ขอต้อนรับสู่โลกในจินตนาการของแอนนี่

Welcome to Annie's World of Imagination
 
พฤศจิกายน 2551
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
21 พฤศจิกายน 2551
 
 

Phobia

จันทร์กระจ่างฟ้า



Phobia


ว่ากันว่าคนเรามักกลัวสิ่งที่มองไม่เห็น และกลัวสิ่งที่ตัวเองไม่รู้จักเสมอ สำหรับฉันความกลัวเริ่มจากความเหงา ความหวาดกลัวความมืด ในห้องกว้าง ซึ่งมีฉันเป็นเด็กอายุเพียงสองขวบครึ่งนอนอยู่คนเดียว คืนนั้นเป็นคืนกลางฤดูฝนและมีฝนตกหนักอย่างเคย เสียงสายฝนกระทบพื้นเจิ่งน้ำดังเฉาะแฉะอย่างสม่ำเสมอประสานกับเสียงกบในสนามที่ร้องขานรับกับเสียงของน้ำฝน ยิ่งสร้างความรู้สึกวิเวกวังเวงให้กับเด็กในวัยที่ควรจะได้นอนอยู่กับแม่ หรือนอนอย่างสบายบนเตียงมีผ้าห่มนุ่มๆปกคลุม พร้อมด้วยนิทานก่อนนอน


ฉันพยายามหลับตา นอนนับลูกแกะอย่างที่มาม้าเคยสอน แต่ก็ไม่สำเร็จประสาทของฉันตื่นจากเสียงฝนและธรรมชาติภายนอกบริเวณอาคารจนเกินกว่าจะข่มตาหลับได้ ความกลัวเข้าครอบงำจิตใจ ความกลัวจากการต้องนอนอยู่คนเดียวอย่างอ้างว้างโดยไร้ผ้าห่ม มีเพียงหมอนหนึ่งใบและหมอนข้างหนึ่งอันให้ใช้เป็นอุปกรณ์การนอน ฉันนอนกอดหมอนข้างเพื่อนที่แสนดีของฉันอย่างโดดเดี่ยว ซุกกายเบียดชิดผนังห้องอยู่ที่พื้นบริเวณซอกเตียง เหนือศีรษะเป็นตู้ข้างเตียงมีกล่องผ้าอนามัยยี่ห้อโกเต็กซ์วางอยู่ใต้ตู้ใบนั้นเป็นประจำ


ฉันเลือกมานอนซุกอยู่ในซอกนี้หลังจากที่ญาติโรคจิตจับฉันแยกนอนกับพี่สาวซึ่งอายุมากกว่าฉันเพียงสิบสามเดือน ปล่อยให้ฉันต้องนอนคนเดียวในห้องที่แม้จะไม่ใหญ่นักสำหรับผู้ใหญ่ แต่กลับดูกว้าง อ้างว้าง และน่าสะพรึงกลัวสำหรับเด็กวัยไม่ถึงสามขวบที่ต้องนอนอยู่ตามลำพังในความมืดสนิทในสถานที่ๆไม่คุ้นเคย


ฉันไม่ได้รับอณุญาตให้นอนบนเตียง เพราะฉันเป็นเด็กที่นอนฉี่ราดที่นอน และในสมัยนั้นยังไม่มีผลิตภัณฑ์ประเภทผ้าอ้อมสำเร็จรูปขายกันอย่างแพร่หลายในประเทศไทย


การได้มานอนในซอกแคบๆแบบนี้ ทำให้ฉันรู้สึกปลอดภัยขึ้น อย่างน้อยฉันก็ยังพอรู้สึกเหมือนอยู่ในอ้อมกอด แม้จะเป็นอ้อมกอดของพื้นที่สี่เหลี่ยมผืนผ้าแคบๆบนพื้นไม้แข็งๆอับลมก็ตามที


เวลาผ่านไปนานเท่าใดก็ไม่อาจรู้ได้ ฉันไม่อาจมองเห็นนาฬิกาที่แขวนอยู่เหนือประตูทางเข้าห้องน้ำ ตรงข้ามกับที่ฉันนอนอยู่ เนื่องจากความมืดสนิทของห้อง ฉันพยายามข่มตาให้หลับ ด้วยรู้ว่าจะต้องถูกปลุกให้ตื่นแต่เช้ามืด ซึ่งมักเป็นเวลาที่ฉันกำลังนอนหลับสนิทอย่างแสนสบาย และหากฉันไม่ตื่นก็จะถูกทำโทษด้วยมาตรการที่โหดร้ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นการโดนไม้เรียวฟาดลงมาตามจำนวนนาทีที่เสียไปกับการปลุก หรือการถูกดีดหูนับตามจำนวนครั้งที่เรียกฉันให้ตื่น


สายฝนซาลงไปในที่สุดจนเหลือแต่เพียงเสียงฝนปรอยๆดังเปาะแปะๆกระทบกระเบื้องหลังคาอยู่ภายนอก บรรยากกาศภายในห้องเย็นชุ่มฉ่ำขึ้นมากหลังฝนตก เสียงร้องของจิ้งหรีดช่วยขับกล่อมให้ฉันรู้สึกผ่อนคลายจนเริ่มเคลิ้มง่วง หากแต่ภาพสัตว์ประหลาดสีสันสะท้อนแสงคอยแต่จะกระโจนเข้ามาขย้ำฉันทุกคราวที่หลับตาลงจนฉันตกใจรีบเปิดเปลือกตาขึ้นอย่างระแวงภัย


ความทุกข์ทรมานเกิดขึ้นในชั่วขณะนี้เอง มันเป็นความทรมานที่สาหัสสากรรจ์กว่าเมื่อตอนที่นอนไม่หลับเสียอีก ความทรมานที่เกิดจากการต้องบังคับตัวเองไม่ให้หลับ ฉันพยายามหาอะไรมาใช้เป็นกำบังกั้นเพื่อจะได้รู้สึกอบอุ่นและปลอดภัยขึ้น หากแต่รอบตัวมีเพียงหมอนและหมอนข้างทิ้งไว้ให้เท่านั้น หากจะมีผ้าห่มสักผืนให้ฉันใช้ปกคลุมตัว ก็คงจะสามารถนอนได้อย่างสงบและมีความสุขกว่านี้บ้าง และจะดีกว่านั้นหากฉันได้นอนอยู่ข้างๆพี่สาวคู่ทุกข์คู่ยากในโรงเรียนประจำระดับอนุบาลของญาติจิตใจวิปริตของฉัน


คิดไปจนจวนจะผล็อยหลับ ฉับพลันท่ามกลางความมืดและเสียงน้ำฝนที่ยังซาเม็ดไม่หมด อะไรบางอย่างกำลังเคลื่อนไหวอยู่เป็นเสียงแกรกกรากอยู่ภายในกล่องผ้าอนามัยยี่ห้อโกเต็กซ์ซึ่งวางอยู่ใต้โต๊ะหัวเตียง เสียงนั้นดังอยู่ใกล้ๆกับหูของฉันนี่เอง เป็นเสียงที่ฟังดูประหลาดและมันมาพร้อมกับกลิ่นเหม็นสาปๆบางอย่างที่ฉันไม่เคยรู้จักมาก่อน ฉันไม่กล้าขยับตัวและไม่กล้าแม้แต่จะเอื้อมมือไปหยิบดู ประสบการณ์จากการถูกทำโทษครั้งก่อนยังประทับอยู่ในความทรงจำเมื่อครั้งที่ฉันแอบไปหยิบกล่องโกเต็กซ์กล่องนั้นมาดู


มันเป็นเหมือนกล่องปริศนาสำหรับเด็ก เนื่องจากมีของแปลกๆคล้ายผ้าคลุมปากของหมออยู่ในนั้น และผู้ใหญ่มักจะดุทุกครั้งที่เห็นเด็กหยิบหรือแตะต้องกล่องโกเต็กซ์ โดยเฉพาะผู้ใหญ่จิตวิปริตอย่างญาติข้างบิดาซึ่งเป็นเจ้าของโรงเรียนอนุบาลแห่งนี้ของฉัน พวกเธอถึงกับลงไม้ลงมือเมื่อเห็นฉันและพี่สาวไปหยิบกล่องมาส่องดู จนในที่สุดกล่องโกเต็กซ์ก็ได้กลายเป็นกล่องปริศนาที่เหมือนมีพลังอำนาจสร้างความยำเกรงให้กับฉันและพี่สาววัยสามขวบครึ่งเป็นอย่างมาก


ความขลังของกล่องโกเต็กซ์ทวีขึ้นเมื่อตอนนี้มีเสียงปริศนาดังออกมาจากกล่องลึกลับนั้น เสียงแกรกกรากยังคงดังอยู่อีกสองสามครั้งก็เงียบหายไป หากแต่ฉันคงนอนครุ่นคิดกังวลถึงมันจนเผลอหลับไปในที่สุด


จนเมื่อมาม้ารับฉันกลับมาอยู่ที่บ้านหลังจากนั้นหนึ่งปี ฉันจึงได้รู้จักกับเสียงปริศนาที่สร้างความตระหนกให้กับฉันในคืนวันนั้น ครั้งแรกที่ได้เห็นฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร มันเป็นสิ่งมีชีวิตหน้าตาแปลกใหม่อย่างหนึ่งสำหรับฉัน เจ้าตัวที่ฉันเห็นคงกำลังตั้งท้องหรือใกล้ตายมันจึงเกาะอยู่ที่พื้นอย่างนิ่งๆไม่ไกลจากบริเวณที่ฉันนั่งเล่นอยู่ ปีกของมันสีน้ำตาล และกลิ่นของมันสาปอย่างน่าสะอิดสะเอียน หากแต่ฉันไม่ได้ใส่ใจมันมากนัก


จนกระทั่งคืนวันหนึ่งซึ่งมีฝนตกอย่างหนัก อะไรบางอย่างบินผ่านหูของฉันไปและฉวัดเฉวียนไปมาอย่างไร้ทิศทางอยู่อีกสองครั้งก่อนจะร่อนลงบนม้วนผ้าซึ่งรอการขึงเพื่อตัดทำเป็นเสื้อโหล เสียงขยับปีกของมันคุ้นหูฉันเหลือเกิน ตามด้วยเสียงขาของมันที่คืบคลานอยู่บนกองกระดาษแพทเทิร์นของมาม้า ทันใดนั้นฉันก็จดจำเสียงของมันได้ และเริ่มพิจารณาเห็นถึงความน่าเกลียดและน่าขยะแขยงของมัน ปีกสีน้ำตาลมันวาว ขาขรุขระหกขา และท้องซึ่งดูเหมือนเป็นร่องๆ ผสานกับกลิ่นสาปแรงยามที่มันบินผ่านไป


ฉันร้องไห้ก่อนจะวิ่งถอยหลังไปหามาม้า ดวงตาจับจ้องอยู่ที่สิ่งมีชีวิตน่าเกลียดตัวนั้น ปีกของมันยังไม่หุบสนิทดี และมันอยู่ในอาการคล้ายคลุ้มคลั่งเคลื่อนไหวรวดเร็วและพร้อมจะบินอีกตลอดเวลา


มาม้าอุ้มฉันขึ้นมากอดอย่างปลอบโยน พลางบอกฉันว่าไม่ต้องกลัว


“ไม่ต้องกลัวลูก มันก็แค่ ‘กาจั๊ว’ ตัวหนึ่งเท่านั้นเอง”


แต่มันสายเกินไป ประสบการณ์อันโหดร้ายประกอบกับเสียงปริศนาที่หลอกหลอนฉันตลอดคืนที่เงียบเหงาได้สร้างความกลัวฝังใจให้กับฉันจนหยั่งรากลึกเกินกว่าจะแก้ไข


และเจ้ากาจั๊วก็ได้กลายมาเป็นความเกลียดกลัวอย่างฝังหัวของฉันไปตราบจนทุกวันนี้ ความกลัวที่ทำให้ฉันรู้สึกเย็นวาบตลอดสันหลัง ประสาทตื่นและขนลุกชัน ความกลัวจนขาดสติยั้งคิด และขาดการควบคุมตัวเอง ความกลัวในระดับที่ฝรั่งเรียกขานว่าโฟเบีย


............................................................................................................






Free TextEditor




 

Create Date : 21 พฤศจิกายน 2551
6 comments
Last Update : 24 พฤศจิกายน 2551 8:25:49 น.
Counter : 628 Pageviews.

 

แวะมาเยี่ยม

 

โดย: garnet19th 26 พฤศจิกายน 2551 16:42:02 น.  

 

ขอบคุณค่ะคุณการ์เน็ท

 

โดย: หมูอมโรค 26 พฤศจิกายน 2551 17:57:47 น.  

 

สวัสดีค่ะ..
คุณแม่มาเยี่ยม และขอบคุณที่ให้ใจและกล่าวถึงคุณแม่ในกระทู้คุณเทียนสี และในศาลาคนสวย

อยากให้คุณมีผลงานที่บากบั่นตั้งใจมาอ่านกัน อย่างคุณแม่คงไม่มีความสามารถจะเป็นนักเขียนอย่างใครเขาได้

คงจะเรียกว่าคุณแอนนี่นะคะ น่ารักกว่าหมูฯเยอะเลย
รวมทั้งจะเรียกอย่างนี้ในศาลาคนสวยด้วยนะคะ..

โชคดีค่ะ..

 

โดย: คุณแม่ใจดี 2 ธันวาคม 2551 21:20:15 น.  

 

ดีใจจังที่คุณแม่มาเยี่ยม

ตามสบายเลยค่ะ ชื่อแอนนี่ค่ะ

อยากให้คุณแม่ร่ายกลอนบ่อยๆนะคะ

เพราะอ่านเพลิน สัมผัสเยี่ยม

ด้วยภาษาที่เป็นธรรมชาติใครๆก็สามารถเข้าใจได้

ดูเป็นกลอนคนรุ่นใหม่ที่อ่านสนุกดีมากค่ะ

 

โดย: แอนนี่ IP: 125.24.169.123 3 ธันวาคม 2551 13:20:27 น.  

 

มาชวนไปเที่ยวบ้านคุณแม่บ้างค่ะ

 

โดย: คุณแม่ใจดี 4 ธันวาคม 2551 12:59:47 น.  

 

เข้ามารับแอนนี่เป็นเพื่อนบ้าน
หมูอมโรคโชคบานบ้านสดใส
แวะเยี่ยมหาทุกวันปั่นสายใย
หวังคงไม่อมโรคโศกอย่ามี..

รู้สึกว่าจะเขียนกลอนบ่อยขึ้นนะคะ..

 

โดย: คุณแม่ใจดี 8 ธันวาคม 2551 8:11:39 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

 

หมูอมโรค
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ชอบอ่าน และชอบดูหนังค่ะ แต่จะถนัดเรื่องของฝรั่งมากกว่า
อยากเป็นนักเขียนแต่เด็ก แต่ไม่เคยลงมือทำ สมัยเด็กอ้างว่า รอให้แก่หน่อยค่อยทำ ประมาณนั่งเลี้ยงลูกอยู่บ้านแล้วก็เขียนหนังสือไปด้วย
ตอนยังสาวๆอยากทำอาชีพที่การแข่งขันสูง ออกแนวมันส์ๆบู๊ๆมากกว่า
แต่ยิ่งเวลาผ่านไป ความสามารถเรื่องการเขียนภาษาไทยให้สละสลวยก็ยิ่งตกทะเลไปเรื่อยๆ จนความมั่นใจในการเขียนเริ่มหดหายไป
ยิ่งเห็นนักเขียนรุ่นใหม่ๆที่สามารถใช้ภาษาได้ดีมากๆยิ่งรู้สึกท้อ ไม่กล้าเขียน
แต่ในที่สุดความคิดอยากเขียนนิยายอย่างจริงๆจังๆก็ย้อนกลับมาด้วยเหตุผลต่างๆดังนี้
1. อยากเห็นนิยายที่คนไทยเขียนมีแง่มุมที่มากขึ้นกว่าเรื่องรักใคร่ ตบตี ตามปกติ (จริงๆเพิ่งได้มาค้นพบว่าเรื่องแนวที่กว้างกว่านี้มีอยู่แล้ว แต่อาจอ่านไม่เจอ หรือไม่เป็นที่นิยมในตลาดเท่ากับแนวรักใคร่ ตบจูบก็ได้)
2. อยากเขียนนิยายที่นางเอกพระเอกไม่ใช่หน่มสาววัยละอ่อน เพื่อให้เห็นแง่มุมชีวิตจริงๆของคนที่เติบโตขึ้น เพราะคิดว่าเมื่อคนเราโตขึ้นจนถึงวัยที่ขาดความใสไปแล้ว จะไม่สามารถใช้ชีวิตง่ายดายเหมือนที่เคยเป็นเมื่อตอนหน่มสาว ทุกอย่างนั้นยากขึ้น คนอยู่ได้ด้วยความสามารถ ความฉลาดเฉลียว และประสบการณ์ที่มากขึ้นจริงๆ อีกทั้งยังอยากเห็นนางเอกที่อายุมากขึ้น สามารถมีบทที่ดีที่สามารถเล่นได้ด้วย (บังเอิญมีนางเอกในดวงใจที่อายุเริ่มมากขึ้นอยู่คนหนึ่งคนเดียว และไม่ค่อยมีบทที่เหมาะสมให้เธอเล่นสักเท่าไหร่ เลยอยากลองเขียนเรื่องโดยมีเธอเป็นแรงบันดาลใจดู - my muse)
3. อยากเล่าเรื่อง มีเรื่องในจินตนาการมากมายที่อยากจะเล่า แม้ว่าการใช้ภาษาไทยจะไม่สละสลวยเท่ากับนักเขียนส่วนใหญ่ที่เห็นกัน แต่ก็ตั้งใจว่าจะพยายามพัฒนาฝีมือตัวเอง เพื่อจะได้เล่าเรื่องในจินตนาการที่เก็บเกี่ยวมาจากประสบการณ์การอ่านและการดูมากมาย รวมทั้งที่ชอบฝันชอบจินตนาการอะไรเองในสมอง


แนะนำบล็อกลายปากกา เพราะเห็นว่าเป็นความตั้งใจของชาวถนนนักเขียนกลุ่มหนึ่ง ใน pantip.com ที่อยากสร้างนิตยสารออนไลน์ที่ให้ทั้งสาระและความบันเทิง กับเพื่อนนักเขียนและนักอ่าน เป็นบล็อกที่มีประโยชน์ต่อนักเขียนด้วยนะคะ
[Add หมูอมโรค's blog to your web]

 
pantip.com pantipmarket.com pantown.com
pantip.com pantipmarket.com pantown.com