเอง ให้ดี ๆ อ่ะค่ะ
เพราะขนาด เงินของตัวเองแท้ ๆ
ยังไม่มีความรับผิดชอบจะดูแล
ก็คงจะไปหวัง ให้ใครไปนั่งเฝ้าคอยดูแล ให้ไม่ได้หรอกค่ะ


ที่สำคัญ ไอ้เรื่อง ของหาย เงินหาย ในหอพักมหาลัยเนี่ย
ตัวเองอยู่ หอมหาลัย มาก็นานแล้ว
ได้ข่าวเรื่องแบบนี้มาก็บ่อยมากกกกกกกกกกก
ก็ไม่เห็นจะมีใครมาสอดส่องดูแลซักเท่าไร
แล้วอะไรที่เห็นบ่อย ๆ มันก็จะเกิดความเคยชิน
และพอเกิดความเคยชิน มันก็จะกลายเป็นเรื่องปกติ ! "



พอนู๋ส้มพูดจบเท่านั้นแหล่ะ คุณนิติกรที่นั่งฟังอยู่ข้าง ๆ
ก็สำลักหัวเราะจน ต้องรีบกลั้นเอาไว้ เพราะเกรงใจทั่นรอง ฯ
ส่วนอิทั่นรองเองก็นั่งอึ้งกิมกี่ พูดอะไรไม่ออก ไปเรยมั้ง
สงสัยว่า คงจะคิดไม่ถึงว่ะ ว่า จะถูกอิเด็กเมื่อวันซืน
มันแอบถอนหงอกเข้าให้ ไปหลายดอกส์
หลังจากการไปให้สอบปากคำ ครั้งนั้น
นู๋ส้มก็ไม่เคยต้องเสียเวลาเข้าไปสอบปากคำ ซ้ำซาก อย่างนั้นอีกเรย
คำพูดสุดท้าย ที่ได้ยินนิติกรคนนั้นพูดด้วย ก็คือ

คงไม่ต้องเรียกมาสอบปากคำ อีกแล้วล่ะ
เพราะดูจาก ท่าทางแล้วคงไม่ได้เป็นขโมยแน่ ๆ


เหอะ ๆ จากบทเรียนของอินู๋ส้มในเรื่องนี้
เจ้มีความรู้สึกว่า ลื้อกำลังทำตัว เหมือน ทั่นรองฯ
ที่พยามเอา หลักการ และ หน้าที่พลเมืองดี
มาตะล่อมต้อนให้ อินู๋ส้ม มันจนมุมว่ะ
เลยอยากจะบอกให้ลื้อ สำเหนียกไว้ว่า


ไม่มีใครมากำหนดได้ว่า อะไรคือ หน้าที่ของเจ้
และถึงจะมีไอ้หน้าไหน กำหนดไว้ ว่า หน้าที่ของเจ้ คืออะไร
เจ้ก็จะปฏิบัติตามเงื่อนไขของมัน เฉพาะในส่วนที่เจ้ยอมรับเท่านั้นว่ะ
อันไหนไม่เข้าท่า ตรูก็เขี่ยทิ้งโลดดดดดดดดดดดดด
เพราะว่า สำหรับอิตั้วเจ้ กฏ มีไว้แหกกกกกกกกกกกกกกกกก ฮา ๆ



แต่ลื้อไม่ต้องกลัวหรอกนะว่า เจ้จะกลายเป็น อันธพาลบรรลือโลก
อืม.... เบ้าหลอม ของแนว คิด และการดำเนินชีวิต ของเจ้
ที่เจ้ ยึดถือมาตลอดตั้งแต่เล็กยันโต
ก็คือ เจ้จะพยามไม่เบียดเบียนใคร
และ เจ้ก็ไม่ยอมให้หมาตัวไหนมาเบียดเบียนเจ้ ว่ะ
เจ้ไม่เคยใส่ใจจะเรียกร้องให้ใครมีน้ำใจกับเจ้
แล้ว ใครก็ไม่ต้องเสือกมาเรียกร้องให้เจ้มีน้ำใจ ให้มันด้วย
เจ้ว่า แบ่บนี้ มันก็สามารถ อยู่กันอย่างแฟร์ ๆได้
โดยไม่ต้อง อาศัย คำว่า หน้าที่และหลักการ
และ คุณธรรมค้ำจุนโลก เรยก็ได้นี่หว่า




ดังนั้น ถ้า ลื้อเสือกมาอ้างหลักการ อ้างหน้าที่ล่ะก้อ
จะบอกอะไร หั้ยนะไอ้โซ๊ยตี๋ เจ้ไม่ใช่คนเดือนตุลา แบ่บลื้อนะว้อย
แล้วสมัยเรียนมัธยม น่ะ กระทรวงศึกษา ก็ไม่ได้จัดหลักสูตร
บังคับให้เด็กรุ่นอิตั้วเจ้ ต้องมานั่งอ่านหนังสือ
หน้าที่พลเมือง ของ สุพัตรา สุภาพ เหมือนลื้อด้วย
จะได้มีอุดมการณ์โลกสวย มองโลกเป็นสีชมพู๊ ชมพู
กู่ก้องร้องบอกคนทั้งโลกว่า


คนเป็นศาลก็ต้องมีใจที่เป็นศาลลลลลลลลลลลล


เฮ่ย ดูเปาบุ้นจิ้น แล้ว อินจัดเกินไป หรือเปล่าวะ ลื้อเนี่ย
เจ้ว่า ให้ลื้อชวนอาเหล่าแปะ ( และ ไอ้แง่บศักดิ์ )
ไปควานหาสาวพรหมจรรย์ในซ่อง
ยังจะมองเห็นง่ายซะกว่าการไปตามหา เปาบุ้นจิ้น
หรือ หมอโฮจุน ในประเทศสารขัณฑ์ ว่ะ ฮา ๆ
อันนี้ อิเจ้พูดจากที่อิเจ้ พบเห็นและเป็นอยู่ ในโลกแห่งความเป็นจริงอ่ะนะ
ไม่ใช่ พูดเป็นนิทานกล่อมเด็กก่อนเข้านอน ตามทฤษฎี เหมือนลื้อว่ะ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:35:54 น.  

 
 
 
อ้อออ มันไม่แน่เสมอไปหรอกนะ ว่า

คนเป็นศาลก็ต้องมีใจที่เป็นศาลด้วย


ศาลก็เป็น ปุถุชน ที่มีหลายหัวโขน เหมือน สื่อ นั่นแหล่ะ
ดังนั้น มันก็มีโอกาสผิดพลาด พลั้งเผลอ
ที่จะตัดสินใจเลือกในสิ่งที่เป็นประโยชน์กับตัวเองให้มากที่สุดอยู่เหมือนกัน
เจ้ยอมรับนะ ว่า ในแวดวงสาธารณสุขที่ เจ้ยืนอยู่
มันก็มี ฆาตกรใส่เสื้อกาวน์ อยู่ ( และมีเยอะ ด้วย ) จริง อย่างที่ลื้อกล่าวหา
แล้วลื้อล่ะ ยอมรับได้ป่ะ ว่า ในแวดวงกฏหมาย
มันก็มีไอ้พวก งักปุ๊กคุ้งใส่เสื้อครุย มานั่งเต๊ะจุ๊ยอยู่บนบัลลังค์เหมือนกัน



แล้วไอ้เรื่องที่ ผู้พิพากษา นั่งกินก๋วยเตี๋ยว
แล้วเห็นคนยิงกันตาย ที่เจ้ยกมา
เจ้ก็ฟังขี้ปากเค้าเล่ามา และ พูดตามประสบการณ์ที่มีอยู่
โดยใส่ความรู้สึกนึกคิดต่าง ๆ นานาไปตามประสาเจ้
ไม่ได้ คิดจะโรแมนติก ดราม่า หรือกระแดะ
จะเอาจิตวิญญาณความเป็นมนุษย์ใส่ลงไป แบ่บคนบางคนนิ
แล้วเจ้ก็ไม่ใด้เอาเขามาเป็นหุ่นยนต์ แบ่บที่ลื้อพยามกล่าวหาด้วย
แต่ เจ้มองว่า เขาเป็น ปุถุชนคนธรรมดา ที่ยังไม่บรรลุโสดาบัน นี่หว่า



การตกอยู่ในสถานการณ์ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก แบ่บนั้น
ลื้ออาจจะนั่งแทะอุดมคติ ทึกทักและตะแบงเอา ว่า

ศาลมันเลือกที่จะเป็นพลเมืองดีเป็นพยานตั้งแต่ต้นแล้ว
มันไม่มาทำเรื่องง่าวๆที่ต้องทำให้ตัวเองไม่สบายใจในตอนท้ายหรอก
แถมยังเสือก มาตีวัวกระทบคราด
ด่าว่าเจ้ไม่มีหลักการ และที่สำคัญไม่รู้จักหน้าที่ ฯลฯ อีก



เฮ้ออ เรื่องนี้มันก็แล้วแต่ลื้อจะคิดว่ะ
แต่ เจ้รู้สึกว่า ลื้อกำลัง มองโลกในมุมมอง
ของ Super Ego มากเกินไปนะ
อย่าลืมดิว่า สัญชาตญาณ (Id) นั้นไม่จำเป็นต้องสอน
มันก็มีกันได้ มาตั้งแต่เกิด
ส่วน สามัญสำนึก และ จิตสำนึก
มันเป็นเรื่องต้องอาศัยการฝึกฝน
และ สั่งสมกันมาแบ่บ ข้ามภพข้ามชาติ
ไม่ใช่ขึ้นอยู่ การมีมันสมองดี
สักแต่ว่า สอบเป็นผู้พิพากษาได้
แล้วจะมีใจที่เป็นศาลด้วย



เรื่องมันไม่ได้ง่ายงั้นนี่หว่า
แล้ว ลื้อคิดว่า การไปเป็นพยานให้ทางการ เนี่ย
ขื่อแป ของ บ้านเมือง มันจะคุ้มกะลาหัวเรา ได้ตลอดไป จริง ๆ อ๊ะ
ถามจริง มีใครบ้างวะ ที่มันอยากหาเหา ใส่หัว
กระเหี้ยนกระหือรือ เดินเทิ่ง ๆ ไปเสนอตัว
ขอเป็นพยานปากเอก หั้ยตำหนวด มั่ง
ส่วนใหญ่มันก็ จำยอม ทำตัวเป็นพลเมืองดี
เพราะโดนจิกหัว เอ๊ย ถูกเชิญตัวไปสอบปากคำ ทั้งนั้น




อืม...สมัยที่ ทักกี้มีนโยบายจับยาบ้าอย่างเอิกเกริก มั้ง
ยัยแม่ค้า แถวหน้าบิ๊กซี คนนึง เคยเล่าหั้ยอิเจ้ฟัง
อย่างภูมิอกภูมิใจ ประมาณ ว่า


มันกะลังขายของอยู่ดี ๆ ก็เสือกมีมือปืนรับจ้าง
ขี่รถมายิงคนที่กะลังเดินอยู่ แถว ๆ นั้น
มันก็เรย ได้รับเกียรติจากคุณตำหนวด
ให้สละเวลาอันมีค่า ในการทำมาหารับประทาน
ไปเป็นพยานในเหตุการณ์ อย่างไม่ค่อยจะเต็มใจเท่าไร



สุดท้าย มันก็บอกปัดสวะ บอกตำหนวด ส่ง ๆ ไปว่า
มันตกใจจน ไม่รู้ไม่เห็น และ จำอะไร ไม่ได้ซ๊ากกะอย่าง
แม้กระทั่ง รูปพรรณสัณฐานของคนร้าย และ เลขทะเบียนรถ
เพราะมัน อ่านหนังสือไม่ออกคร้าาาาาาา
แต่ตอนหลัง มันมาคุยฟุ้ง อวดอิเจ้ อย่างภาคภูมิใจ
ประมาณ ว่า จริง ๆ แล้ว ไอ้เรื่อง อ่านหนังสือ ไม่ออกเนี่ย
มันก็ตอแหล ไปงั้นเองว่ะ เรื่องอะไร จะต้องหาเรื่องซรวย
ให้ตัวเองโดนฆ่าปิดปกวะ เนื้อไม่ได้กินหนังไม่ได้รอง
จะเอา กระดูกแขวนคอไปทำไม
( ตรูยัง มีลูกมีผัว ให้ต้องเลี้ยงดูอีกหลายปากนะเฟร้ยย )



นั่น คือ สัญชาตญาณเอาตัวรอด ของแม่ค้าคนหนึ่งนะ
แล้วลื้อคิดว่า ถ้าเป็นถ้าอีแม่ค้าคนนี้ มันเกิดได้ดิบได้ดี
เรียน มสธ.ทางไปรษณีย์ แล้ว สอบเป็นผู้พิพากษาได้
สัญชาตญาณการเอาตัวรอดแบบนี้ มันจะสึกกร่อนไปไหมล่ะ
การศึกษา ไม่ได้ช่วยขัดเกลาให้คนเป็นคนดีได้เสมอไปหรอกนะ
มันก็เหมือนกับ เรื่อง ฆาตกรเสื้อกาวน์ ที่ลื้อเคยพูดนั่นแหล่ะ




สรุปที่แพล่ม มาทั้งหมดนี้ ก็แค่จะบอกว่า
ไอ้เรื่อง หลักการ กับ หน้าที่
ที่ลื้อพยามจะเอามายัดปากเจ้เนี่ย
เจ้ก็รู้จักเหมือนกันย่ะ แต่ตรูยังไม่ชัวร์ว่า
หากตรูเจอสถานการณ์ แบบอีแม่ค้า และ ศาลนั้นขึ้นมาจิงๆ
ตรูจะ ปฏิบัติตาม หลักการและหน้าที่พลเมือง ได้ไหม



ส่วนไอ้คดีศาลไปนั่งกินก๋วยเตี๋ยว แล้วเห็นคนยิงกันตาย
แต่ เสือกไม่ไปเป็นพยานให้ทางการ เนี่ย
เจ้ยกมาแสดง เพื่อ บอกลื้อเฉย ๆ ว่า
นั่นเป็น เหตุปัจจัย ส่วนหนึ่ง ที่ทำหั้ย
อิเจ้ ไม่เคยคิด อยากจะเป็น ทั้ง แพทย์ และผู้พิพากษา
เหมือน ที่อิน้องชายบังเกิดเกล้า ของเจ้
มันขวนขวายอยากจะเป็นไง


เพราะในเมื่อ เจ้รู้ดีว่า

ขนาดชีวิตตัวเอง กรูยังขี้เกียจจะรับผิดชอบ
แล้วจะให้กรูไปรับผิดชอบชีวิตใครได้วะ



อนึ่ง เมื่อเรารู้ศักยภาพ ( และสันดานตัวเอง ) เช่นนี้แล้ว
เราก็ควรจะหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปทำงานในส่วนที่เรารู้ว่า
เราขาดคุณสมบัติ ที่สำคัญที่สุดของวิชาชีพ นั้นนะ
ถ้าเรารู้ดีว่า สมองได้ แต่ ใจไม่รัก เราก็ไม่ควรฝืนทำ ว่ะ
เด๋วประเทศซาดจะล่มจม เอิ๊ก ๆ




ผีเน่า ว่า....

ก็อย่างที่ลื้อ ไปอาละวาด เอาก๊ะ WM ลานธรรมจก นั่นแหล่ะ
ศาลมีหน้าที่ พิณา คดี ไปตามหลักฐานพยาน
ที่โจทก์ และ จำเลย เอามาอ้างอิง
ไม่สามารถ เสนอหน้า ไปควานหาหลักฐาน
มาเข้าข้างฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งได้
แม้จะรู้อยู่เต็มอก ว่า ใครคือผู้ร้ายก็ตาม
******************************************************************
โอทึ้ง....
แล้วเรื่องของไอ้เว็บมาสเตอร์นี่มันก็คนละพล็อทเลย
ถ้าอีเว็บมาสเตอร์ มันจะไปหาหลักฐานสร้างหลักฐานเอง
มันต้องถอดหมวกใบที่เป็นเว็บมาสเตอร์ออกเสียก่อน
เหตุผลง่ายๆ ถ้าอีเว็บมาสเตอร์อยากจะทำแบบนั้น
มันต้องให้คนอื่นตัดสินความแทนมัน

ลื้อลองคิดดูซิว่าอั้วเสียเปรียบแค่ไหน ผู้ดูแลเป็นคนของมัน
แถมเอาตัวมันมาตัดสินความ มิหน่ำซ้ำให้มันมาช่วยคนของ
มันเถียงกับอั้วอีกหรือ

อิเจ้จะอธิบายความอะไร ต้องพูดให้หมดไม่ใช่ตัดโน้นทิ้ง
หยิบนี่ใส่ ทำเป็นนิยายจักรๆวงส์ๆไปได้

++++++++++++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า....
แหม ๆ ไอ้เรื่องนี้ อิเจ้ก็ แค่ หยิบมา แหย่เล่น เอ๊ย ยกมาเป็น เคสสตั๊ดดี้
ให้ลื้อเห็นภาพเฉย ๆ อ่า ว่า ศาลทั่นน้ำท่วมปาก และ ลำบากใจแค่ไหน
ที่ต้องปล่อยให้คนชั่วลอยนวลลลลลลลลล
เฮ้อออ ก็เห็นว่า เรื่องนี้มันเป็น ประสบการณ์ตรงของลื้อ นี่หว่า
ก็นึกว่า จะทำให้เก็ทสะเทือน ขึ้นมามั่ง
ม่ะคิดเรยว่า จะกลายเป็น เรื่อง อัตตาสะเทือน ซะงั้น อิอิ



แต่พูดก็พูดเหอะนะนี่นับว่า อิ WM มันยังปราณี ลื้อนะ เว้ย
( เอ๊ะ หรือว่า มันกลัวโดนครหาเพราะว่า
พยานหลักฐานไม่แน่นหนา พอจะใช้มัดตัวฆาตกร ฟระ ฮา ๆ )
เนี่ย ถ้าใช้วิธีการ พิณา ตามระบบลูกขุน แบบเมกา อ่ะนะ
สงสัย ลื้อโดนแบนถาวรเจ็ดชั่วโคตร แบ่บไม่ได้ผุดได้เกิดแหง๋ ๆ
( เพราะ เจ้มั่นใจ ว่า คนอ่าน ใน ลานธรรมจก เกิน ล้านคน ไม่ชอบขี้หน้าไอ้ตี๋โฮฮับ เอิ๊ก ๆ )
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:37:21 น.  

 
 
 
นิติสาดบัณฑิต ว่า...
-----------------------------------
อิเจ้รู้หรือเปล่าว่าสมัยก่อนเขาปกครองคนโดยใช้รัฐศาสตร์เป็นหลัก
แต่มาหลังๆทำไมต้องมีนิติศาสตร์มาแทน
มันก็เพราะจิตใจของมนุษย์ มันไม่มีหลักการ อาศัยความชอบส่วนตัว
อาศัยกิเลสของตัวมาตัดสินความ แบบนี้มันขาดหลักความยุติธรรม


คนที่จะมาตัดสินลงโทษใคร
มันจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ก่อน
มันเป็นไปตามหลักความยุติธรรม
++++++++++++++++

หนึ่งเดียวเขียวมะกอก ว่า .....

แหม๊... ตอบได้สมกับเป็นเด็กกฎหมายจริง ๆ วุ้ย
นี่ถ้าเห็นแจกันใส่ดอกไม้ มันคงจะบอกว่า
จะจัดเรียงดอกไม้ยังไง ให้ทุกดอก ทุกดอก
ได้รับสารอาหารเท่าๆ กัน แหง๋เรย
เฮ้อออ แล้วงี้ อิเด็กเภสัชที่ได้ B วิชากฏหมาย ของอาจารย์สำลี
ไหนเลยจะกล้าบังอาจไปสอน ไอ้เข้ว่ายน้ำ ล่ะเนี่ย


อืม...เฮ้ออ สงสัย ลื้อจะมัวแต่ เพ่งโทษจับผิด อิไพร่ทงอี
จนไม่มีเวลาดู นิยายจักร ๆ วงศ์ พงศาวดารเกาหลี เรื่อง นี้แหง๋ ๆ เรยแฮะ




เฮ้ย นี่ ๆ ลื้อรู้จัก พระหมื่นปี คู่ปรับตัวแสบ ของ อา ลีซาน ป่ะ
นั่นล่ะ ไอดอลของอิเจ้เรยว่ะ ฮา ๆ เพราะเห็นอีแร้ว ตรูนึกถึงตัวเองว่ะ
จำได้ว่า มีอยู่ตอนหนึ่ง พระหมื่นปีถูกลีซานหลอกตลบหลัง
จนต้องซมซานเกือบโดนประหารชีวิต
เพราะความผิดฐานคิดโค่นบัลลังค์มั้ง
แต่ She ก็ยังใช้เล่กะเท่ห์ ข่มขู่ และ ฆ่าคนปิดปากสารพัด
ตลอดจน ยืมมือพวกขุนนางที่จงรักภักดีต่อนางมาแผ้วถางทาง
และ กดดัน ทำให้ ลีซานต้องจำยอมอภัยโทษและคืนฐานันดรให้นางได้
ทั้ง ๆ นางนั้นมีความผิดมหันต์ ฐานคิดก่อกบฏ มีโทษถึงประหารเจ็ดชั่วโคตร
แถมยังมีหลักฐานก็มัดแน่นจนดิ้นไม่หลุด อีกด้วย
ที่สำคัญ บั้นปลายชีวิตของนาง ก็ได้อยู่ดีมีสุข จนจบเรื่อง อีกตะหาก





รู้ไหม ดูตอนแรก รู้สึกแม่ง ๆ นะ
เพราะรู้สึกว่า การปล่อยให้ตัวแม่ เอ๊ย ให้คนชั่วลอยนวล งี้
มันผิดหลักความยุติธรรม ตามแบบฉบับศาลไคฟง
ถ้าเยาวชนของชาติ มานั่งดูด้วย มันคงสงสัยตาย5
ว่า เหตุใด อิพระหมื่นปี นี่ ถึงทำชั่ว แล้ว ได้ดี ?


แต่รู้ไหม คิดไปคิดมา เจ้กลับเก็ทสะเทือน
ถึงเรื่องความเหมือน และ ความต่าง
ของ ทั้ง นิติสาด และ รัฐสาด นะ
ลีซาน กัดฟันยอมปล่อยให้ พระหมื่นปี หวนคืนสู่อำนาจ
ก็เพื่อใช้บารมีของนาง มาคานอำนาจกับพวกขุนนางกับราชวงศ์
เพราะนางคือหมากในกระดาน ที่มีความสำคัญ
ขืนมัวแต่ เห็นแก่คุณธรรม ค้ำจุนโลก
กำจัดคนพาล อภิบาลคนดี เฉดหัวอินังนี่ออกจากตำแหน่ง
เป็นได้บัลลังค์สะเทือน บ้านเมืองเกิดกลียุค
จากการถูกเหล่าขุนนางเลื่อยขาเก้าอี้ แหง๋ ๆ








อืม...อิตั้วเจ้ ถามเจ้าคนหัวหมอจ้อความแถวนี้หน่อยเด๊ะ
ว่า ถ้าเป็นลื้อจะใช้ หลัก รัฐศาสตร์

เพื่อค้ำจุนความสงบสุขบ้านเมืองส่วนรวม แบบอาลีซาน
หรือว่า จะดึงดันใช้หลักนิติศาสตร์ เพื่อธำรงความยุติธรรม
แต่นำมาซึ่ง กลียุคในบ้านเมือง ตามมาล่ะ



ถ้าลื้อ สำเหนียก ถึง รากเหง้า และ เจตนารมณ์ของกฏหมาย
ตลอดจน เป้าประสงค์สูงสุดในการนำกฏหมายมาใช้
ไอ้ลูกศิษย์ที่ชอบคิดล้างครูอย่างลื้อ ก็คงตอบโจทย์ นี้ได้
และเรื่องมันก็จะจบแบบ win -win ตาม ทฤษฎี game theory ล่ะมั้ง



อืม...ถ้าเปรียบเทียบในทางธรรมแล้ว
นิติสาด มันก็คล้าย ๆ เบญจศีล
ส่วน รัฐสาด มันก็คล้าย ๆ เบญจธรรม อ่ะ
สองส่วนนี้ ย่อมเกื้อหนุนส่งเสริมซึ่งกันและกันนะ
ประมาณว่า เบญจธรรม (รัฐสาด) เหมือน ดอกไม้ในแจกัน
ส่วนเบญจศีล ( นิติสาด ) เก๊าะเป็น ไม้ประดับอย่างใบเฟิร์น
เฮ้อออ ถ้าไม่มีใบเฟิร์นแร้วไซร้ ดอกไม้ก็จะด้อยค่าลงทันตาเห็น
ว่าแร้วก็ ขอนุยาด ใส่รูปปลากรอบ เพื่อให้เห็นภาพอีกแระเอิ๊ก ๆ









อืม...สำหรับเจ้ รากเหง้า และ เจตนารมณ์ของกฏหมาย
ตลอดจน เป้าประสงค์สูงสุดในการนำกฏหมายมาใช้
เป็นสิ่งสำคัญนะ ถ้าเราตะหนักรู้ถึงสิ่งเหล่านี้
เราก็จะสามารถนำกฏหมายมาใช้ได้ โดยไม่เกิดการบิดเบือน
จนกฏหมายกลายเป็นเครื่องมือ ของ บุคคลใดบุคคลหนึ่ง นะ



เจ้ว่า รากเหง้าของกฏหมาย ( แบบกว้าง ๆ)
มันน่าจะ เกิดจาก การเกิดปัญหากระทบกระทั่ง
และ เกิดขัดแย้งกันในระหว่างบุคคลในรัฐ มั้ง


ส่วนเจตนารมณ์ของกฏหมาย
น่าจะเป็น การสร้างเงื่อนไขและบรรทัดฐาน ตลอดจน กฏระเบียบต่าง ๆ ที่
กลุ่มคนส่วนใหญ่ยอมรับ ว่า ยุติธรรม และ สมควรกระทำ
เพื่อนำใช้เป็นเครื่องมือแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่างบุคคล ในรัฐ มั้ง



และ เป้าประสงค์สูงสุดในการนำกฏหมายมาใช้
ก็คือ การเกิดความสงบเป็นปกติสุข ของ รัฐ มั้ง
ดังนั้น สำหรับเจ้ (ถ้ามองในแง่ของโลกียะ )
สิ่งที่เจ้ให้ความสำคัญที่สุด ก็คือ



เป้าประสงค์สูงสุดในการนำกฏหมายมาใช้
อันได้แก่การเกิดความสงบเป็นปกติสุข ของ รัฐ นะ
ไม่ใช่ หลักความ ยุติธรรม ตรงแหน่ว เป็นไม้บรรทัด
แต่สร้างความอึดอัดใจ ให้กับผู้ปฏิบัติ อ่ะ


ดังนั้น ถ้าเรามองดูที่เข็มมุ่ง เราก็จะเห็นว่า
ไม่ว่าจะ รัฐศาสตร์ หรือ นิติศาสตร์
มันก็ มีเป้าประสงค์สูงสุดเหมือน ๆ กันนะ
คือ การทำให้เกิดความสงบเป็นปกติสุข ของ รัฐ



และ อิเจ้ก็ยังยืนยัน แนวคิดที่ว่า
ในการพิพากษาคดี นั้นจะใช้แต่ ตัวบทกฏหมาย
และ หลักนิติศาสตร์ อย่างเดียวมิได้
มันต้องลู้จักการวินิจฉัย โดยอาศัย หลักรัฐศาสตร์ ด้วยว่ะ


แต่สำคัญเหนือ สิ่งอื่นใด สิ่งที่ตัดสินใจกระทำ
มันต้อง หมดจดและงดงาม ตามครรลองที่ควรจะเป็น
และ ได้รับการยอมรับจากประชาชนทุกฝ่ายด้วย
ไม่งั้น มันจะเกิดวิกฤติศรัทธา ในสถาบันศาล และ รัฐะ
สุดท้ายก็จะกลายเป็นฟามโกลาหล วุ่นวาย
เหมือนกับที่ ประเทศสารขัณฑ์ กะลังเป็นอยู่ทุกวันนี้ไง
อันนี้พูดในมุมมองของโลกียะ
ที่มุ่งหวังเอา ความปกติสุขของสังคมเป็นตัวตั้ง อ่ะนะ





แต่ ถ้าจะให้ลงลึก ถึง ระดับ โลกุตระ


ที่คนบางคนถามมาว่า

--------------------------------------------
อิเจ้รู้หรือเปล่าว่าสมัยก่อนเขาปกครองคนโดยใช้รัฐศาสตร์เป็นหลัก
แต่มาหลังๆทำไมต้องมีนิติศาสตร์มาแทน
มันก็เพราะจิตใจของมนุษย์ มันไม่มีหลักการ อาศัยความชอบส่วนตัว
อาศัยกิเลสของตัวมาตัดสินความ แบบนี้มันขาดหลักความยุติธรรม
------------------------------------

นั้น อิเจ้ก็เห็นด้วยกับลื้อ ( บางส่วน) นะ
เจ้ก็เคยบอกไปแล้วไง ว่าสำหรับเจ้ กฏหมายมันก็แค่ ไม้กันหมา
ในสังคมที่ยังมี จิตสำนึกไม่แข็งแรง ง่ะ แต่ลื้อเองก็อย่าลืมนะ ว่า
ก็เพราะ มีคนไปยึดเอาหลักการของนิติสาดซังกาบ๊วย
มาช่วยในการปกครองคน แล้วเสือกเถรตรงจนเกินพอดี นี่แหล่ะ
ที่ทำให้ ในบางสังคม มันถึงได้มีปัญหาวุ่นวายขายปลาช่อน
ซ่อนระเบิดไว้ใต้พรม จนถึงทุกวันนี้ น่ะ


อันนี้เห็นได้ง่าย ๆ เวลามีข่าวพวกอเมริกันชนมันชนะคดีฟ้องร้องบ้องตื้น
เกี่ยวกับเรื่องการเรียกค่าเสียหาย เพื่อรักษาสิทธิทั้งหลายแหล่ของตน อ่ะนะ
แมร่ง ฟ้องกันซ้า จนไม่มีหมาตัวไหนมันอยากจะมีน้ำใจ
ไปช่วยเหลือคนแปลกหน้าที่เกิดอุบัติเหตุเรยมั้ง


หรือ ถ้าจะเอาที่เห็นชัด ๆ ถึงความเส็งเคร็งของหลักนิติสาด
ก็ดูได้จาก เรื่องอิหมวยดวงซรวย ที่โดนรถเหยียบ แบ่บไร้คนเหลียวแล
ที่อิเจ้ เคยหยิบมาแปะไว้ในบล็อก แล้ว ถามฟามเห็นจากลื้อนั่นแหล่ะ

//www.youtube.com/watch?v=w2A7KD0KGKM

----------------------------------------
ไชน่าเดลี่ รายงานว่า กรณีที่เกิดขึ้นกับ หนูน้อยเย่ว์เย่ว์ นี้
เป็นข่าวใหญ่ที่สาธารณชนสลดใจมาก
โดยชาวเน็ตฯ ต่างประณามความอำมหิต
ขณะที่หลายคน ให้ความเห็นเกี่ยวกับความไร้หัวใจ
ของมนุษย์ผู้ที่เดินผ่านไปมา ทำไม่รู้ไม่เห็นครั้งนี้
โดยอ้างกรณีของนายสู่ ยุ่นเหอ เมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
ซึ่งเข้าไปช่วยเหลือหญิงชราผู้หนึ่ง
แต่กลับถูกศาลสั่งให้ชดใช้เงินมากกว่า 100,000 หยวน
------------------------------

ที่มา : //www.gold2gold.com/webboard/index.php/topic,75.msg60876.html#msg60876







ลื้อลู้ป่ะ ว่า ในเหตุการณ์นี้นั้น ในขณะที่หลายคน
มันรุมประณามความไร้น้ำใจของชาวบ้านที่เดินผ่านไปมา
เจ้กลับมองว่า เรื่องนี้มันเป็นเวรกรรมของเด็กเองว่ะ
เหตุเพราะ เด็กมันดันทะลึ่งเดินกะเล่อกะล่า โดยไม่ดูตาม้าตาเรือเอง
เด็กมันก็ต้องยอมรับผลของการกระทำนั้นด้วยตัวเอง
นี่อิเจ้ยังสงสัยเลยเถิดไปถึง บุพกรรมแต่ปางก่อนด้วยซ้ำนะ
ว่า ชาติก่อน อินังเด็กนี่ มันเคยทำเวรทำกรรม อะไรไว้หรือเปล่าว้าาาา
ถึงต้องมาเจอชะตากรรมอันรันทด โดนล้อรถบดจนแบนบี้ แถมไร้คนเหลียวแลงี้



และ ต่อให้ อินังเด็กนี่ มันเป็นลูกในไส้ที่เจ้เบ่งเองมากับมือ
เจ้ก็ไม่มีวัน ร้องไห้ตีโพยตีพาย ประณามคนอื่น กล่าวหาว่าไร้น้ำใจหรอกนะ
ถ้าจะด่าใครสักคน เจ้คงด่าตัวเจ้เองกับพ่อมัน มากกว่า มั้ง
แมร่ง ลูกตัวเองแท้ๆ เวลาทำลูก
ก็นึกสนุกแอบงุบงิบไปทำกันเองสองต่อสอง
พอเด็กมันอุแว้ ๆ เกิดขึ้นมา
ก็ต้องรับผิดชอบประคบประหงมดูแลกันเองสิวะ
ไม่ใช่ว่า พอตัวเองสับเพร่า ประมาท เลินเล่อ
ปล่อยให้ลูกวิ่งซุกซน จนโดนรถทับตาย 5
ก็ออกมาโยนบาป โวยวาย ป้ายขรี้
โบ๊ยไปว่า ไม่มีใครมีน้ำใจมาช่วยเหลือลูกตน



เฮ้ออ ลูกใคร คนนั้นก็ดูแลเองดิ
จะมาคาดหวังให้ชาวบ้านร้านตลาด
มาช่วยประคบประหงมดูช่วยแล ได้ไงล่ะ
ชาวบ้านพวกนั้นเขามีสิทธิที่จะช่วยหรือไม่ก็ได้
ไม่ใช่ลูกเขา ซะหน่อยนิ ยิ่งถ้าช่วยแล้ว มีเงื่อนไขทางกฏหมาย
ทำให้อาจต้องเดือดร้อนโดนปรับเป็นแสนหยวน
แบ่บ คดีนายสู่ ยุ่นเหอ ขึ้นมาก็ซรวยลิ่วดิ๊
รับรองได้ว่า ถ้าเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยเดิม แบ่บนั้น
ไอ้พวกอ้างมนุษยธรรม เมตาธรรมค้ำจุนโลก
ที่ด่าพวกเขาไว้แหลกลาญ เนี่ย
ก็คงไม่มีใครคิดจะแอ่น อก มา จ่ายเงินค่าเสียหาย แทนหรอกมั้ง



อืม... ลื้อรู้ไหม หลังจากเกิดเหตุการณ์
ช่วยเหลือชาวบ้านแล้วโดนฟ้อง
มาจนถึง คดี อิหมวยดวงซรวยโดนรถทับฯ นั่นแล้ว
คนจีนหลายคน ถึงกับต้อง พกป้ายขอความช่วยเหลือติดตัว
โดยมีข้อความว่า

ถ้าฉันเป็นอะไรไป โปรดช่วยฉันด้วย
ถ้าเกิดอะไรขึ้นมา ฉันจะไม่นำไปเป็นเหตุในการฟ้องร้อง ภายหลังฯ




กันเรยทีเดียวนะ

นี่ๆ ลื้อเห็นยังล่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ว่า
บางที ไอ้หลักการที่ลื้อ คิดว่า ยุติธรรมนักหนา ทางนิติสาดเนี่ย
มันก็ทำให้เกิด ความไม่ปกติสุขในสังคม
และ ทำให้บ้านเมืองเสียสมดุลได้เหมือนกันนะ
ถ้ากระบวนการวินิจฉัย มันไม่สอดคล้อง
และ ช่วยรองรับกับ หลักมนุษยธรรม น่ะ




เฮ้อออ ถ้า สิ่งที่สอนกันไม่ได้ คือ สามัญสำนึก แบ่บที่อิตาเกิดมันบอก
สิ่งที่สร้างได้ยากโคตร ๆ ก็ คือ จิตสำนึก นั่นแหล่ะ
เจ้ไม่เคยคิดว่า กฏหมาย จะช่วยอะไรได้ในส่วนนี้นะ
ถึงได้บอกไง ว่า กฏหมายไม่ต่างอะไรกับไม้กันหมา
หรือ ลื้อคิดว่า บทลงโทษ ทั้งหลายแหล่
มันจะทำให้คนหลาบจำ และเกิดจิตสำนึก
มีการเปลี่ยนแปลงได้ จากข้างในล่ะ ?
ถ้ามีก็น้อยมากละวะ



แล้วลื้อก็ไม่ต้องทะลึ่งมาเจ้ากี้เจ้าการ
คิดจะเอา กฏหมายลักษณะโจรห้าเส้น
มายัดเยียดให้คนอย่างอิเจ้ ปฏิบัติตามนักเรยว่ะ
เพราะ อิเจ้เป็นพวกไม่ชอบเบียดเบียนใคร
และ ไม่ชอบให้ใครมาเบียดเบียนเจ้ ว่ะ
ที่สำคัญ เจ้จะนึกครึ้ม หยิบยื่นน้ำใจให้ชาวบ้าน
ในระดับที่ตัณหาและอัตตาของตัวเอง ยอมรับได้เท่านั้น

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:38:09 น.  

 
 
 
เฮ้ย ถามจริง ถ้าตอนที่เตี่ยลื้อโดนโจรปล้นชิงทรัพย์ฆ่าตาย
แล้ว ไม่มี หมาสักตัว ยอมมาเป็น พยานชี้ตัวคนร้าย ให้
ทั้ง ๆ ที่พวกมันก็นั่งกินก๋วยเตี๋ยว ข้างๆ เตี่ยลื้อ เนี่ย
ลื้อจะเสียความรู้สึก จนนึกก่นด่าโคตรพ่อโคตรแม่ชาวบ้าน
ว่า ไม่รู้จัก หน้าที่ และ ไม่มีหลักการ ไหมล่ะ



ถ้าเจ้เป็นลื้อ เจ้ไม่ทำ หรอกนะ เพราะว่า
เจ้ยอมรับได้ กับ ธรรมชาติของปุถุชน
และ กิเลสตัณหา ของคน ว่ะ
ว่า คนพวกนั้นมันก็เป็นของมันอย่างนั้น เอง
และเจ้ก็จะไม่เรียกร้อง หั้ย ไอ้หน้าไหน
มาฝืนใจ ทำตัวเป็นพลเมืองดี เพื่อชี้เบาะแส
บอกรูปพรรณสัณฐานของ ฆาตกรที่ฆ่าเตี่ยเจ้ ด้วย


หากมันไม่เต็มใจจะทำ หรือ สร้างความลำบากทั้งหลายแหล่ ให้กับคน ๆ นั้น
อย่างมากเจ้ก็คงปล่อยให้ทุกอย่าง ดำเนินไปยถาสภาวะตามครรลองของมัน
โดยที่ไม่ขวนขวาย ไม่ไปก่อม็อบปิดสนามบิน หรอกนะยะ
เจ้จะคิดซะ ว่า มันเป็นคราวซรวย เอ๊ย เป็น กรรมของเตี่ยเจ้เอง
ที่ต้องมาเจอกับเรื่องบัดซบแบ่บนี้
แต่เจ้ก็จะไม่เข้าไปเจ้ากี้เจ้าการ หรือ ไปเจ้าคิดเจ้าแค้น
คิดจะใช้ ศาลเตี้ย มาประหารไอ้โจรห้าร้อยนั่นด้วย





อืม...เห็นลื้อ พร่ำเพ้อถึงแต่ คำว่า ความ ยุติธรรม อยู่บ่อย ๆ
แล้วลื้อ รู้จักคำว่า ยุติกรรม ไหมวะ
ถ้าไม่รู้จัก ก็ไปให้ เจ้าอหิงสกะ ไอดอลของลื้อ
เลคเชอร์ให้ฟังซะมั่งก็ดีนะว้อยยย



ถ้า ยึดเอา ความปกติสุขของสังคมเป็นตัวตั้ง
แค่ ยุติธรรม มันก็ โอเค อยู่นะ
ทว่า สำหรับ นักปฏิบัติอย่างพวกเรา
มันต้อง ยุติกรรม แอนด์ อโหสิกรรม ด้วยโว๊ย มันถึงจะแหล่ม
เฮ้ย ที่ อิเจ้เคยถามชาวบ้าน ไปว่า
หากพวกมรึงเป็น พระอุบลวรรณาเถรี
มรึงจะแจ้งความ ดำเนินคดี นันทมาณพ ไหม ?
เนี่ย ลื้อคิดว่า อิเจ้ ถามเรื่อยเปื่อย หรือไงวะ



แล้วที่ ตอนนั้น พระอุบลวรรณาเถรี ไม่วิ่งโร่ไปฟ้อง เอ๊ย ไปแจ้งความฯ
แต่ ยอม ปล่อยให้ชายหื่นหมื้นกาม ลอยนวล
ลื้อจะนินทาหาว่า ทั่นแย่มาก ไม่ลู้จักหน้าที่
และ หน้าที่ของพลเมืองดี ไหม เนี่ย ?
ที่พูดมานี่ ไม่ใช่คิดจะ อุ้ม พระอุบลฯ มาบังหน้านะเว้ย
แค่อยากจะยกตัวอย่างของการยุติกรรม
ให้ไอ้เด็กกฏหมายมันสำเหนียกเฉย ๆ
เพราะเห็นมันชอบ เรียกร้อง
ทวงถามหา ความยุติธรรม อยู่เหย็ง ๆ
แต่มันไม่เคยคิดจะ ยุติกรรม เอาซะเรย


และหากมัน เจอชะตากรรมเฮงซรวยโดนข่มขืนแบ่บ ทั่นอุบลฯ
สงสัยมันคงตามล่าควานหาพยานหลักฐาน อุตลุต
เก็บทั้งขนเพชร ทั้งคราบอสุจิ ไปพิสูจน์ ดีเอ็นเอ
แร้วหาทางลาก ไอ้นันทมาณพ เข้าซังเต แหง๋ ๆ เรยว่ะ
หรือ ไม่งั้น ก็คงใช้ศาลเตี้ยแบ่บ คนพวกนี้มั้ง






ถามจริ๊ง ไอ้ที่ลื้อแค่นไปบวชก๊ะหลวงตาไต๋ ตั้ง หนึ่งพรรษา น่ะ
ลื้อมาแต่ เคล็ดวิชา การแบกจอบเข้าไปปลูกสมุนไพรในป่า หรือไงกันวะ
เฮ้ออ การเรียกร้องจะเอาโน้นเอานี่
จะให้คนทั้งโลกทำทุกอย่างที่ถูกใจเราเนี่ย
มันเป็น วิถีพุทธ ตรงไหนวะ เฮ้ออ ไม่รู้สินะ อิตั้วเจ้รู้สึกว่า
การปฏิบัติ ไม่ได้ทำให้ มุมมอง ต่อโลกและชีวิตของลื้อ
มันเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ ควรจะเป็นเลยแฮะ



ลื้อ คล้ายเจ้ สมัยที่ยังไม่ได้เข้าสู่วงการปฏิบัติ ซะมากกว่าว่ะ
โดยเฉพาะไอ้การตีโพยตีพายเวลาที่ใคร ๆ ทำอะไรไม่ได้ดั่งใจ เราน่ะ


ลื้อรู้ไหม เมื่อก่อน สมัยละอ่อน ตอนอยู่ มหาลัย เนี่ย
เจ้มักคับข้องใจเสมอนะ ว่า ทำไม เวลาที่ อิพวกสาว ๆ
มันโดนข่มขืนกระทำชำเรา เนี่ย
ทำไม มันจะต้องรู้สึกอับอายขายขี้หน้า
จนไม่กล้าไปแจ้งความ ด้วยวะ
มันเป็นความผิดของผู้หญิงอย่างเราตรงไหนเนี่ย
หากความขาว ความสาว ความสวยของเรา
จะทำให้ ไอ้พวกชายหื่นหมื่นกาม ทั้งหลาย
มันอดใจไม่ไหวต้องมาปู้ยี้ปู่ยำกระทำชำเรา อ่า



ลื้อรู้ไหม เจ้เคยคันปากยิก ๆ อยากจะโพสกาทู้
กระตุ้นเตือน และ เรียกร้องให้ เหยื่อกาม ทั้งหลาย ออกมาแฉ มาแจ้งความ
เพื่อให้ตำรวจ ตามจับตัวคนชั่วมาลงโทษ ด้วยซ้ำ
สังคมจะได้ อยู่อย่าง สงบสุข ไม่มีใครต้องมาทนทุกข์
เพราะต้องกลายเป็นเหยื่อตัณหา แบ่บนั้นอีก ฯลฯ


และ หากเจ้ดวงซรวย เกิดไปโดนข่มขืนซะเอง
เจ้ก็คง จะตามฆ่าไอ้ผู้ชายพวกนั้น ให้มันตายตกตามกัน
แบบที่ อิป้ามธุสร ในเรื่อง ล่า ทำนั่นแหล่ะ


อืม...จำได้ว่า เจ้เคยถาม กับพ่อว่า
ถ้าเจ้ โดนไอ้หื่น ข่มขืน พ่อจะทำยังไง
พ่อเจ้บอกประมาณว่า พ่อจะไม่แจ้งความดำเนินคดีตามกฏหมาย หรอก
เพราะ โทษตามกฏหมาย มันเทียบไม่ได้
กับสิ่งที่ลูกสาวของพ่อต้องสูญเสีย และเป็นทุกข์
พ่อจะบุกไปตามจองล้างจองผลาญ ตามฆ่าไอ้หื่นนั่น
ให้มันทรมานเหมือนตกนรกทั้งเป็น เพื่อแก้แค้นให้อิเจ้ว่ะ
รู้ไหม ตอนนั้น เจ้รู้สึก ซาบซึ้งใจ ในความรักของพ่อมากเลยนะ
ที่พ่อรู้สึก เจ็บแค้นเป็นเดือดเป็นร้อน แทนเจ้
เรื่องนี้มันทำให้เจ้รับรู้ได้ว่า หมานมันรักเจ้มากแค่ไหน



แต่มาถึงตอนนี้ ตอนที่ อิเจ้ก้าวเข้าสู่แวดวงการปฏิบัติ
มุมมองต่อโลกและ ชีวิต ของ อิเจ้
มันกลับพลิกผันตาลปัตร ไปเรยว่ะ
หากเจ้ถูกข่มขืน เจ้ก็ไม่คิดจะแจ้งความ ซะงั้น
ไม่ใช่ เพราะ เมื่อ ปฏิบัติธรรมแร้ว
ตรูจะทะลึ่งหน้าบางขึ้นมากะทันหันนะ
หน้าน่ะ ก็ยังคงหนา เป็นนางจิญจา
สามารถเที่ยวเดินแก้ผ้าโทง ๆ
ให้ชาวบ้านดู ได้เหมือนเดิ้มมมม



แต่ที่ต่างจากเดิม คือ เจ้กลับมีความรู้สึก
ต้องการ จะยุติกรรม ที่เจ้เคยมีกับไอ้หื่นนั่นว่ะ
ไม่ว่า กรรมนั้น ใคร จะเป็นเจ้ากรรมนายเวร ของ ใคร
แบ่บข้ามภพข้ามชาติสืบเนื่องมากี่กัปกี่กัลป์
หรือ เพิ่งจะเกิดขึ้นมาหมาด ๆ นับตั้งแต่ชาตินี้ก็ตาม
เจ้ก็อยากให้มัน เป็นกรรม ที่ อโหสิ เลิกแล้วต่อกัน โดยเริ่มที่ตัวเจ้เอง นะ


ส่วนถ้า ไอ้หื่นนั่นมันยังอยากจะ
กระเตงกรรมทั้งหลายแหล่ ในส่วนของมันอยู่
อันนี้ อิเจ้ก็ไม่ว่า อะไรมันหรอก
และพร้อมที่จะชดใช้ให้มันเสมอ



แถมเมื่อเจ้ หวนไปนึกถึงคำพูดของ พ่อ
ที่ บอกว่า พ่อจะตามฆ่าไอ้หื่นกามนั่น เพื่อ แก้แค้นให้เจ้
แทนที่เจ้จะซาบซึ้งตรึงจิตกับความรักของพ่อ เหมือนแต่ก่อน
เจ้กลับรู้สึกว่า สิ่งที่พ่อคิดจะทำ มันเป็นเรื่องที่น่าสยดสยองว่ะ
ไม่ใช่เพราะมันเป็นเพียงการเข่นฆ่าทำร้ายชีวิตอื่นให้ทุกข์ทรมาน
มันเป็น การต่อวงจรกรรม เกิดเป็นวงแหวนโมเบียสซ้ำซาก
ทำให้ หลายชิวิต ต้องวนเวียนอยู่ในความอาฆาตพยาบาทอย่างไม่รู้จักจบจักสิ้น น่ะ
และ ถ้าทำได้ เจ้ก็จะพยามระงับ
ไม่ให้มีเหตุการณ์อันน่าสะพรึง แบบนี้เกิดขึ้นนะ
โดยทำให้ กรรมทั้งหลาย มัน ยุติ ที่ตัวเจ้เอง
( เท่าที่ เจ้พอจะกล้อมแกล้มทำได้นะ อิอิ )




อนึ่ง ลื้อฟังที่เจ้พล่าม แล้ว ลื้ออาจค้านว่า
เจ้ทำไม่ถูก ที่ปล่อยให้ไอ้ฆาตกร หื่นกาม มันลอยนวล
หั้ย กลายเป็น แจ๊ค เดอะ ริปเปอร์
ไปก่อคดีฆ่าข่มขืนต่อเนื่องงี้
แล้วต่อ ไปจะมี ผู้หญิงดี ๆ อีกสักกี่คน
ที่จะต้องทนทุกข์ เพราะถูกมันกระทำชำเราเอา
เพราะมีเจ้เป็นเหตุ ปล่อยเสือเข้าป่า
เพราะ เจ้ไม่ยอมตัดไฟแต่ต้นลม
เพราะอิเจ้ ทะลึ่งไปประคบประหงม คนเลว ฯลฯ



มันก็จริง อย่างที่ ลื้อว่า อ่ะนะ
เจ้เองก็เคยคาใจ ขบคิดเรื่องนี้ มานานเหมือนกัน
มันเหมือน กับว่า สิ่งที่เจ้คิดจะกระทำ
มันยังไม่ หมดจดและงดงาม มั้ง
มันเหมือนกำลังติดอยู่ในในวังวน
ของ วงแหวนโมเบียส ที่ถูกกรรไกรตัดแบ่บมั่วซั่ว
เกิดเป็นวงแหวนทับซ้อนอีกนับสิบนับร้อย
จนยุ่งเหยิง อิรุงตุงนัง กลายเป็น อิลิงติดตัง ยังไงยังงั้นเรย


กระทั่งวันหนึ่ง จู่ ๆ เจ้ก็ถึงบางอ้อ
สามารถคลี่คลายปมเรื่องนี้ได้ง่าย ๆ
ด้วยการยืดอก ยอมรับ วิบาก ของกรรม
ที่ตนได้ตัดสินใจ กระทำ นะ



ลื้อ ยังจำ เรื่อง พระเซน ใจดี
ที่ช่วย แมงกะบี้ ตาเซ่อ บินไปติดใยแมงมุม
ที่ อิเจ้ เคยเล่าให้ฟังได้ไหม ?
ถ้าติ๊ต่าง ให้ เจ้เป็นพระเซน แล้ว
ไอ้เจ้าฆาตกรบ้ากาม ที่ตามมาข่มขืนเจ้
ก็คงเป็นไอ้แมงมุมผู้ชั่วร้าย ที่พร้อมจะทำอันตราย
ให้กับ เหล่าผีเสื้อ ที่บินไปบินมา ได้ทุกเมื่อ ล่ะมั้ง



และ ถ้าลื้อเป็น พระเซนรูปนั้น ลื้อจะ กำจัดเจ้าแมงมุม
เพื่อ ช่วยเหล่า เจ้าผีเสื้อปีกบาง ทุกตัวในโลกหรือเปล่าล่ะ ?
ถ้าเป็นเจ้ เจ้ทำไม่ลงว่ะ ไม่รู้สิมันตะขิดตะขวงใจมั้ง
ถ้าจะเบียดเบียนชีวิตหนึ่ง เพื่อรักษา อีกชีวิตหนึ่ง
ต่อให้ ชีวิตนั้น เป็น พี่สาว น้องสาว หรือ ลูกสาวคนสุดท้องของอิเจ้ก็ตาม


ดังนั้น เจ้จะละเว้นชีวิตงดโทษตาย ให้กับไอ้แมงมุม
และ หาก มีผีเสื้อ ตัวไหน มันไม่พอใจกับ สิ่งที่เจ้ได้กระทำ
โวยวายว่า การที่เจ้ปล่อยเจ้าแมงมุมผู้ชั่วร้ายไว้ จะเป็นการนำภัยมาสู่มัน
แล้ว นำไปสู่การมีปฏิฆะ ซึ่งกันและกัน ระหว่าง เจ้าผีเสื้อ กับ ตั้วเจ้ แล้วไซร้
ก็ไม่เป็นไร เจ้ยินดีน้อมรับ วิบากกรรม และ รับผิดชอบกับทุกการกระทำของเจ้เองว่ะ



ถ้าเจ้ กลายเป็นเหยื่อ ถูก พาโลผู้ฉิบหาย
สร้างเวรสร้างกรรม สร้างตราบาปให้
เจ้ก็จะ ยุติกรรม โดยการอโหสิ และปล่อยเขาไปนะ
และ หาก เขาพ้นจากเจ้ไป
แล้ว ไปสร้างเวรสร้างกรรม อะไรต่อ
เจ้ก็จะขอก้มหน้าก้มตา รับผลกรรมต่าง ๆ
ตามแต่ ที่เหยื่อที่ถูกเขากระทำ จะหยิบยื่นให้เจ้ว่ะ
เฮ้อออ ไม่รู้สิ พอตัดสินใจได้เด็ดขาดงี้แล้ว
มันก็ปลอดโปร่งโล่งสบายในการปฏิบัติ มากขึ้นแยะเรย นะอิอิ






ไอ้ทึ้งว่า....
------------------------
คนที่จะมาตัดสินลงโทษใคร
มันจึงต้องเป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ก่อน
มันเป็นไปตามหลักความยุติธรรม

+++++++++++++++

อิเจ้ว่า...
อันนี้ ขอย้ำคิดย้ำทำ กับน้ำลายเดิม ๆ ของลื้อ
เพิ่มเติมอีกสัก ดอกส์สองดอกส์ ก็แร้วกันนะ
แบ่บว่า คันปากอยากจะ แร่พฉ่อย ต่อยตีด้วยว่ะ อิอิ


อืม... เรื่องนี้ อิเจ้ก็เห็นด้วยกับลื้อ(บางส่วน) อีกเช่นกัน
หากเป็นเรื่อง คดีของอาเฮียเหลี่ยม อ่ะนะ
เพราะว่า เจ้รู้สึกได้ถึง เจตนาแอบแฝง และ วาระซ่อนเร้นบางอย่าง
ที่มันแม่ง ๆ ในการแก้กฏหมายในบางมาตรา ว่ะ
อาทิเช่น กม.นิรโทษกรรมย้อนหลัง ฮา ๆ



แต่ถ้ามองแบบองค์รวม
บางที การจะให้การวินิจฉัยคดีทุกครั้ง
เป็นไปตามกฎหมายที่บัญญัติไว้ก่อน
ถึงจะเรียกว่า หลักความยุติธรรม


มันก็เป็นการตีกรอบแบ่บเป๊ะ ๆ มากไป ป่ะ ?
ไม่รู้สินะ เจ้ให้ความสำคัญกับ รากเหง้าและเจตนารมณ์
ตลอดจน เป้าประสงค์ ในการออก กม. มากกว่านะ
ถ้ากฏหมาย อันไหน มันดูโหล่ยโท่ย ไม่ได้ความ
อิการ์ฟิลด์ มันก็หาเรื่อง แหกกฏ และ ละเมิด ได้เสมอ แหล่ะ
ยกเว้นศีล 5 อันนี้ ม่ะค่อยกล้าแหก ขี้เกียจโดน อิคิตตี้ มันด่าเอา เอิ๊ก ๆ



อืม...บางทีการเคร่งครัดกับกฏหมายโดยเถรตรงแบ่บง่าว ๆ
สักแต่ว่า แบกกฏแบกกรอบ ไว้บนหัว โดยไม่เข้าใจที่มาที่ไป
รั้นแต่จะ ยอมหักไม่ยอมงอ กรูจะขอตาย5 เพื่อรักษากฏหมายยิ่งชีวิต
มันก็ทำให้สังคมเกิดความระส่ำระส่าย และ วิกฤตศรัทธาโกลาหล ได้นะ
อาทิ คดีแบ่บคลาสสิก เรื่องพระนางเรือล่ม ที่จมน้ำตาย
เพราะไม่มีใครกล้ากระโดดน้ำเข้าไปช่วย
เนื่องจากกลัวโดนโทษประหาร เจ็ดชั่วโคตรไง



แล้วยัง คดี นี้อีก



เฮ้ออออ สมัยเด็ก ๆ ก็มักจะโดนคูบาอาจาน กรอกหู
ให้ดู ไอ้เจ้าพันท้ายนรสิงห์ เป็นตัวอย่าง
เรื่องการยอมตาย5 อย่างกล้าหาญเพื่อรักษากฏหมาย อ่ะนะ
ฟังแรก ๆ ก็ รูสึกว่า มันเท๊ห์ เท่ห์
แต่พอโตขึ้น กลับ รู้สึก ขบขันแกมสมเพช ไอ้เจ้าพันท้าย คนนี้แฮะ



รากเหง้าของกฏมณเฑียรบาล ข้อนี้
มันมีไว้เพื่อรักษาความปลอดภัยให้ผู้เป็นกษัตริย์
และ เหวี่ยงแหแบ่บกันไว้ดีกว่าแก้
เพื่อ กำหราบ ให้เหล่าฝีพาย เกิดความตะหนัก ระมัดระวัง
จะได้ ตั้งใจพายเรือพระที่นั่งอย่างสุดความสามารถ
เพราะขยาดกลัวว่า หัวจะขาดก่อนวัยอันสมควร
แต่ กฏทุกอย่าง มันก็ย่อมมี ข้อยกเว้น ได้เสมอ นะ
เพื่อให้เกิดความยืดหยุ่น และ สมดุลในสังคม
ถ้าเรารู้ว่า ต้องปฏิบัติตามกฏข้อนี้ เพื่ออะไร
และได้ตั้งใจทำตามเป้าประสงค์นั้น อย่างเต็มที่แล้ว
มันก็ไม่จำเป็นถึงขนาดต้อง แบกกฏข้อนี้ไว้กับตัว จนหัวขาด หรอกมั้ง



เฮ้อออ เจ้ว่านะ อิตาพันท้าย นี่
มันต้องเป็นไอ้พวกเปอร์เฟคชั่นนิสต์
เหมือนลื้อแหง๋ ๆเลยว่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋
แหม๊ ? นี่ถ้าไอ้พันท้าย มันรู้จัก คำว่า เหตุสุดวิสัย และการบกพร่องโดยสุจริต
รวมทั้ง คิดวิเคราะห์เจาะประเด็น หาคำว่า รากเหง้า เจตนารมณ์
และ เป้าประสงค์ของกฏหมายข้อนี้ ได้แล้ว
เจ้ว่า มันก็ไม่จำเป็นต้องมาทำดราม่า
สังเวยชีวิตตัวเอง เซ่นสังเวย
เพื่อรักษากฏมณเฑียรบาลสมัยพระเจ้าเสือว่ะ



เพราะ ถ้าพิณาจาก ประจักษ์พยานแวดล้อมดูแล้ว
เหตุการณ์ที่เกิด มันก็ล้วนแล้วแต่เป็นเหตุสุดวิสัย
อิพันท้าย ฯ มันหาได้มีเจตนาจะปล่อยปละละเลย
หรือ หละหลวม ในการปฏิบัตืหน้าที่ ไม่
และ การปล่อยให้คนดีมีความสามารถตายหองตาย5
เพื่อรักษากฏหมายเส็งเคร็ง นี่มันเสียของ นะ
อย่าลืม สิว่า แม้พันท้ายจะตายเพื่อรักษากฏไปแล้ว
กฎมณเฑียรบาลข้อนี้ ก็ไม่ได้อยู่ยั้งยืนยง อะไรเล๊ยยย
เอ๊ะ หรือว่า ที่อิพันท้ายมันทำงี้ ก็เพราะมองการณ์ไกล
อยากจะฝากชื่อไว้ข้ามศตวรรษ เพื่อฟามเท่ห์ อันเป็นอนันตกาล ล่ะหว่า อิอิ


แหม๊ ? พูดถึง อิตาพันท้าย แล้ว
ก็หั้ยนึกถึง พวก แถละวาด
ที่ชอบเต้นเหย็ง ๆ เหยียบหัวนิกายอื่น
ด้วยการ ประกาศตัวเป็นทายาทสายตรง
ขององค์สมณะโคดม ว่ะ


พอมีคนนึกครึ้ม คิดจะ ปฏิรูป
เอื้อมมือไปแตะตะกร้าสามใบเข้าหน่อย
พวกมันก็วี๊ดว้ายกระตู้วู้ ทำอย่างก๊ะ จะมีคนก่อกบฏ ซะงั้น
นั่งบนภู ดูพุทธกัดกัน แล้วก็ขำดี ว่ะ
ไม่รู้ดินะ สำหรับเจ้ ไม่ว่าจะ กฏหมาย
หรือ พระวินัย ในตะกร้าสามใบ
ถ้ามีเหตุสุดวิสัย มันก็แหกได้ทั้งนั้นแหล่ะ


ทว่า ก่อนจะแหก คนแหกต้องมีภูมิกึ๋น
พอที่จะโยนิโสฯ จนเข้าใจรากเหง้า และ เจตนารมณ์
ของการบัญญัติข้อวินัย เหล่านั้นด้วย อ่ะ
ที่สำคัญ ต้องทำด้วยใจที่เป็น กุศล นะ
ไม่ใช่ทำด้วยจิตที่คิดจะยึดมั่นถือมั่น


แต่พูดก็พูดเหอะ นะ เจ้เห็นบรรดาพุทธมามกะจ๋า ของลื้อ
แล้วก็ เข้าใจ และ เห็นใจ พระพุทธเจ้าเรยว่ะ
ว่า ทำไมต้อง กำหนดกฏกรอบ บัญัติพระวินัย ไว้เป๊ะ ๆ
ประหนึ่งกฏมณเฑียรบาล เพื่อเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม อย่างนั้น
เจ้คาดว่า คงจะเป็นเพราะทั่นขี้เกียจเปลืองน้ำลาย มากมายก่ายกอง
เพื่อ อธิบายถึงเหตุปัจจัยของ พระวินัยแหง๋ ๆ เรยว่ะ
เพราะถึง พูดไป พวกมันก็คงไม่สำเหนียกว่ะ
สู้ออกกฏเหล็กกำหราบเด็ก ๆ กันไว้ดีกว่าแก้ ท่าจะเวิร์คกว่า อ่ะ
มันก็เหมือน เรื่องที่เตี่ยลื้อ ห้ามลื้อเอามือไปแหย่ รูปลั๊กไฟ นั่นแหล่ะ อิอิ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:41:36 น.  

 
 
 
เจ้ผีเน่า........

กรุณา ยั้งปาก แร้ว แทงกั๊ก ไว้จิ๊ดนุงส์ นะจ๊ะทูนหัววว
เพราะ คำว่า เหตุสุดวิสัย ภาวะจำยอม
และ ดุลพินิจของศาล/ของหมอ
เค้าไม่ได้ มีไว้ เป็น ไม้กันหมา เฉย ๆ นะยะ
( เพียงแต่ คนเรามันจะชอบคำพวกนี้ ไปใช้เลี่ยงบาลี
แอบเอาไปใช้ผิดวัตถุประสงค์อยู่บ่อย ๆ เท่านั้นเอง อ่ะ หุหุ)

************************************************************
โอทึ้ง.....

แหม่! ทีนี่ล่ะเอามาอ้างนะ ว่าเป็นไม้กันหมา
ลื้อกำลังเอาเรื่องดุลพินิจ มาเป็นไม้จะตีหัวอั้ว
แต่ไม่รู้จักวิธีตี จะตีหมาที่กำลังกระโดดเข้างับคอหอยลื้อ
เราต้องยกไม่ตีแบบเหวี้ยงไปข้างๆ
ทิศทางของหมาจะได้ผิดเป้าหมาย คันยกไม้สูงเปิดเป้าซะงั้น

+++++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า ...
อืม...ก็เจ้ไม่เคยคิดจะใช้ไม้กันหมา มาเพ่นกบาล ลื้อ นี่หว่า
เพราะเวลาที่ลื้อกระดิกหางดิ๊ก ๆ วิ่งรี่เข้ามาหา อิเจ้เนี่ย
เจ้ไม่ได้เคยคิดว่า ลื้อจะกระโดดเข้ามางับคอหอย อิเจ้ ซะหน่อยนิ
และ ในเมื่อเจ้ไม่ได้คิดจะทำร้ายอะไรกับลื้อ
แล้วทำไมเจ้ต้องกลัวลื้อจะกระโจนเข้ามาทำร้ายเจ้ด้วยวะ



จะบอกหั้ยนะ เวลาเห็น ลื้อ มาร้องโฮ่ง ๆ แฮ่ ใส่เนี่ย
อย่างมากเจ้ ก็แค่ลู้สึกนึกเอ็นดู ประมาณว่า
เออเฮ้ยยย ไอ้ลูกหมาพิทบูลตัวนี้ มันคงอยากจะมาเล่นกะกรู
เจ้อิตั้วเห็น มันดูใสซื่อดี ก็เรย นึกเอ็นดูแล้วหยอกมันเล่น
ด้วยการจับตรูด อารมณ์คงเหมือนกับ
ตอนที่ลื้อแหย่อินู๋หลบภัย ไง
เรื่องมันก้อเท่านั้นเอ๊งงงงงงง



แล้ว ไอ้ที่ลื้อเห็นอิเจ้ยกไม้สูงเปิดเป้า เนี่ย
มันก็เป็นเพราะ อิเจ้แค่นึกสนุกคิดจะเขวี้ยงไม้ เล่น ๆ
ให้ ลื้อ วิ่งไปกระโดดไล่งับ แล้วคาบมาหั้ยอิเจ้ตะหาก
เฮ้อออ สมัยเด็ก ๆ ลื้อนี่ถ้าจะไม่เคย เล่นเกมส์
เขวี้ยงไม้ให้ลูกหมาวิ่งไปคาบ หรือไงฟระ
เฮ้อ ที่อิเจ้ทำเนี่ย มันก็เป็นเหมือน สันทนาการ
ที่เอามาเล่นสนุก ๆ ด้วยกันนะ
แต่ลื้อมันก็ เสือก ระแวงไม่เข้าท่า
ตามประสา ไอ้ลูกหมาที่มีชนักติดหลัง เองตะหาก



เฮ้อออ จะว่าไป ลื้อก็เหมือนไอ้ลูกหมาจรจัดตัวหนึ่ง ที่โรงบาลเจ้ว่ะ
ไอ้ลูกหมาตัวนั้น มันมาจากที่ไหนไม่มีใครรู้
แต่ที่รู้กันทั่ว ก็คือมันไปสร้างวีรกรรม โฮ่งๆแฮ่
กัดชาวบ้านเขาไปทั่ว ทั้งในโรงบาล , ข้างบ้านพัก
หนักเข้า ถึงขนาดทะลึ่งไปกัด น้องเภสัช ที่จะเข้ามาต่อเวรดึก ด้วยนะ
ไอ้น้องเภสัชดวงซรวยที่โดนหมากัด เล่าหั้ยฟังว่า

ผมก็เห็นไอ้หมาตัวนี้ นอนหมอบ อยู่แถวหน้าห้องยา
แล้วกะลังเดินทอดหุ่ย จะเปิดประตูห้องยา อยู่ดี ๆ
จู่ ๆ ไอ้หมานั่น ก็กระโดดเข้ามางับน่อง แบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ซะงั้น
อิชายที น้องเภสัชอีกคน ฟังแล้วก็พูด ประมาณ ว่า


หมาตัวนี้ มีอะไรแปลก ๆ นะ
ตามันดูเคว้ง ๆ ตื่น ๆ เวลาเจอคน
เหมือนมันเคยโดนใครไปทำร้าย
หรือไม่ก็เคยเจอ ประสบการณ์เส็งเคร็ง ที่ทำให้ชีวิตบัดซบ
มันจึงหวาดระแวงผู้คน กลายเป็น หมาจิตไม่ปกติ ไปเลย
เจ้เองก็เห็นเหมือน อิชายทีนะ


เพราะ ตรูเองก็เคยโดนมันกัดเหมือนกัน
แมร่ง เช้า ๆเดินอยู่แถวบ้านพัก จะไปซื้อกับข้าวอยู่ดี ๆ
จู่ ๆ ไอ้หมา5 นี่ ก็กระโดดเข้ามางับขา
แบบเดวกับไอ้น้องเภสัชดวงซรวย เป๊ะ
จำได้ว่า พอกัดเสร็จ ไอ้หมาเวรนั่น
มันก็ไปยืนคุมเชิงมองดูเจ้ เหมือนกลัวโดนเจ้อาละวาด
ปฏิบัติการ เอาคืน กะมัน อ่ะนะ
ยังจำ สายตาตื่น ๆ ที่เต็มไปด้วยความหวาดระแวง
ตอนที่มันมองเจ้ได้เรยว่ะ มันเหมือนลูกหมาหลงทาง
ที่พยามจะทำทุกอย่าง เพื่อ ปกป้องตัวเอง
ตามสัญชาตญาณของสัตว์หน้าขน น่ะ



แต่นับว่าไอ้หมาตัวนี้ มันยังโชคดี อยู่บ้าง
ที่เด๋วนี้ อิเจ้ ต้องรักษาฟอร์มนักปฏิบัติอย่างค่อนข้างจะเคร่งครัด
เรย ง้างตรีนเตะมันได้ไม่ถนัดเท่าไรนัก
สุดท้ายก็เรย ได้แต่ จ้องหน้าด่าโคตรพ่อโคตรแม่ อิหมานั่น
พร้อมกับ กล้ำกลืนความแค้นไว้ในอก
ตัดสินใจไม่ก่อกรรมทำเข็ญ ต่อเวรต่อกรรม อะไรกับมันอีก
แต่เลือกที่จะ ลากสังขาร เดินขโยกขเยกไปฉีดวัคซีนแทน
( นี่เจ้ ก็เพิ่งไปฉีดบาดทะยัก เข็มสุดท้ายมาหมาด ๆ เอิ๊ก ๆ )



อืม... แต่ถึงงั้น เจ้าหมานั่น
มันก็ไม่ได้โชคดีตลอดไปหรอกนะ
ลื้อ รู้ไหม ? หลังจากที่วิ่งพล่านไป
เที่ยวไล่กัดชาวบ้านจนเป็นที่โจษจันไปทั่วโรงบาล
สุดท้ายชะตากรรมของอิหมาตัวนี้ มันเป็นไง ?


มีคนพบมันไปนอนตายใต้ถุนตึก
ด้วย สภาพที่เหมือนโดนวาง ยาเบื่อ น่ะ
เหอ...เหอ... ที่แพล่มซะยาวเหยียดเนี่ย
ก็เพราะอยากจะเล่าหั้ยเจ้าพิทบูลจอมโหด ฟัง เป็นอุทาหอน ง่ะ
ลื้อจะได้ไม่ต้องมีชะตากรรมอันน่าอเน็จอนาถ
แล้ว ตายเพราะปาก เหมือนไอ้หมาจรจัดตัวนั้น



อ้อ แต่บอกไว้ก่อนนะยะ
ไอ้ยาเบื่อนั่น ไม่ใช่ฝีมือ อิเจ้หรอกนะเธอว์
เฮ้อออ หลังจากที่เจ้เคยเขียนลงไปในข้อสอบจิตวิทยา
ตอนสัมภาษณ์เข้ามหาลัย ไปว่า


สิ่งที่ฉันเสียใจที่สุด คือ... พาลแล้วเตะหมา


อิเจ้ก็ไม่เคยทำร้าย ลูกหมาตัวไหนอีกเรย
( นอกจาก เผลอเหยียบหางมันโดยมิไม่ได้เจตนา อิอิ )
ดังนั้น ลื้อไม่ต้องกลัวเจ้จะทุบหัวลื้อ
แล้วจับยัดถุงปุ๋ย ส่งไปขายท่าแร่ หรอกย่ะ
เจ้ก็ขู่ไปงั้นเองว่ะ ไอ้ลูกหมาบางตัวมันจะได้ไม่เหลิง เอิ๊ก ๆ
เนี่ย ต่อให้ลื้อมีจิตคิดพยาบาท
อยากจะกระโดดเข้ามาขย้ำคอหอย อิเจ้ จิง ๆ
เจ้ก็คงไม่เอา ไม้กันหมา ฟาดหัวกบาลลื้อหรอกนะ
อย่างมาก อิเจ้ก็แค่ ใช้มันแกว่งต่องๆแต่งๆ ไปมา
เพื่อป้องกันตัวเอง เฉย ๆ อ่ะ ไม่ได้จะใช้มันทำอันตรายใครหรอกจร้าาา
เพราะว่า ไงซะ ปากหมางี้ เด๋วก็มีคู่อริ ลื้อ ดอดมาวางยาเบื่อ เอง แหล่ะ อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:42:29 น.  

 
 
 
ไอ้ทึ้ง ว่า....
-----------------------------

ที่ลื้ออ้างเรื่องดุลพินิจของศาล แต่ความเห็นก่อนหน้า
บอกว่าศาลไปเห็นเหตุการณ์ รู้ว่าใครเป็นฆาตกร
แล้วดันมาถามว่า จะให้ศาลทำงัย


ทำไมไม่ให้ศาลใช้ดุลพิจพิจารณาตัวเองล่ะว่า
เห็นเหตุการณ์คอนแรกแล้วไม่จัดการ เสือกมาจัการตอน
ตัวเองเป็นกรรมการตัดสิน เมิงไม่โดนข้อหาปฏิบัติหน้าที่
โดยมิชอบค่อยมาเอาเรื่องหมิ่นกับกรู

ไอ้ที่เลี่ยงบาลีอั้วกำลังเห็นเจ้ทำอยู่นะ
++++++++++++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า....

เจ้ ไม่เคยเลี่ยงบาลี ว้อยยยยย
ลื้อตะหากที่พยามเบี่ยงเบนประเด็น


ในเรื่อง ไม้กันหมา และ ดุลพินิจนั้น
เจ้ก็พูดขำ ๆ อำกันเล่น เพื่อจะเตือนลื้อ
เรื่องที่ลื้อเสือกไปฟันธงโต้ง ๆ แบ่บไม่ดูตาม้าตาเรือว่า

หมอรักษา แล้วคนไข้ตาย ไม่ผิด


เฉย ๆ เว้ยยยย เผื่อลื้อจะได้สำเหนียกอะไรขึ้นมามั่ง
จะได้เลิกตีกรอบ ตีกฏแบ่บเป๊ะ ๆ จนกระดิกตัวไม่ได้ซะที
เพราะไอ้กรอบไอ้กฏพวกนี้ สักวันมันอาจกลายเป็นบ่วงผูกคอลื้อเอง
ที่สำคัญ การทำงี้ มันสุ่มเสี่ยงต่อการหน้าแตกได้ง่าย ๆ ด้วยว้อย


ลื้อจึงควรจะหัดยืดหยุ่น ทำอะไรแบ่บค่อยเป็นค่อยไป
และ ลื่นปื๊ด ๆ เป็นปลาไหล ซะมั่งสิวะ
ก็ขนาดใน กฏหมาย ยังมีการเปิดช่องไว้
ให้ศาลใช้ดุลพินิจในการ พิณาคดี เรยนิ
ส่วน ไอ้ช่องที่ว่า เนี่ย มันจะกลายเป็น ช่องโหว่
หรือ ช่องว่างทางกฏหมาย
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่า ใครเป็นคนใช้มีด
งักปุ๊กคุ้ง หรือว่า เหล็งฮู้ชง เหอ...เหอ...



แล้วก็ไม่ใช่ว่า อิเจ้ จะไม่ได้เอา เรื่อง ดุลพินิจ
ไปใช้ ในคดีศาลนั่งกินก๋วยเตี๋ยว ด้วย
เพียงแต่ ไอ้คดีนั้นน่ะ ประเด็นมันไม่ได้อยู่ที่ ศาลจะทำไง
แต่ มันอยู่ที่ ถ้า ตรูเป็นศาล ตรูจะทำไง ตะหาก


ก็เจ้กะลังบ่นเรื่องที่ เจ้ไม่อยากมีอาชีพเป็นผู้พิพากษา
เนื่องจากเจ้รู้สึกลำบากใจในการที่จะใช้ดุลพินิจ
เพราะกลัวว่า ทำไปทำมา ตรู อาจจะ อดใจไม่ไหว
กลายร่างเป็น กระบี่วิญญูชนจอมปลอม แบ่บไอ้ตี๋บางคนนิ อิอิ




อืม...ถ้า กฏหมาย เหมือน ศีล แบบที่เจ้บอกไว้
การวินิจฉัยคดี มันก็เหมือนกับ การทวนศีล นั่นแหล่ะ
ในเวลาที่ศีล ถลอก เจ้ก็จะพยามคุ้ยหา และพยามมองให้ออก
ว่า อะไรคือรากเหง้าของการกระทำ อันนำมาซึ่งการถลอกของศีล
ตลอดจน อะไรคือ รากเหง้าที่มาที่ไป
และ เหตุปัจจัยของการบัญญัติ ศีลข้อนี้



เจ้คิดว่า เจ้ซื่อสัตย์กับอัตตาตัวเองพอนะ
ไม่เคยคิดจะทำ แอ๊บเนียน แอ๊บแบ๊ว เลี่ยงบาลี
บอกใคร ๆ ว่า การที่ เช้า ฉันเพล เย็นดูดมาม่า ค่ำหม่ำน้ำปานะ นั้น
มันม่ะผิดศีลหรอกนะจ๊ะ โยมมมมมมมมมมมมมมม
และ น้ำปานะ กะ ชีสต์อบช๊อคโกแลต นั้น
สามารถฉันหลังบ่าย เพื่อ ดับเวทนา ได้
เพราะ พระพุทธเจ้าทรงอนุยาดไว้แว้วววววววว
นั่น ตะหาก ที่เรียกว่า การเลี่ยงบาลี ของจริง



รู้ไหม เจ้เคยนั่งเถียงเรื่อง น้ำปานะ
กะ พี่คนนึงที่ถือศีล ข้อ วิกาลโภชนาฯ นะ
เค้าบอกว่า น้ำปานะ สามารถกินได้หลังเวลาบ่าย
แต่เจ้ฟังแร้ว คันปากยิก ๆ เลยไล่จิกทึ้ง เอ๊ย ไล่เบี้ย
ให้พี่แก ลองมองหา รากเหง้า แห่งการกระทำ
และ รากเหง้าของบัญญัติแห่งศีลข้อนี้น่ะ ประมาณว่า
ตกลงที่มรึงจะแดร่กน้ำปานะ นั้น
เป็นเพราะเกิดตัณหาอยากแดร่กขึ้นมาเอง
หรือว่า เกิดอาการหน้ามืดตาลาย
หิวจนทนไม่ไหว และอาจตายได้ หากไม่ได้แดร่ก กันแน่



ซึ่ง พอพี่คนนั้นมันเถียงตรูไม่ได้
หรือว่า อายที่จะยอมรับความจริง
ที่ว่า มันแดร่กเพราะฟามอยาก
พี่แกก็ อ้างเรื่อง มัชฌิมาปฏิปทา
แล้วอุ้ม พระพุทธเจ้ามาเป็นไม้กันหมา
โดย สวนกลับ ประมาณว่า ไม่รู้ล่ะ
ก็ขนาดพระพุทธเจ้ายังทรงอนุยาดแล้ว
พี่ก็จะเชื่อพระพุทธเจ้า นี่แหล่ะ




อะโหย ฟังแร้วปรี๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดดดดด
รู้สึกว่า นอกจากมันจะไม่เข้าคอนเซปต์ กาลามสูตรแล้ว
มันยัง แถจนสีข้างถลอกลึกถึงซี่โครงด้วยวุ้ย



อิตั้วเจ้ ก็เรยพูดลอย ๆ เป็นประโยคบอกเล่า เข้าหูหมาไป ประมาณว่า

บีไม่เชื่อ พระพุทธเจ้าหรอกค่ะ บีเชื่อตัวเอง !




เฮ้อออ พูดถึงไอ้เรื่อง น้ำปานะ เนี่ย จิง ๆ แล้ว
พระพุทธเจ้า ทั่นอนุโลม หั้ย
เพราะ ทั่นเวทนาพวก อิอ่อน เอ๊ย พวกธาตุอ่อน
ไม่สามารถมีน้ำอดน้ำต่อความอยาก ได้ ตะหากล่ะ
ถ้า กินเพราะอยาก ดื่มเพราะกระหายในรส เนี่ย
ถือศีลไป ก็เสียเวลาเปล่าว่ะ มันจะได้มรรคผล ตรงไหนวะ


แต่ถ้า ตอนบ่ายใช้พลังงาน ถางหญ้า แบกหิน ขุดหลุมปลูกต้นไม้
เสียแคลอรี่ไปหลายกิโลขีด แล้วจะฉันมื้อเย็นเนี่ย
เจ้ว่า มันก็พอจะหยวน ๆ ได้กินอะไร รองท้องได้นะ
ถ้าท้องมันร้องจ๊อก ๆ จนกรดหลั่งน่ะ
ขืนทนอดต่อไป เด๋วได้กระเพาะทะลุตายแหง๋
นี่ตะหากที่เรียกว่า ทางสายกลางและ ยืดหยุ่นได้ตามเหตุปัจจัย


ไม่ใช่อะไร ๆ ก็ อ้างพระพระพุทธเจ้า เป็นไม้กันหมา
แล้วหาเรื่อง เลี่ยงบาลี ยันเต




เฮ้อออ ที่จริงเรื่องนี้ ถ้าทำไม่ได้ ก็บอกว่า ทำไม่ได้
มันก็จะจบแบบตรงไปตรงมานะ ไม่ต้องแถให้เหนื่อยด้วย
สรุปก็คือ ในเรื่องนี้ นู๋บีไม่เคยเลี่ยงบาลี นะคะทั่นผู้อ่าน
นู๋บีเป็นคนจริงใจไม่ไก่กาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาาา
แต่ไอ้ตี๋มัน แอบยัดยาบ้า หั้ยนู๋บี ฮ่ะ อะซิก ๆ




เฮ้ยนี่ ไอ้ตี๋ เจ้จะบอกอะไร ให้อย่างนะ
ถ้าลื้อคิดจะ ยัดยาบ้า ให้ใครเนี่ย
ลื้อต้องหัดเลือก เหยื่อ ให้มันดูเข้าท่า กว่านี้นะจ๊ะ
ต้องเลือกเหยื่อ ที่หน้าตาเหมือนพวกขี้เหล้าเมายา
อาทิเช่น ไอ้ลี้คิมฮวง จร้าาา การยัดยาบ้า มันถึงจะสัมฤทธิ์ผล
ผู้คนมันถึงจะคล้อยตาม เวลาฟังลื้อพล่ามใส่ไคล้



ไม่ใช่ เสือกมายัดยาบ้า ให้ก๊ะ หญิงสาวที่ดูใสซื่อ
ดุจนางชีผู้บริสุทธิ์ แบ่บอินังลิ้มเซียนยี้
เฮ้ออ นี่ถ้าขืนลื้อยัง ยัดยาบ้า แบ่บไม่ดูตาม้าตาเรือบ่อย ๆ งี้
เด๋ว ลื้อนั่นแหล่ะ ที่จะกลายเป็นผู้ต้องสงสัย
ในคดี ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ไปซะเอง นะ
( อิเจ้เป็นห่วงลื้อจิง ๆนะจ๊ะ เหอๆ )







ไอ้โซ๊ยตี๋ ว่า...
อีตั้วเจ้ พักนี้เป็นไงไม่รู้ว่ะ ไม่อยากเสวนากับยัยแก่ขึ้นคาน
อั้วชอบคนมีประสบการณ์แบบอีเจ้ขวานว่ะ
อั้วว่าผัวอีเจ้ขวานโชคดีชิกหาย ที่ได้เมียใสซื่อหรือว่าโง่ว่ะ
ถ้าเป็นอั้ว อั้วจะเอาอีเจ้รองสต๊าฟขึ้นหิ้งบูชาเลยว่ะ

ผู้หญิงอารัยกลัวผัว เห็นผัวเป็นคนดี
กรูว่าผัวอีเจ้รองต้องกลายเป็นพระศรีอริยเมตไตเข้าสักวัน
+++++++++++++++++++++++++

อิตั้วเจ้ ว่า....

อืม...ไอ้โซํยตี๋ เอ๊ยยยยยยยยย
สิ่งที่เราเห็น อาจไม่ใช่ สิ่งที่มันเป็น นะ เว้ยยย
ลื้อนี่มันไม่เคยสำเหนียกกับสิ่งที่อิเจ้พยามจะจาเสี้ยมสอนเรยเน๊าะ
แมร่ง ปรุงแต่งซะจน จินตนาการ บรรเจิด เยยวุ้ย
มามะ อิเจ้จะ นินทา อิเจ้รอง หั้ยฟัง


เฮ้ย อิเจ้จะบอกให้นะ ลื้ออย่าได้ไปอิจฉาป๋าโจ แกเรยว่ะ
ลื้อต้องสงสารอิป๋าแกให้มาก ๆ นะ
ที่หน้ามืดไปลำบากลำบน คว้าเอา อิปลาไหลมาทำเมีย น่ะ
ทุกขลาภชัด ๆ เลยนะนั่น ม่ะเชื่อ ลองไปอ่าน
ตำนานรักเกมส์ออฟไลน์ ของอิน้องค่อม กะ โคตรไอ้เข้
ในกาทู้สองกาทู้นี้ดูดิ




https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=itoursab&month=14-06-2010&group=6&gblog=12
( ตรง วันที่: 20 มิถุนายน 2553 เวลา:20:07:28 น. )



https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=itoursab&month=28-11-2009&group=6&gblog=4
(ตรง วันที่: 3 ธันวาคม 2552 เวลา:10:10:36 น. )




ถ้าอ่านแล้ววิเคราะห์ดูให้ดี
ลื้อจารู้ว่า ลื้อน่ะคิดผิด ที่ไปหาว่า อิเจ้รองมันโง๊โง่
จิง ๆ แล้ว อิอ่อนเสือนอนกิน มันฉลาดจะตายไป
ม่ะงั้นมันจะยอมอนุยาดให้ผัวไปมีเมียน้อย
เพื่อที่ว่า มันจะได้มีเวลาปลีกวิเวก
ไปเล่นเกมส์เก็บเลเวล หรอวะ


แถมตอนที่มันอนุยาด นั่นน่ะ
มันก็ยังแอ๊บแบ๊ว แอบมี วาระซ่อนเร้น
จงใจจะเขี่ยผัวตัวเองทิ้ง แบ่บแนบเนียน และลุ่มลึก
โดย ใช้ น้องเมียน้อยเป็น เครื่องมือ
ทำให้อิผัวมันหลงเมียน้อยจนหัวปักหัวปำ อีกตะหาก
อิเจ้รอง มันกะจะทำดราม่า เล่นบทเมียหลวงใจดี
ยอมหลีกทางให้คนที่มาทีหลัง
แล้วหนีเปิดไปบวชชีอยู่ในป่า อ่ะ
คิดดูดิ ถ้าไม่กะล่อนเป็นปลาไหลใส่สะเก๊ต
คงคิดแผนการซับซ้อน ซ่อนเงื่อน งี้ไม่ได้นะว้อยย เอิ๊ก ๆ




แต่ น่าเสียดาย ที่อิเจ้รอง ยังฉลาดไม่พอว่ะ
ริจะเล่นดราม่าหาเรื่องหย่ากับผัว ทั้งที
ก็เสือก ตีบทไม่แตก เล่นได้ไม่ สมจริง
อาไร๊ จะเฉดหัวผัวตัวเอง ออกจากวงโคจร ทั้งที
มันก็ต้อง ทำเนียน ๆ ให้ผู้ชายมันคิดว่า
มันเป็น ฝ่ายเลือกตัดสินใจ ที่จะเดินไปจากเราเองสิวะ
ไม่ใช่ เอะอ่ะ ก็ระริกระรี้
ทำท่าอยากจะวิ่งหนีผัวไปบวชชี จนตัวซี้ตัวสั่นงั้น
แล้วผู้ชายที่ไหนมันจะบ้ายอมปล่อยไปว้าาาา
เพราะเรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่เรื่อง อาลัยรัก เฉยๆ แระ
แต่มันยังลามไปถึง เรื่องของการเสียหน้า
เข้าตำรา ศักดิ์ศรีลูกผู้ชาย ฆ่าได้หยามไม่ได้ ว่ะ เอิ๊ก ๆ



อืม...นี่อิเจ้ยังคิดเรย นะ ว่า
ถ้าอิอ่อนมัน รู้จักงัดมารยาหญิงร้อยเล่มเกวียนมาใช้ ในการกระตุ้น อัตตา มานะ
และรู้จัก ใช้ประโยชน์ จากความหยิ่งยโส ในศักดิ์ศรี แบ่บโง่ ๆ ของลูกผู้ชาย
ให้ถูกที่ ถูกทาง และ ถูกโอกาส แบบ แม่นางคนเนี้ยะ อ่ะนะ
ป่านฉะนี้ อิอ่อนมันคงได้ หลุดจาก
บ่วง ราหุล ชาตะ พันธนะ ทั้งหลายทั้งพวง ไปแระ
ไม่ต้องมาร้องไห้แง ๆ ถูกผัวล่ามโซ่ติดหัวกระได
แล้วมีลูกกวนตัวมีผัวกวนใจงี้หร็อก จะบอกหั้ย
อดได้บวชชีหนีรัก ไปอยู่ก๊ะ อิหลวงเจ้ กุ๊กไก่ เรย ( ฉมน้ำหน้า อิอิ )


แต่ก็นั่นแหล่ะ อิเจ้รอง
มันเป็น อิอ่อนสอนขันนี่หว่า
จะให้ มีสารพัดพิษเป็นชาติตระกูล แบ่บอิตั้วเจ้ได้ไงฟระ
อิเจ้รองมันเรยอด ได้ ออสการ์
แต่ว่า ได้อิผัวขึ้หึงมาเกาะหัวเกาะหู
มาเป็นเจ้ากรรมนายเวร (และมาเป็นผีชัตเตอร์) แทนไง
คาดว่า มือเหนียวตีนเหนียว อย่างอิป๋าโจ นี่นะ
คงจะติดหนึบบนหัวอิเจ้รอง งี้ไปอีก อย่างน้อย
ก็ 9,999 ชาติ ล่ะมั้ง ฮา ๆ



อ้อ แล้วไอ้เรื่องที่ ลื้อหาว่า อิเจ้ขวัญ มันกลัวผัวจนหัวหด เนี่ย
เจ้ขอนุยาด แก้ตัว แทนอิแม่ปั๋ว หน่อยนะ ว่า
อิเจ้รอง น่ะ อีเป็นหญิงไทยใจหาญ
ประดุจดัง ฮัวมู่หลาน กลับชาติมาเกิด นะเฟร้ย
มีหรือที่จะ หวาดกัวไอ้หน้าตัวผู้ที่ไหน
ลื้อ อย่าวิเคราะห์ซี้ซั้ว โดย ยึดเอา ตัวเอง เป็นบรรทัดฐานดิ อิอิ
คุณนายเน่า เค้าไม่ได้เป็นคนขี้ขลาดตาขาว เหมือนลื้อซะหน่อย
ไปว่า She กัวผัวจนสติแตกได้ยังงัย งิงิ



กลัว กับ เกรง มันต่างกันยังไง
แล้วอย่างไหน มันเป็นคุณต่อเรา
และ อยู่ยงคงกระพันกว่ากัน
ทั้งต่อหน้า แอนด์ ลับหลัง วะ


ถ้าจะให้เห็นภาพ ชัดเจน
เจ้ก็จะ ขอยกตัวอย่าง เคสของไอ้ตี๋โตหื่น
ที่มันชอบทำมึน เป็น สมภารชอบแอบกินไก่วัด ก็แระกัน
นั่นน่ะ เขาเรียกว่า โคตรกลัวเมีย(เพราะมีชนักติดหลัง)
ส่วน เคสของอิเจ้รอง เนี่ย เขาไม่เรียกว่า โคตรกลัวผัว จนหัวหด
แบบที่ลื้อสะแหล๋นแจ๋นไปทึกทักเอาเองหรอกนะ
อย่างอิเจ้รอง น่ะ เค้า เรียกว่า เกรงใจคุณสามีบังเกิดเกล้า ว้อยยยย
แหม๊ ก็ผัวอีมีศีลมีสัจจ์ ซะขนาดนั้น
มันก็ต้องเปล่งรัศมี บารมี โน้มนำ
ทำให้เมียอีรู้สึกเกรงใจ เชื่อใจ และ ไว้ใจกันอ่ะจิ อิอิ


 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:43:34 น.  

 
 
 
ผิเน่า....
คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา
ไม่ค่อยจะมีใครเขากล้ายุ่งด้วยหร็อก
เพราะต้องฝากผีฝากไข้ ด้วย
ขืนทะลึ่งมารังแก พวกคุณหมอทั้งหลาย
เด๋ว ชาวบ้านไม่พอใจขึ้นมา
ฐานเสียงจะหดหายได้ เอิ๊ก ๆ

****************************************************************
โอทึ้ง......

อีเจ้นี่โด--ตระเนียนเลย อั้วเห็นลื้อแหกปากด่าอั้วว่า
ยึดมั่นถือมั่น แต่เท่าที่ดูความเห็นลื้อมา
แม่งยกแต่พวกเหลื่ยมขึ้นมาด่า
เจ้จะว่าใครมันต้องกล้าออกตัวอยู่ฝ่ายไหนไปเลย ทำเนียนว่ะ
แกล้งโยนหินถามทางแบบนี้ แม่งเด็กจริงๆ


ถ้าไม่อยากให้คนจับได้ มันต้องเอาด.ช. ม๊ากดีแต่พูด
มาเปรียบกับป๋าหมักแกไปเลย ไม่ใช่เอาเหลี่ยมมาเปรียบกับหมัก
นี่เขาพวกเดี่ยวกัน แบบนี้เขาเรียกว่าเสี้ยมว่ะ อีนังวัสกาพรหมณ์


ม๊ากกับหมัก แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทำไมไม่เอามาเปรียบ ว่ะ โธ่ !อีเจ้เหลืองอมสตอเอ๊ย

+++++++++++++++++++++++++++++
อิเจ้ ว่า...
อืม... คนอย่างอิตั้วเจ้ เคยแต่ อมตังค์ เตี่ย นะ
แต่ไม่เคย อมสะตอ ซะทีว่ะ เอิ๊ก ๆ
ที่สำคัญตรูเป็น หนึ่งเดียวเขียวมะกอกว้อยยย
ไม่ใช่ เหลืองอ๋อยมาแต่ไกล แบ่บที่ลื้อมาชี้หน้าด่า ด้วย
อ้อ แล้ว เจ้ก็ ไม่ได้โยนหินถามทางด้วย โว๊ย
ลื้อจาแดงจาเหลือง มันก็เรื่องของลื้อ เด่ะ
แต่ สำหรับเจ้ ขอยืนยันคำพูดเดิมนะ
ว่า ตรูไม่เหลืองไม่แดง
( แต่ ตรูเปลี่ยนสีได้ ตาม ยถาวภาวะ ว่ะ ) เอิ๊ก ๆ


แต่ หากใครทะลึ่ง ปิดถนน ยึดดสนามบิน
หรือ เผา เซ็นทรัลเวิร์ด แล้วทำให้เศรษฐกิจเจ๊งบ๊ง
จนน้องทองม้วน สุดที่ร้ากกกของเจ้ มันขึ้น ๆ ลง ๆ ม่ายล่ายดั่งใจ
เจ้ก็พร้อมจา ขยับปากด่าโคตรพ่อโคตรแม่มันได้ทั้งนั้นแหล่ะ
เจ้ค่อนข้างจะไม่เห็นด้วย กับการเรียกร้องสิทธิ โดยล้ำเส้นคนอื่น
ด้วยการเอาา ความเดือดร้อนของชาวบ้านเป็นตัวประกันว่ะ


เฮ้อออ ก็ในเมื่อ การเป็นเสื้อเหลือง เสื้อแดง
มันไม่ได้นำผลประโยชน์อะไรมาหั้ย เจ้เลย นี่หว่า
สู้เอาเวลาไปประคบประหงม น้องทองม้วน ดีฝ่า เข้าท่ากว่าตั้งแยะ
แล้วงี้ ทำไม เจ้ต้องเลือกข้างด้วยวะ
ในพระไตรปิฎก ไม่เคยบอกลื้อ หรือไง กันนะ
ว่า ในโลกธรรม ( และ การเมือง ) ไม่มีมิตรแท้ และ ศัตรู ถาวร



แล้ว ลื้อจะมาเคี่ยวเข็ญ
ให้เจ้ แบกหน้าที่ และ อุดมการณ์อันหาญมุ่ง
เลือกนุ่งเสื้อเหลือง กุงเกงแดง
แบ่งพรรคแบ่งพวก สู้เพื่อใคร ทำติ้ง อะไรวะ
เนี่ย เจ้มีฟามลู้สึก เหมือนกับ กำลังโดนลื้อ คาดคั้น
บังคับให้เลือกข้าง ระหว่าง พุทธแถละวาด ก๊ะ พุทธหมายาน
ไม่ก็ มุสลิมชีอะห์ ก๊ะ สุหนี่ เรยอ่ะ


เฮ้อออ ก็ในเมื่อตรูเพิ่งจะเขี่ยคำว่า ศาสนา
ออกจาก บัตร ปชช. มาหมาด ๆ
แล้วมรึงจะหั้ยกรู สะแอ๋งไปเลือกทำไมฟระ
ว่า จะยืนอยู่ข้างไหน อย่าลืมดิ ว่า เจ้เป็น ปัจเจก
ที่ไร้ราก ไร้สังกัด และไร้สถาบัน นะยะ3


แมร่ง ลื้อนี่มีปมอะไรในใจ
เป็นชนักติดหลัง หรือเปล่าเนี่ย ไอ้ตี๋
เจ้ ลู้สึกว่า ปากลื้อก็บอกไม่อยากพูดเรื่องการเมืองกะเจ้
แต่ มือลื้อก็พยามจะเค้นคอ
จะหั้ยเจ้เลือกข้างอยู่เรื่อยเลยว่ะ
โถ ๆๆๆ สงสัยมันจะใจเสีย
กลัวว่า ถ้าผ่าหัวใจอิเจ้ออกมาดู
แล้ว จะเจอพี่ม้ากนั่งอยู่กลางใจอิตั้วเจ้
จนทำหั้ยมันต้องกลายเป็น หมาหัวเน่า แหง๋ ๆ เรย อิอิ




แล้ว ที่ ลื้อ กระทู้ถามมาว่า
ม้ากกับหมัก แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
ทำไมไม่เอามาเปรียบ เนี่ย



เจ้ก็จะขอตอบว่า ก็เพราะ สองคนนี้มันต่างกันโดยสิ้นเชิงอ่ะดิ
ความเก๋ามันผิดกัน กระดูก ก็คนละเบอร์ นิหว่า
ขืนเอาตาเฒ่าสารพัดพิษ อย่างอิป๋าหมัก
มาเปรียบมวยกัน กับ ด.ช.ม้าก
มันจะหนุก ตรงไหนล่ะ ว่ะ



ที่สำคัญ ไอ้เรื่องเกี่ยวกับการเมืองเนี่ย
เจ้ไม่เคยมีเรื่องราว ลับ ลวง พราง อะไร ต้องปกปิดไว้ว่ะ
จะได้ ต้องมานั่ง สร้างภาพ แอ๊บเนียน เพราะกลัว ว่า คนจะจับได้
เฮ้ออ เจ้สนใจเรื่องการเมือง ซะที่ไหนกันวะ
ก็แค่เสพย์เล่นเป็นออร์เดิร์ฟ แก้หง่อม เท่านั้นเอ๊ง
นี่จะบอกให้นะยะ ขนาดลื้อเอาเจ้ ไปเปรียบกับ อิเหยินเจ็ดสี
เจ้ยังต้องแจ้นไปใช้บริการอากู๋ ช่วยเสิร์ชหาดูเรยว่า
ตกลงไอ้ตี๋มันด่ากรูว่าไรว้าาา ตรูรู้จัก แต่ หม่อมเหยินลูกล้อต๊อก ฮา ๆ



แล้วเจ้ก็หาเรื่อง ด่าได้ทั้ง เหลี่ยม ลิ้ม เหลือง และ แดง แหล่ะย่ะ
เพียงแต่ว่า ช่วงนั้น สคริปต์มันสบช่องให้ด่า ได้แต่เหลี่ยม นิ
แล้วจาให้เจ้ ฝืนกระแส ด่า แป๊ะลิ้ม ทำติ้งไรฟระ
เจ้ขี้เกียจเสิร์ช อากู๋ ไปหาข้อมูลอินไซด์ ในเนตนี่หว่า
ด่าตามน้ำนี่แหล่ะ สะดวก สบาย และ ง่ายดี อิอิ
อ้อ แต่นี่ไม่ใช่การ เสี้ยม อะไร หรอก ย่ะ
แค่ หยิกแกมหยอก แค่นั้นเอ๊งงง
ลื้อ อย่าได้ดูถูก ศักยภาพในการเสี้ยม ของอิตั้วเจ้สิจ๊ะ
ถ้านึกครึ้มอยากจะเสี้ยมจิง ๆ อ่ะนะ
ตรูแอ๊บแบ๊วได้ แนบเนียน และ ลุ่มลึกฝ่านี้เยอะ อิอิ


เอาล่ะ เพื่อเห็นแก่อัลเลาะห์
เจ้จะวิเคราะห์เจาะประเด็น
พูดถึง มุมมองเรื่อง การเมือง
ที่ อิเจ้เห็นและเป็นอยู่ หั้ยลื้อฟัง ก็ได้ว่ะ
จริงๆ เล๊ย ที่ผ่านมา ตรูก็อุส่า
นำฉะเหนอ การเมืองเรื่องหมา ๆ
ด้วยวาจาภาษาดอกไม้แร้วแท้ ๆ
ยังเสือกจะลากตรู มาชำแหละแทะทึ้ง ในเรื่องนี้อึกวุ้ย


อืม...เคยนึกครึ้ม คุยกับ ไอ้น้องชายบังเกิดเกล้า
เรื่องถึงมุมมอง การเมือง ของเจ้ เหมือนกันนะ
เจ้บอกมันว่า สำหรับเจ้
การเมืองมันไม่ใช่เรื่องของศีลธรรมอันดีงาม
และ อุดมการณ์ อันหาญมุ่ง นะ
แต่เป็นเรื่อง ของการ ประสานผลประโยชน์
ของกลุ่มคนต่าง ๆ ในสังคม ให้ มันเกิดดุลยภาพ
ทำให้สังคมขับเคลื่อน และ ดำรงอยู่ได้ อย่างเป็นปกติสุข อ่ะ


เชื่อไหม ? ไอ้โซ๊ยตี๋ เวลาเข้าคูหาเลือกตั้ง
อิเจ้ไม่เคย กากบาท เลือกใคร มาเป็นตัวแทน อิเจ้ซะทีเรยนะ
ไม่ว่าจะ การเมืองสนามใหญ่ หรือการเลือกตั้งสนามเล็ก
อย่าง การเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์สาธรณสุข ในจังหวัด ก็ตาม


ด้วยเหตุที่ว่า อิเจ้รู้อยู่เต็ม อกไง ว่า
ไม่ว่าตรูจะเลือกใคร หรือ พรรคไหน
มั๊นก็ต้องเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์และผลกำไร ให้ตัวเองทั้งนั้น
ถ้าไม่มี กำไร หมาที่ไหนจะยอมเสนอตัวมาลำบากตรากตรำ ให้เมื่อยวะ ฯลฯ
ดังนั้นเพื่อความสบายใจ และไม่ทำให้มือตัวเองแปดเปื้อน
อิเจ้ เรยไม่ยอม กาเลือกเบอร์ไหน
แล้วปล่อยให้ชาวบ้านตัดสินใจเลือกแทนไง



และ ยิ่งเข้าสู่วงการปฏิบัติธรรม เจ้ยิ่งหลีกเลี่ยง อามิสสินจ้าง
ที่มักจะมีคนเอามาประเคนให้เสมอ ในช่วงเลือกตั้ง นะ
ยกตัวอย่างง่าย ๆ ในการเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ออมทรัพย์ สาธาณสุขจังหวัด
ผู้สมัครทุกคน ล้วนแล้วแต่พยามจะเทคแคร์
เลี้ยงดูปูเสื่อเหล่าสมาชิกผู้มีสิทธิออกเสียงกันอย่างเอิกเกริก
ขนมนมเนย งี้เพรียบบบบบบบบบบบบบบบบบ
ขนาดก่อนจะเข้าคูหาเลือกตั้งตอนเช้า
ยังมีการเอาอกเอาใจฐานเสียงในโรงบาล
ด้วยการเลี้ยงข้าวเลี้ยงน้ำ ให้อิ่มหนำกันอีกดอกส์


ตอนนั้น เจ้ปฏิเสธ ที่จะกินขนมนมเนยทั้งหลายแหล่ พวกนั้นนะ
เพราะไม่อยากจะเป็นหนี้บุญคุณใคร
ให้ต้องอิหลักอิเหลื่อเวลาที่ตัดสินใจ ไม่กาเลือกเขา
อนึ่ง คนเรา ถ้าลงมีการ ลงทุนทุ่มเงินมาให้แล้ว
มันก็ย่อมต้องมีการถอนทุนคืน พร้อม ดอกเบี้ย และ กำไร
ดังนั้นไม่ต้องสงสัยเลยว่า ต่อไปหากพวกเขาได้เป็นกรรมการสหกรณ์
คงต่องมี มหกรรม บุพเฟ่ต์คาบิเนต ผุดขึ้นมาแหง๋ ๆ
ด้วยเหตุนี้ อิเจ้เรยตัดสินใจว่า ตรูจะไม่เลือกใครไง


ทว่า พอถึงเวลาเข้าคูหา จริง ๆ เจ้กลับเปลี่ยนใจซะงั้น
ดัน กาเลือก ผู้สมัครที่อยู่โรงบาลเดียวกัน เฉยเรย
ไม่ใช่เป็นเพราะเล่นพรรคเล่นพวก หรอกนะ
ตอนนั้น ผู้สมัครตะละคนภูมิหลังเป็นไง ไอ้เราก็ไม่รู้
ถึงแม้แต่ไอ้คนที่เลือกเนี่ย จะอยู่โรงบาลเดียวกัน
แต่ก็เดินผ่านกันไปผ่านกันมาเฉย ๆ
ไม่ได้รู้ตื้นลึกหนาบางอะไร
กระนั้น ก็จำเป็น ต้องเลือก


เหตุเพราะ ถ้ามองการณ์ไกลในระยะยาว
ผลประโยชน์ มันสอดคล้องกันน่ะ
พี่เขาได้เป็นกรรมการไปหากำไรสมใจ
ส่วนเราก็จะได้มีคนคอยเป็นมือเป็นตรีน
สามารถเรียกใช้ไหว้วานได้สะดวก เวลามีธุระเรื่องสหกรณ์
เพราะตะแก อยู่โรงบาลเดียวกับเรา
แถมมีพาวเวอร์เป็นกรรมการซะด้วย
ที่สำคัญที่สุด เราจะได้ไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจ
เวลาที่เรา ไหว้วานใช้งานเขา
เพราะเรามีบุญคุณเลือกเขาเข้ามาเป็นกรรมการ ไง
จะได้ไม่อิหลักอิเหลื่อ ว่า พอตอนเลือกก็ไม่เลือกมัน
แต่พอมีปัญหาล่ะเสือก ไปจิกหัวมัน ขอให้เป็นธุระให้ ฯลฯ


การเลือกตั้งกรรมการสหกรณ์ หนนั้น
มันทำให้ อิเจ้ เกิดซาโตริ อย่างแจ่มแจ้ง
ว่า การเมืองมันเป็นเรื่องของการประสานผลประโยชน์ของกลุ่มคน ล้วน ๆ นะ
ไม่ใช่เป็นเรื่องของ อุดมการณ์ และ คุณธรรมล้ำเลิศอะไร
แบ่บที่ ไอ้พวกหนุ่มสาวเดือนตุลา มันละเมอหา หรอกนะ


แล้วก็เข้าใจหัวอกชาวบ้าน
ที่เลือก ผู้แทนเป็นคนในพื้นที่ มากขึ้นเลยว่ะ
ความรู้สึกของเขา ก็คงคล้ายกับ อิเจ้ นั่นแหล่ะมั้ง
ไม่ได้ เลือกใครเข้ามา เพราะต้องการคนดีมีคุณธรรม เข้าไปบริหารงาน
( เพราะกรูรู้ว่า คนดี มันมักตาย5 ไม่ก็หนีไปบวช หมดแล้ว )
แต่ ชาวบ้านเขาเลือกคนที่สามารถ
จะเข้ามาช่วยเหลือพวกเขาได้ ในยามที่มีปัญหาน่ะ


ชาวบ้านรากหญ้า เขาไม่สนใจหรอกนะ ว่า
คนที่เขาเลือกเป็นคนดี
มีคุณธรรมล้ำเลิศในระดับประเทศหรือไม่ ?
ขอแค่ เป็นคนที่สามารถช่วยเหลือพวกเขาได้
ยามที่มีเรื่องเดือดเนื้อร้อนใจก็พอ
เพราะงี้ไง นโยบายประชานิยม ของพรรค เพื่อไทย
มันถึงได้ใจ ชาวบ้านชั้นรากหญ้านักหนา
แล บรรหารบุรี ถึงเป็นถิ่นของทั่นปลาไหลหลงจู๊ ตลอดกาลลลล 555



ดังนั้น เจ้ถึงย้ำเสมอไงว่า สำหรับเจ้
การเมืองมันไม่ใช่เรื่องของศีลธรรมอันดีงามและ อุดมการณ์ อันหาญมุ่ง
เพราะ การเมืองมันเป็นเรื่องของตัณหาและโลกียะ ไม่ใช่เรื่องสาธาณกุศล
ขอเพียงคุณสามารถประสานผลประโยชน์ของทุกฝ่ายได้อย่างลงตัว
และ จบแบ่บ แฮ่ปปี้เอนดิ้ง มันก็โอเคแระ
แม้ว่า คุณจะเป็นพวกกินบ้านกินเมืองแค่ไหน
แต่ถ้าคุณยังสามารถ รักษาดุลยภาพ
ของผลประโยชนฺร่วมกัน ได้แบ่บ วิน-วิน
ก็เชิญพวกมรึงกินกันไปหั้ยพุงกางเต๊อะ
อ้อแต่อย่าให้มัน ประเจิดประเจ้อนักก็แล้วกัน
เด๋ว เยาวชนของซาด มันเห็นเข้า
จะเกิดภาวะ ศรัทธาโกลาหล เอิ๊ก ๆ


อืม..ในการเลือกตั้งสนามเล็ก อย่างสหกรณ์
มันมีเรื่องผลประโยชน์ ระหว่าง เรากับผู้สมัคร
ที่เห็นได้ชัดเจนเป็นรูปธรรม นะ
( โดยวัดจาก ปริมาณเงินปันผลที่ได้รับในแต่ละปี
+ แคมเปญผลประโยชน์ในการกู้ยืม )
แล้วมันก็เป็นเรื่องใกล้ตัว
และ ไม่ค่อยมีผลกระทบเชิงมหภาค เท่าไร


แต่ใน การเลือกตั้งสนามใหญ่ ระดับประเทศ นี่ มันต่างกันว่ะ
ผลประโยชน์ระหว่างเรากับ ส.ส. มันมองเห็นเป็นรูปธรรมลำบาก
เพราะ มันซ้ำซ้อน หลายขั้นตอน
กว่าจะมองเห็นข้อดีข้อเสีย ในนโยบาย
และ พรบ. / กฏหมายทั้งหลายแหล่ ที่ออกมาบังคับใช้
ที่สำคัญ ไอ้เรื่องพวกนี้
มันมี ผลกระทบเชิงมหภาค เยอะนะ


ดังนั้นการเลือกใคร เข้าไปเป็น ส.ส. เป็น ตัวแทนเรา ในสภาเนี่ย
มันเลือกยากส์กว่า การเลือกกรรมการสหกรณ์ แยะอ่ะ
แม้ว่าบ้านเมืองมีทั้งคนดีและคนชั่ว
แต่การจะเลือกเฟ้นหาคนดีเข้ามาปกครองประเทศ
มันไม่ได้เลือกกันได้ง่าย ๆ เหมือนการหิ้วสาวไซด์ไลน์ไปค้างคืนด้วยนี่หว่า
คนดี ส่วนใหญ่ มักจะไม่เข้ามาข้องแวะกับการเมืองหรอกนะ
และ ถึงจะมี คนดีสักคนหน้ามืด เข้ามาข้องแวะเรื่องการเมือง
คนดี กับ คนเก่ง มักจะไม่ใช่ คน ๆ เดียวกันว่ะ
นี่แหล่ะ ประเทศไทย ของกรู เอิ๊ก ๆ



ด้วยเหตุนี้ ถ้าจำเป็นต้องเลือกใคร
เข้ามาเป็นตัวแทนเจ้ ในสภา
เจ้ถึงได้ คิดที่จะเลือก ป๋าชูวิทย์ไง
เพราะ อย่างน้อย อีก็ประกาศตัวโต้ง ๆ อยู่แล้ว
ว่า อีจะเข้าไปในสภา เพื่อเป็น อีลูกช่างค้านนนนนนนนนนนนน


ดังนั้น พอจะกล้อมแกล้ม อุ่นใจได้นิดหน่อย ว่า
ถ้ามันจะ คอรัปชั่น มันก็คงกินได้ คำไม่ใหญ่นัก
เพราะมัน บ่ ช่าย วิป รัฐบาล อ่า
อิแบ่บนี้ ดูแล้วค่อยเหมาะ
ที่จะเอามาร้อยก้นไว้ใช้งาน
เพื่อเอาไว้เป็นไม้กันหมา
คอยเฝ้าระวัง รักษาผลประโยชน์
จากเงินภาษีให้กรูหน่อย



อ้อ แต่ถ้าเวทีนี้ ไม่มีฝ่ายค้าน ห้าม โหวต โน
แถม เจ้ต้องเป็นโต้โผ เลือก มาร์ค - หมัก - สนธิ และ ทักกี้ คนใดคนหนึ่ง
ไปบริหาร กิจการ เป็น นายกสหกรณ์ออมทรัพย์ ของเจ้
เจ้ก็จะเลือก ทักกี้ ว่ะ


เจ้ไม่คิดจะเลือก คนจากพรรคแมลงสาบ หรอกนะเฟร้ย
น้องชายบังเกิดเกล้าของเจ้มันเคยเปรยว่า
แมลงสาบ สมควรได้ ออสการ์ เฉพาะเวลาที่เป็นฝ่ายค้าน
มากกว่า ตอนเล่นบทบาทผู้บริหารประเทศว่ะ


อืม....เรื่องนี้เจ้ก็เห็นด้วยกับมันนะ
ถึงแม้ว่า เจ้อยากจะได้ผู้ชายรูปหล่อ มาเป็นผัวจนตัวสั่น
แต่ตรูก็ยังไม่ถึงขั้นหน้ามืดตามัว
หลวมตัวไปเลือกพี่ม้าก มาเป็น นายก พรอกนะ
เพราะตรูก็สงสารประเทศซาดว่ะ
มีแต่หลักการ แต่ขาดศักยภาพ ในการ บริการงี้
ขืนไฟเขียว ให้มันเป็น นายกต่อไป ชาติไทยล่มจม แหง๋ ๆ


ส่วน แป๊ะ ลิ้มนี่ ตรูก็ไม่เอาว่ะ
ก็ขนาด บริหารกิจการของตัวเอง แป๊ะยังเจ๊งแล้วเจ๊งอีก
ขืนแป๊ะแก ได้เสนอหน้ามาบริหารประเทศ เศรษฐกิจ เจ๊งบ๊ง แหง๋ ๆ
แล้ว ไอ้เรื่อง การบริหารประเทศ โดยเอาธรรมะ นำการเมือง เนี่ย
ฟังดูก็เข้าที ตามทฤษฎี เหมือน การเล่านิทานหลอกเด็ก
โปรเจคนี้ เรยว่ะ เอิ๊ก ๆ




แต่ถ้าลงลึก ในระดับปฏิบัติ นั้น มันทำยากส์ ว่ะ
มี รัฐบาลไหน มั่งฟระ ที่โปร่งใสไม่โกงกิน
มันก็ ตอดเล็กตอดน้อย กันทั้งนั้นแหล่ะ
และเจ้ คิดว่า การเมือง เป็นเรื่องของ ตัณหา นะ
อย่าเอาไปปนเปื้อน กับ ธรรมมะ เรยว่ะ
น้ำดี 1 แก้ว มันเปลี่ยน น้ำเน่า ทั้งคลองไม่ได้หรอกนะ
ดังนั้นสิ่งที่เราต้องทำ คือ หาวิธีคอนโทรล
และ หาประโยชน์จากน้ำเน่า ว่ะ


ด้วยเหตุนี้ไง เจ้ถึงหนับหนุน
กม. ทำแท้งเสรี / กระหรี่ถูกกฏหมาย /
และ หวยออนไลน์ รวมทั้ง เอนเตอร์เทรนเม้นต์ คอมเพล็กซ์
อ้อ ไอ้เรื่อง ม.112 เจ้ก็หนับหนุน นะ
เพราะตรูหมั่นไส้ ไอ้พวกชอบเอาสถาบันมาบังหน้า
และ หาเรื่องฟ้องคดีหมิ่น แบ่บขี้หมูราขี้หมาแห้ง
เอะอะ ๆ แมร่งก็ฟ้อง ๆ ๆๆๆๆๆ เต็มทีแระ
แก้ๆ หั้ยมันเคลียร์ ๆ ไปเล๊ยยยยยย


ส่วนไอ้ที่ กัวเรื่องจะไปเป็น การชี้โพรงให้กระรอกเนี่ย
ขอบอกว่า หมัยนี้ อิพวกกระรอกมันฉลาดจะตายชัก
ถ้ามันอย่ากจะเสี้ยมมวลชนให้เกลียดสถาบัน จิง ๆ อ่ะนะ
มันทำได้เนียน เกินกว่าจะจับได้ไล่ทัน ทั้งนั้นแหล่ะ
ไงก็สาวไปไม่ถึงตัวบงการ หรอกจร้าาาาาาา
มีแต่ ไอ้พวก ลูกกระจ๊อก ทั้งนั้นแหล่ะ ที่ โดนข้อหาหมิ่นสถาบัน
แถมที่สำคัญ การที่มีคนมากระแดะโวยวาย
จุดประเด็น หาว่า อิคนนู้นหมิ่น อิคนนี้หมิ่น เนี่ย
มันก็สุ่มเสี่ยง ต่อการกระตุ้นให้ ชาวบ้านที่เค้าไม่คิดอะไร
เกิดอาการหมั่นไส้สถาบัน มากขึ้นนะว้อย


ไอ้เรื่องนี้ มันก็คล้าย ๆ กับ ข้อหา ปรามาสพระรัตนตรัย
ที่พวก สาวกสมณะโคดม มันชอบร้องแรกแหกกระเชอ นั่นแหล่ะ
เห็นแล้ว กระแดะโคตร ๆ สุดท้ายตรูเรย เกิดอาการลามปาม
ไพล่ไปหมั่นไส้ศาสดาของพวกมัน ซะงั้น
แต่จริง ๆ พระพุทธเจ้าท่านก็อยู่ของทั่นเฉย ๆ นั่นแหล่ะ
ไม่ได้มีใครไปแตะต้อง ให้แปดเปื้อน อะไรได้เล๊ยยยย
ทว่า สาวกทั้งหลายของทั้น ดันอยู่เฉยๆไม่เป็นว่ะ
เสือกหาเรื่องโวยวาย จนเป็นเหตุปัจจัย
ทำให้เกิด เทวทัตแฟนคลับ ขึ้นมาเอง

แหม๊ พูดแล้วก็หั้ยนึกถึง เรื่องทอล์กออฟเดอะทาวน์ เรื่องเนี้ยะ แฮะ
เฮ้ออ ม่ะลู้เหมือนกันว่า ถ้าไปถึงชั้น ฎีกา แล้ว
พระลุควิก ทั่นจารอดไหม ปากเหยี่ยวปากหงส์ อ๊ะปล่าว
อืม...เห็นการเชือด อีแร้งให้ลิงดู หนนี้แล้ว
ฉงฉัยเจ้คงต้องเกาะติดสถานการณ์เอาไว้ เป็นเคสสตั๊ดดี้ ซะแระ
ตรูจาได้ เป็นรู้หลบเป็นปีก รู้หลีกเป็นหาง
ม่ะต้องกลายเป็นจำเลยสังคม ของ เจ้าพวกศรัทธาจริตจ๋า แบ่บ พระรูปนี้ หุหุ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:45:02 น.  

 
 
 



ผิเน่า....
คนที่อยู่ในวงการแพทย์ หรือวงการยา
ไม่ค่อยจะมีใครเขากล้ายุ่งด้วยหร็อก
เพราะต้องฝากผีฝากไข้ ด้วย
ขืนทะลึ่งมารังแก พวกคุณหมอทั้งหลาย
เด๋ว ชาวบ้านไม่พอใจขึ้นมา
ฐานเสียงจะหดหายได้ เอิ๊ก ๆ
****************************************************************


ไอ้ทึ้ง ว่า...

แล้วเรื่องหมอเรื่องเภสัชเนี่ย
ลื้อพูดผิดพูดหัวเป็นหางพูดหางเป็นหัวหรือเปล่าว่ะ
ชาวบ้านเขาอยากจัดการไอ้พวกหมอซักกาบ่วยใจจะขาด แต่ทำไม่ได้
พอได้เหลี่ยมมาจัดการให้ คะแนนเสียงพุ่งทะลุเพดาน
เนี้ยถ้ายัยบัวเกี๋ยงช่วยยัยคนที่ออกมาฟ้องร้องหมอ
ที่รักษาจนลูกตัวเองพิการได้ล่ะก็ เสียง300upแน่ๆ

หมอเมืองไทยแม่ง ซาตานในคราบนักบุญทั้งนั้นแหล่ะ
ยิ่งไอ้หมอชักมดลูกอีกคน มันจะประท้วง ห้าเหวอะไรของมัน
นี่ทำให้รู้เลยว่า หมอมันก็ไม่ได้ฉลาดไปกว่าตาสีตาสา
เพียงด้านกว่าตาสีตาเท่านั้น

อีเจ้ถามหน่อยลื้อไม่รู้หรอกหรือว่า ไอ้พวกหมอเส็งเคร็ง
มันเกลียดเหลี่ยม แล้วมันเกลียดด้วยเรื่องอะไร

+++++++++++++++++++++++++++++++++



อิตั้วเจ้ ว่า....

อืม...ก็พอรู้อยู่บ้างอ่ะ แต่ว่า เจ้ขี้เกียจสาวไส้ให้กากินว่ะ
อีกาแถวนี้ มันยิ่งหัวหมออยู่ด้วย เด๋วตรูจะถูกแบล็คเมล์ เอิ๊ก ๆ
เฮ้ออ ที่บรรดาคุงหมอ เค้าม่ะชอบขี้หน้า เหลี่ยม
มันก็เป็นเพราะเรื่อง ผลประโยชน์ไม่ตรงกัน แบ่บโลก ๆ นั่นแหล่ะ วะ
ทั้งเรื่อง นโยบายประชานิยม สามสิบบาท รักษา ทุกโรค
ที่จัดโปรโมชั่น หวังเรียกคะแนนจากชาวบ้าน
แต่ ดั๊น ไปเพิ่ม เวิร์คโหลด หั้ย บรรดาหมอ ๆ
( ผู้อยากจะรักษาคนไข้แบ่บพอเพียง) อ่ะจิ อิอิ


จากที่เคย ลั้ลลา ตรวจ คนไข้ แค่ วันละไม่กี่ สิบคน
พอตกบ่าย ก็ไปเล่นตีแบด ปาร์ตี้สุกี้
แล้ว เปิดโฮมเธียร์เตอร์ ร้องคาราโอเกะ กันได้อย่าง ชิล ๆ
พอมาเจอ แคมเปญ 30 บ. นี่บรรยากาศอันแสนหวาน แบ่บนั้นก็หลุดลอยอ่ะเด่ะ
แล้ว หมา เอ๊ย หมอที่ไหน มันจะไปชอบฟระ



แล้วก็ยัง พรบ. ยา ที่ออร์เดอร์มา เพื่อ ถ่วงดุล อำนาจ
ทำหั้ยการ ฮั้วราคาค่ารักษา ของ บรรดาคลินิก ทั้งหลายแหล่ ไม่บริดวก อีก
ถ้า พรบ. นี้ผ่าน อ่ะนะ พวกหมอมันก็สวาปามกันได้ไม่เต็มปากเต็มคำ สิวะ
ตรวจเอง ขายยาเอง งี้ กำไร สองเด้ง เหนาะ ๆ ใครมันจะอยากเสียไปล่ะ
แหม๊ หมูจะหาม เหลี่ยม ดัน เอาคานไปสอดงี้
คงไม่มี หมา เอ๊ย หมอที่ไหน ปลื้มเหลี่ยมหรอกจร้าาาาาาา
พอสบโอกาส เก๊าะเรยต้องหาทางเอาคืน อ่ะเด่ะ



แล้ว ไอ้เรื่องที่ เจ้บอกว่า

ขืนทะลึ่งมารังแก พวกคุณหมอทั้งหลาย
เด๋ว ชาวบ้านไม่พอใจขึ้นมา ฐานเสียงจะหดหายได้ เอิ๊ก ๆ


เนี่ย คำว่า รังแก ในข้อความนี้
มัน ล้อมาจาก เรื่องที่ลื้อบอกว่า

ไอ้เพื่อนที่เป็นมะเร็งของลื้อ
มันกลัวจะโดนเหลี่ยมไล่ออก ว้อยยยย


ดังนั้น รังแก ในที่นี้ อิเจ้หมายถึง
การที่เหลี่ยมจะใช้อำนาจบาตรใหญ่
ไปเฉดหัวไล่หมออกจากโรงพยาบาล ตะหาก
ขืน เหลี่ยมมันเล่นบท แข็งนอกแข็งใน
เอะอะ ก็ไล่ออก ๆ กับบรรดา ด๊อก ๆ ทั้งหลาย
แบ่บที่เคยทำกับข้าราชการ กระทรวงอื่น อ่ะนะ


หากหมอมันแตกตื่น หนีไปอยู่ เอกชน กันหมด
นโยบาย 30 บาท ก็ขาดฟันเฟืองในระดับปฏิบัติ อ่ะเด่ะ
แล้วถ้า ชาวบ้าน เค้ารู้ว่า ที่เขาต้องมานอนพะงาบ ๆ
รอหมอตรวจนานเป็นชาติ เพราะขาดแคลนหมอ
ก็เนื่องมาจาก หมอ โดนเหลี่ยมรังแครังคัด
ด้วยการเตะออกจากโรงบาล เนี่ย
ถามจริง ถ้าชาวบ้านต้องมาเสียประโยชน์และความสะดวกในการรักษางี้
ชาวบ้านมันจะไม่ รมณ์เสีย แล้วพาลเกลียดเฮียเหลี่ยม
จนฐานเสียง หดหาย หรือวะ



อีกอย่าง ภาพลักษณ์ของ หมอภูธร ในสายตาชาวบ้าน
มันต่างจาก ภาพลักษณ์ของ หมอเมืองกรุง ในสายตา เด็กเต้บ นะยะ
อันนี้อิเจ้พูดจากประสบการณ์ เกือบ 10 ปี
ในการทำงานอยู่ใน โรงบาลภูธร อ่ะนะ
บุคลากรในแวดวงสาธารณสุข ไม่ว่าใครก็ตาม
ทั้ง หมอ เภสัช พยาบาล (ยัน คนงานแบกลังน้ำเกลือ)
ถ้าขึ้นชื่อว่า ใส่เสื้อกาวน์ ทำงานในโรงบาลแล้วไซร้
ชาวบ้านร้านตลาด มักจะมอง ว่าเป็นปูชนียบุคคลทั้งนั้นว่ะ


เพราะเค้ามองว่า คนที่ทำงานโรงบาลเป็นผู้มีพระคุณ
มีส่วนช่วยปัดเป่าทุกขโรค ให้เขาไง
เขาจึงเกรงใจ และ ซาบซึ้งในบุญคุณ พวกหมอ ๆ ในโรงบาลมาก
ถึงขนาดที่ว่า ถ้า หมอบางคน ลงสมัคร ส.ส. ก็คง มาวิน ชัวร์





แต่ ในแวดวงโรงบาล มันก็มี ซาตานในคราบนักบุญ อยู่แยะ เหมือนกันนะ
เพียงแต่ พวกอี ก็ ซ่อนหางเก่ง พอ ๆ กับ ไอ้เจ้า งักปุ๊กคุ้ง แถวนี้นั่นแหล่ะ
เฮ้ย นี่ ๆ เจ้จะบอกอะไร ให้นะ หมอที่ดูใจดี ๆ มีเมตตา
เป็น พ่อพระของชาวบ้าน ประดุจ หมอโฮจุน กลับชาติมาเกิด เนี่ย
บางที มันก็เป็นภาพลวงตาที่แนบเนียนและลุ่มลึก เหมือนกันนะ



ลื้อเคยเจอ คุณหมอประเภท มนุษยสัมพันธ์ดี เป็นที่รักใคร่ของชาวบ้าน
แต่มีวิธีการรักษาทีไม่เอาอ่าว และ ชอบยึด หลักกู เป็นสรณะ ไหมล่ะ ?
บางครั้งการ เชื่อมั่นในตัวเองที่มากจนเกินไป และ ความชะล่าใจของหมอ
ก็ทำให้ คนไข้โคม่า และ ตายก่อนจะได้เข็นเข้า ห้อง ไอซียู ด้วยซ้ำนะ






เฮ้อออ บางครั้ง สิ่งที่เราเห็น
ก็ไม่ใช่สิ่งที่ มัน เป็น จริง ๆนั่นแหล่ะ
ถ้า หมอคนไหนเขี้ยว ๆ ดุๆ
ตรวจ แล้วก็หั้ยยากลับไปกินจิ๊ดเดียว
อยากจะขอยาอะไรไปเป็นที่ระลึก ไว้ดูต่างหน้าก็ไม่ได้
ชาวบ้าน ก็จะไม่ค่อยชอบใจนะ
หาว่าเป็นพวกหมอใจร้าย


แต่ ถ้าหมอคนไหน ตรวจแล้วสั่งยา ตามใจคนไข้
ร้องขอยาอะไร พี่แกก็หลับหูหลับตา
ให้มา เป็นกระสอบ ๆแบ่บครอบจักรวาล
หูยยยยย อย่างนี้ ชาวบ้านจะ ชอบใจ
และ ปลื้มหมอ คนนั้น มากนะ
ชมเปาะเรยแหละ ว่า หมออีใจดี ไม่มีหวงยา


แต่ในสายตา เจ้ บางทีเห็นแล้วก็รู้สึกว่า
การทำงี้ มันเป็นการ สั่งยาแบ่บ ฟุ่มเฟือย เกินจำเป็น
และ หลับหูหลับตาเหวี่ยงแห ไงไม่รู้ว่ะ
ประมาณว่า สั่งยามันซะ สิบขนาน
อย่างน้อย ๆ กินสุ่ม ๆ รวม ๆ กันเข้าไป
มันก็คงจะถูกฉโลก รักษาหายได้ สักเม็ด ล่ะวะ เหอะ ๆ



เฮ้ย มีเรื่อง ขำ ๆ เกี่ยวกับแวดวงโรงบาลจะเม้าส์ หั้ยฟังนะ
มี คนไข้แก่ ๆ คนหนึ่ง ร้องขอยาหยอดตา
แก้ตาฝ้าฟาง ตอนเข้าไปตรวจกะหมอ
แต่ขอเท่าไร ๆ หมอก็ไม่ยอมหั้ย โดยบอก ประมาณว่า
ไอ้อาการที่ลุงเป็นเนี่ย มันเป็นกันได้ตามวัย
การหยอดตาบ่อย ๆ แบบพร่ำเพรื่อ
เด๋วจะทำให้กระจกตาบาง แล้วเกิดผลเสียตามมาได้ ฯลฯ


แต่ฟังเท่าไร ๆ คนไข้ ก็ไม่เก็ทสะเทิอน
อาจเป็นเพราะ อิหมอนั่น
มันไม่ได้พูดจาภาษาดอกไม้ ในการสื่อสารกะคนไข้ด้วยมั้ง
ก็เรยเกิดความกินแหนงกินใจกัน
จนถึงขั้น ที่ พอ ลุงแก ไม่ได้ยาหยอดตา ตามที่ขอ
ตะแกก็เเรยเดินย้อนเข้าไปในห้องตรวจ อีกครั้ง
แล้ว เอาถุงใส่ยา มาโยนใส่หน้าหมอ พร้อมกับ วีนใหญ่เรย
เล่นเอา คุงหมอโกรธมาก ไป print มาตรฐานในการรักษา
และ กฏหมายสิทธิผู้ป่วย นู้นนี่ ยาวเหยียดดดด หลายหน้ากระดาษ
เพื่อเอาโชว์หรา หั้ยเพื่อนร่วมงานได้รับรู้
พร้อมกับมาบ่นง้องแง้ง ประมาณว่า กรู ไม่ผิด !


ฟังแล้วก็ขำกับความห่าม ของหมอคนนี้นะ
และถ้า เจ้จะใช้สิทธิของผู้ป่วย มาเสี่ยงพวงมาลัย
เลือก หมอสักคนไปรักษา ตัวเอง
เจ้ก็จะเลือก ไอ้น้องหมอปากร้ายใจดี คนนี้
มากกว่า หมอปากหวาน แต่การวินิจฉัยไม่เป็นสับปะรด นะ




เอออีกเคส มีหมอคนหนึ่งเล่าให้ฟัง ว่า
เคยมีคนไข้คนหนึ่ง ตรวจพบว่าเป็น มะเร็ง ที่รักษาไม่หาย
เขามาปรับทุกข์ปรึกษาหมอ ว่า เขา ไม่กลัวตายเพราะมะเร็ง หรอก
แต่ เขาเป็นห่วง ความเป็นอยู่ของลูกเมีย มากกว่า
เพราะเขาเองก็ทำงานเอกชน ไม่ได้รับราชการ ไม่มีเบี้ยหวัดบำนาญ
และถ้าเป็นอะไรตอนนี้ ลูกเมียคงลำบากแนนอน


ตอนนี้เขาอยาก ทำประกันชีวิต ให้ครอบครัว แต่ก็ ไม่สามารถทำได้
เพราะ โดยเงื่อนไขของ กรมธรรม์
คนที่ทำประกันชีวิตได้ต้องมีใบรับรองแพทย์ว่า เป็นผู้ที่มีสุขภาพดี
แต่ในเมื่อ เขามาด่วน เป็น มะเร็ง อย่างกะทันหันอย่างนี้
หมอที่ไหน จะยอม เขียนใบรับรองแพทย์ ให้เขาเอาไปทำประกันล่ะ


หมอคนนั้น ฟังแล้ว ก็ เกิดอาการเมตตากรุณาปรานี
ขึ้นมาในดวงจิต อย่างปัจุบันทันด่วน
ก็เลย นึกครึ้ม ยอมออก ใบรับรองแพทย์
ให้คนไข้คนนั้น เอาไปทำประกัน ด้วยความสงสาร
สุดท้าย บริษัทประกัน เก๊าะเรยซรวยไป
ที่สำคัญ เรื่องนี้กลาย เป็นตำนานแห่งฟามภาคภูมิใจ
ที่ คุณหมอเที่ยวไป เล่าขาน ให้ คนในโรงบาล ฟังเสมอ
นี่เจ้ยังเสียว ๆ แทน หมอแกอยู่เรยว่า
หาก บริษัทประกันมันรู้ มีหวัง คุงหมอคนนี้
โดนฟ้องหูตูบ แหง๋เรยว่ะ เอิ๊ก ๆ


อ้อ และ อีกเรื่อง เคยได้ยิน ใครคนหนึ่ง ในแวดวงสาธารณสุข
เม้าส์ หั้ยฟังว่า มี นักศึกษาแพทย์คนหนึ่ง เป็นเด็กกิจกรรม
ทว่า ผลการเรียนห่วยขั้นเทพ สอบตะละที มันก็จะตกแหล่ มิตกแหล่
แต่ ด้วย ความที่เป็นเด็กกิจกรรม ตัวพ่อของคณะ
ทำให้อาจานหมอ ค่อนข้างจะเอ็นดู
เรย ถูลู่ถูกัง พยามช่วยกัน อุ้มเด็กคนนี้
และยินยอมให้สอบผ่าน วิชาทางการแพทย์ ต่างๆ


แต่ก่อนจะ ยอมอนุมัติ ให้จบหลักสูตร
อาจาน ขอให้เขาสัญญา ว่า
เขาจะไม่ไปแตะต้อง ทำงานในด้าน การตรวจรักษา
และ ถ้าจำไม่ผิด เหมือน คนเล่า จะเม้าส์ต่อ ว่า
ปัจจุบัน หมอคนนี้ ก็ไม่มาแตะต้องงานด้านคลินิก
ทำตามสัญญาที่ให้ไว้กับ อาจาน นะ
(แต่ว่า อีหันมาข้องแวะกับการเมือง แทนอ่ะ อิอิ)


อ้อ จิงดิ เห็น ลื้อเคย เอา อิซ้อ มานินทา
บอกว่า อีขี้เหนียว ชอบใช้บัตรประกันสังคม มากกว่า บัตร วีไอพี
อิเจ้ ก็จะขอ ฝากลื้อ ไปเตือน อิซ้อลื้อ ด้วยว่ะ
ว่า ในโรงบาลน่ะ ( โดยเฉพาะโรงบาลเอกชน )
บางที่เค้าจะลดต้นทุนในการรักษา โดยเน้นนโนบายประหยัดมัธยัสถ์ นะ
โรงบาลจึงต้องจัดสรรและแยกเกรดยาที่จ่าย ตาม เกรดคนไข้
ถ้า คุณยื่นบัตรประกันสังคม คุณจะได้ยาเกรดต่ำ
สมน้ำสมเนื้อกับ เบี้ยประกันที่จ่ายไป
และหากยื่น บัตร วีไอพี ยาที่ได้ เกรดก็จะสูง ขึ้นมาหน่อย


ซึ่ง ถ้าถามว่า ไอ้ตัวยา ที่ให้ มามันเหมือนกันไหม ?
ก็ขอตอบว่า ถ้าในแง่ชนิดของตัวยา
ก็ย่อมเป็น ยาที่ใช้รักษาโรคเดียวกันได้
แต่ในแง่ของ ประสิทธิภาพในการรักษา
( ความเร็วในการออกฤทธิ์ /ความสะดวกในการบริหารยา/อาการข้างเคียง ฯลฯ )
บางที ก็ต่างกัน ราวกับฟ้ากะเหวเรยว่ะ


ยกตัวอย่างโดยสมมุติ ให้เห็นภาพ
ถ้าเป็น ยาแก้ปวด ของคนไข้สิทธิประกันสังคม
กินไป ก็ต้อง เจริญสติ ดู เวทนา อีก ราวครึ่งชั่วโมงมั้ง
ยาถึงจะออกฤทธิ์ คลายปวดน่ะ


ส่วนถ้าใช้สิทธิวีไอพี ยาแก้ปวดที่ได้ ก็มักจะ กินปุ๊บ หายปั๊บ
ประหนึ่ง เป็นโอสถเทวดา ยังไงยังงั้น
ก็ให้อิซ้อลื้อ เลือกเอาเองแระกัล
ว่า อยากได้ โอสถเทวดา
หรือ อยากจะหัดดูเวทนา เป็นงานอดิเรกเอิ๊ก ๆ



อืม... พูดถึง สิทธิการรักษาของพวกใช้ ประกันสังคม นี่
เจ้ก็นึกถึงเรื่องที่เคยเป็น ทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ เมื่อปีที่แล้วนะ เรื่องนี้ นะ
อิเจ้ เห็นทั้งน้องลูกจ้าง และ น้องชายตัวเอง
แล้วก็โคตรสงสารเรยว่ะ ม่ะลู้ดิ
ดู ๆ แล้วมันก็เหลื่อมล้ำซะจนทำใจลำบากนะ
คนใช้สิทธิ ปกส. นี้ อีจะอาภัพเหมือนกับเป็น ลูกเมียน้อย ว่ะ
สิทธิการรักษาโดยทั่วๆไป ก็ด้อยกว่าพวกใช้สิทธิ 30 บาท
แถมยังต้องถูกหักคอ จ่ายค่าต๋ง หั้ย สปส. ทุก ๆ เดือนอีกตะหาก


พี่ลูกจ้างที่ทำงานบางคน ถึงกับต้องยอม ทนปวดฟัน
ไม่ยอมไปหาหมอ กันเรยว่ะเพราะว่า
พี่แกใช้สิทธิทำฟันฟรี ตลอดชาติ เหมือน สิทธิ 30 บาท ไม่ได้
ถ้าเกิน 600 บาท เมื่อไร ต้องควักกระเป๋าจ่ายเอง อีกตะหาก
ลำบากโคตร ๆ เรยเน๊าะ นี่อิน้องชายมันก็บ่นพึมพำให้เจ้ ฟัง
ถึงความห่วยระยำ ของ สปส. ในเรื่องสวัสดิการค่ารักษาว่ะ
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ เรื่องของผลประโยชน์ มันไม่เข้าใครออกใคร ซะด้วยดิ
ไหนเลย สปส. จะอยากเสีย หมูในอวย ตัวอวบ ๆ ไปล่ะ อิอิ








เอ้า เอา ดราม่าเรื่องนี้ มาฝาก
อ่านแร้ว นึกถึงไอ้พวกหัวหมอจ้อความอย่างลื้อ ว่ะ เอิ๊ก ๆ

//drama-addict.com/2012/02/05/หนทางพินาศของแพทย์ไทย/




นี่ลื้อลู้ป่ะ อ่านดราม่า เรื่องเกี่ยวกับโรงหมอโรงศาลเรื่องนี้แล้ว
เจ้ นึกถึง คดีที่สะเทือนขวัญ วงการแพทย์
ที่เป็นเรื่องอึกทึกครึกโครมเมื่อหลายปีก่อน เรื่องนี้ ว่ะ
อ่านคำตัดสินของศาลชั้นต้นแล้ว เห็นความโกลาหลรำไรเรยว่ะ
แล้วก็ให้นึกสงสารชะตากรรม ของคนไข้ ในภายภาคหน้าตะหงิด ๆ
ในเมื่อ ศาลชั้นต้นวินิจฉัย งี้ แล้วจะแปลกอะไรล่ะ
ที่ แพทย์สภา มีมติเป็นเอกฉันท์ ว่า

ควร ปล่อยคนไข้ตาย5 กลางทาง
ดีกว่า ปล่อยให้ หมอ ยื่นขาเข้าซังเต

เอ๊ย เจ้หมาย ถึง เพื่อลดความเสี่ยงที่ต้องข้องแวะ กับตะแลงแกง
ดังนั้น มันก็ต้องยอม อนุยาด หั้ย หมอสั่ง รีเฟอร์ โลดดด อ่ะเด่ะ
เพราะจาได้ปลอดภัยไว้ก่อน และ ไม่ต้องไปขึ้นโรงขึ้นศาล ด้วยนิ อิอิ
สุดท้ายความซรวย จะตกอยู่ที่ใคร ก็คิดเอาเองแระกัล


อืม...เจ้ก็เห็นด้วยกับ ข้อเท็จจริงใน บทวิเคราะห์ เรื่องเนี้ยะ นะ


อ้อ แต่ถึงงั้น เจ้ก็ไม่เห็นด้วย กับ เรื่องนี้ ว่ะ




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:46:14 น.  

 
 
 
โอทึ้ง ว่า.......

สงสัยต้องเล็คเช่อเรื่องการเมือง เรื่องอุดมณ์การให้ฟัง
หลายๆหนถึงจะเข้าใจ

เจ้จะบอกให้ นักรบแท้ นักการเมืองจริง อุดมณ์การณ์เป็น
สิ่งสำคัญ เป็นนักรบ รบเพื่อใครต้องประกาศให้โลกรู้
เป็นนักการเมืองต้องแสดงให้ประชาชนเห็นว่า ฝ่ายไหน

บอกจริงๆลื้อนี่มันไร้เดียงสาว่ะ
ลื้อจะให้ทำสงครามด้วยการสรรเสริญเยินยอศัตรูหรือว่ะ
เรื่องลื้อต้องดูที่จุดยื่นแล้วกล้าแสดงออก ไม่ใช่ไปดูวิธีการ
แล้วมาชี้หน้าด่าศัตรูตัวเองว่า โกหก

"เล่าปี่" ถ้าไม่ได้ขงเบ้ง ปานนี้คงยังนั่งทำรองเท้าฝางขาย
อยู่เลยมั้ง อิเจ้ลื้อว่า อาแป๊ะขงเบ้งอีชอบโกหกมั้ยล่ะ
และถ้าอีไม่โกหก ศัตรูจะกลัวอีหรือเปล่า ลื้อคิดว่า สงคราม
จะชนะได้ด้วยการมีศีล ห้ามโกหก พูดแต่ความจริงหรือ


จะบอกให้นะ เรื่องศีลเรื่องสัจจะ มันอยู่ตรงที่ ขงเบ้ง
อีประกาศตัวเป็น ลูกน้องเล่าปี่ และช่วยเล่าปี่รักษาเมือง
จนถึงรุ่นลูก ความสัจจ์ความจริงมันอยู่ตรงนี้
มันไม่ใช่ไปดูที่ อีชอบโกหกศัตรู แบบลื้อ


ป๋าหมักกับขงเบ้งแตกต่างกันตรงไหนว่ะ
แล้วอย่าไปหาเรื่องอาแป๊ะขงเบ้งแกอีกล่ะ

+++++++++++++++++++++++++++++++++




อิตั้วเจ้ ว่า....
อะซิกๆๆๆ ไอ้โซ๊ยตี๋ ล่ะก้อ
ทำไมต้องมาดักคอ เอ๊ย ใส่ร้ายป้ายสี อิตั้วเจ้
ตะแต่ตั้วเจ้ ยังม่ะทันได้อ้าปากด้วยล่ะจ๊ะ ทูนหัวววววววววว
แหม ๆ เจ้น่ะตามใจลื้อเสมอน้าาาาา
ว่าไงก็ว่าตามกันอยู่แระ
ถ้าลื้อ ชี้นก แล้ว บอกว่า ไม้
อิตั้วเจ้ ก็พร้อมจะ แกล้งโง่ ทำไขสือ
บอกว่า ไม้ ไปตามวาจาลื้อ อ่ะจร้าาาา
เพราะว่า ลิ้มเซียนยี้ สอนอิเจ้ ไว้ว่า

บุรุษพอใจสตรีที่อยู่ในโอวาท
และ หากเริ่มพอใจสตรีนางใด
ก็จะเชื่อวาจานางไปโดยไม่รู้ตัว



อิอิ ดังนั้น จะแปลกอะไรล่ะ
ถ้าตั้วเจ้จะ วัดรอยตรีน เอ๊ย เจริญ รอยตาม ไอดอลของเจ้
เฮ้อออ แต่พูดก็พูดเหอะนะ ไอ้ เรื่อง ป๋าหมักกับขงเบ้ง เนี่ย
เจ้ก็เห็นด้วยกับลื้อ จิง ๆ น้าาาาาา ว่า
อีสองคนเหมือนกันโคตร ๆ เรยอ่า
แบ่บว่า คนนึงตีขิมจนตกกำแพงตาย
ส่วนอีกคนเก๊าะ ชิมไปบ่นไปจนตกหลังเสือตาย เอิ๊ก ๆ


เฮ้ออ จิง ๆ เจ้เองก็ม่ะเคยอ่านสามก๊ก
จนครบสามรอบ แบ่บลื้อ ซะด้วยดิ
(ภาษามันเยิ่นเย้อ เกินไป ตรู เรยกระเดือกไม่ค่อยจะลง )
แถมพอ นึกครึ้มไปอ่านจนจบ
ก็ไม่รู้ โชคดี หรือโชคร้าย เจ้เรยก็ดันไปหยิบ
เวอร์ชั่นนี้มาอ่านว่ะ เอิ๊ก ๆ




-----------------------------------------------------------
"สมเด็จฯ กรมพระยาดำรงราชานุภาพได้เคยรับสั่งไว้ว่า
เรื่องสามก๊กนั้นแต่งดีจริง แต่ผู้แต่งเป็นพวกเล่าปี่
ตั้งใจแต่จะยกย่องเล่าปี่เป็นสำคัญ
ถ้าหากพวกโจโฉแต่งเรือ่งสามก๊ก
ก็อาจดำเนินความในเรื่องสามก๊ก ให้ผู้อ่านเข้าใจกลับกันได้
ว่า โจโฉ เป็นผู้ทำนุบำรุงแผ่นดิน ฝ่ายเล่าปี่เป้นผู้คิดร้าย"
----------------------------------------------------------


ถ้อยคำด้านบน ได้กล่าวไว้ถึงอำนาจของ "สื่อ" ในสมัยโบราณกาล
ที่มีผลต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของคนมาเป็นระยะเวลาพันๆปี
ที่ตอกย้ำ อิทธิพลของผู้ครอบครองสื่อได้เป็นอย่างดีครับ

"ผู้ได้เขียนประวัติศาสตร์ ย่อมเป็นพระเอกเสมอ"


อืม...เจ้เห็นด้วย กับ ตัวหนังสือ ของ อิตา Heathrow
ใน บล็อกนี้ นะ
เพราะงี้ไง เจ้เรยขี้เกียจเป็น สาวกสื่อ แบ่บที่ลื้อมาปรักปรำ
และ ถ้าถามว่า ในเรื่อง สามก๊ก ใคร คือ ไอดอลในใจเจ้
เจ้ก็ขอตอบว่า เจ้ ม่ะปลื้ม ขงเบ๊ตกกำแพง หรอกนะจ๊ะ
เจ้ชอบผู้ชายที่ร้ายกาจ หน้าด้านใจดำ
พร้อมที่จะกระทำทุกอย่างให้สำเร็จตามเป้าหมาย
ด้วยความใจเย็นอย่าง ไอ้หมอนี่ อ่า


เล่า - โจ - ซุน ต่อสู้แย่งชิงกันมา สุดท้ายสุมาได้ครองแผ่นดิน ฮา ๆ





อ้อ และ เหตุปัจจัยสำคัญ ที่ทำให้ ทั่นสุมาอี้
คือ ผู้ชายในฝัน ของอิตั้วเจ้ ก็ไม่ใช่ เพราะ
ไอ้หมอนี่มัน เป็น ผู้ชนะทุกก๊ก หรอกนะ
แต่เป็นเพราะ ว่า สันดานอีเหมือนตรู ดีว่ะ
คล้ายกันหลายอย่างเรยนะนั่น เอิ๊กส์ ๆ


อืม... จะบอกให้นะ สำหรับเจ้ แล้ว
เจ้ไม่เคยให้ความสำคัญกับ นักรบแท้ นักการเมืองจริง
หรืออุดมณ์การณ์ติงต๊อง บนทางสองแพร่ง อะไรหรอกนะ
ถ้าเจ้ต้อง จับพลัดจับพลูต้องจับดาบขึ้นมาสู้
เจ้จะไม่ตั้งปุจฉาถามคำถามง่าว ๆ กับตัวเอง ว่า

ตรูเป็นนักรบ ที่รบเพื่อใคร ?

แล้ว ถ่อสังขาร เอา คำวิสัชนา ที่ได้
ไปประกาศ ลงใน ราชกิจจาฯ ให้โลกรู้ หรอกนะ
เพราะเจ้รู้ดีแก่ใจ ว่า กรูเป็นนักรบ ที่รบเพื่อกรู !
ไม่ได้รบเพื่อหมาที่ไหน เอ๊ย รบเพื่อประชาชนที่ไหน


ไอ้โซ๊ยตี๋ ลื้อคิดว่า ไอ้การที่ ก๊กต่าง ๆ มันรบกัน
มันทำเพื่อ ประชาชน จิง ๆ อ๊ะ ?
เจ้ว่า ถ้ามันพูดงั้น ก็เป็นเพราะ มันกำลังใช้กลยุทธ
อาศัยการสร้างภาพ อุ้มมวลชน มาเอามาปกป้องผลประโยชน์
และฐานอำนาจ ของตัวเองแบ่บเดียวกับ นักการเมืองสมัยนี้นั่นแหล่ะ
แมร่งถ้าไม่เป็นเพราะ อยากจะแย่งกันเป็น ฮ่องเต้ จนตัวซี้ตัวสั่น
มันจะรบกันทำติ้งไร วะ




อืม... ถ้าจำเป็นต้องเป็นนักรบ
คำถามแรก ที่ เจ้ จะถามตัวเอง ก็คือ

กรู จะรบ ทำไม ?


สงคราม ไม่ได้ช่วยให้อะไรดีขึ้น เรย นะไอ้โซ๊ยตี๋
( อ้อ ยกเว้นช่วยให้ ราคาน้องทองม้วน ดีวันดีคืน จนตรูหลุดดอย 555)
แล้ว เจ้ ก็ไม่ได้ไร้เดียงสา คิดจะทำสงคราม
ด้วยการสรรเสริญเยินยอศัตรู ด้วยว่ะ
ถ้าจะทำ เจ้จะประสานผลประโยชน์
แล้ว เปลี่ยน สนามรบ หั้ยเป็นสนามการค้า
แบ่บที่ น้าชาติมาดนักซิ่ง เคยคิดจะทำตะหาก
เพื่อว่า ประชาชีจะได้อยู่ดีกินดี
บ้านเมืองจะได้ไม่ตกอยู่ในกลียุค
จน ข้าวยากหมากแพง แบบเรื่อง สามกั๊ก ฮา ๆ


และถ้าเรื่องนี้ จะมีใครสักคนที่มัน อินโนเซ้นส์
มันก็เป็น ลื้อ นั่นแหล่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ษ ที่ ไร้เดียงสา

แมร่ง บ้าอุดมการณ์จนหน้ามืด
แถมยัง ไปหลงไหลได้ปลื้มกับ ซือแป๋หมัก ตะพืดตะพือ จนไม่ลืมหูลืมตา
ไม่รู้จัก แหกกะลา เอา หลัก อิทัปปัจจยตา มา โยนิโส ซะมั่ง




ว่าแท้จริงแล้ว ในเรื่องสามกก๊ก ฉบับขายชาติ เนี่ย
ที่ เล่า- โจ -ซุน ต่อสู้แย่งชิง อำนาจกัน มันเป็นเพราะอะไร ?
แล้วควรหรือ ที่เราจะบ้าจี้ ไปร้องโหวกเหวก
เต้นเป็นงิ้วหลงโรง เที่ยวโล้งเล้งเม้งแตกก๊ะพวกมันไปด้วย
อย่าปล่อยให้ แรงยึดมั่นถือมั่นแห่งจิต
มาถ่วงความเจริญในการปฏิบัติ สิวะ





ไหนบอกว่า ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใดไง
ไง๋มาตกม้าตายเพราะ เรื่องซือแป๋ตัวเอง ได้ฟระ
จำไว้นะ ถ้า ลื้อเป็น กรรมการ
คอยจดให้ คะแนนการประกวดข้างในสนามนกเขา
ลื้อก็ต้อง พิณาที่ คุณภาพของน้ำเสียงที่นกเขา
ถ้า ตัวไหนขันคูจู่จุ๊กกรูได้เสียงแจ่มแจ๋ว
เราก็ต้องให้คะแนนตามจริง


ไม่ใช่ว่า บอกตัวเองว่า ถึงนกเขาตัวนั้น
จะจุ๊กกรู ๆ เสียงโหลยโท่ย แต่เราก็จะเทคะแนให้
เพราะว่า เราแทงข้างมันไว้ตั้งหลายพัน แหน่ะ
จะยอม ปล่อยให้มันแพ้ได้ยังไงล่ะเธอว์ เหอะ ๆ



เอ้อออ จริงอยู่เรื่องสัจจะ มันอยู่ตรงที่ ขงเบ้ง
อีประกาศตัวเป็น ลูกน้องเล่าปี่ และช่วยเล่าปี่รักษาเมือง
จนถึงรุ่นลูก ความสัจจ์ความจริงมันอยู่ตรงนี้
ไอ้เรื่องนี้มันก็จริงอย่างที่ลื้อว่า



แต่ว่า สัจจะ ก็ส่วนสัจจะ ศีลก็ส่วนศีล สิวะ
แล้วถามจริง เหอะ ลูกผู้ชาย นี่
มันจำเป็นแบกสัจจะ ไว้บนหัวตลอดเวลาเลยหรือไงวะ
ไอ้เรื่อง รักษา วาจาสัจจ์ เนี่ย มันต้องพิณาเป็นเคส ๆ
ไม่ใช่ เห็นใครรักษาสัจจะ แล้วก็หลงไหลได้ปลื้ม
ชื่นชมกันตะพืดตะพือ


อย่างเคส สัจจะของป๋าหมัก ในมหากาพย์ชาวนากับงูเห่า เนี่ย
เจ้ก็ ชื่นชมกับการรักษาวาจาสัจจ์ ของป๋าแกนะ
ชอบฟังแกมา สนทนาประสาสมัคร ด้วยซ้ำ
แบ่บว่า เจ้ชอบคนที่รู้มาก ปากจัด
ลุงหมักแกมีข้อมูลเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย
ในเรื่องที่หยิบมาฝอย แยะดี
ฟังอีพูดตะละที ยังคิดเรยว่า
เออ เฮ้ยผู้ชายคนนี้ รู้อะไร มันรู้จริง ว่ะ
ไม่ใช่รู้แค่ผิวเผิน แต่รู้ไปถึงรากเหง้า
และที่มาที่ไปของเรื่องที่พูดเลย



ทว่า เรื่องที่ อีโกหก กับเรื่องวาจาหมาม่ายแหลก
นี่ไง เจ้ปลื้มไม่ลง ว่ะ ดูไงก็ม่ะเป็น สัมม๊า สัมมา เหมือนที่ลื้อเห็นว่ะ
อ๊ะ ๆๆ อย่าคิดจามาอ้าปากเถียงอิตั้วเจ้เชียวนะจ๊ะ เด๋วโดนยัดยาบ้า ม่ะลู้ด้วย อิอิ
อืม...ลื้อเคยดูหนัง เรื่อง เดอะ บัตเตอร์ฟลาย เอฟเฟคต์ ป่ะ
ถ้ายังก็ลองไปหามาดูดิ แล้วลื้อลองใช้ โยนิโส มาตรองดูว่า

ประโยคสุดท้าย ที่ ด.ช. อีแวนพระเอกของเรื่อง ตะคอกข่มขู่ ด.ญ.เคลลี่
มันมี นัยยะ และ เป็น วจีที่มีกุศลจิต มากกว่า คำพูดสัมมาฯ ของป๋าหมัก ตรงไหน








อืม... จิง ๆ กับซือแป๋ลื้อ เนี่ย
เจ้ก็ไม่ได้คิดจะไปเพ่งโทษ
มีจิตคิดประณามอะไรป๋าแกหรอกนะ
ก็แค่มองว่า ป๋าหมักแกก็ เป็นของแกเป็นงั้นเอง ตามประสาปุถุชน
เฮ้ออ เจ้มอง คนที่ผ่านเข้ามารอบ ๆ ตัว
เหมือนกับที่ ปู่เจี๊ยว มองนั่นแหล่ะ


แต่เห็นลื้อปลื้มป๋าหมัก นักหนา
เจ้เรยนึกหมั่นไส้ แล้วพาลเกิดอารมณ์ขันพิเรนทร์
นึกอยากแกล้งคนบางคนด้วยการตีวัวกระทบคราด
เรยหาเรื่องด่าป๋าแก เล่นไปงั้นเองว่ะ
สมัยเด็ก ๆ ลื้อไม่เคยมันส์เขี้ยว คันไม้คันมือยิก ๆ
แล้วแกล้งกระตุกหางเปียของเพื่อนผู้หญิง
ที่เรียนห้องเดียวกัน บ้างเรยหรือไงวะ
อารมณ์เจ้ ก็ประมาณนั้นแหล่ะ อิอิ




อ้อ จิงดิ ถึงเจ้จะชื่นชม กับการรักษาสัจจะลูกผู้ชาย ของป๋าหมัก นะ
แต่กับ การรักษาสัจจะ ของ ขงเบ้ง นี่มันต่างออกไปนะ
กรณีของป๋า มันเป็นการไม่ยอมกลืนน้ำลายตัวเอง
แต่ยอมเสียประโยชน์ลดตัวลงไปเป็นฝ่ายค้าน
ทว่า ในกรณีของขงเบ้ง มันมีอะไรที่ทำให้เจ้ รู้สึกทะแม่ง ๆ ว่ะ
ถามหน่อยเหอะ ถ้าลื้อเป็น ขงเบ้ง ลื้อจะรักษาสัจจะจนตัวตาย
สนับสนุนอาเต๊าลูกชายไม่เอาถ่าน ของเล่าปี่
ให้ขึ้นมาปกครองบ้านเมืองหรือวะ


และ ถ้าลื้อ แบกสัจจะไว้บนหัว ขนาดนั้นนะ
งั้นถ้า แม่นางก๊วยเซียง ใช้เข็มทองเล่มสุดท้าย
บอกหั้ยลื้อไปกำจัดมารหัวใจ อย่าง อิเจ้เหล่งนึ่ง
ลื้อก็จะรักษา สัจจะลูกผู้ชาย
แล้วกระโดดเข้าไปขย้ำคอหอย
อาจานตัวเองจนตาย 5 ทำไหมล่ะ


แล้วเพื่อให้ โจทย์ข้อนี้ มันซับซ้อนซ่อนเงื่อนมากขึ้น
ถ้า เปลี่ยนจากให้ กำจัดอิเจ้เหล่งนึ่ง
เป็นการ ให้ไป ถลกหนังหัว อินังก๊วยพู
ผู้หญิงที่ทำให้ลื้อเป็น ไอ้ด้วน แทนล่ะ
ลื้อจะรักษา สัจจะ นั้นไหม ?


อิอิ ถามทิ้งถามขว้างไปงั้นแหล่ะ ไม่ต้องตอบก็ได้จร้าาาาาา
แค่นึกครึ้ม อยากรู้อยากเห็น เฉย ๆ
ว่า ระหว่าง สัจจะ กับ ศีลธรรม
ไอ้ก้วยยี้ มันจะให้ความสำคัญกับ อะไรมากกว่ากัน อิอิ



เออ พูดเรื่อง ตาแป๊ะคงเบ้ง ต่อดีกว่า
ไอ้เรื่องที่ แป๊ะขงเบ้ง อีชอบตอแหล๋ เอ๊ย ชอบโกหกศัตรู แบบนั้น
ดูไง อิเจ้ก็เห็นว่า มันก็สุ่มเสี่ยงมีโอกาสที่จะผิดศีล ว่ะ
เพราะสิ่งที่ทำ มันไม่ตรงไปตรงมา มันมีวาระซ่อนเร้น
ที่มุ่งหวังจะให้ผู้อื่นเข้าใจผิด ( เข้าข่ายอำความ )
เพื่อพลิกสถานการณ์ให้ตน เป็นต่อ


เพียงแต่ว่า ในสถานะการณ์ สงคราม
การสื่อสารกันระหว่างศัตรูกับศัตรู
โดยสัญชาตญาณแห่งความเป็นอริ
ทั้งสองฝ่าย มันก็ต้องรู้เช่นเห็นชาติกันอยู่แล้ว
และ ก๊กคู่กรณี มันก็คงทำใจไว้ล่วงหน้า แล้วล่ะ
ว่า ทุกสิ่งที่ต่างฝ่ายต่างแสดงออกไป
มันล้วนแล้วแต่เป็นกับดัก ได้
เพราะมันไม่ใช่ การสื่อสารที่มีความจริงใจระหว่างหมู่มิตร





และเมื่อเกิดการพลาดท่าโดนศัตรูก๊กอื่น มันสับขาหลอก ขึ้นมา
มันก็คงเรียกว่า โกหกตอแหล ได้ไม่เต็มปากนักนะ
เพราะอีกฝ่ายก็แสดงออกอย่างชัดแจ้งแล้วว่า
มันพร้อมจะ เกทับบลัฟแหลกและใช้เล่ห์เพทุบายโกหกตอตอหลดตอแหลได้เสมอ
ดังนั้น จึง เป็นหน้าที่ของตัวเองที่จะต้องใช้สมอง
มาวิเคราะห์ และ เฝ้าระวัง ข้อมูลที่ทะลึ่งไปสอดแนมกันเอาเอง
ว่า ข้อมูลที่ได้ มันจริงใจหรือไก่กา



แต่ว่า กรณีสงครามในสภา ของ ซือแป๋หมัก
กับ การทำสงครามสามก๊กของขงเบ้ง
มันเป็นความเหมือนที่มีความแตกต่างกันในบางประการ ว่ะ
เพราะ สงครามสามก๊ก มันไม่มีกรอบกฏกติกา
และ พรบ.ว่าด้วยการห้ามใช้ การตกแต่งข้อมูล
หรือ การสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ นี่หว่า
จะว่าไป มันก็เหมือน เรื่องการยกพวกตีกันของเด็กช่างกล นั่นแหล่ะ
คุณจะดิ้นรนต่อสู้ด้วยวิธีไหน จะใช้มือเท้าเข่าหมัด
หรือจะ ชกใต้เข็มขัด ไง ก็ได้ เพื่อให้ตัวเองยังมีชีวิตรอด
ไม่งั้น คุณก็เป็นฝ่ายต้องตายไปซะ มันเป็นสัจธรรม




แต่ว่า ในสงครามสภา ที่ต่อสู้กันด้วยหลักฐาน
โดยให้ สังคม เป็นคนสังเกตุการณ์ บริบทมันต่างกันนะ
สงครามสภา การตกแต่งข้อมูล หรือ การสร้างหลักฐานอันเป็นเท็จ
เพื่อใส่ร้ายป้ายสี คู่ต่อสู้ทางการเมือง
มันเป็นเรื่องของการเล่นนอกกติกาว่ะ


ถ้า สงครามสามก๊ก เหมือนเรื่องของเด็กช่างกลตีกัน
สงครามสภา มันก็เหมือนมวยที่ขึ้นชกบนสังเวียนโอลิมปิค อ่ะ
มันต้องยึด กฏยึดกรอบและกติกา
เอะอะจะมาแกล้งชี้ให้คู่ต่อสู้หันไปมองทางอื่น
พอคู่ต่อสู้เผลอ ก็ ชกใต้เข็มขัด นะ มันก็ดูแม่ง ๆ
เรื่องนี้ มันไม่ใช่แค่หลอกลวง สัตรูเท่านั้น
แต่มันเป็นการ หลอกลวงประชาชนคนที่เลือกเขาเข้ามา ด้วยนะ
ประชาชนเขาโหวต ส.ส.เข้ามา เพื่อให้มาทำประโยชน์
ไม่ใช่เลือกให้มาปั่นสคริปต์ เล่นปาหี่ ทางการเมือง ว่ะ


ลื้ออาจจะเถียงแทนซือแป๋ลื้อว่า
ที่ป๋าหมัก แกทำไป เพราะเป็นการป้องกันตัวเอง
เปรียบเหมือนการรที่ มีโจรถือมีด กระโจนเข้ามาจะทำร้ายถึงในบ้าน
ถ้าเรา ยิงปืนสวนไป จนโจรมันตายหองคาบ้าน
ศาลก็อาจจะยังหลับหูหลับตา ยกฟ้อง
โดยอนุโลม และวินิจฉัยว่า เราทำไป เพื่อป้องกันตัวเอง
หาได้มีเจตนาฆ่าผู้อื่นโดนไตร่ตรองไว้ล่วงหน้า
แต่อาจจะตะหนกตกใจมากไปหน่อย
(เรยยิงซะจนหมดแม๊กซ์) ข้อนี้มันก็เป็นไปได้



ทว่า ถ้าเมื่อไร ยิงเสร็จ แร้ว ยังเดินไปหยิบมีดในครัว
เอามาปาดคอหอยโจร อีก อีแบ่บนี้แก้ตัวไง
มันก็เข้าข่ายบันดาลโทสะ และ พยามฆ่าโดยเจตนา
โทษสองคดีนี้ มันต่างกันนะ ว้า ขี้เกียจสอนไอ้เข้ว่ายน้ำว่ะ
เอาเป็นว่า ถามใจนักปฏิบัติอย่างลื้อเอาเองก็แล้วกัน
ว่า การโกหกตอแหลนั้น มันเป็นสิ่งที่สมควรทำหรือไม่
ถึงแม้ว่า คนที่ถูกหลอกลวงนั้น จะเป็น ศัตรูคู่อาฆาต ของเราก็ตาม




และ ถ้าลื้อ คิดว่า เรื่องพรรค์นี้ มันเป็นสัมมา
มันเป็นเรื่องที่สมควรที่จะกระทำ โคตร ๆ
ก็อย่าลืม เอาความเชื่อของลื้อไปยัดใส่หัว อาตี่ตี๋ ด้วยล่ะ ว่า


โตขึ้น ให้ทำตัว เป็นคนมีสัจจะ แต่ว่า ไอ้เรื่องศีล 5 นั้นน่ะ
ม่ะต้องตึงนักก็ได้ให้ยึดหลักทางสายกล๊าง สายกลาง

ที บิ๊กสุ ยังเสียสัจจ์ เพื่อชาติ ได้เรยอ่า
แล้ว ทำไม ขงเบ้ง และ ซือแป๋ของป๊ะป๊า
จะโกหกเพื่อชาติ บ้าง ไม่ได้วะ


อาตี่ตี๋จำไว้น้าาาาาาาาาาาาาาาาา
คนเราสามารถโกหกตอแหล
และ ทำศีลข้อ สี่ โดยเจตนา ได้ เมื่อมีความจำเป็น


หากอาตี่ตี๋บวชเป็นเณร แล้วเห็นโจรวิ่งไปหลบในป่า
ก็ไม่ต้องไปมองตาม ให้รีบหลับตาซะ
แล้วเวลา ตำรวจ เข้ามา สอบปากคำ
ก็อย่าได้ไปบอกความจริงล่ะ ให้บอก หมาต๋า ไปว่า
ตอนที่อาตมายืนอยู่ตรงนี้ อาตมาไม่รู้ไม่เห็นอะไรทั้งสิ้นจร้าาา
( เพราะว่าอาตมาหลับตาอยู๊ ฮา ๆ)







อ้อ ... แล้ว ลื้อก็ไม่ต้องเสียเวลาอันมีค่า
มาแล่งมาพรือ จนปากเปียกปากแฉะ
เลคเชอร์ ถึงสามรอบแปดรอบ
เรื่องการเมืองและอุดมการณ์ หั้ยเจ้ฟังเรยว่ะ
เจ้ไม่ใช่ลูกสาวคนสุดท้องของลื้อนะว้อย
ไม่ต้องเป็นห่วงเป็นใยกันนักก็ได้
แมร่ง เม้งแตกซ้าจนเยื่อแก้วหูตรูจาทะลุอยู่แระ เฮ้อออ


อืม..."เล่าปี่" ผู้ไม่เจียมบอดี้ เอ๊ยผู้คำนับทั้งสิบทิศ เนี่ย
ถ้าไม่ทะเยอทะยาน ฝันหวานกับความเป็นเชื้อสายราชวงศ์ชั้นปลายแถว
แล้ว คิดไปปะเหลาะ ขงเบ้งมาคอยเป็นลิ่วล้อให้
ป่านนี้อย่างอีคงได้นั่งสานรองเท้าฟางอย่างสงบสุขจนชั่วลูกชั่วหลานไปแล้ว
แถม บ้านเมืองก็คงไม่ต้องแตกเป็นก๊กเป็นเหล่าแล้วเกิดสงครามกลางเมือง
จนต้องเดือดร้อนไปถึงชาวบ้านตาดำ ๆ งี้หรอกมั้ง




อนึ่ง ต่อข้อถามที่ลื้อ ปุจฉา มา ว่า


อิเจ้ลื้อว่า อาแป๊ะขงเบ้งอีชอบโกหกมั้ยล่ะ
และถ้าอีไม่โกหก ศัตรูจะกลัวอีหรือเปล่า




ก่อนจะตอบคำถามนี้ เจ้ขอถามกลับ มั่งจิว่า
ก็แล้วทำไม เราถึงต้องอยากจะให้ชาวบ้าน
มันรู้สึกกลัวเราจนหำหด เอ๊ย หัวหดด้วยล่ะ
ลองคิดให้ดี ว่า อะไร คือ รากเหง้า
ที่ทำให้ อาแป๊ะขงเบ้งอีชอบโกหก
เรื่องนี้ มันมีเรื่องของ อัตตา- มานะ
และ สัญชาตญาณการเอาตัวรอด เข้ามาเกี่ยวข้องไหม


แล้วลื้อคิด ว่า ความยำเกรงกันนั้น
มันจะเกิดขึ้นมาได้ เพราะการพูดจาโกหก หรือไงกันวะ
จะบอกให้นะ ถ้าคนเรา ไม่มีศีลมีสัจจ์
บารมีมันก็จะเสื่อม และ เป็นที่เอือมระอาของคนรอบข้าง
เจ้เชื่อเสมอนะ ว่า ทุกสิ่งทุกอย่างล้วนเกิดขึ้นจากเหตุปัจจัยว่ะ
ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เมียลื้อมันไม่ไว้ใจลื้อ
หรือ เรื่องที่ เมียอิป๋าโจ มันนับถือผัว อย่างก๊ะ เป็นพระศรีอารยเมตไตย นั้น
ก็ย่อมเป็นไปตามหลัก อิทัปปัจจยตา ทั้งสิ้น
ฉะนั้น ลื้ออย่าได้ไปอิจฉาป๋าโจ เรยว่ะ
ป๋าเค้าทำเหตุปัจจัยไว้ดีพร้อมกว่าลื้อ นี่หว่า
ป๋าเค้าก็ต้องได้ รับของการกระทำ ที่ลั้ลลา กว่าลื้อ อ่ะจิ อิอิ





ส่วนที่ลื้อ ถามมาว่า

เจ้คิดว่า สงครามจะชนะได้ด้วยการมีศีล ห้ามโกหก
พูดแต่ความจริงหรือ


เจ้ขอตอบว่า ในความคิดของเจ้
การมีศีล และพูดแต่ความจริง
อาจไม่ได้ช่วยให้ หมาที่ไหนชนะสงครามได้
แต่การมีศีล มันจะช่วย ยุติ เหตุปัจจัย ที่ทำให้เกิดสงคราม ได้ว่ะ
ถ้าสังเกตุดูจากพงศวดาร มูลเหตุที่ทำให้เกิดสงคราม
มันก็มักจะเกิดจาก การก้าวล่วงศีล 5 และ กิเลส ตัณหา นะ
ถ้าแค่เพียง ไม่โกหก พูดแต่ความจริง และ ไม่เบียดเบียนซึ่งกันและกันในเรื่องทั้ง 5
มันก็ทำให้ชาวบ้านเกิดความไว้ใจ และ เชื่อใจ กันมากขึ้นนะ
ว่า ต่างฝ่ายต่างก็ต่างก็ ตั้งจิต ไม่คิดเบียดเบียนกัน เป็น สรณะ
ดังนั้น มันจึงช่วยลดแรงเสียดทาน ในการเกิดสงครามได้บ้างบางส่วนน่ะ




ยิ่งถ้ามี ธรรม 5 เป็นเครื่องแนม ไปด้วย ยิ่งแหล่ม
เพราะมันจะช่วย ส่งเสริมเหตุปัจจัย ที่ทำให้เกิด สันติ ว่ะ
และ หาก หมาทุกตัวบนโลกนี้ แบกศีล 5 ไว้บนหัว โลกทั้งโลก ก็จะสงบสุข
ไม่เกิดมหากาพย์หมากัดกัน เอ๊ย มหากาพย์สามกั๊ก
จนยุ่งเหยิงอิรุงตุงนัง เหมือนทุกวันนี้ หรอกมั้ง อิอิ






อนึ่ง ขอสรุปย้ำจุดยืนของตัวเองอีกครั้ง
ว่า สำหรับมุมมองการเมือง ของ ปัจเจก อย่างเจ้
เจ้เห็น การเมืองเป็นเรื่องจริง และ เป็นเรื่องโลก ๆ
ที่มันมีทั้ง ดำ ทั้งขาว ( แต่ส่วนใหญ่ มักจะเป็น สีเทา ขมุกขมัว มากกว่านะ )
ดังนั้น เรื่องที่ว่า

ใครดีใครชั่วก็ต้องลากไส้ มันออกมาประจาน

นั้น เจ้คิดว่า จะ กาดำ กาขาว ก็ล้วนแล้วแต่มีที่มาที่ไป
ตามเหตุปัจจัยที่เขาสะสมมา ( รัก โลภ โกรธ หลง)
และ หาก ลื้อเข้าใจ หลัก อิทัปปัจจยตา อย่างแท้จริง
อย่างที่ลื้อ ชอบเอามาอ้างอิง ใน ลานธรรมจก แล้ว
ทำไมลื้อต้องไป เพ่งโทษ หาเรื่องถลกหนังหัว
ลากตัวพวกอีมาประจานด้วยวะ
ในเมื่อ อีก็เป็นของอี ยังงั้นเอง ตามเหตุปัจจัย



ไม่รู้ดิ เมื่อก่อนเวลาเห็นคนชั่ว คนไม่ดี
อิเจ้ก็ชอบด่าโคตรพ่อโคตรแม่
หาเรื่องลากไส้มันออกมาประจานแบบลื้อนะ
แต่พอเข้าสู่วงการปฏิบัติ แล้ว
เรื่องแบ่บนั้นเจ้กลับตะขิดตะขวงใจ
ได้แต่บอกตัวเองว่า กรูทำไม่ลง ว่ะ



ด้วยเหตุนี้ เจ้ถึงไม่คิดจะ ลากไส้ใครออกมาประจานไง
อย่างมากก็แค่ หยิกแกมหยอก แล้ว อาเหล่าม่าก็หลอกจับตรูด เด็ก ๆ
เพื่อแหย่เล่นเฉย ๆ ด้วยฟามเอ็นดูเท่านั้นเอ๊งงงง
นี่แหน่ะ ไอ้โซ๊ยตี๋ ถ้าลื้อ มีความคับแค้นใจมากมาย
เรื่องที่โดน อิเจ้แต๊ะอั๋ง งั้นก็เชิญ ลื้อเตะตรูด
ทำโทษ อาเหล่าม่าได้ตามฉะบายจร้าาาา



แต่ก็อย่าหั้ยมันประเจิดประเจ้อนักล่ะ
เด๋วจาโดนชาวบ้าน มันครหาเอาได้ ว่า
ลื้อมันซาดิสม์ ชอบทำร้ายเด็ก สตรี และ คนชรา
อาเหล่าม่า เป็นห่วง นะจ๊ะ
กลัวว่า ภาพพจน์ธรรมะธรรมโม
ของไอ้ตี๋โอทึ้ง จา มัวหมอง น่ะ อ่ะซิก ๆ







 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:47:45 น.  

 
 
 
ไอ้เจ้าเกิดเป็นคน โคตรสับสน ว่า ...
------------------------------------------
สวัสดีปีใหม่นะจ๊ะ..นึกว่าลาออกจากบอร์ด
ไปเล่นงิ้วที่เยาวราชซะแล้ว..กรรมอะไรหนอ
ทำให้เธอเพลิดเพลิน เป็นนักร้อง
นักโดนตีน..เอ้ย..ดนตรี อยู่ทุกวัน ไปจดลิขสิทธิ์ปากรึยัง..


นี่ เธอ ชาติก่อนทำบุญด้วย "คณะตลก" รึไง
วันๆเอาแต่โปกฮาแฝงปรัชญาไปเรื่อย
สับสน คู่แข่ง น้องปลาบู่ขอทำนายว่า
ปีใหม่นี้ นางบัวป่อง ต้องได้ผัว ตลกแน่ๆ
(อย่าลืมชวนตั้งวงนะจ๊ะ)..ไปโน่น โน๊ต..อุดม9..เลยไป


แตกต่าง..แค่แตกต่าง..ได้ข่าวว่า
"องค์ลง" ทุกวันนะด่าได้ไม่ซ้ำเลยรึ
"กำลังหาความจริงในความเชื่อ"..อยู่ใช่ปะ..
หาเจอแล้วบอกบ้างนะจ้ะ
กึ๋นเธอมันเกินใครๆอยู่แล้ว
"เฮ็จในสิ่งที่เชื่อ และเชื่อในสิ่งที่เฮ็จ"..
ก็ไม่จริงแล้วละซีใช่ไหม ..เจอรึยัง..บายๆ





+++++++++++++++++++++++++




อิเจ้บัวป่อง ว่า...

นี่แหน่ะ ไอ้หมอดูคู่กับหมอเดา เอ๋ยยยยยยยยยยยยย
ไหนหล่อนว่า ปีใหม่นี้ ชั้นจะได้ สมี เอาไว้เชยชมสมใจ ซะทีไง
แหม๊ไอ้เรารึก็ หลงดีใจ ว่า ตรูจะได้มีผัวใหม่เป็นตัวเป็นตน
เอาไว้ใช้ลดหย่อนภาษี เวลายื่นแบบ ภงด. 91 เหมือนชาวบ้านเขาซะที
ที่ไหนได้เนี่ย วาเลนไทน์ ก็ผ่านไปเป็นชาติแระ
ไง๋ คำทำนายของ หล่อนมันถึงยังไม่สัมฤทธิ์ผลซะทีว้าาา
แมร่ง ไม่แม่นจริงนี่หว่า ไอ้หอกหักเอ๊ยยยยยย
คอยดูนะ เด๋วชั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหล่อน ห้าร้อยล้าน
ข้อหา ทะลึ่งมาสร้างฟามหวังลมๆแล้ง ๆ
ให้กับสาวน้อยผู้ไร้เดียงสา อย่างช้าน อ่ะซิก ๆ


อิเจ้บัวป่อง ว่า...

นี่แหน่ะ ไอ้หมอดูคู่กับหมอเดา เอ๋ยยยยยยยยยยยยย
ไหนหล่อนว่า ปีใหม่นี้ ชั้นจะได้ สมี เอาไว้เชยชมสมใจ ซะทีไง
แหม๊ไอ้เรารึก็ หลงดีใจ ว่า ตรูจะได้มีผัวใหม่เป็นตัวเป็นตน
เอาไว้ใช้ลดหย่อนภาษี เวลายื่นแบบ ภงด. 91 เหมือนชาวบ้านเขาซะที
ที่ไหนได้เนี่ย วาเลนไทน์ ก็ผ่านไปเป็นชาติแระ
ไง๋ คำทำนายของ หล่อนมันถึงยังไม่สัมฤทธิ์ผลซะทีว้าาา
แมร่ง ไม่แม่นจริงนี่หว่า ไอ้หอยเอ๊ยยยยยย
คอยดูนะ เด๋วชั้นจะฟ้องเรียกค่าเสียหายจากหล่อน ห้าร้อยล้าน
ข้อหา ทะลึ่งมาสร้างฟามหวังลมๆแล้ง ๆ
ให้กับสาวน้อยผู้ไร้เดียงสา อย่างช้าน


ไม่ลู้ล่ะ ในเมื่อ หล่อนทะลึ่งมาสร้างฟามหวัง ให้ช้านงี้
หล่อนก็ต้อง รับผิดชอบ หาผัวแจ่ม ๆ เจ๋ง ๆ หั้ยช้านด้วยว่ะ อ่ะซิก ๆ
เออ ชั้นขอเป็นพูชายแบ่บเรือพ่วงนะจ๊ะ
ชั้นจะได้เอาไปหักลดหย่อนภาษีได้มากขึ้นอีกนิด
แต่เอาแบ่บ เรือพ่วงเมียตายนะว้อยยย ไม่เอาแบ่บเรือพ่วงเมียทิ้ง ว่ะ
อิแบ่บนั้นมันค่อนข้างจะ โลโซ โนคลาส และ ไร้เครดิต ไปหน่อย
ดูแล้ว ไม่ค่อยจะเวิร์ค ในแง่ประโยชน์ใช้สอย โฮ่ ๆ



อืม...แล้ว ยิ่งถ้า ชาติก่อนไอ้หนุ่มคนไหนมัน
ใจดี ชอบสนับสนุนทุนการศึกษาส่งเสียน้อง ๆ นู๋ ๆ เรียนปริญญา
และ เป็นพูชายที่แขวนกางเกงในมาเป็นสิบ ๆ ปี ด้วย อ่ะนะ
ชั้นยิ่ง ยินดีจะรับพิณา เป็นพิเศษ จร้าาาาาาาา
เพราะว่า พอเอามันมาใช้ ลดหย่อนภาษีเสร็จ จนหมดประโยชน์แระ
ชั้นจะได้ เฉดหัวมันทิ้ง ด้วยการฟ้องหย่า ข้อหา บ่ มิไก๊
แล้ว เรียก ค่าเสียหาย 20 ล้านโคร์น
เนี่ย ถ้าชนะคดี ชั้นจะได้มีเงินไป ค่าผ่าตัดแปลงเพศ ที่โรงบาลยันฮี
และ มีเงินไปสู่ขอ ลูกชายอิเจ้ขวัญ แล้วฟามฝันของช้าน จะได้ป็นจริงซ้าที
ช้าน แอบ ล็อคสเปค กาหัวอิน้องฮาร์ท มานานแย้วววว แผล่บ ๆ




เออ นี่ ๆๆๆๆๆ หล่อนลู้ไหม
พอชั้น ต้องจับพลัดจับพลูมาเป็นนักร้องนักโดนตรีน ผู้อาภัพ
โดน ไอ้ตี๋โฮฮับ มัน ตบถีบ ๆ ในสุสานโบราณแห่งนี้ แล้ว
ชั้นก็นึกถึง สมัยละอ่อนตอน ที่ ชั้นโดนเตี่ยตบหน้าจนน้ำตาร่วง ชะมัดเรยว่ะ
อืม...ตอนนั้น ไปยียวนกวนซ่งติง อะรัย ขัดหูขัดตาแอนด์ขัดใจ พระบิดาก็มิลู้ว่ะ
รู้แต่ว่า หมานโมโหมว๊ากกก จนเม้งแตก ขู่จะตบหน้าช้าน เรยอ่ะ
ทว่า แทนที่ อิลูกสาวบังเกิดเกล้าอย่างช้าน มันจะสำนึก นะเว้ย
เฮ้ยยย เปล๊า....ดันเสือก ถือดีว่า ตรูนี้ เป็น ลูกสาวสุดที่ร้ากกกกก ของหมาน
เลย ลอยหน้าลอยตา เอียงแก้ม ยั่วโทสะป๊ะป๋า ซะงั้น



แถมยังมีหน้าไปท้าเหย็ง ๆ บอกหมานว่า ตบซิ ๆ อีกตะหาก
เรยโดนคุณสมานฉลองศรัทธา มา 1 ฉาดดดดดดดดดดดดดดดด
เล่นเอาชั้นน้ำตาร่วงผล็อย ปล่อยโฮออกมาอย่างก๊ะทำนบแตก เรยว่ะ
แต่พูดก็พูดเหอะ จิง ๆ ตอนนั้น ชั้นก็ไม่ได้เจ็บอะไรนักหนาหร็อก
ทว่า มันเสียหน้า ว่ะ เพราะตอนโดนตบน่ะ อิน้องชาย มันก็นั่งตาแป๋วอยู่แถวนั้นซะด้วย
ไอ้เราหรือ ตอนแรกก็กะ จะโชว์พาว อวดฟามเป็นลูกร้ากกก ที่พ่อแสนจะเกรงใจ
ให้อิน้องมันอิจฉาเล่นซะหน่อย แต่ดั๊น ผิดคิว ซะงั้น เซ็งเป็ดเรยกรู



เฮ้อออ แต่ย้อนมาคิดถึง วีรกรรมแสบ ๆสมัยละอ่อน แล้วก็ขำก๊ากกก นะ
แถม แทนที่จะ โกรธหมาน ที่ บันดาลโทสะ ตบเราจนน้ำตาร่วง
อิคุณลูกสาวดั๊นทะลึ่งไปสงสารคุณป๊ะป๋ามันซะงั้น
อืม...ชั้นว่านะ ตอนที่หมานปรี๊ดแตก ตบชั้นไปแล้ว เนี่ย
หมานคงจะรู้สึกเสียใจ และ เจ็บปวดน่าดู เลยว่ะ
ที่โมโหจนลืมตัวแล้วตบหน้าลูกสาวที่ตัวเองรักมากที่สุดน่ะ



เนี่ย ตอนหลัง หมานคงรู้สึกผิดมั้ง
เวลาอีโมโหชั้นทีไรอีก็เลยหันไปลงมือลงไม้ระบายอารมณ์
กับ พวก โต๊ะ ตู้ ประตู ฯลฯ แทน อ่า
อิอิ จะว่าไป ป๊ะป๋าหมานของชั้น
ก็ คล้าย ๆ ป๊ะป๋าโจ ปั๋วอิเจ้ขวัญ เรยว่ะ
เฮ้อออ ก็ลู้ชาติก่อน หมานไปทำเวรทำกรรม อะไรมา ว่ะ
ถึงได้มีลูกสาวขำขันมันส์ฮา ชอบเล่นพิเรนทร์
หาเรื่อง กวนซิงติง ป๊ะป๋า เป็นงานอดิเรก อย่างช้านนน เอิ๊ก ๆ




อืม....อิทัปปัจจยาตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้ จึงมี นี่นะ
ด้วยบุพกรรมแต่หนหลัง ดังที่กล่าวมานี้
ชั้นเลย ไม่ค่อยจะสะทกสะท้านเท่าไร
เวลาที่ถูกไอ้ตี๋จอมโหด มัน กระโดดเตะก้านคอไง
เฮ้อออ มันคงนึกว่า ชั้นเป็นลูกสาวคนสุดท้องของมันมั้ง
เลยหวังดี (ตามวิธีของมัน) ถึงได้ชอบมาโล้งเล้งเม้งแตกให้ชั้นฟังอยู่เรื่อย อิอิ



แต่ เห็นมันพยาม ตบถีบ ๆ โฮ่ง ๆ แฮ่ ใส่ชั้นทีไร
ไอ้ชั้นมันก็ดันเกิดอารมณ์ขันพิเรนทร์
นึกเอ็นดูมัน เหมือนกับที่ เอ็นดู หมาน ซะงั้น
มันก็เหมือนความรู้สึกตอนที่ชั้นนึกเอ็นดูหล่อน
ตอนเจอกันครั้งแรกที่พันติ๊ป นั่นแหล่ะ



อิอิ ชั้นยังจำสมัยที่เคยตบตี ก๊ะ คนบางคน ใน กระทู้เนี้ยะ ได้เรยอ่า
เฮ้อออ จะว่าไปแล้ว ไอ้โซ๊ยตี๋ตอนนี้
มันก็มีอะไรคล้าย ๆหล่อน ตอนนั้น เหมือนกันนะ เอิ๊กๆ
โดยเฉพาะ ไอ้นิสัยชอบมาโล้งเล้งเม้งแตก
แฉสะบั้นหั่นแหลก แล้วก็ชอบคิด ว่า
ตัวเองเป็น อาเฮียเฉินหลงที่กำลังองค์ลง
จนต้องเล่นบท วิ่งสู้ฟัด กัดไม่ปล่อย อยู่บ่อย ๆอ่ะนะ เอิ๊ก ๆ




อืม... จิงดิ หล่อน เคยถามชั้น เรื่อง ข้อแตกต่าง
ของอารมณ์ กับความรู้สึก นี่นะ
งั้นชั้นจะ ปาฐกถา ยกตัวอย่าง ให้หล่อนเห็นภาพได้ ก็แล้วกัน
ว่า อารมณ์ มันต่างจาก ความรู้สึกไง



จำตอนที่ หล่อนโล้งเล้งเม้งแตก แจกลูกแป ใส่ช้าน
ตอนที่เราเจอกันครั้งแรก ที่ห้องสาดหนา ในพันติ๊ป ได้ป่ะ
ชั้นขอใช้ทฤษฎีจิตวิเคราะห์ มาเดาล้วน ๆ โดยไม่ต้องพึ่ง เจโต
และ ขอฟันธงว่า สภาวะจิต ตอนนั้นของหล่อนน่ะ
น่าจะเรียกว่า หล่อนกำลัง เสียอารมณ์
เพราะ โทสะ และ โมหะ ที่มันผลุบ ๆ โผล่ ๆ ขึ้นมาจาก อนุสัยมั้ง




ส่วน สภาวะจิต ของ ไอ้เจ้าทึ้ง
ที่มันมามาตีหน้าถมึงทึง ตบถีบ ๆ เม้ง ชั้นอยู่เนี่ย
ก็พอจะอนุมาน ได้ว่า ไอ้ทึ้ง มัน กำลัง เสียความรู้สึก อยู่มั้ง
สภาวะนี้ คงประมาณเดียวกับ เวลาที่เด็กผู้ชายตัวเล็ก ๆสักคน
ไปอธิษฐานขอพรหั้ย ซานต้า เสก เซเลอร์มูนผู้ทะลุโสดาบัน มาหั้ยมัน
แต่ ซานต้า ก็ดันทะลึ่งเอา อินังจิญจา ฯ กะ โซดาปั่น
มายัดใส่ในถุงเท้าไปหั้ยแทน น่ะ
พอเปิดถุงเท้าออกดู มันก็เรยเกิดอาการเสียใจจนสติวิปลาส




เอ๊ะ หรือว่า ไอ้ งักปุ๊กคุ้ง มันจะริษยา ตงฟางปุ๊ป้าย
ที่ สำเร็จ เคล็ดวิชา ในคัมภีร์เทวดา ก่อนมันล่ะหว่า ?
มันเรยคลุ้มคลั่งผิดหวังฝังใจ แล้วกลายเป็นอ้ายโรคจิต
สำแดงอาการ บ่อตั้วบ่อโส่ย เที่ยวจับตรูดอาเหล่าม่า
เพื่อจะชำระหนี้บัญชีแค้น เหอ...เหอ...




แต่หล่อนไม่ต้องเป็นห่วงชั้น กัวว่า
ชั้นจะ โดนมันตื้บจนแบนแต๊ดแต๋
แล้วตาย 5 คาซ่งติง มันหรอกจร้าาาาา
คนอย่างชั้นน่ะ มัน อิเข้ล่องหน เฟร้ยยยย
ขนาด ตอนอยู่ ที่ พันติ๊ป โดนยำตรีน มาแล้วก็หลายขนาน
ชั้นยังอาศัยเคล็ดวิชา หนุมานคลุกฝุ่น
แว๊บเข้ามา ลอยหน้าลอยตา จีบปากจีบคอ
ในโลกไซเบอร์ ต่อได้โดยไร้รอย ขีดข่วน ได้อยู่เรยนิ เจ๋งป่ะ ? อิอิ
















อ้อ แต้งกิ๋ว นะยะ ที่ อุส่า ถ่อสังขาร
มาออกใบการันตี ภูมิกึ๋น ระดับ วีไอพี หั้ยช้านนน
เนี่ย ถ้าม่ะมีหล่อน มารับรอง คุณภาพกึ๋น ให้ อ่ะนะ
ชั้นคงเสียเซ๊ล์ฟ พิลึก เรยอ่า แบ่บว่า เดือนก่อนนู้น อ่ะนะ
มีไอ้ลูกหมาตัวนึง มันมาตีหน้าถมึงถึง
แร้วมาแยกเขี้ยว เห่า โฮ่ง ๆแฮ่ เม้งชั้นว่า


เรื่องพระไตรปิฎกเขาเอาไว้เป็นธรรมดับธรรม
เป็นธัมมาวิปัสสนา เป็นวิธีดับกิเลสของอริยบุคคล
ชั้นมันไม่เข้าใจเองแต่ดันแหกปาก
ว่าไม่เชื่อไม่ศรัทธา ตัวเองโง่แล้วไม่ยอมรับ
อ่านไม่รู้เรื่อง ก็บอกว่าอ่านไม่รู้เรื่อง ชอบกลบเกลื่อน
ชั้นมันประเภทโง่แล้วไม่ยอมรับว่ะ



เฮ้ย นี่ ๆ อิตาเกิด ช่วยบอกหน่อยจิ
หล่อนว่า สาวสวยผู้เปี่ยมไปด้วย ภูมิกึ๋นบารมี อย่างช้านเนี่ย
มันเหมือนหลายๆคนที่ขี่จักรยานไม่เป็น
แต่ดันเสือกสะเออะจะขี่มอเตอร์ไซด์ จิงหรอ ?



เฮ้อออ อ่านที่ไอ้ทึ้งมันด่ากราดแล้ว ตรูต้องเต้นผาง ๆ
แล้ว ไป ท้ามันแข่งนั่งสมาธิ แบ่บ ดราม่ากระทู้เนี้ยะ ดีไหมเนี่ย
อืม...พูดก็พูดเถิดนะ ช้านน่ะ มันขี้เกียจหัดขี่ ทั้ง จักรยาน และ มอไซด์ ว่ะ
แต่ทำไมชั้นกลับรู้สึกว่า มักจามีคนมาปูพรมแดง แล้วเอา ราชรถมาเกย
ไว้ที่ปลายตรีน อยู่ตลอดเวลา วะ แหม๊ ?ช่าง วาสนาดีมีบารมีจิง ๆ เรยตรู
อิอิ ไอ้เรื่อง ใบลานสามตระกร้า เนี่ย
เมื่อก่อนชั้นไม่เคย เชื่อถือ และ ศรัทธา มันไง
เด๋วนี้ ชั้นก็ยัง เหมียนเดิ้มมมมมมมมมมมม 5555



อืม... จำได้ป่ะ ว่าตอนที่หล่อถาม ชั้นเคยบอกหล่อนไง
เกี่ยวกับความรู้สึก ตอนอ่าน 7 เดือนทะลุธรรม ของ ดังตฤณ
ก๊ะ ตอนอ่าน คู่มือมนุษย์ ของ พุทธทาส
ชั้นบอกว่า มันก็เหมือนกับอ่าน หนังสือคู่มือท่องเที่ยว สักเล่ม
ในเรื่องสถานที่ ที่เราเคยไปตะลอนทัวร์ มาแล้ว มั้ง
ชั้นก็เรยอ่านเพื่อ วิเคราะห์เปรียบเทียบมุมมองของเขา กับ ของเรา
เพื่อเก็บตก เกร็ดเล็กเกร็ดน้อย และ เทคนิคต่าง ๆ ที่เราไม่ทันได้มองดู เฉย ๆ



กับไอ้เจ้าใบลานสามตะกร้า นี่ก็เหมือนกันเป๊ะ เรยว่ะ
ชั้นก็แค่อ่านเล่น เป็น ออร์เดิร์ฟ ก่อนเปิบมื้อหนักเฉย ๆ
พระไตรปิฎก มันก็เหมือน คู่มือทำอาหารสักเล่ม
ที่เอาไว้ให้อิพวกพ่อบ้านแม่บ้านมือใหม่ มันเปิดอ่าน
ก่อนเริ่ม หัดจับตะหลิว เข้าสู่สมรภูมิกะทะเหล็กของจริง ล่ะมั้ง



แต่ ระดับพ่อครัวแม่ครัวหัวป่าก์ อย่างพวกเรา
นี่คงไม่จำเป็นต้องไปกางตำราแผล่บ ๆ
แล้ว ท่องจำเป็นนกแก้วนกขุนทอง ว่า
ทำผัดกระเพราไก่ มันต้องใส่ กระเพรา กี่กรัม
น้ำปลากี่ช้อนชา พริกกี่เม็ด หรอกมั้ง
ขืนทำงั้น มันก็เสียฟอร์ม เชฟมือโปร หมดอ่ะจิ อิอิ






ด้วยเหตุนี้ ชั้นจึงไม่เคยคิดจะอ่านใบลานพวกนั้นอย่างเอาเป็นเอาตาย อ่า
ก็ชั้นไม่ได้คิดจะ ขวนขวายไปสอบ เปรียญ เก้าประโยค ซะหน่อยนิ
แค่อ่านเอาไว้ เพื่อ หลอกด่าชาวบ้าน เท่านั้นเอ๊งงงงงงงงง
เอา ใบลาน มา ตบกบาล ชาวบ้าน จนกระอักเลือดได้
นี่มัน หนุกดี ชั้น ช้อบ ชอบบบบบบ อิอิ




แหม ? ทำไงได้ล่ะจ๊ะ ก็ ไอ้ชั้นมันม่ายช่าย ...
พวก เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ และ เชื่อ ในสิ่งที่เฮ็ด
แบ่บที่หล่อนวิจารณ์ นี่หว่า

เพราะ ใครคนหนึ่ง เคยบอกไว้ว่า

รู้จำ ได้จากการอ่าน
รู้จริง ได้จากการทำ
รู้แจ้ง ได้จากการสั่งสมฟามรู้ โดยใช้ปัญญา


เฮ้ออ ชั้นค่อนข้างเห็นด้วยกับคำพูดพวกนี้นะ
เด็กสายวิทย์ตัวแม่ อย่างช้าน
จึงไม่คิดจะ เฮ็ดในสิ่งที่เชื่อ และ เชื่อ ในสิ่งที่เฮ็ด หรอกนะ
ขืนทำงั้น ในโปรเจคการทดลอง
มันก็เกิด เออเร่อร์ เพราะ ไบแอส บรรลัย เรยอ่ะดิ
ดังนั้น คอนเซปต์ในการปฏิบัติของชั้น
จึงเป็นเรื่องของการ เฮ็ดจนกว่าจะรู้
และ พยามจะ รู้ ในสิ่งที่เฮ็ด
มากกว่า เรื่องของความเชื่อและศรัทธานะ อิอิ



แต่ก็ไม่เคยคิด จะ หาความจริงในความเชื่อ
กับ ปริศนา ธรรมะ อะไรเอ่ยในตะกร้าสามใบ
แบ่บที่หล่อนทึกทักเอา หรอกจร้าาาา
เพราะว่า ความจริง อยู่ที่ไหน มันก็เป็น ความจริงวันยังค่ำนั่นแหล่ะ
จะไปวิเคาะ วิแคะ แกะเกา เอามัน ออกจากฟามเชื่อ ไปทำไม ให้เมื่อย
เอาเวลาไป หาประโยชน์ จาก ทั้ง ความเชื่อ และ ความจริง ดีกว่า มั้ง



ว่าแต่ ปฏิบัติธรรมมาก็เป็นสิบ ๆ ปี แล้วนิ
หล่อน ใช้สอยประโยชน์ จากทั้งความเชื่อ และความจริง
ได้คุ้มค่าทุกดอกส์ หรือยังล่ะจ๊ะ ทูนหัวว อิอิ
ถ้า ยัง ก็จงก้มหน้าก้มตาหากัน ต่อไป นะยะ
เพราะ ถึงชั้นคิดว่า พอจะเห็นสิ่งเหล่านี้ โผล่หางมมาแพลม ๆ ออกมาหั้ยดูแล้ว
แต่ปัจเจกชนอย่างช้าน มันก็ม่ะคิดจา
กระเตงสรรพสัตว์ข้ามห้วงทุกข์ หรอกย่ะ
ตัวใครตัวมันว้อยยยย เรื่องอารายจาบอก


ว่าแล้วก็ขอลอก คำพูดสุดท้าย
ของ ตงฟางปุ๊ป้าย ที่หุบผาไม้ดำ มาใช้ซะหน่อย


“ข้อย บ่ บอกเจ้าหรอก ให้เก็บไว้เป็นความทรงจำ
จะได้เสียใจไปตลอดซีวิตตตตต เหอ...เหอ....




 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:52:57 น.  

 
 
 
Mchou54 ว่า...
ครับผม เป็น แควนขับเจ้นู๋บีคับ
ผมติดตามงานของพีมาตลอด ผมสนใจความคิดของพี่
แล้วต่อนี้ผมก็เริ่มทำ (IS MBA)
ผมจะทำเรื่อง( การใช้กลยุทธ์การตลาดในการถ่ายทอดวิถีพุทธปฏิบัติต่อวัยรุ่น)
ถ้าเราใช้หลักการตลาด 4P(Product Price Place Promotion)
กับหลักธรรมในพระพุทธศาสนาในพระธรรม(คำสอน)นั่น
ตรงใหนที่เป็น Product ใหนเป็น Price ........
ช่วยตอบที่คับ ขอโทษที่ถามหมากไปน้อยคับ
ขอบคุณคับ
++++++++++++++++++++++++++++

เจ้นู๋บี ว่า....
อืม....ไอ้เรื่อง ถามมากถามน้อย นี่ม่ะเป็นไรจร้าาาาาาาา
ถ้าตอบได้ อิเจ้ก็พร้อมจากล้อมแกล้ม ตอบหั้ยแหล่ะ อิอิ
ว่าแต่ อิเจ้หายหัวไปเป็นชาติงี้ จามีครายยื่นใบลาออก
จากการเป็นแควนขับ ของอิเจ้ รึยังน๊อออ อ่ะซิก ๆ


ว่า แต่ยังม่ะตอบ อิเจ้ เรยนะจ๊ะ ไอ้นู๋ ว่า ลู้จัก อิเจ้ ได้ไงอ่า ?
แล้ว ทำไมถึงพ่อเหล็งฮู้ชง ถึงโคจรมาอยู่ใน จักรวาลเดวก๊ะ อีเจ้ได้ ?
น่าบอกหน่อยหน่า เจ้จะรวบรวมข้อมูลไว้ ทำ มาร์เกตติ้ง เอิ๊ก ๆ


เอาล่ะ เข้าเรื่อง เรยดีกว่า ไอ้เรื่อง 4P เนี่ย จิง ๆ
อิเจ้ก็พูดเอาเท่ห์ไปงั้นเองอ่า แบ่บว่า จำขี้ปาก
ไอดอลที่เจ้แอบปลื้มมมม คนเนี๊ยะ มาอ่า





ดังนั้น อย่าคาดหวังอะไรกะคำตอบของอิเจ้นักเรยน้าาา
ถือว่าฝอยหั้ยฟัง แก้หง่อมแระกัน เน๊าะ
คงเอาไปใช้เป็น เอกสารอ้างอิงทางวิชาการ ม่ะได้หรอกจร้าาา
แต่ไงก็จะพยามพล่ามเรื่อยเปื่อยโม้ให้เด็ก MBA ฟังสักตั้ง ก็แระกัน เอิ๊ก ๆ


ถ้า จะทำเรื่อง
การใช้กลยุทธ์การตลาดในการถ่ายทอดวิถีพุทธปฏิบัติต่อวัยรุ่น
เนี่ย ถามตัวเองก่อนดีป่ะ ว่า อะไรคือ เข็มมุ่ง อะไรคือตัวชี้วัด
แล้วจะเอาแบ่บ เน้นปริมาณ หรือ เน้นคุณภาพ ล่ะจ๊ะพ่อคุณ


ถ้าเน้น ปริมาณ อันนี้ก็ง่ายหน่อย
ให้ลองไปสมัครเรียน ที่โรงเรียนอนุบาลในฝัน
แล้ว ศึกษากลยุทธทางการตลาด
ตามสไตล์สร้อยส้มตำ แหวนไก่ย่าง
ของหลวงพ่อนะจ๊ะ ณ ธรรมโกย ดูเด่ะ


แต่ถ้าเน้น คุณภาพ นี่ก็ตัดใจได้เรย ว่ะ
เรื่องนี้ มันหาตัวชี้วัด ที่เป็น รูปธรรม ได้ลำบากนะ
เพราะ สาดหนาพุทธ มันเป็นเรื่องของ ปัจจัตตัง
การจะ ประเมินผล คำนวณหาตัวชี้วัดเชิงคุณภาพ
มันไม่ได้ ทำกันง่าย ๆ แบบการตรวจสอบคุณภาพรังนก
หรือ การหาดัชนีมวลรวมฟามสุข ของคนไทย นะจ๊ะทูนหัววว


แค่จะบอกว่า การถ่ายทอดวิถีพุทธ นั้น สัมฤทธิ์ผล หรือไม่
นี่ ก็เคี้ยวลำบาก แระ เพราะ มันไม่มีแบบทดสอบที่จะมาชี้วัด
ในเรื่องของ ความก้าวหน้าในการปฏิบัติ ที่เห็นชัดเป็นรูปธรรมอ่า
ระดับปุถุชนคนเดินดินกินข้าวแกงอย่างเรา
ไม่มีทาง ทดสอบภูมิกึ๋นของ ของเหล่าวัยสะรุ่น
ที่ปฏิบัติ ตาม วิถีพุทธ ได้หรอกจร้าาา
ว่าใครเข้าถึง วิถีแห่งพุทธอย่างแท้จริง
ต่อหั้ยใช้ วิธีสอบเปรียญธรรม
หรือ จะเทียบเคียงระดับตามญาณ16
มันก็วัดผลได้ ไม่เคลียร์ อ่ะจร้า มันคลุมเครือ วัดยากส์



อิเจ้เห็นด้วยกับ คำพูดของ ของคนพวกนี้ ที่ลานธรรมเสวนา นะ
----------------------------------------------------------
ความคิดเห็นที่ 6 : (baballius)

พุทธศาสนาเป็นของคนกลุ่มน้อยแต่ไหนแต่ไรแล้วอะครับ
ครูบาอาจารย์ก็สอนกันว่า

"พอเราเข้าใจธรรมะแล้ว เห็นคนที่ควรบอกต่อก็บอกต่อ
แต่ถ้าไม่เจอคนที่ควรบอกต่อ..ก็เฉยๆ ซะ"

ในบางมุมการเผยแพร่ไปในวงกว้าง
อาจจะเป็นตัวทำลายแก่นของศาสนาด้วยซ้ำไป
เพราะถ้าคนเป็นร้อยล้านพันล้าน
ระบุว่าตนเป็นพุทธ แต่ไม่รู้เรื่องสติปัฏฐานเลย
แล้วก็เผยแพร่แต่เรื่องการทำดี ทำบุญ
แล้วบอกต่อกันไปเรื่อยๆ..คนกลุ่มนี้ก็เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ


เมื่อปราศจากสติปัฏฐาน ก็ขาดการเจริญสติ เจริญปัญญา..
ซึ่งจะยิ่งทำให้หลักธรรมของพุทธแท้ๆ หายากไปเรื่อยๆ
คือหาที่ไรก็เจอแต่พุทธเทียมๆ ที่มีอยู่นับพันล้านคนข้างต้น
สู้มีคนไม่มากที่เป็นพุทธ แล้วส่วนใหญ่ในจำนวนนี้
เข้าใจหลักสติปัฏฐาน น่าจะเกิดประโยชน์มากกว่า
เพราะเมื่อใดที่คนภายนอกเกิดสนใจพุทธศาสนาขึ้นมา
แล้วก้าวเข้ามาแสวงหา เขาจะได้มีโอกาสพบสิ่งที่ถูกต้องได้มากขึ้น
เพื่อทำให้เกิดประโยชน์แก่ตนเอง และจะได้สืบทอดไว้ให้แก่คนอื่นๆ ต่อไป

____________________________________
ดับแล้วที่ที่จากมา..ไม่พบที่ที่อยากไป
ดับแล้วผู้ที่จากไกล..ไม่พบใครที่อยากเจอ
จากคุณ : baballius [ ตอบ: 14 พ.ย. 51 23:52 ] แนะนำตัวล่าสุด 28 ก.ค. 49 | สมาชิกลานธรรมถาวร | ตอบ: 307 | ฝากข้อความ |

---------------------------------------------


อืม.... ก็อย่างที่ อิเจ้ ย้ำนักย้ำหนา นั่นแหล่ะ ว่า

-----------------------------------------------
พุทธศาสนา ไม่ช่าย ประกันชีวิต เอไอเอ เช่นกัน
ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องวิ่งหาลูกค้า เพื่อกินค่าคอมมิชชั่น
เพียงแต่เสียดายนิดหน่อย ที่หลักปฏิบัติดี ๆ
( ศีล สมาธิ วิปัสสนา และ สติปัฏฐาน )
มันไม่ได้ถูกนำมาใช้ประโยชน์
กับสิ่งมีชีวิตที่เรียกว่า คน อย่างเต็มที่ ^ - ^

-------------------------------------------



อืม...อิเจ้เห็นกาทู้ถาม มาว่า

ถ้าเราใช้หลักการตลาด 4P(Product Price Place Promotion)
มา ถ่ายทอด วิถีพุทธ กับหลักธรรม
ในพระพุทธศาสนา และ พระธรรม(คำสอน)นั่น
ตรงใหนที่เป็น Product ใหนเป็น Price ...

เฮ้อออ อันนี้ อิเจ้ก็ขอมั่วนิ่มตอบ ว่า หลักการตลาด 4P นี่
เอามา ถ่ายทอดวิถีพุทธ แล้วไม่เวิร์ค อ่า
เพราะ โดยหลักการมันก็ขัดแย้ง ตีกันเองแระ
4P นั้น เป็นการหยิบเอากิเลสตัณหาของคนมาใช้ประโยชน์
มันจึงเป็นการ ทำเพื่อจะเอา โดยมีเป้าหมายคือ กำไรสูงสุด


แต่วิถีพุทธ นั้น เป็นการพยาม กำจัดกิเลสตัณหาในตน
มันจึงเป็นการ ทำ เพื่อจะละ โดยมีเป้าหมาย คือ ความไม่มีอะไร
แล้วงี้มันจะไปด้วยกันได้ไงฟระ


เพื่อให้เห็นภาพ แบบเข้าใจง่าย ๆ
อิเจ้จะใช้ โดยใช้ หลัก 4C มาประยุกต์กับ หลัก 4 P
อธิบายมั่ว ๆ หั้ยฟังก็แระกันนะ อิอิ


1. Product a Consumer 's Need
( ผลิตสินค้าตามความต้องการของตลาด )

Product ของ วิธีพุทธ อันเป็น แก่นจิงๆ
ซึ่ง ตามความคิดของเจ้ ก็คือ

การเจริญสติปัฏฐาน 4 ( กระทบ รู้ ปล่อย วาง ว่าง หยุด )
อันจะนำไปสู่ การเกิดปัญญาที่จะรู้ตามจริง
ในเรื่อง กฏแห่งความไม่เที่ยงแห่งไตรลักษณ์ (การเกิดขึ้น ตั้งอยู่ และ ดับ ไป )
และ สามารถน้อมจิตให้ยอมรับ กับ คำว่า ตถตา ( มันก็เป็นเช่นนั้นเอง )
จนสามารถบริหารจัดการ กับความทุกข์ ที่เข้ามากระทบได้อ่ะนะ


แต่ตลาดวัยรุ่นเป็นตลาดแห่งการแสวงหา ที่ อัตตาสูงโคตร ๆ นะ
เด็กส่วนใหญ่ต้องการ หันเข้าหาธรรมะ ก็เพื่อตามกระแส
ให้ชาวบ้านเห็นว่า ตรูข้านั้นอินเทรนด์ เข้าถึงปรัชญา อันลุ่มลึก ได้ เท่านั้นอ่ะ
นาน ๆ ทีถึงจะมีไอ้พวกที่เห็นทุกข์ แล้ว จึงเห็นธรรม เป็นที่พึ่ง อ่ะนะ
ส่วนใหญ่ก็จะเป็นไอ้พวก อกหักรักคุดตุ๊ดเมิน อะไรทำนองนั้นแหล่ะ อิอิ


สรุปก็คือ ความต้องการของ ตลาดวัยรุ่น
ก็เหมือน ตลาดทุกวัย นั่นแหล่ะ
ทุกคนย่อมอยากจะพบเจอ วิถีทางแห่งการพ้นทุกข์
แต่ไอ้ สินค้าที่จะเอามาเร่ขาย ( สติปัฏฐาน 4 เนี่ย )
มันเป็นสินค้าที่ ขายได้ในวงจำกัดนะ
มีเงินอย่างเดียว ซื้อ ไม่ได้นะจ๊ะ
ต้องมีวาสนาจริต มีความพร้อมในหลาย ๆ ด้าน
ที่สำคัญต้องมีปัญญาด้วย






ถ้าเปรียบ สติปัฏฐาน เป็น จักรยานเมาเทนไบต์ ซักคัน
คนที่จะ ปั่นมันได้ ก็ต้อง รู้จักหลักการเรื่องสมดุล และ ทรงตัวให้เป็นก่อน นะ
แต่ การจะถ่ายทอด วิถีพุทธ หั้ยพวกละอ่อนวัยรุ่น นี่
มันก็เหมือนการพยามเสนอขาย จักรยาน ให้ เด็กทารก
ที่กำลัง อยู่ในวัยตั้งไข่เตาะแตะ ๆ นะ
ลำพังแค่จะ เดินเหิร ยังไม่คล่อง เรย
แล้วเด็กคนไหนมันจะอยากซื้อ จักรยาน มาปั่น ล่ะ
สู้นั่งเล่น ปั่นจิ้งหรีด หรือ นั่งเล่นเฟซบุ๊ค ไม่ดีกว่าหรือ


แต่ถ้าอยากจะเสนอขาย จักรยาน จริง ๆ
ก็ อย่าเพิ่ง เอา เมาเทนไบท์ ไปเร่ขายเรยอ่ะ
เด็กพวกนั้น มันยังปีกยังไม่กล้า ขายังไม่แข็ง นะ
เกิด หกล้มตกจักรยานขึ้นมา อาจคอหักตาย
จะเป็น อันตรายเปล่า ๆ


แนะนำว่า ให้ เสนอ Product ตามศักยภาพของลูกค้า อ่ะ
โดยให้ เสนอเป็นแพคเกจธรรมมะแนวอนุบาล( ทาน +ศีล + สมาธิ )
เป็น จักรยานสี่ล้อ ให้เด็กมันลองหัดขี่เล่น
เพื่อ ชิมลางก่อนดีกว่านะ จะได้คุ้นมือคุ้นตรีน
อย่างน้อยโตขึ้นจะได้ ต่อยอดได้ง่ายขึ้น
แล้วมันก็มองเห็นผลเป็นรูปธรรม
นำมาหาตัวชี้วัด ในการทำวิจัยได้ด้วย









2. Price a Cost of Appreciation (บริหารด้านราคาที่พึงพอใจทั้ง 2 ฝ่าย(รับได้ทั้ง 2 ฝ่าย)


อันนี้ ยิ่งยากส์ เข้าไป ใหญ่ เคยมีคนเคยบอกไว้ ว่า
วิถีพุทธนั้น เหมือน สินค้าไฮโซไฮซ้อ ที่ไม่ง้อ ลูกค้า น่ะ
ถึงจะเอา สินค้าตัวนี้ ไป เปิดท้ายขายของ ที่ตลาดแบกะดิน ไง
ราคาที่ลูกค้าต้องจ่ายเพื่อให้ได้มันมา ก็แพงลิบลิ่วนะ


ระดับ ธรรมานุบาล เนี่ย
แค่เรื่อง ทาน กับ ศีล 5 นี่ ก็หินสุด ๆ แล้วนะ
เพราะ ราคาที่ต้องจ่าย เพื่อให้ได้มา
มันต้อง สูญเสียทั้งทรัพย์ และ ความสะดวกสบาย
การต้องหวานอมขมกลืน ยืนหยัดต่อสู้กับ ความต้องการของอัตตา
เพื่อว่ายทวนกระแสของกิเลสตัณหา ( โทสะ โมหะ และ โลภะ )ในตัวเอง
ถามหน่อยว่า ถ้าต้องละทิ้ง ความสุขสะดวกสบาย ทั้งกาย และ ใจ น่ะ
ใครบ้างล่ะที่อยากจะจ่าย ? ในเมื่อ คนเรา ชอบความ สะดวก สบาย
หวงแหนความความสุข สนุก ออกปานนั้น


แต่นั่นคือ ค่าแป๊ะเจี๊ยะที่ทุกคนต้องจ่าย เพื่อให้ได้มา ซึ่งวิถีพุทธ
และเมื่อถึงจุดสุดท้าย มันก็จะนำไปสู่ ความว่างเปล่าที่ไม่มีอะไร นะ
เมื่อรู้งี้แล้ว ใครมันจะยอมรับได้ กับราคาค่างวดนี้ เพื่อ ซื้อความไม่มีอะไรล่ะ




3. Place a Convenience to Buy (มีสถานที่ซื้อขายสะดวก ทั้งผู้ซื้อ-ผู้ขาย)
อืม... ข้อนี้คงไม่ต้องแพล่มแยะ ก็ได้มั้ง
อันสถานที่สัปปายะ นั้น เจ้ว่า
ไม่จำเป็นต้อง พึ่งซินแส ดูฮวงจุ้ย
ก็คงจะคุ้ยหาได้ไม่ยากนะ
ถ้าเน้น เอาสะดวก ก็คงเป็น ที่ไหนก็ได้
ที่สิ่งแวดล้อมทางกายภาพมันเอื้ออำนวย
ไม่ร้อนไปเย็นไป ไม่ชื้นแฉะ และ ไม่อึกทึกครึกโครม ฯลฯ



ส่วนใหญ่ ถ้าเน้น เรื่องกินลมชมวิว เอาบรรยากาศด้วย
มันคงจะหนีไม่พ้น ตาม วัดวา อาราม
และ สถานปฏิบัติธรรม มั้ง
เพราะมันเข้ากับคอนเซปต์ และ ดูขลังดี
แต่สิ่งสำคัญที่สุด ไม่ใช่ สถานที่อัน เป็น สัปปายะ นะ
แต่มันเป็น ความฝักใฝ่ในธรรมะ ( ฉันทะ )
ของผู้ที่จะมารับวิถีพุทธต่างหาก


อย่าลืมว่า หาก แม่กุญแจ กับลูกกุญแจ มันเจอกันถูกคู่
ไม่ว่าจะ อยู่ที่ไหน มันก็ คลิ๊ก กันได้นะ
อ้อ แต่ฟังแล้ว อย่านึกครึ้ม
ทะลึ่ง ไปเผยแพร่ วิถีพุทธ ในเธคในบาร์
หรือว่าในอาบอบนวด ล่ะ
เพราะมันคงไม่เวิร์ค เท่าไร
เด๋วจะโดนถีบออกมาทางหน้าต่าง เอิ๊ก ๆ







4. Promotion a Communication (มีการสื่อสารถึงลูกค้า (โฆษณา) ที่หลากหลาย เข้าถึงลูกค้า)


เฮ้อออ เรื่องนี้ แค่คิดจะ โฆษณาชวนชื่อ
ก็สอบตก ตะแต่ยังไม่ได้จ่ายค่าแป๊ะเจี๊ยะ แระ
เพราะ ขนาดพระพุทธเจ้า ยังห้ามไม่ให้ สาวก
แสดง อิทธิฤทิธ์ ปาฏิหารย์ เรยนิ แร้วงี้ การถ่ายทอด วิถีพุทธ
จะเอา อะไร ไปเป็น จุดขาย ในการสร้างโปรโมชั่น ล่ะ
อ๊ะ ๆ อย่าตอบนะ ว่า เอาการดับทุกข์ทางใจ เป็นจุดขาย
ฟังดูเข้าท่าในหลักการ แต่ของแบบนี้ มันเป็นปัจจัตตัง
ไม่มีรูปพรรณสัณฐาน ให้จับต้อง อ่า ทุ่มงบ โฆษณาไง ก็ไม่เวิร์ค ว่ะ


อ้อ มีอีกวิธีนึง ที่พอจะถูไถ ทำแล้วได้ผลชะงัด
ก็คือ หา แบรนด์แอมบาสเดอร์ แจ่ม ๆ มาเป็นตัวแทน วิถีพุทธ น่ะ
บางที อาจจะช่วยให้ คนที่ได้พบเจอเกิดฟามเลื่อมใส
แล้วเดินละเมอ เผลอเข้ามาสู่วิถีแห่งพุทธปฏิบัติ ก็ได้นะเธอว์


อย่างเจ้ เนี่ย เริ่มถือศีลข้อ 1 ( งดตบยุง ) ได้
ก็เพราะ เกิดแรงบันดาลใจ จากการที่ เห็น อินู๋ปูเป้ เมทเจ้
มันไม่ตบยุงเลย ทั้ง ๆ ที่ โดนไอ้ยุงจอมตะกละ มันกินเลือดจนพุงกาง อ่ะนะ
ยังจำภาพที่ เมทเจ้ มันใช้มือค่อย ๆ ปัดยุง ออกไปจากแขน
ด้วยสีหน้าที่ สงบนิ่ง ไร้ความอาฆาตพยาบาท
ปราศจากโทสะ และ โมหะ ได้เรย อ่ะ
มันเป็น ภาพความประทับใจที่จำได้ไม่ลืมเลยนะ


คนเราน่ะ ถ้าประทับใจในสิ่งไหน แล้ว
ใจมันจะน้อมนำ ไปทางนั้นได้ง่ายขึ้นนะ
สิ่งนี้ น่าจะเป็นการโฆษณา
ประเภท บอกกัน แบ่บปากต่อปาก
( แบ่บภาพยนตร์เรื่องโหมโรง )
ที่จะช่วย ให้เราถ่ายทอดวิถีพุทธ สู่วัยรุ่น ได้ง่ายขึ้นล่ะมั้ง


แต่ถ้าจะใช้วิธีนี้ จริง ๆ ก็ต้อง เลือกเฟ้น
แบรนด์แอมบาสเดอร์ ดี ๆ ล่ะ
เกิดไปได้ วิญญูชนจอมปลอมแบ่บไอ้พวกงักปุ๊กคุ้ง
หรือ พวกสมภารกินไก่วัด แบ่บไอ้ตี๋โตหื่น
นี่ก็แย่นะ แทนที่จะได้ โปรโมท วิถีพุทธ
อาจทำให้เกิด ศรัทธาโกลาหล ใน หมู่พุทธศาสนิกชน แทน เอิ๊ก ๆ



แล้ว ไอ้ประเภท การเผยแพร่ แบบเอาขนมเข้าล่อ
ประเหลาะว่า ถ้ารักษาศีลแร้วนู๋ได้บุญมากมาย
ตายไปแล้ว จะได้ขึ้นสวรรค์ ชั้นดุสิตบุรีเฟส สาม
มีสร้อยส้มตำแหวนไก่ย่าง เป็น พัสตราภรณ์ นะจ๊ะ ๆ เนี่ย
อย่าทะลึ่ง เอามาทำเป็นแคมเปญเชียวนะ


เพราะมันเป็นการ บ่มเพาะสร้างมิจฉาทิฐิ
โตขึ้น เด็กมันจะกลายเป็นพวกละโมบในบุญ
จะตักบาตร แต่ละ ทัพพี ก็จ้องแต่จะใส่ก๊ะพระอริยเจ้าเท่านั้น
ไอ้นิสัย หว่านพืชหวังผลเนี่ย มันมีประโยชน์ แค่ในเบื้องต้น
แต่เมื่อถึงเบื้องปลาย มันจะกลายเป็นยางเหนียว
ที่จะทำให้เด็กมันกลายเป็นลิงติดตัง หมดสิทธิเข้าถึงวิถีพุทธ ที่แท้จริงอ่ะ


ว่าแต่ไอ้เรื่อง การจะเป็น โปรโมเตอร์ถ่ายทอดวิถีพุทธ เนี่ย
ไงก็ต้อง ระวังนิดนึงนะ ถ้าภูมิกึ๋น ยังไม่เพียงพอ
ถ้ายังเป็นแค่พุทธตามทะเบียนบ้าน สักแต่ว่าจะทำวิจัยอิงกระแส
เพื่อเอาใบปริญญา ไปแปะข้างฝา เนี่ย มันจะได้ไม่คุ้มเสียนะ
อยากให้ตระหนักด้วย ว่า การจะบ่มเพาะสัมมาทิฐิ
ในเรื่องเกี่ยวกับเรื่อง วิถีพุทธ ให้ละอ่อนวัยขบเผาะ เนี่ย
ถ้า ภูมิธรรมคนสอนไม่แน่นพอ ในระยะยาว
มันจะเจ๊งบ๊ง ทั้ง คนสอน และ คนเรียน ได้เรยนะ


สรุป
การใช้หลัก 4P กับ การถ่ายทอดวิถีพุทธ เนี่ย
มันไม่เวิร์ค ทำได้ลำบากมากมาย
แนะนำว่า หั้ย เปลี่ยน โปรเจค ใหม่ไปทำวิจัย
เรื่อง การใช้หลัก 4P มาช่วยกระตุ้นยอดขายถุงยางอนามัย แทนง่ะ
จะได้ทำวิจัยอย่างสะดวกสบาย และ จบ ป.โท ได้เร็วขึ้น
เผลอ ๆ บริษัทดูเร็กซ์ อาจจะมา สมทบทุน
ช่วย สนับสนุนเป็น สปอนเซอร์ หั้ยด้วย อ่ะ อิอิ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:55:09 น.  

 
 
 

ไอ้ตี๋ jittinon ว่า ...
ผมว่า ลองเอาพรหมวิหาร 4
เข้าไปใส่ใน 4 p สิครับเป็น ดับเบิ้ลโฟร์ฟอ ออลลลล์
++++++++++++++++++++++++

อิเจ้นู๋บีว่า ...

อิอิ แท้งกิ๋วเจ้าค่ะ ที่อุส่า แวะมาเล่นบทกุนซือหญ่าย
มาคอยให้คำแนะนำกัน ถึง ใน สุสานโบราณแห่งนี้
อืม...เอา พรหมวิหาร 4 มาใส่ใน 4p ก็ดีเหมือนกันแฮะ
โดยเฉพาะ ถ้า 4P อัน กอปร ด้วย เมตตา กรุณา มุทิตาที่คิดจะทำนั้น
มันเกิดแป๊ก เรทติ้งไม่กระฉูด เจ๊งบ๊งหมดตรูดขึ้นมา
คนทำจะได้ ไม่ทุกขัง เพราะรู้จัก วางใจ ให้เป็น อุเบกขา ไง อิอิ




ปอลิง

อ้อ ใน สุสานโบราณแห่งนี้
ม่ะได้มี แต่ เข็มบิน ก๊ะ กลิ่นสะตอ หรอกจร้าาาาา
โกปี๊ขี้ชะมด เราก็มี เอาไว้ชง เสิร์ฟหั้ยแขกเหรื่อ เหมือนกันน้า
ถ้าใคร มาดี ก็จะเจอ น้ำตาลในถ้วยกาแฟ
แต่ถ้า ใคร มาร้าย ก็อาจจะเจอ ยาเบื่อหมา ได้อ่า
ลองจิบ สักกรึ๊บ ไหมจ๊ะ ทูนหัวววววว เหอ...เหอ...

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:58:38 น.  

 
 
 



ถึงแควนขับ ทู๊กกกกทั่น
เนื่อในวาระดิถี ที่วันนี้ อิตั้วเจ้นู๋บี ตอบ จ.ม. แควน ๆ เสร็จแระ
เก๊าะเรย หาเรื่อง เบิกตัว เอาอิการ์ฟิลด์ ออกจากกะลา
เพื่อจาได้หอบน้ำลาย มาแล่งทิ้งทวน จร้าาาา


แต่ทว่า อย่าคาดหวังอะไรก๊ะ น้ำลายอิตั้วเจ้ มากนักเรยน้าาา
เพราะว่า ตั้วเจ้ ไม่ถนัดที่จะโชว์ ฟามเป็น ปู-ชะนี-ยะ-บุคคล อ่ะจ้ะ
ตั้วเจ้ ถนัด แต่โชว์อึ๋ม ก๊ะ โชว์เกรียน จร้าาา อิอิ






อืม...ตอนนี้ อิเจ้ก็ ตอบ จ.ม. แควน ๆ เสร็จสิ้น ตามที่สัญญาแระน้าาา
ขอนุยาด หายหัว เข้ากะลาครอบอันแสนสุข จิง ๆ แล้ว จร้าาาาาาาาาาาา
คราวนี้ตั้งใจว่า จาหายหัวไปจำศีลจนถึง ออกพรรษาปู้นนน อ่า
ไงก็ขออภัยด้วยน้าาาาา ถ้าต้องทำหั้ย ใครต่อใครชะเง้อคอยหา อิอิ
บ๊าย บาย ไว้พบกันใหม่ เมื่อชาติต้องการคร้าาาาาาาาาา

อ้อ อันนี้ แถมมมมมมมมมมมม อิอิ


//board.palungjit.com/f4/the-letter-จ-ม-เปิดผนึก-ถึงอิหม่ามี๊-330944.html



 
 

โดย: บัวหุบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบบ (นู๋บี ) วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:2:13:33 น.  

 
 
 
ตามมาอ่าน แระจ้า
ขอให้นู๋บี เขาสู่กะลามหาสนุก แบบไม่มีเรื่องค้างคาใจนะจ๊ะ
หม่ามิ๊ อยากบอกว่าความรู้สึกของหม่ามิ๊
ต่อพระอาจารย์ปราโมชนั้น
ก็คล้ายๆ กับ ที่นู๋บีรู้สึกต่อเจ๊ทมยันตี อะจะ
คือเราสามารถชื่นชมในความสามารถส่วนบุคคลของเขาได้
โดยแยกเรื่องความจริงส่วนตัวออกมาจากความจริงในเรื่อง
ของความสามารถส่วนตัวของเขาที่เราชื่นชม
เหมือนที่เราแยกเวทนากายกับใจออกจากกันนั้นแหละ เนาะ

และที่หม่ามิ๊ เห็นพระอาจารย์เป็นเหมือนพ่อคนที่2 นั้น
เพราะหม่ามิ๊ซาบซึ้งในน้ำใจที่หลวงพ่อมีให้เรา
ให้คำชี้แนะ ให้หนังสือ ให้ความรู้ โดยที่ไม่เคยขออะไร
จากเรา นอกจากการปฏิบัติเพื่อให้ตัวเราเองพ้นทุกข์
พ่อขอให้เราปฏิบัติบูชา เท่านั้น ท่านก็พอใจแล้ว
เรื่องอื่นๆ หม่ามิ๊ เห็นว่าพ่อเขาก็เฉยๆ
ไม่ได้ทุกข์ร้อนหรือวุ่นวายออกมาโต้ตอบกับใครๆ
แล้วเราจะไปเดือดร้อนแทนทำไม
แถมพ่อเองก็ยังบอกว่า อย่าไปใส่ใจไม่ใช่เรื่องของเราอีก
เรื่องของเราคือการปฏิบัติให้ได้มรรคผลนิพพานเท่านั้น
มันก็จบแล้ว ต่อให้ความจริงจะออกมาเป็นแบบไหน
หรือความจริงจะเป็นอย่างที่เขาพูดๆกัน
แต่พ่อคนนั้นก็งดงามในใจเราในมุมที่เรารู้สึกอยู่นั้นเสมอ

ถึงพ่อจะไม่ดีในสายตาของคนอื่น แต่พ่อก็ดีงามในใจเรา
เป็นแรงบันดาลใจให้เราปฏิบัติตามไป

นู๋บี ไม่ต้องเป็นห่วงอิหม่ามิ๊นะ
อิหม่ามิ๊ ยอมรับความจริงได้เสมอ และไม่ได้ยึดถือที่ตัวบุคคล

 
 

โดย: อิหม่ามิ๊ IP: 58.11.228.255 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:11:58:56 น.  

 
 
 
เกิดอะไรขึ้น ไหงไม่คุ้นสถานที่ซะเลย
แต่เพื่อนๆก็หน้าเดิมๆ
คิดถึงเน่อ!
(เหล่าฮูโรคถามหาตามมาเป็นพรวนน่ะ เป็นผลสืบเนื่ื่องจากเคยทำตัวเป็นโรงสีควัน เผาบุหรี่วันละ3-4ซองตอนหนุ่มๆมัง ตอนนี้เลยสาสม เหอๆๆๆ อันนี้บอกเฉยๆ ไม่มีใครถามร๊อก)

ตาแฉะยังไม่หาย ตอนนี้ตากระตุกตลอดน่ะ นึกว่าไม่เป็นไร แต่มันจะลามไปทั้งใบหน้าได้ เจอAuto Immuneเล่นงานแถมล่วย
(ไปตัดชิ้นเนื้อ เจอโรคชื่อLiken planusคงสะกดไม่ถูก แต่ชื่อนี้แหละ) มะรู้จะจองเวรอะไร มากันพร้อมเพรียงขนาดเน๊!

เน่ สหายเฒ่าทั้งหลาย เจียมเนื้อเจียมตัวเสียหน่อยเน่อ ถนอมพระวรกาย เหล่าฮูยังหนุ่มยังแน่นแต๊ๆ แต่อมโรคชะมัด เดี๋ยวจะลงมือปฏิบัติการไม่สะดวกเหมือนเหล่าฮูเน่อ ขัดข้องกั่วคนทั่วไปมากจ้่า

เหล่าฮูหาผู้พาดพิงไม่เจอ มะรู้ยังจะมีใครคิดถึงบ้างรึเป่า ตามอ่านไม่หมดน่ะ ตาจะเหลือก แต่เห็นแว่บๆ

อาโอวทึ้งดูเหมือนจะสนิทสนมกะเฮียMESดี เหอๆๆๆ ตลีดก-ตลกดี
(เหล่าฮูว่าเฮียเค้าเป็นคนดีมั่กๆนา อย่าไปชวนแกทะเลาะบ่อยไปล่ะ ปากแกสูสีกะโซ้ยตี๋ นานๆเจอกันทีก็ครื้นเครง แต่อย่าบ่อยไปล่ะ เดี๋ยวหมดสนุก)

เฮียเค้าคิดอะไรคล้ายๆกะเหล่าฮูไปซะหลายครั้ง คล้ายๆนู๋บี

มีครั้งนึงล่ะ ยกอุปมาเรื่อง3ก๊ก เกือบจะตรงเวลาเดียวกัน แต่เป็นแง่กงข้ามกันเท่านั้นน่ะ แปลกเด !

คนเรามีฟามบังเอิญสื่อได้ตรงกันบ่อยๆแบบมีนัยยะสำคัญได้นา เหล่าฮูคิว่าเจอบ่อย

พอดีเข้ามาเจอป้าขวัญ ขวัญใจของเหล่าฮูทีเดียว กะลังปรารภเรื่องทั่นปราโมทย์

เหล่าฮุไม่อยากสงวนท่าที เพราะชอบพูกตามใจปาก ไม่ชอบตามใจใครง่ะ
แต่ไม่ต้องพูกก็ล่ายไง เดี๋ยวจะทำให้วงแตก ไหนๆที่นี่ก็เหมือนกับดักระเบิดเต็มไปหมดอยู่แล้ว
สนุ๊ก-สนุก

อยากบอกว่า
ใครจะชอบ ใครจะชังใคร เป็นเรื่องส่วนตัวน่ะ เหล่าฮูเองก็มีชอบมีชังเหมือนทุกคน จึงเคารพความชอบส่วนตั๊ว-ส่วนตัวของทุกคน

แต่หากรักใครชอบใครเป็นพิเศษ มีหวังต้องยัดเยียดฟามชอบส่วนตัวให้ผู้นั้นเป็นพิเศษ ป้อนเป็นอภินันทนาการแก่สหายรักเสมอ
(แต่ตอนนี้ พวกเค้าหายล้วนไปไหนหมดไม่รู้อ่า สงสัยชื่นชมฟามคิดเหล่าฮูมาก เลยน้อมไปพิจารณาเนืองๆ หายเกลี้ยงเชียว น่าชื่นชม)

ริวๆนี้ เจอทั่นปราโมทย์ว่า สัมมัปทาน4 เป็นอัตตกิลมถานุโยค ฟังแล้วมึนตับ!

สัมมัปทาน4 กลายเป็นการทรมานตนเอง ก็ไหงพระพุทธเจ้าว่า เป็นธรรมอันเป็นฝักฝ่ายแห่งความตรัสรู้ คือ เกื้อกูลแก่การตรัสรู้

ทั่นเล่นพูดกงข้ามแบบเน๊ เหล่าฮูเสียเซ้วเลย
จนบัดนี้ไม่ยักมีใครมาตอบเหล่าฮูว่า ไหงทั่นว่าแบบเน๊!

ป้าขวัญเคารพท่านก็ดี ถ้าเคยเจอก็สงเคราะห์เหล่าฮูล่วย งงเจงๆเลย เรื่องเน๊

ส่วนเรื่องอื่นๆก็ว่าไปตามเรื่อง เหล่าฮูไม่อยากเอาธุระอะไรแล้วน่ะ พระสงฆ์ดีๆยิ่งมีน้อย อีกหน่อยเห็นทีต้องสมัครเป็นหลวงตากะเค้าละมัง ไม่ค่อยมีคนเสียสละไปบวชแล้ว

หวังว่า จะไม่เผลอไปเพ่งโทษคนอื่นผิดๆ กลัวเหมือนกันล่ะ ริวๆนี้ก็ไปพาดพิงหลวงตามาล่ะ
(กลัวจนขนหัวลุก อันเนื่องมาจากถูกกำชับไม่ให้ปรามาส แต่เหล่าฮูชอบทำกงข้าม)

ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
ช่างเถอะ มาถึงก็เปิดแผลตัวเองเล่นซะแล้ว

แต่ก็เคารพท่านนา เพียงตามไปดูเรื่องแม่ชีจอยที่ชอบย่องไปบนกุฏหลวงตาิตอนดึกๆ ตามดูแล้วเห็นว่า เสียหายไม่น้อยทีเดียว

แต่ยังเชื่อในฟามบริสุทธิ์ใจของท่านน่ะ แต่ไม่เชื่อพวกลูกศิษย์ที่มักจะยกเรื่องเส้นผม นุ่น-นี่กลายเป็นพระธาตุ

เอ เห็นท่านทำเฉยๆน่ะ ภาษาเหล่าฮูว่าทำไก๋ไม่รู้ไม่ชี้รับสมอ้าง

อย่างนี้ก็แย่เส่ เดี๋ยวใครๆก็แห่บูชาเศษซากเหล่านี้ เป็นสิริมงคลไปหมด
แล้วถ้ามีไครทะลึ่งเหมือนเหล่าฮู เอาพวกเศษแก้วเหล่านี้ไปวิเคราะห์ แล้วผลที่ได้ออกมา ปรากฏว่าว่ามันเป็นเศษแก้วธรรมด๊า-ธรรมดา แล้วใครจะรับผิดชอบเรื่องเน๊

หลวงตาเข้าเนื้อผุ้เดียวละม๊าง พลอยทำให้สาธุชนเสื่อมคลายจากคำสอนดีๆไปซะหมด


เสียดาย เสียดาย

วางระเบิดเสร็จ เหล่าฮูกลับลงรูก่อนแล้วกัน ไว้ค่อยแวะมาวางเป็นพักๆ
แล้วศานุศิษย์ทั้งหลาย อย่าเพิ่งแช่งชักหักกระดูกเหล่าฮูนา รอให้หายป่วยก่อน พักนี้ยิ่งสุขภาพไม่ค่อยดีอยู่
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:22:06:57 น.  

 
 
 
ต่อให้ความจริงจะออกมาเป็นแบบไหน
หรือความจริงจะเป็นอย่างที่เขาพูดๆกัน
แต่พ่อคนนั้นก็งดงามในใจเราในมุมที่เรารู้สึกอยู่นั้นเสมอ

ถึงพ่อจะไม่ดีในสายตาของคนอื่น แต่พ่อก็ดีงามในใจเรา
เป็นแรงบันดาลใจให้เราปฏิบัติตามไป
==========================================

ป้าขวัญ คิอย่างนั้นจินๆเร๊อะ!

เหล่าฮุย้อนมาอ่านอีกครั้งน่ะ
ต๊กใจ สะดุดกึกกงข้อความที่ว่า

ต่อให้ฟามจินจะเป็นอย่างที่เค้าว่า
พ่อคนนั้นก็งดงามในใจของป้าขวัญเสมอ

ไอ๊ย๋า ! จะดีเร๊อ!

งั้น ที่เค้าช่วยๆกันออกมาลากไส้โจรชั่วให้สังคมได้ประจักษ์(หมายถึงคนอื่นๆนา ไม่ใช่หมายถึงเฉพาะท่านปราโมทย์) เค้าก็มิกลายเป็นเสียแรงเปล่าหรอกเร๊อะ

เค้าก็จะเป็นคนไม่ดีในสายตาป้าขวัญตลอดไปน่ะเส่ ทั้งๆที่เค้าทำฟามดี แต่กลับมีคนไม่ดี ได้ไปนั่งงดงามในใจป้าขวัญ
(แล้วเหล่าฮู มิพลอยต้องไปอยู่ในมุมมึดๆเร๊อะ)

อย่างนี้ต้องฮึมฮัม เพลง
รู้เค้าหลอก แต่เต็มใจ ให้หลอก..........

หง่า !

แต่จะคิแบบไหน ป้าขวัญเลือกเอง ก็ต้องรับผลแห่งการเลือกนั้นล่วย

ยังไงล่ะก้อ ขอให้ป้าขวัญเลือกได้แต่สิ่งที่ดีงามเสมอๆ นา
หวังว่าจะเลือกได้ถูกบ่อยกั่วผิดก็แล้วกันนะ

เรื่องทั่นปราโมทย์เหล่าฮูไม่ได้ยุ่งนานแล้วน่ะ
ที่จินส่วนตัวยังเชื่อว่า ท่านน่าจะเป็นคนดีมากกั่วไม่ดี
เพียงบางฟามเชื่อของท่าน คงเป็นปัญหาใหญ่ ขัดกับพระวินัยร้ายแรง แต่ท่านมีมานะจนไม่อาจยอมสำนึกผิด
(และหวังว่าจะเป็นเช่นนั้นจินๆ)

คงไม่น่าจะไปไกลขนาดเป็นสมี เสพย์กามหรืออะไรที่ถึงขั้นหลอกลวงผู้คนแบบธรรมกาย ม๊าง
ถ้าอย่างนั้นละก้อ แย่เลย!
(ไอ้แว่นทำไชโย อีมีสีกาตั้งหลายคนแน่ะ ฟังเค้าว่า อยู่แถวสุทธิสาร คนนึง ย่านนั้นเป็นซ่องทั้งนั้นเลยนา เหล่าฮูรู้!)

เหล่าฮูก็ลุ้นว่า ท่านจะไม่ผิดร้ายแรงอะไร

แต่ท่าทีของท่าน ไม่ตอบสนองต่อข้อสงสัยในทางผ่อนเบา แต่กลับอาการหนักขึ้น ไปจัดอีเว้นท์ที่นั่นที่นี่
ถ้าเป็นเหล่าฮู จะสึกออกไปก่อน เพื่อคลายข้อครหา

เพราะมันไม่เป็นแก่นสารใดๆเลย
สึกแล้วบวชใหม่ก็ได้ จะได้หายข้องใจว่าหวงสมบัติ

แต่นอกจากจะไม่ยอมสึกหรือแก้ไขใดๆ ยังพยายามไปออกรายการอีก เหล่าฮูเอาใจช่วยไม่ไหวน่ะ
(เชื่อเถอะนะ เหล่าฮูเอาใจช่วยจินๆ ไม่อยากให้มีข่าวว่า พระดีๆต้องเสื่อมเสีย มันสะท้อนใจ)

เปลี่ยนเรื่องคุยดีกั่ว
แค่ต๊กใจเท่านั้น ที่มีท่าทีแบบว่า

อาสันตินันท์อีคงดีใจที่มีลูกสาวแบบนี้ (อ้าว! ต่ออีกนิดแล้วกัน)

ดีกั่วอาอ้อย ที่จู่ๆก็เอาพ่อในอดีตชาติมากระซวกไส้ โทษฐานไปตัดมิเตอร์ไฟของลูกสาวในอดีตชาติ ทั้งๆที่บริจาคที่ดินและเงินให้ และไม่รู้บริจาคอะไรๆอีกไปแล้วมั่ง
(แต่ลูกอ้อยก็น่าสงสัยว่า ไปบริจาคอะไรให้พ่อในอดีตชาติเกินธรรมดาพ่อ-ลูกรึเป่า มีท่าทีลับๆล่อๆจนทำให้เหล่าฮูไขว้เขว)
ส่วนตัวพ่อ ก็เทศน์ประจานลูกสาวในอดีตชาติแบบเผาขนทุกวี่ทุกวัน จนเค้าปิดกันให้แซ่ด(ขนาดเหล่าฮูยังได้ยินเลยอ่า)

เหล่าฮูเอง บังเอิญไม่ค่อยมีฟามเลื่อมใสในผู้ใดจนอยู่ในใจตลอด
บอกห้าย
สงสัยแม้แต่พระพุทธเจ้าน่ะ มะรู้อันนี้เรียกวิจิกิจฉาได้รึเป่า
(เอ หรือเรียกว่าปรามาส ชักสับสน)

รู้แต่ว่า
หากถูกใครต้ม เหล่าฮูจะจับเอามันผู้นั้นมาเชือดซ๊ามั่ง
ที่จิน ก็แค่จะเอาฟามจินมาเปิดโปงแง๋ๆ ไม่อยู่เฉย

อาหลงพ่อฤาษีนี่ไง เหล่าฮูอุตส่าห์ไปกราบ
หนอยแน่
อีเล่นไม่ซื่อ โกหกดื้อๆว่ามีพระพุทธเจ้ามานั่งประจำการอยู่บนหัวกบาล

สูเจ้าจงเชื่อในสิ่งที่ตูข้าพูกทุกประการ หาไม่แล้ว ตกนรก!

มาจนบัดนี้ ขอเรียนให้ป้าขวัญทราบว่า อาหลงพ่อฤาษียังอยู่ในใจเหล่าฮูเสมอ
อยู่ที่ว่า พอสบโอกาสก็ต้องลากไส้ทุกทีน่ะ ป่านนี้อีคงไปอยู่ในนรกที่อีเที่ยวขู่บ่อยๆซะเอง

อย่าปรามาสนะเมริง ตกนรกไม่รู้นะเฟ่ย!

เหล่าฮูไม่ปรามาส แต่สงสัยคำสอน
แต่เชื่อเป่า เวลาแสดงข้อสงสัย คนฟังจะพูกเป็นเสียงเดียวกันว่า เหล่าฮูปรามาส

มันแปลว่าอะไรฟระ กรูสงสัยม่ายล่ายเร๊อะ!

สงสัย จึง=ปรามาสไปโดยไม่รู้ตัว

จึงว่า
ถ้าอาหลงพ่อฤาษีเฒ่าอีตอแหลจินๆอย่างที่ว่า จึงต้องมีที่หมายคืออบายภูมิที่อีเอามาเที่ยวขู่ผู้คนอย่างไม่ต้องสงสัย
(แต่ถ้าม่ายช่ายล่ะ อันนี้ฟามซรวยต้องตกเป็นของเหล่าฮูอย่างมิต้องสงสัย เหอๆๆ แต่ จ้างก็ไล่เหล่าฮูไม่ทัน เหล่าฮูกะลังเร่งสปีด จะได้ไม่ตกอบายล่ะ บอกห้าย! แต่ถ้าไม่ทัน ใครจะไปเป็นเพื่อนเหล่าฮุมั่ง อาโซ้ยตี๋ ไปล่วยกันแมะเหล่าฮูกลัวเหงา)

แต่ ทว่า
เรื่องของอี จะไปตกนรกหมกไหม้ข้อหาจาบจ้วงพระพุทธเจ้าอย่างไร เหล่าฮูไม่ใส่ใจ
เพราะเหล่าฮูแค่ตามแก้ปัญหาเท่าที่ทำได้

แล้วอย่าคิว่า เหล่าฮูยังช่วยตัวเองม่ายล่าย อย่าเพิ่งคิไปช่วยผู้อื่นล่ะ

เหอๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

เหล่าฮูไม่อยากพูก
ว่าที่จิน เหล่าฮูต้องช่วยตัวเอง ตั้งแต่เป็นเด็กเล็กๆแล้ว
มาจนบัดนี้ (ปากใกล้จะเริ่มบิดเบี้ยว)
เหล่าฮูเอง ก็ยังจะต้องช่วยตนเองอยู่ทุกวันๆ พูกแล้วน่าเศร้าใจ
(หง่า จบเรื่องช่วยตัวเองก่อนละกัน เดี๋ยวจะลามไปเรื่องเอาอยู่-แตกแล้ว เสียใจฯลฯ เหล่าฮูว่ามันสุ่มเสี่ยงชอบกล)

พูกถึงเรื่องนี้ สงสารหมวยปูจินๆ ไม่รู้จักสะพานคอนกรีต จะบ้าตาย
อาหมวยเอ๊ย ทำไมตั้มไบ่ขนาดนี้น๊า เหล่าฮูตาสว่างแล้ว
ต่อไปนี้จะตัดใจจากหมวยปูแบบไม่หันไปมองอีก
อย่ามาสะกิดซะให้ยาก

ปล.
อาไจ่ไจ๋ไปผจญภัยกะลัทธิพระสีอานล่ะ นัยว่าแตกหน่อมาจากลัทธิปามาด เห็นแล้วเก๊กซิม เพื่อน4-5คน ทั้งก๊วนน่ะแหละที่ไปน่านด้วยกัน เข้ารีตหมด มีการรับพลัง ลูกบอลเก็งกิลูกใหญ่
มีเพื่อนคนนึงถึงกับรับไม่ไหว ต้องล้มตัวลงนอนเลย(หมอเป็นเด็กหัวดี เป็นเลิศในรุ่นแล้วมัง เชื่อซะสนิทใจ)

ไจ่ไจ๋เป็นคนเดียวมังที่ไม่เชื่อแม้แต่น้อย
อต่อีทำไก๋ล่ะ ไม่รู้ไม่ชี้ แต่เพื่อนๆเห็นผิดสังเกต

ตอนเข้าค่าย เจ้าหัวโจกในกลุ่มจู่ๆก็ขู่ขึ้นว่า เห็นปีศาจเต็มไปหมดในห้องที่พวกเค้าจะนอนกัน อย่าขึ้นไปชั้นบนหรือลงไปข้างล่าง ให้รอจนตี1ก่อน

อาไจ่ไจ๋เลยลุกขึ้นพาสาวๆไปส่ง ลงไปฉี่ พาเพื่อนขึ้นไปเอาเป้ที่ชั้น5 ขึ้นๆ-ลงๆอยู่คนเดียว

55555555555555555555555555555555555555
เหล่าฮูชื่นใจมั่ก มีลูกชายกวงซ่งติงแบบเดียวกะป๊ะป๋า ซ้ำยังวู่วามกั่วเสียอีก เหอๆๆๆๆๆๆๆ

เน่ เค้าจะไปน่านอีกแล้ว ก๊วนนี้ เที่ยวนี้อีไม่ไปล่วย เพราะ พอให้อีนั่งหลับตาไปเห็นสวรรค์วิมาน แล้วดันไม่เห็นซะที
ปรากฏว่า ไอ้พวกผู้ช่วยจะเข้ามารุมล้อม4-5คน ส่งพลังให้ จนกั่วอีจะมองเห็น
เฮ่อ
ป้าขวัญดูเส่
ถ้าอาฤาษีอีหลอกลวงผู้คนอย่างเหล่าฮูว่า อีก็ทำสำเร็จ จนกลัวกันขรี้หดตรดหาย ลูกๆหลานๆที่เฉลียวฉลาด ยังเชื่อซะสนิทใจ
ยุคหน้า เด็กพวกนี้จะกลายเป็นตัวอะไร ไม่กล้าคิดเจงๆ

(อุ๊ยะ เลิมไป เพิ่งบอกไปหยกๆว่าจะเลิกนินทาพระ นี่เหล่าฮูทำอะไรลงไปเนี่ย ขอนุยาดมุดลงรูก่อน ไว้ค่อยมาวางระเบิดใหม่เน่อ!)
 
 

โดย: ใครก็มะรู้! IP: 171.98.63.113 วันที่: 18 มีนาคม 2555 เวลา:18:17:53 น.  

 
 
 
หุหุ อาเหล่าฮู รับมะได้หรอ เรื่องพ่อที่เคารพของป้าขวัญ!!!

อิอิ

อาเหล่าไม่ศรัทธา ละสิ ว่าพระรัตนตรัย น่ะ
ไม่มีอะไรมาทำลายได้ หรอก ถ้าพุทธศาสนิกชนปฏิบัติตาม
คำสอนของพระพุทธองค์อย่างแท้จริง
แต่ถ้าพุทธศาสนิกชนอ่อนแอ ซะเอง ทั้งแมงทั้งด้วงก็มาเจาะ
มาไช มาเอาพุทธศาสนิกชนผู้อ่อนแอไปเป็นอาหารได้เสมอ

และก็อนุโมทนากะอาใจใจ๋ ด้วยนะ
ที่มีสติปัญญาเป็นของตัวเอง ไม่โดนคนอื่นครอบงำเอาง่ายๆ
จิตแข็ง ดี นะ

เรื่องพ่อคนที่2 นี่ อาเหล่าขวัญคิดเองคนเดียวนะ
หลวงพ่อไม่ได้มารับรู้ด้วยหรอก
ถามอาเหล่าฮูนะ ว่า อาเหล่าฮู
เห็นด้วยกับเตี่ยหรือแม่ ทุกเรื่องเป่า
มีเถียงในใจบ้างไหม และมีคาดหวังกับเตี่ยกับแม่ว่า
ต้องเป็นยังงั้นยังงี้ห้ามคิดผิดห้ามคิดต่างจากลูกด้วยหรือเป่า
พ่อให้อาหารที่ถูกจริตกับเรา 1 มื้อ ก็คือมีพระคุณต่อเรา
ทำให้เรามีแรงทำการทำงานได้ 1 มื้อ พ่อให้ทุนเราไปตั้งตัว
จะกำไรหรือขาดทุน ก็อยู่ที่เราทำตัวเราเอง ไม่ได้เกี่ยวกับ
พ่อหรือเกี่ยวกับใคร จริงไหม และถ้าสมมุตินะพ่อทำผิดขึ้นมา
เพราะอะไรก็แล้วแต่ เราก็พร้อมจะให้อภัยพ่อได้เสมอ
ไม่มีความคิดจะกระทืบซ้ำหรือทำร้ายซ้ำเติม
เพราะพ่อทำกรรมก็ต้องรับกรรม หรือใครจะพูดอะไรเกี่ยว
กับพ่อ เราก็รับฟังเฉยๆ เพราะพ่อก็มีความคิดและเจตนา
ของท่าน ซึ่งเราก็ไปก้าวก่ายไม่ได้อยู่แล้ว จะไปเดือดร้อน
แทนเมื่อมีคนว่าร้าย หรือจะไปปลาบปลื้มเมื่อมีคนชื่นชมพ่อ
มันก็ไม่ใช่หน้าที่เรา แต่เรื่องทั้งหลายเราไม่ได้เจอกับ
ตัวเอง เป็นเรื่องมีคนเล่ามาอีกที แล้วเราจะเอามาเป็น
จริงเป็นจัง หรือพิสูจน์ความจริงไม่ได้ ก็อย่าเพิ่งเอาไป
ตัดสินใครๆ คนที่เขาร้อนตัว ว่าถูกหลวงพ่อว่า ก็ว่ากันไป
เราจะเดือดร้อนอะไรกับเขาล่ะ เพราะเราไม่ได้รู้จริงไม่ว่า
เรื่องของหลวงพ่อหรือเรื่องของใคร ฟันธงไม่ได้ก็มีแต่เรื่อง
บั่นทอนจิตใจ สู้มาทำตัวเองให้เป็นที่พึ่งของตัวเองให้ได้
ยังมีประโยชน์กว่า จะไปยุ่งเรื่องผิดถูก ก็ยังไม่รู้จริง นะ

 
 

โดย: ป้าขวัญ IP: 110.169.237.240 วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:12:02:11 น.  

 
 
 
เรื่อง ริวๆนี้ เจอทั่นปราโมทย์ว่า สัมมัปทาน4 เป็นอัตตกิลมถานุโยค ฟังแล้วมึนตับ!

เรื่องนี้ไม่ได้ฟัง อาเหล่าฮู ก็ลองยกมาให้อ่าน สิ
จะได้พิจารณาได้ ว่าเจตนาหลวงพ่อต้องการสอนอะไร

ส่วนใหญ่ท่านก็จะสอนอย่างหนึ่ง แต่คนฟังที่ไม่ไเข้าใจ
ก็จะเข้าใจไปอีกอย่างหนึ่งนะ

อย่างอันนนี้ ยกมาจากพันธ์ทิพย์ เห็นเขาเขียนไว้ดีแล้ว
ก็จะยกมาให้ดูว่าเขาเข้าใจกันว่าอย่างไรกันบ้างในเรื่อง
"ความพยายามคือความล้มเหลว" ในความหมายที่หลวงพ่อ
สอนให้เฉพาะบางคนเท่านั้น
ท่านไม่ได้หมายถึงความพยายามที่เราเข้าใจกันทั่วไป
เพียงแต่ชี้ให้เห็นความพยายามที่ตั้งไว้ไม่ถูกที่ไม่ถูกทาง
มันเป็นเรื่องละเอียดอ่อน นะ ฟังไม่ดีก็อาจเข้าใจผิดได้

หากใครลองค้นบทความของหลวงพ่อปราโมทย์จะไม่พบข้อความว่า "อย่าจงใจปฏิบัติ", "ห้ามจงใจ ห้ามตั้งใจฝึกสติ" แต่จะพบข้อความว่า "ให้รู้ทันความจงใจ" ก่อนจะลงมือปฏิบัติ และ "คอยรู้ทันความจงใจ" ที่เกิดขึ้นในเวลาปฏิบัติ

ในทางตรงข้าม หากพูดถึงแนวทางการปฏิบัติที่ผู้ฝึกฝน "รู้ตัว" ว่าตนเองกำลังจงใจ เช่นแนวหลวงพ่อเทียนที่จงใจยกมือสร้างจังหวะ หลวงพ่อจะสนับสนุนว่าหากถนัดก็ให้ทำไป แล้วให้คอยรู้ทันความจงใจไปด้วย อย่าให้จงใจมากไป อย่าหลงทำไปโดยไม่รู้ว่ากำลังจงใจ

และแทบทุกครั้งที่พูดถึงความ "ไม่จงใจ" จะเป็นการพูดถึงการสังเกต "ผล" ที่เกิดขึ้น เช่น สติเกิดขึ้นเองโดยไม่ได้จงใจ จิตตั้งมั่นโดยไม่ได้จงใจ เหมือนกับลักษณะของบทความข้างต้นที่ยกมา

ทั้งนี้จากที่ผมทราบ หลวงพ่อปราโมทย์จะพูดเรื่องการจงใจบ่อยที่สุดกับผู้ปฏิบัติบางคนที่มาถามท่าน โดยท่านคงพิจารณาแล้วว่าคนที่กำลังถามนั้นมีความจงใจมากเกินไปโดยไม่รู้ตัว จึงต้องบอกให้รู้ตัว ให้คอยสังเกต แต่บางคนที่ท่านบอกแล้วก็ยังไม่เข้าใจ ท่านก็มักใช้คำแรงขึ้นจนถึงกับว่า "ความพยายามคือความล้มเหลว" โดยอาจเพราะคนผู้นั้นไม่ยอมหันกลับมามองความจงใจที่มากเกินไปของตนสักที
 
 

โดย: ป้าขวัญ IP: 110.169.237.240 วันที่: 19 มีนาคม 2555 เวลา:13:01:27 น.  

 
 
 
อีเจ้รองและอาตั้วเฮียเล่าฮู เรื่องสัมมัปทาน4 ที่หลวงพ่อปราโมช บอกเป็นอัตตกิฯน่ะ
ในความเห็นของอั้ว มันหมายถึง ธรรมทุกธรรมต้องละเสียก่อน จึงจะปฏิบัติ แล้วไอ้การละมันขึ้นอยู่กับ ไตรลักษณ์
และสัมมาทิฐิ คนไหนยังไม่ได้ไตรลักษณื เข้าไปปฏิบัติธรรมใดมันก็จะยึดเอาธรรมนั้นมันเป็นอัตตา และเป็นอัตต
กิลฯที่หลวงพ่อบอกนั้นแหล่ะ

ถ้าสังเกตุให้ดี หลวงพ่อท่านจะสอนแต่ให้รู้อารมณ์มีสติแค่นั้น เพราะว่าท่านจะให้ได้ไตรลักษณืเสียก่อน

ฝากเจ้รองไปถามหลวงพ่อดูว่าใช้อย่างที่อั้วบอกมั้ย
สมัยนี้มันสอนมั่วกันไปหมด สอนข้ามขั้นตอน
มันเล่นเอาอริยมรรคมีองค์แปดมาสอนปุถุชน
อยากจะบ้าตาย
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 115.87.153.15 วันที่: 21 มีนาคม 2555 เวลา:4:18:09 น.  

 
 
 
//www.antiwimutti.net/forum/index.php?PHPSESSID=0cu1pnkf0hd0ro8i27fvoir2g4&topic=1861.msg31672#msg31672

=================================

ประมาณนี้น่ะ ป้าขวัญ!
ต้องขออภัยก่อนนา เหล่าฮูปากเป็นแบบนี้แหละ ไม่เจตนาด่าเตี่ยของป้าขวัญให้ฟัง เหล่าฮูไปเจอเข้า เห็นเค้าเอามาแปะ ก็งง และไม่เคยตามไปหาหนังสือเล่มดังกล่าวร๊อก เพราะเอาแค่ข้อต้นๆ เช่นอวดอุตริฯ สำหรับเหล่าฮู ท่านก็สอบตกแต่แรกแล้ว ไม่ต้องไปมองไกลถึงเรื่องอื่นๆ เพราะถ้าท่านเคารพพระวินัย จะไม่ทำแบบนี้เด็ดขาด แต่ตรงกันข้าม ท่านโหมโฆษณาจนเกินเลย

จะว่าไป พระชื่อเสียงโด่งดังหลายท่านก็ทำเช่นนี้ สำหรับเหล่าฮูแค่รู้สึกว่า บางท่านไม่มีเจตาเพื่อโภคทรัพย์อะไร ก็ไม่ใส่ใจมากนัก ดูที่เจตนาเป็นหลัก แต่ของท่านปราโมทย์ เหมือนอ้าปากก็เห็นลิ้นไก่น่ะ เหล่าฮูเลยรู้สึกไม่ดีที่เห็นคนกันเองเผลอหลงไปกับเขา โดยเฉพาะคนที่เป็นที่รัก ก็จะยิ่งปกป้อง

ป้าขวัญเก่งคอม ถ้าไปเห็นเด็กนั่งเถียงเรื่องคอม เผลอๆก็มาเถียงป้าขวัญ หนักๆเข้าก็ระอาช่สยแมะ พลอยไม่ต่อปากล่วย
เหล่าฮุทำแค่ชี้แจง ชี้แล้วก็แล้วไป หวังว่าเป็นระเบิดเวลาแห่งปัญญา วันนึงเมื่อฟามจินปรากฏนะ ไอ้สิ่งที่เหล่าฮูพูกๆไปเนี่ย มันจะรีคอลโดยอัตตโนมัติ

ถ้าฟามจินปรากฏว่า เณรคำเค้าถูกจับสึกปราชิก(ซึ่งโดนไปแล้ว เณรคำปัญญาพโล) เรื่องอื่นๆหรือเณรคำคนอื่นๆที่เค้าเคยผ่านตาจากที่เหล่าฮูแปะ เค้าก็จะพลอยย้อนนำมาพิจารณาไง รวมทั้งสมีรายอื่นๆล่วย แต่บางคน ถึงฟามจินจะปรากฏ ก็ยังจะขอเคารพตลอดอย่างที่ป้าขวัญว่างดงามเสมอ เหล่าฮูพลอยไม่อยากก้าวก่ายป้าขวัญเรื่องฟามเชื่อ ทั้งเคยยกเรื่องเปรตกู้มาเล่า รวมทั้งเรื่องอื่นๆแล้ว การตัดสินใจขึ้นอยู่กับผู้อ่าน อะไรเป็นข้อเท็จจิน อะไรเป็นฟามเห็น ก็ว่ากันไป

เน่ ! อย่าว่าโง้นงี้เลยนะ เหล่าฮูเองปฏิบัติธรรมตามแนวท่านมหาสี-สยาดอ แต่ฮูหยินเฒ่าดันชอบสายพระป่า ซึ่งเหล่าฮูค่อนข้างแอนตี้ ยังทำอะไรกะอีม่ายล่ายเลย น้องๆไปแนวหลวงพ่อเทียน ลางคนอาการหนักเป็นคริสต์ตัง และอีกคนก็คริสเตียน

ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เหล่าฮูตามตอแยไม่ไหวร๊อก เรื่องของอี ขนาดพี่น้องแท้ๆอียังไม่เงี่ยหูฟัง แล้วเหล่าฮูจะมาเซ้าซี้คนอื่นก็เห็นจะเหนื่อยเปล่าน่ะ

แค่นี้ก่อนจ้า เหล่าฮูต้องจากไปสักระยะด้วยภารกิจ แล้วจะกลับมาใหม่เมื่อพร้อม คิดถึงเสมอเน่อ!
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:16:19:22 น.  

 
 
 
อยากพาโอวทึ้งเข้าป่าไปล่วยจินๆ ไปมั้ยอ่า เหล่าฮูเป็นวีไอพี ชอที่พักดีๆได้น่ะ ข้างล่างกุฏิมีรังงูอยู่2รังละ เป็นงูเห่าชื่อไอ้ด้วน แต่มันคงใจดีไม่กัดใคร และกุฏิเหล่าฮูเฮี้ยนล่วย สนุกดี กี่วันก็ล่าย ถ้าพร้อมๆไปล่วยกันแมะ!

บอกห้าย มรรคมีองค์8เป็นสาระสำคัญ ถ้าไม่มีอันนี้ ไม่เกิดญาณปัญญานา มีที่อ้างอิงในพุทธดำรัส สะดวกๆจะเล่าให้ฟัง ลองไปค้นในธัมมจักรกัปปะวัฏนสูตรเน่อ อยู่ในนั้นแหละ อันไหนที่ไม่ทำให้มรรคเกิด อันนั้นใช้ม่ายล่าย

พระป่าท่านไปเอาเทคนิคมาจากลาว ซึ่งไม่อยากเซด เดี๋ยวไปปากเปราะล่วงเกินพระเถระไปซะ เหล่าฮูเคารพพวกท่าน แต่ต้องว่าตามคิด ถ้ามีฉันทะเจงๆ โซ้ยตี๋ไปล่วยกันเน่อ จะได้นั่งคุยกันนานๆ ไม่งั้นมันพูกสั้นๆก็ไม่เข้าใจน่ะ

อ้อ ตามอ่านสัมมัปธานสี่ล่วยนา อาหลงประเด็น เอีย ท่านตรงฯ เป็นหมอล่วย เค้าเก่งสุกๆ เคยชี้แจงเรื่องนี้แล้ว ตามลิงค์ในกระทู้น่ะ แต่ของเหล่าฮูตามเจอทีหลัง ต๊กใจ เรื่องนี้มันไม่เอาไหนเล๊ย อ่านแล้วจะเข้าข้างยังพูกไม่ถูกน่ะ ท่านเป็นหนอนเท่านั้น แต่ไม่ค่อยลงมือ เหล่าฮูว่านะ จะรู้ว่าเค้ามีปัญญาหรือไม่ ต้องฟังจากที่เค้าพูก คนมีปัญญาฟังก็รู้ คนไม่มีปัญญาฟังก็ไม่รู้ เหล่าฮูแม้จะมีฟามเห็นเป็นคนละฟากกะเพื่อนๆ ก็ไม่เคยตั้งแง่นา กลับพอใจเสวนากะผั่งนี้มากฝ่าซะอีก แปลกแมะ ทั่นmesนี่ เหล่าฮูถูกชะตา แต่ก็ไม่เคยเม้าท์กะทั่นmesเหมือนคุยกะเพื่อนๆในนี้น่ะ ที่นี่คุยล่วยแล้ว ตลกสุกๆ อารมณ์ขันกันซะมาก เหล่าฮูไม่ค่อยเกร็ง แต่ที่นุ่นเกร็งจัง แต่ก็นับเถอน้ำใจกันน่ะ

ต้องปายล่ะ จะไปอยู่บนดอยสักระยะ อย่าเลิม ว่างเมื่อไหร่ไปลุยกันเน่อ เชื่อเส่ จะได้อะไรดีๆแยะนา ขอบอก!
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 23 มีนาคม 2555 เวลา:16:34:45 น.  

 
 
 
อ่ะแฮ้มมมมมมมมมมมมมมมม
อิอิ อมน้ำลายได้อาทิตย์ฝ่า แระ
เรยแอบแง้มกะลา แวะมาเชคเรทติ้ง
( ระหว่างนั่งสับปะหงก รอลงเวรบ่ายจร้าาาา )


อิอิ แท้งกิ้วสำหรับทุก ๆ คะแนนเสียง ของแควน ๆ
ที่ลงขันมาร่วมด้วยช่วยโพส แวะมาแจมเพิ่มเรทติ้ง
หั้ยกับสุสานโบราณแห่งนี้เจ้าค่ะ
(แม้ว่า บางโพส มันจะเป็นการ
เข้ามา หย่อนระเบิด ทิ้งไว้ก็ตาม เหอะ ๆ )


แต่ไงซะ ข้าฯ ลี้มกโช้ว คนนี้
ก็ขอ อนุยาด สมนาคุณ แฟนานุแฟน
ด้วยการแก้ผ้า โชว์สะดือ หั้ยทุกทั่นได้เห็นเป็นบุญตา
อีกจั๊กดอกส์ สองดอกส์ นะเธอว์ เหอ...เหอ...

บ๊ายบายจร้าาา เด๋วจาลงเวรแระ อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 24 มีนาคม 2555 เวลา:0:11:34 น.  

 
 
 
อ่านไม่ไหวเว้ยยยส์ เจอตัวจริงเมื่อไหร่ จะเมาดิบแกล้งปล้ำลูกสาวป้าบัวผ่องสักที เสียผีเท่าไหร่วะนั่น ไก่ครึ่งตัวเงินสามสิบก็พอ เพราะปากอย่างงี้ให้ฟรียังต่อเลยย นี่เห็นซี้กันมานาน หยวนๆให้แค่นี้แหละนะป้าบัวผ่อง
สาวปากกเหรี่ยงคอยาวตนนี้ มันด่าเจ็บลึกถึงวิญญาณ เลยต้องด่ามันก่อน ตัดไม้ข่มนาม ตามตำรา เออว่าแต่ ยาวจิงๆ นังปากกะเหรี่ยงตัวดี เอายาโรงบาลเขาไปทำเฟดแอมเฟตามินรึปล่าววะ จะได้ไปเยี่ยมถูก ติดกี่ปี ที่ไหน ส่งข่าวด้วยนะยะ ไปแล้วเว้ยยส์ มาแก้แค้น
 
 

โดย: สับสน IP: 223.206.1.11 วันที่: 28 มีนาคม 2555 เวลา:22:36:09 น.  

 
 
 
ป้าบัววผ่องแกบอกยกให้เผ่า แม้วไปแล้ว แม้วมันเอามาคืน กระเหรี่ยงมาต่อรอง..เหล้า2บาท ตีนไก่ 1 คู่เลยหยวยนๆยกให้ไปอีก ดันไปขน ยาฟูโด ซะนี่
สงสัยกระเทยนู๋บี..ติดคุกปล่าวนี่ ทำไมไม่ตอบ จะไปเยี่ยมแล้วด่าข้างเดียวนี่มันจิงๆ..ว่างๆจะมาด่ใหม่นะ
 
 

โดย: สับสน IP: 223.205.90.239 วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:19:12:46 น.  

 
 
 



เฮ้ยยยยยย ชั้นหรือ ก็อุส่า ไปจุดธูป
นิมนต์ หล่อนมาในสุสานโบราณ แห่งนี้
ด้วยหวังจาอาศัยยื้มมือยื้มตรีน หล่อน
มาช่วยไล่ตื้บซ้ำเติม ไอ้กิ๊กนอกกฏหมาย หั้ยชั้นซะหน่อย
เพราะอย่างน้อย ไอ้สองตัวนี่ ก็ เป็น ศิษย์คนละครู ดูจิตคนละแนว
หล่อนก็ดั๊นเสือกไม่ทำตามบท ไม่เล่นตามสคริปต์ ซะอีกแหน่ะ
ฮึ่ม เห็นที เทียวเสี้ยม คนนี้ จาต้องปลดหล่อน
ออกจากเก้าอี้ กัลยา ณ มิตร ซะละมั้ง ไอ้หอกหักเอ๊ยยยย


เฮ้อออออ อ่านที่หล่อนแพล่มแร้วชักม่ะแน่ใจซะแระ
ว่า ตกลง ตรู กะ ไอ้ลาเฒ่าหัวดื้อ
ยังจาถือน้ำสาบาน เป็น กัลยา ณ มิตร กัน อยู่ ไหมเนี่ย
แมร่ง แว้ด ๆ ฉอด ๆ ด่าซ้า หูชาเรยวุ้ย หุหุ



นี่ ๆ หล่อนบังอาจมาใส่ร้ายป้ายสี
หาว่า สาวสวยหมวยอึ๋ม ปากนิดจมูดหน่อย อย่างช้าน
มันเป็นพวก อิปากกะเหรี่ยงคอยาว ได้ไงฟระ
ชั้นน่ะ เป็น ปู-ชะนี-ยะ-วัตถุ ผู้ทรงคุณค่า เชียวนะยะ
ม่ะเชื่อ หล่อนลองโทรจิตไปถามไอ้ตี๋ก้วยยี้ ดูดิ
เนี่ย มันยังเคยร้องจู่จุ๊กกรู การันตี ดีกรีฟามสวยแจ่ม หั้ยชั้นเรยว่ะ โฮะ..โฮะ



แล้วก็นะ ไอ้เหล้า2บาท ตีนไก่ 1 คู่ เนี่ย
เชิญหล่อน ไปออกเป็นร่าง พรบ.
เอาใว้ เรียกเก็บเป็นค่าผิดผี
เวลา มีไอ้ชายหื่นหมื่นกาม มาแกล้งเมาดิบ
ตามไล่ปล้ำ เอ๊ย ไล่จีบ ลูกสาวฝาแฝดของหล่อน ก็แล้วกันย่ะ


สำหรับปูชะนียะวัตถุ ใจดี อย่างช้าน
ม่ะคิดจา รีดนาทาเร้น อะไร กะหล่อน หรอกยะ
ถ้าหล่อนกล้ามาเมาดิบไล่ปล้ำลูกสาวป้าบัวผ่องจิง ๆ อ่ะนะ
เด๋วอิป้าบัวป่อง จาแถม ข้าวสาร 9 กระสอบ
น้ำปลา 3 โหล และ ซีม่า โลชั่น 1 ขวด เป็นของรับไหว้ หั้ยด้วย ซ้ำ อ่ะ


แหม ? ไหน ๆ ก็ กรีดน้ำเหลือง สาบานเป็น กัล ยา ณ มิตร
ทนมือทนตรีน เอ๊ย ร่วมทุกข์ร่มสุข ช่วยเหลือ เกื้อกูลกันมา
ตะแต่สมัยอยู่ พันติ๊ป กันแล้วนิหน่า
ถ้าหล่อนจา เล่นบทกัลยา ณ มิตรคิดไม่ซื่อ
ยัดเยียดตัวเองมาเป็น ลูกเขย ช้าน
ช้านก็ ไม่ว่ากันหรอกจร้าาาาา ไงซะก็ กากีนั้ง นี่น่ะ หุหุ


แต่ หล่อนต้องหั้ยคำมั่นสัญญา กะชั้นก่อนนะยะ
ว่า หล่อนจาต้องเลี้ยงต้อย...เอ๊ย...เลี้ยงดูปูเสื่อลูกสาวชั้น
แบ่บริ้นไม่ให้ไต่ไรไม่ให้ตอม ไม่ชิงสุกก่อนห่าม
ยอมแขวนกางเกงใน อดเปรี้ยวไว้กินหวาน
คอยประคบประหงม ส่งเสียให้มันเรียน
ตั้งแต่ อนุบาลหนึ่ง จน ถึง ปริญญาเอก

และ ถ้า เรียนจบดอกเตอร์
แล้ว มันเสือกเดินละเมอเผลอหนีไปกับชายอื่น
หล่อนต้องรู้จัก อโหสิกรรม ทำอภัยทานหั้ยอิลูกสาวชั้นด้วยน้าาาา
ห้ามมาโล้งเล้งเม้งแตก ฟ้องศาลปกครอง
หั้ยชั้นรับผิดชอบแทนมันนะเฟร้ยยย อิอิ


อ้อ แต่ก่อนที่ชั้นจา ยกลูกสาวชั้นให้หล่อน ได้เนี่ย
ชั้นคงต้องขออนุยาดไป ควานหา บุรุษผู้เป็นสาธุชนคนดี
มาเป็นพ่อพันธุ์ผลิตลูกสาวให้ก่อนนะยะ
เฮ้ออ นี่ก็ไม่รู้จาหาได้ไหมว่ะ เพราะไอ้ผู้ชายตะละคน
ที่หลุดเข้ามาในวงโคจร อยู่ในจักรวาลเดียวกะช้านเนี่ย
ล้วนแล้วแต่เป็นพวกไอ้ทรชน คนขี้หลี
ที่เป็นโรคหอบหื่นกำเริบ (เหมือนหล่อน )ทั้งนั้นเรยว่ะ
เห็นแล้วก็อยากจะเอาไปสต๊าฟไว้ดูเล่น
มากกว่าที่จะเอามาทำพันธุ์ว่ะ เหอะ ๆ






ปอลิง

อ้อ แล้วระหว่างที่ หล่อนนั่งรอ อิป้าบัวผ่อง
มันไปควานหา ซูโดฯ มาผลิต ยาบ้า เอ๊ย ไปควานหา หนุ่ม ๆ มาช่วยผลิตลูกสาว
ก็ จงเอารูป ลูกสาวป๋าหมาน ไปดู ต่างหน้า ก่อนแระกัน
ช่วงนี้ อินู๋บัวใต้น้ำ มัน กะลัง หลบหนีตำรวจอยู๊
เรยม่ะมีเวลา ไปถีบสามล้อ เรยว่ะ อะซิก ๆ





 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:21:34:28 น.  

 
 
 
อืม... ช่วงนี้ แปลงร่างเป็น ป้าบัวหุบ กลับเข้ากะลาดีกว่า แฮะ
อยู่แถวนี้นาน ๆ ชักสังหรณ์ใจตะหงิด ๆ ไงก็มิลู้
เสียวจะโดน ลาไล่ขวิด ไม่ก็โดน หมาขย้ำคอหอย ชะมัด


อ้อ ! ช่วงนี้ช่วงโปรโมชั่น นะจ๊ะ
งั้นแถม รูปอิป้าบัวผ่องสมัยยังละอ่อน
( ตอน ยังไม่เอาห่วงทองเหลืองมาสวมคอ )
มาหั้ย แควนขับ ได้ยลโฉม ด้วยอ่า อิอิ

บ๊ายบายยยยยยยยยยยยยยยย จร้าาาาาาาาาาาา





 
 

โดย: บัวหุบบบบบ จิง ๆ จร้าาาาาาาาาา (นู๋บี ) วันที่: 29 มีนาคม 2555 เวลา:22:39:12 น.  

 
 
 
อีเจ๊...
เด็กผู้หญิงที่อั้วตามจีบเมื่อตอนเป็นเด็ก มันเป็นลื้อน่ะเอง
นี่แหล่ะหน้าเขาว่าเนื้อคู่กันแล้ว ถึงจะไม่ได้ร่วมหอลงโลง
ยังไงก็ต้องได้เจอกันอยู่ดี

ว่าแต่ว่า บ้านลื้อน้ำท่วมหรือว่ะ ทำไมต้องพับขากางเกงด้วย
หรือไปเอากางเกงพี่สาวมาใส่

สุดท้าย ตัวหนังสือสั้นแต่ใจยาวนะจ๊ะเจ้
พักนี้กรูไม่ค่อยเข้ามา สุสานโบราณทำไมผู้ชาย
มันเข้ามาเยอะว่ะ แบบนี้ไม่ได้การแล้วนะว่อยอีตั้วเจ๊
 
 

โดย: โอทึ้ง IP: 58.11.13.144 วันที่: 1 เมษายน 2555 เวลา:4:20:48 น.  

 
 
 


นี่แหน่ะ ไอ้กิ๊กนอกกฏหมาย เอ๊ยยยยยยย
กะอีแค่มีผู้ชายมาเพ่นพ่าน ในสุสานโบราณของ อิตั้วเจ้ แค่ คน สองคน
เนี่ย เค้าไม่เรียกว่า พวกมันเข้ามาเยอะว้อยยยย
น้อยไปด้วยซ้ำ ดูดิ๊ ตรู รึ อุส่า ทำมาร์เกตติ้ง
ส่งหลังไมค์ไปจุดธูปชาวบ้านมาตั้ง เกือบ ครึ่งโหล
แมร่ง อ่อยแทบตาย มันโผล่หัวมากันแค่เนี๊ยะ
แล้วเงี๊ยะ เรทติ้งบล็อกตรูมันจากระฉูดได้ไงฟระ


ยิ่งตอนนี้ มีไอ้หมาหวงก้าง ( อย่างเมิง )
มา จะแหล๋นแจ๋นมาเห่าโฮ่ง ๆ แฮ่ เป็นไอ้เข้ขวางคลองอยู่งี้
เรทติ้งบล็อกตรูมีหวังเจ๊งบ๊ง วอดวายบรรลัยจักร แหง๋ ๆ



เฮ้อออ สงสัย เจ้คงต้องงัดมารยาญิ๋งห้าร้อยเล่มเกวียน
ส่ง จม.เวียน เพิ่มเติม ไปหั้ยเด็ก ๆ ในคอลเลคชั่น
มาช่วยปั่นเรทติ้ง หั้ย ซะละมั้งงงงงงงงงงงงงง
พูดแล้วจะหาว่าคุย เจ้ยังมี แควนขับ ในสต๊อค อีกเพรียบบบ โฮ่ ๆ



แล้วก็นะคราวก่อน
อิเจ้เห็น ยังทำตัวเป็นจิ๊กโก๋ตบถีบ ๆ ตรูอยู่ดี ๆ
แถม ยัง เอาทั้งไข่เน่า ทั้ง ถุงขรี้
ขู่จะมาทิ้งบอมส์ สุสานโบราณอยู่เหย็ง ๆ
คราวนี้ ไง๋ดันเสือกทำตัวเป็น ไม้หลักปักขี้เลน
ทำตัวหงิม ๆ ติ๋ม ๆ มาร้องออดอ้อน อิเจ้จ๊ะ อิเจ้จ๋าาาาาาาาา ได้ล่ะเนี่ย
อะโหยยย ซัคคารีน เรียกตั้วเฮีย
แบ่บที่อาเหล่าแปะ บอกจิง ๆ ด้วยว่ะค่ะ เหอะ ๆ


ลื้อกินยาลืมเขย่าขวดหรือไงฟระ
ถึงได้ กลายเป็น ไอ้ตี๋ลมเพลมพัด อย่างนี้
เฮ้ออ อิเจ้ ผิดหวัง มากเรยนะเนี่ย
ที่ ไอ้ตี๋ปากม้า อย่างลื้อ เปี๊ยนนนนไป


ตรูอุส่า แกว่งปากหาเท้า แทบตาย
ไม่เห็นมันจะเต้นแร่พโย่วโชว์ลีลา
โดดรี่เข้ามา ขย้ำคอหอย เหมือนเมื่อก่อนเรยแฮะ
แหม๊ ทีตอนอยู่แถว ลานธรรมจก ล่ะ ก้อ
เห็น แยกเขี้ยวไล่กัดชาวบ้านเขาไปทั่ว
ทีตอนนี้ ล่ะทำมาเป็นกลัว พูดตะละทีเหมือนกลัวดอกพิกุลจะร่วง
เอ๊ะ ? หรือว่า มันจะเกิด ซาโตริ ก๊ะ คำว่า ยุติกรรม
ที่อิเจ้ พยามแล่ง หั้ยฟังล่ะหว่า สาธุ๊ ๆ




เออ ว่าแต่ ช่วงนี้ลื้อ ว่างเว้นจากการปฏิบัติ
มัวแต่ ดู ซีดี ทวิภพ มากไปปล่าววะ ไอ้โซ๊ยตี๋
หนอยแหน่ะ ทำมาเป็น บ่นหงุงหงิง ร้องจุ๊ก ๆ
เรื่อง บุพเพสัณนิสวาส เนื้อคู่หนังคู่ เมื่อชาติปางก่อน
แหม๊ ! อ่านคารี้คารมลื้อแล้ว แร้ว
ทำเอา ตรูงี้เคลิ้ม ร่ำ ๆ จะ กระโจนทะลุจอคอมพ์
ออกไปหามัน เลียนแบบ แม่มณี เรยน่ะนั่น


นี่ดีนะ ที่อิตั้วเจ้ ลู้จักเจริญ สติปัฏฐาน 4 อยู่เป็นนิตย์
เรยลู้เท่าทัน อุปทานขันทั้ง 5 ใบ แล ฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า
เออเฮ้ยยย 1 เม.ษา นีมัน april 's fools day นี่หว่า
อิตั้วเจ้ผู้ไร้เดียงสา ก็เรยม่ะตกเป็นเหยื่อไอ้ตี๋ตอแหล๋ อย่างลื้อ อ่ะซิก ๆ






ปอลิง 1
เอ้า เอา เดอะ เลตเตอร์ จาก อิมวยม้วยหลบฯ มาฝากจร้าาา
เผื่อว่าลื้อจะมัวแต่ ตบตีก๊ะอิหลวงพี่มืด เพลิน จนยังม่ะได้ไปอ่าน
ที่สำคัญ อย่าลืมจ่ายใต้โต๊ะ เป็นค่าน้ำร้อนน้ำขา
หั้ย ร่างทรง คนนี้ ด้วยนะว้อยยยย


ปอลิง 2
ขอแสดงความยินดี ก๊ะ อิเด็กผู้หญิง
ที่ลื้อตามจีบ สมัยยังละอ่อนด้วยนะจ๊ะ
ที่มันโชคดี หลุดรอดเงื้อมมือ
ของ ไอ้ตี๋โตหื่น อย่างลื้อมาได้
แสดงว่า อินู๋นั่น มันทำบุญมาดี แน่ ๆ เรยว่ะ
พระทั่นเลยคุ้มครอง หั้ยแคล้วคลาด
จากพวกเจ้าชู้ประตูดินชอบกินไก่วัด เอิ๊ก ๆ


อ้อ แล้ว อินู๋นั่น มันฝากมาบอกโตย ว่า
ที่มันพับขากางเกง น่ะ ม่ะใช่เพราะว่า ที่บ้านน้ำท่วม
หรือ ไปเอากางเกงพี่สาวมาใส่ เพื่อใช้ซ่อนยาบ้า หรอกนะยะ
แต่เป็น เพราะว่า มันฉงฉาน ไอ้พวกหมาเห็นปลากระป๋อง
คนสวยใจดีอย่างมัน เรยจำต้องถลกชายกุงเกง
ให้อิพวกหมาวัด ได้เห็น เป็นบุญตา จิ๊ดนุงส์ อ่ะจ้ะ


แหม ๆ มหาแหวนทองเหลือง อย่างลื้อ
ไม่เคยได้เคยได้ยินหรือไงกันนะ ? โบราณทั่นไว้ ว่า ...

แม้จาไม่มีวาสนา ได้เห็นขาอ่อนของนวลน้อง
ขอแค่ได้เห็น ข้อตรีน ขาวผ่อง ก็ยังดี !


ว้าย กลับเข้ากะลาดีกว่า แพล่มในนี้นาน ๆ
อาเหล่าม่า ชักเสียวคอหอย พิก๊ล โฮ่ ๆ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 3 เมษายน 2555 เวลา:23:22:22 น.  

 
 
 
อะโหลลลลลลลล แวะเอา มหากาพย์เรื่อง

สติส้มหล่นแบ่บพ้นเจตนา

มาฝาก อิหม่ามี๊ แล แควนขับ คร้าาาาาา
เพราะได้ข่าวว่า คนบางคนจาล้างมือในอ่างทองคำ
จากเวบพังจิตอย่างถาวรแร้วนิ
เรยกลัวจะพลาด ชอทเด็ดประเด็ดร้อน ที่โต๊อพินยา

แบ่บว่า นู๋บี ม่ะมี เฟซบุ๊คเป็นของตัวเอง อ่า
เรย หาเรื่องเอามาแปะ ที่สุสานโบรณแห่งนี้แทน
เผื่ออิอ่อนเสือนอนกิน จาแวะมา ชมนกชมไม้ แถวนี้ อิอิ



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 17 เมษายน 2555 เวลา:23:57:03 น.  

 
 
 
อิอิ มาเดินเล่นแถวนี้แก้เซ็ง
รับปาก อาเฮียไปแล้ว ว่าจะไม่เข้าเว็บพลังจิต จ้า
เลยต้องขออภัย ที่ไม่กดลิ้งค์เข้าไปดู นะจ๊ะ
บ๊ายบายถาวร ไม่เข้า ก็คือไม่เข้า
แต่จะมาเดินเล่น ที่สุสานโบราณบ่อยๆ แระกัน นะ
และที่สำคัญ โต๊ะอพินยา ก็ไม่มีใครน่าสนใจแระ
มีแต่เรื่องซ้ำๆซากๆ แต่ถ้านู๋บี สนใจ ไอดี ของอิอ่อน
ก็จะให้ยืมใช้นะ ไม่หวงอยู่แล้ว ตอนแรกกะว่าจะเข้าไป
ลบไอดีแต่ อาเฮียบอกว่า ไม่ต้องให้โอกาสร่ำลาไปแล้ว 1 วัน
หมดโปรโมชั่นแล้ว เลยต้องทิ้งไอดีไว้อย่างงั้น
ถ้าสนใจก็ เมลล์มาที่.......



โดย: อิอ่อน IP: 110.168.80.12 วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:10:05:35 น.


+++++++++++++++++++++++++++

หมายเหตุ :

เด๋ว คืนนี้นู๋บีจามาเม้าส์โตย ก่อน หวนคืนกะลาจร้าาา
แต่ขอ อนุยาด ลบ อีเมล์ อิหม่ามี๊ ออก จากบล็อก
แล้ว โพสข้อความหั้ยใหม่ นะเจ้าคะ
แบ่บว่า เพื่อ ความสงบสุขของ อิอ่อน ง่ะ
ลูกไป๊ม่ะอยากหั้ยโจทย์เก่าแล เจ้ากรรมนายเวรทั้งหลาย ของคุงแม่ปั๋ว
มัน ปลอมตัวแอบ เมล์ไปทวงหนี้ร้ากกกก อ่ะค่ะ
กันไว้ดีกว่าแก้ เน๊าะ

 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:13:45:06 น.  

 
 
 
อิอิ มาแพล่มตามสัญญาแว้วจร้าาาาาาาาาาาา
ก่อน อื่นต้อง กราบขอบพระคุณแนบอกแฟบ ๆ ของ อิหม่ามี๊ น้าาา
ที่หั้ยเกียรติ มาโพส เพิ่มเรทติ้ง ในสุสานโบราณแห่งนี้
แถมยังใจดี จะหั้ย ยื้ม ล็อกอิน ใช้ อีกแหน่ะ
ฮือ ๆ คิดไม่ผิดจิง ๆ เรย ตรู
ที่ยอมพลีกายเป็น ลูกไป๊คุณนายเน่า อะซิก ๆ



อืม...เอาไว้ถ้าเคราะห์หามยามซรวย
ล็อกอินคุงน้องชาย โดนแบนเมื่อไร
จะไปขอใช้บริการ ประทับทรง นะเจ้าคะ อิอิ


แต่ ช่วงนี้ นู๋บี คงยังไม่ต้องยื้ม ล็อกอิน อิหม่ามี๊ หรอกคร้าาา
แบ่บว่า ไม่รู้เป็นไง วุ้ย หลัง ๆ มานี่
ไปเกรียน ในโต๊ะอพินยา ทีไร
ก็เห็นพวกมันทำท่าไม่รู้ไม่ชี้
ยอมให้นู๋บี ตบถีบ ๆ โดยไม่อิดออด
ไม่เห็นมีใครลุกขึ้นมาเต้นผาง ๆ
วิ่งไปจีบปากจีบคอ ฟ้อง มอดเวบ
เหมือนเมื่อก่อนเรยว่ะ


ก็ไม่ลู้ว่า มันกะลัง บำเพ็ญ ตบะแบ่บพระเตมีย์
หรือว่า มันเริ่ม เห็นสัจธรรม
กับ คำว่า วงแหวนโมเบียส ของ เดอะ ลิง อ่ะนะ อิอิ
ตอนนี้ก็เรยเริ่ม เบื่อ หนุ่ม ๆ ที่โต๊ะ อพินยา นิดหน่อยแระ
แมร่ง ช่างไม่มีอะไร เร้าใจเอาซะเรย


สู้ หนุ่ม ๆ ที่เวบพันติ๊ป ก็ ม่ะได้
ขานั้นน่ะ แหย่ ๆ แยง ๆ แป๊บ ๆ เจ้าตัวผู้รู้ มันเก๊าะวิ่งกรู
ออกมาเพ่นพ่านนอก รูจอมปลวก กันยั้วเยี้ยแระ หนุกดี อ่ะอิอิ
เฮ้อออ น่าเสียดายเนอะ ที่ อิหม่ามี๊ ม่ะมี อมยิ้มที่พันติ๊ป หั้ยยื้ม
ม่ะงั้น คง มันส์ พะย่ะค่ะ 55555



อืม...นี่เบื่อ ๆ นู๋บีก็ กะลังว่า
จาตัดใจหายหัวเข้ากะลา
ซักพักหญ่าย ๆ เหมือนกันนะ
หลังจากที่พย๊าม จะทำ ๆ มาหลายทีแระ
( แต่ก็ยัง ม่ะสำมะเร็จซะที แหะ ๆ)

แบ่บว่า อยากจะมีเวลาไปทำอะไรต่อมิอะไร มากขึ้น น่ะ
เพราะถ้าขืนยัง อิแร่ดแต๊ดแต๋ มัวแพล่ม ๆ อยู่ในเนต อ่ะนะ
การปฏิบัติมันย่ำต๊อก อยู่กับที่ และ เป็น ดินพอกหางหมู ไงก็มิลู้ว่ะ


อ้อ จิงดิ เห็นอิหม่ามี๊ กะลัง บำเพ็ญ สัจจะบารมี
ไม่ยอมเข้าไปในเวบ พังจิต แล้วก็เสียดายตะหงิด ๆ แฮะ
คือ เห็น แควนขับของอิหม่ามี๊ เข้ามาร้องไห้ แง ๆ มาโพสร่ำลาสั่งเสีย
ใน กาทู้ Subliminal Messagesตั้งหลายคนแหน่ะ


นี่เรย นึกครึ้ม อยากจะเป็นแม่สื่อแม่ชัก
ด้วยการ หอบเอา ตัวหนังสือเหล่านั้น
ส่งเมล์เป็น จม. น้อยคอยร้ากกกก
ไปให้ อิหม่ามี๊เชยชม อ่ะจร้าาาาาาาาาาาาาา
ถ้า มีโอกาส ก็อย่าลืมเปิดดูได้ ในอีเมล์น้าาาาาาา


นี่ ๆ ม่ะต้องกัวว่า จาเสียสัจจะ
ที่รับปากคุณสามีไว้หรอกคร้าาา อิหม่ามี๊ขรา
เพราะว่า อิหม่ามี๊ก็ไม่ได้เข้าไป ในเวบพังจิต ซะหน่อยนิ อิอิ
ที่สำคัญ ในเมื่อป๋าโจใจป้ำ ให้โอกาส อิหม่ามี๊ได้ร่ำลา ก๊ะเพื่อน ๆ ในเวบแระ
ป๋าแกก็คงไม่ใจร้ายไส้ระกำ มาขัดศรัทธา หรอกมั้ง
ถ้า อิหม่ามี๊จะเปิดเมล์ไปอ่าน ข้อความสั่งลา
จาก กัลยา ณ มิตร ของ หม่ามี๊ เป็นครั้งสุดท้าย น่ะ

บ๊ายบายคร้าาาา หม่ามี๊ขราาาาาาา
แล้ว พบกันใหม่เมื่อชาติต้องการน้าาาาาาาาาาา

จาก ลูกสะไภ้ มหาภัย อิอิ

ปล.
ตะคืน นอน ดู ทรูวิชั่น แล้ว ไป เจอ หนังเรื่องนี้ อ่ะ
ดูแล้ว เห็นเข้าท่าดี เรยเอามาฝากแควน ๆ และ คุงแม่ปั๋วคร้าาา
( ม่ะลู้ว่าเคยดู รึยังน้าาา )

อ้อ ส่วน ลิงค์นี้แถมมมมมมจร้าาาาา

//newheartnewlife.net/wordpress/?p=184

เฮ้อออ คิด ๆ ดูแล้ว ก็แปลกนะ อิหม่ามี๊ พออ่าน ลิงค์นี้แล้ว
แทนที่ นู๋บี จาปลื้ม อิทนายแสนดีแบ่บ อิตาคีนู ในหนังเรื่องนี้
นู๋บี กลับไปประทับใจความเจ้าเล่ห์เพทุบาย ของ อิตาซาตาน
เหมือน กับที่คนเขียนวิจารณ์ มันรู้สึก ซะงั้น
โดยเฉพาะ ไอ้เรื่องที่ บอกว่า


--------------------------------------
ความฉลาดของซาตาน นั่นคือ
สุดท้าย sins ต่างๆถ้าจะนับ (เป็นชัยชนะของซาตาน)
จะต้องมาจาก free will ของคนเอง
ไม่ใช่ถูกหลอก แต่เป็น "ความสมัครใจ"
----------------------------------------------



อืม...จะว่าไปแล้ว อิตาซาตาน ตัวนี้
มันเก๊าะ ฉลาดได้อย่างแนบเนียนลุ่มลึก
และ ลู้จักใช้ กุศโลบาย ในการล่อลวง
พอๆ กับ นู๋บี ก๊ะ ป๋าโจ เรยว่ะ
เอ่อ ม่ะทราบว่า ที่ อิหม่ามี๊ ตกลง
ไปรับปากเลิกเล่นเวบพังจิตเนี่ย
โดนป๋าโจ ล่อลวง หรือว่า สมัครใจ ล่ะหว่า เหอ...เหอ...






 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 20 เมษายน 2555 เวลา:23:07:44 น.  

 
 
 
ขอบใจนะ ที่ลบอีแมว ออกให้ อิอิ
รอบคอบจิงๆ เลย ลูกไป๊ ของตรู 555
+++++++++
ที่ อิหม่ามี๊ ตกลง
ไปรับปากเลิกเล่นเวบพังจิตเนี่ย
โดนป๋าโจ ล่อลวง หรือว่า สมัครใจ ล่ะหว่า เหอ...เหอ...
+++++++
อันนี้ก็ขอตอบว่า แบ่บว่า โดนยื่นคำขาดอ้อมๆ
ประมาณว่า จะเลือกลูกชายลูกสาวหรือเว็บพังจิต
ดูดิ โดยยื่นโนติ๊ส มาแบบนี้
หนูบี คิดว่า แบบนี้เรียกว่าสมัครใจเลิก ป่าว
แต่จะว่าไปนะ อิหม่ามิ๊ ก็ทำไม่ถูกหลายเรื่อง
เอาใจไปไว้ที่เรื่องอื่นๆ มากกว่าเรื่องลูกและสามี
ถ้าตัดใจเรื่องอื่นๆได้ ก็จะได้มีสติและสมาธิ ทำเพื่อครอบครัว
จะได้มีใจให้ลูกแลสามี เพียงอย่างเดียว
ห้ามไปแร่ดที่ไหนอีก
อิหม่ามิ๊ก็มีข้อเสียคือเวลาทุ่มใจทำอะไร ก็เทใจไปหมด
ทำให้ขาดเรื่องความเอาใจใส่ครอบครัว
มัวแต่เอาเวลาไปเล่นเน็ต แบ่บว่าเอาแต่ใจตัวเอง
- - "

มีเรื่องดีๆ มาบอก
เมื่อวันที่21-22 ได้พาครอบครัวไปบวชที่ธรรมสถาณของ
หลวงพ่อสี ตัดโถ เพชรบูรณ์ 1 วัน 1 คืน ถือศีล8 น่ะ
น้องฮาร์ท ก็หัดถือศีล8 ด้วยนะ ก็ผ่านพ้นไปด้วยดี
ก็เลยเอาบุญมาฝาก
ป๋าโจ แกอิ่มบุญมากมาย บอกว่าจิตเขามันชอบมาก
ตอนลาบวชนี่จิตมันออกอาการเสียดาย อยากบวชต่อ
ส่วนน้องฮาร์ท ก็มีงอแง ตอนอดข้าวเย็นนิดหน่อย
จะขอกินข้าวกินขนม
แต่ต่อรองให้กินโอวันตินกับนมไปแทน ก็พอได้
เตรียมตัวฝึกไว้ เผื่อจะได้บวชเณร
เนี่ยถ้าป๋าโจไปบวชผ้าเหลืองนะ
เขาจะให้น้องฮาร์ท บวชเณร ด้วย
แถม อิหม่ามิ๊ ก็จะได้ไปบวชชี ด้วยนะเออ
ไม่รู้ทางวัดเขาให้บวชในวัดเดียวกันได้รึป่าว
ก็เป็นโครงการณ์ในอนาคต อะนะ

เดือน เมษา ปีนี้ ได้เดินสายเข้าวัดเยอะ
ต้นเดือนไปหาหลวงพ่อปราโมทย์ ที่สวนสันติธรรม
ก็ไปส่งการบ้าน ในรอบ 4 ปี หลวงพ่อชมด้วยนะ
ว่าฝึกจิตดีแล้ว ให้ทำต่อไป ก็ถามหลวงพ่อว่า มีอารมณ์เฉยๆ
บ่อยๆ เป็นโมหะรึป่าว ตอนถามก็มีอารมณ์เฉยๆอยู่ด้วย
หลวงพ่อบอกว่า ไม่เป็นโมหะ จิตดีแล้ว มีความรู้สึกตัว
ไม่หลง ใช้ได้ แล้วก็ถามแทนป๋าโจ(นั่งอยู่ข้างๆ)
เรื่องสมาธิ อาการของสมาธิต่างๆ หลวงพ่อก็บอกทำถูกแล้ว
แต่พอถอนออกจากสมาธิ ให้พิจารณากระดูกเล็บขนฟันหนัง
ให้มาก ต่อยอดไป และอย่าไปใส่ใจอาการของสมาธิ ทั้งนิมิต
ภาพพระ และแสงเพชรที่หางตา และอื่นๆ

ก็มีเท่านี้ แหละจ้า



 
 

โดย: อิอ่อน IP: 124.120.31.126 วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:11:32:26 น.  

 
 
 
ยินดีก๊ะ อิหม่ามี๊ด้วยจร้าาาาาาาา
ที่ ช่วงนี้ มีแต่เรื่องราวดี ๆ ผ่านเข้ามาในชีวิต
แต่ระวังนะ เอาเรื่อง ครอบครัวสุขสันต์ มาอวดกันบ่อย ๆ งี้
เด๋ว อาจจะ มีไอ้ตี๋บ้านแตกบางคน มันอิจฉา ตาร้อน
แร้ว หาเรื่อง กระโดดเข้ามา ขย้ำ คอหอย เอาได้น้าาา 5555


อืม...แต่นับว่า ป๋าโจ ฉลาดโคตร ๆ เรยว่ะ
ที่ยื่นโนติ๊สแบ่บอ้อมโลก ประมาณว่า
จะเลือกลูกชายลูกสาวหรือเว็บพังจิต


เนี่ย ถ้าขืนป๋าแก บอกว่า

จะเลือกซะมี หรือว่า เวบพังจิต


เป็นได้ เข้าทาง อิปลาไหล มันแหง๋ ๆ เอิ๊ก ๆ


เออ เห็นเฟซบุ๊คของอิหม่ามี๊ แระอ่ะ
ตอนแรกคลิ๊กลิงค์ ใน PMแล้ว เข้าไปดูไม่ได้ เรย เสิร์ชดูจากอากู๋ เอา
ว่าแต่ อินู๋เสื้อส้มที่ยืนตาแป๋ว อยู่ หน้าเฟซบุ๊ค นี่ครายกันน๊ออออออ
ดูโหงวเฮ้ง แร้ว ท่าทางจะ เฮี้ยวไม่เบา และ ดื้ออิ๊บอ๋ายวายป่วง เรยอ่ะ
แหม? นี่ถ้า อินู๋นี่ไป ถือศีล 8 ที่เพชรบูรณ์ด้วย
สงสัย วัดแตกกกก แหง๋ ๆ 5555555555



เออ จิงสิ ตะกี้ นู๋บีเพิ่ง ไป กวนซ่งตรีนชาวบ้าน
เอ๊ย ไป หว่านเสน่ห์ใส่หนุ่ม ๆ ที่ เวบพังจิตมา
นี่ก็เรยกะว่า หลังจากคืนนี้ ไป
ก็คงต้อง ขอ อนุยาด หุบเข้ากะลา จิง ๆ แระ
แบ่บว่า เห็นคนบางคนดูท่าจะก้าวหน้าในทางปฏิบัติเกินหน้าเกินตา
เรยอยากจะ ไปซุ่มเก็บเลเวลทางธรรมมั่ง อิอิ



บ๊ายบายคร้าาา อิหม่ามี๊



 
 

โดย: นู๋บัวพย๊ามจะหุบบบบบบบบบบบบบบ (นู๋บี ) วันที่: 23 เมษายน 2555 เวลา:23:11:36 น.  

 
 
 
เล่าฮูไปหลงอยู่ในล้งลำใย ไม่มีอารยธรรม ย้อนยุคไปสมัยที่ไม่มีทีวีและอินเทอร์เน็ต เพิ่งออกมาเมื่อเช้านี้เอง คิดเถิงเพื่อนๆมากมาก โดยเฉพาะตอนผ่านโรงพยาบาลตาก เหอๆๆๆๆ นึกถึงสูโดอีฟีดรีนล่ะ มะรู้ป้าบีจะเป็นไงมั่ง

ป้าขวัญนึกยังไง ร่อนเลตเตอร์เซย์กู๊ดบายไม่เข้าพังจิต อยากเข้าก็เข้า ไม่อยากเข้าก็ไปดูเว็บอื่น ก็ได้นี่น๊า ไม่เห็นต้องร่ำลาเลย เหล่าฮูฟังแล้วน้ำตาซึม เหมื่อยต้องเซย์กู๊ดบาย ทั้งที่ไม่เคยเซย์เฮลโลจินๆซักครั้ง

เฮ่อ!
ขอให้ไปสู่ที่ชอบๆเน่อ
เรามาคุยกัยต่อที่นี่ก็ล่ายนะ ป้าขวัญ
แค่นี้ก่อนเน่อ เดี๋ยวสะดวกจะแวะมาใหม่
 
 

โดย: เหล่าฮู IP: 171.98.63.113 วันที่: 30 เมษายน 2555 เวลา:23:46:24 น.  

 
 
 
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

วันนี้ไง แวะมาใหม่!

เหล่าฮูไปอยู่จอมทอง(เชียงใหม่)มาล่ะ

ที่จินจะไปวัดที่นครนายก เพราะวันที่6มิ.ย. ที่จะถึงนี้ ที่วัดจะจัดให้มีการเจริญปัญญาภาวนา เตรียมไว้ให้โยคี1000คนน่ะ
เหล่าฮูเลยจะเสนอหน้า อาสาไปอำนวยการโบกรถ รวมทั้งจัดการสถานที่
ครั้งก่อน500 เหล่าฮูเองคนเดียวเหนื่อยเหงือกแห้ง ไม่น่าเชื่อ พูดแล้วจะหาว่าคุย ถางป่าเสร็จ18ไร่ เสร็จใน3-4วัน ทั้งๆที่มีคนแค่18-19คนเอง(ที่จินมี2วัน ที่เอาทหารมา90นายน่ะ แต่อีมาช่วยได้แยะเหมือนกัน ขาดแต่ไม่มีผู้อำนวยการ เหล่าฮูนี่ไง ผู้อำนวยการ พวกอีมาแต่ตัว ไม่มีอาวุธ ไม่มีจอบ เสียม เหล่าฮูหูตั้งเบิกของแทบไม่ทัน สนุ๊กสนุก) เที่ยวนี้โยคี1000 น่ากลัวไม่ใช่เหงือกแห้งแล้วล่ะ อาจตับแลบก็เป็นด้ายอ่ะ
โซ้ยตี๋ว่าไง! ตกลงจะไปเป็นเพื่อนเหล่าฮูหรือเปล่า อาสับสนล่วย ไปช่วยๆกันหน่อยเส่ เฉลี่ยฟามเสียหายกันหน่อย ถ้าว่างๆ

ขอบอก !
ที่นี่มีผู้ปฏิบัติดี-ปฏิบัติชอบเดินสวนกันขวักไขว่นา
เชื่อเส่ เหล่าฮูคิดสะระตะแล้ว รวมฟามว่า น่าจะเป็นยุทธวิธีแห่งปัญญาที่ต้องตรงกับพระสูตรที่สุดเท่าที่เหล่าฮูรู้ฟาม
เชื่อไม่เชื่อก็ไปเงี่ยหูฟังกันไม่เสียหลายเน่อ

แต่ก็ขอบอกไว้ก่อน แนวทางอื่นๆก็อาจถูกหักล้างได้นะ ขอให้วางใจเป็นกลางๆ เพราะเมื่อมีฟามถึงพร้อม รอบรู้ปริยัติพอประมาณ ก็จะเห็นคล้อยตามเหล่าฮู เอ๊ย คล้อยตามหลักฐานที่มีมาในพระสูตร

แล้วประดาหลวงปู่หลวงตา หลวงพ่อทั้งหลาย ก็จะพลอยแลดุไม่ตรงทางนัก ข้อนี้อย่าว่าเหล่าฮูทีเดียว เป็นเพราะวิธีของท่าน สงเคราะห์ไม่เข้าตามที่พระพุทธเจ้าว่ามาเองนา เหล่าฮูป่าวทึกทัก

ครายไม่เคยค้นแบบเหล่าฮู อย่าเพิ่งทึกทักว่าเหล่าฮูมั่วล่ะ

อ้อ ที่จินว่าจะพูดถึงป้าขวัญ ออกนอกเรื่องซะไกล!
อยากบอกว่า

ป้าขวัญเป็นชื่อแรกๆที่เหล่าฮูรู้จักในเว็บพังจิต
ชื่นชมในฟามรอบรู้มานาน ไม่อยากให้ตัดช่องน้อยแต่พอตัว ด่วนซาโยนาระ เพียงแค่หลบลงรูเป็นพักๆ ก็น่าจะพอ เหมือนเหล่าฮูนี่แหละ จะว่าไปก็เสียโอกาสเห็นคนอื่นเล่นละครลิงให้ดู(รวมทั้งเล่นให้คนอื่นดูด้วยน่ะ)

ส่วนท่านตรงฯ ตาขันธ์ และอีกหลายๆคน เหล่าฮูคุ้นชื่อพวกเขามานานแล้ว ตั้งแต่ราวปี37นุ่นมัง รวมทั้งนายดังตฤนและสันตินันท์ล่วย(เฮ่อ!)

ที่คลาดสิค ก็คงเป็นป้านู๋บีและท่านเกิดฯ และสหายในนี้ เหล่าฮุว่าคุยสนุ๊ก-สนุก ฉอเลาะเป็นอันมาก อ่านทีไรต้องอดยิ้มม่ายล่าย

ได้พบเพื่อนหลายคนที่ต่างฟามคิด แลกเปลี่ยนผ่องถ่ายกึ๋นกัน เหล่าฮุว่าตลกดี และอยากให้กลมเกลียวกันได้ แม้จะมีศรัทธาไม่ค่อยจะเสมอกัน ปัญญาอ่อน-แก่ไม่เท่ากัน ศีลไม่เสมอกัน ยังไงก็ปรับเข้าหากัน ประคับประคอง ถอง-ทุบกันเป็นครั้งคราว
อย่างนี้แล้วไซร้ ตลกดีแท้ หรือไงป้าว่า

เหล่าฮูสายตามีปัญหา ไม่อาจตามอ่านป้าๆได้ โดยเฉพาะป้าบีที่เคารพ ช่างจำนรรจาน่าเอ็นดู แต่ดูตามไม่ไหว เพราะยาวเฟื้อย ตาจะถลน เลยได้แต่ดูคร่าวๆเท่านั้น

ตกลง ป้าขวัญคงไม่เซย์กู๊ดบายคอมพิวเต้อไปล่วยมัง นานๆก็แวะมาทิ้งระเบิดที่นี่มั่งก็ล่าย เหล่าฮูคิดถึงเสมอเน่อ

พอแค่นี้ก่อน ป้าๆทั้งหลายนี่คุยเก่งชมัด เหล่าฮูขอพูดถึงพอสังเขปแค่นี้แล้วกัน

ตกลง ตาเกิดฯกะโซ้ยตี๋ อยากไปลุยถั่วกะเหล่าฮูรึเป่า ช่วยแจ้งล่วยหากว่าง เหล่าฮูจะไปในเร็ววันนี้ กะว่าจะไปอยู้สัก15วันล่วงหน้าก่อนวันงาน
สนใจโทรศัพท์จับจองที่นั่งได้ที่ 083-13683หนึ่งหก ติดต่อเหล่าฮูเฉพาะนอกเวลาราชการ เพราะเหล่าฮูยังไม่ตื่น
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 1 พฤษภาคม 2555 เวลา:10:43:15 น.  

 
 
 
เฮียเล่าฮู มีกิจกรรมอะไรหรือครับ ชวนชาวบ้านเขาก็ไม่บอกลายละเอียดจัดทอดผ้าป่าสามัคคีหรือทัวร์ธรรมะ

อย่าลืมบอกมาก่อนนะครับไม่แน่อาจไป
 
 

โดย: โอทึ่ง IP: 58.11.165.119 วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:11:25:05 น.  

 
 
 
ขออนุญาติทั่นประทาน ตอบที่ถูกพาดพิง เนาะ
เรื่องเซย์กูีดบาย เนี่ย เพราะป๋าโจ ขอร้องงงงงง!!!
ไม่เกี่ยวกับเรื่องทะเลาะตบตีหรือเหม็นขี้ฟันผู้ใดทั้งสิ้น
แหะ แหะ

แบ่บ ว่า ป๋าโจ เขาบอกว่าเล่นเว็บพังจิตแล้วนิสัยสันดาน
มันเปลี่ยนไป เมื่อก่อนเคยอยู่ในโอวาท สงบเสงี่ยมเรียบร้อย
ยังกับผ้าพับไว้ แต่พอไปคุยกับเพื่อนๆในเว็บพังจิต แล้ว
สันดานก็เปลี่ยนเป็นเถียงคำไม่ตกฟาก หัวแข็ง
ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่สนใจการบ้านการเรือน วันๆเอาแต่เข้า
เว็บโม้ทั้งวัน ไม่เป็นที่สบอารมณ์ป๋าโจ เป็นอย่างมาก
ก็เลยยื่นคำขาดให้เลิกเล่นเว็บพังจิต และไปเล่นเฟสบุ๊ค
แทน อาเฮียป๋าโจเขาสร้างเฟสให้แล้ว ห้ามไปสิงเว็บที่ไหนอีก
จบข่าว

เรื่องก็มีเท่านี้แหละค่ะ อาเหล่าฮู
ก็เลยเลิกเล่นทุกเว็บฯ แต่แอบมาที่บลอกนู๋บีได้
เป็นครั้งคราว เพราะไม่นับเป็นเว็บฯ แหะ แหะ




 
 

โดย: ป้าขวัญ IP: 124.120.30.72 วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:16:07:04 น.  

 
 
 
วันนี้ขึ้นเวร อีกแระจร้าาาา
เด๋ว จามาเม้าส์โตยเน้อ
 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 2 พฤษภาคม 2555 เวลา:17:04:12 น.  

 
 
 
ข่ า ว ป ร ะ ก า ศ . . .

!!! ใหม่ !!!

ขอเชิญร่วมทำบุญเพื่อผู้ปฏิบัติธรรม…….
โครงการปฏิบัติธรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสทรงมีพระชนมพรรษาครบ 7 รอบ 84 พรรษา
วันที่ 5 ธันวาคม 2554


และพุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ในปี พ.ศ. 2555
... จังหวัดนครนายก
1.สร้างกลดปฏิบัติธรรม ชุดละ 900 บาท
2.ค่าอาหาร ผู้ปฏิบัติธรรม ท่านละ 400 บาท
สนใจร่วมบริจาคทำบุญได้ที่วัดพระธรรมจักร หมู่ที่ 1
ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
ครั้งที่ 1 ปฏิบัติธรรมในวันที่ 3 – 5 ธันวาคม 2554
ผู้ปฏิบัติธรรม จำนวน 500 คน
ครั้งที่ 2 ปฏิบัติธรรมในวันที่ 2 – 4 มิถุนายน 2555
ผู้ปฏิบัติธรรม จำนวน 1,000 คน
===============================
จาก //www.dmj80.org/

คืออย่างนี้ โซ้ยตี๋!

ทางวัดจะจัดงาน พุทธชยันตี 2600 ปีแห่งการตรัสรู้ในปี พ.ศ. 2555 จังหวัดนครนายก
วันที่ 3 - 5 ธันวาคม 2554
ณ วัดพระธรรมจักร หมู่ที่ 1 ตำบลดงละคร อำเภอเมืองนครนายก จังหวัดนครนายก
ไง!

ลองเข้าไปตามลิงที่ให้ไว้เน่อ หลวงพ่อท่านทำเว็บคนเดียว เลยอาจดูเชยๆหน่อย เพราะท่านเหนื่อยมาก ขนาดเทศน์ๆนะ หลับเฉยเลย ให้ลูกศิษย์เทศน์ต่อ พอตื่นก็เทศน์ต่อ เฉยๆงั้นแหละ

เห็นแล้วอยากขึ้นธรรมาศน์เทศน์แทนซะเลย เกรงใจพระอาจารย์พี่เลี้ยงน่ะ
เหอๆๆๆๆ

งาน2600ปี นับแต่เกิดพระพุทธเจ้าขึ้นมา ทางวัดเลยจัดวิปัสสนากัมมฐานแก่โยคี1000คนน่ะ

ตั้ง1000นา อาโอวทึ้ง
ทั้งๆที่ไม่ค่อยพร้อม ซึ่งเหล่าฮูเองก็รู้สึกว่าไม่เห็นด้วย แต่ก็พร้อมช่วยหลวงพ่อน่ะ

ครั้งที่แล้ว สถานที่ยังเป็นป่าปลูกต้นกฤษณา 18ไร่ ถางป่าแทบไม่ทัน โยคีมาถึงวันแรก ไม่รู้หรอกว่า เพิ่งเสร็จตอนตี5-6โมงเช้า เหล่าฮูไปรับพี่แดง(ไม่ใช่แดง แครี่ คนละคนน่ะ)มาจัดดอกไม้ประดับพิธีฉลองพระวันเกิด(เรียกไม่ถูก เอาอย่างนี้แหละ)ของในหลวงน่ะ เสร็จเช้ามึด โยคีก็มา

ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ตลกสุกๆ เหล่าฮูเหงือกบวมเพราะอดนอน หัวเราะตาโบ๋ๆเลยล่ะ ปลื้มใจที่เราอยู่กงนั้นพอดี

เชื่อป่ะ
ในวัดมีแต่พระมาพรวนดิน โยมก็มีโยมอาจารย์จินดาภรณ์คนเดียว ที่เป็นอดีตผ.อ.โรงเรียนที่พอคล่องงาน
เลยทำคนเดียวไง
โยมอื่นๆก็นั่งเย็บมุ้งกันไม่นอน เป็นเดือนๆที่เค้านั่งเย็บอยู่อย่างนั้น ไม่รู้เผลอเย็บเอามือติดมุ้งไปมั่งรึเป่า ตาเป็นหมีแพนด้ากันถ้วนหน้า หัวเราะกันตาโบ๋ๆอย่างนั้นแหละ
ตลีดก-ตลกดี

เที่ยวนี้ แม่ชีหลักๆอีก1รูปอาจไม่อยู่ ทั้งวัดน่าจะเหลือฆราวาสไม่เกิน4-5คนเท่านั้นมังที่อาสา เพราะต่างก็มีภาระการงาน เหลือคนตกงานแบบเหล่าฮูคนเดียวที่อาจว่างไปช่วย

จำวันได้ไม่แม่น น่าจะเป็นวันที่3-6มิ.ย ประมาณนี้ แต่เหล่าฮูจะไปก่อนไง ไปเป็นโชเฟอร์ขับรถให้วัด และช่วยเสริมตรงที่ขาด ถ้ามีใครว่าง อยากชวนไปช่วยเป็นสต๊าฟไง

ครั้งที่แล้วบังเอิญเจอคหบดีเจ้าของPCSยี่ห้ออะไรจำไม่ได้ เค้าพาภันยามาปฏิบัติธรรม เลยชวนเค้าไปขนน้ำดื้อๆ แปลกดี ว่าง่ายชมัด ไม่ฮู้ว่าเป็นเศรษฐี ใช้เอาๆจนซี้กัน มาเฉลยทีหลังก็ต๊กใจ
ไอ๊หยา เศรษฐีนี่หว่า นึกว่าตกงานเหมือนเรา!

เรื่องก็เป็นอย่างนี้แหละครับ ท่านผู้ชม เอ๊ย โอวทึ้ง! และท่านเกิดฯ

เน่ บอกห้าย ถ้าว่างนะ ไปเถอะ ไปเม้าท์กันเป็นเพื่อนตอนว่างๆ จะได้เสวนาติดต่อต่อยถามแลกเปลี่ยนฟามรู้กัน

ที่นี่น่ะ ท่านอาจารย์ใหญ่อาสภะ(-ภัททันตะ อาสภมหาเถระ คีย์ชื่อในกูเกิ้ล หาประวัติอ่านเอาเน่อ) มอบหมายให้ท่านอาจารย์ชัชวาลย์เป็นผู้สืบสอนวิปัสสนาธุระในประเทศไทย เพราะว่า ท่านพูดเองในวีดีโอ(เหล่าฮูดุมาน่ะ) ว่า ลูกศิษย์ที่สอนยาก(หมายถึงหลวงพ่อโชดกน่ะ รู้จักเป่า คนที่เอายุบหนอ-พองหนอมาสู่ประเทศไทยไง อาจารย์ที่เหล่าฮูเคารพมาก)คือมหา9ประโยค แต่เธอดื้อซะกว่าอีก สอนยาก แต่ขอมอบหมายให้เธอสอนวิปัสสนาต่อไป ประมาณนี้

คือ ยุบหนอ-พองหนอ ผู้ที่ให้นำเข้ามาจากพม่า เพราะของไทยไม่มีวิปัสสนาจารย์มานาน นับแต่พระเจ้าอยู่หัวบรมโกศนุ่น ไม่มีเลย

ย้ำเน้นๆ ไม่มีเลย

ดูลายพระหัตถ์ในหลวงร.5ได้ ที่วัดมี-แต่ยังไม่เปิดเผย ในหลวงท่านให้ค้นหาทั้งประเทศ

โบ๋เบ๋ ไม่มีซ๊ากรูป

ครานั้น พระพิมลธรรม (อาจ อาสภะเถระ) ได้มีดำริให้พระเถระที่เชื่ยวชาญในพระไตรปิฏกเป็นผู้ไปศึกษาจากพม่า ได้เลือกท่านเจ้าคุณโชดก ไปพม่า

พระเถระที่เป็นร่มโพธิ์แห่งพุทธศาสนาในยุคนั้น สืบสันตติวงศ์วิปัสสนา สืบเนื่องมาจากพระเถระรูปก่อนๆย้อนไปถึงสมัยพระเจ้าอโศกมหาราชนุ่น (มีรายชื่อครบ เคยให้ไว้ในไฟล์หนังสือชื่อวิปัสนาวงศ์ เป็นpdf มะรู้ได้โหลดไปอ่านรึเป่า!)
คือ ท่านมหาสี-สยาดอ(มหาสี-แปลว่า วัดใหญ่)

แต่ที่จินนะ พูดแบบเกรงใจ ท่านพระอาจารย์ใหญ่ ดร.ภัตทันตะ อาสภะเถระ กล่าวว่า ที่จินสืบสายมาแต่ครั้งพุทธกาลนุ่น เสียดาย พระอาจารย์ใหญ่เพิ่งถูกฌาปนกิจไปเมื่อปีที่แล่วนี่เอง หากสงสัย ต้องตามไปถามท่านเอาเองว่าจินรึเป่า

หง่า ! ต่อๆ
พระเถระที่สืบสันตติวงศ์มาจนถึงปัจจุบัน คือท่านพระมหาสี-สยาดอน่ะ ท่านเป็นผู้มอบหมายให้พระอาจารย์ใหญ่อาสภะ เป็นผู้สอนวิปัสสนาแก่หลวงพ่อโชดกไง

8เดือน ท่านก็กลับมาไทย และเอายุบหนอ-พองหนอมาสอน ท่านรอบรู้ทั้งคันถธุระและวิปัสสนาธุระ เป็นผู้ถวายการสอนวิปัสสนาแก่สมเด็จย่าล่วย รวมทั้งเป็นอาจารย์สอนวิปัสสนาถวายแก่หลวงปู่สดวัดปากน้ำล่วย
(ภายหลังท่านก็สำเร็จประโยชน์ด้วยยุทธวิธีนี้ แต่ ช้าไป จะห้ามไอ้แว่นก็ไม่ทันเพราะท่านชราภาพมากแล้ว ไอ้แว่นเลยซี้ซั้วเอาวิชาธรรมกายไปหาตังค์ใช้)

แหะๆๆๆ
บอกห้าย

อาจารย์ใหญ่ตอนนุ๊นก็ตามมาล่วย แต่ไม่ค่อยมีข่าวน่ะ เก็บตัวเงียบๆ เพราะพูกไทยม่ายล่ายมัง ใช้บาลีคุยกันเท่านั้น

ย่นย่อนะ
ภายหลังไปอยู่ที่ชลบุรี ตั้งสำนักวิเวกอาศรม อยู่ที่นั่นจนท่านมรณะภาพปีที่แล้ว เหล่าฮูกะจะไปพบท่านเสียหน่อย แต่ท่านก็มรณะภาพตอนเหล่าฮูเจริญภาวนาที่พุทธวิหารนี่แหละมัง ไม่ใช่ก็ใกล้เคียง

เน่ ท่านว่าเปรียญ9สอนยากแล้วนา เพราะถ่ายทอดไม่ตรงกับที่ท่านสอนนัก แต่ที่สุด ท่านก็มอบหมายให้ท่านอาจารย์ชัชวาลย์เป็นผู้สืบสานในการสอนต่อ มีหลักฐานเป็ยวีดีโอน่ะ

และท่านอาจารย์ก็ถ่ายทอดมาให้เหล่าฮูนี่แหละ !
ไม่ได้โม้นา
แต่ท่านก็ถ่ายทอดให้ทุกคนน่ะแหละ
แหะๆๆๆ

เหล่าฮูขี้สงสัยนะ แต่ก็ไม่ซอกแซกมาก ด้วยว่าอาจารย์สอนสิ่งที่ที่อื่นไม่มีให้น่ะ

อ้อ เลิมบอก หมอสม สุจิรา ที่ป้านู๋บีชื่นชม(เหล่าฮูล่วย หมอฉลาดในการถ่ายทอดอย่างน่าทึ่ง นับเป็นอัจฉริยะบุคคลทางด้านปากอย่างแท้จิน ป้าบีว่าแมะ!) หมอเป็นลูกศิษย์ท่านอาจารย์ใหญ่อาสโภล่วย โชคดีจินๆ มิน่า หมอฉลาดสุกๆ เพราะฝึกแบบนี้นี่เอง

มันยาวไปไม๊เนี่ย โอวทึ้ง
เหล่าฮูนึกว่าเคยพูดมาบ้างแล้ว แต่จำม่ายล่ายว่าพูกถึงไหนบ้าง แต่ด้วยเพราะฟามไม่ค่อยช่างพูกนัก พูกน้อยมาแต่เล็กๆ เลยจำเป็นต้องพูกให้กระจ่าง เดี๋ยวจะว่าไม่พูกให้ละเอียด

้เถิงไหนแล้ว!

หง่า เหล่าฮูฟังท่านอาจารย์ชัชวาลย์สอน ให้ซาบซึ้งในรสพระธรรม แต่ในใจไม่ค่อยมีศรัทธาในกมลสันดานมากนัก ติดจะระแวง
แต่ก็ใคร่ครวญแล้ว เห็นว่า ต้องตรงกะในอานาปานสติสูตรเป็นอย่างมาก รวมทั้งในมหาสติปัฏฐานสูตร เว้นซะแต่ไม่มีนวสีวถิกาเท่านั้นแหละบรรพ(นว=9 สีวถิกา=ดูเหมือนจะแปลว่าซากศพมัง เดาเอา)

เฮ่ย พูกถึงเรื่องนี้ ได้ข่าวรึเป่า
ที่มีพ่อมดเอาหัวกะโหลกจากวัดพิชิตคลอง13รังสิตมาทำปั้นเหน่ง เฉาะหัวละหลายรู

หมอเป็นเด็กรุ่นน้องเหล่าฮูล่ะ มันชื่อไอ้พจน์ ชื่อจินมันตามในหนังสือพิมพ์น่ะ ตลกดี มันเสร็จตำหรวจเพราะทะลึ่งไม่เข้าเรื่อง

บอกห้าย มันเก่งนา ไสยศาสตร์ ดารามีชื่อ(ครายๆก็มีชื่อน่ะ)หลายคนไปขึ้นมันมาแล้ว และตอนมันบวช มันเก่งด้านสมาธิ ให้หวยแม่น แต่ดันถูกด้านมึดครอบงำ เลยตอนนี้มันโฆษณาขายของในนิตยสารพระเครื่องชื่อดัง

กวงซ่งติง มารศาสนาชัดๆ สมน้ำหน้า ไอ้พจน์!

พอดี พี่ทนายก็พวกเดียวกันก็ช่วยมันน่ะแหละ คงไม่หนักหนาอะไรนัก แต่มันบ้าบอคอแตก เดี๋ยวออกมาก็เที่ยวได้ย่างเด็กมั่งร๊อก เกลียดจินๆ พวกเหลวๆไหลๆ เพื่อนเหล่าฮูที่คลอง13ก็ตัวดี ก๊วนเดียวกัน ไม่เอาไหนเล๊ย!

ตกลง ออกทะเล!

ถ้าว่างวันไหน ก็ไปช่วยเป็นสต๊าฟกะเหล่าฮู เพราะไม่มีฆราวาสมาช่วยเท่าใด เดี๋ยวเจอคหบดีปลอมตัวมากวาดลานวัดอีก ตลกพิลึก

ครั้งก่อนเจออาจารย์ดร.พรรณี นึกว่าอาซิ่มที่ไหน เรียกพี่พรรณีซะกันเอง เห็นแต่งดอกไม้วุ่นอยู่ ดีนะ ไม่เผลอใช้ไปหยิบนุ่นนี่ เพราะเคยปาก ถ้ามีใครไปช่วยเฉลี่ยจะสนุกมาก อ้อ พี่พรรณีสอนพยาบาลน่ะ ส่วนพี่แดงนักจัดดอกไม้ใจดี เป็นวิทยากรเกี่ยวกะศิลปวัฒนธรรมอะไรนี่แหละ ล้วนแต่มีปัญญาวุฒิ ชาติวุฒิดีๆทั้งนั้น
อาเฮียอีกคนเป็นถึงเจ้าของห้างในเมืองปราจีน เกือบไปทำกันเองกะเค้าซะแล้ว! ดีนะทีเจียมตัวทัน

บอกห้าย น้องๆจากยุวพูทธนี่ น่ารักมาก บางคนสวยสพรั่งทีเดียว มาที4-50คน ว่าง่าย บอกซ้ายหันก็ซ้ายหัน น่ารักที่ซู๊ด เค้าไม่ถือตัว เป็นคุณหนู ช่วยกันคนละมือละไม้ เหมาะสำหรับคนว้าเหว่อย่างเราเป็นอย่างมากเผื่อจะเห็นโลกสดใสเป็นอันมาก ในวัดนี่เอง

อ้อ หลวงพ่อจรัลและทางวัดมหาธาตุ ก็ส่งพระลูกวัดมาศึกษาที่นี่ เพื่อนำกลับไปสอนนะ เพราะที่นี่สืบสานต่อจากท่านอาสโภโดยตรง

เรียนรู้ทฤษฏี การวางใจ เรียนเรื่องวิสุทธิ
(ระดับฟามก้าวหน้า ญาณ16ในอภิธรรม มาขยายฟามต่อจากวิปัสสนาญาณ9 ที่จินมันเรื่องเดียวกันแต๊ๆ แต่เราๆไม่ค่อยรู้จักเรื่องนี้กันนัก ช่ายแมะ แต่ที่นี่จะไขฟามกระจ่างให้ฟัง หลักสูตร15วัน คืออบรมตอนเย็น7วันแรก เพื่อการวางใจที่ถูกต้อง จากนั้น 7วันหลังไปอยู่กุฏินุ่นคนเดียว

ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เค้าว่า มีสตอรี่ทุกกุฏิล่ะ อดินารีนกระฉูดตอนดึกๆเลยล่ะ
สนแมะ โซ้ยตี๋!

เหล่าฮูงดวิจารณ์ของสำนักอื่นที่นี่ นำเสนอแต่ที่เหล่าฮูฮู๊มาก็แล้วกัน

แต่ทว่า ขอนิดนึงแล้วกัน

ของสำนักอื่น เค้านำแนวทางมาจากลาว ซึ่งไม่ปรากฏในประวัติพุทธศาสนาว่า มีบทบาทในทางเผยแผ่อย่างมีนัยยะสำคัญนัก

และ สงเคราะห์ไม่เข้ากะในมหาสติปัฏฐานสูตรเท่าใดนัก
ไม่ว่าจะในอานาปานสติบรรพ อิริยปถบรรพ สัมปชัญญะบรรพ และฯลฯบรรพ ไม่เข้าเค้าสักอัน!

อย่าโกรธนะว่อย พูกกงๆ ป่าวว่าใครนา

จบแค่นี้แล้วกัน สนใจโทรมาเน่อ
ลทั้งโซ้ยตี๋และท่านเกิดฯสหายแห่งเรา
แล้วอย่าไปทะเลาะกันที่นั่นล่ะ

ถ้าราบรื่น เหล่าฮูจะชวนท่านmesและป้าแดงแครี่ไปล่วย ดีแมะ โซ้ยตี๋

แต่ยังไม่ชวนร๊อก เค้ายังไม่ค่อยเชื่อเหล่าฮูมากนัก เพราะเหล่าฮูพูกไม่เก่งอย่างที่รู้ๆกัน ชวนใครก็ไม่เคยสำเร็จ เที่ยวนี้ดูทีจะมีใครไปเฉลี่ยบ้าง ถ้าว่างเสร็จงาน เผื่อนั่งภาวนาต่อซะเลย เหอๆๆๆๆ ชักเสพย์ติดอดินารีนตอนดึกๆซะแล้ว
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:0:27:34 น.  

 
 
 
........เมื่อก่อนเคยอยู่ในโอวาท สงบเสงี่ยมเรียบร้อย
ยังกับผ้าพับไว้ แต่พอไปคุยกับเพื่อนๆในเว็บพังจิต แล้ว
สันดานก็เปลี่ยนเป็นเถียงคำไม่ตกฟาก หัวแข็ง
ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่สนใจการบ้านการเรือน วันๆเอาแต่เข้า
เว็บโม้ทั้งวัน ไม่เป็นที่สบอารมณ์ป๋าโจ เป็นอย่างมาก
ก็เลยยื่นคำขาดให้เลิกเล่นเว็บพังจิต และไปเล่นเฟสบุ๊ค......
--------------------------------------------------

เฮ่ย !
นั่นมันสเป็คเหล่าฮูเลยนะนั่น
-อยู่ในโอวาท
-สงบเสงี่ยมเรียบโร้ย
-ผ้าพับไว้

แต่มันช่างเป็นคนละขั้วกะ
-เถียงคำไม่ตกฟาก
-หัวแข็ง
-ไม่ยอมอ่อนข้อ
-ไม่สนใจการบ้านการเรือน
-วันๆเอาแต่เข้าเว็บโม้ทั้งวัน

ดูทีป้าขวัญน่าจะฮาร์ดคอร์ซะละมาก
เก็บฟามดื้อลึกอ่อยป๋าโจจนตายใจ มาปล่อยหมัดเด็ดทีหลัง
ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

ซีวิตก็เป็นอย่างนี้ เหมือนฮูหยินเฒ่าของเหล่าฮู
เดี๋ยวนี้พอหัวเราะดังหน่อย ต่างคนต่างหัวเราะดังปู๊ดป้าด หมดฟามละอายใดๆ
เผลอๆหัวเราะดังฝ่าเก่าเพราะขำ
ขำไปตดไป ไชโยประเทศไทย

เฮ่อ! พูดแล้วอยากไปพุทธวิหารอีกแล้ว ไปเก็บอารมณ์ซะบ้าง เผื่อจะได้ไม่ต้องมาเกิดเพื่อตดให้ใครได้ยินอีก หรือมานั่งฟังใครตด มันเป็นเสียงที่สุดแสนจะไม่น่าฟังเท่าใด
ต่อให้ผู้ปล่อยเสียงครวญครางจากช่องแคบ จะสวยสดงดงามสักปานใด ผู้เฒ่าก็มิปราถนาจะได้ยิน

แต่ ที่นี่ก็น่าอภิรมย์ มาเสวนากันต่อที่นี่ก็สนุกดีเนอะ
เหล่าฮูก็ไม่ค่อยได้โม้ในพังจิตนานแล้ว อีลบของเหล่าฮูบ่อยๆ จนเหล่าฮูอดปรารภถึงปะป๋าของไอ้คนลบไม่ได้ กวงซ่งติง
พิมพ์ตั้งยาก มันลบเฉยเลยเว่ย เฮ่ย

ครั้งนึง มีไอ้ติงต๊องคนนึง มันลบข้อความของเหล่าฮู มันด่าเหล่าฮูซี้ซั้วน่ะ เพราะคิดว่าเหล่าฮูไปแหย่มัน ทำนองจีบเด็ก
ก็อาอั่งไล้ฮวกไช้ฮวกหกน่ะแหละ อานู๋-เหล่าฮูเอ็นดูมากๆ น่ารักดี อายุโตกั่วไจ่ไจ๋นิดเดียว ช่างจำนรรจา
ตานี่ชื่อพินิจ เหล่าฮุว่าหมอคงขี้หลีจินๆน่ะแหละมัง โชว์พาว
หมั่นไส้ชะมัด
แล้วก็แล้วไป
ใครๆก็เกลียดหมอนี่ เพราะมีพฤติกรรมบ้าอำนาจนี่แหละ

พูกถึงอั่งไล้ เหล่าฮูห่วงมาก เพราะไปหลงเชื่อลัทธิพระศรีอารย์อีกคน

โอว์ บร๊ะจ้าว!
ลัทธิสีอาน ติงต๊องกันเหลือเกิน ชาวพุทธ!

ยุคนี้ ยังมีพวกมารศาสนาแบบนี้ผุดขึ้นตลอด
ไม่นานมานี้ ไจ่ไจ๋ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนสุดแสนหล่อของเหล่าฮูไปกะเพื่อนๆร่วมก๊วนที่น่าน ก็ไปเข้ารีต ลัทธิบ้าแบบนี้แหละ
มีไจ่ไจ๋คนเดียวที่รอด ไมเชื่อมันแม้แต่น้อย ดีที่มีภูมิคุ้มกันอยู่บ้าง

เหตุครั้งนั้น ไจ่ไจ๋เสียเพื่อนสนิท5คนให้กับลัทธิบ้านี่ นัยว่าแตกหน่ออกมาจากลัทธิปรามาสของฤาษีลิงดำนี่แหละ
(เฮ่อ อดไม่ได้ เจออีกแล้ว เมื่อไหร่หนอที่เขาจะรู้ ไอ้คนเผยแพร่นี่ก่อกรรมกับมนุษยชาติแท้ๆเลย แตกหน่อชวนคนงมงายแต๊ๆ)

เอาๆ แค่นี้แหละ เดี๋ยวได้ทะเลาะกะเหล่าฮูอีก ยิ่งถูกกักบริเวณอยู่ เหล่าฮูต้องประคบประหงมป้าขวัญ เพื่อปลอบขวัญเสียโหน่ย ไหนเลยจะมาชวนวิวาทซ้ำที่นี่อีก

ตาแฉะหมดเวลาเหมือนอุลต้าแมน
ไว้ค่อยมาเสวนาภายหลัง ติดป้าบีไว้ก่อน ยังหาเรื่องมาโม้ไม่ได้ เดี๋ยวคิดออกค่อยมาแปะแล้วกัน!
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:0:53:03 น.  

 
 
 
เย้ ! ดีใจ๊ดีใจ....ในที่สุดเรทติ้งบล็อกนี้
ก็กระฉูดทะลุ ร้อยกว่าดอกส์แระ
( ซาแดงว่า อิตั้วเจ้ ยัง So Hot อยู๊ โฮ่ ๆ )


ถ้าไงเด๋วคืนนี้ ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดทางเทคนิค
จา แวะมาตัดริบบิ้นเปิด โครงการ 6 พร้อมกับถกประเด็น
( ก่อจาหาเรื่องเผ่นเข้ากะลา จร้าาาาาา )
แบ่บว่า หน้านี้เริ่มโหลดช้า แระ แหะ ๆ
 
 

โดย: อินู๋บัว พย๊ามจาหุบบบบบบบบบบบบ (นู๋บี ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:9:12:14 น.  

 
 
 

นู๋บีว่า...
.......................................

แต่ไงก็ต้องแท้งกิ๋ว อาเหล่าแปะ นะเจ้าคะ
ที่มีน้ำใจมาคอยเป็นห่วงเป็นใย
แถมยังยอมเปลืองเนื้อเปลืองตัว
ออกมาปกป้องผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่แสนจะบอบบาง อย่างนู๋บี
เวลาที่นู๋บี ถูก ไอ้ผู้ชายใจร้ายมันย่ำยีหัวจิตหัวใจ ฮือ ๆ

เฮ้อออ ทำไม โลกธรรมแปด มันถึงไม่เที่ยง เยี่ยงนี้หนอ
ตอนแรกก็แสร้งทำเป็น ไอ้เด็ก ก้วยยี้ มาหัวร่อต่อกระซิกด้วย
แต่ครั้นคนสวยอย่างเราเผลอพูดจาไม่ถูกหู เข้าหน่อยเดว
ละครเรื่องมังกรหยก ก็ หกคะเมนตีลังกา
กลายเป็น นิทานก่อนนอน เรื่อง นู๋น้อยหมวกแดง ซะงั้น
อะโหยยเข้าใจฟามลู้สึกของป้าแดง เอ๊ย นู๋น้อยหมวกแดง จิง ๆ โว๊ยยย อะซิก ๆ
............................
เหล่าฮูว่า


โถ แม่คุณ
เหล่าฮูเพิ่งไปอ่านเจอตะกี้เอง
นู๋บีถูกคนใจร้ายใส้ไคล้ป้ายสีเหรอ
น่าฉงฉาน เดี๋ยวเหล่าฮูจะปรามให้เน่อ
แม่เจ้าประคุณรุนช่อง
แล้วอย่าไปแลบลิ้นปลิ้นตาใส่เค้าอีกล่ะ
โซ้ยตี๋ดูจะถูกชะตาเหล่าฮูไม่น้อยทีเดียวเชียว
เผลอๆเหล่าฮูอาจแปรพักตร์ดื้อๆนะจ๊ะ นู๋บีคนดี

--------------------------------------------------
นู๋บีว่า...

ว่าแต่ ในการศึกครั้งนี้
อาแปะ จา ถือหางข้างคราย ดี คร้าาาา
ระหว่าง เจ้าหมาป่าหน้าเหี้ยมม
หรือว่า แม่เทียวเสี้ยม หมวกแดงงงงงงงงงงง ? อิอิ


............................

เหล่าฮูว่า


เนี่ย ถึงร้ายก็รักเสมอ
เหล่าฮูอยู่ข้างสุภาพสตรีเท่านั้น
ส่วนสตรีที่ไม่สุภาพ เหล่าฮูมักจะหลีกห่างเสมอน่ะจ้า
แต่สำหรับนู๋บีกรณีพิเศษ
ยังไง๊ยังไงก็ดูดีเสมอจ้า


----------------------------------------------------
นู๋บีว่า...



เออ นี่ ๆ อาเหล่าแปะ ขราาาาาา
ในฐานะ ที่ อาเหล่าแปะ ลู้จักนู๋บีมาตั้งนาน
นานยิ่งกว่าที่ ไอ้โซ๊ยตี๋ มันลู้จักนู๋บี ซะอีก
อาแปะ ว่า นู๋บี เป็น แดงสลิ่ม หรือ เหลืองอมสะตอ
แบ่บ ที่โดนคนบางคนมัน ค่อนขอด อ๊ะปล่าวคร้าาาาาา

เฮ้ออ ม่ะอยากบอกเรยว่า นั่งฟังไอ้ตี๋ มันชี้หน้าด่านู๋บีฉอด ๆ
หาว่า นู๋บีป๊อด มั่งล่ะ หาว่าไม่กล้าเลือกข้าง มั่งล่ะ
หนักเข้า ก็มาเม้ง ว่าเป็น อิสลิ่มลืมกำพรืด สะตอลืมกลิ่น
ไม่มีความคิดเป็นของตัวเอง ซะงั้น
แมร่งฟังแร้ว ก็ ทั้งขำทั้งเซ็งจิตว่ะ

อะโหยยยย จิตนาการบรรเจิดโคตร ๆ
เนี่ย แค่นู๋บี งัดเอา คอลเลคชั่น รูปภาพสะสม
มาอวด แควนคลับแค่เนี๊ยะ
มั๊นก็มาดุมาด่า หาว่า นู๋บี กระสันอยากโชว์โง่
อยากเอากิเลสของสื่อ ความชั่วของนสพ มาอวด
แถมยังมา กระทู้ถาม อี๊ก ว่า

ถามจริงที่ลื้อเอารูปเอาความคิดของสื่อมาโพส
ลื้อคิดว่า มันเป็นปัญญาหรือว่ะ
เห็นชอบด่าคนอื่นเป็นเสือใบลานเปล่า
พวกนั้นยังดีพูดตามจริงตามพระไตรปิฎก แต่ลื้อ
แม่งหยิบเอาเรื่องเมคขึ้นเอง เรื่องที่จะให้คนอื่นชิกหาย

............................................
เหล่าฮูว่า


โอ้โฮ โซ้ยตี๋
มันจะหนักข้อไปละม๊าง
ค่อยๆพูก ค่อยๆจาก็ล่าย
ทำไมต้องรุนแรงกันด้วย
นู๋บีถูกกั่วเห็นๆ เหล่าฮูก็ชอบปลากรอบของนู๋บี อย่าไปใส่ใจกะเสียงนกเสียงกา ปรากอบของนู๋บีคลาสสิคสุกๆ เหล่าฮูชอบมั่กๆ

----------------------------------------------------
นู๋บีว่า...


เฮ้อออ เนี่ย นู๋บี อยากจะบอกมันเหลือเกิ๊นนนนน
ว่า ไอ้เรื่องที่ อวดคอลเลคชั่นรูปสะสม พวกเนี๊ยะ
ตรู ไม่ได้คิดว่ามันเป็นปัญญา ว้อยยยยย
ก็แค่ คิดว่า มันเป็นการเล่น ตลกคาเฟ่
ที่เอาไว้เกทับบลัฟแหลก อำกันเล่นแบ่บขำ ๆ เท่านั้นแหล่ะ

ก็บอกแล้ว ว่า นู๋บีชอบเสพย์ การ์ตูนและภาพ ล้อการเมือง
แล้ว ไม่ได้มอง ภาพตัดต่อ พวกนั้น เป็น ขยะ ด้วย
แต่ มองมันเป็นเหมือนชิ้นงานศิลปะ แขนงหนึ่ง
พอเห็น ภาพอันไหน แหล่ม ๆ อ่านแร้วขำกลิ้ง
ก็เรยหัวเราะชอบใจ แล้วอยากจะเอาโพสแบ่งปัน รอยยิ้ม
และเสียงหัวเราะ กับบรรดาสหาย มันก็แค่นั้น

ทว่า ไม่คิดไม่ฝันเรยว่า
ไอ้ตี๋มันจะเส้นลึก ไม่นึกตลกไปด้วย
แถมยัง มาร้องง้องแง้ง แช่งชักหักกระดูก นู๋บีอี๊ก
โทดฐาน ที่ทำให้มันเสียฟามรู้สึก

แต่เรื่องนี้ จะบอกให้นะ ว่า
มันจะ เสียฟามลู้สึก ยังไง ก็ช่าง แมงมัน จิ๊ค๊ะ
ตัวไม่ได้ติดกันนิ ต่อให้มัน มะโห เครียดจนไมเกรนกำเริบ
นู๋บีก็ไม่ได้ บ้าจี้มีอาการไมเกรนขึ้นกบาล ตามมันไปด้วยนิ อิอิ

...................................

เหล่าฮูว่า


ช่าย ช่าย
รูปปลากอบตลกมาก
โซ้ยตี๋อคติเห็นๆ
รูปปลากอบอุตส่าห์ทำด้วยฟามวิริยะ อุตสาหะแท้ๆ
เป็นศิลปะที่ยากประเมินคุณค่า
โซ้ยตี๋มองข้ามข้อนี้ไปได้ไงนะ
ศิลปะเห็นๆ

------------------------------------------------------
นู๋บีว่า...

ที่สำคัญ มันก็บอกเองนี่หว่า
ว่าไม่อยากคุยเรื่องการเมืองด้วยแระ
แล้วมันจะมา พื้นฝอยหาตะเข็บ อะไรก๊ะนู๋บี นักหนาล่ะวะคะ
ถ้ามันทำหูทวนลม ทำไม่รู้ไม่ชี้ ไปซะอย่าง
เด๋วนู๋บีเบื่อ นู๋บีก็เลิกพูดเรื่องนี้ เองแหล่ะ
ใครมันจะไป บ่นเป็นอีบร้า อยู่ได้คนเดว ฟระ

แล้ว ที่นู๋บีแพล่ม ๆ สู้ หลังขดหลังแข็ง
เอา คอลเลคเลคชั่นรูปสะสมมาโพสเนี่ย
นู๋บี พูดกะมัน แต่ไม่ได้คุยกับมัน ว่ะ
ก็แค่ อาศัยมัน เป็น สะพาน
ข้ามไปคุยกันกระหนุงกระหนิง
ก๊ะ เหล่า แควนคลับเฉย ๆ อ่ะ

ดังนั้น ทุกเรื่องทุกช็อทและทุกรูป ที่เอามาโพส
ไอ้ตี๋มันจะเคยเห็นมาหมดแล้ว ก็ช่างหัวมันปะไร
เพราะ ตรูไม่ได้โพส หั้ยเมิงดู คนเดว นี่หว่า
ตรูโพสเพื่อแบ่งปันก๊ะ แควนขับ ของตรูด้วยเฟร้ยยย

แต่ ดูเหมือน มันจะไม่เข้าใจ ความนัย อันนี้เล๊ย
ดันเสือก ปรุงแต่งฟุ้งไปเรื่อย กล่าวหานู๋บี อีกอ่ะ ว่า


--------------------------------
ทำเป็นอีแอบ ชอบเนียน ชอบอีกคน แต่เอาอีกคนมาบังหน้า
เพื่อกลบเกลื่อนความในใจ มันก็เหมือนอีเหยินเจ็ดสี ที่ทั้งรัก
ทั้งหลงพี่ม้าก แต่แกล้งเนียนว่า เป็นสื่อเป็นกลาง

อีเจ้นี่โด--ตระเนียนเลย อั้วเห็นลื้อแหกปากด่าอั้วว่า
ยึดมั่นถือมั่น แต่เท่าที่ดูความเห็นลื้อมา
แม่งยกแต่พวกเหลื่ยมขึ้นมาด่า
เจ้จะว่าใครมันต้องกล้าออกตัวอยู่ฝ่ายไหนไปเลย
ทำเนียนว่ะ แกล้งโยนหินถามทางแบบนี้ แม่งเด็กจริงๆ
---------------------------------------------


เฮ้ออออ สงสัย ต้องเลคเชอร์
ให้ไอ้ผู้ใหญ่บ้านเป็ด มันฟัง อีกสักหลาย ๆ รอบแล้วล่ะ
ว่า นู๋บีไม่ได้แกล้งเนียน ไม่ได้เป็น อีแอบ
ไม่ได้ แอ๊บกลางแบบอินังเหยินสุดที่ร้ากกกก ของมันด้วย


มันคิดว่า ในโลกนี้มีแต่มันคนเดียว หรือไงวะ ที่ไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด น่ะ
อาแปะลู้แล้วอย่าตกใจนะ คนอย่างอิฉันน่ะ
มักจะมีแนวคิดที่ค่อนข้างประหลาดว่ะ
ไม่ใช่ แค่จะเป็นพวกปัจเจกที่ไม่มีสถาบันศาสนา เท่านั้นนะ
ต่อให้เป็น สถาบันชาติ สถาบันครอบครัว สถาบันการศึกษา
หรือว่า สถาบันเสริมฟามงามที่ไหน ฯลฯ
อิฉัน ก็ไม่เคยสนใจจะมีไว้ยึดเหนี่ยวจิตใจ นะ
................................................


เหล่าฮูว่า



ข้อนี้ นับว่าเป็นตัวของตัวเองโดยแท้
ไม่จำเป็นต้องฝักใฝ่ฝ่ายใด
เป็นปัจเจกไง โซ้ยตี๋
วางตัวกลางๆไง แค่นี้ทำไมไม่เข้าใจน๊า!

-------------------------------------------------------
นู๋บีว่า...



แบ่บว่า แข็งนอกแข็งใน
และ เป็น คนไร้รากโดยสมบูรณ์แบบ
แถมยังชอบตัดสินทุกอย่างรอบตัว
จากความพอใจ และประโยชน์ใช้สอยซะด้วย
ถึงได้บอกไง ว่า อิฉัน เข้าใจฟามรู้สึกของ ทักกี้
เพราะ อีมีหลายอย่างที่คล้ายกับอิฉัน เอิ๊ก ๆ
......................................
เหล่าฮูว่า


ช่าย ช่าย
ทักกี้ดีที่สุด เน๊อะ!

_________________________________]

นู๋บีว่า...

เออ นี่ ๆ ในฐานะที่ อาแปะ เป็น พุทธบริษัท 4
ขอถามหน่อย ดิ ไอ้ที่มีคนมาแพล่ม ๆๆ บอก ว่า


หน้าที่อย่างหนึ่ง ในสังคมพุทธ
คือ ห้ามวางเฉยเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
และ ต้อง เม้งแตก ประณามคนที่ขาดเหตุผล
ต้อง ถูลู่ถูกัง ทำให้เขาสำนึก ให้ได้
ยิ่งถ้าเป็นคนที่เรารู้จักและสนิทสนม ด้วย
ยิ่งต้องเอาให้หนักกว่าชาวบ้านเขา ฯลฯ


อาแปะขราาาาา เรื่องนี้ มันจิงแท้แน่นอน
อย่างที่ไอ้โซ๊ยตี๋มันโม้ไว้อ๊ะปล่าวคร้าาาาาาาาาาาาา
ไม่รู้ดิ ฟังแร้วมันคาใจอ่ะ นึกถึง เรื่องราวในไบเบิ้ล เรื่องเนี้ยะ จังเยยยย




อืม....เพราะสำหรับ อิฉันแล้ว
คำพูดประณามหยามเหยียด ทั้งหลายในลักษณะนี้
มันเหมือนการปาหินทำโทษคนบาปในสมัยก่อนล่ะมั้ง
มัน ไม่ใช่ สัมมา ว่ะ เผลอ ๆ เอนไปทาง อคติ 4 ด้วยซ้ำ


................................................
เหล่าฮูว่า

หง่า!
มันอย่างนี้จ้า
ห้ามวางเฉยเมื่อเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง

เรื่องนี้ต้องขยายฟาม
การวางเฉยนั้น เราเรียกกันว่าอุเบกขาจ๊ะ
เป็นเรื่องที่แตกต่างกันอย่างมากจากพรหมวิหารข้ออื่นๆ
ที่ต้องเพียรฝึก วางใจ และเป็นระดับฟามรู้สึกจ้า
แต่เรื่องของอุเบกขา เป็นเรื่องของปัญญาจ้า
เหมือนเวลาที่เห็นทักกี้ถูกยึดทรัพย์ไง
เราก็ดูด้วยฟามวางเฉยไง

คล้ายตอนนู๋บีถูกโซ้ยตี๋ค่อนขอด
แล้วอาสับสนเค้านึกสมน้ำหน้า แกมหมั่นไส้
แต่สับสนอีก็จะวางใจเฉย เรียบ
ทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ เพราะเห็นมีคนมาฉอดๆใส่นู๋บีมั่ง
เลยแกล้งทำไก๋ไง เผื่อจะพลาดพลั้ง จะได้มีเฮสักครั้ง

เหมือนผักบุ้งไฟแดงไงจ๊ะ
ตอนที่มันโยนขึ้นฟ้านะ คนอีกฝั่งมันจะมารอรับ
และมันรับได้เสมอ คนดูๆไปก็เบื่อ
เฮ่อ มะเห็นมีอะไรแปลก นั่งกินซังกะตาย!

แต่พอจานไหนมันพลาด เมื่อนั้นแหละ
คนที่นั่งกินอยู่ จะลุกขึ้นมาเฮ ตบมือลั่น
สะใจในฟามย่อยยับของผู้อื่นไงล่ะจ๊ะ

นี่อุปมาเทียบเคียงเรื่องอุเบกขาพอเข้าเค้าไหมเนี่ย
ต้องวางเฉยด้วยปัญญาทีเดียว

ทีนี้
หากเจอสิ่งที่ไม่ถูกต้อง
ในฐานะชาวพุทธเรามีท่าทีอย่างไร
เราไม่เฉยหรอกจ้า

เคยสังเกตไหม พระพุทธเจ้าท่านไม่เฉยนา
ถ้าพระทำผิดวินัย ท่านฟันฉับๆจ้า

ไม่มีการ
ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว
สัตว์โลกย่อมเป็นไปตามกรรม
ไม่รู้ไม่ชี้

แต่พระพุทธเจ้าสับเข้าให้
ไอ้นี่ปาราชิก
ไอ้นี่สังฆาทิเสส
ไอ้นี่ปล่อยไม่ได้ ฯลฯ

ท่านไม่รอกฏแห่งกรรมทำงานหรอกจ้า
ไม่งั้นมันจะเข้าลักษณะของลัทธิอเหตุวาทไงจ๊ะ
คือ โชคบันดาลไปตามเรื่องตามราว
ของพุทธไม่ใช่แบบนั้น

ถ้าอยู่ในฐานะที่ต้องกระทำ ยิ่งต้องทำหน้าที่ เช่น
หากเป็นพ่อแม่ ต้องอบรมกุลบุตร กุลธิดา เนาะ
ถ้าเป็นเพชรฆาต ต้องทำตามหน้าที่
ถ้าเป็นผู้ครองเรือน ก็ต้องมีทิศทั้ง10
ไม่วางเฉยไม่รู้ไม่ชี้นะจ๊ะ
ข้อนี้เหล่าฮูช่วยม่ายล่าย
อาโซ้ยตี๋เค้าพูกถูกจ๊ะ


แต่คงไม่ถึงขนาด ต้อง เม้งแตก ประณามคนที่ขาดเหตุผล
ต้อง ถูลู่ถูกัง ทำให้เขาสำนึก ให้ได้
ข้อนี้ เหล่าฮูว่า พูดแล้วตามสมควรแก่เหตุก็พอจ้า
ถ้าต้องขนาดนั้นล่ะก้อ ปล่อยเค้าเข้าป่า
หรือปล่อยให้ธรรมชาติฆ่ามันเถอะจ๊ะ

________________________________________
นู๋บีว่า...

อืม...อาเหล่าแปะ เคยดูเปาบุ้นจิ้น
ตอนประหารเปาเหมียนมั้ยละ
จะบอกให้ ว่า ถ้าไอ้เปาหน้าดำ
มันตัดสินประหาร เปาเหมียน
ทั้ง ๆ ที่ โทษทัณฑ์ ยังไม่ถึงกับต้องประหัตประหาร กันเนี่ย
อิฉัน ไม่เรียกว่า แข็งนอก หรอกนะ
แต่ จะเรียกว่า ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
วินิจฉัยโดยมี อคติ 4 เป็นที่ตั้ง
ทำให้ ตราชั่ง ไม่เป็นกลาง ว้อยยยยยย


และ ถ้า อิฉันเป็น เปาเหมียน อ่ะนะ
อิฉันจะ ยื่น อุทรณ์ ฎีกา ฟ้องกลับ ไอ้เปาหน้าดำ
ทั้งทางแพ่งและทาง อาญา
แล้ว อัปเปหิ มันออกจาก ศาลไคฟง
โดยยกเอาประเด็นเรื่องการขาดคุณสมบัติของการเป็นศาลพระภูมิที่ดี
ไม่มีทั้ง หลักการ และ หน้าที่ มาเล่นงานมันฮ่ะ
แมร่งมีอย่างที่ไหน เสือกใช้ดุลพินิจ โดยมี อคติ 4 แอบแฝง
งี้มันต้อง แจ้งความกลับ เพื่อรักษากระบวนการ ยุติธรรม !
ห้ามเห็นแก่ ความเป็นพี่น้องร่วมสาบาน
หรือ ความเป็นญาติโกโหติกา เมื่อชาติปางก่อน


จริงอยู่ ใครจะดีจะชั่ว มันก็เป็นเรื่องของเขา
ทว่าสำหรับพวกเรา มันก็ไม่จำเป็นจะต้องมานั่ง ถนอมน้ำใจ
ยึดมั่นถือมั่น กับคำสัญญิงสัญญา ที่ว่า
จะต้อง ดีซึ่งกันและกัน ไปชั่วกาลนาน
แต่ ทุกอย่างมันต้องว่ากันไปตาม กระบวนการ

ใครถูก ก็ว่าไปตาม ถูก ใครผิด ก็ว่าไปตามผิด

ไม่ใช่ คิดแต่จะ ว่าไปตามความพอใจไม่พอใจ ส่วนตัว
สิ่งนี้ ตะหาก ล่ะ ที่เรียกว่า แข็งนอก ที่เหมาะสม


ส่วนอ่อนใน ก็คือหลังจากที่ ศาลพิพากษา
มีคำวินิจฉัย ให้ นั่ง เก้าอี้ไฟฟ้า จน ไอ้ทั่นเปาหน้าดำ มันตายหองตาย 5 ไปแล้ว
อาเหล่าม่า เอ๊ย เปาเหมียน คนนี้ ก็จะขอรับผิดชอบ
หอบ อาตี่ตี๋ไปเลี้ยงดูปูเสื่อให้เป็นอย่างดี แทนเตี่ยมันเอง
โดย นู๋บีจาให้อาตี่ตี๋ไปเป็นเด็กล้างส้วม
อยู่ในฮาเร็มของอิตั้วเจ้ สัก ห้า-หก ปี
เพื่อเป็นการปฏิบัติธรรมเจริญสติ ลดทิฐิมานะ อ่า
รับรองว่า ถ้าได้อยู่ในฮาเร็ม น้อยคอยร้ากกก ของอิตั้วเจ้ แล้ว
โตขึ้นมา ไอ้นู๋นั่น มันจะกลายเป็นหนุ่มน้อยอัธยาศรัยดี
ที่ไม่อวดเก่ง ถือดี และ ชอบทุจริตต่อหน้าที่
เหมือน เตี่ยมัน แน่นอนนนนนน
( ถ้าอาตี่ตี๋มันไม่สำลักกลิ่นขรี้ ตกชักโครกตายซะก่อนอ่ะนะ เหอ...เหอ.. )

..............................................................
เหล่าฮูว่า


โถ นู๋บีคนดี
จำได้แม้แต่เปาเหมี่ยนเลยเร๊อะ
เค้าเป็นน้าหลานกันยังอุตส่าห์จำได้
เช่นนี้แล้ว
ถือว่าเหล่าฮูไม่ได้พูดอะไรล่วงเกินนู๋บีก็แล้วกันนะ
อะไรที่ผ่านไปแล้วก็แล้วกัน
เดี๋ยวไปขุดเชลยเก่าๆของเหล่าฮูมาพูกอีก
เหล่าฮูไม่พูกต่อดีกั่ว!

________________________________________
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:13:24:48 น.  

 
 
 
นู๋บีว่า...

อิอิ นี่แหล่ะ คือ บทสรุป
ที่แสนจะหมดจด และ งดงาม
ของ คำว่า แข็งนอกอ่อนใน
ตามแบ่บฉบับ ของ โกวเนี้ยนู๋บี
ความแข็งนอกก็คือหน้าที่
อ่อนในก็คือความห่วงใย อิอิ และ อิอิ

...............................................

เหล่าฮูว่า


ถูกต้องจ๊ะ

________________________________________
นู๋บีว่า...

อืม...อาแปะ รู้ไหม ว่า
เชื้อชาติ สัญชาติ และ ศาสนา
ไม่เคยมีความสำคัญกับอิฉันมาตั้งแต่ไหน แต่ไร แล้ว
เวลาเข้าแถวเคารพธงชาติ นู๋บีไม่เคยร้องเพลงชาติไทย
มาตั้งแต่ สมัยประถม แล้ว นะ

และ ไม่เคยเข้าถึงความรู้สึก
ของ รักชาติ ศาสนา และ .... ฯ ด้วย
เนี่ย เวลาที่มองดูและ นึกถึงคำว่า ชาติไทย หรือ สถาบันไหน ๆ
อิฉันก็รู้สึกว่า กำลังมองดูสิ่งต่าง ๆ ด้วยสายตาของคนนอก นะ
จะชาติไทย ชาติยุ่น ชาติเจ๊ก ชาติแกว หรือ ชาติหรั่ง
จะ คริสต์ พุทธ หรือ อิสลาม ในความคิดของอิฉัน
มัน ก็แค่กลุ่มคนที่มีบางสิ่งบางอย่างเหมือนกัน
เลยมาสุม ๆ รวมกันเป็นกลุ่มเป็นก้อน
แต่ก็ไม่ได้รู้สึกว่า อิฉัน ต้องเป็นส่วนหนึ่งของมัน
หรือ ต้องมาคอยรักและผูกพันธ์ ปกป้องอะไรกันนักกัน นักหนา นะ
เพราะ อิฉันไม่เคยคิดว่า มันเป็น ของกรู เลย



อืม...ถ้าจะยกตัวอย่าง ให้เห็น ภาพ
กรณี ปราสาทเขาพระวิหาร
ที่เราตบตีแย่งสิทธิ กับ ขะแมร์ เนี่ย
รู้ป่ะ อิฉัน คิดไงกับเรื่องนี้
คนไทยตามทะเบียนบ้าน อย่าง อิฉัน
ขอ อนุยาด มองด้วยสายตา ของคนนอก
แล้ว บอกว่า


ถ้า ไอ้ฮุนเซนมันอยากได้
ก็ หลับหูหลับตายกให้มันไปเรยดิ๊
ไม่รู้จะหวงก้างหวงสมบัติเอาไว้ทำไม
เห็น พวกพันธมิตร ไปปฏิบัติการ มิสชั่น อิมพอสซิเบิ้ล
ทวงคืนเขาพระวิหาร เย้ว ๆ เหมือนเด็กหวงของเล่น
แล้วก็ ขบขัน แกม รำคาญ นะ

........................................................
เหล่าฮูว่า


ได้จ๊ะ ได้!
ยกให้มันไปเลย

________________________________________

อืม...ถ้าพูดกันตามประวัติศาสตร์จิง ๆแล้ว
ปราสาทเขาพระวิหารนี้ มันก็เป็น ศิลปะ
และ วัฒนธรรมของชนชาติเขาจริง ๆ นั่นแหล่ะ


สมัยก่อน ดินแดนแถบนั้น เคยเป็นของเขา
แต่ถูกไอ้พวกคนไทยรุกรานแผ่นดิน
แล้วชิงเอามาเป็นของตัวเอง นะ
ถ้าเขาอยากได้ ก็คืนเขาไปเหอะ งกไม่เข้าเรื่อง


ไอ้เรื่อง สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ นี่ก็เหมือนกัน
ถ้ามันกระเหี้ยนกระหือรือ อยากจะแยกตัวนัก
ก็ยกแผ่นดินหั้ยมันไปเต๊อะ หวงเอาไว้ทำไม
คนเราเมื่อตายไปแล้ว ก็เป็นเจ้าของที่ดินเท่าแมวดิ้นตาย
แค่เฉพาะ ตรงที่เขา ขุดหลุมฝังตัวเองเท่านั้น
จะไป จัด แคมเปญ สำนึกรักหวงแหนแผ่นดินเกิด
ให้มันมี ระเบิดรายวันสัญจร ไปใย
แต่ก็นั่นแหล่ะนะ ผลประโยชน์ มัน ไม่เข้าใครออกใคร
รายได้เรื่องพวกนี้ มันทำกำไรมหาศาลเรยนิ
ไม่ว่า ใคร ก็ย่อมต้องอยากได้เอาไว้ในครอบครองกันทั้งนั้น

.......................................................
เหล่าฮูว่า


ก็นู๋บีไม่ได้อยู่ตรงนั้น คงนึกภาพไม่ออกม๊าง
ถ้ายกอดีตมาอ้างก็คงไม่จบ
ฐานะชาวไทยก็ต้องปกป้องประโยชน์สิจ๊ะ

เดี๋ยวเจ้าของบ้านนู๋บีในอดีตชาติมาทวงที่นอนว่า
แกไปนอนที่อื่น ที่นอนของฉัน
นู๋บีคงตกใจแย่ เสียขวัญ
และคงด่าส่งให้มันไปเกิดใหม่
ฉันใดฉันนั้น
เรื่องนี้ละเอียดอ่อนเกินฟามรู้เหล่าฮูจ้า
รู้แต่เกลียดขแมร์จ้า
________________________________________
นู๋บีว่า...


อ้อ แล้ว อีกตัวอย่าง หนึ่ง ที่ทำหั้ย
เห็นคำว่า ของกรู แบ่บชัด ๆ
ที่อยากจะยก เป็นตัวอย่าง อีกอัน ก็คือ


เวลาที่ นึกถึง อาอ๊วง กับ ควีนอลิซาเบธ
ความรู้สึก ของอาแปะ และ ชาวอังกฤษ
ที่มีต่อ บุคคลทั้งสองท่าน ที่กล่าวมานั้น จะ เหมือนกัน ป่ะ
แต่ สำหรับอิฉัน มันไม่ต่างกันเรยว่ะ
เพราะ อิฉันรู้สึกไม่เคยรู้สึกรู้สา
ว่า ท่านทั้งสองนั้น เป็น ของกรู น่ะ
และเมื่อ ไม่ยึดถือไว้เป็น ของกรู แล้ว
กฏแห่งการยึดมั่นถือมั่นของจิต ในส่วนนี้ จึงไม่มี


และ หากมี อะไร เกิดขึ้นกับทั้งสองท่าน
อิฉันก็แค่ดู สิ่งที่เกิดขึ้น ด้วยความอยากรู้อยากเห็น
( เหมือนเวลาที่บรรดาไทยมุงทั้งหลายไปมุงดูเวลามีรถชน นั่นแหล่ะ)
จากนั้นก็คง แค่รู้สึกนึกสงสาร ตามประสาคนใจอ่อน
แต่ก็ไม่ได้ เกิดความรู้สึกรู้สา ว่า จะต้องมาทนทุกข์ อะไร
กับ ชะตากรรม ของสิ่งที่ไม่ใช่ ของกรู น่ะ
อย่างมากก็คง มองผ่าน ๆ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า


อิทัปปัจจยตา สิ่งนู้นมี สิ่งนี้ จึงมี
สัตว์โลก ย่อมเป็นไปตามกรรม
นี่เป็น เวรกรรม ของมัน
และก็เป็น เรื่องของมัน ด้วยว่ะ

.........................................................
เหล่าฮูว่า



โถ นี่แหละ ให้นำหลักอุเบกขามาใช้ไงจ๊ะ
ทำหน้าที่ให้เต็มที่ก่อน
ทำให้ดีแล้ว ผลที่ได้เป็นเช่นไร ก็น้อมรับผลนั้นอย่างไม่หวั่นไหว

หลักกรรมก็มาทำหน้าที่กงนี้ไง
คือ เหล่าฮูก็เฉยๆเหมือนกัน
แต่หากเป็นผู้มีพระคุณก็อดหวั่นไหวไม่ได้จ้า
เหมือนตอนเตี่ยกับหม่าม๊าของเหล่าฮูผู้ล่วงลับไงจ๊ะ
มิอาจวางใจอุเะบกขาเปล่าๆได้
อดเสียใจไปด้วยไม่ได้

อาอ่วงแกก็ประมาณนี้
เพราะรู้สึกว่าท่านแม้จะฉลาดลึก กุมศูนย์กลางศรัทธามายาวนาน
รวมทั้งในสังคมชาวพุทธด้วย
แต่นั่นเป็นเพียงบทบาทของท่าน
แต่ท่านก็ทำด้วยจิตใจที่ดีงามแน่
คนฉลาดพิจารณาดูก็รู้ คนไม่มีปัญญาดู ก็ไม่รู้หรอกจ้า
เหล่าฮูว่าเองนะ

________________________________________
นู๋บีว่า...


อืม...ฟังอิฉันพูดงี้แล้ว แปะ อาจจะ ไม่พอใจ
แล้ว ตัดพ้อ ถามมาว่า

นู๋บีเคยสำนึกถึงฟามสุขสบาย
ยามอา"อ่วงแก"ออกหน้าช่วยบ้านเมืองบ้างเป่า
อั๊วบอกให้ ตอนปี2516-2525
อั้วเห็นข้างบ้านเราทะยอยตายโหงตายห่า
ตายหลั่ลล๊า ตายกัน3-5ล้าน
ไม่มีที่ไหนรอบบ้านเราสงบร่มเย็นเลย


มีแต่"อ่วงแก"กะแม่ของอีออกหน้า
อาเจ๊เค้าไปสร้างบ้านที่ภาคใต้ล่วยในดงโจร
ทาง เหนืออีปลูกฝิ่น แม่อาอ๊วงอีก็ไปปลูกบ้าน
อยู่กะพวกปลูกฝิ่นเฉยเลย น่ากลัว
แต่เพราะเค้าออกหน้าเรื่องคอขาดบาดตาย
อั้วเลยรู้สึกซาบซึ้งอย่างช่วยม่ายล่าย

แล้วทำไม นู๋บีถึงไม่รู้สึกโรแมนติกดราม่า แบ่บ อาแปะ เรยว้าาา



อิฉันก็ขอตอบว่า ที่อิฉันเกิดมาอยู่ดีมีสุข ทุกข์ไม่ค่อยมี
อยู่บนแผ่นดินไทยเช่นทุกวันนี้
มันก็เป็นเพราะ อิฉันทำเหตุปัจจัยมาเช่นนี้
ผลจึงเป็นเช่นนี้น่ะ วิบากต่าง ๆ ที่เกิดกับอิฉัน
มันก็เป็นไปตามครรลอง ที่ต้องเป็นไป ตามวิบากที่อิฉัน ได้กระทำ ไว้
ทั้ง ใน อดีต และ ปัจจุบันกรรม นะ
ไม่ใช่เกิดจากบุญคุณคุ้มกะลาหัวของใครที่ไหน
เพราะอิฉันทำเหตุมาดี จึงได้เกิดมาในสิ่งแวดล้อมที่ดี


และเมื่อไร ที่อิฉันทำเหตุไว้ไม่ดี
เด๋วอิฉันก็ระเห็จไปเกิดในดงเขมรแดง เองอ่ะ
ทุกสิ่งมันล้วนเกิดจากการกระทำของอิฉันเอง
ไม่ใช่เกิดจาก ความ บ่ มิไก๊ ของ เจ้าสีหนุ !
เจ้า ก็ ปุถุชน ไพร่ก็ปุถุชน กรรมที่เกิด
ล้วนเป็น กรรมของ ปุถุชน กับ ปุถุชน
ไม่ใช่ เรื่องของ คนเดินดิน กับ สมมุติเทพ


และ อิฉันเชื่อเรื่อง กรรมใครกรรมมัน น่ะ
แม้ว่า บางครั้ง กรรมของเรา จะไปเกี่ยวเนื่องโยงใย
ข้องแวะ กับกรรมของคนอื่น
แต่สุดท้าย ของแบบนี้ ก็ ใครทำ ใครได้ อ่ะ


และ หาก บักหมาน พ่ออิฉัน ถูกใครรังแก
จนนอนแผ่พังพาบอยู่ที่พื้น
อิฉันก็คงแค่ พยามปกป้องพ่อตัวเอง เท่าที่พอจะทำได้
แล้วพาพ่อไปรักษาพยาบาลและ พักฟื้น นะ
แต่ คงไม่ยึดหลักการเดียวกับ พวกเสื้อเหลือง
ไปเต้นงิ้ว ประมาณว่า บุญคุณต้องทดแทน ความแค้นต้องชำระ
แล้ว ควง ดาบหราตามไปขู่ฆ่า หรือ ทำร้าย จิ๊กโก๋ ที่รุมตื้บ พ่อ หรอกนะ

...............................................................
เหล่าฮูว่า


เหล่าฮูมีท่าทีแบบเดียวกันนี้เหมือนกัน
เข้าใจว่าส่วนใหญ่ที่รู้จัก เขามีท่าทีแบบที่ว่าเหมือนกันมัง
เสื้อเหลืองเท่าที่เหล่าฮูเห็น หล่อ สวย เท่ห์ มีกึ๋น
เค้าปกป้องอ่วงแกตามแต่จะทำได้เท่านั้น
ไม่ถึงกับแค้นต้องชำระอะไรร๊อก
จะมีอารมณ์ร่วมบ้าง ก็ในสถานการณ์คับขันหลายครั้งน่ะจ้า

เหล่าฮูเห็นคนถูกเสื้อแดงตี มาตีถึงที่พัก
เห็นเขายิงระเบิดมาตก
เกือบถูกระเบิดซะเองมาด้วย

ในสถานการณ์แบบนั้น เหล่าฮูก็อยู่แถวหน้า เพื่อป้องกันแนวรบ ไม่ได้ทำเพราะเมามันอะไร หรือชิงชัง

อาจเป็นเหล่าฮูคนเดียวก็ได้ที่คิดแบบนี้ เพราะเด็กหนุ่มสาวมากมายที่ออกมาเป็นแนวหน้า เหล่าฮูเอ็นดูพวกเขา ก็ออกมาปกป้องพวกเขาตามสมควรอ่ะจ้า
หาได้ชิงชังพวกเสื้อแดงมากมาย

ขณะนั้นมองพวกนี้เป็นเพียงมดปลวกที่อบรมไม่ได้
เป็นมนุษยดิรัจฉาน สำนึกของพวกเขาขณะนั้นเป็นเพียงสัตว์ร้าย
เหล่าฮูแค่เอาอะไรไปไล่มันเหมือนหมาที่กะลังจะเข้ามากัดเท่านั้น ถ้ามันกัดแรง เหล่าฮูก็จะล่อกบาลมันให้ยุติ

แต่ขณะล่อกบานของมัน ใช้ปัญญาขบคิดเหมือนกันว่า จะต้องใช้หมัดชุดแบบไหน มันถึงจะสงบลง เป็นเหตุให้ดูเหมือนเกรี้ยวกราด

ที่แท้ คนเหล่านั้นเป็นเพียงผู้ที่เราต้องระวังไม่ให้มาทำร้ายเรา เหมือนที่เราเดินอยู่ในสังคมก็ต้องระวังภัยจากรอบด้าน ก็เท่านั้น

________________________________________
นู๋บีว่า...

เพราะอิฉันเชื่อ ในหลัก อิทัปปัจจยตา ที่ว่า
พ่อต้องทำเหตุมาเช่นนั้น จึงเป็นเช่นนั้น
ไม่ใช่เอะอะ ๆ ก็อ้าง ว่า บุพการี คือ ผู้มีพระคุณ
ที่เกื้อหนุนทำให้เราอยู่สุขสบายจนทุกวันนี้
แล้วเราต้องทำทุกวิถีทางเพื่อ ทดแทนพระคุณท่าน
แม้ว่าสิ่งที่จะกระทำ มันจะเป็นการก่อกรรมสร้างเวร
ต่อวงจรวงแหวนโมเบียสแบ่บไม่จบสิ้น กับผู้อื่น ก็ตาม
ดังนั้น อิฉันจึงอยากให้ กรรม ทุกอย่าง มันยุติที่อิฉัน ว่ะ


อ้อ จิงสิ เห็น อาเหล่าแปะ
พูดถึง อาอ๊วง ด้วยความเป็นห่วง
เพราะกลัวว่าท่านจะถูกรังแก
และ เกิดเหตุการณ์ พลิกฟ้า คว่ำแผ่นดิน
แบบ ในจีนแผ่นดินใหญ่ สมัยราชวงศ์ชิง
คนนอกอย่างอิฉัน ก็เรยอยากจะปลอบใจ ว่า



เหตุการณ์แบ่บนั้น คงเกิดได้ยากส์
( หาก อาอ๊วง ของแปะ ยังคงอยู่ อ่ะนะ )
เพราะ ท่านเป็นศูนย์รวมแห่งศรัทธาของคนไทยทั้งชาติ
และ มีภาพลักษณ์ของพระจริยวัตรที่งดงาม
ตามแนวทางของทศพิธราชธรรม
แค่นี้ก็ได้ใจคนไทยทั้งประเทศแระ
ไม่ว่าใครก็คงจะสั่นคลอนราชบัลลังค์ ไม่ได้หรอกมั้ง


อืม...อีกอย่างที่อยากจะ หยิบยกมาหั้ยดู ก็คือ
อาเหล่าแปะ เคยรับรู้เรื่องราว
ของราชวงศ์เบญจมาศ แห่งแดนอาทิตย์อุทัย
ในสมัย ที่ไอ้ยุ่นแพ้สงครามโลกครั้งที่ 2 ไหมล่ะ ?
รู้ไหม ? ว่า ทำไม เมื่อญี่ปุ่นแพ้สงคราม อย่างยับเยิน
เมกา ถึง ไม่คิดจะล่วงเกิน หรือ ล้มล้าง ราชวงศ์เบญจมาศ
ก็เป็นเพราะ เมกา ต้องการจะใช้ บารมีที่สะสมมาของราชวงศ์เบญจมาศ
และ ศรัทธาต่อสถาบัน ของคนญี่ปุ่น มาเป็นหลักประกัน
ต่อความมั่นคงในสถานะ ผู้ชนะสงครามของตัวเองไง
ไอ้ยุ่นที่อยู่ใต้การปกครองของตัวเอง
จะได้ไม่เกิดการกระด้างกระเดื่อง จน ควบคุมไม่ได้


แล้ว การจะสร้าง ศูนย์รวมทางจิตใจ อันไหม่ขึ้นมา
เพื่อ เป็น หุ่นเชิด ไว้สำหรับคอนโทรล
เอามาใช้ปกครองประเทศผู้แพ้สงคราม เนี่ย
มันก็ต้องเสียเวลามากเกินไป นะ
เมกาถึงตัดสินใจที่จะเก็บ ราชวงศ์เบญจมาศ เอาไว้ไง


แปะเคยเล่น หมากรุก ป่ะ บางครั้ง
เราก็จำเป็นต้องยั้งมือ ไม่ผลีผลาม
รีบไปกำจัด หมากบนกระดานบางตัว ของคู่ต่อสู้
เพราะเรารู้ว่า เราสามารถใช้ประโยชน์จาก หมากตัวนั้น
มาถ่วงดุลอำนาจ ในเกมส์ที่กำลังจะเล่น ได้น่ะ


เหอ ๆ แพล่มไปเรื่อยจน ออกทะเล ที่อ่าวไทย
ไปอ่าวตังเกี๋ย แล้ว ขึ้นเหนือสู่ แดนอาทิตย์อุทัย จนได้วุ้ย
ก็แค่อยากจะปลอบใจ อาแปะ อ่า
ว่า อย่าได้กลัวไปเรยจร้าาาาาาาาาา ว่า
จะมีคนจ้องจะ โค่นล้มราชบัลลังค์
ทักกี้ อีเป็น พวกนกรู้ จอมอัจฉริยะ หมือน เมกา นี่นะ
หากที่ผ่านมา โยนหินถามทาง ซาวด์เสียงประชาชน
แล้ว รู้สึกว่า ชาวบ้านไม่เอาด้วย และ ไม่เวิร์ค
อีคงไม่ทำอะไรสุ่มเสี่ยง ให้ต้องเอาคอไปพาดเขียงหร็อก

................................................................
เหล่าฮูว่า


ฉอเลาะเชียว ช่างจำนรรจา
เหล่าฮูมองอาอ๊วงด้วยฟามเลื่อมใสก็จิน
แต่ก็เคารพท่านในฐานที่ท่านทำหน้าที่ได้ยอดเยี่ยม
มิได้เลื่อมใสขนาดต้องเล่นละครลิงหรอกจ้า
________________________________________
นู๋บีว่า...



ถ้าจะกลัว ให้กลัว เรื่องอื่นดีกว่า อ่า
ร่มโพธิ์ร่มไทรและต้นไม้ใหญ่ จะถูกโค่นให้ล้ม ได้
ไม่ใช่ เพราะ คนตัดไม้ กับ ขวานไร้ด้าม หรอกนะ
แต่มันเป็นเพราะ คนตัดไม้ ไปได้ กิ่งก้านเหมาะ ๆ ของต้นไม้ใหญ่
มาทำเป็น ด้ามจับ สำหรับขวานที่เขาจะใช้ฟันต้นไม้ตะหาก
ถ้า สนิมเกิดแต่เนื้อในตน ฉันใด
ต้นไม้ใหญ่ก็ถูกโค่นให้ล้มลงได้
เพราะกิ่งก้านสาขา ที่เกิดจากตัวมันเอง ฉันนั้น
มันเป็น สัจธรรม อ่ะ แปะ


ความศรัทธาในตัวบุคคล
มันสร้างได้ยากก็จริงอยู่
แต่ การจะทำลายมันทิ้ง
นี่ทำได้ง่ายนิเดียว นะ
แค่ สะกิดจุดใต้ตำตอให้ถูกที่
เอาความจริง(บางส่วน )มาสร้างกระแส
เล่นกับ อารมณ์ของมวลชน
บิ๊วให้เกิดความรู้สึกร่วมกัน
แค่นี้ ก็ปลุกระดมมวลชนได้แระ




อืม... อิฉัน อาจจะ ม่ะใช่ รอยัลยิสต์
ที่ คิดจะสู้เพื่อพ่อ เหมือนแปะนะ
แต่ คนไร้ราก อย่างอิฉันก็ไม่เคย
ถูกหลอกใช้ จนกลายเป็นพาหะ เป็น ลิ่ม หรือ เป็น ด้ามขวาน
ไป ทำลาย ต้นไม้ใหญ่ ที่ไหน เหมือน ใครบางคน หรอกนะ
ไงซะ ไอ้เจ้าศีล 5 ในฮาเร็มที่ อิฉันแบกเอาไว้ มันก็ค้ำคออิฉัน
จนกระดิกตัว จะไปทำอะไรให้ระคายเคืองใครไม่ค่อยจะได้อยู่แย๊วววว




และในฐานะคนนอก ที่ อาศัยอยู่ร่วมแผ่นดินไทยเช่นเดียวกับ แปะ
อิฉัน ขอ นุยาด แนะนำ และ เตือนไว้ ในฐานะ กัลยา ณ มิตร ว่า
บางที ความเป็นห่วงเป็นใย ที่มากเกินพอดี
มันก็ทำให้เราไม่ทันฉุกคิด แล้ว กลายเป็น พาหะ
เผลอ ไป เผยแพร่ สิ่งที่อาจ จะทำลาย คนที่อาแปะรัก และเทิดทูน
ทำให้ท่าน เจ็บปวดได้ โดยที่ อาแปะ ไม่รู้ตัว ได้อ่ะ
ซึ่งการกระทำเหล่านี้ มันก็ไม่ต่างอะไร กับพวกล้มเจ้า
ที่แแปะ ด่าเอาปาว ๆ หรอกนะ
เจตนาอาจจะต่างกัน แต่ วิบาก ( ผลของการกระทำ )
ที่กระทบต่อ อาอ๊วง นั้น มันอาจทำให้ อาอ๊วงท่านเจ็บในทรวง เหมือนกันเลยว่ะ
คนเรา ถ้าไม่รู้แล้วทำ นั้น ไม่ผิด แต่ถ้า เมื่อไร รู้แล้วยัง ทำอยู่ ...
ก็พิณาเอาเองแระกัน ว่ามันสมควรไหม ?



อย่างพวกลิงค์ และ คลิปต่าง ๆ
รวมถึงเรื่องราวที่ แปะ เอามาใช้เป็นหลักฐาน พยาน
เพื่อ ประจาน ฝ่ายตรงข้าม เนี่ย
บางทีพอยิ่งเผยแพร่ มันก็เหมือนเป็นการโหมกระพือข่าว
กลายเป็นมหกรรม สาวไส้ให้กากิน ทำให้อื้อฉาวโดยใช่เหตุอ่ะ
อย่า ทำตัวเป็น กิ่งก้านของต้นไม้
ที่ถูกเขาเอาไปทำเป็นลิ่ม และ ด้ามขวาน
เพื่อเอาไว้ใช้โค่น ร่มโพธิ์ร่มไทรอันเป็นร่มเงา ของตัวเอง อีกเรยว่ะ
แค่นี้ อาอ๊วงของแปะ ก็ เจ็บจนแทบกระอักเลือด อยู่แล้ว


................................................
เหล่าฮูว่า


โถ แม่คุณทูนหัว ช่างน่ารักน่าใคร่!
เหล่าฮูทำไมจะไม่รู้
ขนกี่เส้นก็เห็นมาหมด ตั้งแต่ยุคไหนๆก็เห็นมาหมดแล้ว
เหล่าฮูก็ไม่ใช่พวกคลั่งเจ้านา
แต่สงสารหนูน้อยเท่านั้น ที่ถูกนำมาเป็นเครื่องมือ

ส่วนหนูที่ซุกซน หนูก็ต้องรับผลที่ไม่ได้ระมัดระวัง

แต่คนที่เอามาแปะตะหาก ที่เหล่าฮูว่าน่าละอาย

จะบอกให้
แม้ภายในจะเหลวแหลกปานใด ก็เป็นเรื่องของเขา เหล่าฮูคร้านจะตามรู้ แต่ในฐานะคนในบ้าน ก็ไม่ให้ผู้อื่นมาติเตียนคนในบ้าน ย่อมปกป้องเป็นธรรมดา แต่คนข้างในเขาก็ว่ากันเองตามเหตุตามปัจจัยน่ะ ข้อนี้เหล่าฮูรู้พอประมาณจ้า



_______________________________________
โดย: นู๋บี วันที่: 16 มีนาคม 2555 เวลา:1:27:50 น.




อาเหล่าแปะว่า ...
------------------------

ปม.

เหล่าฮูป่าวปาหินข้างทาง
แต่หมายหัวอาโอวทึ้งคาชึงแป๊ะอีตะหาก
ผีก็ย่อมเห็นผีล่วยกันม่ายงั้นจะมาร้องจุ๊กๆแถวนี้เร๊อะ
(ที่จิน ไอ้ที่ร้องจุ๊กๆน่ะ เหล่าฮูซะละมากฝ่ามัง
ป้าพูกอะไรทำไมมันโดนหัวเหล่าฮูทู๊กทีเลยอ่า)


ผิดแต่ว่า มิคาดว่าอาโอวทึ้งอีจะมีคนเอา นึกว่าอียังซิงๆอยู่
เพราะอีฉอเลาะช่างจำนรรจาซะขนาดนี้
พอดี เมื่อคืนแอบย่องไปดูอีฉอเลาะกะนู๋หลบที่กระทู้เก่า
โอ้โฮ ! saccharide เรียกตั่วเฮียสนิมสร้อยว่ะ
เหล่าฮูพูกแบบอีม่ายเป็น ลูกเล่นแพรรรววว พรรราาาาวววว


แต่ก็นะ พูกอีกที เหล่าฮูว่าป้านู๋บีคงไม่ยอมลงจากคานง่ายๆอยู่แล้ว
พูกดักคอเค้าไปซะหมดยังงี้ ลุ้นไปก็เหนื่อยป่าว เฮ่อ!

++++++++++++++

นู๋บี ว่า....


อิอิ ดีแระ ที่คิดงั้น อย่าไปลุ้นเรยจร้าาาาา
ลุ้นไงก็ลุ้นไม่ขึ้นหร็อกคร้าาาาาาาาาาาาาา
ก็อย่างที่เคยบอกแหล่ะ ว่า ปณิธานของนู๋บี ใน กระทู้เนี้ยะ นะ
มันมั่นคงหนักแน่นยิ่งกว่า ตอม้อโฮปเวล ว่ะ



อืม...นี่ ๆ จาบอกฟามลับอะไรหั้ยฟังนะ อาเหล่าแปะ
เผื่อจะเข้าใจ สิ่งมีชีวิตจากดาววีนัส มากขึ้น
ถ้าผู้หญิงคนไหน มันทะลึ่งไปอ่อยแบ่บไร้สาระ กะพูชายสักคนเนี่ย
ส่วนใหญ่มันก็เป็นการ อ้อล้อเรื่อยเปื่อย
ไปตามประสาสาวสวยรวยเสน่ห์
แบบว่า ไก่หยอกหมา เป็นงานอดิเรก อ่ะจร้าาา
ก็เหมือนกับที่ อิฉันหว่านเสน่ห์ใส่หนุ่ม ๆ ทุกคน
ที่หน้ามืดหลุดเข้ามาในวงโคจร
มาอยู่ในจักรวาลเดียวกับอิฉันนั่นแหล่ะ
( อาเหล่าแปะก็เคยโดนมาแล้วนิน่า อิอิ )



แต่เรื่องนี้ ก็ไม่ได้ น่ากลัวมีอันตราย หรือพิษมีภัย อะไร
แบ่บเวลาที่ ไอ้พวกพูชาย มันคิดจะทำตัวเป็น หมาหยอกไก่
หรือ บำเพ็ญตนเป็น สมภารกินไก่วัด หรอกนะ
อาแปะอย่าได้ทำเป็นไก่ตื่น วิตกจริตไปเรยจร้าาาาาาาาาาาาาา
ตราบใดที่ อิพูยิง มันยังปากกล้า พูดจาฉอด ๆๆๆๆ แบ่บน้ำไหลไฟดับ
ทำไก่หยอกหมา กับไอ้หนุ่มคนไหน ได้น่ะนะ
ซาแดงว่า ไอ้พูชายคนนั้น มันยังเป็น ได้แค่ ของเล่น
ยัง บ่ มีอะไร ในกอไผ่ ( นอกจากหมีแพนด้า ) คร้าา โฮ่ ๆ


แต่ถ้า พูชายคนไหน ที่มาชวนคุย ด้วย
แล้วอีสาวมันเงียบกริ๊บบบบบบบบ เป็นเป่าสาก นี่ดิ
อันนี้แหล่ะ ถึงจะเรียกว่า ของจริง
ถ้าอาเหล่าแปะเจอ เคสแบบนี้
แล้วเสนอหน้ามาเป็นพ่อสื่อพ่อชักหั้ย
เก๊าะจาไม่หน้าแตก อ่า
ที่สำคัญ ลุ้นแล้วไม่เหนื่อยเปล่า ด้วยจร้าาา อิอิ
( อันนี้พูดจากประสบการณ์ ที่เคยเจอมาก๊ะตัวเอง เรยนะเนี่ย เอิ๊ก ๆ )



อ้อ อีกอย่างที่อยากจะบอก ก็คือ
อาแปะ อย่าไปมีจิตคิดน้อยใจ
นึกอิจฉาตาร้อน ไอ้น้ำตาลทมิฬ มันเรยฮ่ะ
ต่อหั้ย ไอ้ตี๋ ดีแต่ปาก นี่ มันจะมีลูกเล่นแพรรรวววพรรราาาาวววว แค่ไหน
แต่ถ้ามันยังชอบทำตัวเป็นหมาบร้าาาา
ชอบเห่า โฮ่ง ๆ แฮ่ ใส่ชาวบ้าน เป็นอาจิณกรรมงี้ น่ะนะ


มันก็เป็นได้แค่ ไอ้หมาหัวเน่า
ในสายตาพวกสาว ๆ ไปทั้งชาติ อ่า
เฮ้อออ พูดก็พูดเหอะนะ คารี้คารมอย่างมันเนี่ย
ถ้ามาจีบสาวแข่งกันก๊ะนู๋บี มันก็คงสู้ นู๋บี บ่ ได้ดอก
เพราะใคร ๆ ก็ชมว่า นู๋บีเป็นพวก สาริกาลิ้นทอง เอิ๊ก ๆ



นี่ ๆ อาเหล่าแปะเจ้าขราาาาาาาาาาาาาาาาาา
นู๋บี ขอเตือนว่า อย่าได้เผลอเห็น กงจักรเป็นดอกบัวป่อง
คิดจะลอง เลียนแบบพฤติกรรมแย่ ๆพวกนี้
จากไอ้ไก่แจ้ มันเรยน๊าาาา
นู๋บีเป็นห่วง กลัวว่า เด๋ว อาเหล่าแปะจะติดนิสัยไม่ดี
แล้ว กลายเป็น หมาหัวเน่า เหมียนไอ้หมอนี่ อ่ะ
............................................................
เหล่าฮูว่า





ฮี่ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
หมาหัวเน่า ทำไมชื่อนี้คุ้นหูยิ่งนัก
ชะรอยจะวางกับดักเหล่าฮูเป็นแน่แท้
เหล่าฮูไม่เอาหรอก กงจักร
แต่ยังชอบร้องจุ๊กๆเป็นบางครั้งน่ะ
________________________________________
นู๋บีว่า...


อ้อแล้วถ้าอยากมี คารี้คารมชวนเคลิบเคลิ้ม
ที่แนบเนียนและลุ่มลึก มากมาย
อิฉันก็ แนะนำว่า ให้ไปศึกษาได้จาก ไอ้เสือจำศีล ที่ กระทู้นี้ ดีฝ่าฮ่ะ
เพราะอิฉันเองก็ยังแอบเล่นบท ครูพักลักจำ
แอบ ยื้มคารี้คารมมันมาใช้ออดอ้อนชาวบ้านอยู่บ่อย ๆ หุหุ



ปอลิง





เออ จิงดิ ลืมบอกไป ว่า แวะไป โหลด เพลง
ที่ อาแปะร้อง มาฟังแระน้าาาาาาาาาาาาาาา
อะโหยยย เสียงแปะ นุ่มทุ้ม ยังก๊ะ พระเอกในละครวิทยุเรยอ่า
ว่าง ๆ ออกซิงเกิ้ล เพลงบาปบริสุทธิ์ ของคาราบาว หั้ยฟังมั่งจิ
เพลงโปรดของนู๋บี เรยนะเนี่ย ฟังแร้วมีกำลังใจขึ้นคานดีว่ะ อิอิ

................................................
เหล่าฮูว่า

ขอบจายมาก เสียงนุ่มจินๆน่ะเร๊อะ
เก๊กแทบตายล่ะ บอกห้าย!

แต่ไหงชอบคาราบาว
บาปบริสุทธิ์เร๊อะ
เหล่าฮูเกลียดคาราบาว ไอ้แอ๊ดมันเล่เก๊
สมัยก่อนมันไปเที่ยวขอเขาร้องเพลงน่ะ
ไม่เคยชอบแนวเพลงของพวกนี้เลย
เดี๋ยวเอาเพลงดิสโก้มาฝากแทนก็แล้วกันนะ!
 
 

โดย: Lao fu zi IP: 171.98.63.113 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:13:25:10 น.  

 
 
 
อาเหล่าฮู อดนอน แล้วร้อนใน แล้วก็เหงือกอักเสบด้วย ใช่ป่าว
ลองกินยาขมตราใบห่อแก้ร้อนในดูนะ วันเดียวเห็นผล
ป้าขวัญ ก็เป็น กินยาขมวันเดียวก็ทุเลา แถมยังได้ระบาย
ถ่ายท้องโล่งดีด้วย นะ
ยาแผนโบาราณ แต่เด็ดนะขอบอก
 
 

โดย: ป้าขวัญ IP: 115.87.179.252 วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:21:46:26 น.  

 
 
 
ยาวไปดเจ๊ หัดตัดเป็นตอน ๆ มั่ง
 
 

โดย: keko (kekzo ) วันที่: 3 พฤษภาคม 2555 เวลา:22:37:52 น.  

 
 
 
ขอ นุยาด ขึ้นหน้าใหม่ เจ้าค่ะ

สุมหัวนินทาชาวบ่าน โปรเจค 6

https://www.bloggang.com/mainblog.php?id=bsonjb&month=04-05-2012&group=1&gblog=9



 
 

โดย: นู๋บี วันที่: 4 พฤษภาคม 2555 เวลา:0:52:31 น.  

 
 
 
test........................................
 
 

โดย: test IP: 61.90.115.4 วันที่: 14 พฤษภาคม 2555 เวลา:18:57:12 น.  

Name
Opinion
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก

นู๋บี
 
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




New Comments
[Add นู๋บี's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com