It's All I Have to Bring Today !
Group Blog
 
<<
มกราคม 2565
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
3 มกราคม 2565
 
All Blogs
 
ยุคต้นพุทธกาล ผู้ที่เข้ามาบวชยังมีน้อย

ยุคต้นพุทธกาล ผู้ที่เข้ามาบวชยังมีน้อย ผู้ที่มาบวชส่วนมากมาจาก 4 กลุ่มหลัก


กลุ่มแรก คือนักบวชที่ก่อนบวชฝึกสมาธิมามาก



กลุ่มที่สอง คือกษัตริย์และเหล่าเชื้อพระวงศ์ที่เป็นผู้นำแว่นแคว้นต่างๆ




กลุ่มที่สาม คือนักการเมืองและนักการทหารที่มีอำนาจค้ำจุนประเทศ



กลุ่มที่สี่ คือนักวิชาการที่เดินทางไปโต้วาทะได้ชัยชนะมาทั่วแผ่นดิน



เรื่องราวที่นำมาเทศน์ให้คน 4 กลุ่มนี้ฟัง จึงมักมีลักษณะโดดเด่นอยู่ 3 ประการ


คือ 1. เนื้อหามาก 2. เนื้อหายาก 3. ใช้เวลาแสดงธรรมมาก ซึ่งใช้เวลาสนทนาถามตอบ ก็ต้องโต้วาทะหักร้างเหตุผลกันยาวนาน กว่าจะจบเนื้อหา กว่าจะเกิดศรัทธา กว่าจะบรรลุธรรม ซึ่งความยาวของเนื้อหาก็เป็นไปตามภูมิปัญญาที่ได้รับการศึกษามาก่อนหน้าของผู้ฟัง








เรื่องราวที่พระบรมศาสดาทรงแสดงธรรมเนื้อหามากและเนื้อหายากนี้ ส่วนใหญ่เป็น "แม่บท" ที่ใช้วางรากฐานให้กับพุทธจักรและอาณาจักรให้เจริญรุ่งเรืองไปด้วยกันทั้งด้านเศรษฐกิจและจิตใจ ส่วนใหญ่บันทึกอยู่ในพระไตรปิฎกส่วนของ "ทีฆนิกาย" และ "มัชฌิมนิกาย"



ซึ่งเนื้อหาธรรมะส่วนทีฆนิกายนี้ ไม่ได้มุ่งเน้นแสดงธรรมเพื่อให้ชาวบ้านหรือประชาชนทั่วไปฟัง เพราะตอนนั้นเป็นช่วงบุกเบิกพระพุทธศาสนา ศาสนาพุทธยังไม่ได้รับความศรัทธาแพร่หลายไปยังหมู่ราษฎรหรือชาวบ้านทั่วไป





จวบจนกระทั่งต่อมาเมื่อมีพระภิกษุที่เป็นลูกชาวบ้านเข้ามาบวชเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ เนื้อหาธรรมะที่สั้นกระชับ จำง่าย เข้าใจง่าย ปฏิบัติตามได้ทันที พระบรมศาสดาจึงค่อยนำมาแสดงธรรม



เนื้อหาธรรมะส่วนนี้จะไม่ยาวมากและจะถูกแสดงออกมาเป็นหัวข้อสั้นๆ กระชับไม่ซับซ้อน ใช้เวลาแสดงธรรมไม่มากก็จบลงอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ทรงให้กำลังใจและสอนให้พระภิกษุเหล่านั้นลงมือปฏิบัติธรรม



เนื้อหาที่สั้นกระชับเป็นข้อๆ นี้ถูกจัดอยู่ในพระไตรปิฎกส่วนที่เรียกว่า "อังคุตตรนิกาย" และ "ขุททกนิกาย"





หัวข้อเรื่อง ปริมาณเนื้อหา ลักษณะคำสอน และวิธีการสอนของยุคต้นพุทธกาลและยุคท้ายพุทธกาลนี้ เป็นข้อเตือนใจว่า


การบุกเบิกศรัทธาต้องชนะใจคนทั้งสองกลุ่ม


1. ชนะใจคนกลุ่มบนเพื่อสร้างผู้นำศรัทธาและความปลอดภัยให้พระศาสนา


2. ชนะใจชาวบ้านเพื่อขยายศรัทธา สร้างผู้สืบทอดศาสนา และสร้างความยั่งยืนในระยะยาว



ถ้าขาดความเข้าใจในเรื่องนี้เมื่อใด ก็จะเกิดปัญหาตามมาทันที



1. เอาใจคนกลุ่มบนละทิ้งชาวบ้าน ก็กลายเป็นศาสนาของชนชั้นสูง มีแต่ผู้นำไม่มีผู้สืบทอด วันหนึ่งก็ต้องเจอปัญหา พระพุทธศาสนาขาดผู้สืบทอด




2. เอาใจชาวบ้านละทิ้งคนกลุ่มบน ก็กลายเป็นศาสนาของชาวบ้าน มีแต่ผู้สืบทอดไม่มีผู้นำ วันหนึ่งก็ต้องเจอปัญหาเป็นภัยต่อความมั่นคงของประเทศ





พระบรมศาสดาทรงมองเรื่องนี้ทะลุปรุโปร่ง พระธรรมเทศนาของพระองค์จึงมีทั้งบทสั้นบทยาว เอาไว้ชนะใจทั้งผู้นำและชาวบ้านที่มีศรัทธาต่อพระพุทธศาสนา




"ชนะใจผู้นำเพื่อสร้างความมั่นคง ชนะใจชาวบ้านเพื่อสร้างความยืนยาว"




นั่นคือสื่งที่เราต้องเข้าใจว่าทำไมพระนักวิชาการกับพระลูกชาวบ้านจึงเป็นสิ่งที่สำคัญไม่แพ้กัน และขาดแคลนไม่ได้ทั้งคู่




เพราะหากคู่นี้ประสานงานกันสร้างศรัทธาทั้งกลุ่มผู้นำและกลุ่มชาวบ้านอย่างประสบความสำเร็จเมื่อใด ความปลอดภัยและความยั่งยืนของพระพุทธศาสนาย่อมเจริญงอกงามขึ้นในยุคนั้นทันที




ดังนั้น ไม่ว่าลูกผู้นำหรือลูกชาวบ้าน เมื่อบวชเข้ามาแล้วตั้งใจบวช ตั้งใจฝึกฝนอบรมตัวเองตามพระธรรมวินัย ก็จะสามารถสร้างความเจริญให้แก่พระพุทธศาสนาได้อย่างกว้างขวางไปทั่วโลกได้ดุจเดียวกัน



เพราะถ้อยคำของพระสัมมานั้นทรงคุณค่า ไม่ว่าจะเป็นกรวดจากภูเขาลูกใด เป็นลูกหลานจากชนชั้นใด ย่อมสามารถ "เปลี่ยนกรวดให้เป็นเพชร" ได้ดุจเดียวกัน




1 มกราคม 2565
9.25 น.


cr: Ptreetep Chinungkuro








เฮดบล็อก  เรือนเรไร
ญามี่... ภาพบีจี
กุ๊กไก่...ของแต่งบล็อก
โกฟี่แมว... กรอบแต่งบล็อก
ชมพร... ไอคอนเล็กๆ



Create Date : 03 มกราคม 2565
Last Update : 4 มกราคม 2565 14:01:18 น. 7 comments
Counter : 713 Pageviews.

ผู้โหวตบล็อกนี้...
คุณSweet_pills, คุณอาจารย์สุวิมล, คุณ**mp5**


 
สวัสดี ค่ะ คุณ TurtleCame to See Me

ขอบคุณมากสำหรับข้อมูล
ของศาสนาพุทธ ที่แสดงให้เห็น
ถึงพระอัจฉริยภาพของพระพุทธ
องค์ในการสั่งสอนและเผยแผ่
พระพุทธศาสนา ค่ะ

"ชนะใจผู้นำเพื่อสร้างความมั่นคง ชนะใจชาวบ้านเพื่อสร้างความยืนยาว" ครูชอบประโยคนี้
มาก ค่ะ แต่ปัจจุบัน ศาสนาพุทธ
ของเรา กำลังสั่นคลอน ทำอย่าง
ไร จึงจะพ้นวิกฤตนี้ไปได้ เป็นสิ่งที่เราจะต้องช่วยกันหาทาง ค่ะ

โหวดหมวด ข้อคิดและธรรมะ



โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 15 มกราคม 2565 เวลา:9:21:08 น.  

 
สวัสดี ค่ะ คุณ TurtleCame to See Me
ขอบใจที่แวะไปให้กำลังใจที่
บล็อกครู จ้ะ
รักษาสุขภาพด้วย นะจ๊ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 7 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:22:01:29 น.  

 
สวัสดี ค่ะ คุณ TurtleCame to See Me

อรุณสวัสดิ์จ้ะ แวะมาทักทาย
เช่นกันจ้ะ เขียนบล็อกธรรมะดี ๆ
อย่าลืมมาชวนไปอ่าน นะจ๊ะ


โดย: อาจารย์สุวิมล วันที่: 8 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:5:14:12 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจครับ


โดย: **mp5** วันที่: 11 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:9:36:36 น.  

 
ขอบคุณสำหรับกำลังใจนะคะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 14 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:23:32:53 น.  

 
ขอบคุณมากนะคะสำหรับกำลังใจ
ราตรีสวัสดิ์ค่ะ



โดย: Sweet_pills วันที่: 18 กุมภาพันธ์ 2565 เวลา:23:39:00 น.  

 
ขอบคุณมากครับ


โดย: บูรพากรณ์ วันที่: 23 มีนาคม 2565 เวลา:11:41:24 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

Turtle Came to See Me
Location :
พัทลุง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 42 คน [?]





★ที่มา ล็อกอิน ★Turtle Came to See Me ★( บทกวี Poem )
เป็นหนังสือ สำหรับเยาวชน
★Turtle Came to See Me
แต่งโดย :Margrita Engle
★★★★



BlogGang Popular Award #11

BlogGang Popular Award #12
Friends' blogs
[Add Turtle Came to See Me's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.