BlogGang.com : : ~-=AUSFAhRT=-~ : Lille : France (June2004)

Lille : France (June2004)

ถูกส่งมาฝึกงานที่มิวนิคสามเดือน Apr-Jun 04 นั่งว่างๆซะส่วนใหญ่ เพราะไม่มีโปรเจคเข้ามา กว่าจะได้ assign โปรเจคแรกก็ปาเข้าไป June เกือบจะได้เวลากลับเมืองไทยแล้วด้วยซ้ำ

โปรเจคที่ต้องไปทำคือ SFR มีปัญหา Handover ระหว่าง 3G กั่บ GSM KPI ไม่ผ่าน โปรเจคกำลังจะโดนปรับ ต้องการ Expert ไปช่วยแก้
โปรเจคนี้เข้ามาอย่างกระทันหันมาก บ่ายวันศุกร์ Irene เพิ่งได้รับการติดต่อมา และกว่าจะคอนเฟิร์มกันได้ก็เกือบห้าโมงไปแล้ว เครื่องมือเทสก็ไม่มี ตั๋วเครื่องบินก็ยังไม่ได้จอง เช้าวันจันทร์ต้องไปโผล่ที่ Lille แล้ว
งานนี้ต้องไปกับ Andreas ต่างคนต่างรีบลน ได้แต่พูดว่า "Alles Klar" (everything's alright) ปลอบใจตัวเอง

เช้าตรู่วันจันทร์ เจอกับ Andreas ที่แอร์พอร์ท พอบอร์ดดิ้งแล้วต้องตกใจ เพราะทั้งไฟลท์นี้ มีคนบินไป Lille ทั้งเครื่อง รวมแล้ว 4 คน จำนวนนักบินกับลูกเรือรวมกัน ยังมากกว่าผู้โดยสารเลย (แล้วก็ยิ่งแปลกใจมากขึ้น เมื่อเที่ยวบินขากลับ เหลือแค่ 3 คนทั้งลำ)

ด้วยความที่โปรเจคที่รีบลนมาก รวมทั้งเป็นช่วง Summer ที่นักท่องเที่ยวคงเยอะ (นักท่องเที่ยวทั้งโลก คงบินไปที่ Lille ก่อนหน้าเราแล้ว เลยเหลือ คนบนไฟลท์แค่ 4 คน) โรงแรมเต็มหมด และวันแรกไปถึงต้องเริ่มทำงานเลย ไม่มีเวลาหาโรงแรม กว่าที่ทางโปรเจคจะจองโรงแรมให้เราได้ก็ปาเข้าไป เย็นมากแล้ว แล้วก็เป็นโรงแรมกี่ดาวไม่รู้ รู้แต่ว่า ค่าห้อง ที่ต้องอยู่ สองคืน ราคาคืนละ 280 ยูโร (หมื่นสี่พันกว่าบาท)

เหตุที่โรงแรมแพงมากเพราะอยู่กลางจตุรัสของเมืองเลยทีเดียว กลางเมืองขนาดที่แค่เปิดหน้าต่างมาก็เจอจตุรัสแล้ว
อันนี้คือโรงแรม..

รวมๆแล้ว โรงแรมก็ไม่หรูเท่าที่คิดเท่ากับตอนได้ยินราคา แต่พอเปิดหน้าต่างห้องออกมาก็ต้องเรียกว่า เกินห้าดาวทีเดียว

แพนมาทางขวา..

วิวตอนกลางคืนก็ไม่เลว

ในห้องมีโต๊ะทำงานให้ด้วย

แล้วก็แน่นอน เตียงนอน

หลังจากเก็บของเขาโรงแรม ก็ต้องออกไปกินข้าวกับเพื่อนร่วมงานในโปรเจค รวมแล้ว สิบกว่าคน แต่นั่นแหละ ปัญหาหลัก เพราะที่ Lille ช่วงนั้นคนเยอะมาก ร้านอาหารเต็มทุกที่ กว่าจะหาร้านนั่งได้ก็ต้องเดินรอบเมืองผ่านไปร่วมชั่วโมง ผมก็บ่นไปตลอด อยากจะแยกไปกิน แมค ซะให้หมดเรื่อง แล้วยิ่งตอนจ่ายบิลแล้วละก็ สาบานเอาไว้แล้วว่าจะไม่ออกมาปาร์ตี้กับเพื่อนร่วมงานอีกแล้วคร๊าบ แหมก็เงินเดือนกะเบี้ยเลี้ยงเราไม่ได้มากอย่างพวกนี้นิ

โปรเจคนี้ ถูก assigned มาแค่อาทิตย์เดียว แล้วต้องพยายามแก้ปัญหาให้ได้ งานก็เลยหนักมาก อย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน แต่ด้วยความที่กำลังสนุกกับการเรียนรู้ ระบบ 3G ความเหนื่อยก็เลยไม่ค่อยแสดงออกมาเท่าไหร่

วันจันทร์ที่มาถึง เราทำงานกันไม่ค่ำมากเพราะต้องมาหาโรงแรม แต่หลังจากวันนี้ ต้องไดร์ฟเทสทุกวัน จนถึงประมาณเที่ยงคืนกว่า แล้วก็เริ่มงานอีกทีเก้าโมงเช้า เวียนวนอย่างงี้จนถึงวันเสาร์

ภาพตอนกำลังไดร์ฟเทส วีดีโอคอลอยู่

^
จะเห็นว่าเรา วิศวกรรม กับเครื่องมือเทสมากๆ ไม่มีที่ตั้ง UE ก็ใช้เทปนี่แหละ พันๆเอา แล้วหนักๆ เข้าวันถัดๆมา เนื่องจากต้องเปลี่ยน ซิมการ์ดทุกวัน เบอร์โทรของแต่ละเครืองก็จดมันเอาไว้บนเทปที่พันหน้ามือถือนั่นแหละ

โปรเจคนี้เป็นงานแรกที่ทำกับคนยุโรปทั้งทีม แล้วก็มีอะไรให้สนุกเยอะมาก บรรยากาศการทำงาน professional มากๆ คือ ไม่มี personal เลยแม้แต่น้อย (กรูไม่จำเป็นต้องเป็นเพื่อนมรึง ประมาณนั้น) แต่ไม่รู้ทำไม ช่วงนั้นรู้สึกสนุกมาก รู้สึกว่าการที่ฝรั่งประชด หรือ กวนตรีนเวลาทำงานแล้วมันสนุก เพราะนั่นแปลว่าเราไม่จำเป็นต้องมีมารยาทกับใคร (โห อันนี้ ถนัด)

ถึงบรรยากาศการทำงานจะเย็นชามากๆ แต่ความน่ารักก็ยังมีอยู่ ด้วยว่าที่ทำงานเราอยู่กันนอกเมืองมาก แล้วก็ทำกันในห้อง RNC มีโต๊ะอยู่ตัวเดียวต้องนั่งเบียดกัน เกือบสิบคน พอถึงตอนเที่ยงก็จะออกมานั่งกินอาหารด้วยกัน ที่สนามหญ้า ข้างหน้าทุกวัน บรรยากาศดีมากๆ แต่ด้วยความที่ห่างไกลความเจริญ มื้อเที่ยงเลยมีตัวเลือกเดียวคือ พิซซ่า ทำได้ก็แค่ เปลี่ยนหน้าไปทุกวัน

มีเวลาพักก็แค่วันอาทิตย์ ที่เราทำงานกันถึงแค่เที่ยง แล้วก็ได้มีโอกาสเดินเล่นในเมือง

จากแผนที่เมือง Lille อย่างแรกที่เห็นเลย คือ ป้อมปราการ รูปดาวแปดแฉก ที่กินเนื้อที่ในแผนที่เยอะมาก เราก็ไม่รู้หรอกว่ามันคืออะไร แต่ไหนๆ ก็ไม่รู้จักอย่างอื่นนี่ ก็เดินไปดูซะหน่อย

พอมาถึงหน้าประตูทางเข้าป้อม เค้ากลับไม่เปิดให้เข้า

ใช้เวลาเดินเล่นรอบป้อมอยู่พอประมาณ ส่วนใหญ่ ก็จะมีแต่คนมา จ๊อกกิ้ง อาบแดด พาหมามาเดินเล่น เราก็แจมๆ ไปกับเค้าด้วย จำได้แม่นว่าช่วงนั้น ดอกหญ้ากระจายเยอะมาก ถ้าใครเป็นภูมิแพ้ คงต้องเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่แน่ๆ

เดินวนจนรอบป้อม ก็ออกมาเจอสวนสนุกกลางแจ้ง สำหรับเด็กๆ

ผมมักจะให้ความสนใจกับกิจกรรม วิถีชีวิต ของชาวเมืองมากกว่าที่จะ เดินเที่ยวให้ครบตามจุดท่องเที่ยว (ที่คนอื่นมักจะจดมาแล้วเดินผ่านให้ครบ)อยู่แล้ว พอมาเจออย่างนี้เข้าก็เลย หมดเวลาไปกับบริเวณนี้ไปซะทั้งวัน ยิ่งข้างๆ สวนสนุกนี่มีสวนสัตว์ย่อมๆ อยู่ด้วยก็ฆ่าเวลาไปได้อีก

เดินถัดออกมาหน่อย ก็เป็นสวนที่ชาวเมืองออกมาเล่นเปตอง และ ปิ๊กนิค อาบแดดกัน

ก่อนกลับก็เดินผ่านสถานีรถไฟ แวะกินเสต็กเนื้อ ที่ทำให้ติดใจกลับมากินอีกหลายวัน การสั่งเสต็กเนื้อที่นี่ไม่ใช่ปัญหา ถ้าคุณมีนิ้ว แต่การสั่งความสุกของเนื้อ rare นี่สิ ต้องเสียเวลาไปอยู่นานกว่าจะรู้ว่า มันต้องสั่งว่า Blu

สุดท้ายงานก็เสร็จ โดยที่แทบไม่ได้แก้ปัญหาอะไรจริงๆจังๆ เพราะปัญหาหลักเป็นที่ GSM ของบริเวณที่เค้าเทสกัน มันไม่มี Coverage แต่อย่างน้อยแต่ละวันก็ได้ลองปรับพารามิเตอร์ทุกวัน เพื่อเที่ยบผล แล้วก็ได้เรียนรู้ประสพการณ์การทำงานไปเพียบ โดยที่ไม่รู้จักชื่อเพื่อนร่วมงานซักคน ด้วยความที่มัน Professional มากนั่นเอง

++ กลับไปมิวนิค ก็ได้กลับไปทำงานกับ Arnaud Richel อีกครั้ง หลังจากมาเจอกันที่โปรเจคนี้

Create Date : 05 กรกฎาคม 2550

Last Update : 6 กรกฎาคม 2550 20:57:39 น.

5 comments

Counter : 1710 Pageviews.