Group Blog
 
<<
มีนาคม 2555
 
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
5 มีนาคม 2555
 
All Blogs
 

Changing Me [Chapter 15]




Titile: Changing Me [Chapter 15]
Author: Angel Midori
Genre: Romantic Comedy
Rating: PG
Pairing: KyuMin
Note : ฟิค SJ และ Y ค่ะ




***********************************

ชีวิตช่วงที่ผ่านมาผมเคยคิดว่ามันเรียบง่าย ตอนนี้มันชักไม่ค่อยเรียบง่ายเท่าไหร่แล้ว โดยเฉพาะสามสี่วันที่ผ่านมา




หลังจากคุณซองมิน พูดกับผมวันนั้นมันทำให้ผมคิดมาก ยั้นคิดไม่ออกเลยด้วยซ้ำว่าจะทำยังไงต่อ บางทีผมก็คิดเข้าข้างตัวเองว่าการที่คุณเขาพูดแบบนี้ ก็อาจหมายถึงเขามีใจให้ผมบ้างอยู่แล้ว ถึงได้คิดเลยไปถึงครอบครัวผม อีกใจผมก็คิดว่านี่มันเป็นวิธีหาทางปฏิเสธของเขาหรือเปล่า แต่ที่สำคัญที่สุดคือ ผมจะเอาอะไรไปยืนยันคุณเขาได้ว่าครอบครัวของผมจะไม่มีปัญหา ทั้งๆ ที่ผมเองก็ยังไม่แน่ใจ จนถึงขั้นกลัวพวกเขาไม่ยอมรับขึ้นมาจริงๆ




หรือผมควรจะไปยืนยันกับคุณเขาว่าเรื่องครอบครัวไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับผม ถ้าอะไรที่ผมตัดสินใจแล้ว ผมก็จะมุ่งมั่นทำแม้โดนคัดค้าน หากแต่บนความเป็นจริงผมจะทำได้ไหมล่ะ โอ้ย!! คิดแล้วปวดหัว




แถมมีเรื่องที่ปวดหัวกว่าเดิมอีกครับเพราะพี่สาวของผมเล่นเมล์มาหาผมวันเว้นวันคอยถามอยู่เรื่อยว่าเมื่อไหร่จะกลับ หรือบอกให้กลับมาเยี่ยมบ้านบ้าง เวลาแบบนี้ใจมันไม่พร้อมไปจริงๆ อย่าหาว่าผมเป็นลูก เป็นน้องเลวเลย แต่สภาพจิตใจของผมมันไม่พร้อมจริงๆ แล้วดูพอผมเปิดทวิตเตอร์ก็ยังเจอทั้งฮยอกแจ และชางมินทวิตมาชวนให้ผมกลับไปงานเดบิวต์ของฮยอกแจอีก อะไรกันนักกันหนาครับเนี่ย ขาดผมไปเขาก็เดบิวต์ได้ถูกไหมครับ





คือตอนนี้นอกจากเรื่องที่ผมรอคุณซองมินตัดสินใจแล้ว อิตาเกษตรอำเภอแฟนเก่านั่นก็ยังอยู่ ถึงจะบอกเลิกกันแล้ว ไม่คิดอะไรกัน แต่มันก็ไม่ได้เชื่อได้ถูกไหมครับ คนเคยตกลงคบกัน อีกฝ่ายแสดงออกชัดเจนว่ายังมีใจอยู่ แถมคุณของผมเขาก็เคยพูดว่าที่เลิกกันเขาเสียใจ แบบนี้จะไม่คิดอะไรกันเลยมันจะเป็นไปได้ยังไง ฉะนั้นยังไงผมก็ต้องคอยกันท่าอยู่จนกว่าเจ้านั่นจะไปเยอรมันซึ่งก็อีกสองเดือนโน้นแนะ






ไม่รู้จะเป็นคนดีอะไรกันนักกันหนา จะไปแล้วยังทำห่วงงานต้องคอยอยู่จนนาทีสุดท้ายอีก





ผมปิดโปรแกรมทวิตเตอร์ และหันกลับไปสนใจที่หน้าจอคอมพิวเตอร์อีกครั้ง จนสายตาของผมเลื่อนไปเจออีเมล์จากพี่ยองจิน ผมเลยรีบกดเปิดออกอ่านทันที ด้วยความอยากรู้อยากเห็นว่าพี่เขาเขียนมาหาผมทำไม




คยูฮยอน พี่มีบางเรื่องจะบอกนาย เจ้านายพี่เขาอยากเจอนาย เขาบอกว่านอกจากเพลงที่เขาสนใจแล้ว เขาสนใจตัวนายด้วย เขาฟังเสียงนายแล้วชอบ แล้วพอพี่เล่าเรื่องนายเคยเป็นเทรนนีมาก่อน แล้วเขาดูรูปนายเขายิ่งสนใจนายมากเลย พี่คุยกับเขาแล้วนะว่านายอยากเป็นนักร้องบัลลาดก็เลยลาออกจากการเป็นเทรนนี เจ้านายพี่ก็บอกว่าเขากำลังหานักร้องเดี่ยวแนวบัลลาดอยู่เหมือนกัน เลยอยากเรียกนายเข้ามาคุย

พี่ไม่อยากให้นายทิ้งโอกาสนี้ไปหรอกนะ ลองคิดดูแล้วกัน

คิมยองจิน




ผมอ่านจดหมายฉบับนั้นครั้งแล้วครั้งเล่า อ่านเหมือนราวกับมันเป็นเรื่องล้อเล่น แต่ยิ่งอ่านมันก็ยิ่งจริงจัง



ผมควรดีใจกับจดหมายฉบับนี้ใช่ไหม โอกาสที่ผมรอมาตลอดกำลังวิ่งเข้ามาหาผม โดยที่ไม่ทันตั้งตัว



หากแต่ทำไมผมกลับไม่ดีใจอยากที่ผมควรจะเป็น


>>> Changing Me<<<



ผมตัดสินใจพักเรื่องที่พี่ยองจินให้คิดไว้ก่อน แต่ผมก็เมล์กลับไปบอกเขานะครับว่าขอเวลา ตอนนี้มันมีอะไรหลายเรื่องที่เกิดขึ้น ผมยังต้องค่อยๆ จัดการมันไป ผมรู้ว่าการที่ผมเอาปัญหาชีวิตรักมาเกี่ยวแขวนคอผูกผมไว้มันไม่ถูก หากแต่ผมก็ยังไม่พร้อมที่จะปลดโซ่นั้นแล้ววิ่งออกไป เพราะถ้าหากผมวิ่งออกไป บางทีผมอาจไม่มีทางที่จะย้อนกลับมาได้อีก




ผมก้าวเดินออกจากออฟฟิต แล้วเดินไปเปิดประตูรถกระบะสีดำคันใหม่รุ่นล่าสุดที่คุณซองมินเพิ่งซื้อมาแทนไอ้แก่คันเก่า ถึงผมจะดีใจที่ไม่ต้องทนทุกข์ทรมานลุ้นความเอาแน่เอานอนไม่ได้จากเจ้ารถคันนั้น แต่ผมก็อดจะคิดถึงมันไม่ได้เพราะมันมีความทรงจำมากมายกับผม และถ้าไม่มีมันผมคงไม่มีโอกาสเปิดเผยความรู้สึกของตัวเองให้คุณเขารับรู้ได้เร็วขนาดนี้หรอกใช่ไหมครับ



ผมสตาร์ทรถ แล้วขับออกไปรับคุณเจ้านายคนน่ารักของผมที่ทำงานอยู่ท้ายไร่เพื่อมาทานอาหารกลางวันด้วยกันอย่างเช่นทุกวัน หากแต่สภาพจิตใจของผมกลับไม่เหมือนดังเช่นทุกวัน




จนเมื่อผมขับรถมายังท้ายไร่ และยืนรอคุณเขา สักพักคุณซองมินก็เดินยิ้มกว้างมาหาผม หัวใจของผมรู้สึกบีดรัด ผมอยากเห็นภาพนี้ไปนานๆ อยากครอบครองรอยยิ้มนี้ ผมทำใจไม่ได้ถ้าจะสูญเสียรอยยิ้มนี้ไปตอนนี้




“เป็นอะไรทำไมวันนี้ยืนทำหน้าเนือยๆ” คุณซองมินเดินมาตบบ่าผมก่อนจะเดินไปนั่งประจำที่ของเขา โดยที่ไม่รอคำตอบ ซึ่งผมเองก็ดีใจที่เขาไม่รอ




“วันนี้เป็นยังไงบ้างครับ” ผมเลี่ยงคำตอบโดยการตั้งคำถามใหม่หลังลงไปนั่งที่หลังพวงมาลัยแล้ว



“ก็ดี เหมือน ๆ เดิม” คุณซองมินหันมาพูดกับผม แล้วก็หลุดรอยยิ้มกว้างจนตายิบหยีน่ารัก




เฮ้อ!! เห็นแบบนี้ ใครมันจะอดใจไม่รักได้ลงกับละครับ





“นี่คยู วันนี้ฮยอกแจโทรมาหาด้วยล่ะ เค้าโทรมาชวนให้ไปงานเปิดตัว เดบิวต์ของเขา” คุณซองมิน หันมาเรียกผม แล้วก็เล่าด้วยน้ำเสียงร่าเริงสุด ๆ จริงๆ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องเดียวกันกับที่ฮยอกแจบอกผมเหมือนกัน แต่อารมณ์เราสองคนนี่ต่างกันชะมัด




“อืม เขาก็ชวนผมเหมือนกัน”



“เหรอ แล้วคยูจะไปไหมอ่ะ นี่ถ้าคยูไปฮยองจะได้มีเพื่อนไปด้วยไง”




ผมรีบเหลือบตามองหน้าคุณเขาทันที หน้าตาคุณซองมิน ทำตาปริบๆ แววตามีความหวังสุด ๆ ใส่ผมแบบนี้ มีเหรอผมจะปฏิเสธลง




และถึงผมจะกลัวๆ การเข้าโซลอยู่บ้าง แต่อย่างน้อยคุณเขาก็ไปกับผม ตัดปัญหาเรื่องการทำคะแนนไป เพราะยังไงเขาก็จะอยู่กับผมตลอด แล้วบางทีการไปคราวนี้ก็อาจจะมีผมดีกับผม เกี่ยวกับเรื่องครอบครัวบ้างก็ได้ พี่อารา พ่อแม่ คงไม่ถึงกับผูกผมไว้ถ้าผมกลับบ้านไปหรอกใช่ไหมครับ





“อืม ไปก็ได้ครับ ไม่ได้กลับบ้านนานแล้วได้กลับไปด้วย”



“ดีจังเลยตอนแรกคิดอยู่ว่าจะไปดีไหม จะไปกับใคร” คุณซองมินยิ่มร่า หลังจากที่พูดกับผม


เอาว่ะครับ คนเรามันต้องพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาสงบ้างในเมื่องทางเลือกมันไม่ได้มีมากนัก

>>>Changing Me<<<

เวลามาเร็วกว่าที่คาด จริงๆ มันก็ควรเร็วอยู่หรอกครับแค่อาทิตย์เดียว ฮยอกแจให้เวลาผมกับคุณซองมินอาทิตย์เดียวจริงๆ หลังจากบอกชวนเรา และตอนนี้ผมกับคุณซองมินก็มายืนรอรถไฟอยู่ที่สถานี สถานีเดียวกับตอนที่ผมมานี่แหละครับ





ตอนขามาผมเลือกนั่งรถไฟธรรมดาชมวิวข้างทางมาอย่างช้าๆ หรือจริงๆอาจจะเรียกว่านั่งทำใจ หากแต่พอจะกลับคราวนี้ผมเลือกที่จะนั่งรถไฟ แล้วเข้าไปต่อ KTX อีกทีเพื่อให้เราเดินทางเร็วขึ้น แถมเหมือนกลัวจะไม่ได้กลับมา ผมรีบจัดการเป็นคนจองตั๋วรถไฟ ขาไปขากลับเองเลยทั้งหมด ลึก ๆ ผมก็แอบคิดเหมือนกันว่าผมเนี่ยคิดมากไป





“รถมาแล้วล่ะ” คุณซองมินหันมาบอกผมเสียงใส ก่อนจะลุกขึ้นหยิบเป้ของเขา ผมยื่นมือไปช่วยถือแต่ก็ถูกปฏิเสธมา



“ฮยองถือได้”




“ผมช่วยน๊า”





“ฮยองไม่ใช่เด็กสักหน่อย” คนไม่ใช่เด็กพูดเสร็จก็รีบหิ้วกระเป๋าวิ่งขึ้นรถไปให้ผมต้องวิ่งตาม คุณเขาเนี่ยไม่เข้าใจผมเลย ว่าที่ช่วยไม่ได้มองว่าเขาเป็นเด็กเสียหน่อย ผมเองก็แค่อยากโชว์ความแมนก็แค่นั้น




คุณซองมินเลือกที่นั่งเกือบโบกี้สุดท้ายของรถ เราสองคนต่างนั่งกันคนละฝั่ง เพื่อที่จะได้เห็นวิว (และเห็นหน้ากัน อันนี้ผมคิดเอง) และเมื่อรถไฟค่อยๆ เคลื่อนตัววิวของสถานีก็ค่อยๆ เคลื่อนผ่านสายตา



“คยูฮยอน ตกลงฮยองไปค้างบ้านคยูได้ใช่ไหม”




“ได้ซิครับ ผมโทรไปบอกพี่อาราแล้วให้เตรียมห้องให้”




“เหรอ แต่ฮยองก็ยังเกรงใจนะ ฮยองไปอยู่โรงแรมดีกว่าไหม”




“เกรงใจอะไรกันคิดมากครับ”



“เหรอ”




“อืม” ผมพยักหน้ายืนยันอีกทีให้คุณซองมินมั่นใจ เรื่องแค่นี้จะเกรงใจไปทำไมกัน ในเมื่อทีเขายังดูแลผมได้ เขาตัวแค่นี้ทำไมผมกับที่บ้านจะดูแลไม่ได้กัน




“ทำไมจะกลับบ้านแท้ๆ คยูทำหน้าไม่สดชื่นเลย” คุณซองมินเอ่ยทักผมในระหว่างที่ผมกำลังนั่งมองวิวข้างทางอยู่ ผมเหลียวไปมองหน้าเขา ด้วยความรู้สึกที่ว่าไม่รู้จะตอบว่ายังไง




“คยูทำหน้าแบบนี้มาหลายวันแล้วด้วย”





“มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยครับ”




“เรื่องอะไร ฮยองเคยบอกแล้วนี่ว่า ฮยองน่ะรับฟังได้ทุกเรื่องนะไม่อยากให้คยูเก็บไว้ เพราะคยูอ่ะเวลามีปัญหาจะคิดมาก แล้วมันก็ออกมาทางสีหน้าหมดเลย”




ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ ก่อนจะหันกลับไปมองที่หน้าต่างอีกครั้ง ผมเนี่ยยังไม่โตจริงๆ ซินะครับ เวลามีเรื่องอะไร ผมไม่สามารถปิดบังมันได้เลยจริงๆ ผมทำให้คุณซองมินกังวลอยู่บ่อยๆ ด้วย




“จริงๆ ผมไม่อยากกลับบ้านเท่าไหร่”




“ทำไมล่ะ” คุณซองมินถามด้วยน้ำเสียงประหลาดใจ



“พี่อารา พ่อแม่ ถามผมหลายครั้งแล้วว่าเมื่อไหร่จะกลับไปอยู่ที่บ้าน แต่ผมก็เลี่ยงมาตลอด ผมก็เลยยังไม่อยากกลับเพราะกลัวว่าถ้าเขาพูดกับผมจริงจังกว่านี้ ผมคงจะไม่ได้กลับมาที่ไร่อีก” และเมื่อผมเล่าสิ่งที่ค้างคาใจของผมออกมา สิ่งที่ได้รับกลับเป็นความเงียบจากคนฟัง หากแต่พอผมหันไปมองหน้าคุณซองมิน ก็เห็นว่าคุณซองมินทำสีหน้าตกใจ และถ้าผมไม่คิดเองไปเองมันดูปะปนด้วยสีหน้าผิดหวังอีกด้วย







“เหรอ อืม แต่คยูเคยบอกฮยองว่า พอเข้าหน้าหนาวแล้วคยูจะกลับบ้านไม่ใช่เหรอ” คุณซองมินเอ่ยถามตะกุกตะกัก โดยที่มีผมคอยจ้องมองเขา






“คุณก็รู้ว่าตอนนี้มันไม่เหมือนเดิมแล้ว และที่ผมตัดสินใจอยู่ต่อ คุณเองก็รู้อยู่แก่ใจ” ผมตอบด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง ก่อนจะขยับตัวเปลี่ยนไปนั่งข้างคุณซองมิน โดยที่คุณเขายังนั่งทำตาโต ดูประหลาดใจกับคำพูดของผมอยู่



และพอผมลงนั่งผมก็คว้ามือเล็กๆ นั่นมาจับกุมไว้ “ผมอยู่เพื่อรอคำตอบของคุณ ผมยังรออยู่นะครับ”



ผมจับมือนั้นไว้แน่นขึ้น โดยที่คุณซองมินเงยหน้ามองหน้าผมด้วยสีแก้มที่แดงเป็นริ้ว หากแต่คุณเขาก็ยังคงไม่พูดอะไรเช่นเดิม



มีเพียงแต่มือเล็กๆ นั่นค่อยๆ บีบมือผมกลับเบาๆ และก็ค่อยๆ จับกุมมือของผมไว้




และบางทีแค่ไออุ่นเพียงเท่านี้มันก็ทำให้ผมมีกำลังใจมากขึ้น ในยามที่ผมต้องผจญกับปัญหาที่ต้องตัดสินใจมากเช่นนี้

***********************************




เหมือนจะสั้นแต่คิดว่าถ้าเขียนต่อก็จะยาวไป (จริงๆคืออู้) ชีวิตรักของเด็กเกรียนยังคงยุ่งยากให้ลุ้นอยุ่ต่อไป 555












 

Create Date : 05 มีนาคม 2555
4 comments
Last Update : 5 มีนาคม 2555 23:53:05 น.
Counter : 1205 Pageviews.

 

รอให้ฟิคเรื่องนี้อัพมานานมาาาากกกกกกกกกกกกกกกก
เราเข้ามาดูทุกวันเช้าเย็นๆเลย ติดฟิคเรื่องนี้มากค่ะ
เป็นการดำเนินเรื่องที่ดูเป็นธรรมชาติมากมากมากมากมาก ซึ่งมันหายากมากเลยในวงการฟิคเนี่ย
ไรท์เตอร์ คุณเจ๋งค่ะ (y)
เป็นกำลังใจให้เสมอนะคะ ^^

 

โดย: qniinqx IP: 49.48.150.13 6 มีนาคม 2555 12:51:59 น.  

 

Ohhhh ซองมินชอบน้องแล้วแน่ๆ อิอิ

 

โดย: mayu IP: 110.49.241.20 7 มีนาคม 2555 20:56:36 น.  

 

อ่านตอนที่นึ่งและสองเมื่อนานมาแล้วจนลืม วันนี้เข้ามาเจออ่านรวดเดียวจบ น่ารักน่าุลุ้นมากๆ ไม่รู้ว่าซองมินมีความรู้สึกกับคยูยังไง ตอนนี้ก็กระจ่างมากขึ้นแล้ว
ที่ต้องลุ้นต่อไปคืออยากให้ครอบครัวคยูยอมรับซองมิน ชอบภาษาและการบรรยายมาก คุณปุ้มใช้การบรรยายผ่านตัวละครได้ดีมากๆ
มาต่อเร็วๆนะคะ

 

โดย: micky.com IP: 58.10.170.141 14 เมษายน 2555 21:31:15 น.  

 

รอเรื่องนี้ รอทุกเรื่องของไรเตอร์ค่ะ น่ารักมากจริงๆ
ชอบมาก มันน่ารัก มันหวาน ... มันลงตัวมากเลย
อ่าาา กี้นี่ปัญหาเยอะจริงๆเล้ย

 

โดย: archie IP: 110.168.40.200 7 กรกฎาคม 2555 19:11:23 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


Angels Midori
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add Angels Midori's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.